ดวงชะตาพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง 3 ก.ค.2554
*-ให้การพยากรณ์ไว้ ณ วันที่ 12-13 พฤษภาคม 2554
ดวงชะตาพรรคเพื่อไทย
ภาคการคำนวณ
ประวัติ
พรรคเพื่อไทย ได้จดทะเบียนก่อตั้งจากทางราชการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2550 มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเอาไว้รองรับ สส.พรรคพลังประชาชน ซึ่งขณะนั้นกำลังจะถูกพิจารณายุบพรรค โดยศาลรัฐธรรมนูญ นัดหมายพิจารณาคดีวันที่ 2 ธ.ค. 2551 โดยมีนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นหัวหน้าพรรค
ดวงที่ 1 ดวงชะตาพรรคเพื่อไทย
๒๐ กันยายน ๒๕๕๐
ดวงที่ 1
รูปดวงชะตาพรรคเพื่อไทย
๕/๒๐ ก.ย.๒๕๕๐
ลักคณาสถิตราศีตุล
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีกันย์ 2องศา 51 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีธนู
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีมิถุน
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีตุล
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีพิจิก
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศี สิงห์ กุมดาวเสาร์(๗)
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีสิงห์ กุมดาวศุกร์(๖)
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีกุมภ์ กุมดาวมฤตยู(๐) และเกต(๙)
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีกุมภ์ กุมดาวมฤตยู(๐) และราหู(๘)
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีกุมภ์ กุมดาวเกต(๙) และ ราหู(๘)
ดวงที่ 2 ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
6 เมษายน 2489
ดวงที่ 2
รูปดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
๗/6 เมษยน 2489
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีมีน 23 องศา 24 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีพฤษภ กุม มฤตยู(๐)
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีกรกฎ
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีกุมภ์ กุมเกต(๙)
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีตุล
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศี เมษ
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีเมถุน กุม ราหู(๘)
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีเมถุน กุมเสาร์(๗)
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีกุมภ์ กุมพุธ(๔)
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีพฤษภ กุมจันทร์(๒)
ดวงที่ 3 ระบบดาววันเลือกตั้ง
3 กรกฎาคม 2554
ดวงที่ 3
รูประบบดาวจรในวันเลือกตั้ง
๑/3 กรกฎาคม 2554
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีเมถุน กุมศุกร(๖) 17องศา 2 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีกรกฎ กุมพุธ(๔)
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีพฤษภ
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีกรกฎ กุมจันทร์(๒)
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีเมษ
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศีเมถุน กุมอาทิตย์(๑)
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีกันย์
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีพิจิก
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีมกร
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีมีน
ปัญหาที่ตั้งลักคณาในดวงชะตาพรรคเพื่อไทย
เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเวลาที่จดทะเบียนพรรคนี้ จึงต้องใช้วิธีพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปที่น่าเชื่อถือได้ เราได้ทำการศึกษาข้อมูลแล้ว มีข้อพิจารณา ก่อนได้ข้อสรุป ดังนี้
เวลาที่จดทะเบียนก่อตั้งพรรคเพื่อไทย จะต้องเป็นเวลาราชการ จึงน่าจะอยู่ระหว่างเวลา 08.29 น. – 15.41 น. คงไม่หลุดไปจากห้วงเวลานี้ แต่ในช่วงเวลานี้ จะอยู่ในราศี 3 ราศี คือ ราศีตุล ราศีพิจิก และ ราศีธนู เราตัดราศีพิจิกออก เพราะนอกจากเป็นช่วงเวลา เที่ยงวัน ถึงบ่ายโมงเศษ ๆ ซึ่งเป็นเวลาหยุดแล้วยังได้พบเหตุผลทางโหราศาสตร์เพียงพอที่จะตัดออกไปนั่นหมายถึงมั่นใจว่าลักคณาไม่อยู่พิจิก ก็ยังเหลืออยู่ราศีตุล กับราศี ธนู มาพิจารณา ดังนี้
1. เมื่อลัตุล เห็นชัดว่าพรรคมีความสัมพันธ์กับดวงชะตาของทั้ง ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช และ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ เชิงความหมายที่ดี นั่นคือ
1.1 กับ ดร.สุชาติ ให้ความหมายถึง ผู้ก่อตั้งพรรค ผู้สร้างสรรค์พรรคนี้ขึ้นมา และเห็นได้ว่าเมื่อ ดร.สุชาติ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบบดาวจรขณะนั้น มีสัมพันธ์อันเลวต่อกันระหว่างดวงชะตาพรรค(ที่มีลักคณาอยู่ราศีตุล) กับ ดวงชะตาของ ดร.สุชาติ นี่คือความหมายเมื่อลักคณาดวงพรรคอยู่ราศีตุลเท่านั้น
