ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
dot
พระพุทธเจ้า
dot
bulletบทศึกษาพิเศษ:พระพุทธเจ้า ศึกษาจากวันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรนแปล เช้า- เย็น
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น อัพเดต
dot
พุทโธโลยี
dot
bulletสมาคมศิษย์หลวงปู่เครื่อง จัดประกวดเรียงความออนไลน์มัธยมศึกษาในวันวิสาขบูชา คลิกดูรายละเอียดและรางวัลที่นี่
dot
ชมรมยุวพุทโธโลยีเพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม
dot
bulletThe Beginning ความเป็นมาของโครงการชมรมยุวพุโธโลยีเพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม
bulletChart Showing the Process
dot
บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
dot
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
dot
To The World
dot
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
dot
Buddhism How? บันทึกของนักปฏิบัติธรรมผู้ถวายชีวิตพิศูจน์สัจธรรมพุทธให้รู้แจ้งเห็นจริงถึงระดับมรรคผลนิพพานแท้
dot
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
dot
เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
dot
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
dot
เฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
dot
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
dot
การโฆษณาชวนเชื่อล้มรัฐบาลทักษิณ
dot
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
dot
หนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
dot
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


โหราศาสตร์ ดวงชะตาผู้นำชาติและดวงเมืองยุคปัจจุบัน ดี34:1 ส.ค.2548

 

ดวงชะตาผู้นำชาติและดวงเมืองยุคปัจจุบัน

โดย   ชลัมพุช  โหรชนบท

 

 

สารบาญ

1.    การพิจารณาดวงชาตาประเทศไทย เนื้อหาคำพยากรณ์วันที่ 11 ก.พ. 2548

2.    การประเมินผลการพยากรณ์:มีความแม่นยำของการพยากรณ์มีเพียงใด
3.    การพยากรณ์เหตุการณ์ในช่วงต่อไปของประเทศไทย

4.    พยากรณ์ดวงดวงชาตาตัวอย่างเสาร์เล็งลักคณ์ ว่าจะได้แต่งงานดี

5.    พยากรณ์ดวงดาราภาพยนตร์และโทรทัศน์
6.    พยากรณ์ดวงชาตานักปราชญ์ว่าถึงฆาต จะสิ้นชีวิต

7.    พยากรณ์หญิงสาวว่าจะมีขันหมากมาหมั้นวันที่ 15 มิ.ย.2548

8.    พยากรณ์นักการเมืองท้องถิ่นว่าจะได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่ง

 

 

 

 

 

 

 


1.   การพิจารณาดวงชาตาประเทศไทย

โปรดดูดวงชาตาประเทศไทย ต่อไปนี้

 

 

 

 

 


                                  ๙๓     ล.๑   ๔๖๘

      

                              0                             

 


                                       0/10

                                 

                                                 ๕๗                     

 

 

 

 

 

 

* ดาวอาทิตย์ (๑) เป็นตนุเศษ

 

ดวงกรุงเทพมหานครหรือดวงประเทศไทย

ล. 12 / 114 ร. 3385

วันอาทิตย์ ที่ 21 เม.ย. 2325 เวลา 06.54 น.

  • จาก อ.ประมวลวิทย์, ดูชะตาตนเอง ดูดวงเมือง และดวงพระยาใน ๕ กรุง โอเอสพริ้นติ้งเฮาส์, กทม. หน้า 239

 

 

 

 

           
โดยหลักโหราศาสตร์ จะยืนยันได้เพียงใดว่าเหตุการณ์ไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะสงบลง?

พิจารณาจากดวงประเทศไทยนั่นเอง ซึ่งโหรพอจะเชื่อได้ว่า ดวงชะตาประเทศไทยที่รัชกาลที่ 1 ปฐมบรมวงศ์จักรีทรงประกอบพิธีฝังหลักเมือง วันที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น.นั้นเป็นดวงชาตาเมือง คือการกำเนิด ของกรุงเทพมหานครและหมายถึงประเทศไทยทั้งประเทศด้วย


ก่อนอื่นเราจะลองย้อนไปตรวจคำพยากรณ์ของชลัมพุช โหรชนบท ดูก่อนว่าที่พยากรณ์เหตุการณ์ดวงเมืองไว้ ในหนังสือพิมพ์ดี (อินเทอเนต) เล่มที่ 33 หน้า34 โดยพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 11ก.พ. 2548 ซึ่งพยากรณ์ช่วงเวลา 6 เดือน จากวันที่พยากรณ์เป็นต้นไป ได้พยากรณ์ไว้

อย่างไรบ้าง เราจะจัดแบ่งประเด็น วรรคตอนใหม่เพื่อให้เห็นชัดเจนขึ้น ดังนี้

 

 

 

 

 

 

         
การพยากรณ์วันที่ 11 ก.พ.2548

โปรดดูคำพยากรณ์ต่อไปนี้

 

บัดนี้เมื่อลองมองไปข้างหน้า โดยการประมาณสถานการณ์อย่างคร่าวๆพอเห็นภาพองค์รวมๆของประเทศไทยก็จะพบว่า

-           ต่อจากนี้ไป นับแต่ 12 มี.ค.2548 ไปแล้ว มหาภัยใหญ่ก็จะไม่มีมาอีกตลอดระยะเวลานานหลายสิบปีทีเดียว

-           นับจากเวลานี้ไป ใน 6 เดือนแรก ประเทศไทยจะมีปัญหาความยุ่งยากทางการบริหาร จัดการเศรษฐกิจหลายๆด้าน

-           เริ่มจากราคาน้ำมันจะปั่นป่วนขึ้นๆลงๆไปตลอด

-           โดยเฉพาะความยุ่งยาก ในการเข็นนโยบายตลาดเสรี จะมีปัญหาจากสัญญากับคู่ค้าเสรีกับประเทศต่างๆที่ได้ทำเอาไว้แล้ว สัญญาจักไม่เป็นประโยชน์โดยสะดวกดั่งใจหมาย

-           ด้านการเงินและการคลังจะก่อความยุ่งยากให้ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว โดยเกิดจากผลกระทบจากสภาวะปั่นป่วนจากต่างประเทศ

-           ภาวะตลาดหุ้นหวั่นไหวไม่แน่นอน

-           การก่อการร้ายจะเปลี่ยนโฉมไปเป็นการหลบอยู่ใต้ดินซ่อนตัววางแผนปฏิบัติการเป็นระยะๆฉกฉวยโอกาส แต่จะเบาบางลง จะโหมด้านการโฆษณาชวนเชื่ออยู่ทั่วไปในทางบ่อนทำลายสถาบันราชการ รัฐบาล และประเทศชาติไปเงียบๆ

-           ระวังการเข้าใจผิด หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิดกับประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งองค์การลับต่างประเทศ อันเป็นเหตุให้มีการตอบโต้โฆษณาชวนเชื่อต่อกันและกันควรใช้การทูตให้เป็นประโยชน์

-           และน่าระวังการโจมตีของฝ่ายก่อการร้ายต่อสถาบันการเงิน ก่อความปั่นป่วนทางการเงินขึ้น

-           น่าระวังจะมีการปล้นธนาคารใหญ่ๆหรือเกิดคดีเกี่ยวกับการเงินขึ้น

-           หลัง 6 เดือนไปแล้วจะดีขึ้นมาก การเศรษฐกิจเริ่มเป็นผลดีขึ้น การค้าขายจะคล่องขึ้น ขยายตัวออกไปอีก มีผลกำไร แต่ผลกำไรก็ยังไม่มากดั่งปรารถนาไว้ ยังไม่เข้าเป้าหมายเท่าที่ควร ต่อเมื่อปรับเปลี่ยนแก้ไขแล้วจะดีขึ้นตรงตามเป้าหมาย และน่าพอใจในภายหลัง

-           -ในด้านภัยธรรมชาติ สิ่งที่ควรระวังก็คือ ระวังภัยจากความแห้งแล้ง ประชาชนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมจะลำบาก เพราะจะประสบภัยดินฟ้าอากาศ ไม่อำนวยตามฤดูกาล

-           อาจเกิดปัญหาทางการชลประทานระดับโครงสร้างขนาดใหญ่มีผลกระทบประชาชนจำนวนมากขึ้นได้

-           น่าระวังใน 1 – 2 ปีข้างหน้า รัฐบาลจะมีภาระหนักเกี่ยวกับการจัดการเรื่องน้ำเพื่อการเกษตรกรรมของประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั่งประเทศ การจัดการเกี่ยวกับภัยแล้งซึ่งจะมีการวางโครงสร้างระบบการชลประทานอย่างทั่วถึง

-           การลงทุนและการใช้จ่ายของประเทศจะยังคงสูงมากมหาศาล

-           และมีการสูญเสียโดยเปล่าจากเหตุพลิกผันบางเรื่องบางราว ยังคงต้องเฝ้าระวังโรคระบาดนก

-           ทางด้านรัฐบาลโดยท่านทักษิณ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีจะประสบปัญหาคณะทีมงาน จะมีการปรับรัฐบาลหรือเสริมเพิ่มมาตรการการบริหารหลายครั้งจนกว่าจะอยู่ตัว

-           จะมีปัญหายุ่งยากในระบบรัฐสภานับแต่นี้ไปตลอด 6 เดือนข้างหน้า

-           หลังเดือน พ.ย.2548 จึงจะเรียบร้อย รัฐบาลจะสามารถบริหารตามครรลองที่ถูกต้องมีประสิทธิภาพ

-           หลังวันที่ 10 สิงหาคม พุทธศักราช 2550 ไปแล้วประเทศไทยจะประสบความเจริญ เฟื่องฟูในทุกๆด้าน พบความสำเร็จในทางการเศรษฐกิจ การเงินการคลังรวมทั้งการศาสนาสังคมและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของประชาชนบริบูรณ์มีความสุข ตลอดไปเป็นเวลานาน หลายสิบปี


 

 

 

 

 

 


