ดวงชะตาประเทศไทย

พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา

 และดวงนักการเมืองคนอื่น

นับแต่ปี พ.ศ. 2559 ไปเป็นอย่างไร ?

 

 

 

 

 

********

 

 

 

 

 

บทที่ 1

ดวงชะตาประเทศไทย

 

 

ดวงที่ 1 ดวงกำเนิดประเทศไทย ล.10/30

ดวง ที่ 1  ดวงกำเนิด ดวงชะตาประเทศไทย

ดวงที่ 1  ดวงกำเนิด  ดวงชะตาประเทศไทย  วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.58 น. กทม.
จากหนังสือ ดูชะตาตนเอง ดูดวงเมืองฯ ของอ.ประมวลวิทย์ หน้า 239

 

 

ผนวก 1 ทักษาประเทศไทย

ผนวก 1 ทักษาประเทศไทย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทที่ 2

บทนำ

 

 

**********

 

 

 การดูดวงชะตาประเทศไทยในระยะหลังมาถึงปัจจุบันนี้ ค่อนข้างจะได้พบว่าเหตจุการณ์ทั้งหลายที่ได้เกิดขึ้นและที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า จะเนื่องมาจากการจรอย่างมีอิทธพลของดาวใหญ่ 2 ดวงอย่างแท้จริง นั่นคือดาวพฤหัสบดี(๕) กับดาวเสาร์(๗) 2 ดวงนี้  

โดยสำรับดาวพฤหัสบดี(๕)นั้นเมื่อได้จรเข้าสู่จุดมหาอุจของตนเองในราศีกรกฎ ระหว่างวันที่ 17 มิ.ย.2557 – 11 ก.ค. 2558....ก็ได้แผ่อิทธิพลอย่างแรง สมบูรณ์สูงสุดในรอบ 12 ปีต่อครั้ง

 

เช่นเดียวกับดาวเสาร์(๗)ที่จรเข้าราศีตุล จุดมหาอุจของตนเองเช่นเดียวกัน ระหว่างวันที่ 7 ก.ย. 2555 – 27 พ.ย. 2557..  

 

และก็จะเห็นได้ชัดว่า ดาวใหญ่ทั้ง 2 ดวงนี้ ได้แผ่อิทธิพลออกไปตรงเวลาเดียวกันเลย  อยู่ระหว่างวันที่  17 มิ.ย. ถึง  27 พ.ย. 2557  นั่นเอง   ฉะนั้น  ในช่วงที่ดาวทั้ง 2 ดวงต่างแผ่พลังออกไปตรงกันนี้  จึงได้เกิดเหตุทั้งด้านดี ด้านร้ายออกมา โดย ดาวทั้ง 2 ดวงนี้ ก็บังเอิญได้สร้างอิทธิพลแด่วิถีทางชีวิต บารมีและอำนาจตลอดทั้งความสับสนวุ่นวาย แด่ดวงชะตา 2 ดวงชะตาพร้อมกันไปด้วย คือ ดวงชะตาประเทศไทย  กับดวงชะตา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นั่นเอง ดังจะแยกให้เห็น ดังนี้

 

1.  อิทธิพลดาวพฤหัสบดี(๕)จรมหาอุจ  โดยที่ดาวพฤหัสบดี(๕) จรสู่ราศีกรกฎและอยู่ในราศีกรกฎระหว่างวันที่  7 มิ.ย. 2555 – 11 ก.ค. 25558 ......  ซึ่งโดยทัศนะโหรแล้ว เห็นว่าดาวพฤหัสบดีมหาอุจจร ทับจันทร์เกษตรเดิม(๒) ในดวงชะตาประเทศไทย และถึงศุกร์(๖)เดิมมหาอุจในดวงชะตาประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะการรวมดาวพลังอำนาจสูงสุดพร้อมกันถึง 3 ดวง คือ จันทร์(๒)เกษตรเดิม  ศุกร(๖)มหาอุจเดิม และ พฤหัสบดี(๕)จรมหาอุจ  ......ที่น่าจะส่งผลดีต่อความเปลี่ยนแปลงแด่ประเทศนี้ แผ่นดินนี้ อย่างมีความหมายยิ่งใหญ่  จึงได้มีคำพยากรณ์ถึงเรื่อง  ผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน  ขึ้น โดยพยากรณ์ไว้ว่า  จะมีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินกษัตริย์ไทย ในช่วงนี้ (โปรดตามดู : โหราศาสตร์ 9 ข่าวใหญ่การจรของดาวพฤหัสบดีโฉมหน้าสำคัญระดับผลัดเปลี่ยนแผ่นดินสยาม ในปลายปี 2557  ตามศึกษาร่องรอยของคราวผลัดเปลี่ยนแผ่นดินสยาม ในสารบาญโหราศาสตร์ โปรดคลิก) 

แต่ในขณะเดียวกัน ดาวพฤหัสบดี(๕)มหาอุจดวงนี้  ในเมื่อจรมาอยู่ ณ ราศีกรกฎ ก็กลับเป็นว่าเป็นตำแหน่งที่จะส่งพลังอันรุ่งโรจน์มหาอุจนี้ ตรงไปสู่ดวงชะตา(ตรงลักคณา) พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อย่างมโหฬาร ยิ่งไปกว่า  ประเทศไทยเสียอีก 

 

ฉะนั้น  แทนที่ประเทศไทยจะได้รับผลดีจากดาวพฤหัสบดี(๕)(จรมหาอุจในราศีกรกฎนี้ จึงเป็น พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.. มี่อำนาจอยู่อย่างเต็มที่ในเวลานั้น เป็นผู้ได้รับบารมีอำนาจวาสนาอันสูงส่ง จากดาวพฤหัสบดีดวงนี้ 

ในขณะนั้น  ระหว่างวันที่พฤหัสบดี(๕)ทรงตำแหน่งมหาอุจอยู่  .....   แต่ในระยะเดียวกันนั้น ประเทศไทย  โดยดวงชะตาลักคณาประเทศไทยที่ราศีเมษ นั้น กลับโดนกระแสแรงร้าย อันตรายอย่างยิ่งยวดถึงขนาดจะเกิดแตกแยกหลังกลายเป็นสงครามกลางเมืองของคนในแผ่นดิน  เนื่องจากดาวอีกดวงหนึ่ง คือดาวเสาร์(๗) จรสู่จุดที่เข้มแข็งรุ่งโรจน์ของตนเองในราศีตุล ทรงอำนาจเป็นมหาอุจ พอ ๆ กับดาวพฤหัสบดีในราศีกรกฏ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 2555 ไปจนถึง 27 พ.ย. 2557 .......      

 

แต่สำหรับประเทศไทย เมื่อจรมาถึงตำแหน่งนี้ และยังสถิตอยู่เป็นเวลาเนิ่นนานถึง 2 ปีครึ่ง  ก็กลายเป็นดาวร้าย ส่งพลังแห่งความขัดแย้ง แตกแยกอย่างรุนแรงแก่ประเทศไทย โดยเริ่มตั้งแต่วันแรกที่จรมาถึงตำแหน่งนี้ทันที   ตามที่ได้เห็นกันมาแล้ว เรื่องการเมืองและประชาชนที่ขัดแย้ง ในช่วงก่อนที่ทหารประกาศกฎอัยการศึก  วันจันทร์(๒) ที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00 น. ที่เกิดมวลชน 2 กลุ่มขึ้น ทำการต่อสู้เพื่อทิศทางของกลุ่มตนอย่างแรง  ....

 

 

ดวงที่  2 ดาวพฤหัสบดี(๕)และเสาร์(๗) ต่างจรเข้าตำแหน่งมหาอุจ ล.60/292

ดวงที่ 2  ดาวจร ดาวพฤหัสบดี(๕)และดาวเสาร์(๗)ต่างจรเข้าตำแหน่งมหาอุจ

ดวงที่ 2 ดาวจร ดาวพฤหัสบดี(๕)และเสาร์(๗)ต่างจรเข้าตำแหน่งมหาอุจ พร้อม ๆ กัน (ล.60/292)

 

แต่ ดาวเสาร์(๗) มหาอุจดวงนี้ ที่จริงกลับเป็นดาวตนุลักคณ์(คือดาวประจำตัว) ของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่ในดวงกำเนิด วันที่ 21 มีนาคม 2497 นั้น ดาวเสาร์(๗)ดวงนี้ได้สถิตอยู่ราศีตุล ในตำแหน่งกัมมะ มหาอุจอยู่แล้ว  ซึ่งความหมายก็คือ  ให้อำนาจแด่พล.อ.ประยุทธอย่างเต็มที่ ที่จะสร้างบารมี ความยิ่งใหญ่  ความสำเร็จเด็ดขาดเกิดขึ้นในวันหนึ่ง  และนั่นก็คือวันที่ดาวเสาร์(๗)จรเข้าทับดาวเสาร์(๗)เดิมในราศีตุลที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.2555 นั่นเอง  ละนั่นหมายถึงพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เจ้าชะตานี้ ได้พลังอันยิ่งใหญ่จากดาวเสาร์(๗)มหาอุจพร้อมกันถึง 2 ดวง เลยทีเดียว  ในระหว่างเวลาที่ดาวเสาร์จรมาทับดาวเสาร์เดิมมหาอุจ  ระหว่างวันที่ 7 กันยายน 2555 ถึง  วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557

 

ฉะนั้น  ประเทศไทยจึงชวดโอกาสที่จะเกิดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน หรือรับอำนาจบารมี อิทธิฤทธิ จากดาวพฤหัสบดี(๕)จรทับจันทร์(๒)เกษตรเดิมในราศีกรกฎ และร่วมธาตุกับศุกร(๖)เดิมมหาอุจในราศีมีน  ระหว่าง วันที่ พฤหัสบดี(๕)จรในราศีกรกฎ วันที่ 17 มิถุนายน 2557 ถึง วันที่ 11 กรกฎาคม 2558 ........... ตามที่โหรได้มองเอาไว้  พยากรณ์เอาไว้ถึงเรื่องการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินสยาม(คือมีการเปลี่ยนแปลงราชบัลลังก์) เพราะถูกลบล้างด้วยอำนาจดาวเสาร์(๗)จรมหาอุจในราศีตุล  และซึ่งตรงข้ามกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้อำนาจ บารมีจากดาวใหญ่ทั้งสองดวงขณะนั้น คือดาวพฤหัสบดี(๕)มหาอุจจร และ เสาร์(๗) มหาอุจจร อย่างเต็มที่  ที่ต่างร่วมแรงส่งพลังด้านดีล้วน ๆ  ไปสู่บุคคล ๆ หนึ่ง  คือ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  เป็นเหตุให้บุคคลผู้นี้ ได้ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ ได้สู่ตำแหน่งอันสูงสุดของแผ่นดินนี้แทน .......

