สารบาญ
บันทึกโหราศาสตร์(ข้อสรุป) ดวงชาตาผู้นำชาติ และดวงเมืองปัจจุบัน
1.ก. การพยากรณ์ดวงชาตาประเทศไทย
2.ข. การพยากรณ์ดวงชาตาประเทศไทยเพิ่มเติม
3.ค. การพยากรณ์ชาตาบุคคลสำคัญผู้จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
4.ง. คำเฉลยและคำพยากรณ์เพิ่มเติม
5.จ. อนาคตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นอย่างไร
บันทึกโหราศาสตร์
บทสรุปจากเวบไซต์ของเรา ดังนี้
ก. การพยากรณ์ดวงชาตาประเทศไทย
ชลัมพุช โหรชนบท ได้พยากรณ์ดวงชาตาประเทศไทยไว้เมื่อ 29 พ.ย.2550
ทางเวบไซต์ของเรา คือ https://www.newworldbelieve.net คำพยากรณ์มีดังนี้
1. เนื่องจากดาวพระเสาร์(๗) ได้ยกย้ายราศีจากราศีกรกฎเข้าสู่ราศีสิงห์ ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.2550 มาแล้ว และจะสถิต ณ ราศีสิงห์นี้เป็นเวลา 2ปีครึ่ง คือจะอยู่ณ ราศีสิงห์นี้ระหว่างวันที่ 10 ส.ค.2550 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2552 ช่วงเวลา2ปีครึ่งนี้ประเทศชาติจะฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ ประชาชนจะรุ่มร้อน ชักหน้าไม่ถึงหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาหลังเดือนเมษายน 2551 ไป 1 ปีเต็ม ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ในทางที่ดีก็คือ ความสามัคคีของชนในชาติจะดีขึ้น พ้นวิกฤตแห่งความแตกแยกภายในชาติไปได้แล้วตั้งแต่เวลาที่เสาร์(๗)ยกจากราศีกรกฎเข้าสู่ราศีสิงห์ ในวันที่ 10 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป
2. จุดที่ควรมองก็คือ เมื่อถึงวันที่ 21 เมษายน 2551 ดาวพระเสาร์(๗)โดยทักษาจรเสีย เพราะเป็นกาลกิณีจร ระหว่างเดือน เมษายน 2551- เมษายน 2552 เวลา 1 ปีเต็มนี้ ดาวพระเสาร์(๗)จรเป็นกาลกิณี จะมีอะไรเกิดขึ้น เมื่อดาวพระเสาร์ตรึงเมืองอยู่แล้วทำให้สถานการณ์รุ่มร้อนและฝืดเคืองอยู่แล้ว ยังฉายรังสีร้ายทวีไปอีกถึง 2 เท่า เพราะต้องบวกกับพระเสาร์(๗)เดิมที่ราศีธนู จึงเป้น 1 ปีที่จะหมายถึงการเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ขยับเขยื้อน ความเป็นอยู่ของประชาชนพลเมืองไม่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ก็จะไม่ตกต่ำถึงขั้นเป็นอันตราย เพราะขวัญและกำลังใจของประชาชนไทยจะดีเยี่ยม จะได้ผลดีในด้านความมั่นคงภายในประเทศ ผู้ก่อการร้ายจะหลบ โผล่เป็นครั้ง ๆ คราว ๆ เบาบางลงไป จะมีความคิดริเริ่มในทางที่ดีมีประโยชน์เกิดขึ้น ทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรม และการธรณีวิทยา จะมีอะไรบุกเบิกออกไป หรือมีการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ วิชาการใหม่ ๆ สินค้าใหม่ ๆตลอดเวลา 2-3 ปีข้างหน้านี้
