ศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
ศึกษาโลกลี้ลับภาคพิเศษ
…………………………………………………………………………………
22 พ.ค.2550
สรุปเรื่องเสียงทิพย์
1. เสียงทิพย์คือ ฌาน เป็นประเภทเฉพาะตัวของบุคคล
2. มีระดับที่วัดได้เป็นหน่วย ระดับ 1,000 ต่อ 1 หน่วย ขึ้นไป
3. มีนิยาม ระดับที่วัดได้ของเสียงทิพย์
4. ระดับสูงสุดที่ได้พบ ตามที่บันทึกข้อมูลได้ คือระดับ 30,000 ต่อ 75 หน่วย
ณ ระดับนี้เสียงทิพย์มีความไพเราะและโหมห่ออารมณ์จิตใจให้โปร่งเบาไร้น้ำหนัก มีเจตสิกที่รับรู้สภาพอันนี้ และนำทางความปรารถนาไปได้ดั่งใจปรารถนา
สมมติฐานขั้นต่อไป
1 เมื่อเสียงทิพย์พัฒนาไปถึงระดับ 50,000 ต่อ 1-100 หน่วย ตัวจะโปร่ง หรือหายตัวได้
2 เมื่อเสียงทิพย์พัฒนาไปถึงระดับ 100,000 ต่อ 1-100 หน่วย อะไรก็ เกิดขึ้นได้
3 เสียงทิพย์อาจพัฒนาไปได้ไม่จำกัด อาจจะถึงระดับ 1,000,000 ต่อ 1-100 หน่วย
เราจะทำอย่างไร?
เริ่มต้นทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง หมายถึงพื้นฐานทุกระดับต้องแน่นและพร้อม ต้องทบทวนแล้วตั้งใจพัฒนาส่วนของเสียงทิพย์โดยตรงต่อไป ก็จะก้าวหน้าเร็วแน่ ๆ และต้องถึงระดับ 50,000 โดยอัตโนมัติแน่ ๆ
23 พ.ค.2550
วันนี้เป็นวันแห่งความพอใจ แต่ว้าเหว่ในจิตใจ
24 พ.ค.2550
วันพระ
15.25น.
เสียงทิพย์ไม่เคยทอดทิ้งเรา
เสียงทิพย์อยู่ระหว่าง 10,000 ต่อ 20 หน่วย
ณ ระดับนี้หมายถึงเสียงทิพย์มีความละเอียดอยู่ที่ 10,000 และมีเสียงดังเพียง 20 ส่วน 100
ณ ระดับนี้ ฟังมีความสุขเหลือเกิน แม้เสียงจะดังค่อย ๆ เพียง 20 % หน่วยความดัง ก็ตาม ก็ยังฟังไพเราะเหมือนเสียงมาจากที่ไกล มีความแน่นแต่ละเอียด ไร้ข้อตำหนิ แค่นี้ก็ฟังไพเราะเหลือเกิน จนลืมโลกทุกสิ่งทุกอย่างได้
แต่เราได้เคยฟังเสียงทิพย์ระดับ 20,000 หน่วยมาแล้ว
และเคยฟังระดับ 30,000 หน่วย มาแล้ว โอ้โฮ เราลืมไปแล้วว่า ไพเราะขนาดไหน?
แผนของเรายังไม่ก้าวหน้าเลย คือการปลีกไปสันโดษเพื่อศึกษาเรื่องเสียงทิพย์นี้โดยเฉพาะ
เราจะทำอย่างไรหนอ?
เสียงทิพย์ระดับ 30,000 ต่อ 75 หน่วย
25 พ.ค.2550
06.30 น.
เสียงทิพย์อยู่ระดับ 11,000 ต่อ 30 หน่วย มีความไพเราะเสมอ ทรงคุณภาพคือความสงบใจ แต่ผาดโผน และไร้ทุกข์โศก นิ่งฟังยิ่งไพเราะ นี่คือเสียงบรรเลงแห่งเทพเจ้าโดยแท้จริง
เราเคยพบเสียงทิพย์ระดับ 30,000 หน่วยมาแล้ว
ลองกลับไปดูข้อมูลที่บันทึกไว้อีกครั้งหนึ่ง ว่าเป็นอย่างไร
“12 ม.ค. 2550
เสียงสวรรค์
15.00 น.
เสียงทิพย์อยู่ระดับ 29,000 ต่อ 75 หน่วย
หลับไปหลายนาที เมื่อเวลา 15.00 น. ตื่น ได้ยินเสียงทิพย์สนั่นอยู่ในหุสองข้างและเบื้องบนเพดาน ในทำนองใหม่ที่ไม่เคยได้ยิน เสียงค่อนข้างดังมาก เป็นทำนองที่เปลี่ยนจากเครื่องสี แบบสีซอ ไปเป็นคล้ายเครื่องตี หรือเครื่องแกว่งกระทบ ในที่นี้เหมือนฆ้องวง เหมือนโปงลาง เหมือนระนาดขนาดเล็กแต่ก้องกังวานมาก ดังเหมือนลูกระนาดไล่กันไป มีความไพเราะแกมหวานซึ้ง ทำให้รู้สึกในความสุขุมเชื่องช้าแต่ก้องกังวาลไพเราะ ที่สำคัญคือ นิ่ง ๆ ฟังแล้วเกิดมโนภาพ คล้ายเห็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ ทรงกลมเหมือนกระด้งขนาดใหญ่แกว่งไปมาช้า ๆ แล้วเสียงดังขึ้นเพราะลูกตุ้มไปกระทบตัวตุ่มของฆ้องเล็ก ๆ จำนวนมากมายนั้นเข้า เกิดเป็นเสียงหวานเย็น ช้า ๆ แต่ละเอียดและถี่ยิบ นิ่งฟังยิ่งเคลิบเคลิ้ม ไพเราะ มีความถี่ของเสียงพอ ๆ กับเสียงทิพย์ระดับ 10,000 หน่วย นึกพิจารณาอยู่ว่าสิ่งที่แตกต่างจากเสียงเดิมคืออะไร ก็คือเครื่องตีกระทบนั้นแหละ ทำให้นึกภาพสตรีหางเครื่อง เวลาเล่นเพลงลูกทุ่งถือเอาลูกกงออกมาวาดลวดลายบนเวทีเต้นกันสนุก ๆ นั่นแหละ คิดว่าระดับน่าจะเป็น 30,000 หน่วย แต่ก็ดูยังไม่พอใจนักเลยให้ระดับไว้ที่ 29,000 ต่อ 75 หน่วย ก็พอใจเพราะได้พิศูจน์อีกครั้งหนึ่งว่าเสียงทิพย์มีการพัฒนาไปด้วยตัวของมันเอง”
คดียุบพรรคการเมือง
30 พ.ค.2550
วันนี้มีการพิจารณาคดียุบพรรคการเมือง เริ่มเวลา 13.30 น. ณ ศาลรัฐธรรมนูญ
เวลา 16.00 น. ยังอ่านคำพิพากษาไม่จบ เสียงทิพย์บรรเลงตลอดวัน
ณ ระดับ 14,000 ต่อ 30 หน่วย
เสียงระดับนี้ละอียดแต่สดในไพเราะมาก มีความสดใสมาก เหมือนพิณที่ไพเราะ มีเสียงอ่อนหวาน ท้วมทุ้ม เสียงมีลักษณะการรวมกลุ่มอย่างเหนียวแน่น และโบกโบย เหมือนฝูงนกฝูงใหญ่มหึมา บินฉวัดเฉวียนตาม ๆ กันไปอย่างสวยงาม รวดเร็วและพร้อมเพียง มีความต่อเนื่องเหมือนสายน้ำตกที่พลิ้วลงมาจากเขาสูง
31 พ.ค.2550
วันพระขึ้น 15 ค่า เดือน 7 ปีกุน
วิสาขบูชา
ขอบูชาพุทธองค์ด้วยชีวิตที่เดินตามรอยพระพุทธองค์
ขอมุ่งมั่นในอุดมการณ์อันสูงสุดเพื่อมรรคผล มุ่งมั่นในการศึกษาสรรพวิชชาของพระพุทธเจ้า
ขอปฏิญญาณพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร เราจะต้องตามศึกษาให้รู้ทุกวิชชาของพระพุทธองค์
และมีพระองค์ ๆ เดียวเป็นที่พึ่งอันสูงสุดชั่วชีวิตข้าพเจ้า พุทธํ ยาวชีวํ สรณํ คจฺฉามิ สาธุ !!!
