รายงานข้อมูลการศึกษาเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อในยุครัฐบาลทักษิณ
1. ไม่เหมือนสถานการณ์ 14 ต.ค.16
รายงานบทที่ 1รายงานการชุมนุม ต่อต้านรัฐบาล[1] บทวิเคราะห์พิเศษ (1)รายการชุมนุม กู้ชาติ 11 ก.พ. 49 ปิดบัญชีทักษิณณ ลานพระบรมรูปทรงม้า, ASTV 1 และ 3 วันที่ 11 ก.พ. 2549 เวลา 1200 - 2400 น
สถานการณ์การเมือง ไม่เหมือนสถานการณ์ 14 ต.ค. 16 เลย ยุคนั้นเป็นการต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหาร ยุคสฤษดิ์-ถนอม-ประภาส รัฐบาลมาจากอำนาจการปฏิวัติ ดูแคลนประชาชน เพราะให้สัญญาว่าจะร่างรัฐธรรมนูญแต่ไม่คิดทำตามสัญญา กลับดองรัฐธรรมนูญไว้เป็นเวลากว่า 10 ปี
ยุคทักษิณ รัฐบาลมาตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ที่ประชาชนร่วมกันร่างสร้างขึ้นมา จนได้ชื่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ในการเลือกตั้ง พรรครัฐบาลทักษิณได้เสียงในสภาอย่างท่วมท้น จนพอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวขึ้นได้เป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีประชาชนกว่า 19 ล้านเสียงสนับสนุน
ยุคนั้นเป็นยุคสุกงอมทางประชาธิปไตยโดยแท้จริง การต่อสู้เป็นไปอย่างธรรมชาติ และด้วยพลังหนุ่มสาวและคนทุกระดับที่บริสุทธิ์ จริงใจ เมื่อผสมเข้ากับการนำที่เชี่ยวชาญ จึงกลายเป็นความเคลื่อนไหวที่มีพลังมาก กระนั้น ความสำเร็จกลับเกิดจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ทำให้กระแสมวลชนที่เปราะบาง ตื่นตระหนก ตกใจ และพุ่งไปอย่างบ้าคลั่ง อย่างไม่มีเจตนา หวิดก่อความหายนะอย่างใหญ่หลวงแก่มหาชนไทยทั้งประเทศ หากมิเพราะพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงคุ้มครองป้องกันไว้ จึงสงบ แล้วนำไปสู่การปฏิวัติปฏิรูปทางการเมืองอย่างเป็นประวัติการณ์ และส่งผลมาจนถึงปัจจุบันนี้
ยุคปัจจุบัน มิได้เป็นเช่นนั้น รัฐบาลทักษิณเป็นผลพวงของกติกาหรือสัญญาประชาคม ซึ่งเป็นความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเป็นความชอบธรรมตามกฎการแข่งขันทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลทักษิณมาในช่วงเวลาที่ชาติมีวิกฤตทางเศรษฐกิจ ยุคไอเอ็มเอฟ. ที่ประชาชนกำลังมองหาผู้นำ ที่จะมากอบกู้เศรษฐกิจของชาติ ให้ฟื้นสู่ความเป็นไท และได้ให้ความไว้วางใจแก่ ดร.ทักษิณอย่างท่วมท้น และประชาชนไม่ผิดหวัง เมื่อรัฐบาลทักษิณได้สร้างผลงานที่ประทับใจประชาชนมาตลอด เริ่มด้วยการปลดหนี้จำนวนมหาศาลของชาติที่เกิดเพราะการบริหารงานผิดพลาด ของรัฐบาลก่อน ซึ่งทำพื้นฐานทางเศรษฐกิจของชาติล่มจมลงไปอย่างหนัก ไทยกลายเป็นหนี้ต่างชาติมหาศาล เงินคงคลังหายเกลี้ยงไป รัฐบาลทักษิณได้พิทักษ์เงินสำรองของชาติให้พ้นจากวิกฤต จากสถานการณ์ล่มจม จนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แก้ไขหนี้สินของชาติ จากการเป็นลูกหนี้ จนไทยกลับมาเป็นเจ้าหนี้ ได้ภายในเวลาปีแรก ๆ ที่เขาเข้ามาบริหารงานของประเทศเท่านั้น
การบริหารงานของรัฐบาลโดยการนำของ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร ค่อนข้างก้าวหน้า ไปในเชิงปฏิวัติระบบงานและวัฒนธรรม โดยเฉพาะการนำประเทศไทยไปสู่ความเจริญแบบยุคใหม่ มีวิสัยทัศน์ค่อนข้างกว้างไกลจนผู้นำต่างประเทศยอมรับ และส่งคนมาดูงานด้านต่าง ๆ ในประเทศไทย ซึ่งประชาชนย่อมชื่นชมว่าเป็นชื่อเสียงที่งดงามของประเทศไทยในสายตาของคนต่างชาติยุคนี้