2.    ผลของการพยากรณ์

ปรากฏว่า การพยากรณ์มีความแม่นยำมาก เมื่อเรายืนยันว่า จะไม่มีทสึนามิเกิดขึ้นอีก ต่อจากนี้ไปหลายสิบปี โดยคำพยากรณ์ว่า “นับแต่ 12 มี.ค. 2548 ไปแล้ว มหาภัยใหญ่ก็จะไม่มีมาอีกตลอดเวลายาวนานหลายสิบปีทีเดียว” แต่ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดแรงพอๆกับคราวก่อนขึ้นในบริเวณทะเลอันดามัน ฝั่งสุมาตราของอินโดนีเซีย ในวันที่ 28 มีนาคม 2548 เวลา 23.20 น. มีขนาด 8.2 ริกเตอร์ ที่แรงพอให้เกิดทสึนามิได้นอกจากนั้น ยังมีแผ่นดินไหวอีกหลายครั้งตามแนวเดิม แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดภัยทสึนามิขึ้น ตามคำพยากรณ์


ส่วนประเด็นน้ำมันในขณะที่พยากรณ์นั้น ไม่มีเค้า ไม่มีข่าวแพลมออกมาเลยว่า สถานการณ์น้ำมันโลกจะเกิดขึ้นจนก่อความปั่นป่วนต่อเศรษฐกิจโลกและไทยได้ขนาดนี้ แต่เราก็พยากรณ์เตือนไว้ล่วงหน้าแล้ว


และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามประเด็นที่ชี้เอาไว้ตามลำดับไปจนครบถ้วนทุกประเด็น โดยเฉพาะในประเด็นที่เจาะจงลงไประดับรายละเอียดของเหตุการณ์คือ การปล้นธนาคาร ซึ่งเราพยากรณ์ไว้ว่า
“ น่าจะมีการปล้นธนาคารใหญ่ๆ หรือเกิดคดีเกี่ยวกับการเงินขึ้น ” ซึ่งปรากฏว่ามีการปล้นธนาคารทหารไทยขึ้นจริงและมีคดี ปปส.ที่ทำให้สังคมไทยตื่นตะลึง และเลยไปถึงฝ่ายค้านเปิดการซักฟอกรัฐมนตรีคมนาคมของรัฐบาลกรณีทุจริตเงินซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ ของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นที่พอใจของผู้พยากรณ์เป็นอย่างมากในแง่ที่ได้พิสูจน์หลักวิชาโหราศาสตร์ไทยไปถึงรายละเอียดและการประเมินน้ำหนักของเหตุการณ์ไว้ไม่ผิดพลาด เราว่าขนาดใหญ่ ก็เป็นขนาดใหญ่จริงๆตามแนวทางของผู้พยากรณ์


และบัดนี้เหตุการณ์ที่ยังไม่ต้องคำพยากรณ์ก็ได้มาถึง นั่นคือการปรับรัฐบาลตามที่เราไว้ว่า
“ทางด้านรัฐบาลโดยท่านทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะประสบปัญหาคณะทีมงาน จะมีการปรับรัฐบาลหรือเสริมเพิ่มมาตรการการบริหารหลายครั้งจนกว่าจะอยู่ตัว”


ในขณะนี้ มีเรื่องราวที่พยากรณ์ไว้ แต่ยังไม่ต้องตามคำพยากรณ์คือเรื่องการก่อการร้าย ซึ่งได้พยากรณ์ไว้ว่า
“ การก่อการร้ายจะเปลี่ยนโฉมเป็นการไปหลบอยู่ใต้ดิน ซ่อนตัว วางแผนปฏิบัติการเป็นระยะๆฉกฉวยโอกาส แต่จะเบาบางลงไป จะโหมด้านการโฆษณาชวนเชื่ออยู่ทั่วไปในทางบ่อนทำลายสถาบันราชการ รัฐบาล และประเทศชาติไปเงียบๆ ” เพราะขณะนี้( 19 ก.ค.2548 การก่อการร้ายยังคงหนักหน่วงอยู่)  ทำให้สงสัยอยู่ว่า การณ์จักเป็นไปตามคำพยากรณ์หรือไม่ ในเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างที่พยากรณ์ไว้ ทยอยเกิดขึ้นตรงตามคำพยากรณ์ไปตามลำดับ ๆ ยังเหลือเหตุการณ์สุดท้ายที่ยังไม่ตรงตามคำพยากรณ์ คือ ผู้ก่อการร้ายยังคงแรงอยู่ ไม่หลบลงใต้ดิน ซ่อนตัว ตามคำพยากรณ์


และเรื่องราวดีๆที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ภายหลังเดือน พ.ย. 2548 ตามที่พยากรณ์ไว้ว่า

“หลังเดือน พ.ย. 2548 จึงจะเรียบร้อย รัฐบาลจะสามารถบริหารตามครรลองที่ถูกต้องมีประสิทธิภาพสูง หลังวันที่ 10 สิงหาคม พุทธศักราช 2550ไปแล้ว ประเทศไทยจะประสบความเจริญ เฟื่องฟูในทุกๆด้านพบความสำเร็จ ทางการเศรษฐกิจ การเงินและการคลังรวมทั้งการศาสนาสังคมวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของประชาชนบริบูรณ์มีความสุข ตลอดไปเป็นเวลานาน หลายสิบปี”


ทางฝ่ายโหรผู้พยากรณ์ก็ขอบอกว่า ขณะนี้ยังไม่ครบช่วงเวลาที่พยากรณ์เอาไว้ คือ ช่วงเวลา 6 เดือนอยู่ระหว่าง มีนาคม ถึง เดือนสิงหาคม 2548 ก็จะสิ้นสุดเอาเมื่อประมาณสิ้นเดือนสิงหาคม2548 และขณะนี้ก็เหลือเวลาอยู่หลายเดือนจึง จะครบถ้วนห้วงเวลาของการพยากรณ์ และโหรย่อมมั่นใจในคำพยากรณ์เสมอ ผู้ก่อการร้ายจะต้องหลบลงใต้ดินภายในเวลาที่ระบุพยากรณ์

 

 



 

 

3.    การพยากรณ์เหตุการณ์ในช่วงต่อไปของประเทศไทย
ในที่นี้เราก็จะยืนยันโดยหลักวิชาโหราศาสตร์สักหน่อยว่า เหตุการณ์จักเป็นไปอย่างไร

 


1.โหรติดตามดูการจรของดาวอังคาร(๓) เมื่อเลยช่วงที่เข้มแข็งของดาวไปแล้ว ดาวก็อ่อนแสงลงนั้นน่าจับตามอง ก็เป็นช่วงตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2548 ที่ดาวอังคารจรสู่ราศีมีน และนั่นเป็นภพวินาสน์ของดวงเมืองก็อันตรายในเมื่อดาวเสาร์(๗) ประจร ทับจันทร์(๒) เดิมอยู่ ณ ราศีกรกฎและกระแสดาวไปถึงราหู(๘)จรที่ราศีมีน ซึ่งเป็นตำแหน่งวินาสน์ของดวงเมือง และยิ่งมีอะไรๆร้ายๆรออยู่ในภพวินาสน์ของดวงเมืองขณะนั้น มีดาวร้ายคือ ราหู(๘) ที่แผลงฤทธิ์มาตลอดในระยะที่จรเข้าสู่ราศีมีน เหตุร้ายเกิดขึ้นตามลำดับเมื่อราหู(๗)เดินเข้าหาพุธ (๔)เดิมในดวงเมืองผ่านดาวศุกร์(๖)เดิมในดวงเมือง และผ่านตัวเองคือราหู(๘)เดิมในดวงเมือง แล้ว อังคาร(๓)จรก็เดินสวนปะทะราหู(๘)จรที่ราศีมีนนี้ และในขณะเดียวกันการที่ดาวเสาร์(๗)จรกำลังเดินใกล้จันทร์(๒)เกษตรเดิมที่ราศีกรกฎไปตามลำดับ ส่งผลไปถึงการก่อการร้ายคือราหู(๘)ที่มีนผลก็คือทำให้ฝ่ายก่อการร้ายคึกคักขึ้นชั่วขณะหนึ่งแต่ก็ไม่ถึงก่ออันตรายร้ายแรงแก่ประเทศชาติ เพราะรัฐบาลจะยังคงแก้ไขได้ไปเรื่อยๆ โดยมองจากพฤหัสบดี(๕)จรเล็งคุ้มครองเรือนตนเองอยู่ (เรือนวินาสน์เป็นเรือนของพฤหัสบดี)


2. บัดนี้อังคาร(๓)ได้จรผ่านปะทะราหู(๘)และข้ามภพวินาสน์ของชะตาเมืองแล้ว โดยยกเข้าสู่ราศีเมษตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2548 และมีกำลังเป็นเกษตร เข้มแข็งมากในขณะที่ ราหู(๘)จรกำลังเดินเข้าหาพุธ(๔)และจะทับองศาสนิทในวันที่ 16 กันยายน 2548 ( ราหูได้ 20 องศา 1 ลิปดา พุธเดิมอยู่ที่ 20 องศา 01 ลิปดา ) แล้วนั่นหมายถึงลมเฮือกสุดท้ายของขบวนการโจรใต้ในไทย ก็จะต้องตามคำพยากรณ์ ที่ว่า “ การก่อการร้ายจะเปลี่ยนโฉมไปเป็นการหลบอยู่ใต้ดิน ซ่อนตัววางแผนปฏิบัติการเป็นระยะๆฉกฉวยโอกาส แต่จะเบาบางลงไป จะโหมด้านการโฆษณาชวนเชื่ออยู่ทั่วไปในทางบ่อนทำลาย สถาบันราชการ รัฐบาลและประเทศชาติไปเงียบๆ ” และหลังจากวันที่ 29 กันยายน 2549 การก่อร้ายใต้ก็จะสงบลง คนในชาติทั้งชาติจักร่วมมือกันสร้างชาติ ด้วยยุทธศาสตร์การเสริมสร้างคือสมานฉันท์ผนวกกับการตำรวจที่รักษากฎหมายสร้างความเป็นธรรมขึ้น