2 มิ.ย.2550
หนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต) เล่มที่ 38 ออกสู่สมาชิกแล้ว
สมาธิลดระดับ
3 มิ.ย.2550
หลังเพลไปโรงพยาบาลศรีสะเกษ
เราอาพาธเพราะหัวไหล่เจ็บไม่หาย บัดนี้ลามลงไปที่แขน และปวดมากขึ้น
หมอถามว่า เหตุเจ็บหัวไหล่เป็นเพราะอะไร บอกว่า นั่งสมาธิในกลางคืนแล้ว สมาธิลดระดับ ตัวเอียงไปพิงพะนักเก้าอี้ แล้วพิงพะนักเก้าอี้ไปตลอดคืน พอลืมตาขึ้นก็ปวดหัวไหล่มา ตั้งแต่บัดนั้น หมอตรวจแล้วสั่งยา ทั้งยากินและยาทานวด พร้อมกับนิมนต์ว่า นิมนต์ให้เลิกทำสมาธิชั่วคราวนะคะ
เราหวังว่าจะหายเร็ว ๆ จะได้ออกเดินทางระยะใกล้ ๆ ได้บ้าง
10 มิ.ย.2550
วันอาทิตย์แรม 10 ค่ำเดือน7
เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกที
แขนดีขึ้นแล้ว มาสำนึกในหน้าที่เสียที
เอา 12 ปีข้างหน้าเป็นหลักสูตร
หน้าที่คือ การศึกษา เริ่มวันนี้ เย็นนี้
พยายามรักษาเสียงทิพย์มิให้ขาดหายไป จากกุฎี ถึงวิหาร จากวิหาร ถึงกุฎี
เพิ่มระดับเสียงที่กุฎี เพิ่มระดับเสียงที่วิหาร
ให้เสียงทิพย์ครอบสนั่นอยู่เหนือวัดทั้งวัด
ทบทวนธรรมปฏิบัติทั้งหมด สมาธิ และ เดินจงกรม ต้องให้ก้าวยาวไปเลย อย่ารอรั้ง
อย่ารอผู้ใด ไม่กังวล
ขณะนี้เสียงทิพย์อยู่ระดับ 10,000 ต่อ 20 หน่วย
เสียงทิพย์ระดับ 20,000ต่อ..หน่วย
ลักษณะเสียงทิพย์ระดับ 20,000 หน่วยที่บันทึกข้อมูลไว้ ณ วันที่ 19 ก.พ.2550 เป็นอย่างนี้
“เราเห็นจะต้องบันทึกไว้สักหน่อยว่า เมื่อหลังเพลวันนี้ ขณะที่พูดคุยกับญาติโยมอยู่ ได้ยินเสียงทิพย์สนั่นขึ้น แต่ละเอียดไปกว่าเดิมอีก ฟังแล้วลุ่มเย็นเหมือนดนตรีกล่อมให้เดินทางไปสู่ความตาย และไม่หวาดกลัวต่อความตาย เราให้ค่าอยู่ที่ระดับ 20,000 หน่วยเลยทีเดียว ลักษณะของเสียงทิพย์ระดับนี้คือเสียงเล็กลงไปอีก มีลักษณะเสียดสีกันอย่างอ่อนโยน สุภาพมาก นิ่งฟังยิ่งอยากอยู่เฉย ๆ บ่าไหล่ยังปวดอยู่ ยังต้องกินยาต่อ กินแล้วง่วง เลยนอนหลับฟังเสียงทิพย์ไปตลอดเวลาบ่าย”
12 มิ.ย.2550
จงกรม16ก้าว
07.50 น.
เดินจงกรมระยะที่ 1 ในวิหารด้านหลังหลวงพ่อโต หลังทำวัตรเช้าแล้ว
ขวา.............................ย่าง..............................หนอ..........................
ซ้าย.............................ย่าง..............................หนอ.........................
ได้ 16 ก้าวเท่านั้นเอง วิหารหลวงพ่อโตก็สว่างไสวไปหมด
นั่นบอกไปถึงประสิทธิภาพของเรายังคงแน่นเปรี๊ยะอยู่
บันทึกเรื่องลูกสาวหลวงพ่อ
เรื่องเล่าที่ประหลาด
ลูกสาวหลวงพ่อมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนนอนหลับเคลิ้ม ๆ ไป อยู่ในอาการของคนป่วยขาบวม หมอใส่เฝือกไว้ได้แต่นอนนิ่ง ๆ ว่ามีคนประหลาด เป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ มีสองท่อน ท่อนบนเป็นคนก็มีเป็นสัตว์ก็มี ท่อนบนเป็นสัตว์ท่อนล่างเป็นคนก็มี มีหัวหมี แพะ สิงโตก็มี รูปร่างใหญ่แข็งแรง หลายตนเข้ามาหา คล้ายช่วยกันดูแลพยาบาล นวดขาให้ พลางออกปากว่าไปอยู่ด้วยกันไหม ที่เขาอยู่แสนสบาย แต่โยมก็ไม่ออกปากว่าอะไร ว่ากลัวไม่กล้าพูด ถามว่าพวกเขาเป็นอะไร? นี่คืออะไร? ตอบว่าคงเป็นพวกเปรตชนิดหนึ่ง เขารักอยากให้ไปอยู่ด้วย แสดงว่าโยมอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรัก
โยมมักพบเผชิญเรื่องราวประหลาด ๆ เช่นนี้บ่อย ๆ เมื่อไม่นานมานี้ ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ฟุ้งไปขณะขับรถยนต์ส่วนตัวไปถึงท้องที่หนึ่ง ญาติ2คน ผัวเมีย ก็ได้กลิ่นด้วย แต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ พากันทึกทักว่าวิญญาณสำแดงให้เป็น
ป่วยด้วยโรคประหลาด
เสียงทิพย์ระดับ20,000อีกครั้ง
13 มิ.ย.2550
เข้าฌานเสียงทิพย์ได้ถึงระดับ 20,000 ต่อ 25 หน่วย ระดับนี้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนจากระดับ 10,000 หน่วย ในแง่ที่เสียงแบ่งขนาดเล็กลงไปอีก ถ้าเสียงทิพย์ระดับ 10,000 หน่วยมีขนาดโต 100 ส่วน แล้ว เสียงระดับ 20,000 หน่วยจะมีขนาดเพียง 50 เท่านั้น เป็นเสียงเล็กกะจิริดมาก ๆ ที่บรรเลงต่อเนื่องและมีความดังที่สามารถให้น้ำหนักได้แบบเดียวกับเสียงทิพย์ระดับอื่น คือให้ค่าเต็ม 100 เท่ากัน
09.40 น. ลูกสาวหลวงพ่อโทร.มาบอกว่าหมอกำลังจะให้ยาแล้ว เมื่อวันก่อนเขาเกิดหกล้มขาข้างหนึ่งหลุด แล้วพอกระชากให้เข้าที่เนื้อเยื่อขาดเป็นแผลภายใน มีเลือดคั่ง ทำให้ปวดและบวมที่หัวเข่า หมอว่าต้องผ่าตัดเพื่อดูดเอาเลือดที่คั่งออกมา แต่จะเจ็บมากต้องให้ยาสลบ หมอว่า 15 นาทีก็ฟื้น ส่วนญาติ ๆ ที่รู้เรื่องประหลาดดีก็พากันเตือนให้ระวัง
16.45 น. 7ชั่วโมงต่อมายังไม่ฟื้น หัวใจเต้นช้าจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หมอตกใจวิ่งกันวุ่น พบกรณีประหลาดไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ระหว่างนี้ได้เข้าฌานเสียงทิพย์ ไปจนถึงระดับ 20,000 ต่อ 25 หน่วย ผลของการได้ฌานนี้ทำให้จิตใจผ่องแผ้วมาก ใจเย็นมาก หนักแน่นมาก ปราศจากความวิตกใดใดเลย แรงกระตุ้นมาจากเจตนาช่วยโยมเขาซึ่งอยู่ระหว่างอันตราย โดยแผ่เมตตา แผ่อำนาจบุญ ต่าง ๆ ออกไปกับเสียงทิพย์นั้น
17.15 น. โทร.มาบอกว่าฟื้นแล้ว รวมเวลาที่เธอสลบไปถึงเกือบ 8 ชั่วโมง เป็นกรณีที่หมอตื่นเต้นตกใจ แทบทำอะไรไม่ถูก
บางทีการปฏิบัติธรรมที่อุกฤตได้มาจากสถานการณ์ฉุกเฉินรอบตัวบีบบังคับด้วยเหมือนกัน ฉะนั้น เมื่ออยู่สบายในคฤหาสน์เสียแล้ว ไม่มีวันจะสำเร็จมรรคผลอย่างแน่นอน เราจึงเตือนตนอยู่เสมอว่า อย่าอยากสบายเลย ต้องใฝ่การธุดงค์อยู่ตลอดเวลา และทำตัวให้สันโดษจึงจะสำเร็จเป้าหมายทางธรรมชั้นสูงส่ง
อยากให้โลกได้อ่าน
For worldwide information
ดร.โทร.มาตอนกลางวัน บอกว่าเพิ่งกลับจากเกาหลี แล้วต่อไปออสเตรเลีย เป็นหัวหน้าทีมไปประชุมพระพุทธศาสนาที่นั่น 16 ประเทศ ได้ส่งอีเมลมาข้อความดั่งนี้
Dear Tan Panyatharo Bhikhu,
With your permission, may I use English as a medium for communication between you and me so that your creative idea for promotion of Buddhism will be known and understood worldwide thru the new information technology.
I understand that the database on the Dhamma as seen by you have now restored in your Website: newworld.net. But unfortunately it is in the Thai version only. If you assign some one to translate the text into English and put it in the database for worldwide information. This will benefit Buddhism and facilitate free flow of Buddhist information to the world community.
I am looking forward to hearing from you in the near future.
