ซิ่งเนรคุณ
· โดย จักร สุธาธรรม

· รถเก๋งคันนั้นเป็นรถยี่ห้อ เบนซ์รุ่นใหม่เอี่ยมของบริษัทรถเบนส์สยามมีอยู่เพียงไม่กี่คันของจังหวัดนั้น คนเดินผ่านไปต้องทอดสายตาดูด้วยความรู้สึกระยอบระย่อในความโอ่อ่าของรถและคนในรถ ที่ดูท่าทางภูมิฐาน เพียงเห็นซีกแก้มที่อูมนูนของคนขับ ก็รู้สึกในความมั่งคั่งเปี่ยมด้วยบุญวาสนาของเขา
ทว่า หญิงวัยกลางคน นั่งอยู่ระหว่างคนอ้วน ๆ ๒ คนในเบาะหลังนั่นสิ หน้าตาก็บอกอยู่ชัดเจนว่าเป็นคนบ้านนอกบ้านนา บุคลิกภาพก็ดูโทรมเหมือนคนวัยชราภาพไม่ค่อยเข้ากับสีสรรความสง่างามของรถเก๋งคันโอ่นั้นเลย ดูท่านั่งในรถก็ไม่เห็นว่ามีความสบายใจแต่อย่างใด ขณะนั้นรถจอดรอไฟเขียวทันใดนั้นตะแกก็ชี้ไม้ชี้มือส่งเสียงขึ้นดัง ๆ
“เฒ่าแก่อ้วนเอ๊ย! นั่นตาบุญเอกลูกชายฉัน จอดสักประเดี๋ยวนะฉันจะคุยกับลูกฉันสักหน่อย”
แล้วก็กวักไม้กวักมือเรียกเด็กหนุ่มบนมอเตอร์ไซค์คันนั้น ไม่ทันเสียแล้ว ไฟเขียวขึ้น
เท่านั้นเอง เสียงกระหึ่มของรถรอบด้านพุ่งแข่งกันออกไป ขบวนรถมอเตอร์ไซค์ขบวนหนึ่งพุ่งสวน ไปโดยเร็ว เถ้าแก่ถามเบา ๆ ว่า
“คนหนุ่มนั่นหรือลูกของยาย เอ! ท่าทางห้าวดีนะ ต่อไปจะต้องเป็นนักกีฬามีชื่อเสียงโด่งดังแน่ ๆ”
“ก็อย่างนี้ยายถึงได้ส่งเสริมไปอย่างสุด ๆ เอ! ยายนี่หัวทันสมัยทีเดียว”
ชายอ้วนลูกคู่เถ้าแก่อีกคนเสริมขึ้น แล้วพวกเถ้าแก่ก็แสร้งหัวเราะว่าพอใจอย่างยิ่ง
วันนั้นเถ้าแก่เงินล้านพาคุณยายไปที่บ้านเพื่อทำสัญญากู้ยืมเงิน ในการกู้ยืมนี้คุณยายได้นำโฉนดที่ดินจำนวนถึง ๒๕๐ ไร่ที่มีอยู่ทั้งหมดไปประกันเงินกู้จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่ง ๓๐๐,๐๐๐ บาทในจำนวนนี้ เป็นค่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ให้บุญเอก ลูกชายที่กำลังเติบโตเป็นหนุ่มคะนองเต็มที่คนนั้น เหตุผลก็เนื่องมาจากเรื่องหน้าเรื่องตา อยากได้หน้าได้ตา ได้ชื่อเสียง บุญเอกเป็นนักกีฬาเด่น มีชื่อเสียงในตำบลและกำลังก้าวไป สู่ระดับชาติอย่างรวดเร็ว มีความฝันและพิสมัยกีฬารถแข่งอย่างหลงไหลงมงาย เขาพร่ำรบเร้าแม่เฒ่าให้จำนำที่นาเอาเงินมาซื้อรถแข่ง ด้วยการยืนยันอย่างหนักแน่นว่า เมื่อเป็นนักกีฬามีชื่อเสียงแล้วเงินล้านก็สามารถได้มาอย่างง่ายดายเพียงใด พร่ำรบเร้าเข้าบ่อย ๆ ผู้เฒ่าก็เคลิ้มตามไปจนได้
