เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 ม.ค. ขณะ ร.ต.อานนท์ บุญธรรม ผบ.มว.ร้อย ร.2923 ฉก.นราธิวาส 34 อ.จะแนะ จ.นราธิวาส หัวหน้าชุด รปภ.ครู นำกำลังพลรวม 12 นาย ใช้รถยนต์ฮัมวี่ และรถ จยย.อีก 2 คัน กลับจากทำหน้าที่คุ้มครองครูไปส่งโรงเรียนลาดตระเวนมาตามเส้นทางสายบ้านรือเปาะบ้านกาแย ถึงหมู่ 4 บ้านรือเปาะต.ดุซงญอ อ.จะแนะ กลุ่มคนร้ายประมาณ 20 คนที่ดักซุ่มในป่าข้างทางได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องบรรจุถังน้ำยาเคมีดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 20 กก. ที่ฝังไว้ใต้พื้นถนนระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้รถยนต์ฮัมวี่กระเด็นถึงกับกระเด็นลอยขึ้นไปสูงหลายเมตรก่อนตกลงมากระแทกพื้นพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าพังยับเยิน
ปรากฏว่าอานุภาพความรุนแรงของระเบิดทำให้ ร.ต.อานนท์กับทหารในรถทั้ง 8 นาย ร่างกระเด็นหลุดออกจากรถมานอนเกลื่อนถนนบาดเจ็บเลือดอาบร่างนอนร้องครวญคราง ขณะเดียวกัน คนร้ายสบโอกาสเห็นเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไม่มีโอกาสต่อสู้ จึงพากันกรูออกมาจากที่ดักซุ่มตรงเข้าใช้อาวุธปืนอาก้ากับปืนเอ็ม 16 จ่อยิงซ้ำเข้าศีรษะและใบหน้าอย่างเลือดเย็นทีละคนเสียชีวิตทารุณทั้ง 8 นาย นอกจากนี้ คนร้ายยังแสดงความป่าเถื่อนใช้มีดตัดคอเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่ง แล้วนำศีรษะมาโยนทิ้งไว้ข้างรถฮัมวี่อย่างสยดสยอง จากนั้นได้ยึดเอาอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 8 กระบอก ปืนเอ็ม 60 หนึ่งกระบอก และปืนพก 11 มม. อีก 1 กระบอกหลบหนีไป
ต่อมา พล.ต.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้รับรายงานพร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ท.กานต์นาท นิกรยานนท์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 34 พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ชลอ ยวนเกิด ผกก.สภ.จะแนะ นำกำลังทหาร ตำรวจ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เหยี่ยวดง นปพ.ภ.จ.นราธิวาส รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ฮัมวี่ถูกระเบิดพลิกหงายท้องกลางถนน และศพทหารประจำรถถูกสังหารทารุณนอนตายเกลื่อน 8 ศพ พบหลุมระเบิดกว้าง 1.50 เมตร ลึก 1 เมตร กับปลอกกระสุนปืนอาก้าและปืนเอ็ม 16 ตกกระจายเกลื่อน ส่วนในป่าข้างทางพบระเบิดเคโมน้ำหนัก 7 กก.ต่อสายไฟฟ้าไว้เรียบร้อยแล้วอีก 1 ลูกจึงเก็บกู้ไว้ได้
สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารที่ถูกคนร้ายวางระเบิดถล่มและจ่อยิงซ้ำพลีชีพทารุณทั้ง 8 นายครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. ร.ต.อานนท์ บุญธรรม หัวหน้าชุด 2. จ.ส.อ.สมจิตร ทิวพุ่มพฤกษ์ 3. จ.ส.อ.พงษ์ศักดิ์ จันทร์มาลา 4. จ.ส.อ. บุญธรรม นิลสนธิ 5. ส.ท.วัชระ วัตตโนทัย 6. ส.ต.ประชุม ขอประกลางชัย พลขับรถฮัมวี่ 7. พลทหารสมปอง กมลช่วง และ 8. พลทหารอุทิศ ปานมาตร หลังเกิดเหตุ พล.ต. ธีรชัย นาควานิช ผบ.ฉก.นราธิวาส นำกำลังทหาร ตำรวจ และ ตชด.300 นาย กระจายกำลังติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่หลบหนีขึ้นไปบนเทือกเขารือเปาะ และเข้าตรวจค้นในหมู่บ้านใกล้เคียงที่คาดว่าคนร้ายหนีไปหลบซ่อน โดยใช้ สุนัขดมกลิ่นในการค้นหา แต่ยังไม่พบวี่แวว
