ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


ทักษิณกลับไทย ก้มกราบแผ่นดินสุวรรณภูมิ

กราบแผ่นดิน ทักษิณ-ร่ำไห้ แห่รับเนืองแน่น [29 ก.พ. 51 - 03:59]

หลังจากที่ต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่นอยู่ในต่างประเทศถึง 1 ปี 5 เดือน ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ก็ได้เดินทางกลับสู่มาตุภูมิอย่างปลอดภัย ท่ามกลางการต้อนรับของรัฐมนตรี อดีต ส.ส.ไทยรักไทย และพี่น้องประชาชนที่ยังคงศรัทธาในตัวอดีตนายกฯ จนทำให้สนามบินสุวรรณภูมิที่กว้างขวางต้องแน่นขนัดไปทันตา 

คนรัก “ทักษิณ” แน่นสุวรรณภูมิ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสนามบินสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 28 ก.พ. ได้มีประชาชนจำนวนนับหมื่นคนจากทั่วทุกสารทิศส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าอาคารรับรอง อาคารเทียบเครื่องบิน G (อาคารคองคอร์ด G) เพื่อรอรับการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีบรรดาสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 500 คน มาคอยรายงานข่าว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บช.ภ.1 บช.น. และกองปราบปรามกว่า 1,000 นาย คอยรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ พร้อมคอยระวังเหตุความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็มีบรรดาพ่อค้าหัวใสนำโปสต์การ์ด พวงกุญแจและเข็มกลัดรูป พ.ต.ท.ทักษิณมาวางขาย ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นายยงยุทธ คงปฏิมากร อายุ 71 ปี ชาว จ.ขอนแก่น 1 ในผู้นำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการหรือนปก. กล่าวว่า เดินทางมาพร้อม นปก.อีกกว่า 200 คน มารอรับท่านอดีตผู้นำตั้งแต่เช้าตรู่ สำหรับทุกวันนี้ยังมองว่าท่านคือผู้นำของประเทศไทยคนหนึ่ง โดยไม่เพียงแต่ นปก.เท่านั้น ก็ยังมีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เดินทางมารอรับอดีตนายกฯด้วยเช่นกัน สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มองว่าการต่อสู้ของประชาชนอย่างพวกเรา ถือว่าเป็นผลสำเร็จลงแล้วเราสามารถเอาชนะอำนาจเผด็จการ ดึงตัวผู้ไม่ได้กระทำความผิดกลับประเทศไทยจนได้

เหมารถออกจากบ้านตั้งแต่สามทุ่ม

นายบุญเลิศ เรืองพัฒน์ แกนนำกลุ่มคนรักทักษิณจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ได้เช่ารถบัสนำบรรดากลุ่มผู้รักทักษิณมาคอยต้อนรับเป็นจำนวน 2 คัน โดยออกจากพิษณุโลกมาตั้งแต่เวลา 3 ทุ่ม มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอนเวลา 03.00 น. ทุกคนมาด้วยใจเพราะรัก พ.ต.ท.ทักษิณมาก และจะสั่งสอนลูกหลานว่าเคยมีคนชื่อทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ทำความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศเป็นอย่างมาก ถ้าพวกตนสามารถติดคุกแทนได้ หรือสามารถทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิดก็จะทำทันที วันนี้ที่มาไม่มีใครจ้าง ไม่มีใครให้เงิน ข้าวปลาอาหารก็หากันมาเอง ชาวบ้านช่วยกันนึ่งข้าวเหนียวและเอาหมูปิ้งมากินกัน ไม่ยุ่งกับใคร ขณะเดียวกัน พระครูสุเทพสิทธิคุณจากวัดศรีบุญเรือง จ.เชียงใหม่ ที่มีความสนิทสนมกับครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษได้เตรียมนำพระพุทธานุภาพที่ทำมาจากไม้ ขนุน มามอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อความเป็นสิริมงคล 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.45 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมายังอาคารรับรองดังกล่าว โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ได้เปิดเผยอะไรต่อผู้สื่อข่าว รีบเดินทางเข้าห้องรับรองทันที 

ตรึงกำลังบนอาคารสูงรอบสนามบิน 

พล.ต.ท.รชตกล่าวว่า ตำรวจได้มีการระดมกำลังในส่วนของ บช.ภ.1 ทั้งฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตลอดจนจากจังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานีกว่า 400 นาย เข้าตรวจสอบและดูความเรียบร้อยรอบสนามบิน เนื่องจากการเดินทางกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเป็นไปได้ว่าต้องมีพบกันระหว่างกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มที่ต่อต้าน ทางเจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแลและควบคุมให้เกิดความเรียบร้อยไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังคอยตรวจสอบบริเวณอาคารสูง ดาดฟ้า อาคารแต่ละแห่งโดยรอบ แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ เชื่อว่าคงไม่มีเหตุความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น 

พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังหัวหน้าสถานีในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ให้มีการเตรียมพร้อมในด้านการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกในการจราจร เพื่อไม่ให้เกิดความติดขัด ตลอดจนตามเส้นทางต่างๆในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทาง เพื่อคอยระวังเหตุความวุ่นวาย  อย่างไรก็ดีได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของจังหวัดสมุทรปราการแต่ละสถานีรวมแล้วกว่า 500 นาย เพื่อคอยระวังเหตุ

“เฉลิม” เชื่อไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร 

ต่อมาเวลา 08.45 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทย พร้อมด้วยนายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย มารอรับการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องของความอันตรายและการปองร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อนทราบดีว่า ระยะทำการของสไนเปอร์หรือปืนยิงระยะไกลนั้น มีวิถีทางและการเล็งยิงแบบใด ตลอดจนคนที่ใช้จะต้องเป็นคนที่มีความแม่นยำ เชื่อว่าคงไม่มีใครคิดทำอะไรแบบนั้น ตลอดจนเชื่อว่าคนที่เดินทางมาในวันนี้มีแต่คนที่รัก และคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ อีกทั้งมีการระดมกำลังรักษาความปลอดภัยแบบเต็มที่ คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงจะมีก็เพียงแต่คลื่นคนที่มารอรับ ตอนนี้อยากบอกว่า สิ่งที่เคยพูดไว้ตอนที่ยังเดินหาเสียงว่า ให้ลุงหมักเป็นนายกฯ ให้ผมเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ดึงนายกฯทักษิณกลับบ้าน อยากบอกว่า ทำได้จริงอย่างที่พูดไว้ทุกอย่าง ผู้สื่อข่าวถาม ต่อไปว่าคนมองนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯนอมินี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า นายสมัครคือนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำของประเทศ เป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองสูง ใครก็มาชักจูงอะไรไม่ได้ ท่านทำงานเพื่อประชาชน นายสมัครก็คือนายสมัคร พ.ต.ท.ทักษิณก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ 

