สัจธรรมข้อที่ 10 ฝันถึงแม่
ฝันถึงแม่ผู้จากไปตั้งแต่เป็นทารก
นงฝันว่าแม่นงมารับแม่แท้ๆของนงนั่นแหละ
(เธอหมายถึงแม่ผู้คลอดเธอออกมา แล้วชิงหนีไปจากเธอตั้งแต่เธออายุเพียง 10 วัน ปล่อยให้ลูกเป็นกำพร้า ครั้นอยู่กับน้าสาวมาไม่กี่ปี น้าสาวก็ล้มละลาย เพราะติดเหล้าติดการพะนัน ก็จะเอาหลานน้อยไปขาย รู้ถึงครอบครัวหนึ่งผู้ทรงธรรมและมีอันจะกินในหมู่บ้านก็ขอซื้อเอาไว้ ด้วยคิดสงสารเด็กกำพร้า ก็เลี้ยงให้เติบโตต่อมา ส่วนน้าสาวกับน้าชายในเวลาต่อมาไม่นานนัก คล้ายบุพกรรมตามทัน ก็โดนรถชนตายไปในเวลาเดียวกันทั้งคู่ นงจึงเติบโตต่อมาอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายไร้ญาติสนิทมิตรสหายที่ใกล้ชิดที่แท้จริง ความยากจนและความเจียมตัวทำให้ต้องยุติการศึกษาเสียแต่ชั้นม.3 ต้องการหาเงินจึงไปทำงานในโรงงาน เล่าเรียนทางการอาชีพ ที่ไม่มีประกาศนียบัตรเทียบวุฒิให้ทางโลกการศึกษาของประเทศนี้ หาเงินเลี้ยงชีวิตและตอบแทนผู้มีพระคุณ แต่เติบโตมาแล้วเหมือนธรรมชาติทดแทนให้ เพราะกลายเป็นหญิงสาวที่มีความสวยงาม ปานเทพธิดา เป็นที่ใฝ่ปรารถนาของคนผู้ชายผู้พบเห็น แล้วยังพบว่าผู้ชายคนที่ทำให้เธอเกิดมานั้นเป็นคนร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีโลก แต่เธอกลับฝังใจกับการแก้แค้นผู้ชาย ผู้ชายที่ทำให้แม่เธอตรอมใจจนผูกคอตายไปตั้งแต่อายุ 10 วันดังกล่าวนั้น โดยเฉพาะผู้ชายคนที่ทำให้เธอเกิดมา เธอยิ่งเกลียดชังและไม่ยอมรับความช่วยเหลือปรารถนาดีจากเขาเลย ฝังใจอยู่กับอุดมการณ์และความเคียดแค้นต่อผู้ชายทั้งโลก ไม่เปิดเผยตัวเอง ไม่เปิดเผยความงาม กลัวจะเป็นความสวยที่เป็นภัยแก่ตัวเอง จึงเอาผ้าคลุมหน้าคลุมตัวไว้ตลอดเวลา ไม่มีใครเห็นหน้า
วันที่ป่วยหนัก ก็พร่ำเพ้อถึงแม่
อาการป่วยของเธอ ก็เป็นสิ่งประหลาด ที่พวกแพทย์พวกหมอโรงพยาบาลค้นไม่พบสาเหตุเสมอ คราวนี้เป็นเพราะเกิดอาการช็อคแล้วเลือดสด ๆ ทะลักออกมาทางปากทางจมูก สิ้นสติไป อยู่โรงพยาบาล ข้อความทั้งหมดมีเพียงว่า
นงฝันว่าแม่นงมารับ แม่แท้ ๆ ของนงนั่นแหละ แกมายืนร้องเรียกนงอยู่ข้างนอกรั้วโรงพยาบาล แกไม่ได้เข้ามาข้างในหรอก เรียกว่านงไปกับแม่เถอะ แม่มารับลูกแล้ว แม่เป็นห่วงลูกที่เป็นกำพร้ามาตั้งแต่อายุเพียง 10 วัน แม่ปล่อยให้ลูกน้อยทนทุกข์ทรมานมาคนเดียวนานนักแล้ว มาเถิดมากับแม่เถิด แม่มารับแล้ว
ความฝันนี้ก็เป็นเครื่องปลอบใจของเธออย่างดีแหละนะ จงอยู่ต่อสู้ไปเถิด
เมื่อได้ยินได้ฟัง หรือได้อ่าน เรื่องนี้ ก็จะเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ ได้รำลึกถึงธรรมะ รำลึกสัจธรรมแห่งชีวิต ว่าชีวิตนี้เป็นทุกข์ อย่างนี้เสมอ ทุก ๆ คน ทุก ๆ ชีวิตต่างก็มีความทุกข์ ไม่มีใครหรอกที่พ้นไปจากความทุกข์ได้ ( มีทางเดียวที่พ้นไปจากทุกข์ก็คือประพฤติตนตามระบอบธรรมของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง )
ก็คงจะเป็นสิ่งปลอบใจของคนทั้งหลายผู้มีความทุกข์โศกได้ไม่น้อย
· บานไม่รู้โรย
9 มี.ค. 2552