ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


ไทยรัฐ : บุกปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
ปีที่ 59 ฉบับที่ 18572 วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน 2551
ข่าวประจำวัน
   |    การเมือง    |    เศรษฐกิจ   |    กีฬา    |   บันเทิง    |    วิทยาการ    |    สังคม-สตรี    |    การศึกษา    |    การเกษตร    |    ต่างประเทศ    |    กทม.   |   

บุกปิดสุวรรณภูมิ ระทึกกรุง ปะทะ-ยิง-เผารถ [26 พ.ย. 51 - 04:59]

กรุงเทพมหานครกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์ปล่อยให้กฎหมู่ย่ำยี คนไทยแตกเป็นสองฝ่ายและยกพวกห้ำหั่นตีกันเอง ทั้งที่อยู่ใน แผ่นดินเดียวกันแท้ๆ โดยหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนพลออกจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภากดดันไม่ให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเปิดยุทธการดาวกระจาย ขนคนบุกปิดล้อมหน่วยงานสำคัญของรัฐบาล มีการตัด น้ำตัดไฟ จากนั้นม็อบพันธมิตรฯได้เคลื่อนพลไปยังสนามบินดอนเมือง ที่รัฐบาลใช้เป็นทำเนียบฯ ชั่วคราว ปิดล้อม อาคารที่ทำงาน และช่วงบ่ายวันเดียวกันก็ได้เกิดเหตุปะทะ กันระหว่าง กลุ่มแท็กซี่เสื้อแดง ยกพลปิดถนนดักตีคนเสื้อเหลือง ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 3 และในช่วง เช้ามืดวันที่ 25 พ.ย. กลุ่มพันธมิตรฯก็ได้เคลื่อนพลมาปิด ล้อมสนามบินดอนเมือง ที่รัฐบาลใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวอีก ซึ่งตลอดวันที่ 25 พ.ย. สถานการณ์ในกรุงเทพฯ ได้เกิดความตึงเครียดในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่หน้ากอง บัญชาการกองทัพไทย สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงที่บริเวณปากซอย 3 ถนนวิภาวดีรังสิต ก็ได้เกิดเหตุคนเสื้อเหลืองยกพลมาถล่มคนเสื้อแดง มีการใช้อาวุธปืนยิงกันได้รับ บาดเจ็บไปหลายราย สร้างความอเนจอนาถใจแก่ผู้ที่ไม่ ฝักใฝ่ฝ่ายใด ที่เห็นคนไทยต่างลงมือเข่นฆ่ากันเอง ทั้งที่ไม่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน

 

พันธมิตรฯ เคลื่อนพลเสริมดอนเมือง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบฯว่า หลังแกนนำได้ปิดเวทีปราศรัยในเวลา 24.00 น. วันที่ 24 พ.ย. เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้พักผ่อนเอาแรง ต่อมาเวลา 04.00 น. วันที่ 25 พ.ย. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำได้ขึ้นเวที ประกาศให้ผู้ชุมนุมแบ่งกำลังส่วนหนึ่ง รักษาฐานที่มั่นที่ทำเนียบฯไว้ อีกส่วนหนึ่งเก็บสัมภาระเสบียงอาหารร่วมกันเดินทางไปเสริมกำลังที่สนามบินดอนเมือง โดยให้ไปรวมตัวกันที่บริเวณสนามม้านางเลิ้ง มีนายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สองแกนนำ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ ประสานงานพันธมิตรฯ ร่วมจัดขบวนผู้ชุมนุมนับพันคนออกเดินทางโดยรถบัส รถบรรทุก รถกระบะ และแท็กซี่ จำนวนหลายสิบคันเคลื่อนขบวนขึ้นทางด่วนด่านยมราช ตรงไปสนามบินดอนเมือง ขณะที่ผู้ชุมนุมอีกส่วน หนึ่งแยกไปขึ้นรถไฟขบวนที่ 339 วิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ-แก่งคอย จำนวน 3 โบกี้ ไปลงที่สถานีดอนเมือง

 

บีบเปิดด่านยมราชผ่านขึ้นทางด่วน

 

ขณะที่นายสมเกียรติได้ขึ้นเวทีปราศรัยในทำเนียบฯ ในเวลาไล่เลี่ยกัน แจ้งผลการเดินทางไปเสริมที่ดอนเมืองว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นปฏิบัติการสายฟ้าแลบ และเมื่อ ขบวนจะขึ้นทางด่วนด่านยมราชได้ถูกเจ้าหน้าที่ห้าม จึงต้องมีการใช้กำลังมวลชนเดินหน้าผ่านเข้าไปกดดัน ทำให้ ด่านต้องเปิดให้ผ่านโดยสะดวก หลายคนรอเวลานี้มานานแล้วด้วยใจฮึกเหิม ถ้ามีการปราบปรามประชาชนทั่วประเทศ จะยิ่งออกมามากกว่านี้ และคนเหล่านั้นจะคิดกันเองว่าต้องทำอย่างไร ทางด่วนไม่เปิดก็พากันเดินผ่านเข้าไปเอง การปฏิบัติการครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเป็นอย่างดี จะเห็นได้จากเวลาประกาศขออะไรออกไป อาทิ น้ำและอาหาร ขอไปไม่นานมีคนส่งมาให้จนล้นหลาม แสดงว่ากำลังส่วนหนึ่งในกรุงเทพฯ กำลังจ้องมองอยู่และพร้อมจะเข้ามาร่วมทันทีที่มีโอกาส

 

การ์ดขี่ จยย.นำขอเปิดทางสะดวก

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ขบวนรถยนต์ของกลุ่มพันธมิตรฯจะออกเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง การ์ดพันธมิตรฯได้ขับรถมอเตอร์ไซค์กว่า  10  คัน  นำขบวน ไปยังด่านเก็บเงินทางด่วนยมราช ซึ่งมีเจ้าหน้าที่นั่งประจำตู้อยู่เพียงคนเดียว   การ์ดพันธมิตรฯได้ตรงเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ แจ้งขอให้เปิดทางเพื่ออำนวยความสะดวกโดย ไม่ให้เก็บเงินค่าผ่านทาง ทำให้พนักงานเกิดความหวาดกลัว และโทรศัพท์แจ้งไปยังผู้ใหญ่รายงานเหตุการณ์ให้ ทราบ ได้รับคำตอบว่าให้เปิดทาง เพื่อความปลอดภัยของ เจ้าหน้าที่เอง จากนั้นขบวนรถทั้งหมดก็ได้เคลื่อนขบวนขึ้นทางด่วนยมราช ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก ต่อมาภายหลังจากที่ขบวนรถลงจากทางด่วนที่ทางลงดินแดงก็ได้ใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีรถกระบะของการ์ดพันธมิตรฯ ติดไซเรนได้ขับไปถึงด่านเก็บเงิน และได้ขอให้เจ้าหน้าที่เปิดทางให้ โดยบริเวณด่านดังกล่าวสามารถใช้ได้สี่ช่องทาง จากห้าช่องทาง และรถที่อยู่ในขบวน ซึ่งเปิดไฟขอทาง ก็ผ่านเข้าไปได้  โดยไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทางอีกครั้งหนึ่ง

 

ไล่ทุบรถเก๋งจอดซุ่มดอนเมือง

 

บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว สนามบินดอนเมือง ได้เริ่มคึกคักอีกครั้ง ในเวลา 04.30 น. เมื่อแกนนำได้เปิดเวทีปราศรัยอีกครั้ง หลังจากเวทีปราศรัยปิดลงในเวลาเที่ยงคืนของ วันที่  24  พ.ย.  เพื่อให้ผู้ชุมนุมที่ปักหลักพักค้างคืนได้ พักผ่อน เป็นการเก็บแรงที่จะเคลื่อนไหวในเช้าวันที่ 25 พ.ย. ขณะเดียวกัน กลุ่มประชาชนที่ให้การสนับสนุนพันธมิตรฯ ต่างสวมเสื้อเหลืองทยอยเดินทางมาสมทบ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 02.15 น. เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เนื่องจากมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า  สีเขียวหัวเป็ด  ได้มาจอดซุ่มอยู่ บริเวณลานจอดรถใกล้ห้องรับรองพิเศษระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นบริเวณที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ  หลังจากจอดอยู่ ระยะหนึ่งได้มีการ์ดอาสาของพันธมิตรฯ  เดินเข้าไปดูสอบถามคนในรถ แต่รถคันดังกล่าวกลับวิ่งออกไปทันที ทำให้การ์ดอาสาวิ่งไล่  และดักรถคันดังกล่าวไว้  แต่รถคันดังกล่าวได้ขับวนหาทางออก อยู่ใกล้จุดบริเวณที่ชุมนุม ทำให้การ์ดอาสาได้หยิบไม้ ขวดน้ำ และสิ่งของที่หาได้ ปาใส่รถ แต่ในที่สุดรถคันดังกล่าวก็สามารถขับหลบหนีออกมาได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การ์ดพันธมิตรฯ นำ แผงกั้นถนน รั้วเหล็ก และขวดน้ำดื่ม มากั้นปิดทางเข้า-ออก ทุกจุด ป้องกันไม่ให้มีรถต้องสงสัยเข้ามาก่อกวนบริเวณที่ชุมนุมได้

 

วางมาตรการคุมเข้มพื้นที่ชุมนุม

 

ขณะเดียวกัน กลุ่มกองทัพธรรมได้ตั้งโรงทานประกอบ อาหารเลี้ยงผู้ชุมนุมที่บริเวณชั้นลอย  อาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง และตั้งจุดแจกจ่ายน้ำดื่ม จุดรับส่ง อาหารจากผู้บริจาคบริเวณทางเข้าสำนักงาน โดยมีผู้นำอาหาร เครื่องดื่ม มาแจกจ่ายอยู่ตลอด ขณะที่การ์ดอาสาคอยเฝ้าตามทางเข้าออกทุกทางอย่างเข้มงวด อนุญาตให้ เฉพาะรถส่งเสบียง และรถส่งกำลังคน เข้าไปภายในที่ชุมนุม เท่านั้น พร้อมกับมีการส่งชุดตรวจการณ์ขึ้นไปประจำบน ยอดตึก เพื่อสังเกตการณ์บริเวณทางด่วนโทลล์เวย์ ไม่ให้ มีการยิงอาวุธใดๆเข้าใส่ผู้ชุมนุม ขณะเดียวกัน กลุ่มการ์ด พันธมิตรฯ ได้นำโล่ปราบจลาจลที่ตำรวจรักษาการณ์ดอนเมือง ทิ้งไว้ 40 อัน มาแจกให้กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯใช้ป้องกันตัว นอกจากนี้ ยังมีการประสานขอรถสุขาจาก  กทม.  6  คัน มาประจำภายในบริเวณที่ชุมนุม  เนื่องจากห้องสุขาตามอาคารต่างๆภายในสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมืองเต็ม เพราะผู้ชุมนุมมาใช้จำนวนมาก

 

ยิ่งสายยิ่งแห่ชุมนุมเพิ่ม

 

จนช่วงสายผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อเหลือง ยิ่งทยอยเดินทางมาปักหลักชุมนุม ส่วนภายในอาคารสำนักงาน ท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้ชุมนุมจำนวนมากเข้าไปใช้ เป็นที่พักพิง โดยเฉพาะชั้น 3 ที่เป็นลานกว้าง มีผู้ชุมนุมสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปพักผ่อน ขณะที่บริเวณด้าน นอก ไม่ว่าจะเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 บริเวณอาคารจอดรถด้านหลังห้องรับรองพิเศษระหว่างประเทศ  มีผู้ชุมนุมอยู่นั่งๆนอนๆกระจัดกระจายไปทั่ว

 

ขวางทุกที่ไม่ให้ประชุม ครม.

