ยมราชถามอะไรคือการศึกษา
· จักร สุธาธรรม
·
เมื่อคดีเจาะยาง ข่มขืนนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยมีชื่อ มีอันพลิกผันไปจากความคาดหมายของประชาชน เพราะตำรวจได้ทำวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายวิปริตบ้ากามรายนั้น จึงไม่สามารถเอาตัวมาเป็น ๆ สู่สายตาประชาชนได้
ความตายของมหาวายร้ายตนนั้น จึงใช่แต่จะก่อเกิดความผิดหวังของประชาชนเท่านั้น หากแต่เกิดโกลาหลในเมืองนรกกันใหญ่
วันนั้น เจ้าหน้าที่ยมบาล ที่คอยตรวจเขตแดนระหว่างนรกกับโลกต้องออกแรงไล่จับดวงวิญญาณชั่วดวงนี้ตลอดวันตลอดคืนกว่าจะสามารถควบคุมตัวมันได้ และในโลกยมบาล เมื่อ ต้องไล่ต้อนกันขนาดนั้นก็หมายความว่าเจ้าวายร้าย ทั้งตัวมันก็น่วมไปหมด ด้วยแรงต่าง ๆ ภายนอกตัวมันทั้งอัดทั้งกระแทกเข้าไปโดยมีร่างกายมันรองรับรอบด้าน อย่างไม่มีคำว่า ปรานี
แล้วมันก็ถูกคุมตัวอย่างแน่นหนาไปปรากฏตัวต่อหน้ายมทูต ผู้ซึ่งตวาดลั่น น่าสะพึงกลัว
"ไอ้บ้านี้มาจากไหน มันชื่ออะไร" ยมทูตถามตำรวจยมบาลเหล่านั้น
"พวกท่านจับผิดตัวหรือเปล่า"
เจ้าหน้าที่สารบรรณตรวจชื่อในบัญชีนรก ปรากฏว่า ไม่มีชื่อ "เกวิน ยอดทรนง"" ตามที่มันบอก และคนที่จะต้องตายทั้งหมดในวันนั้น ไม่มีชื่อ เกวิน ยอดทรนง
"มันชื่ออะไรแน่" ยมทูตมีน้ำเสียงไม่พอใจ "ลากตัวมันมาใกล้ ๆซิ"
ยมบาลกระชากลากตัวมาคุกเข่าต่อหน้ายมทูต
"แกชื่ออะไร เจ้าผีดำ" ยมทูตส่งเสียงถามมันดังลั่น พร้อมกับตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "เจ้าผีดำ"
"เกวิน ขอรับ เกวิน ยอดทรนง" มันตอบ นอบน้อม ตัวสั่นเทิ้มเพราะความกลัว
"แกโกหกใช่ไหม?" เสียงดังขึ้นอีก
"มิได้ขอรับ เกล้ากระผมมีชื่ออีกชื่อหนึ่ง ชื่อ กระทูน....."
"มันโกหก ลากลิ้นมันออกมา"
ยมบาลเอาตะขอด้ามยาวที่ดูใหญ่โตมโหฬารกว่ารูปากมันตั้งหลายเท่า ทิ่มพรวดเข้าไปในปากมัน ๆ ร้องลั่น พยายามดิ้นหนี ยมบาลสับตะขอลงกลางลิ้นของมัน แล้วลากออกมายาวเฟื้อย ขึงเอาไว้เช่นนั้น
"เจ้าหน้าที่ หาชื่อกระทูนในบัญชี มีหรือไม่?"
