ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


เฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545

 

 

  00 บันทึกประวัติศาสตร์สังคมไทย

ผ่านหนังสือพิมพ์ดี

รายการเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว

ระหว่าง พ.ศ.2543-2545

 

 

 

00 เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว พ.ศ.2543-2545

  ดี22 ก.ย. - ธ.ค.43

  พบกุ้ง: สุทธิราช อุสุภะ ดาราลิเกชื่อดัง

  กองโจรอาบูซายาบในฟิลิปปินส์

  ยอดคนสมองไว

  สังฆราชคริสเตียนในเขมร

  รวมน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม

  พบนักประพันธ์รุ่นใหม่

  ถ่ายทอดสดปฏิรูปการศึกษา

  การบินไทยไขจักรวาลรอบปีที่ 26

9   ถ่ายทอดสดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

10 เวทีชาวบ้าน : ปฏิรูปการศึกษา

 

11 คำตอบชีวิต

12 ประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทยเยาวชน

13 ทิศบ้านการเมือง

14 ตามหาแก่นธรรม จาก3ศาสนา

15 สภาผู้แทนราษฎรรณรงค์เพลงวันเกิดภาษานิยมไทย

16 กลุ่มสัจจะออมทรัพย์

17 ครบเครื่องเรื่องผู้หญิง ครบรอบ9ปี

18 ข่าวต้อนรับแชมเปี้ยนมวยโอลิมปิค

19 ขาวผ่อง สิทธิชูชัยขอโอกาส

20 โต้วาทีบุช-อัลกอร์

 

21 พบชุมชนปฐมอโศก

22 แอบได้เสียกับลูกสาวตนเอง

23 ตาดูหูฟัง

24 พระราชาคณะปลอมตัวมาเที่ยวคอฟฟีชอป

25 ทักษิณรวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร

26 ยอดคนสมองไว

27  เหตุบ้านการเมือง เรื่องคอรัปชั่น

28 จับพระปลอมเป็นนายพันเอก

29 โครงการท่อแกสไทย-มาเลเซีย

30 เกมเศรษฐี : Millionare Milleneum

 

31 ภาพยนตร์ไทย  รัตติกาลยอดรัก

32 ตามล่าหาความจริง

33 แนะนำนักการเมืองใหม่

34 หนังช่อง 7 : กระจกดูดคน

35 โฆษณาหมอดู

36 การเลือกตั้งไทย

37 การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา

38 ถกนโยบายปราบยาบ้า

39 พบกกต.เตรียมการเลือกตั้ง

40 เอสตราด้าสะกิดหัวเข่าขอซื้อข้าวนายกชวน

 

41 ผู้ดีอีสาน-บุญรอด

42 รายงานข่าวนักโทษพม่ายึดตัวประกัน

43 ธีรยุทธวิเคราะห์รัฐบาลชวนเป็นหนี้2.2ล้านล้านบาท

44 น้ำท่วมหาดใหญ่4วัน4คืน

45 ดี23/ ม.ค. - เมย. 44

46 รัฐบาลใหม่ควรเป็นอย่างไร

47 พระบรมราชกระแสวัน 5 ธันวามหาราช

48 ประวัติสังฆราชแห่งสังฆมณฑลอุดรธานี

49 ฟาหลุนกงนัดประชุมในไทย

50 ฉลองค.ศ.2000ปีปิติมหาการุณแห่งคริสตจักร

 

51 นักบวชคริสต์มีภรรยาได้หรือไม่?

52 รายงานการเลือกตำแหน่งสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่

53 นายฮ้อยทมิฬ

54 ถ่ายทอดสดแถลงนโยบายรัฐบาล

55 หนังซาตานสู้กับอีเลกทรอนิกส์ยุคใหม่

56 เชือกผูกรองเท้าพระเยซู

57 รัฐบาลมุสลิมระเบิดพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในโลก

58 คดีส.ว.เฉลิม พรหมเลิศข่มขืนเด็กอายุ13ขวบ

59 ภาพยนต์เรื่องนางนากพระโขนงสร้างทำใหม่

60 ฝรั่งโจนัส แอนเดอร์สันขับร้องเพลงไทยเดิม

 

61 ดี24 /พ.ค. - ก.ย.2544

62 พลังจักรวาล พลังคอสมิก ทำให้หนุ่ม

63 ดูโรงงานทำกระดาษสับปะรด

64 สด ปิดคดีซุกหุ้นทักษิณ ชินวัตร

65 สภาผู้แทนฯพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี2545

66 บทบาทของสตรีในพระพุทธศาสนา

67 พบคนไทยจากฮุสตัน สหรัฐอเมริกา

68 ล้อเลียนพระคัมภีร์ไบเบิล

69 คดีซุกหุ้น

70 ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางสาวไทย2543

 

71 โครงการกองทุนหมู่บ้านละ1ล้านบาท

72 ไซอิ๋ว:ศึกเทพอสูรสะท้านฟ้า

73 ข่าวหนังเรื่อง สุริโยไท

74 หนังฝรั่งเรื่องฉุดนรกสยองโหด

75 ปฏิรูปการศึกษา:ITV Talk

76 สด โบอิ้งก่อการร้ายบินชนเทรดเซนเตอร์ถล่ม

77 ไทยสุดยอดฟุตบอลเอเซียนมาเลย์ทำพลาดเข้าประตูตัวเอง

78 ก้าวไกลไปกับการศึกษา

79  สภาคริสต์ไทยต่อต้านทำแท้ง

80 ชุมทางเสียงทอง

 

81 ดี25 /ต.ค. - มี.ค. 45

82 ลงโทษจำหน่ายพระคัมภีร์ไบเบิลในจีนถึงประหาร

83 มวยไทยปะทะกังฟู5คู่ที่เวทีพิเศษท้องสนามหลวง

84 หนังจีน:  ศึกสายเลือด

85 การประชุมวิสามัญพรรคความหวังใหม่เรื่องย้ายพรรค

86 คู่มือวัยใส

87 บุชแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร

88 หนังรักหวานเกาหลีตีตลาดไทย

89 เทศกาลตรุษจีนปิดถนนเยาวราช มงคลที่แท้จริง

90 ภาพเผยแผ่ธรรมจากกัมพูชา

 

91 ข่าววันวาเลนไทน์

92 ดี26 เมย. - ก.ย. 45

93 ดวงเฉลิมมอบตัว

94 สถาปนาประเทศใหม่อีสต์ติมอร์

95 การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ

96 รอบภูมิภาค:เปิดมหาวิชชาลัยชาวบ้าน

97 ละคร: บ่วงบรรจถรณ์

98 ประชุมผู้นำศาสนาโลกณเมืองอัสซีซี

99 สร้างสำนักจุฬาราชมนตรีและศูนย์บริหารกิจการอิสลาม

100 คนทรงพระเยซูคริสต์ในอาฟริกาใต้

 

101 สอนนักเรียนให้เสพกามอย่างไรก็ได้เพียงแต่ให้ปลอดภัย

102 รำไทยไม่เจือกาม

103 ฟ้าหญิงทรงดนตรีที่เมืองจีน

104 ดี27/ต.ค.-พ.ย.2545

105 สงฆ์เรียกร้องกระทรวงพระพุทธศาสนา

106 ใบสั่งให้ข่มขืนในพม่า

107 น้ำใจไทยช่วยภัยน้ำท่วม

108 เทศกาลกินเจ

109 ผจญภัยไร้พรมแดน

110 ข่าวศิลปวัฒนธรรมและการบันเทิง

 

111 สบาย ๆกับ อ.สุพัตรา สุภาพ

112 นายกรัฐมนตรีพบนักธุรกิจญี่ปุ่น

113 สายด่วนลูกทุ่ง

114 ถล่มโจร-ประชาชนตายเป็นเบือในโรงละครรัสเซีย

115 รายงานการประชุมสตรีสากลเพื่อศานติสุขโลกในสวิตเซอร์แลนด์

116 พบนิวัติ กองเพียร เกจินู๊ด

 

 

 

 

 

 

   0 ดี22 ก.ย. - ธ.ค.43

เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว

ต่อต้านเอดส์ ต่อต้านอนารยธรรม

โดย คอมพิวเตอร์แมน และ บูดามี

 

 

 

 1 พบกุ้ง: สุทธิราช อุสุภะ ดาราลิเกชื่อดัง

เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี

ช่อง 9 31 ส.ค. 43 0530 น.

 

ผศ.รัฐพงศ์ พบ กุ้ง: สุทธิราช อุสุภะ ดาราลิเกชื่อดังและนักร้องวัยรุ่นยอดนิยมอีกคนหนึ่ง ที่มีพื้นฐานมาจากภูมิปัญญาวรรณกรรมชาวบ้าน รายการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีได้นำมายกย่องในวันนี้ ในโอกาสที่ กุ้ง สุทธิราชได้รับโล่รางวัลพระราชทานวันแม่ 12 ส.ค. 43 เพื่อเชิดชูคุณธรรมแห่งกตัญญุกตเวทิตา เป็นตัวอย่างแด่เยาวชนไทยทั้งหลาย โฉมหน้าที่ปรากฎในจอแก้ว ดูกุ้ง สุทธิราชเด็กที่ฉายความสัตย์ซื่อ หน้าตาผ่องใสบ่งบอกความสุขใจ ไร้กังกวล เป็นผู้ประกอบกุศลกรรมมาดีแล้ว ทัศนะต่อชีวิตก็น่าเลื่อมใส

 

 

 

 2 กองโจรอาบูซายาบในฟิลิปปินส์

ข่าวรับอรุณ

ช่อง 9 31 ส.ค. 43 06.00 น.

 

รายงานข่าวภาคเช้าตรู่ ของช่อง 9 เมษนี สถาวรินทุ รายงานสั้น ๆ เรื่องกองโจรมุสลิม อาบูซายาบ ในฟิลิปปินส์ รัฐบาลอเมริกาประกาศจะไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ตัวชาวอเมริกันที่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่ อาบูซายาบจะต้องรับผิดชอบ แต่กองโจรมุสลิม อ้างว่าคนอเมริกันนั้นเป็นสายลับและแซกแซงการเมืองของประเทศอื่น เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร เมื่อแท้จริง มีนัยยะของความขัดแย้งทางการศาสนาแทรกอยู่ส่วนหนึ่ง และเป็นส่วนที่ลึกซึ้ง ระหว่าง มุสลิม กับ คริสต์คาทอลิก ๆ ที่แอบอาศัยการเมืองของมหาอำนาจอเมริกามาโดยตลอด สถานการณ์ที่นับวันจะเห็นเด่นชัด ในบทบาทการเมืองของคาทอลิก ประเทศรัฐวาติกัน ในอิตาลี ก็คือสถานการณ์ติมอร์ตะวันออก ในอินโดเนเซีย นั่นเอง โดยคาทอลิกพยายามยึดติมอร์ตะวันออกให้ได้ นั่นหมายถึงการพยายามขับไล่มุสลิมที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมออกไปก่อน

 

 

 

 

  3 ยอดคนสมองไว

ไอทีวี 16 ก.ย. 43 0830 น.

 

ทุกวันเสาร์ ยอดคนสมองไว ไอทีวี สาขาวิทยาศาสตร์วันนี้ มีสปอนเซอร์ เพียบ วันนี้ได้ยอดคน แชมป็ประจำสัปดาห์ชนะเลิศได้รางวัลมูลค่าแสนหกหมื่นบาท นักเรียนคนเก่ง จาก ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อีก 2 คนเก่งจาก 2 โรงเรียน สามเสนวิทยา และ หอวัง รับรางวัลกันไปพอชื่นใจในวิชาความรู้

 

 

 

  4 สังฆราชคริสเตียนในเขมร

แสงธรรม

ช่อง 9 10 ก.ย. 43 0600 น.

 

รายการแสงธรรม เป็นรายการเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก แต่ในขณะนี้ รายการของคาทอลิกก็ยังดำเนินการในทางที่ละเมิดศาสนาพุทธอยู่ โดยไม่คำนึงว่าการละเมิดศาสนาอื่นนั้นเป็นมารยาทอันทราม มิใช่วิสัยของผู้ดีในสังคมมนุษย์

 

วันนี้รายการได้เล่าเรื่องราวของบาทหลวงวีรชัย ศรีประมงค์ ว่าได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เพื่อรับงานพระธรรมทูตในกัมพูชา แล้วได้ไปสืบหาครอบครัวคริสเตียน ซึ่งมีอยู่เพียงครอบครัวเดียวในเมืองกัมโป๊ตจนพบแล้ว ดูแลการศาสนาคาทอลิกในเมืองกำปงธม กัมโป๊ด และจังหวัดอื่น ๆ อีก 5 จังหวัด ซึ่งเป็นเขตที่ประชาชนยากลำบาก ไม่มีพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาช่วยดูแล ประชาชนต้องรวมตัวช่วยเหลือกันเอง บาทหลวงคนนี้ได้ปฏิบัติงานการเมืองของคาทอลิก โดยเอาศาสนาบังหน้าอยู่ถึง 7 ปี มีกิจกรรมคือชักจูงประชาชนมาร่วมร้องเพลงสวดภาวนา สรรเสริญพระเจ้า ช่วยเหลือคนเจ็บป่วย ดำเนินงานด้านการสังคมสังเคราะห์ จัดหาข้าวสารแจกจ่ายประชาชนคนยากคนจน แม้ในช่วงสงครามคนอพยพสู่ประเทศไทยกันหมดเขาก็ไม่กลับ ทางองค์กรคาทอลิกจึงสรรเสริญมากว่า ผู้เป็นพยานด้วยชีวิต มิต่างจากพระเยซูคริสต์เจ้าที่กลับมาบังเกิด

 

ถ้อยคำที่รายการนี้ใช้ว่า "พระสงฆ์" คำว่า "พระสงฆ์" เป็นคำเฉพาะของศาสนาพุทธ แต่คาทอลิกไทยก็ละเมิดโดยตลอดมา จนขณะนี้ ถึงกับแบ่งเขตประเทศไทยตั้งเป็น "สังฆมณฑล" ขึ้นทั่วประเทศ เช่นมีสังฆมณฑลกรุงเทพ สังฆมณฑลอุบลราชธานี สังฆมณฑลอุดรธานี เป็นต้น ในแต่ละ สังฆมณฑล ก็มี สังฆราช เป็นผู้ปกครองดูแล และยังตั้ง สภาพระสังฆราชแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย อัครสังฆราช เป็นตำแหน่งประธานสูงสุดของสภาพระสังฆราช คำว่า "อัครสังฆราช" เป็นชื่อตำแหน่งที่สูงกว่าตำแหน่ง "สังฆราช" ซึ่งเป็นพระประมุขสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย ตามกฎหมายคณะสงฆ์ไทย ที่ให้ความคุ้มครองคณะสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาอยู่

 

สิ่งเหล่านี้สะท้อนความคิดทางการเมืองของศาสนาคาทอลิก ที่มองศาสนาอื่น ๆ ต่ำต้อยกว่าตน ชนคาทอลิกได้ชื่อว่าบุตรพระเจ้า ต้องมีหน้าที่ปฏิวัติโลกให้เป็นคาทอลิกให้ได้ หากแต่คาทอลิกมิได้นำวิถีทางศาสนามาใช้ในการเผยแผ่ศาสนา กลับนำวิธีการการเมืองการทหารมาใช้ ในประเทศไทยปัจจุบัน คาทอลิกพยายามกระทำสิ่งที่การเมืองเรียกว่า discredit พระพุทธศาสนา และ บ่อนทำลายสถาบันศาสนาอื่น ๆ ลงทุกวิถีทาง การตั้งองค์กรคาทอลิกเป็น สภาพระสังฆราช ก็ดี การตั้งตนเป็น อัครสังฆราช ก็ดี เป็นการยกตนเหนือองค์ประมุขของหมู่สงฆ์ไทย อย่างน่ารังเกียจ โดยไร้มารยาท ขาดสมบัติผู้ดีของมนุษย์อย่างยิ่ง เพราะคำว่า สังฆราช เป็นคำเฉพาะที่บ่งความหมายของอุตตริมนุสสธรรม ธรรมสูงสุดในพระพุทธศาสนา และโดยพระธรรมวินัยหมายถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง ทรงเป็นสังฆราชา หรือราชาในหมู่สงฆ์ แต่คาทอลิกพยายาม discredit พระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาประจำชาติไทยลงโดยวิธียกตนขึ้นสูงกว่า โดยตั้ง อัครสังฆราชมีชัย กิจบุญชู ดำรงตำแหน่งอัครสังฆราช แล้วตั้ง สังฆราช และ อุปสังฆราช ขึ้นมาอีกหลายตำแหน่ง ตามที่คาทอลิกเคยประกาศโดยเปิดเผยไปทั่วโลก

 

โดยเป็นข่าว ออกชื่อออกตำแหน่งว่า อัครสังฆราชมีชัย กิจบุญชู พร้อมพระสังฆราช 7 องค์จากประเทศไทยเดินทางไปเฝ้าสันตปาปา ในปี พ.ศ. 2540 ที่ประเทศรัฐสันตะปาปา ในอิตาลี เพื่อให้เห็นภาพของสภาคาทอลิกเด่นกว่าเหนือกว่าคณะสงฆ์ไทย โดยหวังจะใช้เป็นฐานรุกคืบหน้าอย่างเงียบกริบเข้ายึดสถาบันสูงสุดของคณะสงฆ์ไทยและครอบงำพระพุทธศาสนาด้วยสัทธรรมปฏิรูปของตน

 

กรณี God’s Army การบุกยึดโรงพยาบาลราชบุรีของกองโจรคาทอลิก ในเดือน มกราคม 2543 นั้น น่าจะเตือนใจคนไทยว่า คาทอลิกมิได้เป็นเพียงศาสนา หากแต่เป็นทั้งทหารและการเมือง ซึ่งไม่ควรจะไว้วางใจว่าจักสุจริตจริงใจต่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ แต่ทำงานการเมืองโดยหวังผลทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา โดยมีประเทศรัฐวาติกัน ประเทศเล็ก ๆ ประเทศหนึ่งในอิตาลีเป็นศูนย์บัญชาและวางแผนประสานงานไปทั่วโลก

 

 

 

 

  5 รวมน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม

ช่อง 9 10 ก.ย. 43 2100 น.

 

อสมท.เป็นแม่แรงใหญ่ รวมน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม ตั้งแต่เวลา 2100 น. เป็นต้นไป ระดมบุคคลสำคัญมาหมด ตั้งแต่ จนท.จาก ธ.อาคารสงเคราะห์ มานับเงินบริจาค เจ้าหน้าที่ อสมท.เอง โดยเฉพาะท่านผู้อำนวยการ อสมท.สรจักร เกษมสุวรรณ และพิธีกรทางจอแก้วที่คุ้นหน้ามาแทบทั้งหมด, แล้วสรรค์สร้างความมีชีวิตในงานนี้ไปตามลำดับ ด้วยขบวนดารานักร้องนักแสดง เลิกงานเวลา 2430 น. สรุปยอดเงินบริจาค 1,913,655 บาท งานนี้มี อสมท.เป็นแม่แรงใหญ่ องค์การโทรศัพท์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ วงดนตรีดวงตะวัน ดารานักร้อง ตลอดจนผู้ร่วมบริจาคทั้งสิ้นอุทิศให้แด่โครงการนี้.

 

 

 

 

  6 พบนักประพันธ์รุ่นใหม่

ครบเครื่องเรื่องผู้หญิง

ช่อง 7 12 ก.ย. 43 0830 น.

 

พบนักประพันธ์รุ่นใหม่ เธอคือ นก : สุวพีร์ โพธิสมภรณ์ เรื่องที่เขียนเคยเป็นละครโทรทัศน์อยู่หลายเรื่อง เช่น เรื่องน้ำตาลลอยแก้ว และ กิเลสมาร เป็นเรื่องที่เธอชอบมากที่สุดในบรรดาเรื่องที่เธอเขียน น่าแปลกที่เธอไม่เคยเขียนเรื่องสั้นมาก่อน เริ่มก็เขียนยาว 20 หน้ากระดาษเลยทีเดียว เธอทำได้ เพราะเหตุ 2 อย่าง 1. เธอมีอุปนิสัย 2.เธอมีพี่เลี้ยงหรือครูที่คอยดูต้นเรื่องของเธอ ในวันนี้ เราอาจจะมีความหวังอะไรจากนักประพันธ์ไทยได้บ้าง ? เราหวังว่า จักได้นำชนทั้งหลายไปสู่สัจธรรมแห่งชีวิตมากขึ้น และนักประพันธ์เป็นผู้คงแก่เรียน เป็นปราชญ์ ทันสถานการณ์ วิเคราะห์ข้อมูล ที่จำเป็นสำหรับเหตุการณ์และตัวละคอนเรื่องราวที่สนุกของนักประพันธ์ ควรจักมีข้อมูลเรื่องจริงสนับสนุน มีการศึกษา ในเรื่องให้ชัดเจน นักประพันธ์ไทยวันนี้คงจะต้องคิดในแนวทางที่สร้างสรรค์สังคม สร้างสรรค์ประชาธิปไตย สร้างสรรค์ความเสมอภาค และภราดรภาพในสังคม ทำให้นวนิยายใกล้ความเป็นจริง ใกล้อุดมการณ์ที่ใฝ่ฝันของสังคม การเมือง ศาสนา มีเหตุมีผลที่จะทำให้เหตุการณ์ตามท้องเรื่อง และบทบาทของตัวละคอนออกมาสมจริง ต้องไม่เพ้อเจ้อ พยายามลดสิ่งที่นักวิจารณ์ว่า "น้ำเน่า" (ไม่สมจริง เช่น เป็นเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ หรือเศรษฐีมหาเศรษฐี ในเรื่อง มั่งมีจริง ๆ มีบ้านใหญ่โตมโหฬาร มีคนใช้ แทบไม่มีความเป็นคนหมอบอยู่แทบเท้าตลอดเวลา คอยรินแก้วน้ำให้ดื่ม หรือคอยรองรับอารมณ์เจ้านาย ไปไหนมาไหนมีรถเก๋งคันใหญ่โตโอ่อ่า แต่ออกบุคลิกภาพ ไม่ต่างจากคนปัญญาอ่อนบ้าง มือเติบใช้จ่ายไร้เหตุผล-เสเพลบ้าง ซึ่งดูไม่น่าจะมีปัญญาสร้างความมั่งคั่งได้ขนาดนั้นเลย อย่างนี้เป็นต้น) ไม่น่าจะมีการเพียงแต่สมมติ โดยขาดพื้นฐานความน่าจะเป็นเช่นนั้นรับรองโดยสิ้นเชิง อันเนื่องมาจากไม่เข้าใจความสำคัญของข้อมูลทางสังคม และอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับนักอ่านนักชมสมัยโลกาภิวัตน์

 

 

 

  7 ถ่ายทอดสดปฏิรูปการศึกษา

ช่อง 7 14 ก.ย. 43 0940 น.

 

กรมสามัญศึกษามุ่งมั่นสู่การปฏิรูปการศึกษา กษมา วรวรรณ อธิบดีกรมสามัญศึกษาคนใหม่ ณรงค์ กาญจนานนท์ รองอธิบดีกรมสามัญศึกษา วิรัช บุญนำ กับนักวิชาการอีก 1 มาพูดเรื่องการปฏิรูปการศึกษา มีคณะครูอาจารย์มาร่วมฟังในห้องส่งด้วยอย่างคับคั่ง นักเรียนชั้นม.6 ตั้งคำถามมากมายหลายข้อ สงสัยไปตั้งแต่เรื่อง ค่า จีพีเอ จีพีอาร์ ดูในวงการนักเรียน โรงเรียนมีแต่ปัญหาหยุม ๆ หยิม ๆ ไปหมด ทั้ง ๆ ที่ประกาศการศึกษาฟรี 12 ปี การศึกษาฟรี 12 ปี ฟรีอะไรบ้างบอกมาให้ชัด ๆ ทำไมจึงมีเก็บเงินจุกจิก มีรายจ่ายเล็กน้อย ๆ ตลอดปี เช่น ค่าน้ำ ค่าคอมพิวเตอร์ ค่าสระว่ายน้ำ ปัญหาชายเซนเตอร์ก็มีมาก การจัดเตรียมให้การปฏิบัติเป็นไปได้ ไม่ค่อยพูดถึง รูปแบบการศึกษา ไม่เอื้อให้เกิดการค้นคว้า

 

 

 

  8 การบินไทยไขจักรวาลรอบปีที่ 26

ช่อง 5 15 ก.ย. 43 1630 น.

 

รายการแข่งขันทางวิชาการของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา สนับสนุนโดยการบินไทย ปีนี้เป็นปีที่ 26 ในเวลาเดียวกับที่ช่อง 9 ถ่ายทอดสด พิธีเปิดมหกรรมกีฬานานาชาติ โอลิมปิค เป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ที่ดูรายการค่อนข้างเงียบเหงาไปหน่อย หากแต่เนื้อหาสาระวิชา ไม่ว่า เรื่องวิทยาศาสตร์ วรรณคดี เรื่องของไทย เคมี ชีววิทยา เข้มข้น วันนี้แข่งกันระหว่างวินิตศึกษา กับ จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย เป็นรายการสด ประจำวันศุกร วนิตศึกษา ลพบุรี ชนะ

 

 

 

  9 ถ่ายทอดสดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

ช่อง 9 15 ก.ย. 43 1630 น.

 

Openning caremoney ของ SYDNEY 2000 ณ สนาม กรุงซิดนีย์ รัฐนิวเซาธ์เวล ออสเตรเลีย เวลาเราช้ากว่า 4 ชั่วโมง เริ่มด้วยคาวบอยควบม้าห้อสุดเหยียดเข้ามาในสนามแล้วขบวนม้า 120 ตัว พาธงโอลิมปิค 120 ธงออกมาในสนาม เป็นแถว เป็นทิว แล้วหนูน้อยออกมาเล่นน้ำใต้มหาสมุทร แวดล้อมด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด แล้วชนเผ่าอะบอริจินจำนวนนับพัน ตามหนูน้อยเข้ามาในสนาม ออกเสียงเพลงประหลาด ๆ แล้วเห็นเมืองของชนเผ่าดั้งเดิมนั้นเป็นไป เห็นวัฒนธรรมของชนเผ่านั้น แล้วมาถึงยุคใหม่ มีเทคโนโลยี ชาวผิวขาวเข้ามาไล่ชนเผ่าหนีไป ก่อนที่ขบวนพาเหรดประเทศต่าง ๆ เข้าสู่สนาม นำโดยประเทศกรีซ จบลงด้วยเจ้าภาพ ออสเตรเลีย รวม 199 ประเทศ ไทยเป็นอันดับที่ 177 คนเข้ามาในสนามแข่งถึง 120,000 คน แล้วนักร้องชายหญิงออสเตรเลีย ที่เจนจัดเวที จูงมือกันมาโชว์พลังเสียงก้องกระหึ่ม ปลุกใจชาวโลก พวกเขาทำได้จริง ๆ ความสามารถทางวัตถุนิยมนับว่าเยี่ยม ประธานโอลิมปิคสากล นายฮวน ซามาร้านซ์ ปรากฎตัวออกมากล่าว ต้อนรับสู่ซิดนีย์เกมส์ เขาพูดภาษาฝรั่งเศส ว่าฝรั่งเศสเริ่มกีฬาโอลิมปิกนี้มา 2500 ปี ต่อมา วิลเลียม ดีน ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทรงกล่าวเปิดโอลิมปิคครั้งที่ 27 เพียงสั้น ๆ แล้ว เวเนสสา ร้องเพลงไพเราะมาก แล้วทำเป็นน้ำหลากลงมา โดยใช้แพรสีน้ำเงินผืนใหญ่เลื่อนไหลลงมา เห็นนกขาวกลางแพรผืนใหญ่นั้น บิน สวยงามมาก คนบรรยายบอกว่าเป็น นกพิราบขาว หมายถึงสันติภาพ ลำดับต่อมา คนขาว 8 คนหามธงโอลิมปิค 5 ห่วงเลื่อนเข้ามา นายวาทยากรบรรเลงเพลงเสียงประสาน ก้องกระหึ่ม เมื่อธงห้าห่วงค่อยเลื่อนขึ้นเบื้องบน สู่ยอดเสา แล้วนักกีฬาทั้งสิ้นปฏิญญาณตน พวกเขาสัญญาว่า จะยอมรับกติกา และไม่ใช้สารกระตุ้นใดใดเป็นเด็ดขาด แล้ว จิน่า อเรน่า อายุ 32 ออกมาร้องเพลงเปลวไฟในดวงใจ มีคณะรับเสียงประสาน ไพเราะ เร้าใจ ฉากสุดท้ายเป็นฉากจุดคบเพลิง คนถือคนแรกเป็นหญิงแก่นั่งเก้าอี้ล้อเลื่อน มีหญิงอีกคนหนึ่งเข็นเข้ามา มาส่งต่อให้หญิงนักกีฬาอีกคน เป็นหมายเลขหนึ่งของโลก แล้วส่งต่ออีก หลายคน คนสุดท้ายหญิงนักกีฬาเด่นเผ่าอะบอริจิน ชาวออสเตรเลีย ผู้ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ ถือเอาคบเพลิง วิ่งขึ้นไปตามบรรได ทันใดนั้นก็มี น้ำหลั่งลงมาตามบันได ท่วมไปหมด เธอวิ่งฝ่าไปในน้ำ จนถึงบริเวณทรงกลม จึงหยุดอยู่ตรงศูนย์กลางวงกลมนั้น แล้วก้มตัวนิดหนึ่งจ่อคบเพลิงลงไปในน้ำ ไฟก็ลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นวงกลม ดูเหมือนไฟไหม้น้ำ ปรากฎเป็นกระถางเพลิงขนาดใหญ่ค่อยโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ แล้วลอยขึ้นเบื้องบน สว่างรุ่งเรือง คนชมตะลึงไปด้วยความงดงามและน่าประลาด น้ำและไฟประสานความหมายกันน่าชมยิ่งนัก แล้วกระถางคบเพลิงเลื่อนขึ้นไปข้างบนจุดสูงเด่น และรุ่งโรจน์อยู่บนนั้น ความหมายเหล่านี้ล้วนบ่งบอกความดีงาม ในหมู่ชาติพันธุ์มนุษย์ เสียงสุดท้ายคือ Good luck and Good night. จบการถ่ายทอดของทีมงาน กสท. เวลา 1920 น. เวลาประเทศไทย

 

 

 

  10 เวทีชาวบ้าน : ปฏิรูปการศึกษา

ช่อง 11 16 ก.ย. 43 2100 น.

 

ครู ๆ และนักเรียน ร.ร.นิมมานนรดี มาร่วมรายการ นักเรียนแสดงวิธีการศึกษาและผลการศึกษาแนวใหม่ตามรัฐธรรมนูญ และตามพรบ.การศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม พ.ศ. 2542 ได้น่าประทับใจ ตัวอย่างที่เห็นในวันนี้ก็คือนักเรียนแสดงความคิด เอาการวางแผนวิเคราะห์วิจัยมาเป็นเครื่องมือสำคัญของการศึกษา เห็นการวิจัยพันธุ์นก โดยการออกไปสำรวจและบันทึกนกชนิดต่าง ๆในป่าจริง ๆ การวิจัยวัฒนธรรม เอาตะเกียงเก่า ๆ มาวิจัย สืบประวัติศาสตร์ การวิจัยของนักเรียนวิทยาศาสตร์ตัวเล็ก ๆ น่าปรบมือให้ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เริ่มแต่บอกข้อสมมติฐานข้อที่ 1 ว่า มีผักในสวนครัวบ้านเราบางชนิดให้กาซอ๊อกซิเจนดี แล้วเอามาศึกษาเปรียบเทียบกัน 3 ชนิด มีสมมติฐานรองว่า ผักบุ้งให้อ๊อกซิเจนมากกว่าผักชนิดอื่น ๆ แล้วทำการพิสูจน์ทดลองด้วยการบดผัก 3 ชนิดนั้นแหลกแล้วใส่ลงในขวด 3 ใบ ๆละชนิด แล้วเอาธูปจุดไฟแดงแหย่ลงไป พบว่า ชวดที่ใส่ผักบุ้งเกิดเปลวไฟขึ้น ส่วนขวดที่ใส่ผักอื่น ๆ ไม่มีเปลวขึ้น ก็สามารถสรุปผลว่า มีอ๊อกซิเจนในผักบุ้งจริง น่าชื่นชมมาก นอกจากนี้ ยังมีการแสดง หมวดศิลปวรรณคดี ก็น่าชื่นชม

 

 

 

 

 

  11 คำตอบชีวิต

ช่อง 9 17 ก.ย. 43 0530 น.

 

อีกรายการหนึ่งของศาสนาคริสต์ ไม่ทราบเกี่ยวข้องกับคาทอลิกหรือไม่ เห็นรายการนี้ส่งซิกแนลไปยัง God’s Army ที่วายชนม์ไปทั้งหมด 10 คนคราวนั้น เป็นเชิงว่า ขอให้ไปดี ไปสู่พระหัตถ์ของพระเจ้า พวกเราอยู่เบื้องหลังขอสนับสนุนให้กำลังใจ รายการนี้เป็นคล้ายการโฆษณาชวนเชื่อ หลอกเด็ก มีแต่การสรรเสริญพระเจ้า ว่าพระเจ้าสร้างสรรพสิ่ง สร้างโลกสร้างจักรวาล วันนี้ก็มาสรรเสริญพระเจ้าต่อ และตั้งข้อกังขาว่า ทำไมคนเราจึงไม่ให้พระเจ้าช่วย เราช่วยตัวเราเองไม่ได้หรอก ทุกอย่างเป็นแผนการของพระเจ้าทั้งสิ้น เราไม่อาจไว้วางใจใครได้ แต่อาจไว้วางใจพระเจ้าได้ทุกอย่าง พระเจ้ารู้ทุกอย่าง เมื่อข้าพระองค์ลุกนั่ง พระองค์รู้ เมื่อข้าพระองค์เหน็ดเหนื่อยพระเจ้าก็รู้ เมื่อลิ้นจะพูดพระเจ้าก็รู้ก่อน ซึ่งฟังแล้วตลก เพราะพระเจ้าเองอวดว่าสร้างโลกและจักรวาล แต่ทรงสร้างโลกแบน ๆ มีพระอาทิตย์และดาวอื่น ๆ หมุนไปรอบ ๆ โลกนั้น แต่โลกแบนใบนั้นอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้จัก แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่โลกใบนี้ และมิใช่สุริยจักรวาลนี้ เพราะโลกมนุษย์ใบนี้เป็นโลกกลม และหมุนรอบดวงอาทิตย์ จะมาทึกทักเอาว่าโลกนี้พระเจ้าสร้างก็ไม่เป็นธรรม ไม่ใช่ความถูกต้อง ที่พระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ให้น้ำท่วมโลก ไม่ให้ทำลายทรัพย์สินของราษฎร แต่น้ำก็ท่วมไปทุกแห่งทั่วโลก พระเจ้าก็ยังไม่รู้ สึก และที่สรรเสริญว่า พระนามของพระเยซูอัศจรรย์ พระนามที่แขวนไว้บนต้นไม้ตามถนนหลวงสายต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยนั้นหรือที่ว่าพระนามอัศจรรย์ เพราะเมื่อกรมการศาสนาถามว่าป้ายพระเจ้าที่อยู่ตามต้นไม้ข้างถนนสายต่าง ๆนั้นเป็นผลงานของศาสนาใด ก็ไม่มีใครตอบ ไม่มีใครรู้ ฉะนั้น น่าสงสัยเป็นผลงานของพระเจ้า ที่ประสงค์จะทรงทำการอัศจรรย์ให้ปรากฎต่อชาวไทย

 

 

 

 

 

  12 ประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทยเยาวชน

ช่อง 11 17 ก.ย. 43 1520 น.

 

การร้องเพลงประกวด ระดับเยาวชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ประจำปี พ.ศ. 2543 เด็กอายุ 12- 17 ปี นักเรียนมัธยมศึกษา ไม่จำกัดเพลงให้เหมาะสำหรับเด็ก ๆ เสียงที่ได้ยิน จึงล้วนแต่เสียงคร่ำครวญแห่งความหิวกระหายทางกามารมณ์ เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ ทำอารมณ์ลึกซึ้งลงไปในอารมณ์รัก ๆ ใคร่ ๆ อันเป็นสิ่งที่ยังมิควรเป็นวิสัยของวัยเด็ก ๆ ในวันนี้ก็ได้เห็นเด็กอายุเพียง 12 13 ขวบ ร้องเพลง แก้วรอพี่ สัญญาแล้วไม่มาแต่ง รอยแผลเป็น เขตปลอดคนลวง หม้ายขันหมาก ที่ล้วนแต่เป็นเพลงรักพิสวาทเกินวัยของเด็ก ๆ ไปทั้งสิ้น แล้วยังมีนักร้องอาชีพมาร้องเพลงซึ้ง ๆ ในอารมณ์รัก ๆ ใคร่ ๆ ให้ฟังเป็นตัวอย่างไปอีก อย่างนี้เป็นการอบรมสร้างบรรยากาศแห่งกามารมณ์ฝังลงไปในจิตใจความนึกคิดของเด็ก ๆ ทำอารมณ์ให้ลึกซึ้งไปตามความหมายของเนื้อร้อง ทำให้เด็กแก่แดดเกินวัยไปมาก ๆ จนที่สุดเกิดซึ้งเข้าจริง ๆ ทั้งผู้ร้องผู้ฟังผู้ชม กลายเป็นเด็กใจแตกไปตาม ๆ กัน บัดนี้จึงได้เห็นแล้วว่า การประกวดเพลงเช่นนี้ มีผลเสียยิ่งกว่ามี บาร์ เทค เพราะ บาร์ เทค ยังมีกฎหมายจำกัดอายุ คนเข้าไปรับบริการ เด็กอายุไม่เกิน 18-20 ปี เข้าไม่ได้

 

สังคมไทยส่งเสริมกามารมณ์โดยไร้สติเช่นนี้เอง จึงได้กลายเป็นสังคมร่านกามไปทั้งสิ้น เด็กทั่วประเทศ โรงเรียนเด็กทั่วประเทศก็พลอยเอาอย่าง ก็นิยมร้องเพลงร่านกามกันไปหมด การเกิดมีคดีเรื่องราวทางเพศที่ผิดปกติ พ่อข่มขืนลูกสาวตัวเอง บ้าง ครูอาจารย์ข่มขืนเด็กนักเรียนตัวเองบ้าง เด็กออกมาเที่ยวขายตัวขายบริการบ้าง เด็กหลบโรงเรียนไปเที่ยวบาร์ คลับ บ้าง ฯลฯ

 

การประกวดเช่นนี้จึงน่าจะไม่ให้ผลดีอะไรเลย กลับจะมีผลเสียมากกว่า น่าที่ผู้เกี่ยวข้องจะพิเคราะห์ในหลักการการศึกษาที่ถูกต้อง น่าจะมาปรับกันใหม่ ให้การร้องเพลงประกวดเหมาะสำหรับเด็ก-เยาวชน ให้เลือกเพลงที่สร้างสรรค์ทางการเรียน การศึกษา การศาสนาและวัฒนธรรม เพลงที่เน้นความดีงามของธรรมชาติที่น่าหวงแหน เพลงที่ปลูกฝังความรักครอบครัว ความกตัญญูต่อบิดามารดาและผู้มีพระคุณ หรือบทเพลงสรรเสริญต่าง ๆ แบบที่เขาร้องกันในโบสถ์ เพลงที่ลึกซึ้งไปในคุณงามความดี ความเสียสละ ความศรัทธา และความบากบั่นมุ่งมั่นต่อการอุทิศตัวรับใช้สังคม เพลงที่เหมาะแก่การสร้างวิสัยทัศน์ ที่ฝังใจให้ใฝ่สูงไปข้างหน้า ฯลฯ ให้เด็กโตไปกว่านี้เสียหน่อย ค่อยปล่อยให้ร้องเพลงรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็คงจะยังไม่สายเกินไป ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปทำลายอุปนิสัยโดยให้ร่านกาามารมณ์เสียแต่เด็ก ๆ

 

 

 

 

 

  13 ทิศบ้านการเมือง

ช่อง 11 17 ก.ย. 43 1400 น.

 

เริ่มแต่ อ.ขวัญสรวง อติโพธิ จุฬารัตน์ เสรีเชษฐ์ชน น.พ. ชุชัย ศุภวงศ์ ศ.ดร.เกษม สิริสัมพันธ์ และ อ.บุญญรักษ์ บุญญเขตมาลา จากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับเชิญมาพูดเรื่องสื่อ ตาม มาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ฉบับปัจจุบัน ประเด็น คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ ดร.เกษม พูดถึงเจตนารมณ์การปฏิรูปคลื่นวิทยุว่า ไม่ใช่เรื่องที่นึกว่าง่าย นึกว่าโรยด้วยกุหลาบ อุปสรรคใหญ่ก็คือ ผลประโยชน์ตามระบบทุนนิยม ราชการครอบครองสื่อมาโดยตลอดแต่ราชการกลับให้เช่าสื่อไป ไม่ทำเอง เพราะราชการก็หวังกำไร อ.บุญญรักษ์ วิเคราะห์คุณภาพสื่อว่า "สังคมเป็นอย่างไรสื่อก็เป็นอย่างนั้น" ถ้าต้องการสื่อดีก็ต้องต่อสู้ ตัวเราต้องดีขึ้น ทันกาลขึ้น น.พ.แวมาฮาดี ชาวมุสลิมใต้ อ้างพระคัมภีร์กุรอาน ว่าหลักการสื่อที่ดีพระเจ้าได้พูดไว้แล้วว่า "เจ้าจงกลั่นกรองข่าวสารให้ดี คนที่ไม่ดีคำนึงแต่เงิน พูดเท็จ ต้องไม่เป็นผู้สื่อ" คุณพรรณิภา โสตถิพันธุ์ ว่า สื่อคือการเรียนรู้ชนิดหนึ่ง สื่อเป็นพลังทางความคิด พลังทางปัญญา ยังมีนักจัดรายการวิทยุ และ สื่อท้องถิ่นเสนอแนวคิดเข้ามามาก ล้วนแต่ไม่อยากให้ใช้ภาษากลาง การใช้ภาษาท้องถิ่นจะสื่อสารได้ดีกว่า การอนุญาตให้ใบประกาศต้องให้ชุมชนชาวบ้านกำหนดกฎเกณฑ์ แต่ก็มาขัดกับหลักการให้ใบประกาศผู้ประกาศของกรมประชาสัมพันธ์ วันนี้จึงยังไม่อาจสรุปได้ นอกจากข้อเสนอสำคัญว่า น่าจัดเวทีสัมนากันหลาย ๆ ฝ่าย กำหนดยุทธศาสตร์ฟื้นพลังทางสังคมอย่างไร

 

 

 

 

  14 ตามหาแก่นธรรม จาก3ศาสนา

ช่อง 11 17 ก.ย. 43 2030 น.

 

ตามหาแก่นธรรมวันนี้ ไปอยู่ท่ามกลางไทยมุสลิม เชียงใหม่ ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ สุเมธ โสฬส และ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง วุฒิสมาชิก ตามหาแก่นธรรมแห่งมุสลิม ณ โรงเรียนจิตต์ภักดี มัสยิดอัตตักวา ร่วมจัดรายการ ปัญหาต่าง ๆ ทางแก่นศาสนาวันนี้ เหมาะสำหรับบรรดานักปราชญ์ชาวไทยมุสลิมจะเป็นผู้แก้ เริ่มด้วยปัญหา มุสลิมชอบความรุนแรง จริง หรือไม่ ทำไมข่าวจึงออกมาว่ามุสลิมหัวรุนแรง บ้าง กองโจรมุสลิมบ้าง และที่กำลังดังอยู่ก็กองโจรมุสลิมอาบูซายาบ

 

คำตอบเหมือนคำแก้ตัวคือ หลักธรรมอิสลามเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ความรุนแรง หากแต่ศัตรูของประเทศตะวันตกมีเพียงมุสลิมเท่านั้นที่ทำการต่อต้านค่อนข้างรุนแรง จึงดูเหมือนว่ามุสลิมชอบความรุนแรง แท้จริงเป็นความจำเป็น อันเนื่องมาจากปฏิบัติการของชาติตะวันตก ชาติอเมริกาต่างหาก นี่คือหลักการศาสนาสากลที่มีเงื่อนไข จากนั้น ก็ถกกันถึงเรื่องอาหารมุสลิม คำถามว่า ทำไมศาสนาอิสลามจึงห้ามรับประทานเนื้อสุกร คำตอบมีว่า เพราะมีพระบัญญัติห้ามไว้โดยชัดเจนในพระคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นคำสั่งของพระเจ้า เมื่อเป็นคำสั่งของพระเจ้ามุสลิมก็ต้องเคารพเชื่อฟัง ดูเหมือนไทยมุสลิมไม่ติดใจสนใจเหตุผลใดลึกซึ้งมากไปกว่านี้ อันน่าจะถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของศาสนิกชนในศาสนาที่มีพระเจ้า

 

หากแต่ในยุคสมัยนี้ ศาสนิกชนคนหนึ่งจำเป็นต้องเข้าใจเหมือนกันว่าโลกมีศาสนาของโลกเอง คือศาสนาวัตถุนิยม และศาสนาวัตถุนิยมนี้เองที่กำลังบั่นทอนทำลายศาสนาของพระเจ้าอยู่อย่างเร่งรุด โดยอาศัยเหตุผลที่ว่า ศาสนาของพระเจ้า ถ้อยคำของพระเจ้าค่อนข้างไร้รูปธรรม และเหตุผลสำหรับโลกยุคใหม่ และซึ่งศาสนาวัตถุนิยมไม่อาจจะรับฟังได้

 

 

 

 

  15 สภาผู้แทนราษฎรรณรงค์เพลงวันเกิดภาษานิยมไทย

สะเก็ดข่าว

ช่อง 7 28 ก.ย. 43 2000 น.

 

ข่าวจากสภาผู้แทนราษฎร ขำเหมือนกัน เรื่อง ร้องเพลงวันเกิดคนไทยเป็นฝรั่ง :- Happy birth day to you. เป็นการไม่เหมาะสมเพราะไทยเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ ควรให้มีเพลงไทยเราเองร้องอวยพรวันเกิด ไม่ควรใช้เพลงฝรั่งอังกฤษ สภาผู้แทนราษฎรโดยคณะกรรมการศาสนาและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร จึงจัดให้ประกวดเพลงวันเกิดขึ้น และปรากฎว่าเพลงวันเกิดไทยแท้ แต่งสั้นกระทัดรัด ทำนองสนุกเร้าใจ ผู้แต่งชนะการประกวด คือ ชัยรัตน์ วงศ์เกียรติขจร ว่าเพียง 4 วรรคสั้น ๆ ดังนี้ :- ให้สุขสันต์วันเกิดวันนี้, ให้สุขศรีวันเกิดเกริกไกร, ให้สุขสมวันเกิดตลอดไป, ให้สุขใจวันเกิดตลอดกาล ฯ พิษณุ นิลกลัด ว่า ต่อไปนี้คนไทยร้องเพลงวันเกิดเป็นไทยเสียที เห็นด้วยอย่างยิ่ง

 

 

  16 กลุ่มสัจจะออมทรัพย์

รอบภูมิภาคพิเศษ

ช่อง 11 30 ก.ย. 43 1330 น.

 

เทปการประชุมสัมนาเมื่อ 11 ก.ย. 2543 ณ ห้องประชุมโรงแรมมีชื่อจังหวัดพะเยา กรมประชาสัมพันธ์ นำมาออกอากาศซ้ำอีกครั้งหนึ่ง นับว่ามีคุณค่าแผนชุมชนเข้มแข็งจังหวัดพะเยา แผน 9 มาสู่แผนชุมชนเข้มแข็ง รายการที่ได้พบคนมากมาย นับแต่ จุฬารัตน์ เสรีเชษฐชน เจ้าของรายการ ได้เชิญ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ คุณหมอเพชรศรี สิรินิรันดร และคณะวิทยากรหลายคน รวมทั้งบาดหลวงไทยคาทอลิก ชื่อ บาดหลวงนิพจน์ เทียนวิหาร และพระคุณเจ้าจากวัดพระเจ้าตนหลวง ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดพะเยา นอกจากนี้ มีท่านปลัดจังหวัดลำพูน ผู้ให้ข้อคิดว่า ชุมชนต้องมีคนเก่ง คนดี และคนมีความสุข

 

รายการนี้ได้ทำการวิเคราะห์ถึงปัจจัยเหตุให้เป็นชุมชนเข้มแข็ง สมาชิกหลายคนได้วิเคราะห์ปัญหาเงิน และ จิตใจ เห็นว่าจิตใจเป็นใหญ่ มาร่วมมือกันสร้างชุมชนมิใช่เห็นแก่เงินหรือผลประโยชน์ส่วนตน แต่มาด้วยใจ เอาใจมา ปัญหาของชุมชนเกิดขึ้นเนื่องจาก เราพัฒนาวัตถุเพื่อเงิน มีผู้เชี่ยวชาญงานท้องถิ่นขึ้นมาให้คำแนะนำ กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ของพระอาจารย์สุบิน ว่าเป็นมาตรการหนึ่งของชุมชนที่เข้มแข็ง อีกคนว่า ต้องมีธรรมะ คือ สัตตธรรม 7 หรือ อปริหานิยธรรม 7 คือต้องหมั่นประชุมกันเนือง ๆ พร้อมกันเข้าประชุม พร้อมกันเลิกประชุม ไม่ทำลายกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เป็นต้น นอกจากนั้นกำลังสำคัญก็คือ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ชาวบ้านมีภูมิปัญญาอะไรบ้าง ต้องค้นออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน เพราะโดยหลักการ แผนชุมชนเข้มแข็งจะต้องเริ่มต้นจากชาวบ้าน ทางบาทหลวงนิพจน์ เทียนวิหาร พูดถึงภูมิธรรมชาวบ้าน ว่าด้วยข้าว 9 เม็ด และ หญ้าขวัญข้าว ว่าความหมายของข้าว 9 เม็ดมีมาก ไล่มาตั้งแต่เม็ดที่ 1 มาถึง เมล็ดที่ 7 ไว้สร้างบ้านแปลงเมือง เม็ดที่ 8 ไว้สร้างสังคมพระศรีอาริย์ บาทหลวงนิพจน์ คงฝังตัวอยู่ในพื้นที่มานานนับปีแล้ว เพราะศึกษาท้องถิ่นได้ดีมาก น่าสนใจการปฏิบัติงานของบาทหลวงว่าได้ทุนรอนมาอย่างไร ?

 

 

 

 

 

   17 ครบเครื่องเรื่องผู้หญิง ครบรอบ9ปี

ช่อง 7 2 ต.ค. 43 0830 น.

 

วันรำลึกครบรอบ 9 ปีของรายการ เห็นแขกคนสำคัญทะยอยมาเยี่ยมเยีนตามลำดับ เอาไวน์มาจากต่างประเทศบ้าง เอาเคกมาบ้าง เอาดอกไม้มาบ้าง เอาภาพเก่าก่อนมาฉายให้ดู ว่ารายการนี้มีความเป็นมาอย่างไร มีป้ายบอกรายการ เชิญร่วมทำบุญครบรอบ 9 ปีวันเกิด ทำบุญที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก น่าคิดว่า ผู้หญิงครบเครื่องวันนี้จะบอกวุฒิภาวะอะไร วัยวุฒิ คุณวุฒิเพิ่มขึ้นมาอีก 9 ปี จะน่าเชื่อใจได้ว่าจักเป็นสติของสตรี ๆ ได้ขนาดไหน อย่างไร

 

 

 

 

   18 ข่าวต้อนรับแชมเปี้ยนมวยโอลิมปิค

ทีวีทุกช่อง 3 ต.ค. 43 1900 น.

 

วิจารณ์ พลฤทธิ์ หรือชื่อเต็ม ส.ต.ต.วิจารณ์ พลฤทธิ์ ข้าราชการตำรวจ สำนักงานตำรวจภาค 1 เหรียญทองมวยซิดนีย์เกมส์ พร้อมคณะ บินกลับถึงกรุงเทพฯ คืนที่แล้ว ได้รับการต้อนรับอย่างมโหฬารยิ่งใหญ่มาก ตั้งแต่เหยียบเท้าลงผืนดินไทย การต่อยของวิจารณ์ พลฤทธิ์ ตั้งแต่พบคู่ต่อสู้คนแรกจนถึงคู่ชิงชนะเลิศเหรียญทอง วันที่ 1 ต.ค.43 บอกถึงความเป็นนักสู้เฉลียวฉลาด ผู้ชกด้วยสติปัญญาโดยแท้จริง ทั้งนี้โดยมีส่วนของโคชมวยชาวบราซิลคนนั้นร่วมอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง การต่อสู้ทุกครั้ง สภาพร่างกายเสียเปรียบคู่ต่อสู้ทุกครั้ง แต่วิจารณ์ก็สามารถแก้ไขสถานการณ์การต่อสู้บนเวทีผืนผ้าใบจนกลับสถานการณ์เป็นชัยชนะได้ทุกครั้งอย่างน่าชื่นชมยิ่ง ก็นับว่าเป็นการสมควรอยู่ที่วงการกีฬาไทยจักโอบอุ้มเชิดชูให้เกียรติยศอย่างสูงสุด ในด้านการส่งเสริมการกีฬา จนกระทั่งวันนี้ทั้งวันมีรายการเดินสายรับรางวัลกันทั้งวัน

 

 

 

 

  19 ขาวผ่อง สิทธิชูชัยขอโอกาส

ที่นี่ประเทศไทย

ช่อง 5 3 ต.ค. 43 21.40 น.

 

ที่นี่ประเทศไทย ช่อง 5 เวลา 21.40 น.ได้พบ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย นักกีฬามวยเหรียญเงินโอลิมปิครุ่นพี่ ในนาม ทวี อัมพรมหา มาออกรายการ ฟังแล้วเห็นว่าเรื่องของขาวผ่องหรือทวี อัมพรมหา น่าคิดเป็นอย่างยิ่ง เพราะรุ่นนั้นการสนับสนุนกีฬาแห้งแล้งเสียจริง ๆ จนดูว่าคนไทยยุคนั้นขาดน้ำใจไป รางวัลต่าง ๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่นักมวยโอลิมปิคได้วันนี้กับวันนั้นช่าง แตกต่างกันอย่างฟ้ากับดิน ดูไม่เป็นธรรมเสียเลย ทวี อัมพรมหาขอว่าเขาไม่กล่าวโทษใคร หากโทษที่เกิดมาเร็วไปหน่อย ที่สุดทวี อัมพรมหา ขอว่าหาก วิจารณ์ พลฤทธิ์ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขาขอโอกาศติดตามเข้าเฝ้าด้วย ก็พอใจแล้ว

 

 

 

 

 

   20 โต้วาทีบุช-อัลกอร์

ไอทีวี 3 ก.ย. 43 1400 น.

 

เมื่อเช้า 0830 น.เวลาไทย จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช กับอัล กอร์ โต้วาทีการเมืองกันที่หอประชุมมหาวิทยาลัยแมสสาซูเซต เป็นการโต้วาทีครั้งที่ 2 บุชดูเหมือนจะมั่นใจกว่า วันนี้ก็มีรายการทีวีหลายช่อง เสนอผู้รู้มาวิจารณ์กันต่าง ๆ หางเสียงของนักวิชาการรัฐศาสตร์ทั้งหลาย ๆ ดูเหมือนจะพูดถึงนาย อัล กอร์ ลูกน้องนายบิล คลินตั้นมากกว่านายจอร์จ บุช ลูกชายอดีตประธานาธิบดีชื่อเดียวกัน แต่หลังจากวันนี้โพลชี้ว่าบุชมีคะแนนนิยมล้ำหน้ากอร์ไปเล็กน้อย แต่ยังกล่าวได้ว่า สูสีกันอยู่ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ไม่เหมือนการเลือกตั้งประเทศไทย การธิบายให้เข้าใจว่าเขาเลือกประธานาธิบดีกันอย่างไร ดูจะอธิบายยาก popular vote กับ electoral vote จะอธิบายอย่างไร คนจึงจะเข้าใจได้ง่าย ๆ

 

 

 

 

  21 พบชุมชนปฐมอโศก

เวทีชาวบ้าน

ช่อง 11 7 ต.ค. 43 2030 น.

 

พบชุมชนปฐมอโศก สิ่งที่พิธีกรสนใจ คงมิใช่เรื่องแก่นธรรมหรือแก่นศาสนา การมอง ก็คงมิได้มองลึกไปถึงแก่นธรรมหรือแก่นศาสนา เพราะมิได้มุ่งไปที่ตัวบุคคลคือ ท่านสมณพราห์มโพธิรักษ์ ซึ่งเป็นตัวบุคคลผู้ได้ริเริ่ม บุกเบิกก่อสร้างชุมชนแห่งนี้ขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ด้วยหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และนำพาเพื่อนนักบวชปฏิบัติธรรมมาตามแนวทางพระพุทธศาสนา จนแผ่ผายออกไปถึงสังคม บัดนี้ได้ก่อเกิดเป็นชุมชน เป็นเมือง เป็นหมู่บ้านขึ้นมาเป็นชุมชนใหม่ เมืองใหม่ หมู่บ้านใหม่ ตามที่รายการเวทีชาวบ้านให้ความหมายของงานวันนี้ว่า "ปฐมอโศก-ชุมชนพึ่งตนเอง"

 

การมองของรายการเวทีชาวบ้านวันนี้ จึงเป็นการมองไปที่ชุมชน โดยเห็นคุณค่าของชุมชนที่นอกจากสามารถพึ่งตนเองเอาตัวรอดได้แล้ว ยังสามารถทำประโยชน์แด่สาธารณะได้อย่างยิ่งใหญ่เกินตัว เริ่มแต่การมองประชากรที่ล้วนเป็นนักปฏิบัติธรรม นับแต่อยู่กันด้วยกฎของศาสนา ชาวปฐมอโศก ต้องถือศีล 5 เป็นอย่างต่ำ และต้องกินมังสวิรัติ บุคคลในชุมชนนี้มีนักบวช ถึงจะมิใช่นุ่งเหลืองห่มเหลือง ก็นำพาปฏิบัติไปในทิศทางของพระพุทธศาสนา จึงต่างเข้าใจซึ้งในเป้าหมายของชีวิตที่ร่วมกันอย่างเด็ดเดี่ยว ก็คือมุ่งขัดเกลากิเลสของตนให้หมดสิ้นไปตราบจนบรรลุธรรมสูงสุดในพระพุทธศาสนา ฉะนั้น วิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมของชีวิตทั้งหมดทั้งสิ้นในชุมชนนี้ จึงเป็นทางธรรมล้วน ๆ หรือจะเรียกว่าเป็นทางบุญล้วน ๆ ก็คงจะพอเรียกได้ ทำให้เป็นคล้าย ๆ ชุมชนนักบวชขึ้นมา นี่คือประเด็นหลักของความหมายของชุมชนปฐมอโศก หรือ ชุมชนอื่น ๆ ในเครือสันติอโศก ซึ่งมี สมณพราห์มโพธิรักษ์เป็นผู้นำหรือเจ้าลัทธิขณะนี้

 

หากแต่ประเด็นความสนใจของสังคมไทยมักจะมองเมินเป้าหมายนี้เสีย จึงพากันแปลกประหลาดใจ ในบทบาทหรือวิถีทางวัฒนธรรมของชุมชนนี้ เมื่อได้พบว่ามีการเสียสละต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปถึงเรื่องใหญ่ ๆ เช่นเรื่องโรงเรียน ซึ่งเวทีชาวบ้านวันนี้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โรงเรียนในชุมชนปฐมอโศกมีโรงเรียน 1 แห่ง มีนักเรียน 120 คน เริ่มเปิดการสอนมาแตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ครูผู้สอนซึ่งล้วนแต่มีคุณวุฒิ เคยเป็นครูอาจารย์มาก่อนมาบวชในชุมชนปฐมอโศกนี้ ล้วนอุทิศเป็นกุศลทั้งหมด เพราะไม่มีเงินเดือนให้ และครูก็ไม่ติดใจจะเอาเงินเดือน พอใจทำงานฟรี สิ่งที่เป็นปัญหาของคนทั่วไปก็คือทำได้อย่างไร คำตอบก็คือ ทำได้เพราะมุ่งหมายมรรคผลนิพพานเป็นสิ่งตอบแทน อย่างนี้เรียกว่าการอุทิศทุกอย่างเพื่อ การบุญ ตราบสู่มรรคผล ที่น่าสรรเสริญและเอาเยี่ยงอย่าง แต่เดิมนั้นเป็นสำนักสงฆ์ที่อยู่ในมหาเถรสมาคม ต่อมาเกิดวิวาทกับมหาเถรสมาคม จนหาทางออกไม่ได้นอกจากจำเป็นต้องแยกตัวออกไปเป็นกลุ่มนักบวชอิสระตามความประสงค์ของตนเองและโดยคำสั่งศาลเมื่อแพ้คดีถึง 3 ศาล ซึ่งเป็นกรณีที่ชาวพุทธน่าจะให้ความสนใจศึกษาวิเคราะห์ดูให้ลึกซึ้ง บัดนี้โดยระเบียบวินัยเฉพาะตน ได้สร้างชุมชนขึ้นมาหลายแห่ง ที่น่าสนใจและได้มีหน่วยงานมาศึกษาวิจัยและสละมาร่วมอุดมการณ์มากยิ่งขึ้น เช่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ NHK สถานีโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงก้องโลกของญี่ปุ่น ก็ได้มาถ่ายทำสารคดีเรื่องราวในสันติอโศก เผยแผ่ไปทั่วโลก เป็นต้น

 

ปฐมอโศก-โชุมชนพึ่งตนเอง ซึ่งเป็นชุมชนที่กินมังสวิรัติ สัมภาษณ์คุณหมอ ฟากฟ้าหนึ่ง อโศกตระกูล พ.ต.หญิงศิริลักษณ์ ศรีเมือง ซึ่งเป็นแกนนำของชุมชนอโศก ก็ปรากฎตัวมาร่วมชี้แจงด้วย นอกจากนั้น คณะนักบวชอโศก นับแต่ท่านประธานนักบวชคือ สมณพราห์มณ์โพธิรักษ์เอง ก็พาหมู่มาแวดล้อมเอาใจใส่ในกิจกรรมนี้ด้วย ณ วันนี้ น่าเชื่อได้ว่า ชุมชนอโศกที่มีอยู่หลายแห่งทั่วประเทศเป็นชุมชนผู้ดี ต้องตามหลักการทางศาสนา บทบาทวัฒนธรรมทั้งมวลของชุมชน น่าเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนยุคนี้ได้หลายด้าน โดยเฉพาะด้านการนำทางเศรษฐกิจแบบพอเพียง การสังคมที่มักน้อยสันโดษ การศึกษาที่มุ่งให้เกิดความเป็นคนขึ้นมา และการนำประพฤติตนเพื่อบรรลุผลสูงสุดทางศาสนา คือแบบอย่างระดับหนึ่งสำหรับฆราวาสผู้ประพฤติธรรม แต่สิ่งที่น่าสังเกตขณะนี้ อนาคตของชุมชนสันติอโศกทั้งหมด น่าจะอาจคาดคะเนได้บ้างว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรวนเรไปไม่น้อย ภายหลังผู้นำท่านปัจจุบัน คือท่านโพธิรักษ์ผ่านไปแล้ว น่าที่ชุมชนจะคำนึงปัญหานี้ไว้บ้าง โดยเริ่มประพฤติตนให้ถูกตามนามธรรม เป็นต้นว่า จะต้องถอนการติดยึดในตัวบุคคล อย่าถือบุคคลเป็นใหญ่ อย่าถือท่านโพธิรักษ์เป็นใหญ่ แต่ถือคำสั่งสอนเป็นใหญ่ และการพึ่งตนเอง และเมื่อถึงเวลานั้น ระวังศัตรูตัวร้ายที่ซุ่มซ่อนอยู่ จึงจะไปได้ยั่งยืนนานทำประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้ดีต่อไปในภายหน้า

 

 

 

 

 

 22 แอบได้เสียกับลูกสาวตนเอง

ตามหาแก่นธรรม

ช่อง 11 8 ต.ค. 43 2030 น.