 

ฉะนั้น  เมื่อเราจะดูเหตุการณ์  ประเทศไทย  ในวาระต่อไปนี้  เราจึงต้องดูดวงชะตา  พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  (รวมทั้งนักการเมือง คนสำคัญ ๆของประเทศ) ควบคู่ไปด้วย  และ ก็ต้องมองไปยังดาวพระเคราะห์ใหญ่ 2 ดวง คือดาวพฤหัสบดี(๕) และดาวเสาร์(๗)จร  ว่าเดินฝีจักรแห่งดาวไปอย่างไร ในจักรราศีแห่งโหราศาสตร์     

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทที่ 3

ทบทวนอิทธิพลดาวใหญ่และคำพยากรณ์

เหตุการณ์ในอดีตล่าสุด

 

 

**********

 

 

 

 

 

 

ข้อ 1 

ดูคำพยากรณ์เดิม

ต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์

 

 

เหตุการณ์ก่อนประกาศกฎอัยการศึก

วันที่ 20 พ.ค.2557 จากเวบบอร์ดโหราศาสตร์ ใน

http//www.newworldbelieve.com

( www.newworldbelieve.com เวบบอร์ด โหราศาสตร์  โหราศาสตร์ 12  ) 

 

 

 

ความคิดเห็นที่ 16  13 มีนาคม 2557

ขอถามตรง ๆ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา   ทรยศต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือเปล่า?   ดวงชะตาเป็นอย่างไร  ท่านเคยพยากรณ์ว่าดวงดี อาจทำปฏิวัติสำเร็จ  แต่เนื่องจากผูกพันกับดวงพรรคเพื่อไทยและ ยิ่งลักษณ์ จึงไม่อาจจะทำปฏิวัติได้ 

• ผู้แสดงความคิดเห็น นศ.โหราศาสตร์ วันที่ตอบ 2014-03-13 16:50:09

 

 

• ความคิดเห็นที่ 17  14 มีนาคม 2557

ประชาชนไม่สบายใจที่ประยุทธ พูดจาลักปิดลักเปิด และยังให้ทหารมาทำบังเกอร์คุ้มครองม็อบ กปปส. เมื่อวานศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้ พรบ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านขัดรัฐธรรมนูญ และโฆษกกองทัพบกยังออกมาขู่เสื้อแดงให้เคารพศาล ยังมองไม่ออกเลยว่ากองทัพจะอยู่ข้างรัฐบาล อยากให้โหรช่วยตรวจสอบด้วย บอกตรงๆประชาชนไม่เคยไว้ใจทหารเพราะทหารอยู่ข้างรัฐประหารตลอด ไม่เคยอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย

• ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2014-03-14 01:34:14

 

• ความคิดเห็นที่ 18 14 มีนาคม 2557

ทหารนั้นไม่น่ากลัวเท่ากับองค์กรอิสระครับ ศาล รธน. ปปช. กกต.คนพวกนี้รับใช้อำมาตย์ทั้งสิ้น แถมมีอำนาจล้มรัฐบาลได้อย่างเนียนๆโดยที่ไม่ต้องให้รถถังปฎิวัติเลยด้วยซ้ำ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะหลุดออกจากวงจรอุบาทว์นี้เสียทีนะ เดือนเมษานี้มีเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่นายกและพรรคเพื่อไทยจะต้องโดนเล่นงานจากคนพวกนี้ แถมจะมีการตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กพ.เป็นโมฆะเพื่อเปิดโอกาศให้ ประชาธิปัตย์ได้ลงเลือกตั้งใหม่อีก ส่วนทหารนั้นผมมั่นใจว่าไม่ปฎิวัติแน่นอน รบกวนท่านอาจารย์ช่วยดูได้ไหมครับว่าท่านนายกจะรอดพ้นคมเขี้ยวของ กกต. ศาล รธน. หรือไม่

• ผู้แสดงความคิดเห็น สุวิทย์ วันที่ตอบ 2014-03-14 07:59:33

 

ความคิดเห็นที่ 19  14 มีนาคม 2557

ถึงอย่างไรเราก็เห็นกองทัพยังน่ากลัวอยู่ และเยเซี๊ยะกับองค์กรอิสระ เจ้าหน้าที่รัฐต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีทหารนอกแถวคอยช่วยเหลือม็อบกบฏ หากเราจะสู้กับองค์กรอิสระ เราต้องนำประเด็นการแต่งตั้งโดยไม่ชอบธรรม ตีแผ่การทำหน้าที่ที่ฉ้อฉลไม่ตรงตามกำหมาย ตรวจสอบพฤติกรรมทางการเงินขององค์กรเหล่านี้และคนในครอบครัว หากพบการทุจริตหรือร่ำรวยผิดปกติต้องนำมาตีแผ่ให้สังคมกดดันให้หนักในการไม่ยอมรับความอยุติธรรม

• ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2014-03-14 16:33:53

 

 

 

ความคิดเห็นที่ 20 15 มีนาคม 2557

คำตอบ 

มาพิจารณาประเด็นสำคัญก่อนก็แล้วกัน  ประเด็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

คห.17 นศ.โหราศาสตร์ถาม  ขอถามตรง ๆ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา   ทรยศต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือเปล่า?   ดวงชะตาเป็นอย่างไร  ท่านเคยพยากรณ์ว่าดวงดี อาจทำปฏิวัติสำเร็จ  แต่เนื่องจากผูกพันกับดวงพรรคเพื่อไทยและ ยิ่งลักษณ์ จึงไม่อาจจะทำปฏิวัติได้ 

 

ตอบ   เคยพยากรณ์ไว้เช่นนั้นจริง และยืนยันอยู่ขณะนี้  ในประเด็นที่ว่า ดวงดี อาจจะทำปฏิวัติได้สำเร็จ  แต่เราก็ได้พยากรณ์ไปอีกว่า ดวงที่ดีนี้มีความผูกพันในทางดีต่อดวงชะตา 2 ดวงชะตาคือ ดวงชะตานรม.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย  ......เราดูไว้ค่อนข้างรอบคอบครับ .........   แต่เราลืมดูรายละเอียด หรือข้อมูลใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้อย่างระวัง โดยไม่ทันคิดว่าจะมีความหมายที่ฉกรรจ์ อย่างยิ่ง ....  คือกรณีที่ดาวอังคารเดินหน้าเข้าสู่ราศีตุลเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2557 และจะอยู่ ณ ราศีตุลไปจนถึงวันที่ 6 เม.ย.2557 .......   เราไม่ทันดูรายละเอียด........ เมื่อได้กลับมาดูอย่างละเอียดแล้ว จึงพบว่า  อิทธิฤทธิของดาวอังคารจรสู่ราศีตุล  มีความหมายมากไปกว่าที่เคยพยากรณ์ไว้  ดูคห.5 ดูย่อหน้าสุดท้ายครับ ทายไว้อย่างนี้ 

 .........ยังมีอีกดวงชะตาหนึ่ง ที่ได้ผลเสียจากดาวอังคารระหว่างนี้  คือ ผบ.ทบ ท่านประยุทธ จันทร์โอชา  แต่ผลเสียนั้น เคยวิเคราะห์ไว้แล้ว ว่าหมายถึงงานของท่านที่จะเผชิญความสับสน  มีเรื่องที่น่าปวดหัวมากขึ้น   ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่ดาวอังคารจรในราศีตุล..........

คือให้น้ำหนักเบาเกินไป

แท้จริง  ดาวอังคาร  ดาวราหู  ดาวเสาร์ ในราศีตุล เช่นนี้  สำหรับดวงชะตาทั่ว ๆ ไปที่มีลักคณา ณ ราศีมังกร เช่นพล.อ.ประยุทธ์   จะให้ผลร้ายในด้านการงานทีทำอยู่ หรือกรรมาชีพของบุคคลนั้น ในระดับที่ร้ายแรงมาก  ถึงขั้นที่จะถูกปลดออก ไล่ออกจากงานเลยทีเดียว   (ถ้าเห็นดาว 3 ดวงนี้ในลักษณะนี้กุมกันอยู่ในภพที่ 10 ของชะตาใด  ให้ทายไปเลยว่าชะตานั้น กำลังกระทำผิดพลาดในหน้าที่การานของเขาอย่างยิ่งใหญ่ถึงขั้นที่จะถูกเจ้านายหรือนายจ้างปลดออก ไล่ออกจากงานเลยทีเดียว.....ทายไปเลย  ไม่ผิด)    ...........

แต่สำหรับดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา   เราต้องมองตัวแปรให้ครบถ้วน  เพราะในภพที่ 10 นั้นยังมีดาวเสาร์(๗)เป็นบริวารเดิม มหาอุจสถิตอยู่ และเสาร์(๗)จรที่จรเข้าทับเสาร์เดิมมหาอุจขณะนั้นเป็นกาลกิณีมหาอุจจจรมา    ความหมายก็คือ เจ้าชะตาประพฤติชั่วร้ายแบบหลงผิดไปมากจริง ๆ  หากแต่มีความเข้มแข็งมาก ๆ จนไม่มีใครจะเอาผิดได้ ....ใหญ่มาก  แม้ว่าจะได้กระทำผิดต่อหน้าที่ของตนไปอย่างมากก็ตาม  ..... ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธก็อาจจะรอด ไม่ถูกปลดออก ไล่ออก...........

แต่มีข้อสังเกตที่น่าสนใจมากปรากฎในดวงชะตาของนายพลคนนี้ ............  พล.อ.ประยุทธจะประพฤติตนไปเช่นนี้ ตามอำนาจของดาวอังคารที่จรไปสัมผัสกับเสาร์เดิมและเสาร์จร และราหูจร ในราศีตุล.......ในช่วงเวลาที่ดาวอังคารรอยู่ในราศีตุลระหว่างวันที่ 1 ก.พ. - 21 มี.ค. 2557    ปรากฎว่า หลังวันที่ 21 มี.ค. 2557 ไปแล้ว   จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพฤติกรรม พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา   จากหน้ามือ เป็นหลังมือ  อันน่าจะเกิดขึ้นจากเกิดการรู้แจ้งขึ้นมา .............

แต่...จะเป็นผลดีต่อฝ่ายประชาธิปไตยเราหรือไม่   ก็ขอให้ได้หวังนะครับ

 

เพราะสำหรับฝ่ายประชาธิปไตย....มองจากดวงชะตาหลัก ๆ ที่สัมพันธ์กับดวงชะตาประเทศไทยขณะนี้ แทบทุกดวงชะตา แม้ดวงชะตาประเทศไทยเอง .... อย่างไร ๆ  ประชาธิปไตยก็ชนะ  จึงไม่น่าจะแปลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการปฏิวัติสำเร็จ   ....   น่าแปลว่า พล.อ.ประยุทธ์ กลับใจช่วยฝ่ายประชาธิปไตย ให้สำเร็จเร็วขึ้น .....

มองจากหลักการข้อไหนครับ.....  ก็เพราะดาวเสาร์มหาอุจจรถึงคราวแปรทักษาจากกาลกิณีจร เป็นศรีจร  ในวันที่ 21 มี.ค. 2557  วันที่ พล.อ.ประยุทธ มีอายุครบ 60 ปีเต็ม   นั่นอย่างไรครับ .......กาลกิณีจร แปรเป็นศรีจร    กลับดำเป็นขาว  ไปเลย   .....

องคุลีมาลย์กลับใจหรือ?     