3. ในวันที่ 16 พ.ย.2550 ดาวพระพฤหัสบดี(๕)ย้ายราศีจากพิจิกสู่ราศีธนู ทับพฤหัสบดี(๕)เดิมในดวงชาตาเมือง เป็นเกษตรซ้อนเกษตร อยู่ในภพที่ 9 ของเมือง มีพระอาทิตย์(๑)เดิมที่ราศีเมษประสานพลังร่วมอยู่ ทำให้คาดได้ว่าด้านการเมืองการปกครองจะเรียบร้อยดี การเลือกตั้งจะค่อนข้างเรียบร้อยลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเลือกตั้งระหว่างปลายเดือนธันวาคม2550ต่อกับเดือนปีใหม่ มกราคม 2551 จะเรียบร้อยดีเป็นพิเศษ เชื่อได้ว่าระหว่างวันที่ 16 พ.ย.2550 ถึง 21 เม.ย.2551 จะมีการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาล สำเร็จลงอย่างสะดวกสบาย มีความดีและเกียรติยศพอที่ต่างประเทศเชื่อถือและชื่นชม แต่ครั้นเลยเดือนเมษายน 2551 ไปแล้ว จะเริ่มมีความปั่นป่วนในวงการบริหารและการเมือง รัฐบาลจะทำนโยบายผิดพลาดเป็นเหตุให้ประเทศไทยสูญเสียผลประโยชน์ของชาติอย่างมากมาย ในเดือนมีนาคม2551จะเกิดอลเวงในสภาผู้แทนราษฎร แล้วเกิดวุ่นวายขึ้นในวงการเมืองระหว่าง2-3เดือนนี้คือเดือนมิถุนายน เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2551 ซึ่งเป็นระยะที่ดาวพระพุธ(๔)ศรีจรผ่านดาวพระราหู(๘)จร และพระอังคาร(๓)จรลงสู่ราศีกรกฎที่ดับแสงดาวอังคาร(๓) ลงอย่างสนิท แล้วเคลื่อนสู่ราศีสิงห์ปะทะกับดาวพระเสาร์(๗)กาลกิณีจรอย่างแตกหัก
4. เมื่อผ่านช่วงเดือนสิงหาคมไปได้แล้วก็มาถึงช่วงเดือนธันวาคม 2551 คราวนี้เป็นด้วยอิทธิพลดาวพฤหัสบดี(๕)จรเข้าภพที่ 10 ของเมือง เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2551 และอยู่ ณ ราศีมกรนี้ไปเป็นเวลา 4 เดือน จนถึงวันที่ 20 เมษายน 2552 พฤหัสบดีแปรจักรมนในราศีกุมภ์ เชื่องช้าลงไปอีกจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2552 หยุดและพักร เดินถอยหลังคืนมาสู่บริเวณที่ดับแสงอีกครั้งหนึ่ง พฤหัสบดี(๕)จรอ่อนกำลัง ดับแสงลงณราศีมกร แต่กระนั้นพฤหัสบดีก็ยังให้คุณอุดมเกณฑ์แก่ดวงเมืองอยู่เพราะเป็นปัสสวะเกณฑ์ให้แก่ลัคณาราศีเมษ จึงคาดว่าน่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี หรือมีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารบ้านเมืองกันครั้งใหญ่
ข. การพยากรณ์ดวงชาตาประเทศไทยเพิ่มเติม
ต่อมาวันที่ 29 พ.ย.2550 ได้พยากรณ์เพิ่มเติมว่า
1. นอกจากเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเงิน การคลังของประเทศแล้ว ยังมีเรื่องการทหาร จะมีอะไรเกิดขึ้นในวงการบุคคลในเครื่องแบบ ระหว่างปี 2551 นี้ โดยเฉพาะในช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค. 2551
2. เรื่องราวในวงการพระสงฆ์องค์เจ้า จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในระหว่างช่วงเวลาเม.ย.-มิย.2551 และต่อจากนี้ไปอีกหลายเดือน
3. นอกจากเรื่องรัฐบาล ยังมีเรื่องบุคคลสำคัญของประเทศ จะเป้นอย่างไรบ้าง เมื่ออิทธิพลของดาวเสาร์(๗) ออกฤทธิ์ครอบไปอย่างกว้างขวางเป็นพิเศษในช่วงปี2551 ต่อ 2552นี้
4. จะมีคดีอะไร ๆ สำคัญ ๆ หรือไม่ ในช่วงต้นปี 2551?