“คุณหญิงพจมาน” และลูกๆรอต้อนรับ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางด้านบรรยากาศภายในห้องรับรองพิเศษ สถานที่ในการเตรียมการต้อนรับการเดินทางกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการออกบัตรผ่านเข้าออกห้องรับรองวีไอพี ที่จำกัดเฉพาะอดีตกรรมการ บริหารพรรคไทยรักไทย  ญาติพี่น้องตระกูลชินวัตรและดามาพงษ์ โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว. คมนาคม เป็นผู้ที่รับผิดชอบในการทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ต่อมาเมื่อเวลา 09.09 น. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พร้อมด้วย น.ส.แพทองธารและ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว ได้เดินทางมาถึงที่ห้องรับรองพิเศษ 

นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้าว่า ไม่เจอพี่ชายมานาน แม้มีโอกาสไปเยี่ยมต่างประเทศบ้างแต่ไม่บ่อย คิดถึงพี่ชายมาก เมื่อถามว่าเจอพี่ชายจะพูดอะไรเป็นคำแรก นางเยาวเรศตอบว่า คิดถึงพี่ชายมาก เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงประชาชนที่มารอต้อนรับ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่สนับสนุนพี่ชาย 

รมต.-ส.ส.-111 ทรท.ตบเท้าพรึบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ได้มีรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคพลังประชาชน รวมถึงอดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ทยอยเดินทางมารอรับ พ.ต.ท.ทักษิณที่ห้องวีไอพี เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย นายสุธา ชันแสง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.คมนาคม พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายประยุทธ มหากิจศิริ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายนที สุทินเผือก หรือกรุง  ศรีวิไล  ส.ส.สมุทรปราการ  พลังประชาชน  นายสุธรรม แสงประทุม นายยุรนันท์ ภมรมนตรี นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ นายดนุพร ปุณณกันต์ 

เครื่องบินลงแตะรันเวย์ 09.45 น.

จนกระทั่งเวลา 09.45 น. เที่ยวบินทีจี 603 ที่พา พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาจากฮ่องกงได้แตะพื้นรันเวย์ สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พร้อมด้วยตัวแทนแกนนำอดีตพรรคไทยรักไทย  ได้เดินเข้าไปภายในตัวเครื่องบินเพื่อเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณและนายพานทองแท้ บุตรชาย พร้อมอดีต  ส.ส.พรรคไทยรักไทย  เมื่อแกนนำอดีตไทยรักไทยได้เข้าไปถึงตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ได้เป็นตัวแทนมอบพวงมาลัยดอกไม้สด ให้กับอดีตนายกฯและกล่าวว่า “ขอต้อนรับท่านสู่ประเทศไทย”  จากนั้นเดินนำ  พ.ต.ท.ทักษิณออกจากตัวเครื่อง ผ่านประตูทางเชื่อม  G4 หรือเกท  4 เมื่อเดินทางมาถึงปากทางประตูเข้าห้องรับรองพิเศษ ที่คุณหญิงพจมานพร้อมกับ น.ส. พิณทองทา หรือน้องเอม น.ส.แพทองธาร หรือน้องอุ๊งอิ๊ง รวมทั้งครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์รอให้การต้อนรับ  

พ่อแม่ลูกชินวัตรโผเข้ากอดกันกลม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงพจมานและบุตรสาวทั้งสองคนมีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา  โดย  น.ส.พิณทองทา ได้ยืนอยู่ด้านขวาและถือภาพถ่ายของครอบครัวแนบอกอยู่ตลอดเวลา ส่วน น.ส.แพทองธารยืนอยู่ด้านซ้ายมือถือช่อกุหลาบขาวช่อใหญ่ เพื่อมอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ท่ามกลางญาติพี่น้องทั้งสองตระกูล ทุกคนมีอาการอย่างเห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นและดีใจ จนกระทั่งถึงวินาทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินมาก่อนถึงประตูทางเข้าที่มีกลุ่มของครอบครัวรอรับ น.ส.พิณทองทาได้มีอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดคือมือสั่น   ปรบมือด้วยความตื่นเต้นและพูดเสียงสั่นว่า “มาแล้วๆ” เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเดินออกมาจากประตู น.ส.แพทองธารได้โผเข้ากอด ก่อนคุณหญิงพจมาน น.ส.พิณทองทาและนายพานทองแท้จะโผเข้ากอดกันกลม พร้อมกับร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ  ท่ามกลางเสียงปรบมือและโห่ร้องด้วยความยินดีของผู้ที่เดินทางมาต้อนรับ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็ทักทายกับบุคคลที่มารอต้อนรับ ก่อนจะเดินเข้าห้องวีไอพี  3  ซึ่งเป็นห้องที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จัดเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับอดีตนายกฯ ในการเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา และทำพิธีผ่านคนเข้าเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงานมาอำนวยความสะดวกในขั้นตอนดังกล่าว โดยใช้เวลาดำเนินการประมาณ 10-15 นาที 

ก้มกราบแผ่นดินนํ้าตาคลอ

คุณหญิงพจมานกล่าวภายหลังได้พบกับ พ.ต.ท. ทักษิณว่า รู้สึกดีใจที่ท่านได้กลับมา ทั้งนี้ ขณะตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวคุณหญิงพจมานได้ยิ้มและมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ ตลอดเวลา  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้เดินออกมาจากห้องวีไอพี 3 มาทักทายอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย รัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่มายืนรอต้อนรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และเดินลงลิฟต์มาเพื่อออกประตูทางเข้าห้องรับรองพิเศษ ทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินผ่านประตูออกมาด้านหน้าห้องรับรองวีไอพี ก็ได้ก้มลงกราบที่พื้น 1 ครั้ง ก่อนที่จะเดินไปโบกมือให้กับประชาชนที่มาคอยต้อนรับอยู่บริเวณด้านหน้าห้องรับรองดังกล่าว โดยได้กระโดดขึ้นไปยืนบนขอบทางข้างป้ายบริษัทท่าอากาศยานไทย พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณกลุ่มประชาชนที่มาต้อนรับ ด้วยสีหน้าดีใจที่มีน้ำตาคลอเบ้า โดยบรรดาประชาชนที่มารอต้อนรับ ได้พร้อมใจกันเปล่งเสียงตะโกนคำว่า “ทักษิณๆๆๆๆ” ดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณและนายพานทองแท้จะขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโฮลเด้นท์ รุ่นแคปไรซ์ ทะเบียน ธค 1991 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถกันกระสุนและเป็นคันเดียวกับที่คุณหญิงพจมานใช้ในช่วงเดินทางกลับประเทศก่อนหน้านี้ เพื่อไปรายงานตัวที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

