ดอกไม้ป่าสีน้ำเงิน
· โดยจักร สุธาธรรม

ณ ซุ้มไม้ดอกเขียวครึ้ม ใกล้โรงงานใหญ่โตมหึมาแห่งนั้น หญิงชายคู่หนึ่ง อยู่กันตามลำพังมาตั้งแต่ช่วงบ่ายอ่อน ๆ จนเย็นค่ำแล้วบัดนี้ ก็ยังไม่ขยับเขยื้อน ฝ่ายชายขอแต่งงานกับฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายหญิงกลับขอร้องให้ไปเสียจากเธอ
“ลองบอกสิ่งที่อยู่เบื้องลึกแห่งห้องจิตใจของคุณให้ผมฟังบ้างจะได้ไหม เพราะถึงอย่างไรผมก็คงจากคุณไปไม่ได้ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมจะขออยู่เคียงข้างคุณตลอดไป แม้เวลาจะยืนยาวไปชั่วชีวิต จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับมวลสมาชิกสหกรณ์การเกษตรที่นี่ไปตลอดกาล แต่ว่า เหตุผลอะไรที่อยู่เบื้องลึกของหัวใจคุณ บอกให้ฟังสักนิดจะได้ไหม?” ฝ่ายชายขอร้อง
“เรื่องพี่ชายของดิฉัน คุณวัลลภพ ผู้ที่จากไป นั่นเอง ดิฉันได้เคยเล่าให้คุณฟังบ้างแล้ว ตั้งแต่แรก ๆ ที่เรารู้จักกัน"
“คุณยืนยันว่า เขาจะต้องกลับมาก่อนหรือ ?”
“ไม่ !!!! แม้ว่าเขาเป็นผู้สร้างเมืองเกษตรกรที่นี่"
“คุณคิดหรือว่า เรื่องราวที่เกี่ยวกับพี่ชายของคุณนั้น จะสามารถเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง จนป่านนี้แล้วยังมิได้ข้อสรุปหรือว่า เขานั้นคงไม่กลับคืนมาอีกแล้ว”
“เรื่องเหล่านั้นแหละ เราถือว่าเป็นความลับสุดยอดสำหรับเราสองพี่น้อง ที่คนอื่นไม่สามารถจะเข้าไปรับหรือล่วงรู้ได้ จะไม่มีใครสามารถเข้าใจพวกเราได้ เพราะเหตุนี้ ดิฉันจึงขอร้องให้คุณไปเสียจากดิฉันเถิด คุณมิใช่ผู้ชายคนแรกของดิฉัน อย่างน้อยก็มีผู้ชายถึงสามคนที่ผละจากไปก่อน ขณะนี้ดิฉันเองก็เป็นเพียงหญิงวัยดึกคนหนึ่ง และอีกไม่นานแล้วดิฉันก็จะเป็นเพียงหญิงผู้ชราภาพคนหนึ่งเท่านั้นเอง คุณ ปิยมโน จงทิ้งดิฉันไปเถิด และรวมทั้งทิ้งแผ่นดินที่นี่ ทิ้งประชาชนที่นี่ไปเสียให้ห่างไกลเถิด เพื่อตัวของคุณเอง”
“ผมทำไม่ได้ดอก วัลลภา คุณน่าจะรู้ว่าผมทำไม่ได้ ผมได้เห็นแล้วว่าที่นี่มีคุณเพียงคนเดียว คุณต้องลำบากเพียงไร ในสถานการณ์การต่อสู้ ในการบริหารงานเพื่อผืนแผ่นดิน เพื่อประชากร ที่นี่ และเพื่อดำรงคุณธรรมและวัฒนธรรมแห่งผืนแผ่นดินพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่ที่นี่ คุณต้องการผู้ช่วย ผู้ที่มีฝีมือ ผู้ที่เข้าใจในการบริหาร รอบรู้กิจการตลาด รอบรู้แนวทางวิชาการด้านการเกษตรรอบด้าน และมีพลังความสามารถจึงจะดำเนินกิจการสหกรณ์พนมเพชรรุ้งที่นี่ต่อไปด้วยดีทันสถานการณ์โลกได้ และผมก็คือคนผู้นั้น ทำไมเราไม่ช่วยกันแก้ปัญหาเล่า ผมขอเสนอว่า ผมควรจะติดตามพี่ชายของคุณไป ดูให้รู้แจ้งเห็นจริงว่า เขาอยู่อย่างไร ที่ไหน ได้รับความสุขความทุกข์เป็นประการใดบ้าง เราควรนำตัวเขากลับมา มาสร้างผืนแผ่นดินที่นี่ สร้างประชากรที่นี่ และสร้างสิ่งที่คุณเองปรารถนา คือสร้างคุณธรรมวัฒนธรรมการเกษตร และรากลึกแห่งมโนธรรมขึ้นที่นี่”
“จะเป็นการเปล่าประโยชน์ เพราะพี่ชายของดิฉันเขามีความปรารถนาที่เร้นลับไปกว่าความมั่งคั่งของผืนแผ่นดินที่คุณว่านั้น เขาไม่ต้องการเช่นนั้นเลย สิ่งที่เขาต้องการคือการสละละทิ้งผืนแผ่นดินและประชาชนที่นี่ไป และแสวงหา........”
“แสวงหาอะไร...... นางฟ้าซาตาน ที่ออกมาจากดอกไม้ป่าสีน้ำเงิน อย่างที่เล่าให้ฟังนั้นหรือ ? ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้นะ”
“คุณยังรู้จักพี่ชายของดิฉันไม่ดีพอ เอาละก่อนตะวันจะตกดินลงไปในวันนี้ ดิฉันจะเล่าให้คุณฟังว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร”
“ข้างหน้าพวกเราที่เห็นอยู่ คือดงของดอกไม้ป่าชนิดหนึ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมดถึง 200 ไร่ ตระกูลเดิมของมันเป็นดอกไม้ที่อ่อนแอ และไร้คุณค่า วัลลภพ พี่ชายของดิฉัน นักพฤกษศาสตร์ชาวไทย ที่มีชื่อเสียงก้องโลก ได้นำดอกไม้ป่าชนิดนั้นมาเลี้ยงเอาไว้ในกระถาง บำรุงเอาใจใส่อย่างใจจดใจจ่อ จนดอกไม้เติบใหญ่ ลำต้นแข็งแรง ออกดอกสีน้ำเงินขนาดใหญ่งามกว่าเก่า และทั้งมีกลิ่นหอมเย็นประหลาดอีกด้วย เขาก็ทดลองขยายพันธ์ออกไป จนสามารถผสมดอกเป็นสีต่าง ๆ ถึง 7 สี อันเป็นสีรุ้งกินน้ำ เขาจึงตั้งชื่อว่า ดอก รุ้งเจ็ดสี และแล้วในคืนวันหนึ่ง ก็มีเสียงออกมาจากหมู่ดอกไม้สีน้ำเงินเหล่านั้น บอกเขาว่า พวกเขาเป็นดอกไม้ในตระกูลอริยวงศ์ มีความศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์อยู่ในตัวเองแล้ว ขอร้องไม่ให้ทำอันตรายแด่ชาติพันธุ์ดั้งเดิมของพวกเขา พวกเขาต้องการดำรงพันธุ์ไม้ป่าสีน้ำเงินไว้ตลอดไปเท่านั้น