ด้าน พ.ท.กานต์นาท นิกรยานนท์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 34 เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารที่เสียชีวิตทั้ง 8 นาย และที่รอดชีวิต 4 นาย รวม 12 นาย ออกลาดตระเวนเส้นทาง รปภ.ครู ซึ่งในการลาดตระเวนมีการเปลี่ยนเส้นทางตลอดเวลา เพื่อป้องกันถูกลอบโจมตี แต่คนร้ายดักทำร้าย สบโอกาสกดชนวนระเบิดที่ฝังดักไว้และยิงซ้ำทำให้ทหารในรถยนต์ฮัมวี่เสียชีวิตทั้ง 8 นาย ส่วนทหารอีก 4 นายขี่รถ จยย. 2 คันนำหน้ารถยนต์ฮัมวี่ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือเพื่อนทหารได้ เนื่องจากถูกยิงถล่มอย่างหนัก
ส่วนกรณีนายนัสรีย์ หรือมาโซ มือลี หัวหน้าหน่วยรบพิเศษขบวนการโจรก่อการร้ายบีอาร์เอ็น นายอารง ดือราแม นายอาทริ เจ๊ะเล๊าะ นายอาหามัด สะรีสาเมาะ นายนิซายูตี นิแม และนายนอรอดิง บินบือราเฮง 6 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงแหกที่คุมขัง สภ.ตันหยง อ.เมืองนราธิวาส หลบหนีเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ระดมกำลังติดตามไล่ล่า แต่ยังไม่พบวี่แวว
ด้าน จ.ยะลา เมื่อเวลา 08.00 น. ขณะ ส.อ.จิระวัฒน์ พัฒนมณี หน.ชป.ร้อย ร.1542 สังกัด ร.15 พัน 2 ค่ายวชิราวุธ อ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลังเดินเท้าลาดตระเวนเส้นทางสาย 4077 ยะหา-บันนังสตา ถึงบริเวณเชิงสะพานบ้านอุเบ็ง หมู่ 4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังดักไว้ใต้พื้นถนนเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จากนั้นใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงถล่มซ้ำจนเกิดปะทะกันขึ้น ขณะเดียวกัน ร.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ร้อย ร.1542 ตั้งฐานที่ ร.ร.บ้านท่าละมัย ได้ยินเสียงปืน นำกำลังเข้าสนับสนุนยิงปะทะกับคนร้ายจนล่าถอย พบเจ้าหน้าที่ทหารถูกแรงอัดระเบิดบาดเจ็บ 2 นายทราบชื่อพลทหารพิภพโชค ชูยงค์ อายุ 21 ปี และพลทหารมะตอเฮ แฉะ อายุ 22 ปี นำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ส่วนคนร้ายคาดเป็นกลุ่มนายมะกะตา หะมะ แกนนำโจรค่าหัว 2 ล้านบาท ที่เคยพาพวกยิงถล่มรถตู้โดยสารสายเบตง-หาดใหญ่ ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตไป 8 รายเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 01.00 น. คนร้ายได้ลอบวางเพลิงเสาทวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่บ้านพงลูกา หมู่ 3 ต.ยะหา อ.ยะหา และที่บ้านบาลอ หมู่ 1 ต.บาลอ อ.รามัน เสียหาย 3 จุด ทำให้ระบบโทรศัพท์มือถือล่มทุกระบบ ขณะเดียวกัน คนร้ายยังเผายางรถยนต์บนถนนสาย 410 ยะลา-เบตง บ้านบูโละสะนิแย หมู่ 4 ต.บ้านแหร อ.ธารโต และนำกล่องต้องสงสัยไปวางบนถนนสายยะลา-ลำใหม่ รวม 4 จุด และที่บ้านพะบูเงาะ หมู่ 1 ต.เกะรอ อ.รามัน อีก 2 จุด เจ้าหน้าที่ไปเก็บกู้ พบภายในบรรจุทรายและเปลือกข้าวโพด ต่อมาเวลา 09.00 น. พ.ต.ท.สุวิทย์ ลายเจียร สว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ยะลา นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายหลายจุดที่บ้านลางา และบ้านบาโงยบาแด หมู่ 5 ต.สะเตงนอก ไม่พบบุคคลเป้าหมาย