3. เพราะในพื้นฐานดวงชาตาประเทศไทย ท่านกำหนดให้การก่อการร้ายถูกระงับอย่างยืนยาวถาวรโดยวิธีการสมานฉันท์ ดังจะเห็นว่า ท่านกำหนดให้ดาวทั้ง 3 ดวงคือ ราหู(๘) พุธ(๔) และศุกร์(๖) ดาวที่มีแสงแรงจ้าเป็นมหาอุจในดวงชาตาเมือง สถิตรวมกันอยู่ในราศีมีน ซึ่งเป็นเรือนของผู้มีธรรมะเป็นใหญ่ คือดาวพฤหัสบดี(๕) และประกันความสำเร็จด้วยการที่เจ้าเรือนไปเป็นเกษตร ณ ภพที่ 9 คือราศีธนูย่อมร่วมธาตุกับลัคนาและ มหามิตรคือดาวอาทิตย์(๑)ที่เป็นมหาอุจอยู่ที่ราศีเมษ ฉะนั้นสถานการณ์หลังจากราหู(๘)จรเข้าราศีกุมภ์เรือนเกษตรของตนเองในวันที่ 29 กันยายน 2549เป็นต้นไปจึงเป็นวาระการสมานฉันท์แห่งชาติ ( ภายหลังมาตรการการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งกำลังจะเริ่มขึ้น ตามวาระที่ดวงเมืองกำหนด ณ วันที่ 16 ก.ค. 2548 เป็นต้นไป ) ซึ่งจะเป็นสถานการณ์ที่คล้ายกันมากกับเหตุการณ์ของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่จบลงเมื่อราหู(๘)จรเข้าเรือนเกษตรของตน แล้วเป็น 11 แก่ดวงเมืองขณะนั้นเหมือนกัน ฉะนั้นงานสมานฉันท์แห่งชาติ เป็นวิถีทางที่ จำเป็นและตายตัวตามที่ท่านวางดวงเมืองเอาไว้แต่ต้องระวังเหมือนกันว่าอย่ามองด้านเดียว เพราะท่านยังวางดาวอังคาร(๓)ให้เป็นโยกหน้าแก่ดาวทั้ง 3 ในภพวินาสน์นี้ด้วย และโดยการวางนั้น ก็ได้ความสัมพันธ์กับมหามิตร์คือดาวศุกร์(๖)ที่เป็นมหาอุจแรงกล้าในภพวินาสน์ด้วย โดยอังคาร(๓)นั่งเรือนศุกร์(๖)ที่เป็นมหาอุจคู่มิตรนั้น นั่นหมายความว่ามาตรการปราบปราม ก็ต้องนำมาใช้อย่างถูกจังหวะเวลาด้วยจึงจะสำเร็จ นอกจากนี้ยังต้องดูดดาวจันทร์(๒)เกษตรเดิมที่ราศีกรกฎซึ่งเป็นจุดพลังเข็มแข็งที่ตรึงสถานการณ์การก่อการร้ายไว้อย่างยืดหยุ่นโดยจันทร์(๒)เกษตร ส่งกระแสไปประสานกับดวงดาวทั้ง3 ดวงในภพวินาสน์ได้อย่างกลมกลืนในเชิงคู่มิตร คู่สมพล และคู่ศุภเคราะห์(จันทร์เกษตรร่วมศุกร์มหาอุจเป็นพลังสร้างสรรค์ที่รุ่งโรจน์) และจันทร์(๒)ที่บริสุทธิ์เรี่ยวแรงนี้คือประชาชนไทยทั้งชาติในองค์รวมและหมายถึงพระราชินีในระบบกษัตริย์ ในดวงสัมพันธ์หมายถึงสามัคคีธรรมของประชาชนไทยทั้งชาติค่อนข้างเหนียวแน่นโดยการนำของสถาบันกษัตริย์เราหวังว่าแนวคิดนี้กำลังเริ่มมีผลสำเร็จขึ้นแล้วคือการผ่าตัดแล้วสมานแผล ให้หายสนิท


4. ภายหลังวันที่ 23 กันยายน 2548 ที่ดาวพฤหัสบดี(๕)จรออกจากราศีกันย์ ยกเข้าสู่ราศีตุลย์ย่อมหมายถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ การเงิน ของประเทศนั้นกระเตื้องแต่ในด้านการก่อการร้ายพอเห็นเค้าของการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีของฝ่ายนั้น ว่า ยังมุ่งหมายลอบทำร้ายบุคคลสำคัญชั้นสูง มีหัวหน้ารัฐบาลเป็นต้น ซึ่งทางโหรย่อมมองประเด็นนี้อย่างสนใจยิ่ง แต่จะเห็นว่าทางฝ่ายรัฐบาล ก็สามารถป้องกันแก้ไขได้โดยตลอดมา ด้วยมาตรการ รปภ.ทั้งระบบและหน่วยประจำตัวคนสำคัญนั้น ที่คงเส้นคงวา คือมีระเบียบปฏิบัติที่รัดกุมเสมอไม่หย่อนยานเป็นอันขาด ซึ่งตามวิถีของดาวจร หัวหน้ารัฐบาล อาจเผชิญเหตุการณ์ที่น่าตกใจตื่นเต้นโดยไม่คาดหมายมาก่อนได้ในราวปลายเดือนสิงหาคม 2548 (30 – 31 ส.ค. 2548) และอาจป่วยไข้หรือมีปัญหาสุขภาพ เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ระบบความคิด ประสาท สักหน่อยราวๆต้นเดือน พ.ย.2548 ถึงปลายเดือน ธ.ค.2548 ปัญหาสุขภาพเช่นนี้จักมีขึ้นอีกในช่วงต้นปี พ.ศ.2549 ระหว่างวันที่ 8 – 26 เม.ย. 2549 หลังจากนี้ไปจึงจะเรียบร้อย


 

 

 





4.   การพิจารณาดวงชาตาบุคคล


พยากรณ์ดวงดวงชาตาตัวอย่างเสาร์เล็งลักคณ์ ว่าจะได้แต่งงานดี


ต่อไปนี้เราจักได้นำดวงชาตาบุคคลมาพิจารณาบ้าง เพื่อให้ครบถ้วนกระบวนโหราศาสตร์ทั้งภาคมาโครโหราศาสตร์ และ ไมโครโหราศาสตร์ (ศัพท์นี้เลียนมาจาก ภาษาเศรษฐศาสตร์)


กรณีเสาร์(๗)เล็งลัคนา และกรณีที่หลักการโหรเดิมท่านว่าร้ายนักหนา เข้าลักษณะดวงแตก เมื่อโหรพบ ลักษณะร้ายนี้ก็มักจะพยากรณ์ร้ายไปทันที จึงทำให้ขาดความเป็นธรรมแก่เจ้าชาตา เราจะยกมาบางตัวอย่างของดวงที่มองกันว่าร้าย แต่ที่จริงกลับดี หมายความว่า มีการใช้หลักโหราศาสตร์อย่างลึกซึ้งและรอบคอบรอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมแด่ประชาชน ให้เขาได้รับการทำนายเชิงการปรึกษาปัญหาชีวิตและแนวการชี้นำอย่างแม่นยำ สู่อนาคตของเขา ( ไม่ใช่ไปย้ำปมด้อยของเขาให้ลึกลงไปกว่าเดิมเสียอีกโดยมั่นใจในหลักเดิม )


ดวงชาตาที่นำมาเป็นตัวอย่างต่อไปนี้ ของบางคนเราขอปิดนามไว้ มีบางคนที่เราขอลงนามจริง เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาวิชาโหราศาสตร์

 

 

                        โปรดดูดวงชาตาที่ 1

           
จะเห็นว่า ในเรื่องปัตนิ ที่โหรมักจะไม่สบายใจในการพยากรณ์ ก็คือ การปรากฏของดาวเสาร์ (๗)อยู่ที่ภพปัตนิ เช่นดวงชาตานี้ ซึ่งนอกจากดาวเสาร์แล้ว ยังมีดาวเกต (๙)กุมอยู่อีกดวงหนึ่ง เจ้าชะตาได้มาพบครั้งแรกในเดือน ก.ค.2544 ภายหลังตรวจแล้วได้ออกคำพยากรณ์ว่า เจ้าชะตามีความเหนื่อยหน่ายเกียจคร้านในการใช้ชีวิตคู่ ไม่อยากมีคู่ มีอารมณ์เฉื่อยชาทางเพศ และมีแนวโน้มไปในทางที่จะไม่มีคู่แต่ถึงอย่างไรชะตานี้จะต้องมีการแต่งงาน มีคู่ เพียงแต่จะเนิ่นช้าหน่อยและจะพบปัญหาอกหักผิดหวังหลายครั้ง แต่เหตุมาจากเจ้าชะตาเองที่ระแวงหึงหวงและเก็บตัวเกินไป

 

                       ดวงที่   1 (ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)

ดวงชะตา  สมจริง (นามสมมุติ)  ล3 / 284 ร.1191

ชาย, เกิดวันอาทิตย์, ที่ 17 ก.ค. 2509, เวลา 11.30 น.

 


แต่ถึงอย่างไรก็จะพบคนที่ถูกใจ จะพบคู่เมื่ออายุมากแล้ว เกณฑ์ที่จะพบเนื้อคู่อยู่ระหว่าง ต้นเดือน กรกฎาคม 2545 เนื้อคู่จะเป็นคนอายุมาก (ขณะนั้นเจ้าชาตาอายุ 37 ปีย่าง ) มีฐานะการงานอาชีพมั่นคงดี มีการศึกษาดี แต่อาจจะมีอุปสรรคมากสักหน่อย คงยังไม่ทันได้แต่งงาน (เพราะเห็นในดวงจร ดาว ๗๘ทับดาว๖เดิมอยู่ที่พฤษภ และ ดาว๖จรเป็นกาลกิณี ) เกรงว่าจะไม่ถูกใจว่าถึงอย่างไรก็ยังมีอีกเป็นระยะที่ 2  ซึ่งจะเริ่มก่อสัมพันธ์รักขึ้นมาในปลายเดือนสิงหาคม 2547 เป็นต้นไป เป็นเวลา 1 ปีเต็มๆคือช่วงปี 2547
– 2548 และจะไม่มีอุปสรรค จะได้แต่งงานมีชีวิตครอบครัว และต่อไปจะมีบุตรผู้เชื่อฟังอยู่ในโอวาทพ่อแม่