 

กระทู้ที่ตั้งวันนี้

กระทู้ที่ 1 เรื่องวัด ๆ หนึ่ง ขึ้นป้ายคัทเตอร์ขนาดใหญ่ คล้ายลอกเลียนความคิดวีรบุรุษหนังจีนกำลังภายใน ประกาศท้าทายไปยังคนทั้งหลาย ใครพบพิศูจน์ได้ว่านิพพานเป็นอนัตตาให้ไปรับเงินรางวัล 1 ล้านบาทได้ คงเป็นของ ธรรมกาย ปทุมธานี นั่นเอง ยังขึ้นป้ายเช่นนี้ในหมู่บ้านกัลยาณมิตรสาขาต่างจังหวัดด้วย หากแต่ฝ่ายบ้านเมืองสั่งเก็บหมด ซึ่งก็สมควรแล้ว แท้จริง ไม่น่ามีความพยายามเช่นนี้เลยในดินแดนพระพุทธศาสนา ก่อนจะขึ้นป้ายคัทเอ๊าท์ขนาดใหญ่เช่นนี้ ควรจะถามตัวเองก่อนว่าใครจะเป็นผู้ตัดสินให้ ใครจะเป็นผู้ตรวจข้อสอบให้ ถ้าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ตัวเองเป็นคนตรวจข้อสอบ ก็ดูจะไม่เป็นธรรม แต่หากว่ามีผู้ตัดสินที่เป็นธรรม เขาก็คงตัดสินให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ตอบถูก น่าจะเอารางวัลนี้มอบถวายพระพุทธเจ้า เพราะพระองค์เป็นผู้พูดเรื่องอนัตตาขึ้นเป็นคนแรก (โปรดดู อนัตตลักขณสูตร ทรงแสดงเป็นกัณฑ์ที่ 2 ต่อจาก ธัมมจักกัปวัตตนสูตร)

 

และพูดไว้อย่างมากมายจนกลายเป็นคำสอนของพระพุทธศาสนา

 

แล้วต่อมาภายหลังมหาปรินิพพาน พระอรหันต์ 500 นำโดย พระมหากัสสปะเถระ ก็ทำการสังคายนารวบรวมขึ้นเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น ซึ่งต่อมาเรียกว่า พระไตรปิฏก ซึ่งตกทอดมาถึงปัจจุบันนี้ ทั้งที่แปลเป็นภาษาไทยไว้ครบถ้วนทั้งหมด แล้วจัดพิมพ์ออกมาเป็นเล่มหนังสือ และที่มหาวิทยาลัยมหิดล จัดบันทึกลงในซีดีรอมไว้ทั้งหมด ขอแนะนำให้ศึกษา จะตรวจหรือพิจารณาให้รางวัลพระไตรปิฏกนี้ หากคิดว่าอาจจะทำได้ตามความมุ่งหมายในการศึกษาเพื่อแสวงหาสัจธรรมที่แท้จริง เพราะพระไตรปิฎกนี่แหละเป็นของเดิมเป็นของแท้จริงยิ่งเกินกว่าจะมีสิ่งอื่นมาทดแทนอยู่แล้ว

 

แต่การที่ปุถุชนคนธรรมดาคิดจะเอาปัญญาตนไปวัดปัญญาของหมู่พระอรหันต์นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเขลา ทางที่ถูกจะต้องคิดบำเพ็ญเพียรในหลักพระธรรมวินัยไตรสิกขาไปจนกว่าจักบรรลุธรรมสูงสุด เป็นพระอรหันต์เสียก่อน จึงจะรู้คำตอบที่ถูกต้อง สิ้นความสงสัยไปด้วยตนเอง

 

เพราะเมื่อมีพระไตรปิฏกอยู่ จะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดอาจเสนอขอชิงรางวัลที่ตั้งนั้นอย่างแน่นอน เว้นแต่คนโลภเขลาเบาปัญญาเท่านั้น

 

 

อีกกระทู้หนึ่ง เล่าเรื่องผู้เป็นพ่อแท้ ๆ แอบได้เสียกับลูกสาวตนเองอายุ 19 ปี ต่อมาแม่จับได้ก็โกรธและขับไล่ลูกสาวออกจากบ้านไป ถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้จะอธิบายว่าอย่างไร ? ตอบ นี่คือตัวอย่างที่ดีมาก สำหรับมองความคิดแบบวัตถุนิยม นี่คือตัวอย่างของความคิดวัตถุนิยม เมื่อความคิดวัตถุนิยมเข้าครอบงำวิถีชีวิตคนไทยมากยิ่งขึ้น เมื่อมองลูกสาวก็มองเป็นเพียงวัตถุแห่งความใคร่ ปราศจากการมองทางคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ คือมีความเป็นพ่อ และ มีความเป็นลูก เมื่อเกิดราคะตัณหาขึ้น ก็คิดระบายเสียด้วยวัตถุแห่งความใคร่นั้น หากจะสาวหาตัวผู้กระทำผิด ก็ต้องตัดสินจากความเป็นวัตถุนิยม ดูว่าใครเป็นวัตถุนิยมมากกว่ากันคนนั้นแหละเป็นผู้ผิด ทั้งสองกระทู้นี้ บ่งบอกอันตรายจากมิจฉาทิฏฐิพอ ๆ กัน

 

 

 

 

 

 

  23 ตาดูหูฟัง

ช่อง 11 10 ต.ค. 43 2220 น.

 

จักรภพ เพ็ญแข ตั้งคำถามขึ้นมาหลายคำถาม ล้วนแต่เรื่องราวของสื่อเอง เช่น นักจัดรายการตกงานจริงหรือไม่ ? อาชีพของคนจัดรายการต้องการคุณภาพอย่างไร ? จะจัดการกับนักจัดรายการที่ไม่มีคุณภาพอย่างไร ? ปัญหาคลื่นความถี่ ตามมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 จะต้องทำอะไรเป็นรูปธรรมอย่างไร ? เมื่อมีมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว จะมีใบประกาศรับรองคุณภาพนักจัดรายการอยู่อีกหรือไม่ ? น่าคิด น่าสนใจมากทีเดียว และน่าจะลองวิเคราะห์ความหมายของคำว่า คุณภาพ เมื่อนำมาให้ความหมายของนักจัดรายการ ว่าควรจะมีจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ประการต้น ๆ น่าจะหมายความรวมไปถึง ความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีวิสัยทัศน์ที่มองสังคมและปัญหาสังคมออกอย่างแจ่มแจ้ง และความสามารถเป็นที่น่าไว้วางใจได้ หากมิฉะนั้นควรจะ ลุกออกจากเก้าอี้ ให้คนอื่นทำบ้าง ประเด็น มาตรา 40 : คลื่นความถี่..เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ จะจัดสรรอย่างไรก็ตามแต่ ควรจะกัน ๆ ไว้เป็นของส่วนกลางจำนวนหนึ่งเสมอเผื่อว่าการคณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคมยังมิได้ให้ความสนใจขอแบ่งมาใช้ในกิจการพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะ จักสามารถขอมาใช้ได้ภายหลัง องค์กรบริหาร คือ "องค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ" น่าจะยอมให้ฝ่ายพระสงฆ์เข้าไปร่วมเป็นกรรมการได้ เพราะดูไม่ผิดพระธรรมวินัยแต่อย่างใด เพื่อประโยชน์ด้านการเผยแผ่ อบรมการศาสนา การศึกษาและวัฒนธรรมของชาติโดยตรง

 

 

 

 

 

  24      พระราชาคณะปลอมตัวมาเที่ยวคอฟฟีชอป

ประเทศไทยวันนี้

ช่อง 5 19 ต.ค. 43 2140 น.

 

เหตุเกิดที่อ่างทอง เรื่องชาย 3 คนไปเที่ยวดารัตน์คอฟฟี่ชอป มีคนเห็นว่าไปที่นั่นไม่น้อยกว่า 3 ครั้งหลังออกพรรษา แขกที่นั่งโต๊ะข้างๆสังเกตอยู่ว่าจะเป็นพระปลอมตัวมาเที่ยว นอกจากชอบเรียกนักร้องชื่อจ๊ะเอ๋มาคุยด้วยแล้ว ยังชอบทิปและขึ้นไปคล้องมาลัยนักร้องอีกด้วย จนกระทั่งถึงขนาดขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีอีก เจ้าของรายการเอาพยานมา 2 คน คือน้องเปิ้ล และ น้องวิรัช ผู้อ้างว่าตนอยู่ในดารัตน์คอฟฟี่ชอป สถานที่ที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ มาถาม ทราบว่า แขกผู้เห็นเหตุการณ์นั่นเองไปแจ้งตำรวจให้มาจับพระปลอมมาเที่ยว พตท.กิตติพงศ์ บำรุงพงศ์ รองผกก.สภอ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ว่าตำรวจเข้าไปตรวจสอบค้นตัวค้นรถ พบกระเป๋าใส่จีวร 2 ผืนซ่อนอยู่ในกระโปรงรถ เจ้าตัวให้การวกวน อ้างว่าอยู่วัดหนองกร่าง จ.อ่างทอง ได้นำตัวไปยัง สนง.เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ฝ่ายปกครองจึงรับภาระไปดำเนินการต่อ กลายเป็นข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เมื่อพบว่าแท้จริงเป็นถึงพระสังฆาธิการ ระดับพระราชาคณะ (ระดับ 5 แห่งชนชั้นในหมู่สงฆ์) คือ พระปฏิเวทวิศิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง จ.อ่างทอง

 

และคงเพราะเหตุนั้น เหตุที่ท่านเป็นถึงพระราชาคณะ ท่านจึงทราบความผิดดีว่าอาจถึงขั้น "ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง" ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 พ.ศ.2541ข้อ 55 (5) ท่านจึงไม่ให้วงการสงฆ์ลำบากจึงหนีไปลาสิกขาเสีย อย่างน้อยก็พอได้เงินติดตัวไปบ้าง ดีกว่าจะอยู่เป็นเหยื่อของหนังสือพิมพ์ ฝ่ายญาติโยมที่วัดศรีบุญเรือง ก็บ่นเสียดาย ว่าบวชมาร่วม 30 ปีแล้ว ไม่น่าจะทำผิดได้

 

นั่นแหละ เหตุผลอยู่ที่ว่าบวชมาแล้วได้พากเพียรร่ำเรียนไตรสิกขาหรือไม่ พรหมจรรย์ต้องรักษาแม้ว่าจะเป็นอะไรขนาดไหนในราชการสงฆ์ ความหมายอยู่ที่การประหารกิเลสให้สิ้นไปจึงจะเอาตัวรอดได้เป็นคุณแก่พระพุทธศาสนา ในระบบสงฆ์ไทยทุกวันนี้ เมื่อคำนึงปัญหาท่านเจ้าคุณท่านนี้ น่าจะเห็นได้ว่า ท่านผู้บวชมานาน แต่อยู่อย่างทุกข์ทรมาน เพราะถูกเผารนด้วยราคะตัณหาคงจะมีอยู่ไม่น้อย แทบทั่วทุกตัวตน เพราะวิถีทางราชการสงฆ์เจ้าขุนมูลนายสงฆ์ ที่ไม่เอื้อแด่พระธรรมวินัย ไม่เอื้อแด่การศึกษาไตรสิกขาเลย แล้วต่างก็ใฝ่ในวิถีทางแห่งโลกธรรม 4 มิต่างไปจากฆราวาสเลยนั้น จักป้องกันมิให้กิเลสราคะตัณหากำเริบได้อย่างไร ? แน่นอน สถานการณ์น่าระส่ำระสายแห่งหมู่สงฆ์ เพราะเหตุนี้ จักเตรียมการต้อนรับอย่างไร ถ้าไม่คิดเตรียมการปฏิรูปนำหมู่สงฆ์กลับไปสู่พระธรรมวินัยและการศึกษาระบบไตรสิกขา ?

 

 

 

 

 

 25 ทักษิณรวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร

เจาะใจ

ช่อง 5 19 ต.ค. 43 2240 น.

 

ทักษิณ ชินวัตร มาให้ นารากร ติยายน กับ สัญญา คุณากร ซักถาม ก่อนจะถึงคำถามสำคัญก็ได้หัวเราะกันหลายครั้ง ด้วยคำถามส่วนตัว ๆ เกี่ยวกับความเป็นคนรวยของท่านหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร คนฟัง ๆ ว่าอายุ 53 แล้วการมาเล่นการเมืองก็เพื่อว่าจะเอาเงินมาทำประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้าง ถ้าไม่เล่นการเมืองก็ไม่มีที่ใช้เงิน ทำให้รู้สึกว่าท่านรวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร ก็ฟังน่าประหลาดแกมขำขันดี แต่ดูท่านเป็นกันเอง กระทั่งคำถามว่า กลัวเมียหรือเปล่าคะ พิธีกรสาวถามแล้วใคร ๆก็อดหัวเราะไม่ได้แม้กระทั่งเจ้าตัวเอง

 

แล้วมาสู่ประเด็นการเมือง ดูบรรยากาศเคร่งขรึมขึ้น ท่านว่าปัญหาของประเทศไทยเป็นสิ่งที่น่าท้าทายสำหรับท่าน โดยเฉพาะเรื่องหนี้ ซึ่งมีมากจนกระทั่งแม้ว่าขายทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ทั้งประเทศก็ใช้หนีเขาไม่หมด

 

ฉะนั้นนโยบายของท่านจึงออกมาแบบฉลาด ๆ คือจะต้องให้คนทั้งชาติเพิ่มพูนด้านมันสมองความคิดสติปัญญา ว่าจะช่วยกันหารายได้อย่างไร ท่านดูเหมือนไม่ได้พูดชัดเจนนักว่าจะทำอะไรอย่างไร คงให้เดาเอาเองว่า ด้านการศึกษาจะต้องเป็นนโยบายสำคัญ แต่ก็กำปั้นทุบดินเกินไปนะ ไม่ผิดหรอก

 

คำถามต่อไปว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร จะว่าอย่างไร ? เป็นคำถามที่น่าถามคนระดับหัวหน้าพรรคทีเดียว อยากรู้ว่าคนมีอุดมการณ์ทางการเมืองกันอย่างไร จำเป็นหรือไม่ คำตอบว่าจะปรับวัฒนธรรมการเมืองเสียใหม่ให้ได้ เหมือนนักรักบี้พยายามฝ่า ดันทุรังไปเพื่อวางทรัยให้ได้ เป็นคำตอบที่น่าพอใจทีเดียว

 

แต่ที่ว่าอายุ 53 แล้ว ไม่รู้จะหาเงินหาทองไปทำไม ต้องการรับใช้ประเทศชาติบ้าง น่าจะเชื่อยังไม่ได้ เพราะขัดหลักสัจธรรม แท้จริงคนไม่ได้คิดหากแต่เป็นธรรมชาติของปุถุชน แม้มีเงินทองกองเท่าภูเขาจนไม่รู้จะใช้อย่างไรจึงจะหมดแล้วก็มิอาจจะหยุดความโลภได้ จึงยังคงต้องหาเงินมาพอกพูนเข้าไปๆๆๆๆๆๆ ก็ยังไม่รู้จักพอ อันเป็นธรรมชาติของปุถุชน เช่นนั้น เขาจึงว่าปุถุชนกับความบาปเป็นของคู่กัน แต่หากมุ่งทางบุญก็กลับใจก็ใช้เงินให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อสาธารณะ ต่อคนดี ๆ ๆ

 

 

 

 

 

 26 ยอดคนสมองไว

ไอทีวี 21 ต.ค. 43 0830 น.

 

ทุกวันเสาร์ ยอดคนสมองไว ไอทีวี สาขาภาษาอังกฤษวันนี้ ชิงแชมป็ประเทศไทย และทั้งตำแหน่งยอดคนสมองไวสาขาภาษาอังกฤษด้วย มียอดคนเข้ามาถึงรอบนี้ 3 โรงเรียนคือจาก ร.ร.พิบูลวิทยาลัย ร.ร.นวมินทราชิโนทิศ และ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา กรรมการมาจากระดับบิ๊ก ๆ ในมหาวิทยาลัยหลายคน ชิงทุนของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งมีมาตรฐาน ISO9002 เจ้าของรายการสาวได้มิสเตอร John Mcklin มายืนเคียงข้างอ่านคำถาม ดูแล้วน่าตื่นเต้น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานำ พิบูลวิทยาลัยตามจนทันที่คะแนน 12:12 แล้วชงักปล่อยให้เตรียมอุดมศึกษานำลิ่วไปจนถึง18คะแนน จุฑามาศ กาญจนวงศ์ จาก เตรียมอุดมศึกษา จึงชนะไป ได้เป็น แชมเปี้ยนประเทศไทยสาขาวิชาภาษาอังกฤษ และเป็น ยอดคนสมองไวประจำปี นี้ นี่เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม

 

 

 

 

 

  27  เหตุบ้านการเมือง เรื่องคอรัปชั่น

ช่อง 3 23 ต.ค. 43 7.30 น.

 

เครื่อข่ายเดือนตุลาคม โดย อมรรัตน์ อมรรัตนานนท์ เลขาธิการเครือข่ายเดือนตุลาคม ยื่นหนังสือเสนอให้ถอดถอน 8 นักการเมือง ในรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ โดยมีหลักฐานหุ้นอยู่ในบริษัท นายอมรรัตน์อ้างว่ารัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ละเลยระเบียบกฎหมายเหมือนกันหมดโดยเหตุผลว่าลืมรายงานเรื่องที่ตนมีหุ้นอยู่ในบริษัทซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้หากแต่แสดงนิสัยนักการเมืองที่ขาดความรับผิดชอบที่ประชาชนจะต้องตรวจสอบ อมรรัตน์ อธิบายว่าระบอบประชาธิปไตยเราเห็นแต่บทบาทของนักเลือกตั้งได้พิสูจน์ตนมาตลอดว่านักการเมืองเป็นเพียงกลุ่มผลประโยชน์กลุ่มหนึ่งพยายามหาประโยชน์แห่งตนและพวกพ้อง มีผู้ชมรายการหลายคนโทรศัพท์เข้ามาในรายการ ทุกคนล้วนสนับสนุนให้เครือข่ายเดือนตุลาคมเดินหน้าต่อไป

 

 

 

 

 28 กรณีพระครูธรรมธรวันชัย ถาวโร

จับพระปลอมเป็นนายพันเอก

ไอทีวี 26 ต.ค. 43 1930 น.

 

ข่าวทุ่มไอทีวี รายงานโดยกิตติ สิงหาปัต กับ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง รายงานตำรวจจับกุมพระปลอมตัวเป็นนายพันเอก นั่งรถเบนซ์ เข้าไปในบ้านและอยู่ภายในบ้านกับสตรีคนหนึ่งตลอดคืน เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าช้าง จ.สุพรรณบุรี ปรากฎว่ามีประวัติยาว มีฐานันดรคือพระครูธรรมธรวันชัย ถาวโร (อุ่นทรัพย์)

 

เคยร่วมมือกับวัดพระธรรมกาย พาพระสงฆ์ร่วม 200 รูปมากดดัน รมว.ศธ. ท่านสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ให้ทบทวนปลดพระพรหมโมลีออกจากตำแหน่ง จภ. 1 ข่มขู่ว่า หากไม่ทบทวนจะระดมพระวิป้สนากรรมฐานมาประท้วงเป็นหมื่น ๆ รูป

 

ซึ่งพฤติกรรมคราวนั้นก็เห็นอยู่ว่าแปลกแปร่ง วิปริตผิดความคิดของพระผู้ชอบด้วยศีลธรรมอันดีอยู่แล้ว กระนั้นเมื่อไปอวดว่าเป็นพระสายวิปัสนากรรมฐาน จึงเห็นความชั่วทรามมากยิ่งขึ้น และ ชาวบ้านก็เห็นเช่นนั้น ไอทีวี ได้เฝ้าติดตาม จนสามารถซุ่มซ่อนถ่ายภาพ ขณะนำรถเบนซ์เก๋งราคานับล้าน ไปจอดที่บ้านหลังหนึ่ง ไอทีวีติดตามถ่ายภาพหญิงสองคนเข้าไปในบ้านหลังนั้นไว้ได้ด้วย และพระรูปนั้นเข้าไปอยู่ในบ้านกับหญิงสาวสองต่อสองตลอดทั้งคืน จึงออกมา โดนตำรวจรวบตัวพร้อมหลักฐานขณะแต่งตัวเป็นนายพันเอก ต่อมาศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 6 เดือน ไม่รอการลงอาญาเพราะศาลเห็นว่าเคยเป็นพระสงฆ์ระดับพระสังฆาธิการ หรือ ข้าราชการสงฆ์ที่ย่อมทราบดีถึงความถูกความผิดความควรหรือไม่ควรอย่างไร จะเห็นได้ว่าพระรูปนี้ สามารถหลอกลวงญาติโยม ได้เงินทองไปเป็นจำนวนมหาศาล แล้วนำไปใช้จ่ายอย่างไม่เป็นบุญเลย เมื่อโดนจับสึกไม่ทราบว่าได้เงินทองเข้าของญาติโยมบริจาคติดตัวไปป้องกันความชั่วของตนเองเท่าไร กรณีเช่นนี้ น่าจะรู้ตัวว่า ตนมีความผิด ทั้งทางราชการสงฆ์ และทางพระธรรมวินัย ทางโลก ตามกฎมหาเถรสมาคม ที่ 24 พ.ศ.2541 ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ

 

กรณีนี้เข้าข่าย การถอดถอนตามข้อ 55 (5) ละเมิดจริยา ฐาน "ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง" ยังพูดได้ว่าจะกลับมาบวชใหม่อีก ในทางพระวินัย อนิยต ข้อที่ 1 บ่งว่า

 

"ภิกษุนั่งในที่ลับตากับหญิงสองต่อสอง ถ้ามีคนที่ควรเชื่อถือได้มาพูดขึ้นด้วยธรรม 3 อย่าง คือ ปาราชิก หรือสังฆาทิเสส หรือปาจิตตีย์ อย่างใดอย่างหนึ่ง ภิกษุรับอย่างใด ให้ปรับอย่างนั้น หรือเขาว่าจำเพาะธรรมอย่างใด ให้ปรับอย่างนั้น" [ดู นวโกวาท (ลักสูตรนักธรรมชั้นตรี) สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทรงแต่ง มจร.พิมพ์ครั้งที่ 74/2529 หน้า 4 ขีดเส้นใต้โดย บก.]

 

กรณีนี้อยู่ในที่ลับตากับสตรีเพศ ในที่มุงบังเดียวกันทั้งคืน ไม่มีคนที่3รู้เห็นแน่ชัด ท่านจึงอนุญาตให้คนที่ควรเชื่อถือได้ชี้ความผิดตามพระวินัยออกมา เมื่อท่านว่าเป็นปาราชิก ก็ต้องตัดสินไปตามนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะปฏิเสธก็ตาม คนที่ควรเชื่อถือได้ ท่านไม่ระบุว่าต้องเป็นพระสงฆ์เท่านั้น แม้ฆราวาสที่ควรเชื่อถือได้ ก็สามารถชี้ได้เหมือนกัน

 

 

 

 

 

 29 โครงการท่อแกสไทย-มาเลเซีย

Nation News Talk

ช่อง 9 31 ต.ค. 43 21.30 น.

 

สุทธิชัย หยุ่น ตัวต่อตัวกับ พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ประธานกรรมการประชาพิจารณ์โครงการท่อแกส ไทย-มาเลเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ต.ค.43 ที่ไม่เรียบร้อย จนมีการประท้วงอย่างรุนแรงจนเกิดแตกหักได้เลือด หวิดจลาจล คำถามที่คำตอบไม่กระจ่างคือ ประชาพิจารณ์คืออะไร ? ทำประชาพิจารณ์ทำไม ? การประชาพิจารณ์เลือดครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 25 นาที ก็สรุปผล ถือว่าสำเร็จตามความหมุ่งหมายหรือไม่ ? ผู้ที่ตอบ ควรจะเป็นรัฐบาลเป็นผู้ตอบ จึงจะเป็นการชอบธรรม

 

 

 

 

 

 

 30 เกมเศรษฐี : Millionare Milleneum

ช่อง 3 4-5 พ.ย. 43 1800 น.

เกมข้ามรุ่น

ช่อง 5 4-5 พ.ย. 43 1800 น.  

 

ทั้ง 2 เกมส์ เพิ่งปรากฎในจอแก้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ ของช่อง 3 และของช่อง 5 ต่อมาช่องอื่น ๆ ก็ตามมา แม้จะเรียกชื่ออย่างอื่นแต่ก็มีความหมายคล้าย ๆ กัน ทั้ง 2 เกมส์ จัดขึ้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ มีรางวัลตั้งไว้ถึง 1,000,000 บาท เกมส์เศรษฐี ตั้งคำถามไว้ 16 คำถาม เป็นระดับ ล้านบาท เคยมีผู้พิชิตล้านบาทไปแล้ว ส่วน เกมข้ามรุ่น แยกคำถามเป็นหมวด ๆ เหมือนนักเรียนตอบเกมสมองไว ค่อยผ่านไป ๆ วันวานนี้ มีผู้ได้ถึง 89,000 บาท ดีที่ครูกับนักเรียนได้ไปจะได้ไปบำรุงการศึกษา มาดของเกมเศรษฐี

 

เจตนารมณ์ของผู้จัด ก็คงจะให้มาดออกมาเหมือนมาดของเศรษฐี แม้ชื่อรายการภาคภาษาอังกฤษ ว่า Millionare Milleneum ก็ออกมาดเศรษฐีเต็มตัว ฉากของรายการก็คงแพงมโหฬาร เพราะเดินด้วยสมองกลไปหมด แม้กระทั่งการถ่ายทอดผู้ช่วย ให้มาปรากฎในจอ ทำได้อย่างเศรษฐี คล้ายว่าซื้อมาแกะกล่องติดตั้งจากต่างประเทศ เมื่อเป็นเช่นนี้ ดูเจ้าของรายการก็ออกมาดเศรษฐีด้วยจึงจะสมกัน ดูท่าทางก็ขึงขังคมในถ้อยคำวาจา ดูอเกรสสิฟนิด ๆ ก็เก๋ไปอย่าง และก็คงลอกบุคคลิกลักษณะท่าทางแม้วิธีการดำเนินเกมส์มาจากฝรั่งวัตถุนิยมอีกเช่นเคย เมื่อเฉลียวคิดว่า ที่เห็นเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมแล้วก็อดนึกถึงเศรษฐีตัวจริง ผู้พูดว่า หากไม่เล่นการเมืองก็ไม่รู้จะเอาเงินไปใช้อะไร นั่นคือ เศรษฐีหมื่นล้าน ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งขณะนี้ที่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง ก็มีมาดว่าที่นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยขึ้นเต็มที่แล้ว แต่ในบรรยากาศที่สังคมยากจนไปกันหมดอย่างนี้

 

ใครผู้ออกมาดเศรษฐี ก็ดูน่าระเคืองระคายสายตาอยู่ไม่น้อย คนทั้งหลายที่จนพอ ๆ กันแล้วในยุคเศรษฐกิจพินาศก็คงนึกว่า มาเยาะเย้ยกันเล่นอยู่ทำไม รวยก็รวยไป ไฉนมาอวดร่ำอวดรวยต่อสาธารณะอยู่ได้ ฝนก็ตกจนน้ำท่วมบ้านท่วมเมืองยากจนไปตาม ๆ กันแล้ว การอวดร่ำอวดรวย ดูเหมือนจะทำคนเสียคนไปเยอะแล้ว แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า ที่เป็นข่าวดัง ๆ อยู่ก็ล้วนมีผลมาจากการอวดร่ำอวดรวยกันทั้งนั้น ทั้งนี้เพราะประพฤติตนขัดหลักธรรมขัดกาละเทศะที่ถูกต้อง และน่าที่นักวิเคราะห์จะได้ลองวิเคราะห์ดูว่า เกมเช่นนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

 

อนึ่ง รายการเกมส์เศรษฐี ผู้มาตอบล้วนมีความรู้ เรียนหนังสือมาถึงระดับปริญญาตรี-โท อีกหน่อยคงมีระดับปริญญาเอกมาร่วมบ้าง และทั้งหมดนี้ล้วนเห็นมีแต่ข้าราชการในกระทรวงทบวงกรม น่าจะบอกอะไรหลายอย่าง ไปถึงหน่วยราชการที่สังกัด และองค์กรของรัฐในรูปรวมได้หลายอย่าง

 

ดูจากคำถาม จะค่อนข้างง่ายเกินไป หรือยากเกินไปอย่างไรไม่สำคัญ หากแต่ เป็นคำถามที่สร้างสรรค์อย่างไร ? บอกอนาคตอย่างไร ? บอกไปถึง คณะผู้ตั้งคำถามว่าเป็นอย่างไร ? ในที่นี้ น่าสรุปว่า เป็นคำถามที่ออกโดยคณะผู้อยู่ในวงการศึกษาหัวเก่า ๆ เพราะคำตอบของคำถามเหล่านี้ ในยุคนี้ ไม่น่าจะเอามาบรรจุไว้ให้หนักในหัวขมองของมนุษย์เลย ต่อไปแอบเอาเครื่องสมองกลติดตัวไปด้วย มีหมื่นล้านก็คงไม่พอจ่าย นักการศึกษาที่ก้าวทันยุคน่าจะคิดปฏิว้ติในเรื่องความจำเสียใหม่ เอาของที่ควรใส่ไว้ในสมองกลออกมาเสียจากมันสมองของมนุษย์ เพื่อให้ว่าง และสามารถคิดริเริ่มในเรื่องที่สร้างสรรค์มากกว่านี้ ข้าราชการที่มาตอบปัญหา ได้รางวัลไป เพราะมีความรู้อย่างนี้ ๆ หากแต่ไม่เคยเห็นว่าราชการการรับใช้ประชาชนจะมีประสิทธิภาพอย่างไรเท่าไร ตลอดระยะเวลายาวนานในระบอบประชาธิปไตยมานี้ ความรู้เช่นนี้ ๆ ดูจะมิได้สร้างสรรค์อะไรในวงราชการเลย

 

ฉะนั้น รายการนี้ น่าหาคณะผู้ออกคำถามใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ใหม่ ให้เป็นหมวดคำถามที่สร้างสรรค์สังคมมากขึ้น คำถามที่ใช้อยู่ ออกโดยคนหัวเก่า ๆ จากระบบการศึกษาเก่า ๆ อย่างเช่นคำถามที่ว่า ชื่อใดไม่ใช่อำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ? คำตอบเช่นนี้ ไม่น่าจะเอามาใส่ไว้ในมันสมอง เพราะมิฉะนั้นก็ต้องเอาชื่ออำเภอ จังหวัดทั่วประเทศมาใส่ไว้ด้วย อยากรู้ก็เปิดทำเนียบกรมการปกครองดู แล้วเมื่อรู้ดั่งนั้นแล้ว ก็เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์อะไรขึ้นมา ? เช่นเดียวกับคำถาม ข้อใดไม่ใช่ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ? ถามไกลไปถึงไหน ๆ ทำไมถึงต้องกระโดดไปไกลขนาดนั้น ถามไปทำไม และเมื่อรู้แล้วมีการสร้างสรรค์อะไร อย่างไรขึ้นมา และคำถามว่า บ้านที่ถนนดาวนิ่งเป็นบ้านของใคร ? ถนนดาวนิ่งอยู่ถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีบ้านร้านช่องเต็มไปหมด ใครจะไปจำบ้านคนในถนนนั้นไหว จำไปทำไม ช่างเป็นคำถามที่ไม่มีเป้าหมายในการสร้างสรรค์เอาเสียเลย ทำไมคนไทยจะต้องไปจดจำบ้านของใครอยู่ในถนนสายหนึ่งซึ่งอยู่ไกลถึงประเทศอังกฤษนู่น เราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษสักหน่อย อีกหน่อยผู้ตั้งคำถามชุดนี้ก็คงถามอีกว่า บ้านของใครอยู่ถนนฮัมบรูกส์ เยอรมัน ? บ้านเกิดของนายบิล คลินตั้น ก่อนจะย้ายไปอยู่กรุงวอชิงตันดีซีอยู่ถนนอะไร ? ใครเป็นคนสร้างถนนชอง เอลีเซ่ ? นายกรัฐมนตรีคนแรกของโดมินิกันชื่ออะไร ? พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 มีพระมเหสีทรงพระนามว่าอะไร ? ฯลฯ

 

คำถามเช่นนี้ เพื่อความรู้เช่นนี้ ตอบได้ไหมว่า จะรู้ไปทำไม เพื่อการสร้างสรรค์อะไร ? เราคงไม่เอาด้วยกับเพียงว่า รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม เพราะใส่สมองไว้นี่หนักกว่าใส่บ่าอีกนะ สุภาษิตนี้น่าเลีอกใช้ให้ถูก อะไรจะใส่สมองนี่ต้องคัดเป็นพิเศษทีเดียวละ แต่ที่ควรระวัง ความรู้ไร้สาระอย่างนี้ เอาใส่ไว้กลับจะเกิดโทษทำให้ล้าหลังทางความคิดอ่านไปเปล่า ๆ และไม่น่าจะคุ้มกับเงินล้านบาท ที่เอามาโปรยเยาะเย้ยสมัชชาคนจนเล่นเช่นนี้ จึงอยากให้ลองพิจารณาดู เสียเงินเป็นล้าน ไม่คุ้มกับความรู้ไร้สาระ ลูกหลานก็คงเริ่มจดเริ่มจำทุกอย่างที่ขวางหน้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ และไม่ต้องทำอะไรกันละตั้งหน้าท่องจำบรรจุทุกสิ่งทุกอย่างทั้งโลกเอาไว้ในสมองกันท่าเดียว โดยเพียงหวังว่าจะมาตอบชิงรางวัลเงินล้านของรายการเกมข้ามรุ่น-เกมเศรษฐี และเกมส์อื่น ๆ คล้าย ๆ กันนี้ ที่ทีวีช่องต่าง ๆ ทะยอย ๆ ออกตามกันมาแล้ว ตอบถูก ก็พอใจ ตอบผิด ๆ ๆ ๆ ในที่สุดอาจเกิดแรงกดขนาดใหญ่ขึ้นมาได้

 

 

 

 

 

 

 31 ภาพยนตร์ไทย  รัตติกาลยอดรัก

ช่อง 3 2 พ.ย. 43 20.30 น.

 

รัตติกาลยอดรัก ละคอนดี ช่อง 3 จบลงแล้ว ผลของละคอนเรื่องนี้ น่ากลัว คนจะไม่คิดว่าเป็นเพียงนวนิยาย คงตื่นเรื่องเหลวไหลต่าง ๆ เช่นพระภูมิเจ้าที่กันมากขึ้น คนที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยคิดเรื่องเจ้าที่เจ้าทางก็เริ่มจะคิดและปริวิตกขึ้นมา ขณะนี้แม้รัฐมนตรี นักการเมือง ผู้ปกครองสูงสุดของประเทศก็ตื่นเรื่องการบวงสรวงบนบานศาลกล่าวกันมากอยู่แล้ว แต่ท่านเหล่านั้นก็ไม่เคยเห็นสัจธรรมเสียที ว่าเจ้าที่เจ้าทางช่วยเราไม่ได้เลยสักครั้ง การเมืองไทยก็ยังคงวุ่นวายอยู่ต่อไป ละคอนเรื่องนี้คล้ายจะมาเน้นย้ำเรื่องเหลวไหลเข้าไปอีก แท้ที่จริงเป็นเพียงความคิดอ่านของนักประพันธ์ คือ พนมเเทียน ที่ดูจะมีความเชื่อฝังจิตฝังใจเช่นนั้น เห็นได้จากเรื่อง เพชรพระอุมา นิยายขนาดยาวที่ใช้เวลาเขียนกว่า 10 ปีเศษจึงจบลง ดูบทบาทของ ระพิณ ไพรวัลย์ ตัวเอกของเรื่อง แม้จะยกย่องพุทธศาสตร์แต่ก็เชื่อไปสุด ๆ ในไสยศาสตร์ รัตติกาลยอดรัก ถ้ามองในแง่ความบันเทิงอย่างเดียวแล้ว นับว่าจินตนาการเจิดจ้ามาก น่าชื่นชมในการแสดง นับว่าเป็นละคอนที่ประสบผลสำเร็จอีกเรื่องหนึ่ง ในด้านการแสดง แต่ผู้ชมไม่ควรจะคิดมากในแง่สิ่งลึกลับ เพราะโดยหลักการธรรมดา ๆ สิ่งที่อยู่ในความมืดไม่อาจเอาชนะสิ่งที่อยู่ในที่สว่างได้ ผู้ที่ตาดี-สว่างแล้วไม่อาจจะพ่ายแพ้ผู้มีตาอันมืดมัว-ตาบอดได้

 

 

 

 

 

  32 ตามล่าหาความจริง

ช่อง 5 5 พ.ย. 43 21.30 น.

 

ภาพที่เห็นวันนี้ จากตากล้องของช่อง 5 เห็นสถานบริการสถานบันเทิงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนโดยเฉพาะเยาวชนหนุ่มสาว น่าเป็นห่วง จึงถามถึงหลักเกณฑ์การขอจัดตั้งเป็นอย่างไร ทำไมจึงมีเยาวชนเข้าไปเที่ยวมากมายนัก ประไพพัตร โขมพัสตร์ ได้นำสาระของ พรบ.สถานบริการ 2509 มาวิเคราะห์ น่าสนใจ กรณีตัวอย่างที่รายการนี้ตามล่ามาได้ก็คือ เด็ก เยาวชนเข้าใช้บริการในสถานที่บันเทิงราตรีคล้าย ๆ ผับ เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมากมายเพราะเมื่อห้ามเด็กอายุ ต่ำกว่า 18-20 ปีเข้ารับบริการในสถานบริการที่มีหญิงบริการ มีการขายเครื่องดื่มน้ำเมาต่าง ๆ ตาม พรบ.สถานบริการ เด็กก็หันมาเข้าผับแทน แล้วเริ่มมีกิจกรรมการบันเทิงชนิดต่าง ๆ มาทดแทนมากขึ้น นับว่าเป็นปัญหาวัยรุ่นอีกปัญหาหนึ่งที่น่าหนักใจ ทำไมจนป่านนี้จึงไม่มียุทธศาสตร์แก้ปัญหาวางออกมาโดยชัดเจนเป็นสากลบ้าง ?

 

 

 

 

 33 แนะนำนักการเมืองใหม่

ก้าววันใหม่

ช่อง 9 7 พ.ย. 43 0730 น.

 

คนรุ่นใหม่กับการเมือง นักการเมืองหน้าใหม่ 2 คน จนิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ จากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กับ อิสรา สุนทรวัฒน์ คนอิสระ ลูก แสงชัย สุนทรวัฒน์ ถือว่าเป็นคนในวงการโทรทัศน์ทั้งคู่ แต่บอกตัวเองว่ายังอ่อนพรรษาทางการเมือง คำถามของพัชระ สารพิมพา คำถามที่ 1 ว่าคนรุ่นใหม่มองการเมืองอย่างไร คำตอบ ทั้ง 2 ท่านว่า ไม่อยากมองว่าเป็นรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ ฟังแล้วไม่คม เพราะการเมืองยุครัฐธรรมนูญใหม่นี้ น่าหวังจะได้ยินได้เห็นว่า คนรุ่นใหม่ปฏิเสธรุ่นเก่ากันแล้ว มาดเก่า ๆ ที่เห็นในวงการเมือง วิธีพูดเก่า ๆมีชั้นเชิงแพรวพราวแต่เป็นเพียงลิ้นและลม น่าจะล้าหลังไปแล้ว นักกฎหมายที่อ่าน จำ เฉพาะตัวบทกฎหมาย เอาไว้เถียงคน พอเถียงสู้เขาไม่ได้ก็ไปลงว่า จะต้องตีความ พอศาลตีความแล้วแพ้ ก็ยังมีมาดที่ทำตัวให้เด่นได้อีกต่อไป ไม่ต่างอะไรกับผู้ร้าย หรือปีศาจคาบคัมภีร์นี้ น่าจะล้าหลังไปเสียที เช่นเดียวกับรุ่นเก่าเก๋ากึ๊ก-ปัจจุบัน ที่พอมีเลือกตั้งก็ขนเงินไปเป็นกระสอบ ๆ พูดก็ไม่เป็นภาษามนุษย์ในเมืองไทย เพียงยิ้มเป็นไหว้เป็นแจกเงินเป็น ต้องไล่หนีไปจากวงการเมืองยุคใหม่ จึงมีความหวังจะเห็นการแก้ไขจากรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่ ต้องโชว์ วิสัยทัศน์ ให้เด่นชัด เขาหรือเธอต้องสร้างบุคคลิกภาพ อันเป็นผลรวมของศิลปศาสตร์ทั้งหลาย และอุดมการณ์แห่งศาสตร์เฉพาะด้านที่ลึกซึ้ง ขึ้นมาให้ปรากฎเด่นชัด เพราะนั่นเป็นการสร้างสรรค์ที่แท้จริงของการเมือง คำถามที่ตรงประเด็นอีกคำถามหนึ่ง ทำไมจึงต้องเลือกคุณจนิสตา ? ทำไมจึงจะต้องเลือกคุณอิสรา ? เราหวังว่าจะได้เห็นความกระตือรือร้นจริงจัง และมีความสุขที่ได้ยินและตอบคำถามนี้ เราอยากเห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เตรียมมาอย่างดีมีการศึกษามาเต็มที่สำหรับโอกาศที่จะได้ตอบคำถามนี้ เราไม่หวังว่าจะได้ยินถ้อยคำเช่นนี้ต่อไปอีก เช่นว่า "ผมและพรรคการเมืองของผมจะไม่ทำให้พ่อแม่พี่น้องผิดหวังเป็นอันขาด" แล้วร่ายยาวต่อไปแบบเพ้อเจ้อไม่รู้จบ จนกระทั่งน่าสงสัยว่าตัวเองเข้าใจสิ่งที่ตัวเองพูดหรือไม่ และนั่นแหละน่าจะบอกได้เลยว่า เขาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรเป็น นอกจากพูดเป็น เพราะได้ไปฝึกวิชาการพูดมาโดยเฉพาะ เราอยากได้ยินคำพูดที่บอกนโยบาย หรือวิธีทำงานของเขา อันเป็นผลมาจากการศึกษาวิจัยสังคมอย่างดีมาแล้วจนมั่นใจได้

 

 

 

 

 

 34 หนังช่อง 7 : กระจกดูดคน

ช่อง 7 7 พ.ย. 43 1030 น.

 

กระจกดูดคน : Raven Dance ในเชิงธุรกิจ หนังเรื่องนี้ขายเซกซ์ อันเป็นธุรกิจกามที่เอารัดเอาเปรียบของนายทุนอเมริกัน - ตะวันตก เพราะขาดสำนึกที่รับผิดชอบต่อสังคมวัฒนธรรมของมนุษย์โดยสิ้นเชิง ในสาระ ได้สะท้อนความคิดความใฝ่ปรารถนาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง คือ นางชีในศาสนาคาทอลิก บอกความนึกคิดใต้สำนึกที่ลึกซึ้งของสาวแก่ และแม้สาววัยรุ่นที่ไปบวชชี คือแม่ชีคริสเตียนทั้งหลาย ที่ไม่อนุญาตให้เสพกาม ต้องรักษาพรหมจรรย์เหมือนนักบวชในศาสนาพุทธ และอ่านได้ว่า นั่นคือความปรารถนาทางเพศอันล้ำลึก เมื่อกดข่มมันเอาไว้ โดยวิถีทางของคริสเตียน ที่ไม่สามารถตัดขาดจากกิเลสกามได้ ภาพหลอนก็ออกมาทางกระจก และเมื่อแม่ชีสาวออกมาร่ายรำกลางดึก (Raven Dance) ก็เติมพลังให้ภาพในกระจกเด่นชัดขึ้น อาจวิเคราะห์จากหลักพระพุทธศาสนาได้ว่า เมื่อเติมความใฝ่ปรารถนาให้แด่กาม โดยเอาเชื้อแห่งกามเติมเข้าไป(คือการเต้นรำขายเซกส์) ภาพมายาแห่งกามก็ยิ่งปรากฎเด่นชัดเพียงดังเรื่องจริง นักประพันธ์ฝรั่งเรื่องนี้วิเคราะห์เรื่องภายในออกมาได้ ค่อนข้างตรงกับหลักการส่วนต้น ๆตื้น ๆในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาพรหมจรรย์ หากแต่เขายังมองไม่เห็นเหตุผลและทางปฏิบัติที่ว่าทำไมศาสนาจึงพยายามกันตัวเองไปจากความต้องการทางธรรมชาติ เช่นกามารมณ์ จะมิเป็นภัยอันตรายยิ่งไปกว่าอีกหรือ ฉะนั้นผู้ประพันธ์จึงให้หนังเรื่องนี้จึงจบลงด้วยความตาย และทิ้งคำถามสำคัญเอาไว้ว่าทำไมจึงต้องเป็นเช่นนี้ เพียงแต่อนุญาตให้พวกแม่ชีทั้งหลายเสพกามได้ เหตุเช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งคำตอบ น่าจะไม่อยู่ในหลักการของศาสนาคริสต์คาทอลิก เพราะคริสต์คาทอลิกไม่มีการวิเคราะห์เรื่องกามอย่างลึกซึ้ง เพราะมิใช่ศาสนาพรหมจรรย์อย่างศาสนาพุทธ หนังล้อเลียนเช่นนี้จึงมีออกมาบ่อย ๆ

 

 

 

 

 

 

 35 โฆษณาหมอดู

ไอทีวี 7 พ.ย. 43 1050 น.

 

แทรกระหว่างรายการ ถอดรหัส ของ ก่อเขต จันทรเลิศลักษณ์ ว่า ตนเองเป็นหมอดูระดับโหร ใช้คำว่า โหราศาสตร์ไฮเทก สามารถให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตการเลือกคู่ครอง อาชีพ ฯลฯ ยกตัวอย่าง คนปีไหนคบกับคนปีไหนจึงจะดี ขึ้นป้ายว่า ปีชวด ปีฉลู มะโรง มะเส็ง ขาล เถาะ ปีไหนเป็นมิตรกัน ปีไหนเป็นศัตรูกัน อะไรทำนองนี้ ระหว่างนี้มีการโฆษณาเกี่ยวกับการพยากรณ์กันมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นคำโฆษณาที่เกินไป โดยอ้างหลักโหราศาสตร์อย่างไม่ถูกต้อง เป็นการทรยศต่อหลักโหราศาสตร์ที่แท้จริง แทบทั้งสิ้น นี่คือปัญหาสำคัญของสถาบันโหราศาสตร์ที่แท้จริง ซึ่งขณะนี้ดูจะขาดองค์กรที่รับผิดชอบ ต่อปัญหาจรรยาบรรณของโหร รับผิดชอบมิให้มีการโฆษณาอวดอ้างเกินความจริง เพราะประชาชนทั่วไปจะไม่เข้าใจว่า โหราศาสตร์มาตรฐาน ที่ได้ชื่อว่า ศาสตร์ ดั้งเดิมของมนุษยชาตินั้น แตกต่างอย่างไรกับ หมอดู เช่นที่โฆษณาตนเองวันนี้ โหราศาสตร์มีบทบาทอย่างไรในฐานะผู้ควบคุมจรรยาบรรณทั้งหมดทั้งสิ้นของสังคมมาโดยตลอดของประวัติมนุษย์ จนต้องตั้งกฎเกณฑ์ คือจรรยาบรรณให้แก่ตนเองโดยเคร่งครัดตลอดมาว่า จะต้องไม่โอ้อวดตนเอง ไม่โฆษณาตนเอง ไม่กระทำการข้ามหน้าข้ามตาครูบาอาจารย์ผู้ยึดมั่นในสัจจะแห่งโหราศาสตร์ ต้องไม่ลุแก่โลภะ โทสะ โมหะ อันเป็นเหตุอคติ แต่ต้องศึกษาหลักการพยากรณ์ให้เข้าถึงสัจธรรมแห่งโหราศาสตร์ให้ได้ เพื่อที่จะป้องกันตนเองไม่ให้เป็นผู้หลอกลวงประชาชนโดยโลภเห็นแก่ลาภเกินไป วันนี้ สังคมน่าจะมีคำถามแล้วว่า ผู้ใด องค์กรใด จะเข้ามารับผิดชอบในปัญหาหมอดู และการโฆษณาหมอดู จากทั้งหมอดูภายในและต่างชาติเช่นนี้บ้าง ?

 

 

 

 

 

 36 การเลือกตั้งไทย

นายกคนใหม่..คนไทยได้อะไร

ช่อง 9-ช่อง 11 6-7 พ.ย. 43 21.30 น.

 

ตั้งแต่วันนี้ ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กับ ศ.ดร.ธงทอง จันทรางศุ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นพิธีกร ถามหัวหน้าพรรคการเมือง ทุกพรรคก่อนเลือกตั้ง เริ่ม 6 พ.ย. 43 คู่แรก ระหว่างท่านอดีตนายกเทศมนตรีกรุงเทพมหานคร พิจิต รัตกุล หัวหน้าพรรคถิ่นไทย กับท่าน อดีตรมต.หลายกระทรวง ประจวบ ไชยสาส์น หัวหน้าพรรคเสรีธรรม 7 พ.ย. 43 ท่านรองนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ กร ทัพพะรังสี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กับ ท่านนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ท่านกรว่า เศรษฐกิจตัวจริง Real secter ต้องดูแลก่อน นโยบาย Food for the world ของพรรคชาติพัฒนานั้นมีมาตั้งแต่ยุคอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ แล้ว จะสานต่อเพื่อเป็นทางร่ำรวยของชาติไทย ท่านชวน ให้ความสำคัญของกฎหมาย ว่า ระเบียบกฎหมายจำเป็นสำหรับมาตรฐานระดับสากล ท่านชวน ไม่ยอมแย้มถึงสถานการณ์จลาจลท่อแกส สถานการณ์สมัชชาคนจน มาปิดล้อมทำเนียบ ไล่ว่าเป็นทรราช ฯลฯ ขณะนั้นเลย ทั้ง ๆ ที่คนรอฟังว่านโยบายแก้ปัญหานี้จะทำอย่างไร คงใช้ลีลาความสงบสยบปัญหาเหมือนเช่นเคย ท้ายรายการมีคำถามสำคัญเข้ามาถามว่า จะใช้หนี้สาธารณะอย่างไร ? ไม่มีคำตอบ - คำตอบไม่ชัดเจน

 

 

 

 

 

 37 การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา

สู่ทำเนียบขาว 2000 :

ช่อง 9-ไอทีวี-ช่อง7-ช่อง 5 8 พ.ย. 43 0700 น.

 

จอแก้วแทบทุกช่องถ่ายทอดสดการเลือกตั้งประธานาธิบดี คนที่ 43 ของสหรัฐอเมริกา : Election 2000 รับสัญญาณจากเอเย่นต์ข่าวสำคัญ ๆ ของโลก มี CNN, Live Fox news แม้กระทั่ง เสียงจากอเริกา Voice of America (VOA) มี นักวิเคราะห์ Analyst ของสำนักข่าวนั้น มานั่งวิเคราะห์ เราก็ถ่ายทอดมาเป็นระยะ ๆ เขาวิเคราะห์ว่าอะไร เราก็พลอยวิเคราะห์ตามไป มีรายงาน จาก Headquater สำนักงานใหญ่ของทั้ง 2 พรรคใหญ่อย่างไรเราก็ถ่ายทอดไปทั่วประเทศเราเหมือนกัน CNN โดยนายเบอนาร์ด ชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ให้ ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ ผอ.อสมท. ไทย ช่อง 9 สัมภาษณ์แต่เพียงช่องเดียวในโลก นักวิเคราะห์คนสำคัญก็มี William Cmyder; CNN Analyst เขาวิเคราะห์อย่างไร เราก็เอามาพูดกันต่อ ช่อง 9 สรจักร เกษมสุวรรณ จักรภพ เพ็ญแข และคณะ วิเคราะห์ ยังได้สัมภาษณ์ นิตยา มาพึ่งพงศ์ และ จำเริญ ตัณฑ์สมบูรณ์ ผู้รายงานข่าวเสียงอเมริกา จากกรุงวอชิงตันดีซี ว่าคนเอเซียเป็นรีพับลิกันเยอะ มีกรณีวัดจีนให้เงินสนับสนุนดีโมแครต เป็นคดี กอร์เลยไม่กล้าไปหาเสียงกับคนเอเซียและคนไทย มีการวิเคราะห์พรรคที่ 3 ที่มาแรงคือพรรค เขียว อนุรักษ์นิยม (Green Party) ของ ราฟ เนเดอร์ (Ralp Nader) ในฐานะผู้เข้าชิงคนหนึ่ง (Presidential Candidate) พรรคที่ชูนโยบายอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมาแรงเป็นพรรคที่ 3 ของอเมริกา

 

 

การถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์ไทยเริ่มตั้งวแต่ 700 น.เช้าไปจนถึงเที่ยงวันจึงเลิก มีรายงานการเลือกตั้งตำแหน่งอื่น ๆ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กที่ปรากฎว่านางฮิลลารี คลินตัน ชนะ ได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงนิวยอร์ก มีการออกมาเปิดตัวแสดงความยินดีปรีดากันว่า บัดนี้นางฮิลลารีเป็นหมายเลข1 และทำให้นายคลินตั้น ผู้ซึ่งยืนปรบมือมองดูภริยาอยู่ขอบ ๆ เวที กลายเป็นหมายเลข 2 ไป ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลา 1200 น. ซึ่งทีวีช่องต่าง ๆ หมดสิ้นเวลาสำหรับการถ่ายทอดเรื่องนี้ ยังไม่ทราบผลแพ้ชนะ เพราะคะแนนทั้ง electoral vote กับ popular vote ไล่กันสูสีมาก และมีปัญหาขึ้นที่ฟลอริดา

 

รัฐสุดท้าย ที่หากใครได้ electoral vote 25 คะแนนของรัฐนี้ไปก็จะชนะ ในขณะที่บุชได้มาแล้ว 264 คะแนน กอร์ ได้ 262 คะแนน ในเมื่อผู้ใดได้ 270 คะแนน (270 NEED TO WIN) เกินครึ่งถือว่าชนะ แต่ฟลอริดามีปัญหาต้องนับคะแนนใหม่ แม้ว่าบุช จะนำกอร์เพียงไม่กี่ร้อยคะแนนของ popular vote เสร็จลงไปหลายแห่งแล้ว คะแนนตัดสินคือ electoral vote ที่สูสีเริ่มมาตามลำดับตั้งแต่ CNN และ FOX รายงานอย่างไม่เป็นทางการจากรัฐ จอรเจีย, มิชิแกน, เพนซิลเวเนีย, มิสซูรี, west virginia(เวอร์จิเนียตะวันตก), เทกซัส, นิวเจอรซี, อินเดียนา, เคนตั๊กกี, วอชิงตัน ดีซี., นิวยอรค, จนถึงรัฐใหญ่ ๆ มีรัฐ แคลิฟอร์เนีย 54 เสียง ของกอร์, ลุยเซียน่า 9 ของ บุช, อลาสก้า 5 ของบุช, นอทดาโกต้า 4 ของบุช, โอไฮโอ 21 ของบุช, เทนเนสสี 11 ของกอร์, มินนิสโซต้า 10 ของกอร์, และบัดนี้กอร์นำ บุช 192 :185 โดยต้องการ 270 เสียงเป็นผู้ชนะ

 

ระหว่างรายงานข่าว มีบุคคลสำคัญระดับหัวหน้าพรรคการเมืองโผล่มาในบทบาทการเมือง หลายคน ช่อง 11 สดรายการมองรัฐสภา พบหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ อดีตนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ว่า "ผมเป็นเจ้าพ่อแห่งการกระจายอำนาจ" เมื่อขณะนี้เป็นเผด็จการรัฐสภา ถ้ารัฐบาลชวนกระจายอำนาจเผด็จการรัฐสภาไปสู่สภาตำบล ๆ ก็เป็นเผด็จการ ต้องกลับมาใหม่เพื่อแก้ไขใหม่โดยเร็วที่สุด อย่าเข้าใจผิดว่าผมจะถอดใจหรือเลิกเล่นการเมือง ผมจะอยู่ต่อไปอีก 20 ปี เพราะภาระหน้าที่ของแผ่นดิน วันพรุ่งนี้พรรคความหวังใหม่จะประกาศรายชื่อทีมเศรษฐกิจให้เท่า กรีนสแปน ลอเรนซัมเมอร์ โรเบิต รูบิน 3 คนสำคัญของอเมริกา ช่อง 9 และช่องอื่น ๆ ถ่ายทอด ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย กับท่านอดีต รมต.ต่างประเทศ ถนัด คอมันต์ โผล่ไปที่สำนักงานใหญ่พรรครีปับลิก สหรัฐอเมริกา โชว์บุคคลิกภาพระดับสากล ทักษิณให้สัมภาษณ์ กิติมา ณ ถลาง ที่นั่นว่าไปเชียร์บุช เพราะเป็นเพื่อนกัน คราวบุชมาเมืองไทยก็ไปที่บ้านทักษิณ ๆ ต้องการให้บุชได้เป็นประธานาธิบดี ถนัด คอมันต์ ถือโอกาศประกาศตรง ๆ ในอเมริกาว่า พรรคเดมอแครตปล้นไทย กรณ๊จอร์จ โซรอส ทุ่มทำลายค่าเงินบาทไทยป่นปี้ โลกควรรับรู้ วงการจอแก้ววันนี้มีการชุมนุมผู้รู้ คือผู้ที่ได้ร่ำเรียนทางรัฐศาสตร์มาจากต่างประเทศบ้าง ในเมืองไทยบ้าง เป็นนักการเมืองบ้าง ปรากฎตัวทางทางจอแก้วมากมาย เป็นต้นว่า ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู คณบดีรัฐศาสตร์ จุฬาฯ รศ.ปทุมพร วัชรเสถียร จุลวรรธ เครือโสภณ ดร.สุพงษ์ ลิ้มธนากุล ไตรรัตน์ สุนทรพิพัฒน์ นิติภูมิ (แอนนาลิสต์ไทยรัฐ) พิษณุ นิลกลัด (ช่อง 7) ผศ.ดร ชลิดาพร ส่งสัมพันธ์ รัฐศาสตร์ มธ. ดร.ปรานี ทิพย์รัตน์ ผอ. ความมั่นคงนานาชาติ ฯลฯ ต่างแสดงภูมิรู้ในเรื่องการเมืองการบริหารให้ประจักษ์แก่สาธารณชน มีการรายงานเบื้องหลังการหาเสียง

 

มีข่าวจากพรรคเดโมแครตว่า กอร์ รังเกียจคลินตั้น ไม่ยอมปรากฎตัวร่วม กลัวจะฉุดคะแนนลง เพราะคลินตันทำกรณีอื้อฉาวเป็นเหตุเสื่อมเสียความนิยมไว้มาก กระนั้นวันนี้ก็มีรายงานบทบาทของคลินตั้น เขาและคณะระดมใช้โทรศัพท์ช่วยกอร์จน วินาทีสุดท้าย โดยไปเร่งรัดให้สมาชิกพรรคออกไปใช้สิทธิ์ว่า "คุณจะให้พวกเราแพ้หรืออย่างไร" 1200 น. ไอทีวี ช่อง 9 ช่อง 7 ช่อง 11 ช่อง 3 ยุติการถ่ายทอด คงมี ช่อง 5 ดำเนินรายการ สานฝันสู่ผู้นำทำเนียบขาว รายงานต่อโดย ยงยุทธ มัยลาภ กับพิชัย วาสนาส่ง ยุติการถ่ายทอด เวลา 1230 น.ผลยังไม่คืบหน้า ตราบ เวลา 1620 น. ไอทีวี ถ่ายทอดรายงานข่าว CNN กอร์นำบุช 249 : 246 แต่ผลฟลอริด้า ออกมาแล้วและเป็นที่รู้กันว่าเป็นของบุช ซึ่งจะทำให้บุชชนะกอร์ด้วยคะแนน 271 : 249 แต่พิธีกรว่า กอร์ยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีการฟ้องร้องให้นับคะแนนใหม่ในฟลอริด้า

 

 

 

 

 

  38 ถกนโยบายปราบยาบ้า

กรองสถานการณ์

ช่อง 11 13 พ.ย. 43 2100 น.

 

สมฤทธิ์ ลือชัย นำปัญหา ป้องปรามยาเสพติด มาให้ ตำรวจ สาธารณสุข และปลัดกระทรวง วิเคราะห์ ประเด็นที่น่าคิดก็คือ เรารังเกียจยาบ้ามากเกินไป ถ้าปรับนโยบายใหม่ โดยผลิตยาบ้ามาขายถูก ๆ เม็ดละ 50 สตางค์ ก็น่าจะลดความสำคัญของยาบ้าลงเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ปัญหายาบ้าก็จะค่อยหมดไป ไม่ทราบว่ามีหน่วยงานใดในรัฐบาลฟังและนำไปคิดการต่อไปหรือไม่ หรือ อาจจะมีคนคิดเลยเถิดไปว่าเมืองไทย รัฐบาลไทย สิ้นปัญญาจะจัดการยาบ้าแล้วหรืออย่างไร มีคำถามเข้ามามากหลายคำถาม ส่วนหนึ่งสงสัยว่าตำรวจจับยาบ้าและค้ายาบ้าเอง ตำรวจแก้ตัวว่า เส้นทางเดินของยาบ้า พอจะมีช่องให้ทุจริตได้ก็ช่วงนำส่งยาบ้า จากแหล่งที่จับได้ไปสถานีตำรวจ แต่ตำรวจรู้และทำการป้องกันไว้หมดแล้ว รับรองว่าไม่มีทางจะเป็นไปได้ ยืนยันไม่มีแบบนั้น มีผู้เสนอแนวทางแก้ไขเข้าไปอีก ว่ากฎหมายอ่อน น่าจะประหารชีวิตเหมือนสิงคโปร์ และมาเลเซีย แล้วให้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้หนักเวลาประหารชีวิตนักโทษ คนชั่วจะได้กลัวและเข็ดหลาบ

 

 

 

 

 39 พบกกต.เตรียมการเลือกตั้ง

500 สู่สภา

ช่อง 9 13 พ.ย. 43 21.40 น.