ค. การพยากรณ์ชาตาบุคคลสำคัญผู้จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2550 ก่อนการเลือกตั้ง 11 วัน ชลัมพุช โหรชนบทได้ให้คำทำนายเกี่ยวกับ
ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนำเอาดวงชะตา สมัคร สุนทรเวช และ อภิสิทธิ เวชชาชีวะ มาเปรียบเทียบ โดยให้คำพยากรณ์ไว้ดังนี้
1. แสดงถึงบุคลิกภาพของเจ้าชะตาทั้ง 2 ดวงนี้แตกต่างกันอย่างมาก เหมือนอยู่คนละฝั่ง คนละข้างกันเลยทีเดียว อุปมาเหมือนฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านนั่นเลยทีเดียว กระนั้นดวงชะตาทั้ง 2 นี้ก็ยังมีการสัมพันธ์ ทั้งลักคณา และ ตนุลักคณ์ ในเชิงสมานฉันท์ และมีปฏิกิริยาตอบโต้กันและกันเชิงสร้างสรรค์อยู่ส่วนหนึ่ง และยังบอกไปถึงสภาวะภายในจิตใจส่วนตัวทั้งคู่ต่างมีความนับถือซึ่งกันและกันอยู่ลึก ๆ เป็นเรื่องภายในจิตใจส่วนหนึ่ง
2. เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลางของสถาบันโหราศาสตร์ เราจะเก็บข้อเฉลยไว้ก่อน จนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุดลงจึงจะเปิดเผยคำเฉลยนั้น จึงแสดงหลักการพยากรณ์เอาไว้เพื่อการอ้างอิงภายหลัง ดังระบบดาวและข้อพิจารณาข้างต้น
ง. คำเฉลยและคำพยากรณ์เพิ่มเติม
ครั้นผลการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ชลัมพุช โหรชนบทได้ให้คำเฉลย พร้อมคำพยากรณ์ชาตาไว้เมื่อวันที่ 6 ก.พ.2551 ดังนี้
เราได้พยากรณ์ไว้ ในกรณีที่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ว่า เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลางของสถาบันโหราศาสตร์เราจะเก็บข้อเฉลยไว้ก่อน ความทั้งหมดมีดั่งนี้
ประเด็นการพยากรณ์
1. แสดงถึงบุคลิกภาพของเจ้าชะตาทั้ง 2 ดวงนี้แตกต่างกันอย่างมาก เหมือนอยู่คนละฝั่ง คนละข้างกันเลยทีเดียว อุปมาเหมือนฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านนั่นเลยทีเดียว กระนั้นดวงชะตาทั้ง 2 นี้ก็ยังมีการสัมพันธ์ ทั้งลักคณา และ ตนุลักคณ์ ในเชิงสมานฉันท์ และมีปฏิกิริยาตอบโต้กันและกันเชิงสร้างสรรค์อยู่ส่วนหนึ่ง และยังบอกไปถึงสภาวะภายในจิตใจส่วนตัวทั้งคู่ต่างมีความนับถือซึ่งกันและกันอยู่ลึก ๆ เป็นเรื่องภายในจิตใจส่วนหนึ่ง
2. เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลางของสถาบันโหราศาสตร์ เราจะเก็บข้อเฉลยไว้ก่อน จนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุดลงจึงจะเปิดเผยคำเฉลยนั้น จึงแสดงหลักการพยากรณ์เอาไว้เพื่อการอ้างอิงภายหลัง ดังระบบดาวและข้อพิจารณาข้างต้น
บัดนี้การเลือกตั้งก็เสร็จสิ้นลงแล้ว แท้ที่จริง เราแทบไม่ต้องเฉลย ก็คงจะเห็นได้ว่า เราพยากรณ์ว่าอย่างไร เราขอบอกว่าเราพอใจในผลการพยากรณ์เป็นอย่างยิ่ง และดูเหมือนจริง ๆ แล้วการพยากรณ์เรื่องนี้ค่อนข้างจะชี้ชัดได้ง่าย และเราก็บอกไว้แล้วทุกอย่างในวิธีการพยากรณ์ หากมีความรู้ในโหราศาสตร์อยู่บ้างก็คงจะหาคำตอบเอาเองได้ เพราะเหตุผลในวิธีการพยากรณ์ อธิบายได้ดังนี้
