เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว พ.ศ.2537
ในปี 2536 ประเทศไทยได้ประสบความเสื่อมโทรมทางวัฒนธรรมอย่างหนัก มีคำว่า ตกเขียว และ โสเภณีเด็กไทย เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก และยังมีวารสารต่าง ๆ ต่างประเทศเช่น Longman จารึกเอาไว้ว่า ประเทศไทยได้ชื่อว่า มีโสเภณีมากที่สุดในโลก มีตนติดเอดส์มากที่สุดในโลก คนไทย-สังคมไทยมีความนิยมวัฒนธรรมกามปรากฏอย่างออกหน้าออกตาทางสื่อมวลชนทุกแขนง โดยเฉพาะทางโทรทัศน์ทุก ๆ ช่องในขณะนั้น จนกระทั่งพระสงฆ์รูปหนึ่งทนดูอยู่ไม่ได้ จึงเปิดฉากการรณรงค์ต่อต้านทำสงครามวัฒนธรรมเพื่อปกป้องสังคมและวัฒนธรรมของชาติ รวมความถึงการปกป้องเปลือกที่หุ้มห่อของพระพุทธศาสนาอันสูงสุดในประเทศนี้ จึงเกิดแผนงาน แผ้วสังคมด้วยธรรมะ นี้ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ตราบปัจจุบันนี้ และการรณรงค์ระยะแรก ๆ มุ่งหมายเผชิญหน้าแบบตรงไปตรงมาเพื่อให้แตกหักไปข้างหนึ่ง ปรากฏในประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อสังคมไทยเป็นเวลายาวนานกว่า 16 ปี ต่อไปนี้
แผนงานแผ้วสังคมด้วยธรรมะ
ของ ปัญญาธโรภิกขุ(พระพยับ ปญฺญาธโร : อดีตเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ)
เริ่มงานครั้งแรกวันที่ 23 ตุลาคม พุทธศักราช 2536
ด้วยผลงานการวิเคราะห์สังคมใน เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว
ต่อต้านเอดส์ต่อต้านอนารยธรรม
เพื่อร่วมมือกันต่อสู้สงครามรุกรานทางวัฒนธรรม
เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว
ต่อต้านเอดส์ : ต่อต้านอนารยธรรม
ภาค 2 พุทธศักราช 2537
บูดามี (Budami) ผู้บันทึก (การเฝ้าดูจากจอแก้ว)
00. พุทธศักราช 2537 ปีที่ 2 แห่งสงครามวัฒนธรรม
1. ประกวดนางสาวเชียงใหม่
2. บันเทิงธรรม
3. การ์ตูนญี่ปุ่น คาราเต้
4. เวิลด์คลับบริหารร่างกาย
5. สัมภาษณ์อดีตดาราดัง
ส่วนที่ขาด
-ขอคิดด้วยคน 1 ม.ค. 2537
-สีสรรบันเทิง
-ข่าวสองทุ่มช่อง5
-บทสรุป ผลที่กระแสกามนิยมได้แทรกแซงทั่วไปในสังคมไทยเป็นอย่างไรบ้าง? เห็นได้จากพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ ดังต่อไปนี้
ประกวดนางสาวเชียงใหม่ ตามก้นอเมริกันทุกอย่าง
ช่อง 7
วันที่ 7 มกราคม 2537