พี่ชายดิฉันตกใจ ถามว่าจะให้ทำอย่างไร ดอกไม้ก็บอกว่า อย่าได้นำพวกเขามาอยู่ในกระถางเลย ขอที่ดินเป็นสวนอุทธยานสำหรับพวกเขาสัก 100 ไร่เถิด แล้วจักได้เห็นความวิเศษของตระกูลไม้ป่าสีน้ำเงินพวกนี้ พี่ชายดิฉัน และดิฉัน จึงยินยอมตามความปรารถนา ได้จัดสวนป่าเนื้อที่ให้ 200 ไร่ แล้วปลูกดอกไม้ป่าสีน้ำเงินพวกนั้น ตราบขยายพันธุ์กว้างใหญ่เป็นอุทธยานหรือเมืองของพวกเขาเอง ดั่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าเราบัดนี้แล้ว "ในขณะนั้น พี่ชายดิฉันอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า “สุสานพระอรหันต์” บทกวี ไวโอลิน และหนังสือเล่มนั้นแหละ กับ อุทธยานดอกไม้ป่าสีน้ำเงิน พวกนั้น ที่เป็นชีวิตชีวาหรือวิถีทางวัฒนธรรมของเขา ที่เป็นทั้งหมดของเขาในขณะนั้น”
“เหมือนเช่นคุณในขณะนี้ด้วยใช่ไหม?” เสียงแทรกขึ้นมา
“ดิฉันไม่อาจคิดว่าเหมือนเช่นเขา แต่คิด ว่าใกล้เคียงกับความเป็นเขาในขณะนั้น”
“เอาล่ะ เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร ?”
""นับตั้งแต่นั้น วัลลภพ ก็เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง เริ่มเก็บตัว วันหนึ่ง ๆ ได้แต่หมกตัวอยู่ในอุทธยานดอกไม้ป่าสีน้ำเงินเหล่านั้น ดิฉันจะพาคุณเข้าไปสู่บริเวณที่เป็นจุดศูนย์กลาง หรือราชธานี ของหมู่ไม้เหล่านี้ คืนนี้คืนข้างขึ้นแก่ ๆ มีแสงเดือนส่องสว่าง ถ้าคุณยินดีจะฟังเรื่องราวของพี่ชายดิฉันต่อ ก็จงตามดิฉันเข้าไปในสวนนู้นเถิด”
“ที่ ๆ เรานั่งอยู่บัดนี้แหละเป็นที่พี่ชายดิฉันเรียกว่า ประตูแห่งความหลุดพ้น พี่ชายดิฉันได้เห็นปรากฏการณ์พิเศษมหัศจรรย์ คือเทพธิดาแห่งดอกไม้ป่าที่นี่ แล้วหลงใหล ไม่เป็นอันกินอันนอน เป็นสตรีโฉมงามสคราญดุจเทพธิดาราตรี มีบริวารดุจนางฟ้าแวด ล้อมอยู่รอบด้าน พวกเธอเหล่านั้นเริงระบำลีลาศเลื่อน ไปมาในอุทธยานแห่งนี้ และตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมาเพียงตั้งจิตอธิษฐานเท่านั้นเอง เทพธิดาก็ปรากฏกายออกมาให้เห็น และ สามารถพูดคุยกับเขาได้ เขาปกปิดความจริงเหล่านี้ไว้ จนกระทั่ง 1 ปีต่อมา จึงออกจาริกไปแสวงหาแนวธรรมะแห่งความหลุดพ้น และหายสาบสูญไปจนกระทั่งบัดนี้ ”
“เขาวางเข็มมุ่งไปทางไหน ?”
