บันทึกความจริงวันนี้
... จากเสื้อแดงผู้รอดชีวิตมาจากทำเนียบรัฐบาล
ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2552 การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงสัญลักษณ์ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยทั้ง 76 จังหวัด ที่ทำเนียบรัฐบาล ชาวไทยทั้งประเทศได้ติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศไทยจาก D-STATION ข่าวสารที่ออกมารายงานตรงตามสถานการณ์จริง แต่ทีวีทุกช่องของรัฐกับรายงานบิดเบือนความจริง ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ผู้คนทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดหลั่งไหลมาที่ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆนับจำนวนหลายแสนคนเพื่อมาดูความจริง เพราะข่าวสารที่นำเสนอทางสถานีโทรทัศน์ D-STATION ข่าวสารของคนเสื้อแดงได้เผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้คนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศให้การสนับสนุน มีการบริจาคเงินสนับสนุนเข้ามาโดยไม่ขาดสาย
การถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ D-STATION จากเวทีปราศัย และภาพข่าวที่ปรากฏสู่สายตาสาธารณชนทั่วโลก คือคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับการศึกษาที่มารวมพลังในการแสดงออกทางการเมือง พลังของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สัญลักษณ์ของการปกครองในระบอบอำมาตยาธิปไตย ผู้นิยมอำนาจเผด็จการตกเป็นรองดังนั้นกลยุทธในการต่อสู้เพื่อทำลายฝ่ายเสื้อแดงจึงเข้มข้นขึ้นโดยมุ่งโจมตี D-STATION
มิให้ออกอากาศความจริงให้คนไทยและทั่วโลกได้รับรู้
วันที่ 12 เมษายน 2552 ผู้คนที่หลั่งไหลมายังทำเนียบรัฐบาลได้ถูกสกัดมิให้เข้ามาในทำเนียบได้ ในช่วงกลางคืน คนเสื้อแดงที่เดินทางกลับบ้านถูกลอบทำร้ายจำนวนมาก ประกาศเตือนจากแกนนำมิให้ออกนอกทำเนียบ คนในทำเนียบเหมือนถูกขังและเริ่มรู้ชะตากรรมของตนเอง ว่าเมื่อใดที่สัญญาณของ D-STATION หยุดออกอากาศ เมื่อนั้นการโจมตีย่อมเกิดขึ้น รัฐบาลขู่ว่าจะสลายการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล ส่วนรอบนอกรัฐบาลได้ส่งทหารและคนเสื้อน้ำเงินของนายเนวิน ชิดชอบ ออกไปก่อกวนและทำร้ายคนเสื้อแดง มิให้มาสมทบในทำเนียบ กองอำนวยการส่งข่าวผ่าน D-STATION
ให้คนเสื้อแดงแถวลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานีไปเพิ่มกำลังเพื่อดูแลสถานี และดาวเทียมไทยคมมาตรการทุกชนิดที่รัฐบาลนำมาใช้จึงรุนแรงและโหดเหี้ยมมากขึ้น นายเนวิน ชิดชอบ นำกองทหารที่ไม่ทราบฝ่ายและพูดภาษาไทยไม่ได้ติดอาวุธสงคราม นำมาปฏิบัติการกับคนเสื้อแดง การไม่มีอาวุธที่เท่าเทียมกันไปต่อกร จึงทำให้เพรี่ยงพร้ำและล้มตายเป็นผักเป็นปลา ส่วนศพก็ถูกทหารนำไปซ่อน และวิธีเดียวที่จะเผด็จศึกคนเสื้อแดงให้สิ้นซาก ก็คือการตัดขาดความจริงจากโลกภายนอก นายสาธิต วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือให้ตัดสัญญาณดาวเทียมไทยคม แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดจึงสั่งการให้ทหารควบคุมมิให้ออกอากาศได้ จนกระทั่งตอนดึกของวันที่ 12 เมษายน 2552 สถานี D-STATION ได้หยุดออกอากาศโดยสิ้นเชิง
นับแต่นั้นมา ประชาชนทั้งประเทศและทั่วโลกจึงได้เห็นแต่ภาพข่าวทุกช่อง ที่รัฐบาลนำเสนอว่าคนเสื้อแดง ได้ก่อความไม่สงบ ใช้กำลังทำร้ายผู้คนและทำลายสถานที่ราชการต่างๆ ทั้งๆที่ความเป็นจริงการ์ดของคนเสื้อแดงได้อ่อนกำลังลงแล้ว และไม่สามารถคุ้มครองคนเสื้อแดงในทำเนียบรัฐบาลได้อีก เพราะปฏิบัติการอันเหี้ยมโหดของทหารและกลุ่มเสื้อน้ำเงิน