 

ต่อมาเวลา 10.45 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวบนเวทีว่า จากนี้ไปกลุ่มพันธมิตรฯ จะยกระดับการเคลื่อนไหวให้เข้มข้นขึ้น ยืนยันจะเคลื่อนออกจากทำเนียบดอนเมืองแน่นอน แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะไปที่ใด ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯประสบความสำเร็จไปแล้ว 2 เรื่อง คือ 1. คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ 2. ขัดขวางการประชุม ครม. เหลือเพียงข้อ 3 คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องออกไป ต่อมา นายสมศักดิ์  โกศัยสุข  แกนนำพันธมิตรฯ  ขึ้นกล่าวว่า ภารกิจของพันธมิตรฯคือ 1. รัฐบาลจะใช้ทำเนียบดอนเมือง ประชุม ครม.ไม่ได้อีกต่อไป 2. หากรัฐบาลจะใช้ที่ใดประชุม ครม. กองทัพประชาชนจะตามไปขัดขวาง ขอให้ผู้ชุมนุมเตรียมตัว เตรียมเสบียงให้พร้อม งานนี้ทำตลอด ไม่มีใครว่างงาน มีมันต้องไม่มีเรา มีเราต้องไม่มีมัน ใครจะเอาปืน เอารถถังมายิงประชาชน ให้มาเลย เราพร้อมต่อสู้แบบม้วนเดียวจบ ส่วน “เสธ.แดง” ทหารนอกคอก พวกเราไม่ต้องกลัว ขณะนี้กำลังจัดหน่วยไล่ล่าอยู่ พวกมันมีแค่ 21 คน ภายใน 3 วัน มันจะฆ่ากันตายเอง

 

ประกาศเคลื่อนพลบุกกองทัพไทย

 

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ในเวลา 14.00 น. จะเคลื่อนกำลังไปที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อขัดขวางการประชุม ครม. ขอให้ผู้ชุมนุมทุกคนเตรียมตัว ให้พร้อม หรือไปรอพบกันที่ดังกล่าวเลยก็ได้ เราจะไป ปิดที่นั่น ไม่ให้มีการประชุม ครม. ถือเป็นพันธกิจที่ต้องไป ขัดขวาง อย่าให้คนแบบนี้เข้าไปในกองทัพไทยได้ ประชาชน สามารถเดินเข้าไปไล่ได้เลย เพราะกองทัพไทยไม่ใช่เป็นของกองทัพทักษิณ  แต่เป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทราบว่าคืนนี้นายสมชายจะเดินทางกลับจากเปรู แต่จะเป็นการนั่งแบบเหมาลำกลับ จากเปรูถึงเมืองไทยเลย ไม่ต้องไปต่อเครื่องที่ใด จึงต้องตรวจสอบว่าจะกลับในเที่ยวบินใด

นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ไม่ว่า ครม.จะไปประชุม ครม.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย หรือเมืองทองธานี กลุ่มพันธมิตรฯจะใช้ยุทธการดาวกระจายตามไปกดดันทุกที่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคิดย้ายผู้ชุมนุมจากทำเนียบรัฐบาล มาอยู่ที่ทำเนียบ ดอนเมือง เพราะรักษาความปลอดภัยยาก

 

ทหารสั่งปิดประตูหวั่นม็อบบุก

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรฯปักหลักอยู่ที่สนามบินดอนเมือง จนเวลาประมาณ 12.00 น. ก็ได้แบ่งกำลังส่วนหนึ่งกว่า 2,000 คน ทยอยเดินทางมาปักหลักชุมนุมหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย  ถนนแจ้งวัฒนะ กดดันไม่ให้คณะรัฐมนตรีใช้พื้นที่ของกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชั่วคราวในวันที่ 26 พ.ย. อย่างไรก็ตาม การชุมนุมดำเนินไปอย่างสงบ โดยไม่มีแกนนำคนใดมาขึ้นปราศรัย และเรียกร้องในเรื่องใดๆ ท่ามกลางสารวัตรทหาร สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย กว่า 150 นาย ทำหน้าที่เฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ด้วยการปิดประตูทางเข้า-ออก เปิดให้รถเข้า-ออกประตูเดียว เพื่อป้องกันพันธมิตรฯเข้าไปบริเวณภายใน

 

แดดร้อนจัดเริ่มตึงเครียด

 

แต่หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯเดินทางไปรวมตัวกันที่หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัดนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ฝ่ายทหารได้ตัดสินใจเคลื่อนย้ายรถฉีดน้ำออกไปพ้นแนวรั้วและปลดอาวุธปืนประจำกายของทหารรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าทางเข้าออกทั้งหมด เพื่อลดความตึงเครียดลง อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของพันธมิตรฯที่หน้ากองทัพไทยนี้ ยังไม่ปรากฏว่ามีแกนนำคนไหนมาบัญชาการ มีเพียงคนจากสหภาพแรงงานขึ้นรถขยายเสียงบัญชาการเอง โดยขอให้ผู้ชุมนุมไปปิดล้อมด้านหลังกองบัญชาการกองทัพไทยอีกจุดหนึ่งด้วย

 

ยื่นหนังสือถึง ผบ.สส.ให้ร่วมป้อง ปชต.

 

กระทั่งเวลา 15.15 น. นายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส. มหาสารคาม และนายประพันธ์ คูณมี ซึ่งอ้างว่าได้รับมอบหมายจากแกนนำพันธมิตรฯ ให้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางมายังกองบัญชาการกองทัพไทย โดยรถบรรทุก 6 ล้อ ติดเครื่องกระจายเสียง และเข้ายื่นหนังสือผ่าน พล.ท.สุรัตน์ วรรักษ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ขอให้กองทัพร่วมกันปกป้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากรัฐบาลไม่มีความชอบธรรม ขณะที่ พล.ท.สุรัตน์กล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีการขอใช้พื้นที่ทหาร ทั้งที่กองบัญชากองทัพไทย หรือสโมสรของทหารเพื่อประชุม ครม.หรือกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น จึงอยากให้ประชาชนสลายการชุมนุมกลับบ้าน เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้ ประชาชนล้มป่วย

 

มท.1 ยันดูแลสถานการณ์เต็มที่

 

ขณะเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย เวลา 11.30น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้เป็นผู้ดูแลสถานการณ์และสั่งการการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีความเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ในทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ดอนเมืองจำนวนหนึ่ง และน่าจะลดลงเรื่อยๆ ส่วนการที่จะเอาพื้นที่ที่ทำเนียบคืนนั้นเห็นว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลาย ทั้งนี้ไม่รู้สึกกังวลกับกรณีที่ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนย้ายไปชุมนุมที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ ในเวลา 14.00 น.ในวันเดียวกันนี้ ไม่เป็นไร ใครอยากไปไหนก็ไป และพอใจกับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความอดทนอดกลั้น แม้จะถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บวานนี้ อย่างไรก็ตาม การดูแลสถานการณ์หลังจากนี้ จะดูแลอย่างเต็มที่ คงไม่ต้องรอคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบอยู่แล้ว

 

ผบช.น.ให้ตำรวจอดทนอดกลั้น

 

อีกด้านที่ บช.น. ในเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เผยว่า กลุ่มพันธมิตรฯไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ท่าอากาศยานดอนเมือง ประมาณ 1 หมื่นคน และยังมีบางส่วนยังชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล เหตุการณ์ยังปกติ ตำรวจก็ต้องดูแลกันอย่างเต็มที่ ต้องมีความอดทนอดกลั้น ช่วงที่ผ่านมาก็ได้รับคำชมเชยจากผู้บังคับบัญชา หากผู้ชุมนุมเคลื่อนไปปิดล้อมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็จะประสานไปยัง ผวจ. และ ผบก.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าผู้ชุมนุมปิดถนนวิภาวดีฯ ตำรวจจะดำเนินการอย่างไร ผบช.น.ตอบว่า ต้องเจรจากัน เชื่อว่าผู้ชุมนุมคงจะไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

 

ไม่ติดใจรอง ผบก.น.4 ถูกซ้อม

 

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคำสั่งให้ยึดทำเนียบคืนหรือไม่ ผบช.น.ตอบว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่ง คงจะไม่ทำเพราะจะก่อให้เกิดความรุนแรง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งศูนย์ควบคุมสถานการณ์ไว้อยู่แล้ว เน้นย้ำให้ตรวจสอบรถตู้และรถบัส ซึ่งอาจจะลำเลียงคนเข้ามาชุมนุม ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก. น.4 ถูกทำร้ายที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.สุชาติ ตอบว่าส่วนตัวแล้วไม่อยากให้เอาเรื่อง ขอกันกินมากกว่านี้ คิดว่าเดินไปชนเสาจะดีกว่า “ผมซ้อมมวยยังเจ็บมากกว่านี้เลย” สำหรับคดีระเบิดรอบกรุงนั้น พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดูแล อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ขณะเดียวกันทาง บช.น. ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. และกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อมาดูการทำงานของตำรวจแล้ว

 

ให้ประกัน 6 การ์ดยึดรถเมล์

 

ส่วนกรณี 6 ชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นการ์ดพันธมิตรฯ ถูกตำรวจจับกุมตัวบริเวณหน้ากรมแผนที่ทหารหลังขึ้นไปยึดรถเมล์สาย 53 โดยอ้างว่าจะนำไปใช้เป็นแนวป้องกันกระสุน ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 พ.ย. น.ส.รัศมี เพ็ญสุข ทนายความอิสระ เข้าพบ พ.ต.ท.ภูเบส เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง ขอยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 ประกอบด้วยนายธานี อาจสว่าง อายุ 36 ปี นายสมชาย ทองเกียรติ อายุ 31 ปี นายงพงษ์พันธ์ กาจันทร์ อายุ 28 ปี นายธีรเดช วรรณา อายุ 48 ปี นายชัยวัฒน์ ทับทอง อายุ 44 ปี และนายสมชัย หงสา อายุ 25 ปี โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.2 ล้านบาท พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ประกันตัวออกไปได้

 

ส่งตัวให้อัยการสั่งฟ้องวันที่ 25 ธ.ค.