1.2 กับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ให้ความหมายว่า เป็นผู้มาสร้างความมั่นคงทางนโยบาย และความเป็นปึกแผ่นให้แก่พรรคเพื่อไทย เมื่อลักคณาอยู่ตุล
2. เมื่อลักคณ์อยู่ธนู
2.1 กับ ดร.สุชาติ ค่อนข้างบอกถึงความสัมพันธ์ทางเลวระหว่างพรรคกับ ดร.สุชาติ นั่นคือบอกว่า ดร.สุชาติ ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรแก่พรรค ซ้ำยังนำพรรคไปสู่ปัญหาทางการเงินและการงานที่ไม่เคลื่อนไหว จนนิ่งกับที่อีกด้วย(ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องกับข้อเท็จจริง...ผู้วิเคราะห์)
2.2 กับยงยุทธ แสดงว่า ยงยุทธสามารถสร้างสมาชิกพรรคมากมาย การงานของพรรคมั่นคง ก้าวหน้า แต่ขณะเดียวกันสร้างศัตรูถาวรแด่พรรค พร้อมปัญหาหลายอย่างชนิดที่ไม่รู้จบ (ซึ่งก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก....ผู้วิเคราะห์)
3. จะเห็นว่าข้อพิจารณาข้อ1+2 แม้จะส่อว่าลักคณาพรรคเพื่อไทยน่าจะอยู่ราศีตุล มากกว่าจะอยู่ราศีธนู ก็ยังไม่เด็ดขาด ชัดเจนนัก โดยเฉพาะข้อ 2.2 ก็ดูมีความถูกต้องอยู่ไม่น้อย (ที่ลักคณาพรรคจะอยู่ราศีธนู) ลองมองจากเรื่องอื่นตามข้อ 4ต่อไป
4. เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ วันที่ 2 ธ.ค.2551 กับ เหตุการณ์ วันที่ 7 ธ.ค.2551
4.1 วันที่ 2 ธ.ค.2551 เป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคพลังประชาชน (พร้อมกับพรรคชาติไทย และ มัชฌิมาประชาธิปไตย) เป็นเหตุให้ สส. พปช.แห่มาเข้าพรรคเพื่อไทย
4.2 วันที่ 7 ธ.ค.2551 เป็นวันประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคเพื่อไทยเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ กรรมาธิการบริหารพรรคคณะใหม่ โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ได้รับเลือกเป้นหัวหน้าพรรค แทน ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ซึ่งเปิดทางให้ด้วยการลาออกไปก่อนนี้แล้ว
5. ระบบดาว ให้อิทธิพลอย่างไร ระหว่างราศีตุล กับ ราศีธนู
5.1 เมื่อลักคณาดวงพรรคอยู่ราศีตุล จะพบอย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ใน 2 วันนั้น ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่มาเสริมสร้างพรรคเพื่อไทยให้สมบูรณ์ในด้านความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ เพียบพร้อมด้วยบุคคลากรที่มีคุณภาพด้านต่าง ๆ และทั้งความพร้อมทางเศรษฐกิจการเงิน อุดมสมบูรณ์และหมายถึงระดับบารมีความยิ่งใหญ่ของพรรคการเมืองไทยในระดับสมบูรณ์มาก
5.2 แต่หากลักคณาดวงพรรคอยู่ราศีธนู ก็ยังเป็นการเสริมพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน มีความหมายถึงความเป็นปึกแผ่นมั่นคง ก้าวหน้า แต่น้อยกว่า 5.1 ด้วยความหมายจนเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ความหมายที่เสียหายก็คือบอกถึงการใช้จ่ายเงินของพรรคจนเกลี้ยงไม่เหลือหลอ การบริหารการเงินของพรรคตกต่ำ มีปัญหาเงินไม่พอใช้ เดือดร้อนอยู่ตลอดเวลา และเป็นเหตุของการแตกแยกภายในพรรค
5.3 ซึ่งความเป็นจริง น่าจะตรงกับข้อ 5.1 นั่นคือตั้งแต่มีการย้ายของ สส.พปช. มาสู่พรรคเพื่อไทย และได้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ เป้ฯหัวหน้าพรรคแล้ว พรรคเพื่อไทยก็เจริญก้าวหน้า มีสมาชิกเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อย ๆ ......ซึ่งความหมายทั้งหมดเหล่านี้ตรงกับลักคณาดวงพรรคอยู่ที่ราศีตุล
6. ฉะนั้น จึงพอยุติได้ในชั้นนี้ว่า ลักคณาดวงชะตาพรรคเพื่อไทย สถิตราศีตุล ธาตุลม และน่าจะเป็นช่วง เทวีฤกษ์ หากมีเหตุการณ์ที่พิศูจน์ว่าไม่สอดคล้องมตินี้ ก็คงต้องเปลี่ยนแปลงต่อไป
ภาคการคำนวณ ต่อ
ในประเด็นสำคัญคือ ที่ตั้งลักคณาของดวงชะตาพรรคเพื่อไทย น่าจะมีสิ่งที่ยืนยันได้เพิ่มเติมไปอีก ก็คือ การเปรียบเทียบระหว่างดวงชะตาพรรคเพื่อไทย กับ พรรคประชาธิปัตย์
และเมื่อได้ทำการเปรียบเทียบแล้ว ก็ได้พบอย่างชัดเจนว่า เมื่อลักคณาดวงชะตาพรรคเพื่อไทยสถิตราศีตุล ก็พบความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์ ในเชิงเป็นศัตรูคู่แข่งอย่างชัดเจนมาก ชนิดที่ไม่มีวันที่พรรค 2 พรรคนี้จะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ว่าในสถานะภายนอก ก็มีแนวทางที่เหมือนว่า อุปถัมภ์กัน มีอุดมการณ์เดียวกันอยู่ เพียงแต่ไม่มีแรงสนับสนุนให้เกิดแนวทางร่วมกันนี้แรงพอ (คงหวังว่าจะเดินไปบนอุดมการณ์ประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่อ่อนแรง) หากแต่แรงสนับสนุนหนักไปในด้านการเป็นศัตรูต่อกัน
ซึ่งลักษณะนี้ จะเห็นว่าตรงกับความเป็นจริง ตามที่มองโดยเหตุผลทางการเมืองของนักวิชาการ และประชาชนทั่วไป
ฉะนั้น นี่จึงเน้นย้ำเข้าไปอีกว่า ลักคณาดวงชะตาพรรคเพื่อไทย ตั้งอยู่ ณราศีตุล มีดาวพุธ(๔) กุมลักคณ์
จึงยุติประเด็นลักคณาดวงชะตาพรรคเพื่อไทยลงได้อย่างมั่นใจ
ต่อจากนี้ ก็จะเป็นภาคพยากรณ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ครบถ้วนของพรรคเพื่อไทย ที่โหรมั่นใจว่าจะแม่นยำและถูกต้อง......