Yours in the Dhamma,
Dr.Nantasarn Seesalab
Advisor to the World Buddhist University
ท่านดร.อยากให้แปลเรื่องราวการปฏิบัติธรรมของเราเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้สังคมโลกได้มีโอกาสอ่าน ที่จริงเราคิดไว้นานแล้ว แต่ไม่ได้ทำสักที
14 มิ.ย.2550
15 มิ.ย.2550
16 มิ.ย.2550
17 มิ.ย.2550
18 มิ.ย.2550
19 มิ.ย.2550
20 มิ.ย.2550
21 มิ.ย.2550
22 มิ.ย.2550
23 มิ.ย.2550
เสียงทิพย์ยังอยู่กับเรา
แขนและหัวไหล่ขวายังคงคลอนแคลน ปวดแปลบ ๆ ยังลามลงไปถึงข้อมือ
เรื่องประหลาดในหอพักหญิงอีกครั้งหนึ่ง
24 มิ.ย.2550
ได้รับฟังมาก่อนนี้แล้วสักประมาณ 5-6 วัน วันนี้เจ้าตัวผู้ประสบเหตุเองมาเล่าให้ฟังเอง
เธอเป็นนักศึกษาแพทย์ ม.มหาสารคามปีหนึ่ง เล่าว่าไปอยู่หอพักเก่าของมหาวิทยาลัยมหาสารคามพร้อมกับเพื่อนหญิงอีก3คนด้วยกัน ตั้งแต่วันแรก ๆ ของภาคเรียนปี2550นี้ วันแรกที่ไป เพื่อนหญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้องก่อน แล้วได้ยินเสียงพูดว่า “จะอยู่ได้เหรอ” มองไม่เห็นตัวคนพูด ก็ตกใจวิ่งลงไปหาเพื่อนข้างล่าง เล่าให้ฟัง ครั้นอยู่ต่อมาเพื่อนคนหนึ่งก็ฝันว่ามีหญิงสาวสวมชุดขาวมาหา บอกว่าตนเคยอยู่ที่นี่มาก่อนแล้ว แต่บัดนี้ไปอยู่ที่อื่น แต่ก็แวะมาเยี่ยมที่นี่บ่อย ๆ ร้องคร่ำครวญว่าหิว อยู่อย่างหิวโหยเหลือเกิน เดินจากไป ต่อมาก็พากันเห็นคนจริง ๆ เป็นนักศึกษาสวมชุดขาวมายืนอยู่ที่ระเบียงหอพักบ้าง เห็นเดินหายเข้าไปทางด้านหลังบ้านบ้าง ในระยะหลังที่สุด เห็นเหตุการณ์ชัดเจนขึ้น คือเห็นประตูที่ปิดกลอนไว้เปิดออกได้เอง เหมือนคนมาบิดลูกบิดกลอนประตูเข้ามาข้างใน แทบเป็นปกติทุกวัน ๆ เพื่อนคนหนึ่งก็ฝันว่ามีกองเลือดอยู่กลางห้องและตนได้ปูลาดเสื่อทับกองเลือดนอนไปตลอดคืน ต่อมาเพื่อนคนนั้นก็ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลไป แล้วญาติพากลับไปเพื่อรักษาตัว ที่บ้านเกิด
เดิมหญิงสาวนักศึกษาผู้นั้นให้มารดามาขอของดีจากหลวงพ่อ หลวงพ่อให้พระเครื่องไป 1 รูป ปรากฏว่าเรื่องเงียบหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อมาเรื่องเดิมก็เกิดขึ้นอีก และเราก็ต้องรับฟังปัญหาและช่วยแก้ปัญหาให้นักศึกษาสาวต่อไป
เราพิจารณาเรื่องราวที่เธอเล่าให้ฟังอย่างละเอียดแล้วบอกว่าจะเรียกวิญญาณเขามา คิดว่าลองดู ก็ทำประจุคาถาอาคมลงในแผ่นทองขนาดกว้างยาว 3 องคุลี เขียนคำสั่งลงไป เขียนยันต์พระเจ้า5พระองค์ลงล้อมไว้ แล้วร้อยด้วยด้ายสีแดง 5 เส้นแล้ว ว่าคาถาลงไป 7 รอบ บอกว่าให้เขามารับเอาส่วนกุศลผลบุญไป ให้เอาแผ่นทองนี้คล้องไว้ที่ลูกบิดประตูเวลากลางคืน เมื่อวิญญาณมาก็จะเกิดการสัมผัสกัน วิญญาณก็จะหายไป
รอฟังว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
25 มิ.ย.2550
โยมมารดานักศึกษาแพทย์คนนั้น บอกตอนเช้าสั้น ๆ ว่าลูกสาวเธอสมมติชื่อว่าไอ้ฝาน เพิ่งกลับไปวันนี้เอง พบว่าเพื่อนอีก2คนไม่กล้านอนในห้อง ไปนอนกับเพื่อนที่ห้องอื่น ตนก็เลยไม่กล้านอนเหมือนกัน เลยยังไม่ได้เอาแผ่นทองประจุอาคมคล้องที่ประตู
เล่าเหตุการณ์ล่าสุดว่าปรากฎชัดเจนมาก เพราะวิญญาณจะเข้าออกในห้องดั่งคนจริง ๆ เพียงแต่มองไม่เห็นตัว คือจะบิดลูกกลอนประตู เปิดประตูเข้ามาซึ่ง ๆ หน้า บางคราวขณะนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานอยู่รวมกันประตูก็เปิดออก งับไว้แล้วคล้ายคนเดินเข้ามา และเดินผ่านไปทางระเบียงหน้าบ้าน แล้วมีเสียงให้ได้ยินว่า แกจะช่วยเพื่อนแกได้หรือ เอ่ยชื่อนักศึกษาสาวผู้รายงานข้อมูลคนนั้น เห็นจะต้องสมมติชื่อให้ว่า ฝาน หรือไอ้ฝานก็แล้วกัน
บันทึกเรื่องลูกสาวหลวงพ่อ
อาเจียนจนหมดแรงลม
25 มิ.ย.2550
10.00 น. รายงานด้วยตัวเขาเอง ว่าอาเจียนหลายครั้งแล้ววิงเวียนศีรษะ เห็นเพดานห้องเอียงไปเอียงมา ว่ากินฝรั่งดองเข้าไป คงเป็นพิษ บอกว่าเหนื่อยเหลือเกิน เสียงค่อยเบาลง ๆ จนหายไป
รายงานต่อมาแจ้งว่าเอาเข้าโรงพยาบาล
17.30 น. ประมาณ7ชม.ครึ่งยังไม่ฟื้น ทำพิธีกรรม
18.05 น. ฟื้น โทร.มาบอกว่ายังปวดท้องอยู่ อาหารเป็นพิษ รวมเวลาที่สลบอยู่ 8 ชั่วโมง เศษ
26 มิ.ย.2550
ผีสาวผู้น่าสงสาร
ทราบว่าเรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ ๆ นี่เอง คนยามรู้เรื่องดีที่สุดแต่พูดน้อย ยังมีนักศึกษารุ่นเดียวกันที่เคยเห็นเหตุการณ์ครั้งนั้นอยู่ เล่าว่า ในห้องต้นเรื่องนั้นเดิมมีนักศึกษาสาวอยู่3คน ๆ ละคณะ มีรัฐศาสตร์ 1 คน แพทย์ 1 คน และคณะอื่นอีก 1 คน ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย แล้วพอถึงปีที่ 5 ก็เกิดเรื่องทำนองว่าแย่งผู้ชายกัน เกิดฆาตกรรมกันขึ้น ผู้ตายถูกเฉือนข้อมือเลือดไหลไม่หยุดตายในห้องนั้น ประมาณเอาเองก็คง3-4ปี ตรงกับปีพ.ศ.2544-45 นี่เอง และลบรอยเลือดไม่หมดเห็นราง ๆ มาถึงปัจจุบันนี้
และวันนี้ทั้งวันเราก็ง่วนกับงานฝ่ายโลกไซเบอร์ เพราะบัดนี้เราทำเวบเอง หัดทำลิ้งค์ในหน้าเดียวกัน เริ่มจากหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่38 ทั้งวันตั้งแต่ 05.30 ถึง 21.30 น. ก็ไม่เสร็จ ทั้ง ๆ ที่มี Support team คอยบอกทุกประเด็นปัญหา สมองเราไม่ค่อยไวนักหรอก พรุ่งนี้ก็เห็นจะเรียนต่อ จนทำได้แหละถึงจะยอม
เราไปยุ่งกับสังคมทุกเรื่อง แม้เรื่องการปราบปรามโจรก่อการร้ายใต้ ร่างรัฐธรรมนูญ ต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และยังมีการเชื่อมต่อบุคคลสำคัญ ๆ ขององค์กรพุทธระดับโลก และงานระดับโลก ในลักษณะนักวิจัย นักวิชาการ ฯลฯ และวันที่ 28 มิ.ย.2550 ก็ต้องไปประชุมพระสังฆาธิการประจำปี 2550 ณ ศูนย์ฯภาค 10
ปรจิตวิทยา
27 มิ.ย.2550
เมื่อเช้านี้ได้บอกแม่ไอ้ฝานว่า ปฏิบัติการนี้ทั้งหมดเป็นปฏิบัติการด้วยเมตตาจิตจริง ๆ เห็นความทุกข์โศกของวิญญาณดวงนั้น ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ความว้าเหว่ ความหวาดกลัวและ ความหิวโหย ปฏิบัติการนี้ปราศจากการบังคับด้วยเวทมนต์ เพียงแต่ใส่ประจุอาหารทิพย์ลงไปในนั้น เพื่อเขามาได้ดื่มได้กิน ได้พ้นทุกข์ ให้เอาแผ่นทองนั้นไปคล้องในคืนนี้ ก็รับปากจะโทร.ไปบอกลูกสาวให้ทำตาม
ก็ต้องคอยดูต่อไปว่าเธอจะกล้าทำหรือไม่ เราเองไม่คิดว่าจะติดต่อโดยตรง หรือโทรศัพท์ติดต่อกันโดยตรงกับนักศึกษาสาวคนนั้น เพราะวางแผนเป็นชั้นต้นอยู่ คือเรายังไม่จำเป็นต้องทำอะไร นอกจากให้แผ่นประจุคาถาหรือจริง ๆ คือเจตนารมณ์ของเรานั้นทำงานเอง เรายังไม่ต้องส่งกระแสจิตไปควบคุม หรือใช้วิธีอื่นใด
ก็คอยดูไปเป็นขั้นเป็นตอน เปรียบเสมือนให้ยาคนป่วย ให้อ่อน ๆ ไปก่อน แล้วหากไม่พอก็ค่อยเพิ่มหรือใช้วิธีที่เด็ดขาดกว่าเดิม