อดีตนายกฯตื่นเต้นจนเห็นได้ชัด 

นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำตัวอดีตนายกฯ กล่าวว่า ระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่บนเที่ยวบินทีจี 603 ระหว่างเดินทางกลับสู่ประเทศไทย มีอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด และได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ติดตามมาว่า รู้สึกตื่นเต้นและนอนไม่หลับ เพราะวันนี้ เป็นวันที่รอคอย และก่อนที่เครื่องจะลงแตะพื้นรันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ บรรดาอดีตรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่เดินทางไปรับถึงฮ่องกงได้ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณเซ็นชื่อ และเขียนคำว่าทีจี 603 28 ก.พ. 2551 ลงชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บนเสื้อ โดยได้รับความสนใจจากผู้โดยสาร และบรรดาแอร์สจ๊วตในเที่ยวบินดังกล่าวด้วย 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเครื่องบินระหว่างเดินทางกลับ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับประทานอาหารได้แก่ ส้มตำ ไก่ย่าง คอหมูย่างและข้าวเหนียวที่ทางการบินไทยจัดไว้ให้ และพูดขึ้นว่ากินพวกนี้ดีกว่ากินไข่ปลาคาเวียร์เสียอีก ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่เดินทางกลับมาด้วยว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องทำ แต่ยืนยันว่าเลิกเล่นการเมืองแน่นอน โดยไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงความตั้งใจนี้ได้ ต่อจากนี้จะทำงานการกุศล ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว จะเดินทางไปดูงานที่สโมสรฟุตบอลบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมืองไทย อย่างไรก็ตามขอให้อภัยทุกคนในสิ่งที่กระทำมา และที่สำคัญที่สุดคือรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่วันนี้จะได้กลับบ้าน

“เฮียเพ้ง” เชื่อไม่ทำให้สังคมแตกแยก

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเดินทางกลับประเทศจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณมีศักดิ์ศรีในต่างประเทศด้วย ท่านตั้งใจมาต่อสู้คดี ประกันตัวเสร็จแล้ว จะเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อจะไปดูสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ต้องขออนุญาตศาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ถูกต้องตามระเบียบสากล หาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่เดินทางกลับมา คนทั่วโลกจะมองว่าหลบหนีคดี คิดว่าท่านมั่นใจที่จะต่อสู้คดี เพราะแม้ประชาชนทั่วไปฟังดูก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเป็นการกล่าวหามากกว่า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่าการกลับมาจะทำให้เกิดการขัดแย้ง นายพงษ์ศักดิ์ตอบว่า ทางเราไม่เคยขัดแย้งเลย ขนาดคมช.ทำปฏิวัติ พ.ต.ท.ทักษิณยังให้อภัยทุกคน ดังนั้นคนที่ขัดแย้งกับท่านมีเจตนาแอบแฝงมากกว่า และคิดว่าจะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกหรือเกิดเหตุรุนแรงระหว่างฝ่ายที่ต่อต้านและสนับสนุน 

พิราบขาวโผล่เชียร์เป็นนายกฯอีกรอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการคอย พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาถึง ได้มีคนมาแจกใบปลิวเขียนด้วยลายมือมีใจความว่า กลุ่มพิราบขาว 2006 และเครือข่ายประชาธิปไตย (คปช.) ได้เคลื่อนไหวจนเกือบบรรลุพันธกิจทุกข้อแล้ว เหลือเพียงเฝ้าติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญเผด็จการ 2550 จึงขอยุติการเคลื่อนไหวต่อต้าน คมช. แต่ทางกลุ่มและเครือข่ายมีความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง  เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากท่านกลายเป็นแบรนด์เนมภาคการลงทุน ถือเป็นการแก้วิกฤติปัญหาเศรษฐกิจ 2551 ขอให้ประชาชนที่เคยหลงเชื่อและสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ หยุดให้การสนับสนุนกลุ่มดังกล่าว แล้วหันกลับมาสนับสนุนและผลักดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นนายกฯ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มและเครือข่ายฯได้ขอเปลี่ยนชื่อมาเป็น “การ์ดประชาธิปไตย ต้านพันธมิตรป่วนเมือง” ทำหน้าที่พิทักษ์ ปกป้องการปกครองระบอบประชาธิปไตย หากกลุ่มดังกล่าวเคลื่อนไหวเราจะต่อสู้ชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน ตายเป็นตาย พร้อมเผชิญหน้าทุกรูปแบบโดยสันติวิธี ลงชื่อนายนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 

ลือหึ่งอดีตนายกฯดูฤกษ์ยามล้วนเลข 9 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่าได้ดูฤกษ์ยามมาเป็นอย่างดี เนื่องจากในปัจจุบันมีอายุ 59 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2544 ออกจากเมืองไทยวันไปประเทศทาจิกิสถานวันที่ 9 ก.ย. 2549 และถูกปฏิวัติยึดอำนาจวันที่ 19 ก.ย. 2549 ระหว่างอยู่ สหรัฐฯ เป็นที่น่าสังเกตว่าวันที่ 28 ก.พ. 2551 บินกลับประเทศ เมื่อรวมวันที่อยู่ต่างประเทศแล้วจะเท่ากับ 1 ปี 5 เดือน 19 วัน ลงท้ายเก้า กลับมาเที่ยวบินทีจี 603 บวกกันได้ 9 เครื่องบินแตะรันเวย์เวลา 09.45 น. รวมกันได้ 9 และนั่งรถออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เลขทะเบียนรถ ธค 1991

กองเชียร์ “ทักษิณ” แน่นขนัดศาลฎีกา

ด้านศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีประชาชนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ทยอยเดินทางมาปักหลักคอยให้กำลังใจอดีตนายกฯอยู่ตรงประตูด้านข้างติดกับศาล หลักเมืองและกระทรวงกลาโหมประมาณ 1,000 คน แต่ ไม่มีกลุ่มต่อต้านแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรั้วเหล็ก กั้นไว้ตลอดแนว 2 ชั้น เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาได้นำป้ายข้อความว่า “ห้ามส่งเสียงรบกวน อาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล” มาตั้งไว้ตรงหน้ากลุ่ม กองเชียร์ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเพียงบางส่วนที่คาดผ้าโพกหัวข้อความ “คิดถึง-ทักษิณ” พร้อมป้ายต้อนรับอดีตนายกฯ ขณะเดียวกัน ได้มีรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคพลังประชาชนกว่า 50 คน ก็เดินทางมารอให้กำลังใจเช่นกัน อาทิ นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาด-ไทย นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส. อุบลราชธานี นายภูมิ สาระพล ส.ส.ขอนแก่น ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน และนายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน 

ระดมกำลังตำรวจพร้อมรับเหตุร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านการรักษาความปลอดภัย พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ประกอบด้วย ส่วนควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย หน่วยปรามจลาจล 1 กองร้อย หน่วยอรินทราชชุดต่อต้านการซุ่มยิง 1 หมู่ หน่วยอารักขาจากกองบัญชาการตำรวจสันติ-บาล ตำรวจสายตรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 อาทิ สน.ชนะสงคราม สน.ห้วยขวาง รวมทั้งสิ้น 500 นาย พร้อมรถฉีดน้ำจาก กทม. เดินทางมาตรึงกำลังพื้นที่บริเวณรอบอาคารศาลฎีกาฯ และศาลแขวงดุสิต โรงอาหารศาล ฎีกา ลานจอดรถ และหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนหน้าหับเผย ส่วนด้านในศาลจะมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาล ฎีกา ที่มาจากองค์การทหารผ่านศึกมาคอยดูแลความสงบ เรียบร้อย โดยนายเกรียงชัย จึงจตุรพิธ ประธานศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เดินออกมาดูความเรียบร้อยด้วย  