กระนั้น ก็ยังมีบุคคลบางพวกที่ไม่เข้าใจแนวคิดการบริหารแนวใหม่นี้ เพราะพื้นฐานความคิดอ่านที่ล้าหลัง อยู่อย่างมาก
งานสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นงานเด่นยิ่งใหญ่ ล่าสุด ที่ชื่นชมของคนทั้งชาติ
งานปราบปรามยาเสพติด มีผลงานเด่นชัดเจน เพราะทำอย่างเด็ดขาดไม่ไว้หน้าคนโกงคนชั่ว
และเมื่อยาเสพติดลดน้อยลงไป ก็กลับไปเพิ่มศัตรูผู้ชิงชังเพราะเสียผลประโยชน์ เกิดขึ้นมาอย่างมากมายที่พร้อมจะเข้าร่วมขบวนการต่อต้านรัฐบาลทักษิณ
ปัจจุบัน รัฐบาลนี้กำลังจัดทำโครงการขนาดใหญ่หรือเมกกะโปรเจกต์ ที่ใช้วิสัยทัศน์อันกว้างไกลที่ก้าวล้ำนำหน้าระดับโลก อย่างฉลาดและรอบคอบ ที่ครอบคลุมทุกสาขาการพัฒนาของชาติ ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่าจะเขยื้อนประเทศไทยไปสู่ระดับความเจริญรอบด้านอย่างไม่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ อย่างที่คนในชาติ ต่างเฝ้ารอคอย จับตาดู
ประชาชนไทยแทบทั้งประเทศจึงรักและสนับสนุนนโยบายรัฐบาลทักษิณอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ที่ต่อต้าน ก็เป็นเพราะ เป็นกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ไม่พอใจเป็นการส่วนตัว เป็นกลุ่มผู้ที่คั่งแค้น และอิจฉาริษยา และเป็นกลุ่มผู้ล้าหลังทางความคิดธุรกิจยุคก้าวหน้าของโลก ที่ตามไม่ทันโลกยุคไร้พรมแดน และมีเพียงจำนวนน้อย ซึ่งแม้กระนั้นระบอบประชาธิปไตยเองก็ได้ให้ความคุ้มครองในสิทธิของเขา ตามหลัก Majority rule minority right อยู่ แต่การได้รับคุ้มครองสิทธิกลับนำสิทธินี้ไปคิดการร้าย อย่างเห็นแก่ตัวที่สุด
เมื่อมีกรณีขายหุ้นเงิน 73,000 ล้านบาท ของชินคอร์ปส์ ให้เทมาเซกส์ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของส่วนบุคคลตามระบอบประชาธิปไตยและระบบเศรษฐกิจสากล กลุ่มผู้เสียประโยชน์และคั่งแค้น ที่อิจฉาริษยานี้ จึงได้โอกาสโจมตีโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ว่า ชินคอร์ปส์ ขายชาติ เลี่ยงภาษี ทำให้ชาติสูญเสียผลประโยชน์ไปจำนวนมหาศาล แม้ครอบครัวชินวัตรที่เป็นเจ้าของธุรกิจเองจะออกมาอธิบาย แจ้งข้อเท็จจริงและธรรมเนียมการเล่นหุ้นในตลาดหุ้น โดยเฉพาะประเด็นสากลของตลาดหุ้นที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่คนเหล่านี้ก็ไม่อาจจะเข้าใจ หาเข้าใจ หารับฟังไม่ ยกมาเป็นข้อผิดพลาดอย่างสาหัสฉกรรจ์ยิ่งใหญ่ ถึงขั้นปล้นชาติปล้นประชาชน ถึงขั้นขายชาติขายประชาชน จนพวกเขาต้องมาคิดกอบกู้ชาติ
ซึ่งการเคลื่อนไหวเช่นนี้นับว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง และเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างน่าอับอาย
เมื่อมองดูฝ่ายที่นำการชุมนุมวันนี้ ที่อ้างว่าเป็นการกู้ชาติ จึงเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่มีพื้นฐานของความชอบธรรมเลย แกนนำการชุมนุมในวันนี้ ไม่เหมือนแกนนำยุคนู้น ยุคนู้นแกนนำเป็นพลังบริสุทธิ์จริงใจของหนุ่มสาวล้วน ๆ ที่ไม่มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง แต่ยุคนี้แกนนำค่อนไปทางชราภาพ ที่ทำไปเพราะแรงแค้นเนื่องมาจากการสูญเสียผลประโยชน์ เป็นกลุ่มคนที่เอาตัวไม่รอดในโลกยุคใหม่ แกนนำเหล่านั้น ไม่มีประวัติการทำงาน ผู้นำแกนที่เริ่มต้นมาจากรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่ถูกปลดจากทีวีช่อง 