 

จักรภพ เพ็ญแข ยุพา เพชรฤทธิ์ พบ ยุวรัตน์ กมลเวช กกต. มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา เมื่อ 9 พ.ย. 43 ให้เลือกตั้งเมื่อ 6 มกราคม 2544 รายการ 500 สู่สภา พยายามเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ ถามเรื่องใบแดง ถามเรื่องเงิน ถามเรื่องความพร้อม ถามเรื่อง กกต.จะจับคนโกงได้อย่างไร แล้วก็มาลงที่ประชาชน คือหางานฟรีให้ประชาชนทำอีกเหมือนเคย ว่าต้องเป็นหูเป็นตาให้ กกต.ด้วย ในขณะเดียวกัน สุวิทย์ สุทธิประภา กับ อรวรรณ กริ่มวิรัตนกุล เปิดวงสนทนาเรื่องเดียวกันนี้อยู่ที่เชียงใหม่ กับบุคคลสำคัญของเชียงใหม่หลายคน รายงานเหตุการณ์พรรคประชาธิปัตย์ เปิดปฐมฤกษ์ปราศรัยใหญ่ที่ เชียงใหม่ โดยยกทีมทั้งหมดของพรรคและ หัวหน้าพรรค ฯพณฯ ชวน หลีกภัยนำทัพเอง นิยาม ว่าเป็นสนามแห่งศักดิ์ศรี แต่คนที่เชียงใหม่ ว่ายังไม่คึกคัก มีคนมาฟังเพียง 1200 - 1400 คนเท่านั้นเอง พรรคไทยรักไทยก็จะจัดเร็ว ๆ นี้ จะจัดที่สนามกีฬา 700 ปี โดยคาดว่าจะมีคนมาฟังการปราศรัยถึง 30,000 คน ทางเชียงใหม่เกทับแหลกว่าคนเห็นแล้วว่าคนเก่าคือนายกชวนเป็นมาสองสมัยแล้วควรจะพอเสียทีเหมือน นสพ.เขาว่า "ไปได้แล้ว" ควรเลือกคนใหม่ ลองเอาคนเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรีสักครั้ง

 

 

 

 40 เอสตราด้าสะกิดหัวเข่าขอซื้อข้าวนายกชวน

โปร่งใส 360 องศา

ช่อง 11 13 พ.ย. 43 12215 น.

 

สุขภาพเศรษฐกิจไทยจะไปทางไหน ที่ สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ วิเคราะห์ก็ว่า 1. เงินไหลออก มากกว่าเงินไหลเข้า 2. ดีขึ้นอย่างเปราะบาง 3.หมอที่รักษาเศรษฐกิจไทยเก่งแค่ไหน 4. ภาคเกษตรตกต่ำ กำลังซื้อไม่ดีขึ้น ถามว่าผิดพลาดอย่างไร คำตอบคือ

1.      นโยบายการเกษตรผิด ดูแลการเกษตรน้อยไปและช้าไป

2.      ไม่ได้สร้างแรงความสามารถในการแข่งขัน

3.      ไม่ได้ปรับโครงสร้างในการแข่งขัน ไอทีก็ไม่ปรับ

4.      การค้าปลีกไม่ฟื้น

5.      มีคนตกงานเพิ่มขึ้น

6.      การฟื้น ๆ เฉพาะบริษัทใหญ่ ๆ ที่เป็นของต่างชาติ

7.      แบงค์ไม่กล้าปล่อยเงินเพราะไม่แน่ใจว่าจะได้คืน

8.      มีความสัมพัทกันกับ การคอรัปชั่น ทำให้เพิ่มต้นทุน กำไรน้อย ลดโอกาศที่จะขายได้มาก

9.    ค้าขายไม่เป็น ขนาดประธานาธิบดี โจเซฟ เอสตราด้า แห่งฟิลิปปินส์ สะกิดหัวเข่าขอซื้อข้าวไทย นายกชวน ไม่กล้าบอกราคา ไม่รู้จะต่อจะรองเขาอย่างไร ขายให้ไม่ได้ จนเขาต้องไปซื้อจากเวียดนาม

10.  ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่อยากให้มองโลกในแง่ดี เพราะเศรษฐกิจไทยยังอ่อนไหวมากอยู่ ค่าเงินก็ตก ขณะนี้ 43 บาท ต่อดอลล่าร์

 

ถามเรื่องนโยบายอย่างไรจะกู้ชาติได้ ตอบว่า นโยบายของพรรคการเมืองเพิ่งมาเขียนเอาตอนจะเลือกตั้งนี่เอง เลือกเขียนเอาเรื่องดี ๆ ให้เป็นเรียงความดี ๆ ที่ประชาชนฟังแล้วรื่นหู โดยไม่มีการศึกษาวิจัยกันอย่างลึกซึ้งรอบคอบแต่อย่างใด น่าว้าเหว่

 

คนนอกแสดงความเห็นเข้ามาหลายคน คนหนึ่งว่า เศรษฐกิจลงเหวมากกว่า ทำไมผลิตผลเกษตรไม่ขึ้นสักทีทั้ง ๆ ที่ค่าเงินอ่อนลง ไม่มีคำตอบ กลุ่มเกษตรกรกาญจนบุรีก็ถามเข้ามาว่า นักการเมืองได้เงินมาจากไหน ทำไมไม่มองประชาชน ท่านพูดถึงแต่ตัวเลข ไม่มองดูประชาชน ไม่มีคำตอบ ลงท้ายถามว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไป คำตอบ

1.     ได้คนดีมา

2.     ดูสองด้าน ความดีและความสามารถ รู้ทิศทาง มององค์รวม

3.     จูงใจประชาชนได้

4.     ไม่ใช่ให้ปลา แต่สอนให้ตกปลาเอง

 

 

 

 

 

 41 ผู้ดีอีสาน-บุญรอด

ช่อง 3 16 พ.ย. 43 2030 น.

 

ละคอนหลังข่าวภาคค่ำช่อง 3 ระยะนี้ ทำละคอนดี ๆ ออกมาตามลำดับ หลังรัตติกาลยอดรักแล้ว มีผู้ดีอีสาน และ บุญรอด ตามมา ส่วน เจ้ากรรมนายเวร น่าจะก่อความสับสนทางความเชื่อไปอีกมาก พอ ๆ กับ รัตติกาลยอดรัก ยอดหญิง นางสาวผู้ดีอีสาน ประชันบท กับ ไอ้หยัง ดูแล้วสมน้ำสมเนื้อดีมาก นายอำเภอพระเอก ประชันบทกับ เสมียน ผู้ร้าย ดูไม่ค่อยสมดุลเท่าไรนัก แม้ว่าชัยยันต์จะออกหน่วยก้านร้ายได้สมบูรณ์น่าหวาดหวั่น ก็ตาม ดูฐานสนับสนุนค่อนข้างอ่อน สถานะของเขาเป็นรองมากเกินไป ยอดหญิง ดูเป็นผู้ดี มีสง่าราศีมากในงานเลี้ยง เธอสวยทีเดียวเมื่อขึ้นไปร้องเพลงกับนายอำเภอบนเวที จนดูว่าไอ้หยัง ที่คนดูคงเอาใจช่วย เพราะคุณธรรมยอดกตัญญู จะด้อยไป แต่แล้วบทของไอ้หยังก็ยังเสมอต้นเสมอปลาย เมื่อตีบทร่วมกับนายอำเภอก็ดูแนบเนียนสมจริงสมจัง บ่งบอกบุคคลิกภาพ ฉลาดและแสนดี เอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ สมเป็นลูกสาวนายอำเภอ แต่มาวันนี้เราสงสัยว่านายอำเภอเจตน์จะสงสัยละมังว่าไอ้หยังเป็นผู้หญิง แต่คนอย่างนายอำเภอ ดร. เจตน์ จินตการ น่าจะมีอยู่เฉพาะในจินตนาการเพราะเขาไม่น่าจะตรงได้ขนาดนั้น หรือมิฉะนั้นเขาน่าจะบรรลุโสดาบันมาแล้ว แต่นักประพันธ์มองไม่ถึงคุณสมบัตินี้ ว่ามีได้จริงอยู่ จึงออกบุคลิกภาพไม่ค่อยตรงความเป็นอริยบุคคลนัก ในโลกแห่งความเป็นจริง ถ้าสิ่งแวดล้อมเอื้อให้แด่ความตรงความดีขนาดนี้ สังคมไทยคงเจริญเร็วมาก และสังคมพระศรีอาริย์คงมาถึงเร็วกว่านี้ แล้วชมเรื่อง บุญรอด นักแสดงของไทยระดับนี้ เป็นระดับมืออาชีพทีเดียว บทบาทของ จันจิรา จูแจ้ง ตีบทบุญรอดแตกจริง ๆ ทำให้ภาพบุญรอดออกมาดีจริง ๆ และเป็นความดีสากลจนกระทั่งนายช่างใหญ่ฝรั่งเห็นความดี เห็นฝีมือ และทำท่าว่าจะเป็นพระเอกในเรื่อง น่าสนใจ เรื่องของผู้หญิงขายตัว ที่บอกว่ากลับตัวไม่ได้แล้วเพราะเหตุผลว่า เดินทางมาจนจะสุดทางแล้ว นั้น น่าคิดว่าสุดทางของผู้หญิงขายตัวคืออะไร และทำไมต้องไปจนสุดทางอย่างนั้น บทประพันธ์ของโบตั๋น เขียนสะท้อนสังคมพัทยาได้ดีแท้ ๆ บอกให้รู้ว่าได้มีการศึกษาวิจัยมาอย่างดีก่อนที่จะเขียนออกมาเป็นนวนิยายขนาดนี้ ที่ให้ได้ความรู้หลายอย่างเกี่ยวกับสังคมผู้หญิงขายตัวที่นั่น ที่คล้าย ๆ สังคมสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง คล้าย ๆ สังคมลิง บุคคลิกภาพของคนในสังคมนี้ดูขยุกขยิก เต็มไปด้วยอารมณ์อันเร่าร้อน รุนแรง นิ่งสงบไม่เป็น มีแต่อิจฉาตาร้อนกันเอง ปากอยู่เป็นสุขไม่ได้ โลดเต้นกันไปตลอดเวลา เย็นไม่เป็นเย็นไม่ได้ แต่บุญรอดไม่เลือกทางนั้น ต่อสู้จนชนะไปทีละขั้นทีละตอน จนมาคิดการใหญ่ แล้วพลาด ถูกคนเก่งปากคาบคัมภีร์ หน้าซื่อใจคดหลอกต้ม ต้องตกเป็นหนี้มหาศาลจนพอที่จะตัดสินใจผูกคอตายหนีหนี้ได้ แต่ด้วยความเห็นอันชอบธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิ มองไปเห็นใจเจ้าหนี้ และหยิ่งเกินไปที่จะหนี กัดฟันสู้เพื่อหาเงินใช้หนี้ แล้วบุญรอดก็คือบุญรอดสมชื่อแท้ หญิงขายตัวผู้สวมบทจัดจ้านสมควรชื่อว่า กะหรี่ อย่างสุนีย์ ที่บทให้เป็นหญิงไร้สติปัญญาไร้ความคิดใฝ่ดีโดยสิ้นเชิง จะต้องได้รับผลกรรมอย่างไร และกะหรี่ใจสูงอย่างพี่ล้ำของน้อง ๆ จะลงอย่างไร ละคอนช่อง 3 ระหว่างนี้ล้วนมีคติล้ำเลิศ น่าติดตามชม

 

 

 

 

 

 42 รายงานข่าวนักโทษพม่ายึดตัวประกัน

ช่อง 9-ทีวีทุกช่อง 23 พ.ย. 43 1830 น.

 

นักโทษ 10 คนเป็นชาวพม่า 9 คน ไทย 1 คน หัวหน้าชื่อ หม่องวิน ร่วมกันก่อการร้ายยึดตัวประกันในขณะมีการจัดอบรมศีลธรรมในเรือนจำสมุทรสาคร ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นบ้าง .22 บ้าง ครบมือ พร้อมระเบิดมือเข้ายึดนายสมวงศ์ ศิริเวช ผู้บัญชาการเรือนจำสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่เรือนจำรวม 7 คนเป็นตัวประกัน เป็นเหตุให้นายดม ชิตทองปาน อนุศาสนาจารย์ถูกยิงตาย แล้วนักโทษต่อรองขอเดินทางไปชายแดนด้านจังหวัดกาญจนบุรี ช่อง 9 ได้ภาพเหตุการณ์จริงขณะเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมจากค่ายนเรศวรบุกชิงตัวประกัน เหตุเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 700 น. วันที่ 22 พ.ย. 43 ภายหลังเกิดเสียงปืนสนั่น มีข่าวออกมาว่ามีคนตายไปแล้ว 1 คน ก็มีการต่อรอง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่จำอนุญาตให้นักโทษพร้อมตัวประกันเดินทางไปชายแดนโดยรถปิคอัพ มีกระทุน แล้ว 22 ชั่วโมงต่อมา จึงเกิดยุทธการจู่โจมเข้าช่วยตัวประกันได้สำเร็จ ขณะที่นักโทษพร้อมตัวประกันเดินทางไปถึง บริเวณสามแยกทับศิลา ที่มุ่งสู่กาญจนบุรี นักโทษจำต้องจอดรถข้างทางและลงมาเปลี่ยนยางรถเอง ขณะนั้นช่างภาพช่อง 9 ซึ่งอ้อมทางมาดักได้ถูกจังหวะ สามารถบันทึกภาพได้อย่างทันควัน เวลา 0735 น. ของวันที่ 23 พ.ย. 2543 เสียงปืนดังขึ้น เห็นควันขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ จนท่วมคันรถ เป็นการเปิดฉากยิงของหน่วยจู่โจม นเรศวร 261 ชุดเดียวกับที่จัดการกรณี God"s army เมื่อ 25 ม.ค. 2543 โดยคราวนั้นสามารถเก็บผู้ร้ายการเมือง-การศาสนาคาทอลิกเรียบทั้ง 10 คน เช่นเดียวกันกับคราวนี้นักโทษพม่าตายทั้ง 9 ศพ ส่วนนักโทษไทย 1 คน ข.ช.เล็ก โพธิ์ทอง และ ตัวประกัน 3 คนรอดตาย แต่นายสมวงศ์ ผบ.เรือนจำถูกลูกหลงเข้าบริเวณศีรษะและลำตัว 4 นัด อาการสาหัส เหตุการณ์ร้ายยุติลงอย่างเด็ดขาด น่าชื่นชมประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่นเรศวร 261 ที่แสดงความสามารถยอดเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง และต้องนับว่าผลงานของช่างภาพครั้งนี้มีประสิทธิภาพน่าพิศวง

 

 

 

 

 

 

 43 ธีรยุทธวิเคราะห์รัฐบาลชวนเป็นหนี้2.2ล้านล้านบาท

ทักษิณแถลงนโยบายทรท.น่าระวัง

ข่าวภาคค่ำ

ไอทีวี-โทรทัศน์ทุกช่อง 26 พ.ย. 43 1930 น.

 

ธีรยุทธ บุญมี อาจารย์-นักวิชาการ คณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดตัวเสนอผลงานวิจัยการเมือง วิเคราะห์รัฐบาลชวน หลีกภัย แกนนำประชาธิปัตย์ ว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ล้มเหลวในทางเศรษฐกิจ จนต้องเป็นหนี้ 2.2 ล้านล้านบาท นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ รมว.คลังดำเนินนโยบายแบบตัวคนเดียว และใช้เงินอุ้มธนาคารอย่างมหาศาล ในขณะที่สนับสนุนคนจนน้อยมาก จึงทำลายภาคเกษตรกรอย่างราบเรียบ คาดว่า รัฐบาลที่จะเข้ามาใหม่ พรรคไทยรักไทย ของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร น่าจะเป็นแกนนำ น่าชนะพรรคประชาธิปัตย์ แบบหายห่วง แต่คาดว่าจะประสบความยากลำบากจนอาจไปไม่ตลอดในระยะยาว จะเป็นเพียงรัฐบาลผลัดเปลี่ยน ต่อมา หัวหน้าพรรคไทยรักไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาแก้ข้อกล่าวหาที่กลัวว่าจะเป็นรัฐบาลได้ในระยะสั้น ๆ ว่า ทางพรรคมีระบบการจัดการที่ดี ถ้าพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล ต้องมั่นคงยืนยาวอย่างแน่นอน ยังมีอีกแง่หนึ่งที่น่าสังเกต พรรคไทยรักไทยน่าเป็นห่วงในแง่ของการมองอาจจะผิดพลาด เพราะการบริหารชาติ จะแตกต่างจากการบริหารธุรกิจ จะเอาหัวคิดแนวคิดแบบธุรกิจมาบริหารชาติโดยตรงน่ากลัวจะพลาด การบริหารธุรกิจอาศัยการมองค่อนข้างแคบ เพียงการค้ากำไร มีตัวแปรมาเกี่ยวข้องในการบริหารน้อย และค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวและครอบครัว หากทุ่มเทแบบเกทับไปอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยทำมาในเชิงธุรกิจ น่าระวังอาจจะพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะการบริหารรัฐต้องรอบด้านมองว่ามีบางกรณีต้องยอมขาดทุน ต้องมองว่าขาดทุนอย่างไร กำไรอย่างไร เมื่อเกลี่ยทั้งหมดแล้วจึงจะได้ผลเป็นกำไรให้ประชาขน ทรท.ควรจะมีมาตรการที่สุขุมพอ นโยบายหลายประการที่แถลง น่าระวังมาก จึงน่าสงสัยอยู่ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองพร้อมที่จะเป็นรัฐบาล ได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์จุดยืนใหม่หรือแนวคิดใหม่ของตนเอง จากธุรกิจมาเป็น รัฐกิจหรือไม่อย่างไร ได้มีการศึกษามาเพียงไรในการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่เช่นว่านี้

 

 

 

 

 

 44 น้ำท่วมหาดใหญ่4วัน4คืน

ข่าวภาคค่ำ

ช่อง 9 27 พ.ย. 43 2030 น.

 

ยุพา เพชรฤทธิ์ สัมภาษณ์นายเคร่ง สุวรรณวงศ์ นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หาดใหญ่เพิ่งผ่านวิกฤติน้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ นายกเทศมนตรีว่ามีความเสียหายเป็นเงิน 113 ล้าน 8 แสนบาทเศษ น้ำท่วมหาดใหญ่อยู่ถึง 4 วัน 4 คืน มีรายงานคนตายขณะนี้พบศพแล้วไม่ต่ำกว่า 33 ศพและยังคาดว่าเมื่อออกสำรวจหลังน้ำลดจะพบศพเพิ่มขึ้นอีก น้ำยังท่วมจังหวัดอื่น ๆ ของพี่น้องชาวใต้อีก 11 จังหวัด มียอดผู้เสียชีวิตทั้งภาคกว่า 50 ศพ ค่าเสียหายชั้นต้นกว่า 2000 ล้านบาท นับเป็นโศกนาฏกรรมประจำปีของพี่น้องชาวใต้ ที่น่าเอน็จอนาถใจ หากแต่เรื่องอุทกภัยใหญ่ภาคใต้ปีนี้ ดูรัฐบาลค่อนข้างเงื่องหงอย เพราะแม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเอาพระราชภาระ และทรงประทานแนววินิจฉัยในการป้องกันน้ำท่วมที่หาดใหญ่ ทรงมีพระราชดำริมาก่อนกว่า 10 ปีที่ล่วงมาแล้ว หากกระทำตามพระราชดำรินั้นแล้วน้ำก็คงจะไม่ท่วมใหญ่เช่นนี้

 

 

  • ดีเล่มที่ 22

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 45 ดี23/ ม.ค. - เมย. 44

 

เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว

 

ต่อต้านเอดส์ ต่อต้านอนารยธรรม

โดยคอมพิวเตอร์แมนและบูดามี

 

 

 

 

 

 46 รัฐบาลใหม่ควรเป็นอย่างไร

ช่อง 11 27 พ.ย. 43 2100 น.

 

มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย จัดให้บุคคลสำคัญของแผ่นดินมาพบกัน เพื่อให้ข้อคิดการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะมาภายหลังการเลือกตั้ง 6 ม.ค. 44 ประเด็นปัญหาที่วิเคราะห์คือ "รัฐบาลใหม่หลังปฏิรูปการเมืองที่คนไทยต้องการ" มี รศ. ดร.สมบัติ จันทวงศ์ พิธีกร ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อานันท์ ปันยาระชุน และ น.พ.ประเวศ วะสี สรุปได้ว่า

1. ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ขอให้ฟังเสียงประชาชนสมรรถภาพการแข่งขันต่อรองของเราต่ำมาก การศึกษา เศรษฐกิจ ขอให้ประชาชนพออยู่พอกิน มีมาตรฐานที่ดี ไม่ควรที่จะไปผลีผลามไปรับเงื่อนไขไอเอ็มเอฟ และเปิด เสรีทางเศรษฐกิจโดยไม่พร้อมจะแข่งขัน อย่ามองเพียงรัฐบาล หรือเฉพาะหัวหน้ารัฐบาลเป็นเพียงองค์ประกอบเดียว แต่ต้องมอง สถาบันทั้งหมด การฝากความหวังไว้กับรัฐบาลอย่างเดียวเป็นอันตราย

2.      อดีตนายกรัฐมนตรี อานันท์ ปันยารชุน เห็นว่า ความคิดดรีมทีมเศรษฐกิจไม่ถูกต้อง แท้จริงไม่ต้องมีทีม เพราะรัฐบาลเป็นทั้งหมดทุกทีมอยู่แล้ว ไม่ควรเชื่อว่าปัญหาเศรษฐกิจจะต้องให้นักเศรษฐกิจเป็นผู้แก้ แต่นักเศรษฐกิจควรเป็นนักบริหารด้วย ไม่ควรเห่อปริญญา อยากให้เลิกการถือปริญญามากำหนดมาตรฐานการวัด รัฐบาลที่บริหารงานเป็น ไม่เพียงฟังเท่านั้นควรได้ยินด้วย ต้องไม่มีชั้นวรรณะ ไม่ถืออำนาจ ไม่คดโกง พูดความจริงแสวงหาความจริง ในระบบการเลือกตั้งอย่าลืมว่าเราเป็นตัวแทนประชาชน เราน่าจะเจรจาไอเอ็มเอฟ ขอต่อรองบางเรื่องบางอย่าง ตอนนั้นเราคลานไปหาเขา เพราะเงินสำรองเราหมด เราไม่น่าจะมุ่งการเงินธนาคารมากเกินไป การฟื้นตัวอาจจะต้องใช้เวลา 5-10 ปี เคยเห็นญี่ปุ่น และ เมกซิโก มาก่อนแล้ว

3.    ศ.นพ.ประเวศ วะสี พูดถึงพลังสังคมว่า อุปมาเหมือนสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา เน้นยอดของสามเหลี่ยม คือระบบการศึกษาจะต้องมีประสิทธิภาพและผลิตผลงานคุณภาพ ปัจจุบัน บัณฑิตย์ที่มีฝีมือมีน้อย ต้องปรับตัวเองให้เข้มแข็ง เรื่องเศรษฐกิจ รีลเซกเตอร์ต้องเข้มแข็ง รีบแก้ไขความยากจน การแก้ความยากจนใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง น่าจะไม่ยาก เมื่อประชาชนใน 7,000 ตำบลหายจนก็มีอำนาจซื้อ เงินก็สะพัดหมุนเวียนในวงจรเศรษฐกิจ เศรษฐกิจมหภาคต้องสามารถเชื่อมกับเศรษฐกิจแบบพอเพียง ระวังอย่าให้ทั้งสองอย่างทำลายกัน ต้องให้เกื้อกูลกัน เป็นมัชฌิมาปฏิปทา ธนาคารควรเป็นอิสระ ถ้าการเมืองแทรกก็จะเสียหายเป็นอันตราย ต้องจัดกันจริง ๆ ทุกวันนี้มีคอรัปชั่นมาก คอรัปชั่นทำให้เพิ่มต้นทุนการผลิต ทำให้สินค้ามีราคาแพงขึ้น เดือดร้อนผู้บริโภค คือประชาชนทั่วไป ที่สำคัญรัฐบาลต้องไม่คอรัปชั่นเสียเอง ต้องปลดผู้น่าสงสัย ต้องออกกฎหมายตั้งสภาปฏิรูประบบราชการ หากรัฐบาลไม่ดื้อเกินก็คุยกันจนเกิดทิศทางที่เห็นร่วมกัน รัฐบาลต้องไม่มาทะเลาะกับประชาชน นพ.ประเวศ ว่า มองทางยาว แม้จะผ่านมาเพียง 60 ปี ประชาธิปไตยไทยมีวิวัฒนาการเร็วอยู่ ขอให้ทุกฝ่ายอดทนต่อไปอีกหน่อย

 

อดีตนายกอานันท์ว่า ปัญหาที่เผชิญอยู่คือ คนตกงาน และเกษตรกร จะทำอย่างไร เราเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกันแคบเกินไป ควรทำความเข้าใจให้ดีกว่านี้ เมื่อพูดถึงจุดอ่อนทางการศึกษา ท่านอานันท์ว่า ควรต้องเร่งเครื่องการศึกษา ต้องมุ่งคุณภาพการศึกษา ตัวอย่างที่เห็นทุกวันนี้เรามุ่งแต่ปริมาณ เช่น สาขาวิศวกรรมศาสตร์ เราผลิตบัณฑิตได้ปีละ 10,000 คน แต่ล้วนทำงานไม่เป็น ไร้ฝีมือไปทั้งสิ้น

 

 

 

 

 

 47 พระบรมราชกระแสวัน 5 ธันวามหาราช

ช่อง 3 5 7 9 11 4 ธ.ค. 2543 2003-21.30 น.

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานวโรกาส ให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า มีคณะบุคคล 544 คณะ จำนวน 16,000 คน เข้าเฝ้าถวายพระพรชัย เนื่องในมงคลพรรษาครบ 73 พระพรรษา เสด็จลงศาลาดุสิตาลัย และพระราชทานพระบรมราโชวาท หลายเรื่อง ที่สำคัญคือ ความสามัคคี ทรงเตือนให้มีความสามัคคี เพราะทำอะไรก็ตามจะทำคนเดียวไม่ได้ คน 60 ล้านต่างก็มีความสามารถ ประเทศชาติควรจะเจริญเพราะมีบุคคลากรมาก แต่ก็ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะไม่รู้ว่า ดี คนดีแปลว่าอะไร ทรงพระราชทานความหมายของคำว่าดีว่า "ดีแปลว่ามีประสิทธิผล ดีแปลว่ามีประโยชน์ ดีแปลว่ามีความสุข" ทรงตรัสเรื่องการศึกษาว่ายังสู้ฝรั่งไม่ได้ เพราะ เราไม่ค่อยเอาจริงเอาจังเท่าฝรั่ง ถ้าได้ปฏิบัติอย่างที่เขาปฏิบัติเราก็คงดีกว่านี้ เรื่องน้ำท่วมภาคใต้ อันสะท้อนถึงพระมหากรุณาของกษัตริย์ไทยต่อพสกนิกรของพระองค์ท่านอย่างสูงส่ง ที่ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ศึกษาปัญหาด้วยพระองค์เอง และผลที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมก็เป็นข้อพิศูจน์ถึงผลการศึกษาที่มีประสิทธิภาพของพระองค์ ตามที่ได้ทรงพยากรณ์และเสนอแนะแนวทางไว้แล้ว ทรงตรัสเรื่องเศรษฐกิจแบบพอเพียง Sufficiency Economy ว่า ให้ประหยัด อะลุ่มอล่วย มีเหตุมีผล "ให้จิตใจมันถึงกันได้" แล้วทุกคนจะมีความสุข เศรษฐกิจแบบพอเพียงครอบปัญหาทั้งหมด ทรงพระราชทานแนววินิจฉัยปัญหาน้ำมันว่า ถ้าให้รถวิ่งช้าลงก็จะพอใช้น้ำมัน ที่มีค่าอ็อกเทน 95 ที่เกิดจาก 91 + กอฮอ เพราะ กอฮอล์สามารถผลิตจากอ้อย ก็จะเข้าหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียง จะได้ประโยชน์ในด้านการส่งเสริมสินค้าเกษตรกรรมมาก และไม่ต้องเสียเงินตราต่างประเทศ เมื่ออ้อยขายไม่ได้ราคา เราก็สามารถนำมาทำกอฮอล์ได้มาก แล้วเกษตรกรก็ได้เงินบาท การค้าเสรีควรดูอย่าให้เขาเอารัดเอาเปรียบ แท้จริงเขาก็เอารัดเอาเปรียบกันทั่วโลก แต่เขายิ่งกว่าเรา ที่เราทะเลาะกันเองในไทยไม่แปลกเพราะทางอื่นทะเลาะกันหนักรุนแรงกว่าเรา ในโลกนี้เขาฆ่ากันตายหนักกว่าเรา จึงไม่ควรเอาอย่างสมัยใหม่ในทางที่ไม่ดี ประชาชนทุกอายุทุกอาชีพให้ปรองดองกัน อย่า "กัดกันมากเกินไป" การทำอะไรเพื่อให้ตนเองพอใจแต่คนอื่นเขาเสียใจไม่ดี

 

 

 

 

 

 48 ประวัติสังฆราชแห่งสังฆมณฑลอุดรธานี

แสงธรรม

ช่อง 9 17 ธ.ค. 2543 2003 น.

 

แสงธรรม รายการของศาสนาคาทอลิก มียมนา กันอรุณ เป็นพิธีกร วันนี้ ได้รายงานประวัติพระคุณเจ้ายอด พิมพิสาร ว่าปัจจุบันดำรงตำแหน่ง "พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลอุดรธานี" ได้รายงานมาตั้งแต่ประวัติเยาวัยของท่านยอด พิมพิสาร ตราบจนได้บวชเป็น "พระสงฆ์" แล้วได้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ จนได้ตำแหน่ง "สังฆราช" เป็นประมุขของ "สังฆมณฑลอุดรธานี" จนเคยเป็นถึง "ประธานสภาพระสังฆราชแห่งประเทศไทย" ในปี ค.ศ. 1991-1994 (พ.ศ. 2534-2537) พระคุณเจ้ายอด พิมพิสาร ในฐานะนักเผยแผ่ของคาทอลิกยังมีตำแหน่ง "ประธานสื่อสารมวลชนคาทอลิก" อีกตำแหน่งหนึ่ง

 

จะเห็นว่าคาทอลิกได้นำเอาสถาบันพระพุทธศาสนาไปใช้ในทางที่ไม่ตรงตามความหมายของพระพุทธศาสนา ทำให้ตำแหน่งสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือ สังฆราช นี้ รับใช้ตำแหน่งสูงสุดของคาทอลิกอีกทีหนึ่ง คือ เป็นตำแหน่งที่รองไปจาก "อัครสังฆราช" นักบวชริสต์ในเมืองไทยเอง และรองไปจาก "สันตะปาปา" ประมุขของประเทศรัฐวาติกัน ในอิตาลี อันเป็นการลบหลู่พระพุทธศาสนา โดยยกตนขึ้นเหนือกว่า ศาสนาอื่น โดยเอาชื่อตำแหน่งในศาสนาอื่นมาใช้เป็นของตนโดยพลการ ซึ่งเป็นการผิดมารยาท และขาดสมบัติผู้ดีสากลเป็นอย่างยิ่ง เพราะศักดิ์ของศาสนาสากลย่อมเท่าเทียมกัน มีฐานะแห่งศาสนาสากลเสมอเหมือนกัน ที่สำคัญ ที่นี่เป็นดินแดนพระพุทธศาสนาแท้ ๆ คาทอลิกยังถือดีกล้าละเมิดได้ซึ่ง ๆ หน้า

 

และที่สำคัญเป็นการใช้คำของพระพุทธศาสนาอย่างบิดเบือนไม่ตรงกับความหมายที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา แท้จริง ท่านเหล่านี้ก็เป็นคนไทย มีกำเนิดในผืนแผ่นดินไทย ได้เชื้อชาติไทย จะไม่รู้หรือ คำว่า "พระสงฆ์" เป็นคำเฉพาะของบวรพุทธศาสนา และเป็นคำสากลของศาสนาพรหมจรรย์ ที่มีชั้นของการทำความเข้าใจลึกซึ้งไปถึงปรมัตถธรรมสูงสุดของศาสนาพรหมจรรย์อันยากแก่ความเข้าใจของคนธรรมดา จึงน่าที่คาทอลิกจะกลับไปใช้ศัพท์ ความหมายของคาทอลิกของตนเองจะดูดีกว่าเพราะตามหลักพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ เป็นหนึ่งในรัตนะสูงสุดทั้งสาม คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และ สังฆรัตนะ และสูงสุดคือคำว่า สังฆราช นั้นย่อมหมายถึงองค์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง เมื่อคาทอลิกใช้คำที่สูงไปกว่าว่าตนเป็น อัครสังฆราช และคำที่เสมอพระพุทธองค์ว่าตนเป็น สังฆราช จึงเป็นการไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง เป็นการบังอาจ เอื้อมละเมิดสิ่งสูงสุดของศาสนาอื่นโดยไม่ชอบธรรม เหตุผลสำคัญที่นักบวชคาทอลิกไม่พึงนำคำพระสงฆ์ไปใช้

 

นอกจากเป็นการละเมิดศาสนาอื่นแล้ว ยังเนื่องมาจากนักบวชคาทอลิก ท่านไม่ห้ามการเสพเมถุนกาม นับตั้งแต่พระเจ้าลงมาถึงนักบวชธรรมดา ๆ สามารถเสพเมถุนได้ เห็นได้จากกรณีพระยะโฮวาห์เอง ก็ ได้แอบไปเสพสมกับนางมารีย์ ภริยาของโจเซฟนายช่างไม้ โดยข่มขู่นายช่างไม้ให้ยินยอมสละภริยาตนแก่พระเจ้า จนเกิดบุตรออกมาเป็นพระเยซู พระเยซูจึงประกาศตนเองเต็มปากเต็มคำว่าพระองค์ทรงเป็นบุตรชายโทนคนเดียวของพระเจ้า ส่วนน้อง ๆ ของพระองค์จึงมีบิดาเป็นโยเซฟที่ได้ร่วมกับนางมารีย์ภายหลังพระเจ้าอนุญาตแล้ว ดังปรากฎในพระคัมภีร์ไบเบิลแล้ว ด้วยเหตุนี้ นักบวชคริสต์ จึงชื่อว่ายังเสพเมถุนกามอยู่ จึงไม่อาจเรียกตัวเองว่า "สงฆ์" ได้ แต่จะเรียกเป็นอย่างอื่น ตามที่คนไทย สังคมไทยรู้ดีอยู่แล้ว ที่ถูกคาทอลิกควรนำศัพท์ชื่อที่ศาสนาของตนกำหนด เช่นสังฆมลฑล ก็เรียกมิซซัง สังฆราช ก็เรียกว่า สันตะปาปา สังฆราชยอด พิมพิสาร เรียกเป็น สันตะปาปายอด พิมพิสาร เป็นต้น ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปขโมยศัพท์ทางเทกนิกของศาสนาอื่นมาใช้โดยที่ไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง เพราะเมื่อใช้ไปแล้ว ประพฤติตนไปไม่ตรงกับความหมาย พฤติกรรมที่ปรากฎกลับเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับชื่อที่ตนใช้ ก็จะเป็นผลเสียหายแก่คาทอลิกเอง และเสียหายแก่คาทอลิกไทยในส่วนรวมด้วย

 

 

 

 

 

 49 ฟาหลุนกงนัดประชุมในไทย

ช่อง 11 25 ม.ค. 2544 1930 น.

 

ข่าวภาคค่ำ สุขุมาลย์ บุณยกร รายงานข่าว ลัทธิฝ่าหลุนกงกำลังวางแผน จะนัดหมายสมาชิกมาประชุมในประเทศไทย ทางการไทยเผยท่าทีว่า ถ้าไม่เป็นการประชุมที่เกี่ยวกับการเมืองหรือใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการโจมตีจีน เช่นที่เคยจัดการประชุมในฮ่องกงและอเมริกาแล้วก็อาจจะยินยอมให้ประชุมได้ ในเรื่องนี้ การพิจารณาฟาหลุนกงเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง คงจะไม่เพียงพอ เพราะมีแนวโน้มว่าฟาหลุนกงได้กลายเป็นลัทธิความเชื่อชนิดหนึ่ง ที่ฝังลึกเสียแล้ว เห็นได้จากกรณีสมาชิกฟาหลุนกง 5 คนกล้าอุทิศชีวิตด้วยการเผาตัวประท้วงรัฐบาลจีนที่ จตุรัส ท่านเหมาเจ๋อตุง กรุงปักกิ่ง ถึงเสียชีวิตไป2-3คน และลัทธิเช่นนี้ เป็นลัทธิที่หลงงมงาย แม้จะเดินตามวิถีแห่งพุทธ แต่สะดุดไปไม่ถึง ไม่สามารถเข้าถึงอริยสัจธรรมสูงสุดในพระพุทธศาสนา แล้วเฉไป คนทั้งหลายจะยังไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของสัจจธรรม ว่าสัจธรรมที่แท้จริงนั้นจะปราศจากการใช้ความรุนแรงใดใดโดยไม่มีเงื่อนไข ฟาหลุนกงน่าจะได้ทำหารศึกษาพระพุทธธรรมให้ถึงแก่นไปจริง ๆ เสียก่อน โดยเอาการกีฬาเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงพุทธธรรม ตามความถนัดของลัทธินี้ก็ได้ การใช้ความรุนแรง เป็นแนวพิจารณาได้อย่างดีว่า นั่นเป็นมิจฉาทิฏฐิ โลกยุคใหม่เองก็จะสามมารถมองด้วยสามัญสำนึกได้ว่า นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และครั้นไปพอกพูนอัตตาจนเติบกล้าเต็มที่แล้ว ระวังจะตกเป็นเครื่องมือของประเทศมหาอำนาจ

 

 

 

 

 

 

 50 ฉลองค.ศ.2000ปีปิติมหาการุณแห่งคริสตจักร

บัญญัติที่แท้จริงแห่งสถานะ

แสงธรรม

ช่อง 9 28 ม.ค. 2544 0530 น.

 

ยมนา กันอรุณ นำภาพวันฉลองปีปีติมหาการุณ คศ.2000 ในรัฐคะฉิ่น สหภาพพม่า มาปลุกใจชาวคาทอลิก เพื่อให้เห็นว่าคาทอลิกขยายศาสนจักรเข้าไปในพม่าอย่างไร การที่ประเทศวาติกัน โดยจอห์น ปอล ที่2 พระประมุขของประเทศนั้น วางแผนโฆษณาชวนเชื่อไว้ล่วงหน้านับสิบปี หวังโหมสร้างกระแสนิยมคริสตเตียนขึ้นทั่วโลก แม้ในประเทศไทยก็หวังขนาดจะพลิกแผ่นดินไทยให้ได้ ในพม่าก็มีความพยายามเช่นเดียวกันนี้ และนี่คือผลงาน มีการนำภาพมาโฆษณาชวนเชื่อต่อ ว่าที่พม่าบัดนี้มีคาทอลิกเป็นกลุ่มเป็นก้อนอย่างนี้ ๆ แล้ว เอาภาพวันฉลองปีปิติมหาการุณ 2000 มาโชว์เหมือนกัน รายงานข่าววันนี้ว่ามีคริสตเตียนอยู่ในพม่า 1 แสนคน คงรวมเอาพวกก็อดอาร์มีที่ถูกยิงตายและ จับได้ในประเทศไทยจำนวนหนึ่งฐานเข้ามาก่อการร้ายไม่รู้กาละเทศะ ไม่รู้ใครเป้นใครในประเทศไทย และพวกนายพลโบเมี๊ยะ กบฎกะเหรี่ยงคริสต์พม่าเข้าด้วยซึ่งเฉพาะส่วนนี้รายงานครั้งล่าสุดว่าเหลืออยู่ประมาณ 15,000 คน

 

จากภาพเห็นวัดคริสต์คาทอลิกเพิ่งสร้างใหม่ ฉลองกันข้าง ๆ ทางรถไฟ ที่มาร่วมงานนี้ระดมคนมาร่วมงาน 10,000 คน มาจากป่าจากเขา คงเอาเงินไปจ้างมาบ้าง เอารถยนต์ไปรับมาบ้าง เหมาตู้รถไฟให้บ้าง มีขบวนแห่ของนักบวชคาทอลิก ซึ่งพิธีกรและเสียงในฟิลมยังใช้คำว่า "พระสงฆ์" และคำว่า "พระสังฆราช" อยู่ เช่นบรรยายว่า "มีพระสังฆราชแห่งสังฆมณทลมิทชิน่า"เป็นประธาน มีการเปิดเพลงร็อกแอนด์โรลโหมโรงสนั่น ก่อนจะมีพิธีมิสซา แล้วมีพวกพระมาป้อนข้าวป้อนขนมเด็ก ผู้บรรยายประกอบภาพข่าวยกคำเพราะ ๆ ทั้งที่มีในพระคัมภีร์และคิดเอาเองขึ้นมาโฆษณาชวนเชื่อเช่น "ควาามศรัทธาพิศูจน์ด้วยการท้าทาย" "อานุภาพความเชื่อในพระตรีเอกานุภาพ" ยกถ้อยคำสุด ๆ เช่น "พระเมตตาอันหาที่สุดมิได้" (แต่ความจริงในพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นเรื่องความอำมะหิต เพราะเมื่อพระเจ้าทำน้ำท่วมโลก คนสัตว์และพืชผักตายหมดโลก จึงไม่น่าอวดได้ว่า มี พระเมตตาอันหาที่สุดมิได้)

 

หลังจากนี้มีรายงานข่าวมรณภาพของ พระคุณเจ้า เจมส์ พิมพิสาร ซึ่ง ณ ที่นี้ใช้คำว่าเป็น "ประมุขอัครสังฆมณฑลท่าแร่ สังฆมณฑลอุดรธานี" มรณะเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มค.44 ทำพิธีศพที่อาสนวิหารท่าแร่ มีพระคุณเจ้ายอด พิมพิสาร ผู้เป็นบุตร ในชุดขาว เสื้อคลุมสีม่วง สวมหมวกแดงอมชมพู ถือไม้เท้ายอดพุ่ม เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพบิดา มีประวัติของเจมส์ พิมพิสาร ที่น่าสนใจมาก ว่า ชำนิ พิมพิสาร ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นฝรั่งว่า เจมส์ พิมพิสาร เคยเป็นนักหนังสือพิมพ์ บางกอกฟลอริดอน ต่อมาเบื่อหน่ายทางโลกียวิสัยจึงบวชเป็น "พระสงฆ์" (คำที่บรรยายว่า พระสงฆ์หมายถึงนักบวชคาทอลิก) แล้วต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นประมุขสังฆมณฑลท่าแร่ แห่งสังฆมณฑลอุดรธานี ต่อมามีสตรี มาอยู่ร่วมเสพเมถุนกามด้วยกัน (ในข่าวไม่ออกชื่อคู่ครองตน ไม่เอ่ยคำว่า ภริยา) จน 9 เดือนต่อมาเกิดบุตรคนหนึ่ง คือ ยอด พิมพิสาร ซึ่งต่อมาได้จำเริญรอยตามบิดา โดยได้บวชเป็น "พระสงฆ์"(นักบวชคาทอลิก) เหมือนพ่อตนเอง และได้ดิบได้ดีในกิจการคาทอลิก ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นจนถึงเคยดำรงตำแหน่งเป็น "อัครสังฆราช" เป็น "อัครสังฆราชยอด พิมพิสาร" แห่ง "สังฆมณฑลอุดรธานี" อยู่ระยะหนึ่ง จนสิ้นวาระ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง "สังฆราชแห่งสังฆมณฑลอุดรธานี" คาทอลิกมักไม่เปิดเผยชื่อ-ฐานะภริยาของตน แม้ว่าขณะนี้นักบวชคาทอลิกต่างก็มีภริยาร่วมหลับนอนกันทุก ๆ คน และสืบทอดทายาทกันไปเหมือนปุถุชนคนธรรมดาทั้งหลาย ตอนท้ายรายการถามว่า "พระศาสนจักรในสหภาพพม่ามีกี่สังฆมณฑล ?" ตอบ 12 มณฑล

 

จะเห็นว่าทางรายแสงธรรม นักบวชคาทอลิกวันนี้ ยังคงละเมิดสถาบันสูงสุดในพระพุทธศาสนาอยู่อย่างไม่รู้สึกว่าผิดมารยาททางสังคมอย่างไร และเป็นการ ไม่ชอบธรรมอย่างไร คงใช้คำว่า "สงฆ์" ในศาสนาพุทธ เรียกตัวเองและสถาบันนักบวชของตนอยู่อย่างชื่นมื่นเต็มปากเต็มคำ และแล้วรายการวันนี้ก็ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ขอให้สังเกตประวัติของพระคุณเจ้าเจมส์ พิมพิสาร ท่านบวชแล้ว และประพฤติตนมีคุณค่าจนกระทั่งวาติกันยกให้ดำรงตำแหน่งสูงสุดเป็นถึง "สังฆราช" คือเป็น "ประมุขสังฆมณฑลท่าแร่" แต่ในระหว่างดำรงตำแน่งนักบวชนั้นท่านเสพกาม ประพฤติเมถุนธรรมกับภริยาของท่านซึ่งในประวัติไม่เปิดเผยชื่อ จนมีบุตรออกมา ชื่อยอด พิมพิสาร ซึ่งต่อมาจำเริญรอยบิดา เข้าบวชเป็น"สงฆ์" ซึ่งเมื่อฟังประวัติมาจักเห็นชัดเจนในความหมายของคำว่า "สงฆ์" ที่แท้จริง ตามหลักการของพระพุทธศาสนา และเมื่อนับในพระพุทธศาสนา นับด้วยความรู้วัฒนธรรมไทยแล้ว พระคุณเจ้าเจมส์ หรือ ชำนิ พิมพิสาร จะเรียกตนว่า "สงฆ์" มิได้ จะยกตนเป็น "สังฆราช" มิได้ จะใช้คำว่า "ประมุขสังฆมณฑลท่าแร่" ก็ไม่ได้อีก แต่จะต้องเรียกท่านว่า "สมี" แทน เพราะนักบวชในศาสนาคาทอลิกมีการเสพกาม แม้ในเร็ว ๆนี้ในอเมริกาก็มีข่าวอื้อฉาวในวงการพระคาทอลิกเสพกาม แต่ที่อื้อฉาวไม่ใช่เพราะการเสพกาม แต่เป็นเพราะตัณหาจัด เมียคนเดียวไม่พอ ไปผิดลูกเมียคนอื่น คือกรณีบาทหลวงเจสซี่ แจ๊กสัน ที่ปรึกษาประธานาธิบดีคลินตัน ที่ออกมายอมรับว่าตนมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่มิใช่ภริยาตน จนมีลูกนอกสมรสด้วยกัน (ข่าวสด 3 เม.ย.44 หน้า7) เป็นต้น

 

การเสพกามแม้จะ ลักลอบเสพกามไม่เป็นที่เปิดเผยก็ตาม เมื่อมีสตรีมาร่วมเสพสม อยู่ ก็ผิดกฎเกณฑ์ของความเป็น "สงฆ์" ทันที ในศาสนาพุทธ หากพระสงฆ์ร่วมเสพเมถุนไม่ว่ากับสตรี-บุรุษ แม้สัตว์ใดก็ตาม จักพ้นจากความเป็นสงฆ์โดยอัตโนมัติ จะถูกขับออกจากหมู่ทันที และเราจะเรียก ชื่อใหม่ว่า "สมี" แทน

 

ซึ่งคนทั้งหลายก็คงจะได้เห็นกันมาแล้วจากกรณีสงฆ์ละเมิดพระธรรมวินัย หลายกรณี ฉะนั้น น่ากลัวว่าชาวคาทอลิกไทย จะได้เรียนรู้เรื่องของไทยน้อยไป จนไม่เข้าใจขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมไทยที่เกี่ยวกับการคณะสงฆ์ดี จึงเข้าใจผิดมาโดยตลอดโดยเรียกตัวเองว่า สงฆ์ ทั้ง ๆ ที่เสพเมถุนกามอยู่เป็นปกติ ฉะนั้น คาทอลิกควรจะได้ทำความเข้าใจเสียใหม่ และหากจะจัดทำเนียบชื่อนักบวชคาทอลิกเสียใหม่ ให้ถูกต้อง ก็น่าจะได้ตารางรายชื่อ-ตำแหน่ง ดังนี้

 

 

ทำเนียบชื่อนักบวชคาทอลิกในราชอาณาจักรไทย

 

ชื่อที่ไม่ถูกต้อง                                                   ชื่อที่ถูกต้อง

 

สงฆ์ สังฆ์                                                สมี

สังฆราช                                                             ประมุขสมี

อุปสังฆราช                                                         อุปมุขสมี

อัครสังฆราช                                                        อัครประมุขสมี

สังฆราชเจมส์ พิมพิสาร                                          ประมุขสมีเจมส์ พิมพิสาร

สังฆราชยอด พิมพิสาร                                           ประมุขสมียอด พิมพิสาร

อัครสังฆราชมีชัย กิจบุญชู                                      อัครประมุขสมีมีชัย กิจบุญชู

ประธานสงฆ์                                                        ประธานสมี

ประธานสงฆ์ท่าแร่ อุดรธานี                                     ประธานสมีท่าแร่ อุดรธานี

สังฆมณฑล                                                         มณฑล

อัครสังฆมณฑล                                                   อัครสมีมณฑล

อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ                                         อัครสมีมณฑลกรุงเทพ

สังฆมณฑลอุบลราชธานี                                         สมีมณฑลอุบลราชธานี

สังฆมณฑลอุดรธานี                                              สมีมณฑลอุดรธานี

สังฆมณฑลมิทชิน่า สหภาพพม่า                               สมีมณฑลมิทชิน่า สหภาพพม่า

 

 

ถ้าจะเปรียบเทียบได้กับตำแหน่งสมีไทย ก็จะได้กับ อัครสมียันตระ อมโร, อัครสมีภาวนา พุทโธ, อัครสมีนิกร ธรรมวาที, อัครสมีวันชัย ถาวโร อุ่นทรัพย์ เป็นต้น

 

ฉะนั้น อัครสมียอด พิมพิสาร" และ "อัครสมีมีชัย กิจบุญชู" นับตามศักดิ์ ก็พอ ๆ กับ อัครสมียันตระ อมโร" "อัครสมีภาวนา พุทโธ" ฯลฯ นั่นเอง ซึ่งชาวคาทอลิกอาจจะไม่เข้าใจพระธรรมวินัยและจารีตแห่งสงฆ์ไทยดังกล่าวมา จึงน่าจะมีใครสักคน (เช่นท่านอาจารย์ชัยณรงค์ มณเทียนวิเชียรฉาย อัศวินม้าขาว ผู้อุปถัมภ์รายการนี้ ซึ่งวันนี้ก็เห็นภาพข่าว ท่านผู้นี้ไปแสดงสักการะต่อ"มุขสมีพม่า"ที่คะฉิ่นด้วย) สกิดบอก อัครสมีมีชัย กิจบุญชู หรือ อัครสมียอด พิมพิสารท่านให้ทราบบ้าง เพื่อเห็นแก่สถาบันอันบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนา และเพื่อการมีมารยาท และสมบัติผู้ดีในสังคมสากลโลกมนุษย์ และการเคารพในสิทธิแห่งสถาบันของสากลศาสนา

 

 

 

 

 51 นักบวชคริสต์มีภรรยาได้หรือไม่?

ตามหาแก่นธรรม

ช่อง 11 4 ก.พ. 2544 20.30 น.

 

คริสตจักรร่มเกล้า ร่วมจัดรายการ มีนักปราชญ์จากศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม มาวิเคราะห์ปัญหาธรรม รศ.ดร.ภัทรพร ศิริกาญจน์ จาก WFB Newsletter(ข่าวสารองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก) คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, รศ.เสาวนีย์ จิตต์หมวด ประธานสภามุสลิมแห่งประเทศไทย อ.วัลย์ เพชรสงคราม ประธานคริสตจักรร่มเกล้า ประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับคริสต์ศาสนาที่สำคัญก็คือ นักบวชในศาสนาคริสต์สามารถมีภริยาได้หรือไม่ จะอธิบายอย่างไร ฝ่ายคริสต์ตอบว่า นักบวชคริสต์ ไทยสามารถมีภริยาได้ มีคำอธิบายว่า ชีวิตมีสองฝ่าย ฝ่ายร่างกายและฝ่ายจิตวิญญาณ เมื่อฝ่ายร่างกายยังมีความจำเป็น ความต้องการตามธรรมชาตินักบวชคริสต์ก็สามารถมีภริยาได้ การมีเมียถือว่าเป็นชีวิตฝ่ายร่างกาย ส่วนชีวิตฝ่ายวิญญาณถือว่าเป็นส่วนของพระเจ้า เป็นเหมือนพระเจ้า ปัญหานี้ไม่ได้ถามฝ่ายพระพุทธศาสนา ว่าทำไมพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจึงห้ามการเสพเมถุนกาม หากเสพจะพ้นจากความเป็นพระสงฆ์ทันทีโดยอัตโนมัติ อิสลามก็คงมีคำตอบเหมือนคริสต์ แต่พิเศษที่อิสลามสามารถมีภริยาได้ถึง 5 คน ทั้งนี้ย่อมเป็นไปตามเงื่อนไขของอิสลามในฐานะศาสนาสากลชนิดที่มีเงื่อนไข รศ.เสาวนีย์ จิตต์หมวด ประธานสภามุสลิมแห่งประเทศไทย อธิบายว่า ความเชื่อของชาวคริสต์ที่ว่าพระเจ้าจะลงมาจากสวรรค์เพื่อช่วยคนบาป อิสลามจะรับตรงนี้ไม่ได้ เพราะพระเจ้ามีสภาพเป็นพระวิญญาณ มิใช่ ตัวตน จะลงมาจากสวรรค์ไม่ได้ มนุษย์จะพบพระเจ้าในวันพิพากษา พระเจ้าเป็นบุคคลแต่ไม่ใช่คน เพราะถ้าพระเจ้าเป็นคนก็ยุ่ง เพราะคนแปลว่ายุ่ง ว่า นบีอิสซา หรือเยซู เป็นสมณทูตเท่านั้น ไม่ใช่พระเจ้า ปัญหา เพศศึกษา ถามว่าควรสอนเพศศึกษาหรือไม่ มีเหตุผลอย่างไร อิสลามว่า เพื่อได้ลูกที่ดี สืบศาสนา ก็ควรสอนให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์คือ เพื่อสืบมรดกชาติพันธุ์มนุษย์ ไม่ใช่เพื่อความสนุก ว่าก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ต้องประเล้าประโลมก่อน ฝ่ายคริสต์ศาสนาว่า เรื่องเพศศึกษาเป็นชีวิตฝ่ายร่างกาย ทุกคนมีเพศ เราต้องเรียนทั้งเพศศึกษาและไม่มีเพศศึกษาด้วย ชายต้องแต่งงานกับหญิง ตามหลักในโรม บทที่ 1 วิญญาณ จิตใจ และร่างกาย ควรศึกษาสรีรศาสตร์ของหญิง-ชาย ให้เข้าใจถูกต้องโดยคุณธรรม การแต่งงานถือเป็นการร่วมชีวิต แต่งแล้วชายหญิงก็กลายเป็นชีวิตเดียวกัน รศ.ดร.ภัทรพร ศิริกาญจน์ ว่า พุทธมิได้ห้ามการศึกษาเพศศึกษา แต่ศึกษาแบบไทย โดยดูจากใจ อารมณ์ และสรีระ มิเน้นเพื่อความสนุก เพราะกาม ราคะตัณหา เป็นตัวก่อเหตุแห่งทุกข์ อ.วัลย์ เพชรสงคราม ประธานคริสตจักรร่มเกล้ากล่าวในท้ายที่สุดว่า หลักการอิสลามค่อนข้างจุก จิก ไม่เหมือนคริสต์ที่ให้หลักการไว้กว้าง ๆ

 

 

 

 

 52 รายงานการเลือกตำแหน่งสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่

News Line

ช่อง 11 16 ก.พ. 2544 20.30 น.

 

สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล รายงานมาตั้งแต่เลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 จนถึงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล มีปัญหาตัวบุคคลอยู่ เช่นนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ที่กำลังพิจารณาให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งอยู่ แล้วรายงานเรื่องราวต่างประเทศ มีกรณีลบหลู่ศาสนาเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา มีช่างศิลปปั้นรูปพระเยซูคริสต์เป็นสตรี ทาสีดำ เปลือย แวดล้อมด้วยผู้ชาย ร่างกำยำล่ำสันหลายคน วงการคาทอลิกในอเมริกาโกรธ ว่าเป็นกรณีหลู่ศาสนาอย่างแน่ชัด จะเอาเรื่องให้ได้ น่าสังเกตว่า การล้อเลียนพระคริสต์มีข่าวมาตลอดเวลา ทั้งนี้อาจจะเนื่องมาจากมีคนอ่านพระคัมภีร์มากเท่าไร ความคิดขัดแย้งกับพระคัมภีร์ไบเบิลก็มีมากยิ่งขึ้น จนแน่ใจว่า แท้จริงข้อความที่เขียนลงในพระคัมภีร์ไบเบิลนั้น ไม่ลึกซึ้งเกินไปที่จะวิเคราะห์ออกมาได้ว่า คนผู้เขียนนั้นเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดานี่เอง เป็นเหตุให้จินตนาการต่อเรื่องสำคัญ ๆ ของคริสต์ศาสนาผิดพลาดอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พยายามวาดภาพพระเจ้าให้ทรงพระอำนาจยิ่งใหญ่ โดยกำหนดให้พระองค์ทรงสร้างสร้างฟ้าดินและสรรพสิ่ง และอาจทำลายฟ้าดินและสรรพสิ่งได้ตามใจ จึงเขียนให้พระเจ้าสร้างโลกแบน แล้วเขียนให้สำแดงพระอำนาจโดยให้น้ำท่วมโลก จนคนและสรรพสิ่งตายหมดโลก เขียนให้พระเจ้ามีกิเลสเหมือนมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เพราะร่วมเสพเมถุนกามกับนางมารีย์ ภริยาของโจเซฟ จนเกิดบุตรออกมาเป็นพระเยซู ซึ่งเมื่อมาถึงยุคนี้ คนยุคนับถือสิทธิเสรีภาพและความเป็นมนุษย์กลับมิได้เห็นสอดคล้องกับผู้เขียนพระคัมภีร์นั้น เพราะพฤติกรรมเช่นที่วาดให้พระเจ้านั้น แท้จริงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมแต่อย่างใด และไม่น่าหวาดกลัวอย่างไรกับคำข่มขู่ของพระเจ้าเช่นนั้น กลับมองเห็นได้ชัดเจนเสียอีกว่า นั่นคือนิทานอ่านสนุกเล่มหนึ่ง แท้จริงพระเจ้าเป็นคนร้าย เป็นฆาตกร ก็เลยกลายเป็นเรื่องราวที่น่าหัว น่าล้อเลียนเล่น

 

 

 

 

 

 53 นายฮ้อยทมิฬ

ช่อง 7 7 ก.พ. 2544 2030 น.

 

ละครโทรทัศน์ ที่เปิดกว้างไปสู่ทุ่งกว้างใหญ่ แห่งอีสาน ทุ่งที่มีข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีที่สุดในโลกขณะนี้ แต่ขณะนั้นเป็นทุ่งแห่งความหายนะ ของทุกชีวิตที่เข้าไปสู่ นายฮ้อยเคน ศรัณยู วงศ์กระจ่าง พากองทัพควายข้ามจากต้นทางเมืองสกลนคร ไปเมืองใหญ่โคราช เรื่องสนุกเพราะการเจญภัยเผชิญความลำบากต่าง ๆ นานาตลอดเส้นทาง มีภัยพายุหมุนซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของธรรมชาติทุ่งใหญ่กุลาร้องไห้ ฝนและลม ไปจนถึงภัยจากคนด้วยกัน ตลอดเส้นทาง ต้องต่อสู้กับ ภูตผีปีศาจ ฝ่าด่านของสารพัดโจร ตั้งแต่โจรธรรมดา โจรผีปอบ จนถึงโจรร้ายกาจอำมะหิตอย่าง เสือปาย และเสือคำแสน (บิณฑ์ บันลือฤทธิ์) ที่มีโจรศรีธนญชัยอย่างไอ้จันดีคอยยุยงส่งเสริมเติมเชื้อกิเลสร้ายให้เป็นระยะ ๆ แต่ในที่สุดก็ไปถึงโคราช ขายควายได้เงินมากมายเป็นปึก ๆ แล้วมาจบลงที่ พบความรัก นายฮ้อยเคนได้กับน้องเมีย (ฝน โกมลฐิติ)ที่ดื้อดึงและขี้หึงเสียจนน่าเกลียดไปหน่อย เพราะบทให้อ่อนในฝีมือนักรบแล้วยังอวดดีอวดเก่งนี้ทำให้ลดทอนความน่ารักลงไปมาก แต่ไปเพิ่มความดีความงามให้กับสาวเลือดโจรเลือดนักสู้ อย่างแสงโสม ลูกสาวผู้เฒ่าโสม ครูโจร ในบทที่ไม่มีที่ติของการขี่ม้ายิงปืนละม้ายเหมือนคาวบอยตะวันตก บทนักรบที่มั่นใจเกรี้ยวกราดเมื่อออกปฏิบัติการ โจรโพกหน้า เธอคือตัวแทนแห่งนักรบทุ่งกุลาร้องไห้ โดยแท้จริง ยากที่จะมีนักแสดงสาว ๆ จะทำได้เสมอเหมือน เธอก็ประสบความสุขสมหวังในบั้นท้ายของเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เมื่อพบกับผู้ช่วยนายฮ้อย เจ้าของบทบาทเด่นลูกชายเกเรของกำนัน จากละคร นางนากพระโขนง สำนวนของ ปุราณ ที่ช่อง 7 นำมาออกอากาศซ้ำขณะนี้ มีหลายมิติของละครนายฮ้อยทมิฬ ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เช่นบทพากษ์เป็นภาษาถิ่นอีสาณ และดนตรีประกอบฉากเป็นดนตรีอีสาน ซึ่งมีเสียงแคนเสียงหมอลำเป็นพื้น ล้วนระดับคลาสสิคแห่งอีสาณ แม้เพลงไทยประกอบก็ไพเราะลึกล้ำจริง ๆ คำพูน บุญทวี ผู้ประพันธ์เรื่องนี้ทำได้อย่างเข้าถึงชีวิตวัฒนธรรมของอีสาณโดยแท้จริง จุดสุดยอดของเรื่องอยู่ที่เมื่อความรักกลายเป็นความรัก นายฮ้อยทมิฬยังได้นิยามอมตะของความรัก ความฮักแปลว่าการโดนสาวตบหน้า สาวตบหน้าแปลว่าผู้สาวฮัก อย่างไรก็ตาม นิทานของคำพูน บุญทวี มักมองสังคมห่างพระสงฆ์ไปหน่อย ซึ่งผิดความจริงตามสภาพสังคมไทยอีสาน เพราะชาวอีสานกับพระสงฆ์ วัดวาอารามจะอยู่ใกล้ชิดกันมาก นักประพันธ์ไม่ควรลืมความจริงนี้

 

 

 

 

 

 54 ถ่ายทอดสดแถลงนโยบายรัฐบาล

ช่อง 11 26-27-28 ก.พ. 2544 0900 น.