ทนายเตรียมหลักทรัพย์ขอประกันตัว

นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการศาลฎีกา แผนก คดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวว่า หาก พ.ต.ท. ทักษิณมาถึงประเทศไทยก็จะมีตำรวจคุมตัวมาศาลเพราะมีหมายจับ ที่ศาลฎีกาฯออกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยศาล จะให้ตำรวจนำตัวไปไว้ที่ห้องพักจำเลย ชั้น 4 เพื่อขอยื่นประกันตัว โดยศาลจะพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์ ผู้พิพากษา ซึ่งมีนายทองหล่อ โฉมงาม รองประธานศาล ฎีกา และองค์คณะรวม 3 คน เป็นผู้พิจารณาสั่งประกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจำเลยขอออกนอกประเทศระหว่างการพิจารณา หรืออัยการมีคำแถลงคัดค้านการปล่อยตัว หรือการเดินทางไปนอกประเทศจะทำอย่างไร นายรักเกียรติ กล่าวว่า คดีนี้มีอัตราโทษจำคุกกว่า 10 ปี ศาลสามารถพิจารณาถึงประเด็นนี้ได้เอง โดยไม่ต้องรอให้มีการแถลง และศาลจะมีการพิจารณาคดีนี้อีกครั้ง ในวันสอบคำให้ การจำเลย  

ต่อมาได้มีคณะทนายความของ   พ.ต.ท.ทักษิณ ประกอบด้วย นายพิชิต ชื่นบาน นายธนา เบญจาธิกุล ได้เดินทางมาถึงศาลฎีกา โดยนายพิชิตกล่าวว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์มูลค่าสูงมารอประกันตัว โดยมี น.ส.แพทอง-ธาร เป็นนายประกัน ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ออกนอกประเทศ ที่มาเมืองไทยอย่าไปคิดว่ามีนัยอื่น แต่เพราะทีมทนายความแนะนำว่าบัดนี้หลักฐานพยานมีพร้อมแล้ว พร้อมต่อสู้คดี กับเคยแถลงต่อศาลว่าหากมีรัฐบาลใหม่จะเดินทางกลับมา ส่วนแนวทางต่อสู้คดีคงต้องนำหลักกฎหมายมหาชนมาต่อสู้คดีว่ากองทุนฟื้นฟูฯไม่มีความเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน

ฮือฮาอีกาไล่จิกกระรอกที่ศาลฎีกา 

จนกระทั่งเวลา 10.45 น. ได้มีวิทยุแจ้งว่าขบวนของ พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางจะถึงศาลฎีกาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาได้รูดผ้าม่านบังแดดปิดหน้าต่างทุกบาน และได้ไล่ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปอยู่นอกแผงเหล็ก ตำรวจ สปพ.ได้ส่องกล้องตรวจดูจุดสูงข่ม แต่ปรากฏว่าได้เกิดเสียงฮือฮาเมื่อพบว่ามีอีกาตัวใหญ่ไล่จิกกระรอก จนกระรอก หล่นลงมาจากหลังคาศาล ก่อนหน้าที่คณะของอดีตนายกฯจะเดินทางมาเล็กน้อย จากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ของตำรวจสันติบาลมาเคลียร์พื้นที่เป็นครั้งสุดท้าย ตามด้วยหน่วยอารักขาของ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีรถจักรยานยนต์ของบช.น. รถวิทยุกองปราบปราม 2 คัน นำรถเก๋งซึ่งมี ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย นั่งรถเลกซัสนำมาเป็นคันแรก ตามด้วยรถโฮลเด้นที่ พ.ต.ท.ทักษิณและนายพานทองแท้นั่งมา พร้อมรถติดตามอีกกว่า 20 คัน เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณเดินลงจากรถที่หน้าประตูคู่ความชั้นล่างศาลฎีกา อดีตนายกฯได้โบกมือให้ช่างภาพบันทึกภาพนาน 30 วินาที แล้วรุดเข้าไปในอาคารศาลทันที 

ศาลให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 8 ล้าน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณมาถึงศาลฎีกา ได้ขึ้นไปที่ห้องพักจำเลยชั้น 4 เพื่อขอยื่นประกันตัว โดย น.ส.แพทองธารและคณะทนายความ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยแนบหลักทรัพย์คือสมุดเงินฝากธนาคารพาณิชย์ไปด้วย กับแถลงประกอบคำร้องสั้นๆว่า ขอปฏิเสธคำฟ้องของโจทก์ และจะไม่ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราวด้วย จนเวลา 11.10 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในวงเงิน 8 ล้านบาท แล้วจึงเดินทางกลับ โดยศาลฎีกาได้แจกเอกสารข่าวใจความว่า วันนี้เวลา 10.45 น. ตำรวจได้นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 ในคดีดำที่ อม.1/2550 มาส่งศาลตามหมายจับที่ 1/2550 จำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณา องค์คณะมีคำสั่งให้มีการพิจารณาคดีสำหรับจำเลยที่  1 ขึ้นพิจารณาต่อไป และอนุญาตให้จำเลยที่ 1 ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาหลักทรัพย์ 8 ล้านบาท ทำสัญญาประกัน ยึดสมุดเงินฝาก แจ้งอายัดเพิกถอนหมายจับจำเลยที่  1 ห้ามจำเลยที่ 1 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ จะได้รับอนุญาตจากศาล แจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบโดยเร็ว และห้ามจำเลยที่ 1 กระทำการใดอันจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดี มิฉะนั้นจะถอนประกัน

อนึ่ง ศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่  12 มี.ค. 2551 เวลา 09.30 น. ณ ห้องพิจารณาศาลฎีกาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

“ทักษิณ” สะดุดบันไดกองปราบฯหัวทิ่ม

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณและคณะได้เดินทางออกจากศาลฎีกา โดยยืนโบกมือให้ประชาชนและสื่อมวลชน เคียงข้างบุตรชายและบุตรสาวที่มาให้กำลังใจ ก่อนเดินทางออกจากศาลฎีกาเพื่อไปรายงานตัวที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ 

ต่อมาเวลา 11.00 น. ขบวนรถของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาและเข้มงวด โดยมีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ทันทีที่ขบวนรถ พ.ต.ท.ทักษิณถึงกองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท. ทักษิณได้ลงจากรถ ขึ้นไปยังห้องประชุมสุรสีหนาท ชั้น 2 ของอาคาร ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้รับรอง ปรากฏว่าระหว่างเดินขึ้นอาคาร พ.ต.ท.ทักษิณเกิดสะดุดขั้นบันไดเสียหลักเล็กน้อยเกือบหัวทิ่ม โชคดีที่ผู้ติดตามและตำรวจกองปราบปรามที่รอต้อนเข้าไปประคองไว้ได้ทัน โดยระหว่างนั่งพักอยู่ในห้อง พ.ต.ท.ทักษิณได้ทักทายและขอบคุณตำรวจกองปราบปรามที่ให้การต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

