คอลัมน์ พิเศษ
วิบูลย์รัตน์ กัลยาณวัตร
1. พระพุทธรูปปางเหยียบโลก
2 ปัญหาความไม่เป็นธรรม สมณศักดิ์ไม่ควรเป็นภาพลบวงการสงฆ์
อย่างพระพุทธรูปที่วัดพระธรรมกาย มองอย่างไรก็ไม่เหมือนวัดอื่น ๆ
การตั้งสมณศักด์ไม่ยุติธรรม : มหานิกาย-ธรรมยุต, ในกรุง-ในชนบท
แม้แต่พระพุทธรูปก็มีปัญหา ?
พระพุทธรูปปางเหยียบโลก
โดยวิบูลย์รัตน์ กัลยาณวัตร
อยู่ ๆ พระพุทธรูปปางเหยียบโลกวัดสนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ก็มาเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์จนได้ ทั้ง ๆ ที่ได้สร้างพระพุทธรูปปางนี้มานานหลายปีแล้ว
ถ้าเราจะตั้งข้อสังเกตสักหน่อยคงพอจะจำได้ คือเมื่อหลายปีมาแล้ว มีวัด ๆ หนึ่งที่อำเภอสนามชัย เขตจังหวัดฉะเชิงเทรานี้เองแหละ พระอาจารย์ซ้วน ซึ่งได้ข่าวว่ามรณภาพแล้ว ได้สร้างศิวลึงก์และโยนี(เครื่องหมายเพศชาย-หญิง)ใหญ่เท่าโอ่งมังกรและมีน้ำมนต์ไหลออกมาไม่ขาดสาย มีผู้คนมีศรัทธาหลั่งไหลไปกราบไหว้และเอาน้ำมนต์ไปดื่มกินมากมาย จนเป็นข่าวครึกโครมกระเทือนวงการพุทธศาสนาและคณะสงฆ์มาแล้ว ยังมีความเชื่ออยู่ว่า คงอีกไม่นานนักพระสงฆ์หรือวัดในเขตจังหวัดฉะเชิงเทราจะมีอะไรแปลก ๆ ขึ้นอีก และที่สื่อมวลชนคงจะได้ประโคมข่าวอีกไป เป็นการคลายเครียดได้อย่างดี
ท่านพระครูเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์กล่าวว่า ที่สร้างพระพุทธรูปปางเหยียบโลกนี้ขึ้น เพราะท่านทำสมาธิกรรมฐานแล้วเกิดนิมิตรให้ทำอย่างนี้ ดูเหมือนท่านจะเป็นนักกรรมฐานเสียด้วย ปรากฎว่ามีการพัฒนาวัดให้เจริญก้าวหน้าพอสมควร แสดงว่ามีประชาชนให้ความศรัทธาเลื่อมใส
ปัญหามันมีอยู่ว่า พระพุทธรูปปางเหยียบโลกนี้ ผิดแผกแปลกประหลาดจากที่เคยสร้างมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงทำให้พุทธศาสนิกชนกลุ่มหนึ่งไม่สบายใจ แต่ญาติโยมวัดสนามจันทร์ผู้ได้ผลประโยชน์จะต้องพอใจแน่
พระเถระผู้ใหญ่ในกรรมการมหาเถรสมาคมบางรูปให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า ไม่เป็นการสมควร ไม่เห็นด้วย แต่จะให้ทำอย่างไรกับกรณีต่อไปท่านไม่ได้แสดงความคิดเห็น
นายจำรัส สุดานิช รองอธิบดีกรมการศาสนาและคณะเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาที่ออกไปตรวจสอบสถานที่ ก็ไม่แสดงความคิดเห็นตรง ๆ ว่าจะให้ทุบทิ้งหรือจะเอาความผิดอย่างไร เพียงแต่บอกว่าจะรายงานเสนอรัฐมนตรีและมหาเถรสมาคมเท่านั้น