เวลาประมาณห้าทุ่ม ณ จังหวัดเชียงใหม่ ขั้นตอนการประกวด วิธีการให้คะแนน เพื่อตัดสินความงามของนางสาวเชียงใหม่ เห็นได้ชัดเจนว่าตามแบบอย่างอเมริกันไปทุกแบบทุกขั้นตอนไม่ผิดเพี้ยน แม้กระทั่งวิธีการของพิธีกรหรือโฆษกบนเวทีนี่คือเชียงใหม่ ที่มีการประกาศในงานนี้อย่างภาคภูมิใจว่า นครเชียงใหม่ ที่มีอายุยืนนานมาถึง 700 ปีแล้ว หากแต่มิได้มีสัญลักษณ์อะไรที่บอกความหมายว่า การที่มีอายุยืนนานมาถึง 700 ปีนั้น ได้มีอะไรเป็นอนารยธรรม อันเก่าแก่ประจำชาติอยู่บ้าง ได้แสดงว่ามีสติปัญญาอย่างไร ที่สมกับความมีอายุมาก เพราะเท่าที่เห็นในยุคปัจจุบันนี้ เชียงใหม่มิได้มีอะไรอีกแล้ว นอกจากสัญลักษณ์แห่งกาม อันมาจากความสวยงามของสตรีเพศ ที่เคยชื่นชมมา แต่ก่อนด้วยบุคลิกภาพของเชียงใหม่มาแต่เดิม ขึ้นชื่อว่าเชียงใหม่
เราก็รู้จักกันแล้วว่าเมืองนครพิงค์ มีเพลงที่ร้องเกี่ยวกับสตรี มีภาพยนตร์เก่า ๆ เช่นภาพยนตร์เรื่องสาวเครือฟ้า มีบทดนตรีที่กล่าวถึงเชียงใหม่ในฐานะเป็นตัวแทนของชาวเหนือไปทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวของชีวิตที่เกี่ยวข้องกับกาม เรื่องราวของสตรีชาวเหนือที่ถูกหลอกลวง เรื่องราวที่สตรีชาวเหนือหรือสตรีนครพิงค์ ต้องประสบกับความผิดหวังทางชีวิตคู่ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องราวที่เราได้ยินได้ฟังอยู่ทั่วไป แต่เราไม่เคยวิเคราะห์ดูว่าอะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวของกับกาม
เรื่องราวของสตรีชาวเหนือที่ถูกหลอกลวง เรื่องราวที่สตรีชาวเหนือหรือสตรีนครพิงค์ต้องประสบกับความผิดหวังทางชีวิตคู่ ทางชีวิตครอบครัว เรื่องราวที่บ่งบอกความเจ็บแค้นของสาวเชียงใหม่ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องราวที่เราได้ยินได้ฟังอยู่ทั่วไป แต่เราไม่เคยวิเคราะห์ดุว่าอะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเชียงใหม่ นครพิงค์ ชาวเหนือ นั้นได้บ่งบอกอะไร ที่ผิดพลาดในการบริหารของจังหวัด ของชาติ ของวัฒนธรรมประเพณีของเรา เรายังไม่สามารถจะมองเห็นได้เลยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนครเชียงใหม่มาแต่เดิมจนถึงทุกวันนี้นั้น ก็คือปัญหา วัตถุนิยม ปัญหาสตรีที่ถูกมองว่าเป็นเพียงวัตถุแห่งความใคร่ชนิดหนึ่ง ที่มีความสวยงาม คุณภาพดีพิเศษ และทุกวันนี้ คนก็ยังเห็นผิดเป็นเช่นนี้อยู่ เพราะเชียงใหม่ได้รับการส่งเสริมให้เป็นเมืองแห่งวัตถุนิยมอย่างเต็มที่ อย่างที่เป็นไปเพราะความเขลา ทั้งนี้ก็เพราะคนเรา ขาดความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับเรื่องราวของวัฒนธรรมอันเป็นเรื่องราวของตะวันออก แต่หากไปสนใจตื่นตามลัทธิกามารมณ์หยาบช้า ของชนอเมริกัน ชนชาติที่มีคตินิยมทางวัตถุนิยมอย่างเต็มที่