ในทำเนียบมีกลุ่มพันธมิตรสวมเสื้อแดงเข้ามาปะปน เพื่อคอยหาโอกาสลากตัวไปสังหารทีละคนๆ รอบๆทำเนียบก็มีทหารมาปิดล้อม เสียงระเบิดข่มขวัญ ไม่มีใครกล้าออกจากกลุ่ม น้ำไม่ได้อาบ เข้าไม่ได้กิน ไม่กล้าแม้แต่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ มีการระดมทหารมาปิดล้อม ทางเข้าทุกทาง การ์ดของคนเสื้อแดงต้องเพิ่มกำลังดูแลทางเข้าออกมิให้ทหารเข้ามาทำร้ายแกนนำและคนเสื้อแดงในทำเนียบรัฐบาลได้ แต่ไม่สามารถทัดทานกำลังและอาวุธที่เหนือกว่า คนเสื้อแดงทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดพยายามจะเดินทางเข้ามาสมทบในทำเนียบแต่ถูกสกัดทุกวิถีทาง ด้วยหวังว่าถ้ามีคนจำนวนมากเท่าไรรัฐบาลจะไม่กล้าสังหารหมู่ กลุ่มพันธมิตรได้ใส่แดงออกกวาดล้าง มีการวางระเบิด ทำร้ายผู้คนที่นั่นที่นี่ ประกอบกับโทรทัศน์ทุกช่องรายงานการใช้ความรุนแรงของคนเสื้อแดง
เช้าวันที่ 13 เมษายน 2552 เสียงระเบิดดังขึ้นรอบๆทำเนียบ รัฐบาลแจ้งให้แกนนำและคนเสื้อแดงเข้ามอบตัว มีรถขนนักโทษมารับ และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็คือ รัฐบาลต้องการให้คนในทำเนียบเดินออกไปทีละคน แล้วให้กลุ่มพันธมิตรสวมเสื้อแดงที่ติดอาวุธยิงทีละคน เพื่อป้ายสีว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ คำประกาศิตของรัฐบาลเหมือนเสียงของปีศาจ ทำให้คุณวีระ มุสิกพงศ์
คุณณัฐวุฒิ ใสย์เกื้อ และคุณหมอเหวง โตจิรการ ท่านเป็นแกนนำผู้มีจิตวิญญาณของความรักเพื่อนร่วมชาติและประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขอให้รัฐบาลปล่อยคนในทำเนียบรัฐบาลประมาณ 5,000 คนให้เป็นอิสระและยินดีจะรับผิดชอบค่าพาหนะ เพียงแต่ขอให้รัฐบาลจัดรถมาให้ จำนวน 100 คัน เพื่อส่งกลับบ้าน โดยแกนนำทั้ง 3 ท่าน ยินดีจะเข้ามอบตัวเพื่อรับทราบกล่าวหา น้ำตาของคนเสื้อแดงทั้งหมดในทำเนียบรัฐบาลได้หลั่งรินไม่ขาดสาย ความเจ็บช้ำ ความกดดันในความอยุติธรรมที่รัฐบาลโจรมอบให้ช่างทารุณโหดร้าย อย่างที่คนไทยไม่เคยได้รับรู้มาก่อนว่าระบอบอำมาตยาธิปไตย จะโหดเหี้ยมทารุณเช่นนี้ เราคนไทยไม่เคยรู้เลยว่ามือของอำมาตย์ จะชั่วร้ายเปื้อนเลือดของวีรชนผู้รักประชาธิปไตยมานานหลายสิบปีแล้ว และครั้งนี้จะเปื้อนเลือดมากที่สุดเพราะบังอาจไปโค่นล้มหัวหน้าอำมาตย์
รัฐบาลตกลงตามข้อเสนอ แต่ถึงแม้จะเดินออกมานอกทำเนียบได้แล้ว ก็ยังถูกคุกคามอิสรภาพ มีกองทหารตั้งแถวเรียงรายไม่ให้ผ่านไปได้ จนกว่าจะยินยอมให้ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ผู้คนเริ่มเครียดจากอากาศที่ร้อนจัด และความอ่อนเพลีย แม้เมื่อพ้นมาได้ หากไม่เกาะกลุ่มและระวังตัวก็อาจถูกลากตัวไป หรือมีรถที่ไม่น่าไว้ใจมารับไป ทุกคนทึ่รอดชิวิตมาได้ต้องอาศัยปฏิภาณไหวพริบ และการคุ้มครองจากรถคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะดูจะปลอดภัยกว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ทำลายขวัญของผู้รักประชาธิปไตยไม่รู้ลืม ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความชิงชังไปยังรัฐบาลในระบอบ
อำมาตยาธิปไตย
เรากลุ่มคนเสื้อแดงในทุกจังหวัดผู้รอดชีวิตจากเงื้อมมือของอำมาตยาธิปไตย เป็นห่วงแกนนำทุกคนที่ถูกจับกุมคุมขังโดยไม่ยอมให้ประกันตัว และตั้งขอหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตยทั่วโลก องค์การสหประชาชาติ ทูตต่างประเทศ โปรดช่วยเหลือคนไทยด้วย เพราะกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยไม่มีอีกแล้ว มีแต่รัฐบาลโจรที่ตั้งข้อกล่าวหาและกักขังประชาชนโดยไม่เป็นธรรมด้วยการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในต่างจังหวัดมีการตัดสัญญาณวิทยุชุมชน ห้ามแสดงออกทางการเมืองแม้จะสงบ สันติ ปราศจากอาวุธก็ต้องถูกจับ ด้วยมุ่งหวังจะเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศให้เป็นการปกครองโดยทหารอย่างถาวร นี่คือความจริงในประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคนเสื้อแดง ส่วนที่ขาดหายไป เมื่อข่าวสารจากสถานี D-STATION ได้ถูกโค่นล้มลงด้วยอำนาจของรัฐบาลโจรและกองทัพอำมหิตของอำมาตยาธิปไตย
ผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
15 เมษายน 2552
----------------------------