เฝ้าดูฯมิ.ย.-ก.ค.2552-ปัจจุบัน
เกิดเรื่องแล้วซีครับ นายอะไรที่อยู่กระทรวงยุติธรรม นามสกุลยาว ๆ นาย.............. สาลีรัฐวิภาษณ์ คนนั้นน่ะ ประชาธิปัตย์ ว่า ฎีกาแดง 3.5 ล้านคน จะต้องผ่านกระทรวงยุติธรรมก่อน กระทรวงจะต้องตรวจสอบก่อนว่าควรยื่นหรือไม่ยื่น ดูเหมือนคนในรัฐบาลระดับรัฐมนตรีหลายคน รวมทั้งหัวหน้ารัฐบาลเด็ก ก็ออกมารับรองด้วย
ก็เกิดเรื่องซีครับ ย้อนรอยเดิมของกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐานอีกแล้ว ซี !!!!
ก็เขาไม่เห็นด้วยกับเรา เป็นศัตรูเราอยู่แล้ว ส่งเรื่องไปให้เขาตัดสิน แล้วผลจะออกมาอย่างไร?
ก็จะเหมือน ไอ้แป๊ะลิ้มมันกับพวกพันธมิตร์ พวกก่อการร้ายแท้ ๆ กลายเป็น พวกก่อการดีได้อย่างไร ?
ถ้าคิดว่าตลก ก็ตลกไม่ออก
ช่วยคิดหน่อย เรื่องนี้ทางแม่ทัพใหญ่ วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร ณัฐวุฒิ จะต้องอธิบายนะครับ และแดงทั้งแผ่นดิน จะยอมไม่ได้ เป็นไรก็เป็นกัน
อธิบายด่วน !!!!! ใครก็ได้อธิบายด่วน ท่านนายสถานีแดง อดิศร เพียงเกษ หรือท่านใด ๆ ก็ได้ อธิบายด่วน !!!!
· ผู้แสดงความคิดเห็น แดง ดำรงธรรม วันที่ตอบ 2009-08-19 09:27:02
ชินวัตร หาบุญพาด นายกสมาคมแท๊กซี่แห่งประเทศไทย พูดเรื่องเหตุการณ์ที่พัทยาของคนเสื้อแดงผู้สุจริตที่รักในประชาธิปไตย โดนคนเสื้อสีน้ำเงิน บัญชาการโดยเนวิน ชิดชอบ ลอบทำร้าย ได้อย่างชัดเจนมาก น่าเชื่อถือ บทบาทของเขา ทำให้ระลึกถึง คาราวานคนจน ที่ยกขบวนรถอีแต๋นมาจากอีสาน มาช่วย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะที่โดนยำใหญ่จากขบวนการโฆษณาชวนเชื่อ นำโดยจอมบ่างช่างยุ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อการร้ายสนามบินนานาชาติ จนงุนงงไปหมด ตอนต้นปีสมัยรัฐบาลทักษิณ ปี 2549 นั้น โดยได้มายึดสวนจตุจักรอยู่แรมเดือน พวกเขาได้ยกขบวนคนจนชนบทบ้านนอกบุกไปถึง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประณามคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ขณะนั้น ที่นินทาลับหลังว่าขบวนคาราวานคนจนรับสินบนเป็นเงินค่าจ้างมาเดินขบวน ทำการสั่งสอนวิชาประชาธิปไตยให้ศาสตราจารย์นางนั้น ที่เป็นถึงคณะบดีคณะรัฐศาสตร์ คาราวานคนจนไปเสียทีพวกม็อบชาวกรุงที่มันใช้ชั้นเชิงเล่ห์กะเท่ห์เสี้ยมเขาได้แหลมคมกว่า ในการโจมตีที่โรงแรมสยามพารากอน ขณะที่ชินวัตร หาบุญพาด มีขบวนรถแท็กซี่ ที่พร้อมทำงานเพื่อนำทักษิณ ชินวัตร กลับคืนมาสู่ประเทศไทย ด้วยรักซาบซึ้งในนโยบายของทักษิณ เช่นเดียวกัน ชินวัตร หาบุญพาด คงจะได้เรียนรู้จากคาราวานคนจนหนนั้นมามากแล้ว แน่นอนบทบาทใหม่ของชมรมแท็กซี่ ของชินวัตร หาบุญพาดกับพวก นี่จักอาจเป็นการแก้แค้นแทนคาราวานคนจน หากเป็นไปได้
