"สมัคร"ยังไม่จัดการม็อบ ปล่อยยืดเยื้อ! พลิกเกมโชว์ผลงานรบ.สู้

กรมประชาฯอ่านช่วงข่าว เมิน4อดีตนายกฯแก้วิกฤต พันธมิตรขู่เบี้ยวจ่ายภาษี

ชุลมุน - กลุ่มต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชน เข้าแย่งพวงหรีดจากมือ 2 ตัวแทนกลุ่มพันธมิตร (ขวา) ที่จะนำมาวางประท้วงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาออกอากาศ "สนทนาประสาสมัคร" ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน

ข้อเสนอ 4 อดีตนายกฯคนกลางล่ม "สมัคร"ลั่นเป็นไปไม่ได้ ยันไม่ถอดใจ โอ่ผลงานเพียบ สั่ง รมต.ทุกกระทรวงรวบรวมโชว์ผ่านกรมประชาสัมพันธ์ พันธมิตรเล็งยกระดับการชุมนุม หารือมาตรการอารยะขัดขืน-ดื้อแพ่งทาง กม. ไม่จ่ายภาษี ปิดน้ำ-ไฟฟ้า ปลุก"ขรก."ต้านคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม "ผบ.ทอ."ย้ำ ทหารปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่ถูกต้องของรัฐบาล

@ "สมัคร"เมินดึง4นายกฯแก้วิกฤต

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ที่ให้อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น นายอานันท์ ปันยารชุน นายบรรหาร ศิลปอาชา นายชวน หลีกภัย และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พูดคุยกันเพื่อหาทางให้กับประเทศ และเป็นคนกลางในการยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม โดยนายสมัครกล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ว่า ได้ดูรายการโทรทัศน์ บอกว่าให้เอานายกฯ 4 คนมาปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ยืนดูอยู่ว่าเอามา 4 คน คุยแล้ว จะแก้ไขสถานการณ์อะไรได้ นายกฯ 4 คนไปสั่งเสียอะไรยังไงได้ ออกความเห็นแล้วยังไง แล้วเราเอาความเห็นไปทำอะไรได้ ไม่ได้หรอก

"สถานการณ์ปัจจุบันก็นายกฯคนปัจจุบันนี้เป็นคนดูเป็นคนรับผิดชอบ จะคิดอะไรยังไง จะผิดพลาดยังไง ก็มองกัน แต่ผิดพลาดไหม ไม่หรอก เพราะไม่ได้ทำงานด้วยคนคนเดียว ทำเป็นทีม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มี 35 คน ด่าอีก บอกว่านายกฯทำอะไรคิดอะไรต่ออะไรคนเดียว บางอย่างต้องคนเดียว เช่น เวลา เข้าห้องน้ำไปปัสสาวะต้องคนเดียว หลายคนไม่ได้" นายสมัครกล่าว

@ เย้ยโหรทำนายผิดอยู่แค่3เดือน

นายสมัครกล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ทำงานดูแลบ้านเมืองนี้มาครบ 4 เดือน โดยก่อนหน้านี้โหรเคยทำนายไว้ว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน และจะอยู่ได้ไม่เกินปลายเดือนพฤษภาคม ปรากฏว่าขึ้นเดือนมิถุนายนมาได้ 8 วัน แปลว่าโหรทายผิด โหรคนเดียวเปลี่ยนทำนายใหม่แล้ว เวลานี้เปลี่ยนคำทำนายว่าอยู่ได้ปีหนึ่งก็เก่งแล้ว ซึ่งจะรอดูวันไหนครบปี จะได้ถามโหรว่าจะทำนายอย่างไรต่อไป หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีหนังสือชื่อ D-Day The Sixth of June แปลว่าวันยกพล ขึ้นบก วันพันธมิตรยกพลขึ้นบก เมื่อเอามา ทำหนังก็ตั้งชื่อว่า The Longest Day นั่นเขายกพลขึ้นบกวันเดียว แต่รัฐบาลนี้ 4 เดือนแล้ว ก็คืบหน้า ใจจริงอยากเอาไปพิมพ์ออกมาให้ ดูเลย แต่เดี๋ยวจะหาว่าอวด ก็เอาแต่ว่าโครมๆ ทำนองว่า ไม่เห็นมีผลงาน ไม่ทำอะไร แต่ถ้าพิมพ์ออกมายาวเป็นศอกเลย หนังสือพิมพ์ก็คงจะไม่ยอมให้ใช้เนื้อที่อีก

