22 ก.ค.2552 วันนี้มีสุริยคราสเห็นได้ทั่วประเทศไทยเริ่มจับเวลา 08.03น.
%20(2).JPG)
โทรทัศน์อินเดีย[India TV] รายงานสุริยคราสในประเทศอินเดีย เวลา 10.05 น.เวลาไทยเห็นดวงอาทิตย์จวนจะหายไปแล้ว เหลือเพียงขอบแหว่งเหมือนจันทร์แรม 14-15ค่ำ แล้วชั่วอึดใจจากนั้น อาทิตย์ทั้งดวงก็กลายเป็นสีดำสนิทมีประกายแสงล้อมเป็นวงกลมบาง ๆ รอบดวงอาทิตย์สีดำ ที่น่าสนใจก็คือ โทรทัศน์อินเดียถ่ายทอดเสียงสวดอ้อนวอนของคนอินเดียดังกระหึ่ม ขณะที่ภาพคนอินเดียจำนวนมหาศาลลงไปแช่พนมมืออยู่ในแม่น้ำ(คงเป็นแม่น้ำคงคาที่เมืองพาราณสี) และที่เบียดเสียดกันริมฝั่งก็แน่นขนัด โทรทัศน์อินเดียผ่านภาพริมแม่น้ำไปอย่างค่อนข้างเร็ว คงไม่ต้องการเน้นไปที่ความเชื่อ เพราะคนอินเดียมองเป็นเรื่องเทพเจ้าของพวกเขากำลังจะเป็นอันตราย ในขณะที่ความจริงเป็นเรื่องดาราศาสตร์ไม่เกี่ยวอะไรกับเทพเจ้าเลย ยังไม่มีรายงานว่ามีคนแขกเหยียบกันตายที่แม่น้ำกึคน
เวลา 11.30 น. โทรทัศน์อินเดียยังคงรายงานสุริยคราสต่อ เห็นภาพชุมนุมทำพิธีรอบกองไฟ หรือหลุมไฟ ตีฉาบตีฉิ่ง ร้องอ้อนวอนเทพเจ้ากันใหญ่ ดู ๆ เหมือนคนชนบทไทยเมื่อ 60-70 ปีก่อน ที่พากันเคาะกะลา ตีฆ้อง ตีต้นไม้ไล่ราหูที่มาอมดวงอาทิตย์ กลัวอาทิตย์จะดับไปตลอดกาลอย่างไรอย่างนั้น แสดงว่าจริงอยู่อินเดียมีคนส่วนหนึ่งที่เจริญทางความคิดแบบวิทยาศาสตร์ไปไกลแล้ว แต่คนมากมายมหาศาลยังคงงมงายไร้สติตราบที่ยังคงเห็นการบูชาอ้อนวอนด้วยความเชื่ออยู่เช่นนี้ นี่เป็นปัญหาใหญ่ในประเด็นของการเมือง ด้วยสัจธรรมมีว่าคนที่เชื่องมงายในเทพเจ้าไม่อาจจะเป็นประชาธิปไตยได้ อินเดียกำลังมีปัญหามากมายหากคิดสร้างพัฒนาการเมืองให้ก้าวไปในครรลองประชาธิปไตย จะต้องทำงานด้านการเปลี่ยนแปลง(change) ในด้านความเชื่อที่เป็นเช่นนี้ ให้เป็นความเชื่อแนววิทยาศาสตร์ และก้าวแรกก็คือถอนตัวออกจากความคิดพึ่งพาเทพเจ้าออกมาพึ่งตนเอง ปกครองตนเอง ด้วยสติปัญญาของมนุษย์เอง ไม่ตกอยู่ใต้การสั่งการของเทพเจ้า หรือคณะตัวแทนของเทพเจ้าบนโลกมนุษย์ จึงจะชื่อว่าการปกครองของมนุษย์ โดยมนุษย์ และเพื่อมนุษย์ คือประชาธิปไตย อำนาจเป็นของมนุษย์ อย่างเช่นชาวอินเดียที่เมืองนาคปุระเริ่มกระทำกันเป็นแบบอย่างขึ้นมาแล้ว
* 001 รายงาน