 

ก็อย่าประมาท อย่าหวังพึ่งเขามากเกินไป  อาจจะแปลว่าทำการปฏิวัติยึดอำนาจได้อย่างง่ายดายก็ได้ ?  

 

แต่นี่คือคำพยากรณ์ของเรา   พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  จะเปลี่ยนใจ กลับมาเข้าข้างประชาธิปไตย แน่นอน   ด้วยอานุภาพของ  ตาสว่าง ในธรรม  

• ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2014-03-15 23:01:56

·        จากwww.newworldbelieve.com เวบบอร์ด โหราศาสตร์  โหราศาสตร์ 12

 

 

 

 

 

 

 

ข้อ 2 

คำพยากรณ์ดวงฤกษ์วันประกาศกฎอัยการศึก
          20 พฤษภาคม 2557

 

ดวงที่ 3 ฤกษ์ประกาศกฎอัยการศึก ล.60/269

ดวงที่  3 ดวงฤกษ์  วันประกาศกฎอัยการศึก

ดวงที่ 3 ดวงฤกษ์  วันประกาศกฎอัยการศึก
พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หน.คสช. วันที่ 20 พ.ค.2557 เวลา 03.00 น.

 

 

หมายเหตุ  การพยากรณ์ดวงฤกษ์ประกาศอัยการศึกที่ได้พยากรณ์เอาไว้แล้วนี้  บัดนี้ มีความหมายถึง ดวงกำเนิดคณะ คสช.ด้วยเลย  คสช.ย่อมเป็นไปตามคำทำนายนี้....

เมื่อมองตามหลักโหราศาสตร์แล้ว  จะถือว่าเป็นดวงชะตาของคณะ คสช.เลยก็ได้  โดยไม่ต้องไปดูดวงฤกษ์อื่น คือดวงวันทำรัฐประหาร และดวงประกาศตั้งตนเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา   เพราะเหตุการณ์เป็นเรื่องเดียวกัน ที่เริ่มตั้งแต่วันประกาศกฎอัยการศึก   ฉะนั้น  จึงสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ได้ไปตามฤกษ์ประกาศกฎอัยการศึกได้เลย นั่นก็คือ ดวงฤกษ์ประกาศกฎอัยการศึก ก็เท่ากับดวงกำเนิดของคณะ คสช. นั่นเอง  คสช.จะเป็นไปอย่างไร ดูจากดวงฤกษ์ประกาศกฎอัยการศึกนี้

และทางเรา  ก็ได้พยากรณ์เอาไว้แต่เดิมแล้ว  ในฤกษ์ประกาศกฎอัยการศึก   ดังนี้ (ผู้พยากรณ์:ชลัมพุช โหรชนบท/ 11 มี.ค. 2559)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

<<<

ความคิดเห็นที่ 87 (3390458)

คำตอบ ดวงประกาศกฎอัยการศึก

ประเด็น  คห.82-83-84-85

1.   ฤกษ์ประกาศกฎอัยการศึก วันที่ 20 พ.ค.2557 เวลา 03.00 น.(ตามประกาศ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ฉ.ที่ 1)  นี้  บอกถึงการพยายามนำหลักโหราศาสตร์มาใช้ในการออกฤกษ์ทำการที่สำคัญ  โดยโหรฝ่ายนั้น ได้พยายามรอให้ถึงเวลา 03.00 น. เพื่อที่จะได้ ลักคณาฤกษ์ตกแอเรียราศีมีน  ซึ่งมองว่าขณะนั้นดาวศุกร์สถิตราศีมีน กำลังเปล่งแสงเจิดจ้าเต็มที่ เป็นมหาอุจอยู่  และมีระบบดาวสัมพันธ์ดีอีกมาก ......ย่อมนำความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มาสู่คณะผู้ทำการ......

2.   โดยรูปรวมแล้ว ฤกษ์นี้นับว่าเป็นฤกษ์ที่ดีมาก ๆ และน่าจะยอมรับจากโหรสำนักต่าง ๆ  ได้ก็คือ  เป็นฤกษ์ของการประนีประนอม  ดีในด้านการร่วมมือของคนฝ่ายต่าง ๆ  และทั้งมีความหมายของสันติภาพและการเจรจา ที่มีความสำเร็จสูง  สรุปได้ว่า เป็นฤกษ์ที่เหมาะสมแก่การเจรจาการ ประนีประนอม ซึ่งจะได้รับการยอมรับจากคนทุกฝ่าย ไม่มีลักษณะของการใช้อำนาจและความรุนแรง

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2014-05-22 10:52:16 >>>

 

 

ความคิดเห็นที่ 91 (3390479)

ต่อ จากคห. 87

 ยังไม่ทันเขียนส่วนที่ไม่ค่อยดีในดวงฤกษ์ประกาศกฎอัยการศึก ว่าแต่ข้อดีไปก่อน เอาละมาว่าต่อให้จบข้อความ ข้อ 3 ครับ

3.   ประกาศกฎอัยการศึกนี้น่าจะใช้ไม่นานนัก ก็จะจบลง   ดูดาวอังคารนะครับ  อังคารสัมผัสกับอาทิตย์  เล็งมฤตยู+ลักคณ์...มฤตยูร่วมธาตุ....    บางทีโหรฝ่ายนั้น(อาจจะเป็นพล.อ.ประยุทธเองก็ได้....หรืออาจจะเป็น พล.อ.เปรมก็ได้เหมือนกัน) จะลืมไปว่าวันทำการนั้นเป็นวันจันทร์อยู่  ไม่ใช่วันอังคารตามที่คิด  ฉะนั้นจึงเกิดข้อผิดพลาดขึ้นอย่างแรง

3.1  ดาวอังคาร ดาวอายุ ถูกมฤตยูเล็ง และรังสีดวงอาทิตย์กาลกิณีแผดเผา และยังมีเกตในกรกฎ ร่วมธาตุอีก  ....อังคาร.....มฤตยู.....อาทิตย์....เกตุ  ถึงกัน   นี่บอกถึงอายุสั้น ..................  และก็สั้นจริง ๆ เพราะวันนี้ได้สุดสิ้นประกาศกฎอัยการศึกไปแล้ว  มีการรัฐประหารแทน    เราก็ได้ดวงชะตา ดวงฤกษ์รัฐประหารขึ้นมาใหม่ อีกดวงหนึ่ง  ....ก็จะว่ากันถึงดวงรัฐประหารต่อไป

3.2  ฤกษ์นี้มีดาวศุกรเป็นมหาอุจกุมลักคณ์ก็จริง   แต่ต้องข้อห้ามตามหลักโหราศาสตร์ก็คือ   ...... กฎศุภเคราะห์กุมลักคณ์ บาปเคราะห์เล็งลักคณ์.....  แม้ว่าบาปเคราะห์จะเป็นอังคารคู่มิตรก็ตาม  แต่ถ้าได้ตำแหน่ง   เล็งกันแบบ  ศุภเคราะห์กุมลักคณ์ บาปเคราะห์เล็งลักคณ์แล้ว  ก็เสียหาย........ถ้าดวงบุคคลจะหมายถึง  ความหมายก็คือ   ทำดีไม่ขึ้น เหนื่อยเปล่า ......  พอจะได้ดีก็ไม่ได้ดี .......

3.3     นอกจากนั้นตรงราศีที่อังคารตั้งอยู่นี้  ยังมีความหมายถึงหมู่มิตร ทหารหาญด้วยกัน  ในเวลาต่อไปก็จะทะยอยห่างเหินกันไป

3.4   ดาวอาทิตย์ในดวงฤกษ์เสียหายอย่างหนัก เพราะเป็นกาลกิณี  และยังเชื่อมถึงอังคารในภพปัตนิ..... ตรงนี้บอกไปถึงการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้ มีผู้ใหญ่ คนสำคัญชั้นสูง ไม่เห็นด้วย......และหมายถึงการเสื่อมเสียเกียรติยศลงไป  ไร้ศักดิ์ศรี ไร้เกียรติ์อย่างสิ้นเชิง   และหมายถึงมีผู้ใหญ่ได้เตือนปรามมาทางเพื่อนทหารที่ร่วมกันทำการ....จะเป็นผลให้ห่างเหินกันไปในภายหลัง  ไม่ร่วมมือเหมือนเดิม ......เป็นผลให้รีบทำ ๆ เพื่อให้พ้นวาระการประกาศกฎอัยการศึกไปโดยเร็ว .....  ข้อผิดพลาดในการวางดวงฤกษ์ตรงนี้ ก็เนื่องมาจากโหรประยุทธยังไม่ละเอียดพอ  อาจจะลืมไปว่า  เวลาราชการ กับเวลาโหร ไม่ตรงกัน   ขณะที่ประกาศฯนั้นเป็นวันที่ 20 พ.ค. 2557 03.00 น. ก็จริง  แต่ยังไม่เป็นวันอังคาร  ยังเป็นวันจันทร์อยู่  เพราะการนับวันของวิชาโหราศาสตร์ นับเวลาวันใหม่เมื่อ 06.00 น.เป็นต้นไป   เมื่อนับเป็นวันอังคารจึงผิดพลาดอย่างแรงในเมื่อความจริงยังเป็นวันจันทร์อยู่

3.5   อย่างไรก็ดี เนื่องจากดาวพฤหัสบดีเป็นประ+อุจจาวิลาสน์  และได้ตำแหน่งดีมาก  จึงน่าหวังได้ถึงความเป็นธรรมจริง  กระนั้นก็ยังอ่อนเพราะมีตัวทำลายขนาดหนักคือ เสาร์มหาอุจ+ราหูที่ราศีตุล

4.   สรุป ดวงฤกษ์นี้บ่งถึงการได้ผลดีแต่วาระแรก ๆ ที่มีการให้ความร่วมมือดี จากทุกฝ่าย  แต่ ในวาระลำดับต่อมา เริ่มมีปัญหาขึ้น   เพื่อน ๆ จะคลายตัวออกไปด้วยอำนาจของผู้ใหญ่คนสำคัญที่ไม่พอใจการประกาศกฎอัยการศึก  ฉะนั้น  น่าจะได้มีการประชุมประนีประนอมกันให้ได้ผลสำเร็จได้ข้อตกลงโดยรวดเร็ว (เพราะอายุประกาศนี้สั้น) 

• ·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2014-05-22 22:51:26

>>>>>

 

 

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

บทที่ 3

ภาคพยากรณ์ดวงชะตาประเทศไทย

 

 

 

**********

 

 

 

 

 

 

ข้อ 1  

ข้อมูลการจรของดาวใหญ่

ประเด็นหลัก ที่โหรมองอยู่วันนี้ก็คือการจรของดาวใหญ่ 4 ดวงมีการโคจรไปสู่ตำแหน่งที่ให้ความหมายสำคัญ ดังนี้

[1.]   ดาวมฤตยู(๐)   ดาวดวงนี้กำลังจะยกย้ายจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษในวันที่ 6 มี.ค.2559 และ อยู่ ณ ราศีเมษนี้ไปถึง 7 ปี วันที่  8 มีนาคม 2566

 