ภาคพยากรณ์
เราจะเริ่มด้วยการมองที่พรรคคู่แข่งเพื่อไทย คือ ประชาธิปัตย์ก่อน
ตามที่เราได้พยากรณ์ล่วงหน้าไว้นานหลาย ๆ เดือน ร่วมปีมาแล้ว ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าสู่วาระความตกต่ำในเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป........................(โปรดดูเรื่องเดิม ในสารบาญโหราศาสตร์.......)............การเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 จะส่อแววออกมาในลักษณะที่สอดคล้องหรือไม่ อย่างไร ?
คำพยากรณ์พรรคประชาธิปัตย์
ดวงที่ 1 ดวงชะตาพรรคเพื่อไทย
๒๐ กันยายน ๒๕๕๐
ดวงที่ 1
รูปดวงชะตาพรรคเพื่อไทย
๕/๒๐ ก.ย.๒๕๕๐
ลักคณาสถิตราศีตุล
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีกันย์ 2องศา 51 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีธนู
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีมิถุน
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีตุล
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีพิจิก
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศี สิงห์ กุมดาวเสาร์(๗)
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีสิงห์ กุมดาวศุกร์(๖)
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีกุมภ์ กุมดาวมฤตยู(๐) และเกต(๙)
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีกุมภ์ กุมดาวมฤตยู(๐) และราหู(๘)
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีกุมภ์ กุมดาวเกต(๙) และ ราหู(๘)
ดวงที่ 2 ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
6 เมษายน 2489
ดวงที่ 2
รูปดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
๗/6 เมษยน 2489
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีมีน 23 องศา 24 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีพฤษภ กุม มฤตยู(๐)
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีกรกฎ
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีกุมภ์ กุมเกต(๙)
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีตุล
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศี เมษ
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีเมถุน กุม ราหู(๘)
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีเมถุน กุมเสาร์(๗)
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีกุมภ์ กุมพุธ(๔)
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีพฤษภ กุมจันทร์(๒)
ดวงที่ 3 ระบบดาววันเลือกตั้ง
3 กรกฎาคม 2554
ดวงที่ 3
รูประบบดาวจรในวันเลือกตั้ง
๑/3 กรกฎาคม 2554
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีเมถุน กุมศุกร(๖) 17องศา 2 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีกรกฎ กุมพุธ(๔)
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีพฤษภ
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีกรกฎ กุมจันทร์(๒)
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีเมษ
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศีเมถุน กุมอาทิตย์(๑)
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีกันย์
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีพิจิก
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีมกร
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีมีน
พรรคประชาธิปัตย์จะถูกทำลายไปหมดทุกแนวรบ โดยอำนาจอิทธิพลของดาวเสาร์(๗) ซึ่งเป็นกาลกิณีจรสถิตอยู่ในราศีกันย์ ดังต่อไปนี้
1. ดาวเสาร์(๗) ทำลายอาทิตย์(๑) ซึ่งเป็นตนุลักคณ์ในภพมรณะ ณ ราศีมีน ซึ่งขณะนั้นอาทิตย์(๑)โดนมฤตยู(๐)จรทับอยู่แล้ว ผลก็คือ พัง ชื่อเสียงเกียรติยศเสื่อมเสียลงไปหมด
2. ดาวเสาร์(๗) ทำลายจันทร์(๒)เดิมในดวงชะตา ซึ่งเป็นมหาอุจและองค์เกณฑ์ความสำเร็จอันเด่นโด่งดังของพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นที่นิยมอย่างสูง การที่ดาวเสาร์(๗)ถึงจันทร์(๒)นี้ มีความรุนแรงมาก เพราะเสาร์(๗)เพิ่มพลังเป็น 2 เท่าของความร้ายกาจเชิงการทำลาย โดยในฐานะที่เสาร์(๗)ในฐานะบาปเคราะห์คู่อริสำคัญของจันทร์(๒)และในฐานะที่จรมาเป็นกาลกิณี เพราะฉะนั้น ความหวังของ ปชป.ถูกทำลายลงหมดอย่างเรียบเกลี้ยง