“อุทธยานพุทธเกษตรพู้น เขาต้องการตามร่องรอยไปสู่ สุสานพระอรหันต์"
ทันใดนั้น ลมรำเพยกลิ่นหอมของดอกไม้ เสียงวู่ เพียงดังสายลมแล่นมาโดยเร็ว และแหวกมาในหมู่ไม้ เห็นเป็นทางลิ่ว ๆ หมู่ดอกไม้ทั้งหลายก็เอนระทวยไปตามแรงลมพัดผ่าน และแล้ว เทพธิดาดอกไม้ป่าสีน้ำเงินก็ปรากฏตัวขึ้น
เป็นร่างสาวงามระหง ในอาภรณ์ขาวบาง งามผ่องแผ้วบริสุทธิ์ ใต้แสงเดือนกระจ่าง แล้วบริวารแวดล้อมก็ปรากฏมาล้อมรอบข้าง เห็นเพียงเงาภูติพราย หญิงสาวตื่นตะลึง ชี้มือ
“นั่นอย่างไร เทพธิดาดอกไม้ป่าสีน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นแล้ว ปิยมโน คุณเห็นไหม เทพธิดา สวมอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ เธอกำลังส่งรอยยิ้มอันหวานชื่นมาให้เรา ปิยมโน คุณเห็นไหมเล่า?”
“เห็นซิ เห็นแล้ว เทพธิดาดอกไม้ป่าสีน้ำเงิน ดูซิ เธอเลื่อนละล่องไปมาอย่าง ร่าเริงเบิกบานไร้ทุกข์โศก โอ วัลลภา นี่คงไม่ใช่ความฝันหรอกนะ หวังว่าคงจะเป็นความจริง"
ในท่ามกลางความสงบสงัด และผืนดินชุ่มอันกว้างใหญ่ ที่เลี้ยงตฤณชาติและผกา พันธุ์ไม้ป่าสีน้ำเงินแดนนั้น ตกท่ามกลางแสงจันทร์อันกระจ่าง บรรยากาศที่อบอวลหอมหวลด้วยกลิ่นดอกไม้ เย็นระรื่นด้วยแรงลมที่อ่อนโยนเป็นระย ะ ๆ เทพธิดาดอกไม้ป่าสีน้ำเงิน ปรากฏสู่สายตาหนุ่มสาว ในอาการร่อนเริงระบำเพลินไปในระหว่างหมู่ไม้ดอก สีน้ำเงินเหล่านั้น
“ฉันอยากถามข่าวถึงพี่ชายของฉัน เธอพอจะบอกได้ไหมว่า เขาไปไหนและขณะนี้อยู่อย่างไร แม่เทพธิดารุ้งเจ็ดสี ผู้บริสุทธิ์และน่ารัก ?” วัลลภา นึกถามด้วยใจ และแล้วก็มีคำตอบมาอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
“เขาได้ไปสู่ทางประเสริฐแล้ว จงอย่าห่วงเขาเลย ห่วงแต่ตัวเองเถิด”
“เขาไปตามทางแห่งพระพุทธศาสนา ตามรอยบาทพระพุทธองค์หรือ? ถ้าฉันจะตามเขาไปบ้างจะได้ไหม ?”
“นั่นขึ้นอยู่กับเธอ จะต้องตีความในหนังสือ สุสานพระอรหันต์ ให้แตกฉานเสียก่อน”
"เธอยังจะอยู่กับเรานานสักแค่ไหนเล่า แม่เทพธิดาผู้น่ารัก?"
"โอ ฉันตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอก และพี่ชายของเธอก็เคยถามคำถามเดียวกันนี้มาก่อนแล้วคำตอบ มันอยู่ที่ตัวเธอเอง ตราบเท่าที่เธอต้องการ มันแล้วแต่เธอ"
คนคู่นั้นเพลินอยู่กับการเฝ้าชมการปรากฏของ เทพธิดาดอกไม้สีน้ำเงิน และการถามปัญหา ตราบจนรุ่งแจ้งแสงทอง เทพธิดาโบกมือให้แล้วค่อยสลายหายไปจากสายตาของคนทั้งคู่ ฟ้าทองอร่ามงามด้านตะวันออก ภาพเบื้องหน้าของหนุ่มสาว ยังคงเป็นอุทธยานแห่งดอกไม้ป่าสีน้ำเงินยามนั้น ดูสดและชุ่มชื่นสงบเย็น เพียงดังเมืองมนุษย์
“สิ่งที่เราเห็นเมื่อคืนนี้คืออะไร ? เป็นสิ่งเดียวกันกับที่พี่ชายคุณได้พบเห็นมาก่อนหรือไม่ ? และเขาอธิบายว่านั่นคืออะไร ?” ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อทั้งคู่ออกมาถึงซุ้มที่นั่งเล่นแห่งเดิมนั้น
"ถูกแล้ว นี่แหละคือ เทพธิดาดอกไม้ป่าสีน้ำเงิน ที่พี่ชายดิฉันพูดถึง แต่เขาบอกว่า นี่เป็นศุภนิมิต เป็นสัญญาณแห่งอริยธรรม เป็น ประตูแห่งความหลุดพ้น""
“ถ้าเช่นนั้น ตัวความหลุดพ้นที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ?”
