ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลแพ่งยกคำร้องกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้ (2 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันแถลงชี้แจงคำสั่งศาลแพ่ง ที่เพิกถอนคำร้องของพันธมิตรฯ ว่า อาจารย์และนักเรียนโรงเรียนราชวินิต มัธยม ขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพราะขณะนี้มีการตีความที่คลาดเคลื่อน ทั้งการเปิดช่องทางการจราจร และการงดใช้เครื่องขยายเสียงตั้งแต่ 07.30-16.30 น. ศาลจึงนัดฟังคำสั่งอีกครั้ง ในวันที่ 7 กรกฎาคม นี้ เวลา 13.00 น. ซึ่งตนจะเข้าร่วมฟังด้วย และพันธมิตรฯ จะมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งอีกครั้ง โดยนำเสนอข้อเท็จจริงว่า การชุมนุมเป็นไปตามเชิงวิชาการกฎหมาย ที่อาจจะกระทบกับปัจเจกบุคคลบ้าง และหากเปิดพื้นที่ อาจมีการก่อกวนจากกลุ่มต่อต้าน จึงเป็นไปได้ยากที่จะทำให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ หรือปราศจากอาวุธ
5 แกนนำพันธมิตรฯ จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอย่างเคร่งครัด แต่ขอให้ตำรวจอย่าตีความคำสั่งของศาลเกินขอบเขต เพราะศาลไม่ได้สั่งให้สลายการชุมนุม ถือเป็นการคุ้มครองการชุมนุมด้วย นายสุริยะใส กล่าว และว่า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ จะมีการใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายอีกครั้ง ส่วนจะเคลื่อนการชุมนุมไปสถานที่ใด ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องหารือกันอีกครั้ง แต่ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ แกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นเวที พร้อมเปิดพิมพ์เขียวต้นแบบการเมืองใหม่ ตามแนวทางของพันธมิตรฯ ให้มีความชัดเจน
ส่วนกรณีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ปราศรัยพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า นายสนธิ จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่แกนนำคนอื่นยังสามารถวิจารณ์ได้ ทำให้รูปแบบการปราศรัยยังไม่มีการปรับเปลี่ยน
ส่วนบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯ หลังมีการปิดถนน พันธมิตรฯ ได้เริ่มนำเสื่อและเต็นท์ผ้าใบออกมากางบนถนน โดยมีผู้ชุมนุมทยอยเดินมาร่วมชุมนุม โดยในช่วงค่ำแกนนำพันธมิตรฯ ยังคงขึ้นเวทีปราศรัย และในเวลา 19.00 น. |