ปรากฏว่า ในปี 2545 นั้นเจ้าชะตาคบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ได้พบในงานจัดเลี้ยงแห่งหนึ่งได้ทักทายเขาแนะนำผู้หญิงให้รู้จัก แต่ปรากฏว่าราวปลายๆปี เขามาพบอีกครั้งและปรารภเรื่องดวงชะตาของเขาบอกว่าเขาสนใจโหราศาสตร์อยู่แล้วแต่ยังไม่เข้าใจเขาถามว่าตามหลักการโหรดวงของเขาเป็นดวงแตกเพราะเสาร์ (๗)เล็งลัคน์ และทั้งยังมีบาปเคราะห์อีกดวงคือเกต(๙)ร่วมเล็งลัคน์อีกดวงหนึ่งด้วย คงไม่มีหวังว่าจะมีการแต่งงาน และผู้หญิงที่คบกันตามที่เห็นวันนั้นก็หนีไปแล้ว เพราะไม่ถูกนิสัยกันเขามั่นใจว่าดวงของเขาไม่มีเนื้อคู่ หรือเมื่อมีคู่แล้วอาจจะหย่าร้างกันในภายหลัง


ได้ยืนยันว่า ไม่เป็นไรเพียงแต่ต้องช้าหน่อยต้องมีเนื้อคู่อย่างแน่นอน เธอจะต้องมาในช่วงหลังเดือนสิงหาคม 2547 อย่างแน่นอนตามที่ได้พยากรณ์ไว้แล้ว เขาถามเหตุผลทางโหราศาสตร์ ตอบว่าดาวเสาร์(๗)เล็งลัคนาก็จริง แต่ดาวดวงนี้เป็นอุดมเกณฑ์ให้แก่ลัคน์ในราศีกันย์ และมาจากภพที่5 เป็นเจ้าเรือนภพที่5และแม้ดาวพระศุกร์(๖) จะเป็นกาลกิณีตามทักษา แต่เป็นเกษตรและอยู่ภพที่9 มีกระแสร่วมธาตุกับลัคนา อนึ่งปัตนิตนุลัคน์ ก็เป็นดาวดวงเดียวกับปัตนิลัคน์ ฉะนั้นเมื่อดาวปัตนิจรมาทับลักคณาในเดือนสิงหาคม 2547ก็จะได้พบเนื้อคู่คนดังกล่าวอย่างแน่นอน (คืออายุมากสักหน่อย มีความรู้ มีการงานดี เก็บตัว ขี้ขาย ฯลฯ ) ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็ย่อมขัดหลักวิชาโหราศาสตร์


ปรากฏว่า เขาได้มาพบอีกสองครั้งเมื่อต้นปี 2548 ครั้งแรกได้เอาดวงชะตาหญิงคนหนึ่งมาให้ดูพร้อมตั้งคำถามว่าใช่เนื้อคู่หรือไม่

 

 

 

โปรดดูดวงชาตาที่  2

ดวงที่  2 (ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)

ดวงชะตา  สมสมร (นามสมมุติ)  ล.3/284 ร.1191/2

หญิง, เกิดวันจันทร์, ที่ 15 ส.ค. 2509, เวลา 21 – 22 น.

 

 

 


ได้คำนวณและวางระบบดาวลงในดวงชะตาแล้ว พยากรณ์ว่า  นี่เเหละเนื้อคู่ ใช่เลย (โปรดดูดวงที่ 2 จะเห็นลัคนาดวงหญิงอยู่ราศีมีน เป็นปัตนิแก่ชาย และลัคนาชายก็เป็นปัตนิแก่หญิง ปัตนิก็เป็นปัตนิซึ่งกันและกัน และดาวปัตนิชายทับดาวปัตนิหญิง ณ ราศีมิถุน เห็นได้ว่า ได้กับคนที่ถูกใจจริงๆแม้ว่าดาวเสาร์เล็งลัคนาซึ่งโหรทั่วไปมองว่าเป็นดวงแตก เอาดีทางคู่ครองได้ยากก็ตาม) และเมื่อสำรวจดาวจรในดวงชะตาหญิงก็ปรากฏว่าเป็นช่วงที่กำลังพบเนื้อคู่เช่นเดียวกัน การมีจังหวะชีวิตตรงกันเป็นเรื่องสำคัญของความเป็นคู่ครองที่แท้ เพราะอาจร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันได้ (มีทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน มีสุขก็สุขด้วยกัน )


ได้เตือนว่า ทั้งดวงชายและดวงหญิง บอกถึงการมีบุตรยาก ควรตรวจสอบสุขภาพก่อนการแต่งงาน และฝ่ายหญิงจะคลอดยาก จะมีการผ่าตัดเพื่อคลอดบุตร แต่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด


ในเดือนพฤษภาคม 2548 เขาได้พาหญิงสาวผู้หนึ่งมาพบบอกว่าเป็นคนที่ต้องคำพยากรณ์ของพระอาจารย์โหร เป็นเจ้าของดวงชะตาที่ให้พยากรณ์คราวที่แล้ว และขอให้กำหนดฤกษ์ยามวันแต่งงานให้


ได้กำหนดวันให้เป็น วันจันทร์ 19 กันยายน2548 เป็นวันมหาสิทธิโชค และฤกษ์สวมแหวนเป็นเวลา 16.09 น.ได้ภูมิปาโลฤกษ์ ดาวพุธ(๔)กุมดาวศุกร์(๖) คู่ธาตุน้ำ ในนวางค์และตรียางค์ฤกษ์ทั้งคู่มีอายุเท่ากัน คือ 39 ปีเต็ม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

5.   พยากรณ์ดวงดาราภาพยนต์และโทรทัศน์

 

 

 

            โปรดดูดวงชะตาที่ 3 – 4 

 

           
ดวงชะตา 2 ดวงต่อไปนี้ ได้มาจากรายการโทรทัศน์ช่อง 5 เมื่อ17ก.ค.2548 โดยคุณนีโน กับคุณพรหมพร ยูวเวช พิธีกร เจ้าของรายการได้เชิญแขกสำคัญ 2 คนมาร่วมรายการในวันนั้น คนหนึ่งเป็น คุณลักษณ์ เลขะนิเทศ ที่วงการรู้จักดีในสมญาว่า โหรฟันธง อีกคนหนึ่งเป็นสตรีสาววัยงาม ชื่อคุณนุ้ย เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแฟนสาวของดาราดัง ศรราม เทพพิทักษ์ เราเห็นว่า เจ้าชะตายินยอมให้พยากรณ์ต่อสาธารณชนได้ จึงขออนุญาตเอามาเป็นดวงตัวอย่าง โปรดดู ดวงชะตาที่3 และ 4 ต่อไปนี้

 

 

 

 

 

            ดวงที่  3(ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)

ดวงชะตา นีโน  นักจัดรายการโทรทัศน์  ล12/113 ร.3384

            ชาย, เกิดวันอาทิตย์, ที่ 17 ก.ค. 2509 ว่า ๒ เล็งลัคนา

 

 

           
ดวงชาตานี้ คุณลักษณ์  เลขะนิเทศ  ได้ให้ข้อมูลและเป็นผู้คำนวณวางลัคนาลงไว้ ผ่านรายการโทรทัศน์โดยเปิดเผย จึงถือว่าเจ้าชาตา อนุญาตแล้ว จะขอนำมาพิจารณาเฉพาะประเด็นที่มีปัญหา ในกรณีนี้คือ ปัญหา ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันดร์  เราเห็นว่า คุณลักษณ์พยากรณ์ค่อนข้างแรงไปหน่อย คือโผงออกไปว่า นีโนจะไม่มีคู่ จะไม่มีการแต่งงานอย่างแน่นอน อันเป็นลักษณะตัดเยื่อใยเกินไป  แต่เราเห็นว่าแม้จะอายุย่างเข้า 49 ปีแล้ว แต่ยังมีโอกาสแต่งงาน เริ่มจากวันที่ 16 ก.ค.2548 นี้เขาก็จะได้พบหญิงที่ถูกใจ มีความสุข การคบหาจะเป็นสิ่งที่พอใจหวานลึกซึ้งไปตั้งแต่นี้ เมื่อถึง 9 กันยายน 2548ก็จะทวีแนบแน่นหวานลึกลงไปอีก และมีเกณฑ์การแต่งงานกันอย่างเงียบๆ ในเดือนพฤศจิกายน 2549 ชาตานี้ไม่คิดอ่านที่จะมีครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใช้ชีวิตให้สูญเปล่าไปกับเพื่อนฝูง เที่ยวเตร่ และหาความสุข ผู้หญิงที่เป็นเนื้อคู่จะมีฐานะดีและมีความสวยงาม เจ้าเสน่ห์ทีเดียว  แต่จะต้องเป็นคนที่ยอมรับให้เขาเป็นใหญ่ เขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่คิดจะเป็นใหญ่กว่าเขา เขาชอบผู้หญิงที่อยู่ในโอวาทสถานเดียว และเขาจะได้คนเช่นนั้น ตามเวลาดังกล่าว มีข้อสังเกตว่าการแต่งงานอาจจะมีบุตรยาก เจ้าชาตานี้อาจจะเป็นหมันก็ได้ ควรไปตรวจสุขภาพไว้สักหน่อย เมื่อพ้นเกณฑ์คือเลยปี พ.ศ.2550 ไปแล้วอาจจะต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต

 

            โปรดดูดวงชะตาดวงที่  4

 

           
ดวงชาตานี้ พิธีกรได้ท้าวความมาว่าในปี พ.ศ.2545 อ.ลักษณ์  เลขะนิเทศ ได้พยากรณ์ว่า คุณนุ้ย ดวงแตก จะมีการแตกร้าวกับแฟนหนุ่มถึงต้องเลิกกัน และแล้วปรากฏว่าตลอดทั้งปี 2545 ไม่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นต่อเจ้าชาตา ไม่มีการแตกร้าวกับแฟนหนุ่มแต่อย่างใดเลย เป็นเหตุให้นุ้ยไม่พอใจมากได้ตอบโต้ผ่านสื่อมวลชนไปว่าไม่มีความน่าเชื่อถือในคำพยากรณ์ของ อ.ลักษณ์  เลขะนิเทศ  ทางรายการมีความประสงค์จักให้ทั้ง 2 ฝ่ายนี้มาพบกันต่อหน้าสาธารณชนผ่านรายการโทรทัศน์ และอยากให้ทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจกันและกันใหม่ โดยทาง อ.ลักษณ์ได้ออกตัวว่าการพยากรณ์เป็นไปตามหลักการโหราศาสตร์ มิได้มีอคติเลยแม้แต่น้อย อ.ลักษณ์ให้ข้อมูลไว้ว่า เจ้าชาตาเกิดวันที่ 8 เมษายน 2525 ว่าลัคนาอยู่ราศีมีน มีดาวถึง 3ดวงเล็งลักคณ์ ดาวจันทร์(๒) อยู่ปัตนิ ไม่บอกเวลาเกิด และไม่บอกว่าเกิดวันอะไร แต่เจ้าชาตาบอกว่าตนเองเกิดวันพฤหัสบดี