 

ก ารประชุมร่วมกัน 2 สภา 3 วัน ตามที่ฝ่ายค้านขอเวลาไว้ ระหว่าง 26 -28 ก.พ. 2544 เริ่มด้วย ฯพณฯนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงนโยบาย แล้วฝ่ายค้านอภิปราย มีคำถามที่น่าคิดหลายข้อ เริ่มด้วยของอดีต รมว.คลัง ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ รัฐบาลไม่มีเงิน แล้วฐานะการคลังในอนาคตจะมีปัญหาหรือไม่ ? คำถามอื่น ๆ เกี่ยวกับ การกระตุ้น รายได้ของประชาชน มาตรการ เอเอ็มซีแห่งชาติ ในเมื่อเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมเป็นส่วนมากแล้วจะจัดการอย่างไร ? ปัญหา พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ระวังการออกกฎหมายเกี่ยวกับศาสนสมบัติ ปัญหาคณะสงฆ์ ฯลฯ ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ อยู่ที่ว่า ได้กำหนดนโยบายตรงตามที่หาเสียงไว้กับประชาชนหรือไม่ เพราะเห็นได้ว่า ผลการเลือกตั้งที่พรรครัฐบาลได้เสียงท่วมท้นนั้น เป็นเพราะประชาชนเลือกนโยบาย อย่างไรก็ตาม ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันร่างนโยบายตามที่แถลงต่อประชาชน ด้วยเหตุผลว่า พรรคการเมืองไม่อาจจะหลอกลวงประชาชนได้ สิ่งที่พูดหรือแถลงไว้ต่อประชาชนระหว่างการหาเสียงจะต้องนำมากำหนดเป็นนโยบาย พูดไว้อย่างไรก็มาเป็นโยบาอย่างนั้น นายกรัฐมนตรียืนยัน นโยบายให้กองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท หมายถึงให้หมู่บ้านบริหารเงินเอง นโยบายด้านสาธารณสุข รักษาคนละ 30 บาททุกโรค นโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ปัญหาใหญ่คือปัญหาความยากจน ปัญหาฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ ยาเสพติด ซึ่งจำเป็นต้องแก้กฎหมายหลายฉบับ ท่านให้กำลังใจว่า เรามีนิมิตหมายที่ดี ที่กำลังจะพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ เรื่องข้อมูลและข้อเสนอแนะเป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง ท่านพอใจรับฟังความเห็นคนภายนอก จะไม่ทำตัวเป็นแก้วเต็มน้ำ ชาล้นถ้วย ขอใช้หลักการบริหารนำการเมือง เราขอเข้ามิติใหม่ในการเมือง

 

 

 

 

 

 55 หนังซาตานสู้กับอีเลกทรอนิกส์ยุคใหม่

บริษัทปราบผี : Ghostbusters2

ช่อง 3 13 ม.ค. 2544 09.00 น.

 

หนังฝรั่ง เรื่องราวของซาตานตามแนวคิดความเชื่อของชาวคริสเตียน ที่ว่าอะไรร้าย ๆ เลว ๆ ไปสุด ๆ ต้องลงที่ ซาตาน หมด ผู้สร้างเอามาแต่งแต้มให้เป็นเรื่องแกมตลกขบขัน ผีหรือซาตานในเรื่องนี้มีวิชาสะกดจิตขลัง สามารถสะกดจิตคนเอาไปเป็นบริวาร ใช้วิธีผีสิงแล้วสั่งให้ไปทำลายล้างคน ล้างเมือง อย่างน่าสะพึงกลัว แล้วก็จบลงง่าย ๆ เมื่อคณะปราบผียุคใหม่ ใช้เครื่องมือไฟฟ้าอีเลคทรอนิกไปสู้ แต่ผีก็มีไฟฟ้าในตัวในตนเหมือนกันจึงออกมามิต่างจากหนังกำลังภายในของฮ่องกง ไฟต่อไฟสป๊าร์กกันสนั่นหวั่นไหว ภาพที่เห็นคือความวิบัติบรรลัยของบ้านเมืองและมนุษย์ อย่างที่ผู้สร้างต้องการเพื่อเพิ่มความันและสะใจในความรุนแรงไปสุด ๆ โดยไม่เคยนึกระแวงเกรงกลัวว่า สำนึกเถื่อนจะถูกปลุกขึ้นมาโดยวิธีนี้ทีละน้อย ๆ แต่ก็ยังดีที่ผลบั้นปลายบริวารซาตานหรือผีก็พินาสน์ ทำหนังง่าย ๆเหมือนมีเจตนาหลอกเด็ก แต่เทกนิกสูงเยี่ยม เพื่อสะท้อนภาพอันชั่วแรงร้ายของซาตานให้สมจริง คำว่าซาตานปรากฎในพระคัมภีร์ไบเบิลของชาวคริสต์ ตอนพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มครั้งแรกแล้วทรงแสดงอำนาจเอาแซ่ไล่ตีคน ออกไปจากวิหาร จนพวกพ่อค้าเข้าใจว่าพระองค์มีผีสิง และดูหมิ่นพระเจ้า เกิดวิวาทะกันขึ้น ทรงตอบโต้บรืภาษชาวเมืองว่าเป็นพวกซาตาน ส่วนพระองค์เป็นถึงพระบุตรของพระเจ้าบนสวรรค์ ข้อความว่า You have the devil for your father and you wish to practice the desires of your father ;he was the murderer from the beginning and he could not stay in the truth because there is no truth in him. When he tells a lie he talks naturally; for he is a liar and its father. [John 8:44-47 = ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาลและมิได้อยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา ] คุณสมบัติของซาตาน ตามคำขององค์พระเยซูคริสต์ ศาสดาของคริสต์ศาสนา ก็คือ เป็นฆาตกรและนักโกหกหน้าตาย และภาพยนต์เรื่องนี้ ก็ปราบซาตานเป็นผลสำเร็จ อย่างน่าคิดว่าพวกเขาเข้าใจซาตานที่แท้จริงอย่างไร เพราะองค์พระเยซูเจ้าก็มิได้รู้ความจริงว่า ซาตานตัวจริงตามที่พระองค์ให้นิยามเอาไว้คือใคร คุณสมบัติที่พระองค์กำหนดให้เป็นคุณสมบัติของซาตาน นั้นตรงกับพฤติกรรมของใครในพระคัมภีรไบเบิลมากที่สุด

 

 

 

 

 

 56 เชือกผูกรองเท้าพระเยซู

Talk of the town

ช่อง 3 22 ก.พ. 2544 0540 น.

 

วันนี้ Andrew Briggs กับพรรคพวก พูดถึงศัพท์ เชือกผูกรองเท้า ตรงกับคำว่า shoelace ยกประโยคตัวอย่างว่า Your shoelace is undone. เท่ากับ Your shoelace isn"t right. เชือกผูกรองเท้าของคุณไม่เรียบร้อย ศัพท์ เชือกผูกรองเท้า คือ shoelace ลองเปิด Oxford Basic English Dictionary ดู พบว่า เขาเขียน shoe-lace = n. string that fastens a shoe.

 

เชือกผูกรองเท้า ในพระคัมภีรไบเบิล [Holy Bible] เชือกผูกรองเท้าของพระเยซูใช้คำว่า sandal strings คำว่า sandal หมายถึงรองเท้าชนิดหนึ่ง ใน Oxford ฯ ว่า sandal = n. light,open shoe. คงเป็นรองเท้าเบา ๆ บาง ๆ ไม่หุ้มส้น ใน disk ของ ส.เสถบุตร เป็นพหูพจน์ ว่า sandals = รองเท้าเปิดข้างบนอย่างพระสวม มีเรื่องราวในพระคัมภีร์ ไบเบิล ว่า เมื่อพระเยซูมีพระชนม์ 33 พรรษาได้ เดินทางไปขอรับบัพติสมา คือรับศีลจุ่มน้ำ ซึ่งหมายถึงการขอบรรพชา เป็นนักบวชจากท่าน John : ยอห์น สาวกพระเจ้า ที่ทำศีลจุ่มให้คนแถวแม่น้ำจอร์แดนตะวันออก ใกล้ๆหมู่บ้านเบธานี คราวนั้นพระเยซูสวมรองเท้าแบบ sandal และท่าน ยอห์น ใช้คำว่า sandal strings เมื่อเอ่ยถึงเชือกผูกรองเท้าของพระเยซู สำนวนที่ท่านยอห์นพูดถึงเชือกผูกรองเท้าพระเยซูคราวนั้นเป็นสำนวนที่อลังการไพเราะมาก ได้ยกย่องพระเยซูอย่างเลิศลอย ยกพระเยซูให้ปรากฎสูงส่งในหมู่คนทั้งหลาย สำนวนว่าดังนี้

 

I baptize with water, but there is One who stands among you, whom you do not recognize, the One who will come after me and whose sandal strings I am not fit to untie. (John 1:26-27) :

 

ข้าพเจ้าให้บัพติศมาด้วยน้ำ แต่มีพระองค์หนึ่งซึ่งประทับอยู่ในหมู่พวกท่านนั้น พวกท่านไม่รู้จัก พระองค์นั้นแหละมาภายหลังข้าพเจ้า แม้สายรัดฉลองพระบาทของพระองค์ ข้าพเจ้าก็ไม่บังควรที่จะแก้"

 

สำนวนนี้บ่งความสูงส่งของเจ้าของเชือกผูกรองเท้า ทำให้มองภาพเห็นว่าแม้กระทั่งยอห์นผู้อยู่ในฐานะ the Prophet:ศาสดาพยากรณ์แห่งยุค ก็ยังไม่อาจเอื้อมไปสัมผัสพระเยซูได้ แม้กระทั่งจะแก้เชือกผูกรองเท้าของพระองค์ก็ไม่บังควร

 

ซึ่งถ้อยคำเยินยอของท่านยอห์นประโยคนี้มีผลทางจิตวิทยาอย่างยิ่งใหญ่ จนเป็นเหตุให้พระเยซูหลงตัวเอง เพราะหลังจากนั้นพระเยซูก็เข้าไปในกรุงเยรูซาเล็ม ความลำพองในใจจากคำพูดของท่านยอห์น ที่ว่า

 

the One who will come after me and whose sandal strings I am not fit to untie.

(พระองค์นั้นแหละมาภายหลังข้าพเจ้า แม้สายรัดฉลองพระบาทของพระองค์ ข้าพเจ้าก็ไม่บังควรที่จะแก้)

 

 ทำให้พระเยซูหลงลืมตัวไปว่าตนเป็นบุตรของพระเจ้า และประกาศตนว่าพระองค์ลงมาจากสวรรค์ เป็นบุตรโทนของพระเจ้าในสวรรค์ แล้วเอาแซ่ม้าไล่ตีพวกพ่อค้าในโบสถ์กลางกรุงเยรูซาเล็ม คว่ำโต๊ะเก้าอี้ที่วางเงินทองของมีค่าของพวกเขาล้มระเนนระนาด จนเกิดวิวาทะกันขึ้น พระองค์กลับดันไปหนักกว่าเก่า ถึงกับยกถ้อยคำขึ้นมาข่มขู่ชาวเมืองว่า ผู้ใดไม่ยอมรับว่าพระองค์เป็นบุตรพระเจ้า จะต้องถูกพระบิดาของพระองค์ลงโทษในนรกโลกันต์ ตามสำนวนพระคัมภีร์ว่า He who believes in Him is not condemned , but he who does not believe is already condemned, (John 3:18) เป็นต้น ทำให้พวกพ่อค้าเข้าใจว่าพระองค์ถูกผีสิง มาอาละวาด และไม่พอใจที่พระองค์ยกตัวขึ้นเสมอพระเจ้า เพราะทรงตรัสว่า I and the Father are one.(John 10:30) แล้วในที่สุด คนทั้งเมืองก็ต้องการพิศูจน์ด้วยชีวิตของพระองค์ จึงติดตามจับกุมพระองค์นำตัวไปฟ้องเจ้าเมืองในข้อหาฉกรรจ์ 3 ข้อด้วยกันคือ

(1) ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น

(2) ทำร้ายร่างกายคนอื่น และ

(3) อวดอภินิหาริย์และดูหมิ่นพระเจ้า

 

ปีลาต เจ้าเมืองเยรูซาเล็มขณะนั้น ฟังแล้วตัดสินลงโทษพระองค์อย่างรุนแรงโดยให้ตรึงกางเขน เพื่อจะไล่ผีออกจากพระองค์ และเพื่อพิศูจน์ว่าพระเจ้าซึ่งพระเยซูอ้างว่าเป็นพระบิดาของพระองค์จะมาช่วยชีวิตพระองค์หรือไม่ พระเยซูจึงสิ้นพระชนม์แต่วัยหนุ่มเมื่ออายุเพียง 35 ปี ฉะนั้น จะเห็นว่า เรื่องสายผูกรองเท้า มีความสำคัญยิ่งใหญ่ เป็นที่มาแห่งศาสนาสำคัญศาสนาหนึ่งในโลกยุคปัจจุบันเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

 57 รัฐบาลมุสลิมระเบิดพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในโลก

ทุกช่อง 3 มี.ค. 2544 1940 น.

 

รัฐบาลอาฟกานิสถาน ที่เป็นมุสลิม โดย นายมุลลา โมฮัมเม็ด โอมาร์ ผู้นำรัฐบาลทหารมุสลิมกลุ่มตาลิบัน ผู้ยึดครองประเทศอาฟกานิสถาน พร้อมทั้งนักปราชญ์มุสลิม 400 คนแห่งประเทศนั้น ร่วมกัน ทำลายพระพุทธรูปที่บรรพบุรุษของประเทศนั้นสร้างขึ้นไว้ ตามหน้าผาเทือกเขาเมืองบาบียัน มีอายุกว่า 1500 ปีมาแล้ว โดยแกะสลักไว้มากมายในภูเขาและหน้าผาใหญ่ ๆ มีพระพุทธรูป ยืนขนาดใหญ่ 2 องค์ ๆ หนึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก สูง 53 เมตร เป็นมรดกวัฒนธรรมของโลก ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมสหประชาชาติ (UNESCO) ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกไว้แล้ว เป็นพระพุทธรูปยุคมหาอำนาจกรีกนับถือพระพุทธศาสนาและเริ่มมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา อันเป็นร่องรอยของอารยธรรมเก่าแก่ของโลกที่มีค่าทางการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง แต่สาเหตุที่รัฐบาลมุสลิมอาฟกานิสถานต้องการทำลายทิ้งนั้น เป็นเหตุผลทางการศาสนามุสลิมโดยเฉพาะ โดยอ้างว่า เพื่อทำอาฟกานิสถานให้เป็นรัฐอิสลามบริสุทธิ์

 

คำว่ารัฐอิสลามให้บริสุทธิ์ เป็นหลักการศาสนาอิสลาม และ การมีรูปเคารพเป็นการขัดหลักการของศาสนาอิสลาม ทำให้อิสลามไม่บริสุทธิ์ การทำลายเริ่มโดยใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายบริเวณศีรษะของพระพุทธรูป แล้วในที่สุดใช้ทั้งปืนกลติดกระสุนหัวระเบิดยิงถล่ม และฝังระเบิดรอบ ๆ องค์พระพุทธรูปกดทำลาย ภาพข่าวสุดท้าย เห็นระดมยิงด้วยปืนใหญ่ก่อน แล้วกดระเบิดทำลายพระพุทธรูปองค์ใหญ่จนราบเรียบ ยูเนสโก ส่งผู้แทนไปเจรจาก่อนแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งนายโคฟี่อนันด์ เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางไปด้วยตนเอง แต่อาฟกานิสถานไม่ยอม รายงานข่าวล่าสุด รมว.วัฒนธรรม อาฟกานิสถานยืนยันว่าได้ทำลายพระพุทธรูปไปแล้ว และให้เหตุผลว่าไม่ได้ทำลายเพียงพระพุทธรูปสัญลักษณ์ของศาสนาพุทธเท่านั้นแต่ทำลายรูปเคารพทั้งหมดของศาสนาอื่น ๆด้วย เพราะรูปเคารพผิดหลักการของศาสนาอิสลาม ยังอ้างหลักศาสนาพุทธด้วยว่า สิ่งที่เขาทำลายเป็นเพียงหินและทรายเท่านั้น จึงไม่พึงยึดมั่นถือมั่น

 

ข่าวรายงานว่าประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก นับตั้งแต่อินเดีย จีน ญี่ปุ่น อเมริกา แม้กระทั่งปากีสถานที่เป็นมุสลิม เพื่อนบ้านและประเทศมุสลิมอื่น ๆ ก็ไม่เห็นด้วย แต่แรกอเมริกาขอซื้อพระพุทธรูป แต่เจรจากันไม่ได้ จนกระทั่ง ล่าสุดศรีลังกาขอซื้อซากสลักหักพังเพื่อนำไปประกอบใหม่ที่ศรีลังกา แต่รัฐบาลตาลีบันไม่มีท่าทีจะประนอมยอมความ

 

กรณีนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลอาฟกานิสถานและศาสนาอิสลามจะต้องลำบากใจในภายหลัง ต่อหลักการที่ว่า รัฐอิสลามบริสุทธิ์ เมื่อคำนึงความเป็นจริงที่ว่า ในประเทศต่าง ๆ ทุกวันนี้ มนุษย์ต่างยอมรับกันในเรื่องสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของมนุษย์ ได้แก่สิทธิในร่างกาย ทรัพย์สิน ตลอดจนสิทธิในความคิดความเชื่อของมนุษย์ ยุคการสื่อสารคมนาคมไปเร็วและทั่วถึงทุกวันนี้ ในประเทศหนึ่ง ๆ จึงมีคนนับถือศาสนา ความเชื่อแตกต่างกันไปทั่วโลก มากบ้างน้อยบ้าง ไม่มีประเทศหนึ่งประเทศใดเป็นอิสลามล้วน ๆ เป็นพุทธล้วน ๆ เป็นฮินดูล้วน ๆ หรือเป็นคริสต์ล้วน ๆ รัฐอิสลามจะบริสุทธิ์ได้อย่างไร หากตั้งอยู่บนหลักการว่า จะต้องมีแต่ชาวมุสลิมล้วน ๆ และวัฒนธรรมอิสลามล้วน ๆ ในประเทศนั้นเท่านั้น แล้วมุสลิมมิต้องปิดประเทศตัวเองอยู่คนเดียวหรือ รัฐอิสลามบริสุทธิ์ จะต้องฆ่ามนุษย์ต่างศาสนาให้หมดสิ้นไปเหลือแต่ชาวมุสลิมพวกเดียวทั้งประเทศ เพื่อทำรัฐอิสลามให้บริสุทธิหรือ ? แล้วไม่คำนึงว่าชาวโลกคงยอมรับหลักการอิสลามไม่ได้

 

และโลกยังจะต้องมองไปอีกว่า เมื่อยึดหลักการอิสลามบริสุทธิ์ดั่งนั้นแล้ว มุสลิมน่าจะเป็นภัยของโลกมนุษย์ เพราะ มุสลิมอยู่ที่ไหน มุสลิมจะต้องเป็นใหญ่ จะต้องทำลายคนต่างศาสนา ทำลายสัญลักษณ์ของศาสนาลัทธิอื่น ๆ และทำลายอารยธรรมเก่าแก่ของโลกให้หมดเกลี้ยงไปสิ้น โดยจะต้องเหลืออยู่แต่มุสลิมและวัฒนธรรมมุสลิมพวกเดียวเท่านั้น และเป็นไปได้หรือที่ว่าหลักการอิสลามไม่อนุญาตให้รัฐอิสลามคบประเทศที่มิใช่รัฐอิสลาม มิให้มุสลิมคบมิตรหรือแต่งงานกับชาวต่างศาสนา เพราะถ้าเช่นนั้นรัฐอิสลามบริสุทธิ์หรือมุสลิมบริสุทธิ์ต้องอยู่คนเดียว ก็กลายเป็นว่า ศาสนาอิสลาม มิต่างจากคอมมิวนิสต์ ที่ครั้งหนึ่งคนมองว่าเหมือนปีศาจร้ายเลยทีเดียว และมนุษย์โลกที่ไหนจะยอมให้มุสลิมคิดและทำเช่นนั้น แม้ว่ามุสลิมจะมีพระเจ้าผู้ทรงสูงส่งคือองค์ อัลเลาะห์

 

ที่น่าคิดมากไปกว่านั้นอีกก็คือ หลักการอิสลามบริสุทธิ์กับชาวมุสลิมส่วนน้อยในประเทศอื่น ๆ จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่า มุสลิมบริสุทธิ์ จะต้องเป็นกองโจรก่อการร้ายอยู่ตลอดเวลาเพื่อทำประเทศที่เป็นพุทธ คริสต์ ฮินดู ฯลฯ ให้เป็นรัฐอิสลามบริสุทธิ์ให้ได้เช่นนั้นหรือ ? แล้วความสุขสงบและสันติธรรมจะเกิดขึ้นในโลกได้อย่างไร จากหลักการอิสลามเช่นนี้ และแท้จริงความคิดความเชื่อและหลักการอิสลามเช่นนี้ดูจะเป็นทางหายนะของศาสนาอิสลามเองอย่างยิ่งใหญ่ในปัจจุบันและอนาคต เมื่อความคิดเช่นนี้สะท้อนภาพของความเห็นแก่ตัวไปอย่างสุด ๆ แล้วสะท้อนภาพการแสวงหาประโยชน์ตนด้วยความรุนแรงและป่าเถื่อนอย่างไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง และมนุษย์ยุคใหม่ทั้งปวง ประเทศทั้งปวงในโลกไม่อาจจะยอมรับได้

 

กรณีปัญหา อิสลามบริสุทธิ์นี้เป็นปัญหาที่ต้องศึกษาวิเคราะห์ในเชิงการศาสนาสากล ที่ชาวโลกน่าจะให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะบางทีศาสนา ความเชื่อที่ผิดหลักการศาสนาที่แท้นี้เองที่เป็นสาเหตุหนึ่งของความปั่นป่วนอย่างอลเวงของโลกยุคนี้ เป็นภัยของชาวมนุษย์ที่ซ่อนเร้นมิดชิดที่สุด เพราะซ่อนเร้นอยู่ภายในจิตใจของศาสนิกแต่ละศาสนา และโลกลืมมองที่จุดซ่อนเร้นอันนี้มานานแล้ว ฉะนั้น น่าจะมีการศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาศาสนาสากลกันอย่างจริงจัง เสียที

 

 

 

 

 

 58 คดีส.ว.เฉลิม พรหมเลิศข่มขืนเด็กอายุ13ขวบ

4 แยกรัชโยธิน

ไอทีวี 16 มี.ค. 2544 0600 น.

 

สี่แยกรัชโยธิน สายตรง 0600 น. รายงานสรุปข่าวเช้าตรู่ กรณี สว.เฉลิม พรหมเลิศ ลาออกจาก ส.ว. เพราะผลของกระแสมติมหาชน ยังมีการล่ารายชื่อทางภาคใต้ เพื่อขับ ส.ว.87คน ที่ออกเสียงลงมติป้องกัน ส.ว.เฉลิม และมีข่าวเจ้าทุกข์ได้รับการติดต่อจากทนายผู้เสียหายขอให้เลิกล้มคดี เสนอค่าตอบแทน รายละ 8 แสนบาท 5 ราย องค์กรสิทธิเด็กและสตรีต้องทำงานกันอย่างหนัก

 

เมื่อมองภาพรวมแล้วกรณี ส.ว.เฉลิม เป็นเรื่องที่น่าคิด และน่าเป็นห่วงสถานะทางสังคมไทยที่ตกต่ำเพราะปัญหากามารมณ์ เรื่องของความเป็นเหตุและผลโดยรวม สะท้อนถึงกันอย่างไร มีความเป็นเหตุและผลแก่กันอย่างไร ดูเหมือนคนไม่ค่อยมองเห็นความสำคัญ เห็นสิ่งที่เป็นภัยว่าไม่เป็นภัย

 

แต่แท้จริงปัญหาเช่นนี้อาจจะแก้ไขได้ ด้วยแนวคิดง่าย ๆคือ เพียงแต่ผู้หญิงรู้จักการแต่งตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงไทยขึ้น ให้ผู้หญิงมีความสุภาพขึ้นเท่านั้น ให้กระโปรงยาวคลุมน่อง ให้หลวม สวมใส่สบาย ๆ จะดูเป็นผู้ดีขึ้น ในวงการศึกษาคือ โรงเรียน สถานศึกษา ข้าราชการ ครู-อาจารย์ ควรจะมองเรื่อง ความรู้คู่คุณธรรม อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น นั่นคือมองที่การแต่งกายของตนเองก่อน ว่าแต่งกายอย่างไรจึงชื่อว่ามีคุณธรรม ถ้าการแต่งกายแสดงออกซึ่ง ราคธรรม ตัณหาธรรม อันนำไปสู่กามฉันทะ ความพึงพอใจในกาม และเพื่อการเสพทางอายตนะทั้ง 6 อย่างใดอย่างหนึ่งนั้นเองที่บอกความไม่มีคุณธรรม ทุกวันนี้ส่งผลต่อการกระตุ้นกามารมณ์ของสังคมมากขึ้นทุกระดับโดยเฉพาะระดับเยาวชนและผลอันร้ายแรงที่ดูเหมือนรัฐบาลและสังคมจะเมินมองไปเสียแล้ว ก็คือปัญหาโรคเอดส์ ที่นับวันจะก่อปัญหาทางเศรษฐกิจของครอบครัว สังคมและประเทศชาติยิ่งขึ้น

 

ฉะนั้น บัดนี้ข้อสรุปของคุณธรรมก็คือ วัฒนธรรมการแต่งกายของสตรี ผู้หญิง ทุกวัย แม้เด็ก ๆ อนุบาล ควรให้กระโปรงยาวลงมาคลุมน่อง ให้เหมาะเจาะเวลานั่งลงบนที่นั่ง อย่าให้ต้องกังวลคอยเอามือมากุมไว้ที่หัวเข่า แล้วพอแสร้งทำเผลอยกมือขึ้นก็เปิดเผยสิ่งที่น่ารังเกียจต่ำช้า น่าอับอาย เป็นอากัปกิริยาอย่างดาราภาพยนต์อเมริกันที่แสดงบทเซ็กซ์ โป๊ะ เปลือย บทคู่ที่ร่วมเพศกับผู้ชายโดยเปิดเผยต่อหน้าสาธารณะได้อย่างไม่มีความรู้สึกอับอาย ต่างจากหญิงนครโสเภณีอย่างไร ฉะนั้น แม้เพียงมาปรับ เรื่องวัฒนธรรมการแต่งกายของสตรีไทยเสียใหม่ เป็นวัฒนธรรมผู้ดี เท่านี้ก็ช่วยได้มากแล้ว

 

 

 

 

 

 59 ภาพยนต์เรื่องนางนากพระโขนงสร้างทำใหม่

มูวี่ส์ออนทรี : นางนาก

ช่อง 3 16 มี.ค. 2544 22.30-24.50 น.

 

หนังไทย อินทิรา เจริญปุระ วินัย ไกรบุตร แสดง ที่สะท้อนความเป็นไทยทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์มาก หนังผีที่ยิ่งใหญ่มาก สร้างขึ้นด้วยปัญญา จินตนาการ อันแจ่มใสเจิดจ้า เทกนิกและฝีมือการสร้าง สมควรเป็นหนึ่งในระดับโลกสากล หนังขายดีที่สุดในยุคนี้ ทำรายได้ 150 ล้านเศษ ฝีมือของผู้สร้าง ผู้กำกับชั้นเยี่ยมทีเดียว วันนี้ ช่อง 3 นำมาฉายให้แฟนจอแก้วชมโดยเฉพาะ หนังดีมาก น่าเลื่อมใสในฝีมือการสร้าง มีความละเอียด รอบคอบแม้ในรายละเอียดของวัฒนธรรม ความเชื่อของสังคมไทย เช่น แมงมุมตีอก ตอนนางนาก สังหรณ์ว่าสามีที่ไปรบจะได้รับอันตราย เป็นภาพแมงมุมตีอก ตามที่มีบอกในหนังสือทำนาย อภิไธโพธิบาทว์ เมื่อนางนากเจ็บหนักจะออกลูก บอกรายละเอียดบรรยากาศ และวิถีวัฒนธรรมยุคนั้นได้ใกล้ความเป็นจริงทีเดียว เห็นรายละเอียดไปถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนในเหตุการณ์นั้นอย่างสมบูรณ์ ภาพความรัก บทรักระหว่างผัวเมีย ก็เป็นแบบไทย ๆ น่าที่คนยุคนี้จะมองดูเอาประโยชน์ในเชิง เอาเยี่ยงกาแต่อย่าเอาอย่างกา ไว้บ้าง เรื่องราวก็สมจริงสมจัง ผี กับโรคห่า สร้างความสมจริงสมจังให้หนังเรื่องนี้มาก ผีก็เป็นคนจริง ๆ มากเสียจนกระทั่งเพื่อนรักมาบอกก็ไม่เชื่อ

 

มีรายละเอียดที่น่าสังเกตอย่างยิ่งในหนังแม่นากนี้ โดยเฉพาะเรื่องราวของพระสงฆ์ไทยกับสังคมยุคนั้น ซึ่งมีข้อน่าคิดมาจนถึงยุคนี้ ลองสังเกตตอนหลวงพ่อวัดมหาบุศอุตส่าห์ถ่อร่างไปบ้านทิดมาก เพื่อจะบอกยืนยันว่ามันอยู่กับผีนางนาก บอกเคล็ดว่าให้ก้มมองลอดหว่างขาตัวเองไปดู จะเห็นร่างจริงของผีที่ปลอมมาเป็นคน ดูการปฏิบัติต่อพระ ของโยมยุคนั้น จะเห็นความเคารพเลื่อมใสเปี่ยมความศรัทธาจริง ๆ ไม่ใช่เพราะพระสงฆ์มียศศักดิ์ ตำแหน่ง แต่เพราะความร่วมทุกข์ร่วมสุข ความเมตตา และ ที่สำคัญ ความที่พระสงฆ์มีวิชาการแก่กล้า คือรู้จริง แก้ปัญหาได้นั่นเอง ดูการปฏิบัติของสามเณรน้อย ลูกศิษย์ ต่อพระอาจารย์ ซึ่งในเรื่องนี้ให้เป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ซึ่งน่าสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทึกทักเอาหรือไม่ เพราะความจริงพระที่เก่ง จะมองจากสังคมไม่ได้เสมอไป พระที่เก่งจริงมักซ่อนเร้นแสวงหาความสุขจากความสงบอันปลีกไปไกลจากสังคม ตราบมีปัญหาใหญ่ในสังคมจึงมักโผล่ออกมาช่วยเหลือ เสร็จแล้วก็หลบสังคมไปอีกครั้ง แต่ควรดูการปฏิบัติ พระต่อพระ การพูดจาของท่าน ทำได้สมจริงมาก น่าเป็นแบบอย่าง ฟังการสนทนาของท่าน พระต่อพระ "ท่านรูปใดเป็นเจ้าอาวาสวัดมหาบุศ ขอได้ช่วยรับภาระ .." "ได้ขอรับ" "ถ้างั้นเห็นทีรูปต้องขอลาก่อน จำเริญพร" ดาราก็แสดงได้สมจริง "เอ็งร้องไห้รึอีนาก เอ็งร้องไห้ทำไมรึ ?"

 

 

แต่ประเด็นสำคัญก็คือ พระสงฆ์กับสังคมไทย มีความสัมพันธ์กันแนบแน่นทุกเรื่องราว เห็นหมอผีที่ทรงวิทยาคุณ ในเรื่องนางนากนี้ บางทีคนสมัยใหม่อาจจะไม่เข้าใจ อาจนึกว่าพระสงฆ์ไทยมักน้อมไปในทางไสยศาสตร์ ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น หากบ่งบอกว่าสงฆ์ไทยนั้นปรับตัวไปตามสถานการณ์เสมอ ในยามสงครามสงฆ์ไทยก็ปรับตัวให้เข้ากับสงคราม ช่วยราชการสงครามของแผ่นดินได้ ในยามเถื่อนดิบ ด้วยความเชื่อล้าหลัง สังคมเชื่อในภูติผีปีศาจ และมีภูติผีปีศาจปรากฎขึ้นในสังคม เช่นหนังเรื่องนางนากนี้ ที่สะท้อนสังคมไทยชนบท ในปี พ.ศ.2412 เมื่อมีเรื่องผีตายท้องกลมเกิดขึ้น เป็นตำนานความรักที่ยิ่งใหญ่ที่ผีกับคนมีความรักกันซาบซึ้ง และเมื่อมีอุปสรรค ผีก็แสดงฤทธิเดช เข่นฆ่าอย่างซาตาน ร้อนถึงพระสงฆ์องค์อริยเจ้าผู้แก่กล้าวิชชา ท่านผู้แก่กล้าวิชชาก็ปรับวิชชาของท่านให้เข้ากับสถานการณ์ได้ ช่วยปราบผีได้ นี่คืออริยสงฆ์ ผู้มีพื้นฐานจิตใจ ที่อาจปรับให้เข้ายุคสมัยได้อย่างน่าประหลาด

 

หากท่านมาสู่สังคมยุคนี้ ยุคที่ไม่มีภูตผีปีศาจอีกแล้ว ท่านก็จะสามารถปรับวิชชา หรืออุตตริมนุสสธรรมอันสูงสุดให้เป็นประโยชน์ต่อคนยุคใหม่ สามารถช่วยแก้ปัญหาแห่งยุคได้เช่นเดียวกัน พระองค์เดียวกันนี้หากท่านย้อนไปสู่ยุคเก่าก่อน ท่านก็สามารถปรับวิชชาสูงสุดนี้ไปแก้ไขปัญหาผี ปีศาจได้เช่นกัน ซึ่งเป็นความลับในปัญหาการพัฒนาจิตใจ เมื่อพัฒนาไปสู่ระดับสูงส่ง หรือสูงสุดตามเป้าหมายของไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา อริยธรรมสูงสุดในพระพุทธศาสนาแล้วก็จักสามารถปรับจิตใจ วิชชา ปัญญา ไปให้เหมาะกับสภาพปัญหาได้ทุกชนิด ดังเห็นตัวอย่างจากกรณีนางนากนี้แล้ว พุทธธรรมจึงเป็นอาวุธอันสูงสุดที่อาจแปรไปอย่างใด สำหรับปราบมารได้ตามยุคสมัยทุกยุคสมัย น่าประหลาดใจในความดี สมเด็จวัดระฆังในเรื่องนี้ ดูจะสะท้อนความหมายเช่นที่กล่าวนี้ได้ดีทีเดียว

 

 

 

 

 60 ฝรั่งโจนัส แอนเดอร์สันขับร้องเพลงไทยเดิม

ยอยศพระลอ

ช่อง 11 20 มี.ค. 2544 22.30-24.50 น.

 

ประกวดเพลงลูกทุ่ง สด ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีสัมพันธ์ กรุงเทพ โจนัส แอนเดอร์สัน กับ เพื่อนสาว ของเขา คริสตี้ กิฟสัน ขับร้องสด ๆ โชว์ลีลาที่น่าประทับใจยิ่ง ต้องยอมรับว่า ยอยศพระลอ ร้องออกมาจากใจทีชื่นชอบ จึงไพเราะและเห็นแววแห่งความสุข พร้อมด้วยคุณภาพของศิลปไทยครบถ้วน สมควรความเป็น ศิลปินไทยชั้นนำเต็มตัว แต่ การโชว์ของแอนเดอร์สัน ดูเหมือนจะซ่อนความหมายพิเศษเฉพาะตน ซึ่งเป็นความหวังและอุดมการณ์ของเขาเองที่ลึกซึ้ง ดูเหมือนเขากำลังพยายามให้คนไทยมองเขาในมุมที่เขาเองมองตัวเขาเองอยู่ เขาต้องการให้คนมองเขาอย่างไร อะไรที่เขากำลังพยายามอยู่ และมีกี่คนมองเขาตรงกับที่เขาต้องการให้เห็น

 

  • ดีเล่มที่ 23

 

 

 

 

                                          

 

 61 ดี24 /พ.ค. - ก.ย.2544

เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว

ต่อต้านเอดส์ต่อต้านอนารยธรรม

โดยคอมพิวเตอร์แมนและบูดามี

 

 

 

 62 พลังจักรวาล พลังคอสมิก ทำให้หนุ่ม

ฒไม่เฒ่า

ช่อง 9 25 พ.ค.2544 0800 น.

 

คารา พลสิทธิ์ แนะนำ วิชา กายทิพย์เพื่อสุขภาพ เยาวเรศ บุนนาค แพทย์ทางเลือก ศูนย์กายทิพย์เพื่อสุขภาพ ชราภาพแล้ว อายุ 71 แต่บำเพ็ญตนบำเพ็ญบุญอย่างน่าเลื่อมใส โดยรับรักษาคนป่วยเป็นโรคต่าง ๆที่หมดหนทางหรือรักษายาก ๆ เช่นโรค slv. โรคตับแข็ง มะเร็งตับ โรคมะเร็งบวมตามคอ มีผลงานอ้างอิงได้ ใช้รักษาควบไปกับ พลังจักรวาล คือพลังคอสมิก จึงเรียกว่า พลังกายทิพย์ รักษาฟรี มา 6 ปีแล้ว เมื่อถามถึงรายได้ว่าแล้วแต่ใครจะให้ แนะว่าการทำบุญทำทานควรเข้าใจทำ การทำบุญกับบุคคลที่มีบุญจะได้อานิสงส์สูงกว่า เปรียบเสมือนนาทามย่อมดีกว่านาดอนเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ ก็จะงอกงามในนาทามดี ถ้าหว่านเมล็ดบุญลงในนาดอนก็ไม่ค่อยจะงอกงาม หรือเสียเปล่า นี้คือความเข้าใจพื้นฐานต่อการบุญการทานในพระพุทธศาสนา

 

 

 

 

 

 63 ดูโรงงานทำกระดาษสับปะรด

ทุ่งแสงตะวัน

ช่อง 3 เสาร์ 26 พ.ค.2544 เวลา 0730 น.

 

รายการช่อง 3 ให้คุณภาพคล้ายรายการ กล้าคิดกล้าทำ ของช่อง 5 วันอาทิตย์ เวลา 0710 น. ทุ่งแสงตะวันวันนี้ พาเด็ก ๆ ไปดูและลองทำกระดาษสับปะรด ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่าถูกกว่ากระดาษสา กระดาษสาแผ่นละ15 บาท กระดาษสับปะรดแผ่นละ 10 บาท เป็นรายการภูมิปัญญาชาวบ้านไทย ที่สืบมาแต่อดีต น่าชื่นชมที่รายการแสงตะวันฉายภาพที่ตรงประเด็น คือความสามารถของท้องถิ่นในการเอาตัวรอดและทั้งความเฉลียวฉลาดของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่บัดนี้เธอมีความรู้ความชำนาญอย่างดีเยิ่ยมเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งในการทำกระดาษสับปะรด น่าสนใจ ที่ชุมชนตำบลนี้รู้จักปรับการทำงานกลุ่ม ให้เหมาะสม รายการทุ่งแสงตะวัน เป็นรายการที่ค่อนข้างคมชัดในความหมายที่เจ้าของรายการต้องการให้คนเห็น

 

 

 

 

 

 64 สด ปิดคดีซุกหุ้นทักษิณ ชินวัตร

ช่อง 11, ช่อง 7 และ ไอทีวี 18 มิย. 2544 1300-1430 น.

 

จาก ศาลรัฐธรรมนูญ คู่ความมีเวลาคนละ20 นาทีเท่านั้น นับว่า 20 นาทีที่สรุปความหมายสำคัญอันยิ่งใหญ่ น่าเป็นประวัติศาสตร์ ของวาทะครั้งสำคัญของชาติไทยทีเดียว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 15 คนนั่งบัลลังก์แล้วดูเคร่งขรึมน่ายำเกรง เอ่ยถ้อยคำแต่น้อย ล้วนเป็นคำสั่ง ไม่มีวี่แววการจะประนีประนอมยอมความ มีแต่วี่แววของการขาด การตัด ด้วยอำนาจที่เหนือผู้ใดในแผ่นดิน เหนือแม้บุคคลในตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายบริหาร คือนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยวันนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองใจ และคาดว่าจะรู้ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญภายในเดือนกันยายน 2544 แน่นอน อรวรรณ กริ่มวิรัตน์กุล พิษณุ นิลกลัด รายงานตรงกันว่า นายกรัฐมนตรีแถลงด้วย เสียงเครือ เมื่อกล่าวถึงการอุทิศตนอย่างซื่อสัตย์เพื่อส่วนรวม กล้าประกาศสู้กับปัญหาคดโกงทุจริตในคณะรัฐบาลเอง ทาง ยุพา เพชรฤทธิ์ รายงานดุสิตโพลสำรวจ ว่า 80 เปอร์เซนต์ ชอบคำแถลงของทักษิณ 20 เปอร์เซ็นต์ ชอบกล้านรงค์ จันทิก ไม่มีรายละเอียดของการสุ่มตัวอย่าง ถ้าไปสุ่มเอารอบศาลรัฐธรรมนูญ ก็คงจะ อคติ เพราะล้วนแต่คนแห่มาเชียร์ทักษิณทั้งนั้น

 

 

 

 

 

 65 สภาผู้แทนฯพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี2545

ถ่ายทอดสดจากรัฐสภา

ช่อง 11 26 มิ.ย.2544 1400 น.

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545 ยอด 1,023,000 ล้านบาท จะยืม 21,000 ล้านบาท เป็นการประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณฯโดยเฉพาะ นายกรัฐมนตรี แถลงจบเวลาประมาณ 1705 น. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำฝ่ายค้าน ลุกขึ้นขออนุญาตให้ รองหัวหน้าพรรคฯ นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะพูดแทน โดยได้สิทธิเหมือนหัวหน้าพรรค ไม่บอกเหตุผลว่าทำไมหัวหน้าพรรคจึงไม่อภิปรายเอง อย่างไรก็ตาม ประเด็น กันเงินไว้พิเศษ 5 หมื่น 8 พัน ล้านบาท เป็นประเด็นที่ค่อนข้างเด่นน่าสนใจ มีประเด็นที่ฝ่ายค้านพูดถึงเรื่องในวงการสงฆ์ กรณีปลดพระมหาเถระ(พระธรรมกิตติวงศ์)ออกจากตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม ว่าน่าเสียใจเรื่องที่เกิดในวงการสงฆ์ รัฐบาลควรแก้ไข แต่ฝ่ายค้านก็ไม่ให้ข้อชี้แนะที่กระจ่างว่าเรื่องราวน่าเสียใจอย่างไร และควรแก้ไขอย่างไร แล้วในที่สุดก็มีการโหวตเสียงลงคะแนน ไม่ยอมรับ 1 คน ไม่ยกมือออกเสียง 113 คน ที่ไม่ยอมรับคงเป็น ท่าน สุวโรจน์ พลัง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศด้วยตนเองระหว่างการอภิปรายว่าตนจะไม่รับร่างพรบ.นี้ซึ่งในสภาวันนี้ท่านก็ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และโดดเด่น มีเรื่องน่าสนใจคือ ท่าน ส.ส.สุวโรจน์ พลังลุกขึ้นประท้วงท่านรัฐมนตรี ว่าท่านยังไม่ทันถามรัฐมนตรีไม่ควรชิงตอบเสียก่อน หรือว่าจะกลัวท่านมากเกินไปจนต้องป้องกันเอาไว้ก่อน ฝ่ายรัฐมนตรีลุกขึ้นบอกค่อย ๆว่า ท่านสุวโรจน์ไม่ได้ถามก็จริง แต่ก็มีท่าน ส.ส. สันติ ไชยวิรัตน์ ถามไว้ก่อนแล้วจึงตอบ ทำให้ดูครื้นเครง คนฟังก็ชอบใจอมยิ้ม

 

 

 

 

 66 บทบาทของสตรีในพระพุทธศาสนา

ขอคิดด้วยคน

ช่อง 9 2 ก.ค. 2544 เวลา 2130 น.

 

สตรีในพระพุทธศาสนา (ตอนจบ) เริ่มหัวข้อนี้มาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.2544 มีผู้ร่วมรายการคือ พระศรีปริยัติโมลี, ศ.ศิวรักษ์ และ สามเณรีธัมมะนันทา (อดีต รศ. ฉั ตรสุมาลย์ กบิฬสิงห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ผู้ร่วมฟังกิตติมศักดิ์ 2 ท่าน ส.ว.โสภณ สุภาพงษ์ ส.ว. เตือนใจ ดีเทศก์ ประเด็นและคำถามถูกป้อนอย่างเฉียบคมจากเจ้าของรายการ ผู้เป็นพิธีกร ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว. อย่างไรก็ตาม เรื่องราวสาระธรรมวันนี้ โดยเฉพาะประเด็นควรมีภิกษุณีหรือไม่ กาลเวลาจะเป็นสิ่งที่พิศูจน์ แต่เมื่อมองถึงความเป็นนักบวช ภิกษุณี ก็มีหน้าที่ตามธรรมตามวินัยอย่างเดียวกันกับภิกษุ คือหน้าที่ในการประพฤติธรรมไปจนกว่าจะบรรลุมรรคผล และเมื่อบรรลุมรรคผลแล้ว โดยปรมัตถสัจจะ ความเป็นภิกษุ ก็ไม่มี ความเป็นภิกษุณี ก็ไม่มี ฉะนั้น โดยฐานะอะไรก็ตาม เมื่อประพฤติธรรมสำเร็จแล้วฐานะนั้นก็ไม่มีความสำคัญนัก สิ่งสำคัญจริง ๆ ก็คือ การบรรลุธรรมระดับสูงสุด

 

 

 

 

 

  67 พบคนไทยจากฮุสตัน สหรัฐอเมริกา

บ้านเลขที่ 5

ช่อง 5 4 ก.ค.2544 0740 น.

 

มาเยี่ยมมาเยือน จากฮุสตัน สหรัฐอเมริกา เอาดนตรีไทยมาโชว์ด้วย ว่าคนไทยในฮุสตันคิดถึงเมืองไทย ช่วยกันสร้างสำนึกรักเมืองไทยวัฒนธรรมไทยขึ้นในเมืองนอก ยังรวมทุนมาทำบุญบริจาคดวงตาไทยด้วย คนไทยมีน้ำใจมาตลอด คนไทยไม่เคยแล้งน้ำใจ คุณสุจารี ยศสุนทร สตรีเก่ง สอนภาษาอังกฤษในสถาบันการศึกษาของรัฐบาล โหยหาเมืองไทย มาจนเห็นรายการช่อง 5 ซึ่งถ่ายทอดทาง global network ไป 158 ประเทศทั่วโลก ประทับใจเมืองไทยมาก เลือดไทยไม่เคยจางไป และคนไทยที่นั่นก็มีความรู้สึกนี้ร่วมกัน คิดถึงเมืองไทย เมืองไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก จึงตั้งเป็นชมรมไทยต่างแดน ขึ้น สืบสานวัฒนธรรมไทย ความเป็นคนไทยขึ้น มีสอนดนตรีไทย นาฏศิลปไทย โดยความร่วมมือของครูอาจารย์ด้านนาฏศิลป์หลายคน แล้วเดินทางกลับมาเมืองไทย มาทำบุญบริจาคช่วยโครงการดวงตาไทย และโชว์แผ่นดิสก์ดนตรีเยาวชนไทยในอเมริกา ที่ทำแจกคนอเมริกาด้วย เป็นภาพเยาวชนไทย เล่นเครื่องดนตรีนาฏศิลปไทย พับเพียบเรียบร้อยเป็นกุลบุตรกุลชสตรีเต็มแบบไทยสมบูรณ์ เชิญชวนคนไทยในต่างแดนร่วมทำบุญด้วยกัน โดยติดต่อที่เบอร์ 281-4930215 และ 281-4690886 วันนี้คุณl60kiu ยศสุนทร ได้มอบเงินที่มีผู้ศรัทธาบริจาคจากอเมริกาจำนวน 130,215 บาท ให้ยุวดี บุญครอง ประธานโครงการให้ดวงตา ด้วย โดยรายการ บ้านเลขที่ 5 เป็นผู้ประสานงาน

 

 

 

 

 

 

 68 ล้อเลียนพระคัมภีร์ไบเบิล

ภาพยนตร์วันพุธ : วิญญาณอมตะ

ไอทีวี 4 ก.ค.2544 1020 น.

 

วิญญาณอมตะ The Memory of Mark Patrick หนังฝรั่งเอาเรื่องราวในพระคัมภีรไบเบิลมาล้อเลียนเล่นอีกครั้งหนึ่ง เพราะแฝงเซนส์ของความขบขันอย่างน่าคิดเอาไว้ ตำรวจยุคปี 1896 (พ.ศ. 2439) หนังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เห็นการข่มขู่สารพัดของพระเจ้าต่อมวลมนุษย์ โดยจินตนาการของมนุษย์เอง ต้นเหตุเกิดขึ้นจากนักบวชคาทอลิกรูปหนึ่ง มีตำแหน่งเป็นนักบุญ ชื่อ นักบุญคริสโตเฟอร์ มีอภินิหาร สามารถกระโดดข้ามตึกลิบฟ้า ที่มนุษย์อย่างตำรวจผู้ไล่ตามจับเกือบตกลงไปตาย ยิงก็ไม่ตาย กระโดดลงไปจากยอดตึก10ชั้นลงไปเดินบนถนนได้สบาย ๆ แต่เป็นพระโรคจิต เข้าใจว่าตนมาสู่โลกเพื่อเตรียมการต้อนรับพระเยซู ที่จะเสด็จกลับมาตามคำมั่นสัญญาในพระคัมภีร์ไบเบิล ความเป็นโรคจิตทำให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ เชื่อผิด อ้างว่าตนเป็น กองทัพพระเจ้า จะส่งสัตว์-มนุษย์ทุกตัวคนไปสู่สวรรค์ เริ่มก่อภัยต่อเด็กก่อนจนถึงกับฆ่าเด็กไปหลายคน มาเจอ ยอดตำรวจ มารค แพทริก ผู้ซึ่งได้เคยตายไปครั้งหนึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่และได้ไปนรก แล้วได้เล่าเรียนวิชามาจากนรก ๆ ให้กลับมาสู่โลกได้โดยเงื่อนไขว่าต้องจัดการกับนักบุญวิกลจริตคนนั้นให้ได้ เมื่อทั้งคู่มาเจอกัน โดยตำรวจที่มาจากนรกกลับเป็นฝ่ายธรรม นักบุญวิกลจริตคริสโตเฟอร์ที่มาจากสวรรค์เป็นอธรรม ลูกน้องพระเยซู จึงถึงจุดจบ พอถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูง ก็สลายไป อำนาจอภินิหารก็เสื่อมไป ตำรวจเก่งยังคงตามล่าพวก God's army (กองทัพพระเจ้า) ต่อไป บาดหลวงคริสโตเฟอร์ในเรื่องนี้ มีอภินิหารแต่วิกลจริต ฟังคล้ายจะล้อพระเยซู ที่ชาวเยรูซาเล็ม ยูดาย เชื่อว่าเป็นคนผีเข้าวิกลจริต ที่เพ้อว่าตนเป็นบุตรพระเจ้าลงมาจากสวรรค์ตามคำสั่งพระบิดา มีอภินิหาร ต่าง ๆ ชาวคริสต์ดูแล้วก็คงไม่พอใจ แต่นี่คือการสะท้อนความคิดเสรีของชาวอเมริกันต่อเรื่องศาสนา

 

 

 

 

 69 คดีซุกหุ้น

ข่าว 11 ทักษิณชนะ

โทรทัศน์ทุกช่อง 3 ส.ค.2544 1830 น.

 

โสมอุษา บูรณะเหตุ กับ จิราพูน ลิ่มวานิชรัตน์ เริ่มรายงานจากสถานีข่าวช่อง 11 วันนี้ ชาวไทยทั่วประเทศ ตื่นตาตื่นใจติดตามการตัดสินคดีซุกหุ้นกันมาแล้วนับชั่วโมง ๆ แล้วในที่สุด ประเสริฐ นาสกุล ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ก็แถลง ผลการลงมติ ปรากฎว่า พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ผู้เป็นจำเลยชนะ โดยศาลได้ใช้เวลาพิจารณาคดีนี้ 1 เดือน 15 วัน ประธานศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงว่า คดีปกปิดทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรีนี้ ต้องพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 291 และมีความผิดต้องรับโทษตามมาตรา 295 ขอให้ประชาชนมีอุเบกขาธรรม และ รู้รักสามัคคี ท่านบอกว่าจำเลยชนะแต่ท่านลืมบอกมติ ว่าชนะด้วยมติเท่าไรต่อเท่าไร จะลงจากบัลลังก์ไป นักข่าวจึงติงว่าท่านยังไม่บอกว่าชนะด้วยมติอย่างไร ท่านจึงบอกว่าอ้าว 8:7 ชนะ ก็คงเป็นลูกเล่นของท่าน อันแสดงความยินดีต่อนายกรัฐมนตรี และที่ จิราพูน ลิ่วเฉลิมวงศ์ว่า วันนี้ดอกไม้บานทั่วประเทศ ก็สมจริงอยู่ นักข่าวรุมสัมภาษณ์ท่านนายกรัฐมนตรีปรากฎว่าท่านไม่ได้ตอบเพราะภริยา คุณหญิงพจมานชิงตอบแทนหมด และคำถามที่สุดว่ากลับบ้านคืนนี้จะทำอะไรก่อน คำตอบว่า คงกราบพระ ก็น่าชื่นอกชื่นใจ รายงานข่าวต่อมา ท่านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับการพิพากษาในข้อหาเดียวกัน คงจะน้อยใจที่ผลการตัดสินออกมาไม่เหมือนกรณีของท่าน ท่านโต้แย้งว่าทำไมโดยหลักการ ม.295 ด้วยกัน ผลจึงออกมาไม่เหมือนกัน แล้วท่านก็สรุปว่าการพิจารณาคดีนี้ไม่เป็นธรรม ท่านไม่ยอมจะเสนอให้ยุบองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญนี้เสีย ท่านคงพูดไปเพราะความหุนหัน การตัดสินความของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แม้ คณะรัฐมนตรีก็มารู้ข่าวในช่วงเวลาบ่าย เพราะมัวตื่นเต้นกับข่าวเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของไทย7คนที่ถูกว้าแดงควบคุมตัวไว้ในเขตปลดปล่อยพม่าถูกปล่อยกลับมาทางเครื่องบินโดยรัฐบาลพม่าประสานว้าแดงให้ อันเป็นเครื่องพิศูจน์ความจริงใจของพม่าต่อไทยในยุคฟื้นฟูสัมพันธไมตรี จึงไม่มีใครทราบว่าจะมีการตัดสินวันนี้

 

 

 

 

 

 70 ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางสาวไทย2543

ธรรมะส่องโลก

ช่อง 9 9 ส.ค.2544 0900 น.

 

ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางสาวไทยปี พ.ศ. 2543 เป็นพิธีกร ห้างหุ้นส่วนจำกัดอรศยา ศูนย์แนะแนวการศึกษาอรศยา 34 ซอยอินทามระ 1 ถนนสุทธิสาร 6168066-69 อรศยาโปรดักชั่น สนับสนุนรายการ เปิดข่าวการปฏิรูปที่ดิน มีรมว.เกษตรและสหกรณ์การเกษตร มาอภิปราย ให้แนวทางการปฏิรูปที่ดิน แล้วเข้าเนื้อหา ธรรมะส่องโลก เห็นนางสาวไทยกราบพระ นิ่มงามดีเป็นแบบอย่าง แล้วถามปัญหาธรรมะ พระอธิการไพศาล กิตติภัทโท เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า จ.นนทบุรี อธิบายโอวาทของพระพุทธเจ้า3อย่าง ว่า สพฺพปาปสฺส อกรณํ เป็นต้น อธิบายว่า เว้นจากการประพฤติทุจริตกายวาจาใจ ประกอบสุจริต ก็จะประสบผลสำเร็จคือความพ้นทุกข์ จากนี้ น่าสนใจเนื้อหาการสัมภาษณ์ วิเชียร โอภาสวัฒนา กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม SME ด้วยคติธรรมประจำใจ ว่า ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน การบริหารงานในบริษัทของท่านเน้นตรงความจริง ไม่มีใต้โต๊ะ ถึงแม้จะดำเนินธุรกิจก็สามารถนำธรรมะข้อนี้ไปปฏิบัติได้ผลดี ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมที่นักธุรกิจขนาดใหญ่เช่นนี้สามารถประยุกต์ธรรมะ ไปปฏิบัติในเชิงธุรกิจได้จนประสบความสำเร็จ

 

 

 

 

 71 โครงการกองทุนหมู่บ้านละ1ล้านบาท

บ่ายนี้มีคำตอบ

ช่อง 9 9-10 ส.ค.2544 1300 น.

 

การดำเนินงาน ตามโครงการกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท ขณะนี้ถึงขั้นตอนการโอนเงินไปยังกองทุนหมู่บ้านที่พร้อมดำเนินกิจการแล้วจำนวนหนึ่ง สุนทรี อรรถสุข ผู้ดำเนินรายการร่วมกับ วิศาล ดิลกวาณิชย์ รายงานสถานการณ์กองทุนหมู่บ้านขณะนี้ว่า รัฐบาลเรื่มถอนเงิน7พันกว่าล้านบาทโอนไปยังหมู่บ้านที่มีความพร้อมแล้ว การหวังผลสำเร็จ ต้องอาศัยความร่วมมือจากพลังทั้ง 4 คือ วัด บ้าน โรงเรียน และรัฐบาล แต่ละหมู่บ้านเลือกตั้งกรรมการหมู่บ้านของตน ตั้งระเบียบกองทุนขึ้น ให้โอกาสแด่ประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช จาก สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พยายามชี้แจงสิทธิสภาพต่าง ๆ ของเงินทุนนี้ ว่า 1. เป็นเงินกู้ 2. หมู่บ้านโดยคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้จัดการ 3. เป็นการเอาธนาคารไปไว้ที่หมู่บ้าน 4. ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องรักษากติกา ต้องรักษาสัจจะ ให้เกิดขบวนการจัดการโดยระบบทางสังคม 5. กองทุนเป็นนิติบุคคล ฟ้องได้ 6. การให้กู้ต้องเชื่อใจกัน เอาประวัติส่วนตัวมาอ้างอิงถึงความน่าเชื่อถือประกอบการพิจารณาให้ยืมเงิน ได้อธิบายปัญหาของชาวไทยมุสลิมที่ศาสนาอิสลามห้ามเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ สามารถแก้ไขได้โดยออกกฎระเบียบปรับแก้ไปอย่างไรก็ได้ ให้สอดคล้องกับข้อความในพระคัมภีร์

 

 

 

 

 

 72 ไซอิ๋ว:ศึกเทพอสูรสะท้านฟ้า

ช่อง 3 20 ส.ค.2544 1800-1830 น.

 

ทำใหม่ ใส่เท็กนิกพร้อมสะพรึบ เล่ามาแต่ หวูเทียน ยึดสวรรค์ และพุทธองค์ เสด็จปลีกสันโดษ ซึงหงอคง ตือโป๊ยก่าย ใส่อุปนิสัยใหม่ ศึกแสดงเหตุการณ์บนดิน บนสวรรค์ และโลกบาดาลใต้ทะเล อภินิหารเพียบ มีชั้นฟ้า 9 ชั้นฟ้า คราวนี้ปรับมาดใหม่ ให้เห้งเจีย-ซึงหงอคงเป็นพระเอกอย่างเต็มตัว โป๊ยก่ายเป็นผู้ช่วยพระเอก อย่างเต็มตัวเช่นเดียวกัน กลายเป็นจอมบทบาททั้งคู่ บ่งบอกถึงฝีมือสร้างของฮ่องกงว่ารุดหน้าไปเพียงดังว่าจะทำหนังออกมาอย่างใดได้ดั่งใจทั้งสิ้น เมื่อฮ่องกงใช้ความสามารถนี้มาทำหนังเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ก็นับว่ามีอุปการแด่พระพุทธศาสนา ไซอิ๋วศึกเทพอสูรนี้ เห็นได้ว่าตั้งใจทำอย่างประณีตมาก แม้ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปแบบพุทธมหายาน แกม ๆ กับลัทธิผี แต่ก็ดูจะเป็นประโยชน์ ในด้านการพระพุทธศาสนา และดูเหมือนฮ่องกงจะมีความตั้งใจเช่นนั้นอยู่ส่วนหนึ่ง ที่น่าอนุโมทนา ในแง่ความสนุก ไม่ว่าจะสร้างไซอิ๋วออกมาอย่างไร เมื่อไรก็ประกันอยู่แล้วว่าสนุกแน่นอน เพราะเนื้อหาของเรื่องสนุกอยู่แล้ว เพราะท่านผู้เขียนไซอิ๋วเดิมท่านตั้งใจให้เป็นเรื่องที่สนุก หากแต่ซ่อนแฝงหลักธรรมอันสูงสุดเอาไว้ ยากที่คนทั่วไปจะมองเห็น เรื่องราวที่มีตัวประหลาด 4-5 ตัวมาร่วมหมู่ฝูงกันได้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์คนเดินดินธรรมดา ย่อมน่าสนใจอยู่แล้ว ซ้ำแต่ละตัวต่างออกฤทธิ์ออกเดชไปคนละอย่าง ที่สำคัญลิงตัวเล็ก ๆ สามารขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้ารบกับเทวดาอสูรได้ จึงยิ่งน่าสนุก และเป็นที่แน่นอนว่าฤทธิ์ใดใดของตัวละครจะต้องเป็นกำลังภายในอันสุด ๆ และพิเศษกว่าหนังจีนกำลังภายในทั่ว ๆ ไป ผู้สร้างก็พยายามอย่างสุดฤทธิ์ที่จะให้คนชมได้เห็นเช่นนั้น เช่นฉากการรบระดับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ซึงหงอคง กับ หวูเทียน ซึ่งยอดฝีมือใดใด แม้ระดับเง็กเชียนฮ่องเต้ เจ้าสวรรค์ก็ได้แต่อ้าปากชม ไม่อาจเข้าร่วมรบได้ แล้วทำให้ไซอิ๋วเป็นอย่างเดียวกับรามเกียรติ แต่ที่ไปที่มาของไซอิ๋ว จะต่างจากรามเกียรติ์ หรือรามายณะ เพราะ ฤาษีวาลมิกิ ผู้ประพันธ์เป็นฮินดู มิใช่พระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา จึงมิอาจเข้าใจความเป็นอนัตตา จึงเขียนรามายณะออกมาเป็นอัตตาเต็มตัว ส่วนไซอิ๋วเดิม เป็นอัตตาที่ซ่อนอยู่ในความคิดอนัตตา (คือการทำนามธรรมออกมาเป็นรูปธรรม) เป็นปริศนาธรรม อย่างพุทธแท้ หากแต่ต่อมาคนสร้างหนังไม่สามารถเข้าใจความหมายนี้ได้ จึงสร้างไซอิ๋วเป็นอัตตาเต็มตัว โดยไม่มีปริศนาเป็นตัวหลักแก่นธรรมอีกต่อไป ดังจะเห็นชัดเจนจากไซอิ๋วชุดใหม่ คือศึกเทพอสูรสะท้านฟ้านี้ (ฮินดูเป็นจุดระดับความเสื่อมระดับแรกของพุทธ เมื่อพุทธเสื่อมลง จะลงมาที่ความเป็นฮินดูก่อนเสมอไป) อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นการสร้างขึ้นใหม่ในยุคที่กำลังภายในของหนังจีนรุดหน้าไปที่สุดขณะนี้ ก็สามารถแต่งเรื่องให้ละเอียด ถึงใจคนได้ทุกอารมณ์ ที่น่าสังเกตก็คือ ฮ่องกงเอาเรื่องราวของพุทธองค์กลับชาติมาเกิดเป็นหนุ่มน้อยไร้เดียงสา หลิงเอ๋อ แต่มีเสน่ห์ต้องตาต้องใจสตรี มีบทสัมพันธ์รักและบทโอ้โลมกับเทพธิดาปี้โหย ให้คนหนุ่มสาวสั่นสะท้านใจ ในระหว่างพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ของคนระดับพุทธองค์ กับเทพธิดามีฤทธิ์ สตรีงามละมุน ละไม ใจสวยสะอาด มีวาจาเฉียบคม ซ้ำมีบทชิงรักหักสวาทของ 2 หญิง เทพธิดาปี้โหย - ไปหลีฮัว กับ 1 ชาย ระดับพุทธองค์กลับชาติมาเกิด แนบเนียนน่าหลงไหลอีกด้วย นั้น รู้สึกว่าจะทำเกินไปสักหน่อย ดูจะหวังผลทางธุรกิจกามจนเกินงามตามธรรมไป เพราะเกินไปจากความเป็นจริงของบารมีพุทธองค์ที่ย่อมไม่ตกต่ำลงไปในกามจนเสมอ เยี่ยงปุถุชนคนธรรมดาเช่นนั้น ไม่ว่าโดยสถานการณ์ใดใด ไซอิ่วยุคนี้จึงเป็นเรื่องที่เพี้ยนมาในภายหลัง เดิมเป็นเรื่องภายใน ที่ท่านผู้ท่องภายในท่านเขียนออกมาแบบภายใน แต่ต่อมาคนจีน-ฮ่องกงไม่เข้าใจ เพราะเข้าไม่ถึงธรรม(เช่นฟาหลุนกง หรือ ธรรมกายในไทย เป็นต้น) นึกว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเขาไม่เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่ปรุงแต่งอยู่ในภาคภายใน อยู่ส่วนหนึ่ง ภาคภายนอกอยู่ส่วนหนึ่งปนกัน แต่คนแยกไม่ออก จนปัจจุบันนี้ ไซอิ๋ว ที่เห็น ในส่วนที่เป็นปรมัตถธรรมสูงสุด กลายเป็นของเพี้ยนไป จนกระทั่งพระยูไลพุทธเจ้าก็มาเกิดใหม่ได้ ให้พระอรหันต์ ยังคงไม่สิ้นกิเลส อยู่ ยังไปถือไม้ตะบองตีกับชาวบ้านอยู่ได้ ดังที่เห็นในภาพยนต์เรื่องนี้ และบทพากษ์บางตอน เช่นบทว่า "เพียงแค่พระอรหันต์ยังไม่พอ" ก็บอกอะไร ๆ ถึงความเพี้ยนของฮ่องกงไปได้มาก แต่นี่คือ ความลับอันยิ่งใหญ่ และความสูงส่งสูงสุดแห่งความเป็นอรหันต์ ที่จบสิ้นทุกสิ่งทั้งนามธรรมและรูปธรรมของ ความเป็นอรหันต์ (สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ) ยากที่คนมีสติปัญญาอย่างโลก ๆ ธรรมดา ๆ จะเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมที่ออกมา ก็นับได้ว่า ไซอิ๋ว ได้สร้างปราการธรรมระดับหนึ่งไว้ในพระพุทธศาสนา และมีความสง่างามในพระพุทธศาสนาอยู่ไม่น้อย น่าที่ฮ่องกงจะได้พยายามสร้างภาพยนต์ในแนวพระพุทธศาสนานี้ให้ยิ่งใหญ่จริง ๆ ขึ้นมาบ้าง ด้วยฝีมือที่อาจสามารถาจะทำได้ โดยพยายามแปรนามธรรมอันลึกซึ้งมโหฬารยิ่งใหญ่ในพระพุทธศาสนาออกมาเป็นรูปธรรม จะน่าสนใจแด่มวลมนุษย์ยุคใหม่เป็นอย่างยิ่ง และจะเป็นอุปการะแด่ชนในโลกที่จะเข้าใจพระพุทธศาสนาที่แท้จริง

 

 

 

 

 

 73 ข่าวหนังเรื่อง สุริโยไท

ทุกช่อง 16 ส.ค.2544 ข่าวบันเทิง 2000 น.