1. สมัคร มีดาวเดิมที่สำคัญคือ ดาวราหู(๘)ที่กุมลักคณ์ ณ ราศีมังกร ขณะนี้จรมาทับเสาร์(๗)เดิมที่ภพหน้าลักคณา มีเสาร์(๗)จรเล็งอยู่จากภพมรณะ นี่ก็บ่งถึงความสำเร็จในวันเลือกตั้งอยู่แล้ว ครั้นวันที่ 17 เม.ย. 2551 ราหู(๘)นี้ก็จรเข้าทับลัคณาในราศีมังกร บ่งบอกไปถึงงานใหญ่ของเจ้าชาตานี้ และจะทำให้เจ้าชาตาเข้มแข็งขึ้น และยากที่จะล้มหรือซวนเซ ตามสูตรเบื้องต้นที่สุดของโหราศาสตร์ที่ว่า มารเมษแลตุลใน มังกรนี้ดีจริง ๆ(ราหู๘ถ้าอยู่ในราศีเมษ ตุลและมังกรโดยทับลักคณาแล้ว ต้องได้เป็นใหญ่) นั่นเอง
ดาวสำคัญอีก 2 ดวงคือ พฤหัสบดี(๕) กับจันทร์(๒) คู่ธาตุ ที่นั่งเรือนศุกร(๖)กัมมะ และศุกร์(๖)กัมมะไปเป็นราชาโชคเล็งลักคณ์ นี่เป็นสุดยอดของความสบาย ได้เกียติความสำเร็จมาอย่างสบาย ๆ แล้วยังมีความมั่นคงอย่างยิ่งอีกด้วย เพราะแค่จันทร์(๒) หรือพฤหัสบดี(๕) แต่เพียงดวงเดียวก็สบายมากแล้ว แต่นี้มาพร้อมทั้ง 3 ดวง คือ จันทร์(๒) พฤหัสบดี(๕) และ ศุกร์(๖) เจ้าเรือน และสังเกตได้ว่า ในวันเลือกตั้งศุกร(๖)จรมาเป็นเกษตร์ที่ภพกัมมะ ค่อนข้างชี้ชัดถึงความสำเร็จในตำแหน่งที่สูงส่งคือนายกรัฐมนตรี แต่การจัดการล่าช้าอยู่เพราะกาลกิณีถึง จึงมองไปที่ดาวจรที่สำคัญยิ่งอีกดวงหนึ่งคือดาวอาทิตย์(๑) ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะสำเร็จลงในเวลาที่ดาวอาทิตย์จรดวงนี้ (ในขณะนั้นมีศักดิ์เป็นศรีจรให้คุณสถานเดียว) จรเข้าทับลักคณาเสียก่อน ดังที่เราได้บันทึกดวงอาทิตย์(๑)ไว้เป็นหลักฐานในข้อที่ 1.4 แล้วว่า วันที่ 15 ม.ค.2551 ดาวอาทิตย์จรเข้าทับลักคณาและอยู่ในมกรไปถึงวันที่ 13 ก.พ.2551 ข้อความทั้งหมดมีดังนี้
1.4 ดาวอาทิตย์(๑) จร เดินเข้าราศีมกรในวันที่ 15 ม.ค.2551 อยู่ในมกรระหว่าง 15 ม.ค.- 13ก.พ. 2551 ราหู(๘)จรเข้ามกรใน 17 เม.ย.2551
ซึ่งหมายความว่า เป็นระยะที่เจ้าชาตาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และในความจริง สมัครได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 29 ม.ค.2551
เราบันทึกราหู(๘)จรเข้ามกรในวันที่ 17 เม.ย.2551 ไว้ต่อจากดาวอาทิตย์(๑) ก็เพราะเห็นได้ว่าถึงเวลานั้น เจ้าชาตานี้จะกล้าหาญและเข้มแข็งขึ้น มีอำนาจขึ้นกว่าเดิม จากการสนับสนุนของมิตรสหายหรือขบวนการแนวร่วม ตลอดเวลา 1ปีครึ่งต่อจากวันที่ 17 เม.ย.2551 นี้ไป อันเป็นสถานการณ์ต่อเนื่องที่เป็นเครื่องชีว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอนแล้วตั้งแต่เสร็จการเลือกตั้งแล้ว นั่นเอง
2. ครั้นดูจากดวงชาตาอภิสิทธิ เวชชาชีวะแล้ว ก็เห็นได้ว่าดวงชาตาอภิสิทธิ์ ขณะนั้น เป็นชาตาของผู้ที่จะต้องเป็นรอง หรือ ผู้แพ้ เมื่อเปรียบเทียบกับชาตาสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น เนื่องเพราะทั้งดาวจรขณะนั้นและพื้นฐานเดิมเปรียบเทียบกันแล้ว ยากเหลือเกินที่อภิสิทธิ์จะมีชัยเหนือสมัคร ประการแรกก็เสียเปรียบสมัครในตำแหน่งของลักคณา ที่สถิตเป็นอริแก่ดวงประเทศไทย