ฉะนั้นในเนื้อเพลงเกี่ยวกับสาวเชียงใหม่ จึงมีจุดตัดพ้อต่อว่า ว่าคนทั้งหลายล้วนเห็นสตรีศรีนครพิงค์ เพียงดั่งดอกไม้ที่ใช้เด็ดดมชั่วคราว ครั้นจืดชืดแล้วก็ทิ้งเสียดุจสาวชาวเหนือ เป็นคนบ่มีหัวใจ ซึ่งนี่ก็คือทัศนะแห่งความใคร่เพิ่มขึ้นเพียงใด สาวชาวเหนือทั่วไปเป็นอย่างไรบ้าง ดังจะเห็นจากการประกวดนางสาวเชียงใหม่นี่เองว่า มันสมอง สติปัญญา ที่ดำเนินการในเรื่องความงามของชาติและประเทศที่เก่าแก่ กว่า 700 ปีนี้ มิได้มีอะไรเป็นหลักเป็นฐาน ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนแต่อย่างใดเลย หากแต่ตามกันตามแบบวัตถุนิยมอเมริกันไปอย่างกระชั้นชิด
ฉะนั้น การจัดงานเกี่ยวกับความงามขึ้นเช่นนี้ ยิ่งจัดให้ใหญ่ ให้ความสำคัญขนาดไหน เพียงใดก็ตาม ก็มีแต่จัดกลับกลายเป็นโทษภัยแก่ตนเองมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น เพราะโดยแท้จริงแล้ว งานนี้ได้กลายเป็นงานโฆษณาสินค้าออกสำคัญของนครเชียงใหม่และเมืองเหนือไปเสียแล้ว คือได้กลับกลายเป็นงานโฆษณาวัตถุแห่งความใคร่ที่มีชีวิตชนิดหนึ่งของเมืองเหนือ จึงเป็นงานที่ส่งเสริมการซื้อขายสตรีมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น เพราะเราได้ส่งเสริมให้สตรีเป็นดุจดังวัตถุสินค้าชนิดหนึ่ง ที่ใช้บำบัดความใคร่ที่ใช้ประโยชน์เฉพาะทางกามารมณ์สตรีชาวเหนือจึงนิยมเช่นนี้ แต่เราทั้งหลายยังไม่ได้รู้สึก เพราะเดินตามรอยอเมริกันไปทุกอย่างทุกแบบ จึงไม่ได้มีความนึกคิดเป้นของตัวเองอยู่เลยแม้แต่น้อย หากจะอุปมา ก็คงเหมือนคนแก่ที่เกิดมาเห็นโลกมากแล้ว แต่หัวหงอกเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ข้างในเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนเด็กหนุ่มที่กำลังคึกคะนอง มัวเมาทางเพศและกามารมณ์ ก็คืออเมริกา อันเป็นประเทศเกิดใหม่ ที่รู้อย่างเดียวคือ วัตถุนิยม วัตถุนิยม วัตถุนิยม จึงไม่บันดาลผลในทางที่ดีขึ้น มีแต่ได้ความสนุกสนานครึกครื้นไปชั่วครั้งชั่วคราว แล้วกลับบันดาลผลอันเนิ่นนาน ที่กัดกร่อนลึกซึ้งไปถึงอารายธรรมอันเก่าแก่ประจำชาติประจำสังคม ผลเสียหายหลายอย่างจึงได้ปรากฏขึ้น อันล้วนเป็นผลจากปัญหาวัฒนธรรมของชาติทั้งสิ้น
ฉะนั้นในขณะนี้ บัดนี้ ในเรื่อง ในกรณี เช่นนี้ จึงน่าจะมีคำถามที่ลับสติปัญญากันก่อนว่า อะไรและอย่างไรที่เรียนกว่าวัตถุนิยมแบบอเมริกัน ผลที่อาจบังเกิดเนื่องจากวัตถุนิยมแบบอเมริกันจะเป็นเช่นไดบ้าง แหละที่ปรากกฎประกายแห่งปัญญา แล้วควรจะได้หันมาถามเรื่องราวของเราเองว่า โครงสร้างอารายธรรมของชนเชื้อชาติเรานั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานวิทยาการอะไร อย่างไร เราได้เข้าใจในสาระพื้นฐานแห่งวิทยาการ อันเป็นที่ตั้ง อันเป็นรากเป็นพื้นฐานแห่งวัฒนธรรมของเรานั้น เพียงใด และบัดนี้เราได้เห็นความจำเป็นอันเร่งด่วนเพียงใดแล้วหรือไม่ ที่จักดำเนินการเพื่อการลดละวัตถุนิยมลงไปจากสังคมของเรา