 

สุริโยไท (ไม่ใช่ สุริโยทัย)ที่ทุ่มทุนสร้างถึง 500 ล้านบาท พร้อมออกโรงฉายทั่วประเทศวันที่ 17 ส.ค. 2544 มีรอบพิเศษ สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ และ เมื่อวานนี้ก็มีรอบดาราและสื่อมวลชน ผลงานของสุริโยไท ในภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์ เห็นได้ว่าเป็นภาพยนต์ยิ่งใหญ่ ที่แสดงฝีมือการสร้างว่าล้ำเลิศในโลกภาพยนต์ ด้วยเท็กนิกทันสมัยทางคอมพิวเตอร์ มาช่วยสร้างฉากสำคัญ ๆ ความรอบคอบละเอียดอ่อนมีอย่างสมบูรณ์มาก จนแม้กระทั่งท่านผู้สร้าง พระองค์เจ้า ภาณุพันธ์ยุคล หรือท่านมุ้ยมีความมั่นใจจนกล่าวได้ว่า "เราทำได้เกินฝรั่งไปมาก" จากตัวอย่างที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ออกมา เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความอลังการต่าง ๆ น่าตื่นเต้นยินดีและน่าชื่นชมจริง ๆ ว่าเป็นภาพยนต์สำหรับชาติไทยจริง ๆ อย่างไรก็ตาม จากภาพตัวอย่าง เสียงที่ได้ยิน บทเจรจาต่าง ๆ น่ากลัวว่า สุริโยไท อาจจะพลาดไปก็ได้ โดยเหตุที่ผู้สร้างอาจจะลืมประเด็นสำคัญอันบอกถึงความยิ่งใหญ่ นั่นคือ บทเจรจา บทที่เฉียบคมในวาจามีอยู่เพียงใดหรือไม่ เพราะคุณลักษณะนี้หนังไทยหรือละคอนโทรทัศน์ไทยก็แทบไม่เห็นความสำคัญ และไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร แต่กลับให้ความสำคัญกับบทอิจฉาริษยาต่าง ๆ บทเจรจาตลาด ๆ ที่ดาด ๆ พื้น ๆแล้วยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของคนไทยและสังคมไทย ทำให้ภาพสังคมไทยตกต่ำไปอย่างเกินความเป็นจริง แม้ในหนังเรื่องนางนาก ที่โกยเงินเป็นประวัติการณ์ถึง 150 ล้านบาท ก็ไม่มีสักแห่งที่เอาใจใส่ว่าวีรบุรุษกับความมีปัญญาจะต้องเป็นของคู่กัน นั่นหมายความว่า บทเจรจาของวีรบุรุษจะต้องเฉียบเสมอไป (นักจิตวิทยาวัดระดับไอคิวจากคำพูด จากการใช้ภาษา) ในเรื่องบทเจรจาเฉียบคมเช่นนี้ เคยมีตัวอย่างที่ดีในหนังเรื่อง สาวเครือฟ้า ที่สร้างครั้งแรก ๆ ตอนสาวเครือฟ้าเอื้อมหยิบพระขรรค์มาจะฆ่าตัวตาย ไม่มีบทพากษ์แต่พอยกกฤชจ้วงแทงตนเอง เห็นที่ด้ามกฤชมีอักษรจารึกว่า "ตายเสียดีกว่าอยู่ไร้เกียรติ" นี่คือถ้อยคำที่สง่างาม ที่ประดับความยิ่งใหญ่ของภาพยนต์เรื่องนั้น ในหนังต่างประเทศ เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีจริง ๆ นับแต่หนังพันล้าน เช่น เบนเฮอร์ เมื่อสองผู้ยิ่งใหญ่มาพบกัน "ยังล่าสิงโตอยู่หรือเปล่า" แม้เป็นหนังราคาถูก ๆ ของฮ่องกงก็ยังดูมีค่าราคาสูงและประทับใจคนดู เช่นคำที่ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา บุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ ลิขิตฟ้าดินมิอาจขัดได้แต่จำต้องขัดสักครั้ง ฯลฯ ที่ติดใจคนไทย ล้วนมาจากภาพยนต์ทั้งสิ้น สุริโยไท หากหนังใหญ่ขนาดนี้ไร้วจีอันมีสง่าเสียแล้ว คงดังอยู่ไม่นาน คนก็จะลืม

 

 

 

 

 74 หนังฝรั่งเรื่องฉุดนรกสยองโหด

ช่อง 7 18 ส.ค. 2544 เวลา 22.30น.

 

หนังเรื่อง ฉุดนรก สยองโหด:Fallen หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นตามแนวความเชื่อของชาวคริสต์ เมื่อพยายามสร้างซาตานขึ้นมาและให้มีฤทธิ์อำนาจแบบซาตาน(demcn)ตามที่พระเยซูเคยให้นิยามไว้ คือมีคุณสมบัติเป็นทั้งฆาตกรโหดและไร้ความสัตย์ ปลิ้นปล้อนหลอกลวง แผนปฏิบัติการของซาตาน อันเป็นแผนหลักของซาตานทั้งหลายคือใช้วิธีผีสิง อาซาเซล ไปเข้าสิงตำรวจใหญ่ผู้มีประวัติดี แล้วให้ไปเป็นฆาตกรก่อคดีขึ้น ทำให้ตำรวจงงไปตาม ๆ กัน เรื่องไม่หยุดเพียงเท่านั้น ยังไปสิงคนดี ๆต่อไปอีก จนวงการตำรวจประหวั่นอลเวง เพราะจำต้องเอาคนดี ๆ นั้นมาลงโทษตามพยานหลักฐานที่พบ ครั้นแล้วก็มาพบคู่ปรับ คือตำรวจยอดอุดมการณ์เข้า จึงพบว่าไม่ใช่เรื่องคนธรรมดาเสียแล้วแต่เป็นเรื่องผีห่าซาตาน จ่าตำรวจฮอบจึงต้องปะทะกับผีนรก อาซาเซล ตัวต่อตัว จนสุดท้ายยอมอุทิศตนเองให้ซาตานสิงร่างแล้วหนีไปฆ่าตัวเองตายในป่าไกลเมือง ซาตานก็ถึงจุดจบ มีคำบรรยายว่า อาซาเซล มาจากมหานครบาบิโลนล่ม ซึ่งมีในพระคัมภีรไบเบิล ที่เล่าไว้โดยสาวกพระเจ้า เล่าเรื่องนคร บาบิโลนล่มว่าเป็นแดนแห่งปีศาจ ว่า

 

"She is fallen, fallen, Babylon the great! She has become a resort for demmons; a haunt of every unclean spirit;a refuge for every filthy and detested birds." (Revelation 18:2 :

 

บาบิโลนมหานครล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของผีปีศาจเป็นที่สิงอยู่ของผีโสโครกทุกอย่าง และเป็นที่อาศํยของนกทุกอย่างที่ไม่สะอาดและน่าเกลียด)

 

ซึ่งเรื่องนครบาบิโลนนี้ เป็นนิทานในไบเบิลอีกเรื่องหนึ่ง จะได้เค้าจากนครบาบิโลน ของพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ ผู้ทำลายนครเยรูซาเล็ม ในประวัติศาสตร์โลกหรือไม่ก็ตามแต่ แต่บาบิโลนในพระคัมภีร์ไบเบิลนี้ถูกเขียนวาดขึ้นมาให้เห็นพระเดชอำนาจของพระเจ้า และพระพิโรธของพระเจ้าว่าเมื่อพระเจ้าพิโรธขึ้นแล้ว ผลจะเป็นอย่างไร เมืองทั้งเมืองก็ล่มสลายได้ภายในพริบตา เดิมบาบิโลน อยู่กลางทะเลใหญ่ มีเรือสินค้าออกเดินทะเลไปทุกทิศ กอบโกยสมบัติมาจากทุกแว่นแคว้นของโลก กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งร่ำรวยด้วยแก้วแหวนเงินทอง แล้วเป็นวัตถุนิยมอย่างเต็มที่ เมืองแห่งตัณหาลามก ประชาชนทั้งปวงต่างพอใจดื่มเหล้าองุ่นแห่งความกำหนัดในการล่วงประเวณีของนครนั้นและบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น นครบาบิโลนสร้างแต่บาป จนบาปของนครบาบิโลนกองสูงขึ้นถึงสวรรค์ พระเจ้าทรงพระพิโรธจัดจึงทรงพิพากษาลงโทษให้จมลงใต้สมุทร ภายในชั่วโมงเดียว มหานครบาบิโลนก็ล่มจมลงใต้มหาสมุทร (เหมือนกับการถล่มของตึกเวิรลเทรดเซนเตอร์ อเมริกา เมื่อ 11 ก.ย. 2544ซึ่งถล่มลงใน 1 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน)  สำนวนพระคัมภีร์ว่า

 

 Woe, woe, for the great city, for Babylon the mighty city ; her judgement is come in a single hour. (Reverlation 18:10 :

 

วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว บาบิโลน มหานครที่ยิ่งใหญ่ เจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น)

 

และจะไม่มีใครเห็นนครบาบิโลนที่ยิ่งใหญ่นั้นอีกต่อไป เรื่องนครล่มเช่นนี้มีในพระคัมภีร์ไบเบิลอีกหลายแห่ง เช่นเดียวกับเรื่องราวของนครต้องสาบแอตแลนติส จนคนยุคใหม่พยายามพิศูจน์อยู่ว่าเป็นความจริงเพียงใด

 

จะเห็นได้ว่าเนื้อหาสาระธรรมส่วนหนึ่งของพระคัมภีร์ไบเบิลในคริสตศาสนาเป็นเพียงผลงานของคนทรง (คือมีผีหรือเทพมาสิงครองร่างแทนแล้วพูดออกภาษาต่าง ๆ) เช่นที่เราเห็นในเมืองไทย เช่นทรงพระปิยะมหาราชเจ้า บ้าง ทรงพระจี้กง บ้าง ทรงเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่าง ๆ บ้าง เกลื่อนไปในขณะนี้นั่นเอง เมื่อทรงเจ้าแล้วก็บอกสอนธรรมะต่าง ๆ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือพยากรณ์เรื่องราวต่าง ๆ ออกมาได้เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปจะไม่รู้ว่าเขาพูดถูกหรือผิด หรือพูดถูกเพียงใด ผิดเพียงใด แต่คนทั้งหลายก็ตื่นตกใจและมักรับฟังด้วยความกลัว

 

เรื่องบาบิโลน นครล่ม แดนซาตานในภาพยนต์เรื่องนี้ ก็เกิดจากคนทรงรุ่นแรก ๆ ก็คือ วิวรณ์ ที่เข้าทรงแล้วเล่าเรื่องราวประหลาดเชิงคำพยากรณ์ไปต่าง ๆ เช่นเล่าเรื่องชะตากรรมของมนุษย์ในวันพิพากษาโลก เรื่องอัศวินม้าขาวมากอบกู้โลก เรื่องนครเยรูซาเล็มใหม่ และ บาบิโลน นครล่ม ที่มาเป็นภาพยนต์เรื่องนี้นั่นเอง

 

ในยุคต่อมาก็มีการเข้าทรงเจ้าแล้วออกคำพยากรณ์ต่าง ๆ เช่นว่าพระเจ้าต้องการประเทศฝรั่งเศสเป็นพระนิเวศของพระองค์ ต้องการให้สร้างโบสถ์ขึ้นที่ตำบลอำเภอนั้น ๆ ในประเทศอังกฤษ บ้าง รัสเซียบ้าง เยอรมันบ้าง เป็นต้น คนก็เชื่อด้วยเกรงกลัวอำนาจพระเจ้า และนี่คือวิธีการเผยแผ่ศาสนาคริสต์โดยชั้นเชิงการโฆษณาชวนเชื่อที่สำคัญอีกวิธีหนึ่ง

 

ในระยะหลัง ๆ (ประมาณ ค.ศ. 1500) คนทรงในศาสนาคริสต์ที่ขึ้นชื่อฤาชาก็คือ นอสตราดามุส ที่ชาวโลกดูเหมือนจะรู้จักดี เมื่อทรงเจ้าแล้วก็พยากรณ์เรื่องราวต่าง ๆ ออกมา ได้อย่างประหลาด ๆ คนก็ตีความกันไป ผิดบ้างถูกบ้าง ซึ่งคนที่ไม่เข้าใจเรื่องคนทรงก็จะพากันงงงวยลุ่มหลงจนอาจเชื่อถือเอาจริง ๆ จัง ๆ ได้ และจากภาพยนต์เรื่องนี้ เห็นได้ว่านักประพันธ์ฝรั่งเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาล้อเลียน พระคัมภีร์ไบเบิลโดยเฉพาะ และยังแฝงนัยะซ่อนอยู่ลึก ๆ ว่าเรื่องผีมาสิงคนอย่างที่เห็นในภาพยนต์นี้เคยมีมาแล้วแม้องค์พระเยซูเองแท้ที่จริงก็ทรงถูกผีสิงอย่างนี้ จึงพูดจาเลอะเลือนไปต่าง ๆ โดยเฉพาะเพ้อว่าตนเป็นบุตรพระเจ้าลงมาจากสวรรค์ตามคำสั่งของพระบิดา จนโดนข้อหาดูหมิ่น(Blasphemy) จนถูกศาลสั่งตรึงกางเขนสิ้นพระชนม์ ซึ่งก็เป็นเรื่องราวที่ชาวคริสต์รู้ดีอยู่แล้ว

 

 

 

 

 

 75 ปฏิรูปการศึกษา:ITV Talk

ไอทีวี 21 ส.ค.44 2050 น.

 

ดร.รุ่ง แก้วแดง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ นายจำลอง ครุฑขุนทด รมช.ศธ. พูดกันเรื่อง การปฏิรูปการศึกษาไทยเข้าสู่ปีที่ 2 ออกกฎหมายหลายฉบับ เป็นพวงร่วม 17-18 ฉบับ คำว่าศาสนา คณะกรรมการฯ หมายถึงศาสนาในภาพรวม ขณะนี้มีความเห็นตรงกันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ในเรื่องต่าง ๆ คือ

1.      ระบบบริหารงานของพุทธศาสนา

2.  จำเป็นต้องหลอมรวมศาสนธรรมเข้าไปในการสอนเพื่อบูรณาการศาสนธรรมเข้าไป ก็เป็นเรื่องสำคัญ

 

ลงท้ายสรุปว่า การปฏิรูปการศึกษาไม่น่าล้มเหลว โรงเรียนมีตำแหน่งผู้อำนวยการหมดทุกโรงเรียน การจัดการศึกษาโดยท้องถิ่น ต้องทำกันไปอีกสักระยะหนึ่งจึงจะเข้าที่ ท้องถิ่นก็จะเข้มแข็งขึ้น พอถึง ส.ค.2545 จะเกิดการปฏิรูปการเรียนรู้ ทุกด้าน ในองค์รวม โรงเรียน 47,000 แห่งโรงเรียนและสถานศึกษาทั่วประเทศจะมีอิสระในการบริหารงานขึ้น ว่า นี่คือวาระแห่งชาติจริง ๆ

 

น่าคิดว่า ท่านเหล่านี้เชื่อได้อย่างมั่นใจอย่างไรว่าจะเกิดผลดีขนาดนั้น ในเมื่อแม้ขณะนี้ ก็ดูจะเห็นร่องรอยว่าความเข้าใจในปรัชญาการศึกษาจะไม่สอดคล้องตรงกันกับของเดิม นับตั้งแต่นิยามการศึกษา 4 อย่าง พุทธิศึกษา สุขศึกษา พลศึกษา และหัตถศึกษา บ่งบอกความไม่เข้าใจการปลูกฝังการศึกษา ตามที่อดีตรัฐมนตรี ม.ล.ปิ่น มาลากุล เขียนไว้ว่า

 

 "กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด การศึกษาย่อมเป็นไป เช่นนั้น แต่ออกดอกคราวใด ดูเด่น การศึกษาปลุกปั้น  เสร็จแล้วแสนงาม"

 

การจัดองค์กรการศึกษาท้องถิ่นก็ดูจะขัด ๆ โลกนิติ

 

"หํโส มชฺเฌ น กากานํ สีโห คุนฺนํ น โสภเต คทฺรภมชฺเฌ ตุรํโค พาลมชฺเฌ จ ปณฺฑิโต :"หงส์ทองเสพส้องสู่ ฝูงกา สีหราชเคียงโคคลา คลาดเคล้า อัศดรอยู่กลางลา หินชาติ นักปราชญ์พาลพาเต้า สี่นี้บ่งาม"

 

การมองค่าสติปัญญา ค่าของพุทธิศึกษา ไม่เทียบเท่าพลศึกษา (เหรียญทองโอลิมปิกนักเรียนไทยได้มา ไม่ตื่นเต้นยินดีกันเลย เงียบเป็นเป่าสาก ส่วนเหรียญทองกีฬาไม่ว่าระดับใดทุ่มลุ้นกันแหลกอึกทึกครึกโครม) ทั้ง ๆ ที่โลกเน้นพุทธิศึกษา เพื่อสร้างฐานงานวิจัยเพื่อพัฒนาการ อันเป็นแก่นแห่งความรู้ แก่นแห่งบุคคลิกภาพทั้งปวง และตอนหลังก็มีครูที่มีวาทะศิลป์ดี มาพูดทางโทรทัศน์ว่าไม้เรียวทำเด็กเสียคน รัฐมนตรีที่คงไม่เคยสอนหนังสือก็ออกระเบียบห้ามใช้ไม้เรียว ด้วยนึกว่าไม้เรียวเอาไว้ตีเด็กดี ไม่รู้ว่าไม้เรียวเอาไว้ตีเด็กเกเรต่างหาก เหมือนกับคุกเอาไว้ขังคนอันธพาล แต่กลับไม่มีระเบียบชดเชย ไม่ออกระเบียบให้ครูที่มีวาทะศิลป์ดีเหล่านั้นไปคอยดักนักเรียนที่ไปเที่ยวบาร์เทก เพื่อพูดอบรมนักเรียน ณ สถานที่นั้น ๆ ให้เห็นโทษภัยอบายมุข กลับเอาภาระหนักไปให้ตำรวจและทัณฑสถานมากขึ้นโดยตนไม่รู้สึกเดียงสาอะไร ก็ก่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่ยุติ ไม่นิ่ง แต่อลเวงกันต่อไป

 

เพราะสภาวะการศึกษาไทย พูดกันเฉพาะเรื่องการวางแผน (planning) โดยได้มีการวางแผน ปรับปรุงแผนการศึกษามาแล้วหลายครั้งในช่วงเวลาไม่ถึง 30 ปี จนสับสนไปหมด เรามองภาพการวางแผนออกมาตามตัวอักษรและคำพูด ที่อธิบายแผนนั้นอย่างละเอียด ก็กลายเป็นเพียงภาพหลอนที่น่าชื่นชม เป็นการโฆษณาชวนเชื่อชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง (ความจริงก็คือหาเหตุขึ้นเงินเดือนให้พวกครู และมีการเล่นพรรคเล่นพวก จะให้มีพวกที่ได้ปริญญาพวกเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นความคิดที่ล้าหลัง ไม่มีความคิดในการยอมรับสถาบันอาชีพอื่นที่มีความสามารถเชิงวิชาการ เป็นการปฏิเสธประสบการณ์-ความชำนาญงานส่วนบุคคลโดยสิ้นเชิง) แล้วไม่เคยมีการทำอะไรตามแผนนั้นที่สำเร็จวัดเป็นเปอร์เซนต์ได้ และก็ตำหนิที่แผน แล้วก็เปลี่ยนแผนใหม่ มาหนนี้ก็เริ่มจากการอธิบายภาพตามแผนอันใหม่เอี่ยมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก็กลายเป็นการโฆษณาชวนเชื่ออีกหนหนึ่ง ที่วิจิตรพิสดารไปกว่าเดิม แล้วว่าจะเห็นผลสะพรึบพร้อมในปีสองปีนี้ ก็พลาด ! เพราะความจริงคือ "กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด" ในขั้นการปฏิบัติตามแผน (operation) โดยที่การควบคุมงาน ให้เป็นไปตามแผน (contolling) ไม่มีการรอธิบาย นั่นก็บอกไปถึงขาดการจัดระบบที่เชื่อถือได้ ในทุก ๆ แผนการศึกษาของรัฐที่ผ่านมา รวมทั้งคราวใหม่นี้ เห็นได้ชัดเจน

 

         ตั้งแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาบัดนี้ก็ 4 ปีแล้ว คำว่า ความรู้คู่คุณธรรม ตามมาตรา 81 มิได้มีการควบคุมให้เกิดผลอะไรทางคุณธรรมตามที่บัญญัติเอาไว้เลย เพราะแม้บัดนี้ผ่านมา4ปีแล้วก็ยังไม่มีการแปลคำว่าคุณธรรมออกมาเป็นมาตรการการปฏิบัติเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด การแต่งเนื้อแต่งตัวของครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาในสถาบัน มีคุณธรรม อย่างไร หามีการดูแลไม่ ครู ๆ อาจารย์ ทุกหนทุกแห่งมีปัญหาครอบครัว ชายมีเมียน้อย หญิงแย่งสามีคนอื่น หนี้สินล้นพ้นตัวเพราะเที่ยวอบายมุข มีอยู่เกร่อ ก็ไม่มีใครจัดการ จึงเป็น 4 ปี ที่ได้พิศูจน์แล้วว่า การจัดการศึกษาของเราขณะนี้เป็นเพียงการอธิบายแผนงานอันสวยหรูเท่านั้นเอง และอธิบายได้อย่างไม่มีที่ติซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แท้ที่จริง การจัดการศึกษาขณะนี้ก็คงเป็นเพียงการงมมะงุมมะงาหราไปเหมือนเดิมเท่านั้นเอง เจริญยาก! คงครองตำแหน่งที่โหล่ของเอเซียต่อไปอีกนาน น่าสงสารเด็กไทย

 

 ต่อเมื่อมีความเข้าใจว่าการศึกษาที่แท้จริงของไทยจะต้องไปเชื่อมโยงกับปัญหาเศรษฐกิจแบบพอเพียงอย่างไร พุทธิศึกษาต้องได้รับการเชิดชูอย่างไร การวิจัยเพื่อการพัฒนาการสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน มีค่าควรจัดเป็นอันดับต้น ๆ เป็นตัวนำ โดยเฉพาะให้นำพละศึกษาอย่างไร แล้วมีการ Controlling ที่มีประสิทธิภาพแล้วนั้น จึงจะเริ่มหูตาสว่าง เห็นทิศทางที่แท้จริงขึ้น

 

 

 

 

 76 สด โบอิ้งก่อการร้ายบินชนเทรดเซนเตอร์ถล่ม

วินาศกรรมในอเมริกา

ทุกช่อง 11 ก.ย. .2544 2100 น.

 

โทรทัศน์ไทยทุกช่องเสนอข่าว เครื่องบินโดยสารบริษัท อเมริกันแอร์ไลน์ โบอิ้ง พร้อมผู้โดยสารเต็มอัตรา ชน ลำแรก 757 767 บินชนตึกคู่ WORLD TRADE CENTER นิวยอร์ค เวาประมาณ 8.40 น.ในอเมริกา ตรงกับเวลาประมาณ 2100 น.ไทย เป็นผลให้เกิดระเบิด เพลิงลุกท่วมตึกส่วนบน แล้วประมาณ 10 นาทีต่อมา เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง อีกคันหนึ่ง 767 บินพุ่งชนตึกอีกตึกหนึ่ง ทะลุเป็นเปลวเพลิงลุกท่วมขึ้นมา คู่กัน ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมาตึกคู่ก็ทรุด ถล่มลงราบเรียบ ในเวลาใกล้เคียงกันเกิดเครื่องบินชนตึก เพนตากอน ที่ตั้งกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ในกรุงวอชิงตันดีซี บริเวณเดียวกับทำเนียบขาวสหรัฐ ตึก 5 เหลี่ยม สูง 5 ชั้น ส่วนที่ถูกชน เกิดเพลิงลุกท่วมอีกเช่นกัน

 

 

ขณะเกิดเหตุ ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา เดินทางไปต่างประเทศ รีบเดินทางกลับทันที และออกแถลงการณ์คราวแรก โดยระบุทันทีว่าเป็นฝีมือพวกก่อการร้ายสากล ขณะนี้อเมริกาอยู่ในสถานะสงครามแล้ว แล้วสั่งระงับการบินทุกเที่ยวทั่วประเทศทันที พร้อมให้ปิดสถานทูตสหรัฐทุกแห่งในตะวันออกกลาง

 

แนวร่วมอิสลามสากล ว่า เป็นฝีมือ บิน ลา เดน อังกฤษ เยอรมัน อิสราเอล ฟิลปปินส์ อินโดเนเซีย ต่างแสดงความเห็นใจต่อสหรัฐ แต่จีน ว่าสหรัฐกำลังได้รับบทเรียนฐานอวดดี ญี่ปุ่นประนาม ว่าทารุณและขี้ขลาด คิวบาว่าไม่เห็นด้วยกับการก่อการ อิหร่านก็เห็นใจสหรัฐ อิรัค ซัดดัม ฮุสเซน ว่าเป็นบทเรียนของผู้ที่กดขี่ ข่มเหงผู้อื่น ที่ปาเลสไตน์ คนปาเลสไตน์ปรบมือยินดี อาสาเป็นมือระเบิดพลีชีพ อุสมา บินลาเดน ว่าเป็นฝีมือของชาวอเมริกันบางกลุ่ม

 

พลเอก พาวเวล รมว.กลาโหม ว่าสหรัฐจะไม่ยอมให้คนร้ายลอยนวล บุช ว่าจะต้องต่อสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ตามที่พระคัมภีรไบเบิลว่าไว้ ดร.จรัล มะลูลีม มุสลิมไทย ว่าไม่ควรไปฟันธงลงไปว่าเป็นใคร ตะวันออกกลาง มีทั้งมิตรและศัตรูของสหรัฐ เป็น Islamic Movement รศ.ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู ว่ากลุ่มก่อการร้ายส่วนใหญ่อยู่ตะวันออกกลาง สหรัฐค้าอาวุธขนาดใหญ่ เอาเปรียบโลก ทำให้โลกตึงเครียด ต่อมา บุชเสนอขอให้รัฐสภาสนับสนุน รัฐสภายินยอมให้ใช้มาตรการทางทหารตอบโต้ผู้ก่อการร้ายได้ โดยคะแนนเกือบเป็นเอกฉันท์ บุชยุติลงว่า จะเอาตัวอุสมา บินลาเดน ไม่ว่าเป็นหรือตาย หรือแม้ลอบสังหาร

 

 

 

 

 

 77 ไทยสุดยอดฟุตบอลเอเซียนมาเลย์ทำพลาดเข้าประตูตัวเอง

รายงานเกอมิลังเกมส์

ไอทีวี 18 ก.ย.2544 1245 น.

 

กฤษฎิน สุวรรณบุปผา รายงาน ระหว่าง 8 - 17 ก.ย. 2544 มาเลเซีย เป็นเจ้าเหรียญทอง มวยไทยส่ง 11 รุ่นได้เข้ารอบชิงทองทุกรุ่น แต่โดนโกงไป 1 รุ่น ได้เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 4 มาเลเซียเป็นเจ้าเหรียญทองได้ 111 เหรียญทอง ไทยเป็นรองได้ 103 เหรียญ ลาว และ เขมร ได้ประเทศละ 1 เหรียญทอง ในกีฬา เปตอง มีประเทศที่ไม่ได้เหรียญทองเลยคือ บรูไน สุดยอดกีฬาคือ ฟุตบอล ไทย ได้แชมป์อีกครั้งหนึ่ง เป็นการครองแชมป์ครั้งที่ 5 ติดต่อกัน พอไทยได้ประตูมาเลเซีย คนมาเลเซียก็โกรธ โยนเข้าของลงสนามจนกรรมการต้องหยุดการแข่งขันชั่วขณะหนึ่ง คล้าย ๆ กับไทย-อินโดเนเซีย ณ สนามเสนายัน คราวก่อน ที่นักฟุตบอลแพ้แต่คนเชียร์ไม่ยอมแพ้ แต่ที่มาเลเซียคราวนี้ ไม่ทราบว่าคนเชียร์โกรธใคร เพราะไทยก็ไม่ได้ยิงประตู ประตูมาเลเซียเองสะกัดลูกเข้าประตูตัวเองไป เป็นประตูชัยลูกเดียว

 

 

 

 78 ก้าวไกลไปกับการศึกษา

ช่อง 9 18 ก.ย.2544 1300-14.00 น.

 

เรื่องกฎหมายปฏิรูปการศึกษา 23 ฉบับ จะออกมา จักรภพ เพ็ญแข ดำเนินรายการ มีผู้ชำนาญการ 2 ท่านมาให้ความรู้ ธีรพันธ์ พุทธิสวัสดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน เล่าถึงวิธีการดำเนินการยกร่างกฎหมายแต่ละฉบับ ว่าของใครของมัน ร่างมาเอง แล้วไปผ่านการกลั่นกรอง หลายระดับ เช่นร่างพรบ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มราชภัฏก็ร่างเอง แล้วเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองของ คณะรัฐมนตรี ๆ ให้ผ่านแล้วจึงเสนอแล้วเข้าสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ ร่าง พรบ.การศึกษาเอกชน ผ่านไปถึงคณะรัฐมนตรีแล้ว 3 ร่าง ดร. สว่าง ภู่พัฒน์วิบูล ผอ.สำนักนโยบายและพัฒนาสถาบันราชภ้ฏ ชี้แจงว่า วงการราชภัฏ ต้องการเป็นนิติบุคคล นิติบุคคลแปลว่าอะไร ก็จะได้มีฐานะเท่ากับกรม อยู่ในคณะกรรมการอุดมศึกษา จะได้เงินเดือนในเกณฑ์เดียวกันกับระดับมหาวิทยาลัย รายละเอียดสอบถามได้ที่โทร. 0-02201-6050-64 หรือส่วนตัวเรียก 1500 เรียก 399880 และ 399884

 

 

 

 79  สภาคริสต์ไทยต่อต้านทำแท้ง

แสงธรรม

ช่อง ๙ 23 ก.ย. 44 0530 น.

 

พระคาดินาลมีชัย กิจบุญชู ออกชื่อตัวเองอ้อมแอ้มว่าตนเป็น "ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย" มาด้วยตนเอง ในมาดนักบุญสีขาว วันนี้ มาเพื่อแถลงการณ์ เนื่องจากข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย จะให้ทบทวนแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาญา เกี่ยวกับการทำแท้ง โดยจะปรับให้เข้าสถานการณ์ปัจจุบันให้เหมาะสมยิ่งขึ้น สาขาของวาติกัน คือ สภาพระคริสเตียนคาทอลิกแห่งประเทศไทย ซึ่งพระคุณเจ้าท่านนี้รับผิดชอบอยู่ ไม่อาจจะยอมรับได้ เพราะเรื่องการทำแท้งเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยศีลธรรม มีเจตนาฆ่าผู้บริสุทธิ์

 

"พระศาสนจักรมุ่งหมายและเห็นคุณค่าของชีวิตเหนือสิ่งใดใดทั้งสิ้น"

"การทำแท้งเป็นฆาตรกร พระศาสนจักรจะยอมรับไม่ได้"

 

พระคุณเจ้ามีชัย กิจบุญชู ออกมาแสดงเจตนาในนามของศาสนจักรคาทอลิกสากลโดยตรง ก็เพราะเรื่องการต่อต้านการทำแท้ง เป็นสิ่งที่ ประมุขของประเทศวาติกัน คือพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงถือเป็นนโยบายหลักของคริสต์คาทอลิกและได้ต่อสู้มานาน เพื่อให้ภาพออกมาปรากฎแด่ชาวโลก ว่าคาทอลิกมีเมตตาอันหาที่สุดมิได้ อันมีส่วนของการโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าเจตนาจริง เพราะในอีกส่วนหนึ่งของนโยบายการเมือง คาทอลิกกลับส่งเสริมนโยบาย God's army คือกองโจรคาทอลิกในประเทศต่าง ๆ ที่มีความขัดแย้งทางการเมืองสูง เช่นในพม่า และแม้เมื่อมีโอกาสก็แซกแซงเข้ากระทำเช่นในไทย(กรณียึด รพ.ราชบุรี ทำทารุณแก่คนเจ็บไข้ในโรงพยาบาล) เมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นต้น

 

ฉะนั้น ประเด็นสำคัญของรายการแสงธรรมวันนี้ก็คือ บัดนี้ สภานักบวชคาทอลิกไทย ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลไทยในกรณีกฎหมายทำแท้ง หากรัฐบาลไทยยังยืนยันจะออกกฎหมายฉบับนี้ ศาสนจักรคาทอลิกจะต้องต่อต้านไปจนถึงที่สุด ซึ่งการประกาศเจตนาเช่นนี้ ก็เสมือนว่า ประเทศวาติกัน ดำเนินนโยบายแทรกแซงประเทศอื่นทางการเมืองนั่นเอง โดยอ้าง คำสั่งพระเจ้ายะโฮวาห์ บนสวรรค์ มิใช่เพียงการแสดงความคิดเห็นธรรมดาในเรื่องศีลธรรมเท่านั้น ตัวแทนประเทศวาติกันในนาม "ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย"

 

(คำว่า 'ประธานสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย' ไม่ควรใช้ เพราะไม่ถูกตรงตามความหมายของศัพท์ภาษาไทย ควรใช้ว่า 'ประธานสภานักบวชคาทอลิกแห่งประเทศไทย' เพราะพระสงฆ์ท่านไม่เสพกาม สังคมไทยตราหน้าไว้แล้วว่า พระสงฆ์เสพกามเป็น สมี ต้องถูกขับออกจากศาสนา)

 

ก็ยังประกาศอย่างแน่ชัดว่า สถาบันแพทย์ สถาบันการศึกษา ล้วนมีหน้าที่พิทักษ์ชีวิต หากเห็นการทำแท้งว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ ก็ไม่ควรจะเป็นแพทย์ด้วยซ้ำ ก็ไม่น่าที่จะได้ชื่อว่าเป็นคณะที่พัฒนาสังคม และลงท้ายด้วยคำข่มขู่ แฝงคำคาดโทษอย่างหนัก โดยไม่ชอบธรรม ว่า อย่าพึงปฏิบัติสิ่งที่ผิดหลักการศีลธรรม หลักการศาสนา พยายามเจาะจงทำลายชีวิตที่บริสุทธิ์ "เพราะเป็นการล่วงละเมิดอำนาจของพระเจ้า" อันเป็นคำที่ให้ความหมายว่า อย่าท้าทายหรือคิดทำสงครามกับพระเจ้า นั่นเอง ในส่วนของชาวไทย หลักการศาสนาพุทธแล้ว ศาสนจักรจะไปเกี่ยวข้องกับอาณาจักร อย่างมีความยืดหยุ่น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทั้งทางธรรมและทางโลกเสมอไป โดยหลักพรหมวิหาร 4 ถึงบางสถานการณ์ ก็ต้องวางอุเบกขา จะไม่ตายตัว หรือมีเงื่อนไข

 

 

 

 80 ชุมทางเสียงทอง

ช่อง 7 ศ. 5 ต.ค. 2544 1215 น.

 

เมื่อเปิดรายการ ขึ้นป้าย จ๊อบแอนจอย หมอลำพันทาง(๓) เอาสาวหมอลำพันทาง มาคู่หนึ่ง ขับประชันกัน รูปร่างขนาด ผิวพรรณ ทัดเทียมประหนึ่งคู่แฝด เมื่อฟังเสียงขับ ฟังไม่ออกว่า เสียงสาวใดเยี่ยมกว่าสาวใด คนหนึ่งเสียงทุ้ม ทุ้มลึกสนั่นหวั่นไหว เขย่าใจ จนกระทั่งฟังทีแรกว่าเธอคงกินขาด แต่เมื่ออีกคน รับลูกช้า มั่นใจ กระแสเสียง หวานเย็น เจื้อยแจ้ว กระแสเสนาะสนั่น ลั่นคะนอง กินใจลึก วิเวก ไม่แพ้กัน ก็ต้องยอมรับในศิลปการร้องรำของเธอทั้งสองว่าเยี่ยมทัดเทียมกันทีเดียว และเมื่อเนื้อร้องนั้นเล่าเรื่องราวของเศรษฐกิจแบบพอเพียง อันเป็นคำพรรณาชีวิตดั้งเดิมแห่งอีสานประกอบดนตรีและหางเครื่องที่แพรวพราวมีชีวิตชีวา และ สุภาพด้วยแล้ว ก็ต้องยอมรับว่ายอดเยี่ยมแห่งศิลปินอีสานโดยแท้ และเมื่อหูฟังเป็นหูแห่งอีสานด้วยแล้ว ดูเหมือนว่าศิลปของสองสาววันนี้ จะถึงขนาดหนึ่งในโลกสากลเลยทีเดียว หากเข้าใจว่า วัตถุนิยม มาในศิลป และทำลายศิลปอย่างไรแล้ว ให้การศิลปเป็นไปแบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง หรือศิลปการบันเทิงแบบพอเพียงแล้ว ประเทศไทยคงมีเสน่ห์น่าอยู่ที่สุดในโลก

 

 

 

 

 

 

 

 81 ดี25 /ต.ค. - มี.ค. 45

เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว

ต่อต้านเอดส์ต่อต้านอนารยธรรม

โดย คอมพิวเตอร์แมนและ บูดามี

 

 

 

 

 82 ลงโทษจำหน่ายพระคัมภีร์ไบเบิลในจีนถึงประหาร

ภาพยนต์ช่อง 7

ช่อง 7 27 พ.ย. 44 ภ. 08.50 น.

 

ภาพยนต์ช่อง 7 ประวัติอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคนหนึ่ง เป็นพ่อหม้ายอเมริกัน เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อเมริกัน เที่ยวไปพบสาวหม้ายชาวอังกฤษ ที่ประเทศอังกฤษ ผู้หญิงเอ่ยชื่นชมเชิงบอกความในใจว่า ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่มาก เทียบกับอังกฤษแล้ว อังกฤษแคบมากเลย แล้วถามถึงลูกสาว ทำให้ภาพตอนนี้สะท้อนความคิดอเมริกันต่อการนับถือศาสนา ได้ค่อนข้างชัดเจน เมื่อฝ่ายชาย วีรบุรุษในเรื่อง เล่าว่า มีลูกสาวคนหนึ่ง เข้าโรงเรียนแล้ว ไม่มีแม่จึงเอาลูกสาวไปฝากโบสถ์โปรเตสแตนท์เลี้ยง แต่ตัวเองพยายามไปดูแล ดูแลทั้งวิธีการเลี้ยงของแม่ชี และวิธีการสอนศาสนา พยายามตรวจสอบว่าแม่ชีบังคับให้ลูกตนนับถือศาสนาหรือไม่ เขาไม่ห้ามการนับถือศาสนา แต่ต้องโดยอิสรภาพของบุคคล ไม่มีการบังคับ เพราะคนถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับสิทธิที่ไม่อาจจะโอนให้ใครได้ (แสดงการต่อต้านคติคริสต์ศาสนาที่มีการบังคับให้เชื่อ โดยเฉพาะชาวคริสต์ ชื่อว่าชาวคริสต์จะต้องเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า หากไม่เชื่อเช่นนี้ก็จะถูกปรับโทษจากพระบิดา) วาทะอมตะน่าจะเป็น 'อิสรภาพในการนับถือศาสนาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับชาวอเมริกัน' ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อ ประธานาธิบดี ยอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช เดินทางไปเยี่ยมประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีน ในเดือน ก.พ.2545 กล่าวที่ประเทศจีนด้วยวาทะบทเดียวกันนี้ แต่ในความจริงใจของบุช แท้จริงมีส่วนของการใช้นโยบายเป็นการเมือง ในเมื่อ ใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อให้ประเทศจีน ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาแก่ประชาชนจีนเช่นในอเมริกา

 

ซึ่งภาษาแห่งวาทะให้ความหมายที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน เพราะบุชพูดไม่กระจ่าง มีเจตนาซ่อนเงื่อน ให้คนทั้งหลายฟังเข้าใจไปว่า บุช สนับสนุนลัทธิฟาหลุนกง สนับสนุนลามะธิเบต แต่ความจริงมีกรณีที่เกิดขึ้นต้นปี (2545)นี้ จีนจับหัวหน้าโบสถ์คริสต์คนหนึ่ง ในข้อหานำพระคัมภีร์ไบเบิลเข้ามาจำหน่ายอย่างสินค้า ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายที่มีโทษถึงประหารชีวิตในประเทศจีน บุชอาจหมายความถึงกรณีหลังนี้มากกว่า ซึ่งแสดงว่า บุช ขาดความจริงใจ เมื่อเขาพูดถึงชาวอเมริกัน ด้วยวาทะเดียวกันกับวีรบุรุษในภาพยนต์ที่ว่า 'อิสรภาพในการนับถือศาสนาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับชาวอเมริกัน' นี่อาจจะบ่งบอกว่า บุช ยังห่างไกลต่อระดับ ความเป็นมหาบุรุษ และเริ่มจะบริหารงานของประเทศอเมริกาผิดพลาดไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

 83 มวยไทยปะทะกังฟู5คู่ที่เวทีพิเศษท้องสนามหลวง

รายการถวายพระพร 5 ธันวามหาราช

ไอทีวี 4 ธ.ค.2544 เวลา 2300 น.

 

ถ่ายทอดมวยไทยปะทะกังฟู จากสมาคมกังฟูแห่งประเทศจีน มีการถ่ายทอดสดสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย พอเริ่มรายการ ฝ่ายนักมวยไทย นำโดยหนุมานขึ้นเวที ออกท่าร่ายรำลิงท่าต่าง ๆทำให้ดูครึกครื้น ฝ่ายมวยจีนมาแบบธรรมดาเรียบ ๆ นี่คือ มหกรรมมวยไทยโลกเฉลิมพระเกียรติ มวยไทยปะทะกังฟู 5 คู่ มี 60 ตระกูลแซ่ให้การสนับสนุน นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ เป็นโปรโมเตอร์, เกียรติคุณ เกียรติมหาคุณ เป็นประธานจัดการแข่งขัน ร่วมเฉลิมฉลองวัน 5 ธันวามหาราช ณ สนามมวยชั่วคราวสนามหลวง ฝ่ายกังฟูคัดเอาแต่ระดับแชมป์กังฟูมาจากประเทศจีน เป็นรายการต่างตอบแทน โดยทางฝ่ายไทยได้นำนักมวยไทยไปปะทะนักมวยกังฟูมาเมื่อ 2เดือนที่แล้ว คราวนั้นได้ชกกัน ณ สนามเมืองกวางเจา ไทยพ่ายแพ้กลับมา อย่างงุนงง เพราะแพ้อย่างไม่มีการบอบช้ำ เหน็ดเหนื่อย แต่แพ้เพราะลีลามวยกังฟูที่ไร้แบบแผนเชิงมวย และกติกาการให้คะแนน ที่ค่อนข้างถนอมนวลสงวนตัว จนฝ่ายไทยมาคิดลึก ๆ ต่อปัญหาว่า แพ้อย่างไร จนดูเหมือนจะตีปัญหาแตก จึงจัดการให้มาสู้แก้มือกันใหม่ นำโดยสมาคมกังฟูแห่งประเทศจีน ว่าคนจีนที่กวางเจาชอบศิลปมวยไทยเป็นอย่างมาก ตามมาดูจนล้นหลามเวที

 

คู่แรก โจว์หย่งจิน แชมป์กังฟูจีน กับ โบวี่ ส.อุดมศร ไทย กังฟูก้มต่ำหมายจะจับเอวทุ่มลงให้หลังแตะพื้น ซึ่งจะได้คะแนนตามกติกากังฟู มวยไทยจับทางได้เอาเข่าใส่ เอาเข่าตั้งไว้รับ คนพากษ์ก็พากษ์ไป ว่าเสีย 6 คะแนนแล้ว เพราะถูกจับทุ่ม แต่พอครบ5ยก โบวี่ชนะ จีนงงแพ้ได้อย่างไร เพราะทุ่มลงหลายหน แต่ฝ่ายไทยมองว่ามวยไทยเอาเข่าอัดเต็ม ๆเข้าที่ท้อง จนมวยจีนออกอาการหน้ามืด งอไปงอมา เห็นผลชัดตา กรรมการข้างเวที 2คนเป็นไทย ข้างบนเวทีเป็นจีน จีนก็แพ้

 

คู่ที่2 มวยจีน หว่างจินเฟิง ทุ่มทำคะแนนชนะขาดยกแรก เพราะมวยไทยเปิดตำราแก้ไม่ทัน จีนไม่ได้ชก จะจับทุ่มท่าเดียว ยก 2 อนันตชัย เอาหมัดทุบเป้าใหญ่สองสามครั้ง เอาแข้งให้ทีหนึ่งเต็ม ๆ เท่านั้นเอง มวยจีนก็หมอบ แพ้ไป

 

คู่ที่ 3 ยอดเดชา ช.ประสบโชค ศิษย์ยอดธง พบแชมป์กังฟูระดับประเทศ ยก1 เกอหรือเต้นไปเต้นมา ไม่ค่อยกล้าเข้า พอเข้ามาก็โดนเตะ ยก2 เกอหรือโดนหมัดนับแปด ยก 3 ไทยชนะ ถือว่าชนะขาดแล้ว เว้นยก4-5 จะโดนน็อก แต่ยก4 ไทยชนะอีก ขึ้นยก5ไทยเกือบน็อกจีน แต่จีนทนทายาท เลยรอดไป แพ้คะแนน ไทยก็ชนะรวด ในสายตาคนชมทั่วประเทศและ คนจีน 1300 ล้านคนชมอยู่ จากภาพถ่ายทอดทีวี

 

คนพากษ์ว่ามวยจีนกังฟูเป็นมวยไม่มีตำรา เรามัวเปิดตำราสู้ ก็เลยแพ้มาจากเมืองจีนคราวก่อน

 

คู่ที่ 4  คะนองศักดิ์เล็ก เค ที ยิม พบ หวังเจิ้น 70 กก. ยก 1 จีนเตะสูงข้ามหัวนักมวยไทยแล้วเสียหลัก ตกออกไปนอกเวทีเอง คนดูก็อดหัวเราะไม่ได้ ยก2 หอบเอาสีข้างรับแข้งมวยไทยป็าบ ๆ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนหมดยก คนพากษ์บอกว่า จีนเปิดสีข้างให้เตะเพื่อแลกกับจับขาทุ่ม มวยไทยก็ได้ใจเตะใหญ่ แต่เตะไม่อยู่ โดนจับทุ่มทุกที เสียคะแนนทุกยก ยก3 จีนยังเอาสีข้างรับเอาแข้งอีกหลายป้าบ จับมวยไทยทุ่มลงได้ ไทยไม่เจ็บแต่แพ้3ยกรวด ถือว่าแพ้ ยก4ผ่านไทยแพ้ ยก5 ไม่น็อก

 

คู่ที่ 5 ขุนเดช จ.ศรีสะเสริฐ กับหยาง เป้าอี้ 75 กก. ยก1 หยาง เป้าอี้ นิ่งไปขณะหนึ่ง เพราะโดนห้องเครื่อง ยก2 โดนเจ็บแล้วเจ็บอีก จนไม่ยอมเคลื่อนไหว ยก3 ซ้ำรอยเดิม ยก4 ยก 5 ไทยชนะ

 

จบลงไทยชนะ4แพ้1 ที่แพ้คงเป็นเพราะเห็นใจที่อุตส่าห์ลงทุนเปิดสีข้างให้จนตัวเองแดงเถือกเต็มตัว สู้ทรหดอดทน จนครบ5ยก โดยที่นักมวยไทยไม่เจ็บ ไม่บอบช้ำอะไรเลย เพียงแต่เสียคะแนนเท่านั้น

 

มวยกังฟูที่เห็น ไม่คล้ายมวยจีนกำลังภายในในหนังเลยแม้แต่น้อย กังฟูยังน่ากลัวกว่า เพราะมวยจีนในหนังกำลังภายในเป็นเพียงการแสดงละคอนเท่านั้นจริง ๆ แสดงหลอกลวงคนชมจนกระทั่งคนทั้งโลกเลื่อมใส นึกว่าของจริง

 

 

 

 

 

 84 หนังจีน:  ศึกสายเลือด

ไอทีวี ว.17,31 ต.ค. 2544 1835 น.

 

พระในหนังเรื่องนี้ เป็นพระในลัทธิมหายานของพุทธ บทในหนังให้ใช้คำแทนตัวว่า อาตมา เหมือนพระสงฆ์พุทธไทย การแต่งตัว ชุดขาว โกนผมเกลี้ยง เดินท่องไปมารูปเดียว ตอนนี้ไปช่วยสีกาให้พ้นจากการถูกเผาทั้งเป็นจากชาวบ้าน ถูกเนื้อต้องตัวสีกาได้ อุ้มพาไปสองต่อสองได้ อยู่สองต่อสองตลอดราตรี ณ ที่มุงที่บังอันเดียวกันก็ได้ เรื่องราววันนี้ พระรูปนี้อยู่กับสีกาสองต่อสอง ช่วยสีกาคลอดบุตรอีกต่างหาก ใช้วิทยายุทธเป่ามนต์ช่วยสีกาคลอดบุตรออกมา แล้วปลอบโยนสีกา ด้วยเมตตาจิต พูดธรรมะต่าง ๆ ให้ฟัง ในที่ลับ นี้เป็นพุทธมหายานในจีนเดิมซึ่งต่อมาเข้ารกเข้าพงไปจนไม่มีสมณสัญญา มีแต่วาทะ ที่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อล้วน ๆ จึงโดนประธานเหมาเจ๋อตุงกวาดล้างเกลี้ยงประเทศจีน เป็นพุทธเจ้าวาทะ คือวาทะคมคาย มีเหตุมีผล น่าเชื่ออย่างลึกซึ้ง แต่เป็นเพียงวาทะเท่านั้นจริง ๆ หาได้มีอริยสัจธรรมอยู่ในวาทะนั้นไม่ จนที่สุดวาทะที่คมคายก็ทำลายคุณภาพแห่งสัจธรรมลงเสียหมด อุปมาเหมือนมวยจีนในหนังกำลังภายใน ที่ดูอัจฉริยะและสามารถดีเยี่ยม เห็นลีลานั้นดูล้ำเลิสเพียงดังว่าเป็นยอดมวยแห่งโลก แต่แท้ที่จริงเป็นเพียงลีลาการแสดงเท่านั้นเอง อุปมาเหมือนพระมหายานนี้ ที่เป็นเพียงวาทะเท่านั้นเอง คือวาทะที่ว่า สันโดษบ้าง ไม่ยึดมั่นถือมั่น บ้าง แล้วก็ท่องเที่ยวไปกับสีกาได้ ตีรันฟันแทงกับคนได้ ผลก็คือ พระแท้ในมหายานสูญพันธ์ไปหมด เหลือแต่พระปลอม ๆ เช่นที่เห็นในหนังจีนเรื่องนี้ นั้นเอง ซึ่งคนไทยดูก็คงจะเข้าใจได้ดีทีเดียว (31 ต.ค.44)

 

ตอนที่ฟังธรรมจากหลวงปู่ ๆ เล่าว่า ครั้งหนึ่งพระสารีบุตร ได้พบลูกกตัญญูคนหนึ่ง กำลังตามหาเครื่องยาไปรักษาพ่อของตัวเอง บอกพระสารีบุตรว่าต้องการตาข้างขวาของพระสารีบุตร ๆได้ฟังก็ควักตาข้างขวาออกมาให้ทันที ชายนั้นรับลูกตามาแล้วขว้างทิ้งลงกับพื้นว่า ตานอกจากเหม็นแล้วยังคาวมากอีกเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ พระสารีบุตร ได้ฟังก็ท้อถอยใจ ต่อมาก็ไม่ออกบิณฑบาตเหมือนเดิมอีก ไม่ทราบจีนได้เรื่องราวนี้มาจากตำราไหน?

 

ตามเรื่องของภาพยนต์ หลวงจีนยังถูกสตรีสูงศักดิ์ตามตื้อต่อ ว่าจะขอให้ลาสิกขาเสีย เมื่อลาสิกขาจะขอให้พ่อ ฮ่องเต้ให้ตำแหน่ง ก็ไม่ยอม ว่าไม่ใฝ่ในลาภยศ สรรเสริญ ไต้ซือหงวนจิ้ว ก็ยังมารับใช้องค์ชายสี่อยู่ รับภาระการเมืองให้อยู่ ทำให้วงการสงฆ์ในจีนสมัยนั้น ไร้จุดหมาย ไร้วิธีบำเพญตนที่ถูกต้อง อาสาดูแลสตรีป่วย ด้วยเหตุผลว่า "เราเป็นเพื่อนกัน จะมาเยี่ยมนางเสมอ ๆ"

 

จีนฮ่องกง ไม่ยอมคำนึงว่าเหตุใดพระจีนแบบที่เห็นในภาพยนต์นี้ จึงถูกประธานเหมาเจ๋อตุงปฏิวัติเอาหวายร้อยเอ็นน่องไปทำไร่ทำนาเสียหมด จนไม่เหลือพันธุ์สืบมาถึงทุกวันนี้ แล้วยังทำให้ผู้ดูผู้ชมสับสนว่า พระอย่างนี้แหละพระอรหันต์ผู้ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไร แม้กระทั่งเพศสัมพันธ์ ก็ทำได้โดยท่านไม่ยึดมั่นถือมั่น ไม่สำคัญมั่นหมายว่าทำอะไร

 

 

 

 

 

 85 การประชุมวิสามัญพรรคความหวังใหม่เรื่องย้ายพรรค

NEWSLINE

ช่อง 11 พฤหัสบดี 24 ม.ค.2545 21.35 น.

 

Jennifer Sue รายงาน การประชุมวิสามัญพรรคความหวังใหม่ เพื่อลงมติว่าจะเข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทยหรือไม่ ผลออกมาว่าพรรคความหวังใหม่ตกลงเข้ารวมพรรคกับพรรคไทยรักไทย บุคคลสำคัญในพรรคความหวังใหม่ฝ่ายที่คัดค้านการรวมพรรคก้มี นายชิงชัย มงคลธรรม ซึ่งเคยแถลงยืนยันมาตลอดว่าจะไม่เข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทย เมื่อแพ้มติในที่ประชุมไปแล้ว วันนี้ก็ยังยืนยันว่าจะไม่ยอมเข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทย

 

 

 

 

 

 86 คู่มือวัยใส

ข่าวเช้าทุกช่อง พุธ 30 ม.ค. 2545 0700-0800 น.