3. ในระบบดาววันเลือกตั้ง ปชป.หวังความสำเร็จจากดาวอังคาร(๓)ที่จรสู่ราศีพฤษภขณะนั้น 1. และจากดาวอาทิตย์(๑)ในราศีมิถุนขณะนั้น 1. เพราะดาวอังคาร(๓) และดาวอาทิตย์(๑)อยู่ในฐานะดาวที่เสริมสร้างความสำเร็จแก่พรรคประชาธิปัตย์อย่างแรงมีพลังจริงเพราะมุมดาวกระชับและเล็งเป้าชัดเจน กับทั้งเป็นดาวคู่ที่มีศักดิ์เป็นราชาโชคทั้ง 2 ดวง ทั้งดาวอาทิตย์(๑) และดาวอังคาร(๓) และสำหรับดาวอังคาร(๓)เองนั้น (อันหมายถึงพวกในเครื่องแบบทหาร) ยังเป็น 10 แก่ลักคณ์ในราศีสิงห์ เป็นองค์เกณฑ์แห่งราศีปัสสวะ อันหมายถึงมีพลังความสำเร็จอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งครั้งนี้
แต่แล้วความหวังจากดาวอังคาร(๓)จร และดาวอาทิตย์(๑)จรดังกล่าวนี้ ก็กลับถูกทำลายลงด้วยอำนาจของเสาร์๗)กาลกิณีดวงนี้ไปอย่างเรียบเกลี้ยง เช่นเดียวกัน รวมทั้งอาทิตย์(๑) ซึ่งหมายถึงพวกพลเรือน มหาดไทยด้วย ในขณะเดียวกันดาวจรอีกดวงคือศุกร(๖)ที่กุมอาทิตย์(๑)จรไปด้วยกันก็พลอยถูกทำลายจากดาวเสาร์(๗)กาลกิณีจรดวงนี้ลงแบบเรียบเกลี้ยง ไปพร้อมกันด้วย ยังมียิ่งไปกว่านั้นอีกคือพังตามกันไปเป็นแถบ ๆ ก็คือดาวเสาร์(๗)กาลกิณีจรดวงเดียวนี้ยังทำลาย ภพที่11 ที่เข้มแข็งของชาตาพรรคประชาธิปัตย์ด้วยดาวเดิมคู่มิตรใหญ่คือเสาร์(๗)+ราหู(๘) ไปอย่างเรียบเกลี้ยงด้วย ผลก็คือภพที่ 11 ที่เข้มแข็งถูกทำลายลงอย่างเรียบราบ หมายถึงทางที่จะชนะไม่มีอีกแล้ว
4. ดาวที่มาแรงในขณะนั้นก็คือราหู(๘)จรเป็นมหาอุจอยู่ราศีพิจิก ซึ่งโดยปกติแล้วจะไปเพิ่มแรงความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใหญ่หลวง โดยไปเพิ่มพลังให้แก่ดาวอังคาร(๓)จร และจันทร์(๒)เดิมในราศีพฤษภ แต่แล้วราหู(๘)จรมหาอุจดวงนี้กลับเปลี่ยนใจไปร่วมมือกับมหามิตร คือเสาร์(๗)กาลกิณีจร พลอยเป็นกาลกิณีไปด้วยและยิ่งแรงร้ายไปอีกเพราะพลังมหาอุจ ที่พุ่งไปทำลายเป้าหมายที่อยู่ในราศีตรงข้ามในพฤษภคืออังคาร(๓)จร และจันทร์(๒)เดิมที่เป็นดาวคู่ความหวังของพรรคประชาธิปัตย์ลงอย่างเรียบเกลี้ยง
ฉะนั้น พรรคประชาธิปัตย์พังครั้งนี้เป็นเพราะอำนาจดาวเสาร์(๗)จรดวงเดียวแท้ ๆ ดวงเดียวเท่านี้จริง ๆ
5. ประชาธิปัตย์เหลืออะไร ?
เหลือดาวเพียงดวงเดียวคือพฤหัสบดี(๕) ซึ่งขณะนั้นจรเป็นบริวารจร ไปสถิต ณ ราศีเมษ และมีศักดิ์เป็นราชาโชค ทับศุกร(๖)ศรีเดิมประ เป็นภพที่ 9 ของดวงชะตา และพฤหัสบดี(๕)จร+ศุกร(๖)เดิมนี้เล็งดาวพฤหัสบดี(๕)เดิมที่ราศีตุล
นี่แหละเป็นขุมกำลังของพรรคประชาธิปัตย์ที่เหลืออยู่ และน่าจะเป็นขุมกำลังใหญ่ เพราะทั้งพฤหัสบดี(๕)จร + ศุกร(๖)เดิม และพฤหัสบดี(๕)เดิม รวมพลังกันแล้วเป็นพลังมหิมาอยู่ และทั้งอยู่มุมที่เปล่ง
กระแสถึงและคุ้มครองลักคณาได้พอดี จึงเป็นที่หวังของประชาธิปัตย์อีกขุมหนึ่ง
วิเคราะห์ว่าพฤหัสบดี(๕)ดวงนี้มาจากไหน..... มาจากภพปุตตะ+มรณะ เป็น3แก่ลักคณ์เป็นอายุเดิมและอายุจร ความหมายก็คือ คะแนนเสียงที่ได้เป็นของพรรคประชาธิปัตย์มาแต่เดิม เป็นของตายอยู่แล้วสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ พวกฮาร์ดคอร์ที่อย่างไร ๆ ก็ทิ้งประชาธิปัตย์ไม่ได้ อย่างไร ๆ ก็จงรักภักดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ นั่นเอง
แต่คราวนี้คงได้มาไม่เท่าที่เคยได้ เพราะมีดาว 4 ดวงจรทำลายเรือนพฤหัสบดี(๕)ที่ราศีมีนขณะนั้น คือ จันทร์(๒)จรกุมพุธ(๔)จรในกรกฎ ราหู(๘)จรเป็นมหาอุจในพิจิก และมฤตยู(๐)จรในราศีมีน ทับเรือนพฤหัสบดี(๕)อยู่
นอกจากนี้ ดาวเสาร์(๗)กาลกิณีจร กับราหู(๘)จร ยังทำมุมแหลมแบบปลายหอกแทงดาวพฤหัสบดี(๕)จรที่ราศีเมษ ทำให้เกิดการรั่วไหลขนาดใหญ่
ทั้งหมดนี้จึงลิดรอนขุมกำลังเดิมพวกฮาร์ดคอร์ของพรรคประชาธิปัตย์ ให้ร่อยหรอลงไปอีก จนแทบไม่มีเหลือ
6. ยังมีร่องรอยของการเป็นคดีความที่มีการฟ้องร้องอันเนื่องจากมีการทุจริตในการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์อีก
แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะเหลือเท่าไร ?
จึงสรุปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะบอกถึงการพังและการตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์โดยแท้จริง แม้เมื่อกาลเวลาล่วงไปข้างหน้าถึง 2 ปี จากวันนี้ไปถึงสิ้นปี 2555 ซึ่งโดยระบบดาวจรพรรคประชาธิปัตย์จะรุ่งโรจน์ แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เนื่องเพราะดาวที่คาดว่าจะให้คุณให้ความรุ่งโรจน์กลับจรวิปริตและอ่อนแสงต่อไป ฉะนั้นผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่น่าที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้มากพอจนอาจกลับมาจัดตั้งรัฐบาลได้อีกครั้งหนึ่ง
12 พ.ค.2554
23.32 น.
คำพยากรณ์พรรคเพื่อไทย
ดวงที่ 4 ลักษณะระบบดาวในวันที่คาดว่าจะได้ตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่
วัน ๓/26 กรกฎาคา 2554
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีกรกฎ กุมศุกร(๖) พุธ(๔) 8องศา 59 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีพฤษภ
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีเมถุน
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีกรกฎ กุมอาทิตย์(๑) ศุกร(๖)
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีเมษ
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศี กรกฎ กุมพุธ(๔) อาทิตย์(๑)
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีกันย์
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีพิจิก
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีมกร
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีมีน
ดวงที่ 5 ลักษณะระบบดาวในวันที่คาดว่าได้รัฐบาลใหม่
วัน ๖/๒9 กรกฎาคม 2554
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีกรกฎ กุมศุกร(๖) พุธ(๔) 11องศา 51 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีกรกฎ กุมอาทิตย์(๑) ศุกร(๖) พุธ(๔)
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีเมถุน
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีกรกฎ กุมอาทิตย์(๑) ศุกร(๖) จันทร์(๒)
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีเมษ
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศี กรกฎ กุมพุธ(๔) อาทิตย์(๑) จันทร์(๒)
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีกันย์
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีพิจิก
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีมกร
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีมีน
คำพยากรณ์พรรคเพื่อไทย
1. คำปรารภ
พรรคเพื่อไทยได้ประสบปัญหาชนิดหนึ่งมาตั้งแต่กลางปี 2553 แล้ว โดยมีการตัดสินใจผิดพลาดในบางเรื่อง ที่มีผลต่อความนิยม ความดีงาม และความตั้งมั่นน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย มาจนถึงขณะนี้ ประเด็นนี้ยังคงมีปัญหาอยู่ และจะยังคงมีปัญหาต่อไป และมีส่วนที่ฉุดคะแนนการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยเป็นอย่างมาก (น่าจะเป็นประเด็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย...หรือผู้ที่พรรคเพื่อไทยจะส่งไปเป็นแคนดิเดทตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นเอง) อย่างไรก็ดี ในปัญหานี้ ทางพรรคเพื่อไทยก็สามารถแก้ปัญหาได้ทันในระยะการเลือกตั้งนี่เอง ปรากฏในดวงชะตาว่า ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2554 สถานะที่เป็นจุดอ่อนตรงนี้ได้รับการแก้ไข และทำให้พรรคเพื่อไทยประคองตัวรอดไปได้ จนเข้าสู่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ก่อนวันเลือกตั้งเพียง 2 วัน สถานการณ์ตรงนี้ ได้กลับกลายเป็นคุณประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง ต่อผลสำเร็จของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาได้ในระดับสำคัญ
2. พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ?