ลองมาฟังคำอธิบายอย่างง่าย ๆ กันอีกครั้ง ทุกวันนี้คนเห็นสตรีชาวเหนือ สตรีไทย เป็นขนมหวาน โดยเฉพาะพวกฝรั่งอเมริกัน ฝรั่งยุโรป เยอรมัน และพวกนั้นมีเงิน เมื่อสตรีไทยตีค่าเป็นวัตถุได้ พวกเขาก็ของซื้อ ซื้อคนได้ด้วยเงิน แต่ซื้อไปใช้อย่างวัตถุ คือ เพื่อบำบัดความใคร่ แต่เรากลับมิได้เห็นว่าเป็นสิ่งที่เลว หรือ แม้มิได้เห็นเช่นนั้น แต่หากเพราะเห็นผิด หรือเพราะความมืดบอด โง่เขลา ก็ตามแต่ เรากลับส่งเสริมสถานภาพของสตรีเราให้ยิ่งเป็นวัตถุชนิดหนึ่ง คือวัตถุทางความใคร่มากยิ่งขึ้น คือการจัดประกวดนางงามที่มิได้รู้จุดหมายอันถูกต้องตามระบบวัฒนธรรมประจำชาติ ที่เขามิได้รู้อะไรในความงามแบบไทย แบบชาวเหนือ นอกไปจากกามารมณ์ อันเป็นคตินิยมทางวัตถุกามอย่างเต็มที่นั้นก็คือ จัดตามคติอเมริกัน เดินตามรอยอเมริกันไปทุกอย่างทุกแบบ ซึ่งพวกเขาเป็นประเทศวัตถุนิยมที่แตกต่างจากเราอย่างตรงกันข้าม เพราะพวกเขาไม่มีวัฒนธรรมในด้านนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ สตรีชาวเหนือจึงได้รับการผลักดันเข้าสู่กระแสความนิยมวัตถุนิยมชนิดนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งถึงขณะหนึ่ง แม้พวกผู้หญิงเอง ก็ได้บรรลุจุอันพึงพอใจของตัวเองเข้าแล้ว นั่นก็คือ พวกเธอทั้งหลายก็พอใจที่จะทำตัวเองเป็นวัตถุ สินค้า หรือเป็นวัตถุแห่งความใคร่ นั้น อย่างมีความสมัครใจอย่างเป็นความเต็มใจของพวกเธอเองเข้าจริง เพราะพวกเธอได้ค่อย เรียนรู้ได้มีประสบการณ์ได้ผ่านเข้ามาในหลักสัจธรรมแห่งกาม ได้สัมผัส ได้ลิ้มรสแห่งกาม และพวกเธอได้พบสัจธรรมนั้น คือ สัจธรรมแห่งความสุขอันประณีตสูงสุดแห่งโลก อันเป็นโลกียวิสัย จักมีอะไรเท่าเทียมกาม ไม่มี ดังนักปราชญ์ทั้งหลายย่อมกล่าวว่า กามนั้น ยิ่งเสพยิ่งมีความสุข มีความสนุกสนาน ไม่รู้อิ่ม สมกับบาลีในศาสนารับรองไว้ว่า นตฺถิ ตณฺหา สมานที แม่น้ำเสมอตัณหาไม่มี ความอิ่มในกามไม่มีในโลก หญิงใดได้มาพบสัจจธรรมเข้าอย่างนี้ ด้วยความตื่นเต้นพิศวงในรสชาติแห่งกาม จึงนิยมขายกามและนับวันยิ่งจะทวีมากยิ่งขึ้น เพราะได้ราคาดี งานที่ทำก็ง่ายดาย มีหลากหลายแบบ หลากหลายคุณภาพ มีชั้นต่ำ ชั้นกลาง ชั้นสูง และที่สำคัญก็เพราะเป็นงานที่มีความสุขสนุกสนานอยู่ในตัว นี่มิได้กล่าวนอกหลักสัจธรรมทางศาสนาเลย
