ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


ไทยรัฐ:รัฐประกาศฉุกเฉิน ไม่ใช้ทหาร ลุยกลุ่มสนามบิน [28 พ.ย. 51 - 05:47]
ปีที่ 59 ฉบับที่ 18574 วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2551
ข่าวประจำวัน
   |    การเมือง    |    เศรษฐกิจ   |    กีฬา    |   บันเทิง    |    วิทยาการ    |    สังคม-สตรี    |    การศึกษา    |    การเกษตร    |    ต่างประเทศ    |    กทม.   |   

รัฐประกาศฉุกเฉิน ไม่ใช้ทหาร ลุยกลุ่มสนามบิน [28 พ.ย. 51 - 05:47]

 

หลังจากที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วมทหารกับตำรวจ (คตร.) ได้ออกมาเรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตัดสินใจยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และขอให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยุติการยึดสนามบินนั้น

 

“ประธานชัย” บอกเห็นใจ ผบ.ทบ.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 พ.ย. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยุบสภาเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของสังคมไทยว่า น่าเห็นใจ ผบ.ทบ. เพราะทางนั้นก็พี่ทางนี้ก็น้อง จึงต้องระดมคนที่มีความรู้และไม่มีความรู้มาหารือ ทั้งที่ความจริงน่าจะมาหารือกับสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนโดยตรง ไม่ใช่เอาความคิดของนักวิชาการที่ไม่เคยได้รับการเลือกตั้ง ไม่เคยเป็นผู้แทนประชาชน อาศัยแต่บารมีคนยึดอำนาจ คนพวกนี้ไม่เคยเสียสละเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว เมื่อถามว่าทางออกที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติขณะนี้สมควรจะทำอย่างไร นายชัยตอบว่า สภาฯจะปรึกษาหารือกัน ในเมื่อฝ่ายบริหารทำงานไม่ได้ สภาฯก็ต้องกระโดดขึ้นมาช่วยอย่างเต็มที่ ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ต้องร่วมมือร่วมใจกันในการแก้ไขวิกฤติ

 

จะลงเอยได้ถ้ามีคนยอมเสียสละ

 

นายชัยกล่าวด้วยว่า ตั้งใจจะขอมติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขยายเวลาสมัยประชุมรัฐสภาออกไปอีก แม้จะมีพระราชกฤษฎีกาออกมาแล้ว แต่ประธานสภาฯยังไม่ได้อ่านพระบรมราชโองการ ถ้าสภาฯมีมติให้ ประธานรัฐสภาเข้ากราบบังคมทูล เพื่อให้รัฐสภาได้มีเวลาปรึกษาหารือกันเพื่อหาทางออก เพราะขณะนี้ไม่มีช่องทางอื่นแล้ว จะทะเลาะกันไปทำไม อาจต้องมีการเรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 28 พ.ย.นี้ก็ได้ เชื่อว่าทำอย่างนี้จะลงเอยกันได้ถ้ามีผู้เสียสละ ต้องมีคนที่เป็นกลางจริงๆมาเป็นคนกลางในการให้สองฝ่ายมาเจรจากัน เมื่อถามย้ำว่าในอดีตเคยมีการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อหาทางออกให้กับประเทศแต่สุดท้ายก็หาข้อยุติไม่ได้ นายชัยตอบว่า ต้องมีคนกลางจริงๆที่ทุกคนยอมรับ ตอนนี้มีอยู่ในใจแล้วแต่ยังไม่อยากบอก เพราะต้องรอมติจากที่ประชุมสภาฯให้ความเห็นชอบก่อน ขณะนี้รอฟังมติ ครม.วันนี้ว่าจะออกมาอย่างไร เพราะขนาดศาลสั่งแล้วยังทำอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่ามองว่าทหารอาจจะออกมาใช่หรือไม่ จึงเร่งหาคนกลางมาช่วยเจรจา นายชัยตอบว่า “รัฐประหารไปเลยก็จะดีใจ บ้านเมืองจะได้จบๆ” เมื่อถามย้ำว่าประธานสภาฯมองว่ารัฐประหาร คือทางออกในขณะนี้ใช่หรือไม่ นายชัยตอบว่า พูดไม่ออก ขอคิดก่อน

 

สภาฯวุ่น ส.ส.เปิดศึกซัดกันนัว

 

ต่อมาในเวลา 11.00 น. ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชัยทำหน้าที่ประธานการประชุมได้ เปิดโอกาสให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล หารือถึงสถานการณ์ ของประเทศ รวมถึงข้อเสนอของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ด้วย ที่เสนอให้นายกฯยุบสภา ซึ่ง ส.ส.พรรคพลังประชาชนได้โจมตี ผบ.ทบ.อย่างต่อเนื่อง โดยนายประเสริฐ เด่นนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เห็นข่าวแล้วรู้สึกว้าเหว่ ที่สนับสนุนให้พันธมิตรฯมายึดสนามบิน ยิ่งเห็นพันธมิตรฯยิ้มออกสื่อมวลชนต่างประเทศแล้ว ฝากบอกว่าอย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ส่วนทหารถ้าแน่จริงก็ลากรถถังเข้ามาเลย ขณะที่ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า อยากให้ ส.ส.ดูรัฐธรรมนูญให้ถูก และสื่อสารกับประชาชนให้ถูกต้อง เนื่องจากแม้มีการยุบสภาก็ไม่ทำให้กฎหมายที่พิจารณาผ่านสภาไปแล้วตกไป เนื่องจากรัฐธรรมนูญได้เปิดโอกาสให้รัฐบาลชุดใหม่ หยิบยกกฎหมายที่พิจารณาในวาระ 1 ไปแล้ว ขึ้นมาพิจารณาต่อได้ทันที

 

ปชป.จวก “ชัย” ไหลไปไหลมา

 

จากนั้น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้ลุกขึ้นตำหนิส.ส.ของพรรครัฐบาล ที่กล่าวตำหนิ ผบ.ทบ.พร้อมทั้งโต้ตอบพรรคพลังประชาชนว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหา โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลกพรรคประชาธิปัตย์ ตำหนิประธานสภาฯว่า ทำตัวไม่เป็นที่เคารพและเป็นหลักให้กับรัฐสภา ชอบไหลไปไหลมา ขณะที่รัฐบาลเองก็ทำเพื่อคนคนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้นายชัยได้กล่าวสวนทันที “ไม่ต้องเคารพผมหรอก ขอให้เคารพบรรพบุรุษของคุณก็พอ”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำพูดของ นพ.วรงค์ ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนลุกขึ้นประท้วงให้ถอนคำพูด แต่ นพ.วรงค์ไม่ยอมถอนคำพูด โดยยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองพูดเป็นเรื่องจริง เพราะรัฐบาลชุดนี้ทำเพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ จึงทำให้ที่ประชุมเกิดความวุ่นวายและตึงเครียดอย่างมาก เมื่อ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงและตอบโต้กันไปมา จนนายชัยต้องสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที พร้อมกับกล่าวว่า อยากขอร้องทุกคนว่านี่คือวันสุดท้ายของเราแล้ว เป็นวันสุดท้ายในสมัยประชุมแล้ว

 

ไม่ถอนคำพูดตามที่ประธานสั่ง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสภาฯได้เปิดประชุมอีกครั้งหนึ่ง นายชัยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าจะไม่อนุญาตให้ทุกคนพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองอีก เพราะอาจก่อให้เกิดวุ่นวายจนไม่สามารถพิจารณาเรื่องต่างๆ ที่มีอยู่ในระเบียบวาระได้อีก แต่นายธนา ชีรวินิจส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงว่า สถานการณ์ บ้านเมืองในขณะนี้กำลังวิกฤติ ประธานควรจะเปิดโอกาสให้ ส.ส.ทุกคนได้แสดงความเห็นและข้อเสนอแนะ ไม่ควรจะปิดกั้นเพราะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น ทำให้ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้ยกมือประท้วงเพื่อถามถึงมาตรฐานในการควบคุมการประชุม โดยให้เหตุผลว่า เคยถูกประธานไล่ออกจากห้องประชุมสภาฯ เพราะไม่ยอมถอนคำพูดตามที่ประธานสั่งให้ถอน แต่เหตุใด นพ.วรงค์จึงสามารถอยู่ในห้องประชุมได้อีก ทั้งๆที่ไม่ยอมถอนคำพูดตามที่ประธานวินิจฉัยไปแล้ว ถือเป็นการปฏิบัติสองมาตรฐานของประธาน จึงอยากให้ประธานทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ด้วย นายชัยจึงได้ขอร้องให้ นพ.วรงค์ถอนคำพูดที่พาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ และกล่าวหาประธานสภาฯ แต่ นพ.วรงค์ไม่ยอมและยืนยันอีกว่าคำพูดของตนเป็นเรื่องจริง หากต้องการให้ถอนคำพูดต้องชี้แจงเหตุผลว่าพูดผิดตรงไหน

 

สุดท้ายปิดประชุมโดยไม่ได้อะไร

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำให้บรรยากาศในที่ประชุมวุ่นวายอีกครั้ง เมื่อ ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านต่างลุกขึ้นประท้วงและตอบโต้กันลั่นห้องประชุม จนนายชัยต้องสั่งให้ นพ.วรงค์ออกจากห้องประชุม แต่นายธนาและ ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ต่างลุกขึ้นยืน พร้อมกับตะโกนว่า “ประธานลำเอียง” โดยที่ นพ.วรงค์และนายธนายังไม่ยอมออกจากห้องประชุม นายชัยจึงสั่งด้วยน้ำเสียงดุดันด้วยความโกรธ ให้เจ้าหน้าที่นำตัว นพ.วรงค์และนายธนาออกจากห้องประชุมอีกครั้งแต่ก็ยังไม่เป็นผล ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่นั่งอยู่ในห้องประชุมแสดงความไม่พอใจ และลุกฮือตะโกนประณามนายชัยลั่นห้องประชุม ในที่สุดนายชัยต้องตะโกนตัดบทว่าในเมื่อมันไปต่อไม่ได้แล้ว ก็ขอให้เลขาธิการสภาฯอ่านพระบรมราชโองการ ปิดประชุมรัฐสภาสมัยนิติบัญญัติเลย ซึ่งรองเลขาธิการสภาฯได้ลุกขึ้นอ่านพระบรมราชโองการ จากนั้นนายชัยจึงสั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 12.15 น. โดยที่ประชุมสภาฯไม่สามารถพิจารณากระทู้ถามและกฎหมายฉบับใดๆได้เลย

 

ส.ส.ปชป.เปิดแถลงข่าวถล่ม “ชัย”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปิดการประชุม นพ.วรงค์ นายธนา พร้อมด้วยนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก ได้ลงมาแถลงที่ห้องผู้สื่อข่าว โจมตีการทำหน้าที่ของนายชัย โดย นพ.วรงค์กล่าวว่า การทำหน้าที่ของนายชัยในวันนี้ไม่มีหลักการ มีความลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นว่าสภาไม่สามารถเป็นที่แก้ปัญหาของชาติได้ รัฐบาลเองก็ทำตัวเป็นสัมภเวสี หนีไปวันๆ วันนี้รัฐบาลเหลือทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้นคือ ยุบสภา หรือนายกฯลาออก