ร่องรอยของชัยชนะของพรรคเพื่อไทยเริ่มปรากฏขึ้นในระยะที่ดาวพฤหัสบดี(๕)บริวารจรมาสู่ราศีเมษ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 กระแสดาวพฤหัสบดี(๕)ที่จรสู่ราศีเมษนี้เป็นกระแสดาวใหญ่ที่ประกอบด้วยศักดิ์ของดาวโดยมีตำแหน่งเป็น ราชาโชค และเป็นกระแสที่พุ่งตรงสู่ราศีตุลที่อยู่ตรงข้าม และพบกับกระแสของดาวพุธ(๔)มนตรีเดิมที่กุมลักคณ์อยู่ นี่คือการเริ่มต้นที่แสดงร่องรอยของชัยชนะแล้ว เพราะกระแสของดาวพฤหัสบดี(๕)จร ค่อนข้างมีอานุภาพที่กระตุ้นระบบดาวแทบทั้งหมดในดวงชะตาของพรรคเพื่อไทยให้ระยิบระยับมีเรี่ยวแรงแข็งแกร่งขึ้นมาทันที นับตั้งแต่ พฤหัสบดี(๕)จรเปล่งกระแสถึงศุกร์(๖)ตนุลักคณ์เดชเดิมในราศีสิงห์ ที่อยู่ในมุม 60 องศาหรือโยคหลังลักคณา+พุธ(๔)มนตรีเดิม พร้อมกับถึงจันทร์(๒)กัมมะ-มูละเดิมในราศีธนู ที่อยู่ในมุม 60 องศาหรือโยคหน้าลักคณา+พุธ(๔)มนตรีเดิม นี่ก็เป็นข้อได้เปรียบอย่างแรงไปอีกชั้นหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงชัยชนะ เพราะฉะนั้น ด้วยอานุภาพของดาวพฤหัสบดี(๕)จรสู่ราศีเมษเพียงดวงเดียว ก็เพียงพอที่จะให้พรรคเพื่อไทยบรรลุสู่ชัยชนะครั้งนี้
แต่ในระหว่างนี้ ไม่ใช่มีเพียงดาวพฤหัสบดี(๕)จรมาให้คุณเท่านั้น ยังมีกระแสดาวหนุนเนื่องสมทบมาให้พลังความสำเร็จเพิ่มมาอีก และที่เป็นตัวตัดสินชัยชนะอย่างปราศจากความเคลือบแคลงสงสัยเลยนั้นก็คือการจรของดาวจันทร์(๒) ซึ่งมีศักดิ์ฐานะเป็นดาวกัมมะ เจ้าเรือนภพที่ 10 ของดวงชะตาพรรคเพื่อไทย และดาวอีกดวงหนึ่งที่มีความหมายมากพอ ๆ กับจันทร์(๒)จร ก็คือดาวพุธ(๔)เจ้าเรือนศุภะ-วินาสน์ที่กุมลักคณ์เดิม-มนตรีเดิมจรมาเป็นศรีจร
ดาวจันทร์(๒)เป็นกัมมะเดิมเป็นเจ้าเรือนราศีกรกฎ ภพที่ 10 จากลักคณา+พุธ(๔)มนตรีเดิม บัดนี้จรมาเป็นอายุจร เริ่มแสดงอานุภาพเรี่ยวแรงขึ้นตั้งแต่จรมาถึงราศีเมถุนเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ซึ่งจะบ่งบอกถึงความนิยมของพรรคเพื่อไทยจะพุ่งสูงขึ้นในวันนี้ และครั้นถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2554 เวลา 15.45 น.ดาวจันทร์(๒)ก็จรถึงราศีกรกฎเรือนเกษตรตนเอง และเป็นเรือนที่มีความหมายอย่างยิ่งของพรรคเพื่อไทยเพราะเป็นภพที่ 10 ของพรรคเพื่อไทย อันหมายถึงชัยชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ และตรงราศีกรกฎนี้ จันทร์(๒) ย่อมทรงศักดิ์ ทรงพลังสูงสุด และหมายถึงชัยชนะอย่างเด็ดขาด
กระนั้น ก็ยังมีดาวพุธ(๔)ดาวที่กุมลักคณา ศุภะ-วินาสน์-มนตรีเดิม จรมาเป็นศรีจรมาครองอยู่ที่ราศีกรกฎนี้ก่อนที่จันทร์(๒)จะจรมาถึง โดยพุธ(๔)จรมาถึงในวันที่ 26 มิถุนายน 2554 เวลา 23.17 น.
ซึ่งการจรของดาวพุธ(๔)นี้ ความเป็นศรีจร บ่งบอกถึงการต่อสู้อย่างสุจริตเป็นธรรมในการหาเสียงเลือกตั้ง และเป็นผลต่อคะแนนเสียง โดยอานุภาพของดาวพุธ(๔) ได้เพิ่มพูนความนิยมมาตลอดตั้งแต่ดาวพุธ(๔)จรเข้ากษตรตนเองคือราศีเมถุน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2554 มาแล้ว
ช่วงต่อจากวันที่ 9 มิถุนายน 2554 ไปจนถึงวันเลือกตั้งนี้ จัดเป็นโค้งชัยชนะของพรรคเพื่อไทย และจะถูกจับตามองจากคู่แข่งอย่างไม่วางตา เพราะกระแสความนิยมจะเริ่มไหล ฉะนั้น เมื่อมาถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2554 เมื่อดาวพุธ(๔)จรเข้าราศีกรกฎ กระแสพุธ(๔) สัมผัสกระแสราหู(๘)จรมหาอุจที่ราศีพิจิกทันที นั่นหมายถึงปฏิบัติการสกัดกั้นของศัตรูคู่แข่งของพรรคเพื่อไทยอย่างแรงและหลายหลากวิธีการที่ไม่สะอาด ปรากฏความหมายของดวงชะตาช่วงนี้ได้ว่าจะมีการเล่นไม่สุจริตเกิดขึ้นจากฝ่ายตรงข้าม มีพร้อมทั้งการกล่าวหาใส่ความ แม้กระทั่งทำเป็นคดีอาญา มีการฟ้องร้อง พรรคเพื่อไทยจะพบกับสถานการณ์สกัดกั้นเช่นนี้ไปจนกว่าจะถึงวันที่ดาวจันทร์(๒)จรมาสมทบดาวพุธ(๔)จรในราศีกรกฎ ซึ่งก็จะเป็นวันที่ 2 กรกฎาคม 2554 เวลา 15.45 น. ก่อนวันเลือกตั้งเพียง 1 วัน และเมื่อจันทร์(๒)จรมาสถิตเรือนตนเองมีศักดิ์เป็นเกษตรแล้วย่อมเข้มแข็งและเมื่อสมทบกับมหามิตรคือพุธ(๔)ที่จรมารออยู่ก่อนแล้ว ย่อมหมายถึงพลังอันเฉียบขาดที่เผด็จศึกลงได้อย่างราบเรียบ ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 วันเลือกตั้ง