และทั้งเป็นคนเกิดวันจันทร์ ที่มีดาวอาทิตย์(๑)สถิตเป็น11แก่ลักคณาอีกด้วยแล้ว ซึ่งหมายถึงการถูกกำหนดให้เป็นผู้แพ้ในการแข่งขันชิงชัยการได้ยศตำแหน่งอันสูงสุดของประเทศไทย ประการที่ 2 วันเลือกตั้งนั้นภพที่ 10 ถูกระรานเสียหายจากจันทร์(๒)จร อังคาร(๓)จร และศุกร(๖)จร ในขณะที่ ชาตาสมัครถูกกำหนดมาให้เป็นผู้มีหน้าที่โดยตรงในการบริหารประเทศ เนื่องเพราะลักคณาและตนุลัคณ์ เป็น10และ11 แก่ดวงเมืองตามลำดับแล้วยังไม่พอ ได้เปรียบอภิสิทธิ์ไปกว่านั้นเพราะภพที่ 10 มีดาวจันทร์(๒) พฤหัสบดี(๕) และดาวศุกร์(๖)เดิม และดาวศุกร(๖)จรที่จรมาสถิตภพที่ 10 เรือนตนเองในวันเลือกตั้งนั้น เป็นศุกร(๖)จรสู่เรือนตนเอง ที่มีพลัง และบริสุทธิ์มาก เพราะเป็นเกษตรในเรือนตนเอง
จึงกล่าวได้เลยว่า เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่สงวนคำพยากรณ์ไว้ เพื่อความเป็นธรรมและความเป็นกลางแห่งสถาบันโหราศาสตร์ คงลงเอาไว้เป็นพยาน หลักฐานแต่วิธีการพยากรณ์ ที่ยืนยันคำพยากรณ์ของเราว่า ผู้ชนะคือ สมัคร สุนทรเวช เราพยากรณ์แม่นยำไว้ดั่งนี้
จ. อนาคตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นอย่างไร?
อย่างไรก็ตามในเรื่องดวงชาตาในอนาคตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือสมัคร สุนทรเวชนี้ เนื่องจาก ดาวเสาร์(๗)กาลกิณีจรที่สถิตภพมรณะที่เล็งตรงสู่เสาร์(๗)เดิมกาลกิณีเดิม ก็จะทำให้เจ้าชาตาจำต้องประสบความยุ่งยากในการตัดสินใจบนความเสี่ยงต่อความผิดพลาดหลายประการ โดยเฉพาะด้านการเงินและการคลังหรือผลประโยชน์ของประเทศ จนกว่าจะพ้นวันที่ 13 มิถุนายน 2551 ไปแล้ว สถานการณ์ความเสี่ยงนี้จึงจะดีขึ้น ในระหว่างนี้เจ้าชาตาจะเผชิญปัญหาการตัดสินด้านการดำเนินนโยบายเสี่ยง ๆ ต่อความผิดพลาดอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำประเทศชาติไปสู่ความยุ่งยากขนาดใหญ่ทางปัญหาการเงินการคลังได้ และยังบอกถึงสุขภาพ บอกถึงแนวโน้มสูงที่จะทำให้ตัวเองเกิดความท้อแท้สิ้นหวัง จนปัญญา และสภาพจิตใจที่สลดหดหู่ ระทมทรมานและมีการเจ็บป่วยทั้งทางกายและจิตใจขึ้นมาได้ ในระหว่างนี้ จนกว่าจะพ้นวันที่ 13 มิ.ย.2551 ดังกล่าว สถานการณ์ความเสี่ยงและสุขภาพจะดีขึ้น พ้นจากการตัดสินใจบนความผิดพลาดไปได้
รัฐบาลสมัคร น่าจะมีความเข้มแข็งพอที่จะบริหารประเทศตลอดไปถึง 1 ปี 6 เดือน เป็นอย่างน้อย(ระหว่าง 17 เม.ย. 2551 ถึง 4 พ.ย.2552) และหลังจากนั้นน่ากลัวว่าจะเผชิญกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์รอบด้าน
อ้างอิง จากเวบไซต์ของเรา โปรดติดตามบทวิเคราะห์โดยสมบูรณ์ทาง www.newworldbelieve.net 2 เรื่อง คือ
1. พยากรณ์ประเทศไทย บันทึกดวงชะตาประเทศไทย 16 พ.ย.2550-27 พ.ย.2557 มีบันทึก เพิ่มเติม
2. ดวงชะตาผู้นำชาติและดวงเมือง 23 ธ.ค.2550:ดวงชาตาสมัคร สุนทรเวช และ อภิสิทธิ เวชชาชีวะ พร้อม คำเฉลย
แฟ้ม โหราศาสตร์ ดวงชะตาผู้นำชาติบทสรุปในนสพ.ดีเล่มที่40 oc.doc-Microsoft Word