 

คู่มือวัยใส เป็นหนังสือที่ทำขึ้นมาอย่างหยาบมาก วิสัยทัศน์ที่มองก็คับแคบ สมมติฐานการศึกษาก็คับแคบ ผลที่ออกมาจึงหยาบคาย และผลงานที่ทำ ดูดั่งว่า ปล่อยให้พวกเด็ก ๆ คิดกันเอง ทำกันเอง โดยเข้าใจผิดไปว่าเป็นเรื่องเฉพาะของเด็ก ๆ หรือเป็นเรื่องเฉพาะของแต่ละสถาบัน ซึ่งความจริงเป็นเรื่องขององค์รวม ที่กระทบองค์รวมอย่างละเอียดอ่อนลึกซึ้งมาก เมื่อปล่อยให้เด็ก ๆ ทำออกมา จึงสะท้อนวิสัยทัศน์อันคับแคบ แล้วไม่สมเหตุผลกับข้อสรุปอย่างยิ่งใหญ่ว่า "หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งและมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะให้ความรู้ด้านเพศศึกษาแก่วัยรุ่น" (เดลินิวส์ 31 ม.ค.2545 หน้า1,18)

 

ยืนยัน "การสอนให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาต้องตรงจุด ไม่อ้อมค้อมเหมือนที่แล้วมา ทั้งนี้คู่มือวัยใสตั้งใจที่จะให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถึงแก่นจริง ๆ" (คมชัดลึก 31 ม.ค.2545 หน้า 2 คอล.7) ทำให้ได้ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาทางเดียวโดด ๆในแต่ละปัญหา เช่นต่อปัญหาที่ว่า เมื่อเกิดความใคร่ขึ้นมา ก็มีเพียงข้อเสนอว่า ให้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง แล้วอธิบายไปอย่างโจ่งแจ้ง อย่างไร้ศิลปใดใดถึงวิธีการสำเร็จความใคร่ ที่ฟังแล้วหยาบคาย ไร้ศิลปโดยสิ้นเชิง ซึ่งต่อไปก็คงพัฒนาข้อเสนอแนะไปทางเดียวเถื่อนดิบ ๆ ว่า เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นก็ให้เด็ก ๆ ร่วมเพศกันได้เลยทีเดียว เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงที่สุด อย่างนี้เป็นต้น

 

ฉะนั้น จึงน่าจะเป็นการสมควรอยู่ ที่หนังสือเล่มนี้ถูกระงับเสีย เพราะนอกจากไม่เหมาะสมในวิธีการสอน โดยเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้านเดียว อย่างไม่มีการวิเคราะห์ผลดีผลเสียเลย ไม่เข้าใจโทษของวัตถุนิยมแล้ว ไม่เข้าใจโทษของกาม ไม่รู้หลักสัจธรรมที่จะยืนเป็นหลักในการพิจารณาตัดสินปัญหา คุณและโทษของกาม จึงเป็นการเสี่ยงต่อความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ และควรจะได้ทำการศึกษาใหม่ให้ครอบคลุมองค์รวม ทั้งหลักการทางโลกและหลักการทางธรรมะ

 

ในทางธรรม ต้องทำความเข้าใจโทษของกาม ในบทที่ว่า กามนำทุกข์มาให้ ทุกข์เพราะกามคือทุกข์ทั้งหมดทั้งมวลของโลก (ตามหลักอริยสัจ 4) และบาลีบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น

 

นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ : ไฟเสมอด้วยราคะไม่มี (ขุ.ธ.25/42,48) คือไม่รู้จักอิ่มเชื้อ มีเชื้อเพลิงใส่เข้าไปเท่าไรก็ไหม้หมด ราคะยิ่งไปกว่านั้นอีก เมื่อเด็กเริ่มรู้จักการร่วมเพศ เสพกามรสแล้ว จะติดในรสชาดยิ่งกว่าติดยาเสพติดอีกหลายเท่า นี่เป็นสัจธรรมที่ควรจะต้องเข้าใจจริง ๆ

 

กาเมหิ โลกมฺหิ น อตฺถิ ติตฺติ : ความอิ่มด้วยกามทั้งหลายไม่มีในโลก (ขุ.เถร.26/377) ฉะนั้น จึงมีกรณีฮาเร็มของสุลต่าน กรณี ดอนฮวน กรณีจอมพลผ้าขะม้าแดง ฯลฯ เกิดขึ้น เด็ก เมื่อเริ่มเสพกาม เด็กก็จะพบว่า นี่คือสุดยอดของความสนุก ที่ทำให้ความสนุกอื่นใดพร่องไปทั้งสิ้น ก็จะแสวงหาแต่การเสพกาม ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกาม

 

น กหาปณเวสฺเสน ติตฺติ กาเมสุ วิชฺชติ : ความอิ่มในกามทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพราะฝนคือกหาปณะ (ขุ. ธ. 25/40 ขุ. ชา. ติก.27/102) ยืนยันว่า เมื่อได้รู้จักรสของกามแล้ว ผู้ใดก็ตาม ย่อมติดใจไม่รู้อิ่ม เด็กก็จะเสียนิสัย ตั้งแต่ได้รู้จักการเสพกามวันแรก ครั้งแรก

 

นตฺถิ ตณฺหาสมา นที : แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี (ขุ. ธ.25/48)คือ ไม่รู้อิ่มในรสกามนั่นเอง เหมือนบทกวียุคต้นรัตนโกสินทร์ว่า เข้าแต่หอล่อกามา เช่นพระเจ้าเอกทัศน์ ยุคเสียกรุงครั้งที่ 2 เป็นต้น เด็กจะไม่มีวันทำกิจการงาน การเรียน จะเฝ้าคิดแต่รสกาม เมื่อขยายไปสู่สังคม ๆ ก็จะเป็นสังคมร่านกามไปทั้งหมด

 

นตฺถิ กามา ปรํ ทุกขํ. : ทุกข์อื่น ยิ่งกว่ากาม ย่อมไม่มี. (ขุ. ชา. เอกาทสก. 27/315) เด็กก็จะเฝ้าเป็นทุกข์เพราะกาม คอยแต่จะหาโอกาสไปสู่กาม แม้กษัตริย์ก็สละราชบัลลังก์ได้ เพื่อไปเสพกามกับสตรีสามัญที่ตนชอบ เช่นกษัตริย์ราชวงศ์ที่ 8 แห่งอังกฤษ ยุคกษัตริย์เป็นราชาธิบดี มีอำนาจเหมือนเทพเจ้า ยังยอมสละบัลลังก์อันสูงส่งไปเสพสมกับสตรีหม้ายคนหนึ่งที่ไร้บรรดาศักดิ์ใดใด นโปเลียน โบนาพารต นักรบผู้ยิ่งใหญ่ชนะไปทั่วโลก แต่ไม่ชนะโยเซฟฟิน แม่หม้ายลูกติด หญิงสามัญชนแห่งฝรั่งเศส ขณะที่เนลสัน ผู้พิชิตนโปเลียน โบนาพาร์ต คร่ำครวญถึงแต่สตรีที่รัก ขณะที่ตนออกสู่ทะเลใหญ่ เป็นเหล่าขุนศึกผู้ล้วนมีรักในระหว่างรบทั้งสิ้น ดูว่าพวกเขามีทุกข์เพราะกามอย่างไร ฉะนั้นคติไทยที่รู้เรื่องโทษของกามดี จึงกล่าวว่า เวลาเรียนอย่าเพียรรักงานจักเสีย อันเป็นเรื่องจริง

 

สงฺกปฺปราโค ปริสสฺส กาโม. ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน. (สํ. ส. 15/32. องฺ ฉกฺก. 22/460.) ความคิดเรื่องกาม นำไปสู่ความกำหนัดคือราคะ ฉะนั้นยิ่งสอนเรื่องเพศศึกษา ยิ่งอธิบาย ให้เด็กคิดเป็นคิดได้ในเรื่องเพศ ยิ่งนำไปเกิดความกำหนัด หญิงชายอยู่ใกล้กันต่างคิดเรื่องกาม ยิ่งก่อความกำหนัด เช่นการดูภาพยนต์โป๊ะเปลือย ภาพยนต์เรทต้องห้ามต่าง ๆ ดูแล้วก็คึกคักเหมือนโคถึก ทางโลกเองก็เรียกอยู่แล้วว่าภาพยนต์ปลุกเซกส์ ผู้ชายชั่วก็วางแผนนี้กับผู้หญิงที่ตนใฝ่ปรารถนาอยู่เสมอมา ก็สำเร็จทุกครั้ง หรือโดยเจตนา ชักชวนกันไปเป็นกลุ่มเป็นพวก ดูภาพยนต์ปลุกเซกส์แล้ว ไม่รู้ผัวใครเมียใคร นี่ก็เห็น ๆ กันอยู่ และค่านิยมของเราก็ยังเหยียดหยามบุคคลประเภทนี้อยู่ว่าเลว เถื่อน ยิ่งกว่าสัตว์

 

อนึ่งในทางวิชาการทางโลกเอง วิธีการที่ทำมา เห็นได้ว่ากระบวนการศึกษาของผู้เรียบเรียง คู่มือวัยใส ก็เต็มไปด้วยความลำเอียง มีอคติ (BIAS)เสียแต่เริ่มแรก เพราะไปศึกษาจากกลุ่มวัยรุ่น ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังขาดวุฒิภาวะพอจะให้เป็นบรรทัดฐานของคนทั้งประเทศ สมมติฐานเช่นนี้จึงไม่อาจจะรับได้ เพราะการจะเอาความคิดอ่านของคนขาดวุฒิภาวะ เป็นเด็ก ๆ เช่นนี้มาเป็นหลักการโดยรวมเพื่อองค์รวมของชาติบ้านเมืองทั้งหมดได้อย่างไร ก็เข้าคติ คบเด็กสร้างบ้าน เท่านั้น นี่คือส่วนที่ไม่อาจจะยอมรับได้ในด้านสมมติฐานการศึกษา ฉะนั้น จึงน่าจะทำการศึกษาใหม่ โดยวิสัยทัศน์ที่กว้างขวางรอบด้าน จากกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลายพอจนสมควรแก่ความสมบูรณ์ทางวิชาการ โดยสมมุติฐานว่า ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เฉพาะของเด็กอย่างเดียวเสียแล้ว แต่เป็นเรื่องใหญ่โต ที่มีความสำคัญแก่องค์รวม เพราะมีความกระทบกว้างขวางไปสู่สังคมประเทศชาติทั้งหมด การสุ่มตัวอย่างการศึกษาต้องปราศจากอคติ ไม่ควรเลือกเอาจากกลุ่มเด็กวัยรุ่น ที่หลงผิดไปแล้วเช่นนี้เป็นกลุ่มตัวอย่างเดียว และควรต้องมีการศึกษาแบบเปรียบเทียบ โดยศึกษาการสอนเพศศึกษาในระบบเดิม ในระบบที่เป็นกรอบของศาสนากำหนดโดยวัฒนธรรมทางศาสนา โดยวัฒนธรรมไทย เพื่อให้ทราบจุดบกพร่องของระบบเดิม และปรับปรุงให้ทันกาลสมัยยิ่งขึ้น ฉะนั้นการดำเนินการศึกษาในเรื่องนี้ จะต้องรอบคอบ และต้องอาศัยวิสัยทัศน์ที่รอบด้านและลึกซึ้งจริง ๆ กล่าวคือ ต้องมองให้ทั่วถึงทุกมุมของปัญหา ที่ละเอียดอ่อน ที่เรียกว่ามองแบบบูรณาการ ซึ่งกรณีเกี่ยวกับเพศศึกษา เรามักมองแคบ ๆ อยู่เสมอมา และมักมองสิ่งที่ควรมองว่าไม่ควรมอง ขาดไปอย่างหนึ่งเสมอ ๆ เป็นต้นว่า เรายังไม่เข้าใจบทบาทของสถาบันศาสนากับการสอนเพศศึกษา และไม่ยอมรับว่า มีผู้ชำนาญการ ที่เราควรจะไปหาข้อมูลจากพวกเขา คือกลุ่มคนที่ได้รู้อะไร ๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษามาจากประสบการณ์ชีวิตโดยเฉพาะ คือกลุ่มที่เรียกว่านักรัก นักเลงรักบ้าง นักเลงหญิง หรือ เสือผู้หญิง (ในต่างประเทศบุคคลเช่น ดอน ฮวน หรือ ขุนแผน, จะเด็ด, พระอภัยมณี, อิเหนา ในวรรณกรรม เป็นต้น) ทางฝ่ายหญิง ก็ลองไปศึกษาจากบรรดาแม่เล้า ๆ บรรดานักร้องนักเต้นนักรำ บรรดาหางเครื่อง บรรดานางแบบนู๊ด (ผู้หญิงที่ขายร่างเปลือยเป็นอาชีพ ตัวเองมักหลบซ่อน เก็บตัวแต่ภาพฉาวโฉ่ออกไปทั่วสังคม) เป็นต้น เพราะแท้จริงคนชนิดนี้เองที่มีความชำนาญในเรื่องเพศศึกษา

 

และเคยมีกรณีตัวอย่างการศึกษาปัญหาเยาวชนในอเมริกาจากกลุ่มผู้ชำนาญการเช่นนี้มาแล้ว จนได้ข้อสรุปว่า

 

"เด็กไฮสกูล (เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา:บก.) พวกนี้ก้าวหน้ากันจริง ๆ กล่าวคือ ในโรงเรียนมีการสอนเพศศึกษา สอนสรีระร่างกายหญิง-ชาย สอนให้เห็นว่าเรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมดา ทีนี้พอรู้มาก ๆ เข้าก็เกิดอยากเห็นของจริง เห็นแล้วก็อยากสัมผัสอยากทดลองดูด้วยตนเอง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดานี่ครับ ดังนั้นจากการทดลองกันเองในระหว่างนักเรียนด้วยกันก็ก้าวออกมาทดลองกับผู้อื่นนอกโรงเรียน พวกผมก็อาจจะถูกถือเป็นเครื่องมือทดลองด้วยก็เป็นได้ คิดดูซิครับ ...เด็กอายุเท่านี้มียาคุมกำเนิดติดกระเป๋าแล้ว ผมก็ได้แต่ปลงอนิจจัง และก็เลยพาลตัดสินใจว่า เลิกยุ่งกับเด็ก ๆ พวกนี้จะดีกว่า ยุ่งกับผู้ใหญ่ ๆ ด้วยกันอย่างเดียวพอ ไม่เสียสุขภาพจิต..." (โปรดดูหนังสือพิมพ์ดี ล.20 ม.ค.-พ.ค.2543 คอลัมน์เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว ฟังความรอบข้าง หน้า 33)

 

กรณีที่ยกมาอ้างข้างต้นคือกลุ่มนักเลงรักที่ไปศึกษาเพศสัมพันธ์เยาวชนอเมริกัน ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ และจะเข้าใจเรื่องเพศ และกามารมณ์ เป็นอย่างดี ๆ ยิ่งกว่าคุณหมอ แพทย์ ที่มักเข้าใจเพศศึกษาในแง่วัตถุนิยมอย่างเดียวซึ่งในความหมายของ บูรณาการ นักศึกษาทางเพศจะต้องมองมาถึงจุดนี้ และหาข้อมูลจากบุคคลกลุ่มต่าง ๆ ที่ประกอบเป็นองค์รวมมาร่วมประเมินอย่างขาดเสียไม่ได้ด้วย

 

และแน่นอน ท่านต้องเข้าไปศึกษาความคิดเห็นและหลักการในเรื่องนี้จากฝ่ายศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาสัจธรรมในพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้เข้าใจแจ่มแจ้งก่อนที่จะสรุปข้อเสนอแนะใดใดออกมา จึงจะเป็นเป็นวิถีทางการสอนเพศศึกษาของชาติไทยในระบบการศึกษาไทยในองค์รวมอย่างแท้จริง และโดยถูกต้องตามสัจธรรม เช่น สงฺกปฺปราโค ปริสสฺส กาโม. ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน. ความคิดเรื่องกาม นำไปสู่ความกำหนัดคือราคะ ฉะนั้นยิ่งสอนเรื่องเพศศึกษา ยิ่งอธิบาย ให้เด็กคิดเป็นคิดได้ในเรื่องเพศ ยิ่งนำไปเกิดความกำหนัด หญิงชายวัยรุ่นอยู่ใกล้กันคิดคร่ำครวญแต่เรื่องเพศ ย่อมเป็นอันตรายเพราะความกำหนัด อย่างแน่นอน

 

ฉะนั้น การสอนเพศศึกษา จึงควรจะศึกษาเอาแบบอย่างทางศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาประจำชาติ ที่วิเคราะห์กามอย่างแตกฉานไว้แล้ว นั่นก็คือ การปฏิบัติต่อกาม มีการสอนเพศศึกษาเป็นต้น จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด ต้องละเอียดรอบคอบไม่ประมาทเป็นอันขาด

 

ศาสนาทุกศาสนาสอนเรื่องการปฏิบัติต่อกามอย่างลับ เป็นการเฉพาะตัว ไม่เปิดเผยโจ่งแจ้ง ไม่โฉ่งฉ่าง อึกทึกครึกโครม ก็เพื่อมิให้โอกาสแด่กามตัณหาที่จะกระจัดกระจายขยายตัวออกไปโดยเร็วนั่นเอง เพราะกามคือความกำหนัดเหมือนโรคระบาด ที่ระบาดไปอย่างเร็วมากโดยธรรมชาติของกาม ส่วนการจะสอนอย่างไร ก็สอนอย่างที่วัฒนธรรมไทยสอนกันอยู่ วัฒนธรรมโลกที่มีศาสนาสอนกันอยู่ทั่วไปแล้ว แม้ขณะนี้ ซึ่งโดยหลักการก็คือสอนอย่างเป็นเป็นความลับอย่างยิ่ง เป็นการเงียบกริบอย่างยิ่ง อย่าให้เปิดเผยโจ่งแจ้งเป็นอันขาด และที่สำคัญสอนอย่างรัดกุม ระมัดระวังอย่างยิ่ง อุปมาเหมือนจับเสือใหญ่ด้วยเถาวัลย์ต้องระวังทุกขณะ ระวังเพื่อที่จะจับมัน ระวังเพื่อที่จะพันธนาการมันมิให้มันดิ้นหลุด กลายเป็นตัณหาที่ระบาดไปสู่สังคม อย่าให้กามกลายเป็นค่านิยม อย่าสอนโจ่งแจ้ง ในที่สาธารณะ อย่าพูดดัง อย่าพูดให้ความหมายที่ชัดเจน ให้ซ่อนแฝงความหมายเอาไว้ เพื่อรอ ๆ ให้เกิดความเข้าใจไปตามลำดับวัยและเชาวน์ปฏิภาณส่วนตัวของบุคคล ครูผู้ฉลาดจะสอนโดยการค่อยพะยุงให้ความคิดอ่านของผู้รับการสอนค่อยเคลื่อนไปสู่วิถีธรรมชาติ อย่าบอกธรรมชาติแก่เขา แต่ค่อยพะยุงเขาไปสู่ธรรมชาติ เพื่อที่เขาจักเข้าใจได้ด้วยตนเอง ตามกาละ เทศะ ตามเพศ และวัยของคนผู้นั้น ระวังที่จะควบคุมและศึกษามันอย่างไม่เป็นอันตราย เพราะเหตุที่ปัญหากาม เพศ เป็นปัญหาใหญ่เหมือนเสือร้ายกลางป่าดงดิบ นี่เป็นหลักการสอนเพศศึกษาโดยวิธีการฝ่ายศาสนา ที่สังคมที่มีศาสนาถือปฏิบัติมาแต่ต้นอยู่แล้ว หากมีการปรับไปให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ให้ตรงจุดหมายยิ่งขึ้นก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อการสอนเพศศึกษา.

 

 

 

 

 

 87 บุชแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร

มองอเมริกาฝ่าวิกฤติ

ช่อง 5 พุธ 30 ม.ค.2545 19.30 น.

 

รายงานเอ็นดู ศิลศร กับ สุทธิชัย หยุ่น บุช แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลกลางแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา พูด 45 นาที คนปรบมือ ตลอดเป็นระยะ ๆ ถึง 90 กว่าครั้ง พูดวรรคเดียวคนปรบมือ กราว ก็หลายครั้ง พออกพอใจเป็นอย่างยิ่งในผลงานของเขา แม้ว่าจะมีรายงานข่าวบางกระแส บ่งบอกความไม่ปรีดานักของพรรคฝ่ายค้าน คือเดโมแครตของอดีตประธานาธิบดีคนก่อน บิล คลินตั้น ก็ตาม

 

นี่คิอสิ่งที่สะท้อนการประเมินคุณค่าแบบวัตถุนิยม อย่างหนึ่ง ภาพของบุช ที่เห็นนานทางจอแก้ววันนี้ มี ริ้วรอยที่หน้าผาก เพียงดังชายหาดที่ลาดไปสู่คลื่นในทะเล เป็นระลอก ๆ ดวงตาไม่มีรอยยิ้ม แสงจากสายตาสลัว ๆ เหมือนมองไปในเวลาเย็นอาทิตย์จวนลับฟ้า เส้นผมแห้ง เข้ากับสายตาหมองคลุ้มมัวลง ไม่แจ่มใส นั่นคือความกังวล อันลึกซึ้ง ซึ่งดูเหมือนสิ่งนี้เองที่สร้างความเหน็ดเหนื่อยให้บุช จนกระทั่งผลอยสิ้นสติสัมปฤดีไปครั้งหนึ่งในทำเนียบรัฐบาล ก่อนหน้านี้ นานถึงประมาณ 5 นาที ซึ่งโชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ แม้ว่าจะได้รอยประทับจนหน้าผากคล้ำไปเท่านั้น อันเป็นการเสี่ยงที่น่าตกใจ แต่แล้วเขาก็กลับฟื้นคืนมาได้เอง

 

ดูเหมือนว่าบุชเพิ่งจะเกิดญาณทัศนะขึ้นมาเมื่อเร็ว ๆ นี้เองว่า อุสมา บิน ลาเดน และคนของเขา จะไม่วางการอาฆาตจองเวรเขาไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ดูเหมือนบุชจะรู้สุภาษิตไทยดีที่ว่า ธรรมดาตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง เมื่อยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ศัตรูหมายเลข 1 ของเขา อุสมา บิน ลาเดน เป็นตายร้ายดีอย่างไรแน่ ในเมื่อเขายังไม่บรรลุเป้าหมายการขจัดศัตรูอย่างชัดเจนสิ้นข้อสงสัย ทำให้เขามีความกังวลลึก ๆแม้เสียงปรบมือจะสนั่นสภา ก็ไม่ปลุกความคลายกังวลของเขาเลย ในชะตากรรมของเขาเองข้างหน้า อันเป็นการส่วนตัว เขาน่าจะวิตกว่า อุสมา บินลา เดน จะไม่ไว้ชีวิตเขา เขาเพิ่งได้รู้สึกโดยได้สัมผัสว่าอำนาจจิตตานุภาพของอิสลามทั้งมวลครอบงำเขาอย่างยิ่งใหญ่ทีเดียว และเขาเริ่มจะคิดว่าเขาเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาที่กล้าต่อกรกับพระเจ้าชาวมุสลิม เขามิใช่พระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา เขาจึงเริ่มมาสัมผัสกับความกริ่งกลัวอำนาจของอัลเลาะห์ขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ครั้ง ๆ คราว ๆ บ้างเล็กน้อยแล้ว

 

ฉะนั้น แม้เขาพูดว่าอเมริกาได้ประสบความสำเร็จในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายในอาฟกานิสถาน ปรากฎขณะนี้ว่าเป็นชัยชนะ แต่เขาก็ยอมรับว่าเป็นเพียงชัยชนะขั้นเริ่มต้นเท่านั้นเอง เขาเตือนให้ระวัง อิรัค อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ว่า3ประเทศนี้มีอาวุธร้ายแรงในมือและกำลังพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง เขาประนาม3ประเทศนี้อย่างแรงว่าเป็นแกนนำของการก่อการร้าย หรือคำว่า อักษะแห่งความชั่วร้าย

 

เรื่องราวจากอเมริกาวันนี้ น่าติดตามดูว่า บุช จะมีความรู้สึกชนิดนี้ลดน้อยลงไปหรือจะเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ นี่คือสงครามส่วนตัวของเขา กับ พระเจ้าอัลเลาะห์ของชาวมุสลิมแล้ว เพราะบุชไม่เคยลืมภาพหลอนที่ทหารอเมริกันฉลองคริสต์มาสในกรุงคาบูล อาฟกานิสถาน ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งฉลองวันรอมฎอน แห่งอิสลาม กลางดินกลางทราย โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างกอดปืนไว้ในอุ้งแขนไม่ห่าง เขานึกถึงสงครามศาสนา ครูเสด อย่างแน่นอน

 

กระนั้น ก็ดูเหมือนเขาพยายามแข็งขืนใจที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นั่นคือ ฝืนความคิดที่ค่อย ๆ โน้มไปสวามิภักดิ์พระเจ้าอีกองค์หนึ่ง คือ ยะโอวาห์และเยซู ของชาวคริสต์ คู่ปรปักษ์ของอัลเลาะห์นั่นเอง แม้กระทั่งวันนี้ที่เขาแถลงในสภาผู้แทนราษฎรของประชาชนชาวอเมริกัน เป็นครั้งแรกนับแต่เปิดศึกสงครามกับอาฟกานิสถานมา เรื่องสำคัญยิ่งเช่นนี้ต่อสายตาคนทั้งโลก เขาก็ยังเน้นว่า เครือข่ายอัลเคดาห์ทั่วโลกยังเล็ดลอดไปจากอาฟกานิสถานนับหมื่นคน และเขายืนยันว่าคนทั้งหมดนี้จะต้องได้รับการติดตามกวาดล้างไปทุกหนทุกแห่งให้สิ้นซาก บางที คำพูดประโยคนี้อาจจะออกมาจากความวิตกกังวล วิตกในภัยส่วนตัวของเขาเอง ยิ่งไปกว่าเรื่องส่วนรวมก็เป็นได้ และในความเป็นจริง โดยสัจธรรม เครือข่ายอัลเคดาห์ หรือการก่อการร้ายใดใด ไม่อาจล้างให้สิ้นซากไปได้โดยวิธีที่บุชพยายามกระทำอยู่ ด้วยการใช้กำลัง ด้วยความรุนแรง มีแต่จะกระตุ้นให้เกิดแนวร่วมการก่อการร้ายเพิ่มมากขึ้น

 

น่าที่ท่านประธานาธิบดียอร์จ ดับเบิลยู บุช จะได้มาดู มาศึกษาตัวอย่างการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย ดูสถานการณ์และนโยบายความรุนแรงยุคจอมพลประภาส จารุเสถียร ว่าส่งผลเป็นอย่างไร มาจนถึงยุค เมตตา-ปัญญา(โครงการการุณยเทพ ฯลฯ) สมัย ฯพณฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นเหตุใหัประเทศไทยสงบการก่อการร้ายมาจนถึงปัจจุบันนี้ หรือศึกษากรณีต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ว่าการทำให้โจรร้ายกลับใจนั้น มิอาจทำด้วยความรุนแรง ด้วยการปราบปราม แต่ด้วยเมตตา-ปัญญาดังกล่าว เช่นกรณีโจร 500 ในพระสัมพหุลสูตร (พระธรรมบท ภิกฺขุวรรคที่25) มหาโจรองคุลีมาล (ในองฺคุลิมาลยสูตร) และประวัติศาสตร์การกลับใจของพระเจ้าอโศกมหาราช จากจักรพรรดิ์นักค้าสงครามมาเป็นจักรพรรดิ์นักค้าสันติภาพตามแนวพระพุทธศาสนา หรือแม้กระทั่งบัดนี้ ดูพระราชกรณียกิจขององค์พระประมุขแห่งประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาราชชาติไทยองค์ปัจจุบัน

 

 

 

 

 

 88 หนังรักหวานเกาหลีตีตลาดไทย

รักนี้ชั่วนิรันดร์

ไอทีวี 30พ.ย.2544-ศุกร ที่1 ก.พ.2545 2130 น.

 

AUTUMN IN MY HEARTH ภาพยนต์เกาหลี ฉายวันศุกณ์ 2130 น. ไอทีวี หนังดีสมควรอวดต่างประเทศทีเดียว โดยเฉพาะประเทศไทย

 

เรื่องแตก เมื่อจับได้ว่าเธอรักพี่ชายเธอเอง และพี่ชายเธอก็รักเธอต้องการแต่เธอเท่านั้นเธอคนเดียว เมื่อถึงตอนจบลง ยูซบ ผู้ที่สวามิภักดิ์ต่อความรัก ไปตาม ชิเน่ พี่ชาย(บุญธรรม)ของเธอ ให้ไปหาเธอ เพราะเธอเป็นโรคคล้ายวัณโรค รักษาไม่หาย พาตัวเองไปอยู่เกาะ เตรียมตัวตาย ยูซบขมขื่น ไปตามชิเน่ คนรักของเธอมาอยู่ด้วยกันช่วงสุดท้ายของชีวิตด้วยความหวานชื่น

 

เธอตายบนไหล่ของคนรัก และคนรักก็ตายตามไปในที่สุด

 

เกาหลีไม่เดินเรื่องว่าทั้งคู่แสดงความปรารถนาพบกันในสวรรค์ชั้นใดหรือไม่ คงจบลงที่ว่าทั้งคู่ต่างไปเสียจากโลกแห่งความผิดหวังพร้อม ๆ กัน และคงได้พบกันใน ปรโลก ตามภาษาของพระพุทธศาสนา เป็นภาพยนต์รักที่ยิ่งใหญ่ สร้างขึ้นอย่างไม่มีที่ติ เรื่องหนึ่งแห่งเอเซียทีเดียว สมกับที่เกาหลีกล้าส่งออกมาอวดต่างประเทศ และเป็นที่แน่นอนว่าจะถูกใจคนไทย เนื่องจากรสนิยมเหมือนไทยไม่ผิด และน่าชื่นชมที่ภาพยนต์เช่นนี้ สามารถเป็นสื่อการท่องเที่ยวประเทศเกาหลีได้อย่างดี และที่สำคัญ บ่งบอกสัจธรรมแห่งความรักแท้ ที่หมายถึงความเสียสละ และการให้อภัยอย่างแท้จริงบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่ยังโลกให้ดำรงอยู่อย่างสันติ

 

 

 

 

 89 เทศกาลตรุษจีนปิดถนนเยาวราช มงคลที่แท้จริง

ครบเครื่องเรื่องผู้หญิง

ช่อง 7 พุธ 6 ก.พ.2545 0800 น.

 

พูดถึงวันสำคัญในรอบปี มีเทศกาลไม่กี่เทศกาล เทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน ปิดถนนเยาวราชจัดงาน อรทัย ฐานะจาโร ว่าเป็นปี มหาตรุษจีน เตรียมซุ้มประตูใหญ่ไว้ให้คนลอด อ้างว่าใครมาไม่ได้ลอดจะเสียโอกาส ใครได้ลอดจะเป็นสิริมงคล เทียน ฟ้า ตี้ ดิน ซินแส ดูว่าทิศทางที่ให้พลัง คือทิศอาคเนย์

 

วัฒนธรรมไทยเชื้อสายจีน มักมีส่วนในการเสริมธุรกิจการค้า การเศรษฐกิจของชาวจีนเสมอ แต่ถ้าเป็นวัฒนธรรมเก่า ๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิเดิม ๆ รวมทั้งลัทธิผสมพุทธมหายาน ในเมืองจีนเองได้รับการปฏิวัติ ในยุคที่เรียกว่ายุคปฏิวัติวัฒนธรรม โดยท่านประธานเหมาเจ๋อตุง สืบมาถึงยุคท่านผู้นำเติ้ง เสี่ยว ผิง จึงเกลี้ยงไปจากจีนยุคนั้น

 

จีนปัจจุบัน จึงเป็นจีนที่ได้รับวัฒนธรรมใหม่ ยังมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เล็ดลอดมาจากจีน ยุคก่อนการปฏิวัติวัฒนธรรมอีกหลายอย่างหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อในความเป็นมงคลต่าง ๆ และที่ค่อนข้างมากก็คือเรื่องการพยากรณ์แบบจีน มีโหงเฮ้ง และ ฮวงจุ๊ย ซึ่งค่อนข้างจะล้าสมัยเมื่อเปรียบเทียบกับวิทยาการสมัยใหม่แนววิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบัน เช่นหลักการฮวงจุ๊ย แท้จริงก็คือหลักว่าด้วยนิเวศวิทยาหรือ environment ความเชื่อบางอย่างเช่นเกี่ยวกับศูนย์พลังต่าง ๆ นี่ชาวจีนเดิมไปไกลมาก โดยค่อนข้างไร้เหตุผล แล้วพัฒนาไปอย่างไกลจนกลายเป็นการโฆษณาชวนเชื่อล้วน ๆ จนที่สุดเหลืออด ต้องมาสู่การปฏิวัติวัฒนธรรมดังกล่าว

 

ทุกวันนี้จะเห็นตัวอย่างได้จากหนังจีนกำลังภายในของจีนฮ่องกง ที่ยิ่งสร้างก็ยิ่งเพิ่มพิธีการแห่งพลังภายในไปจนไร้เค้าร่องรอยแห่งหลักการเดิมและไร้เหตุผลแห่งวิทยาศาสตร์ เช่นหลักมงคลต่าง ๆ ให้ไปยืนตรงนั้นตรงนี้จะได้มงคลได้อำนาจจากฟ้าและดินอย่างนั้นอย่างนี้ โดยไม่คำนึงหลักวิทยาศาสตร์ หรือหลักศาสนาวิทยาศาสตร์ แม้นับถือศาสนาพุทธก็ไม่เคยเข้าใจว่าพุทธเป็นวิทยาศาสตร์ อย่างเช่นว่าด้วยความเป็นมงคล มิมีมงคลใดในศาสนาพุทธที่เกิดด้วยการดลบันดาล

 

และมงคลที่ครบถ้วนสมบูรณ์จริง ๆ ต้องประกอบกรรม มี 38 ประการ น่าจะเสียโอกาสหากไม่ลองตรวจสอบดูบ้าง ดังนี้

 

1    อเสวนา จ พาลานํ การไม่คบคนพาล  

2.   ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา การคบบัณฑิต

3.   ปูชา จ ปูชนียานํ การบูชาคนและวัตถุทึ่ควรบูชา

4.   ปฏิรูปเทสวาโส การอยู่ในถิ่นที่สมควร

5.   ปุพเพจกตปญฺญตา ความเป็นผู้ที่ได้ทำความดีที่ได้ทำไว้ก่อน หรือ ผู้ที่ทำบุญไว้มาก

6.   อตฺตสัมมาปณิธิ การตั้งตนไว้ชอบ

7.   พาหุสัจฺจญฺจ การเป็นผู้ที่ได้สดับตรับฟังมาก (รู้ดี รู้จริง รู้ถูกต้อง)

8.   สิปฺปญฺจ การเป็นผู้มีศิลปมาก

9.   วินโย จ สุสิกฺขิโต การเป็นผู้มีวินัยที่ได้ศึกษาดี

10. สุภาสิตา จ ยา วาจา วาจาสุภาษิต

11. มาตาปิตุอุปฺปฏฺฐานํ การบำรุงเลี้ยงบิดามารดา

12. ปุตฺต สงฺคโห การสงเคราห์บุตร

13. ทารสฺส สงฺคโห การสงเคราะห์ภรรยา

14. อนากุลาจกมฺมนฺตา การงานไม่อากูล

15. ทานญฺจ ทาน การให้ปัน

16. ธมฺมจริยา ธรรมจริยา การประพฤติธรรม

17. ญาตกานญฺจ สงฺคโห การสงเคราะห์ญาติ

18. อนวชฺชานิ กมฺมานิ การประกอบการงานที่ปราศจากโทษ

19. อารตี วิรตีปาปา การงดเว้นจากบาป

20. มชฺฌปาณา จ สญฺญโม การสำรวมจากการดื่มน้ำเมา

21. อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ ความไม่ประมาทในธรรม

22. คารโว การคารวะ หรือ การเคารพ

23. นิวาโต ความไม่เย่อหยิ่ง (ว่าดีกว่าผู้อื่น)

24. สนฺตุฎฐี ความสันโดษ

25. กตญฺญุตา ความกตัญญู

26. กาเลน ธมฺสฺสวนํ การฟังธรรมตามกาล

27. ขนฺตี ความอดทน

28. โสวจสฺสตา ความเป็นผู้ว่าง่าย

29. สมณานญฺจทสฺสนํ การเห็นสมณะ (การเข้าหาท่าน การบำรุงท่าน การตามระลึกถึงท่าน การฟังเรื่องของท่าน ตัวอย่าง การที่พระสารีบุตรได้เห็นพระอัสสชินั้นเป็นเหตุให้นำมาซึ่งประโยชน์ใหญ่หลวงแก่พระสารีบุตร ถือว่าเป็นอุดมมงคลโดยแท้)

30. กาเลน ธมฺมสสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล

31. ตโป ตปะ ธรรมอันเป็นเครื่องเผากิเลส

32. พฺรหฺมจริยญฺจ พรหมจรรย์

33. อริยสัจฺจาน ทัสฺสนํ การเห็นอริยสัจ (อริยสัจจ์ แปลว่า ของจริงของพระอริยะ หรือ ของจริงที่ทำให้เป็นพระอริยะ หรือของจริงอันประเสริฐ)

34. นิพฺพานสจฺฉิกิริยา การทำพระนิพพานให้แจ้ง

35. ผุฏฺฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตตํ ยสฺส น กมฺปติ จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้ง๘ประการ

36. อโสกํ จิตไม่โศก

37. วิรชํ จิตปราศจากธุลี

38. เขมํ จิตเกษม

 

 

 

 

 

 

 

 90 ภาพเผยแผ่ธรรมจากกัมพูชา

วิถีธรรม

ไอทีวี อังคาร 12,19 ก.พ.2545 05.30 น.

 

ทุกวันอังคาร มีรายการของ"ท่านจันทร์"แห่งสำนักสันติโศก โดยการสนับสนุนของมูลนิธิ เพื่อนช่วยเพื่อน โทร. 0 2733 5550-4 นี้ วันนี้เป็นเทป "วิถีธรรมกัมพูชา" อตฺถปญฺญา อสุจิมนุสฺสา : มนุษย์ผู้เห็นแก่ตัวเป็นมนุษย์อสุจิ กิ้งกือยังตกท่อ สิบล้อยังตกถนน คนเมื่อผู้อื่นชี้โทษอยู่ ยอมรับตามความเป็นจริง ท่านจันทร์ไปเขมร ออกบิณฑบาต สอนไปด้วย อ้างบาลีครบเสร็จอย่างข้างต้น เอาข้าวในบาตให้เด็กหิวโซกินด้วย ไปพบเขาหามโลงมาก็เข้าไป หยุดขบวนไว้ชั่วคราว เปิดโลงดูศพเด็ก เอามือลูบหน้าศพด้วยปรานี ทำเหมือนนักบุญ พวกเซนต์ในศาสนาคริสตัง แล้วสอนธรรมไปด้วย เป็นภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลเฉพาะท่านจันทร์โดยแท้จริง ที่ทำได้อย่างเหมาะสม เหตุที่ท่านจันทร์ทำได้อย่างนี้ก็เพราะผ่านการอบรมขัดเกลามาอย่างเข้มข้นจนความเมตตาจิตสูงเห็นในทุกข์ในสุขของผู้อื่น มีใจน้อมไปทางโพธิสัตวนิสสัย ไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่แบกทิฏฐิ มานะ เดินดิน เป็นชาวดิน อยู่กับดินได้ ไม่ติดยศถาบันดาศักดิ์ ได้ยศแล้วเดินดินไม่เป็น ในวงการสงฆ์ไทย ไม่มีความพยายามที่จะสร้างคนเช่นนี้เลย กลับสร้างระบบที่เป็นอุปสรรคเสียอีกด้วย เช่นนี้การพระพุทธศาสนาจึงหยุดอยู่ ไม่กระเตื้องเท่าที่ควร ถ้ากลายเป็นภาระไปอีกก็มีแต่จะจะทรุดลง

 

 

 

 

 

 

 91 ข่าววันวาเลนไทน์

ทุกช่อง พฤหัสบดี 14 ก.พ.2545

 

มีข่าวล่าสุดการแต่งงานวันนี้ ล่าสุดถึง 1,000 คู่ อีกสักหน่อยก็มีแนวโน้มเป็นวัฒนธรรมใหม่ในสังคมไทย ความจริงเรื่องราวของวันวาเลนไทน์นี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยผิดพลาดและขาดความรับผิดชอบขององค์กรทางคริสต์ศาสนา ที่ไม่เข้าใจเรื่องโทษของกามอย่างลึกซึ้งละเอียดอ่อนพอ ทำให้วัฒนธรรมเชิงกามารมณ์นี้เกิดแพร่หลายไปทั่วโลก กลายเป็นว่าเปิดช่องทางเดินสะดวกให้แก่วิถีมารไปเสีย แต่เมื่อแพร่เข้ามาถึงสังคมไทย โดยพื้นฐานวัฒนธรรมศาสนาพุทธ ทำให้สังคมไทยมีความเข้าใจดีพอสมควร จึงมีวิธีการปรับเปลี่ยนให้ความหมายที่มีนัยทางกามารมณ์ดีขึ้น โดยเป็นการกลั่นกรองสิ่งที่เป็นกาม ราคะตัณหาหยาบ ๆ ออกไปเสีย แล้วให้ผสมผสานไปกับวัฒนธรรมอันเดิม ที่เป็นวัฒนธรรมพุทธ ทำให้บรรเทาโทษจากกามลงไปได้ส่วนหนึ่ง และไม่กลายเป็นวัฒนธรรมแห่งราคะ ตัณหา กามารมณ์ไปซ้ำเติมสถานการณ์หนุ่มสาวเยาวชน ที่กำลังเดินในวิถีกามารมณ์จนกลายเป็นสังคมร่านกามอยู่ขณะนี้

 

แท้จริงเรื่องวันวาเลนไทน์ เป็นเพียงการตื่นการหลงไปตามคตินอกศาสนา คนที่ไม่เข้าใจก็ตื่นตามไปโดยไม่รู้ดีรู้ชั่ว แต่แม้ฝรั่งเองก็ยังเคยสร้างภาพยนต์เรื่องวันวาเลนไทน์นี้และเคยออกทางโทรทัศน์ไทย เป็นการเตือนสติ ให้ได้คิดว่าอะไรดีอะไรชั่ว จึงควรจะได้ศึกษาจาก ความหมายตามเนื้อเรื่องภาพยนต์นั้นบ้างว่าเป็นอย่างไร (โปรดดู หนังสือพิมพ์ดี ประจำเดือน มี.ค.-เม.ย.-พ.ค. 2542 คอลัมน์เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว หน้า 41)

 

เดิมที่สุดรู้กันว่า บาดหลวง คือนักบวชศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกชื่อ บาดหลวงวาเลนไทน์ บวชมานาน จนแก่กล้าทางธรรมะของพระเจ้า แล้วเดินทางไปตั้งตัวเผยแผ่คำสอนพระเจ้าในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นแดนของศาสนาอื่น ได้สร้างโบสถ์เล็ก ๆ ขึ้นที่นั้น ทำการสอนชาวอังกฤษและชาวยุโรปที่เดินทางไปประเทศอินเดียและตั้งถิ่นฐานขึ้นในเมืองนั้น แล้ววันหนึ่งก็มีสตรีผู้ดีคนหนึ่ง เดินทางมาจากอังกฤษ พอเข้าเส้นทางไปเมืองนั้นซึ่งผ่านป่าใหญ่ บังเอิญรถม้าติดหล่ม บาดหลวงวาเลนไทน์เจ้าของถิ่นมาพบเข้า ได้ช่วยเหลือ แล้วก็เกิดต้องตาต้องใจกันเข้า ในแดนไกล ต่างก็จากท้องถิ่นมาตุภูมิมา ฝ่ายหญิงก็มีปัญหาครอบครัวอยู่ เดินทางมาเพื่อหลีกลี้สามีที่ไม่ค่อยถูกอัธยาศัยกัน ฝ่ายชายก็เป็นนักบวช ๆ มานาน ต่างก็ว้าเหว่ด้วยกันทั้งคู่ เมื่อต้องนิสัยกัน เจอกันปุ๊บก็ชอบกันปั๊บ นั้นเป็นเรื่องธรรมดา ครั้นเมื่อไปโบสถ์กันบ่อย ๆ พบกันบ่อย ๆ ต่างฝ่ายต่างซ่อนความในใจเอาไว้โดยไม่มีใครรู้ แล้วพอมีโอกาสก็ลักลอบได้เสียกันในที่ลับตาคน เป็นอาจิน จนฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ขึ้นมา

 

สมัยนั้นสังคมที่มีศาสนาเขารังเกียจผู้หญิงที่ทำผิดศีลธรรมเช่นนี้ คือหญิงที่ตั้งท้องโดยไม่รู้ว่าท้องกับใครจะเป็นที่รังเกียจในสังคมมาก ประชาชนก็ถาม เค้นถามเอากับนาง ๆ ก็ไม่ตอบ ตั้งใจว่าจะยอมพลีชีพตนเองเพื่อรักษาเกียรติคุณของบาดหลวงที่รัก มิใยที่บาดหลวงเองรับรองว่า จะร่วมรับผิดชอบต่อกรรมที่ก่อร่วมกันนี้ ก็ไม่ยอม บอกว่าเกียรติยศของบาดหลวงจะต้องเทิดเอาไว้แม้ด้วยชีวิต เพราะบาดหลวงที่รักของตนจะต้องปรากฎงดงามผ่องแผ้วต่อสาธารณชน (นี่คือความคิดในเชิงการโฆษณาชวนเชื่อของศาสนาคริสต์)

 

แต่แล้ว สามีซึ่งเป็นขุนนางเก่าก็ตามมา เมื่อมาพบภรรยาตั้งท้องอยู่ สามีก็พอเข้าใจอะไรเป็นอะไร เมื่อสืบดูก็รู้ความจริง ว่าตัวการคือบาดหลวงวาเลนไทน์นั่นเอง แต่ภรรยาก็ไม่ยอมสารภาพ ฝ่ายสามีก็ยิ่งเดือดดาลใจ เพราะไม่มีพยานหลักฐาน ขืนประกาศความจริงไป ตัวเองกลับจะลำบากเสียอีกเพราะคนทั้งหลายจะหาว่าลบหลู่สาวกพระเจ้า ในที่สุดจึงเค้นเอากับเมียตัวเอง ด้วยการเฆี่ยน แล้วขังทรมานในกรงขัง ทำทารุณขนาดหนักต่าง ๆ จะให้ออกปากบอกออกมาให้ได้ว่า เจ้าตัวการคือบาดหลวงที่เทศน์ ในโบสถ์หน้าตาอิ่มเอิบทุกวัน ๆ นั่นเอง แต่ถึงจะได้รับโทษสาหัสเพียงใดภริยาก็ไม่ยอมสารภาพ มีท่าทีว่าจะยอมพลีชีพเพื่อรักษาความลับเอาไว้

 

แต่คนทำภาพยนต์เรื่องนี้ ก็เปิดเผยออกมาให้โลกรู้ในที่สุด โดยฉากสุดท้ายของภาพยนต์ เล่าเรื่องราวต่อไปว่า ในที่สุดคนใช้ผู้ซื่อสัตย์ของนางก็ลอบมาไขประตูกรงขังและถอดโซ่ตรวนที่พันธนาการ แล้วพาหลบหนีจากบ้านพักสามีไปได้ แต่ก่อนจะขึ้นรถม้าหนีไปนั่นเอง บาดหลวงวาเลนไทน์ก็โผล่ออกมาบอกคำเดียวว่า ฉันไม่ยอมให้เธอรับผิดชอบคนเดียวฉันขอรับผิดชอบร่วมกับเธอด้วย แล้วพากันขึ้นรถม้าหายไปในความมืด

 

เรื่องราวนี้ พบในหนังฝรั่งจากจอแก้วเล่าเรื่องความเป็นมาของวันวาเลนไทน์ ไม่นานมานี่เอง ดูแล้วไม่น่าจะนับถือว่าดีตรงไหน พระคริสเตียนแอบเป็นชู้กับภริยาผู้อื่นเนิ่นนานจนตั้งท้อง ยังไม่พอ ยังลักพาหนีไปอีก นั้นน่านับถืออย่างไร จึงจัดเป็นประเพณีวันแห่งความรักขึ้นมา ?

 

เพราะโดยหลักความเป็นธรรมสากล แท้ที่จริง บาดหลวงรูปนั้น และสตรีนางนั้น เป็น ผู้ทรยศ อย่างยิ่งใหญ่ อย่างน้อยก็ 3 ประการ คือ

(1.)  ทรยศต่อพระเจ้า โดยกล้าประพฤติลามกต่อหน้าต่อตาพระเจ้าผู้สร้างโลกและสรรพสิ่ง ผูทรงเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งในที่สว่างและที่มืดอย่างไม่เกรงต่อพระพิโรธของพระเจ้า

(2.)  ทรยศต่อประชาชน ต่อหน้าท่าดี แสดงตนว่าเป็นสาวกผู้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า แต่พอลับตาประชาชนกลับทำอุบาทว์ลามก เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน เป็นมารชนิดที่มือถือสากปากถือศีล ทำหน้าตาดูจผู้มีเมตตา มีใจบุญบริสุทธิ์ หากแต่เบื้องลึกคือตัณหาระคะอันระอุคุกรุ่น และประการที่

(3.)   ทรยศต่อ ความเป็นสามีของผู้ชายทั้งหลายในโลก ทำให้ผู้เป็นสามีทั้งปวงนึกระแวงภริยาที่ไปโบสถ์ว่า เธอจักแอบไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับบาดหลวงหรือไม่ ? เพราะศาสนาคริสต์ไม่มีวิธีเอาชนะกาม ราคะตัณหาได้เหมือนศาสนาพุทธ ที่ได้ชื่อว่าศาสนาพรหมจรรย์ จึงน่าระแวงเอามาก ๆ ว่าวันหนึ่งจะมีเรื่องลามกเช่นนี้เกิดขึ้น เหมือนกรณีตัวอย่าง นี้

 

ฉะนั้น ด้วยเหตุผล3ประการเป็นอย่างน้อยนี้ก็ฉกรรจ์พอ ที่ไม่น่าที่คนทั้งหลายจะเห็นเป็นสิ่งดีงามขึ้นมาได้เลย เพราะความประพฤติเช่นนี้แหละที่ควรนับว่าเป็นสุดยอดของความเลว ทั้งหญิงและชาย และการประพฤติ ผิดทางกาม โดยผิดภริยาหรือบุตรคนอื่นด้วย เช่นนั้นถือว่า เลว ในศาสนาพุทธ จะยิ่งถือว่า เลวมาก โดยพระวินัยปรับเป็นความผิดขั้นสูงสุด ปฐมปาราชิก ถึงขาดจากความเป็นนักบวชโดยพลันทันที และ แท้จริง แม้ชาวคริสต์ทั่วไป ก็ดูจะไม่ยอมรับ จึงไม่มีผู้ใดกล้ารับผิดชอบในที่มาที่ไปของประเพณีวันวาเลนไทน์นี้ พากันบิดเบือนไปต่าง ๆ เพื่อให้ดูดีขึ้น ดังจะสังเกตได้ว่ามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของวันลามกนี้หลายเรื่องหลายราวทีเดียว และซึ่งแต่ละเรื่องราวนั้น ล้วนไม่ลงพอดีในเหตุและผลที่อ้างนั้น

 

มาทุกวันนี้ เราได้ทราบโดยเปิดเผยว่า มีสาธุคุณรูปหนึ่ง ชื่อ สาธุคุณมูน เป็นนักบวชคริสต์คาทอลิก นักบวชรูปนี้ได้ทำตัวเด่นดังมาเป็นเวลานานในการเอาธุระเรื่องการเสพเมถุนกามของชาวบ้าน หลายปีแล้ว สาธุคุณรูปนี้ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ประเพณีแปลกแหวกแนวในเทศกาลวาเลนไทน์นี้ โดยจัดงานสมรสหมู่ขนาดใหญ่ ๆ นับพันคู่ขึ้นไปในหลายประเทศ เช่นเมื่อวาเลนไทน์ปี2540-42 ได้จัดสมรสที่ฮ่องกง 3,000 คู่ บ้าง ที่เกาหลี 2,000 คู่บ้าง ซ้ำยังมีแผนการจะจัดให้ยิ่งใหญ่ไปอีกโดยจะให้ได้ถึงหมื่น ๆ คู่ในประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย

 

และเมื่อความคิดนี้แพร่สะพัดเข้ามา เราก็ไม่ยอมคิดพิจารณาให้ดีว่า แท้จริงบทบาทของนักบวชเช่นนั้น เป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของนักบวช เพราะการเป็นเจ้ากี้เจ้าการ จัดการให้ผู้ชายกับผู้หญิง มาร่วมเสพ ร่วมรส ร่วมเพศพิสวาทกัน ทีละหลายพันคู่หลายหมื่นคู่ เช่นนี้ ไม่ชอบด้วยวิสัยของนักบวช แม้นักบวชในศาสนาคริสต์เอง หรือนักบวชบางนิกายบางศาสนาที่ถือเพศนักบวชแต่สามารถมีภริยา สามารถเสพเมถุนได้ แต่งงานอยู่กินกันฉันสามีภริยา ผลิตลูกผลิตหลานได้ อย่างเช่นสาธุคุณมูน ก็ตาม ย่อมเป็นการประพฤติตน อันมิใช่กิจของนักบวชเสียแล้ว ธรรมดานักบวช ย่อมมีเส้นทางเบื้องสูง การใฝ่ต่ำในเรื่องเมถุนสังโยค คือการจมอยู่ในกิจเมถุนกาม อันเป็นกิจของชาวบ้าน ย่อมพาตนเองตกต่ำ นำจินตนาการไปสู่ความลามกอนาจาร แล้วไปไกลต่อไปเรื่อย ๆ เช่นคิดให้ให้เสพพร้อม ๆ กัน ร้อยพันคู่ ยังไม่พอ จะจัดให้เสพกันเป็นหมื่น ๆ คู่ต่อไปอีก เช่นนี้จึงไม่น่าจะสอดคล้องหลักการของศาสนาทั้งหลาย อันเป็นสากล

 

สำหรับศาสนาพุทธ แน่นอน พระสาวกใฝ่ทางต่ำอย่างนั้น ถือว่าปิดกั้นเส้นทางมรรคผลนิพพาน เหตุที่มโนกรรมมิอาจบริสุทธิ์สะอาดได้เลย และเพราะเหตุนี้ การตื่นตามนักบวชนอกรีต นักบวชตัณหาจัด นักบวชใจแตกวิปริต นักบวชที่เสพเมถุนกามมีเมียคนเดียวแล้วยังไม่พอเช่นสาธุคุณมูนนั้น น่าจะไม่เป็นการสมควรเลย

 

ที่สมควรก็คือ การมองความรักอย่างเป็นธรรมชาติ ให้เข้าใจสัจธรรมแห่งความเป็นโลก หมายความว่า โลกอยู่ได้ เป็นระเบียบเรียบร้อย มีความมั่นคงก็เพราะหลักสัจธรรมว่าด้วย ความรักแท้ (true love) จงบ่มความรักให้สุกงอมเสียก่อน โดยวิถีทางแห่งธรรมชาติของความรัก ตามครรลองธรรมชาติของความรัก โดยวิถีทางของคู่ใครคู่มัน เวลาของใครของมัน ที่สอดคล้องหลักศีลธรรม ที่ดำรงความสมดุลของสังคมโดยธรรมชาติ และเมื่อ ความรักเกิดขึ้น เติบใหญ่ เป็นต้นรัก ที่กล้า หยั่งรากลึกมั่นคง โดยวิธีธรรมชาตินี้แล้ว ความรักแท้ก็กลายเป็นความเสียสละ เป็นความกรุณาปรานี ปรารถนาให้ผู้ที่เรารักมีความสุข ปรารถนาให้คนที่เรารักพ้นทุกข์ มีแต่ความอภัยเกิดขึ้น และจะไม่เกี่ยวกับวัตถุนิยม เมื่อมีความรักแท้เกิดขึ้น ก็หมายถึงจิตใจที่เสียสละเกิดตามมา ความรัก ก็คือความเสียสละ เมื่อมีความรักแท้ ความอภัย ก็มีอย่างล้นหลาม ไร้ขอบเขต ความรัก ก็คือ ความอภัย ความรัก จะป้องกันความใคร่ เมื่อความรักแท้เกิดขึ้น ความใคร่ก็ไม่มี มีแต่ความทะนุถนอม แม้ว่ายากจนถึงต้องกัดก้อนเกลือกินด้วยกันก็จะแต่งงานอยู่คู่กันไป ด้วยอำนาจความรักแท้ ย่อมสามารถฟันฝ่าอุปสรรค เคียงคู่กันแผ้วถางทางแห่งชีวิต จักให้ความสุขนิรันดรเสมอ

 

ฉะนั้น โดยวิถีทางโลกเองนี้ คือรักแท้นี้ ก็จะไปสอดคล้องหลักการทางธรรมะเข้าโดยอัตโนมัติไปส่วนหนึ่ง อันเป็นสิ่งที่ค้ำจุนโลกเอง ความรักแท้จึงเป็นสิ่งที่เกื้อกูล เป็นวิถีแห่งความสุขสงบของสังคมมนุษย์ จะตรงข้ามกับความใคร่ ตัณหากามารมณ์ เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำลายคุณค่าของความรักแท้ของหนุ่มสาว ที่ทำลายอนาคตของหนุ่มสาว ที่ทำลายระเบียบของสังคม ทำลายอุปนิสัยของสังคม ทำลายวัฒนธรรมอันดีของสังคมประเทศชาติ และทำลายโลก

 

กรณีการเห่อ ในวัฒนธรรมแหวกแนวไปตามชาวคริสต์ ยังบอกให้รู้ว่า คนไทย มีความรู้น้อยในพระพุทธศาสนา ใกล้เกลือไม่กินเกลือ แต่ใฝ่ไปกินด่าง หากมีความรู้ในพระพุทธศาสนา มองอย่างชาวพุทธสักหน่อยก็จะเห็นว่า นักบวชคริสเตียน ที่เป็นต้นเรื่องของวันวาเลนไทน์ ตามที่เล่ามาจากภาพยนต์นี้ เป็นนักบวชลามก มีมโนกรรมทรามต่ำช้า ไม่น่าเลื่อมใส เพราะการเป็นพระหรือนักบวชย่อมกระทำความดีให้บริสุทธิ์3อย่างคือไตรทวาร กาย จิต วจีกรรม ให้พยายามชำระให้บริสุทธิ์ ให้ปราศจากตัณหาราคะจริต การเป็นเจ้ากี้เจ้าการ คิดขวนขวาย ในกิจกามของชาวบ้าน เช่นสาธุคุณมูน ก็เหมือนกัน ย่อมนับว่าเป็นพฤติกรรมลามก ย่อมเป็นการใฝ่ในตัณหาราคะ ทำลายตัวเองให้ตกต่ำ และในสายตาชาวบ้าน นานไปจักเป็นที่ครหานินทาอันเนื่องด้วยผลประโยชน์ ลาภผล จากการเป็นเจ้ากี้เจ้าการ เจ้าพิธีกรรม ต่าง ๆ อย่างเป็นธุรกิจ ที่ ขวนขวายในทางสนองกิจกามแด่ชาวบ้านเขาเท่านั้น ดูจะมิต่างอย่างไรกับกิจการนครโสเภณี นอกจากนี้ ยังเป็นการให้สติปัญญาที่ไม่ถูกต้องแก่ประชาชน เพราะมิได้คำนึงถึงสัจธรรมที่พึงเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาติว่าด้วยความรัก ในหลักการที่ว่า ความรักเป็นเรื่องราวของธรรมชาติ เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล คู่ใครคู่มัน ที่มีบุพเพสันนิวาสกันมาแต่ก่อน และเป็นหลักความสงบมั่นคงของสังคมมนุษย์โดยวิถีทางแห่งมนุษย์ แห่งโลกเอง มาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ยุคคนหินคนถ้ำ ที่รู้จักความรักกันโดยธรรมชาติ สร้างสังคมกันมาด้วยความรักแท้ ความรักที่เป็นไปตามธรรมชาติของความรัก หากฝืนกฎธรรมชาติข้อนี้ ย่อมหมายถึงความวิปริตผิดทางของวิถีสังคมมนุษย์ โดยที่ไปกระตุ้นความใคร่ หรือกระตุ้นเมถุนสังโยคเช่นนี้ จักทำลายคุณธรรมของวิถีโลกเองให้เสื่อมทรามลงไป

 

  • ดีเล่มที่25

 

 

 

 92 ดี26 เมย. - ก.ย. 45

เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว

ต่อต้านเอดส์ต่อต้านอนารยธรรม

โดย คอมพิวเตอร์แมนและ บูดามี

 

 

 

 

 93 ดวงเฉลิมมอบตัว

ไอทีวี พฤหัสบดี 2 พ.ค. 45 1900 น.

 

ไอทีวีรายงานสด ๆ ดวงเฉลิมมอบตัว ที่สถานทูตไทย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลย์เซีย กิตติ สิงหาปัต กับ สำราญ รอดเพชร เจ้าของรายการฟันธง รอรายงานข่าวทุกนาที ภาพ พล.ต.ท.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ข่าวและสัมภาษณ์ยืนยันการมอบตัวที่กัวลาลัมเปอร์ และรอคอยภาพสด ๆ ของดวงเฉลิม อยู่บำรุง รายงานยืนยันการเดินทางเข้าประเทศไทย ด้วยการบินไทยเที่ยวบินสุดท้าย เวลา ประมาณ 1800 น. ถึงไทยเวลา 1900 น. เจ้าหน้าที่พาหลบช่างภาพ ออกไป แต่ ไอทีวีดักทางถูก เก็บภาพได้ เห็นการต้อนรับของบิดาและพี่ชาย เห็นการพบกันระหว่างผู้เป็นบิดากับบุตรชาย กลางสายตาของคนทั้งหลาย บุตรชายก้มลงกราบบิดากับพื้น บิดาเข้าโอบไหล่ผู้บุตรชาย พลางยิ้มระรื่นเหมือนว่าจะปลอบให้สบายใจไร้กังวล แล้วเดินทางโดยรถยนต์ตำรวจไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง มีมวลชนกลุ่มใหญ่มาคอยรอสังเกตการณ์ มัลลิกา บุญมีตระกูล รายงานเหตุการณ์ในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เห็นภาพมวลชนฝ่ายสนับสนุนทางการเมือง บางขุนเทียน กับบางบัวทอง ไปคอยรับหนาแน่นจนจราจรติด จนท.ตำรวจทำงานกันหนัก พารถแหวกฝ่าไปช้า ๆ ในกระแสมวลชนจนถึงเชิงบันไดสน.สองห้อง

 

ในขณะเดียวกันมีการติดตามข่าวอีกด้านหนึ่งของไอทีวี ภาพนางสุพัตรา รอดวิมุติ ภริยานายดาบตำรวจยิ้ม รอดวิมุตติ ผู้ตาย ได้ข่าวดวงเฉลิม อยู่บำรุงมอบตัวตำรวจแล้ว มีความยินดี ถึงกับออกมาจุดธูป1ดอก ถามว่าจุดธูปทำไม คำตอบว่าบอกสามีผู้ล่วงลับให้ทราบว่าบัดนี้คุณพี่ก็ไม่ตายเปล่าแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่าฝ่ายนี้ได้แสดงความสบายใจอย่างยิ่งไม่แพ้กัน

 

สี่แยกข่าวไอทีวีวันรุ่งขึ้น : 3 พ.ค.2545, 0730 น. สร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์ รายงานต่ออย่างละเอียด อธิบดีอัยการ ฝ่ายคดีอาญา วิวัฒน์ ดวงจันทร์ ว่าการให้ประกัน ควรหรือไม่ควร ศาลต้องดูหลายอย่าง ท่านว่าคาดเดาศาลยาก แต่ท่านก็พยากรณ์ว่าเรื่องการประกันตัวคงจะยากหน่อยน่าจะไม่ได้รับการประกันตัว ส่วนการมีข่าวว่านายปื๊ดเป็นคนลงมือยิงดาบยิ้ม ไม่ใช่ดวงเฉลิม อัยการว่า ชื่อนายป๊ดไม่มีผลทางคดี เพราะไม่มีในสำนวนเลย ตัดออกไปได้ อัยการยืนยันสำนวนฟ้องดวงเฉลิมแน่นหนาพอได้ฟ้องแน่ ขณะนี้ทางอัยการเพียงแต่รอให้ตำรวจส่งตัวมาให้ ส่งตัวมาเมื่อไรก็ฟ้องได้ทันทีเพราะศาลท่านใช้ระบบการพิจารณาต่อเนื่อง อธิบดีอัยการย้ำว่า "คดีไม่มีอะไรหนักใจทั้งสิ้น"

 

ไอทีวี รายงานข่าวคดีสำคัญอีกคดีหนึ่งพร้อม ๆ กับคดีดวงเฉลิม ธมฺมชโย มอบตัว สู้คดี ในข้อกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินวัด 96 ล้านบาท เมื่อ พ.ศ. 2541 มีลูกศิษย์นับร้อยคนมาประกันตัวไปแล้วเรียบร้อย ภาพที่เห็น ธมฺมชโย สวมแว่นตาสีชาคู่ที่คุ้นๆตา พร้อม ทตฺตชีโว นั่งรอพนักงานสอบสวน

 

 

 

 

 

 94 สถาปนาประเทศใหม่อีสต์ติมอร์

NEWSLINE

ช่อง 11 จันทร์ 20 พ.ค.2545 2130 น.

 

อีสต์ติมอร ประเทศที่ 192 ของโลก ชนม์พรรษา นารูลา (Chonapansa Narula) รายงานข่าว นายโคฟี่ อนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ โอบกอดกับนาย กุสเมา ผู้นำติมอร์ตะวันออก เป็นการแสดงความยินดีในงานฉลองประเทศ เมื่อคืนที่แล้ว 19 พ.ค.2545 เวลา 2200 น.ในประเทศไทย (24 น.ในติมอร์) แล้วสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จาก ม.รามคำแหง ผศ. ไชยชนะ อิงควัฒน์ คำถามพื้น ๆ คือปัญหาการพัฒนาประเทศภายใต้รัฐบาลใหม่ติมอร์ตะวันออก ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

 

เรื่องสำคัญที่คนไทยโดยเฉพาะนักวิชาการพลเรือน มักจะไม่เห็นว่าสำคัญ เพราะมักไม่ค่อยรู้เรื่องหลักการและกิจการทหารไทยโดยลึกซึ้งเท่าที่ควร ก็คือเกียรติของทหารไทยที่สูงส่งในติมอร์ตะวันออก ที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นต่อไป นั่นคือกองทหารไทย ได้รับเกียรติยศสูงสุดจากนานาชาติ เพราะเป็นผู้บัญชาการทหารกองผสมของสหประชาชาติ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงก่อนการจัดตั้งรัฐบาลของประเทศนี้

 

รายงานข่าวต่อไป นางอ่องซานซูจี ผู้นำการเมืองฝ่ายค้านในพม่า ได้รับการปลดปล่อยจากสถานกักกัน ให้เป็นอิสระ โดยรัฐบาลทหารพม่ายินยอมให้นางอ่องซานซูจี เดินทางไปไหนก็ได้ตามความประสงค์ เห็นภาพนางอ่องซานซูจีเวียนเทียนรอบพระเจดีย์ใหญ่ มีประชาชนเบียดเสียดห้อมล้อม ในมือถือใบไม้ชนิดหนึ่งใช้กราบบูชาพระมหาเจดีย์ชะเวดากอง แต่เห็นไม่ถนัดว่านางถือดอกไม้หรือใบไม้ชนิดใด การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองพม่าในประเด็นนี้เป็นสิ่งที่น่ามีความหมายเป็นอย่างมาก มีอะไรเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงของผู้นำฝ่ายค้าน ทั้งภาคภายนอกและภาคภายใน เป็นสิ่งที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่น่าคาดหวังไปในขณะเดียวกันก็คือ รัฐบาลทหารพม่า น่าจะถึงเวลาแล้วที่จะลดหย่อนสถานะแห่งเผด็จการลงไปเสีย และทั้งจัดการระบบการปกครองเสียใหม่ เริ่มด้วยการร่างรัฐธรรมนูญที่มีฝ่ายค้านเข้าร่วมดำเนินการด้วย โดยตั้งอยู่บนหลักการชนหลายเผ่ามาร่วมมือกันสร้างชาติ มองผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นเป้าหมาย จึงจะเกิดความยินยอมและมีการเสียสละครั้งใหญ่ขึ้นโดยเร็ว ก่อนจะทำให้เกิดสถานการณ์บ่อนทำลายรุนแรงจากหลายด้าน ต่อประเทศพม่า และต่อศาสนาประจำชาติพม่า

 

 

 

 

 

 95 การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ

ช่อง 9-ช่อง 11 พุธ 22 พ.ค. 45 0930 น.