 

พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า หลังจากอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาแล้ว โดยตีราคาหลักทรัพย์คนละ 2 แสนบาท ต่อไปพนักงานสอบสวนจะสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องหาต้องมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 25 ธ.ค. เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป ส่วนหลักฐานที่ได้ในรถเป็นระเบิด ปืน มีด ทางเจ้าหน้าที่จะส่งให้พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

 

รอง ผบก.น.4 ยังนอนให้น้ำเกลือ

 

ด้านอาการบาดเจ็บของ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 ที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯรุมทำร้าย ขณะเข้าไปดูแลความเรียบร้อยภายในทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ท่า อากาศยานดอนเมือง ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 25 พ.ย. พ.ต.อ.พชร ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง 605 ชั้น 6 อาคารอุบัติเหตุ รพ.ตร. กล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะนอนให้น้ำเกลือว่า ร่างกายระบมบอบช้ำไปทั้งตัว เนื่องจากถูกพันธมิตรฯทั้งชาย-หญิง ทุบด้วยมือเปล่า ขวดน้ำ โดยเฉพาะที่ศีรษะโดนทุบหลายครั้ง และถูกถีบที่หลังตอนนี้ยังเจ็บอยู่ ที่ผ่านมาแพทย์เอกซเรย์สมองแล้วพบว่ายังปกติ แต่ยังต้องรอดูอาการข้างเคียงต่อไปอีก 24 ชม.เพราะเกรงจะมีเลือดคั่งในสมอง แพทย์อยากให้พักผ่อนอย่างน้อย 3-4 วัน เป็นไปได้ก็อยู่ยาวสัก 1 สัปดาห์ นอกจากร่างกายจะบอบช้ำแล้ว ยังรู้สึกหายใจติดๆขัดๆ หลังเกิดเหตุมีผู้บังคับบัญชามาเยี่ยมเยียนให้กำลังและขอบคุณที่ตนไม่ใช้ความรุนแรง ส่วนด้านคดีก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะมีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว

 

เตรียมดำเนินคดีกลุ่มพันธมิตร

 

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ในฐานะ รองโฆษก บช.น. กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯปิดสถานที่ราชการต่างๆ เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ตำรวจจับกุมกลุ่มคนที่พกอาวุธมาร่วมชุมนุมดำเนินคดีที่ สน.นางเลิ้ง และกลุ่มพันธมิตรฯทำร้ายร่างกาย พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 ได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นความผิดชัดเจน จึงสั่งการให้ดำเนินการคดีกับทุกคน ในส่วนของพื้นที่ดอนเมือง กำชับให้ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำร้ายร่างกาย รอง ผบก.น.4 ส่วน 6 ชายฉกรรจ์ที่ยึดรถเมล์สาย 53 และตรวจพบอาวุธทั้งปืนและระเบิดนั้นได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯนั้น ไม่ใช่การชุมนุมที่สงบเพราะเป็นการสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง

 

บอกตำรวจเป็นพวก “สีทนได้”

 

รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กำชับให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ย้ำกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่าใช้ความรุนแรง  ต้องอดทนอดกลั้นถึงที่สุด แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงขอให้มาลงที่ตำรวจ ขอให้ตำรวจเป็นที่รองรับอารมณ์นั้นแทนพี่น้องประชาชน เพราะเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องเป็น “สีทนได้” ขณะเดียวกัน พล.ต.ท. สุชาติ ผบช.น. ได้ทำหนังสือถึงสภาทนายความ กรรมการสิทธิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เชิญมาร่วมดูเหตุการณ์วันที่ 24 พ.ย. แต่กลับไม่มีใครมาร่วมกับตำรวจ จึงอยากให้องค์กรอิสระเหล่านี้เข้ามาร่วมปฏิบัติ  จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่ก่อเหตุใช้ความรุนแรง อย่างเหตุการณ์ที่บริเวณแยกลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.  ทำไมตำรวจต้องถอยให้กลุ่มพันธมิตรฯ มาตะโกนด่าหน้า บช.น. และยังตัดน้ำตัดไฟ ทำให้ทำงานไม่ได้

 

ชวรัตน์วอนพันธมิตรคืนทำเนียบฯ

 

ขณะที่ในส่วนของรัฐบาลนั้น เมื่อเวลา 07.00 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์รายการ “จมูกมด” ทางอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ว่า ในวันที่ 25 พ.ย. จะไม่มีการประชุม ครม. เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเตรียมเอกสารในการประชุม หลังจากกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมือง อีกทั้งต้องการรอนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานประชุมด้วยตนเอง หลังเดินทางกลับจากประเทศเปรู โดยจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ เวลา 12.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรฯขู่จะไปรับนายสมชายที่ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ต้องดูแล อยากเรียกร้องให้ พธม. คืนทำเนียบรัฐบาล และท่าอากาศยานดอนเมืองที่ใช้เป็นสถานที่ทำงานของทางราชการ  เพราะเป็นสมบัติของประชาชน ถ้าพันธมิตรฯไม่ยอมคืน รัฐบาลจำเป็นต้องย้ายไปประชุม ครม.ที่อื่น เช่น กองบัญชาการกองทัพไทย

 

เสนอตั้ง “อภิสิทธิ์” ไกล่เกลี่ย พธม.

 

นายชวรัตน์กล่าวว่า ทางออกที่ดีที่สุดของสถานการณ์ ณ เวลานี้คือ การเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำพันธมิตรฯ โดยสามัญสำนึกรัฐบาลพร้อมเจรจาเต็มที่ เพราะต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง  อย่างไรก็ตาม ต้องหาคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย ไม่เช่นนั้นเวลาพูดจากันทั้ง 2 ฝ่ายอาจมีอารมณ์ปะทุได้ มองว่าคนที่เหมาะสมจะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยที่สุดคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่มีโอกาสหารือเรื่องนี้ในที่ประชุม 4 ฝ่ายเมื่อวันที่ 24 พ.ย.

 

ถกหน่วยข่าวประเมินม็อบฝ่อไม่ยืดเยื้อ

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของรัฐบาล ในการติดตามและประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.30 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกฯในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เรียกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย นายสุพล ฟองงาม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและฝ่ายทหารเข้าร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการ ที่ห้องประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ ทั้งนี้ มีรายงานว่าในที่ประชุมทางหน่วยข่าวประเมินว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯไม่น่าจะยืดเยื้อ คงปักหลักชุมนุมอยู่ได้ ไม่เกิน 3-4 วัน ซึ่งจำนวนผู้ชุมนุมมีประมาณ 12,000-13,000 คน ลดลงจากวันแรกที่มีอยู่ประมาณ 17,000 คน และเริ่มมีท่าทีอ่อนล้าจนแกนนำพันธมิตรฯต้องพยายามระดมแนวร่วมมาจากต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น

 

จวกไม่มีเหตุผลไล่ตะเพิดนายกฯ

 

นายสุพล ฟองงาม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ได้พูดคุยกันในวงเล็กๆ เราประเมินสถานการณ์ร่วมกันแล้วเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ โดยผู้ชุมนุมก็มีประมาณหมื่นกว่าคน แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม สำหรับการประชุม ครม.ที่ พธม.ประกาศจะไปขับไล่ขัดขวางทุกที่นั้น ถ้า พธม.ยังไม่หยุดรุกล้ำเข้าไปตามสถานที่ราชการต่างๆ ก็คงต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่การประชุม ครม.เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน ส่วนจะต้องไปจัดประชุมที่ต่างจังหวัดหรือไม่นั้นต้องรอนำไปหารือกันในที่ประชุม ครม.ก่อน ส่วนข้อเรียกร้องของ พธม. ให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออกสถานเดียวนั้น ถ้าทำเช่นนี้สังคมจะได้พิจารณาตัดสินว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อนายสมชาย หรือใครคนใดคนหนึ่ง และรัฐบาลนี้ก็มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างถูกต้อง ตามครรลองประชาธิปไตย การมาบอกว่าคุณต้องออกไปมันต้องมีเหตุผลมากกว่านี้

 

เล็งประชุม ครม.ที่กองทัพไทย

 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีอาจจะมีขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 26 พ.ย.นี้ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ภายหลังจากที่ ครม.ไม่สามารถเดินทางไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวท่าอากาศยานดอนเมืองได้ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯได้เข้าบุกยึดพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยเคยใช้เป็นสถานที่ประชุม ครม.มาก่อนแล้ว โดยสถานที่ประชุม ครม.จะทราบความชัดเจนอีกครั้งในเย็นวันที่ 25 พ.ย. หรือไม่ก็เช้าวันที่ 26 พ.ย. ขณะนี้ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเดินไปข้างหน้าได้โดยในการประชุม ครม.ที่จะมีขึ้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม จะเป็นประธานในการประชุมเช่นเดิม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าทำเนียบรัฐบาลและทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวนั้น รัฐบาลจะขอคืน เพราะเป็นทรัพย์สินของประชาชน

 

โว รบ.สำเร็จม็อบไม่มีเลือดตกยางออก

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ต้องถือเป็นความสำเร็จที่สามารถดูแลสถานการณ์ ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งได้ ทั้งนี้ รัฐบาลกำชับให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน ใช้ความอดทนอดกลั้น จะเห็นได้การชุมนุมที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ได้รับมอบหมายให้ดูแลสถานการณ์ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า พล.ต.อ.โกวิทให้นโยบาย ตามที่ได้รับมาจากรักษาการนายกฯ โดยจะยึดหลักสันติวิธีและใช้ความอดกลั้นที่สุด อย่างไรก็ตาม จะส่งกำลังเพิ่มเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกยึดครอง เช่น สนามบินดอนเมืองและทำเนียบรัฐบาล เพื่อป้องกันทรัพย์สินราชการเสียหาย ส่วนกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมาใน วันที่ 26 พ.ย. และ กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะบุกสนามบินสุวรรณภูมินั้น ตำรวจ ทหารได้มีการเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยเอาไว้แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินทางโดยสะดวก

 

“สมชาย” ข้องใจ พธม.เล่นไม่เลิก

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่เดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 20-26 พ.ย. ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยที่ติดตามทำข่าวรายงานว่า นายสมชายได้กล่าวถึงการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เคลื่อนขบวนมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ดอนเมือง ว่า ได้รับรายงานแล้ว แต่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าต้องการอะไร

 

สำหรับกรณีที่ที่ประชุม 4 ฝ่าย มีมติเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญวันที่ 8-9 ธ.ค. เพื่อพิจารณาเอกสารสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียนนั้น ถ้าเปิดในช่วงเวลาดังกล่าว ยังสามารถพิจารณากฎหมายสำคัญในการทำสนธิสัญญาที่จะใช้ในการประชุมอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่ ได้ทัน แต่ขึ้นอยู่ว่าจะสามารถเปิดการประชุมได้หรือไม่ เพราะพันธมิตรฯ คงไปปิดล้อมอีก

 

ทำกันชินชาเพราะหลัก ก.ม.มีปัญหา

 

“ผมเคยบอกหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ประโยชน์ของใครเป็นส่วนตัว ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ ทำอย่างนี้ก็เสียหาย ถ้ารักชาติต้องไม่ทำ ลองคิดดูแล้วกัน สถานที่ทำงานของราชการ อยู่ๆ บุกเข้ามาอย่างนี้ คิดหรือไม่ว่าได้ทำความเสียหายให้กับทางราชการ แต่บังเอิญบ้านเราทำเหมือนเคยชิน เพราะการบังคับใช้กฎหมายมีปัญหา ผมอยากให้คิดดูว่า ทำเช่นนี้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร ผมต้องการหาคนที่จะให้คำตอบได้ว่าทำเพื่ออะไร” นายสมชายกล่าว

 

เตือนคนล้มล้างรัฐบาลถือเป็นกบฏ

 

ต่อข้อถามว่าพันธมิตรฯ ต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก นายสมชายตอบว่า ตนออกหรือไม่ออก ต้องแล้วแต่ประชาชน เพราะมาจากการเลือกตั้ง และได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นคนที่ตัดสินใจคือประชาชน ส่วนใหญ่ คิดกันง่ายๆ ตามหลักประชาธิปไตย เราต้องยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ถ้าสุขภาพไม่ดี จำเป็นต้องลาออกก็เป็นอีกเรื่อง แต่การบังคับให้ออก คนที่บังคับให้ออกต้องเป็นประชาชนทั้งประเทศ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดว่าใครล้มล้างรัฐบาลถือเป็นกบฏ ดังนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ จะบังคับให้ตนออกคงไม่ได้

 

ย้ำยังควบคุมสถานการณ์ได้

 

เมื่อถามว่า จะใช้มาตรการใดกับกลุ่มพันธมิตรฯ นายกฯ ตอบว่า เมื่อกลับถึงประเทศไทยจะหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงว่าจะทำอย่างไร ตนคงไม่คิดเรื่องนี้คนเดียว อย่างที่เคยบอกไว้ว่าคนไทยด้วยกันน่าจะคุยกันรู้เรื่อง โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก แต่การชุมนุมอย่างนี้ไม่มีเหตุผล เมื่อถามว่าจะคุยกับแกนนำพันธมิตรฯ หรือไม่ นายสมชายตอบว่า ถ้าคุยรู้เรื่องคงคุยไปนานแล้ว จึงอยากถามว่าวัตถุประสงค์ของพันธมิตรฯ คืออะไร อย่างไรก็ตาม ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา และทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ายังควบคุมสถานการณ์ได้

