วานนี้ (1 ก.ค.) นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า พศ.ทำประชาพิจารณ์เพื่อยกร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เสร็จแล้ว และกำลังจะเสนอให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล พศ.ก่อนขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะเกี่ยวกับการคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะมาตรา 6 กำหนดว่า รัฐต้องจัดให้มีการสอดส่องดูแลและปกป้องกิจการที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทั้งในส่วนศาสนธรรม ศาสนบุคคล ศาสนสถาน ศาสนวัตถุ และศาสนพิธี มิให้ถูกละเมิด ลอกเลียน หรือทำให้วิปริตผิดเพี้ยน และมาตรา 41 กำหนดว่า ผู้ใดใช้ถ้อยคำหรือนำพิธีกรรมใดๆ ในพระพุทธศาสนา ทั้งในศาสนธรรม ศาสนบุคคล ศาสนวัตถุ หรือศาสนพิธี ไปใช้หรือดัดแปลง เพื่อหาประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายอำนาจ กล่าวด้วยว่า ถ้า พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนามีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้ผู้ที่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ นำพิธีกรรม คำสอนทางพระพุทธศาสนาไปดัดแปลง บิดเบือนจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาจะมีความผิดถึงขั้นติดคุกในทันที อย่างไรก็ตาม ต้องออกกฎหมายลูกขึ้นมาเพื่อกำหนดรายละเอียดต่อไป
"ตอนนี้มีกลุ่มบุคคลกำลังพยายามจะล้มร่างกฎหมายนี้ โดยส่งจดหมายไปโน้มน้าวเจ้าคณะจังหวัดทุกแห่ง ไม่ให้เห็นด้วย เนื่องจากการจัดพิธีปลุกเสกพระ วัตถุมงคลก็ถือว่าเข้าข่ายผิด แต่จะต้องขึ้นอยู่กับรายละเอียดของกฎหมายลูกที่จะออกตามมาภายหลังด้วย แต่ผมยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาฉบับนี้จะเกิดประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งทั้ง 2 มาตราที่ผมพูดถึงได้ผ่านความเห็นชอบจาก มส.แล้วด้วย ผอ.สำนักเลขาธิการ มส.กล่าว
ด้านพระมหาโชว์ ทัสสนีโย รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มที่จะมีความผิดชัดเจนตาม พ.ร.บ.นี้เมื่อมีผลบังคับใช้ คือ สันติอโศก เพราะถือว่าแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์อย่างชัดเจน เชื่อว่า พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา จะเกิดผลดีต่อพระพุทธศาสนาแน่นอน แต่กังวลว่า ในเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองที่มีต่อต้านจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ อาจทำให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่สามารถประกาศใช้ได้ทันรัฐบาลนี้ |