ในที่นี้ เราต้องการบันทึกข้อมูลเพื่อการศึกษาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งดูเหมือนทางโลกเขาก็มีการศึกษาในวิชาที่ว่า ปรจิตวิทยา เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เห็นในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง
และนี่ก็เป็นประเด็นการศึกษาโลกลี้ลับอีกประเด็นหนึ่งทีเดียว โปรดติดตามศึกษาไปด้วยกัน
28 มิ.ย.2550
แดนที่ตะวันขึ้นทางตะวันตก
วันนี้ออกแต่เช้าตรู่เดินทางจากวัดมหาพุทธาราม พร้อมเจ้าคุณพระศรีธรรมนาถมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าอาวาสวัดมหาพุทธาราม รวมเป็นคณะ 6 รูปด้วยกัน ตั้งใจว่าวันนี้จะได้มีโอกาสพิศูจน์อีกทีว่าตะวันขึ้นทางตะวันออกตามปกติหรือไม่ ระวังอยู่ ตลอดทางมาก็เห็นอยู่ว่าตะวันขึ้นทางตะวันออกตามปกติ แต่เราหลงทางไปหน่อย พอไปถึงประตูเข้าศูนย์ฯภาค10โดยไม่รู้ตัวก็เผลอมองดูซุ้มประตู ครั้นกลับไปมองดวงตะวันอีกที ดวงตะวันที่เมื่อชั่วอึดใจอยู่ทิศตะวันออกแท้ ๆ ก็กลับไปทางทิศตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง น่าหัวเราะจริง ๆ นี่เป็นความรู้สึกที่ฝังลึกจริง ๆ เห็นอย่างนั้นจริง ๆ อยู่ตลอดเวลา ตลอดวัน ณ ศูนย์ภาค10แห่งนี้ ครั้นเวลาบ่าย ๆ ไปถึงเย็น ก็เห็นจริง ๆ ว่าดวงตะวันคล้อยลงไปทางทางทิศตะวันออกตามลำดับ ๆ มิแตกต่างจากคราวมารับการฝึกอบรมพระวิปัสสนาจารย์ในปีธุดงค์2549 นั้นเลย เอาละ!!!!! เราจะสรุปอย่างไร ว่าเป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น ก็ดูจะใช่ แต่อย่างไรก็ต้องติดตามศึกษาต่อไปอีก
เราไม่คิดจะเพ่งฌานมองหายักษ์ใหญ่ แต่ใจก็ประหวัดถึงตลอดเวลา รู้สึกว่ายักษ์ใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศพนมมือไหว้มา ถ้าเราเพียงมีโอกาสทำกสิณหรือเพ่งฌานสักหน่อย ก็คงจะสำเร็จประโยชน์ แต่ ธุระวันนี้ไม่เปิดโอกาสให้ทำกสิณ และฌานได้เลย ไปคนละเรื่องละราวกับการเจริญภาวนา การปฏิบัติจิตวิมุตติในพระศาสนา นี่น่าพิจารณาว่าเป็นจุดอ่อนของหมู่สงฆ์ระบบราชการเจ้าขุนมูลนายในยุคนี้ ในเรื่องสาระและอสาระ ในเรื่องการปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผลนิพพานอันสูงสุดอันเป็นอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนาที่แท้จริงนั้นยังขาดการยกย่องและการมองอย่างเป็นประเด็นสำคัญอยู่มาก
กระนั้นคณะสงฆ์ภาค10นี้ ก็ยังแสดงถึงความอุตสาหะพยายามในการบำรุงพระพุทธศาสนาที่น่าพอใจยินดีอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะความร่วมมือกันเชิงรุกเพื่อพระพุทธศาสนาโดยการต่อสู้ทางการเมือง ให้บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ โดยปฏิญญาณในผืนผ้าโฆษณาขนาดใหญ่หน้าห้องประชุมพระสังฆาธิการทั้งมวลว่า
ขอสนับสนุนให้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญว่า
๑. พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย
๒. พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ
องค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทยเครือข่ายภาคอีสาน
นอกจากนี้คณะสงฆ์ภาคอีสานโดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมปริยัติโสภณ จภ.10 ยังให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้อย่างน่าคิดมาก โดยเฉพาะในแง่ประวัติศาสตร์ยุคสุโขทัย และยุคต้นของรัตนโกสินทร์ ซึ่งขณะนั้นแผ่นดินไทยคลุมลงไปถึงสุดปลายแหลมมลายูเลยทีเดียว
29 มิ.ย.2550
ทฤษฎีวิญญาณหิวโหย
แม่ไอ้ฝานรายงานว่านักศึกษาลูกสาวกับเพื่อนทั้ง2คนรวมเป็น 3 คน ได้กลับมานอนในห้องตนเองแล้ว แต่ยังไม่กล้าเอาแผ่นทองไปคล้องที่ลูกบิดประตูตามที่บอก ไอ้ฝานเอาไว้กับตน ปรากฏว่าเงียบสงบไปทั้งคืน
แท้จริง โดยทฤษฎี จะเอาแผ่นทองไว้ที่ไหน ในห้องก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเอาไปคล้องไว้หน้าประตู เพราะแผ่นประจุความปรารถนาดีที่ประจุลงโดยเจตสิกที่เข้มแข็ง เมื่อได้สัมผัสเป้าหมายก็จะแผ่ออกไปในแบบนามธรรม ถ้าไม่มีอะไรปรากฏขึ้น ก็จะมีความหมายในทางที่เป็นมิตร วิญญาณก็จะเข้ามารับเอาซึ่งอาหารทิพย์ กินและดื่มอาหารทิพย์ มีความสุข และมีความรักมนุษย์ ไว้ใจมนุษย์ยิ่งขึ้น แต่แน่ละวิญญาณดวงนี้ก็น่าจะยังมีปัญหาอยู่
แต่ถ้าสัมผัสแล้ววิญญาณเกิดดุร้ายขึ้นมา ทำร้ายคนและอาละวาดยิ่งขึ้น ในขั้นนี้เรามองว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้
เราก็ต้องตามศึกษาต่อไป เพราะทั้งหมด เรื่องนี้ ยังคงหาข้อสรุปที่แน่นอนเป็นหลักวิชายังไม่ได้
ตามดูรายงานวันพรุ่งนี้ต่อไป หากปรากฏผลออกมาในทางร้ายก็คงต้องใช้วิธีเพิ่มพลังเข้าไปอีก
30 มิ.ย.2550
ผ้ายันต์กันผี
ฝันว่าผีสาวจะเอาตัวไปอยู่ด้วย
ไอ้ฝานกลับบ้านศรีสะเกษมาเล่าเรื่องให้ฟัง ว่ามาถึงวันนี้พวกเธอทั้ง3คนหนีไปนอนกับเพื่อนห้องอื่น ไม่ได้นอนในห้องของตน เพราะเห็นเหตุการณ์น่าตกใจ พัดลมเปิดหมุนได้เอง ครั้นกลางคืนเพื่อนคนหนึ่งที่นอนอยู่กับพื้น ใกล้ ๆ เตียงฝันว่า ผีสาวมาบีบคอ โกรธ ว่ามานอนทับที่นอนของเขา และจะเอาตัวไปอยู่ด้วย แล้วผ้ายันต์ที่ไอ้ฝานวางไว้ที่หัวเตียงปลิวลงมาถูกตัว ก็ฟื้นตื่นขึ้นมา ก็พากันกลัวมาก ๆ ไม่กล้าอยู่ในห้องเดิมอีกต่อไป ไปนอนกับเพื่อน เล่าเรื่องผ้ายันต์ว่าเป็นของพ่อเขาได้มาจากซินแส ไอ้ฝานวางไว้ที่หัวเตียง ขณะที่เพื่อนฝันร้ายว่าถูกผีบีบคอ ไอ้ฝานลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เมื่อออกมาก็พบว่าผ้ายันต์ตกอยู่ที่หัวของเพื่อนผู้ฝันร้ายแล้วพอไอ้ฝานมาถึงยืนดูอยู่เพื่อนก็ได้สติลุกขึ้น เล่าว่าไอ้ฝานเอาน้ำมาสาดใส่ตัว ได้สติขึ้น
พากันหนีไปนอนกับเพื่อนที่ห้องอื่น
บันทึกเรื่องลูกสาวหลวงพ่อ
กินยานอนหลับเกินขนาด
30 มิ.ย.2550
08.55 น. ลูกสาวหลวงพ่อช็อคไป ได้โทร.มาบอกก่อนว่าเหนื่อยเหลือเกิน พร่ำคำว่า หนูเหนื่อยเหลือเกิน ๆ ๆ ๆ ๆ จนเสียงเงียบหายไปสนิท
12.50 น. แม่เลี้ยงรายงานว่าเขากินยานอนหลับเข้าไปจนเกลี้ยงขวด หมอเอาไปล้างท้องที่โรงพยาบาล ฟื้นขึ้นมาครั้งหนึ่ง เรียกหาหลวงพ่อแล้วหลับไปอีก หลวงพ่อทำพิธีกรรมตามระเบียบ
14.55 น. ฟื้นแล้ว โทร.มาบอกว่าไม่เป้นไรหรอก กินยาเพื่อให้นอนหลับนาน ๆ อยากนอนหลับไปนาน ๆ สัก 7 วัน เท่านั้นเอง คราวนี้สลบไป 7 ชั่วโมง
1 ก.ค.2550
ติดตามเรื่องเดินขบวน และพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติภายหลังลงมติเมื่อวันก่อนนี้(29 มิ.ย.2550) 76 ต่อ 19เสียงไม่อนุมัติ
เผชิญแผ่นทองประจุพลังบุญ
2 ก.ค.2550
ติดตามเรื่องประหลาดในหอพ้กนักศึกษาหญิง ม.มหาสารคามต่อ
21.00 น.