 

โอดเศร้าใจไม่กล้าพูดให้ต่างชาติฟัง

 

“เครื่องบินลงสนามบินไหน ผมก็จะลงที่นั่น ปิดล้อมสนามบินเสียหายเท่าใด ใครจะรับผิดชอบ ผมเห็นว่าควรช่วยกันเพื่อประเทศชาติ ทิ้งประโยชน์ส่วนตัวช่วยเหลือประโยชน์ส่วนรวมก่อน แล้วคิดหรือยังว่าถ้าให้ผมลาออกจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ผมมาเปรูได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้แต่ รปภ.ก็จัดให้เกิดความมั่นใจ ผมนั่งคิดถ้ากลับไปบ้านแล้วน่าเศร้าใจ มีคนมารอขับไล่ ดูแล้วไม่กล้าไปบอกหรือพูดให้ใครฟัง เราไม่ให้เกียรติกับคนไทยด้วยกันเอง แต่ไม่เป็นไร มันอาจเป็นธรรมเนียมบ้านเราไปแล้ว คนเป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ผมต้องใช้ความอดทน ไม่ต้องคิดมากว่ามีเกียรติหรือไม่ ขอให้ทำงานได้ก็พอ” นายกฯกล่าว

 

สั่ง ตร.หาช่องเล่นงาน พธม.ทำผิด

 

เวลา 13.10 น. วันเดียวกัน ที่พรรคพลังประชาชน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะบริหารราชการแผ่นดินต่อไป แม้กลุ่มพันธมิตรฯจะสร้างแรงเสียดทานหลากหลายวิธีที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ได้อยู่ในกรอบการปกครองระบอบประชาธิปไตย ขอฝากยัง 5 แกนนำพันธมิตรฯว่า สิ่งที่กระทำอยู่นี้ เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพและเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน แน่นอนวิธีนี้กลุ่มพันธมิตรฯ อาจดูมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ไม่อาจดำเนินการได้ในทางคดี แต่การดำเนินการทางกฎหมายจะมีแน่นอน ส่วนผู้กระทำผิดกฎหมาย ทั้งยึดรถโดยสาร ตัดน้ำ ตัดไฟ ทำร้ายเจ้าหน้าที่นั้น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกฯ ในฐานะรักษาการนายกฯ กำชับกับเจ้าหน้าที่ดูช่องทางในการดำเนินคดี ทั้งนี้ใครทำผิดกฎหมายจะไม่มีข้อยกเว้นและจบกันไปแน่ เพราะบ้านเมืองนี้ยังเป็นนิติรัฐ

 

เผยนายกฯไม่สนแรงบีบพันธมิตรฯ

 

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ได้มีโอกาสสนทนากับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินกลับจากประเทศเปรู โดยท่านห่วงใยในสถานการณ์และความวุ่นวายที่เกิดขึ้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ยึดหลักสันติวิธี และท่านแสดงความห่วงใยถึงการเป็นประธานประชุมอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากร่างข้อตกลงบันทึกความเข้าใจกับต่างประเทศ ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา นายกฯกังวลว่าจะขับเคลื่อนบทบาทอาเซียนได้อย่างสง่างามอย่างไร นายกฯยังได้มอบหมายให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเพื่อให้การประชุมสภาสมัยวิสามัญ 8-9 ธ.ค.นี้ ด้วย ทั้งนี้ท่านยืนยันเป็นนายกฯของประชาชนในรัฐบาลที่มาจากประชาชน หากจะพ้นจากตำแหน่งต้องเป็นไปตามวิธีการตามระบอบประชาธิปไตย และตามกฎหมายที่กำหนด นายกฯจะไม่ตัดสินใจทางการเมืองด้วยแรงกดดันของการเคลื่อนไหวนอกระบบ ดังนั้น ขอยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่มีความคิดที่ลาออกหรือ  ยุบสภา  หรือความคิดอื่นใดนอกจากกลับมาประเทศได้ อีกทั้งจะเดินหน้าบริหารราชการแผ่นดิน แก้ปัญหาชาติเพื่อประชาชนต่อไป

 

เย้ยมวลชนเสื้อเหลืองใกล้ปิดฉาก

 

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอฝากยังแกนนำพันธมิตรฯที่กำลังปลุกระดมประชาชนให้มาร่วมชุมนุมขณะนี้ว่า เมื่อได้ประกาศว่าการเคลื่อนไหวตั้งแต่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมาจะเป็นการเคลื่อนไหวขั้นแตกหักเป็นหนังม้วนเดียวจบ วันนี้เป็นวันที่สามของการเคลื่อนไหว ถามว่า จบม้วนหรือยัง ส่วนตัวเห็นว่าจบม้วนแล้ว หากจบม้วนเราจะได้เริ่มม้วนใหม่ด้วยการฟื้นฟูแก้ปัญหาความบอบช้ำในประเทศ จะได้เดินทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจในปี 2552 ที่ทั่วโลกตระหนักจะแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้การดำเนินการใดของกลุ่มพันธมิตรฯที่บอกว่าเป็นชัยชนะ เป็นชัยชนะแค่ของแกนนำพันธมิตรฯ แต่เป็นความเสียหายร่วมกันของประเทศไทย และคนไทยและไม่สามารถที่จะสร้างแรงเสียดทานให้กับรัฐบาลยุติการบริหารราชการแผ่นดินได้ รัฐบาลไม่มีความคิดใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง แต่ต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลโดยขอทำเนียบในดอนเมืองคืน

 

ปิดลับสถานที่ประชุม ครม.สัญจร

 

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนกรณีที่จะประชุม ครม.ในวันที่ 26 พ.ย.นั้น กำลังพิจารณาอยู่ ยังไม่มีข้อสรุปจะใช้สถานที่ ส่วนตัวเลือกหนึ่งที่จะประชุม ครม.ที่กองบัญชาการกองทัพไทยแล้วกลุ่มพันธมิตรฯจะปิดล้อมนั้น เชื่อว่าทหารมีมาตรการดูแล และหากกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมได้ คงไม่มีผลกระทบต่อการประชุม ครม. เพราะยังมีสถานที่หลายแห่งที่มีความพร้อมจัดประชุม  ครม. หากพันธมิตรฯ จะตามไปปิดล้อมตลอดเวลา รัฐบาลคงไม่มีหน้าที่หลบหนีตลอดเวลา ที่สุดแล้วจะต้องมีการประชุม ครม.ต่อไป ต้องดูว่าหัวใจของพันธมิตรฯจะติดตาม ปิดล้อมไปทุกสถานที่หรือไม่ เชื่อว่าคงไม่ง่ายนักที่จะกระทำได้ ไม่ได้ท้าทาย  แต่เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องประชุม ครม. ส่วนกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกฯระบุว่าจะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนกลางในเวทีผู้นำ 4 ฝ่าย เพื่อเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯนั้น นายอภิสิทธิ์มีเรตติ้งดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ เสมือนกับเป็นมิตรสนิทที่พูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯตลอด แต่จะให้ใครไปคุยนั้นยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องคุยกัน

 

ยุชาวบ้านคว่ำบาตรกลุ่มทุนหนุนม็อบ

 

นายจตุพร  พรหมพันธ์  รองโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงว่า การประชุมสภาในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีต่อไป แต่ไม่มีวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) การที่กลุ่มพันธมิตรฯกำลังฮึกเหิมมากเกินไป จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนที่ไม่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯช่วยกันคว่ำบาตรบรรดาเอกชนที่สนับสนุนพันธมิตรฯ เช่น ควรถอนเงินจาก ธนาคารที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯให้ล้ม หรือไม่ซื้อสินค้า เอกชนรายนั้น เพื่อลงโทษอย่างสาสม วันนี้คนเสื้อแดงซักเสื้ออยู่รอว่า ถ้าพันธมิตรฯก้าวล่วงปิดล้อมพระตำหนักจิตรลดาเพื่อไม่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ เข้าเฝ้าเมื่อไร ความอดทนจะสิ้นสุดทันที หนังม้วนเดียวของกลุ่ม พันธมิตรฯจะถึงวันที่ 4 ธ.ค หรือไม่ ล้อมสวนจิตรลดาเมื่อไร รับรองเสื้อแดงออกมาแน่

 

ขู่ฟ่อเตรียมเป่านกหวีดรวมพลคนเสื้อแดง

 

“วันนี้เราขอร้องอย่าเพิ่งออกมา จนกว่าเราจะสั่งให้ออก ขณะนี้คนเสื้อแดงซักเสื้อรอไว้และแห้งพร้อมรีด พับเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว และให้รออีกครั้งในวันที่ 13 ธ.ค. ในรายการความจริงวันนี้สัญจรที่สนามศุภชลาศัย ที่ พ.ต.ท. ทักษิณจะโฟนอินเหมือนเดิม วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯเหมือนหนังอินเดีย วิ่งไปวิ่งมา ไม่มีผล เหมือนเอาคนบ้าเป็นตัวประกัน จะเชือดคนโน้น คนนี้ เดี๋ยวมายึดทำเนียบ กระทรวงการคลัง นั่งห้องประชุม  ครม.แล้วยังไงต่อ ความกดดันไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลหรือเสื้อแดง แต่อยู่ที่การทำหนังม้วนเดียว ความกดดันอยู่ที่กลุ่มพันธมิตรฯมากกว่า หวังว่าคงไม่มีม้วนสองแล้ว” นายจตุพรกล่าว

 

ติงม็อบปิดสุวรรณภูมิทำประเทศพังยับ

 

ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าในการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ทาง รมว.มหาดไทยได้รายงานให้ทราบถึงการติดตามดูแลสถานการณ์การชุมนุมของพธม. สิ่งที่ รมว.มหาดไทยรับภาระไปท่านก็ยืนยันว่ายังสามารถดูแลได้โดยการปฏิบัติการเป็นไปตามนโยบายคือไม่ให้มีการปะทะกันไม่เช่นนั้นจะเกิดการนองเลือดขึ้นได้ ให้ตำรวจใช้วิธีการละมุนละม่อม โดยไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อ ส่วนการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยที่สนามบินสุวรรณภูมิก็ได้มอบหมายให้ดูแลโดยใช้หลักการเหมือนกัน ซึ่งล่าสุดที่กลุ่ม พธม.ได้เคลื่อนขบวนไปปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิแล้วนั้น ถ้าทำกันอย่างนี้ อีกหน่อยสายการบินต่างๆก็จะเปลี่ยนไปใช้บริการของสนามบินของสิงคโปร์ กันหมด แล้วประเทศไทยจะเสียหายพังยับเยิน ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือและผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่จะตามมาอีกมากมาย

 

เสธ.แดงเสนอตัวเป็น ผอ.รมน.