 

นายธนากล่าวว่า ประธานสภาฯทำตัวเป็นเผด็จการ ทั้งที่เป็นแค่ผู้รักษาการตามข้อบังคับการประชุมเท่านั้น วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า รัฐบาลโดยพรรคพลังประชาชนไม่ใส่ใจที่จะรับฟังข้อเสนอแนะของฝ่ายอื่น วันนี้ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกัน แม้ข้อเท็จจริงนั้นจะทำให้เจ็บปวดก็ตาม แต่การแสดงออกวันนี้ของรัฐบาลที่กระทำโดยผ่านนายชัย เป็นการไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่างจากฝ่ายอื่น ที่ชิงอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม แสดงให้เห็นว่าสภาไม่ได้ใส่ใจที่จะหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง

 

ท้าเอาผิด “อนุพงษ์”-ผบ.เหล่าทัพ

 

นายเทพไทกล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งป้อมถล่มผบ.ทบ. มาตั้งแต่วันก่อน ที่เสนอให้นายกฯยุบสภาฯ คงเสียดแทงใจดำ เพราะรัฐบาลยังอยากเป็นผู้ใช้งบประมาณที่จะต้องเบิกจ่ายในเดือน ม.ค.2552 ที่บอกว่าอดีตนายกฯเป็นคนนอก อยากถามว่า แล้ว ผบ.ทบ.เป็นคนนอกหรือเปล่า ที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามบอกว่าสภาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องยุบสภานั้น วันนี้ชัดเจนแล้วว่าสภาไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้อีกแล้ว เพราะประธานสภาฯไม่มีวุฒิภาวะ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารก็ล้มเหลว ต้องพเนจรไปเปิดประชุม ครม.ที่เชียงใหม่ และการที่ประธานรัฐสภาบอกว่า เกิดการรัฐประหารก็ดีเรื่องจะได้จบๆนั้น อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ หากเห็นว่า ผบ.ทบ.ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องไปดำเนินการกับท่านและ ผบ.เหล่าทัพ ไม่ใช่ใช้เวทีสภาถล่มแบบนี้

 

นายธนิตพลกล่าวว่า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะดำเนินการทุกวิถีทางต่อประธานสภาฯ และจะกดดันสภาที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญนี้อย่างถึงที่สุด หากเหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจะเสนอให้วิปรัฐบาลไปพูดคุยกับประธานสภาฯ เพื่อให้รับปากว่าจะไม่เกิดกรณีการเลือกปฏิบัติแบบนี้ขึ้นอีก

 

ถ้าปฏิวัติ “ทักษิณ” ได้ประโยชน์

 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าหากทหารปฏิวัติจะยุติปัญหาทุกอย่างนั้น ไม่จริง และไม่ควรเป็นทางเลือกของสังคมไทย เพราะปัญหาความวุ่นวายจะไม่จบ และไม่มีมวลชนฝ่ายใดยอมรับ ไม่คิดว่าประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติจะกล้าเสนอแนวทางออกที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งตนเชื่อว่าคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการรัฐประหารคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจรุนแรง จะยิ่งซ้ำเติมวิกฤติอีก ขณะนี้มีความพยายามจะให้เกิดการปฏิวัติ เพื่อหวังผลนำไปสู่การลบล้างความผิดในอดีตของใครหลายคน การรัฐประหารจะเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดสำหรับสังคมไทย การที่นายกฯระบุว่าจะไม่มีการลาออกหรือยุบสภา แสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการเจรจา เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก วันนี้ยังมองไม่เห็นว่าความรุนแรงจะจบลงอย่างไร

 

ต่างชาติช่วยแต่คนไทยกัดกันเอง

 

เมื่อถามว่า ประธานสภาฯระบุว่ามีนักวิชาการบางส่วนอาศัยบารมีจากการปฏิวัติ มาแสดงความคิดเห็นต่อ คตร. นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ทางรัฐบาลต้องสอบถามกับ คตร.เองว่าได้มีการพิจารณาในประเด็นใดบ้าง เป็นเรื่องปกติไม่ว่ายุคใด ส.ส.ย่อมไม่พอใจต่อการยุบสภา แต่ทาง ออกขณะนี้คือรัฐบาลต้องยื่นมือไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม คงไม่มีใครยอมใครหากไม่มีความพยายามจากฝ่ายหนึ่งก่อน ซึ่งฝ่ายที่มีอำนาจจะต้องยื่นมือเข้าไปหา เพราะนี่ คือหน้าที่ของผู้นำที่มาจากฝ่ายการเมือง แต่ถ้าพยายามแล้วไม่สำเร็จ อย่างน้อยสังคมจะเข้าใจมากขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้ขอให้ตนช่วยทั้งที่ไม่เคยเสนอตัวเองเลย แต่ สุดท้ายรัฐบาลกลับออกมาด่าตน ทั้งที่ไม่เคยทำอะไรเพื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่มองด้วยความเป็นห่วงว่าหลังจากนี้ความรุนแรงจะมีมากขึ้น และกระจายออกไป สุดท้ายยังมองไม่เห็นว่าใครได้อะไร แต่คนไทยสูญเสียเพราะมาฆ่ากันเอง เศรษฐกิจแย่ และต่างชาติมองในแง่ลบ หลังเกิดเหตุรุนแรง ได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ซึ่งในต่างประเทศเขาพยายามช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ช่วยหาทางออกให้เรา แต่คนไทยด้วยกันกลับไม่พยายามหันหน้ามาคุยกัน

 

เชื่อ ครม.ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้เชื่อว่ามีความเป็น ไปได้ที่ในการประชุม ครม. จะมีมติให้ใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งรัฐบาลต้องถามความเห็นจากกองทัพ ในฐานะผู้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ว่ามีเหตุผลอะไร คตร.จึงเสนอให้ยุบสภา ทุกอย่างต้องว่ากันด้วยเหตุผลและใช้การเจรจา ไม่อยากให้ใช้ความระแวง ยืนยันว่าไม่เคยเห็นด้วยกับพันธมิตรฯที่บุกยึดสนามบิน ถึงรัฐบาลจะได้สนามบินกลับคืนมา ก็ไม่รู้ว่าจะมีการยึดสถานที่อื่นหรือไม่ ปัญหาของประเทศขณะนี้ใหญ่กว่าเรื่องสนามบิน เพราะเป็นเรื่องของทั้งประเทศ ไม่อยากให้รัฐบาลตัดตอนมองปัญหาเป็นรายวัน สุดท้ายจะแก้ไม่จบ ความเดือดร้อนของประชาชนจะมีต่อเนื่อง ถ้ารัฐบาลไม่พร้อมจะเจรจา และไม่ตัดสินใจอะไร ปัญหาก็ไม่จบ เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลกับผู้ชุมนุม รัฐบาลต้องตัดสินใจถึงจะแก้ไขปัญหาได้

 

อัดนายกฯปล่อยคนไทยฆ่ากันเอง

 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม(คตร.) เสนอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและ รมว. กลาโหม ยุบสภาเพื่อยุติความขัดแย้งว่า ถือเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ถูกต้อง ส่วนรัฐบาลจะตัดสินใจ อย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและนายกฯ ซึ่งถือว่า คตร. ได้ระดมความคิดเห็นที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ทั้งนี้ ตนเห็นว่าเป็นการเสนอทางออกที่ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ และไม่ควรจะไปโกรธ ผบ.ทบ. และ คตร. เพราะเขาไม่มีเวทีอื่นที่จะแสดงความคิดเห็น เขาก็อยากแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองในขอบเขตที่เขาจะทำได้ เมื่อถามว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าควรจะหารือกันในเวทีรัฐสภาที่มี ส.ส. และ ส.ว. นายสุเทพตอบว่า นายชัยจะปรึกษาหารือสภาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องคำนึงว่า ส.ส. และ ส.ว.ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะผลักดันให้รัฐบาลทำอะไรที่เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติในสถานการณ์ปัจจุบันได้ อย่ายึดมั่นว่า ส.ส. และ ส.ว.จะตัดสินใจแทนคนอื่นในประเทศชาติได้ เพราะยังมีคนไทยอีกมาก และเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ก็เป็นลิ่วล้อของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดังนั้นการทำอะไรก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันอยู่แล้ว

 

ปชป.ประเมินสถานการณ์การเมือง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายสุเทพได้ตั้งวงประเมินสถานการณ์ทางการเมือง กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์และ ส.ส.จำนวนหนึ่ง โดยมีการประเมินว่า รัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯ กำลังสู้รบกัน เพื่อต้องการให้ ทหารออกมาปฏิวัติ ขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กำลังโดนกดดันอย่างหนักจากทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้กลุ่มพันธมิตรฯที่อยากให้ทหารปฏิวัติ เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณและสร้างการเมืองใหม่ ส่วนรัฐบาลต้องการล้มล้างกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไปนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยุทธวิธีที่รัฐบาลจะเป็นฝ่ายได้เปรียบกลุ่มพันธมิตรฯ คือรัฐบาลจะต้องไม่ตอบโต้อะไร รอแก้สถานการณ์ไปวันๆ ปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯอ่อนล้าไปเอง นอกจากนั้นวงสนทนาประเมินคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและ รมว.กลาโหม จะไม่ตัดสินใจยุบสภาในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน เพื่อจะยื้อสถานการณ์ออกไป จนกระทั่งตั้งพรรคเพื่อไทยได้แล้ว เพราะแนวโน้มที่พรรคพลังประชาชนอาจจะถูกยุบเป็นไปได้สูง

 

ลิ่วล้อ พปช.บุกสภาฯ ป่วนฝ่ายค้าน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเริ่มการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีกลุ่มประชาชนอ้างเป็น “กลุ่มประชาชนผู้รักชาติ” จำนวน 4-5 คน เดินทางเข้ามาในรัฐสภา พร้อมนำกระเช้าดอกไม้และดอกกุหลาบ มายืนดักรอที่บริเวณประตูทางเข้าห้องโถงด้านใน ติดกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด เพื่อรอมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจแก่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่เดินผ่าน อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม เป็นต้น แต่ไม่ยอมมอบดอกไม้ ให้กับ ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยในระหว่างนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ได้เดินเข้ามาในห้องโถง เมื่อเดินผ่านประชาชนกลุ่มนี้ได้มีผู้หญิงตะโกนว่า “มาร์ค ม.7 ไอ้บ้า ทุเรศ” ทำให้นายศิริโชคหันไปยักคิ้วให้หนึ่งครั้ง ขณะที่นายอภิสิทธิ์หันมาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ด่าทักษิณเหรอ” พร้อมได้เดินเลี่ยงขึ้นบันได

 