เวลา 21.00 โดยประมาณ ไอ้ฝานโทรศัพท์มาบอกว่าพอเลิกเรียนเวลาทุ่มเศษ ๆ ก็พาเพื่อนจำนวน 4 คนกลับมาห้องพัก ตั้งใจว่าจะพักด้วยกันในคืนนี้ ภายหลังกระจัดกระจายไปพักที่อื่นหลายคืน ได้พูดกับเพื่อนคนที่ฝันว่าผีสาวจะเอาไปอยู่ด้วย ถามข้อเท็จจริง เขายืนยัน บอกว่าดีแล้ว และให้เอาแผ่นทองที่ให้ไป ๆ คล้องไว้ ก็เอาไปคล้องไว้แล้ว บอกด้วยว่าจะพากันสวดมนต์ก่อนนอน บอกว่าดี และบอกว่าหากมีอะไรให้ใช้โทรศัพท์
23.07 น.
23.07 น. โทรศัพท์มา ดึกขณะกำลังเข้าจำวัตรแล้ว พอนึกได้ว่าคงเป็นไอ้ฝานก็รีบลุกขึ้น จริง เสียงไอ้ฝานบอกแกมหัวเราะ รายงานว่า เมื่อชั่ว 10-20 นาทีที่ผ่านมาได้พากันสวดมนต์ก่อนจะนอน สวดไปได้ไม่ถึง 10 นาทีเห็นประตูห้องน้ำเปิดออกแล้วงับเข้าไว้เหมือนเดิม เห็นกันซึ่ง ๆหน้าทั้ง 4 คน ก็ตกใจพากันเผ่นหนีออกไปนอกห้อง พอตั้งหลักได้ก็โทร.มาบอก ถามว่าเอาแผ่นทองคล้องประตูไว้หรือเปล่า บอกว่าคล้องไว้ที่ระเบียงในห้อง ก็พอใจ บอกว่าดีแล้ว ไอ้ฝานถามว่าเขามาสัมผัสแล้วใช่ไหม ตอบว่าน่าจะใช่ แปลว่าเริ่มสัมผัสกันแล้ว บอกว่าที่จริงอยากให้ได้สนทนากันในห้องนั้น ให้เสียงของหลวงพ่อออกไปดังในห้องนั้นให้เขาได้ยิน เราคิดว่าให้เขาได้ยินชื่อของเรา แต่ไอ้ฝานบอกว่าไม่กล้าเข้าไปอีกแล้ว ก็บอกไม่เป็นไร เห็นใจ ขอแต่ให้แผ่นทองอยู่ในห้องก็คงพอเพียง นอนกับเพื่อนไปก็ดีแล้วพรุ่งนี้จึงค่อยรายงานผลมาใหม่
เอาละ !!! เริ่มจะตื่นเต้นแล้วซี
เราหวังว่าจะไม่มีโทรศัพท์พวกหล่อนมาอีกทีในเวลาดึก ๆ
ขณะนี้เสียงทิพย์บรรเลงมาตลอดวัน ณ เวลานี้อยู่ที่ระดับ 11,000 ต่อ 20 หน่วย เราคิดว่าจะเพ่งฌานเพิ่มพลังไปยังแผ่นทองนั้น แต่ยังก่อนอย่าเพิ่งทำ รอฟังผลก่อน ดูเหมือนอะไร ๆ กำลังดีขึ้น
3 ก.ค.2550
07.20 น.
ยังไม่ได้ข่าวอะไรเพิ่มเติมอีก เมื่อคืนตื่นคอยฟังเรื่องราวอยู่จนถึง 24.30 น. จึงเข้าจำวัตร ตื่นเวลาประมาณ 04.30 น. ถึงเช้านี้ก็ยังไม่ได้ข่าวอะไร
มีข้อสังเกตคือเมื่อประมาณ 01.00 น. สุนัขในวัดพากันหอนกันเกรียวกราว จนต้องลุกขึ้นมาคอยระวังเฝ้าดู เพราะเสียงสุนัขผิดไปจากเสียงที่เคยเห่าหอน คราวนี้หอนยาวกันทั้งหมู่ เรากระหวัดว่าที่จริงเราตั้งใจเรียกวิญญาณมา แต่เรายังไม่ได้เรียกมา มันหอนกันอยู่นานทีเดียว ตามความรู้สึกน่าจะถึง 10 นาที จึงหยุดและเข้านอนต่อ เรายังไม่เข้าใจว่าวิญญาณจะมาหาเราถูกได้อย่างไร ยังไม่มีสมมติฐาน คอยดูเหตุการณ์จริง ๆ ดีกว่า
ครั้นตื่นขึ้นมาได้พบว่าเสียงทิพย์บรรเลงถี่ยิบและค่อนข้างดัง อยู่ระดับ 12,000 ต่อ 30 หน่วยเลยทีเดียวเมื่อไปประชุมที่ศูนย์ภาค10วันที่28ก.ค.2550นั้น เสียงทิพย์ก็บรรเลงตลอดเวลาภาคเช้าในระดับ 10,000ต่อ 10 หน่วย ยังไม่ได้วิเคราะห์ว่าภาคบ่ายเสียงทิพย์หายไปเพราะอะไร
วันนี้ดูเหมือนเสียงทิพย์ฟังห้าว ๆ เป็นที่น่าสังเกตอยู่ทีเดียว เอาละ มีอะไรต้องทำหลายอย่างหลังทำวัตร ถ้าไม่มีเสียงติดต่อมาก็คงจะติดต่อไปถามดู คงมีข้อมูลใหม่มา
ลูกสาวหลวงพ่อช๊อคอีกแล้ว
ลูกสาวผู้ชอบท่องโลกลี้ลับ
08.07 น.
ทันใดแม่เลี้ยงโทร.มาบอกด้วยเสียงตื่นเต้นว่า สาวน้องรุ่น ลูกสาวหลวงพ่อช๊อคไปอีกแล้ว โทร.ไปหาแม่เลี้ยงเมื่อชั่วครู่นี้เอง บอกว่าบ้านหมุนคว่ำหงาย แล้วเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน โทร.หาหลวงพ่อ ๆ ไม่ได้รับเลยโทร.มาหาแม่เลี้ยง แม่ช่วยด้วย แล้วเสียงหายไป ทางนู้นโทร.มาบอกว่าสาวลุ่นช็อคเลือดออกปาก จมูก สลบไป เลือดกระเด็น มีจดหมายบอกว่าอย่าเอาเข้าโรงพยาบาล อย่าให้น้ำเกลือ ดูกำลังวุ่นวายกันอยู่ ว่าได้เรื่องอย่างไรจะโทร.บอกมาอีก
ชั่วครูโทร.มา บอกว่าพบเขียนไว้ใต้หมอนว่ามันไม่เป็นอะไรหรอก ให้หลวงพ่อเข้าสมาธิเรียกมัน ๆ ก็จะกลับมา เขาเน้นแต่ไหนแต่ไรว่าไม่ให้ส่งเขาไปโรงพยาบาล เพราะน้ำเกลือจะเข้าเลือดไม่ได้อีกแล้ว และเลือดออกเป็นธรรมดาเพราะลูกสาวหลวงพ่อเป็นหญิงประหลาด ไม่เหมือนหญิงคนอื่น ๆ การที่เลือดออกเป็นการชดเชยอย่างหนึ่งแก่ส่วนที่ประหลาดไปเท่านั้น แต่นี่หมอเขาไม่รับรู้ด้วย
09.30 น.
ในช่วงนั้นมีสายจำได้ว่าของ ดร. เข้ามา 2 ครั้ง กำลังชาร์จแบตอยู่ เรารับแต่ลืมเอาหูฟัง ไม่ได้ยิน วางสายไป แล้วต่อมามีสายเข้าทางโทรศัพท์บ้านจากบางแสน 1 สายเป็นเรื่องอนุโมทนา
ทฤษฎีวิทยาศาสตร์แห่งพิธีกรรม
เราทำพิธีกรรมเหมือนเดิม(ทำตามทฤษฎีของเรา) แต่คราวนี้ทำรอบคอบขึ้น เกรงผิดพลาด ทำถึง 3 รอบซ้ำลงไป และได้ออกนามมหาเทพด้วย ว่า โอมนมัสศิวะ โอมนารายณ์ นารายณ์ เพื่อขอให้ดูแลลูกสาวคนสวยของหลวงพ่อ แล้วตอบแทนเทวดาด้วยการแสดงธรรม โพชฌงค์7 มงคลสูตร และ รตนสูตร(รตนสุตฺตํ) แล้วอุทิศบุญให้ปวงเทพทั้งหลาย ตอบแทนไปอย่างทั่วถึง เพราะเราได้ชื่อว่ามหาเศรษฐีแห่งบุญ ให้เท่าไร ๆ ก็ไม่หมด จึงเป็นการกระทำอย่าง สุขุม มีเสียงทิพย์บรรเลงเป็นฉากตลอดเวลา ณ 10,000 ต่อ 10 หน่วย
นัยแห่งโหราศาสตร์
แล้วมาตรวจดูทางโหราศาสตร์ พบว่าวันนี้ จันทร์(๒)จรเป็นประ เล็งเสาร์(๗)จร ทักษาไม่ร้าย ทั้งคู่สลับเรือน แปลว่า ไม่ช้าคงประนีประนอมกันได้ และพระพุธ(๔)ศรีจรขณะนั้นอยู่ราศีพฤษภ แผ่ความดีงามมาคุ้มครองจันทร์(๒)จร โดยเป็น5และ9แก่กันและกัน ดาวพระอังคาร(๓)จรณราศีเมษส่งกระแสมาคุ้มครองอีกเป็นดวงที่ 2 ส่วนดาวพระศุกร์(๖)ตัวร้ายหลบไป กระแสไม่ถึง สรุปแล้ว คงฟื้นขึ้นมาในไม่ช้าไม่นานนัก เหตุที่เป็นเช่นนี้บ่อย ๆ เพราะพระจันทร์(๒)เสียโดยทักษา จะเจ็บไข้บ่อยตลอดปีไปเช่นนี้ และจังหวะดาวก็ไม่ดีเพราะเมื่อจันทร์(๒)อ่อนแรงลงเป็นนิจก็ดี เป็นประก็ดี ทุกครั้งจะโดนเสาร์(๗)ดาวร้ายเบียฬบีฑา ซ้ำเติมไปทุกครั้ง เพราะตกตำแหน่งที่กระแสเสาร์(๗)ครอบมาทุกแห่ง แต่ก็ดีที่เสาร์(๗)จรอ่อนแรงเพราะเป็นประ และมีดาวพระพฤหัสบดี(๕)มหาจักร์มาคอยรับอยู่ คราวนี้ห่างดาวพฤหัสไป60องศา แต่ดาวพระพุธ(๔)ศรีจรมาคุ้มครองให้เต็มที่ เคยคิดว่าจะทำพิธีกรรมที่เรียกว่า ชุบดาว ให้ บางทีอาจจะลองพิจารณาดูรายละเอียด ได้เสียเพียงไรก่อน เพราะในเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปชะตานี้จะหนักขึ้น
10.00 น.