"งานที่คนเป็นนายกฯทำ ไม่ได้ไปแบก หาม หยิบ จับ แต่ต้องดูสิ่งที่มีการประมวล ผลขึ้นมา แนวความคิดของผมเป็นอย่างไร นโยบายลงไปอย่างไร ข้าราชการประจำเอานโยบายไปแปลงแล้วเสนอขึ้นมาอย่างไร ดังนั้น ถ้าถามว่าตอนนี้มีอะไรเป็นชิ้นเป็น อันหยิบมาให้ดูไม่ได้หรอก แต่ทำงาน ประชุมเช้า สาย บ่าย เย็น เหมือนเครื่องจักรอัตโนมัติ นี่คือชีวิตคนเป็นนายกฯ" นายสมัครกล่าว

@ ให้กรม"ปชส."โชว์ผลงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของรายการ นายสมัครได้ตอบคำถามของประชาชนที่ส่วนใหญ่จะวิจารณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เช่น ไม่อยากให้รัฐบาลสนใจม็อบมากเกินไป, ม็อบทำให้บ้านเมืองและเศรษฐกิจพินาศ และให้จัดการขั้น เด็ดขาด ซึ่งนายสมัครกล่าวว่า "แหม! จัดการเด็ดขาดหรือ ขนาดผมพูดแค่ว่า อยู่ตรงนั้น ไม่ได้ เท่านั้นแหละแปลความกัน อู้ย... ออก ไปยุ่งยาก นักวิชาการมาล่อกันนัวเลย ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ด้วย เขาไปกำหนดกันเอาเอง เสร็จแล้วก็เอามา ฟาดฟัน"

ส่วนคำถามที่ว่า เมื่อไหร่จะจัดการม็อบ เด็ดขาด นายสมัครกล่าวว่า อันนี้ต้องรอปรึกษาหารือกับผู้คนก่อน คนปรารถนาดีเขาเยอะ จะทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า คิดเองไม่ได้ รับผิดชอบเองก็ไม่ได้ มีคนจะมาช่วยรับผิดชอบให้ ก็ต้องยืดเยื้ออย่างนี้ไปก่อน ขณะเดียวกันมีผู้เสนอ ให้ รัฐบาลนำผลงานออกมาชี้แจงกับประชาชน ซึ่งนายสมัครกล่าวว่า ได้บอกให้รัฐมนตรีทำ ความเห็นเกี่ยวกับงานของกระทรวงว่าได้ทำอะไรไปบ้าง ความยาวครึ่งหน้ากระดาษเอสี่ ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์จะอ่านให้ทุกวันในช่วงข่าว พร้อมยืนยันว่าจะทำงานต่อไป ไม่มีถอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้น การออกรายการ นายสมัครปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว และไม่รับดอกกุหลาบสีแดงจากกลุ่มผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจ โดยขึ้นรถเดินทางออกไปทันที

@ ม็อบเสื้อแดงหวิดปะทะพันธมิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้ามีกลุ่มบุคคลสวมเสื้อแดงที่ต่อต้านพันธมิตรประมาณ 30 คน นำโดยนายวรัญชัย โชคชนะ เดินทางมาชุมนุมบริเวณหน้าสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที พร้อมเตรียมดอกกุหลาบสีแดงมาให้กำลังใจนายสมัคร ขณะเดียวกันได้มีกำลังตำรวจประมาณ 300 นาย พร้อมรถ คุมขังผู้ต้องหา 3 คัน มาตรึงกำลังทาง เข้า-ออก และภายใน นอกจากนี้ ทีมรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ได้เคลียร์พื้นที่บริเวณประตูเข้า-ออกด้านหลัง ซึ่งสามารถ ทะลุไปยังถนนสุทธิสารได้ เพื่อใช้เป็นช่องทางเข้า-ออกในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เนื่องจาก กลุ่มพันธมิตรได้ประกาศว่า จะเดินทางมาประท้วงและขับไล่นายสมัคร ซึ่งเมื่อนายสมัครเดินทางมาถึงได้แสดงอาการหงุดหงิด และบ่นว่า "มาอะไรกันเยอะแยะ ทำอะไรหนักหนา" จากนั้นได้เข้าไปนั่งพักที่ห้องพักรับรองทันที

เวลา 08.25 น. ตัวแทนพันธมิตร 2 คน นำพวงหรีดเขียนข้อความว่า "แด่นอมินีทรราช" เพื่อมามอบให้นายสมัคร ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนไม่พอใจ ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และจะเข้าไปทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงเข้าสกัด กลุ่มผู้สนับสนุนจึงใช้ดอกกุหลาบขว้างปาใส่ ก่อนที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นกลุ่มต้านพันธมิตรได้เข้าไปแย่งพวงหรีด นำมาโยนทิ้งคลองริมถนนวิภาวดีฯ ทำให้ตัวแทนพันธมิตรต้องเดินทางกลับ