ฉะนั้น เมื่อใดก็ตามหากสังคมได้ปลดปล่อยวัฒนธรรมทิ้งไปเสียทั้งสิ้นแล้ว จะมีอาชีพที่หญิงชายจะต้องแย่งกันขายอย่างสำคัญยิ่งใหญ่ที่สุดก็คืออาชีพขายกามนี่เอง ฉะนั้น อย่าได้สงสัยเลย ที่ว่าทำไมในปัจจุบันนี้ ไทยจึงได้กลายเป็นแดนหญิงขายตัว ที่แม้นครหลวงกรุงเทพเอง ก็นิยมกันอย่างเต็มที่แล้ว ก็เพราะเขาโฆษณาสินค้าสตรีอันเป็นวัตถุแห่งกามกันอย่างเอิกเกริกอยู่เสมอเป็นการใหญ่ประจำปี ประจำเดือน นั่นเอง ฉะนั้นเมื่อใดก็ตาม ที่ความสำนึกของสังคมทั้งมวลไม่มีคำว่า ความละอายคุณงามความดีหรือเกียรติ หรือความเป็นมนุษย์ เมื่อนั้นก็สิ้นชาติและสิ้นศาสนา และสิ้นพระมหากษัตริย์สำหรับชาวไทย
ฉะนั้นเมื่อสัจธรรมเป็นเช่นนี้ เราก็ต้องแก้ด้วยสัจธรรม เริ่มด้วยเราจะต้องหยุด หยุดการเดินตามรอยอนารยธรรมเสีย เพราะแม้นประเทศอเมริกาเองก็ต้องมีปัญหาอันยิ่งใหญ่ร้ายแรง เพราะสัจธรรมบอกว่า ราคะ หรือกาม ย่อมเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทั้งปวง เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเทศและประชาชนประเทศนั้น จะต้องมีปัญหาร้ายแรงอย่างแน่นอน เพราะเหตุที่เขลาหลงเล่นกับไฟราคะไม่รู้จบ หากแต่ไม่มีการเปิดเผยส่วนชั่วร้ายออกมา เพราะพวกเขานั้นเชี่ยวชาญในการโฆษณาชวนเชื่ออย่างยอดเยี่ยม
ฉะนั้น เราพึงเห็นสัจธรรมนี้และเร่งป้องกันละลดกามลงไป มาเข้าใจร่วมกันว่า กามนิยม แบบที่เสพกันโดยเปิดเผยนั้น เป็นของอนารยชนแท้ ๆ การมองคนอย่างมองวัตถุย่อมเป็นการมองที่ผิดพลาดเพราะเป็นการเห็นที่ผิดโดยเห็นคนไม่ใช่คน ฉะนั้น การจัดประกวดนางงามในยุคนี้ จึงต้องวิเคราะห์ความมุ่งหมายของการจัดงานประกวดให้ชัดเจนให้ชัดแจ้ง ซึ่งจะต้องถูกอารยธรรม เราจะต้องกลับใจเสียใหม่ในเรื่องนี้ อย่าได้เห็นอนารยธรรมเป็นอารยธรรมเป็นอันขาด เห็นสัจธรรมในเรื่องนี้ให้แจ่มแจ้งเสียก่อน เมื่อใดเราได้เห็นวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะวัฒนธรรมในกาม ได้เข้าใจ ได้รู้แจ้งเจนใจ ว่าแตกต่างจากคติวัตถุนิยมอย่างอเมริกัน อย่างตรงกันข้ามเพียงใดแล้ว เรามั่นใจในความเป็นไทย เมื่อนั้น จะจัดประกวดนางงามขึ้นทั่งประเทศทุกปี ทุกเดือน ทุกวัน ก็จักไม่เกิดโทษภัยใดใดทั้งสิ้น และมีแต่จะบังเกิดคุณงามความดี เพราะความเข้าใจของเราจะเพิ่มการเห็นที่ถูกต้องยิ่งขึ้น คือเห็นคนเป็นคน โฆษณาคุณค่าของคน โฆษณาเครื่องหมายแห่งคน โฆษณาคุณธรรมแห่งคน และนำคนไปสู่เป้าหมายอย่างคน คนผู้อาจรู้สัจธรรม และแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิตนี้คนที่มิใช่วัตถุ มิถูกมองอย่างวัตถุ โดยเฉพาะวัตถุแห่งกามที่ใช้ประโยชน์ในการบำบัดความใครของคนทั้งหลาย
รายการบันเทิงธรรม
ช่อง 9
11 ม.ค. 37 เวลา 16.34 น.
