.jpg)
ดีเล่มที่ 59
ปีที่ 26 ประจำเดือน ตุลาคม 2565 ถึงเดือน กันยายน 2566
.jpg)
หากจะฝัน ก็จงฝันถึงชีวิต จิตวิญญาณอันกล้าแกร่ง ทรงฌานสมาธิ ถอดร่างออกมาได้ แล้วท่องเที่ยวไปทุกแห่งหนทั่วฟ้าไกลไร้ขอบเขต
แล้วหลุดพ้นไปจากโลกมืดสลัวรัวราง สู่โลกสว่างไสวนุ่มนวลคือมหานิพาพานไร้ขอบเขต โลกแห่งอรหันตะพุทธะ ทั้งปวง ที่พ้นทุกข์นิรันดร
If you wannt to dream, dream oflife, The mightysoul meditates, body can beremoved and traveled everywhere across the boundless sky
and escaped from the dim, dim worlds into a bright, soft,cool world, that is, Niravana, the world of all enlightened beings,eternal suffering
.jpg)
บทที่ 1 คำนำ 1
.png)
หนังสือพิมพ์ดี (อินเทอเนต) เล่มนี้ เป็นเล่มที่ 59 ของเรา เป็นปีที่ 26 แล้ว เดิมเราได้ลงบทความนำหน้ามาตลอด ถึงเรื่อง ยุคกึ่งพุทธกาล ของพระพุทธศาสนา ตามคำทำนายของนักปราชญ์อีสาน ที่เราติดตามคำทำนายนี้มาตลอด ว่าจะหมายถึงอะไร ที่ทำนายไว้นั้นมีเค้าของความเป็นจริงหรือไม่ นั่นก็คือ
เรื่องศาสนาพุทธ จะฟื้นขึ้นมาอีก ในเดือน 4 ปีกุน หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว โดยจะมีผู้ตรัสรู้ขึ้นมาโปรดโลกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำพุทธศาสนาไปสู่โลกทั้งโลก สืบไปจนถึง 5000 ปี และเดือน 4 ปีกุน ที่เราเห็นว่ามีความหมายตรงตามคำทำนายนี้ก็คือ เดือน เมษายน พุทธศักราช2562 ระหว่างวันที่ 6 มีนาคม 2562 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน4 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2562 เดือน 4 ปีกุน ตามพุทธทำนาย ในระบบโหราศาสตร์ พบว่า เป็นปีที่ดาวพฤหัสบดี(๕) จรสู่ราศีธนูตำแหน่งเจ้าเรือน เกษตร ดาวอังคาร(๓)จรสู่ราศีเมษ ตำแหน่งเจ้าเรือนเกษตร และ ดาวจันทร์(๒)จรสู่ตำแหน่งมหาจักร ในราศีเมษ แล้วเลยสู่ตำแหน่งมหาอุจ ในราศี พฤษภ ระหว่างวันที่ 9 - 12 - 14 มีนาคม 2562
โปรดดู คำพยากรณ์ เดือน 4 ปีกุน จาก นสพ.ดี เล่มก่อน ๆ หรือเล่มที่แล้ว เล่มที่ 58 โปรดคลิกติดตามไปดูได้
สำหรับดี เล่มที่ 59 นี้ เป็น ดีประจำเดือน ตุลาคม 2565 - เดือนกันยายน 2566 คือ ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค. 2565 - ม.ค-ก.พ.-มี.ค.-เม.ย.-พ.ค.-มิ.ย.-ก.ค.-ส.ค.-ก.ย. 2566
เป็นเล่มที่ ออกมาตรงกับทางประเทศไทย ได้มีรัฐบาลใหม่ ตามการปกครองแบบประชาธิปไตย ตาม รัฐธรรมนูญ 2560 โดยที่ทางรัฐบาล นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน พร้อม คณะรัฐมนตรีอีก 33 คน ได้ทำการถวายสัตย์ปฏิญญาณ และรับฟังพระโอวาท จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แล้ว ณ วันที่ 5 กันยายน 2566 ซึ่งบอกความหมายของการเป็นรัฐบาลเต็มตัวที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ต่อไป...... บรรณาธิการ ก.ย. 2566
.png)
พุทธทำนายเดือน 4 ปีกุน
คำนำ 1
เราจะขอนำไปทบทวนพุทธทำนายเดือน 4 ปีกุน อีกครั้งหนึ่ง ขอให้มองในแง่เหตุและผล เรื่องเหตุทรงบอกถึงอะไร ? บอกถึงความเสื่อมทรามของศาสนาพุทธ ก็จะเห็นว่าจริงตามที่บอกในพุทธทำนายนี้ ...จนปรากฎการณ์แห่งศาสนาพุทธ นั้น มีลักษณะซับซ้อน ยากแก่การเข้าใจจริง ๆ ... และที่จะสังเกตเอาเป็นตัวเหตุก็คือ การที่นักบวชพุทธยุคสมัยนี้ ไม่เข้าใจว่า ตนออกบวชมาพื่ออะไร ? คนที่ออกบวชเพื่อแสวงหาความหลุดพ้นจริง ๆ นั้น แทบหาไม่มีเลย หากท่านได้พบบ้างแล้ว ก็ขอได้ชื่นชมและให้ความบูชาเถิด ......