 

ในขณะที่สถานการณ์การเมืองยิ่งทวีความตึงเครียดขึ้นเป็นลำดับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ก็ได้ออกมากล่าวในวันเดียวกันนี้อีกว่า หลังจากที่ พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ขาดคุณสมบัติเป็นผู้ช่วย ผอ.รมน. ตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เนื่องจากต้องแต่งตั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐอายุไม่เกิน 60 ปี ซึ่ง พล.อ. พัลลภเป็นนายทหารนอกราชการ ตนจึงขอเสนอตัวต่อนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้แต่งตั้งเป็นผู้ช่วย ผอ.รมน.เพื่อจะได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯมาตรา 15 โดย ครม.มีมติแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ รมน.เป็นผู้ช่วย ผอ.รมน.ในการเข้าไปป้องกันและปราบปรามเพื่อให้ ภารกิจบรรลุผล เมื่อมีการแต่งตั้งแล้วจะได้ยืมตัวนายทหารมาช่วยงาน โดยเฉพาะใน กอ.รมน. มีนักรบเก่งๆ ที่สามารถทำภารกิจให้บรรลุผล ไม่ว่าจะเป็น เสธ.ยาว หรือ เสธ.ป๊อด

 

ลั่นถ้าได้เป็นจะเปิดเจรจากับพันธมิตรฯ

 

พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า เมื่อตนมีอำนาจตาม พ.ร.บ. ความมั่นคงในการป้องกันและปราบปรามตามมาตรา 15 จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยการเปิดเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯก่อน หากไม่มาก็จะใช้กองกำลังเข้าไปเชิญตัว แต่ถ้าไม่มาอีก แล้วมีการใช้นักรบศรีวิชัยขัดขวาง ก็จำเป็นต้องตัดสินใจใช้กำลังเข้าตอบโต้ ถ้านายกฯแต่งตั้ง เสธ.แดง จะทำให้ตนถูกเลื่อนจากข้อกล่าวหามือที่ 3 ขึ้นมาเป็นมือที่ 2 ในการใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าปฏิบัติการกับกลุ่มพันธมิตรฯโดยตรง และจะทำให้มีอำนาจในการรบกับมือที่มองไม่เห็นที่ทำให้ประเทศชาติปั่นป่วน ที่ขึ้นต้นด้วยอักษร P, S และตัว CH ได้

 

ขู่พันธมิตรฯอาจเจอปืน ค 60

 

พล.ต.ขัตติยะกล่าวด้วยว่า หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมดอนเมืองและกองบัญชาการกองทัพไทย ทำให้ ครม.ไม่สามารถประชุม ครม.ได้ จึงเสนอให้ ครม.มาประชุมที่บ้านตนเอง เพราะจะมีความปลอดภัยยิ่งกว่าสถานที่อื่น เพียงแต่หลังเลิกประชุม อาจจะเดินทางออกลำบากเล็กน้อย เนื่องจากต้องแหวกศพพันธมิตรฯ เหมือนภาพยนตร์สงครามนักรบซูลู ที่มีคนตายทับถมนอกฐานจำนวนมาก นอกจากนี้ ขอแจ้งเตือนพนักงานภายในตึกเอเอสทีวีอีกครั้ง ให้รีบออกจากอาคารเร็วที่สุด เพราะจากเหตุการณ์ถูกเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ครั้งแรกนั้น ถือว่าเป็นการสอบระยะเท่านั้น วิถียิงมีการวิ่งชนขอบตึก แสดงว่าการปรับมุมทิศตรงแล้ว ครั้งต่อไปเป็นเพียงแค่เพิ่มระยะมุมสูงสัก 3-5 เมตร จะถึงเป้าหมาย ต่อไปอาจเป็นการใช้ ค 60 อานุภาพจะร้ายแรงกว่า ขอเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมในทำเนียบฯเป็นครั้งสุดท้าย ให้ออกจากทำเนียบฯ ออกจากถนนราชดำเนิน สะพานมัฆวานฯ สนามบินดอนเมือง ก่อนงานราตรีสโมสร ไม่เช่นนั้นจะเกิดสงครามยืดเยื้อ

 

เสธ.แดงโผล่วิภาวดีซอย 3

 

ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่ปรึกษากองทัพบก เดินทางไปที่เกิดเหตุ บริเวณซอยวิภาวดี 3 ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง ต้อนรับของกลุ่มคนเสื้อแดงและโชเฟอร์แท็กซี่ชุมชนคนรักแท็กซี่ จำนวนนับร้อยที่คุมพื้นที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ส่งเสียงว่าลูกพี่มาแล้วๆ จากนั้นเสธ.แดงเดินเข้าไปให้ กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ แล้วออกมาใช้โทรโข่งกล่าวกับกลุ่มคนที่ให้การต้อนรับว่า ความผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะบิ๊กโฟร์ที่ยอมให้พันธมิตรฯยึดสถานที่ราชการสำคัญๆ ยึดทำเนียบรัฐบาลที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หากว่าตนมีอำนาจจัดการ จะสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ตามจุดต่างๆ ได้ภายใน 3 ชม. ที่ผ่านมาเคยเตือนพันธมิตรฯแล้วว่าจะมีระเบิดลง แต่พันธมิตรฯกลับหาว่าเป็นฝีมือตน หลังจากพูดปราศรัยอยู่ประมาณ 20 นาที จึงเดินทางกลับ

 

มท.1 รับฟังสถานการณ์

 

เวลา 17.00 น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล รับฟังการประเมินสถานการณ์ จาก พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. จากนั้น พล.ต.ท.สุชาติ เผยว่าได้รายงานสถานการณ์ให้ มท.1 ทราบ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายกำลังจากดอนเมือง ไปสนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจต้องประเมินสถานการณ์ ชั่วโมงต่อชั่วโมง สำหรับการดูแลทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ที่ดอนเมืองนั้น มีการแบ่งสัดส่วนการดูแลเป็น 3 ชั้น บริเวณด้านใน รอบกลางและรอบนอก ตำรวจมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบด้านนอก ในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิ ทาง ตร.จะเป็นผู้สั่งการ ขณะนี้เหตุการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง

 

ผบ.ตร.ขอ ก.ม.ควบคุมการชุมนุม

 

ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าไม่หนักใจ ตำรวจเดินไปตามขั้นตอน เรามีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย กฎหมายมีก็พยายามทำ รัฐบาลจะดูว่าตำรวจอ่อนไปหรือไม่ ต้องทำให้ตำรวจมีความชอบธรรมในการดำเนินการอะไร ถ้าไม่มีกฎหมายเฉพาะ ตำรวจทำงานยาก กฎหมายที่มีอยู่ขณะนี้ทำให้ตำรวจทำงานได้น้อย เห็นว่า ควรมีกฎหมายควบคุมการชุมนุมในที่สาธารณะ เพราะ ทุกประเทศก็มี ส่วนการชุมนุมในขณะนี้อยู่ในวิสัยควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ แกนนำดูแลไม่แข็งแรงแต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมาก

 

เตรียมยื่นถอนประกันแกนนำ

 

ส่วนที่พันธมิตรฯ เข้ายึดทำเนียบชั่วคราวดอนเมือง พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตนไม่ได้ให้เข้า เป็นเรื่องของเจ้าของพื้นที่ ตรงนั้นเป็นของกองทัพอากาศ การท่าอากาศยานเป็นผู้ดูแล ตำรวจเข้าไปได้หากมีการร้องขอให้เข้าไปดูแลความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งหากพันธมิตรฯ จะบุกมาที่ สตช.ไม่ให้เข้าแน่ ส่วนการดำเนินคดีนั้นทำเวลาไหนก็ได้ หากมีผู้เสียหายมาแจ้งความ สำหรับการกระทำของแกนนำพันธมิตรฯนั้น พนักงานสอบสวนมีสิทธิ์ขอยื่นถอนประกันต่อศาล เป็นสิ่งที่คิดจะทำ เรื่องนี้ได้ตั้งคณะทำงานมาดูแล้วมี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท. ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร.รับผิดชอบ

 

หวั่นเป็นเหมือน 3 จว.ชายแดนใต้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี หากมีการยืนยันจะประชุม แล้วพันธมิตรฯบุกไปปิดสถานที่ประชุมอีก ผบ.ตร.กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลบอกว่าต้องประชุม ตำรวจก็ต้องพยายามทำ ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ผบ.ตร. กล่าวว่าเคยบอกแล้วว่ากลางคืนต้องระวัง แต่จะให้ระวังมากน้อยแค่ไหน ถ้าจะป้องกันได้มากก็ต้องเอากำลังมาเยอะ ถ้าใช้กำลังเต็มที่แค่หนึ่งเดือนก็แย่แล้ว แต่เหตุระเบิดใน กทม.เคยจับได้หรือไม่ แต่ถ้าปล่อยสถานการณ์แบบนี้ นานๆไม่ดี อาจจะเป็นเหมือนที่เกิดเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

ยังเชื่อรัฐบาลยังพอใจผลงาน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า คนในรัฐบาลไม่พอใจท่าทีของ ผบ.ตร.ที่ปล่อยให้พันธมิตรฯ ใช้แผนดาวกระจายได้ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลพอใจ บางคนอาจไม่พอใจ ท่าทีชัดเจนตลอด แต่ไม่แสดงตัวตั้งแต่มีการชุมนุมเกิดขึ้น คือให้ เจรจา อดทน ไม่ใช้ ความรุนแรง แต่ระยะหลังอาจไม่ได้แสดงตัว อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องสั่งมาจะเอาอย่างไร ต้องชัดเจนพอสมควร นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เป็นประธานติดตามสถานการณ์ร่วม ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ก็มองเหมือนกัน คือไม่ให้เกิดความรุนแรง เชื่อว่าหากนายกฯกลับมาคงมีการเรียกประชุมกัน อาจมีการพิจารณากำหนดพื้นที่การใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคง

 

ต้องพานายกฯออกจากสุวรรณภูมิ

 

ส่วนที่พันธมิตรฯจะปิดสนามบินสุวรรณภูมิไม่ให้ นายกรัฐมนตรีกลับเข้าประเทศนั้น พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ต้องพานายกฯออกมาให้ได้ เรามีแผนรองรับอยู่แล้ว และว่าถ้าไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิไม่ค่อยสบายใจ เป็นหน้าตาของประเทศ ต่างชาติจะมองอย่างไร กระทบกับความมั่นคงและเศรษฐกิจ ตอนนี้เห็นว่ามีรถบัส 1 คัน ไปแล้วที่สุวรรณภูมิ ตำรวจพื้นที่กำลังเจรจาอยู่

 

ไชยวัฒน์ร้องขอทหารดูความปลอดภัย

 

เวลา 17.00 น. นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 และนายวีระ สมความคิด พร้อมด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ประมาณ 500 คน เดินทางมาที่กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 1 ร้องขอให้ทหารออกมารักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯไม่เชื่อมั่นในมาตรการการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ พ.อ.ณัฐพงษ์ ศรีสรรค์ รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ออกมารับเรื่อง จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล

 

แก๊งวิภาฯซอย 3 ไล่ทุบพันธมิตร

 

ขณะเดียวกัน ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 3 หลังเกิดเหตุกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งมาปักหลักปกป้องสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ได้ดักตีกลุ่มคนเสื้อเหลืองตั้งแต่เมื่อบ่ายวันที่ 24 พ.ย. ต่อเนื่องไปจนถึงกลางดึกวันเดียวกัน ในวันที่ 25 พ.ย. กลุ่มชายฉกรรจ์เสื้อแดงยังคงรวมพล พร้อมท่อนเหล็กและท่อนไม้ ปักหลักบริเวณสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ที่ถนนวิภาวดี ซอย 3 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ที่อาจถูกกลุ่มพันธมิตรฯบุกเข้าไปทำลายข้าวของ อย่างไรก็ตาม เมื่อ มีรถกระบะของกลุ่มพันธมิตรฯวิ่งผ่านมา กลุ่มชายฉกรรจ์ ดังกล่าวก็วิ่งกรูกันออกไปใช้ท่อนไม้ ท่อนเหล็กฟาดใส่ พันธมิตรฯที่นั่งอยู่ในกระบะท้ายรถ และยังขว้างปาก้อนหินขวดน้ำเข้าใส่ ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯได้รับบาดเจ็บหลายคน

 

พันธมิตรเอาคืนไล่ยิงกระเจิง

 

ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯจำนวนหนึ่งเคลื่อนขบวนเดินทางไปรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างที่ขบวนรถผ่านมาถึงบริเวณฝั่งตรงข้ามถนนวิภาวดี ซอย 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อแดงและบรรดาคนขับรถแท็กซี่ โพกผ้าแดงขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ พร้อมทั้งตะโกนด่าท้าทาย ทำให้การ์ดพันธมิตรฯ ประมาณ 20 คน ลงจากรถ ในจำนวนนั้นมีอยู่ 2 คน ชักอาวุธปืนออกมายิงข้ามฝั่งมาทางกลุ่มเสื้อแดง  ส่วนพวกที่เหลือที่มีทั้ง มีด ไม้ และหนังสติ๊ก ก็วิ่งกรูข้ามถนนลุยเข้าไปทำร้ายกลุ่มคนที่ยืนตะโกนด่าทอ ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ เสื้อแดง วิ่งแตกตื่นหนีหายเข้าไปภายในซอย จากนั้น บรรดาการ์ดพันธมิตรฯได้ใช้มีดและไม้ทำลายข้าวของรวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณนั้น จุดไฟเผารถจักรยานยนต์ เสียหาย 3 คัน และพยายามจะทำร้ายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างคนหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นพวกเดียวกับกลุ่มเสื้อแดง ขณะเดียวกัน ก็ยังเข้ามาข่มขู่ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ไทย พีบีเอสที่ถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ให้หยุดบันทึกภาพ ทำให้ช่างภาพคนดังกล่าวต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด

 

รถวินมอเตอร์ไซค์ถูกเผา 2 คัน

 

สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ถูกเผา มีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กคค 152 กรุงเทพมหานคร ของนายอุทัย หล่อทอง อายุ 42 ปี รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าโซนิค ทะเบียน ปคง 976 กรุงเทพมหานคร ของนายฉัตรชัย คำเติม เป็นคนขับรถวินมอเตอร์ไซค์ ปากซอยวิภาวดี 3 และรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ทะเบียน กยย 383 สมุทรสาคร ของนายคิม จอมสี อายุ 30 ปี นายคิมกล่าวว่า ตนมีหน้าที่ส่งอาหารให้กับกลุ่ม นปช.บริเวณหน้าปากซอยวิภาวดี 3 ขณะกำลังจะหิ้วอาหารลงมา เห็นกลุ่มคนเสื้อเหลืองวิ่งกรูเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ และได้ยินเสียงปืนกระหน่ำยิงไม่ยั้ง จึงได้วิ่งหนี ระหว่างนั้นก็ถูกยิงด้วยหนังสติ๊ก ซึ่งคาดว่าใช้หัวนอตยิงถูกที่หน้าอกซ้ายใต้ราวนมจนเป็นลอยถลอก หลังจากวิ่งหนีเข้าไปในซอยสักพักหันกลับมาดูรถ ปรากฏว่า รถมอเตอร์ไซค์ของตนไฟไหม้ไปแล้ว

 

บาดเจ็บ 11 คนส่ง รพ.เปาโลฯ

 

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลเปาโลฯ ประกอบด้วยนายสำรวย ชันฝา อายุ 24 ปี อาชีพช่างยนต์ ถูกยิงที่ขาขวา นายสันติ วงศ์สุข อายุ 34 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ถูกยิงที่ขาขวานายชัยนรินทร์ กุหลาบพัน อายุ 32 ปี ผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ถูกยิงที่โคนขา นายนนท์ ทิพนันท์ อายุ 49 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ถูกหนังสติ๊กยิงที่บริเวณศีรษะ นายสมคิด พิศนอก อายุ 28 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ถูกยิงที่แขนขวา นายจันดา โคตรชมพู อายุ 27 ปี อาชีพรับจ้าง ถูกยิงที่ขาซ้าย จ.ส.อ.วิรัตน์ เอี่ยมระหงษ์ ทหารสรรพาวุธ ถูกรุมตีด้วยไม้ นายสุชาติ ช้างเนียม อายุ 51 ปี อาชีพรับจ้าง ถูกยิงบริเวณแผ่นหลังด้านซ้าย นายเรืองยศ ชูเดชอายุ 39 ปี อาชีพรับจ้างถูกตีที่ศีรษะและตามร่างกาย นายศุภมิตร จันทพันธ์ อายุ 42 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ถูกยิงที่แขนขวา และ น.ส.ศิริประภา วงศ์ลีลากรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาถูกทำร้ายร่างกาย

 

ค้นรถต้องสงสัยพบปืนกล-กระสุนเพียบ

 

ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ร.ต.อ. อัศวิน วงศ์บัวเจริญ รอง สว.สส.สน.ดินแดง พร้อมชุดสืบสวนได้เรียกตรวจค้นรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นสตราดา สีดำ ทะเบียน ปพ 3592 กรุงเทพมหานคร ขณะวิ่งผ่านตลาดกลางดินแดง ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง กทม. มีนาย กนกพล หรือเล็ก จันทร์ประดิษฐ์ อายุ 42 ปี เป็นคนขับ อยู่บ้านเลขที่ 1422/68 ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง ค้นเบื้องต้นในรถพบกระสุนปืน .32 จำนวน 48 นัด ขนาด .38 จำนวน 10 นัด และขนาด 9 มม. 25 นัด วางปะปนกันอยู่ในคอนโซลกลาง เบาะนั่งส่วนที่เป็นแค็บพบวิทยุไอคอม 1 ตัว แคนวูด 1 ตัว ผ้าพันคอสามเหลี่ยม สีเหลือง เขียนข้อความว่า “กู้ชาติ” 1 ผืน ผ้าพันคอสามเหลี่ยม สีดำ เขียนข้อความ “นักรบศรีวิชัย” 1 ผืน จึงนำมาตรวจค้นอย่างละเอียดที่โรงพัก ปรากฏว่าพบปืนอูซี่ เลขข้างปืน ทีพี 00075 พร้อมกระสุนเต็มแมกกาซีน ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังเบาะคนขับ ที่มีการตัดผ่าหนังหุ้มเบาะพร้อมกับใส่ซิปไว้ปิดเปิดเพื่อซุกซ่อนเป็นการเฉพาะ ส่วนเบาะนั่งอีกฝั่งด้านตรงข้ามคนขับ เจ้าหน้าที่พบปืน .38 พร้อมกระสุนเต็มรังเพลิง ซุกซ่อนอยู่หลังเบาะในลักษณะเดียวกัน

 

ปืนทำเนียบถูกขโมยพบในรถการ์ด พธม.

 

สอบสวนนายเล็กรับว่าเป็นการ์ดบริการกลุ่มผู้ชุมนุม พธม. กำลังจะขับรถไปรับเพื่อนที่บริเวณโบสถ์ แม่พระ ส่วนปืนและกระสุนทั้งหมดเป็นของนายเข้ม เพื่อนอีกคนที่เป็นการ์ดด้วยกัน ขอยืมไปใช้ในการทำงานให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ตนไม่ทราบว่าในรถจะมีอาวุธดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และจากการประสานงานของชุดสืบสวนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เพื่อตรวจสอบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวพบว่า เป็นปืนกลอินแกรม ลักษณะคล้ายปืนอูซี่ ที่ถูกมือมืดแอบขโมยเอาไปจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงถูกกลุ่มพันธมิตรฯบุกเข้ายึด

 

พันธมิตรฯบุกสนามบินสุวรรณภูมิ

 

ส่วนการเคลื่อนพลของพันธมิตรฯไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อกดดันไม่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เข้าประเทศได้นั้น เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรฯราว 8 พันคนเดินทางไปที่สนามบินสุวรรณภูมิและปิดถนนยกระดับ ที่มาจากมอเตอร์เวย์ห่างจากสนามบิน 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมโล่และรถดับเพลิงขวางถนนห่างกัน 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังใช้ลวดหนามกั้น ทำให้รถไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ขณะที่ถนนด้านล่างมีกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ประมาณ 200 คนปักหลักอยู่ ทั้งสองฝ่ายต่างใช้หนังสติ๊กยิงเข้าใส่กัน ด้านประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศที่จะเข้าไปในสนามบินนั้น เจ้าหน้าที่ให้ไปใช้เส้นทางถนนกิ่งแก้วและลาดกระบัง ผู้โดยสารทั้งคนไทยและต่างชาติต้องลากกระเป๋าเดินทางจากถนนยกระดับด้านหน้าอาคารผู้โดยสารเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสารระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร

 

การท่าฯจัดหาพื้นที่ให้ชุมนุม

 

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า มีกลุ่มพันธมิตรฯใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร และมาชุมนุมที่ทางเข้าออกทางทิศเหนือของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิบนทางยกระดับ จากการประชุมร่วมกันกับนายโสภณ ซารัมย์ รมช.คมนาคม หาแนวทางรักษาความปลอดภัยสนามบินอีกทั้งไม่ทำให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติตกใจและผู้โดยสารได้รับผลกระทบ จึงจัดหาพื้นที่ให้กลุ่มพันธมิตรฯใช้เป็นที่พักและชุมนุมและจัดน้ำดื่มไว้บริการ เหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้โดยสารและลูกเรือบางส่วนและผู้โดยสารตกเครื่องบิน บางคนต้องเลื่อนการเดินทางออกไป

 

การบินไทยแจงเครื่องนายกฯช้า

 

ขณะที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า กรณีเที่ยวบินที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางกลับจากสาธารณรัฐเปรูถึงประเทศไทยช้ากว่ากำหนดนั้น เที่ยวบินดังกล่าวคือทีจี 8849 เส้นทาง ลิมา-กรุงเทพมหานคร ออกจากกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู เมื่อวันที่ 24 พ.ย. เวลา 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จะถึงกรุงเทพมหานครวันที่ 25 พ.ย. เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่เนื่องจากรถลากจูงเครื่องบินออกไปยังรันเวย์ เกิดขัดข้อง ระบบไม่ยอมคลายล็อกล้อเครื่องบินออก ทำให้ การเดินทางต้องช้ากว่ากำหนด บริษัท Swissport ฯ ซึ่งรับผิดชอบงานบริการภาคพื้นดินที่ท่าอากาศยานกรุงลิมาเร่งแก้ไขแล้ว

 

“สมชาย” ไม่ลงที่สุวรรณภูมิ

 

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิให้สัมภาษณ์ในตอนเย็นว่า ได้รับแจ้งจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทยว่า นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะไปลงที่สนามบินอื่นแทน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ สำหรับกลุ่มพันธมิตรฯที่ชุมนุมหน้าทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมินั้น ได้ปิดทางให้ผู้โดยสารเข้าออกทางสนามบินได้ ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีสายการบินเลื่อนเที่ยวบิน

 

แอตต้าวอนให้คิดถึงการท่องเที่ยว

 

นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว หรือแอตต้า กล่าวว่า การปิดสนามบินทำให้เกิดความเสียหายต่อการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลัก เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กล้ามา ก่อนหน้านี้มีข่าวยิงระเบิด เอ็ม 79 เข้าไปในกลุ่มพันธมิตรฯ ก็กระทบต่อการท่องเที่ยว หนักอยู่แล้ว มีคำถามจากประเทศต่างๆเข้ามามากจนไม่รู้ จะอธิบายอย่างไร ช่วงที่ปิดสนามบินภูเก็ตก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจนถึงบัดนี้ยังไม่ฟื้น ทั้งๆที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ควรมีนักท่องเที่ยวเข้าพักในอัตรา 80-90% แต่ก็มีเพียง 70% สายการบินบางกอกแอร์เวย์สเริ่มบ่นแล้วว่า ผู้โดยสารหายไป เหลือเพียง 50-60% ส่วนนักท่องเที่ยวจีนปกติเข้ามาวันละ 90,000 คน ก็เหลือแค่วันละ 10,000 คน อยาก ให้ผู้ชุมนุมคิดถึงผลกระทบด้วย นักธุรกิจในทุกอุตสาห กรรมอยากให้ความขัดแย้งยุติ ไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่ในประเทศ ทำอะไรกันอยู่  ไม่ออกมาทำอะไรเลย  อย่างเช่นทหารเวลาออกมา ก็ไม่ใช่ว่าจะมีทางเลือกให้ปฏิวัติอย่างเดียว ทหารสามารถออกมาเจรจาให้เกิดความสงบก็ได้ ปล่อยไปแบบนี้บ้านเมืองเสียหาย ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทำเหมือนเล่นขายของ หรือซื้อเวลาไปเรื่อยๆ จะทำอะไรก็ทำให้จบๆ ไปเลย ไม่เช่นนั้นแม้แต่หนังสือพิมพ์ก็จะไม่มีคนซื้ออ่าน เพราะไม่มีเงินเหลืออีกแล้ว