มีเพลงแกมหมอลำนำรายการมาก่อนตั้งนาน จนแทบรู้สึกว่า นี่รายการบันเพิงธรรมอย่างไร อ๋อ เอาเด็กหญิงอายุ 9 ขวบมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังก็ดี แสดงว่าการสนใจธรรมะนั้นได้สร้างบุคลิกภาพที่น่าศรัทธาขึ้นเพียงไร แต่ธรรมะนั้นเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นและละเอียดอ่อนไปกว่านั้นทำอย่างไรจะเข้าใจว่า ธรรมะ นั้นแม้ในสังคมรูปใหม่ สมัยใหม่ ธรรมะอันสูงสุดก็มีอยู่ หากแต่รูปแบบได้เปลี่ยนแปรไป ควรจะเปลี่ยนแปรไปในรูปใดอย่างไร นี่จะเป็นสิ่งที่คาดเดาเอายาก ต้องมีผู้รู้จริงมาช่วยอธิบายปรากฏการณ์เหล่านี้ แล้วจะเห็นว่า รายการธรรมะนั้น ที่จริงแล้วเป็นรายการที่น่าสนใจและน่าสนุกสนานยิ่งสำหรับคนยุคใหม่นี้ การเข้าสู่ภาคปฏิบัติธรรมที่ถูกแท้จริง ตามทางแห่งพระธรรมจริง ๆ นั้น ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และมีมนต์ขลังรัดรึงใจ ยิ่งกว่าวัตถุสิ่งใดในโลกนี้ แต่จุดหมายปลายทางนั้น เป็นอจินไตย อจินไตยในด้านความดีงามอันประเสริฐ ซึ่งเมื่อคนได้สัมผัสแล้ว จึงจะออกอุทานได้ว่า นี่แหละคือความหมายของคำว่าเกียรติ วัฒนธรรม อารยธรรม คุณงามความดี หรือ ความเป็นมนุษย์ที่จริง
รายการการ์ตูนญี่ปุ่น คาราเต้หมัดเดียวดับยอดมวยไทย
ช่อง 9
วันที่ 11 ม.ค. 37 เวลา 18.20 น.
ญี่ปุ่นวาดภาพแบบชาตินิยมจัด เอาพระเอกคาราเต้มาปราบยอดมวยไทยที่เมืองไทย และชนะไปอย่างเด็ดขาดด้วยพลังวิชาคาราเต้เพียงหมัดเดียว คนไทยดูแล้วคงจะเขินและนึกชังขึ้งเคียดอยู่ในใจตั้งแต่ยังไม่ประลองฝีมือกันด้วยซ้ำ ทั้งน่าจะรู้สึกสมเพชนิด ๆ ในแง่ทีว่าญี่ปุ่นช่างหน้าไม่อาย อย่างค่อนข้างจะไร้เหตุผลจริง ๆ มีอย่างที่ไหนวาดภาพให้มวยไทยระบือเดชไปทั่วโลก มีภาษีกว่าคาราเต้อยู่หลายขั้นแล้ว ยังใส่กำลังภายในเข้าไปให้มวยไทยมากกว่าไปอีก ไม่น่าจะให้แพ้ แบบนี้ดูหมิ่นกันชัด ๆ ไม่น่าให้อภัยเลย หรือว่าคนทั้งโลกเขาจะหมิ่นแคลนไทยไปทั่วแล้ว เพราะเหตุที่เขาหยามหน้าว่าเป็นแดนกะหรี่ แดนโสเภณี แดนแห่งดอกไม้ทองหลาง
รายการบริหารร่างกายของเวิลด์คลับ
ช่อง 9
12 ม.ค. 37 เช้าตรู่