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอยากจะแก้ไขเป็นอุ้มโลก คือ ทำลูกโลกให้พระพุทธรูปอุ้มเอาไว้ดูจะมองดูเหมาะสมกว่าอะไรทำนองนั้น ส่วนนายอาคม เอ่งฉ้วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการซึ่งรับผิดชอบกรมการศาสนา ที่เต้นตามกระแสข่าวว่าจะต้องให้ทุบทิ้งและถึงบังคับเจ้าอาวาสสึกนั้น ยังไม่แสดงความคิดเห็นอะไรอีกเลย ก็คงเหมือนวัดลาดพร้าวนั่นแหละ ให้สัมภาษณ์ทีไรคำหนึ่งก็ให้สึก สองคำก็ให้สึก แต่เอาเข้าจริง ๆ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย
พระมหาเจิม สุวโจ แห่งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นน่ารับฟังว่าเวลานี้ยังไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบเกี่ยวกับสร้างพระพุทธรูป กรมศิลปากร กรมการศษสนาและคณะสงฆ์ควรได้ร่วมปรึกษาหารือกันได้แล้ว เพื่อหามาตรการในการสร้างพระพุทธรูปให้เป็นรูปแบบตายตัวต่อไป
โดยที่การสร้างพระพุทธรูปเกิ ดขึ้นหรือมีขึ้นหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานนานแล้ว คนออกแบบก็ไม่เคยพบเห็นพระพุทธเจ้า คือเกิดไม่ทันพระพุทธเจ้านั้นเอง จึงคิดสร้างขึ้นตามจินตนาการตามพุทธประวัติ
พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพานยาวนานถึง 80 ปี พระพุทธเจ้าจึงมีอิริยาบถต่าง ๆ มากมาย ช่างศิลป์จึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นให้เห็นภาพในอิริยาบถนั้น ๆ พระพุทธรูปจึงมีปางต่าง ๆ ดังที่เราเห็นทั่วไป
แน่นอนที่สุดว่า พระพุทธรูปไทยจะไม่เหมือนพระพุทธรูปเขมร ลาว พม่า เท่าไรนัก ยิ่งเป็นของจีน ญี่ปุ่น ก็ยิ่งแตกต่างกันออกไป
ถามว่าของใครถูกต้องที่สุด? มันตอบไม่ได้ ลังกา พม่า เขามาเห็นพระพุทธรูปไทยเขาอาจจะพูดว่าไม่มีพุทธลักษณะเลยก็ได้ พระพุทธรูปเขมรมองอย่างไรก็ไม่เหมือนของไทย อย่างพระพุทธรูปที่วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานีที่สร้างขึ้นในยุคหลัง ๆ มานี้ มองอย่างไร ๆ ก็ไม่เหมือนที่วัดอื่น ๆ ก็ไม่เห็นคนว่าติเตียนหรือท้วงติงแต่อย่างใด เห็นแต่แห่ไปกราบไหว้ล้นฟ้ามัวดิน
ผู้เขียนขอร้องให้มีหน่วยงานดูแลรับผิดชอบเรื่องการสร้างพระพุทธรูปโดยด่วน เพื่อจะได้เป็นรูปแบบเดียวกันเพราะสมัยนี้คนศึกษาเล่าเรียนด้านวิชาช่างศิลป์กันมาก สามารถที่จะปั้นจะหล่อให้มีรูปเป็นอย่างไรก็ได้ เกิดถ้ามีคนอุตริสร้างพระพุทธรูปปางเตะฟุตบอล คงยุ่งกันใหญ่ และถ้าเขาอ้างว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญใครจะทำไม ? ๚
สมณศักดิ์ไม่ควรเป็นภาพลบวงการสงฆ์
โดยวิบูลย์รัตน์ กัลยาณวัตร
ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสในกรุงเทพมหานครมีหน้าที่การงาน
และมีความรับผิดชอบมากมายอะไรนักหรือ?