รายงานตัวต่ออัยการสูงสุดคดีเอสซีฯ 

ทั้งนี้คณะของ พ.ต.ท.ทักษิณแวะพักที่กองปราบปรามประมาณ 20 นาที ก่อนจะเดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สำหรับการเดินทางมายังกองบังคับการตำรวจปราบปรามนี้ ถือว่าอยู่นอกแผนกำหนดการที่วางไว้ตั้งแต่ต้น เนื่องจากทางสำนักงานอัยการยังจัดเตรียมสถานที่ไม่เรียบร้อย จนกระทั่งเวลา 11.48 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ โดยขึ้นลิฟต์บริเวณด้านหลังอาคารสำนักงาน เพื่อความสะดวกในการอำนวยการรักษาความปลอดภัย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีการกระทำผิด พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 กรณีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซีแอสเซ็ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นั้น พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นผู้ต้องหาที่ 3 ฐาน โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้าร่วมการสอบสวนด้วย ภายหลังการรายงานตัวราว 30 นาที 

ยื่นขอประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 1 ล้าน

เกี่ยวกับเรื่องการประกันตัวในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นนั้น นายกิตติพร อดุลรัตน์ ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ได้ยื่นสมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 1 ล้านบาท ของธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ เป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัว โดยอัยการได้มีคำสั่งให้ประกันตัวได้ พร้อมนัดฟังการสั่งคดีในวันที่ 3 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. เป็นการนัดฟังคำสั่งพร้อมกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ต่อข้อถามว่าจะมีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึงอัยการสูงสุดหรือไม่ นายกิตติพรกล่าวว่า คาดว่าจะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมอย่างแน่นอน แต่ต้องรอการหารือของทีมทนายความก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจึงเดินทางกลับโดยเปลี่ยนไปนั่งรถอีซูซุ ทรูปเปอร์ ทะเบียน พร-2670 กรุงเทพมหานคร สีน้ำเงินเข้ม ออกจากด้านหลังอาคาร ผ่านไปยังด้านหน้าตรงประตูทางเข้า พ.ต.ท.ทักษิณได้ลงจากรถไปทักทายรัฐมนตรีและ ส.ส.ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ก่อนจะโบกมือทักทายกับประชาชนที่ให้การสนับสนุน ต่างก็โบกมือและร้องเรียกชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินกลับเข้าไปนั่งที่รถโฮลเด้น แค็บไรซ์ตามเดิม เดินทางไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 

ศาลนัดฟังการสั่งคดีในวันที่ 3 เม.ย.

นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า พนักงานอัยการได้ให้ประกันตัว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตีหลักทรัพย์มูลค่า 1 ล้านบาท ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขในการเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด พร้อมมีคำสั่งนัดฟังการสั่งคดีในวันที่ 3 เม.ย.51 เวลา 10.00 น. พร้อมกับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน ทั้งนี้เหตุที่ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เพราะเห็นว่าเป็นคดีอาญาทั่วไป ซึ่งโดยปกติพนักงานอัยการก็จะให้ประกันตัว ต่อข้อถามว่าทางคณะทำงานจะสามารถสั่งฟ้องได้ตามกำหนดในวันที่ 3 เม.ย.นี้หรือไม่ นายธนพิชญ์กล่าวว่า คณะทำงานกำลังเร่งพิจารณาหลักฐานต่างๆ แต่เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะสั่งคดีทันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานอัยการสามารถมีคำสั่งเลื่อนการสั่งคดีออกไปได้ เมื่อการพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ หรือหากเห็นว่าต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม โดยทางคณะทำงานอัยการได้พิจารณาสั่งคดีไปตามพยานหลักฐาน 

ตำรวจอารักขาเข้มทั้งบ้านและโรงแรม

พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวถึงมาตรการ รักษาความปลอดภัยโดยรอบบริเวณโรงแรมเพนนินซูลา และบ้านจันทร์ส่องหล้า โรงแรมที่พักและบ้านของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้รับรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพักอยู่โรงแรมเพนนินซูลา จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลพื้นที่โดยรอบ ส่วนภายในโรงแรมคงเป็นหน้าที่ ของชุด รปภ.อดีตนายกฯ ส่วนที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า สั่งกำชับให้ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 รับผิดชอบดูแลจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนที่จะมีกลุ่มบุคคลที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวายนั้น ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้ฝ่ายสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้เชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงอย่างใด 

“เนวิน” ขอโอกาสให้ “ทักษิณ” สู้คดี

นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า  ไม่ต้องห่วงเรื่องการรักษาความปลอดภัย การกลับมาประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯครั้งนี้ไม่มีอะไร เป็นการมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม  ส่วนที่มีกลุ่มต้าน  พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เห็นว่าที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำมามากแล้ว การกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ขอโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ถ้าไม่ให้กลับมาแล้วจะรู้ข้อเท็จจริงและข้อสรุปของคดีได้อย่างไร ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ  อย่าทำให้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ เมื่อถามว่าการกลับมาครั้งนี้ของ  พ.ต.ท.ทักษิณ  เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในของพรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่  นายเนวินตอบว่า  ไม่รู้กำหนดการการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้กลับเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของพรรคพลังประชาชน เพราะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค เป็นการกลับมาตามที่เคยบอกไว้ว่าจะกลับมาสู้คดีเมื่อประเทศเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย ยืนยันการกลับมาครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง  และไม่หวังผลการเมือง  เชื่อว่าจะไม่เกิดแรงกระเพื่อมต่อพรรคพลังประชาชนแน่นอน ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือกมาพักที่โรงแรมเพนนินซูล่า เพราะความสะดวกในด้านต่างๆ และสามารถรองรับสื่อมวลชนได้  

สภาเหงา ส.ส.แห่ไปรับ “ทักษิณ” 

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี พ.อ.อภิวัณฑ์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม แต่การประชุมเป็นไปอย่างเงียบเหงา มี ส.ส.เข้าร่วมประชุมกันค่อนข้างบางตา ทำให้ประธานที่ประชุมปล่อยให้สมาชิกได้หารือเรื่องเดือดร้อนในพื้นที่นานกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่จะเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อพิจารณากระทู้ถาม 

นายชัย ชิดชอบ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.บางส่วนจะไปต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะห่างเหินกันมานานก็ต้องมีความคิดถึงกัน อยากเห็นหน้ากัน และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับมาแก้ข้อกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรมถือว่าถูกต้องแล้ว ส่วนที่มีการมองกันว่าเพื่อมาแก้ปัญหาความขัดแย้งในพรรคพลังประชาชนนั้น นายชัยตอบว่า ภายนอกมองดูว่าแตกความสามัคคี แต่ความจริงไม่ใช่ เหตุที่ได้เป็นประธานวิปฯก็เพราะว่ามีความอาวุโส และเป็น ส.ส.มานานคงจะเป็นที่ยอมรับของบรรดาลูกหลานที่เป็น ส.ส. ใครมีอะไรก็ปรึกษาหารือได้ มีหน้าที่ดูแลการประชุมให้เรียบร้อย ไม่ใช่มาเพราะเป็นตัวแทนกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ 