ยังไม้ได้ข่าวลูกสาว
ผีสาวร้องไห้
10.15 น.
ไอ้ฝานโทร.มาจาก ม.มหาสารคาม รายงานว่า ภายหลังเมื่อคืนวิ่งกันอุตลุต เนื่องจากประตูห้องน้ำเปิดออกให้เห็นเองแล้วไปนอนกับเพื่อน ต่อมาเวลา เที่ยงคืนเศษ ๆ ได้ยินเสียงเดินลากรองเท้ามาที่หน้าห้องเคาะประตูสองสามครั้ง แล้วเดินลากรองเท้าไป พอเงียบแล้วพากันเปิดประตูออกไปดู ไม่เห็นอะไร ก็กลับเข้าไปในห้องนอน ต่อมาไอ้ฝานฝันว่า เขาร้องไห้ บอกว่าอย่าหนีเขาไปเลย เขาต้องการเพื่อน เขาเดียวดาย เปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน บอกว่าเขากำลังจะได้เป็นล่าม รออยู่ ฝันจบลงเท่านี้ ถามว่า ล่ามหมายถึงอะไร บอกว่าไม่ทราบเหมือนกัน บอกไอ้ฝานว่าควรจะกลับไปนอนห้องเดิม
ไอ้ฝานบอกว่าเพื่อนจะขอให้เชคดวงชะตาให้ บอกว่ากำลังเพล รอก่อนหลังเพล ความจริงเรายังไม่ว่าง เราวุ่นวายหลายเรื่องอยู่ วันนั้นก็ได้ตรวจดวงเพื่อนไอ้ฝานทุกคน ๆ แล้ว พบว่าทุกคนโดยเฉพาะคนที่ฝันว่าผีสาวจะเอาไปอยู่ด้วยดวงแข็งมาก แต่มีอีกคนหนึ่งกำลังป่วย และจิตใจอ่อนแออยู่ แต่ไม่นานก็จะหาย อีกคนหนึ่งก็ดวงดี ไม่มีร่องรอยร้ายหรือเคราะห์กรรมใดใด พอคาดได้ว่า กรณีผีสาวนี้กำลังจะสิ้นสุดลงเร็ววันนี้เอง
12.35 น.
ยังไม่ได้ข่าวลูกสาวว่าฟื้นแล้วหรือยัง แต่ถ้าฟื้นก็จะโทร.มาทันที เราทำพิธีเสร็จไปอีกครั้งหนึ่ง แล้วรอ
12.40 น.
โทรศัพท์มา เรียกหา ว่าเพิ่งฟื้น คุยไปเสียงแจ้ว ๆ รวมเวลาสลบไปคราวนี้เพียง 4 ชม. 33 นาที
เรื่องผีหอพักนักศึกษายังไม่จบ
22.30 น.
ไอ้ฝานโทร.มา เราเข้านอนแล้ว เราหลับไปโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เพราะเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน รายงานว่าคืนนี้ยังไม่กล้าเข้าไปนอนในห้องเดิม ไปนอนกับเพื่อน ว่าเมื่อเช้ามีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นคนเคยบวชเรียนมานาน เข้าไปสำรวจในห้อง ว่าจะทำพิธีเรียกวิญญาณผีสาวไป บอกว่าผู้มีบุญเท่านั้นจึงจะสื่อกับผีได้ แล้วต่อมาไอ้ฝานเข้าไปในห้องกับเพื่อน ๆ 3 คน ได้ยินเสียงเปิดน้ำในห้องน้ำ ก็แอบเข้าไปดู เสียงก็หยุด พอขยับห่างออกไปก็ได้ยินอีก ได้ยินพร้อม ๆ กัน ก็เลยพากันออกไป ไม่กลับเข้ามาอีก ถามว่าแผ่นทองยังอยู่ที่เดิมหรือไม่ บอกว่ายังอยู่ บนเพดานด้านบน บอกว่าดีแล้ว
เอาละ คอยฟังข่าววันพรุ่งนี้อีกที ขณะนี้เราเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน แต่เสียงทิพย์บรรเลงไม่เคยหยุดเลยตลอดวันนี้ อยู่ระหว่าง 10,000- 12,000 ต่อ 10-30 หน่วย ได้ตรวจดวงชะตาให้เพื่อนไอ้ฝานทุกคน ๆ ไม่พบว่ามีใครเคราะห์ร้าย มีแต่คนดวงแข็ง ๆ จะได้เป็นหลักเป็นฐานกันทุกคน ๆ
4 ก.ค.2550
ทฤษฎีสัมภเวสี
เรื่องราวของหอพักนักศึกษา ม.มหาสารคาม วันนี้ วันที่ 4 ก.ค.2550 นักศึกษาทั้ง3คนก็ไม่กล้าเข้าไปพักในห้องเดิมอีกแล้ว ก็พากันย้ายเข้าของลงไปพักในห้องชั้นล่างซึ่งเป็นชั้นที่ 2 รายงานข่าวว่า ขณะขนของผีสาวปรากฏตัวต่อหน้าไอ้ฝาน เห็นสด ๆ ในชุดกระโปรงขาว มีผ้าคาดเอวสีแดงสด เป็นรูปหญิงสาวรุ่นที่ผุดผ่องสวยงามมาก เอาของขวัญยื่นให้ บอกว่าอย่าไปจากเขาเลย เขาอยากมีเพื่อน เขาเปล่าเปลี่ยว แล้วพอกลางคืนไอ้ฝานก็ฝันถึงผีสาวตนนั้นในทางที่ดี ยังไม่ทราบรายละเอียด นี่แสดงถึงมิตรภาพเข้าแล้วซี แบบนี้แสดงถึงนิสสัยอันดีงามอยู่ น่าจะไม่เป็นอันตรายอย่างใดต่อไป
เราคิดว่าเรื่องราวเป็นที่น่าพิจารณาใน ประเด็นการอยู่ร่วมกันระหว่างผีกับคน ทำนองเดียวกับการอยู่ร่วมกันระหว่างสัตว์ป่ากับสังคมคนยุคใหม่ กรณีนี้ผีสาวเขาเคยอยู่ในห้องนั้น เราก็ไม่น่าที่จะขับไล่เขาไป ถ้าขับไล่เขาไปเขาจะไปอยู่ที่ไหน และในสังคมผี หรือโลกของผีก็น่ามีภัยของผีพอ ๆ กับสังคมมนุษย์ และมีระบบการปกครองของผีตามที่เราได้ศึกษามาแล้วจากป่าช้าโพนเขวาในปีพ.ศ.2533 เราควรปล่อยให้ผีสาวอยู่ต่อไป ม.มหาสารคามน่าจะแบ่งที่ทางหรือหอพักห้องนี้ให้เขาสักพอได้อยู่ เขาก็คงอยู่ไม่นานนักกระมัง และที่สำคัญเราจะได้มีโอกาสศึกษาเรื่องผี วิญญาณให้รู้เรื่องจริง ๆ รู้เรื่องของพวกเขาให้ดีขึ้นพอเป็นหลักวิชาขึ้นมา เพราะโดยหลักความเชื่อของชาวพุทธเชื่อว่า เมื่อตายแล้วต้องไปรับผลกรรม โดยรูปธรรมหมายถึงมียมบาลโดยคำสั่งของมัจจุราชเจ้านรกมาเอาตัวไปสอบสวน แต่กรณีตายก่อนกำหนด คือยังไม่ถึงเวลาตายตามบัญชีคนตายของยมโลกแต่เกิดตายลงก่อน ก็ต้องเป็นผีร่อนเร่ไปก่อน คนไทยเรียกว่า สัมภเวสี จนกว่าจะถึงเวลาที่ยมราชเจ้ากำหนดไว้ในบัญชี ยมบาลจึงจะมารับเอาไป กรณีผีสาวหอพักนี้เธอก็เข้าลักษณะ สัมภเวสี นั่นเอง แต่เราไม่ทราบว่าเธอจะต้องร่อนเร่ไปอีกนานเท่าไร ก็เอาไว้เป้นกรณีศึกษาในเรื่องโลกลี้ลับของเราต่อไป
บันทึกเรื่องประหลาดลูกสาวหลวงพ่อ
นี่เป็นการบันทึกข้อมูลกรณีศึกษาโลกลี้ลับความเป็นไปของลูกสาวหลวงพ่อ ต่อจากเรื่องราวประหลาดพิสดารตื่นเต้นในศึกษาโลกลี้ลับภาค 11-12-13 ที่ผ่านมาแล้ว
สรุปเรื่องราวในอดีต