[2.]  ดาวพฤหัสบดี (๕) จรอยู่ในราศีสิงห์  ระหว่าง 11 ก.ค. 2558 – 15 ธ.ค. 2558 แล้วเสริดสู่ราศีกันย์ ถึง 9 ก.พ.2559 พักรกลับสู่ราศีสิงห์ไปจนถึง 7 ส.ค.2559 จึงจะยกย้ายเข้าสู่ราศีกันย์ และอยู่ในราศีกันย์ไปจนถึง 6 ก.ย.2560   มีสถานะเป็นดาวจรกาลกิณีจร ระหว่างวันที่ 21 เ.ม.ย. 2558 ถึงวันที่ 21 เมษายน 2559

 

[3.]  ดาวราหู(๘) จรยกย้ายราศีสู่ราศีสิงห์ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2559 จะอยู่ไปถึงวันที่ 15 ส.ค.2560 เป็นกาลกิณีจร ระหว่าง 21 เม.ย. 2559 – 21 เม.ย.2560

 

[4.]  ดาวเสาร์(๗)จร ผ่านราศี สำคัญ 4 ราศีตามลำดับ คือราศีพิจิก-ธนู-มังกร-กุมภ์  ระหว่างวันที่ 26 พ.ย.2557 – 1 ธ.ค.2560 –5 ธ.ค.2563 – 1 มี.ค.2566 - 19 พ.ค.2568   รวมเวลา 11 ปี 6 เดือน   จึงยกย้ายสู่ราศีมีน ซึ่งเป็นตำแหน่ง วินาสน์แก่ดวงเมือง ดาวเสาร์(๗)จรนี้ จะสถิตอยู่ในราศีธนู ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.2560 ถึง 5 ธ.ค.2563 ในช่วงที่อยู่ราศีธนูนี้ ดาวเสาร์(๗)ดวงจรนี้แปรทักษาเป็นกาลกิณีระหว่างวันที่ 21 เม.ย.2560 – 21 เม.ย. 2561  และเป็นศรีจร ระหว่าง 21 เม.ย. 2561 – 21 เม.ย.2562

 

[5.]  ดาวศุกร์(๖)   ดาวศุกร(๖) จรเข้าสู่ราศีกันย์ ระหว่างวันที่ 1  ส.ค. 2561  แล้วเคลื่อนเข้าสู่ราศีตุล ระหว่าง 31 ส.ค. 2561 – 2 ม.ค. 2562

 

 

 

 

 

 

 

ข้อ 2   

บทวิเคราะห์ความหมายสำคัญ

ของดาวจรระยะนี้เท่ากับ

คำพยากรณ์ดวงชะตาประเทศไทย

 

 

 

[1.]  ดาวพฤหัสบดี(๕)  ดาวพฤหัสบดี(๕)  เดินถอยหลังมาจากราศีกันย์  เข้าสู่ราศีสิงห์ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2559   ซึ่งลักษณะการเดินทางเข้าสู่ราศีสิงห์  ของดาวพฤหัสบดี มนตรีจร ย่อมส่งผลที่ดี เด่นตามความหมายของดาวพฤหัสบดี(๕)ดวงนี้ (คือดาวพฤหัสบดีให้ความหมายถึงธรรมะ วิชาการ ความยุติธรรม การปกครองที่เป็นธรรม  และศาสนา  จึงออกความหมายมาอย่างที่ว่าต่อการปกครองประเทศโดยธรรม เนื่องจากจะมีการประสานกันทั้งฝ่ายพลเรือน ฝ่ายกฎหมาย  ฝ่ายวิชาการ และฝ่ายศาสนจักร   

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนา และการปกครองที่เป็นธรรม ได้บ่งบอกไปถึงความดีที่น่าชื่นชมมาแล้วตั้งแต่วันที่ดาวพฤหัสบดี(๕)ดวงนี้จรลงมาสู่ราศีสิงห์ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นมา .... ได้ทำให้เกิดกระแสผสมร่วมกันอย่างงดงาม ระหว่างดาว 3 ดวง ในเรือนธาตุไฟ คือ พฤหัสบดี(๕)จร ในราศีสิงห์  ดาวพฤหัสบดีเดิม(๕) เกษตรเดิม ในราศีธนู  และกระแสดาวอาทิตย์(๑)มหาอุจเดิมในราศีเมษ  ได้บอกถึงมีงานการสร้างสรรค์ ที่ริเริ่มขึ้นอย่างค่อนข้างน่าชื่นชม ประทับใจ น่าเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน จากฝ่ายปกครองและฝ่ายศาสนจักร (ก็เห็นจากโครงการศีลห้าของฝ่ายคณะสงฆ์ไทย ที่วงการคณะสงฆ์ทั้งประเทศ ธรรมยุติ มหานิกาย ผันลงสู่ประชาชนทั้งประเทศ และไปได้อย่างดีตราบที่พฤหัสบดี(๕)จร สถิตอยู่ในราศีสิงห์   จนกว่าจะย้ายออกจากราศีสิงห์ ในวันที่  7  สิงหาคม  2559

และในเวลาต่อมาดาวราหู(๘)ได้โยกย้ายราศีอีกดวงหนึ่ง มาสมทบเข้ากับดาวพฤหัสบดี(๕) ที่จรเป็นกาลกิณีจรอยู่ในราศีสิงห์    ตามมาด้วยดาวมฤตยู(๐) ที่จะจรยกย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ในวันที่ 6 มีนาคม 2559 นี้  ซึ่งดาวทั้ง 2 ดวงนี้   การที่ราหู(๘)จร ธาตุลม จรเข้าราศีสิงห์ ธาตุไฟ  มฤตยู(๐)จร ธาตุอากาศ จรเข้าราศีเมษ ธาตุไฟได้ทำความมัวหมองให้เกิดขึ้นแด่วงการศาสนจักรไปบ้าง  มีประเด็นพระพรหมสุธี ถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ(ราชวรมหาวิหาร) กรณี สตง.พบมีความผิดปกติงบฯที่ใช้ในงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์  ...กำลังสอบสวนสืบสวนอยู่ พอถึงวันที่  25 ม.ค.2559 ก็พบว่าท่านองค์นี้ ผูกคอตาย   แล้วมีเรื่องเดินขบวนสงฆ์-พุทธบริษัท 4 ที่พุทธมณฑล ต้นเดือน ก.พ.2559 เรื่องขอให้รัฐฐาลเร่งแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช)   อันจะส่งผลให้ธาตุไฟ(คือความโกรธ อาฆาต พยาบาท จองเวร ความไร้สติ หุนหันพลันแล่น)  ในประเทศสยามนี้ร้อนรุ่มขึ้นมากว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งนั่นจะเป็นเหตุการณ์ในประเทศไทยช่วงเวลาระหว่าง วันที่ 16 มกราคม 2559 เป็นต้นไป แต่ก็ไม่ถึงอันตรายอย่างร้ายแรงอะไร จะบอกถึงความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจของประชาชนเป็นเรื่องหลัก

 

 

 

[2.]   ราหู(๘)    ราหู(๘)จรออกจากราศีกันย์ เข้าสู่ราศีสิงห์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 นี่เอง  และจะอยู่ในราศีสิงห์นี้ไป 1 ปีครึ่ง จนถึงวันที่  10 สิงหาคม 2560  ก็ทำให้กระแสดาวคู่ใหญ่สองกระแสวิ่งถึงกัน คือกระแสดาวเสาร์(๗)เดิม ในราศีธนู  กับกระแสดาวราหู(๘)จรในราศีสิงห์  แล้วไปร่วมกับกระแสดาวอาทิตย์(๑)เดิม มหาอุจ ที่ราศีเมษ  

อันนี้จะหมายความถึงการปกครอง การเมืองไทย จะเข้มขึ้นไปอีก  โดยระบบหมู่พวก  จะตรึงกำลังเข้าทำการตรวจตราแผ่นดิน  ยึดครองอำนาจเข้มไปกว่าเดิมอีก  จะแสดงถึง มีสิ่งที่เลวร้าย ไม่เป็นธรรม เกิดขึ้นในประเทศไทย  ทหารและตำรวจ ฝ่ายกำลัง จะทำอะไรที่เสื่อมทราม ผิดความเป็นธรรม  และเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นมาหลายเรื่อง ระหว่างที่ดาวพฤหัสบดี(๕)จรออกไปจากราศีสิงห์ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2559

 

 

 

[3.]  ดาวพฤหัสบดี(๕)   วันที่ 7 สิงหาคม 2559 ดาวพฤหัสบดี(๕) ยกย้าย จากราศีสิงห์ เข้าสู่ราศีกันย์  บอกถึงฝ่ายพลเรือนทั้งสิ้น ฝ่ายที่กุมอำนาจตุลาการ  ฝ่ายรัฐสภา  แม้ฝ่ายพระสงฆ์องค์เจ้า ถูกกันออกไปจากฝ่ายรัฐบาลทหาร  ทหารรวมพลังกันอย่างแน่นหนา   ทำการเคลียร และบริหารประเทศไทย อย่างเด็ดขาด  อยู่เป็นเวลา 1 ปีกับ 1 เดือน เต็ม ๆ   1 ปี.... ระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ถึง  วันที่ 6 กันยายน 2560   ช่วงนี้ทหาร  ซึ่งจะปรากฏผลออกมาเป็นกองกำลังทหารและตำรวจทั้งประเทศ จะปฏิบัติงานเสมือนการเคลียร์พื้นที่ให้สอาด สงบ เป็นระเบียบ คล้ายเตรียมการบางอย่างตามเป้าหมายทางการเมือง

 

 

 

[4.]  ดาวมฤตยู(๐)   กระนั้น  เนื่องจากดาวร้าย มฤตยู(๐) ได้ยกย้ายเข้าสู่ราศีเมษ มาตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2559  จะอยู่ ณ ที่นี้ไปถึง 7 ปีเต็ม ๆ  และทับลักคณาดวงเมือง ทับอาทิตย์ชาตา ในราศีเมษ....และยังแผ่กระแสไปยังราศีธาตุไฟทุกราศี ในลักษณะร่วมธาตุไฟทั้งสิ้น   ทุกระดับความแรงแห่งไฟ  คือแม่ธาตุ ราศีสิงห์  กลางธาตุ ราศีเมษ และปลายธาตุ ราศีธนู  แต่ยังไม่สามารถออกฤทธิ์ร้ายแรงได้ แต่ได้แสดงถึงแผนการที่จะเป็นไปเช่นนี้    

ซึ่งนับจากนี้มฤตยู(๐) ก็จะออกฤทธิ์  ไปตลอด 1 ปี 1 เดือน สำหรับชาตาประเทศไทย  อันจะมีลักษณะ 2 อย่างคือ 

(1.) การก่อการร้ายขนาดย่อม ๆ  เกิดขึ้น ซึ่งจะรวมทั้งการเคลื่อนไหวของชนบางหมู่บางกลุ่มขนาดย่อย ๆ  ซึ่งไม่น่ามีความหมายถึงการก่อการร้ายอย่างเดียว  แต่มีความหมายถึงการชุมนุมเรื่องการงานอาชีพของประชาชน ที่มีปัญหาทั่วไป ด้วย ที่จะเกิดขึ้นที่นั่นที่นี่โดยตลอด 