แวะเข้าบ้านจันทร์ฯกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณและคณะเดินทางออกจากสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ เมื่อเวลา 12.30 น. โดยใช้เส้นทางสะพานลอยรัชวิภา เข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ และแวะเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เพื่อทานอาหารกลางวันกับครอบครัว โดยมีเมนูมื้อแรกเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ทั้งนี้เมื่อขบวนรถของอดีตนายกฯเลี้ยวเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ได้มีประชาชนจำนวนมากออกมายืนดู พร้อมนำแผ่นป้ายผ้าแสดงความยินดีต้อนรับข้อความว่า “ยินดีต้อนรับท่านทักษิณ นายกฯในดวงใจ ดีใจสุดๆ” มาติดไว้ที่กำแพง โดยมีกำลังตำรวจจาก สน.บางพลัด และหน่วยอรินทราช มาคอยรักษาความปลอดภัยในซอยตลอด 24 ชม. รวมทั้งมีการส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ตรวจตราตลอดเวลา

 สำหรับการเดินทางไปสถานที่ต่างๆของ พ.ต.ท. ทักษิณ ได้มีการประสานให้ตำรวจทุกพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ตลอดเส้นทาง บางพื้นที่มีการปิดถนนเป็นช่วงๆ โดยมีรถจักรยานยนต์นำหน้า 2 คัน รถตำรวจกองปราบปราม 3 คัน และรถขบวนผู้ติดตามร่วมขบวนด้วยไปตลอดทุกสถานที่ที่เดินทางไป

น้อมกราบพระบรมสาทิศลักษณ์

จนกระทั่งเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมคณะเดินทางถึงโรงแรมเพนนินซูลา โดยเมื่อเดินทางมาถึง พ.ต.ท. ทักษิณ ได้แวะเข้าไปห้องวีไอพีของโรงแรม เพื่อพูดคุยกับอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยประมาณ 20 นาที แล้วจึงออกจากห้องวีไอพีมาที่ห้องสกุนตรา ที่ใช้เป็นห้องแถลงข่าว โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เดินนำหน้ามา ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมภริยาและลูกทั้ง 3 คน ได้หยุดนั่งพับเพียบและก้มลงกราบพระบรมสาทิศลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ติดอยู่หน้าห้องดังกล่าว จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณขึ้นบนเวที โดยมีภริยาและลูกยืนอยู่ด้านหลังเพื่อให้กำลังใจ โดย พ.ต.ท.ทักษิณแถลงว่า หลังเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 ก.ย. 2549 มีความรู้สึกอยากกลับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. เพราะมีน้ำใจนักกีฬา เมื่อจบก็คือจบ ตั้งใจเดินทางกลับ แต่เมื่อทุกคนอยากให้อยู่ต่อสักพักก็อยู่ และได้โทร.ติดต่อกับคณะปฏิวัติ เพื่อบอกว่ามีน้ำใจนักกีฬา อยากให้ช่วยสร้างความปรองดองแก่ชาติ เพราะตอนแรกนึกว่าจะอยู่ 2-3 เดือน เพราะเป็นคนอยู่ติดบ้าน และอยากอยู่กับครอบครัวในประเทศไทย แต่ในที่สุดเมื่อเหตุการณ์ไม่สามารถยุติได้ เลยต้องอยู่ต่อจนเกือบ 18 เดือน ถือว่านานมาก 

ขอแสดงความเสียใจกับประชาชน

อดีตนายกฯกล่าวว่า ในตอนที่ออกจากประเทศไทย เป็นนายกฯไปประชุมอาเซม และประชุมสหประชาชาติ เพื่อหาเสียงให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกฯขณะนั้น โดยไปด้วยความตั้งใจทุ่มเท แต่วันนี้กลับถูกกล่าวหา เปรียบเหมือนเป็นผู้ต้องหาสำคัญ รู้สึกเสียใจ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนและครอบครัวน่าเสียใจ ต้องขอแสดงความเสียใจกับประชาชน ในเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งคนที่เหนื่อยและลำบากที่สุดคือประชาชน จึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย 

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า วันนี้เดินทางกลับประเทศ เพราะมีการเลือกตั้งเสร็จแล้ว และประชาธิปไตยกลับคืนมา จึงจำเป็นต้องกลับมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และรักษาชื่อเสียงที่ถูกทำลายอย่างไม่เป็นธรรม อยากกราบเรียนทุกฝ่ายว่า การกลับมาครั้งนี้ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเมือง บางคนสงสัยว่า มีนักการเมืองไปมาหาสู่ตน ก็เป็นธรรมชาติไม่ใช่หรือ ที่คนไทยที่รู้จักกัน ไม่ได้เจอกันนานๆ ต้องมาเยี่ยมเยียนกันบ้าง มันเป็นวัฒนธรรม ที่คนเหล่านี้คิดถึง เพราะบางคนมีโอกาสส่งเสริมให้ทำงานการเมือง เขาก็คิดถึงและมาเยี่ยมเยียน แต่ไม่ได้หมายความว่าตนจะกลับมาสู่การเมือง

น้ำตาคลอขอตายในแผ่นดินไทย 

“วันนี้ผมขออาศัยเป็นคนไทยคนหนึ่ง ต้องการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ผมไประเหเร่ร่อนทั่วโลก ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีแผ่นดินไหนที่จะให้ความอบอุ่นผมและครอบครัว เท่าแผ่นดินไทย จะขอกลับมาอาศัยอย่างมีความสุข ความอบอุ่น และขอตายในผืนแผ่นดินไทยนี้ ขอให้ทุกคนที่ห่วงว่า ผมจะมาแข่งขันทางการเมือง สบายใจว่าผมจะใช้ชีวิตอย่างสันติ สร้างสรรค์ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับมีน้ำตาคลอ 

อดีตนายกฯกล่าวว่า ปีนี้อายุ 59 ปีแล้ว ชีวิตคนเราไม่ยาวนาน ถ้าช่วงสุดท้ายได้ทำประโยชน์ให้สังคม และอยู่กับครอบครัว ก็เป็นความสุขที่ปรารถนา ยืนยันจะขอใช้ชีวิตกับครอบครัวลูกเมีย และขอพักผ่อนสร้างความสุขให้ตัวเองบ้าง เพราะตรากตรำทำงานทุ่มเทให้ บ้านเมืองมาตลอด วันนี้ขอกลับมาอยู่บนแผ่นดินไทย จะใช้เวลากับการต่อสู้คดี รักษาชื่อเสียงที่ถูกทำลายอย่างไม่เป็นธรรม พร้อมกับทำงานด้านการกุศล การกีฬา การศึกษา สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยก็พร้อมจะทำ

ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจมาตลอด 17 เดือนทั้งที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกกล่าวร้ายต่างๆก็ยังให้กำลังใจ หลายคนที่ไปรับที่สนามบินและจุดต่างๆ ก็ต้องขอโทษที่ไม่ได้ไปทักทาย เพราะคนรักษาความปลอดภัย ไม่สบายใจที่จะให้ไปเดินเช่นนั้น ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ และขอให้สื่อช่วยทำหน้าที่ให้ดี เพื่อให้ประเทศไทยกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง ให้ประเทศเข้มแข็งและยืนหยัดอยู่ได้ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวยกมือไหว้ ขอบคุณสื่อมวลชนพร้อมเดินลงจากเวที โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆกับผู้สื่อข่าว โดยกล่าวว่าขอให้มีโอกาสไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อบ้าง ทั้งนี้มอบให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ตอบคำถามแทน