ให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ลากตัวออกไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมาเมื่อเวลา 12.20 น. หลังปิดประชุมสภาฯ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ประมาณ 10 คน นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วยนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินมาสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำรัฐสภาว่า ปล่อยให้คนกลุ่มนี้เข้ามาในสภาฯได้อย่างไร ระหว่างนั้นกลุ่มคนดังกล่าวยังยืนปักหลักอยู่ พร้อมตะโกนว่า “ไอ้ ส.ส.ทุเรศ” ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านไม่พอใจเข้ารุมล้อมสอบถามว่า เป็นใครมาจากไหน ใครเป็นคนพาเข้ามา เพราะการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม มาชี้หน้าด่า ส.ส.ว่าทุเรศ ต้องให้เจ้าหน้าที่เชิญตัวออก จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐสภาได้พาตัวออกไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อตรวจสอบจากการ์ดอวยพร ที่ติดกับกระเช้าดอกไม้ที่เตรียมมอบให้ ส.ส.มีข้อความระบุว่า “ขอให้กำลังใจท่าน ส.ส.พลังประชาชนทุกท่าน ให้รักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยไว้ ตลอดไป” ลงชื่อ “กลุ่มประชาชนผู้รักชาติ” อย่างไรก็ตามกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกับที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทย และเคยใช้ร่มฟาดนักข่าวและช่างภาพที่ศาลรัฐธรรมนูญ สมัยที่วินิจฉัยคดีซุกหุ้นอีกทั้งปกติจะเป็นกลุ่มที่เข้าให้กำลังใจและคุ้นเคยกับ ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนเป็นอย่างดี

 

“วีระ” ตีฆ้องระดมพลคนเสื้อแดง

 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน แถลงข่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เสนอให้นายกฯยุบสภา โดยนายวีระกล่าวว่า ขอให้คนเสื้อแดงในทุกจังหวัดเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา อาจเหนื่อยหน่อยที่ต้องเตรียมตัวอย่างเดียว ขอให้อดทนเป็นพิเศษ และหวังว่าเมื่อสถานการณ์เรียกร้องต้องการการสนับสนุนคนรากหญ้า วันนั้นคนรากหญ้าที่รักประชาธิปไตยจะออกมาพร้อมกัน เพราะเราอยากให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย ไม่อยากให้ประเทศนี้เป็นของพวกอนาธิปไตย เมื่อถามว่า ผลจากการกระทำของคนเสื้อแดงเชียงใหม่ทำร้ายคนเสื้อเหลืองจนเสียชีวิต นายวีระตอบว่า เราคนเสื้อแดงใน กทม.จะไม่ไปสั่งการให้ใครทำอะไร ใครทำผิดก็ว่ากันไป

 

จี้นายกฯสั่งปลด ผบ.ตร.-ผบ.ทบ.

 

นายจตุพรกล่าวว่า ผลจากคำพิพากษาศาลแพ่งสั่งให้กลุ่มพันธมิตรฯออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ไม่ให้ความร่วมมือกรมบังคับคดี โดยการนำหมาย คำสั่งศาลไปปิดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขอเรียกร้องให้นายกฯ เปลี่ยน ผบ.ตร. ทันทีและเลือกคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เราไม่ต้องการ ผบ.ตร.ที่มีลักษณะลอยตัว รวมทั้งถ้า ผบ.ทบ. ไม่สนับสนุนคำตัดสินของศาลแพ่ง หรือมีพฤติการณ์ที่ขัดขวางไม่ให้ความร่วมมือ ประชาชนก็พร้อมออกมาจัดการกับ พล.อ.อนุพงษ์ เพราะ ผบ.ทบ. อยู่ในสภาพที่ลอยตัว ทำตัวเป็นผู้ดีอยู่บนภู ทายได้เลยว่าท้ายที่สุดต้องมีการยึดอำนาจ เพราะเสนอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และจะบอกว่าเมื่อทั้ง 2 ฝ่าย ไม่รับฟังจึงยึดอำนาจ ขอถามว่า ในวันที่ พธม.ยึดสุวรรณภูมิ หาก ผบ.ทบ.สั่งทหาร 21 กองร้อย ที่ติดอาวุธเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่สั่งการเคลื่อนย้ายไปสุวรรณภูมิ ถามว่า ความเสียหายอันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่ และขอย้ำว่าพวกเราในฐานะนักการเมืองไม่กลัวการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพราะถึงอย่างไรเมื่อเลือกตั้งพวกเราก็กลับมาอยู่แล้ว และต้องมาเจอพันธมิตรฯอีก ปัญหาก็อยู่ที่จุดเดิม ไม่จบ

 

เตรียมกำลังพลพร้อมรบขั้นแตกหัก

 

นายจตุพรกล่าวว่า วันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงจะรอให้มติ ครม.ออกกฎหมายเพื่อจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯก่อน เมื่อบ้านเมืองได้พิสูจน์ว่ากฎหมาย รัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ต่อไปนี้จะเป็นภาระของคนเสื้อแดงจะนัดรวมพลชุมนุมใหญ่ ช่วงนี้ขอให้เตรียมความพร้อม เมื่อสถานการณ์มันถึงจุดก็ซัดกันทันที หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นยากที่จะคาดคะเน เชื่อว่าไม่เฉพาะที่คนใส่เสื้อแดงที่รู้สึก แต่คนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้าของประเทศคงคิดว่าวันนี้จะปล่อยให้ประเทศเสียหายอย่างนี้ต่อไปหรือ หากมติ ครม.ไม่มีน้ำยาอะไรก็ยากที่จะบริหารประเทศอย่างนี้อยู่ หรือมติที่สั่งการออกมา แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบกไม่ทำตาม นายกฯมีสิทธิสั่งปลดและไม่ต้องกลัวว่าทหารจะปฏิวัติ เพราะประชาชนจะยืนข้างกับนายกฯที่มีความเข้มแข็งและรักษากฎหมาย หากมติ ครม.แก้ไขปัญหาไม่ได้ประชาชนก็จะจัดการปัญหานั้นเอง

 

จวกสองอธิการบดีทำลาย ปชต.

 

วันเดียวกัน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงบทบาทของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่อ้างมติที่ประชุม คตร.เสนอให้นายกฯยุบสภาฯว่า ไม่แปลกใจ เพราะดูปูมหลังของคนที่ออกมาแสดงบทบาทนี้ ไม่ว่าอธิการบดีสถาบันนิด้า และอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะรู้ว่าคนพวกนี้มีจุดยืนเป็นพวกทำลายหรือรักษาประชาธิปไตย ประชาชนคงจำได้ว่าอธิการบดีคนไหนที่เสนอแนวคิดขอนายกฯมาตรา 7 แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่าอย่างไร หลายคนพยายามจะให้เดินไปสู่จุดเดิมเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 เพราะตัวเองได้ดีเพราะการยึดอำนาจ มีตำแหน่งหน้าที่เพิ่ม ได้ประโยชน์จากผู้ยึดอำนาจแบ่งสัน ปันส่วนให้ น่าเสียดายที่สถาบันมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เคยเป็นหลักประชาธิปไตยมาตลอด แต่มายุคนี้มันเปลี่ยนไป การเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาฯ แต่ไม่เคยพูดถึงผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมาย ยอมให้คนกลุ่มน้อยมาข่มขู่ จนทำให้ ประชาชนเดือดร้อนประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้

 

ขู่คนทำปฏิวัติจะได้บทเรียนสาสม

 

นายพงศ์เทพกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ผู้มีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้ คำสั่งศาลแพ่งที่ให้ พธม.ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ต้องทำให้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่งั้นจะกลายเป็นเศษกระดาษ รัฐบาลไม่ต้องไปกลัวข้าราชการจะอารยะขัดขืน เพราะข้าราชการที่แท้จริงไม่แสวงหาประโยชน์ที่มิชอบ เขารู้ว่าเป็นระบบที่ไม่ถูกต้องจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน ส่วนกระแสปฏิวัติรัฐประหารนั้น บอกได้เลยว่าใครคิดทำรัฐประหารคงได้บทเรียนที่ต้องจดจำไปจนวันสุดท้ายของชีวิตเลย เพราะประชาชนเขารู้แล้วว่ารัฐประหารไม่ดี ทำให้เดือดร้อน เขาจะไม่ปล่อยให้คนทำเดินลอยชายอีกต่อไปแล้ว

 

โยนบาป ผบ.ทบ.ต้นตอวิกฤติ

 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คตร. เสนอให้นายกฯยุบสภาว่า ข้อเสนอของ คตร.ที่ให้นายกฯยุบสภาขัดหลักประชาธิปไตย เพราะสภาฯไม่ใช่ผู้ทำผิด การที่บ้านเมืองมีปัญหาขณะนี้ เพราะ ผบ.ทบ.มีแนวคิดไม่ยอมรักษากฎหมาย มองว่าการรักษากฎหมายเป็นการทำให้เกิดความรุนแรง ทั้งที่การยึดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรฯเป็นการทำผิดกฎหมายอย่างรุนแรงและเป็นการก่อการร้าย การที่ ผบ.ทบ.ไม่ยอมรักษากฎหมายในขณะนี้ ทำให้ปัญหาลุกลามรุนแรงยิ่งขึ้นโดยเฉพาะจะนำไปสู่ความรุนแรงในสังคม เพราะประชาชนจะเข้ามาแก้ปัญหากันเอง จนเกิดการเสียชีวิต เลือดเนื้อครั้งใหญ่ เนื่องจาก ผบ.ทบ.ไม่รักษากฎหมาย ถือเป็นความผิดของ พล.อ.อนุพงษ์ ถ้ายังไม่รักษากฎหมายบ้านเมืองจะเป็นกลียุค

 

เชื่อโอกาสเกิดปฏิวัติสูงมาก

 

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ทางออกคือช่วยกันประณามและโดดเดี่ยวกลุ่มพันธมิตรฯ ตำรวจทหารต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้มากกว่านี้ ป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกัน ขอให้เลิกฟังความเห็นของ พล.อ.อนุพงษ์ และให้ตำรวจทหารมาช่วยกันรักษากฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่สำคัญต้องไม่ให้เกิดการรัฐประหาร เพราะจะยิ่งเสียหายมากกว่านี้ เนื่องจากประชาชนจะออกมาต่อต้านทั่วประเทศทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อ ทั้งนี้ควรให้ทหารเสนอใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่การที่รัฐบาลจะสั่งปลด พล.อ.อนุพงษ์คงทำได้ยากมาก แม้อยากจะปลดก็ปลดไม่ได้ อาจจะต้องใช้คนอื่นในการแก้ปัญหาแทน ขณะนี้ผู้มีอำนาจทางทหารหลายคนมีใจไปในทางกลุ่มพันธมิตรฯ พล.อ.อนุพงษ์จงใจปล่อยให้ประเทศเสียหาย และไม่ยอมทำอะไรเลย เพราะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่แล้ว เชื่อว่าจะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงขึ้นแน่ สนามบินสุวรรณภูมิจะถูกปิดอีกนาน ประชาชนจะแตกแยกรุนแรง และมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการรัฐประหาร

 