(2.) บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของฝ่ายปกครองในการจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ของแผ่นดินในระยะนั้น  ซึ่งจะจัดการไปได้อย่างค่อนข้างเรียบร้อยดี....ไม่ปรากฏว่ามีเหตุร้ายรุนแรง ที่น่าวิตกหวาดหวั่นแต่อย่างไร    

 

 

 

[5.]   ราหู(๘)   4 สิงหาคม  2560 ราหู(๘)จรยกย้ายจากราศีสิงห์สู่ราศีกรกฎ  กองทหารส่วนหนึ่งเข้าประจำแผ่นดินไทยทุกภาค ทุกแผ่นดิน ประเทศไทย  มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การปกครองในประเทศ  ก่อเกิดการรื่นรมย์ ปรีดา แด่คนในประเทศนี้  

 

 

 

 

[6.]  ดาวเสาร์(๗)  1 ธันวาคม 2560  ดาวเสาร์(๗)จรยกย้ายเข้าสู่ราศีธนู  บอกถึงจะมีการจัดการประเทศ  มีการริเริ่มแผนงานในด้านการปกครองใหม่ในประเทศนี้  และเป็นเรื่องการริเริ่มในด้านการเมือง การปกครอง ซึ่งยังมีอิทธิพลฝ่ายคนในเครื่องแบบครอบคลุมอยู่ แต่เปลี่ยนจากฝ่ายทหาร เป็นฝ่ายตำรวจ หรือน่าจะเป็นว่าฝ่ายทหารถอนตัวออกไป มีตำรวจดำเนินการแทน  และบอกถึงการดำเนินการไปด้วยระบบที่เป็นไปตามกฎหมายสูงสุดของประเทศ  แต่เนื่องจากจรเป็นกาลกิณี ระหว่าง 21 เม.ย.60 – 21 เม.ย.61  เสาร์(๗)ดวงนี้ก็จะทำให้ ระบบความสัมพันธ์ของทั้งประชาชนและรัฐบาลเสื่อมเสียไปเป็นอย่างมาก  เรื่องที่เสื่อมเสียก็คือ  เรื่องธรรมะ วิชาการ ความยุติธรรม การปกครองที่เป็นธรรม  และศาสนา 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อ 3

บทสรุปภาคพยากรณ์

ดวงชะตาประเทศไทย

ในอนาคต

 

 

 

สรุปแล้ว  จากดวงชะตาประเทศไทยในด้านการปกครองและการเมือง  รัฐบาลทหารจะเพิ่มมาตรการอันเข้ม เด็ดขาดขึ้น นับแต่ราหู(๘) จรสู่ราศีสิงห์ในวันที่ 19 มกราคม 2559  เป็นต้นมา  ครั้นถึงเดือนสิงหาคม วันที่ 7 สิงหาคม 2559   ไปจนถึงวันที่พฤหัสบดี(๕)จรอยู่ในราศีกันย์ ระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม 2559 – 6 กันยายน 2560  ซึ่งระยะนี้............จะแสดงออกถึงการบริหารแผ่นดินตามแผนการปกครองประเทศในระบบทหาร ซึ่งจะต้องใช้ อำนาจอันเด็ดขาด พร้อมมีการเคลื่อนไหวกองกำลังตรวจสอบดูแลความสงบของแผ่นดินไทยอย่างเข้มข้น  ......   ซึ่งหลังจากนี้ไป  โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 6  กันยายน 2560 เป็นต้นไป น่าเป็นช่วงที่รัฐบาลทหารได้ทำการจัดการให้มีการเลือกตั้ง หรือเดินระบบการปกครอง การเมืองของประเทศไปตามหลักการปกครองสากลโลก  คือ ประชาธิปไตย

 

มีการจรของดาวใหญ่ คือดาวพฤหัสบดี(๕) กับดาวเสาร์(๗)ที่บ่งบอกอนาคตของประเทศไทยใน 11 ปีข้างหน้า ดังปรากฎในดวงดาวจรที่มาสัมผัสดาวเดิมในดวงชะตาประเทศไทย 3 ดวงชะตา ต่อไปนี้

 

 

 

 

 

 [1.]   ดวงที่ 4  ดวงดาวจรสู่ดวงชะตาประเทศไทย การจรของดาวพฤหัสบดี(๕)และราหู(๘)

 

 

 

ดวงที่ 4 ล.60/262

ดวงที่ 4  ดาวจร  การจรของดาวพฤหัสบดี(๕)และราหู(๘)

ดวงที่ 4  ดาวจร  การจรของดาวพฤหัสบดี(๕)และราหู(๘) ระหว่าง 7 ส.ค. 2559 – 30 เม.ย.67

 

ดวงที่ 4  แสดงการจรของดาวพฤหัสบดี(๕) สู่ดวงชะตาประเทศไทย  ที่เริ่มดีขึ้นตั้งแต่พฤหัสบดีจรในราศีตุล วันที่ 6 ก.ย.  2560 ไปจนถึง ราศีเมษ วันที่ 30 เม.ย.2567 รวมเวลาดีที่ต่อเนื่องไปเป็นเวลา 7 ปี 6 เดือน(นับจาก 6 ก.ย.60)  โดยมีดาวราหู(๘)จรมาช่วยแก้ไขปัญหาประเทศ ในระยะที่ประเทศมีปัญหา จนผ่านไปได้ตามลำดับ  และไปสู่ความรุ่งเรืองอย่างสูงสุดในระหว่างที่พฤหัสบดี(๕)จรเข้าทับลักคณาเมืองและอาทิตย์(๑)เดิมมหาอุจ ในระหว่างวันที่ 19 เม.ย. 2566 ถึง 30 เม.ย. 2567

 

 

 

 

[2.]   ดวงที่ 5 ดาวจร การจรของดาวเสาร์(๗)และดาวพฤหัสบดี(๕)

 

 

 

ดวงที่ 5 ล.60/263 บน

ดวงที่ 5 ดาวจร  การจรของดาวพฤหัสบดี(๕)ซ้อนกับดาวเสาร์(๗)

ดวงที่ 5 ดาวจร  การจรของดาวพฤหัสบดี(๕)ซ้อนกับดาวเสาร์(๗) ในปี 2560 ถึงปี 2568

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา) .....

ดาวศุกร(๖)จร      ในราศีกันย์-ตุล, 1 ส.ค. 2561 - 31 ม.ค. 2562,  

พฤหัสบดี(๕)จร    ในราศีธนู-มังกร - กุมภ์,  30 ต.ค. 2562 - 8 เม.ย. 2565,

เสาร์(๗) จร          ในราศีธนู - มังกร - กุมภ์,  5 ธ.ค. 2560 - 19 พ.ค. 2568.....

 

ดวงที่ 5 แสดงการจรร่วมกันระหว่างดาวพฤหัสบดี(๕) กับดาวเสาร์(๗)ระหว่างที่เสาร์(๗)จรสู่ราศีธนู วันที่ 5 ธ.ค. 2560 ไปจนถึงราศีกุมภ์ ในวันที่ 19 พ.ค.2568  รวมเวลาระหว่างนี้ 7 ปี 6 เดือน

 

 

 

 

ดวงที่ 6 ล.60/263

ดวงที่ 6  ดาวจร

ดวงที่ 6 ดาวจร  การจรของดาวพฤหัสบดี(๕)และเสาร์(๗) พร้อมคำอธิบายใต้ภาพ

 

 

(บันทึกใต้ดวงชะตา)    ถือเป็นคำพยากรณ์อนาคตประเทศไทยไว้ ดังนี้

 

- ดาวศุกร์(๖) จรในราศีกันย์-ตุล, 1 ส.ค.61 – 2 ม.ค. 62
- พฤหัสบดี(๕) จรในราศีธนู – มังกร – กุมภ์, 30 ต.ค. 62 – 8 เม.ย. 65
- เสาร์(๗) จรในราศีธนู – มังกร – กุมภ์, 5 ธ.ค. 2560 – 19 พ.ค. 2568

  พอจะสรุปได้ว่า การจรของดาวพฤหัสบดี(๕) กับดาวเสาร์(๗) ช่วงเวลาเริ่มจากวันที่ 5 ธ.ค. 2560 ไปจนถึงวันที่ 8 เม.ย. 2565 เลยไปถึง 19 พ.ค. 2568  เป็นระยะที่สงบของประเทศไทย  จะมีปัญหาความขัดแย้งอย่างน่าวิตกบ้างก็ช่วง 5 ธ.ค.2563 ถึง 1 มี.ค. 2566  แต่ก็เห็นได้ว่ามีการแก้ไขได้เรียบร้อย  ครั้นเริ่มวันที่ 1 มี.ค. 2566 ก็ก้าวต่อไปอย่างดีต่อประเทศไทยไปจนถึง 19 พ.ค. 2568  ซึ่งช่วงนี้ยังจะบอกความหมายที่ดีด้านการเมือง เศรษฐกิจ ทุกด้าน  เป็นระยะที่ประเทศไทยก้าวหน้า  ประชาชน ประชาธิปไตย ถึงจุดสูงสุด......... 

 

(คำบรรยายเพิ่มเติม) สรุปแล้ว ประเทศไทยจะพบสภาวะที่เคลื่อนไหวไ-ปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง นับตั้งแต่เข้าวันที่ 5 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2568  รวมเวลาถึง 7 ปี 6 เดือน  น่าเป็นช่วงระยะเวลาที่มีการสรรสร้างระบอบที่ดีขึ้นทางการเมืองสากล นั่นคือ ประชาธิปไตย หรือระบอบแห่งความเป็นธรรมหรือระบอบแห่งเสรีภาพของปวงชนเกิดขึ้น พร้อมกับระบบแห่งความเป็นธรรมและระบบศาสนาและธรรมะอันมาตรฐาน น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง .

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทที่ 4

ภาคพยากรณ์ดวงชะตา

พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อ 1  

ดวงกำเนิด

 

 

 

ดวงที่ 7 ล.46/318
พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา อยู่ใต้อิทธิพลอันสูงสุดของดาวเสาร์(๗)มหาอุจ 

 

ดวงที่ 7 ดวงกำเนิด  พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา

 

 

ผนวก 2  ทักษาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ล.60/277ล่าง 

ผนวก 2  ทักษาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผนวก 2 ทักษา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา มี.ค.63-64 เสาร์(๗)จรเป็นกาลกิณี

 

 

จะเห็นว่า ดาวเสาร์(๗)ในดวงชะตานี้ นั่นเอง ที่ได้สร้างคน ๆ นี้ให้เดินไปบนวิถีทางที่เด่นดังด้วยภาระงานหน้าที่อันยิ่งใหญ่และทรงบารมี ยิ่งด้วยเกียรติอันโด่งดังทรงอำนาจ  (ด้วยเหตุที่ดาวดวงนี้เป็นดาวตนุลักคณ์หรือดาวประจำตัว และมาสถิตย์ในตำแหน่งมหาอุจ ในราศีตุล ซึ่งเป็นตำแหน่งแห่ง กรรมะ หรือภพที่ 10 ในดวงชะตานั่นเอง)  นอกจากนี้ การที่ดาวศุกร์(๖) สถิตราศีมีน ตำแหน่งมหาอุจ  และดาวอังคาร(๓)สถิตราศีพิจิก ตำแหน่งเกษตร  ทำให้ศุกร์ กับอังคารร่วมธาตุน้ำกันนั้น  บอกถึงบุคคลิกภาพที่เด่น ดี เอาจริง กล้าหาญ เข้ม ก็จริง แต่ภายในจิตใจสดใสสดชื่น มีความอ่อนโยน และความปรารถนาดีแด่คนทั้งหลาย อย่างจริงใจไร้การเสแสร้ง   และยังบอกถึงสติปัญญา ความรอบรู้ระดับปริญญาเอกเป็นพื้นฐานการศึกษาโดยตรงอีกด้วย

วิถีทางชีวิตของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา สามารถมองได้จากคำพยากรณ์ที่เคยพยากรณ์เอาไว้แล้ว จากเรื่องราว 3 เรื่องราวคือ คำพยากรณ์เดิม ก่อนวันยึดอำนาจ ประกาศกฎอัยการศึก(ตามบทที่ 2 ข้อ 1), คำพยากรณ์จากดวงฤกษ์วันประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งให้ความหมายถึง ดวงกำเนิดหัวหน้า คสช(ตามบทที่ 2 ข้อ 2) และ คำพยากรณ์จากดวงกำเนิดของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ต่อจากช่วงเวลานี้ อนาคตจะเป็นอย่างไร

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 

 

 

 

 

ข้อ 2

บทวิเคราะห์ดวงชะตา

ในระยะรุ่งโรจน์

 

ในช่วงที่ดาวเสาร์(๗)จรและพฤหัสบดี(๕)จรสู้ตำแหน่งมหาอุจของตน

 

ภายหลังจากที่ดาวใหญ่ 2 ดวงคือดาวพฤหัสบดี(๕) กับดาวเสาร์(๗) โดยเฉพาะดาวเสาร์(๗) ได้ให้ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แก่ชะตานี้ในช่วงที่ดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีตุล เป็นมหาอุจ และทับดาวเสาร์(๗)เดิมมหาอุจในราศีตุลนั้น เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง  ตามที่ปรากฏในดวงที่ 2 และดวงที่ 8.

 

 

ดวงที่ 8 ล.60/275

ดวงที่  8  ดาวจร ดวงดาวจรระยะรุ่งโรจน์

ดวงที่ 8  ดาวจร ดาวเสาร์(๗)จร มาให้คุณอันยิ่งใหญ่แด่พล.อ.ประยุทธ  จันทร์โอชา  

 

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา) ....พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  ระยะที่ดวงชะตารุ่งโรจน์ ทรงพลังบารมีชนิดที่ไม่มีอะไรต่อต้านได้เลย ช่วงที่ดาวเสาร์(๗)จรในราศีตุล ระหว่างวันที่ 7 ก.ย.55  ถึง  26 พ.ย. 57  ซึ่งในระหว่างนั้น ราหู(๘)จรเข้ามาทับเสริมพลังไปอีกเป็นเท่าตัว เพราะเหตุที่เสาร์(๗)เป็นดาวตนุลักคณ์(ดาวประจำตัว) ทรงพลังเป็นมหาอุจสถิตในภพกัมมะ(ภพที่ 10) ซึ่งหมายถึงภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ที่บ่งถึงอำนาจบารมีอันสูงส่ง ยากที่จะมีพลังใดต่อต้านขัดขวางได้ และครั้นดาวเสาร์(๗)ร่วมกับราหู(๘)จรมาทับดวงเดิมเข้าที่ราศีตุล จึงส่งพลังความสำเร็จไปสู่อำนาจวาสนาบารมีอันสูงส่ง  แม้ว่ามีช่วงอันตรายอยู่ช่วงหนึ่งที่บอกถึงการปฏิบัติหน้าที่(ผบ.ทบ.)ไปอย่างไม่ถูกต้อง ถึง อย่างเลวร้าย จนถึงถูกไล่ ปลดออกจากตำแหน่ง(ระหว่างที่ดาวอังคาร(๓)จรมาทับดาวในราศีตุลระหว่างวันที่ 1 ก.พ. – 21 มี.ค. 2557  ซึ่งเป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนความคิดครั้งใหญ่แบบกลับหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย และ นำไปสู่การยึดอำนาจการปกครอง จนประกาศกฎอัยการศึกในวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00 น.  และทรงอำนาจมาถึงวันนี้ (7 มี.ค.2559)  อาจกล่าวได้ว่าช่วงดังกล่าวนี้ เป็นระยะที่ชีวิตรุ่งโรจน์อย่างยิ่ง และจะเป็นเพียงครั้งหนึ่งครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิตนี้  (อีก 30 ปี กว่าดาวเสาร์จะจรมาสู่จุดมหาอุจทับเสาร์เดิมมหาอุจเช่นนี้อีกครั้ง)

***********************************************************************************************************************************************************************************

 

 

 

 

 

ข้อ 3

ระยะที่เริ่มเสื่อมลงของชะตาชีวิต

เมื่อดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีพิจิก ชะตาก็จะพบกับความเสื่อมลงของวิถีชีวิต

 

ดวงที่ 9 ดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีพิจิก ล.60/276

ดวงที่ 9 ดาวจร เสาร์(๗)จรสู่พิจิก

ดวงที่  9 ดาวจร ดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีพิจิกปะทะอังคาร(๓)เดิม เกตุ(๙)เดิม อาทิตย์(๑)เดิม

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา) ......ดวงจร พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  ระยะที่ชะตามีปัญหา มีปัญหาสุขภาพ  มีความขัดแย้ง มีแนวอุบัติเหตุ มีศัตรู มีการบาดเจ็บและผ่าตัด  เริ่มเมื่อดาวเสาร์(๗)ตนุลั จรสู่ราศีพิจิกวันที่ 26 พ.ย.2557  บอกถึงสภาวะที่ถูกกดดันรอบด้าน  แต่ก็สามารถดำเนินการบริหารให้รุดหน้าไปได้  จนถึงวันที่ 1 ธ.ค.2560 ไป  ซึ่งเป็นระยะที่บ่งบอกไปถึงการวางมือ วางภาระลงทั้งหมด (ล.60/276).......

 

แล้วดาวเสาร์(๗) ก็จะจรเข้าสู่ราศีพิจิก  ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งในการย้ายเข้าสู่ราศีพิจิกนี้ ดาวเสาร์(๗) ตนุลักคณ์ จะได้ปะทะกับดาวอังคาร(๓)เดิมเกษตร ที่เข้มแข็ง  และยังมีดาวเกตุ(๙) อีกดวงหนึ่ง ในราศีพิจิก  แล้วยังมีดาวอาทิตย์(๑)เดิมในราศีมีน แผ่อำนาจที่ขัดแย้งอย่างแรงกับดาวในราศีพิจิกทุกดวง  ทั้งดาวเดิมและดาวจร  และเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเดือน ธันวาคม 2560  ซึ่งจะบอกถึงความขัดแย้งในเชิงความคิด ด้านวิชาการ และการมีฝ่ายตรงข้ามไปตลอด  และดวงชะตานี้ ก็จะเดินไปสู่ปัญหายิ่งขึ้น ดังปรากฏในการวิเคราะห์ อันดับต่อไปนี้  

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 

 

 

 

 

ข้อ 4

ช่วงชะตาชีวิตมาสู่ความสับสน

จากปัญหาสารพัดอย่าง

ที่น่าอันตรายถึงชีวิต

 

 

[1.]  ดวงที่ 10 เริ่มเกิดปัญหาด้วยการจรของดาวมฤตยู(๐) สู่ราศีเมษ

 

 

 

 ดวงที่ 10 ล60/271
ดวงที่ 10 ดาวจร  การจรของดาวมฤตยู(๐) สู่ราศีเมษ

ดวงที่ 10 ดาวจร  การจรเข้าสู่ราศีเมษของดาวมฤตยู(๐) ในดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ระหว่างวันที่  1 ธ.ค.60 – 5 ธ.ค.63

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา)....เนื่องจากดาวมฤตยู(๐)  ยกสู่ราศีเมษของดวงชะตาประยุทธ จันทร์โอชา เมื่อ 6 มี.ค.2559 จะอยู่ไป 7 ปี  7 ปีต่อจากนี้ เจ้าชะตาจะไม่ได้พบความสงบ ตลอดถึง พ.ศ. 2566  ไม่ว่าเขาจะได้ดำรงตำแหน่งหรือไม่ได้ดำรงตำแหน่งอะไรเลยก็ตาม.....

 

(บทวิเคราะห์ประเด็นหลักการสำคัญ).  เนื่องจากดวงชะตาท่าน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นดวงชะตาแบบ กับ  หรือ  ลอบดักสัตว์ จะเห็นราศีเมษเปิดล่อสัตว์เข้ามา  นานเหลือเกินจึงจะมีสัตว์ใหญ่เข้ามา  จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2559  สัตว์ใหญ่ สัตว์ร้ายจึงถลำเข้ามาถึง   นั่นคือ ดาวมฤตยู(๐)  ยกย้ายออกมาจากราศีมีน  เข้ามาสู่ราศีเมษ  เมื่อเวลา 05.23 น.วันที่ 6 มีนาคม 2559 (ตามปฏิทินโหรของท่านอาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว) และจะอยู่ไปถึง 7 ปี 1 เดือน  อยู่ถึง วันที่ 8 มีนาคม 2566    จะมีความหมาย 3 อย่าง [เฉพาะดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ] (1.)  สัตว์ใหญ่ สัตว์ร้ายเข้ามาติดกับ มันก็จะดิ้นไม่หยุด จะได้รับความตื่นตระหนก ตกใจ กลัว  และได้รับบาดเจ็บ ฟกช้ำ ดำเขียว  อุบัติเหตุ   (2.)  ปัญหาสุขภาพจะเป็นประเด็นสำคัญ อันตรายสำหรับชะตานี้ น่าเป็นปัญหาสำคัญและร้ายแรงไปเลย (3.) ปัญหาความคับขันทางการเงิน มีรายจ่ายมากมาย  ที่เกิดขึ้นนอกแผนการ แบบกระทันหัน  ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวก็จริง   แต่จะกระทบไปถึงระดับชาติด้วย  .....มันเริ่มแล้วทั้ง 3 ปัญหานี้  เมื่อดาวมฤตยู(๐)จรสู่ราศีเมษ ไป 7 ปีข้างหน้า (ล.60/271)

 

 

 

[2.]  ดวงที่ 11 การจรของดาวเสาร์(๗) เข้าสู่ราศีอันตราย พิจิก – ธนู

 