 

 

 

 

 

                      

            ดวงที่  4(ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)
            ดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นตนุเศษ

 

ดวงชะตา นุ้ย  แฟนศรราม ล. 12 / 114 ร.3385

หญิง, เกิดวันพฤหัสบดี, ที่ 8 เมษายน 2525

ว่า ลัคนา อยู่ราศีมีน มี ๒ เล็ง ดาว 3 ดวงอยู่ปัตนิ

ข้อมูลจากคุณลักษณ์  เลขะนิเทศ  เช่นเดียวกัน

 


ซึ่งการมาอนุญาตให้โหรพยากรณ์ผ่านรายการโทรทัศน์เช่นนี้ เราเห็นว่าเจ้าชาตามีความเต็มใจอนุญาตให้สังคมโดยเฉพาะวงการโหราศาสตร์วิพากษ์วิจารณ์โดยหลักวิชาฝ่ายโหรได้โดยเปิดเผย


จากการพิจารณาดวงชะตาซึ่ง อ.ลักษณ์  เลขะนิเทศ บอกไว้ว่า ลัคนาเจ้าชาตาอยู่ที่ราศีมีน และยืนยันราศีมีน ( แต่ไม่ยอมบอกเวลาเกิดของเจ้าชาตาออกมา ) โดยย้ำว่า มีดาวจันทร์(๒) เล็งลักคณาพร้อมให้การพยากรณ์ว่าชายจะประสบความสำเร็จ ในการแต่งงานกับเจ้าชาตานี้ต้องสื่อผ่านคุณแม่ของเจ้าชาตาจึงเอื้อให้ได้รับความสำเร็จดี ( ซึ่งเป็นการทำนายที่มีเหตุผลเมื่อลัคนาอยู่ราศีมีน )


ฉะนั้น เมื่อลัคนาอยู่ราศีมีน ดวงชาตานี้มีจุดที่น่าสนใจยิ่งที่ภพปัตนิ ราศีกันย์ที่มีดาวจันทร์(๒) ดาวอังคาร(๓)และดาวเสาร์(๗)กุมกันอยู่ ที่ล้วนแต่บ่งไปถึงชีวิตการแต่งงานที่เลวร้ายทั้งสิ้นเพราะโหรทั่วไปมักจะยึดทฤษฎีดาวคู่ที่เป็นทฤษฎีแห่งความเลวร้าย นั่นคือ ดาวจันทร์(๒)กุมดาวเสาร์(๗) บ่งถึงความพลัดพรากจากกัน ไปอย่างขมขื่นของคู่สามีภรรยา ดาวอังคาร(๓)กุมดาวเสาร์(๗)บ่งถึงการปะทะขัดแย้งกันอย่างรุนแรงของคู่สามีภรรยาจนอาจจะจบลงด้วยเหตุร้ายแรงบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้    และเมื่อสำรวจดวงดาวในชาตาต่อไปอีก ก็พบดาวอาทิตย์(๑)อริ กุมลัคนาที่ราศีมีน ส่วนตนุลัคณ์คือดาวพฤหัสบดี(๕)ไปสถิตในภพที่8 ซึ่งเป็นภพที่ท่านตั้งชื่อให้ว่าภพมรณะ(เหมือนดวงที่ 5 โปรดดูดวงที่ 5 ตนุลักคณ์ตกภพมรณะเช่นเดียวกัน ) แล้วพฤหัสบดี(๕)ตนุลักคณ์นี้ยังถูกกุมด้วยดาวเกต (๙)นั่งเรือนมรณะ และร่วมธาตุจากดาวมรณะเองคือดาวศุกร์(๖)ที่ราศีกุมภ์ และอีกมุมหนึ่งจากดาวราหู(๘)ที่ราศีมิถุน แล้วยังถูกขนาบหน้าด้วยดาวมฤตยู(๐)ถูกขนาบหลังด้วยดาวอังคาร(๓)และดาวเสาร์(๗) ซึ่งเมื่อมองจากหลักเดิมแล้ว ก็จะไปเพิ่มเหตุผลแห่งความร้ายของเจ้าชาตานี้ไปอีก


ฉะนั้นดูเหมือนว่าเป็นดวงชะตาที่สร้างความประหวั่นใจให้แก่บรรดาโหราจารย์ทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งโดยถือว่าเป็นดวงชาตาที่อ่านยากมากๆ และทั้งยากแก่การพยากรณ์ออกมาตรงตามเหตุผลแห่งดาวร้ายในดวงชาตา กระนั้นก็มีโหรกล้าออกมาฟันธงลงไป เมื่อให้การพยากรณ์ไปว่า เหตุร้ายจะเกิดแก่เจ้าชาตาในปี 2545 โดยชีวิตรักจะหักสะบั้นลงอย่างสิ้นเชิง และปรากฏว่าไม่เป็นความจริง โหรพลาดไปทั้งหมด


เราเห็นว่าดวงชาตานี้ มีความน่าสนใจเชิงการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ ในระดับที่สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่ยากแก่การอ่านอย่างยิ่ง และเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีหลายสำนักโหราศาสตร์ให้การพยากรณ์ออกมาแตกต่างกัน ถึงขนาดตรงข้ามกันไปเลยก็ได้ จึงควรเปิดโอกาสให้นักโหราศาสตร์ได้แสดงทัศนะ เพื่อเห็นทัศนะและหลักวิชาที่แตกต่างออกไป เป็นการเพิ่มพูนภูมิความรู้วิชาการทางโหราศาสตร์ให้ก้าวไปอีกการหยิบยกขึ้นมาของเราก็โดยหวังว่าจักเอื้อประโยชน์แก่เจ้าชาตา ให้ความเป็นธรรมในการพยากรณ์โดยทัศนะการมองที่แตกต่างไปจากหลักเดิมๆที่มีอยู่


และต่อไปนี้ จะเป็นทัศนะของเรา

 

 

            โปรดดูดวงชาตาที่  4


ประการแรก เรามั่นใจว่า ดาวพุธ(๔)ควรจะอยู่ที่ราศีมีน กุมลักคณ์ เพราะโดยข้อเท็จจริง ดาวพุธ(๔)จะยกจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ เมื่อเวลา 06.36 น.ของวันเกิดนั้น เมื่อยืนยันว่าลักคณาอยู่ราศีมีนดาวพุธ(๔) ก็จะอยู่ในราศีมีนด้วย

           
ประการที่ 2 วันเกิดของเจ้าชาตาควรจะได้รับการทดสอบ เรามีเหตุผลว่า ควรเป็นวันพฤหัสบดีมากกว่าจะเป็นวันราหูหรือวันพุธกลางคืน


กระนั้นก็ควรทดสอบต่อไปอีกว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ในวัยทารกแรกเกิดจะเลี้ยงยากสักหน่อย จะป่วยออดแอด แม่จะคอยประคบประหงมมาเป็นอย่างดี กระนั้นเมื่อโตขึ้นมาก็ยังคงมีปัญหาสุขภาพ จะมีโรคประจำตัวบ่อยๆ คือ ทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร ริดสีดวง และโรคไต มีเรื่องจิตประสาทอยู่บ้าง แต่โรคเหล่านี้ก็ไม่กำเริบถึงระดับอันตรายอย่างไร เป็นเพื่อนอยู่ด้วยกันไปเท่านั้น


เจ้าชาตาควรจะมีรูปร่างสวยงาม เมื่อเติบโตขึ้นมา ถึงระดับที่เป็นดาราภาพยนตร์ได้ทีเดียวนอกจากความสวยงามแล้วยังต้องฉลาด มีวาจาครบทั้งความสุภาพ ความนุ่มนวล และความคม การศึกษาจะต้องสูง และน่าจะไปได้เกินระดับปริญญาโท

           
และเมื่อเห็นเจ้าชาตานี้จากจอโทรทัศน์ก็ปรากฏว่าตรงหลักที่พยากรณ์ ในเรื่องรูปร่างของเจ้าชาตาและมีจุดสังเกตว่า เจ้าชาตาจะต้องมีดวงตาและประกายตา ที่บ่งบอกอารมณ์ได้ครบทุกอย่างนั่นคือสายตาคมเฉียบ(เมื่อโกรธ) สายตาหวานซึ้งจัด(เมื่อรัก)และสายตาสุดเศร้า(เมื่อผิดหวัง)จะปรากฏจากบุคลิกภาพของเจ้าชาตา ตามที่ดวงดาวกำหนด


วิถีทางชีวิตอนาคต จะเป็นผู้ที่ฝักใฝ่ในการทำบุญทำกุศลเป็นอันมาก จะเอาใจใส่เด็กกำพร้า ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยทั่วไป พาเพื่อนฝูงมิตรสนิทไปร่วมสร้างสรรค์งานการกุศลนี้มากมายไปตลอดชีวิต มีจิตเมตตามาก มีความเห็นอกเห็นใจคิดช่วยเหลือโดยไม่เห็นแก่ความยากลำบากของตนเอง ดวงดาวชี้บอกถึงจินตนาการที่บรรเจิดจ้า น่าจะได้ผลสำเร็จเป็นอย่างมากจากงานด้านการประพันธ์ เรื่องราวลึกลับ ซับซ้อน ฆาตกรซ่อนเงื่อน นักสืบ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับการศาสนา พิธีกรรมของลัทธิต่างๆ


