วันนี้ (1 เม.ย.) นายธเนศ เครือรัตน์ คณะกรรมาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะได้เดินทางมา เพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุดของสถานการณ์บนเขาพระวิหาร ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร บนผามออีแดง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พอมาถึงได้มี พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 กองกำลังสุรนารี มาให้การต้อนรับและบรรยายสรุปว่า จากกระแสข่าวที่มาว่ามีการเสริมกำลังทหารไทย - กัมพูชา พร้อมขนอาวุธหนัก ไม่ว่าจะเป็นปืนกลหนัก ปืนกลเบา อื่นๆ เต็มพิกัดนั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของกองกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีการเคลื่อนกำลังเข้าหากันเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งความจริงเป็นการเคลื่อนกำลังเข้าไปหาแหล่งน้ำในช่วงหน้าแล้ง เนื่องจากที่ตั้งฐานเดิม อยู่ไกลน้ำ จึงมีการขยับเข้าไปใกล้แหล่งน้ำเท่านั้น แต่กองกำลัง ทหารกัมพูชา เข้าใจว่าฝ่ายไทยจะเอากองกำลังบุกเข้าไป จึงมีการสริมกำลังขึ้นมาเช่นกัน และขณะนี้ได้ทำความเข้าใจกันแล้ว
จากนั้นคณะกรรมาธิการได้เดินทางขึ้นไปตรวจเยี่ยมทหาร และดูสภาพความเป็นจริง ที่พื้นที่ทับซ้อนบริเวณวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ที่มีพระกัมพูชา มาจำวัดอยู่ โดยคณะได้พบกับ พล.ท.สไล ดึก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 พล.ท.เจีย มอล แม่ทัพภูมิภาคทหารที่ 4 และพ.อ.พาด สุเพ็ญ หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทยกัมพูชา ได้มีการเปิดเจรจาเบื้องต้น เพราะเชื่อว่ามีการรุกพรมแดนของแต่ละฝ่าย ในการเปิดเจรจาทหารกัมพูชา ยืนยันว่ามีการเสริมกองกำลังของไทย และบุกรุกเข้ามา และขอให้ทหารไทยถอยออกไป
ขณะเดียวกันพบว่าฝ่ายกัมพูชามีการก่อสร้างอาคาร บ้านเรือน เพิ่มเติมบนพื้นที่ที่ทับซ้อนซึ่งผิดข้อตกลงร่วมกันระหว่างประเทศ ที่จะไม่มีการก่อสร้างใดใดในเขตพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนแต่ฝ่ายกัมพูชา ได้มีการก่อสร้างมาโดยตลอด ฝ่ายไทยได้ทำหนังสือประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผลก่อนเดินทางกลับ |