 

การประชุมลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ 15 คน วันนี้เป็นวันแรก ของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก่อนเปิดประชุม มีพระภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปในบริเวณรัฐสภา แล้วกลับกลายเป็นว่าท่านถืออาวุธสงครามซ่อนไปในจีวรด้วย ในภาพ เห็นถือปืนระบบอัตโนมัติอาร์ก้า กวัดแกว่ง และพูดอะไรอยู่ แล้วรปภ.รัฐสภาก็จู่โจมเข้าไปจับตัวพระได้ ดูเหมือนกระสุนลั่นออกไปหนึ่งนัด แต่ไม่มีใครเป็นอันตราย กว่าฝ่ายรปภ.จะจัดการให้เรียบร้อยก็เสียเวลาไปถึง 0930 น. ต่อมามีรายงานเบื้องหลังว่าท่านเป็นเจ้าสำนัก และถูกป่าไม้จับอยู่บ่อย ๆ ในข้อหาบุกรุกป่า ส่วนท่านไม่คิดว่าบุกรุก ท่านไปบำเพ็ญสมณธรรมหวังวิมุตติหลุดพ้น ต้องการมาร้องเรียนถึงระดับสูงสุดคือรัฐสภา สิ่งที่น่าคิดก็คือ ประเทศไทยเรามีวัดมากมาย แต่ไม่สามารถจัดให้สนองงานฝ่ายวิปัสนาธุระได้ เพราะมีระบบชนชั้นในหมู่สงฆ์ และระบบอื่นเช่นระบบการศึกษาพระปริยัติธรรมที่ไม่เอื้อต่ออุปนิสัยของพระที่ท่านต้องศึกษาฝ่ายวิปัสนาธุระคือการบำเพ็ญสมณธรรมเพื่อความหลุดพ้นจริง ๆเท่านั้น

 

ทางสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเริ่มประชุม ท่านประธานสภา นายอุทัย พิมพ์ใจชน นั่งบัลลังก์สภา แจ้งวาระการประชุมให้ทราบแล้วเริ่มญัตติอภิปราย จากวันนี้ มีการอภิปราย มาราธอน ข้ามวันข้ามคืน ไปถึงเวลา เกือบสองทุ่ม วันเสาร์ที่ 25 พ.ค.2545 จึงเสร็จลง นัดหมายลงมติไว้วางใจในวันที่ 28 พ.ค.2545 เวลา 1000 น. ปรากฎว่า ลงมติ ผ่านทั้ง 15 คน นายชวน หลีกภัย หน.พรรคฝ่ายค้าน พูดว่า ฝ่ายรัฐบาลที่ว่าจะฟ้องร้องควรฟ้องร้องจริง ๆ เพื่อให้รู้ว่าใครเป็นฝ่ายแสดงเอกสารหลักฐานเท็จกันแน่ ฝ่ายรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ความพอดี เป็นสิ่งที่จำเป็น ทุกฝ่ายควรระวังให้การทำอะไรเป็นไปพอดี อย่าทำเพื่อประโขชน์ของอาชีพนักการเมือง แต่ทำเพื่อส่วนรวม ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

 

จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 15 คนครั้งนี้ ภาพรวมเห็นได้ว่ามีวิถีทาง 2 วิถีทางคือ วิถีประชาธิปัตย์ กับวิถีไทยรักไทย ประชาธิปัตย์ ฝ่ายค้าน พยายามรักษาวิถีประชาธิปัตย์เอาไว้ และอีกวิถีหนึ่งที่ได้เห็นเค้า พอสำหรับความหมายว่านี่คือ วิถีไทยรักไทย เห็นได้จากเวทีวันนี้ ว่าทั้งสองวิถีนี้ มีความแตกต่างอย่างเฉียบขาด ที่มีกระแสความคิดอันขัดแย้ง อยู่คนละขั้วกันปะทะกันระหว่างสองวิถีนี้ โดยเห็นจากการอภิปรายบางเรื่องที่โดยวิถีไทยรักไทยมองวิถีประชาธิปัตย์ว่า ด้อย อ่อน ไร้เดียงสา และบางเรื่องเช่นเดียวกัน ที่วิถีประชาธิปัตย์มองวิถีไทยรักไทย ในทำนองเดียวกัน ผู้ที่ทำให้เกิดวิถีไทยรักไทยขึ้น เห็นได้ชัดเจนจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี-รมว.คลัง นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ รองนายกรัฐมนตรี ดร.อดิศัย โพธารามิก รมว.พานิชย์ ร.ต.อ.ปุรชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รมว.มหาดไทย และ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคเอง

 

ส่วนวิถีประชาธิปัตย์ ยังไม่มีความพยายามที่จะปรับปรุงไปในทางที่ควรมีการปรับปรุง คงพอใจอยู่ในสถานะเดิม ๆ ผู้ที่พยายามพิทักษ์วิถีประชาธิปัตย์ ให้เป็นไปแบบเดิม ๆ ก็เห็นได้จาก นายชวน หลักภัย หัวหน้าพรรคเอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค และพรรคพวกทั้งหมด สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อุดมการณ์แห่งประชาธิปัตย์นั้น จำเป็นต้องให้คงไว้และเดินต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่สอดคล้องวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย และยิ่งวิถีไทยรักไทยเติบโตขึ้น ยิ่งมีความจำเป็นยิ่งขึ้น

 

 

แต่สถานการณ์สงครามอภิปรายที่เห็นในช่วงดึกของคืนวันที่ 24 ต่อวันที่ 25 ประมาณ 0200น.ขณะที่มีการอภิปราย รมว.แรงงานของ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ สส.ประชาธิปัตย์ ภาพประชาธิปัตย์ตอนนี้ชี้ให้เห็นว่า วิถีประชาธิปัตย์ขณะนี้ มีจุดอ่อน เพราะค่อนข้างไร้การสร้างสรรค์ และจมปลัก เพราะไปให้ความสำคัญกับวาทะ จนเห็นวาทะ เป็นจุดหมายปลายทางอันสูงสุด แทนที่จะมองที่สัจธรรม แล้วให้วาทะเป็นเพียงเครื่องมือแห่งสัจธรรม แล้วต้องรีบพัฒนาเครื่องมือเพื่อแสวงหาสัจธรรม มิฉะนั้น ก็จะเป็นตัวถ่วงวิถีประชาธิปัตย์ในวันข้างหน้า เพราะหากวิถีไทยรักไทยอาจสามารถพัฒนาไป เมื่อเติบโตระดับหนึ่งวิถีไทยรักไทยก็จะกำจัดวิถีประชาธิปัตย์เช่นว่านี้ไปเองโดยอัตโนมัติ และในขณะเดียวกัน การเกิดขึ้นของเงาแห่งวิถีที่น่าชื่นชม คือ วิถีไทยรักไทย ก็จำเป็นต้องมองระวังว่า สิ่งที่จะพาไปผิดทางนั้น ย่อมอาจมาแทรกได้ หากไทยรักไทยคาดไม่ถึง หรือมองไม่เห็นปัญหานี้แล้วก็ย่อมพลาด ทำให้วิถีไทยรักไทยไม่อาจเติบโตก้าวหน้าไปได้ นั่นหมายถึง อาจทำให้ความหวังของสังคมซึ่งมีอยู่แล้วในวันนี้ พลอยผิดหวังไปตาม ๆ กันอย่างไม่น่าอภัย

 

ในอุดมการณ์อันสูงสุดของการเมืองไทย วิถีประชาธิปัตย์ ควรมีวิถีไทยรักไทยผสมอยู่พอเหมาะ ในขณะเดียวกัน วิถี ไทยรักไทย ควรมีวิถีประชาธิปัตย์ผสมอยู่พอสมควร เมื่อวิถีทั้งสองนี้ สร้างสรรค์นโยบายที่แตกต่างกัน การสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ของมวลประเทศก็จะเกิดขึ้น

 

 

 

 

 96 รอบภูมิภาค:เปิดมหาวิชชาลัยชาวบ้าน

ช่อง 11 พฤหัสบดี 30 พ.ค. 45 14.00-505 น.

 

รายงานการเปิดสำนักศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อกอบกู้แผ่นดิน คือ มหาวิชชาลัยศิลปินพื้นบ้านศรีวิชัย บ้านโคกทราย ตำบลทรายขาว อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีพิธีการเปิดมหาวิชชาลัยท้องถิ่นแห่งนี้ขึ้นในวันนี้ มีการสัมมนาเป็นส่วนหนึ่งของความเข้าใจมหาวิชชาลัยแห่งนี้ มีผู้ร่วมสัมมนาคือ ศ.น.พ.ประเวศร วะสี ราษฎรอาวุโส บุญธรรม เทอดเกียรติชาติ ศิลปินพื้นบ้านศรีวิชัย ผู้ดำเนินการจัดตั้ง มหาวิชชาลัยท้องถิ่น นครศรีธรรมราช ดร.เจือจันทร์ จงสถิตย์อยู่ จาก สำนักงานปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ และ นายแก้ว ดูดิน (จบ ป.4) หัวหน้าสุเหร่าอิสลาม 1 คน พิธีกรอีก 1 เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย พยายามให้ความหมายของสถาบันใหม่ที่ตั้งขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคำว่า มหาวิชชาลัย กับ มหาวิทยาลัย บุญธรรม เทอดเกียรติชาติ ว่า วิชชาเป็นเรื่องของคน ไม่รวมวัตถุ การสร้างคนสร้างด้วยวิชชา จึงพาคนไปสู่ความสุข วิชชาลัย ประสงค์นำคนไปสู่ความสุข ส่วนวิทยาลัย ไม่ได้เน้นจุดหมายนี้ แต่พูดถึงการศึกษาอาชีพซึ่งเกี่ยวข้องกับวัตถุนิยมด้วย นพ.ประเวศร ให้ข้อคิดว่า ภูมิ แปลว่าแผ่นดิน ปัญญาจากการที่อยู่บนแผ่นดินมานาน วิทยาศาสตร์ เป็นเพียงวิถีปัญญาหนึ่ง ที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ นี่เอง เราต้องมององค์รวม มองทั้งหมด ทำความเข้าใจองค์รวม ต้องลงมาดู ธรรมชาติ ทรัพยากร ภูมิปัญญาท้องถิ่น แผ่นดิน วัฒนธรรม

 

การศึกษาที่ผ่านมาเราไม่เข้าใจแผ่นดินไทย แล้วท่องจำเอา ไม่รู้เรื่องจริง สร้างคนไทยที่ไม่รู้จักแผ่นดินไทย เป็นต้นว่า นักการเมือง ข้าราชการ อาจารย์ สื่อมวลชน ล้วนไม่เข้าใจแผ่นดินไทย เราทำทุกอย่างยากไปหมด เพราะแก้อยู่ข้างบน เราคงทำหลายอย่าง ด้วยความร่วมมือจากชาวบ้าน พระ เจ้า อิหม่าม ประชาชน ตั้งมหาวิชชาลัยชุมชนเพื่อเรียนรู้ชุมชน รัฐก็เห็นด้วยและสนับสนุน

 

 

 

 

 97 ละคร: บ่วงบรรจถรณ์

ช่อง 7 พฤหัสบดี 30 พ.ค. 45 20.35 น.

 

บทประพันธ์ของ กีรติ ชนา วันนี้ตอนอวสาน ละครเรื่องนี้ น่าจะเป็นอมตะ สามารถนำมาสร้างใหม่ได้อีก เป็นเวอร์ชั่นใหม่ไปเรื่อย ๆ เหมือนเรื่องบ้านทรายทอง ขวัญ-เรียม คู่กรรม หรือ สาวเครือฟ้า เพราะเป็นละครไทย-หนังไทย ที่สะอาด ดูแล้วปลอดโปร่งใจแบบตะวันออก เมื่อตะวันตกและฮอลลีวู๊ดยุคนี้ ทำหนังชนิดที่ไม่มีความเข้าใจเรื่อง ความสะอาด จึงทำแต่หนังที่สกปรกออกมา จึงเป็นพิษภัยซ่อนแฝงอยู่มากบ้างน้อยบ้าง แต่หนังไทย ละครไทย สะอาด ไม่แฝงพิษภัย จึงดูดี ดูซึ้ง และผ่อนคลายกว่าหนังฝรั่ง หรือหนังญี่ปุ่น ตัวละครเด่น แพรนวล โดย มาช่า วัฒนพานิช ดูบทแล้วลงลึกซึ้งดีมาก ตองริ้วก็แสดงได้สมบทบาทสาวผู้ดีเมืองเหนือ เจ้านายเรืองระยับ ก็คม เฉียบ ที่จริง เจ้านายเรืองระยับน่าจะเป็นสาวชาวเหนือนักปฏิวัติสังคม ที่ควรเขียนบทออกมาให้เธอประสบความสำเร็จจึงจะถูกต้อง ฝ่ายชาย หลาวเปิง ก็ดูขรึมเข้ม ดี แต่ถ้าเพิ่มมาด สุขุมฉลาดปราดเปรื่องทันคน เข้าไปอีกสักหน่อย ก็จะเยี่ยมยอด

 

ละครเรื่องนี้ดี นับมาตั้งแต่พล๊อตเรื่อง ย้อนกาลเวลา ไปพบรักที่เชียงตุง ยุคเก่า ดอกลั่นทม จบลงด้วยดี ทำละครได้ดีมาก เรื่องกระชับ ได้เนื้อดี

 

แต่มีประเด็นสำคัญอีกด้านหนึ่งที่แตกต่างระหว่างหนังฝรั่งกับหนังไทยก็คือ ฝรั่งมักมีฐานความจริงที่ได้ศึกษามาอย่างดีแล้วสนับสนุน แต่ไทยเรามักเดาเอาและไร้เดียงสาทางหลักวิชาการ ทำอะไรมักไม่อดทนที่จะวิเคราะห์ความถูกต้องของข้อมูลเสียก่อน ใช้การเดาเอาทั้งสิ้น ไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาวิจัย เช่นเรื่องการข้ามมิติ ที่ฝรั่งทำมาก่อน และเราก็เอาอย่างเขาไปตาม ๆ กัน ความจริงฝรั่งได้ทำการศึกษาเรื่องมิติเร้นลับมานาน จนเชื่อว่าการข้ามมิติน่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ด้วยสมมติฐานอย่างนั้น ๆ และได้ทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการข้ามมิติมาพอเชื่อได้ว่ามีความจริงหนุนหลังอยู่ เขาจึงทำหนังชนิดนี้ออกมา บนพื้นฐานความจริงหรือข้อมูลที่เขาศึกษามาได้ ภาพที่ปรากฎในหนังฝรั่งจึงมีเหตุผลทางวิชาการลึกซึ้งจริง ๆ ไม่ใช่เพียงคิดเดาเอา

 

แต่วงการละครไทยหนังไทย เช่นเรื่องนี้ เรื่องการข้ามมิติ ทำไปโดยการคิดเดาเอาเองของนักประพันธ์ อย่างไร้เดียงสาในข้อมูลของเรื่องราวเกี่ยวกับมิติเร้นลับเช่นนั้น ถ้าดูแบบเบาปัญญาคือไม่เอาความรู้สึกทางวิชาการมาเกี่ยวข้องก็ดูดีไป แต่ถ้าเมื่อไรรู้สึกขึ้นมาว่าทำหนังไร้หลักการ ไม่มีวิชาการ หรือผลการวิจัยหนุนหลังแล้ว ก็คล้ายเป็นการหลอกลวงคนดู กลายเป็นหนังที่อยู่บนความคิดที่ไร้เดียงสาไปในประเด็นสำคัญ

 

นักประพันธ์น่าจะถามตัวเองดูบ้างว่า มีสัจธรรมอะไรเป็นพื้นฐานเกี่ยวกับประเด็นสำคัญของเรื่องที่เราจะเขียนบ้างหรือไม่ เรื่องการข้ามมิตินี้เรามีความจริงอยู่อย่างไรหรือไม่ หรือว่าพอนึกจะเขียนก็เดา ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยนึกเอาว่า ฝรั่งก็คงเดาเอาไปเหมือนกัน เช่นนี้มีแต่จะทำให้ฝรั่งนึกดูแคลนเอา คนมีการศึกษาคนต่างประเทศไม่ยอมรับ

 

อย่างไรก็ตามส่วนปรัชญาว่าด้วยความรัก ดูผู้ประพันธ์มีความถนัด ก็พอทำให้หนังน่าดูน่าชมขึ้น รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง มาปิดฉาก เล่าเรื่องคลายปมปริศนา คุณนายตองริ้ว ซึ่งดูเหมือนอิงความจริงในพงศาวดารหรือประวัติศาสตร์ ทำให้ตรงเกินไป เพราะจบลงไม่ค่อยอิ่มใจผู้ชม

 

ควรจะแก้เรื่องให้เป็นนวนิยาย อย่าให้เป็นเรื่องจริง แก้ใหม่ ให้เหลาเปิงเป็นผู้ชนะ และมั่นคง ยิ่งใหญ่ ในฐานะศักดิ์ ตระกูล จึงจะสมควรค่ากับความรักแท้ข้ามมิติ ระหว่าง เหลาเปิง เจ้าชายเหนือ กับ แพรนวล สาวงามเมืองใต้ เพราะเมื่อเป็นนวนิยาย ขนาดเขียนให้ตองริ้วมาพบเขตได้ ก็น่าจะจบลงด้วยการให้เขตได้พบเหลาเปิงและแพรนวลอยู่ด้วยกันมีความสุขได้ ไม่แปลกอะไร จบลงแบบนี้ไม่สมบูรณ์แห่งอารมณ์ปรารถนาของผู้ชม หากมีรุ่นที่สองน่าจะทำให้สมบูรณ์แบบ อย่างนวนิยายอันสมบูรณ์จริง ๆ (คือให้แฮปปี้เอ็นดิ้ง)

 

 

 

 

 

 98 ประชุมผู้นำศาสนาโลกณเมืองอัสซีซี

แสงธรรม

ช่อง 9 อาทิตย์ 30 มิ.ย. 45 0530 น.

 

รายการสื่อมวลชนคาธอลิกวันนี้เสนอบทบาทของผู้นำศาสนาคาธอลิก ผู้ชราภาพ คือ สันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ในการประชุมผู้นำศาสนาต่าง ๆทั่วโลก ณ จตุรัสซานฟรานซิสโก เมืองอัสซีซี ในเดือนมกราคม 2545 สันตปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 พูดถึงสถานการณ์ร้าย ๆ ในโลก โดยเฉพาะเหตุการณ์ก่อการร้ายเวิลเทรดเซนเตอร์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ได้เป็นปรารภเหตุที่สำคัญ ในการเริ่มต้นบทบาท การประชุมผู้นำทางศาสนาครั้งนี้

 

รายการแสงธรรมเน้นภาพความร่วมมือระหว่างผู้นำศาสนาต่าง ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่เอ่ยออกมาอย่างครบถ้วนว่ามีผู้นำศาสนาใดบ้าง ไม่ออกนาม ผู้นำศาสนาอิสลาม ออกมาเลยทั้ง ๆ ที่มีผู้นำศาสนาอิสลามมาเข้าร่วมประชุมอยู่ และไม่ได้ยินเอ่ยถึงผู้นำฝ่ายโปรเตสแตนท์ (คาธอลิกกับโปรเตสแต้นท์ ยังคงรบกันอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ในภาคเหนือของเกาะอังกฤษ) มีการเอ่ยถึง ผู้นำนิกายออธอด๊อกซ์อย่างมีเจตนาให้เกียรติ แต่ภาษาไทยที่ใช้ฟังแปร่ง ๆ ว่า "พระอัยกาแห่งออธอด็อกซ์จากมอสโคว" (ไม่ทราบว่ามีความหมายอย่างไร อะไรคือ อัยกา ฟังคล้ายราชาศัพท์?) แม้ว่า มอสโควยังคงต่อต้านสันตะปาปา โดยต่อต้านไม่ยอมให้สันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ไปมอสโคว์

 

การประชุมครั้งนี้มีขึ้นในเดือน มกราคม 2545 เคยมีการจัดการประชุมเช่นนี้มาก่อน 2 ครั้ง ๆ แรกในปี ค.ศ.1986 (พ.ศ.2529) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 เสียงที่บรรยายบอกว่าการเตรียมการประชุมค่อนข้างจะเร่งด่วน เลยทำให้ องค์ดาไลลามะ ซึ่งเป็นผู้แทน "จิตวิญญาณของพระพุทธศาสนา"(ใช้ภาษาไทยแปร่ง ๆ ไปอีกคำหนึ่ง อะไรคือจิตวิญญาณ?) มาประชุมไม่ทันในครั้งนี้ แต่เมื่อผู้แทนศาสนาพุทธซึ่งเป็นพระสงฆ์ มหาเถระ ขึ้นกล่าวปราศัยในที่ประชุม ก็ไม่บอกรายละเอียดว่าท่านมาจากประเทศไหน ท่านพูดว่าอะไร บ้าง คงสะท้อนแต่เสียงตัวแทนศาสนาคริสต์คาธอลิก คือสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่2 ค่อนข้างมาก(คล้ายใช้เทกนิกการโฆษณาชวนเชื่อรายงานข่าว)

 

ท่านปรารภเหตุว่า ขณะนี้สถานการณ์โลกเสื่อมทรามลงไป ทำให้ทิศทางของ ภราดรภาพ ความยุติธรรม และสิทธิส่วนบุคคล หันเหไปนอกทางของมัน กลายเป็นการปรปักษ์ต่อกันเข้ามาแทนที่ ถ้อยคำที่น่าคิดก็คือ "ที่เลวร้ายไปกว่านี้ก็คือการปะทะกันระหว่างศาสนา" ท่านสันตะปาปา สรุปว่า "ศาสนาไม่ใช่สาเหตุของความขัดแย้ง ความเกลียดชัง และความรุนแรง ดังที่ได้เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้" (ซึ่งท่านหมายถึงกรณี 11 ก.ย. 2544 ถล่มเวิลเทรดเซนเตอร์ นั่นเอง)

 

สื่อมวลชนคาธอลิก ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการสื่อและการบริหารเวลา เพียง 30 นาทีนี้ ได้เห็นได้พบอะไรที่มีความหมายมากมาย และสามารถสรุปเรื่องราวอันมโหฬารยิ่งใหญ่ได้อย่างครบถ้วนในเวลาเพียง30นาที อันแสดงว่าคาธอลิกเข้าใจความสำคัญเรื่องการสื่อสารมวลชนและมีความสามารถสูงในเรื่องนี้(แสดงถึงความคุ้นเคยกับงานการโฆษณาชวนเชื่อมามาก)

 

ที่น่าสนใจก็คือ กิจกรรมภาคที่สอง ที่แต่ละศาสนาจะแยกออกไปสวดมนต์ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาของแต่ละศาสนา ซึ่งเห็นได้ว่า การประชุมนี้ถูกนำโดยความคิดของศาสนาคาธอลิก โดยสันตะปาปาจอห์ปอล ที่ 2 ฉะนั้นเมื่อมาถึงการทำความเข้าใจเฉพาะของแต่ละศาสนา คาธอลิกและศาสนาอื่นทั้งหมด จะเข้าใจตรงกันว่า คือการแยกกันไปสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าของศาสนาของตน ๆ เช่นคาธอลิก และ ออธอด็อกซ์ ก็จะสวดมนต์เพื่อการอ้อนวอนพระเจ้ายะโฮวาห์ และ พระเจ้าเยซู (ชาวคริสต์จะถูกบังคับให้เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า) ศาสนาอิสลามก็จะแยกไปสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าอัลเลาะห์ และท่านนบีมุฮัมมัด ศาสนาฮินดูก็อ้อนวอนพระกฤษณะ อิศวร พรหม ผู้นำศาสนาเหล่านี้จะไม่เข้าใจว่าทางศาสนาพุทธ สวดอ้อนวอนอะไร และจะไม่เข้าใจหลักการศาสนาที่ไม่มีพระเจ้า อย่างศาสนาพุทธ นั่นหมายถึงพวกเขาจะไม่เข้าใจศาสนาพุทธ ตามความเป็นจริงที่ศาสนาพุทธเป็นอยู่ แต่จะเข้าใจแบบที่เขาเข้าใจ นั่นก็คือ ในความคิดลึก ๆ ของศาสนาที่มีพระเจ้าทั้งหมด จะไม่ยอมรับความสามารถของมนุษย์ และมักจะทึกทักเอาง่าย ๆ ว่ามนุษย์จะต้องอยู่ใต้อำนาจของพระเจ้า และมองเลยไปว่า ศาสนาย่อมมีความเหลื่อมล้ำกัน โดยเหตุที่มีพระเจ้าและไม่มีพระเจ้า

 

เช่นในรายการวันนี้ มีการเอ่ยถึงสถาบันคริสต์ โดยนำเอาความหมายของสถาบันศาสนาพุทธ ไปใช้อย่างผิด ๆ โดยเขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้แก่คำว่า "สงฆ์" ตามรายงานว่า "พระสังฆราชจากไนจีเรีย" "พระสังฆราชจากรวันดา" "พระสังฆราชจากอาฟริกาใต้" ก็มาประชุมด้วย เป็นต้น (ไม่มีรายงานว่าพระสังฆราชจากประเทศไทยมาประชุมด้วย) อันบอกไปถึงทิฏฐิของศาสนาที่มีพระเจ้า ว่าตนสูงกว่าศาสนาที่ไม่มีพระเจ้า

 

พวกคริสต์พยายามนำสถาบันพุทธไปใช้ในความหมายที่อยู่ใต้สถาบันสูงสุดของคริสต์ คือ สันตะปาปา เพราะ คำว่า "สงฆ์" และ "พระสังฆราช" เป็นสถาบันสูงสุดในศาสนาพุทธ (โดยธรรมวินัย สังฆราชหมายถึงพระพุทธองค์ โดยกฎหมาย หมายถึงพระประมุขสงฆ์ไทย) ที่หมายถึงทั้งสมมติสงฆ์ และ พระอริยเจ้าแห่งหมู่สงฆ์ มี โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และอรหันต์ ซึ่งศาสนาคริสต์ไม่รู้จัก และไม่เข้าใจกฎเกณฑ์เงื่อนไขแห่งความเป็นสงฆ์ ตามพระวินัย 227

 

ดังที่เคยมีกรณีในประเทศไทยที่องค์กรคริสต์เริ่มนำเอาคำในสถาบันพุทธไปใช้ผิด ๆ โดยเขลาไม่รู้ความหมายของถ้อยคำ คือกรณี พระบาดหลวงในศาสนาคาทอลิก ชื่อ เจมส์ พิมพิสาร ยกตนว่าเป็น พระสังฆราช โดยไม่เข้าใจความหมายของคำว่า สงฆ์ เมื่อไปเสพกามมีภรรยา (ซึ่งบาดหลวงคริสต์มีได้เป็นปกติ) จนมีบุตร ชื่อยอด พิมพิสาร (คือบาดหลวงยอด พิมพิสาร ปัจจุบันนี้) ปรากฎโดยเปิดเผยแก่สาธารณะ จนกระทั่งบุตรได้สืบแทนเป็นพระคาร์ดินาลต่อมา เช่นนี้ จะเรียกตัวเองว่า "พระสังฆราช" ไม่ได้ หรือแม้แต่จะได้ชื่อว่า "สงฆ์" ก็ไม่ได้ ศาสนาพุทธจะถือว่าสงฆ์ที่เสพกามมีความผิดร้ายแรง ตามพระวินัยข้อต้นคือ ปฐมปาราชิก จะพ้นจากความเป็นสงฆ์โดยอัตโนมัติ และโดยวัฒนธรรมพุทธจะถูกประณามจะเป็นที่รังเกียจของประชาชนชาวพุทธ ถ้าไม่ยอมลาสิกขาเอง ประชาชนจะขับไล่ออกไปจากวัด และจับสึกทันที ที่สำคัญยังจะตราชื่อให้ใหม่ว่า สมี แทนคำว่า สงฆ์ เพื่อตราความผิดให้อับอายยาวนาน

 

นี่เป็นสิ่งที่พระในศาสนาคริสต์เขลาไม่เข้าใจ กรณีบาดหลวงที่ยกตัวเองว่าเป็น "สังฆราชเจม พิมพิสาร" แต่ไปเสพกาม มีภริยาจนได้บุตรซึ่งพลอยเรียกตนเองว่า "สังฆราช ยอด พิมพิสาร" อีก เช่นนี้ ชาวพุทธทั่วโลกโดยเฉพาะชาวไทยก็จะไม่เรียกว่า สังฆราชเจมส์ พิมพิสาร หรือสังฆราชยอด พิมพิสาร เพราะขาดจากความเป็นสงฆ์ เนื่องจากปฐมปาราชิกคือเสพเมถุน แต่จะเรียก สมี ถ้าเป็นพระมีระดับอย่างนี้ก็ควรเรียกว่า "ประมุขสมีเจมส์ พิมพิสาร" และ "ประมุขสมียอด พิมพิสาร" โดยอัตโนมัติ สงฆ์ก็เรียกว่า สมี ถ้าเป็น อัครสังฆราช ก็ว่า อัครประมุขสมี สังฆมณฑล ก็เรียกว่า สมีมณฑล เช่น สังฆมณฑลอุดรธานี ก็เรียกว่า สมีมณฑลอุดรธานี สังฆมณฑลอุบลราชธานี ก็เรียกว่า สมีมณฑลอุบลราชธานี อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ ก็เรียก อัครสมีมณฑลกรุงเทพ สังฆมณฑลมิทชิน่า สหภาพพม่า ก็เรียกว่า สมีมณฑลมิทชิน่า สหภาพพม่า เป็นต้น

 

 

 

 

 

 99 สร้างสำนักจุฬาราชมนตรีและศูนย์บริหารกิจการอิสลาม

โลกอิสลาม

ช่อง 9 ศุกร์ 19 ก.ค., 30 ส.ค. 45 0530 น.

 

ว่าด้วยการก่อสร้างศูนย์บริหารกิจการอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ์ พิธีกร สนทนากับคุณสง่า วันฏะเอนทรี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ทราบว่า การก่อสร้างศูนย์บริหารกิจการอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ์ บนเนื้อที่ 22 ไร่ คลอง 9 เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ในศูนย์นี้ประกอบด้วยอาคาร 2 อาคารใหญ่ มีอาคาร 3 ชั้น ใช้เป็นสำนักจุฬาราชมนตรี ที่รับแขกต่างประเทศ เป็นสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย(สกอท) เป็นศูนย์จัดงานเมาลิดประจำปี และที่กำลังก่อร่างขึ้นมาใหญ่โตโดยรัฐบาลและเอกชนร่วมกันก็คือ สถาบันอาหารฮาลาล ก็จะอยู่ที่ศูนย์บริหารกิจการอิสลามแห่งชาตินี้ ซึ่งวันนี้พิธีกรและแขกผู้รับเชิญก็ได้สนทนากันเป็นเรื่องสำคัญ โดยสรุปได้ว่า สถาบันอาหารฮาลาล จะประกอบด้วยคณะบุคคลดูแลเรื่องฮาลาลโดยเฉพาะ รัฐบาลไม่ได้ทำฮาลาลเอง รัฐบาลให้การสนับสนุน เพราะไทยอุดมป็นครัวของโลก เป็นประเทศที่มีทรัพยากรมากมายจนเหมาะที่สุดที่จะทำอาหารฮาลาลจำหน่ายไปทั่วโลกมุสลิม

 

วันที่ 30 ส.ค. 2545 รายการโลกอิสลามได้เชิญ รัฐมนตรี วัน มูฮำมัด นอร์ มะทา มาสนทนาเรื่องอาหารฮาลาล ต่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนากิจการอาหารฮาลาล เน้นความสำคัญที่ตลาดมุสลิม 1,900 ล้านคนทั่วโลก จะพิจารณาการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อขยายตลาด โดยให้มุสลิมจากต่างประเทศมาลงทุน เอาแบบอย่างประเทศออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีแผนต่อเนื่องที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลในภาคใต้ เพื่อการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมในรัฐบาลทักษิณ ขณะนี้ศูนย์บริหารกิจการอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ์กำลังก่อสร้าง ใกล้ปทุมธานี ที่ลำลูกา ใกล้ ๆ ธรรมกาย จะทำถนนสี่เลนเข้าไป และกำหนดทำพิธีเปิด โดยจะทูลเกล้าฯอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดในเดือน พฤษภาคม 2546 กรมการปกครองรับผิดชอบในการดูแลอาคาร พื้นที่ใช้สอย ไปจนกว่าคณะกรรมการฯจะช่วยตัวเองได้.

 

ระหว่างนี้ อิสลามในไทย ดูจะมีวิถีทางที่ก้าวหน้าไปดีกว่าวิถีทางอิสลามในประเทศอื่น ๆ มุสลิมไทยกำลังมีกฎหมายปกครองตนเองอย่างอิสระหลายฉบับ มีธนาคารอิสลามเกิดขึ้น ขณะนี้ก็กำลังสร้างศูนย์บริหารกิจการอิสลามแห่งชาติ จะมีนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลในภาคใต้ ดูเหมือนจะยังไม่พอยังมีนักวิชาการมาเรียกร้องว่า 4 จังหวัดภาคใต้ของไทย "ทหารตำรวจก็ให้ได้คนในพื้นที่" "นักปกครองก็ให้ได้คนในพื้นที่" (ดร.จรัญ มะลูลีม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านศาสนาอิสลาม พูดในรายการโลกอิสลาม 23 ส.ค.2545 ช่อง 9, 0530 น.) ซึ่งสะท้อนว่าแนวคิดผู้นำมุสลิมไทยเช่นนี้ ยังคับแคบอยู่ เพราะนี่คือแนวคิดจากหลักการ "อิสลามบริสุทธิ์" ของตาลีบัน ในอาฟกานิสถาน และของกองโจรแบ่งแยกดินแดน "รัฐปัตตานีรายา" ที่วุ่นวายมาเนิ่นนานเหลือเกินในไทย กว่าจะสงบลงได้ถึงปัจจุบันนี้

 

คนไทยน่าจะมองสถานการณ์และความจริงตามเหตุผลทางรัฐศาสตร์ มากกว่าเอาหลักการทางศาสนาที่ล้าหลังมามอง เราควรมององค์รวมของสังคม ดูทิศทางรวม และมองบทบาทของตนเองในฐานะส่วนหนึ่งของสังคม ส่วนหนึ่งของทิศทางรวมของสังคม และอยู่ร่วมกันตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 1 ที่ว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ แล้วเอาคุณธรรมแห่งศาสนา ส่วนที่ผสานคุณธรรมมวลชนเข้าด้วยกันมาใช้ร่วมกัน จึงจักเกิดสภาพสังคมที่มีความสงบสุขขึ้นได้ ในท่ามกลางโลกที่แตกฉานซ่านเซ็น

 

 

 

 

 

 100 คนทรงพระเยซูคริสต์ในอาฟริกาใต้

สารคดีเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ

ช่อง 3 พุธ 31 ก.ค.45 15.45 - 16.15 น.

 

เมื่อพิธีกรสาวใหญ่ กิตเสน เฟอร์นันเดช (Gissel Fernandes) โทรทัศน์ในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นำเรื่องราวของคนทรงในอาฟริกาใต้ ที่ ไมเคิล ชไนเดอร์ (Michael Schnieder) นักทำสารคดีป้อนรายการโทรทัศน์ ลอสแอนเจลิส ไปพบพิศูจน์ด้วยตนเอง พร้อมภาพเหตุการณ์ จากเมือง คอตแบมบา (Cochbamba) ประเทศโบลิเวีย (Bolivia) พบหญิงชื่อ คัดยา ริวา (Katya Riva) วัย 40 ท้าพิศูจน์ สิ่งที่เรียกว่า เป็น นิมิตรจากพระเจ้า (sign from God) ของศาสนาคริสเตียน โดยพิศูจน์จิตวิญญาณของพระเยซูในวันถูกตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์ ด้วยความทรมานเจ็บปวด วันที่พิศูจน์นั้นเป็นวันสิ้นพระชนม์ของพระเยซู

 

เจ้าของรายการไม่บอกว่า วิธีที่พิศูจน์นี้เรียกว่าทำอะไรอย่างไร แต่แท้จริงทางตะวันออกรู้ดีว่านี่คือการเข้าทรงชนิดหนึ่งนั่นเอง โดยจะเห็นได้ว่า คัดยา ริวา จะเริ่มเข้าทรง ด้วยการนอนสงบนิ่งวางอารมณ์ลึกไปในลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่พระเยซูถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขน(LETHIM BE CRUCIFIED) เธอก็เริ่มสร้างจินตนาการไปตามเรื่องราวนั้น สิ่งที่เรียกว่า สัญญาณจากพระเจ้าก็เริ่มขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนที่พระเยซูแบกไม้กางเขนใหญ่ไปสู่ตะแลงแกง ที่ตำบลหัวกะโหลก ชายนครเยรูซาเล็ม คนทรงก็จะเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียไปด้วยต้องนอนอยู่บนที่นอน แล้วพอถึงเวลาที่พวกเพชรฆาตตอกตะปูตรึงฝ่ามือทั้งสองของพระเยซู ก็จะมีเลือด ออกที่ฝ่ามือของเธอ (แต่ที่ฝ่าเท้าที่ถูกตอกตรึงเหมือนกันไม่เห็นเลือดออก แสดงถึงสมรรถภาพในการทรงยังไม่เต็มสมบูรณ์) แล้วเธอจะได้พบกับความเจ็บปวดทรมานมาก มีเสียงร้องครางเบา ๆ เป็นเวลานาน จนค่อย ๆ หมดลมไป ตราบวาระพระเยซูสิ้นพระชนม์ เธอก็มีอาการดับจิตลงไปเหมือนพระเยซูสิ้นพระชนม์ แต่ไม่ถึงตายไปจริง ๆ

 

บางทีหญิงที่เข้าทรงนี้อาจจะไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ไบเบิลด้วยซ้ำว่าเรื่องราวตอนสิ้นพระชนม์ของพระเยซู ๆ มีอาการอย่างไร พูดอะไรบ้าง อาจจะเพียงได้ฟังบาดหลวงฝรั่งพูดโฆษณาชวนเชื่อให้ฟังเท่านั้นก็เชื่อ เพราะถ้าเข้าทรงตรงไปตามที่ปรากฎในพระคัมภีร์ไบเบิล ตอนสุดท้ายก่อนจะสิ้นพระชนม์พระเยซูจะตะโกนเสียงดังลั่นว่า "เอโลอี เอโลอี ลามาสบั๊คธานี พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย" (ตามที่เป็นหลักฐานอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิล) เธอก็น่าจะตะโกนออกมาอย่างนั้นบ้าง มีคนเฝ้าดูอาการเหล่านี้ของเธออย่างใกล้ชิด 5-6 คน รวมทั้งนักทำสารคดีคนนั้น นายไมเคิล ชไนเดอร์ ด้วย และพลอยร่วมในอารมณ์ความเจ็บปวดทรมานของเธอด้วยทุกคนจนกระทั่งน้ำตาซึมลูกตาไปตาม ๆ กัน จนกระทั่งเธอสิ้นสติไป ก็รู้ว่าถึงที่สุดแล้ว

 

เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาในเวลาเช้าวันต่อมาเธอก็กลับคืนสู่สภาพปกติทุกอย่าง แผลที่ฝ่ามือหายไป สิ่งที่ปรากฎนี้ ไมเคิล ชไนเดอร์ว่า เป็นสิ่งที่เหนือการพิศูจน์ทางวิทยาศาสตร์

 

ต่อจากนี้ นักทำสารคดีนายนั้น ได้นำเอาภาพถ่ายดวงตาของเธอ ในช่วงที่เธอบอกว่าเธอได้พบพระเยซูเสด็จมาเยี่ยมเธอ ขณะที่มีอาการอยู่นั้น "ท่านอยู่ในชุดขาว ดวงตาของท่านสดใสมาก" ท่านก็ยิ้ม ท่านก็ยังอยู่ เธอว่า เป็นครั้งแรกที่เห็นพระเยซู ท่านยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนคนธรรมดา ๆ ยืนอยู่ ไมเคิล ชไนเดอร์ถามว่า บาปอะไรที่พระเยซูขุ่นเคืองมากที่สุด เธอตอบว่าทุก ๆ อย่างจะทรงขุ่นเคือง เช่นการโกหก ไม่ว่าคนจะโกหกมากหรือโกหกน้อยก็ทรงขุ่นเคืองเท่า ๆ กัน แต่สิ่งที่เธอเห็นว่าน่าจะทรงขุ่นเคืองมากที่สุดก็คือการอวดดี การไม่เชื่อถือพระเจ้า การเชื่อถือความคิดตนเอง คนไม่เชื่อว่า คนต้องกลับไปหาพระเจ้าอีก จะต้องได้รับโทษจากความอวดดีนั้น

 

ทิม เดวิส (Tim Davies) บรรณาธิการฝ่ายภาพ มีความเห็นต่อเรื่องที่ปรากฎบนฟิลมว่า เป็นปรากฎการณ์ที่วิทยาศาสตร์ตอบไม่ได้ จากนั้น ทางผู้จัดรายการ กิตเสน เฟอร์นันเดซ  ก็ไม่ยอมสรุปว่าอย่างไร ให้ผู้ชมพิจารณาตัดสินใจเอง แล้วตั้งประเด็นขึ้นมาใหม่ว่า มีข้อสังเกตเหตุการณ์รุนแรงทางธรรมชาติ ที่น่าคิดว่าจะเป็นสิ่งบอกเหตุว่ามนุษย์กระทำผิดคำสั่งสอนของพระเจ้า จึงทรงพิโรธและลงโทษมนุษย์ด้วยประการต่าง ๆ เธอถามว่า เหตุปั่นป่วนทางภัยธรรมชาตินั้นเป็นเพียงแค่เหตุรุนแรงโดยบังเอิญหรือ ? แล้วยกตัวอย่าง เหตุการณ์ธรรมชาติ ใน ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443) มีสถิติที่น่ากลัว เพราะมีภัยธรรมชาติ นับตั้งแต่แผ่นดินไหว ทอร์นาโด โดยเฉพาะใต้ฝุ่นเฮอริเคนเกิดขึ้นถึง 1,200 ครั้ง โดยเกิดในอเมริกามากที่สุด อุทกภัยเพิ่มขึ้น 700 % แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดอย่างน้อย 1,000 ครั้งในสหรัฐอเมริกา ไมเคิล ชไนเดอร์ไปสัมภาษณ์ คุณพ่อปีเตอร์ ในฐานะนักบวชแคธอลิก เพื่อหาคำตอบอย่างคาธอลิก (The Catholic answer) คุณพ่อปีเตอร์ บอกว่า มนุษย์ควรสำนึกบาปและเชื่อในคำสั่งสอนของพระเยซู (สารคดีนี้ทำในปีคศ. ใดไม่ปรากฎแต่คงทำก่อนค.ศ.2000 หลายปี) ท่านว่าในวันหน้า เมื่อถึง ค.ศ. 2000 อาจจะเกิดเหตุวิบัติครั้งใหญ่ บางทีนี่อาจเป็นการเตือนล่วงหน้า ให้ระวังความพิโรธของพระเจ้า (พูดคล้อยตามคำของคนทรงยุคค.ศ.1500 คือ นอสตราดามุส ที่ทำนายว่าภัยพิบัติต่าง ๆ จะเกิดขึ้น จนกระทั่งคลื่นยักษ์จะท่วมเกาะญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นจะยากจน กระทั่งกินเนื้อคนด้วยกันเอง

 

แม้กระทั่งการทำนายว่าจะมี แอนตี้ไครส์ คนที่3 เกิดขึ้นในยุคผ่านศตวรรษ2000 (แท้จริง นักวิทยาศาสตร์ทั้งโลกคือแอนตี้ไครส์)

 

ซึ่งจะเห็นว่าพวกบาดหลวงและชาวคริสต์ส่วนใหญ่จะเชื่อคล้อยตามเรื่องเพ้อเจ้อเหลวไหลที่คนทรงแต่งพยากรณ์ออกมาอย่างจริง ๆ จัง ๆ แม้พระคัมภีร์ส่วนหลัง ๆ ที่เป็นคำสอนของคริสต์ศาสนาในไบเบิล ก็ล้วนเขียนขึ้นจากการเข้าทรง ซึ่งไม่อาจเชื่อได้ว่าเป็นสัจธรรม)

 

 

ก่อนที่จะนำสารคดีนี้ออกอากาศ ไมเคิล ชไนเดอร์ได้กลับไปสัมภาษณ์ คัดยา ริวา คนทรง ที่ คอตแบมบา  โบลิเวีย อีกครั้งหนึ่ง ได้ตั้งคำถามเพิ่มเติมไปอีกหลายประเด็น เพื่อความสมบูรณ์ของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการทรงเจ้าคราวนั้น เธอว่าเป็นปรากฎการณ์ครั้งแรกที่นำเธอไปพบพระเยซูเจ้า ทรงตรัสกับเธอหลายประโยค แต่ละคำพูดของพระองค์ตกลงมาเหมือนน้ำค้าง เพื่อเยียวยาจิตใจของมนุษย์ เมื่อถามว่าพระเยซูมองเห็นคนในเหตุการณ์หรือไม่ ตอบว่าทรงมองเห็นทุกคน และยังสรรเสริญงานของปีเตอร์ ชไนเดอร์ว่าเป็นงานที่พอใจของพระเจ้า ถามว่า พระเยซูทรงตรัสถึงมนุษย์ยุคศตวรรษที่ 20 ว่าอย่างไรบ้าง เธอตอบว่า พระเยซูตรัสน้อยพระทัยว่า

 

"พวกเจ้าลืมเลือนข้า กระนั้น ข้าก็จะกลับมาอีก เพื่อถ่ายทอดความรักของข้าสู่มนุษยชาติ วิญญาณของพวกเจ้าบอบบางเหมือนกลีบกุหลาบ เจ้าอยากกอดข้าหรือไม่"

 

ส่วนริวาเองพูดว่า "ฉันอยากให้พวกเขาจำว่าเรามีพระคริสต์ พระเยซูกำลังรอเราอยู่ อย่าลืมความทรมานของพระเยซูเพื่อพวกเรา"

 

นักทำสารคดีกับพิธีกรสรุปลงตรงกันว่า เรื่องนี้ให้ผู้ชมตัดสินใจกันเอาเอง ทางผู้จัดรายการเพียงนำเสนอเท่านั้น

 

 

มีคนไทยที่ได้รับการศึกษาสูง ๆ มาจากเมืองนอกบางคนไม่เข้าใจว่า ลักษณะอาการเช่นนี้คือการเข้าทรง นี่คือการเข้าทรงของคนทรงคนหนึ่งในโบลิเวีย อาฟริกาใต้ เป็นอย่างเดียวกับเรื่องราวของ นอสตราดามุส เมื่อไม่เข้าใจก็ไปสรรเสริญเสียใหญ่ แต่คนไทยที่เมืองไทยรู้ดีว่า นี่คือการเข้าทรงเท่านั้นเอง ภาพที่เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องของจินตนาการล้วน ๆ อันเกิดจากสมาธิจิต และเทกนิกบางประการแห่งปฏิบัติการทางจิต แต่จินตนาการที่ชัดเจนจากวิถีทางหรือวิธีการทรง มิได้หมายถึงสัจธรรมแต่อย่างใด อาจหมายถึงความหลงทางไปสุด ๆ เลยก็ได้ มิต่างอะไรกับเรื่องราวของคนทรงในเมืองไทย ที่มีอยู่กลาดเกลื่อน ฉะนั้น เรื่องราวของพระเยซูที่เธอเห็นนี้ เธอเห็นไปตามจินตนาการและความเชื่ออันฝังใจของเธอว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า ความเชื่อจึงนำจินตนาการเธอไป ทำให้เธอลืมความจริงในวันสุดท้ายของพระองค์ นั่นคือทรงยอมรับว่าพระองค์เข้าพระทัยผิด ได้ทรงสำนึกได้ ว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรยศต่อพระองค์ จึงทรงร้องเสียงดังก่อนตายว่า "เอโลอี เอโลอี ลามาสบั๊คธานี พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย"

 

 

 

 

 

 101 สอนนักเรียนให้เสพกามอย่างไรก็ได้เพียงแต่ให้ปลอดภัย

สารพันปัญหาเอดส์ "เพศศึกษาในโรงเรียน"

ช่อง 11 พฤหัสบดี 1 ส.ค. 45 1320 -1400 น.

 

สาวิตรี สามิภักดิ์ เป็นพิธีกร มีครูสตรี ร.ร.สายน้ำผึง ครูสตรีร.ร.สวนกุหลาบวิทยา มีนักเรียนร.ร.บดินทร์เดชากับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชายหญิง มาเต็มห้องส่ง ครู ๆ เหล่านี้เป็นครูสอนจริยศึกษา มีนักการสื่อสารอินเตอร์เนต มาร่วมให้ความรู้อยู่ด้วย คือคุณอนุวรรต ทับวัง(เป้) และคุณหมอพันธ์ศักดิ์ สุกรฤกษ์ แห่งสถาบันสุขวิทยาจิต มาร่วมรายการ

 

คำพูดที่ว่า "คุณจะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ๆ ว่า ป้องกันได้หรือไม่" เป็นคำพูดของครูสอนจริยธรรม ซึ่งไม่น่าจะยอมรับได้ น่าสงสัยว่าครูสอนจริยธรรมรู้เรื่องศาสนาและจริยธรรมอย่างไร และน่าสนใจว่าครูผู้นี้สอนเนื้อหาอย่างไร ลงลึกในความหมายของเพศสัมพันธ์ขนาดไหน ตามหลักการศาสนา จริยธรรมวางอยู่บนสัจธรรมว่าด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทาน หากครูสอนจริยธรรมไม่เข้าใจพื้นฐานจริยธรรมไปในทำนองนี้ หรือไม่อยู่บนพื้นฐานสัจธรรมนี้ ย่อมไม่เหมาะที่จะเป็นครูสอนจริยธรรม ยิ่งมีทัศนะว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องควรห้ามเสียแล้ว ก็น่าเกรงว่าเธอจะพาลูกศิษย์ไปหมกมุ่นอยู่กับกามารมณ์เต็มที่(ในเมื่อป้องกันได้)

 

แต่การพูดคุยกันในวันนี้ ไม่ชัดเจนว่า คณะครู-หมอ-นักการสื่อสารเหล่านี้พยายามจะพูดกันเรื่องอะไร เพื่ออะไรกันแน่ กระนั้นปัญหาการสอนเพศศึกษาอย่างไร ก็น่าจะมาลงตรงกันในหลักการที่ว่า เด็กส่วนใหญ่ก็ดูจะไม่มีปัญหาเรื่องเพศจนต้องลำบากสั่งสอนกันถึงขนาดนี้ มีเพียงบางคนที่มีประสบการณ์พิเศษ เท่านั้น ที่เป็นกลุ่มออกนอกลู่นอกทางไป ซึ่งได้มีมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ขณะนี้ ดูเหมือนว่าเราพยายามจะปรับคนส่วนใหญ่ไปตามคนส่วนน้อยที่ออกนอกลู่นอกทางเหล่านั้น แทนที่จะปรับคนส่วนน้อยเข้าหาคนส่วนใหญ่ที่มีจริยธรรม ที่เดินตามแบบแผนอันดีงาม อยู่แล้ว จึงจะถูกต้อง และเมื่อคนส่วนน้อยนั้น ออกนอกลู่นอกทางไป ปรับกลับคืนมาไม่ได้ ก็จำเป็นอยู่เองที่จะต้องปล่อยไปตามยถากรรมและรับผลกรรมของเขา อันเป็นกฎธรรมดา ไม่ใช่ปรับคนส่วนใหญ่เข้าหาคนส่วนน้อย

 

การป้องกันเอดส์ที่ดีที่สุดก็คือการอย่าเพิ่งไปเสพกาม อย่าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ ในระหว่างการเรียน และก่อนการสมรส ต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า ผู้ชายด้วยการไม่เที่ยวสำส่อน ผู้หญิงด้วยคติรักนวลสงวนตัว (เวลาแต่งงานขอให้แม่ได้ค่าขันหมากบ้าง ค่าน้ำนมบ้าง) ในขณะเดียวกัน จะต้องเข้าใจว่าการมีชีวิตคู่ย่อมเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง หนุ่มสาวควรมีการแต่งงานในวัยอันสมควร ไม่ควรอยู่นานจนเป็นสาวทึมทึก (นักบวชในศาสนาพุทธถือว่า การเสวนากับสาวทึมทึกเป็นอโคจรอย่างหนึ่ง) หรือเป็นชายพ่อพวงมาลัย-แก่แดดเอาแต่ร่อนไปร่อนมา

 

ขณะนี้การศึกษาข้อมูล สำหรับวางแผนการสอนเพศศึกษายังคับแคบ มักเสนอแต่ทางบวก น่าจะทำการศึกษาในทางลบบ้างว่า การหมกมุ่นในกามารณ์ เช่นดูภาพโป๊ะ ดูหนังโป็ะ ดูวีซีดีเซกส์เช่นชุดเอ็มมานูเอลสอนเพศสัมพันธ์มนุษย์ต่างดาว(ซึ่งน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าผ่านการเซนเซอร์มาได้อย่างไร? กรรมการเซนเซอร์ขาดพื้นฐานทางศีลธรรมและจริยธรรมหรือไม่?) เป็นต้นนั้น เป็นการเสื่อมแห่งสติปัญญา นานไปจะเป็นโรคจิตทราม จิตเสื่อม

 

และน่าจะมีการสังเกตครูผู้สอนด้วยว่า การหมกมุ่นกับการสอนเพศศึกษามากเกินไป อาจเป็นผลเสียหายทางจิตอารมณ์ของครูผู้สอนเองก็ได้ เหตุที่มีจินตนาการอยู่แต่เรื่องเซกส์ และหากเป็นเช่นนั้นอันตรายจะเกิดแด่นักเรียนอย่างไม่คาดคิด

 

การพัฒนาการสอนเพศศึกษา ทุกวันนี้ที่ควรระวังไว้ก่อนก็คือ ตื่นหลงไปในแนวทางวัตถุนิยม ถ้าเราสอนเด็กโดยไม่คำนึงคุณค่ารักนวลสงวนตัว สอนปลุกจินตนาการทางกามให้พลุ่งโพลงขึ้นมา เช่นสอนว่า "คุณจะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ๆ ว่า ป้องกันได้หรือไม่" แล้ว นั่นแหละคือแนวคิดวัตถุนิยม แล้วในที่สุดก็จะพัฒนาไปสู่ลัทธิธรรมเนียมชนิดหนึ่ง ซึ่งเคยมีมาก่อนแล้วในประวัติศาสตร์ศาสนาสากล คือลัทธิการสอนในครอบครัว พ่อสอนลูกสาว แม่สอนลูกชาย ครูสอนลูกศิษย์วัยรุ่น ๆ ต่อไปก็เกิดลัทธิชุมชนขึ้น ในชุมชนหนึ่งจะมีปู่แก่ของชุมชน ที่เป็นผู้รู้ดีในเรื่องเพศศึกษา พอเด็กสาว ๆ โดขึ้น พ่อแม่ก็จะถือเป็นภาระหน้าที่ นำตัวบุตรสาวไปเรียนเพศศึกษา-เพศสัมพันธ์ จาก ปู่แก่ แม้ในยุคปัจจุบันนี้เราก็ได้พบเห็นลัทธิเช่นนี้ในหมู่ชนกลุ่มน้อยบางกลุ่ม

 

ต่อไปก็มีนักบวชพราหมณ์ ผู้รู้ดีเรื่องเพศศึกษาที่สามารถผสมผสานรสนิยม 2 อย่างเข้าด้วยกันได้ คือรสนิยมแบบวัตถุนิยม กับรสนิยมแบบจิตนิยม โดยเอาการเรียนรู้ทางเพศผสมเข้ากับลัทธิความเชื่อ เช่นเชื่อเรื่องการถวายความบริสุทธิ์ต่อเทพด้วยการร่วมเพศกับศิวลึงค์(คิดเอาว่าร่วมเพศกับพระศิวะ)นั้น ก็เป็นรสสูงสุดทางเพศสัมพันธ์

 

ในประเทศอเมริกาทุกวันนี้ ส่วนใหญ่มีรสนิยมเดียวคือรสนิยมแบบวัตถุนิยม ซึ่งยังเป็นรสที่หยาบกระด้างทางเพศสัมพันธ์อยู่ และพวกเขาเริ่มจะเรียนรู้ที่จะเอารสนิยมแบบจิตนิยมเข้ามาผสมผสาน เห็นได้จาก เด็กวัยรุ่นอเมริกันยุคนี้ที่เริ่มทดลองเสพกามแบบแปลก ๆ ไปเรื่อย ๆ จนพบรสนิยมแบบใหม่สุดคือฟรีเซกส์ขึ้น ดังได้เห็นในภาพสารคดีเชิงข่าวมาแล้ว มีการนัดหมายเสพกามแบบฟรีเซกส์กันขนาดใหญ่ในท้องทุ่งกว้างใหญ่ ซึ่งไปไกลมากแล้ว แต่ก็ยังไม่ไปถึงจุดสูงสุดของรสกาม ตามทฤษฎีของลัทธิศาสนาที่เคยค้นพบมาก่อนโดยวิธีผสมผสานระหว่างวัตถุนิยมกับจิตนิยม โดยเอาธรรมเนียมลัทธิปฏิบัติจิตมาผสม เพื่อพัฒนาอารมณ์กาม ราคะตัณหาให้ค่อย ๆ ประณีตไปเรื่อย ๆ (กามสูตรของฮินดูบางลัทธิ) ซึ่งมีตัวอย่างพอเห็นได้ในปัจจุบัน คือลัทธิโอมชิรินเกียว ในญี่ปุ่น(ที่เห็นภาพทางข่าวทีวีบ้าง สารคดีบ้าง) การเข้าภวังค์เคลิบเคลิ้มไปเช่นนั้นจะนำไปสู่จุดหมายปลายทางคือกามตัณหาอันประณีต ที่สิ้นสุดลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์หรือการร่วมเพศอย่างมีรสนิยมผสมผสานวัตถุนิยมกับจิตนิยมดังกล่าวซึ่งเป็นจุดสุดยอดของรสนิยมทางกามารมณ์ในโลกนี้หรือสวรรค์

 

รสนิยมผสมระหว่างวัตถุนิยมกับจิตนิยม(ลัทธิฝึกจิต) เช่นนี้เอง ที่สามารถสร้างขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยวิธีการของลัทธิศาสนาดังกล่าว ซึ่งฝ่ายวัตถุนิยมที่ยังล้าหลังกว่า กำลังพัฒนาไปในแนวทางนั้น แต่ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา ย่อมทราบดีว่า พระพุทธศาสนานิยามลัทธิเช่นนั้นว่า เป็น มิจฉาทิฏฐิ เพราะความสุขที่แท้จริง ต้องมีจิตที่เป็นนายของตัณหา มิใช่ทาสของตัณหา แต่ต้องเป็นอิสระจากกามตัณหาโดยสิ้นเชิง ฉะนั้น เราจะต้องตัดไฟเสียแต่หัวลม คือ อย่าให้เรื่องกามตัณหากลายเป็นค่านิยมในสังคมขึ้นมา เพราะเมื่อกามตัณหากลายเป็นค่านิยมแล้ว ก็จะเกิดกระบวนการศึกษา ทดลอง วิเคราะห์วิจัยทางกามกันอย่างมโหฬารยิ่งใหญ่ และจะเป็นสาขาวิชาที่เรียนรู้ไปอย่างไม่รู้จบไม่รู้อิ่ม สังคมก็จะพูดกันแต่เรื่องเซกส์ เราไม่ประสงค์ให้สถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นในดินแดนศาสนาพุทธ เพราะอาจกระทบไปถึงสถาบันศาสนาต่อไป

 

 

 

 

 

 102 รำไทยไม่เจือกาม

รำถวายพระพร

ช่อง 7 ศุกร 9 ส.ค. 45 0700 น.

 

นักเรียนมัธยมหญิง 5 คน ชุดไทย นุ่งโจงกระเบน เหลืองทองระยิบระยับ ห่มช่วงบนด้วยเสื้อแพรขาว ไร้แสงสะท้อน เย็นสนิท เข็มขัดเงินแบนกว้าง ดูพราวตา มีสายสะพายเล็ก ๆ พาดเฉียงบ่า ทำให้ดูสง่างาม มงกุฏทอง 3 ชั้น แซมด้วยดอกหญ้า เวลาเคลื่อนไหว ดอกหญ้าก็ไหวระรัวระริ้ว น่าชมมาก มงกุฏบอกถึงศักดิ์ว่าอยู่ระดับยุพราช เหมาะพอดีสำหรับยุวนารี นักเรียนรุ่นนี้ รำบนเวทีที่จัดฉากดูโปร่งตา ให้ความรู้สึกว่าเลื่อนลอยไปในสวรรค์ เสียงขับสดุดี ฟังไพเราะมาก สิ่งที่น่าชม มิใช่เพียงรูปธรรมแห่งศิลป แต่เป็นนามธรรม คือ ให้จินตนาการอย่างไร อันเป็นสิ่งที่สร้างความบรรเจิดจ้าแด่ภาคความคิดจินตนาการของบุคคล อย่างยิ่งใหญ่ รำอยู่ประมาณ 10 นาที

 

แล้วโรงเรียนอื่น ๆ รำต่อ นี่คือรำไทย รำที่ต่างจาก การเต้นรำดนตรีของอเมริกัน และตะวันตกส่วนมาก และนั่นคือ วัตถุนิยม

 

สิ่งที่บอกความแตกต่างอย่างเป็นหลักการที่แตกต่างโดยชัดเจนก็คือ รำไทย ไม่มีเจือด้วยกามเลย (คือไม่มีการกระตุ้นกามารมณ์) แต่ระบำ เต้นรำวัตถุนิยม จะเอากามารมณ์เป็นเป้าหมาย การร้องการรำการเต้น ของอเมริกันและตะวันตกจะเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการยั่วยุ กระตุ้นให้เกิด กามารมณ์ทั้งสิ้น เพราะทฤษฎีของพวกเขาคือ ความสุขเกิดจากกาม ไม่มีความสุขใดล้ำเลิศไปยิ่งกว่าความสุขเพราะกาม นั่นคือ อันตราย ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในสัจธรรมว่าด้วย กามตัณหา

 

คนไทยที่รู้สัจธรรมนี้ จึงพยายามเลี่ยงกาม แม้ในการร้องการรำ(ซึ่งเป็นเรื่องของกาม)ก็พยายามวางแบบฉบับ ให้ได้เสพความสุข จาก ความสงัดจากกาม จากความเย็น ความดับ ความมอดไปแห่งราคะตัณหา จากความสุขุมเยือกเย็นแห่งธรรมารมณ์ และ จากจินตนาการอันเพริศแพร้วแห่งคุณงามความดี ซึ่งในที่นี้ก็คือ ความจงรักภักดี หรือนัยหนึ่งสะท้อนคุณธรรมแห่งคนดี คือ ความกตัญญู กตเวทิตาคุณ แด่ผู้ทำประโยชน์ให้แก่ตน แก่ประเทศชาติ นั่นเอง นี่เป็นทางแห่งความสุข และสอดคล้องวิถีธรรมแห่งศาสนามนุษย์ คือ พระพุทธศาสนา

 

น่าภาคภูมิใจที่คนไทยมีสำนึกที่ถูกต้องเช่นนี้ อันเป็นทางรอดอยู่ ในขณะที่คนอื่นหมู่อื่นยิ่งร้อนรนขึ้นไปทุกที ๆ (เพราะมิจฉาทิฏฐิเรื่องกาม) เมื่อท่านลองคิดต่อไปว่า วัฒนธรรมการแต่งกายอย่างไรเป็นวัฒนธรรมวัตถุนิยม และอย่างไรเป็นวัฒนธรรมไทยแท้ วัฒนธรรมของคนที่มีศาสนา และแตกต่างกันในความหมายอย่างไร ? ก็จะได้คำตอบเดียวกันนี้ คือการแต่งกายที่ยั่วยุ มีเป้าหมายกระตุ้นทางกามารมณ์ นั่นคือ วัฒนธรรมวัตถุนิยม ส่วนไทยแท้ มีการแต่งกายนุ่งห่มที่เรียบร้อย ไม่อวดเนื้อหนังมังสา หรือเปิดเผยวับ ๆแวม ๆ อันส่อเจตนากระตุ้นกามารมณ์ให้เรืองแววขึ้น นั่นคือ วัฒนธรรมการแต่งกายแบบไทยแท้ ไทยพุทธ ไทยอิสลาม ไทยคริสต์ ก็แล้วแต่

 

 

 

 

 

 103 ฟ้าหญิงทรงดนตรีที่เมืองจีน

ช่อง 11 อาทิตย์ 18 ส.ค. 45 1930-20.20 น.