ยังมีพลังที่หนุนเนื่องมาสนับสนุน ในดวงชะตาของพรรคเพื่อไทยเพื่อการต่อสู้ในการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 อีก นั่นคือมีดาวอาทิตย์(๑) ที่จรเข้าสู่ราศีเมถุนทันก่อนการเลือกตั้ง โดยอาทิตย์(๑)จรเข้าสู่ราศีเมถุนในวันที่ 15 มิถุนายน 2554 และจะอยู่ที่นี่ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2554 ตราบถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ก่อนวันเลือกตั้งเพียง 2 วันเท่านั้นดาวศุกร์(๖)ตนุลักคณ์-กาลกิณีจรมาทัน ทำให้พ้นปัญหาใหญ่ไปได้อย่างหวุดหวิดเนื่องเพราะพ้นจากภพมรณะมาทันก่อนการเลือกตั้งเพียง 2 วันนั่นเอง และยังทับดาวมหามิตรคืออังคาร(๓)เดิมในราศีเมถุนนั้นไปจนกว่าเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง
ส่วนดาวอังคาร(๓)จรอยู่ ณ ราศีพฤษภ อันเป็นภพมรณะแก่ลักคณาพรรคเพื่อไทย แต่อังคาร(๓)จรนี้ก็นั่งเรือนศุกร์(๖) และมีศักดิ์เป็นราชาโชค อันบ่งความหมายถึงการช่วยเหลือแบบลับ ๆ จากกลุ่มบุคคลในเครื่องแบบและทหารอยู่ส่วนหนึ่ง
3. พรรคเพื่อไทยชนะแบบท่วมท้นหรือไม่ ?
เมื่อมองจากดาวพฤหัสบดี(๕)อุตสาหะจร ที่มีศักดิ์เป็นราชาโชค ในราศีเมษขณะนั้น และมองดาวพุธ(๔)เดิมที่กุมลักคณาในราศีตุล บ่งบอกแรงสนับสนุนที่สำคัญของคน-บุคคลที่มีระดับตั้งแต่ที่มีฐานะสูงส่งสูงสุดในสังคม รวมตลอดถึงการสนับสนุนจากฝ่ายคณะสงฆ์ ตลอดถึงนักบวชในศาสนาต่าง ๆ ตลอดทั้งบุคคลในความหมายของนักวิชาการ ครูอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาทุกระดับ ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นพลังสนับสนุนอย่างมีเหตุผลและอย่างแรง
และเมื่อมองจากดาวพุธ(๔)จรที่ราศีกรกฎ เป็นศรีจร ซึ่งมีจันทร์(๒)เกษตรกุมเป็นคู่มหามิตรอยู่ กับทั้งพุธ(๔)เดิมในราศีตุล ที่บ่งบอกถึงการสนับสนุนของบุคคลในวงการธุรกิจการพาณิชย์ การเศรษฐกิจ และบุคคลในวงการวิชาชีพการสื่อสารมวลชน หรือ ด้วยวิธีการสื่อสารมวลชน เป็นหนทางได้ชัยชนะ การที่พุธ(๔) เป็นศรีจร หมายถึง การตั้งใจสนับสนุนอย่างสุจริต มีเหตุมีผลจริง ๆ และประชาชนมหาศาล(จันทร์เกษตร)ให้การยอมรับ และจุดนี้เป็นจุดตัดสินชัยชนะของพรรคเพื่อไทย ต่อการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างขาวสะอาด
จุดที่น่าวิตกอยู่แต่แรกก็คือ ดาวศุกร(๖) ซึ่งเป็นตนุลัคณ์ของดวงชะตา ย่อมมีความสำคัญมาก นั้น ขณะนี้เป็นดาวกาลกิณีจร ได้วิเคราะห์ไว้แต่ต้นแล้ว ในความหมาย และบังเอิญดาวศุกร(๖)ได้พ้นออกมาจากภพมรณะในราศีพฤษภก่อนวันเลือกตั้ง โดยย้ายเข้าสู่ราศีเมถุนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ก่อนวันเลือกตั้งเพียง 2 วัน การที่ดาวตนุลักคณ์ศุกร(๖) จรพ้นจากภพมรณะมาทันก่อนการเลือกตั้งอย่างหวุดหวิดนั้น ค่อนข้างบ่งบอกความหมายสำคัญ นั่นคือ หมายถึงชัยชนะ พ้นจากความยุ่งยากและสงครามไปเสียได้อย่างสะบักสบอม (เพราะเป็นกาลกิณีจร) นี่ ก็ยิ่งชี้ยืนยันถึงชัยชนะของพรรคเพื่อไทย
และอีกจุดหนึ่งก็คือดาวอาทิตย์(๑)ที่เคลื่อนสู่ราศีเมถุน ทำมุม 120 องศาแด่ลักคณา หมายถึงพลเรือน-มหาดไทย ประมาณกึ่งหนึ่ง(อาทิตย์จรพบอังคาร)ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