พุทธทำนายเดือน 4 ปีกุน
เรื่องพุทธทำนายนี้มีปรากฏอยู่ในภาษาบาลีพระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ เล่มที่ 27 หน้า 24 ขึ้นต้นว่า อุสุภา รุกฺขา คาวิโย ฯลฯ และอธิบายไว้ในอรรถกถาเอกนิบาต ภาค 2 และเคยแปลเป็นภาษาไทยไว้ในชาดก ฉบับหอสมุดวชิรญาณ เล่ม 1 อาจารย์ศิลา วีรวงศ์ ได้แต่งเป็นกลอนลำอีสาน ประมาณ พ.ศ. 2490”
มีข้อความตอนสำคัญดังนี้ :-
(1).png)
“๑๑. ข้อสิบเอ็ด
พระฝันเห็นท่อนไม้แก้วแก่นจันทน์แดง ของมันราคาแพงค่าสูงแสนตื้อ เขาเลยเอาไปซื้อขายกินแลกไก่ เอาจันทน์แดงใส่กระชาน้อยแขวนห้อยเที่ยวขาย อันนี้แล้วเพิ่นว่าภายหน้าพู้นเคิ่งศาสนาพุทธ มนุษย์มีโลภามืดมัวเมากุ้ม ชุมหมู่ถือศีลสร้างเป็นจัวเจ้าหัวบ่าว เห็นผู้สาวแล้วเอิ้นเสินเว้าดั่งสหาย นอกจากนั้นกะซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนาพุทธ เอาพระธรรมลงมุดจายขายกินจ้าง ตั้งเป็นตึกเป็นห้างขายกินปิ้นไป่ ทังพระสูตรพระวินัยเอาลงใส่กระช้าโซนผ้าเที่ยวขาย นี้จั่งแม่นต่อนฮ้ายขายฮูปพุทธองค์ สงฆ์บ่ถือวินัยไพร่เมืองบ่อยำอย้าน มีแต่คนพาลกล้าโกธาเขี้ยวขุ่น ศาสนาเกิดวุ่นสูญเส้ามุ่นทะลาย สงฆ์ซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนากู สัพพัญญูเล็งเห็นหน่ายสะอางผางฮ้าย คันแม่นกายไปหน้าศาสนาของเฮาจั่งสิฟื้นขึ้นใหม่ ในปีกุนล่วงแล้วซิแววขึ้นลื่นหลัง ครั้งนั้นแหล้วคนสิอยู่เป็นสุข จั่งสิหายความทุกข์หมู่ภัยไกลเนื้อ ใผผู้ยังเหลือค้างซิเห็นทางฟ้าล่วง คนสิพ้นจากห่วงฝูงหมู่มารบาปฮ้ายเมื่อฟ้าอยู่กะเสิม เริ่มแต่ค้าเดือนสี่ปีกุน ใผมีบุญจั่งสิเห็นหน่อพระธรรมเดอป้า พากันถือศีลห้าภาวนาเดอแม่ หยังกะเห็นเที่ยงแท้บ่มีเว้นหว่างใด๋”
จาก กลอนลำเรื่องพุทธทำนาย ชมรมวรรณกรรมอีสาน จัดพิมพ์ โดย ร.พ.ไพศาลศิริ ท่าพระจันทร์ กทม. 2527 หน้า 7
(2).png)
หมายเหตุ บก.