มีผู้หญิงแต่งกายรัดรูป 2 คน ออกท่าบริหาร มีผู้บรรยายว่า เป็นท่าแบบโยคะแท้จริงน่ากลัวจะไม่เข้าในในเรื่องสัจธรรมที่เกี่ยวกับโยคะเลย เพราะรูปแบบที่แสดงอยู่นั้น แท้จริงแล้วก็คือรูปแบบที่เอาคติทางกามารมณ์เข้ามาผสมผสานให้เกิดรสนิยมทางกามารมณ์ผสมไป ตามคติแห่งอเมริกันนั่งเองดังได้วิเคราะห์ให้เห็นแล้วว่า คติอเมริกันนั้นก็คือ เอาเรื่องราวเกี่ยวข้องในทุกเรื่องทุกราวของชีวิตประจำวัน โดยเห็นว่ากามารมณ์เป็นสิ่งจำเป็นลำสำคัญที่สุดของชีวิต นี่ก็เหมือนกันในชื่อเรื่องว่า การบริหารสุขภาพร่างกายจิตใจ แต่ก็เอาแบบเอามาด เอาท่าทีทางกามารมณ์มาผสมผสานเข้าไป พร้อมคติอย่างอเมริกัน แต่นี่คือคติอย่างวัตถุนิยม ให้คนดูได้รู้สึกในการเสพกามไปด้วย
จงคอยดูไปเถิดว่า สตรีทั้ง 2 นี้ คงจะถูกปลดประจำการออกไปในเวลาไม่นานนักนี้เพราะวัตถุนั้นเริ่มเสื่อโทรมลงไปแล้ว คือเธอเริ่มแก่ตัวลง เมื่อนั้นก็คงถูกปล่อยไปตามยถากรรม เพราะคติวัตถุนิยมนั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ชราภาพ น่าสงสารที่ผู้ชราภาพ จะเริ่มหายหน้าไปจากสังคมไทย ในเมืองไทยไปตามลำดับ เท่าที่วัตถุนิยมและกามนิยมส่งกระแสไปถึง
รายการสัมภาษณ์อดีตดาราดัง
รู้ความหมายของความเป็นคนไทยเพียงไหน
วันที่ 12 ม.ค. 37 เที่ยงวันเศษ ๆ
คุณดาราหนุ่มไปอเมริกามา เขาเลยสนใจเอามาถาม ได้ความว่าไปอยู่ที่นั้นราว 1 ปีแล้ว ไปศึกษาเล่าเรียนเพราะอายุเพิ่ง 25 เคยอยู่ในวงการดารามาก่อนจึงเป็นที่รู้จักดี ที่ปลีกไปเพราะต้องการเลื่อนฐานะจุดยืนไปศึกษาก็เพราะการศึกษาช่วยให้พ้นจากอวิชชา จะได้เลื่อนไปสู่วิชชา จะได้ไม่หลงไปตามอนารยธรรม เหมือนคนผู้ด้อยการศึกษาทั้งหลาย ข้อความคงแปลมาง่าย ๆ ได้ดังนี้ และยังมีอีกหลายคำถามที่แฟน ๆ อยากรู้ แต่คำถามหนึ่งก็คือ เจ้าชู้หรือเปล่า เล่นเอาคนหัวเราะร่วนไปหมด แต่ ในที่นี้เราสงสัยว่า ลูกผู้ชายไทย หรือลุกผู้หญิงก็ตามได้รู้จักคำว่า ไทย เพียงไหน เราเคยคิดหรือไม่ว่าในขณะที่ใครคนหนึ่งเข้ารู้สึกตัวอยู่ว่าเขาเป็นคนไทยเขารู้ความหมายของคำว่าคนไทย เพียงไหนและอย่างไร
- จบเฝ้าดูฯพ.ศ.2537
- ต่อเฝ้าดูฯพ.ศ.2538