วิถีทางความรัก มีความสุขสมหวัง เพราะเหตุ 2 ประการ   1.ตนเองมีความสวยงาม ฉลาด จิตใจดี เข้าใจคนอื่น และมั่นคงในอารมณ์รัก   2. ผู้ชายที่เป็นเนื้อคู่เป็นคนดี มีเกียรติ มีหลักฐาน คือสินทรัพย์ที่มั่นคง ทั่งอารมณ์รักมั่นคง ชีวิตมีความดีมั่นคงปลอดภัย โยคเกณฑ์ร้ายๆ จากหลักการเดิม ถูกลบล้างจากวงจรมหาเกษตรของดาว 4 ดวงในชะตาคือ พุธ(๔) พฤหัสบดี(๕) ศุกร์(๖) และราหู(๘)ไปส่วนหนึ่ง ชีวิตภายหลังการแต่งงานจะห่างเหินกันไกลกันบ่อยๆ จนเป็นเรื่องธรรมดาเพราะเหตุผลทางการงานอาชีพ และสังคมมีสิ่งที่ต้องระวังก็คือ เพื่อนๆและวงสังคมอย่างหนึ่ง กับชาวต่างประเทศหรือการเดินทางไปต่างประเทศการคบกับคนแปลกหน้า คนต่างถิ่นไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดของชีวิตคู่เสมอ มีบางช่วงเวลาอาจขัดใจกันจนเป็นเหตุให้ความรักเสื่อมถอยลงไปที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตนเองโดยปกติก็ชอบคบหาสมาคม ชอบมีเพื่อนมากๆ ไม่จำกัดอาชีพหรือผิวพรรณ เชื้อชาติ เพราะงานเกี่ยวกับสังคมที่ไม่เคยขาดนั่นเอง แต่กระนั้นเมื่อมีบุตรแล้ว บุตรก็จะกลายเป็นโซ่ทองที่เหนียวแน่นของพ่อแม่ทีเดียว ดูจากดาวจันทร์(๒) และดาวพุธ(๔)


ระยะ 23 ส.ค.2547 เป็นต้นมา บ่งถึงความสุข + ความรัก ที่มีความเข้าอกเข้าใจกันดี ที่เป็นความรักแท้ทั้งสองฝ่าย เป็นการพบเนื้อคู่ที่แท้จริง เป็นระยะที่น่าทำสัญญาใจกันหรือมีการหมั้นไว้แล้วเป็นเกณฑ์ที่อาจจัดพิธีวิวาห์ได้ด้วย แต่ดูจะยังไม่พร้อมนัก เมื่อเลยเดือนกันยายน 2548 ไปก็ยังจะไม่มีโอกาสดีอีก จะต้องรอไปอีกประมาณ 1 ปีเต็มๆ จนถึงเดือนตุลาคม 2549 เป็นต้นไป ปีนั้นอายุย่าง 25 ปีก็เป็นระยะที่พร้อมสมบูรณ์สำหรับชีวิตครองเรือน ของเจ้าชาตานี้


การวิเคราะห์ในรายละเอียด พอจะยืนยันได้ว่า ในปีนั้นการแต่งงานจะเป็นไปอย่างมีเกียรติยศสูงส่ง โด่งดัง ผาดโผน และระยะที่พร้อมที่สุดจะเป็นเดือนตุลาคม
– พฤศจิกายน 2549 นั่นเอง   ระวังว่าหากเลยช่วงนี้ไปแล้วอาจจะเป็นต้นปี 2550 ยังมีโอกาสอยู่ แต่เมื่อเลยปี2550ไปแล้วจะต้องรอนานถึงปี พ.ศ. 2557 ขณะอายุย่าง 33ปี (ซึ่งตามดวงชาตานี้ ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้)

 

 

 

 

 

 

6.    พยากรณ์ดวงชาตานักปราชญ์ว่าถึงฆาต จะสิ้นชีวิต

 

 

โปรดดูดวงชะตาดวงที่ 5
            (ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)

 

*ดาวตนุลักคณ์สถิตภพมรณะ

ดวงที่  5

ดวงชะตา ชื่อผดุงพงษ์  ทำนุคุรุการ  ล. 6/141  ร.2141

ชาย, เกิดวันพุธ, ที่ 4 สิงหาคม 2486  เวลา 18.30 น.

ลัคนา อยู่ราศีธนู  นวางค์ 7/๖   ตรียางค์ 3/๑

20 วาษาฒ  มหัทธโน   มนุษย์

 

 

 

เมื่อมาพบโหราจารย์ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2546 พยากรณ์ให้ว่า เป็นคนมีสติปัญญา เฉลียวฉลาด มีความคิดสติปัญญาสูงส่ง ประกอบการงานเด่นดังมีชื่อเสียง ชอบศึกษาวิชาเร้นลับ มีความฝักใฝ่สนใจในลัทธิพิธีกรรมเร้นลึกแปลกๆในศาสนา มีความรู้เชี่ยวชาญในกิจการงานเฉพาะอย่างอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการทำพิธีกรรมต่างๆทางไสยศาสตร์ เป็นนักพูด นักแสดงธรรม นักโฆษณา และมีอาชีพในการสอน มีความเชี่ยวชาญงาน ปฏิบัติงานโดดเด่นมีชื่อเสียงเลื่องลือมาก

           
ปรากฏว่าถูกต้อง เขายอมรับว่าถูกทั้งหมด อาชีพเป็นครู แต่สร้างผลงานมีชื่อเสียงในด้านการอบรมธรรมะ จัดการอบรมธรรมะแด่นักเรียนในกรุงเทพฯ แล้วกลายเป็นนักอบรม เป็นวิทยากร ทำหน้าที่อบรมนักเรียนเอง มีชื่อเสียง แล้วทำการอบรมประชาชน จัดการปฏิบัติธรรมที่กรุงเทพและต่างจังหวัดจนเป็นที่ยอมรับของวงการศึกษา ต่อมาสนใจในการปฏิบัติธรรม เที่ยวไปศึกษาจากสำนักต่างๆและเที่ยวไปสนทนากับพระอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ ได้ข่าวมีพระอาจารย์ชื่อดังอยู่ที่ไหนต้องไปสัมผัสให้ได้ สัมผัสมาหมด และเล่าเรื่องพระผู้ใหญ่ๆกระทำผิด พระธรรมวินัยให้ฟัง ว่าทุกวันนี้ควรปฏิบัติการศาสนาเสียทีในตอนหลังสุดได้มีโอกาสใกล้ชิดพระราชสำนักและได้รับสกุลพระราชทาน ว่า ทำนุคุรุการ หมายถึงทำนุบำรุงอุปถัมภ์กิจการของครูอาจารย์


ภายหลังสนทนาธรรมะเสวนาการทางศาสนาไป 2
– 3 วันแล้ว เขาได้มอบบัตรที่เขียนข้อความไว้ว่า “ สำหรับผู้มีบารมีสูง คิดว่าคงได้พบอีก ” ต่อมาเขามาพบอีก คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องโหราศาสตร์ ถามว่าการพยากรณ์โดยโหราศาสตร์ว่ามีความแม่นยำเพียงใด ขอให้พยากรณ์ว่าต่อไปข้างหน้าเขาจะเป็นอย่างไร


ตอบว่า อาทิตย์หน้า ( ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2546 ) จะป่วยไข้ แต่เป็นการป่วยไข้เล็กน้อย รุมอยู่นานไม่หาย บอกว่าชาตาชอบการเสี่ยงภัยอันตราย ชอบศึกษาวิชาลึกลับ แม้วิชาโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ก็ชอบ ชีวิตที่ผ่านมาต้องฝ่าฟันดิ้นรนลำบากอย่างหนัก มีอันตรายและการเสี่ยงอยู่ตลอดเวลาแต่เจ้าชาตามีความมุ่งมั่นในการสร้างฐานะให้ก้าวหน้ารุ่งเรือง มีกำลังใจสูง ไม่ยอมแพ้ต่อศัตรูหมู่อมิตรที่อยู่รอบตัว เขาถามว่าเพราะเหตุใดจึงจะป่วย บอกเขาว่าเพราะดาวเสาร์(๗)ยกเข้าสู่ภพที่7 ราศีมิถุน ในวันที่ 23 พ.ศ.2546 ขณะนั้นพฤหัสบดี(๕)จรอยู่ในภพมรณะเป็นมหาอุจ เขาจะป่วยเรื่องมันสมองพิการสักหน่อย เขาเป็นโรคทำนองนี้มานานแล้ว และจะหนักขึ้นไปอีก


เขากลับมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ 14 มิถุนายน 2546 บอกว่าป่วยจริงๆขณะนั้นป่วยอยู่และไอบ่อยๆเขาบอกว่าทฤษฎีโหราศาสตร์น่าเชื่อถือกว่าพวกทรงเจ้า เขาเล่าเรื่องการทรงเจ้าให้ฟัง ว่าทรงเจ้าพยากรณ์ถูกๆผิดๆมีแต่หลอกลวงประชาชน เพื่อหาลาภและไม่มีหลักเกณฑ์อะไร เขาได้ศึกษาพวกทรงเจ้ามานานจนสรุปได้ว่าเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี เขาว่าอยากศึกษาโหราศาสตร์ให้มีความชำนาญจะทำได้อย่างไร บอกว่าอายากแล้วคงศึกษาไม่ได้หรอกเพราะโหราศาสตร์เป็นวิชาที่ยากมากๆไม่ใช่วิชาง่ายๆเลย เขาถามว่าโหราศาสตร์สามารถพยากรณ์ชาตาข้างหน้าได้ไกลขนาดไหน  ตอบว่าไกลจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต กล่าวคือ สามารถพยากรณ์วิถีชีวิตได้ทั้งชีวิต เขาให้พยากรณ์ว่า ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรในอีก 2
– 3 ปีข้างหน้า


ตอบว่า มีเหตุร้ายแรงคอยอยู่ในเดือนมิถุนายน 2546


เขาถามว่าร้ายแรงขนาดไหน ตอบว่า หากถือว่าเป็นนักปราชญ์กันแล้วก็จะบอกตรงๆว่าร้ายแรงมากอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้


