A Short Message To The Kingdom Of Cambodia
Dear Sir
Its an accident, according to the border situation on October 15, 2551[2008]. What has happended along the Cambodian-Thai border, the Preah Vihear side since the day, it has been accidental. And were regret for the accident. And would like to say a word that we admire the force of Cambodia for the soldiers hearth of fight. And wish the situation would become better soon.
Sincerely Yours,
https://www.newworldbelieve.net
October 19, 2551[2008]
พิธีราชาภิเษกสมเด็จพระนโรดมสีหะมุนี แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยกัมพูชา
โทรทัศน์ทุกช่อง 29 ต.ค. 2547
ทรงเป็นพระโอรส สมเด็จพระนโรดมสีหะนุ ที่ทรงสละราชบัลลังก์ และสภาราชบัลลังก์แห่งกัมพูชาจัดให้ครองบัลลังก์ เป็นพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่29 ตุลาคม2547 ในพิธีนั้นจัดแบบง่ายๆ ไม่ได้เชิญแขกที่เป็นกษัตริย์ต่างประเทศแม้ราชอาณาจักรไทยก็ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในพิธีนี้ด้วย คงมีแต่เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆเข้าร่วมพิธี พร้อมด้วยฝ่ายการเมืองการปกครองประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยกัมพูชา มีนายฮุนเซน และคณะรัฐบาล ข้าราชการระดับสูง เข้าร่วมในพิธีนี้ พิธีที่เห็นแสดงให้เห็นถึง ศาสนาและวัฒนธรรมของกัมพูชา ว่าคล้ายคลึงกับประเทศไทย แสดงถึงการเลื่อมใสศรัทธาใน พระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมพุทธที่เป็นที่เลื่อมใสสูงสุด มีหมู่สงฆ์เป็นส่วนประกอบสูงสุดของพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ โดยมีสงฆ์มหาเถรประธานหมู่ 2 รูป ร่วมพิธีการครองบัลลังก์ อันเป็น ขัตติยประเพณีเยี่ยงเดียวกับประเทศไทย นอกจากนั้นหมู่สงฆ์ยังสวดมนต์บทเดียวกันกับหมู่สงฆ์ไทย คือสวด 7 ตำนานพระปริตและชยมงคลคาถาบทเดียวกันกับหมู่มวลสงฆ์ไทย แม้ลำดับขั้นตอนของพิธีกรรมก็ลำดับไปเช่นเดียวกับหมู่พระสงฆ์ไทยทุกประการ นอกจากนั้นพิธีพราหมณ์ก็คล้ายคลึงกันด้วย เพราะพราหมณ์ของกัมพูชากับพราหมณ์ของไทยนี้มิได้หมายถึงพราหมณ์ตามหลักศาสนาฮินดู แต่หมายถึงชีผ้าขาว พุทธผู้ที่ถือศีล 8 ข้อที่คงนับถือเลื่อมใสพุทธศาสนา และเป็นชาวพุทธพวกหนึ่งที่ถือว่าเทพทั้งหลายก็เลื่อมใสพระพุทธศาสนาและน้อมบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าเป็นใหญ่เหนือเทพเทวาทั้งปวง โดยความหมายของฝ่ายพราหมณ์นั้น หมายความถึงเอาแบบพิธีกรรมบางอย่างที่นอกเหนือไปจากคำสอนของพระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นบริบทด้วย แต่สิ่งที่น่าสังเกตในพิธีนี้ที่น่าฉงนอยู่ก็คือ ทางพราหมณ์กัมพูชา ได้มีการพิจารณาด้านโหราศาสตร์ประกอบการวางฤกษ์ยามอภิเษกกษัตริย์หรือไม่ เหตุใดรัฐบาลและโหรกัมพูชาจึงเลือกกำหนดฤกษ์ยามใน ช่วงที่ดาวใหญ่ที่เป็นเครื่องหมายของกษัตริย์กำลังตกต่ำ อับรัศมีอยู่ช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดี ไม่แสดงความสง่างามทรงเกียรติยศสูงส่งของกษัตริย์ เมื่อมีข้อเท็จจริงว่า โหราศาสตร์ย่อมมีบทบาทมาแต่เดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพียงแต่ว่าพิธีกรรมนี้ได้บอกถึงการพิจารณาของหมู่โหรกัมพูชาอย่างไร ได้บ่งบอกถึงภูมิรู้ภูมิปัญญาของโหรในประเทศนั้นอย่างไรหรือไม่ หรือมีการใช้วิชาโหราศาสตร์ไปในทางที่ไม่เป็นการชอบธรรมแด่บัลลังก์กษัตริย์กัมพูชา