วันที่ 4 ก.ค.2550 ลูกสาวหลวงพ่อเดินทางกลับบ้าน ด้วยความจำเป็นเนื่องจากพ่อเลี้ยงผู้ชราภาพอายุ80ปีที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ เกิดหกล้ม ก้นกบเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล ไปถึงแล้วรับพ่อจากโรงพยาบาลกลับบ้าน พี่ ๆ อีก 3 คนที่ไปอยู่ต่างจังหวัดกันหมดก็กำลังจะตามมาเยี่ยมพ่อวันพรุ่งนี้เช้า เธอเคยตั้งใจว่าจะไม่กลับมาบ้านอีก อันเนื่องมาจากไม่พอใจต่อคำโต้คัดค้านของญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งในกรณีการแบ่งสรรปันมรดกในครอบครัว แล้วก็พบกับสภาวะความกดดันทางจิตใจอย่างหนัก ภาวะกดดันเช่นนี้เพิ่งเกิดกับเธอเมื่อประมาณ2 ปีที่ผ่านมานี่เอง เมื่อถึงขนาดหนักหน่วงที่สุดทนเธอก็จะช็อคสิ้นสติลงไปในทันทีทันใด
มีสถิติในระยะล่าสุดของปี2550นี้ มีหตุการณ์หนัก ๆ ถึง 3 ครั้ง
วันที่ 25 มิ.ย.2550 อาเจียนจนหมดแรงลม ช็อคไปนานถึง 8 ชั่วโมง
วันที่ 30 มิ.ย.2550 กินยานอนหลับเกินขนาด ช็อค สลบไปนานถึง 7 ชั่วโมง
วันที่ 3 ก.ค.2550 เป็นลม เห็นบ้านหมุนเคว้งคว้างจะหล่นลงมาทับตัวเอง แล้วช็อก สลบไป 4 ชม. 33 นาที
ก่อนเกิดเหตุแต่ละครั้งจะรู้ตัวและจะโทรศัพท์บอกหลวงพ่อให้ทราบทุกครั้ง จะบอกว่าเหนื่อยเหลือเกิน เหมือนจะจากหลวงพ่อไปไม่กลับ หลวงพ่อช่วยด้วย ระยะหลังนี้นอกจากมีอาการเหน็ดเหนื่อย เหงื่อออก ลมหายใจอ่อนรวยรินลงไปตามลำดับแล้วยังมี เลือดออกทางปาก และจมูกหลั่งไหลออมาเหมือนน้ำพุ จนเปรอะเลอะหน้าตาผมคิ้วคาง และกระเซนไปถูกเสื้อผ้าและที่นอนรอบ ๆ ตัวแดงฉานไปหมด ดูเป็นภาพที่น่ากลัวน่าหวาดสยอง แต่เจ้าตัวมักห้ามไว้ล่วงหน้าว่าอย่าเอาเข้าโรงพยาบาล อย่าให้น้ำเกลือ บอกว่าไม่เป็นอะไรหรอก ให้หลวงพ่อเข้าสมาธิเรียกเขา ๆ ก็จะกลับมา ลูกสาวเน้นแต่ไหนแต่ไรว่าไม่ให้ส่งเขาไปโรงพยาบาล เพราะพอเข้าโรงพยาบาลหมอก็จะจัดการให้น้ำเกลือทันที จนหมอเองก็กลัวว่าน้ำเกลือจะเข้าเลือดไม่ได้อีกแล้ว ส่วนเรื่องเลือดออกนั้นมีข้อสรุปในชั้นต้นว่าเป็นเพราะลูกสาวหลวงพ่อเป็นหญิงประหลาด ไม่เหมือนหญิงคนอื่น ๆ การที่เลือดออกเป็นการชดเชยอย่างหนึ่งแก่ส่วนที่ประหลาดไปเท่านั้น
5 ก.ค.2550
เบื้องต้นแห่งวิชาปราณ
หนูทำได้แล้ว
08.10 น.
เวลา 08.10 น.ลูกสาวหลวงพ่อโทร.มาบันทึกการสนทนาไว้เพื่อเป็นข้อมูลการศึกษาโลกลี้ลับดังนี้
ลูกสาว พ่อ หนูกำลังจะช็อกไปอีกแล้ว หนูเหนื่อยเหลือเกิน ทำไมบ้านจึงหมุนคว้างไปหมด ราวกับจะหล่นลงมาทับ
พ่อ หนูอยู่กับใคร มีใครอยู่ด้วยบ้างล่ะ พ่ออยู่ไหน
ลูกสาว หนูไม่อยากบอกให้พ่อรู้ พ่อกำลังไม่สบาย นอนอยู่ มีพวกป้า ๆ คอยดูแล ถ้าพ่อรู้แกจะตกใจ พี่สอง กับพี่ใหญ่ กำลังมา บอกว่าจะมาพร้อมกันตอนเช้า พ่อหนูเหนื่อยเหลือเกิน ช่วยน้อย ด้วย
พ่อ หนูเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ทำไมเสียงค่อยลง ๆ ไม่ได้ยิน
ลูกสาว หนูเหนื่อย หายใจไม่ทัน
พ่อ หนูต้องอดทนไว้ อย่าเพิ่งช็อกไปเป็นอันขาด จำไว้ ไม่มีใครช่วยหนูได้ นอกจากหนูต้องช่วย ตนเอง ระวังพ่อจะตกใจถ้าน้อยช็อกลงไป ฟังพ่อนะพ่อจะบอกวิธีให้ปฏิบัติ
ลูกสาว หนูเหนื่อย หนูหายใจไม่ทัน เหมือนจะขาดใจตาย
พ่อ หนูต้องอดทน อย่าเพิ่งช็อกไปเป็นอันขาด เอาละหายใจเข้ายาว ๆ ตั้งใจ หายใจเข้ายาว ๆ หายใจทางปาก หายใจทางปาก ทำตามที่พ่อบอก หายใจทางปาก อ้าปากออกกลืนกินอากาศเข้าไป กลืนกินเป็นคำ ๆ เหมือนกินข้าว ๆ
ลูกสาว หนูจะไม่ไหวแล้ว
พ่อ กลืนกินอากาศ ทำตามที่บอก ทำหรือเปล่า
ลูกสาว ทำ แต่จะไม่ไหวแล้ว
พ่อ ต้องไหว ไม่มีใครช่วยหนูอีกแล้ว ต้องช่วยตนเอง อย่าให้พ่อตกใจเป็นอันขาด ระวังพ่อเห็นอาจจะช็อกตายก็ได้ หนูต้องทนให้ได้ ทนเอาแค่ 10 นาทีก็จะชนะ หนูต้องชนะ ทำตาม หายใจทางปาก อ้าปาก อ้าปาก กลืนกินอากาศเข้าไป กินเป็นคำ ๆ คำโต ๆ เหมือนกินข้าว เอ้า อ้าปากกลืนอากาศเข้าไป
ลูกสาว บ้านมันคว่ำ ๆ หงาย ๆ จะทับหนู
พ่อ หลับตาลง มันเป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น น้อยต้องเรียกสติมา และกลืนกินอากาศต่อไป ทำตามที่บอก ทำไป ทำไป อย่าหยุด
ลูกสาว พ่อ หนูจะไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว
08.35
เสียงหมดลง ช็อคไปเสียงสิ้นสุดลง เสียงโทรศัพท์หลุดมือ ขาดการติดต่อ เป็นอันว่าเธอช็อกไป และคงช็อคสลบเป็นตายไปหลายชั่วโมงเลยละ และไม่รู้ว่าใครจะมาพบ ๆ แล้วจะไม่ตื่นตกใจได้อย่างไร และพ่อผู้ป่วยอยู่จะตกใจขนาดไหน และใครจะช่วยทำการแก้ไขอย่างไร และเราจะทำอย่างไรในวินาทีต่อไปนี้ บอกแม่เลี้ยงลูกสาวหรือ ก็ไม่ทราบเบอร์โทรศัพท์ โอ !!! น่าวิตกจริง ๆ
08.55
20 นาทีต่อมา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รีบดูเป็นเบอร์ของเธอ
ลูกสาว พ่อ หนูทำได้ (เสียงแผ่วเบา) หนูเหนื่อย เลือดออก หนูยังเหนื่อย ลุกไม่ขึ้น
พ่อ กินอากาศต่อไป หายใจให้ได้เป็นปกติก่อน
ลูกสาว เลือดออกเต็มหน้า ออกปาก ออกจมูก เปียกเสื้อผ้า เต็มไปหมด
พ่อ ไม่เป็นไร เลือดออกก็ดี ตั้งใจ ๆ กินอากาศ เพื่อจะเรียกลมหายใจกลับมา เข้าใจไหม?