ที่น่าสนใจก็คือ ดาวอังคาร(๓)จรในภพมรณะ แต่เป็นเรือนของศุกร(๖)มหามิตร ในขณะเดียวกันดาวศุกร(๖)จรทับอังคาร(๓)เดิมอยู่ สลับกัน บ่งบอกการสนับสนุนอย่างลับ ๆ ของวงการทหารและคนในเครื่องแบบอีกส่วนหนึ่ง
จึงสรุปได้ว่า คนทุกวงการให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ การที่ดาวใหญ่มีพลังในจุดสำคัญ ๆ ทรงศักดิ์ คือจันทร์(๒) จรเป็นเกษตร พุธ(๔)จรเป็นศรีจร อาทิตย์(๑)จรเป็นราชาโชค และพฤหัสบดี(๕)จรเป็นราชาโชค พอเห็นผลได้ถึงชัยชนะว่า น่าจะท่วมท้น ทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะเริ่มสัมผัสกับแรงบีบกดดันรอบด้าน อย่างรุนแรง นับแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป ถึงวันเลือกตั้ง และเลยไปจนถึงเดือนธันวาคม 2554 เนื่องด้วยดาวเสาร์(๗) กับราหู(๘)จรเข้าบีบลักคณาพรรคเพื่อไทย แบบอยู่ในเขาควาย คือเสาร์(๗)จรเข้าบีบด้านหลังลักคณา ขณะเดียวกันราหู(๘)จรสวนทางมาเข้าด้านหน้า บีบลักคณาที่อยู่ตรงกลาง ด้วยแรงบีบขนาดหนักของราหู(๘)มหาอุจและเสาร์(๗) ประธานดาวร้ายในจักรราศี สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ การทำงานของพรรคเพื่อไทยจะพบกับปัญหารอบด้าน อย่างหนักหน่วง ต้องฝ่าฟัน ฝ่าวงล้อมไปด้วยความฉลาด สติปัญญา ใช้ปัญญาแก้ปัญหา และยังหมายถึงการพบมรสุมของการกลั่นแกล้ง ใส่ความ หาเรื่องราวด้วยประการต่าง ๆ กระทั่งปั้นเรื่อง สร้างข้อกล่าวหา เป็นคดีความในระยะก่อนการเลือกตั้ง ตามที่ได้วิเคราะห์ไว้แล้ว และประเด็นการกล่าวหาใส่ความนี้ จะกลายเป็นประเด็นต่อไปอย่างเนิ่นนานแม้ผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว
4. พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ ?
ดวงที่ 5 ลักษณะระบบดาวในวันที่คาดว่าได้รัฐบาลใหม่
วัน ๖/29 กรกฎาคม 2554
ดวงที่ 5
รูประบบดาววันที่ 29 กรกฎาคม 2554
ที่คาดว่าจะได้รัฐบาลใหม่
-ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีกรกฎ กุมศุกร(๖) พุธ(๔) 11องศา 51 ลิปดา
-ดาวจันทร์(๒) อยู่ราศีกรกฎ กุมอาทิตย์(๑) ศุกร(๖) พุธ(๔)
-ดาวอังคาร(๓) อยู่ราศีเมถุน
-ดาวพุธ(๔) อยู่ราศีกรกฎ กุมอาทิตย์(๑) ศุกร(๖) จันทร์(๒)
-ดาวพฤหัสบดี(๕) อยู่ราศีเมษ
-ดาวศูกร(๖) อยู่ราศี กรกฎ กุมพุธ(๔) อาทิตย์(๑) จันทร์(๒)
-ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีกันย์
-ดาวราหู(๘) อยู่ราศีพิจิก
-ดาวเกต(๙) อยู่ราศีมกร
-ดาวมฤตยู(๐) อยู่ราศีมีน
การดูจากดวงชะตาพรรคเพื่อไทยในประเด็นการเลือกตั้งนี้ พอจะได้พบว่า ชนะการเลือกตั้ง อย่างท่วมท้น แต่การจะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น
พบว่าสถานการณ์วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2554 ณ ราศีกรกฎอันเป็นภพที่ 10 ของดวงชะตาพรรคเพื่อไทย นั่นคือดาวศุกร(๖)ตนุลักคณ์จรเป็นราชาโชค +พุธ(๔) ดาวที่กุมลักคณ์เดิม ร่วมศุกร์เป็นอสีติธาตุ ในกรกฎ+อาทิตย์(๑) ลาภะจรเป็นมหาจักร และขณะนั้นจันทร์(๒)จรในราศีพฤษภเป็นอายุจรมหาอุจ .......... ทั้งหมดนี้ พบกระแสแรงของราหู(๘)จรมหาอุจในพิจิก
วันนี้ น่าเป็นวันได้ตัวนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย
จากนี้ไปถึงวันที่ 29-30-31 กรกฎาคม 2554 น่าจะได้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
นี่คือระบบดาวภายหลังวันเลือกตั้ง ที่บ่งบอกความหมาย....ถึงการปกครอง การบริหารประเทศของพรรคเพื่อไทย…….ไม่ใช่ของพรรคประชาธิปัตย์.....เพราะในขณะเดียวกัน การรวมตัวของพระเคราะห์ 4 ดวง ที่บอกความหมายในวันดังกล่าวนี้ ปรากฏอยู่ในภพวินาสน์ของดวงชะตาของพรรคประชาธิปัตย์ อันบ่งบอกความผิดหวังของพรรคประชาธิปัตย์
· ชลัมพุช โหรชนบท
13 พ.ค. 2554
20.45 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2011-05-13 21:08:16