“พี่ชายดิฉันได้บอกไว้ว่า เมื่อเทพธิดาดอกไม้ป่าสีน้ำเงินปรากฏขึ้น จะหมายถึงสัจธรรมที่ซ่อนแฝงอยู่ เมื่อตีปริศนาธรรมนี้แตกแล้ว ก็บรรลุธรรม ย่อมสละโลก เอาล่ะ ปิยมโน ต่อไปนี้ คุณคงจะเข้าใจเรื่องราวของเราสองพี่น้องดีแล้ว คุณจะสามารถทำตามสิ่งที่ดิฉันขอร้องได้หรือยัง ?”
"ผมยังไม่ค่อยจะเข้าใจนัก ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ วัลลภา คุณกำลังบอกผมว่า คุณกำลังจะเป็นอีกคนหนึ่งที่จะต้องสละผืนแผ่นดินนี้ ไปเพื่อการแสวงหา อย่างนั้นหรือ ?"
"ดิฉันไม่ได้บอกว่าจะไป ตามความหมายของคุณอย่างนั้น หากแต่การสละนั้นย่อมกระทำอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้น จะขอร้องให้คุณไปจากดิฉันหรือ เพราะความหวังของคุณไม่อาจจะมีแล้ว"
“ถูกแล้ว !!! ผมเป็นคนที่ไม่อาจมีความหวังใดใดแล้ว ณ บัดนี้ หากแต่การที่จะอยู่นั้นเป็นความผิดด้วยหรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยู่เพื่อการอุทิศ เพื่อการศึกษา จากดอกไม้ป่าสีน้ำเงินเหล่านั้น เพื่อเข้าสู่ประตูแห่งความหลุดพ้น และที่สุด ได้ติดตามคุณไปด้วย ไปสู่อุทธยานพุทธเกษตร ไปสู่สุสานพระอรหันต์ ถูกแล้ว !!! ผมจะต้องตามคุณไปให้ได้ ที่รัก แต่ขณะนี้ ขอเวลาผมคลี่คลายปมปริศนา เทพธิดาดอกไม้ป่าสีน้ำเงินให้กระจ่างแจ้งก่อนเถิด”.
ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา, อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ.
สตญฺจธมฺโม น ชรํ อุเปติ, สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ
ราชรถทั้งหลายอันงดงามยังคร่ำคร่าเน้อ แม้สรีระย่อมถึงความคร่ำคร่าเหมือนกัน
ส่วนธรรมของสัตตบุรุษทั้งหลาย ย่อมไม่ถึงความคร่ำคร่าเลย
ผู้ระงับแล้วทั้งหลาย ย่อมรู้กันกับผู้ระงับทั้งหลาย
- จาก พระศาสนโสภณ(แจ่ม) ธรรมสมบัติ หมวด 12 คาถาธรรมบทแปล มีเรื่องปรารภนำ (ของกรม-วชิรญาณวโรรส) กรุงเทพ : รพ.มหามกุฎราชวิทยาลัย, พิมพ์ครั้งที่ 6/2496, หน้า127.