"ไม่มีขอรับ"
ยมทูตโกรธ ลุกขึ้นยืนกระทืบเท้า
"เจ้าผีดำ บังอาจโกหกยมทูต"
มันกราบประหลก ๆ พยายามพูดเสียงอ้อแอ้ แต่ยมทูตฟังได้ยินชัดเจน
"เกล้ากระผมมีอีกหลายชื่อพระเจ้าค่ะ"
"เลว ! เลวมาก ! สันดารทุรชนชัด ๆ ! บอกมาให้หมดซิ"
มันบอกชื่อไปทีละชื่อ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจบัญชีตามไป
"เกยูร กุมพล โกมินทร์ นิกกี้ นินจาดำ ทรีอินวัน ไมเคิล เจมส์ จอห์น"
ปรากฏว่าไม่มีชื่อในบัญชีแม้แต่ชื่อเดียว ยมทูตพิโรธ ตาแดงจ้าเหมือนถ่านเพลิง
"มันโกหกโดยสันดาร ลากเหง้าลิ้นมันออกมา"
ชาวมนุษย์โลกจะไม่เข้าใจว่า ทำไมการดำเนินคดีนรกในศาลของยมราชเจ้า จึงรุนแรงไปทุก ๆ ขั้นตอนอย่างนั้น ก็เพราะนรกเป็นโลกวิญญาณ ความรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับความผิดบาปในจิตในใจของมนุษย์แต่ละคนเท่านั้น สำหรับเจ้าผีดำตนนี้ ได้ทำบาปไว้ค่อนข้างมาก เมื่อโดนลากกระชากฉุดเพื่อให้ลิ้นทั้งยวงหลุดออกมาตามคำสั่งยมทูต มันจึงได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างสาหัสตามไปด้วย มันล้มฟาดลงไปดิ้น ชักกระตุก ๆ เหมือนปลาดุกถูกทุบหัว หากแต่มันไม่ตาย
"มันเนรคุณ จนกระทั่งลืมชื่อเดิมที่พ่อแม่มันตั้งให้ คุมตัวไปเฝ้าสมเด็จยมราชเจ้า"
นั่นก็หมายความว่ามันจะต้องถูกพิพากษาในศาลสูงสุดแห่งยมโลก บัดนี้มันได้ผ่านการพิพากษาจากศาลชั้นต้นไปแล้วโดยไม่มีความปรานีใดให้เลย มันจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักตามกฎหมายอาญาแผ่นดินยมโลก กรณีของมันจะต้องใช้มาตรา 17 ซึ่งระบุโทษของมันไว้อย่างหนักว่า
"เปลือย ปีนต้นงิ้วหนามเหล็ก สูง 4 เส้น ในขุมเพลิงโลกันต์ไปจนกว่าภูเขาหิมาลัยในชมพูทวีปลดหายไปใต้น้ำ" และ
"ให้กินเหล็กคั่วร้อนแรงจนเหลวเป็นเพลิงโลกันต์เป็นอาหารยังชีพ"
แต่โทษอันหนักนี้ยังอาจลดด้วยการอุทธรฎีกา เมื่ออยู่ต่อหน้ายมราชเจ้านรก เมื่อมันถูกคุมตัวไปถึง ยมราชนั่งอยู่บนบัลลังก์ หน้าแดงดังเปลวเพลิง เสียงก้องกระหึ่มสะท้านสนั่น เมื่อพูดขึ้นแต่ละคำ ผู้ใดได้ยินต้องสั่นสะท้าน
"เจ้ามีเหตุอันควรปรานีอะไรบ้างหือ เจ้ากาฬปักษ์" นั่นเป็นชื่อเดิมที่พ่อมันตั้งให้แล้วมัน ไม่เอา เสียงกระหึ่มของยมราชทำให้ตัวมันสั่นเทิ้มไม่กล้าเงยดูยมราชบนบัลลังก์สูง กระนั้น ชั่วแวบหนึ่ง มันคิดว่ามันได้กระทำความดีอยู่เหมือนกัน มันขยับพูดในใจว่า
"หญิงสาวนักศึกษาคนนั้นไม่ได้ชำรุดเสียหายอะไรนี่ ยมราชเจ้า ตรงกันข้าม ข้าได้สนองความประสงค์ของเธอ ในด้านการแสวงหาความสุขของชีวิต สำหรับหญิงสาว ผู้เสวยแต่ความสุขจากความมั่งคั่งมั่งมีของพ่อแม่มาอย่างไม่เคยรู้จักความเหนื่อย ไม่เคยรู้จักหยาดเหงื่อที่ต่างน้ำ และไม่เคยรู้จักการศึกษาว่าคืออะไรเธอรู้จักอย่างเดียวคือความสุขความสะดวกสะบาย ความพินอบพิเทาของผู้ต่ำต้อย ข้าได้พาเธอไปพบกามสุข อันเป็นความสุขที่ยิ่งไปกว่านั้น เป็นความสุขชั้นนิมมานนรเทพ ข้าได้ทำคุณความดี"
แต่แล้วมันก็กลับใจทันควันเมื่อมันคล้ายได้ยินเสียงตะโกนมาจากที่ไกลของยมราช
"อะไรวะ ข้อกล่าวหาของแกมันฟังไม่ได้นี่หว่า นักศึกษาคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยขนาดนั้น จะไม่รู้จักว่าการศึกษาคืออะไร มันจะเป็นไปได้อย่างไรวะ หรือเมืองไทยมันล้าหลังโลกเขาวะ?" มันลนลานคิดได้ว่ามันผิดไปเสียแล้วจริงๆ เสียงยมทูตเอ่ยตามมา ยิ่งทำให้มันสยองใจ
"จงเร่งบอกมา เจ้ามีเหตุอันควรปรานีอะไรบ้าง มิฉะนั้นข้าจะสั่งการลงโทษยืนตามมาตรา17 แห่งกฎอัยการโทษของยมโลก"
มันทรุดตัวลงไปคู้เข่าในทันที เส้นผมเหยียดตรงเหมือนคนถูกผีหลอก และทันใดนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นขาวโพลนเต็มศีรษะ
อึ้งไปครู่ใหญ่ ก่อนที่บัดดลนั้นได้รำลึกเรื่องหนึ่ง เป็นกระแสเสียงแว่วแผ่วมาแต่ไกล มันรำลึกเสียงนั้นได้ น้ำตามันก็ไหลพราก ๆ ปานน้ำพุ
ยมราชเจ้ารู้เหตุนั้น น้ำเสียงก็อ่อนลง
"เจ้าจงบอกมาเถิด ว่าเจ้าได้เคยทำความดีไว้อย่างไร ?"