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2541 ทีมข่าวการศึกษาและศาสนา ได้นำเอาเรื่องการตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์มาเสนอผู้อ่านเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ผู้เขียนเห็นด้วยทุกประการเพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นมาและเป็นอยู่ทุกปี แต่ผู้เขียนยังเห็นว่า ทีมข่าวการศึกษาและศาสนาไทยรัฐยังไม่ได้เขียนถึงอยู่ 2 ประเด็น คือ .-
ประเด็นที่ 1 การพระราชทานตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์แต่ละปีนั้น จะมีพร้อมกันทั้ง 2 นิกาย คือมหานิกายและธรรมยุต ซึ่งความปรากฎว่า มีความได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่ในตัว แต่น้อยคนที่จะคิดในเรื่องนี้
จากสถิติข้อมูลตัวเลข วัดฝ่ายธรรมยุตมีน้อยกว่าฝ่ายมหานิกายหลายเท่า จำนวนวัดทั่วประเทศประมาณ 3 หมื่นวัด วัดธรรมยุตมีไม่ถึง 3 พันวัดด้วยซ้ำ จึงเป้นการแน่นอนว่าพระภิกษุสงฆ์ฝ่ายมหานิกายมากกว่าหลายเท่า
ในการพิจารณาขอพระราชทานตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์ตั้งแต่พระครูสัญญาบัตรขึ้นไปถึงพระราชาคณะชั้นไม่สูง ให้สิทธิอำนาจตามนิกาย คือฝ่ายมหานิกายก็พิจารณาฝ่ายมหานิกาย ธรรมยุตก็พิจารณาฝ่ายธรรมยุต แม้ขั้นสุดท้ายจะนำเข้าสู่อนุกรรมการและมหาเถรสมาคมก็ตาม โดยปรกติจะให้เกียรติกันและกัน จะไม่มีการก้าวก่ายหรือคัดค้านกันแต่อย่างใด
ผลที่ปรากฎออกมาแต่ละปีปรากฎว่า เมื่อคิดโดยอัตราส่วนแล้ว ฝ่ายธรรมยุตจะได้มากกว่าตลอดมา
ผู้เขียนได้ทราบมาแต่ไม่ยืนยันว่าท่านได้ตกลงกันไว้ว่า 1 ต่อ 2 คือถ้าธรรมยุตได้ 1 มหานิกายต้องได้ 2 ถ้าไม่คิดอะไรมากจะรู้สึกว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้านำตัวเลขจำนวนพระภิกษุสงฆ์มาเปรียบเทียบกัน การแบ่งอัตราส่วนข้างต้นไม่ยุติธรรมเลย เพราะฝ่ายมหานิกายมากกว่าตั้งหลายเท่า ขนาดแบ่งโควต้า 1 ต่อ 4 ก็ยังอาจจะน้อยไป ถ้าเรื่องนี้มีการตกลงกันไว้จริง สมควรได้รับการแก้ไขเสีย เพื่อให้มหานิกายได้มีโควตาเพิ่มขึ้นและสมดุลกัน
ประเด็นที่ 2 พระสงฆ์ในหัวเมืองซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้รับการพิจารณาให้น้อย ดังจะเห็นได้ว่า ตามหัวเมืองหรือต่างจังหวัดมีพระราชาคณะเพียงรูปสองรูปเท่านั้น บางครั้งบางจังหวัดไม่มีพระราชาคณะเลย ทั้ง ๆ ที่พระสงฆ์ในต่างจังหวัดก็ล้วนมีตำแหน่งในทางปกครอง เป็นเจ้าคณะอำเภอ เป็นรองเจ้าคณะจังหวัด เป็นเจ้าคณะจังหวัด และมีอายุพรรษามาก ๆ แล้วด้วย บางท่านดำรงตำแหน่งมาตามลำดับตั้ง 10-20 ปีหรือมากกว่านื้ ผลงานต่าง ๆ ย่อมมีมากมาย
แต่พระภิกษุสงฆ์ในวัดในกรุงเทพมหานคร มีตำแหน่งเป็นเพียงผู้ช่วยเจ้าอาวาสเพียงไม่กี่ปี ท่านพิจารณาตั้งหรือเลื่อนสมณศักดิ์กันมาก ดังจะเห็นได้ว่าบางวัดมีพระราชาคณะตั้ง 5-6 รูป มีพระครูสัญญาบัตรตั้ง 10 รูปหรือมากกว่านี้ก็มี
ถ้าจะถือว่าเป็นวัดพระอารามหลวงหรือวัดใหญ่ก็จริงอยู่ แต่ไม่มีวัดไหนจะมีพระภิกษุสามเณรมากเท่าทั้งอำเภอและจังหวัด เจ้าคณะอำเภอบางอำเภอปกครองดูแลวัดเป็นจำนวนนับร้อยวัด ปกครองดูแลพระภิกษุสามเณรจำนวนนับพันรูป เจ้าคณะจังหวัดปกครองดูแลพระภิกษุสามเณรนับหมื่นรูปก็มี รับผิดชอบหน้าที่การงานมากมาย
แล้วตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสในกรุงเทพมหานครมีหน้าที่การงานและมีความรับผิดชอบมากมายอะไรนักหรือ?
อาจเป็นไปได้ที่ว่า พระสงฆ์ในหัวเมืองไม่มีเส้นไม่มีสาย และไม่มีลาภปัจจัยพอที่จะทำบุญถวายให้มาก ๆ ได้ ซึ่งพฤติกรรมทำนองนี้แหละเป็นภาพลบในวงการสงฆ์ตลอดมา ๚