แต่นี่เราจะตัดเอาข้อความเกี่ยวกับคาราวานคนจนมาเป้นที่ระลึกบางตอน จาก การศึกษาเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อยุคทักษิณ ดังต่อไปนี้
“ข้อสังเกตที่ 2 โปรดมองบทบาทของคนกลุ่มอื่นบ้าง โดยเฉพาะคนที่เลือกตั้ง อนุมัติให้ทักษิณเข้ามาบริหารประเทศซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ และขณะนี้ลองมองไปที่บทบาทของม็อบอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มาชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลทักษิณ ที่สวนจตุจักร อย่างไร
เราเห็นว่านักวิชาการคงจะมองระบอบประชาธิปไตยไม่ถูกต้องจากการมองกลุ่มคาราวานคนจนไม่ถูกต้องนี่เอง
และจากกรณีที่มีคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้วิพากษ์กลุ่มคาราวานคนจนอย่างลับหลังและเป็นข่าวออกมาว่า เป็นกลุ่มคนจนที่ไม่มีความรู้ในทางการเมืองอะไร ที่ออกมาชุมนุมเพราะมีการรับอามิสสินจ้างจากผู้ว่าจ้าง ทำให้กลุ่มรักทักษิณ และคาราวานคนจนไม่พอใจ ยกกองคาราวานไปยื่นหนังสือประท้วงที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งนั้น
ซึ่งการมองด้วยสายตาเช่นนี้ ไม่น่าจะมีขึ้นในหมู่ชนปัญญาชนในมหาวิทยาลัย เพราะโดยหลักรัฐศาสตร์พวกเขาเป็นกลุ่มผลประโยชน์(interest group)กลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่แสดงบทบาทโดยชอบธรรมอย่างถูกต้องตามธรรมชาติและวัฒนธรรมการเมืองในระบยอบประชาธิปไตยโดยแท้จริง จากเหตุผลหลายประการ ดังนี้
ประการที่ 1 คาราวานคนจน อ้างความชอบธรรมในการชุมนุมว่ามาต่อสู้เพื่อนโยบาย ของรัฐบาลทักษิณที่ให้คุณกระทบโดยตรงแก่พวกเขา ได้แก่ นโยบาย 30 บาททุกโรค, หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์, ทุนการศึกษาคนจน- ผู้อยากเรียนได้เรียน, เรียนก่อนจ่ายทีหลัง, ทุนแพทย์ 1 อำเภอ, นโยบายบ้านเอื้ออาทร, นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง, สหกรณ์การเกษตร, ระดับราคาที่มีเสถียรภาพ, ราคาข้าว การประกันราคาข้าว เสถียรภาพของราคาข้าว, ราคายางและพืชผลทางเกษตรกรรมที่มีเสถียรภาพ, การไฟฟ้าสาธารณูปโภค, การคมนาคมของท้องถิ่น, ระบบน้ำดื่มน้ำใช้, ระบบน้ำเพื่อการเกษตรกรรม, ขจัดความยากจนทั่วประเทศ, เมกกะโปรเจกต์เพื่อการมีงานทำ, กองทุนหมุนเวียน, แปลงสินทรัพย์เป็นทุน, เบี้ยเลี้ยงชีพสำหรับคนชราภาพ และคนว่างงาน, SML, ฯลฯ