ส่วน จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 01.00 น. คนร้ายได้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี หลายจุด จุดแรกขี่รถ จยย.นำประทัดยักษ์ ตระเวนโยนใส่และเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะได้รับความเสียหาย 8 แห่ง โดยเฉพาะที่บริษัทอ๊อกซิเจน จำกัด ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.ตะลุโบะ คนร้ายลอบวางระเบิดแท่นอัดออกซิเจนทำให้ถังออกซิเจนกว่า 100 ถัง ถูกแรงระเบิดล้มกระจายเกลื่อน นอกจากนี้ ยังทุบกระจกรถบรรทุก 6 ล้อ แล้ววางระเบิดในห้องโดยสารได้รับความเสียหาย
ขณะเดียวกัน คนร้ายได้ลอบวางเพลิงตู้โทรศัพท์บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านคูระ หมู่ 2 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน เสียหาย กับเผายางรถยนต์กับตัดต้นไม้ขวางถนนและโปรยตะปูเรือใบบนถนนสาย 410 บ้านไผ่-บ้านปรีกี ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง ทำให้รถยนต์ชาวบ้านแล่นทับเสียหายไปหลายคัน นอกจากนี้ ยังลอบเผาสายโทรศัพท์ริมถนนสาย 4060 กะพ้อ-สายบุรี หมู่ 4 ต.กะรูบี อ.กะพ้อ กับเผาเสาทวนสัญญาณโทรศัพท์ดีแทค ริมถนนเพชรเกษม หมู่ 2 ต.มะกรูด และริมถนน ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ ได้รับความเสียหาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ต้องหาก่อความไม่สงบแหกคุกหลบหนีที่ จ.นราธิวาส ว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ปกติหากผู้ต้องหาหลบหนีจากที่ควบคุมจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน อยู่แล้ว ส่วนเรื่องการก่อเหตุร้ายได้ดูจำนวนครั้งที่เกิดเหตุพบว่าลดลง เนื่องจากมีผู้ให้ข้อมูลข่าวสารกับเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่าจะมีการวางระเบิดชุดคุ้มครองครูและสามารถเก็บกู้ไว้ได้ อีกทั้งมีประชาชนสมัครใจให้ความร่วมมือในการถอนคำสาบานต่างๆ จึงชี้ให้เห็นว่าสามารถทำงานจนเกิดความเข้าใจ และชาวบ้านให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในอนาคตอาจจะมีความสงบเกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารถูกลอบโจมตีเสียชีวิต 8 นาย ที่ จ.นราธิวาส ถือเป็นการตบหน้า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่เพิ่งกลับจากลงไปตรวจพื้นที่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ คงไม่ได้เป็นการสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นโดยทันที แต่เป็นเรื่องที่สามารถจะเกิดขึ้นได้
ต่อข้อถามกรณีที่มีทหารบางคนนำข้อมูลไปขายให้กับผู้ก่อการร้าย พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานมานานแล้ว เป็นเรื่องของการสอบสวนที่จะต้องดำเนินงานต่อไป โดยปกติในอาชีพทหารจะต้องระวังในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ซึ่งมีหน่วยต่อต้านข่าวกรองอยู่แล้ว หากมีสถานการณ์ความขัดแย้ง และมีการดำเนินการณ์ในเรื่องต่างๆ จึงต้องระมัดระวัง เพราะฝ่ายตรงข้ามจะใช้ ข้อมูลของเราในลักษณะเช่นนี้ได้ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่จะต้องมีการตรวจสอบ |