“พงษ์เทพ” เผยอาจขอพบ “ป๋าเปรม”

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้เปิดแถลงว่า มาพูดในฐานะโฆษก พ.ต.ท.ทักษิณ โดย พ.ต.ท.ทักษิณจะพักที่โรงแรม เนื่องจากบ้านอยู่ระหว่างการซ่อมแซม ขณะนี พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่มีกำหนดจะพักอยู่นานเท่าใด แต่ช่วงแรกจะอยู่ในเมืองไทย ไม่เดินทางออกนอกประเทศ ก่อนวันที่ 12 มี.ค. ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนเป็นนัดแรก ส่วนกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปพบ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน อดีตประธาน คมช. และตีกอล์ฟกับเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 นั้น ไม่ทราบ ยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการว่าจะมีการพบสื่อมวลชนหรือไม่ เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับที่มีการวิจารณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีบารมีมากกว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นายพงษ์เทพตอบว่า เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล จะพิจารณา บารมีนั้นอยู่ที่คน เมื่อถามว่า ก่อนเดินทางกลับได้หารือกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษหรือไม่ นายพงษ์เทพตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้คุย แต่หากมีโอกาสจะเข้าไปหารือ

ปัดข่าวเช่าห้องคืนละ 1.6 แสนบาท

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการจองห้องพัก 3 ชั้นราคา 11 ล้านบาท เป็นความจริงหรือไม่ นายพงษ์เทพตอบว่า ยังไม่ทราบสื่อมวลชนระบุว่า เป็นราคา 200 เหรียญสหรัฐฯ ก็เท่ากับหลักพันบาทเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่า ได้จองชั้นไหนบ้าง เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยใช่หรือไม่ ถึงไม่ยอมพักบ้านตัวเอง นายพงษ์เทพตอบว่า เรื่องความปลอดภัยไม่ใช่เฉพาะที่โรงแรม แต่ที่สถานที่อื่นๆ ก็ต้องดูเป็นพิเศษ โดยเหตุผลหลักคือบ้านต้องซ่อมแซม เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพักอยู่ในประเทศในวันที่ 10 มี.ค. คตส. จะส่งคดีหวยบนดินยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาหรือไม่ นายพงษ์เทพตอบว่า ฟ้องเมื่อไหร่ ให้อยู่ก็ต้องอยู่ หากไม่อยู่ก็ต้องกลับมา เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีการพูดคุยถึงกรณีที่ทาง กกต. มีมติให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาฯหรือไม่ นายพงษ์เทพตอบว่าไม่มีการคุยกัน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณจะยุติบทบาททางการเมือง และให้ไปดำเนินการกันเอง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่สมาชิกพรรคพลังประชาชน เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกลัวการแทรกแซงของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายพงษ์เทพตอบว่า ไม่มีการแทรกแซง พ.ต.ท.ทักษิณ มั่นใจว่าสามารถที่จะพิสูจน์ตนเองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับห้องพักของ พ.ต.ท.ทักษิณที่โรงแรมเพนนิซูล่านั้น มีการจองพักตั้งแต่ชั้น 33-35 แบบเหมาทุกห้อง รวมทั้งหมด 11 ห้อง ซึ่งเป็นห้องสูทอย่างดี โดยมีค่าเช่าห้องละ 1.6 แสนบาท/คืน โดยมีการจองไว้ทั้งสิ้น 14 วัน

ที่ผ่านมาครอบครัวเจ็บปวดมาตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยนั้น เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา อดีต ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยประมาณ 30 คน ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศฮ่องกง โดยนัดพบกันที่ห้างสรรพสินค้าโอเชี่ยน มารีน่า โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้เล่าให้อดีต ส.ส.ฟังว่า ตื่นเต้นที่จะได้เดินทางกลับเมืองไทย ก่อนหน้านี้หมอดูทักว่า ก่อนออกเดินทางต้องให้เลือดตกยางออกถึงจะดี โดยให้นำเข็มมาทิ่มมือ แต่ไม่ทำถึงขนาดนั้น เพราะก่อนหน้านี้ไปเลื่อนเก้าอี้ แล้วล้อหลุดทับมือเลือดออก ก็คงถือว่าเข้าเกณฑ์กันได้ ทั้งนี้ 1 ปี 5 เดือนที่ผ่านมาคิดถึงบ้าน อยู่เมืองไทยสบายทุกอย่าง 

จากนั้นในเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำกับอดีต ส.ส.ไทยรักไทย พร้อมกับยกแก้วขอบคุณทุกคนที่มารับและเป็นห่วง โดยบอกว่าต่อไปจะใช้ชีวิตกับครอบครัว เพราะที่ผ่านมาครอบครัวเจ็บปวดมาตลอด ขณะที่ในช่วงเช้าวันที่ 28 ก.พ. พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางออกจากโรงแรมเวลา 05.45 น. เพื่อเดินทางมายังสนามบิน โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มเป็นพิเศษ และมีคนไทยมารอส่งขึ้นเครื่องบิน 

ชาวเชียงใหม่เฮ “ทักษิณ” ปิ๊กบ้าน

สำหรับบรรยากาศที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เต็มไปด้วยความคึกคักตั้งแต่ ช่วงเช้า บรรดาชาวบ้านต่างจับจ้องรออยู่หน้าจอโทรทัศน์ ในบ้านของตัวเอง บางส่วนก็พากันมารวมกลุ่มตามร้านน้ำชากาแฟ เพื่อดูข่าวการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะบรรยากาศในตลาดสดสันกำแพง บรรดาพ่อค้าแม่ค้ารวมทั้งชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ ต่างไชโยโห่ร้องดังลั่นด้วยความดีใจทันทีที่ข่าวโทรทัศน์ ถ่ายทอดสดช่วงสำคัญ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่จะก้มลงกราบพื้นดินหน้า สนามบิน บางคนที่ดูทีวีถึงกับร่ำไห้ออกมา ทุกคนพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจมากที่สุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเมืองไทย 

นายสุรชัย จันทรรัตน์ อายุ 54 ปี ประธานกลุ่ม พัฒนาอำเภอสันกำแพง เจ้าของร้านล้านนาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นญาติห่างๆของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า สมาชิกกลุ่มและพี่น้องชาวอำเภอสันกำแพงทุกคนต่างโห่ร้องดีใจกันใหญ่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเมืองไทย หลังจากเสร็จภารกิจ ในกรุงเทพฯ คงจะมากราบไหว้อัฐิบรรพบุรุษ ที่ตั้งอยู่ในวัดโรงธรรมสามัคคีแห่งนี้ เพราะหลายปีแล้วที่ พ.ต.ท. ทักษิณไม่ได้มากราบไหว้อัฐิบรรพบุรุษ ชาวอำเภอสัน-กำแพงทุกคนพร้อมให้การต้อนรับอย่างเต็มที่