ซึ่งจะเห็นโดยปราศจากข้อสงสัยว่า ในยุคทักษิโนมิกส์ รัฐบาลทักษิณได้คิดนโยบายการบริหารขึ้นมาอย่างมากมายเป็นประวัติการณ์ ที่ไม่เคยมีมาก่อน (ในขณะที่ฝ่ายค้านยุคนี้ไม่เคยเสนอนโยบายอะไรเลยแม้แต่ข้อเดียว) ซึ่งนโยบายเหล่านี้ ได้กระทบให้คุณประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชนบทอย่างแรงจนรู้สึกเองเป็นธรรมชาติ เมื่อพวกเขาเห็นว่า มีคนที่ไม่เข้าใจคนจน ไม่เข้าใจในเรื่องนโยบาย จะไล่รัฐบาลหรือคนทำนโยบายเหล่านี้ไปเสีย ซึ่งจะเป็นผลให้พวกเขาเดือดร้อน เพราะไม่มีพรรคการเมืองใดเสนอนโยบายเช่นนี้อีก พวกเขาจึงออกมาให้กำลังใจแก่รัฐบาล และทั้งแสดงพลังมวลชนกลุ่มผลประโยชน์เพื่อต่อต้านผู้จะทำลายนโยบายเหล่านี้ เพื่อให้คงนโยบายเหล่านี้ไว้ต่อไป
ซึ่งสำหรับผู้ใดก็ตามที่รักประชาธิปไตยแล้ว น่าจะพิจารณากันว่า นี่เป็นการต่อสู้โดยความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์ตามกฎกติกาของระบอบประชาธิปไตยสากล
ประการที่ 2 การเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตย หมายถึงการเรียนรู้หลักการของความเป็นมนุษย์ เราจึงให้สิทธิในการออกเสียงเท่ากัน คงไม่มีนักวิชาการคนใดเรียกร้องว่าตนจะต้องมีเสียงมากกว่าคนอื่น เพราะเหตุที่ตนเป็นนักวิชาการมีความรู้มากกว่า ฉะนั้นจึงไม่น่าจะมองว่า ต้องเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยมีปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมาอ้างเท่านั้น และไม่เพียงการเรียนรู้จากทฤษฎีของตะวันตกอย่างเดียว แต่ควรเรียนจากหลักการพระพุทธศาสนาด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจความเป็นมนุษย์ หรือหลักปรัชญาว่าด้วย เสรีภาพ ภราดรภาพ และ เสมอภาค อย่างลึกซึ้ง
การขัดแย้งของคนสองกลุ่ม ด้วยเหตุผลทั้งสองฝ่ายต่างยกมาอ้าง บัดนี้จึงน่าที่ทุกฝ่ายจะได้หวลไปพิจารณาอย่างจริงจังอีกทีหนึ่งว่า มีเหตุผลตามที่ตนนึกคิด และหวาดระแวงอยู่หรือไม่ มีอะไรเป็นข้อพิศูจน์ โดยเราจะต้องหาวิธีการพิศูจน์ที่สมกับความเป็นมนุษย์ และหากเป็นฝ่ายวิชาการก็ควรจะตระหนักอย่างยิ่งว่า ต้องทำตนเป็นตัวอย่าง ทำการต่อสู้อย่างถูกต้อง ให้สมกับความเป็นนักวิชาการ
ขณะนี้เราได้พิศูจน์แล้วหรือยังว่า ข้อกล่าวหาของเราเรื่องทักษิโนมิกส์ มีความเลวทรามต่ำช้าเช่นนั้นจริง ๆ โดยทดสอบว่า เราได้เคยเข้าใจคนจน หรือประชาชนระดับรากหญ้าที่แท้จริง ว่าพวกเขาได้ประโยชน์จากนโยบายทักษิโนมิกส์ ต่อสู้เพื่อนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา และจรรโลงระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างไร? หรือไม่?
ถ้ารัฐบาลไทยรักไทยนี้ออกไป รัฐบาลอื่นโดยพรรคการเมืองอื่นเข้ามา รัฐบาลนั้นโดยพรรคการเมืองนั้น จักมีนโยบายใดที่ชดเชย ที่ให้ประโยชน์แด่คนระดับรากหญ้าเหล่านี้?
จะสามารถสร้างนโยบายให้หลายหลากอย่างยุคทักษิโนมิกส์ได้หรือไม่?
บานไม่รู้โรย
www.newworldbelieve.com
3 เม.ย. 2549”