@ แวะจ่ายตลาด-เปิบเย็นตาโฟ

เวลา 09.45 น. นายสมัครได้เดินทางไปตลาดบางลำพู เพื่อซื้อกับข้าวและขนมหวาน อาทิ ปลาดุกย่าง สะเดา ทอดมัน มะขามคลุก กล้วยเชื่อม ก่อนจะแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟที่ร้าน "จิระ เย็นตาโฟ" ท่ามกลางความสนใจของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย โดยระหว่างนี้ มีแม่ค้าเข้ามาบ่นกับนายสมัครว่าขายของได้น้อยเพราะม็อบพันธมิตร ทั้งนี้ แม่ค้าขายขนมรายหนึ่งได้ด่าพันธมิตรให้นายสมัครฟัง พร้อมกับหันมาด่าให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพฟัง จนนายสมัครต้องยกมือขึ้นมาขอร้องให้เลิกพูด โดยบอกว่าพอเถอะๆ จากนั้นก็รีบเดินจากไปไปเลย

@ "อภิสิทธิ์"ถามหาเจ้าภาพ

นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นพ.ประเวศ เสนอให้อดีตนายกฯเป็นคนกลางแก้ปัญหาความขัดแย้งว่า คนกลางได้มีการพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว ก่อนจะมีตัวกลางได้ ก็จะต้องให้ทั้งสองฝ่าย เสนอมาก่อน ซึ่งปัญหาเหล่านี้คุยกันไม่รู้เรื่อง เหมือนกับพูดสวนทางกัน ในปัจจุบันแบ่ง เป็น 2 ขั้วใหญ่ๆ ซึ่งคิดว่ามันเกินขอบเขตสมานฉันท์

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของ นพ.ประเวศ เสนอให้ 4 อดีตนายกฯมาปรึกษาหารือกันเพื่อหาทางออกจากวิกฤตการเมืองว่า สามารถพูดคุยระดมความเห็นกันได้ แต่ไม่ทราบว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ

ด้านนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นไปไม่ได้ นพ.ประเวศชอบเสนออะไรที่เป็นจินตนาการเลิศหรู และไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

@ ซัด"มาร์ค"เลิกตีสองหน้า

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน (พปช.) ในฐานะกรรมการศูนย์การติดตามการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร แถลงกรณี พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตสมาชิกสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) เสนอให้นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาว่า ข้อเสนอนี้ไม่มีวันที่จะทำให้ปัญหาจบได้ การยุบสภาไม่ใช่ทางออก หรือเป็นหนทางที่จะแก้ไข เพราะปัจจุบันคนที่ขึ้นบนเวทีพันธมิตรล้วนแล้วแต่เป็น ส.ส.และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หากมีการเลือกตั้งใหม่ คนพวกนี้ก็จะกลับไปลงเลือกตั้ง แล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็จะแพ้อีก แล้วก็กลับมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลกันอีก จนเป็นวงจรอุบาทว์อยู่เช่นนี้

"ผมถึงได้บอกว่าข้อเรียกร้องของกลุ่ม พันธมิตรที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวันไม่สิ้นสุด ไม่มีใครในโลกหรือแม้แต่ยักษ์ในตะเกียงวิเศษ ก็ไม่มีทางตอบสนองได้ ผมถึงได้เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ทำหนังสือเรียกสมาชิกพรรคกลับเข้าไปในสภา นายอภิสิทธิ์ควรเลิกเล่นการเมืองสองหน้า ที่มาอ้างว่าให้ ส.ส.มาขึ้นเวทีพันธมิตร เป็นสิทธิส่วนตัว ไม่เช่นนั้นกว่าจะเป็นนายกฯ ก็จะครบสิบหน้า กลายเป็นนายกฯทศกัณฐ์ไป" นายจตุพรกล่าว

@ พปช.เหนือตั้งกลุ่มต้านปฏิวัติ

นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน และแกนนำกลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตยภาคเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การเมืองชัดเจนว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวเพื่อหาแนวร่วมปฏิวัติ ส่วนอีกกลุ่มเพื่อหาแนวร่วมต้านปฏิวัติ ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านพันธมิตรที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ถือเป็นสิทธิในการคัด ค้านและเป็นการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ไม่มีเป้าหมายเพื่อสร้างกระแสให้เกิดการเผชิญหน้า