 

ต่างประเทศเกาะติดสถานการณ์

 

สำนักข่าวต่างประเทศ ทั้งเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รวมถึงสถานีโทรทัศน์บีบีซี และซีเอ็นเอ็น รายงานความคืบหน้าของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เคลื่อนพลเป็นวันที่ 2 โดยระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมสวมเสื้อเหลืองจำนวนมาก ทำการ ปิดล้อมทำเนียบนายกฯชั่วคราวที่สนามบินดอนเมือง และรัฐสภา เพื่อขับไล่ให้รัฐบาลลาออก แต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ขณะเดินทางกลับ จากการประชุมเอเปค โดยยืนยันว่า จะไม่ลาออก เนื่องจากรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง  นอกจากนี้บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้วิเคราะห์ต่อสถานการณ์ของฝ่ายกลุ่มพันธมิตรฯว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเป้าหมายให้เกิดการนองเลือด เพื่อที่จะผลักดันให้ทหารออกมาทำการปฏิวัติ แต่การที่รัฐบาลใช้แผนไม่ตอบโต้นั้น สร้างความเสียหายให้แก่แผนการเป็นอย่างมาก

 

ผู้โดยสาร-พนักงานแตกตื่นหนีตาย

 

เวลา 19.30 น. หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯได้ขับไล่กลุ่มแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มารวมตัวขัดขวางกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณถนนภายในสนามบิน ก็ได้นำลวดหนามมาขึงปิดทางขึ้นอาคารผู้โดยสารขาออก เหลือเปิดให้ช่องทางเดียวคือที่ชั้น 1 ที่ให้รถยนต์รับจ้างสาธารณะและรถโดยสารประจำทางมารับผู้โดยสารได้ จากนั้นบรรดาแกนนำพันธมิตรฯได้ปรับขบวนการ์ด เดินหน้าไปยังอาคารผู้โดยสาร ขณะที่ตำรวจซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 กองร้อย ที่ตั้งจุดสกัดอยู่ที่กลางสะพานเข้าตัวอาคารผู้โดยสาร เริ่มถอยร่นไม่เป็นขบวน เนื่องจากการ์ดพันธมิตรฯมีอาวุธค่อนข้างครบมือ อาทิ เหล็กแป๊บ ท่อนไม้ ทำให้ผู้โดยสารในอาคารสนามบิน รวมทั้งพนักงานเริ่มแตกตื่นหวาดกลัวเหตุการณ์และหวั่นถูกลูกหลง ต่างรีบเดินทางออกจากบริเวณสนามบินกันอย่างโกลาหล

 

ยึดรถดับเพลิงไล่ตำรวจแตกกระเจิง

 

เวลา 20.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถดับเพลิงจำนวน 2 คัน และรถน้ำ 1 คัน มาจอดขวางถนนกั้นไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯเข้าสนามบิน แต่ไม่สามารถขวางได้ กลุ่มพันธมิตรฯได้ไล่สื่อมวลชนที่อยู่หลังรถดับเพลิงให้ลงจากรถ ไม่ให้มีการบันทึกภาพ จากนั้นได้ยึดรถดับเพลิง 2 คัน แล้วกลุ่มพันธมิตรฯขึ้นไปขับเอง พุ่งตรงไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ตำรวจที่มีอยู่ประมาณ 450 นาย แตกกระจายถอยร่นวิ่งหนีตาย จากโค้งเข้าสนามบินไปถึงประตูทางเข้าที่ 2 โดยกลุ่มพันธมิตรฯพยายามจะเข้าควบคุมพื้นที่บนอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เพื่อผลักดันให้ตำรวจออกไปจากสนามบิน

 

พธม.ออกแถลงการณ์ปิดสุวรรณภูมิ

 

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 20.15 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล  แกนนำพันธมิตรฯ  ขึ้นเวทีปราศรัย  และอ่านแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่  26/51  เรื่อง  ขอยื่นคำขาดให้นายกฯลาออกทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข กลุ่มพันธมิตรฯมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับ การชุมนุม  และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืน  โดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและคณะรัฐบาล  ให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันที  ทั้งนี้พันธมิตรฯขออภัยมายังพี่น้องประชาชนที่อาจจะได้รับผล จากการดำเนินการในครั้งนี้ แต่เป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องหยุดอำนาจของรัฐบาล

 

จำลองนัดรวมพลสนามม้านางเลิ้ง

 

ขณะเดียวกัน  พล.ต.จำลอง  ศรีเมือง  ได้ประกาศนัดแนะกับผู้ชุมนุม ให้ไปชุมนุมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อน เนื่องจากจะมีการปิดเวทีเวลา  24.00  น.  แล้วประชาชนให้มาอีกครั้งในเวลา 04.00 น. โดยนัดรวมพลกันที่สนามม้านางเลิ้ง และอย่า เดินไปตัวเปล่า ขอให้หิ้วน้ำไปคนละ 6 ขวด ทั้งนี้พันธมิตรฯ ยึดทำเนียบรัฐบาล ทั้งแห่งที่ 1 และที่ดอนเมือง เราจะไป อยู่ที่สุวรรณภูมิเพื่อปิดสนามบิน นี่คือมาตรการของเราที่ทำให้ได้ผลที่สุดในการแก้ปัญหาบ้านเมือง

 

การ์ดเหิมหนักไล่ทำร้าย ตร.ในอาคาร

 

เวลา 21.00 น. การ์ดกลุ่มพันธมิตรฯวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ได้อ้างกับเจ้าหน้าที่สนามบินว่า จะขอเข้าห้องน้ำภายในอาคารสนามบิน แต่กลับรุกไล่จะเข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการณ์อยู่ที่หน้าอาคาร ตรงประตู 2 โดยถือไม้และท่อนเหล็ก ด้ามธง ไล่ตามหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการท่าอากาศยานฯ ต้องมาขอร้องให้ยุติการกระทำดังกล่าว เนื่องจากสร้างความแตกตื่นให้นักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ในอาคาร กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯจึงถอยออกไป เมื่อผู้สื่อข่าวจะถ่ายรูป แต่การ์ดพันธมิตรฯได้พยายามหลบหน้า ไม่ยอมให้ถ่าย

 

สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิไม่มีกำหนด

 

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ให้สัมภาษณ์ในเวลา 21.00 น. ว่า หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯเข้าปิดล้อมและบุกรุกเข้าไปยังอาคารผู้โดยสารชั้น 4 และชั้น 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ กว่า 1,000 คนนั้น ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการ ประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่าไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ ได้ ประกอบกับได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด สมุทรปราการ และหน่วยงานความมั่นคง ให้ส่งกำลังมาช่วยเหลือ แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับ ดังนั้น จึงได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีมติความเห็นว่า ควรปิดการให้ บริการสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งขาเข้าและขาออกไปก่อน โดยไม่มีกำหนด โดยเฉพาะขาออก ส่วนผู้โดยสารที่เดินทาง แล้วและอยู่บนเครื่องบินบนน่านฟ้าประเทศไทย  โดยหอบังคับการบินได้แจ้งไปยังกัปตันทุกสายการบินแล้ว หากจะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทอท.ก็จะอำนวยความสะดวกให้ อย่างไรก็ตาม ทอท.และผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีการ ตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อวางแผนปรับไปตามสถานการณ์

 

เตรียมดอนเมืองและสนาม ตจว.รองรับ

 

ขณะที่นายโสภณ ซารัมย์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ภายหลังจากที่หารือร่วมกัน พบว่าสถานการณ์ดังกล่าว ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว ข้องเท่านั้น แต่เมื่อขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานความมั่นคงกลับไม่ได้รับการตอบรับ ให้ช่วยเหลือตัวเองไปก่อน ดังนั้นจึงต้องปิดการให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิทั้งขาเข้าและขาออกไปอย่างไม่มีกำหนด ส่วนสายการบินใด ที่ทำการบินอยู่บนน่านฟ้าประสงค์จะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทอท.จะให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวก นอก จากนี้ได้เตรียมสนามบินดอนเมือง และสนามบินต่างจังหวัด ไว้รองรับสายการบินต่างๆแล้ว

 

พันธมิตรฯต่างจังหวัดเข้ากรุง

 

สำหรับสถานการณ์ในต่างจังหวัด มีกลุ่มพันธมิตรฯ ไปรวมตัวกันรอขึ้นรถตู้และรถบัสตามจุดที่นัดหมาย เพื่อเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันมีอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปรักษาการณ์ตามสถานที่ราชการสำคัญ โดยเฉพาะศาลากลางจังหวัดเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเข้าไปยึดตามที่มีข่าว ขณะที่ประชาชนทั่วไปต่างติดตามข่าวสารด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากไม่ อยากให้เกิดความรุนแรง

 

ชมรมคนรักอุดรเคลื่อนไหว

 

ที่ จ.อุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า ได้หารือกับกลุ่มเชียงใหม่ 51 กลุ่มพิษณุโลก กลุ่มลำปาง กลุ่มราษีไศล และกลุ่มโคราช จะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร แต่ไม่ใช่ ไปสนับสนุนนักการเมือง พวกตนเป็นกลุ่มคนปกป้องประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ไม่เกี่ยวว่าสมัยหน้านักการเมืองพรรคไหนจะหาเสียงกันอย่างไร ที่เคลื่อนไหวต่อสู้เพราะอยากให้รัฐบาลทำงานได้ และวันที่ 29 พ.ย. จะนัดเจอกันที่โรงแรมแกรนด์ วโรรส จ.เชียงใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางของประชาชนต่างจังหวัดรักประชาธิปไตย ทุกวันนี้รัฐบาลและฝ่ายรักประชาธิปไตยถูกกดดันหนักและพร้อมที่จะออกมาสนับสนุนให้รัฐบาลทำงานต่อ แต่ ต้องมีทางออกให้กับสังคมด้วย อาจตั้งเวทีประชาชนที่สนามหลวง แต่ไม่เกี่ยวกับ นปก. หรือ นปช. หรือกลุ่มชุมชนคนแท็กซี่ แต่กลุ่มคนเหล่านั้นจะตั้งเวทีรอไว้ให้พวกตนได้ชี้แจงกับประชาชน หลังจากงานประจำปีทุ่งศรีเมืองของ จ.อุดรธานีแล้ว ตนจะเดินหน้าอย่างเต็มที่

 

เตรียมขนบั้งไฟถล่มทำเนียบ

 

นายขวัญชัยกล่าวอีกว่า การเข้ากรุงเทพมหานคร คงไม่เกิดความรุนแรงเพราะไม่ได้เตรียมอาวุธไป แต่อาจทำบั้งไฟไปจังหวัดละ 50 บั้งตามประเพณีของคนอีสาน หากโดนจับดำเนินคดีคงจะไม่หนัก ให้สมาชิกช่วยกันทำคนละบั้ง นั่นคือสิ่งที่จะเตรียมลงไปเพื่อจุดใส่ทำเนียบรัฐบาลเพราะทำเนียบฯไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว และขอฝากไปยัง นักวิชาการหรือองค์กรต่างๆที่โจมตีตำรวจว่าใช้กำลังและอาวุธนั้น ทุกวันนี้ตำรวจเหมือนคนไม่มีชีวิต โดนกระทืบ โดนทุบ โดนตี ขนาดรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยังถูกถีบ โดนด่า โดนถ่มน้ำลายใส่ ศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หายไปหมดแล้ว