พรรครัฐบาลหารือต้านปฏิวัติ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภายหลังปิดประชุมสภา ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลประมาณ 100 คน นำโดยนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน นายเอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.มัชฌิมาธิปไตย ได้หารือที่ห้องงบประมาณ อาคารรัฐสภา เพื่อประเมินสถานการณ์การเมือง ที่มีกระแสข่าวกองทัพเตรียมปฏิวัติ ภายหลังการหารือ 1 ชั่วโมง ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องโถง อาคารรัฐสภา โดยนายเอกพจน์กล่าวว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปเสนอให้รัฐบาลดำเนินการต่อไปนี้ 1. นายกฯต้องแสดงความเด็ดขาดชัดเจน กับผู้กระทำความผิดอย่างเร่งด่วน พร้อมมอบให้ผู้รับผิดชอบไปดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง 2. ขอให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากผู้ปฏิบัติตามไม่ดำเนินการ ขอให้ปลดออกจากตำแหน่ง 3. ขณะนี้มีกระแสข่าวกองทัพจะยึดอำนาจ ที่ประชุมจึงให้ ส.ส.ทุกคนระดมประชาชนเตรียมพร้อม อย่างน้อย ส.ส. 1 คน ต่อประชาชนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน

 

ปลุกม็อบเสื้อแดงต้านปฏิวัติ

 

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า วิปรัฐบาลมีความเห็นว่าให้ ส.ส.แต่ละคน ระดมประชาชน 2 หมื่นคน แยกเป็นตำบลละ 200 คน โดยให้คัดผู้ชายร่างกายกำยำ ใครมีปืน มีด ด้ามพร้าให้ เอามา เพื่อแสดงพลัง หากจะรอทหารหรือตำรวจคงรอไม่ ไหวแล้ว ให้มารอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามหลวง เมื่อถามว่า ส่งสัญญาณให้ฆ่ากันหรือไม่ นายสุชาติตอบว่า ไม่เกี่ยว เป็นการแสดงพลังเพื่อปกป้องประชาธิปไตย ไม่ใช่การปกป้องนายกฯ เมื่อถามว่า ทำไมไม่ยุบสภาหรือลาออก เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรง นายสุชาติตอบว่า จะให้นายกฯลาออกไม่ได้ วันนี้จะปล่อยกลุ่มพันธมิตรฯคง ไม่ได้แล้ว เพราะรัฐบาลใช้อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการไม่ได้แล้ว ต้องใช้อำนาจประชาชน เราต้องยอมแลกทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาธิปไตย เหตุการณ์ครั้งนี้จะเหมือน พฤษภาทมิฬ โดยจะใช้ประชาชน แต่เราจะเป็นฝ่ายอยู่ ข้างหลัง เพื่อดันประชาชนให้ร่วมสู้ ทราบว่าทหารบาง ส่วนเริ่มขยับที่ จ.ลพบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี เตรียมตัวปฏิวัติแล้ววันนี้ ประเทศวุ่นวายจากอำนาจที่มองไม่เห็น

 

เข้าชื่อเสนอนายกฯปลด ผบ.ทบ.

 

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรียืนยันจะไม่ยุบสภาตามข้อเสนอของ ผบ.ทบ.ว่า วันนี้ได้กลิ่นปฏิวัติ เพราะทหารกำลังเคลื่อนเข้ามา ในฐานะ ส.ส.ต้องเตรียมสู้ในสภาผู้แทนราษฎร ถ้าถูกปฏิวัติจริง รับรองเสื้อแดงมาเต็มเมือง สังคมไทยยอมรับไม่ได้ ผบ.ทบ.อย่าพูดเพื่อตัวเองดี และขึ้นเป็นนายกฯ ฝันไปเถอะ ถ้าอยากเป็นต้องปฏิวัติเอาเอง ส่วนกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบินนั้น ตำรวจ ทหารไม่ยอมทำอะไร ทำให้ประชาชนไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ทุกวันนี้ต้องหาทางป้องกันตัวเอง ด้วยการนำพาปืนติดรถไว้ และยังทราบว่ามี ส.ส. คนอื่นพกปืนเพื่อป้องกันตัวหลายคน รวมถึงกรณีที่ ผบ.ทบ. เสนอให้นายกฯยุบสภา พฤติกรรมเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงรวบรวมรายชื่อ ส.ส. 33 คน เรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอให้นายกฯพิจารณาปลด ผบ.ทบ.ออกจากตำแหน่ง

 

มฌ.ค้านขนคน 2 หมื่นชน พธม.

 

นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรค มัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่า กรณีที่ ส.ส.พลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลประกาศให้ ส.ส.ขนคนจังหวัดละ 2 หมื่นคน ออกมาต้านปฏิวัตินั้น หากเป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธตามกรอบของระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดี หากจะขนคนมาปะทะหรือชนกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่เหมาะสม วันนี้บ้านเมืองบอบช้ำ เศรษฐกิจเลวร้ายมากพอแล้ว ไม่อยากให้มาซ้ำเติมอีก ควรใช้วิธีเจรจาแก้ ปัญหา อยากให้ทุกฝ่ายหารืออย่างจริงจัง ทั้ง ส.ส. ส.ว. ทหาร ตำรวจ และนักวิชาการ เชื่อว่ายังไม่สายในการแก้ไขปัญหาชาติ ส่วนกรณีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองสนามบินสุวรรณภูมิ นั้น ทุกฝ่ายต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม ขอเรียกร้องให้นายกฯ สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสลายการชุมนุมโดยสันติ ให้เปิดสนามบินใช้ได้ตามปกติ

 

บัวแก้วกล่อมทูตต่างประเทศ

 

ที่กระทรวงการต่างประเทศ วันเดียวกัน นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ที่ประจำอยู่ในประเทศไทยเข้าชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์การชุมนุม โดยเฉพาะการปิดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมี น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าร่วมในการชี้แจงทำความเข้าใจด้วย

 

นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะส่งข้อตกลงทั้ง 35 ฉบับ ที่ไทยต้องให้การรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่จะมีขึ้นในกลางเดือน ธ.ค.นี้ ไปให้สมาชิกรัฐสภาอ่านล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 8-9 ธ.ค. เพื่อจะได้ย่น เวลาในการอภิปราย อย่างไรก็ตาม หากมีการปิดล้อมไม่ให้ มีการประชุมรัฐสภาประเทศไทยจะเสียโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์จากข้อตกลงทั้ง 35 ฉบับ จึงขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์และภาพลักษณ์ของประเทศด้วย

 

มท.อัด “สุรพล” ทำไม่เหมาะ

 

ที่กระทรวงมหาดไทย นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอแนวทางที่จะให้ข้าราชการทำอารยะขัดขืน หากรัฐบาลไม่ทำตามมติของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) เสนอให้ยุบสภาว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ หากข้าราชการไม่ทำงานแล้วใครจะดูแลประชาชน ชาวบ้านเดือดร้อนแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดไม่เข้าไปดูแล แล้วจะอยู่กันอย่างไร ข้าราชการจะต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง ส่วนเรื่องที่อธิการบดีคนดังกล่าวนำมาพูดนั้น เป็นเพียงการเสนอขึ้นมาในที่ประชุม ไม่ได้เป็นมติของที่ประชุม แต่นายสุรพลกลับนำไปพูดอีกครั้งในช่วงที่มีการแถลงข่าว ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะตัว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องอารยะขัดขืนเลย จึงขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่มติ เป็นเพียงความคิดเห็นของนักวิชาการคนหนึ่งเท่านั้น

 

เผยไม่สลายเกรงเผาสนามบิน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) ที่มีหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนร่วมประชุมกับ ผบ.ทบ.นั้น ทางฝ่ายเอกชนได้พยายามเสนอให้กองทัพออกมาปกป้องดูแลสนามบินสุวรรณภูมิ และผลักดันกลุ่มพันธมิตรฯให้ออกจากพื้นที่ เพราะขณะนี้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้ หมายความว่าให้ทหารปฏิวัติ โดยฝ่ายเอกชนพยายามเสนอตัวเลขความเสียหายของแต่ละองค์กร แต่ พล.อ.อนุพงษ์ ได้ตัดบทโดยกล่าวว่า รู้แล้วว่าเสียหาย แต่จะให้ทำอย่างไร เพราะถ้าทำอะไรลงไป หรือใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม จะทำให้กลุ่มพันธมิตรฯโกรธเคือง และอาจจะมีการเผาทำลายสนามบินได้

 

เอกชนชี้เสื่อมศรัทธาทหาร-ตร.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเสนอที่ให้รัฐบาลยุบสภา และให้พันธมิตรฯออกจากสนามบินสุวรรณภูมินั้นเป็นของนายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โดยมีองค์กรสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้สนับสนุน แนวคิด ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว จึงถือเป็นมติของที่ประชุม ในขณะที่ทางฝ่ายข้าราชการ ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงหรืออธิบดีที่เข้าร่วมประชุมไม่ได้เสนอความคิดเห็นใดๆเลย การประชุมครั้งนี้จึงเสมือนกับว่าให้ข้าราชระดับสูงไปเป็นไม้ประดับ และรับรองความชอบธรรมของมติในที่ประชุม จากนั้น ทางฝ่ายเอกชนจึงบอกว่า หากตำรวจหรือทหารไม่ทำอะไรเลย ทุกคนคงเสื่อมศรัทธา ทำให้ผู้ที่อยู่ในที่ประชุมพากันตบมืออย่างกึกก้อง ทำให้ 2 อธิการบดีถึงกับหน้าเสีย

 

สหรัฐฯชี้ต้องแก้ปัญหาด้วย ปชต.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม มีเพียงนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีโอกาสกล่าวในที่ประชุมว่า ทูตนานาประเทศต่างแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ในประเทศไทย โดยทูตของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ระบุว่า หากรัฐบาลไทยจะประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉิน ประเทศต่างๆยอมรับได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และจะต้องนำสนามบินสุวรรณภูมิคืนกลับมาให้ได้ ส่วนทูตประเทศเดนมาร์กได้แสดงความเป็นห่วงเป็นอย่างมาก เนื่องจากมกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กและพระชายายังอยู่ที่ประเทศไทย  และไม่สามารถเดินทางกลับได้ จึงขอให้เร่งแก้ไขปัญหานี้ด้วย

 

กองทัพยันปฏิวัติไม่ช่วยแก้ปัญหา

 

วันเดียวกันที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญแก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) ว่า ที่ประชุมคตร.มีการเสนอหลายแนวทาง และพูดถึงการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า หากสลายการชุมนุมต้องคิดให้ดี ไม่ใช่ใช้กระบองตีแล้วจบ เพราะต้องมีสิ่งนอกเหนือจากนั้นตามมาอีก เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับสนามบินและผู้ชุมนุม เพราะสนามบินสุวรรณภูมิเป็นสถานที่ปิด อาจทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตมากกว่าวันที่ 7 ต.ค. หลายเท่า ส่วนการปฏิวัตินั้นจะเจอการต่อต้านจากคนเสื้อแดง ผลที่ตามมาไม่แตกต่างกับการสลายการชุมนุม และเสียหายเหมือนกัน ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่แท้จริง การปฏิวัติไม่ใช่ ทางออกหรือจุดจบของปัญหา แต่การถอยคนละก้าว คืนอำนาจให้ประชาชน กลุ่มพันธมิตรฯเลิกชุมนุม ทุกอย่างจะคลี่คลาย ทหารทุกคนจะรู้สึกเสียใจ และเจ็บปวด หากจะปฏิบัติภารกิจที่รู้อยู่แล้วว่า ทำให้เกิดความสูญเสียกับประชาชน

