ข่าวดีจาก
MY TEMPLE
***************************************************************************
ภาพ พระครูพุทธิพงศานุวัตร นั่งสมาธิ จำเริญวิปัสสนาญาณ ตลอดคืน ท่ามกลางพุทธบริษัท ผู้ถือศีลจาริณีนุ่งห่มขาวร่วมพันคน ที่แวดล้อม ในคืนวันที่ 10-11 เมษายน พุทธศักราช 2558 ณบริเวณพุทธาภิเษก ด้านในและ บริเวณรอบ ๆ พระมหาวิหารหลวงพ่อโต วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง โดยนั่งบนอาสนะนี้ท่านี้ ไม่เปลี่ยนอิริยาบถเลย นานกว่า 9 ชม. เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. คืนวันที่ 10 เม.ย.2558 ถึง 06.00 น. วันรุ่งขึ้น 11 เม.ย. 2558 ภาพนี้ถ่ายเมื่อเวลาประมาณ 04.20 น.วันที่ 11 เม.ย.2558 โดยอาจารย์นิรินธน์ ทองกลม
[=ความรู้แจ้งในความหมายของ "วิปัสสนาญาณ" แห่งพระพุทธศาสนา]
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพประวัติศาสตร์วัดมหาพุทธาราม
ในคืนวันที่ 10-11 เมษายน
พุทธศักราช 2558
งานนมัสการหลวงพ่อโต ประจำปี 2558
และพิธีสมโภชปิดทองหลวงพ่อโต
ภาพที่ 1
ภาพญาติโยมนักปฏิบัติธรรมภายในพระวิหารหลวงพ่อโต
ภาพที่ 2
พื้นที่ระหว่างผนังพระวิหาร กับพระอุโบสถทางทิศใต้ ภาพ สู้ไม่ถอย
ภาพที่ 3
ด้านหน้าพระวิหาร ใต้กิ่งก้านไทรใหญ่ สู้ไม่ถอยเหมือนกัน
ภาพที่ 4
ด้านหน้า ประตูเข้าพระวิหาร ถัดมาอีกด้านของร่มไทรใหญ่ ดูคุณยายซ้ายมือ ผมหงอกแล้วสู้
ภาพที่ 5
บริเวณถัดกันมา ด้านหน้ามหาวิหาร
ภาพที่ 6
น.พ.ประวิ อำไพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ มุ่งเผด็จโสดาปัตติมรรคในคืนนี้
ภาพที่ 7
ในพระวิหาร อ.บุญหยด เกียรติชูศักดิ์ มหาอุบาสิกาของวัด
ภาพที่ 8
ในพระวิหาร แถวหน้า อ.คำนวณ ชูกลิ่น ร่างทรงเจ้าประจำวัดพระโต ไม่ยอมใครเหมือนกัน
ภาพที่ 9
ญาติโยมนักปฏิบัติธรรม ในพระวิหาร นี่เป็นนักสู้อย่างแท้จริงทีเดียว ข้มคืนมาจนเจียนรุ่งแล้ว
ภาพที่ 10
พิธีกรคู่คนดังศรีสะเกษ
ภาพที่ 11
ในพระวิหาร หน้าหลวงพ่อโต อยุ่ตัวแล้วเลยนิ่ง
ภาพที่ 12
ตรงถนนทางเลี้ยวเข้าพระวิหาร เป็นกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง กำลังจับเอาด้ายสายสิญจน์
ภาพที่ 13
เชิงบันไดพระอุโบสถ ไปถึงบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ
ภาพที่ 14
พื้นที่ระหว่างกำแพงด้านเหนือกับผนังพระวิหาร ดึกตี4แล้วกำลังง่วงนอนกัน
ภาพที่ 15
อีกมุมหนึ่งรอบ ๆ พระวิหาร ดูซิ มีนักสู้จริง ๆ หลายคนเลยทีเดียว
ภาพที่ 16
ในพระวิหาร หน้าหลวงพ่อโต ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากสนง.พุทธศาสนาจังหวัด มาสืบและร่วมปฏิบัติด้วย
..................................................................