ลูกสาว เข้าใจ ทำ ๆ สิ่งที่พ่อบอก สมาธิแตก เหลือแต่ตัว
09.06
แล้วเสียงหายไปอีกครั้ง
09.15
ชัยชนะ
อีก 9 นาทีต่อมา ฟื้น เสียงแจ๋ว ๆ รายงานมาว่า หนูทำได้ พี่ใหญ่มาถึงพอดี ตกใจเห็นเลือดกระจายไปหมด บอกแกว่าอย่าพูดให้ใครได้ยิน พ่อจะตกใจ แกเลยไม่พูด
นี่นับเป็นชัยชนะหนแรกของสาวน้อย ต่ออาการช็อก ซึ่งหากไม่เช่นนั้นจะสลบไสลไปเป็นเวลานานหลายชั่วโมง อาจจะข้ามคืนข้ามวันไปก็ได้ ที่สำคัญสร้างความตื่นตระหนกให้คนที่แวดล้อม เพราะไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ทุกคนคิดปลงว่าคงจะสิ้นลมสิ้นชีวิตไปทุกครั้ง ๆ แม้กระทั่งเราเองก็เกรงเช่นนั้น แต่ในภาวะฉุกเฉินวันนี้ น่ากลัวเพราะเธออยู่เพียงคนเดียวกับบิดาผู้ป่วยอยู่ เราระลึกถึงวิถีปราณ จึงแนะนำไปให้ปฏิบัติเชิงวิชาปราณขั้นต้นไป แล้วได้ผลดีอย่างคาดไม่ถึง เอาละ นี่เป็นการบันทึกข้อมูลที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งทีเดียว
12.50 – 18.00 น
ลูกสาวหลวงพ่อคนดื้อ เป็นนางเงือกคนสวยเล่นน้ำในลำธารปลายนาใกล้แนวป่าใหญ่สนุกอยู่คนเดียวถึง ร่วม 7 ชั่วโมง มีพี่ชายใหญ่คอยดูแลอยู่ห่าง ๆ เป็นลำธารที่พุ่งลงมาจากทิวเขาชะเงื้อมลูกนั้น ลูกที่เธอเคยกลิ้งตัวตกลงไปปากเหวหมายทำอัตตวนิบาตฆาตกรรม
ความคิดแลนด์หลอดบวกธรรมชาติดั้งเดิม
6 ก.ค.2550
ณ ที่ราบกว้างใหญ่หลายร้อยไร่ อยู่ภายในป่าเขา ดงดิบ ห่างจากบ้านไปประมาณ 120 กิโลเมตร ลูกสาวหลวงพ่อมาถึงตั้งแต่เช้าแล้ว เธอมากับครอบครัวและพี่ชาย2คนมาตรวจกิจการฟาร์ม นี่คือฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของครอบครัวนี้ ล้วนไปด้วยกระบือตัวอ้วนใหญ่ พ่วงพี ด้วยหญ้างามที่ขึ้นบนที่ดินอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ เธอบอกว่ามีจำนวนทั้งหมด 70 ตัว อยู่กันเป็นฝูง ว่ามีลำธารใสไหลเรื่อย ๆ ริน ๆ ชะกลิ่นสาบควายให้ไหลไป ทำให้น้ำสะอาดและปราศจากกลิ่นโคลนสาบควายในน้ำ เป็นสถานที่เขียวชอุ่ม เงียบสงัด สงบ บอกว่าอยากเล่นน้ำเหลือเกิน อยากไปเก็บเห็ดกับชาวบ้านเขา แต่พี่ใหญ่ไม่ให้ไป พวกเขามีพืชไร่มากมายจะฝาก แต่ไม่เอาเพราะที่บ้านก็มีเยอะแยะ นี่เป็นความฝันของเธออยากขยายฟาร์มออกไปให้ใหญ่กว่านี้ และอยู่ที่นี่ อยู่อย่างสงบ ไม่อยากติดต่อสังคมภายนอกเลย นี่คือความคิดแบบแลนด์หลอด หรือราชาที่ดินในยุคก่อนนั่นเอง เอ!!!!! เพียงได้ฟังก็รู้สึกสงบใจขึ้นมาลึก ๆ ในทันที ที่นี่เป็นฟาร์มแบบธรรมชาติ ปล่อยกระบือให้เที่ยวไปอย่างเป็นอิสระ เป็นแบบธรรมชาติ มีปัญหาแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะฤดูติดสัด ควายจะมีการต่อสู้แย่งตัวเมียกัน จนบาดเจ็บบ่อย ๆ พวกโคบาลที่นี่ต้องทำคอกพิเศษเอาไว้ขังตัวที่คะนอง ๆ เอาไว้ กลัวมันสู้กันบาดเจ็บ เขาเลี้ยงแบบธรรมชาติ เวลากระบือแก่แล้วเขาจะไม่ขายมันไป กลัวว่าคนจะซื้อไปเข้าโรงฆ่า เขาจะเลี้ยงมันไปจนแก่ตายลงด้วยชราภาพ และจะไม่กินมันแต่เอาซากมันไปฝัง แท้จริงครอบครัวนี้เขาไม่คิดว่าทำฟาร์มเพื่อธุรกิจอย่างเดียว แต่เพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกันอย่างปรานีต่อกันระหว่างคนกับกระบือด้วย และระหว่างคนกับคน เจ้าของฟาร์มกับชาวบ้านด้วย และนี่คือสังคมธรรมะธรรมชาติที่น่าสนใจจริง และดูเหมือนลูกสาวหลวงพ่อต้องการถ่ายทอดเรื่องราวให้ได้รับฟัง ๆ ในความหมายว่าเธอทำสิ่งเหล่านี้ ๆ แล้วไม่ทราบความหมายว่าทำไปทำไม ในเมื่อชีวิตมีแต่รอความตาย
เรื่องเล่าเจ้าป่าเจ้าเขากลางดงดิบ
7 ก.ค.2550
8 ก.ค.2550
เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้รับรายงานก่อนที่จะเกิดเหตุตกใจสลบไสลไปเกือบตลอดคืน วันที่ 7 ก.ค.2550 จนเช้าวันนี้จึงทราบว่า ขณะเดินทางกลับจากฟาร์มปศุสัตว์เวลาค่ำไปแล้ว เส้นทางเป็นป่าดงดิบ ไปตลอดจนถึงบ้าน เจอฝนเบา ๆ ทางวกวนไปตามตีนเขา ขับรถช้าระวังลื่นไปตลอด เธอเล่าว่าขณะหนึ่งแลเห็นคนกลางถนนอยู่ข้างหน้ารถ เหมือนเดินเข้ามาแล้วแวะออกข้างทาง ร้องบอกให้พี่ชายที่ขับรถให้ระวังจะชนคน ก็ตกใจกันเพราะไม่มีใครเห็นคน ๆ นั้นนอกจากเธอ แต่พี่พี่สะใภ้ทั้ง6เขาก็เชื่อว่าเธอเห็นจริง แล้วต่อมาอีกก็เห็นอีก จนครั้งสุดท้ายเห็นรถชนคร่อมร่างคน ๆ นั้น อยู่ใต้รถ ต้องหยุดรถลงไปดู แต่ไม่พบอะไร สาวน้อยก็ช็อคสลบลง ว่าคนทั้งหมดเชื่อว่าเป็นการปรากฏของเจ้าป่าเจ้าเขา เขาต้องการจะบอกอะไรสักอย่างหนึ่ง จนต้องพนมมือกล่าวคำขอขมาต่อเจ้าป่าเจ้าเขาจึงจะเดินทางต่อไปได้โดยสวัสดิภาพ
กรณีนี้สาวน้อยเห็นคนเดียว แล้วช็อคสลบไป คงคิดว่ารถชนคนตายใต้ท้องรถ บรรดาพี่ ๆ และพี่สะใภ้ต้องประคองประคบประหงมไปจนถึงบ้าน กว่าจะฟื้นก็ตี 2
คล้ายคลึงกับกรณีพระภูมิเจ้าที่ที่ห้วยคุ้ม และยักษ์เฝ้าป่า ณ ศูนย์การคณะสงฆ์ภาค 10 ที่เราได้พบมาแล้ว เจ้าป่านี้ได้ยินบ่อยในนวนิยายเรื่องป่าดงพงไพร เช่นเพชรพระอุมาของพนมเทียน ท่องไพรของน้อย อินทนนท์ เป็นต้น แต่นั่นเป็นนวนิยาย เรามองเรื่องราวเหล่านี้ว่าเป็นโลกอีกโลกหนึ่ง ที่เราให้สมมติฐานว่าเป็นโลกนามธรรม หรือโลกวิญญาณ และเราพยายามจะศึกษาให้เป็นหลักวิชาวิทยาศาสตร์และบัดนี้เครื่องมือที่ศึกษาอันสำคัญยิ่งของเราก็คือ ฌาน และ เสียงทิพย์ ซึ่งได้ให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นไปทุกขณะว่าจะสามารถเปิดเผยความลับของโลกทิพย์ออกมาได้ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ปิดกรณีผีสาวหอพักลงชั่วคราว
เนื่องเพราะจวนเวลาสอบในต้นเดือนสิงหาคมนี้แล้ว นักศึกษาทุกคนต่างทำสมาธิต่อการเรียน ไอ้ฝานบอกว่า ย้ายไปกันทั้งหมดแล้ว ห้องว่างเปล่า สิ่งที่นักศึกษาสาว ๆ เหล่านี้พอใจกลับเป็นเรื่องโหราพยากรณ์ ว่าแม่นยำทุกเรื่องราวที่หลวงพ่อพยากรณ์ให้ และนัดกันจะมาสักการะหลวงพ่อหลังสอบเสร็จในเดือนสิงหาคม และคงเป็นโอกาสดีจะได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับผีสาวหอพักอย่างละเอียด ส่วนการศึกษาหรือสมมติฐานการศึกษาของเราก็คือ ตราบใดที่แผ่นทองแผ่นนั้นอยู่ภายในห้องพักของผีสาวตนนั้น ก็จะยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อทางจิตวิญญาณระหว่างเรากับผีสาว คงได้พบอะไร ๆ ที่แปลกประหลาดและพิเศษ ๆ บ้าง
ต่อไปนี้เป็นรายงานภาคภาษาอังกฤษ
จะทะยอยแปลเป็นไทยแทรกเป็นตอน ๆ ภายหลัง
โปรดติดตามโดยตรงได้จาก [press here]:
Report on my own practices, Buddhism How?
จบ ภาค 12
ต่อภาค 13