9 ก็เป็นผู้ที่ล้มเหลวในยุคเศรษฐกิจไทยล่ม แล้วยังไม่ฟื้น ขณะนี้ก็ติดหนี้เงินกู้ธนาคาร ยังไม่สามารถจะชดใช้ได้อยู่เป็นเงินหลายพันล้านบาท และมีความชิงชังเป็นการส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับสาธารณะ แกนนำยุคนี้ ไม่มีความจริงใจต่อชาติ และประชาชน แต่ซ่อนเป้าหมายที่เลวร้ายและวางแผนสกปรกมาเนิ่นนานแล้ว โดยงัดเอากลยุทธของยุทธศาสตร์และยุทธวิธีการโฆษณาชวนเชื่อล้วน ๆ มาใช้ในการต่อสู้ แทนที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ ที่ตรงและซื่อสัตย์ มาแสดงแก่ประชาชน แต่กลับบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อการจูงใจ ถึงการหลอกลวงหลอกใช้พลังมวลชนเพื่อประโยชน์อันซ่อนเร้นส่วนตนทั้งสิ้น
จึงเห็นได้ว่า เป็นผู้ที่ไม่มีความชอบธรรม ไม่น่าไว้วางใจอยู่แต่ต้น เป็นกลุ่มผู้สิ้นหวังในอนาคต เป็นกลุ่มผู้ล้าหลังที่ตามไม่ทันสถานการณ์เศรษฐกิจยุคใหม่ ส่วนมากเป็นนักกฎหมายหัวเก่า ที่ตามโลกไม่ทัน (พวกไดโนเสาเต่าล้านปี) ที่พร้อมสู้ตายอย่างจนตรอก ในปัจจุบัน
โดยนำอาวุธที่มีอยู่เพียงสิ่งเดียวคือ ปาก ออกมาใช้อย่างเต็มที่
เมื่อระบอบประชาธิปไตยไทยเปิดโอกาสให้ โดยหลักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อันเป็นหลักความชอบธรรมของประชาชน และหลักการของวุฒิภาวะ พวกเขาจึงได้โอกาส และใช้อาวุธเพียงอย่างเดียวของตนฟาดฟันออกไปอย่างสุดฤทธิ์ โดยไม่คำนึงกฎกติกาใดใดของสังคม โดยหวังว่าเป็นทางรอดทางเดียวของตน
และแล้วก็เกิดเป็นกลุ่มแกนนำกลุ่มใหญ่ ที่กลายเป็นกลุ่มปากที่ต่อสู้ด้วยความสามหาว เป็นอาวุธเช่นเดียวกัน
ซึ่งเมื่อเราฟัง ๆ พวกเขาทุก ๆ คนตั้งแต่ต้นมาแล้ว พบสัจธรรมแต่เพียงสิ่งเดียว นั่นคือ
พวกเขามีเพียงปากอย่างเดียวจริง ๆ
ปากที่สามารถพูดอะไรก็ได้ และเขาก็ได้ใช้ปากพูดอะไร ๆ ไปแล้วมากมาย ในเมื่อโอกาสมาถึง
พวกเขาไม่มีสิ่งอื่น ไม่มีความรอบรู้รอบด้านอย่างเป็นสากล ไม่เข้าใจงานธุรกิจข้ามชาติของการแข่งขันเอาตัวรอดยุคใหม่ ไม่มีคุณสมบัติและคุณวุฒิพอแก่งานการวิเคราะห์ ไม่มีผลงาน ไม่มีความสามารถ ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีน้ำใจนักกีฬา ที่รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และทั้ง ไม่มีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือ
ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนในการกล่าวหา แม้โดยหลักกฎหมายและจริยธรรม เอาเพียงการคาดเดามาบิดเบือน ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เพิ่มงานไร้สาระให้แก่ประเทศชาติ ก่อกวนประเทศชาติให้ระส่ำระสาย ก่อกวนวิถีทางทำมาหาเลี้ยงชีพของปวงชนทุกระดับ ก่อกวนสถาบันการเงินและเศรษฐกิจของชาติ ก่อกวนสร้างความมัวหมองคลางแคลงแด่สถาบันอันสูงส่งที่เคารพรักบูชาของประชาชน ทั้ง 3 สถาบันมาแต่ต้น รับและสอดคล้องกับการก่อกวนทำลายชาติของคนอีกกลุ่มหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เราเห็นว่า เช่นนี้ ไม่เป็นธรรมแด่ประเทศไทย
ประเทศไทยไม่น่าจะได้รับผลกรรมอันเลวร้ายจากกลุ่ม คนที่มีเพียงปากเช่นนี้เลย
จึงอยากเห็นประชาชนไทยตระหนักในหน้าที่ของประชาชน และร่วมพลังสามัคคี เพื่อสร้างความเป็นธรรมแด่ประเทศไทย ขึ้นมาโดยเร็ว
และพาประเทศไทยพ้นไปจากเรื่องไร้สาระเหล่านี้เสียที
ธรรมาชีพ ธรรมาชน, ป.ธ.ร.
http://www.newworldbelieve.com/
15 ก.พ. 2549