..................................................................
มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านพระครูพุทธิพงศานุวัตร หรือท่านพระคุณเจ้าพระร้อยเอกพยับ ปัญญาธโร ? ท่านได้ตรัสรู้ธรรมชั้นสูงสุดในศาสนานี้ หมายความว่าอย่างไร ? ท่านได้บรรลุอรหันต์อย่างนั้นหรือ ?
-----------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------
คืนวันที่ 10-11เมษายน
พุทธศักราช2558
ม.ค.2559
คิด และ คิด ถึงคืนนั้น
ม.ค.2559
คิด และ คิด ถึงคืนนั้น
ม.ค.2559
คิดและคิดต่อไปว่าคืนนั้นมันคืออะไร
ม.ค.2559 คิด
ม.ค.59 คิด
ธ.ค.58 คิด
***************
*****************
************************
บันทึก ณ วัน จันทร์
ที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2559
เวลา 23.45 น.
บทบันทึกเหตุการณ์
คืนวันที่ 10-11 เมษายน
พุทธศักราช 2558
เวลาผ่านมาแล้วร่วม 1 ปี คือตั้งแต่วันที่ 10-11 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นคืนที่เกิดเหตุ มาจนถึงวันนี้ วันที่ 25 มกราคม 2559 รวมเป็นเวลาผ่านไปกว่า 9 เดือนแล้ว ผมก็ยังไม่ได้เล่าให้ท่านทั้งหลาย หรือผู้หนึ่งผู้ใด ทราบเลยว่า มีอะไรเกิดขึ้นในคืนวันนั้น และความหมายที่แท้จริง และ ความสำคัญของมันคืออะไร ......แต่ได้ย้อนรำลึกถึงพระพุทธเจ้า ในคืนที่พระองค์ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณพุทธเจ้า ใต้ต้นโพธิ์ แล้ว จากคืนนั้นคือ คืนเพ็ญ เดือนหก ก็ยังไม่ทรงลุกออกไปจากต้นโพธิ์นั้น ทรงประทับต่อไปใต้ต้นโพธิ์ เป็นเวลา 7 วัน แล้วเสด็จออกจากต้นโพธิ์ ไปนั่งสมาธิต่อใต้ต้นไทรอีก 7 วัน จากต้นไทรทรงไปสู่ต้นจิก อยู่ใต้ต้้นจิก 7 วัน แล้วออกจากต้นจิก ไปสู่ต้นเกด ทรงนั่ง รำลึกคืนที่ตรัสรู้ต่อไปอีก 7 วัน จึงทรงกลับไปต้นไทร อีกครั้งหนึ่ง ทรงท้อพระทัย ในการที่จะสั่งสอนคนให้รู้ตามสิ่งที่ทรงตรัสรู้ เพราะเหตุที่สิ่งที่ทรงรู้นั้น ล้ำลึกยิ่งนัก .......
และการที่ผมเองก็ได้บันทึกเอาไว้แต่แรก ที่ว่า
ภาพ พระครูพุทธิพงศานุวัตร นั่งสมาธิ จำเริญวิปัสสนาญาณ ตลอดคืน ท่ามกลางพุทธบริษัท ผู้ถือศีลจาริณีนุ่งห่มขาวร่วมพันคนในคืนวันที่ 10 เมษายน 2558 ณบริเวณพุทธาภิเษก ด้านในและ บริเวณรอบ ๆ พระมหาวิหารหลวงพ่อโต วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง โดยนั่งบนอาสนะนี้ท่านี้ ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ นานกว่า 9 ชม. เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. คืนวันที่ 10 เม.ย.2558 ถึง 06.00 น. วันรุ่งขึ้น 11 เม.ย. 2558 ภาพนี้ถ่ายเมื่อเวลาประมาณ 04.20 น.วันที่ 11 เม.ย.2558 โดยอาจารย์นิรินธน์ ทองกลม
[=ความรู้แจ้งในความหมายของ "วิปัสสนาญาณ" แห่งพระพุทธศาสนา]
นั้น ยังเป็นถ้อยคำบรรยายเรื่องที่ไม่ถูกไม่ตรง ...ที่ว่านั่งสมาธิ นั้น ไม่ใช่ และที่ว่า จำเริญวิปัสนาญาณ ก็ไม่ใช่ และที่สรุปว่า " = ความรู้แจ้งในความหมายของ "วิปัสนาญาณ" แห่งพระพุทธศาสนา... ก็ไม่ใช่
เพราะที่จริง เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ ....