"ผมตั้งธงจะเดินสายตั้งมวลชนต่อต้านการปฏิวัติทั่วทุกจังหวัดภาคเหนือตอนบน ส่วนจะเคลื่อนมวลชนไปกรุงเทพฯหรือไม่นั้นเป็นสถานการณ์ที่กำหนดไม่ได้ แต่สถานการณ์ จะเป็นตัวชี้วัด" นายสงวนกล่าว และว่า ขณะ นี้มี ส.ส.บางส่วนเข้าร่วม โดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา รับผิดชอบในภาคอีสาน และนายประชา ประสพดี ส.ส. สมุทรปราการ รับผิดชอบในภาคกลาง ทั้งนี้ ได้มีผู้ใหญ่ในพรรคขอร้องให้ยุติการเคลื่อนไหว แต่ได้ชี้แจงว่าเป็นการเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ไปเคลื่อนไหวในนามกลุ่มพันธมิตร

@ ผบ.ทอ.ย้ำปฏิบัติตามคำสั่ง

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายเคลื่อน ขบวนไปยังสถานที่ราชการและหน่วยงานต่างๆ ว่า เรื่องดังกล่าวทหารไม่เกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยและตำรวจที่ จะดูแล แต่เห็นว่าการเดินขบวนทั่วไปไม่ควรล่วงล้ำสิทธิของบุคคล

เมื่อถามว่า พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้มีคนกลางเจรจาเพื่อ ให้มีทางออก ทั้งรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตร พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า อย่างที่เคยยกตัวอย่างว่าการต่อสู้กัน นักมวยยังต้องมีกรรมการ เพราะต่างคนต่างคิดเข้าข้างตนเอง ส่วนใครที่จะเหมาะสมเป็นตัวกลางนั้นไม่ทราบเหมือนกัน หากันไปเดี๋ยวก็คงได้

"สิ่งที่ผู้ใหญ่หลายท่านในบ้านเมืองพูดไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ พลเรือน ทุกคนก็กังวล ซึ่งควรจะฟังไม่ว่าฝ่ายพันธมิตร หรือฝ่ายต่อต้านพันธมิตร แม้แต่รัฐบาลก็ต้องฟัง" พล.อ.อ.ชลิตกล่าว

เมื่อถามว่า หากเกิดความวุ่นวายทหารจะอยู่ฝ่ายใด พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า หากเกิดความวุ่นวายในประเทศ ทหารไม่ได้เกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของตำรวจ และรัฐบาลก็เป็นผู้สั่งการ เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาลให้ใช้กำลังทหารออกมาเป็นคำสั่งที่ถูกต้องหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า ทหารปฏิบัติหน้าที่ภายใต้รัฐบาล ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น ต้องปฏิบัติตามในคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย

@ หึ่ง"ผบ.เหล่าทัพ"ถกใช้"กม.มั่นคง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 9 มิถุนายน เวลา 08.00 น. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ นัดประชุมร่วมรับประทานอาหารมื้อเช้าที่กองทัพเรือ พร้อมกับมีการหารือเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นข้อเสนอแนะให้กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำมาใช้หลังจากที่ ผบ.เหล่าทัพจะเกษียณอายุราชการในปลายปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมอาจจะหยิบ ยกประเด็นสถานการณ์การเมือง กรณีกลุ่มพันธมิตรชุมนุมขับไล่รัฐบาลมากว่า 2 สัปดาห์ขึ้นมาหารือ ซึ่งจะมีการขอความเห็นจาก ผบ.เหล่าทัพ ถึงความเหมาะสมในการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรด้วย

@ "มหา"ปัดพันธมิตรหาทางลง

ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เวลา 11.10 น. แกนนำพันธมิตร 4 คน ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ขึ้นเวทีปราศรัยภายหลังได้ชมราย การ "สนทนาประสาสมัคร" โดย พล.ต.จำลองกล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่นายสมัครพูดถึงพันธมิตรน้อย เพราะไม่มีอะไรจะโกหกอีกแล้ว พูดจนไม่มีใครเชื่อถือ ถูกจับได้ทุกที มาโกหกเรื่องเก่าๆ คนจึงไม่สนใจ

"ตอนนี้เขาก็ยังคิดอะไรไม่ออกว่า จะทำยังไงกับเรา น่าเห็นใจเขานะครับ เพราะได้บทเรียนไปว่ายิ่งว่าเราหนัก คนยิ่งมามาก นายสมัครรู้แล้วจึงต้องเลี่ยงไปไม่พูดถึงพันธมิตรมาก" พล.ต.จำลองกล่าว และว่า พันธมิตรยังยืนยันเงื่อนไข 2 ข้อคือ รัฐบาลลาออก ไม่ใช่นายสมัครลาออกหรือเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และไม่ให้รัฐบาลยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ขอยืนยันด้วยว่ากลุ่มพันธมิตรไม่จำเป็นจะต้องหาทางลง เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ ที่พวกเรา ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาลว่า จะหาทางออกอย่างไร