 

ขอร้องอย่าบีบทหารสลายม็อบ

 

“มติ 4 ข้อที่ประชุม คตร.นั้น ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องนำเรียนสรุปถึงนายกฯโดยเร็ว ขณะนี้ฝ่ายยุทธการได้เสนอให้นายกฯแล้ว โดยผ่านทางสำนักนายกฯ แล้วแต่ดุลยพินิจของนายกฯ หากรัฐบาลไม่เห็นชอบด้วย จะต้องมีการประชุม คตร.ใหม่โดยเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหาแนวทางหรือข้อเสนอใหม่ ทั้งนี้หากรัฐบาลจะประกาศพื้นที่ความมั่นคง กองทัพจะบูรณาการกับกำลังของภาคประชาชนและตำรวจ เข้าไปปฏิบัติในฐานะ กอ.รมน. เราได้เตรียมการไว้ทุกอย่างเรียบร้อย แต่ต้องเรียนให้รัฐบาลทราบว่า ขั้นตอนการปฏิบัติสลายการชุมนุมมีรายละเอียดอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่อสถานที่และชีวิตผู้ชุมนุมอย่างไร ซึ่งท่านคงจะชั่งใจอีกครั้งว่าจะทำหรือไม่ แต่รัฐบาลต้องตระหนักว่า พร้อมจะรับความผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุ 7 ตุลาฯยังไม่จาง ซึ่งกองทัพเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ” พ.อ.สรรเสริญกล่าว

 

กองทัพไม่อยากทำร้ายคนไทย

 

เมื่อถามว่า หากนายกฯประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ทหารเข้าไปแก้ปัญหา ผบ.ทบ.พร้อมปฏิบัติตามหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญตอบว่า ถ้าได้รับคำสั่งต้องเรียนให้ท่านทราบว่า ผลเสียเป็นอย่างไร ท่านจะทำหรือไม่ ถ้าให้ทำ ในฐานะข้าราชการประจำจะต้องปฏิบัติ แต่กองทัพเห็นว่า ไม่น่าทำ ไม่เหมาะสมที่จะทำ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นทหารผู้ใดก็แล้วแต่ หากได้รับมอบหมายให้รับหน้าที่เป็นผู้นำ ถ้าเป็นทหารที่มีจิตวิญญาณความเป็นทหารอย่างแท้จริง ไม่ได้เอาอารมณ์ และความเมามันของตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่มีบุคคลใดที่จะกล้าดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นคนไทย เมื่อเสนอไปแล้วไม่ถูกใจไม่เป็นไร พ.อ. สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนถ้ายุบสภาแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯจะยุติการชุมนุมในสนามบินสุวรรณภูมิหรือไม่ เป็นเรื่องอนาคตไม่มีใครรับประกันได้ แต่ถ้ามองในมุมของรัฐ การพยายามแก้ปัญหาอย่างสุดวิธีเท่าที่จะทำได้ และถอยจนสุดตัว แต่ พันธมิตรฯยังไม่เลิก สังคมจะเป็นผู้ตัดสินพิพากษาว่า มีความชอบธรรมในการดำเนินการหรือไม่ เมื่อสังคมตัดสินกลุ่มผู้ชุมนมจะมีน้อยลง เจ้าหน้าที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้สะดวก และชอบธรรมขึ้น

 

ย้ำ ผบ.ทบ.ไม่กลัวถูกปลดพ้นเก้าอี้

 

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ได้เรียกประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์ร่วมของกองทัพบก เมื่อวันที่ 27 พ.ย. โดยกำชับให้ ผอ.รมน.ภาคไปบูรณาการ กับ ผอ.รมน.จังหวัด ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการปะทะกันไล่ยิงกัน เหมือนเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน หากเจอที่ไหนต้องจับ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ตลอดจนต้องคุมสถานีวิทยุชุมชนไม่ให้ปลุกปั่นความคิดของประชาชนให้เกิดความแตกแยกไปมากกว่าเดิม ซึ่ง กอ.รมน.จังหวัดต้องขับเคลื่อนใน 2 ประเด็นนี้เป็นหลัก เมื่อถามว่า การที่ ผบ.ทบ.เสนอให้ยุบสภา จะส่งผลให้นายกฯ ปลด ผบ.ทบ. หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า “ท่านจะปลด ผบ.ทบ.เหรอ ท่านเสนอแนะทางออกให้ ประเทศชาติด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ” เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ไม่กลัวถูกปลดจากตำแหน่งใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญตอบว่า ท่านอายุ 58 ปี ผ่านอะไรในชีวิตมามากมาย ไม่เคยกลัวอะไร

 

“หมอประเวศ” แนะ “สมชาย” ลาออก

 

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงสถานการณ์ พันธมิตรฯยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสถานที่สำคัญอีกหลายจุดในพื้นที่ กทม. เพื่อยุติการทำงานของรัฐบาลว่า ขอเสนอแนะให้ทุกฝ่ายเสียสละเพื่อบ้านเมือง อย่าคิดเรื่องแพ้หรือชนะ ขอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และ รมว.กลาโหม ลาออกทันที และขอให้พันธมิตรฯหยุดการยึดสนามบิน ยุติการเคลื่อนไหว เพราะบ้านเมืองเสียหายมาก ที่พันธมิตรฯทำมาก็มากพอแล้ว การเคลื่อนไหวถือเป็นประโยชน์สูงสุดแล้ว สามารถทำให้นายกฯ ถึงสองคนติดคุกได้ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน แต่กลุ่มพันธมิตรฯ อย่าคิดว่าต้องทำทุกเรื่องคนเดียว หลังจากนี้ให้เป็นเรื่องของสังคมและประชาชน พันธมิตรฯทำมาถูกแล้วและถึงที่สุดแล้ว ถ้าพันธมิตรฯรุกมากเกินไปมันไม่ดี จะกลายเป็นฝ่ายรับและตกในวงล้อมได้ ทั้งนี้ต้องให้เสร็จสิ้นภายในวันสองวันนี้ ต้องให้จบโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ บ้านเมืองต้องเสียหายไปมากกว่านี้

 

บีบนายกฯ รับข้อเสนอยุบสภา

 

นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และ รมว.กลาโหม ไม่ตอบรับข้อเสนอของ คตร.ที่ให้ยุบสภาว่า ต้องทำให้นายกฯ ตอบรับ เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถบริหารงานได้แล้ว ทางออกตอนนี้คือการคืนอำนาจให้ ประชาชน การยุบสภาเป็นแนวทางเป็นประชาธิปไตยที่สุด แทนที่จะเรียกร้องให้ยึดอำนาจ ถือเป็นแนวทางลดความกดดันขัดแย้ง แม้นายกฯ จะปฏิเสธข้อเสนอยุบสภาแต่ยังมีหวังว่านายกฯ จะตอบรับ เพราะยังมีเวลาทบทวนข้อเสนอ และใช้เวลาไตร่ตรองเพื่อไม่ให้นำบ้านเมืองไปสู่ความหายนะ ส่วนตัวเชื่อว่านายสมชายเป็นนักกฎหมาย ควรคิดว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางตามหลักประชาธิปไตยที่ต้องทำเพื่อบ้านเมือง หากไม่ได้รับการตอบรับ อาจต้องใช้การอารยะขัดขืนต่อไป โดยต้องดูรายละเอียดว่า ใครจะทำอะไร แค่ไหน อย่างไร

 

หวั่นปฏิวัติชนวนเหตุนองเลือด

 

นายสุรพลกล่าวว่า การที่นายกฯ อ้างว่าจะไม่ยุบสภา เพราะเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งนั้น เป็นความเข้าใจผิด เพราะการยุบสภาเป็นประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่การให้ลาออก อยากให้นายกฯเข้าใจข้อเสนอ การยุบสภาใหม่ หากเกิดความรุนแรงมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็ต้องเกิดเหตุการณ์เศร้าตามมามากมาย ในการประชุม คตร. หลายฝ่ายเรียกร้องให้ทหารปฏิวัติ เพื่อให้เหตุการณ์ต่างๆจบลง ซึ่งตนมองว่า ถ้าทำจริงๆ ใช้เวลา 3-5 ชม.สถานการณ์ก็ยุติ คงนำกลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมืองได้ แต่สิ่งที่ตามมาคือ ความเสียหาย เสียชีวิตของผู้คน คงได้ซากสุวรรณภูมิ การใช้อาวุธนำไปสู่เหตุการณ์น่าสลด ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี

 

งัดมาตรการสูงสุดคุมเข้ม บน.6

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากท่าอากาศยานกองบิน 6 (บน.6) ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน คณะรัฐมนตรี อาทินายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกฯ นายสุพล ฟองงาม นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.การพัฒนาสังคมฯ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รมช.พาณิชย์ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมช.คมนาคม ได้ทยอยมาขึ้นเครื่องบิน ซี 130 เพื่อไปร่วมประชุม ครม. นัดพิเศษที่ จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยกองทัพอากาศได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด สั่งปิดทางเข้า-ออก บน.6 ฝั่งถนนวิภาวดี มีสารวัตรทหารพร้อมอาวุธครบมือยืนคุ้มกัน ไม่ให้รถผู้สื่อข่าวและบุคคลภายนอกเข้าไปเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรฯ แฝงตัวเข้าไป ส่วนทางเข้า บน.6 ฝั่งถนนพหลโยธิน ก็มีการรักษาความปลอดภัย อย่างเข้มข้นเช่นกัน มีรถหุ้มเกราะติดอาวุธหนักของอากาศโยธินมาจอด พร้อมด้วยทหารอากาศโยธินในชุดลายพราง ยืนถืออาวุธปืน เอ็ม 16 ปิดอยู่บริเวณทางเข้า-ออก และมีการตรวจค้นรถอย่างละเอียดทุกคัน โดยไม่อนุญาตให้ ผู้สื่อข่าวหรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ บน.6 เด็ดขาด

 

ครม.ระทึกเครื่อง ซี 130 ขัดข้อง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนกระทั่งเวลา 10.00 น. เครื่องบิน ซี 130 ของกองทัพอากาศ ได้นำรัฐมนตรีออกจากท่าอากาศยาน บน.6 แต่ปรากฏเมื่อบินขึ้นไปได้ ประมาณ 40 นาที นักบินได้แจ้งว่า เครื่องยนต์ขัดข้อง เนื่องจากเครื่องยนต์ดับ 1 เครื่อง ต้องนำเครื่องกลับมาลงฉุกเฉินที่ท่าอากาศยาน บน.6 อีกครั้ง ก่อนที่จะเปลี่ยนให้ ครม.ขึ้นเครื่องบินเจ็ทสตรีมไป จ.เชียงใหม่ โดยให้ขึ้นไปได้เฉพาะรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนผู้ติดตามให้อยู่ที่ บน.6 เนื่องจากเครื่องบินมีขนาดเล็กเพียง 10 กว่าที่นั่ง ในขณะที่ ครม.บางส่วนได้ทยอยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปจ.เชียงใหม่ ตั้งแต่คืนวันที่ 26 พ.ย. สำหรับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม เดินทางโดยเครื่องบินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วน ครม.ที่ไม่ได้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เช่น นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รมว.ยุติธรรม และนางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน ได้ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ที่กระทรวงมหาดไทย