การจรของดาวเสาร์(๗) เป็นประเด็นที่ค่อนข้างมีความหมายสำหรับชะตานี้     เนื่องจากดาวเสาร์(๗)ซึ่งเป็นดาวตนุลักคณ์ หรือ ดาวประจำตัว  จรในราศีพิจิกมาตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557  และจะอยู่ในราศีพิจิกต่อไปจนถึง วันที่ 1 ธันวาคม 2560  เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง  และทับดาวอังคาร(๓)เดิม  ทับดาวเกต(๙)เดิม  และถึงอาทิตย์(๑)เดิม   ถึงศุกร์(๖)เดิม .....ซึ่งจะหมายถึงว่า  ระหว่างที่ดาวเสาร์(๗)อยู่ ณ ราศีพิจิกนี้ จะเต็มไปด้วยปัญหาความขัดแย้งอย่างสม่ำเสมอตลอดไปที่ดาวดวงนี้อยู่ในราศีพิจิก    ในระหว่างนี้ ยังจะบอกถึงปัญหาสุขภาพด้วย  ซึ่งแสดงให้เห็นโดยดาวราหู(๘)จร ที่ได้ยกย้ายเข้าสู่ราศีสิงห์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2559 ต้นปีแล้ว  แล้วราหู(๘)จรนี้ พุ่งกระแสตรงไปยังดาวพุธ(๔)เดิมในราศีกุมภ์    ซึ่งบอกถึงโรคภายในท้อง หรืออวัยวะภายในเกี่ยวกับตับ หัวใจ กระเพาะอาหาร  ลำไส้.... แต่จะเห็นว่า ปัญหานี้ยังไม่อันตราย รักษาได้ อย่างน้อยแพทย์ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ยังจะป่วยไม่หาย และจะทวีขึ้นในภายหลัง 

 

ดาวเสาร์(๗) จรในราศีธนู เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ในระหว่าง 2 ปีครึ่งนี้ จะมีระยะที่ชะตานี้ตกต่ำในช่วงที่ดาวเสาร์(๗)แปรทักษา เป็นกาลกิณีจร  ระหว่างวันที่  21 มี.ค. 2561 – 21 มี.ค. 2562 

 

 

เมื่อ เสาร์(๗)จร เข้าราศีธนู นั่นคือภพวินาสน์ของดวงชะตา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา   เมื่อเสาร์(๗)จรเข้าภพวินาสน์ ก็จะบอกสุขภาพมีปัญหาเพิ่มขึ้นทันที  และครั้นถึงเวลา เสาร์(๗)จรเป็นกาลกิณีจร ก็จะป่วยหนักลงไปทันที นั่นคือระหว่างวันที่ 21 มีนาคม 2561 ถึง 21 มีนาคม 2562 จะป่วยหนัก  และมีความหมายรวมไปถึงการเดินทางไปต่างประเทศด้วย ซึ่งนั่นคือไปรักษาตัวในต่างประเทศนั่นเองแท้

 

ดาวเสาร์(๗)  ครั้นดาวเสาร์(๗)จร  ยกย้ายเข้าสู่ราศีธนูซึ่งเป็นภพวินาสนะของชะตานี้  นั่นหมายถึงมีการผิดพลาดหลายอย่างเกิดขึ้น  แต่ที่สำคัญก็คือปัญหาสุขภาพ เริ่มขึ้นอีก  จะป่วยหนักจนต้องเดินทางไปรักษาในต่างประเทศ  จะป่วยหนักอยู่เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ๆ  ระหว่างวันที่ 21 มี่นาคม 2561 ถึง วันที่ 21 มีนาคม 2562   อันแสดงจากทักษาจร  เมื่ออายุเต็ม 64 ปี  (65 ปีย่าง)แล้ว ดาวตนุลักคณ์ คือเสาร์(๗)จร แปรสภาพเป็นดาวร้ายคือ กาลกิณีจร(ตามระบบโหราศาสตร์ไทย)   ซึ่งหมายถึงปัญหา ร้ายแรง   และยังจะบอกถึงปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งด้วย  นั่นคือ ทางราชการ  การเมือง ในระยะนี้  พล.อ.ประยุทธ คงจะต้องออกจากตำแหน่ง   ทุกตำแหน่ง    อันจะมาจากเหตุ 2 ประการนี้ คือ  ปัญหาสุขภาพ  และทั้งการบริหารงานในตำแหน่งผิดพลาดไป ก่อเกิดปัญหาทางการเงินสูญเปล่าของประเทศ

 

ราหู(๘)  การจรของดาวดวงนี้ บ่งไปถึงชาตาของพล.อ.ประยุทธ จะได้รับการบริภาษ โจมตี วิพากษ์ วิจารณ์อย่างมากขึ้น  นับตั้งแต่ดาวราหู(๘)จรสู่ราศีสิงห์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562  ถึง วันที่ 10 ธันวาคม 2563   ช่วงเวลานี้ อาจจะเป็นช่วงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง(คงไม่เหตุจากมวลชน โดนมวลชนขับไล่ออก) ...

 

 

 

ดวงที่ 11 ล.60/264(เดิม)

ดวงที่ 11 ดาวจร เสาร์(๗)จรสู่ราศีธนู

 

 

 

 

 

ดวงที่ 12 ล.60/264บน

ดวงที่ 12 ดาวจร ดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีธนู

ดวงที่ 12 ดาวจร เสาร์(๗)จรเป็นกาลกิณีแล้วเล็งราหู(๘) ราหู(๘)เป็นกาลกิณีแล้วเล็งเสาร์(๗)จร

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา) ....5 ธ.ค. 60 - 5 ธ.ค. 63   เป็นกาลกิณีจรระหว่าง 21 มี.ค. 61 - 62  ปัญหาสุขภาพ + การไปต่างประเทศ หรือการเก็บตัว  หรือ มีแผนลับ ?  สับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ? .....

 

(บทวิเคราะห์ประเด็นหลักการสำคัญ) ........ดาวเสาร์(๗)จรเล็งราหู(๘)จร  ผลัดกันเป็นกาลกิณีจรถึงกันเล็งกัน  ราหู(๘) จร เล็งพุธ(๔)เดิม ระหว่าง 16 ม.ค.2559 – 22 ก.พ.2562  หมายถึงปัญหาทางวาทะ วาจาที่ระคายระเคือง ไม่ถูกใจคน  และหมายถึงคดีความ   22 ก.พ. 2562 – 10 ธ.ค.2563  ราหู(๘)จรในราศีเมถุน เป็นกาลกิณีจรในระหว่างวันที่ 21 มี.ค. 63-64  เสาร์(๗)จรในราศีธนูระหว่าง 1 ธ.ค.2560 – 5 ธ.ค. 2563  เป็นกาลกิณีจรระหว่างวันที่ 21 มี.ค. 2561-62  หมายถึงปัญหาสุขภาพ และการเดินทางไปต่างประเทศ  ยังรวมความไปถึงบางกรณี บางคน อาจหมายถึงการซุ่มซ่อน เก็บตัววางแผนลับ  สับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่.......

 

 

 

 

ดวงที่ 13 ล.60/264ล่าง

ดวงที่ 13 ดาวจร ราหู(๘)จร

ดวงที่  13  ดาวจร ราหู(๘)จรเล็งพุธ(๔)เดิม เล็งลั เล็งราหู(๘)เดิม เล็งเสาร์๗)จร เสาร์(๗)จรเป็นกาลกิณี วันที่ 21 มี.ค. 2561-62  ราหู(๘)จรเป็นกาลกิณี ระหว่างวันที่ 21 มี.ค. 2563 – 2564 ดาว 2 ดวงนี้ผลัดกันเป็นตัวทำลายชะตานี้ ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.2561 ถึง วันที่ 21 มี.ค. 2563

 

 

*************************************************************************************

 

โปรดดูดวงดาวจรที่เข้ามาสู่ดวงชะตาเดิมพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ตามลำดับไป ดังต่อไปนี้

 

 

 

 

ดวงที่ 14 ดาวร้ายเข้ากับดัก (ล.60/271)

ดวงที่ 14 ดวงดาวมฤตยู(๐) จร สู่ราศีเมษ

ดวงที่ 14 ดาวจร ดาวมฤตยู(๐) จรทับดวงเดิมในราศีเมษ วันที่ 6 มีนาคม 2559 และอยู่ต่อไป 7 ปี

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา) ......เนื่องจากดวงชะตา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  ดาวมฤตยู(๐) ยกสู่ราศีเมษของดวงชะตา ประยุทธ จันทร์โอชา เมื่อ 6 มี.ค. 2559 จะอยู่ไป 7 ปี  7 ปีต่อจากนี้ เจ้าชะตาจะไม่ได้พบความสงบ ตลอดถึง พ.ศ. 2565 ไม่ว่าเขาจะได้ดำรงตำแหน่งหรือไม่ได้ตำแหน่งอะไรเลยก็ตาม.......

 

************************************************************************************

 

 

ดวงที่ 15 (ล.60/272)

ดวงที่ 15  ดาวจร  ดาวเสาร์(๗)ตนุลักคณ์จรสู่ภพวินาสน์

ดวงที่ 15  ดาวจร ดาวเสาร์(๗)ตนุลักคณ์จรสู่ภพวินาสน์ วันที่ 13 ธันวาคม 2560 อยู่ไปถึงวันที่ 10 ธ.ค. 2563

 

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา) ......วันที่ 13 ธันวาคม 2560 ดาวเสาร์(๗)ดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีธนู ภพวินาสนะของดวงชะตา, ดาวอังคาร(๓)จรสู่ราศีตุล, จันทร์(๒)จรสู่ราศีตุล, ราหู(๘) จรสู่ราศีกรกฎ, เกต(๙) จรสู่ราศีสิงห์  เกิดมุม 4 เหลี่ยม(กากบาท) ครอบชะตานี้และมุม 3 เหลี่ยมร่วมธาตุ มีดาวเสาร์(๗)เดิม ตนุลักคณ์ รองรับทุกด้าน  , มีพฤหัสบดี(๕)จรอยู่ราศีตุล  เจ้าชะตาจะได้พบปัญหาร้ายแรงรอบตัว  มีอันตรายระดับชีวิต จะป่วยหนักไปต่างประเทศ  อาจจะพ้นจากตำแหน่งงานขณะนั้น  ระวังการลอบสังหาร .......(คำบรรยายเพิ่มเติม).....อันเกิดจาก อาทิตย์(๑)จร ทับดาวอังคาร(๓)เดิม-เกตุ(๙เดิม ในราศีพิจิก และส่งกระแสร่วมธาตุถึงดาวอาทิตย์(๑)เดิมในราศีมีน  แล้วทั้งหมดนี้ร่วมธาตุกับดาวมฤตยู(๐)เดิม+ราหู(๘)จรในราศีกรกฎ แล้วทุกกระแสดาวในมุมสามเหลี่ยมนี้ถึงลักคณาในราศีมังกร.......