พล.ต.จำลองยังกล่าวถึงข้อเสนอเรื่องให้ 4 อดีตนายกฯ เป็นตัวกลางสมานฉันท์ว่า เป็นเรื่องดีที่หลายฝ่ายพยายามหาทางออกแต่ต้องดูว่าทางออกนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะให้เกิด ผลสำเร็จได้หรือไม่ ซึ่งเพียงลำพังไม่สามารถตอบได้ ต้องหารือกับ 5 แกนนำ และที่ประชุม ผู้ร่วมชุมนุม

@ ใช้อารยะขัดขืน-ดื้อแพ่งทางกม.

เวลา 17.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรแถลงจุดยืนของกลุ่มพันธมิตรว่า 1.ประมาณปลายสัปดาห์หน้ากลุ่มพันธมิตรมีความจำเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นในการชุมนุม โดยจะใช้สิทธิที่จะไม่เชื่อฟังรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม ถือเป็นอารยะขัดขืนหรือดื้อแพ่งทางกฎหมาย ทั้งนี้จะมีการประกาศมาตรการต่างๆ เป็น กรณีๆ ไป ในแต่ละวัน เช่น การไม่เสียภาษี การปิดน้ำ ปิดไฟ และขอความร่วมมือข้าราชการต่อต้านคำสั่งที่ไม่มีความชอบธรรม ส่วนรูปแบบรายละเอียดจะไปหารือกับแกนนำ ก่อนจะหาข้อสรุปใน 2-3 วันนี้

2.การชุมนุมของกลุ่มคนรักทักษิณที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมกับประกาศให้ จ.เชียงใหม่ เป็นเขตปลอด 5 แกนนำพันธมิตร และ 1 ผู้ประสานงาน ในส่วนของการชุมนุมนั้น กลุ่ม พันธมิตรเห็นด้วย แต่การประกาศว่าเป็นเขตปลอด 5 แกนนำ แสดงถึงความเหิมเกริมก้าวร้าวของบริวาร ลิ่วล้อระบอบทักษิณ การแสดงออกดังกล่าวเท่ากับว่าเป็นการสถาปนารัฐอิสระขึ้น

3.สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรขณะนี้ถือว่า มีการบิดเบือน อ้างว่ากลุ่มพันธมิตรมีเงื่อนไขไม่สิ้นสุด ทั้งนี้กลุ่มพันธมิตรยังคงย้ำจุดยืน 3 เรื่องคือ 1.พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บริวาร และคนในระบอบทักษิณ จะต้องขึ้นต่อสู้คดีเยี่ยงสามัญชนเท่านั้น เมื่อใดในการต่อสู้โดยใช้อำนาจเงิน กลุ่มพันธมิตรก็ยังคงยืนยันจะชุมนุมต่อ 2.ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป จนกว่าคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้ข้อยุติ 3.รัฐบาลชุดนี้ถือว่าหมดสภาพ ไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ

@ "สุริยะใส"แนะให้ยุบสภา

นายสุริยะใสกล่าวว่า วันที่ 9 มิถุนายนนี้ ที่จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ กลุ่มพันธมิตรจะเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้มีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่เดินทางไปชุมนุมที่รัฐสภา แต่จะมีการรวบรวมกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 10 คันรถ ในเวลา 12.00 น. ตั้งขบวนที่ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เพื่อเดินเท้าไปให้กำลังใจการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) หลังจากนั้นจะเดินทางไปให้กำลังใจอธิบดีกรมสรรพากร และกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้อธิบดีได้ทบทวนกรณีพนักงานกรมประชาสัมพันธ์ถูกบีบมาตลอดในช่วงการเมืองที่มีความผันผวนขณะนี้

"พันธมิตรยินดีและพร้อมรับฟัง หากอดีต 4 นายกรัฐมนตรีเสนอทางออก แต่ต้องพิจารณาว่าจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งผมเห็นว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือ ยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน พรรคพลังประชาชนจะกลัวอะไร ในเมื่อเงินก็มีมาก แต่ไม่ใช่หมดความชอบธรรมแล้ว ยังดื้อรั้นอยู่บริหารต่อไป เท่ากับว่าการเมืองถึงสภาวะทางตัน จะนำไปสู่เหตุ การณ์เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 อีก" นายสุริยะใสกล่าว