มันไม่ใช่สมาธิ ที่เคยทำมาก่อนแบบสมาธิ .... แต่เริ่มต้นด้วยสมาธิเท่านั้นเอง ในตอนเริ่มต้น ผมเองวิตกว่าจะนั่งสมาธิไม่ข้ามคืน คิดกลับไปกลับมาอยู่ว่าจะเอาอย่างไร (เพราะเราแก่มากแล้ว) แต่แล้วก็ฮีดสู้ จึงตั้งใจเด็ดขาดว่าคืนนี้จะต้องอยู่ให้ได้ตลอดคืน จะระดมวิชาความสามารถมาให้หมด เพื่อให้ข้ามคืนไปให้ได้ และจะไม่รั้งรอผ่อนสั้นผ่อนยาวเลย
คิดดังนี้จึงเริ่มเมื่อ 2 ทุ่มทันที เดินปราณมาอย่างเต็มพิกัด(ผมสำเร็จวิชาปราณมาแต่แต่ก่อนบวชนานแล้วครับ จึงนั่งหลับในสมาธิได้แบบไม่ต้องนอนหลังแตะพื้น) ปราณจึงไหลเรื่อย ๆ ๆ ๆ และยังวางแผนว่าจะเรียกเอาเสียงทิพย์มาช่วยในทันใด แต่ยังไม่ทันถึงมีเสียงทิพย์มาช่วยแต่อย่างใด....(เสียงทิพย์นี้คือดนตรีสวรรค์ หรือดนตรีเทพเจ้า เป็นดนตรีทิพย์ประจำตัวผม...จริง ๆ คือฌานชนิดหนึ่ง) มีการปวดขาขึ้นเล็กน้อยแล้ว ไม่รอช้า รีบกำจัดทันที ด้วยระบบปราณที่มีประสิทธิภาพ ให้ลมปราณ ที่เป็นกระแสใหญ่แทรกซึมไปทั่งทั้งร่างกาย และแทรกไปในบริเวณที่เจ็บปวด การปวดหรือ เวทนาหายไป สมาธิก็ตั้งมั่น แล่นถึงระดับอัปนาสมาธิได้ทันที...ผมเตรียมจะไปท่องเที่ยวโดยเมื่อมีอัปปนาสมาธิแล้ว เช่นเคย ....แต่แล้วทันใดนั้น ปราณหายไป สมาธิ หายไป เวทนาหายไปก่อนแล้ว ดวงจิตหายไป (ไร้การคิด ไร้วิปัสนาญาณ) ไร้การเจริญญาณวิปัสนา ไม่ได้ทำ ทุกอย่าง ทั้งรูปธรรม นามธรรม หายไปหมด....มันไม่เหมือนที่เคยเข้าสมาธิข้ามวันข้ามคืนมาแต่ก่อน
มันไปไหน ? มันหลุดออกไป สรุปได้ชัดเจนว่ามันคือการหลุดพ้น จากโลกของเรา ไปสู่อีกโลกหนึ่ง และ นั่นคือโลกนิพพาน ...และรู้ขึ้นมาว่า โลกนิพพานนี้เป็นเป็นที่อยู่ของพระอรหันต์ทั้งหลายทั้งปวง แม้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท่านก็เป็นอรหันต์ อยู่ที่นี่ โลกนิพพานนี้
เราได้มาสู่แดนพระอรหันต์ และอยู่ร่วมกับพระอรหันต์ทั้งสิ้นทั้งปวง
ได้อยู่ร่วมพระพุทธเจ้าทั้งหลายทั้งปวง
จึงเป็นการอยู่ในโลกนิพพานนานตลอดคืนเลยทีเดียว ซึ่งในความรู้สึก มันไม่ได้นมนานขนาดนั้น มันเหมือนแผลบเดียวเท่านั้นเอง พอถึงตี 4 มีโยมมาปลุก ว่ามีผีเข้าโยม สาวคนหนึ่งใต้ต้นไทร ให้ไปช่วยด้วย ก็ลุกถือขันน้ำมนต์ไป พรมน้ำมนต์ไล่ผีออกแล้วรัีบมาเข้าที่เดิม และจำเริญสภาวะเดิมนั้นไปถึงรุ่งแจ้ง หกโมงเช้าตรงพอดี ก็ลืมตาขึ้น