 

โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ได้ไปร่วมประชุมครม.นัดพิเศษที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากติดภารกิจร่วมทำบุญครบรอบ 90 ปี กระทรวงสาธารณสุข ในวันเดียวกันนี้

 

ประชุม ครม.เชียงใหม่ขลุกขลัก

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ว่า หลังจากที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและรมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษที่ จ.เชียงใหม่ ในเวลา 13.00 น. วันที่ 27 พ.ย.นี้ ปรากฏว่าในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสมชายได้เก็บตัวอยู่ที่บ้าน ในหมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จนถึงช่วงบ่ายคณะรัฐมนตรีได้ทยอยเดินทางเข้ามายังบ้านของนายกฯ แต่มีรัฐมนตรีบางส่วน เกิดเหตุขัดข้องเดินทางล่าช้า ส่งผลทำให้การประชุม ครม. ต้องล่าช้าตามไปด้วย กระทั่งเวลา 14.30 น. คณะรัฐมนตรีทั้งหมดได้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเดินทางออกจากหมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ ไปยังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่พร้อมๆกัน โดยที่ทาง จ.เชียงใหม่ได้จัดเตรียมสถานที่การประชุม ครม. ไว้อย่างพร้อมเพรียง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ได้มีกลุ่มสมาพันธ์ เพื่อประชาธิปไตยเชียงใหม่ ประมาณ 30 คน สวมเสื้อและโพกผ้าแดงยืนตะโกนอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้า เพื่อให้กำลังใจนายสมชายและ ครม.ต่อสู้ต่อไป

 

เชื่อไม่เกินสิ้นเดือนนี้ทุกอย่างยุติ

 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการเดินทางมาร่วมประชุม ครม.ที่ค่อนข้างติดขัดว่า รัฐมนตรีได้เดินทางมาหลายวิธี บางส่วนเดินทางด้วยรถยนต์ บ้างก็เดินทางด้วยเครื่องบินของกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ ส่วนรัฐมนตรีที่เดินทางมาด้วยเครื่องบินซี 130 นั้น ได้เกิดเหตุขัดข้องกลับไปลงที่ บน.6 ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเหตุที่เครื่องขัดข้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ไม่ได้ตั้งข้อสังเกตอะไรให้เกิดความรู้สึกอะไรที่ไม่ดี สำหรับการประชุม ครม.วันนี้นอกจากจะพิจารณาวาระตามปกติแล้ว ยังจะมีการพิจารณาแก้ไขสถานการณ์การชุมนุมด้วย เมื่อถามว่า รัฐบาลจะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมสถานการณ์หรือไม่ นายณัฐวุฒิ ตอบว่า เป็นไปได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือแม้แต่กฎอัยการศึก เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายณัฐวุฒิปฏิเสธว่าไม่ทราบ เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้จำเป็นต้องให้ ทหารเข้ามาช่วยเหลือหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า มีความจำเป็น เพราะมีการยึดสนามบิน และถูกมองจากนานาชาติว่าเป็นการก่อการร้าย เมื่อถามว่า การประชุมอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพยังมีอยู่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะกว่าจะถึงวันนั้นก็คงจะเรียบร้อย แล้ว  คงไม่เกินสิ้นเดือนนี้  รัฐบาลคงมีมาตรการอะไรออกมา

 

ดักคอปฏิวัติยันไม่มีเด้ง ผบ.เหล่าทัพ

 

ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงข่าวอีกครั้งระหว่างการประชุม ครม. ถึงกระแสข่าวที่ว่าจะมีการปลด ผบ.เหล่าทัพ รวมทั้งกระแสข่าวการปฏิวัติว่าในระหว่างที่มีการประชุม ครม. ได้มีการกระแสความวิตกให้กับประชาชนทั้งประเทศ คือ 1. จะมีการปลด ผบ.เหล่าทัพ 2. มีการเคลื่อนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะรถถังเพื่อกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจ นายกฯได้มอบหมายให้ตนแถลงข่าวว่า ครม.วันนี้พิจารณาไปตามระเบียบวาระการประชุมปกติ โดยไม่มีวาระเลื่อน ลด ปลด ย้ายทหาร ผบ.เหล่าทัพแม้แต่นายเดียว นอกจากนี้ขอให้ประชาชนอย่าวิตก เรื่องการปฏิวัติขอให้ทำตัวปกติ ขณะเดียวกัน ขอให้ทหารทุกกรมกองปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอยู่ในที่ตั้ง เพื่อยุติกระแสดังกล่าวที่เกิดขึ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและ รมว.กลาโหมได้กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการประชุม ครม.ว่า รัฐบาลต้องรักษากฎหมาย อันไหนไม่ถูกต้องก็ต้องบังคับใช้ให้ได้ผล  โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเวลานี้ศาลแพ่งได้มีคำสั่งออกมาแล้ว เราต้องดำเนินการต่อไป

 

นายกฯย้ำอาเซียนห่วงสถานการณ์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน เป็นไปท่ามกลางกระแสข่าวลือเรื่องการปลด ผบ.ทบ.ออกจากตำแหน่ง และกระแสข่าวลือว่าทหารจะทำการปฏิวัติรัฐประหาร อย่างไร ก็ตาม ปรากฏว่าในช่วงแรกของการประชุม นายสมชายยังคงมีท่าทียิ้มแย้ม ไม่เคร่งเครียด โดยได้เล่าถึงการเดิน ทางไปประชุมผู้นำประเทศเอเปค ที่ประเทศเปรู และได้ เข้าสู่ระเบียบวาระต่างๆ ตามปกติ โดยช่วงหนึ่งได้หารือกันถึงกรณีที่กลุ่มประเทศอาเซียน แสดงความไม่สบายใจ ต่อสถานการณ์การชุมนุมในไทย และจะขอให้เลื่อนการประชุมอาเซียนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพออกไป ซึ่งนายกฯยังคงยืนยันว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพ และจะจัดการประชุมอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังได้ให้ความเห็นชอบ พ.ร.ฎ.เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 8-9 ธ.ค. เพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาให้ความเห็นชอบกรอบสนธิ สัญญาเกี่ยวกับอาเซียน ที่จะต้องใช้ในการลงนามในการประชุมอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่

 

จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

 

จนกระทั่งในช่วงท้าย นายกฯได้หยิบยกเรื่องสถาน-การณ์การชุมนุมของพันธมิตรฯเข้ามาหารือเป็นการเฉพาะ เพื่อพิจารณาการออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินการให้กลุ่มพันธมิตรฯออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ โดยนายกฯระบุว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯได้สร้างความเสีย หายแก่ประเทศชาติอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว สินค้าเกษตรก็ส่งออกไม่ได้ งานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์มีปัญหาหมด ที่สำคัญเมื่อปิดสนามบิน ยาที่จะต้องนำเข้าจากต่างประเทศก็นำเข้ามาไม่ได้ ทำให้ผู้ป่วยต้องเดือดร้อน การปิดสนามบินทำให้มูลค่าความเสียหายวันละเป็นพันล้านบาท ดังนั้น ได้ปรึกษาหารือกับหลายฝ่ายแล้วเห็นว่า ขณะนี้มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้

 

ครม.หนุนดับปัญหาก่อนชาติพัง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ครม.ต่างก็แสดงความเห็นด้วยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะ พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม จากพรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะ อดีตนายตำรวจเก่าต่างก็ช่วยสนับสนุนยืนยันสามารถทำ ได้อยู่แล้ว เพื่อจะให้มีเครื่องมือให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความสงบเรียบร้อยได้ และที่สำคัญต้องรีบทำด้วยเพื่อไม่ให้ประเทศชาติเสียหายไปมากกว่านี้ ทั้งนี้ นายกฯระบุว่าจะเป็นผู้แถลงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้วยตัวเอง ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ในเวลา 20.30 น. อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้น ปรากฏว่ากระแสข่าวลือเรื่องทหารจะทำการรัฐประหารได้ลือกระหน่ำหนักหน่วงมากขึ้น โดยมี ส.ส.ระดมโทรศัพท์แจ้งกระแสข่าวการรัฐประหารเข้าไปให้นายกฯและ ครม.รับทราบกันอย่างถี่ยิบ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 16.15 น. มีช่วงหนึ่งที่นายกฯได้ลุกออกจากห้องประชุม ครม.เพื่อมาเข้า ห้องน้ำ รัฐมนตรีบางส่วนที่ได้รับข้อมูลการปฏิวัติรัฐประ-หาร ได้ทยอยออกมาจับกลุ่มพูดคุยในเรื่องนี้กันอยู่หน้าห้องประชุม โดย ครม.ส่วนใหญ่ไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนก เพราะมีการประเมินสถานการณ์ และคาดหมายเพื่อเตรียมรับสถานการณ์เอาไว้แล้ว

 

นายกฯต่อสาย ผบ.ทบ.สยบปฏิวัติ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุม ครม. นายกฯ ได้ต่อสายโทรศัพท์สายตรงไปถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. โดยนายกฯได้ปฏิเสธกระแสข่าวลือว่า จะมีการสั่งปลด ผบ.ทบ. พร้อมสอบถามถึงกระแสข่าวการปฏิวัติ ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ปฏิเสธว่าเป็นเพียงข่าวลือ และยืนยันว่าจะไม่ ทำรัฐประหาร จากนั้นนายสมชายจึงได้สั่งการให้โฆษกประจำสำนักนายกฯ รีบออกมาแถลงข่าวดับกระแสข่าวลือการปลด ผบ.ทบ. ก่อนที่การประชุมจะเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม บรรดา ครม.ส่วนใหญ่ก็ไม่มั่นใจ ต่อคำยืนยันของ พล.อ. อนุพงษ์ และได้ประสานกับ ส.ส.และเครือข่าย เพื่อระดมคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านการรัฐประหารกันอย่างเต็มที่

 

ขณะเดียวกัน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ได้แถลงชี้แจงกรณีที่มีผู้พบเห็นรถถังและเข้าใจว่าทหารจะปฏิวัติว่า รถถังดังกล่าวเป็นรถถังแบบ “สกอร์เปี้ยน” ของกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 1 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ที่ได้นำมาแสดงให้นักเรียนเสนาธิการทหารบกชม ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจึงเคลื่อนย้ายกลับที่ตั้ง ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ บางกระบือ จึงขอเรียนให้ประชาชนได้รับทราบ และอย่าตื่นตระหนกหรือเข้าใจผิดใดๆ

 

