พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าววันนี้ (25 ก.ค.) ถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มคนรักอุดร ทำร้ายกันเองที่จ.อุดรธานี และที่จ.บุรีรัมย์ ว่า ไม่อยากให้มีการทำร้ายกันเอง เพราะมีผลเสียกับประเทศชาติ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชน ส่วนปัญหานี้จะยุติอย่างไรนั้น กองทัพบกไม่มีอำนาจในเรื่องนี้
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองตนถือว่าเป็นเรื่องปกติในสังคม แต่จะต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ทั้งนี้อยากเรียกร้องต่อกลุ่มบุคคลทั่วไปที่จะออกมาเคลื่อนไหวหลังจากนี้ว่า การดำเนินการต่างๆ ไม่ควรมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเหตุรุนแรงหรือการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะนอกจากจะเกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของผู้ชุมนุมแล้ว ยังจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เหตุการณ์ปะทะกันที่จ.อุดรธานีเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น และน่าเสียใจ ใครจะใช้สิทธิเสรีภาพควรอยู่ในขอบเขตของรัฐธรรมนูญ หากใครมีความเห็นอย่างไร จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ไม่ควรไปทำร้ายผู้อื่น และขอให้เจ้าหน้าที่ และรัฐบาล เร่งพิสูจน์ให้เห็นว่า บ้านเมืองมีกฎหมาย นำคนผิดมาลงโทษ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ฝ่ายที่มีความเห็นเหมือนรัฐบาลอยู่เหนือกฎหมาย นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันว่า ระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับเครือข่ายต่อต้านพันธมิตรฯ ที่จ.บุรีรัมย์ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่คิดว่าเป็นเรื่องของเด็กทะเลาะกันธรรมดา การเมืองไทยก็อย่างนี้ ต่างคนต่างเอาชนะกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาอย่างไร นายชัย กล่าวว่า ตามกระบวนการจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีศาลดำเนินการอยู่ เราเป็นผู้แทนจะไปยุ่งกับเขาได้อย่างไร |