แต่วันแล้ววันเล่าที่ดูเหมือนชื่อเสียงของบุญเอกขจรขจายไปในจังหวัดและเริ่มดังระดับ ชาติ หากแต่ยายเฒ่ากลับรู้สึกผิดปกติ ไม่สบายใจเอาเสียเลย เพราะที่ลูกสัญญาว่าจะร่ำรวยเอาง่าย ๆ ยังไม่เห็นมีวี่แวว แม้เวลาจะผ่านไป ๆ นานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่เจ้าบุญเอกได้รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ไป พฤติกรรมของลูกที่มีต่อแม่ก็เปลี่ยนแปรไปจากเดิม ที่สำคัญ สัญญากู้ยืมเงินก็จวนเจียนจะครบกำหนดแล้ว
เย็นวันนั้น ขบวนมอเตอร์ไซค์จำนวน ๕ คันควบตะบึงเข้าหมู่บ้านมาอย่างรวดเร็ว คนต่างหลีกกันไปคนละทางพอถึงบ้านไม้ ๒ ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้หลังนั้น เสียงเบรค เอี้ยด ! พร้อมกันทั้ง ๕ คัน พวกเขาทำท่า ขบวนยกล้อคารวะคนทั้งหลาย รถยกล้อ แขนชูขึ้นสูง เก๋ไก๋ จริง ๆ จนสาว ๆ สามสี่คนริมทางนั้นกรีดเสียง ดังลั่นบอกให้รู้ว่าฉันทันสมัยนะ หนุ่มทั้ง๕ในยูนิฟอร์มนักซิ่ง หล่อเหลาไปอย่างสุด ๆ ดูแทบไม่มีเค้าว่าเป็นลูกบ้านนอกคอกนา
บุญเอกเดินนำเพื่อนทั้ง ๔ เข้าไปในบริเวณบ้านอย่างสง่าลำพองใจเข้าไปนั่งที่โต๊ะหน้าบ้าน เขาเองเดินเข้าประตูบ้านไป พอดี หญิงชราผู้เป็นแม่เดินออกมาอย่างตื่นเต้น
“ลูกเอกมาได้เวลาพอดี ลูกเอ๋ย มานี่ซี ลูกได้เงินมาด้วยหรือเปล่า?”
เจอหน้าแม่กลับโดนทักแบบนี้ บุญเอกก็มีทีท่าไม่พอใจขึ้นมาทันที
“อะไรกันแม่” เสียงเขาดัง
“ก็บอกแล้วว่ายังไม่ถึงรายการแข่งรอบชิงชนะเลิศ รออีกหน่อยซีแม่ นี่ก็ต้องขอแม่อีก ๒ หมื่นนะ เตรียมแข่งสนามพัทยา สมทบกับที่อื่น จึงจะพอ ทั้งหมดต้องเงินแสน” มันพูดราวกับว่าเงินหมื่นเงินแสนเป็นเรื่องจิบจ้อย
“ตายแล้ว! ก็ไหนลูกบอกว่าชนะมาหลายสนามแล้ว ไม่ได้เงินหรือลูก เฒ่าแก่เขาก็ทวงสัญญามาแล้ว เพราะมันจะครบกำหนดในเดือนสองเดือนนี้ เงินตั้ง ๕ แสนที่ยืมเขามาแม่ไม่มีปัญญาหามาใช้เขานะลูกนะ เขายึดที่นาไปแล้วเราจะไม่มีที่นาทำกิน เพราะต้องจำนำนาของเราทั้งหมดทั้ง 250 ไร่เขาจึงให้ยืม 5 แสนบาท”
“ใจเย็น ๆ ไว้เถอะน่าแม่ ทำอะไร ๆ ก็ต้องลงทุน เขาลงทุนกันเป็นล้าน ๆยังไม่สะดุ้งเลย ข้าจะต้องรีบไปนะแม่นะ ขอ ๒ หมื่นนะแม่นะ”
“ก็แกพึ่งเอาไปอาทิตย์ที่แล้ว ๓ หมื่น แกก็บอกแล้วไงล่ะว่าคราวหน้าก็ได้เงิน แกควรจะเอาเงินมาให้แม่เก็บไว้ใช้หนี้เขาถึงจะถูก จะมาขออีก จะเอาอะไรอีกล่ะเงินหมดแล้ว ต้องไว้ให้น้องเขาเรียนหนังสือบ้างซี เจ้าจ้อยแม่ก็เอาไปฝากหลวงตาที่วัดไว้ ”
“ก็แม่มีอยู่ตั้ง ๒ แสนนี่แม่ ข้าขออีกเพียง ๓ หมื่นเท่านั้นเอง รับรองว่าแข่งคราวหน้าได้เงิน” มันเปลี่ยนจำนวนเงินจาก ๒ หมื่นเป็น ๓ หมื่น
“แกพูดอย่างนี้ทุกครั้งที่มาขอเงินข้า ไหนแกบอกซิแกจะได้เงินมาอย่างไร ข้าไม่เห็นทางเลย”