"ข้า ได้เคยใส่บาตรพระสงฆ์รูปหนึ่ง ด้วยข้าวสุกห่อหนึ่ง ส้มผลหนึ่ง และถุงน้ำดื่ม สะอาดหนึ่งถุง ครั้งหนึ่งเมื่อข้าเป็นเด็กเล็ก ท่านบอกข้าว่า ผลบุญนี้จะตามไปช่วยเจ้าได้ถึง สามโลก"
"พระสงฆ์รูปนั้น มีชื่อและสมญานามว่าอะไร?"
"ข้าไม่ได้จดจำ และข้าก็เคยทำบุญไว้เพียงนั้น จงลงโทษข้าเถิด ข้าไม่มีเหตุอันควรปรานียิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว ข้าไม่สมควรปรานี ท่านยมราชเจ้านรก จงลงโทษข้าเถิด ข้าพร้อมแล้วที่ จะชดใช้กรรมของข้า"
คืนนั้น ยมบาล3ตนได้คุมตัวกาฬปักษ์ไปปรากฏต่อหน้าพระภิกษุรูปหนึ่ง พอเห็นหน้า มันก็จำได้ ดีใจจนน้ำตาตกพราก คุกเข่าลงและกราบตรงไปทางหลวงพ่อ มันตั้งใจเล่าเรื่องที่ เกิดขึ้นทั้งหมดให้ท่านฟังอย่างช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำราวกับตั้งใจสารภาพความผิดบาปทั้งหมดของมันให้ใสสะอาด
"หลวงพ่อ ได้เมตตาช่วยกระผมด้วยเถิด ยมราชเจ้าให้กระผมมานิมนต์หลวงพ่อไปเป็นสักขีพยานแห่งความดีอันนิดน้อยของกระผม"
พระฟังจบ เอ่ยว่า
"อย่ากังวลเลย ลูกเอ๋ย หลวงพ่อจะไปช่วยเจ้า จะเป็นพะยานแห่งความดีของเจ้า ที่ครั้งหนึ่งได้ถวายของบิณฑบาตข้าด้วยข้าวสุก 1 ถ้วย ส้ม 1 ผล และน้ำฝน 1 แก้ว"
โทษของมันทุเลาลงไปครึ่งหนึ่งทันที เมื่อพระรูปนั้นมาถึง เป็นพยานให้มัน เจ้าคนชั่วนั้นแล้ว โทษมันจะลดลงไปแทบไม่มีเหลือ
ยมราชเจ้าทอดสายตาไปไกล เพ้อว่า
"บุคคลผู้พ้นอำนาจของเรายังมีอยู่ในโลกนี้ ตราบธรรมะขององค์พระมหาสมณเจ้า สมณโคดม ยังมีผู้เคารพและปฏิบัติตาม"ฯ
"ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ
กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ"
บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น
ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว
(สํ.ส. 15/333)
ปาปญฺเจ ปุริโส กยิรา น นํ กยิรา ปุนปฺปุนํ
น ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญญสฺส อุจฺจโย ํ
ถ้าคนพึงทำบาป ไม่ควรทำบาปนั้นบ่อย ๆ
ไม่ควรทำความพอใจในบาปนั้น เพราะการสั่งสมบาปย่อมนำทุกข์มาให้
(ขุ. ธ. 25/30)