หมายเหตุ  ระยะนี้ของดวงชะตา ยังเป็นช่วงที่จะถูกซ้ำเติมอย่างหนักจาก ราหู(๘) โดยจรเข้าสู่ราศี เมถุน เล็งดาวตนุลักคณ์(๗) จรในราศีธนู อยู่ระหว่างวันที่ 22 ก.พ. 2562 – 10 ก.ย. 2563  เป็นกาลกิณีจร ระหว่าง 21 มี.ค. 2563-64 (โดยเป็นกาลกิณีจร ต่อจากดาวเสาร์เองไปอีก 1 ปี)

 

*************************************************************************************

 

 

 

ดวงที่ 16 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 (ล.60/273บน)

ดวงที่ 16  ดาวจร ดาวดับแสงสนิททับและล้อมรอบลักคณา 5 ดวง  วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563

 

ดวงที่ 16 ดาวจร ดาวจรดับแสงสนิททับและเล้อมรอบลักคณา 5 ดวง  วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา)  .......วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563, ดาวพฤหัสบดี(๕)จรสู่ราศีมังกร,ดับสนิท,  ดาวราหู(๘)จรสู่ราศีพฤษภ, ดับสนิท, ดาวอาทิตย์(๑)จรสู่ราศีตุล, ดับสนิท, ดาวจันทร์(๒)จรสู่ราศีพิจิก, ดับสนิท,  ดาวศุกร(๖)จรในราศีกันย์, ดับสนิท,  ดาวเสาร์(๗) ดาวตนุลักคณ์จรถอยหลังลงสู๋ราศีธนู = ภพที่ 12 : วินาสน์  1. ๗ตนุลั-จร พักรสู่ภพวินาสน์  2. ๕ อายุเดิม ดับแสงสนิททับลั  3.  ๑ อายุจร ดับสนิท,  ๖จร ดับสนิท ถึงลั,  ๘ จรกาลกิณีจร ดับสนิท ถึงลั ถึง ๕ จร ดับสนิท----???   ดวงชะตาถูกล้อมไว้ทุกทิศทาง อย่างหนาแน่น ---???  ดับสนิท = นิจ – ดับ 100 % (ถึง 5 ดวง) ………

 

*************************************************************************************

 

 

 

 

 

 

ดวงที่ 17 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 (ล.60/273)

ดวงที่  17 ดาวจร(วงนอก)ดับแสงสนิท 5 ดวง ทับดาวเดิม(วงใน) 

 

ดวงที่ 17 ดาวจร วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563(ล.60/273)

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา).......วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563, ดาวพฤหัสบดี(๕)จรสู่ราศีมังกร,ดับสนิท,  ดาวราหู(๘)จรสู่ราศีพฤษภ, ดับสนิท, ดาวอาทิตย์(๑)จรสู่ราศีตุล, ดับสนิท, ดาวจันทร์(๒)จรสู่ราศีพิจิก, ดับสนิท,  ดาวศุกร(๖)จรในราศีกันย์, ดับสนิท,  ดาวเสาร์(๗) ดาวตนุลักคณ์จรถอยหลังลงสู๋ราศีธนู = ภพที่ 12 : วินาสน์ 

1.    ๗ตนุลั-จร พักรสู่ภพวินาสน์ 

2.    ๕ อายุเดิม ดับแสงสนิททับลั 

3.     ๑ อายุจร ดับสนิท,  ๖จร ดับสนิท ถึงลั,  ๘ จรกาลกิณีจร ดับสนิท ถึงลั ถึง ๕ จร ดับสนิท----???  

ดวงชะตาถูกล้อมไว้ทุกทิศทาง อย่างหนาแน่น ---???  ดับสนิท = นิจ – ดับ 100 % (ถึง 5 ดวง) ………

 

 

๕ ดับสนิท บอกถึงสภาพที่สิ้นสุดทางกาย
๘ ดับสนิท บอกถึงบริวารทั้งปวงสูญสิ้น
๖ ดับสนิท บอกถึงมิตรภาพในต่างประเทศสิ้น
๑ ดับสนิท บอกอายุดับ
๒ ดับสนิท บอกอายุดับ  ดับลงไปพร้อมกันทั้งรูปธรรมและนามธรรม

 

*************************************************************************************

 

 

 

 

[3.]  ปรากฎการณ์พิเศษ ดาวดับทับดวงชะตาพร้อมกันถึง 5 ดวง

 

 

ดวงที่ 18 (ล.60/273ล่าง)

ดวงที่ 18 ดาวจร ดาวดับพร้อมกัน 5 ดวง.(ล.60/273 ล่าง)

 

ดวงที่   18 ดาวจร ดวงดาวดับทับลักคณาพร้อมกันถึง 5 ดวงในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 (ล.60/273ล่าง)

 

(คำบันทึกใต้ดวงชะตา)

๕ ดับสนิท บอกถึงสภาพที่สิ้นสุดทางกาย
๘ ดับสนิท บอกถึงบริวารทั้งปวงสูญสิ้น
๖ ดับสนิท บอกถึงมิตรภาพในต่างประเทศสิ้น
๑ ดับสนิท บอกอายุดับ
๒ ดับสนิท บอกอายุดับ  ดับลงไปพร้อมกันทั้งรูปธรรมและนามธรรม

 

 

 

 

 

 

 

บทที่ 5

สรุปคำพยากรณ์

ดวงชะตา พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา

 

 

 

**********

 

สรุปคำพยากรณ์    หากพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา  ลาออกแล้วไม่มีการตั้งผู้นำคนใหม่  โดยอำนาจของ คสช. หรือ ระบบเผด็จการทหารแล้ว  ประเทศไทยก็คงจะมีการเลือกตั้ง และได้นายกรัฐมนตรีตามระบอบประชาธิปไตยมาปกครอง

และเนื่องจากดวงชะตาประเทศไทย บ่งถึงการจรของดาวเสาร์(๗) เข้าสู่ราศีสำคัญ 4 ราศี คือ พิจิก  ธนู  มังกร  กุมภ์  ระหว่างวันที่ 26 พ.ย. 2557 – 1 ธ.ค. 2560 – 5 ธ.ค. 2563 – 1 มี.ค.2566 – 19 พ.ค. 2568  รวมเวลา 11 ปี 6 เดือน นั้น  ซึ่งทับซ้อนกันกับการจรของพฤหัสบดี(๕)สู่ราศีตุล – พิจิก – ธนู – มังกร – กุมภ์ – ระหว่างวันที่  6 กันยายน 2560 – วันที่ 8 เมษายน 2565   รวมเวลาร่วม 5 ปี   จึงน่าบ่งบอกความหมายที่น่าหวังว่า  จะมีการจัดการการเมืองไทยให้เดินไปตามระบอบสากล อย่างต่อเนื่องกันไปถึง 11 ปี 6 เดือน โดยไม่มีการขาดระยะ ไม่มีสิ่งที่มาขัดขวางทางการเดินไปต่อเนื่องตลอดเวลาช่วงนี้  ประชาธิปไตยก้าวหน้า ด้วยบารมีร่วมกันสร้างของทุกฝ่าย ตามการให้อิทธิพลของดวงดาวบนท้องฟ้าสากล

การดูดวงชะตาของประเทศไทย  ดูจากการจรของดาวพฤหัสบดี(๕)  ที่จรเข้าสู่ราศีตุล ในวันที่ 6 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ใน 1 ปีเต็ม ๆ + นี้ คือระหว่างวันที่ 6 กันยายน 2560 ถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2561 จะบอกถึง ประเทศไทยได้ประสบความสุข ความสำเร็จ  น่ามีเหตุการณ์ในด้านดี ที่ชอบธรรมเกิดขึ้นในช่วงเวลา 1 ปีนี้และต่อไปอีกถึงวันที่ 2 มกราคม 2562 จะมีปัญหาอยู่บ้างในระหว่าง วันที่ 2 มกราคม 2562 ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2562  ซึ่งหลังจากนี้แล้ว ดาวพฤหัสบดี ดาวการปกครองประเทศ ก็จะเลื่อนเข้าสู่ราศีธนู-มังกร-กุมภ์ นับแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2562  ไปเป็นเวลา 3 ปีติดต่อเนื่องกันไป  จนถึง วันที่ 8 เมษายน 2565  ซึ่งจะเป็นระยะที่ซ้อนกับอิทธิพลดาวเสาร์(๗) ทำคุณแก่ประเทศไทย  โดยที่เกิดจากการจรของดาวเสาร์(๗)  ก็คือจะมีการต่อเนื่องทางการปกครองอยู่ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2560 โดยต่อเนื่องไปถึง วันที่ 19 พฤษภาคม 2568   รวมเวลา 7 ปี 6 เดือน 

ซึ่งสถานการณ์เช่นนั้นจะหมายถึงประเทศไทยเดินไปตลลอด  ด้วยระบอบการปกครองระบอบไหน ?   จะเป็นช่วงเวลาของระบอบไหน ?  มีร่องรอยของเผด็จการทหารขึ้นครองอำนาจในระหว่างนี้หรือไม่   แต่หากนับจากวันประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2557 มาจนถึงบัดนี้  และหากระบอบเผด็จการทหารได้ปกครองต่อไป ก็จะต่อเนื่องไป ด้วยอำนาจดาวทั้ง 2 ดวงดังกล่าว    ก็จะเป็นเวลารวมกันถึง 11 ปีเต็ม ๆ กล่าวคือ  ระหว่าง 20 พฤษภาคม 2557 (วันที่ทหารประกาศกฎอัยการศึก) ถึง 19 พฤษภาคม 2568 ซึ่งตามห้วงระยะเวลานี้ ไม่มีสิ่งที่ปรากฎว่ามีเหตุการณ์ของความขัดแย้งที่ร้ายแรง  อย่างที่เคยเป็นมา ช่วงดาวเสาร์(๗) จรในราศีตุล ระหว่างวันที่ 7 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2557 (ที่ในที่สุดไปลงเอยที่การประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00 น. และรัฐประหารของกองทัพในเวลา 3 วันต่อมา)   แต่ ทั้งดาวพฤหัสบดี(๕) และ ดาวเสาร์(๗) ที่จรมาในระยะ ดังกล่าว และที่จะต่อเนื่องไปนับรวมถึง 11 ปีเศษนั้น บอกถึงความสงบ และ ล้วนบอกไปถึงประชาชน ที่สงบ  ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาสำหรับการปรับปรุง สร้างสรรค์ระบอบการปกครองของประชาชนให้มั่นคงแข็งแรงเป็นมาตรฐานสากลเสียที... นี่เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดี   แต่จะเป็นเผด็จการหรือไม่?  และเผด็จการจะครองอำนาจไปอย่างต่อเนื่องถึง 11 ปีหรือ?  ลองมามองดูดวงชะตา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว  ไม่เป็นเช่นนั้นได้ อย่างแน่นอน เพราะตามที่วิเคราะห์มาแล้ว  บอกถึงอย่างแน่ชัดอยู่แล้วว่าทหารจะไปไม่ได้  ดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชาเอง เริ่มพบปัญหาเข้าแล้ว ตั้งแต่ดาวมฤตยู(๐)จรสู่ราศีเมษวันที่ 6 มีนาคมใ 2559  และตลอดเวลา 7 ปีข้างหน้า มองไม่เห็นเลยว่า ท่านพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ของระบอบไทย จะอยู่ในตำแหน่งและทำการปกครองประเทศไปได้อย่างไร

 

 

 

จบ

************************************************************************************

·         จากแฟ้ม โหราศาสตร์ ดวงเมือง ดวงประยุทธ จันทร์โอชา หน.คสช.ต้นปี 2559 เป็นอย่างไร ร่างสรุป

*******