“จากสปอนเซอร์ไง เขามีสปอนเซอร์รายใหญ่ ๆ พอให้เป็นล้าน ๆ เงินรางวัลอีกต่างหาก แม่ไม่รู้เรื่องหรอก วงการกีฬาเวลามันจะรวยมันรวยเป็นล้าน ๆ แบบไม่รู้เรื่อง แม่เชื่อฉันเถอะ แม่เพียงแต่คอยฟังข่าวฉันก็พอ แต่แม่ยังมีเงินเหลืออยู่เยอะนี่นา ขอเป็น๕ หมื่นนะแม่นะจะได้เตรียมฟิตเต็มที่”
“ไม่ ไม่ ไม่ แกมันมาไม้เดิมอีกแล้ว” แม่พูด “หัวเด็ดตีนขาดฉันก็ไม่ให้แกอีกแล้ว”
“ไม่ให้ข้าเอาเองก็ได้”
ดูเหมือนเจ้าลูกชั่ววางแผนมาไม้นี้อยู่ก่อนแล้ว มันก้าวสวบ ๆ จะขึ้นไปรื้อเอาเงินในที่ ๆ มันรู้ดีว่าอยู่ตรงไหน แม่เฒ่าโผเข้ารวบเอวไว้ร้องลั่นว่าอย่านะ ๆ เจ้าบุญเอกสลัดเต็มแรงแม่กระเด็นไปมันถีบซ้ำจนล้มคว่ำ ร้องโอดโอย น้ำตาไหลพรากด้วยความน้อยอกน้อยใจในวาสนาตัวเองที่มีลูกชั่วอย่างนี้ ไม่กี่อึดใจมันก็กลับลงมา มันยิ้มแสยะอย่างไร้ความรู้สึกในความดีความชั่ว ทั้ง ๆ ที่แม่มันนอนร้องโอดโอยอยู่ เงินแม่มันในกระเป๋ามีอยู่แสนบาทพอดีซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เหลือจาก ๕ แสนที่ไปกู้ยืมมา มันเอาไปทั้งหมด
“เองอย่าเอาไปทั้งหมดนะเจ้าบุญเอก ไว้ให้เจ้าจ้อยมันเรียนหนังสือบ้างนะ”
แต่ลูกชั่วอย่างบุญเอกไม่แยแส มันก้าวอาด ๆ ออกไปพยักหน้าให้พรรคพวก แล้วขึ้นขับขี่มอเตอร์ไซค์กระหึ่มลั่นไปโดยเร็ว มันทำมิต่างจากหมู่โจรปล้น หากพวกมันกลับคิดว่า ข้าคือวีรบุรุษคู่แผ่นดิน มีอาการคึกคะนอง เหิมเกริม ลืมคำว่าบุญหรือบาปใดใดทั้งสิ้น ลืมความเป็นลูก ความเป็นแม่ แม้กระทั่ง ความเป็นคน ในขณะนั้นมันหลงลืมตัวไปอย่างสุด ๆ ว่ามันคือ เทพบุตรในดวงใจของคนทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้หญิงวัยรุ่นที่คอยกรีด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เวลาพวกมันปรากฎตัวขึ้น พอ ๆ กันทั้งหญิงและชายประเภทนี้ นั่นก็คือพวกชอบทำตัวทันสมัยอย่างไม่รู้จักมองเงาตัวเอง
แท้ที่จริงบุญเอกไม่ได้เอาเงินไปลงทุนหรือเตรียมการแข่งขันสักเท่าไร แต่จริง ๆ มันใช้จ่ายไปกับสิ่งที่เด็กบ้านนอกอย่างมันไม่เคยได้ลิ้มได้ลองมาก่อน บาร์ ไนท์คลับ ดนตรี แสงสี กับผู้หญิงขายตัว และเครื่องดื่มมึนเมา ที่ล้วนเป็นสิ่งใหม่ ๆ ของมัน ที่มันหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วต่อมามันก็เป็นนักเลงการพนันตัวยงไปอีก และใช่แต่มันเท่านั้น เพื่อน ๆ รอบ ๆ ตัวมันก็ล้วนเป็นแบบเดียวกับมันและล้วนเป็นเพื่อนประเภทเพื่อนปอกลอกทั้งสิ้น คบคนเช่นไรก็เป็นเช่นนั้น !