ออกจากโลกนิพพานมา
ได้รำลึกถึงคืนวันนี้ติดต่อกันมาหลายสัปดาห์ จนถึงวันนี้ จึงได้พบว่า การเข้าไปในโลกนิพพาน ร่วมกับพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายนั้น สิ่งที่วิเศษที่เกิดขึ้นโดยเราไม่รู้ตัวเลยก็คือ โลกนั้นได้ขับไล่สิ่งที่เรียกว่า อวิชชา ออกไปให้หมดเกลี้ยงไปเลย เหลือ หรือมีแต่ วิชชา อย่างเดียว ........... เราตื่นเต้นเพราะสิ่งนี้ .......และบัดนี้ เราได้ชื่อว่า ผู้ที่ออกมาจากโลกนิพพาน มาสู่โลกมนุษย์ ....แล้ว จะอย่างไรต่อไปล่ะ ?
- บันทึก ณ วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม 2559 เวลา 23.45 น.
**********************************************************************************************
**********************************************************************************************
**********************************************************************************************
**********************************************************************************************
ข้อมูลใหม่
ได้พบจากกูเกิล
ณ วันพฤหัสบดี ที่ 23 เมษายน พุทธศักราช 2563 ซึ่งเป็นเวลา
5 ปี กับ 10 วันผ่านจากเหตุการณ์วันนั้น
ดังนี้
“ดูกรภิกษุ ก็ลำดับนั้นแล เรากล่าวความดับสนิทแห่งสังขารทั้งหลายโดยลำดับ คือ เมื่อภิกษุเข้าปฐมฌาน วาจาย่อมดับ, เมื่อเข้าทุติยฌาน วิตกวิจารย่อมดับ, เมื่อเข้าตติยฌาน ปีติย่อมดับ, เมื่อเข้าจตุตถฌาน ลมอัสสาสะ ปัสสาสะย่อมดับ, เมื่อเข้าอากาสานัญจายตนฌาน รูปสัญญาย่อมดับ, เมื่อเข้าวิญญาณัญจายตนฌาน อากาสานัญจายตนสัญญาย่อมดับ, เมื่อเข้าอากิญจัญญายตนฌาน วิญญาณัญจายตนสัญญาย่อมดับ, เมื่อเข้าเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน อากิญจัญญายตนสัญญาย่อมดับ, เมื่อเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ สัญญาและเวทนาย่อมดับ, ราคะ โทสะ โมหะของภิกษุผู้สิ้นอาสวะ ย่อมดับ ฯ (รโหคตสูตร, 18/391-392)
******นี่คือคำตอบ*****
- บันทึก ณ วันพฤหัสบดี ที่ 23 เม.ย. 2563 18.50 น.