รอต้อนรับกลับมาไหว้อัฐิบรรพบุรุษ

นายศรีมูล คันธา อายุ 75 ปี ครูของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยสอนหนังสือมาตั้งแต่ยังเด็ก เปิดเผยว่า ดีใจมากที่ลูกศิษย์คนโปรดกลับเมืองไทยมาสู้คดี หลังจากดำเนินเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยคาดว่า   พ.ต.ท.ทักษิณคงจะมา กราบไหว้อัฐิบรรพบุรุษที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพงแน่นอน  

นายเชย เตปิน อายุ 76 ปี เจ้าของร้าน “ดังเหมือนเดิม” ร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่ใน อ.สันกำแพง กล่าวว่า สนิท-สนมกับครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก พ่อของ พ.ต.ท.ทักษิณขายกาแฟอยู่ติดกับร้านของตน ใครไม่ อยู่ก็ฝากร้านช่วยดูแลกัน สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นเด็ก โรงเรียนเลิกก็มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำ เมื่อ พ.ต.ท. ทักษิณกลับมาเมืองไทยดีใจมากที่สุด อยากให้กลับมาตั้งนานแล้ว ที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลไหนแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้เท่ากับรัฐบาล  พ.ต.ท.ทักษิณ

ตำรวจพร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่

พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สภ.สันกำแพง กล่าวว่า ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับบ้านเกิดที่ อ.สัน-กำแพง ทางตำรวจคงจะรักษาความปลอดภัยให้เหมือนกับบุคคลสำคัญผู้อื่น พร้อมกับอำนวยความสะดวกให้อย่างดีที่สุด เช่นเดียวกับ น.ส.ศุภนิมิต วรกิตติ นายกเทศมนตรีตำบลสันกำแพง กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปกราบไหว้อัฐิบรรพบุรุษที่วัดโรงธรรมสามัคคีว่า ทางเทศบาลในฐานะเจ้าของพื้นที่คงจะจัดสถานที่พร้อมจะรองรับชาวบ้านที่คาดว่าจะเดินทางมาจำนวนมาก   ส่วนการ ต้อนรับเป็นเรื่องของชาวบ้านที่จะดำเนินการต่อไป 

ตั้งจอยักษ์ยิงสด “ทักษิณ” ทักทาย

ส่วนในตัวเมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านก็ให้ความสนใจ การถ่ายทอดสดการเดินทางกลับไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างนั่งจ้องรอดูหน้าจอทีวีตาไม่กะพริบ ตามตลาดสดหลายแห่งมีการติดตั้งทีวีไว้ให้ชมกันอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะที่ถนนหลังวัดพระสิงห์   ทางกลุ่มชมรมคนรักทักษิณได้ จัดตั้งเวทีขนาดใหญ่ยาวร่วม 20 เมตร พร้อมติดตั้งจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ไว้บนเวที เพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้ ชมภาพสดๆ ที่ทางแกนนำจะติดต่อผ่านระบบวีดิโอคอน-เฟอเรนซ์ ได้เห็นภาพ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวทักทายชาว เชียงใหม่ ในช่วงเวลาประมาณ 17.00-19.00 น. วันเดียวกันนี้ 

ประทับใจภาพก้มกราบแผ่นดิน 

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ความรู้สึกชาวเมืองเชียงใหม่ ที่ได้ดูข่าว พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับไทย โดยนางดาวเรือง แก้วสมทรัพย์ อายุ 59 ปี ชาวบ้าน ต.หนองหอย เล่าอย่างตื้นตันใจว่า ช่วงที่เห็น พ.ต.ท.ทักษิณก้มลงกราบแผ่นดิน พวกตนนั่งดูอยู่ถึงกับน้ำตาไหล เป็นสิ่งที่งดงามสุดยอดแห่งความภาคภูมิใจที่สุด เฝ้ารอข่าวมาตลอดทั้งเดือน ด้วยรักและเป็นห่วงอดีตนายกฯคนนี้ที่สุด

นางศรีบุตร ไชยพัฒน์ อายุ 72 ปี เปิดเผยความรู้สึกว่า เป็นภาพที่น่าเอ็นดูและประทับใจมาก ท่านเป็นคนที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างแท้จริง ชั่วชีวิตของตนเพิ่งจะมาเคยจับเงินหมื่นในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าตั้งแต่ ประเทศไทยมีนายกฯ ไม่มีใครสู้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เลย แต่ ถ้าถามว่า อยากจะให้กลับมาเป็นนายกฯอีกหรือไม่ ขอบอกว่าไม่อยากให้เป็นแล้ว เพราะเกรงว่าคนดีๆอย่างท่านจะถูกปองร้าย รู้สึกเป็นห่วงมาก

“ทักษิณ” ไปสักการะพระศพพระพี่นาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.30 น. ค่ำวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยครอบครัว ได้เดินทางมาร่วมพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 29 ก.พ.นี้ ที่ทางทีมงานของอดีตนายกฯได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า เวลา 09.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จากนั้นในเวลา 16.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปเปิดโครงการคลินิกสอนการเล่นฟุตบอล ให้แก่เยาวชนไทยรุ่นอายุ 12-15 ปี ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก โดยจะมี 2 นักเตะของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือแคสเปอร์ ชไมเคิล ประตูสำรองของทีม และเคลวิน เอตูกู กองหลังชื่อดัง มาร่วมสอนให้ โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับมูลนิธิไทยคม




ศูนย์รวมข่าว คนสำคัญ คดีสำคัญ สำคัญ ๆ จากนสพ.รายวัน ฯลฯ

คดี พธม.ล่าสุด 13 พ.ค.2553
แดงชุมนุมใหญ่ 27 มิ.ย.2552
ไทยรัฐ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ มรณภาพสิริอายุได้ 100 ปี [19 ก.ค. 51 - 18:21]
พศ.ชงกฎหมายเอาผิด แต่งกายเลียนแบบพระ-ปลุกเสก [2 ก.ค. 51 - 04:39
กกต. มีมติยกคำร้องคดีนอมินี เหตุไม่มีกม.รองรับ
มหาประชาชนประกาศต้านสนธิ-จำลอง ทุกนัด
ประชุมเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด 400 สำนัก
175 years Thai-American relation
จตุคามรามเทพเสื่อมความนิยมแล้วเททิ้งข้างถนนนับแสนองค์
พระเล่นไฮไฟว์ทางอินเทอเนต นัดสาวไปพบที่วัด
แกนนำอาร์เคเคแห่มอบตัวสู้คดี
พระธุดงค์ถูกยิงมรณภาพ สกลนคร
แหกห้องขังคดีความมั่นคง ยะลา
บึมรถฮัมวี่ ทหารตาย 8 ตัดหัวไป1 ชุดคุ้มครองครู อ.จะแนะ นราธิวาส
บึมส์ถล่มบุตโต ตายเกลื่อน 20 ศพ
จำคุกประชัย เลี่ยวไพรัช หน.พรรคมัชฌิมาธิปไตย
จำคุกสนธิ ลิ้มทองกุล 3 ปีไม่รอการลงอาญา ฐานหมิ่นทักษิณ
รายงานจาก กกต. ผลการเลือกตั้ง 2550
เวบไซท์ทำเนียบขาวขอให้ไทยเลือกตั้งโดยยุติธรรม



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----