9. ประเทศไทยมีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม 2552
ในเวลาเย็น ๆ ของวันที่ 31 มกราคม 2552 นี้เอง เห็นคนเสื้อแดงเต็มสนามหลวง น่าจะไม่น้อยกว่า แสนคน โดยเปรียบเทียบกับการชุมนุมในยุคทักษิณ ที่มาเชียร์นโยบายทักษิณจนล้นสนามหลวงออกไปตามถนนราชดำเนินจนถึงสี่แยกคอกงัว ที่ตั้งอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คราวนั้นสื่อหลายสาขาประเมินจำนวนอยู่ระหว่าง 80,000 200,000 คน ซึ่งสมเหตุผลหากจะสรุปว่าอยู่ระหว่าง 120,0000 150,000 คน การชุมนุมในวันนี้ภายหลังตะวันตกดินแล้ว ยังมีชมรมคนเสื้อแดงทยอยมาชุมนุมอีกไม่น้อย รวม ๆ แล้วก็คงเกินหนึ่งแสนคนแน่ ๆ คนเหล่านี้มาจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เห็นได้จากมีการชูป้ายจังหวัดสลอนไป ครั้นเวลา 22.00 น.ก็เคลื่อนออกไปจากสนามหลวง มุ่งไปทำเนียบรัฐบาล แกนนำได้ประกาศว่าจะไปเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับแกนนำพันธมิตรฯ(ม็อบยึดทำเนียบ จำลอง-สนธิ-ประชาธิปัตย์) ที่กระทำการอุกอาจ โดยยึดทำเนียบรัฐบาล และเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมหาศาล อย่างไม่ชอบด้วยระบอบประชาธิปไตย และไม่ชอบด้วยกฎหมายบ้านเมือง โดยระบอบใดก็ตามที่ต้องคำนึงความเป็นธรรมตามหลักนิติรัฐ ที่สมควรมีการนำตัวไปฟ้องร้องกล่าวโทษตามสมควรแก่การกระทำผิด
ที่จริง นี่เป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องทำให้ชัดเจน จึงน่าเห็นด้วยกับชาวเสื้อแดง ที่กล้าลุกขึ้นเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมของประเทศและประชาชนไทย นอกจากนี้ชมรมคนเสื้อแดง ยังแสดงจุดยืนที่น่าเลื่อมใส โดยเฉพาะการใช้เหตุผล ที่ไม่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่ว่าด้วยความจริงของประเทศไทย และสถานีข่าวทางโทรทัศน์ คือช่อง DTV หรือโทรทัศน์สถานีประชาธิปไตย ก็ได้นำเสนอเป็นที่น่าสนใจไปเรื่อย ๆ
แต่เราขอเสนอว่า การทำ DTV จะต้องไม่ลอกเลียนแบบ ASTV เพราะเอเอสทีวีมีแต่การด่า และการโฆษณาชวนเชื่อ แม้กระทั่งนายทหารระดับผู้นำเหล่าทัพก็โดนด่าอย่างไม่ไว้หน้าเลยอย่างไม่น่าเชื่อว่าทหารจะทนได้ ( ด่าว่าหัวมีแต่ขี้เลื่อย ไร้ความรู้สึก ไร้สติปัญญา เป็นต้น ) แต่ DTV ถ้าจะด่าก็ด่าอย่างมีเหตุมีผลและอย่างตรงไปตรงมา และด่าตามความจริง เราเห็นว่าใน DTV หรือ D Station มีสิ่งที่น่าสบายใจก็คือ ได้เห็นคนมีความรู้ความสามารถโผล่มาเพิ่มเติมมากขึ้น ๆ จากเดิมที่มี วีระ มุสิกพงศ์, ก่อแก้ว พิกุลทอง, ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธ์ บุกเบิก ยืนหยัดขึ้นมา ดังเช่นหลังสุดเห็น อาจารย์ใจ อึ๊งภากร ( บุตรชาย ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากร ) ออกมายืนยันอุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างตรงไปตรงมา น่าเลื่อมใส
และเราไม่อยากให้รีบร้อนอะไร เช่นกรณี นายวิฑูรย์ นามบุตร กรณีทำปลากระป๋องชาวดอยจากปลาเน่า ไปแจกพี่น้องชาวพัทลุง ในนามกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( น่าขายหน้าจริง ๆ จะเอาหน้าไปไว้ไหน ? ) ก็ไม่ควรรีบร้อนไล่เขาออกจากตำแหน่ง ควรเก็บเอาไว้นาน ๆ เพราะเราควรจะมุ่งหมายการก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน และยาวนาน
จริงไหมครับ ?
- สุไหงปาดี ชินะกุล
1 ก.พ.2552