 

ระเบิดกลางดึกป่วนเชียงใหม่

 

ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 01.00 น. มีเสียงระเบิดดังขึ้นหน้าทางเข้าหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ถนนทิพยเนตร ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ห่างจากศูนย์ข่าวไทยรัฐ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ 20 เมตร ชาวบ้านแตกตื่นออกมาเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าบ้านและปิดประตูเหล็ก ป้องกันกระจกหน้าร้านแตก ต่อมาเวลา 03.00 น. มีรถจักรยานยนต์และรถกระบะขับผ่านมาพร้อมกับกลุ่มวัยรุ่นบนรถขว้างระเบิดลงมาอีก 3 ลูก แรงระเบิดและเศษเหล็กกระเด็นโดนกระจกหน้าคลินิกทำฟันแตกเสียหาย ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย. มีกลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่มายืนโบกธงและมือตบอยู่หน้าหมู่บ้านเลยถูกขว้างระเบิดเข้าใส่ 6 ลูก ทำให้แตกกระเจิงกลับเข้าไปในหมู่บ้าน ไม่มีตำรวจมาดูแล คนที่มีบ้านอยู่ใกล้ที่ตั้งของพันธมิตรฯต่างประกาศขายบ้านกันแล้ว

 

กลุ่มรักเชียงใหม่ฯปฏิเสธก่อเหตุ

 

ขณะที่นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้นว่า กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ไม่ได้ส่งคนออกไปก่อเหตุ แต่ทราบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งว่าจ้างวัยรุ่นชาวเขาคนละ 300 บาท ให้นำระเบิดที่ทำเองไปขว้างเพื่อสร้างสถานการณ์  และโยนความผิดมาถึงกลุ่มรักเชียงใหม่ที่ชุมนุมอย่างสงบที่โรงแรมแกรนด์วโรรส

 

ตั้ง ผบ.ตร.-ผบ.ทบ.คุมสถานการณ์

 

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 21.30 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ได้ทำบันทึกถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ขอให้ทั้งสองหน่วยงานเข้ามาควบคุมดูแลสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ หลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าชุมนุมภายในสนามบินสุวรรณภูมิจนต้องมีการปิดใช้สนามบินในช่วงค่ำที่ผ่านมา

 

“ในบันทึกที่ทำถึงท่านทั้งสองเชื่อว่าทั้งสองหน่วยงานภายใต้การดูแลของท่านคงจะสามารถนำพาสภาพที่เป็นอยู่กลับคืนไปสู่ภาวะปกติได้” นายชวรัตน์กล่าว

ติดต่อโฆษณา นสพ.ไทยรัฐออนไลน์ โทร 0-2636-0726
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
 ขวางรัฐสภาสำเร็จ พันธมิตรคึก ยึดดอนเมืองต่อ [25 พ.ย. 51 - 04:26]



ข่าวการเมืองแฟ้ม 2

มติชน "มาร์ค"บอกสื่อนอก"วิกฤตไทย" คือ"ประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวา"
มติชนว่า "มาร์ค-สุเทพ"ลั่นเอาผิด2ฝ่าย ใช้ภาพมัด
ข่าวไทยรัฐ พธม.บุกผามออีแดง ปทะชาวบ้านบาดเจ็บนับสิบแล้วหนีไป
ไทยรัฐ:แฉปลุกระดมหนัก ม็อบแรง ถกผบ.4ทัพรับมือ
มติชน ยูเอ็นขอตั้งสำนักงานในสามจังหวัดชายแดนใต้ไทย
ใต้ระอุ ลอบถล่มฆ่า5อส. ก.ย.52
มติชน : สั่ง22รมต.งดโหวต"งบฯ" รบ.ไม่เสี่ยง เกิน18เสียงเชื่อผ่านสภา
ไทยรัฐ : ชาวเน็ตโจมตีหมอ คนดังติดหวัดตาย
ไทยรัฐ : อภิสิทธิ์'ยืนยัน คลิปตัดต่อ เป็นเสียงตัวเอง
ไทยรัฐ:เผยเบื้องหลังสุเทพ เทือกสุบรรณ ลาออกจาก ส.ส.
ไทยรัฐ:กกต.ฟัน13สส. สิ้นสภาพ เทพเทือกไม่รอด
ไทยรัฐ : ทักษิณ'เล็ง3ธุรกิจ ในไลบีเลีย พร้อมทุ่มเงินลงทุน
ไทยรัฐ : รุกไล่ถลุงมิแรนด้า 'ไอ้กร'ยังเจ๋ง สอยเข็มขัดแชมป์
ไทยรัฐ : ตะลึงพบเว็บไซต์กลุ่มหัวรุนแรงเกิดขึ้นเกลื่อน [19 เม.ย. 52 - 16:37]
ไทยรัฐ : 7 องค์กรแถลงการณ์ร่วมใช้แนวทางสันติวิธี [13 เม.ย. 52 - 12:41]
ไทยรัฐ : เสื้อแดงโต้กร้าว ไล่พิจิตร ลาออกองคมนตรี [5 เม.ย. 52 - 03:07]
ไทยรัฐ : ทีมการเมืองวิเคราะห์ : ล่อแหลมละเมิด เขย่าสถาบัน [5 เม.ย. 52 - 00:55]
ไทยรัฐ : บีบีซีจี้ถามที่มารบ.อภิสิทธิ์ กรณ์ไม่หวั่นเสื้อแดงค้านกู้ [2 เม.ย. 52 - 08:05]
ไทยรัฐ : ศิษย์เก่าสวนฯให้กำลังใจเปรม คิวต่อไปเชียร์สุรยุทธ์ [2 เม.ย. 52 - 06:41
ไทยรัฐ : เขมรรุกพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารไทยท้วงติงไม่ได้ผล [1 เม.ย. 52 - 19:21
ไทยรัฐ : เทพไทยันไม่งดประชุมครม. ยื่นศาลเปิดประตูทำเนียบ [31 มี.ค. 52 - 07:35]
ไทยรัฐ : “จาตุรนต์”ไล่บี้“สุรยุทธ์”ไขก๊อกองคมนตรี [30 มี.ค. 52 - 20:14]
ไทยรัฐ : แฉ'กษิต'หมดเปลือก แม้วให้เงินใช้ประจำ [30 มี.ค. 52 - 21:55]
ไทยรัฐ : เสื้อแดงบุกเผาหุ่นป๋าเปรมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ [28 มี.ค. 52 - 16:31]
ไทยรัฐ : สุรยุทธ์ออกโรงโต้ ปัดรวมหัวคิดปฏิวัติ [28 มี.ค. 52 - 18:04]
ไทยรัฐ : 'ทักษิณ' ดับเครื่องชน แฉเปรม ผู้มีบารมีนอกรธน. [28 มี.ค. 52 - 05:02
มติชน : อัยการสั่งไม่ฟ้องนปช.บุกบ้าน"เปรม"
มติชน : พัลลภ"ยัน"สุรยุทธ์"ร่วมวง วางแผนล้ม"ทักษิณ" จี้ลาออก"องคมนตรี"
ไทยรัฐ : “พัลลภ” แฉจำลองเพื่อนรัก “จปร.7” หลอกใช้ [28 มี.ค. 52 - 10:22
ไทยรัฐ : สุรยุทธ์นัดแถลง 4 โมงเย็น พะจุณณ์แอ่นอกป้องเปรม [28 มี.ค. 52 - 10:01]
ไทยรัฐ : ยุบสภาไม่ใช่ทางออก นายกฯปัดข้อเสนอทักษิณ [28 มี.ค. 52 - 12
ไทยรัฐ : ปิดแผนนายกฯเข้าทำเนียบ น.1มั่นใจได้ทำงานแน่ [27 มี.ค. 52 - 06:53]
ไทยรัฐ : มาร์คเตือนทักษิณอย่าดึงสถาบันมาเกี่ยวการเมือง [23 มี.ค. 52 - 16:
ไทยรัฐ : พัลลภรับเล่าเบื้องหลังปฏิวัติ ปัดวางแผนลอบฆ่าทักษิณ [23 มี.ค. 52 - 14:43]
มติชน : เฉลิม VS ปชป. "ไซฟ่อนเงิน" ทีพีไอ-กกต.?
มติน : กกต.รับลูกดีเอสไอเร่งชงคดี"258ล." "สดศรี"ขู่ปมเงินปชส.ถึงขั้นยุบพรรคได้
ไทยรัฐ : กัลยาเดือดโต้หนักหัวใครใช้นามสกุลโสภณพนิช [20 มี.ค. 52 - 18
ไทยรัฐ : มหาเถรฯต้านแก้กม.สงฆ์ให้นายอำเภอ-ผอ.เขตสึกพระ [20 มี.ค. 52 - 18:25
โพสต์ทูเดย์ : จตุพร"อัด"นายกฯ"ใช้ สด.9 เท็จ
โพสต์ทูเดย์ : ฝ่ายค้าน เกือบเสียท่า!
ไทยรัฐ : สภาเดือดหวิดปะทะ แจกกล้วยกลางที่ประชุม [19 มี.ค. 52 - 21:00]
ไทยรัฐ : ส.ส.เพื่อไทยสดุดี “เฉลิม” อภิปรายเยี่ยม-จ่อแฉอีก [19 มี.ค. 52 - 16:44
ไทยรัฐ : วิปรบ.ประเมิน'เฉลิม' อภิปรายเหมือนปืนใหญ่ยิงด้าน [19 มี.ค. 52 - 16:35
ไทยรัฐ : เหลิมโชว์หลักฐานกลางสภาเส้นทางไซฟ่อนถึงยุบปชป. [19 มี.ค. 52 - 13:
มติชน : "มาร์ค"มั่นใจผ่านปม258ล. ยุบ"ปชป."ไม่ได้ "เฉลิม"ย้ำ"เช็ค-เอกสาร"มัด
ไทยรัฐ : ประชาให้เวลากษิตบ่าย2 ตัดสินใจลาออกก่อนยังทัน [19 มี.ค. 52 - 12:17
มติชน : ส่งฟ้องสินบนบ้านเอื้ออาทร ปปช.ฟัน"วัฒนา"
มติชน นาทีต่อนาที รบ.พลิกเกมหนีเสื้อแดง ชิงแถลงนโยบาย กท.ต่างประเทศ
ไทยรัฐ โปรดเกล้าฯครม. มาร์คปัด 500ล้านซื้อเก้าอี้ [21 ธ.ค. 51 - 03:40]
ไทยรัฐ ปชป.อกหักแฉแก๊งออฟโฟร์ [21 ธ.ค. 51 - 04:28]
ไทยรัฐ โปรดเกล้าฯครม. มาร์คปัด 500ล้านซื้อเก้าอี้ [21 ธ.ค. 51 - 03:40]
เลขาธิการสภาฯ นำชื่อ “อภิสิทธิ์” ทูลเกล้าฯแล้ว [15 ธ.ค. 51 - 19:56]
ไทยรัฐ:สนธิ' ประกาศชัยชนะยุติการชุมนุม 10 โมงเช้า [2 ธ.ค. 51 - 19:47]
ไทยรัฐ:นปช.ปักหลักถึง 5 ธ.ค.-ผบช.น.วอนอย่าเคลื่อนพล [30 พ.ย. 51 - 20:40]
ไทยรัฐ:รัฐประกาศฉุกเฉิน ไม่ใช้ทหาร ลุยกลุ่มสนามบิน [28 พ.ย. 51 - 05:47]
ไทยรัฐ:สุวรรณภูมิหยุดให้บริการ ผู้ชุมนุมพังประตูสนามบิน [25 พ.ย. 51 - 22:10]



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----