เขาถามว่า เหตุร้ายจะเกิดขึ้นวันใด ตอบว่า วันที่ 27 มิถุนายน 2546 ประมาณนั้นๆ


เขาให้อธิบายให้ฟังในเชิงโหราศาสตร์

อธิบายว่าในพื้นชาตาของเขา ลัคนาถูกตรึงไว้ด้วยดาวร้าย 2 ดวงในมุมร่วมธาตุไฟ คือดาวจันทร์(๒)มรณะ ตรึงที่ราศีสิงห์  ดาวอังคาร(๓)เป็นวินาสน์และกาลกิณี ตรึงที่ราศีเมษ มีกำลังแรงจัดเพราะเป็นเกษตรร้ายยิ่งนัก ลัคนาอยู่ที่ราศีธนู ร่วมธาตุไฟในขณะเดียวกัน ดาวพฤหัสบดี(๕)ตนุลักคณ์ ไปตกภพมรณะเป็นมหาอุจ มีดาวอาทิตย์(๑) และราหู(๘)กุมอยู่ในภพมรณะนั้น ดาวศุกร์(๖)อริ กุมดาวพุธ(๔)บริวาร อยู่ภพที่ 10 ดาวเสาร์(๗)ซึ่งเป็นดาวอายุตามทักษาตกภพอริมีดาวมฤตยู(๐)กุมอยู่ ลักษณะตำแหน่งดาวบ่งถึงการเสียชีวิตจะเกิดจากเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างแน่นอน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เหตุที่รอดมาได้จนถึงอายุย่าง 60 ปีแล้วบัดนี้เพราะดาวอายุ(๗)เป็นมหาจักร ดาวศุกร์(๖)มีดาวพุธ(๔)มหาอุจซึ่งเป็นดาวบริสุทธิ์ดวงเดียวในชาตา เป็นคู่ธาตุกุมอยู่ในภพที่ 10และดาวพฤหัสบดี(๕)เป็นมหาอุจมีกำลังดีแรงจัดมีสติปัญญาจัดแล้วยังมีคู่มิตรอาทิตย์(๑)มหาจักรกุมอยู่ช่วยป้องกันภัยน้อยใหญ่ให้ และเมื่อมาถึงบัดนี้ เหตุร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 มิ.ย. 2546 ดังกล่าวก็เป็น เพราะดาวอังคาร(๓)จรกุมมฤตยู(๐)จรโยคหน้าลัคนาที่ราศีกุมภ์ถึงดาวอีกกลุ่มหนึ่งในภพปัตนิที่เล็งลักคณ์ คือเสาร์(๗)จร อาทิตย์(๑)เป็นกาลกิณีจร อังคาร(๓)จร และพุธ(๔)จรในขณะที่พฤหัสบดี(๕)จรเข้าภพมรณะทับพฤหัสบดีเดิมที่ราศีกรกฎ และจันทร์(๒)ดาวมรณะจร ที่แรงกล้าเพราะเป็นตำแหน่งมหาอุจ ของจันทร์มรณะ ทับดาวเสาร์(๗)อายุเดิม และมฤตยู(๐) การจรในดวงดาวในระบบจักรราศีเช่นนี้ บ่งอย่างชัดเจนถึงอันตรายที่รอดยาก

           
นอกจากนี้ เจ้าชาตายังมีเคราะห์กรรมซ้อนเข้ามาอีก เพราะถึงแม้จะรอดไปได้จากเหตุการณ์วันนี้ก็ยังมีเหตุร้ายแรงรอคอยอยู่อีกด้านหนึ่ง ที่ร้ายพอๆกัน ในเดือนสิงหาคม 2546 จึงนับว่าเจ้าชาตาอยู่ในช่วงตอนร้ายของชีวิตจริงๆ


เขารู้สึกเห็นคล้อยตามคำพยากรณ์ (เขาฟังเหตุผลในการพยากรณ์แล้วเชื่อ ) เขาเองเป็นผู้ชำนาญการทำพิธีกรรมต่างๆ ทางพราหมณ์และไสยศาสตร์ทุกชนิด บอกว่าจะทำพิธีกรรมแก้ดวง แต่เขาไม่ชำนาญ การทำดวงฤกษ์ ให้ช่วยหาวันดีให้ ว่าอยากจะมาทำพิธีที่สำนักอาจารย์นี่แหละ ได้กำหนดดวงฤกษ์พิธีกรรมให้เป็นวันที่ 22 มิถุนายน 2546 เวลา 09.19 น. ลัคนาฤกษ์สถิตราศีมิถุน  นวางค์๕  ตรียางค์๖  เทวีฤกษ์ เขารับเอากำหนดฤกษ์ยามไป บอกว่าจะเดินทางไปกรุงเทพก่อนในเร็วๆวันสองวันนี้ จึงจะมาเยี่ยมปรึกษาอีกครั้ง แล้วจากนั้นไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย

           

จนกระทั่งถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2546 มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าอาจารย์ผดุงพงษ์เสียชีวิตแล้วที่กรุงเทพฯ โดนไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ถูกครอกตายพร้อมกัน 3 ศพ อ.ผดุงพงษ์ตายเปลือย ไม่สวมเสื้อผ้าเข้าใจว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นขณะทำพิธีกรรมจนไฟไหม้ครอกเสียชีวิต


ซึ่งก็เป็นเหตุร้ายที่เกิดขึ้นต้องตามคำพยากรณ์ทุกประการ เพียงแต่คลาดเวลาไปประมาณ 1 เดือนเศษๆโดยเหตุเกิดก่อนเวลาที่คำนวณไว้ กระนั้นก็อยู่ระหว่างช่วงเวลาร้ายของชาตาอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

 


7.    พยากรณ์ว่าจะมีขบวนขันหมากมาหมั้นในวันที่ 15 มิ.ย.2548

 

 

 

 

โปรดดูดวงชะตาที่  6(ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)

ดวงที่  6                                   

สมบูรณ์ (นามสมมุติ)  ล. 11/20  ร. 3121

เกิด  15 ก.ย. 2519  วัน อังคาร ไม่ทราบเวลาเกิด

อ่านจากระบบดาวล้วนๆ

 

 

           
ถามถึงเรื่องการงานและความรักก่อนเหตุการณ์ที่พยากรณ์ได้ไว้จะเกิดขึ้นประมาณ 1 เดือนเศษๆ พยากรณ์ไว้ มีคนรักอยู่แต่ไม่พร้อมจะแต่งงานกัน จะได้เพียงคำมั่นสัญญา หรือมีการมั่นกันไว้ก่อน จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านเจ้าชาตา ในวันที่ 15 มิถุนายน 2548 จะมีการชุมนุมที่บ้าน น่าจะเป็นการสู่ขอของฝ่ายเจ้าบ่าว ฝ่ายญาติเจ้าบ่าวจะเดินทางไปที่บ้านเพื่อดูตัวหรือเจรจาสู่ขอเจ้าสาว ต่อมาเจ้าชาตามาบอกว่าเกิดเหตุการณ์เช่นที่พยากรณ์ไว้ทุกประการและตรงเวลาคือในวันที่ 15 มิ.ย. 48 เผง
โปรดดูดวงระบบดาว วันที่ 15 มิ.ย. 2548 ข้างล่าง

 

 

ดวงระบบดาววันที่ 15 มิ.ย.2548  (ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)

 

 

 

 

 

 

 

 

 


8.    พยากรณ์นักการเมืองท้องถิ่นว่าจะได้รับเลือกตั้งมีชัยเหนือคู่แข่ง

 

 

 

               โปรดดูดวงชะตาที่  7 

              ดวงที่  7(ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)
               ดวงชะตา  ผู้สมัคร  นายก อบต.   ล7/111  ร. 2258
               ชาย, เกิดวันจันทร์ ที่ 25 พฤษภาคม 2513, เวลา 16.00 น.

               ลัคนา สถิตรศีตุล  นวางค์๕  ตรียางค์๖  ฤกษ์15 สวาติ, เทวีฤกษ์

 

 

 


ดวงชะตานี้ เข้ากฎ ดวงแตก เพราะ เสาร์(๗)เล็งลักคณ์ ตามหลักเดิม เป็นผู้คุ้นเคยและเลื่อมใสเพราะได้พยากรณ์ให้ตั้งแต่เริ่มมีความรัก จนถึงมีชีวิตคู่ไปตามคำพยากรณ์หลายปีแล้ว


เมื่อปลายปี 2547 มาปรึกษาว่าดวงพอจะประสบความสำเร็จในการเมืองท้องถิ่นหรือไม่บอกว่าจะลงสมัครเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) บอกว่าจะครบวาระและมีการเลือกตั้งใหม่ในต้นปี 2548 ภายหลังตรวจดวงแล้วบอกว่ามีทางได้รับความนิยมสูงอยู่ และดวงชะตาในระยะต้นปีใหม่ก็กำลังดี ครั้นถึงปีใหม่ 2548 มาปรึกษาว่าจะเอาจริงจะชนะหรือไม่ ยังไม่ทราบว่าวันเลือกตั้งเป็นวันที่เท่าไรราวๆกลางปี 2548 พยากรณ์ให้ว่าในดวงบอกถึงภาระงานใหญ่ใน 2
– 3 ปีข้างหน้า และถ้ามีการเลือกตั้งหลัง ก.ย. 2548 ค่อนข้างจะบอกได้อย่างมั่นใจว่าจะชนะ ถ้าก่อน ก.ย.จะยากหน่อย ขอให้ได้วันเลือกตั้งมาก่อนจะคำนวณและสอนทานให้อย่างละเอียด


ต่อมาเขามาบอกว่า วันเลือกตั้งเป็นวันที่ 31 ก.ค. 2548 ในวันนั้นเห็นดาวอาทิตย์(๑)ศรีจรกุมเสาร์(๗)กาลกิณีจร อยู่ในภพที่ 10 ราศีกรกฎ อาทิตย์(๑)เป็นมหาจักร เสาร์(๗)เป็นประแต่มีมหามิตรคือราหู(๘)เสริมกำลังให้จากราศีมีนทำให้เสาร์(๗)เข้มแข็งขึ้น แปลว่าการแข่งขันสูสีมาก แสดงถึงคู่แข่งเปิดตัวสู้อย่างแรง(เพราะศรีและกาลกิณีอยู่ราศีเดียวกัน) แต่เนื่องจากชะตาเดิมบ่งถึงมหาชนนิยมเพราะจันทร์(๒)ถึงพุธ(๔), อังคาร(๓)กุมศุกร์(๖), พฤหัสบดี(๕)กุมลักคณ์ และเสาร์(๗)เดิมเล็งลักคณ์เป็นนิจแต่เป็นศรีเดิมและเป็นอุดมเกณฑ์ให้แก่ลักคณ์ที่ราศีตุล หมายถึงลำบากยากเข็ญขนาดหนักก่อนจึงจะสำเร็จพยากรณ์ว่าต้องใช้ความพยายามมาก ต้องไม่ล้า ปลายทางจะต้องแรง เขาตัดสินใจสมัครเลือกตั้ง ในตำแหน่งนายก อบต.