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จประเทศจีนระหว่างวันที่ 14-27 ส.ค.2545 รายงานข่าวของช่อง 11 ถ่ายทอดสดจากเมืองจีนวันนี้ ทรงร่วมแสดงดนตรีกับวงซิมโฟนี่ออเคสตราปักกิ่ง โดยทรงกู่เจิ้ง ดนตรีในราชสำนักจีนโบราณ 2,000 ปีมาแล้ว ในรายการ สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน ณ โรงละคร โพลี่เธียรเตอร์ กรุงปักกิ่ง เป็นประวัติศาสตร์พระราชวงศ์ไทย วงซิมโฟนี่ออเคสตราปักกิ่ง บรรเลงเพลง ไทรโยคคอนแซโต้ ระบำเพาอี้ และ สายสัมพันธ์2แผ่นดิน ซึ่งแต่ละเพลงประทับใจผู้ชมเป็นอย่างยิ่งด้วยเสียงปรบมือสนั่นหวั่นไหวเนิ่นนาน เครือข่ายโทรทัศน์จีน ถ่ายทอดการแสดงดนตรีครั้งนี้ไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และสำหรับชาวไทย-จีนแล้ว ต่างก็เฝ้ารอคอยวันนี้มาอย่างใจจดจ่อ เพราะเฝ้าติดตามมาตั้งแต่ทรงเสด็จไปซ้อมกู่เจิ้งหลายครั้งที่ประเทศจีน จนออกรายการจริงวันนี้

 

นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศไทย ที่เดินทางไปพร้อมภริยา เพื่อร่วมในการแสดงคราวนี้ ได้แสดงสุนทรพจน์ก่อนทรงดนตรี ชื่นชมและยินดีต่อสัมพันธภาพไทยจีนที่นับวันจะดีขึ้นไปในอนาคต มีทูตานุทูตประเทศต่าง ๆ และบุคคลสำคัญของประเทศจีนมาร่วมชมการแสดงด้วย จนแน่นโรงละคร เห็นได้ว่าทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เดี่ยวเครื่องดนตรีโบราณอย่างกู่เจิ้งได้ไพเราะมาก สมกับเสียงปรบมือสนั่นเป็นเวลานาน อันเป็นเครื่องหมายว่า ได้ทรงชนะใจคนแผ่นดินใหญ่อย่างจีนไปโดยสิ้นเชิง

 

เพลงที่ไพเราะมาก ๆ ก็คือ Two Land One Hearth หรือ สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน ซึ่งมีเนื้อเพลงตอนสำคัญว่า "ถึงแม้ไม่มีแผ่นดินใกล้กัน เชื้อชาติพงษ์พันธ์อาจต่างกัน สัมพันธ์สายใยสองแผ่นดิน ไม่มีวันสุดสิ้นแน่นแฟ้น" ซึ่งทำให้บรรยากาศตรึงใจมาก และเมื่อเสียงขลุ่ยของศิลปินจีน แผ่วแว่วรับกับบรรยากาศ รับกับ ไวโอลินทั้งแผง พร้อมเสียงขับประสาน ดูอลังการยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นการแสดงในโลกดนตรี เห็นได้ว่าทรงอย่างระมัดระวังและรอบคอบ ทั้งมีสติเปรื่องปราดมาก ทรงชุดไทยพระราชนิยม เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว

 

เมื่อการแสดงเสร็จสิ้นลง รัฐบาลจีนได้ประกอบพิธีสดุดีพระเกียรติคุณอย่างสูง เฉียนฉีเฉิน รองนายกรัฐมนตรีจีน เป็นผู้ถวายกระเช้าดอกไม้ 3 กระเช้า นายซุนเจียเสิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ถวายรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในกิจการด้านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ทรงตรัสว่า ตนตรีจีนมีหลากหลาย และ ดนตรีไทยก็หลากหลาย แล้วมีการดื่มฉลองความสำเร็จร่วมกันระหว่างไทย-จีน จะทรงแสดงต่ออีก 2 เมือง คือซีอาน และเซี่ยงไฮ้ วันที่ 27 ส.ค.2545 จึงทรงเสร็จสิ้นภาระกิจ จีนยอมรับว่าเป็นการสร้างเกียรติภูมิแห่งความเป็นไทยสำเร็จ ทรงเป็นไทยมีศักดิ์ศรีไทย จะร่วมกันสร้างคุณค่ามนุษย์ทางศิลปวัฒนธรรมต่อไป จบข่าวด้วยทรงร่วมร้องเพลง รักไทย

 

 

 

  • ดีเล่มที่26

 

 

 

 

 

 104 ดี27/ต.ค.-พ.ย.2545

เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว

ต่อต้านเอดส์ต่อต้านอนารยธรรม

โดย คอมพิวเตอร์แมนและ บูดามี

 

 

 

 

 105 สงฆ์เรียกร้องกระทรวงพระพุทธศาสนา

ก่อนจะถึงวันจันทร์

ช่อง 9 อาทิตย์ 22 ก.ย. 45 21.40-22.30

 

อนุชิต จุรีเกษ นิมนต์พระคุณเจ้าผู้มีชื่อเสียง พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือสมญา หลวงปู่พุทธอิสสระ (ท่านยังหนุ่ม อยู่ เคยลาสิกขา แล้วมาบวชใหม่ เพื่อให้พรรษาน้อยลง) วัดอ้อมน้อย จ.นครปฐม กรณีสงฆ์เดิน ขบวนเรียกร้องกระทรวงพระพุทธศาสนา ข้อสรุปของรายการลงว่า "ท่านคิดได้แค่นั้น" จึงทำอย่างนั้น อาจจะไม่เป็นธรรมนัก เพราะการมองพระสงฆ์ ในองค์รวมและในรูปสถาบันสงฆ์ทุกวันนี้ มีความสลับซับซ้อนมาก จนแม้กระทั่งพระสงฆ์รูปหนึ่งเองก็ยังคงงงกันอยู่ ว่าอะไรเป็นอะไรในวงการสงฆ์

 

หากเราไม่มององค์รวมสงฆ์ และแยกวิเคราะห์เครือข่ายที่สลับซับซ้อนและความสัมพันธ์ของ เครือข่ายภายนอกภายในอย่างไรแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้พลาดไป ไม่เป็นธรรมได้ ท่านจะเห็นว่า การมองของพระสงฆ์สองฝ่ายในกรณีนี้ไม่ตรงกัน ลองจับเครือข่ายใหญ่ๆ ดูก่อน ทางการปกครอง กฎหมายเป็นผู้กำหนด แต่คนมองไม่เห็นว่า ถูกหรือไม่ถูกตามพระธรรมวินัยอย่างไร พอบริหารไปตามกฎหมาย คนกลับไม่เข้าใจเหตุผลทางกฎหมายที่ต้องเป็นไปเช่นนั้น

 

เอาการมองทางพระธรรม วินัย มาตัดสินวิถีทางกฎหมายบ้าง เอาการมองทางกฎหมายมาตัดสินวิถีทางพระธรรมวินัยบ้าง

 

 

 

 

 106 ใบสั่งให้ข่มขืนในพม่า

สี่แยกข่าวไอทีวี

ไอทีวี อังคาร 24 ก.ย. 2545 0845 น.

 

วราพร สมพงษ์พูดถึงเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีขึ้นในโลกยุคนี้ คือเรื่อง Licence to rape ใบสั่งให้ข่มขืน และเป็นเรื่องที่ เกิดขึ้นใกล้ๆประเทศไทยเรานี่เอง เดิมมีผู้เขียนเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษ ชื่อนี้ :Licence to rape เผย แพร่ไปในโลกตะวันตก แล้วนักข่าวหญิงไทยเครือเนชั่นสองคนได้ติดตามกรณีสำคัญกรณีหนึ่งไปยังสถานที่เกิด เหตุแล้วได้พบว่าเป็นเรื่องที่มีความจริงอยู่อย่างมากจนสามารถพูดได้ว่า ไม่ใช่ เพียงการข่มขืนธรรมดา แต่เป็นการข่มขืนแบบทารุณ และโดยถูกต้องตามกฎหมาย คือมีใบสั่งการ ให้กระทำได้

 

 วันนี้ ไอทีวีได้เชิญสองนักข่าว สาว 2 คน จ้าของเรื่อง ผู้ได้ทำการศึกษาจากเรื่องราวภาษาอังกฤษ แล้วร่วมกันบุกเบิกไปพิศูจน์ความจริงที่ หมู่บ้านไทยใหญ่ชายแดนพม่า เธอคือ เพ็ญนภา หงษ์ทอง และ สุภัตรา ภูมิประภาส เธอทั้งสองเล่าว่า ได้พบหญิงไทยใหญ่คนหนึ่งซึ่ง บัดนี้ยังมีชีวิตอยู่กับบุตรอายุแปดเดือน เล่าเหตุการณ์ได้ตรงตามที่ปรากฎในหนังสือ Licence to rape ยืนยันว่า ได้ถูกทหารทั้งกองพันข่มขืนอย่างทารุณจริง โดยบุกเข้าไปในหมู่บ้านและจับ สามีเธอมัดเอาไว้ใกล้ๆพอให้ได้ยิน แล้วทหารผลัดกันข่มขืนตั้งแต่เวลาเช้าของวันนั้นไปโดยไม่หยุดจนถึงตีสี่จึงปล่อยตัวไป และพบว่าสามีถูกนำตัวไปสังหารแล้ว ขณะนั้นเธอมีครรภ์หกเดือนแล้ว(คือเด็กชายอายุแปดขวบขณะนี้) และยังได้พบกรณีตัวอย่างที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจนอีกมาก

 

เรื่องราวของประเทศพม่า น่าจะบอกให้รู้ว่ามีความแค้นเคืองกันระหว่างคนต่างเผ่าพันธ์ที่ลึกซึ้ง ซึ่งต่างก็คงได้ตอบโต้กันไปมา ด้วยการเพิ่มการกระทำตอบโต้ที่ลึกซึ้งยิ่งไปกว่าเช่นเดียวกัน แต่เราก็ดู เหมือนว่าจะหาข้อสรุปที่ถูกต้องของชาวพม่า หรือทหารพม่า และการปกครองของพม่าได้ไม่ค่อย ถูกต้องตรงความจริงนัก แม้กระทั่งประวัติศาสตร์ของพม่า ในส่วนที่มาเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ก็เช่น เดียวกัน ข้อที่น่าฉงนที่สุดก็คือ พม่าได้ชื่อว่าเมืองพระพุทธศาสนา ที่มีชื่อเสียงปรากฎไป ทั่วโลก มีสัญญลักษณ์ที่โลกรู้จักก็คือ พระมหาเจดีย์ชะเวดากอง พระสงฆ์พม่าก็มีภูมิธรรมปัญญา สูงในด้านวิปัสนากรรมฐานจนแบบอย่างการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานบางอย่าง เช่นแบบยุบหนอพองหนอ ได้ แพร่หลายมาถึงประเทศไทย และพระสงฆ์หลายสำนักในประเทศไทยได้เอาแบบอย่างมา ปฏิบัติตามอยู่ทุกวันนี้ก็มี ที่สำคัญ ยังมีพระอาจารย์ฝ่ายวิปัสนาธุระที่มีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน ดัง ปรากฎว่านางอ่องซานซูจี ได้เคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนคารวะท่านภายหลังทางทหารปล่อยออกมา จากการกักกันตัวครั้งล่าสุด แต่ทำไมพฤติกรรมที่เหี้ยมโหดไร้ศีลธรรมเช่นนี้จึงปรากฎขึ้นบ่อย ๆ

 

กรณีเช่นนี้คนไทยเองก็ย่อมเคยเห็นในประวัติศาสตร์ เช่นสมัยกรุงศรีอยุธยาพ่ายแก่พม่า ๆ สุมไฟ รุมลอกทองไปจากพระพุทธรูป ทำลายวัดวาอารามและศาสนสถานแห่งพระพุทธศาสนา ดังปรากฎพยานหลักฐานอันชัดเจนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสืบมาตราบเท่าทุกวันนี้ จึงนับว่าเป็นสิ่งที่น่าชมเชยที่นักข่าวทั้งสองได้พยายามติดตามศึกษาเรื่องราวที่ลึกลับซ่อนเร้นของพม่าออกมา และน่าที่นักประวัติศาสตร์ ชาติไทยจะได้เอาใจใส่ศึกษาติดตามเรื่องราวของพม่าอย่างจริง ๆ จัง ๆ บ้าง เพื่อประโยชน์ทางยุทธศาสตร์การสัมพันธ์ระหว่างประเทศกรณีชาติและศาสนาได้อย่างถูกต้องสอดคล้องซึ่งกันและ กันยิ่งขึ้นระหว่างไทยกับพม่า

 

 

 

 

 

  107 น้ำใจไทยช่วยภัยน้ำท่วม

ช่อง 9 เสาร์ 28 ก.ย. 45 21.00 น.

 

รายการสดวันนี้ เป็นรายการของ รัฐบาล และ รัฐสภาร่วมกัน มีผู้บริจาคเมื่อจบรายการเวลา 0100 น. เป็นเงินถึง 70 กว่าล้านบาท ซึ่งน่าจะ เป็นสิ่งที่บอกเหตุอย่างหนึ่งต่อความพอใจเลื่อมใสในรัฐบาลทักษิณด้วยมีรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภา มาร่วมงานคับคั่ง เช่น ท่านประธานวุฒิสภา พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร และทั้งคนในรัฐบาลหลายคนมารับโทรศัพท์ เช่น ท่านกร ทัพพะรังษี ท่าน สิริกร มณีรินทร์ ท่าน สุวัจน์ ลิปตพัลลภท่าน ลดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ ท่าน นิกร จำนง ท่าน สรอรรถ กลิ่นประทุม ท่าน จาตุรนต์ ฉายแสง ท่านสมบัติ อุทัยสาง ท่านประวิทย์ มาลีนนท์ ท่านประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ท่านเสนาะ เทียนทอง ท่านสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ท่านดำรง พุฒตาล ท่าน กรรณิการ์ ธรรมเกสร และอีกมากมายทั้ง ส.ว. และ ส..ส.

 

นอกจากมีการรับบริจาคแล้ว ยังมีการ ประมูลของรักของหวงของ8รัฐบุรุษยุคปัจจุบัน มีหลวงพ่อทวดของ รมว.สุวัจน์ ลิพตพัลลภ ภาพ เดิมต้นแบบหรือที่พิธีกรว่าเป็นภาพออริจินัลของพระพุทธองค์ปางผจญนางมารทั้ง3 ของท่านรองนายกรัฐมนตรี กร ทัพพะรังษี ชุดไม้กอลฟเก่าแก่ของท่านอดีตนายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปะอาชา สร้อยพระร่วงรางปืนของประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เสนาะ เทียนทอง

 

สร้อยคอพร้อมเหรียญทรงยินดี ร.5 ของท่านอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ของท่านประธานวุฒิสภา พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร แจกันHandmade ชิ้นเดียวในโลก ของฝากจากปักกิ่ง ของท่านประธานรัฐสภา อุทัย พิมพ์ใจชน และรายการสุดท้ายเป็น เข็มกลัดเพชรแท้ของ นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นของแพงมาก ท่านเองบอกว่าห้ามข้าราชการประมูลเป็นอันขาด ให้เฉพาะนักธุรกิจประมูล ทั้งหมดประมูลได้เงินถึง 6 ล้านบาท เมื่อ 24.50 น.ก่อนปิดงานรวม ยอดบริจาคทั้งสิ้น 70 กว่าล้าน

 

 

 

 

 

 108 เทศกาลกินเจ

ช่อง 7 ศุกร 9 ต.ค. 45 0700 น.

 

เป็นรายการของจังหวัดภูเก็ตและตรัง ขณะที่หนองคายมีเทศกาลออกพรรษาของพญานาค ๆ ออกมาพ่นไฟกลางลำน้ำโขง ทุก ๆ ปีในวันออกพรรษา (ปีนี้ 21 ต.ค. 2545) เพื่อบูชาพระพุทธองค์ ทั้งสองเทศกาลนี้ มีความคล้ายคลึงกันในด้านความเชื่อ ทางฝ่ายกินเจมีขบวนม้าทรงของเทพเจ้ามากระโดดโลดเต้นไปตามถนนหนทาง เอาเข็มเอาของแหลมแทงตามเนื้อตามตัวตามกระพุ้งแก้ม เสียบทะลุจากแก้มซ้ายไปแก้มขวา ปาดลิ้นตนเองแดงฉานบ้าง อันเป็นผลจากความเชื่อ มีการทรงไปด้วยอำนาจความเชื่อ ด้วยอำนาจความอยากโอ้อยากอวด อยากดังและเพื่อการอยู่รอด แล้วเขาก็ทำได้ไปแบบนั้น สิ่งที่เขาทำได้ก็ ทำได้ เท่าที่ทำได้ หลายปีที่ผ่านมาก็ทำได้แค่นี้ทำอยู่อย่างนี้ อะไรที่เป็นสาระมีภูมิปัญญาสูงไปกว่านี้ ม้าทรงเหล่านี้หารู้ไม่ แต่ทำเป็นประเพณีมาที่สนับสนุนงานถือศีลกินเจปฏิบัติตนให้บริสุทธิ์ เป็น การยอมตนของเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายเพื่อแสดงความเคารพนับถือบูชาพระพุทธองค์อีกวิธีหนึ่ง เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ดีเรื่องเทพเจ้ามาทรงเจ้าหรือม้าทรงเหล่านี้ เมื่ออ้างศาสนาพุทธ อ้างการถือศีลกินเจนี้ น่าจะพอเชื่อได้ว่า ไม่ใช่เรื่องจริง(คือไม่ได้มีเทพเจ้าจริง ๆ ลงมาร่วมขบวนแห่) แท้จริงมีเจตนาโฆษณาลัทธิศาลเจ้า และใช้ศาลเจ้าเป็นที่ทำมาหากิน อีกแบบหนึ่ง เป็นพิธีกรรมที่นำไปสู่เงิน เพื่อการหางินหาทองอีกแบบหนึ่งของนักธุรกิจลัทธิเท่านั้นเอง ชาวพุทธจริง ๆ ไม่ควรสนับสนุนในส่วนของลัทธิศาลเจ้านี้ ด้วยการติดตามรู้เท่าทันการหลอกลวงของลัทธิศาลเจ้านี้ เช่นเดียวกับยุคปฏิวัติวัฒนธรรมในจีน เพราะลัทธิศาลเจ้านี้เป็นลัทธิที่เล็ดลอด รอดไปจากการปฏิวัติ วัฒนธรรมของประธานเหมาเจ๋อตุงแห่งแผ่นดินใหญ่จีนยุคนั้น เพราะหลบหนีไปสู่จีนใต้หวันได้ทัน ไม่งั้นก็คงสิ้นสายพันธ์เทพเจ้า ไปแล้ว ยังหลงเหลืออยู่ก็แต่ในจีนใต้หวันและเผยแผ่มาสร้าง ความสับสนทางศาสนาในไทยขณะนี้ แล้วมีแนวโน้มว่าจะขยายกิจการออกไป จึงน่าที่รัฐจะจับตา มองบ้าง โดยนำวิธีการปฏิวัติวัฒนธรรมจีนใหญ่มาเป็นหลักในการพิจารณา

 

 

 

 

 

 109 ผจญภัยไร้พรมแดน

ช่อง 5 เสาร์ 5 ต.ค. 45 21.45 น.

 

วีระ นุตยกุล นักผจญภัยไทย วัยประมาณ 50 ยังคงพาร่างอันทรหด พร้อมสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดทันการณ์ทันโลกของเขา เที่ยวไป ขณะนี้ ดูเหมือนว่า ไม่มีที่แห่งใดในโลกที่เขาไม่ได้เหยียบย่างไป นับว่าเป็นคนไทยที่ เก่งมาก ๆ คนหนึ่ง ที่จะกลายเป็น ประวัติศาสตร์ต่อไป วันนี้เขามาใกล้ ๆ มาติดตามเรื่องราวของ วีรบุรุษไทย ในยุทธการบ้านหล่มเล้า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปี พ.ศ.2508 เรื่องราวของวีระ นุตยกุล น่าจะออกเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้เด็ก ๆ เยาวชนได้ดูแบบอย่างวีรบุรุษคนไทย ที่กล้าหาญเชี่ยวชาญอาจท่องไปได้อย่างสบาย ๆ ทั่วโลก ให้เยาวชนได้เรียนรู้จากเขาผู้นี้และรู้จัก การสังเกต วิธีการ บุคลิกภาพ เพื่อเอาอย่างการเอาตัวรอดและความสามารถในการทำงาน การ ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ทุกชนิดในโลกโลกานุวัตน์ ซึ่งคนไทยโดยรวมจะต้องเพิ่มให้มากขึ้นๆ

 

 

 

 

 

 

 110 ข่าวศิลปวัฒนธรรมและการบันเทิง

ช่อง 11 อังคาร 8 ต.ค.,45 19.50 น.

 

รายงาน รจเรข กานต์โกศล งานเพชร พันล้านที่ไฮแอทรามา ราคาเครื่องประดับแต่ละอย่างล้านบาท ขึ้นไป จนน่าคิดว่าไม่ใช่เครื่องประดับกายอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่นำมาแสดงเพื่อการโอ้อวด เพื่อเพิ่มพูนอำนาจฝ่ายสตรี และวัตถุนิยมฝ่ายสตรีมากขึ้น

 

เทศกาลกินเจ เล่าความเป็นมาของเทศกาลกินเจที่ภูเก็ตและตรัง เป็นเรื่องปะรำปะราน้ำเน่าอย่างยิ่ง ว่าในแผ่นดินใหญ่จีนครั้งหนึ่งมีสงคราม แล้วพวกแมนจูประหารชีวิตบรรพบุรุษของคนจีนกลุ่มหนึ่งรวม 9 คนบรรพบุรุษก็ไปเกิดเป็นเทพเจ้า 9 องค์บนสวรรค์ต่อมาคนทรงก็นำมาขยายผล ทำมาหากินด้วยการหลอกลวงคนทั้งหลายสืบมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อเผยแผ่มาในไทยคนไทยก็ยังงมงายอยู่

 

ฉะนั้นจึงเป็นประเพณีในเทศกาลกินเจ ภูเก็ตก็ดี ตรังก็ดี วันแรกก็จะเริ่มด้วยการอัญเชิญเทพทั้ง 9 องค์ลงมาสู่โลกนี้แล้วเมื่อเสร็จงานเทศกาลในวันที่10 วันสุดท้าย ก็จบลงด้วยพิธีการส่งเจ้ากลับขึ้นสวรรค์ นี่คือส่วนที่งมงายใน วัฒนธรรมกินเจ น่าศึกษาว่าทำไมจึงโดนปฏิวัติกวาดล้างไปเสียเกลี้ยงในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมจีน แต่กระนั้นยังมีเหลือเล็ดรอดมาสู่ไทยอีกส่วนหนึ่ง และเริ่มเผยแผ่ความงมฃงายนี้ต่อไปในไทย น่า พิจารณาในเรื่องวัฒนรรมของชาติไทยยุคใหม่อย่างยิ่ง

 

 

 

 

 

 111 สบาย ๆกับ อ.สุพัตรา สุภาพ

ช่อง 5 พุธ 9 ต.ค. 45 10.00-10.45น.

 

อ.สุพัตรา สุภาพ พูดเรื่องเกี่ยวกับเด็กได้น่ารับฟังมาก มีผลงานการวิจัย และการศึกษาพฤติกรรมจริงมา ประกอบเหตุผล

 

ประการแรก เรื่องพ่อแม่ควรมีเวลาให้ลูกบ้าง อย่าให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยง จนติด พี่เลี้ยง

ประการที่สอง อ.สุพัตรา ว่า สมาธิเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่มีสมาธิ จะเรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่สำเร็จ ควร ฝึกสมาธิแต่เด็ก ๆ

ประการที่สาม พูดเรื่อง การอ่านหนังสือ ต้องให้ฝึกอ่านหนังสือ ตั้งแต่เด็ก ๆ

ประการที่สี่ เด็กไม่มีระเบียบวินัย สู้ยอมเหนื่อย ยอมลำบากเสียวันนี้ วันหน้าจะสบาย เสีย เหงื่อดีกว่าเสียเลือด ลงว่าผู้ที่ฝึกตนได้เป็นผู้ประเสริฐ

ประการต่อไป โสเภณีเด็กเกิดขึ้น ได้เพราะ เสนอและสนอง มีสองอย่างจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเคยศึกษากรณีโสเภณีเด็ก มีกลุ่มผลประโยชน์ ไปเอาเด็กมาเลี้ยงเป็นลูก แต่แฝงเจตนาทุจริตไว้อย่างแนบเนียนเด็กทั่วไป เสียตัวให้แฟนผู้ใกล้ชิดก่อน แล้วไปขายตัว เห็นว่าได้เงิน อีกพวกหนึ่งเห็นเรื่องเซกส์เป็นเรื่องปกติร่วมเพศได้ปกติ

อีกประการหนึ่ง ผู้ใหญ่เห็นเป็นยากระชุ่มกระชวยของชีวิต โสเภณีเด็กน่าคิดว่าสะท้อนถึงสังคม ว่าเสื่อมขนาดไหน ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้อยู่ที่เรากำหนด

 

เรื่องยาเสพติด เด็กวัยรุ่นติดมาก ขึ้น ทำ ให้การเรียนตก อย่าเชื่อว่า กินแล้วจะทำงานดี เพื่อนดี ๆ คบเถิดเขาไม่พาไปเสีย เด็กติดยาเสพติดเริ่มจากบุหรี่ก่อนแล้วอยากลองย่างอื่นต่อไป อย่าให้ลูกเห็นตัวอย่าง อย่าให้เห็นว่า การสูบบุหรี่เป็นเรื่องเล็กน้อย โรงเรียนในชุมชนแออัดติดยาเสพติดมาก โรงเรียนดี ๆไม่มียาเสพติดหรอก อย่าติดเองแล้วให้เด็กติดด้วย มักเริ่มด้วยเพื่อนฝูงอยากรู้อยากลอง อย่าลองกับสิ่งชั่ว ลองสิ่งดี ปราชญ์ย่อมแนะนำในสิ่งที่ควรแนะนำ

เรื่องยาระงับประสาท ยาระงับประสาทตำรวจก็ตาม ปราบปรามอยู่ เหมือนกัน ปัญหาเหมือนบุหรี่ คือเด็กมักอยากลองอยากแสดงความเป็นพวกเดียวกัน ควรระวังตัวอย่าลองเสพสิ่งชั่ว สิ่งที่ควรลองคือความดี ระงับได้เป็นสุข

ประการต่อไป พฤติกรรมก้าวร้าว น่าเป็นห่วง กรณีในอเมริกาเด็กดีถูกกลั่นแกล้งบ่อย ๆก็เลยกลายเป็นคนก้าวร้าว ถ้าเด็กพัฒนาการไปเป็นการเอาแต่ใจอยากได้อะไรต้องได้ กระทืบตีนเท้าแล้วได้ นี่จะทำลาย พฤติกรรมเด็ก เด็กทำผิดเพราะดูภาพยนต์ เห็นเอาช้อนซ่อมไปทำมีดก็ทำตามภาพยนต์ ใช้ผ้า คลุมหน้าเหมือนโจรใน โทรทัศน์

สื่อเป็นเรื่องสำคัญเด็กเอาอย่างเร็ว เราทำอย่างไรลูกก็เอาอย่าง เรา รุนแรงหรือไม่พ่อแม่ต้องให้ความรักความอบอุ่นที่พอเพียง ผู้มีสติอยู่เสมอย่อมไม่เดือดร้อน

เรื่องรับน้องใหม่ การเข้ามหาวิทยาลัย การรับน้องที่จริงเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ แต่อย่าทำจริง ๆ จัง ๆ เช่นบทโหด ๆเอา ไปว่ายน้ำจนตายไป อาจเป็นเพราะพี่เก็บกดมาแล้วมาลงกับน้องพวกเดียวคือส่วนใหญ่เป็นปี 2 ห่างกันเพียง1ปี ควรจะทำให้รุ่นน้องเกรงใจ ไม่ใช่เกรงกลัว ระวังอย่าทำ กิจกรรมมากเกินไป เพราะจะไม่มีเวลาเรียน อย่าไปสนุกในหลายมหาวิทยาลัย ห้ามนำไปต่าง จังหวัดน้องมีสิทธิ์ไม่ไปได้ อาจารย์ที่ปรึกษาต้องคอยดูลูกศิษย์ด้วย อาจารย์ที่ปรึกษาดีมีหน้าที่การรับน้องรับอย่างสร้างสรรค์ ผู้มีไมตรีจิตย่อมได้รับไมตรีจิตตอบ

ต่อไปเรื่องยาเสพติด ป้องกันไว้ก่อนด้วย

1. เล่นกีฬา

2. กตัญญู ถ้าติดยาพ่อแม่ท่านเสียใจหรือไม่ เรากตัญญูย่อมไม่ให้ท่านเสีย ใจ ต่อไปรักในวัยเรียน ต้องให้มีความเหมาะสมอย่าคิดว่าไม่เห็นเสียหายตรงไหน ถ้าเป็นนักเรียนเล็กเร็วเกินไป แต่ถ้าเป็นนักศึกษาก็ได้ เด็กม.1 ถามว่าจะมีคู่รักดีไหม ตอบการมาเรียนคือการเรียนหนังสือไม่ใช่มาหาคู่รักค่านิยมว่า ไม่เป็นไร ไม่ได้ น่าเกลียด อ.สุพัตรา เล่าว่า ท่านเองจบปี 4 ยังไม่มีแฟน ท่านว่าท่านเป็นคนตรงเกินไป ยอมรับว่าการจะเป็นแฟนกัน ต้องดูก่อนว่าช่วยกันเรียนหนังสือแล้วไม่เป็นไร

 

 

 

 

 112 นายกรัฐมนตรีพบนักธุรกิจญี่ปุ่น

ช่อง 11 พุธ 9 ต.ค. 45 14.00

นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร พูดให้นักธุรกิจญี่ปุ่นฟังสด ๆ ที่สะท้อนนโยบายของรัฐบาลไทยต่อการ ธุรกิจ ยุคทักษิณอย่างไร คำถามท้ายรายการของนักธุรกิจญี่ปุ่น ค่อนข้างยาว และฟังไม่ทราบเนื้อ ความ เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น ท่านนายกตอบ เป็นภาษาไทยว่า เรื่อง จีนกับเอเซีย ที่ตกลงกัน 10 ปีนั้น นานเกินไป ท่านรอไม่ได้ เพราะถึงเวลานั้นท่านก็ แก่ไปเยอะ ฉะนั้นเมื่อท่านมีโอกาสได้ พบ จูหลงจี นายกรัฐมนตรีจีนอีกครั้งท่านจึงเร่งเลยว่าจะเริ่มเดี๋ยวนี้ เอาเฉพาะไทย-จีน บางเซกเตอร์ก่อน ฉะนั้นต้นปี 46 ไทย-จีนจะเริ่มบางเซกเตอร์เล็ก ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับใคร แต่พอทำได้เฉพาะตัว การค้าขายระหว่างประเทศก็มีบ้างเป็นธรรมดาที่มีการแข่งขันกันบ้างและเป็นมิตรร่วมค้ากันบ้างแบบเป็น Subcontract หรือ outsource แล้วสรุปว่า ในอนาคตการบริหารประเทศจะบริหารโดยหลักการบริหารธุรกิจจะเป็น Economy of skill เอาหลักเศรษฐกิจเอกชนมาใช้กับเศรษฐกิจต่างประเทศ

 

จะเห็นว่า นี่น่าจะเป็นวิถีทางการทำเงินของรัฐบาลทักษิณ คำว่า Skill น่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญ เมื่อมองนโยบายการปฏิรูประบบราชการไทย ที่เพิ่งทำเสร็จหมาด ๆ การตั้งกระทรวงข่าวสาร เทกโนโลยี มีความสัมพันธ์อย่างไรกับ กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงพัฒนาการทรัพยากรธรรมชาติและความเป็นมนุษย์รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่นายกทักษิณเตือนให้รัฐมนตรีทุกคนนำเอาพระราชดำรัสที่ว่า ให้ทำงานแบบสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันทุกกระทรวง อย่าทำไปกระทรวง เดียว ๆ และที่สำคัญกระทรวงทั้งหมด มีส่วนใน การเศรษฐกิจแบบพอเพียง อย่างไร

 

 

 

 

 

 113 สายด่วนลูกทุ่ง

ไอทีวี อังคาร 22 ต.ค. 45 13.00-14.00 น.

 

ทุกวันจันทร์-อังคาร เพลง อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ศิลปินผู้ขับร้อง คัทลียา มารศรี ทำนอง จังหวะ สำนวนภาษาเยี่ยมมาก แต่ที่พิเศษก็คือ เป็นธรรมชาติ และ เมื่อนิ่ง ๆ ฟังแล้ว มีความสะเทือนใจอันยิ่งใหญ่ ขบวนแห่เจ้าบ่าวเขาถือขันหมากมา แต่แปลกใจที่ไม่มาบ้านเรา จำต้องตัดใจ

 

"เอ๋ยช่างมันเถิด อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันไป ฉันไม่ได้อิจฉาใคร แต่แปลกใจที่น้ำไหลออกตา"

 

มีธรรมะอยู่ในนั้นที่น่าสอนคนให้ได้สติดี และเป็นประโยชน์แก่สังคม น่าที่จะให้คน ร้องกันมากๆ พิธีกร ผิวคล้ำ คุณตั๊ก ให้ เขียว ดวงสดใส นักร้องใหม่แนะนำตัวเองก่อนร้องเพลง คนผู้ฮ้าย ไทยว่า คนขี้เหร่ เกิดมาบ่หล่อ คือตอ ตระกูลก็ต่ำเป็นชาวนา บอกว่าเพลงคนผู้ฮ้ายขายไปถึงแสนม้วนแล้วอาจขาดตลาด มีเพลงที่ไพเราะและความหมายซึ้งสะเทือนใจ ของยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี เสียงทุ้มกังวาลสะท้านใจมากในเพลง ร้องเพลงให้พ่อฟัง เธอไม่ได้ประพันธ์เองแต่ร้องได้เนื้อความกินใจมาก

 

"จะกี่พอศอพ่อก็ยัง เป็นหนึ่ง เลิศเหนือดวงใจ คือชายที่ชื่อว่าพ่อ พระเอกรูปหล่อในใจของลูกตลอดกาล"

 

เพลงนี้ต้องนับว่ายอดเยี่ยมอีกเพลงหนึ่ง และดูเหมือนจะอดนึกว่าจะมีใครรักพ่อได้เท่าปัทมวรรณ เค้ามูลคดี

 

 

 

 

 

  114 ถล่มโจร-ประชาชนตายเป็นเบือในโรงละครรัสเซีย

ข่าวเที่ยงไอทีวี

ไอทีวี พุธ 23 ต.ค. 45 1500 น.

 

ประวีณมัย บ่ายคล้อย กับ จิระ ธัญญอนันต์ผล รายงานข่าว พร้อม ทีมฝึกหัด นักศึกษาชายและหญิงจากสถาบันอุดมศึกษาวันละ2 คน รายงานข่าวเพิ่มเติม พวกกบฏมุสลิมเชสเนียบุกจี้ตัวประกันในโรงละคร กบฎเชสเนียนำโดยมอฟชาร์ บาราเยฟรวม50คน เป็นกบฎมุสลิมแบ่งแยกดินแดนแคว้นเชสเนียออกจากรัสเซียเรียกอีกชื่อว่า กบฎชาวเชเชน ซึ่งเป็นหน่วยพลีชีพ บุกเข้ายึดคนดูละครในโรงละคร โฮปาร์-ออคต์ กลางกรุงมอสโคว์เป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองให้รัฐบาลรัสเซียถอนทหารจากเชสเนีย ในวันที่23ต.ค.2545 ขณะที่มีการแสดงละครตลกเรื่อง นอรธ-ออร์สต์ จับผู้ชมและนักแสดง 800 คน เป็นตัวประกัน กบฎขีดเส้นตาย จะเริ่มฆ่าตัวประกันทันทีในเช้าวันที่ 26 ต.ค.2545 ถ้ารัฐบาลรัสเซียไม่ยุติ สงครามเชสเนียและถอนทหารออกจากเชชเนียภายใน7วัน

 

ครั้นเมื่อ 26 ต.ค.2545 เวลา 05.15-05.20 น. มีเสียง ปืนดังออกมาจากโรงละคร ทำให้เชื่อว่ากบฎเริ่มยิงตัวประกัน ก่อนอรุณเวลา ท้องถิ่นรัสเซียจึงส่งกองกำลังพิเศษ(คอมมานโด)ร่วมร้อยนายบุกเข้าโรงละคร โฮปากร์-ออคต์แบบสายฟ้าแลบ เกิดเสียงระเบิดเสียงปืนดังสนั่น นายมอฟซาร์ บาราเยฟ วัย23ปี และลูกน้องสตรี หน่วยพลีชีพแด่ มุฮำมัด ที่มีระเบิดผูกติดตัวไว้หลายคนเสียชีวิต การจู่โจมทำการฆ่าสังหารหน่วยกบฎหญิงลูกน้องบาราเยฟก่อนที่จะจุดชะนวนระเบิดหญิงที่มัดติดตัวไว้

 

หน่วยข่าวกรองแจ้งว่า กบฎเสียชีวิตทั้งหมด 36 คน ตัวประกันเสียชีวิต 67 คนจับเป็นได้อีก การบุกจู่โจมเกิดขึ้น ภายหลังนาย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้รับแจ้งว่ากบฎเริ่มฆ่าตัวประกันเสียชีวิตไป แล้ว2คน จึงสั่งบุกทันที โดยเริ่มรม "แก๊สนอนหลับ" เข้าไปในโรงละครก่อน ทำให้สลบ และเป็นเหตุการเสียชีวิตของตัว ประกันจำนวนมาก รายงานข่าวเพิ่มเติมวันนี้กบฎตายเพิ่มเป็น 50 หญิง 18 คนชาย 32 คน ตัวประกันเป็น90ศพ เข้าโรงพยาบาล 350 ราย รัฐบาลยอมรับว่าใช้ สาร พิเศษ บางอย่างพ่นเข้าไป ในโรงละครระหว่างปฏิบัติการจู่โจมฉีดด้วยยากล่อมประสาท พบว่า บาราเยฟหัวหน้าผู้ก่อการร้ายกับลูกน้องสตรีจำนวนหนึ่งมีระเบิดผูกติดกับตัวตลอดเวลา รัฐบาล รัสเซียว่าที่คนตายเพราะเกิด จากความเครียด ไม่ใช่เพราะเกิดจากยากล่อมประสาท ตัวประกันขาดอาหาร และตื่นตกใจ ผู้เชี่ยวชาญพบเวบไซ้ท์หลายแห่งเป็นของกลุ่มอัลกออิดะห์ ใช้รหัสลับติดต่อ พวกเดียวกันเอง รวมบทสรุปได้ว่า มีรายงานข่าวนายอุสมาบินลาดิน เขายังมีชีวิตอยู่และเขายัง เพ้อคลั่งกับสงคราม ที่เขาเรียกว่า "สงครามศักดิ์สิทธิ์"กับสหรัฐอเมริกาอยู่ต่อไป

 

ทำไมอุสมา บินลาดิน จึงเพ้อคลั่งกับสงครามศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องที่อาจอธิบายได้ในเชิงการศาสนาสากล

 

 

 

 

 

 

 115 รายงานการประชุมสตรีสากลเพื่อศานติสุขโลกในสวิตเซอร์แลนด์

นี่แหละชีวิต

ช่อง 5 จันทร์ 28 ต.ค. 45 - 4 พ.ย. 2545 2030 น.

 

รายงานการ ประชุมสตรีทางจิตวิญญาณและศาสนาเพื่อศานติโลก ณ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เริ่มเมื่อ 6 ต.ค.2545 มีสตรีนักบวชและนัก ปฏิบัติธรรมในศาสนาต่าง ๆ รวมทั้งสตรีในวงการงานสังคม เครือข่ายเพื่อสันติภาพ และบุคคลระดับรัฐมนตรีของประเทศต่าง ๆ มาประชุมกันร่วม 400 คน มี ลินเขย์ แวกเนอร์ ดาราภาพยนต์ฮอลลีวูด เป็นพิธีกรการประชุมครั้งนี้ จากประเทศไทยมีแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต สามเณรีธัมมนันทา และสตรีในวงการข่าว โทรทัศน์ ไปร่วมงานเช่นพิธีกรของ รายการนี่แหละชีวิต คุณช่อผกา วิริยานนท์

 

เรื่องที่เสนอในรายการนี่แหละชีวิตวันนี้ เป็นภาพ การตัดต่อฟิลม ให้เป็นสารคดี เป็นเรื่องเป็นราวของการมองของแม่ชีศันสนีย์ ต่อเหตุการณ์ประชุม คราวนั้นมีการกล่าวปราศัยแสดงทัศนะ ที่แต่ละคนพบมาต่อสันติภาพของโลก เช่น ดร.เจล กูดัล จากอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญลิง อยู่กับธรรมชาติมานานเล่าถึงสงครามล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา มีเจ้าหญิงแห่งกัมพูชามาร่วมประชุมด้วย มีแม่ชี เทนซิล ปาลโม ชาวอเมริกา เคยเป็นนักบวชเยซูอิตมาก่อน ที่สนใจธรรมแบบธิเบต อยู่ปฏิบัติธรรมในถ้ำ เป็นเวลา 12 ปีมาแล้ว

 

กลุ่มสตรีเพื่อสันติภาพโลกนี้มีโครงการร่วมกันอยู่แล้วใน 60 ประเทศ ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศต่อไป

 

สรุปปัญหาของโลกาภิวัฒน์คือความสมดุลต่าง ๆในโลกหมดไป อุปมาเหมือนนกอินทรีที่บินไปได้เพราะสมดุลที่ปีก เมื่อปีกมีปัญหาโลกก็วิกฤติ มีข้อเสนอมากมายหลายข้อ เช่นเรื่องการศึกษาของเด็ก ที่ รมว.จากอาฟกานิสถานเล่าว่า เด็กของเราเกิดมาโดยไม่เห็นหน้าพ่อ ได้ยินแต่เสียงปืน เรื่องสิทธิสตรี ผู้หญิงต้องต่อสู้ให้มาอยู่เหนือผู้ชาย ให้เกิดความสมดุลและสอดคล้องกัน ภาพรวมที่เห็นเป็นการปรับทุกข์ของสตรี ๆต่อสถานการณ์ที่สตรี ๆ มักตื่นกลัวอ่อนไหวได้ง่ายที่สุด นั่นคือ สงคราม พวกเธอทั้ง หลายมาประชุมกันปรับทุกข์กันเรื่องทำอย่างไรจึงจะไม่ให้สองฝ่ายทำสงครามกันโดยเฉพาะอเมริกา กับอิรัคขณะนี้ แล้วต่างมีข้อเสนอเรื่องสันติภาพ

 

ต่างก็พูดกันด้วยภาษาที่อ่อนโยนเอาอกเอาใจซึ่งกันและกัน และอ้างหลักการศาสนาว่าศาสนาทุกศาสนาล้วนต้องการให้มีสันติภาพ แล้วตกลงกันว่า ในสองปี ข้างหน้าจะมีเครือข่ายผู้หญิงรักสันติาพเกิดขึ้นทั่วโลก คนที่มาร่วมงานนี้ต่างแสดงออก ในสิ่งที่ดี ๆ มีวาทะที่ดี ๆ ต่อกัน และคิดว่าโลกควรจะเป็นไปอย่างนี้ คือมีแต่สิ่งที่ดี ๆ ต่อกันพูด กันดี ๆ อย่ามีการโกรธขึ้ง อย่ามีการรบทำร้ายกัน

 

แต่ความปรารถนาเหล่านี้ แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นได้ยากด้วยเพียงการพูดกันเบา ๆสละสลวยตามภาพเช่นที่เห็นในการประชุมนี้ เราจะต้อง มองไปถึงความเป็นธรรมดาของโลกว่าเป็นอย่างไร และธรรมดาของโลกที่จะไปตามธรรมดาของมันนั้นแหละที่ไม่อาจจะสร้างสันติภาพขึ้น ได้เพียงวาทะ การพูดคุยกัน และที่อ้างศาสนา ก็จะไม่ถูกต้อง เพราะแม้หลักการของแต่ละศาสนาก็มองแตกต่าง

 

เช่นศาสนาที่มีพระเจ้า ก็ล้วนแต่ใช้วิธีข่มขู่ แสดงอำนาจให้มนุษย์กลัว แต่แล้วศาสนานั่นเองกลับเสนอทฤษฎีแห่งสงคราม และความรุนแรง กันแทบทุกศาสนา(ที่มีพระเจ้า) แบ่งคนเป็นฝักเป็นฝ่าย กำหนดให้ฝ่ายที่ไม่เชื่อถือเป็นชนอีกพวกหนึ่งคือชนบาป หรือผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้า ก็จะต้องปราบปรามเข่นฆ่า และกำหนดให้ถูกลงโทษย่างร้ายแรง ส่วนพวกที่ยอมรับเชื่อฟังในพระเจ้าก็กดขี่ให้เชื่อฟังทุกอย่าง จนแม้กระทั่งให้รวมเป็นกอง ทัพไปทำสงครามเพื่อปราบอีกฝ่ายให้หมดไป

 

ศาสนาอื่น ๆ พลพรรคพระเจ้าก็ล้วนแต่เป็นนักรบ และมีคติว่าการรบจนกวาดล้างพวกชั่ว(คนบาป)หมดไปจากโลกเท่านั้น สันติภาพจึงจะเกิดขึ้น

 

ฉะนั้นการอ้างศาสนาแล้วไม่อยากให้มีการรบกันนั้น เป็นสิ่งที่ขัดกับหลักการของศาสนาหลาย ศาสนา หากจะใช้วิธีการสันติเพื่อความสันติ เราจะต้องเข้าใจในแนวทฤษฎีการทำสงครามกับตนเอง ให้ชนะตนเอง มีวาจาตรัสแล้วไม่คืนคำให้ได้กับตนเอง และดำรงวิถีทางสันติต่อไปอย่างไม่มี เงื่อนไข คือถึงจะ ประสบเหตุร้ายแรงอย่างไร ๆ ก็จะไม่ละทิ้งอุดมการณ์สันติ ไม่ยอมใช้ความรุนแรงตอบโต้ความรุนแรง หากเคยรู้มาว่า ได้มีมหาบุรุษท่านหนึ่งเคยนำทฤษฎีนี้ไปใช้ในการต่อสู้ทางการเมืองเป็นผล สำเร็จมาแล้ว นั่นคือ มหาตมคานธีแห่งอินเดีย ใช้หลักอหิงสาอันเป็นหลักการและวิธีการอย่างศาสนาพุทธนี้ไปต่อสู้ ตามที่โลกรู้ดีอยู่แล้ว

 

การต่อสู้ของสตรียุคปัจจุบันนี้ จึงจำเป็นต้องมองเข้าใจ วิถีทางการต่อสู้ให้แน่ชัดเสียจริง ๆ หากเรายืนยันวิธีการสันติภาพโดยสันติวิธีแล้ว นั่นหมายถึงการอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่สันติภาพ จะไม่ยอมละทิ้งอุดมการณ์ จะไม่ยอมหันไปใช้ วิธีการตอบโต้ ความรุนแรงด้วยความรุนแรงเลย ต้องยืนหยัดอยู่บนอุดมการณ์การเสียสละ แม้ ด้วยชีวิตก็สละได้

 

 

 

 

 116 พบนิวัติ กองเพียร เกจินู๊ด

ITV TALK

ไอทีวี อังคาร 12 พ.ย. 2545, 2300 น.

 

กิตติ สิงหาปัด กับวราภรณ์ สมพงษ์ ไปเยี่ยม นิวัติ กองเพียร ที่บ้าน ถามที่ไปที่มาของสมญาว่า เกจินู๊ด ว่า ทำหนังสือศิลป วัฒนธรรมเครือหนังสือพิมพ์มติชนมา 20 ปี แต่ไม่ดัง เพิ่งมาดังตอนเริ่มวิจารณ์ผู้หญิง และถ่าย ภาพ เขียนภาพ ทำอุตสาหกรรมภาพ โป๊ะ เปลือย ในระยะหลัง ๆนี้เอง

 

เรื่องราววันนี้ เป็นวันที่เขายังมีสุขภาพแข็งแรงอยู่แม้ว่าจะเข้าวัยปลายไปแล้ว เขาบอกทฤษฎีของเขาว่า รูปเปลือยของ ผู้หญิงเป็น ความงาม ที่คนทั้งหลายอยากดู และ ผู้หญิงก็อยากอวด เขาเอง ชอบดูขาผู้หญิง ความสวยของขาจะบอกไปถึงอย่างอื่นด้วย เขารู้ดีว่าธรรมชาติคนเป็นอย่างไร แล้วอธิบายไปว่า คนเราทุกคนต่างมีความอยาก ในเรื่องเพศก็อยากดูอยากชม อยากสัมผัส อยากร่วมเพศ ในเมื่อ เป็นเรื่องธรรมชาติเช่นนี้ จึงไม่ควรห้ามความอยากของตนเอง คนอยากอะไรก็ให้ทำไปตามความ อยาก การสอนลูก ๆ เมื่อลูกเติบโตขึ้นมา เมื่อมีความอยาก ความต้องการทางเพศ เขา สอนว่าให้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองได้ อย่าแอบทำ และเมื่อความต้องการไกลไปอีกคืออยากร่วมเพศกับใคร ก็ สามารถร่วมเพศได้

 

คำพูดที่ว่า ลูกสาวอยากร่วมเพศกับใครก็ให้ทำได้ ก็เท่ากับยอมรับว่า ลูกสาว เขาเมื่อโตขึ้นก็อาจร่วมเพศกับตัวเขาผู้เป็นพ่อได้ หรือลูก ชายก็เหมือนกันอาจเรียนรู้ เพศสัมพันธ์ ได้จากคนใกล้ชิดที่สุดได้ หนุ่มใหญ่วัยสูงคนนี้ มีแนวคิดที่น่าฟังเมื่อเขา บอกว่า อะไรที่ คนชอบดู เขาก็อยากให้คนได้ดู เช่นเขาเองชอบดูภาพเปลือย เขาก็อยากให้คนอื่นได้ดูด้วยทำนองว่าเขาเขียนภาพโป๊ะเปลือยเหล่านี้ เพื่อประโยชน์คนอื่น ด้วยความหวังดีมีจิตกรุณาต่อผู้อื่นและเขา วิเคราะห์ว่า คนมีเงิน ใช้เงินซื้อเสพของเช่นนี้ด้วยราคาแพงได้ ทำไมเราไม่คิดถึงคนจนบ้าง ครั้น เมื่อมีภาพนู๊ดปรากฎตามที่สาธารณะ เช่นที่โดยสารรถเมล์บ้าง ข้างๆ รั้วบ้าง เอาไปวางโชว์ในย่านธุรกิจการ ค้าบ้าง ฯลฯ ก็ไม่ควรห้าม ก็ควรที่จะชื่นชม เพราะคนยากคนจนจะได้เสพได้ดูด้วย

 

ไม่มีคำถามว่า นักเขียนภาพนู๊ดคนนี้มาสัมพันธ์กับเรื่องราวของวัฒนธรรม จนได้เป็นบรรณาธิการวารสารที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมได้อย่างไร ทั้ง ๆที่ทฤษฎีของเขาไม่มีพื้นฐานความรู้ที่เป็นสัมมาทิฎฐิทาง วัฒนธรรมเลย อย่างไรก็ตาม มองภาพรวม ๆ แล้ว นิวัติ กองเพียร ก็เป็นหัวหน้าครอบครัวผู้ต้องรับผิดชอบในการทำมาหาเลี้ยงชีพตนเองและ ครอบครัวเหมือนคนอื่น ๆฉะนั้น เรื่องเช่นนี้ไม่น่า เป็นประเด็น ศิลปวัฒนธรรม แต่อย่างใด ในเมื่อแท้ที่จริงเป็นเรื่องการดิ้นรนทางอาชีพ เป็นเรื่อง การทำมาหากินตามความถนัดของเขา เขาก็ป้องกันอาชีพของเขาไว้ โดยข้ออ้างที่ดีที่สุด ซึ่งในที่นี้ก็คือ ศิลปวัฒนธรรม

 

การวิเคราะห์วัฒนธรรมแบบนี้ เป็นการมองนอกกรอบศาสนธรรม และเอามาตรฐาน ธรรมชาติดั้งเดิมของมนุษย์สัตว์ก่อนมีการพัฒนาการมาเป็นมาตรฐานการมอง ทำให้ขัดแย้งกับ หลักการทางศาสนา เพราะทฤษฎีนี้ปล่อยไม่มีการควบคุมอารมณ์ทางเพศเลย ไม่ต้องอดทนต่อ ความอยาก ในสิ่งที่เป็นกามตัณหา ก็จะตรงกับแบบแผนวัฒนธรรมของสัตว์ ไม่ใช่มนุษย์

 

แต่ถ้า ลองวิเคราะห์ธรรมชาติระหว่างมนุษย์กับสัตว์ จะพบว่ามีส่วนที่เหมือนและแตกต่างกัน ส่วนที่เหมือนกันก็คือ ธรรมชาติกำหนดให้เรื่องความต้องการทางเพศเป็นสิ่งที่มีอำนาจอย่างยิ่งใหญ่จน สามารถ ครอบงำความนึกคิด และพฤติกรรมทั้งมวลของมนุษย์และสัตว์ไว้ได้โดยสิ้นเชิง ตรงตาม ทฤษฎีของ ซิกมันด์ ฟรอยด์(พ.ศ.2199-2482) บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ ทางศาสนาพุทธมองว่า คือกามตัณหา เป็นหนึ่งใน ตัณหาใหญ่ ๆ ของโลก (อีก 2 อย่างคือ ภวตัณหา กับ วิภวตัณหา) ทั้งนี้ก็เพื่อให้สัตว์ มนุษย์ ได้มีการสืบเชื้อ สายต่อไปไม่ขาด

 

ฉะนั้นเราจะเห็นว่าเมื่อ สัตว์มนุษย์ มีตัณหาชนิดนี้เกิดขึ้น ชีวิตจะรุนแรงจะดิ้นรนไปตามวิถี ทางเพศอย่างรุนแรง เมื่อเราจะวิเคราะห์ วัฒนธรรม เราจะต้องทราบวิถีแห่งความแตกต่าง ระหว่างสัตว์กับมนุษย์ส่วนที่แตกต่างกันก็คือ สัตว์ทั่วไปมี การร่วมเพศกันน้อยครั้ง และการร่วมเพศของสัตว์มีเป้าหมายตามธรรมชาติคือเพื่อการผสมพันธ์กันเท่านั้น (ดูสารคดีเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ทางโทรทัศน์แล้ววิเคราะห์เปรียบเทียบกับคน)ส่วนมากที่สุดมี การร่วมเพศเพียงปีละครั้ง

 

ส่วนมนุษย์ยุคดั้งเดิม มีการร่วมเพศเพื่อผสมพันธ์กันใกล้ เคียงกับสัตว์ แต่ต่อมามนุษย์ได้ค่อยพัฒนาความคิดและจินตนาการขึ้นมา และเมื่อนำจินตนาการมาใช้ในเรื่องเพศความคิดหรือจินตนาการจึงไปกระตุ้นความกำหนัด หรือกามารมณให้เกิดขึ้นมาอีกสาเหตุหนึ่ง ฉะนั้น มนุษย์ในสมัยเจริญขึ้นด้วยความคิดวิทยาการ จึงมีความกำหนัดเพิ่มขึ้นไปจาก วิถีทางธรรมชาติทำให้มีความต้องการทางกามารมณ์มากกว่าสัตว์ เพราะเป้าหมายการเสพกาม กลายเป็นเรื่องความสนุกบันเทิงอันเป็นรสชาดที่ประณีตสูงสุดกว่ารสชาดใดใดอีกด้วย มนุษย์จึงมี การเสพกามกันอย่างมากมาย หลายครั้ง ไม่รู้จักหยุดหย่อน

 

เท่าที่นับสถิติได้ ตั้งแต่มนุษย์จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ พร้อมสำหรับการเสพกามประมาณ อายุ 15 -16 ปี แล้วจะเสพกามไปอย่างไม่มี เวลาหยุดหรือ เทศกาลว่างจากการเสพกามไม่มี ในคืนที่มนุษย์ ชายหญิงแต่งงานกันใหม่ ๆ มี สถิติว่าแต่ละคืน มนุษย์คู่นั้นจะมีการร่วมเพศกันถึงคืนละประมาณ 5-10 ครั้ง นอกจากนี้แล้ว มนุษย์ปัจจุบันยังประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการบริโภคกามขึ้นเพื่อความบันเทิงอย่างมากมายเช่น มนุษย์มีซ่องโสเภณี มีบริการขายเพศทุกระดับสังคม มีบริการอาบอบนวด ซึ่งสัตว์ไม่มี เป็นต้นตามหลักการศาสนาพุทธแล้วมนุษย์ปุถุชนที่มีกิเลสจะเสพกามไปจนกว่าจะตายลง เพราะแม้สมรรถภาพทางกายจะหมดสิ้นไปแล้วแต่มนุษย์ก็ยังมีความกำหนัดทางจิตใจ คือจิตใจยังต้องการการร่วม เพศอยู่และนี่คือสาเหตุแห่งทุกข์เพราะกามตัณหา เพราะมีความต้องการทางจิตใจแต่ฝ่ายกายไม่สามารถสนองได้

 

และสาเหตุที่มนุษย์ยังมีความต้องการทางจิตใจอยู่ก็เพราะกิเลสกามพอกพูน มามากนั่นเอง นานครั้งเราจึงจะเห็นคดีเฒ่าหัวงูเกิดขึ้น เช่นคดี ส.ว.ท่านหนึ่งเป็นต้น ด้วยทฤษฎีของศาสนาพุทธนี้ จึงสามารถคาดคะเนได้ว่า น่าระวัง คนชราภาพที่ใช้จินตนาการไป กับเรื่องโป๊ะ ๆ เปลือย ๆ เห็นการลามกอนาจารเป็นศิลปวัฒนธรรมจนเป็นปกติชีวิต จะได้รับผลกรรมอย่างหนัก จากกิเลส จากกามตัณหา ที่สะสมมาด้วยจินตนาการลามกอนาจารดังกล่าว

 

ฉะนั้น การวิเคราะห์ ของเกจินู๊ดผู้นี้ โดยให้ถือหลักธรรมชาติของกามารมณ์ เมื่อถึงเวลาก็ให้ปล่อยไป ตามธรรมชาติ ให้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองได้ อยากมีเพศสัมพันธ์ก็ให้มีได้เลย ไม่ต้องมีการห้าม หรือ ยับยั้งชั่ง ใจใดใด ทำไปเหมือนวิถีทางเหล่าสัตว์ป่าทั้งหลาย จึงไม่ถูกต้อง เพราะมนุษย์มี ความแตกต่าง ทางการบริโภคกามจากสัตว์เป็นอันมาก ดังกล่าวมาแล้ว หากทำเช่นนั้น ก็จะเป็น การเปิดทางให้แด่ กามตัณหา ให้ง่ายดายแก่ศัตรู ที่จะมาก่อโทษภัยให้เราเอง คือจินตนาการลามกอนาจาร จะ ปลุกราคะตัณหาให้ชายชราภาพอย่างไม่รู้หยุดหย่อนต่อความกระหายทางกามารมณ์ เขาจะเสพมันทุกอายตนะ คือเสพทางตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส และ ใจ

 

(ตัวอย่าง จากประวัต นิวัติ กองพียร แม้ล่วงวัยใหญ่ขนาดนี้ เขาก็ยังบอกเองว่ายังชอบมองขาอ่อนผู้หญิงอยู่ ทั้ง ๆ ที่ การทำเช่นนั้นนับว่า เป็นมารยาทที่ทรามตามหลักสังคมไทย เพราะศาสนาระบุว่าของเช่นนั้นเป็น หีนาธมฺมา ไม่ควรบริโภค) ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งบ่งบอกถึงจิตใจที่มีราคะของเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อหยุดจินตนาการ ทางกามไม่ได้ เมื่อใจยังหยากเสพกามอยู่ (เพราะตนเป็นเพียง ปุถุชนธรรมดา มิได้รู้วิถีแห่ง วิราคธรรมเลย) แต่ทางฝ่ายกายไม่อาจสนองใจตัวเองได้ก็จะได้รับทุกข์หนักแม้เมื่อชราอ่อนเปลี้ยไปแล้ว

 

ฉะนั้น ทางปฏิบัติที่ถูกต้องก็คือทำตนเป็นเวไนยสัตว์ มองตามหลักไตรทวาร ฝึกให้กาย วาจา และ ใจ สะอาด อย่าให้จิตคิดแต่เรื่องอกุศลอย่าลามกอนาจาร อย่าสร้างความนิยมในสิ่งที่จะ กลับมาทำร้ายตนเองอย่างหนักในภายหลัง อย่าทำตัวแบบอย่างที่ไม่ถูกต้องแก่เยาวชนลูกหลาน ผู้กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และผู้ชราภาพในวันข้างหน้า วันข้างหน้าของเด็ก ๆ ในวันนี้ไม่ควรเป็นวันแห่งความทุกข์สาหัสเพราะความกำหนัดในกาม เกิดกำเริบเสิบสานขึ้นในวัยชราเพราะความเชื่อที่ผิดมาแต่เด็ก ๆควรให้เด็ก ๆ รู้จักฝึกจิต ฝึกความอดทน รู้จักข่มกลั้น ไม่ตามใจตนเอง รู้ อดทน ต่อความชั่ว รู้อดทนต่อความคิดลามกอนาจาร อย่าเพียรสร้างจินตนาการทางเพศหรือกาม

 

(นั่น คือเหตุผลของอุโบสถศีล ข้อที่ 7 นจฺคีตวาทิตวิสูกทสฺนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฎฺ ฐานาเวรมณี = งดเว้นจากการดูละครฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี เครื่องลูบไล้เครื่องหอมเครื่องย้อมทา)

 

รู้ความสำคัญของ จิต การฝึกฝนจิตให้เข้มแข็งให้เป็นนาย และกายเป็นบ่าวและรู้เร่งรีบ ในการกระทำความดีตามหลักธรรมสัตตบุรุษ 7 จน กว่าจะชนะตนเอง ชนะใจตนเอง จึงจะบรรเทากามตัณหา และมีอนาคตที่ดี มีความสุขสงบตั้งแต่ บัดนี้ ตราบจนชราภาพลงไป

 

 

  • ดีเล่มที่ 27

 

 

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----