นายกฯไม่เครียด-ทำใจให้สบาย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระหว่างการประชุม  ครม.  นายสมชายได้อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปบันทึกภาพการประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่ห้องประชุมบนชั้น 3 ของศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยในช่วงที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพในห้องประชุม นายสมชายมีใบหน้ายิ้มแย้มและพูดว่า “ผมไม่เครียด ขอทุกๆคนอย่าเครียด ทำตัวทำใจให้สบาย” ทำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมผ่อนคลายไปได้บ้าง แต่ยังมีรัฐมนตรีหลายคนที่ยังยิ้มไม่ออก ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. ขณะที่ ครม.กำลังประชุมอยู่ ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่หน้า ประตูทางเข้าศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ใกล้จุดที่กลุ่มรักเชียงใหม่ กว่า 500 คน โดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ ปักหลักชุมนุมกันอยู่ สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้ชุมนุม จากการสอบถามทราบว่า มีคนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา แล้วจุดประทัดยักษ์โยนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมก่อนเร่งเครื่องหลบหนี คาดว่าเป็นฝ่ายกลุ่มพันธมิตรฯก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย อย่างไร ก็ตามแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ยืนยันว่า หากนายกฯถูกกดดันให้ยุบสภาหรือลาออก ก็จะบุกเข้าไปยึดศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ทันที

 

ครม.ให้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม.นัดพิเศษเสร็จสิ้น ต่อมาเวลา 18.30 น. พล.ต.อ.โกวิทได้ลงมาจากห้องประชุม พร้อมบอกกับกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านที่มารอรับว่า “จะต้องรีบเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพราะรู้ๆอยู่ว่า มีเหตุการณ์ ที่กรุงเทพฯ และรู้ๆอยู่ทุกคนมีเส้นกันทั้งนั้น” ส่วนนายสมชายหลังออกจากห้องประชุมแล้ว ได้รีบเดินเข้าไปในห้องทำงานของนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.เชียงใหม่ทันที

 

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ครม.มีมติให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแก้ไข ปัญหา ในมาตรการที่เหมาะสม โดยที่สนามบินสุวรรณภูมิมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ดูแลรับผิดชอบ ส่วนที่สนามบินดอนเมือง มอบให้ ผบช.น.ดูแลรับผิดชอบ ทั้งนี้ จะให้ทหารให้การสนับสนุนตำรวจ ในฐานะผู้ช่วย เจ้าพนักงาน หากเห็นว่าเกินกำลังของตำรวจ เพื่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิทบอกว่า ให้ใช้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายสากล รวมทั้งกฎหมาย ปปง. ในฐานความผิดฟอกเงิน เพื่อโยงไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ในขณะที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ ได้กล่าวกับ ครม.ว่า จะต้องทำให้เกิดผลในทางปฏิบัติ และ ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

 

นายกฯประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง

 

ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น. ที่ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ตามที่ปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลเข้ายึดท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้เกิดความวุ่นวาย นำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศ จำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วน เพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของประชาชน การรักษาความสงบเรียบร้อย และไม่กระทบต่อการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำที่มีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล จึงมีความจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหา ให้ยุติอย่างมีประสิทธิภาพทันท่วงที อาศัยอำนาจตามความมาตรา 5 และมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกฯ จึงให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตดอนเมือง เขตลาดกระบัง กทม. และ อ.บางพลี อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

มท.1-ผบช.น.-ผบช.ภ.1 สลายม็อบ

 

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 301/2551 เรื่องการแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยนายกฯ มีคำสั่งแต่งตั้งดังต่อไปนี้ 1.ให้ รมว.มหาดไทยเป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบพนักงานเจ้าหน้าที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ 2.บริเวณท่าอากาศยานดอนเมืองและพื้นที่ต่อเนื่องในเขต กทม. ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับผิดชอบ และให้ข้าราชการตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการทหารกองทัพอากาศ และข้าราชการพลเรือนตามที่ได้รับมอบหมายเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3.บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและพื้นที่ต่อเนื่องเขตลาดกระบัง กทม. และ อ.บางพลี อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ให้ ผบช.ภ.1 เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบ และให้ข้าราชการตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการทหารกองทัพเรือ และข้าราชการพลเรือนตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

ให้ทหารช่วยเจ้าพนักงานหากจำเป็น

 

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า 4.ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบตามข้อ 2. และ 3. มีอำนาจแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งให้มีอำนาจดังต่อไปนี้ 4.1 บังคับบัญชาและสั่งการส่วนราชการ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด 4.2 ดำเนินการอื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือผู้กำกับการปฏิบัติงานมอบหมาย 5.กรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ให้ข้าราชการทหารกองทัพบกช่วยเหลือการปฏิบัติงาน เมื่อได้รับการร้องขอจากหัวหน้าผู้รับผิดชอบตามข้อ 2 หรือ 3 ในการนี้ให้ข้าราชการทหารกองทัพบก ตามที่ได้รับมอบหมายเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย 6.ให้ผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

นายกฯยืนยันปกป้องชาติและ ปชต.

 

ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและ รมว.กลาโหม ได้แถลงการณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีว่า วันนี้บ้านเมืองของเรายังคงมีภาวะที่ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่สนามบินของเราทั้งสองแห่งใช้การไม่ได้ ค่าเสียหายวันหนึ่งก็มากมาย ประเมินแล้วรวมกับความเสียหายแล้ว ไม่ต่ำกว่าวันละแสนล้านบาท เพราะฉะนั้นคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นภัยร้ายแรงต่อชาติบ้านเมือง เป็นสภาวะที่ร้ายแรง เราสูญเสียรายได้มากมายขณะนี้ไม่เพียงพอ เรายังทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากมาย อยากจะขอร้องท่านที่ไปปิดกั้นสนามบินว่า เราได้ทำความเสียหายร้ายแรงต่อบ้านเมืองมากันมากแล้ว ก็อยากจะให้ช่วยให้เห็นว่าบ้านเมืองเราสู่ภาวะปกติ การขนส่งสินค้าต่างๆ ไม่ว่าสินค้าการเกษตร เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต้องส่งโดยรวดเร็วนั้น ไม่สามารถทำได้ วันหนึ่งผลิตผลจากการเกษตรของพี่น้องเกษตรกรทั้งหลาย ตกค้างส่งไปเมืองนอกไม่ได้จำนวนมาก คำนวณแล้วเฉพาะสินค้าเกษตรนั้น เสียหายวันละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท ถ้าหากว่าเราไม่คิดถึงชาติบ้านเมืองและพี่น้องประชาชน การท่องเที่ยวอันนี้ก็ร้ายแรง คนต่างชาติที่มาค้างอยู่ที่สนามบิน ภาวะอย่างนี้กว่าเราจะฟื้นกลับคืนมาได้ คงต้องจะใช้เวลานับแรมปี ความเชื่อมั่นทั้งหลายจะสูญหายไปโดยไม่มีทางเรียกคืนมาได้ สรุปว่าผู้ที่รับกรรมสุดท้ายก็คือพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ

 

เอาประเทศมาเป็นประกันไม่ถูกต้อง

 

นายกฯกล่าวว่า เพราะฉะนั้น ถ้าท่านเอาประเทศไทยเป็นตัวประกัน เอาพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งชาติเป็นตัวประกันนั้น น่าจะไม่ถูกต้อง นอกจากความเชื่อมั่นหายไปแล้ว ความลำบากทุกยากแก่พี่น้องประชาชนนั้นก็จะเกิดขึ้น ผมเลยอยากจะวิงวอนว่าให้ท่านได้ฉุกคิดเรื่องนี้ และในโอกาสนี้ผมคิดว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลก็คงจะต้องดำเนินการบางอย่างบางประการ เพื่อให้ความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา ซึ่งขณะนี้ก็ได้ทราบว่า ทางศาลได้รับฟ้องจากการท่าอากาศยาน เพื่อมิให้ผู้บุกรุกเข้าไปได้ไปทำความเสียหายอีก ก็ได้ให้การคุ้มครองโดยให้บังคับให้ออกไป ก็หวังว่าทุกท่านคงจะปฏิบัติตามคำสั่งศาล อย่างไรก็ตาม อย่างที่ผมได้เรียนแล้วว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยในบ้านเมือง ผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉินเป็นบางจุด ภาวะฉุกเฉินร้ายแรงตามพระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดินในสภาวะฉุกเฉิน เพราะฉะนั้น จึงเรียนให้ทราบอีกครั้งหนึ่งว่า การที่ประกาศเช่นนี้ไม่ได้มีความมุ่งร้ายที่จะทำร้ายใครหรือพี่น้องประชาชน แต่เป็นการต้องการให้เจ้าหน้าที่ได้รับความสะดวกในการทำงานและช่วยเคลียร์ ช่วยทำความเข้าใจกับพี่น้องที่เข้าใจผิดในสถานการณ์ปัจจุบัน

 

ให้ตำรวจเป็นทัพหน้าทหารคอยหนุน

 

นายสมชายกล่าวว่า อยากจะเรียนว่าสถานการณ์ ฉุกเฉินนั้น เป็นการประกาศเพียงชั่วคราว มอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เป็นผู้ดูแลสถานการณ์ ทั้งหมด ที่ดอนเมืองนั้น พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยขอให้กองทัพอากาศเป็นผู้สนับสนุนกำลัง ในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ สถานที่อีกแห่งหนึ่งคือสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ของเราที่เราเคยภาคภูมิใจกัน ซึ่งขณะนี้ก็มีปัญหาผมก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ฉลอง สมใจ ผบช.ภ.1 เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่ และขอให้ขอกำลังสนับสนุนจากกองทัพเรือมาช่วยดูแล เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการที่ไปทำความเข้าใจกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน นอกจากนั้น ก็จะขอให้กองทัพบกช่วยสนับสนุนกำลังในกรณีที่ว่ามีความจำเป็น อยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลนั้นเป็นรัฐบาลที่เข้ามาและก็ออกไปตามครรลองของประชาธิปไตย และกฎหมายรัฐธรรมนูญที่มีบัญญัติไว้ เราเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย มีความมั่นคง ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองคนทั้งชาติ คุ้มครองคนส่วนใหญ่ คุ้มครองผู้บริสุทธิ์และเพื่อสวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตของพ่อแม่พี่น้องประชาชน

 

ยืนยันทหารไม่คิดปฏิวัติรัฐประหาร

 

“วันนี้ก็มีการใส่ร้ายป้ายสีกันบ้าง มีการปล่อยข่าวซึ่งไม่เป็นความจริงกันบ้าง ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย พ่อแม่พี่น้องบางคนก็ตื่นตระหนกตกใจ บางทีก็มีการปล่อยข่าวว่า ทหารได้มีการเคลื่อนกำลัง จะทำให้เกิดภาวะผิดปกติในบ้านเมือง ผมอยากกราบเรียนว่าผมก็ได้พยายามพูดคุยหรือว่าทำงานร่วมกันกับท่านผู้บังคับบัญชาของเหล่าทัพ   ซึ่งทุกท่านก็ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมือง   ผมเข้าใจดีว่าทุกท่านก็อยากให้บ้านเมืองของเราเดินไปสู่ ความสงบสุข ผมอยากจะเรียนว่า วันนี้คงต้องมาร่วมกันทำงานด้วยความเสียสละด้วยความอดทน ด้วยความอดกลั้น ต่อสถานการณ์ต่างๆ สิ่งยั่วยุต่างๆ หรือสิ่งแปลกปลอม สิ่งที่ปล่อยข่าวใส่ร้ายป้ายสีกันนั้น ก็จะต้องฟังด้วยความหนักแน่นและมีเหตุผลในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ผมขอยืนยันว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาล จะขอทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ปกป้องระบอบประชาธิปไตย และปกป้องลูกหลานของเรา เพื่อให้เดินทางไปสู่การพัฒนาที่มีความสุข และร่วมกันพัฒนาประเทศ ชาติของเรา ร่วมกันอยู่ภายใต้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้บ้านเมืองของเราร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา” นายกฯกล่าวในที่สุด

 

นายกฯอยู่เชียงใหม่ยังไม่กลับ กทม.