เรื่องพุทธทำนายนี้ มีการระบุถึงเดือนสีปีกุน แต่ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเป็นปีกุนรอบไหน พ.ศ.อะไร ระบุไว้กว้าง ๆ ว่าหลังยุคกึ่งพุทธกาลไปแล้ว คือหลังปีพุทธศักราช 2500 ไปแล้ว เมื่อมาถึงปีกุน พ.ศ.2502,2514,2526,2538 และ พ.ศ.2550 ตามลำดับมาแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะมีอะไรเป็นที่น่ายินดีสำหรับพระพุทธศาสนา ก็น่าจะเป็นปีกุนรอบต่อไป ซึ่งก็ได้มาถึงแล้ว คือปีกุน พ.ศ. 2562 จะเป็นปีกุนที่ตรงกับพุทธทำนายอีกครั้งหนึ่ง และได้มาถึงแล้ว ดี เล่มต่อไปก็จะเป็นดีที่ออกมาตรงกับปีกุน ตามพุทธทำนายอีกครั้งหนึ่ง และจะมีสัญญาณอะไรเกิดขึ้น อันจะบอกถึงการฟึกฟื้น การเกิดใหม่อย่างเจริญรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนาในปี 2562 นั้น
เพื่อพิจารณา ทำความเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องคำทำนาย เดือน สี่ ปีกุนโดยเฉพาะรอบปี พ.ศ. 2562 นี้มีข้อสรุปอย่างชัดเจนอยู่ 2 ประการ คือ เรื่องความเสื่อมของพระพุทธศาสนา ที่มีมาตามลำดับ จนถึงเดือนสี่ ปีกุนจึงจะเริ่มฉายแววของความเจริญฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นมาใหม่ ดังข้อสรุป 2 ประการนี้
1. ศาสนาพุทธเสื่อมลงไปถึงสภาพสิ้นศาสนา ดังคำว่า “ภายหน้าพู้นเคิ่งศาสนาพุทธ พุทธ มนุษย์มีโลภามืดมัวเมากุ้ม ชุมหมู่ถือศีลสร้างเป็นจัวเจ้าหัวบ่าว เห็นผู้สาวแล้วเอิ้นเสินเว้าดั่งสหาย นอกจากนั้นกะซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนาพุทธ เอาพระธรรมลงมุดจายขายกินจ้าง ตั้งเป็นตึกเป็นห้างขายกินปิ้นไป่ ทังพระสูตรพระวินัยเอาลงใส่กระช้าโซนผ้าเที่ยวขาย นี้จั่งแม่นต่อนฮ้ายขายฮูปพุทธองค์ สงฆ์บ่ถือวินัยไพร่เมืองบ่อยำอย้าน มีแต่คนพาลกล้าโกธาเขี้ยวขุ่น ศาสนาเกิดวุ่นสูญเส้ามุ่นทะลาย สงฆ์ซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนากู”
2. ครั้นถึงยุคกึ่งพุทธกาลแล้ว ปีกุน จะมีหน่อพระพุทธเจ้า หรือ คนดี หน่อพระธรรมมาสืบพระพุทธศาสนา ที่ในคำพยากรณ์บอกถึงสิ่งที่ดีมากกับพุทธศาสนาในส่วนรวม โดยที่ จะมี “หน่อพระธรรม” มาสืบพระพุทธศาสนา โดยคำว่า "คันแม่นกายไปหน้าศาสนาของเฮาจั่งสิฟื้นขึ้นใหม่ ในปีกุนล่วงแล้วซิแววขึ้นลื่นหลัง ครั้งนั้นแหล้วคนสิอยู่เป็นสุข จั่งสิหายความทุกข์หมู่ภัยไกลเนื้อ ใผผู้ยังเหลือค้างซิเห็นทางฟ้าล่วง คนสิพ้นจากห่วงฝูงหมู่มารบาปฮ้ายเมื่อฟ้าอยู่กะเสิม เริ่มแต่ค้าเดือนสี่ปีกุน ใผมีบุญจั่งสิเห็นหน่อพระธรรมเดอป้า พากันถือศีลห้าภาวนาเดอแม่ หยังกะเห็นเที่ยงแท้บ่มีเว้นหว่างใด๋”
เรื่องความเสื่อมของศาสนาพุทธนั้นพอเห็นได้อยู่ชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องสงฆ์ไม่มีวินัย เที่ยวขายศาสนากิน และผิดทางเพศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวงการสงฆ์ไทยที่ผ่านมาเร็ว ๆนี้และยังคงมีเรื่องราวที่ต่อเนื่องไปอยู่ในทุกวันนี้