และแล้ว เมื่อเงินหมด เพื่อน ๆ ก็ค่อยตีตัวจาก บางคนก็ทำเขื่องไม่ยอมเป็นลูกน้องมันต่อไป มันไม่บรรลุเป้าหมายการกีฬาอย่างที่ใฝ่ฝัน เพราะคนเช่นมันที่มีแต่ความโลภมักง่าย ไร้น้ำอดน้ำทน ไร้วินัย ไร้ปัญญา ดึงดื้อถือดีเอาแต่ใจตัวเอง ไม่รู้ฤทธิ์กิเลส ตัณหาใดใดทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จะประสบความสำเร็จได้อย่างไร ในที่สุดมันก็ติดยาเสพติด และติดโรคอันตรายคือเอดส์ มันหายตัวไปจากสังคมโลก ไม่มีใครรู้ว่ามันไปรับผลกรรมชั่วที่ไหน แดนใดในนรกนี้หรือในแดนเอดส์ของพระครูอาทรประชานาถหรือไม่ ? มันหายไปทั้งกลุ่มทั้งหมู่ชั่วนั้นอย่างไร้ร่องรอย
ที่นา ๒๕๐ ไร่ อันเป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย ซึ่งราคาจริง ๆ ร่วมร้อยล้านบาท ถูกเถ้าแก่หน้าเลือดใจปีศาจยึดไปเรียบร้อย ด้วยการวางแผนฉ้อฉล ด้วยเล่ห์กลทุกชนิดอย่างแนบเนียน มันลงทุนเพียง ๕๐๐,๐๐๐ บาทเท่านั้นเอง มันก็ได้ที่ดินมาถึง ๒๕๐ ไร่ราคาร่วมร้อยล้านบาทอย่างง่ายดาย เป็นที่น่าอเน็จอนาถยิ่งนัก ทุกวันนี้ มียายเฒ่าผมหงอก หลังโกง สติไม่ค่อยสมบูรณ์ อยู่กระท่อมหลังโรงงาน-อ๊อฟฟิสทันสมัย แห่งหนึ่ง อันเป็นของบริษัทเกษตรพัฒนาคอร์ปอเรชั่น ของนายทุนอเมริกัน ในจังหวัดกันดารชายแดนแห่งหนึ่ง วันหนึ่ง ๆ ยายเฒ่าจะเอาแต่เที่ยวไปเก็บผักตามรั้วข้างทางบ้าง แนวป่าช้าบ้าง เอาไปขาย เทียวไปรับจ้างเขาให้ทำอะไร ๆ ก็ได้ทุกอย่างที่แกมีแรงจะทำให้ได้ พอได้เงินซื้อข้าวปลาอาหารประทังชีวิตไปวัน ๆ รอลมหายใจสุดท้ายมาถึง บางครั้งก็มีคนในโรงงานเอาจานข้าวกับกับไปทิ้งไว้ให้บ้าง
เมื่อมีใครถามถึงญาติพี่น้องลูกหลาน ยายก็น้ำตาไหล
“ลูกชั่ว ลูกล้างผลาญวงศ์ตระกูล ลูกเนรคุณพ่อแม่ ลูกอกตัญญู ๆๆๆๆ” แกย้ำคิดไปจนปวดหัวแทบระเบิด จนบางครั้งต้องร้องครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ชาติหน้าฉันใดขออย่าได้พบพ้องลูกชั่วเช่นนี้อีกเลย” น้ำเสียงประโยคสุดท้ายบอกให้รู้ว่า ยายตั้งจิตอธิษฐานให้เป็นไปอย่างที่พูดจริง ๆ ไม่ใช่พูดเล่น ๆ
สามเณรรูปหนึ่ง ไม่ยิ้มหัวกับใคร ตกค่ำ หลังทำวัตรเย็นทุกวัน ๆ จะเข้าที่นั่งตั้งใจทำสมาธิจิตอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ โดยมีลูกประคำทำด้วยไม้จันทน์หอมพวงหนึ่ง สำหรับช่วยนับคาบบริกรรมคาถาบทหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษ สามเณรจะบริกรรมคาถานั้นให้ได้ ๑๐๘ คาบเป็นปกติเช่นนี้ทุกวัน ทำให้สมาธิแก่กล้าขึ้นอย่างเร็วมาก จนกระทั่งเริ่มเป็นที่สังเกตและมีชื่อเสียงในหมู่นักปฏิบัติธรรมญาติโยม
ครั้นญาติโยมถามถึงที่ไปที่มาของคาถาบริกรรมบทนั้น สามเณรก็จะเล่านิทาน
ซิ่งเนรคุณนี้ให้ฟังประกอบ แล้วสอนว่า
“อิณาทานํ ทุกขํ โลเก : การกู้หนี้เป็นทุกข์ในโลก”
คาถาบทนั้น
“โยมเอ๋ย พึงสดับนิทานเรื่องซิ่งเนรคุณนี้เป็นตัวอย่างเถิด อย่าพึงเห่อตามโลก อย่าพึงทำอะไรเกินตัว มิฉะนั้นจักประสบทุกข์หนักเหมือนครอบครัวฉัน”
แท้จริงมิใช่เฉพาะครอบครัวของสามเณรเท่านั้นหรอก
แต่หมายถึงประเทศไทยทั้งประเทศด้วย ฯ
อิณาทานํ ทุกฺขํโลเก
การกู้หนี้เป็นทุกข์ในโลก