 

นายสมชายให้สัมภาษณ์ถึงการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดจึงไม่ให้ทหารเข้ามาควบคุมดูแลเหตุการณ์แทนตำรวจ ปรากฏว่า นายสมชายไม่ยอมตอบคำถามดังกล่าว เมื่อถามว่าจะกลับ กทม.เมื่อไหร่ นายสมชายตอบว่า ขอดูก่อน อยากจะอยู่ที่เชียงใหม่เพื่อดูการเตรียมการประชุมอาเซียนก่อน

 

น.ส.วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ยืนยันว่า ประเทศไทย ยังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียนในเดือน ธ.ค.นี้ โดยอนุมัติให้วันที่ 15-18 ธ.ค.เป็นวันหยุดราชการในเขต อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้นำประเทศต่างๆ รวมทั้งเรื่องการรักษาความปลอดภัย

ติดต่อโฆษณา นสพ.ไทยรัฐออนไลน์ โทร 0-2636-0726
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
 สมชาย 'ไม่ยุบ' ออกทีวีแจง แกนนำพธม.ไม่ฟัง [27 พ.ย. 51 - 04:23]
 สั่งพธม.ออกจากสุวรรณภูมิ [27 พ.ย. 51 - 04:38]
 แฉธุรกิจชาติเจ๊งย่อยยับทัวร์-ส่งออก การบินวินาศ [27 พ.ย. 51 - 04:30]



ข่าวการเมืองแฟ้ม 2

มติชน "มาร์ค"บอกสื่อนอก"วิกฤตไทย" คือ"ประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวา"
มติชนว่า "มาร์ค-สุเทพ"ลั่นเอาผิด2ฝ่าย ใช้ภาพมัด
ข่าวไทยรัฐ พธม.บุกผามออีแดง ปทะชาวบ้านบาดเจ็บนับสิบแล้วหนีไป
ไทยรัฐ:แฉปลุกระดมหนัก ม็อบแรง ถกผบ.4ทัพรับมือ
มติชน ยูเอ็นขอตั้งสำนักงานในสามจังหวัดชายแดนใต้ไทย
ใต้ระอุ ลอบถล่มฆ่า5อส. ก.ย.52
มติชน : สั่ง22รมต.งดโหวต"งบฯ" รบ.ไม่เสี่ยง เกิน18เสียงเชื่อผ่านสภา
ไทยรัฐ : ชาวเน็ตโจมตีหมอ คนดังติดหวัดตาย
ไทยรัฐ : อภิสิทธิ์'ยืนยัน คลิปตัดต่อ เป็นเสียงตัวเอง
ไทยรัฐ:เผยเบื้องหลังสุเทพ เทือกสุบรรณ ลาออกจาก ส.ส.
ไทยรัฐ:กกต.ฟัน13สส. สิ้นสภาพ เทพเทือกไม่รอด
ไทยรัฐ : ทักษิณ'เล็ง3ธุรกิจ ในไลบีเลีย พร้อมทุ่มเงินลงทุน
ไทยรัฐ : รุกไล่ถลุงมิแรนด้า 'ไอ้กร'ยังเจ๋ง สอยเข็มขัดแชมป์
ไทยรัฐ : ตะลึงพบเว็บไซต์กลุ่มหัวรุนแรงเกิดขึ้นเกลื่อน [19 เม.ย. 52 - 16:37]
ไทยรัฐ : 7 องค์กรแถลงการณ์ร่วมใช้แนวทางสันติวิธี [13 เม.ย. 52 - 12:41]
ไทยรัฐ : เสื้อแดงโต้กร้าว ไล่พิจิตร ลาออกองคมนตรี [5 เม.ย. 52 - 03:07]
ไทยรัฐ : ทีมการเมืองวิเคราะห์ : ล่อแหลมละเมิด เขย่าสถาบัน [5 เม.ย. 52 - 00:55]
ไทยรัฐ : บีบีซีจี้ถามที่มารบ.อภิสิทธิ์ กรณ์ไม่หวั่นเสื้อแดงค้านกู้ [2 เม.ย. 52 - 08:05]
ไทยรัฐ : ศิษย์เก่าสวนฯให้กำลังใจเปรม คิวต่อไปเชียร์สุรยุทธ์ [2 เม.ย. 52 - 06:41
ไทยรัฐ : เขมรรุกพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารไทยท้วงติงไม่ได้ผล [1 เม.ย. 52 - 19:21
ไทยรัฐ : เทพไทยันไม่งดประชุมครม. ยื่นศาลเปิดประตูทำเนียบ [31 มี.ค. 52 - 07:35]
ไทยรัฐ : “จาตุรนต์”ไล่บี้“สุรยุทธ์”ไขก๊อกองคมนตรี [30 มี.ค. 52 - 20:14]
ไทยรัฐ : แฉ'กษิต'หมดเปลือก แม้วให้เงินใช้ประจำ [30 มี.ค. 52 - 21:55]
ไทยรัฐ : เสื้อแดงบุกเผาหุ่นป๋าเปรมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ [28 มี.ค. 52 - 16:31]
ไทยรัฐ : สุรยุทธ์ออกโรงโต้ ปัดรวมหัวคิดปฏิวัติ [28 มี.ค. 52 - 18:04]
ไทยรัฐ : 'ทักษิณ' ดับเครื่องชน แฉเปรม ผู้มีบารมีนอกรธน. [28 มี.ค. 52 - 05:02
มติชน : อัยการสั่งไม่ฟ้องนปช.บุกบ้าน"เปรม"
มติชน : พัลลภ"ยัน"สุรยุทธ์"ร่วมวง วางแผนล้ม"ทักษิณ" จี้ลาออก"องคมนตรี"
ไทยรัฐ : “พัลลภ” แฉจำลองเพื่อนรัก “จปร.7” หลอกใช้ [28 มี.ค. 52 - 10:22
ไทยรัฐ : สุรยุทธ์นัดแถลง 4 โมงเย็น พะจุณณ์แอ่นอกป้องเปรม [28 มี.ค. 52 - 10:01]
ไทยรัฐ : ยุบสภาไม่ใช่ทางออก นายกฯปัดข้อเสนอทักษิณ [28 มี.ค. 52 - 12
ไทยรัฐ : ปิดแผนนายกฯเข้าทำเนียบ น.1มั่นใจได้ทำงานแน่ [27 มี.ค. 52 - 06:53]
ไทยรัฐ : มาร์คเตือนทักษิณอย่าดึงสถาบันมาเกี่ยวการเมือง [23 มี.ค. 52 - 16:
ไทยรัฐ : พัลลภรับเล่าเบื้องหลังปฏิวัติ ปัดวางแผนลอบฆ่าทักษิณ [23 มี.ค. 52 - 14:43]
มติชน : เฉลิม VS ปชป. "ไซฟ่อนเงิน" ทีพีไอ-กกต.?
มติน : กกต.รับลูกดีเอสไอเร่งชงคดี"258ล." "สดศรี"ขู่ปมเงินปชส.ถึงขั้นยุบพรรคได้
ไทยรัฐ : กัลยาเดือดโต้หนักหัวใครใช้นามสกุลโสภณพนิช [20 มี.ค. 52 - 18
ไทยรัฐ : มหาเถรฯต้านแก้กม.สงฆ์ให้นายอำเภอ-ผอ.เขตสึกพระ [20 มี.ค. 52 - 18:25
โพสต์ทูเดย์ : จตุพร"อัด"นายกฯ"ใช้ สด.9 เท็จ
โพสต์ทูเดย์ : ฝ่ายค้าน เกือบเสียท่า!
ไทยรัฐ : สภาเดือดหวิดปะทะ แจกกล้วยกลางที่ประชุม [19 มี.ค. 52 - 21:00]
ไทยรัฐ : ส.ส.เพื่อไทยสดุดี “เฉลิม” อภิปรายเยี่ยม-จ่อแฉอีก [19 มี.ค. 52 - 16:44
ไทยรัฐ : วิปรบ.ประเมิน'เฉลิม' อภิปรายเหมือนปืนใหญ่ยิงด้าน [19 มี.ค. 52 - 16:35
ไทยรัฐ : เหลิมโชว์หลักฐานกลางสภาเส้นทางไซฟ่อนถึงยุบปชป. [19 มี.ค. 52 - 13:
มติชน : "มาร์ค"มั่นใจผ่านปม258ล. ยุบ"ปชป."ไม่ได้ "เฉลิม"ย้ำ"เช็ค-เอกสาร"มัด
ไทยรัฐ : ประชาให้เวลากษิตบ่าย2 ตัดสินใจลาออกก่อนยังทัน [19 มี.ค. 52 - 12:17
มติชน : ส่งฟ้องสินบนบ้านเอื้ออาทร ปปช.ฟัน"วัฒนา"
มติชน นาทีต่อนาที รบ.พลิกเกมหนีเสื้อแดง ชิงแถลงนโยบาย กท.ต่างประเทศ
ไทยรัฐ โปรดเกล้าฯครม. มาร์คปัด 500ล้านซื้อเก้าอี้ [21 ธ.ค. 51 - 03:40]
ไทยรัฐ ปชป.อกหักแฉแก๊งออฟโฟร์ [21 ธ.ค. 51 - 04:28]
ไทยรัฐ โปรดเกล้าฯครม. มาร์คปัด 500ล้านซื้อเก้าอี้ [21 ธ.ค. 51 - 03:40]
เลขาธิการสภาฯ นำชื่อ “อภิสิทธิ์” ทูลเกล้าฯแล้ว [15 ธ.ค. 51 - 19:56]
ไทยรัฐ:สนธิ' ประกาศชัยชนะยุติการชุมนุม 10 โมงเช้า [2 ธ.ค. 51 - 19:47]
ไทยรัฐ:นปช.ปักหลักถึง 5 ธ.ค.-ผบช.น.วอนอย่าเคลื่อนพล [30 พ.ย. 51 - 20:40]
ไทยรัฐ : บุกปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
ไทยรัฐ:สุวรรณภูมิหยุดให้บริการ ผู้ชุมนุมพังประตูสนามบิน [25 พ.ย. 51 - 22:10]



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----