ทีนี้ ที่เป็นข้อกังขาก็คือ ผู้ที่จะมาสืบพระศาสนานั้นจะเป็นบุคคลอย่างไร? เป็นพระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์องค์ใหม่อย่างนั้นหรือ? แล้วคนจะรู้จักท่านได้อย่างไร? เพราะในทุกวันนี้ ก็ดูมีเรื่องราวของคนเก่งมากมาย ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส รวมทั้งสำนักต่าง ๆ มากมาย อะไรคือสิ่งที่บอกเหตุถึงความเก่งความดี ความประเสริฐของผู้มาสืบศาสนา? ซึ่งในประเด็นนี้เราคิดว่า หน่อพระธรรมที่จะปรากฏขึ้นนั้น อย่างน้อยท่านก็จะต้องรู้แจ้งเจนจบในหลักธรรมสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือเรื่องของมรรคผล นิพพาน ความเป็นอริยสงฆ์ผู้พ้นทุกข์ และหมายถึงเรื่องศาสนาสากลใดอันเป็นความเชื่อหรือวิถีทางที่ห่างไกลไปจากโลกนิพพาน ที่เป็นเป้าหมายของพระพุทธศาสนา และซึ่งจะเป็นคำสอนที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งโลก ที่จะนำมนุษย์ผู้มีความดีพอเหมาะสมพอไปสู่ความพ้นทุกข์ พบโลกใหม่ในชีวิตปัจจุบันนี้เอง คือพบความสุขในโลกนิพพานนั้น อย่างไรก็ดี เรื่องเวลา ที่ระบุถึงเดือนสี่ปีกุน นั้น ก็อาจจะไม่ตรงเผงนักก็เป็นได้ อาจจะก่อน หรือตรงปีกุน หรือ เลยปีกุนไปหน่อย ก็อาจจะเป็นได้ ทั้งนี้มองจากหลักการพยากรณ์แบบโหราศาสตร์ ที่การจรของดวงดาวทั้งหลาย อาจจะมีเหตุของการล่าช้าที่เรียกว่ามน หรือเร็วเกินไปที่เรียกว่าเสิด หรือแม้มีการถอยหลังหรือพักร ก็ยังมีเกิดขึ้นได้ การพยากรณ์เรื่องเวลาจึงมีผิดพลาดไปได้บ้าง จึงมีลักษณะของการเสิรด มน การพักร ของดวงดาวอยู่เป็นประจำ ก็คงคอยดูกันต่อไป. (จากดี เล่มที่ 58)
บทที่ 2 คำนำ 2
.png)
เรายังคงใช้วิธีที่ รอท่านผู้อ่าน คลิกตามไปดูเรื่องที่เราเสนอ เพราะเรื่องราวใน นสพ.ดีนั้น เป็นเรื่องราวที่แทบทั้งหมดเราได้นำลงไปใน เฟสบุ๊ค และ เวบไซต์ อินเทอเนต ของเราไปแล้ว อีกอย่างหนึ่ง แท้จริง มี นสพ.ดี แบบเทคนิกใหม่ของเราคือ เฟสบุ๊คนั่นเอง วันนี้ ดี ของเราจึงผ่าน มาตั้งแต่ ดี เอกสารเป็นเล่ม แจกจ่ายทางเอกสาร แล้วมาถึง ดี(อินเทอเนต) แล้ววันนี้ ดี เฟสบุ๊ค โปรดติดตาม ดียุคใหม่ของเรา แบบวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง เลยทีเดียวในเฟสบุ๊คของเรา.....เรื่องที่ท่านผู้อ่านจะคลิกไปดูก็มี บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ตั้งแต่บุคคลที่ 1 มาถึง วันนี้ บุคคลที่ 189-193 โปรดคลิก ......บรรณาธิการ 21ก.ย. 2566
บทที่ 3 สารบาญ
.png)
บทที่ 1.คำนำ 1
บทที่ 2.คำนำ 2
บทที่ 3. สารบาญ
บทที่ 4.บทบรรณาธิการ
บทที่ 5.บุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดีพุทธศักราช2566
บุคคลที่ 189 นายชวน หลีกภัย
บุคคลที่ 190 ศ(วุฒิ) ดร.น.พ.พรเทพ ศิวนารังสรรค์
บุคคลที่ 191 นายวรเทพ สุวัฒน์พิมพ์
บุคคลที่ 192 Amini Naza สาวอิหร่าน
บุคคลที่ 193 แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ มวยไทยหญิงมือปราบ โลกทั้งโลกทุกกระบวนยุทธยอมแพ้ฝีมือมวยไทย
บทที่ 6.การเมืองไทยวันนี้
เรื่องที่ 1. ชุมนุมทะลุประตูธรรมศาสตร์ 19 ก.ย.2563 ทำการเมืองไร้สาระไปหมด
เรื่องที่ 2 การเมืองไทยวันนี้ 5 ก.ย.2566 คณะรัฐบาลใหม่ ใต้นรม.คนที่ 30
เรื่องที่ 3 การเมืองไทยวันนี้ 12 ก.ย. 2566 วิเคราะห์ระบอบการเมืองไทย ใช้ประชาธิปไตยไม่เป็น เป็นคอมมิวนิสต์ดีกว่า
เรื่องฃที่ 4 การเมืองไทยวันนี้รัฐบาลเศรษฐา เป็นรัฐบาลสมมติฐาน เอาประเทศไทยมาทดลอง
บทที่ 7 สถิติ วาทะที่เผยแผ่ Buddhism to the Newworld Era ไป 138ภาษาโลก ครบ 8 พันล้านชีวิตคนทั้งโลก
บทที่ 8 โหราศาสตร์การเมือง
เรื่องที่ 1 โหราศาสตร์วันนี้ 14 มิ.ย.2566 คำถาม พิธา ลิ้มจริญรัตน์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่?