ต่อมาได้มาปรึกษาในเชิงโหราศาสตร์อีกหลายครั้ง เป็นระยะๆ เพื่อยืนยันว่าจะชนะ ท้ายที่สุดต้นเดือนกรกฎาคม 2548ได้ตรวจทานดวงชะตาให้อย่างละเอียด พยากรณ์ว่า คะแนนดีมาแต่ต้นอยู่ในระดับผู้นำ (เพราะเห็นดาวอาทิตย์ศรีจรยกออกจากภพมรณะเข้าสู่ตำแหน่งราชาโชคที่ราศีมิถุน)และดาวศุกร์(๖)กุมดาวพุธ(๔)ในเรือนธาตุ ที่ภพกัมมะ + ฯลฯ) ครั้นถึง 29 มิ.ย. 2548 คะแนนคู่แข่งจะมาแรงมากและแรงอีกไปจนถึงวันเลือกตั้ง (เสาร์(๗)ประกาลกิณีจร ได้รับแรงเสริมจากราหู (๘) อย่างแรง) ทายว่าจะถูกดึงคะแนนไปส่วนหนึ่ง ต่อเมื่อถึงวนที่ 16 ก.ค. 2548จะมีคะแนนเพิ่มจากเพื่อนสนิทที่รักใคร่ช่วยเหลือกันอย่างเหนียวแน่น (ดาวอังคาร(๓)จรเข้าเมษเล็งลักคณ์) วันที่ 20 ก.ค.2548เริ่มฉายแววความสำเร็จมีความมั่นใจว่าจะชนะ และจะชนะ (ดาวศุกร์(๖)จรเข้าภพที่ 11เป็นอุดมเกณฑ์ให้แก่ลักคณ์) พอถึงวันที่ 27 ก.ค.2548คะแนนท่วมโถมเข้ามาอีก แต่แล้ววันที่ 29 ก.ค. 2548 จะมีการพลิกโฉมหน้าของผู้สนันสนุน (จันทร์ (๒)จรออกจากราศีเมษมหาจักรเข้าสู่พฤษภมหาอุจ ภพมรณะแก่ลักคณ์ และอยู่ในพฤษภจนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งถ้าดูเพียงนี้จะเห็นว่าไม่เป็นผลดีต่อเจ้าชะตาเลยเพราะจะหมายถึงการทรยศหักหลังเกิดขึ้น) แต่ก็ได้เตือนว่า 2 วันก่อนการเลือกตั้งคือคืนวันที่ 29 ก.ค. 2548เป็นต้นไป จะมีการพลิกโฉมหน้าของผู้สนับสนุนหรือหัวคะแนนไปเข้ากลับฝ่ายตรงข้าม แต่โดยรูปดาวเห็นว่าเป็นเพียงการเสแสร้ง คงหลอกกินเงินฝ่ายตรงข้าม แต่จริงใจเลือกเราอยู่ (ฝ่ายคู่แข่งมี สส.เขตสนับสนุนอย่างแรง )


ถามว่าจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ คำตอบคือชนะ ลองทบทวนระบบดาวก็จะพบว่า เดิมคะแนนก็ดีมาตลอดอยู่แล้ว ภายหลังวันที่ 29 มิ.ย.2548 มีคู่แข่งมาแรงเขาประกาศสู้โดยเปิดเผย แต่เราเรียกคะแนนคืนภายหลัง และนับแต่วันที่ 20 ก.ค.2548จะมีสถานการณ์ชี้บอกอย่างชัดเจนว่าจะชนะความหวังบรรลุดั่งใจ แต่จะมีเหตุการณ์จะทำให้ตกใจในวันที่ 29 ก.ค.2548ก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน เพราะจะมีเหตุการณ์คือ คะแนนส่วนหนึ่งจะตีจากโดยจะเข้าไปหาคู่แข่ง แต่ไม่ต้องตกใจ จะเป็นเพียงการเสแสร้งเพราะพอลงจริงเขาก็จะลงให้เรา เพราะฉะนั้นในวันที่ 31 ก.ค. 2548วันเลือกตั้งเจ้าชาตาก็ต้องชนะ

 

 

 

 

                   

                ระบบดาววันที่ 31 ก.ค.2548(ขออภัยย้งไม่มีข้อมูล)

                 วันเลือกตั้ง อบต. ทั่วประเทศ

                ดูระบบดาวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
                 คือ ๑๒๓๔๕๖ กับ ๗๘๙๐

                 (เมื่อเอาดวงเดิมเป็นตัวตั้ง )

                                

                               

 

 

 


วันที่ 30 ก.ค. 2548 ก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน ภรรยาเจ้าของชาตามาหาด้วยดวงหน้าอ่อนเพลียปริวิตกพอเห็นพอเห็นก็รู้ว่าถูกต้องตามลักษณะความเป็นไปของดวงชะตาที่ภริยาจะมีส่วนอย่างร้ายแรงในความสำเร็จ ภริยาถามว่า จะเป็นอย่างไรบ้าง ในขณะนั้น ได้พิจารณาดาวอาทิตย์(๑) ศรีจรเดินคู่ไปกับพุธ(๔)มนตรีจรในภพที่10 ทำการต่อสู้อยู่กับดาวเสาร์(๗)ประ + กาลกิณีจร แม้ดาวเสาร์(๗)จะได้รับแรงสนับสนุนอย่างแรงจากราหู(๘)ก็ตามแต่ อำนาจดาวอาทิตย์(๑)ศรีจรที่มีกำลังเป็นมหาจักรบวกกับพุธ(๔)ในเรือนธาตุและอาทิตย์(๑)กลับได้รับแรงสนับสนุนจากมิตรอย่างเต็มที่ คือโยคหน้ามีพฤหัสบดี(๕)แม้เป็นประ แต่ร่วมธาตุกับคู่ธาตุมหาอุจก็แรงขึ้น) โยคหลังมีจันทร์(๒)มหาอุจเกิดกระแสประสานอย่างแรงของระบบดาว 3 พระยาคือ จันทร์,ครุ,สุริยา โดยมีศูนย์กลางที่เรือนกัมมะเรือนที่ 10 ซึ่งเป็นสนามรบขณะนั้น (ตรงนี้หมายความคะแนนสนับสนุนอย่างลับๆไม่เปิดเผยเพิ่มเติมเข้ามาอีก) ภพที่ 7 มีดาวอังคาร(๓)จรเป็นเกษตรอยู่ นับว่าแรงจัดและเหนียวแน่นไม่มีถอย และจากอังคาร(๓) เห็นศุกร์(๖)ตนุลักคณ์คู่มิตรจรอยู่ในภพของความสำเร็จ  ณ ราศีสิงห์เป็นอุดมเกณฑ์ ให้แก่ลัคนาที่นรตุล จึงสรุปลงได้ทีเดียวว่าจะต้องชนะ หากไม่เป็นเช่นนั้นย่อมขัดหลักเกณฑ์ของโหราศาสตร์ไทย เธอให้คำนวณฤกษ์ที่จะออกไปลงคะแนน ให้ออกไปลงคะแนนเวลา 12.42
– 16.16 น. ของวันที่ 31 ก.ค. 2548 ต่อมาวันที่ 1 ส.ค. 2548 เขาโทรมาบอกว่า เหตุการณ์ได้เป็นไปตามคำพยากรณ์ทุกประการ เขาชนะคู่แข่งแบบขาดหายห่วง เขาจะเข้ามาเล่ารายละเอียดทีหลังพร้อมทีมงาน




ดวงชะตาที่นำมาพยากรณ์ทั้งสิ้นนี้ ล้วนเป็นดวงตัวอย่างของการระวังเรื่องดาวให้โทษตามตำราเดิมเมื่อเห็นดาวให้โทษ ควรระวังการมองด้านเดียวมุมเดียวแต่ต้องมองรอบด้าน(โดยเชี่ยวชาญ)จึงจะเป็นธรรมต่อประชาชน

 

 

 

*** ช. โหรชนบท

        1  ส.ค.2548




หนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 34

หน้าบอกสถานะของเรา ดีเล่มที่ 34
บทกวีนิพนธ์ แด่ คุณครูแสงเทียน article
บทความพิเศษ การพัฒนาประชาธิปไตย โดยพระเทพวรมุนี article
บทบก1 วิเคราะห์เพลงชาติไทยควรปรับปรุง
บทบก2 จำลอง ศรีเมืองต้านเบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์
บทบก3 บันทึกคนเก่งเด็กไทยชนะโอลิมปิกวิชาการ 4 เหรียญทอง
บทบก4 เตรียมเสนอร่างกฎหมายสงฆ์ 2 ฉบับเข้าสภา ผ่านรัฐบาลก่อน
บทบก5 โหราศาสตร์น่าสนใจในดีเล่มที่34
บทบก6 เสนอตั้งกระทรวงข่าวสาร และกรมโหร
บทบก7 สันตะปาปา สิ้นพระชนม์ อิรัคยังคงฆ่ากันหลังตั้งรัฐบาลได้แล้ว
บทบก8 อินเทอเนตของเราเป็นที่ลับสมองคมกริบเพียงอ่านบทวิเคราะห์ไปตามลำดับเท่านั้น
ร่างยุทธศาสตร์การเผยแผ่พระพุทธศาสนา คำวิพากษ์และข้อเสนอแนะ
ดี10 ฉบับทบทวน (คอลัมน์ประชาธิปไตยสงฆ์) จะปฏิรูปสงฆ์ไปทำไม ต่อ
ดี9 ฉบับทบทวน{คอลัมน์ประชาธิปไตยสงฆ์} จะปฏิรูปสงฆ์ไปทำไม
ข้อคิดสันติกโรภิกขุ คนอเมริกันไม่น้อยคิดว่าตนเป็นชาวพุทธที่ดีกว่า



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----