เรื่องที่ 2. ทักษิณลอบเข้าประเทศไทยแล้ว
เรื่องที่ 3.. พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่?
เรื่องที่ 4. เศรษฐา ทวีสิน จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่ พิเศษ?
เรื่องที่ 5 ดวงชะตาทักษิณชินวัตรวันนี้
บทที่ 9 อิสลาม วันนี้
เรื่องที่ 1 มุสลิม ปัญหามุสลิม ในประเทศไทย ไม่จริงใจกับความเป็นคนไทยแท้ จึงขาดสิทธิทางการเมืองแต่เริ่มแรก ไล่ออกได้ตั้งแต่ สส. ถึง จุฬาราชมนตรี
เรื่องที่ 2 รัฐบาลเอาอิสลามมาคุมพุทธ มันจึงเป็นแบบนี้ ส่วนพุทธมีรัฐบาลสงฆ์แต่ไม่รู้จักทำอะไร ทำอะไรไม่เป็นเลย ต้องมีการปรับปรุงโดยให้ออกไปเสีย
บทที่ 10. ประวัติมหัศจรรย์ พระ ร.อ.พยับ ปัญญาธโร (เติมใจ) พระครูพุทธิพงศานุวัตร ตอนที่ 1-57 เพิ่มเติม ณ 23 ก.พ. 2566
.png)
บทที่ 4 บทบรรณาธิการ
.png)
หนังสือพิมพ์ ดี ปีนี้ ครบอายุ 26 ปีแล้ว ซึ่งเราไม่เคยขาดอายุ ดีเลยแม้แต่เล่มเดียว จึงเป็นผลงานที่เรามุ่งหมายดีงามต่อคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเลย ...แม้ชื่อเสียงเกียรติยศ...คำชมเชยยกย่อง....ซึ่งแม้สักคำเดียวเราก็ไม่เคยได้รับ .......แต่ เราได้ทำหน้าที่มาตลอด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสัจธรรม คือธรรมะ ว่า ธรรมะ เป็นสิ่งจำเป็นของโลกทุกยุคทุกสมัย อย่างขาดไม่ได้ คนในโลกต้องรู้จักธรรมโดยเฉพาะธรรมะของพระพุทธเจ้า ซึ่งพอรู้เท่านั้นเองก็จักเกิดความชื่นบานสูงสุดในชีวิตคน ๆ หนึ่ง
แต่วันนี้ เพียงว่าคนทั้งหลายทั้งโลก จะต้องเข้าใจว่ากิจการงานทุกอย่าง หรือ ความเคลื่อนไหว ความประพฤติ ความเป็นไปของคนทั้งหลายนั้น ที่เกิดความร้ายแรง เป็นภัย เกิดทุกข์ วุ่นวาย หรือถึงวอดวายพินาศไปทั้งประเทศ ขึ้นมานั้น เป็นเพราะมาจากความไม่ประพฤติธรรมะกัน นั้นเอง
ต้องประพฤติธรรมะ เหตุการณ์ สถานการณ์ร้ายจึงจะดีขึ้น พ้นจากมหาภัยความวินาศ สิ้นชาติไป และนำไปสู่ความสุขสงบได้ ซึ่งตามหลัก มรรค 8 ในพระพุทธศาสนานั้นก็คือ หลักสัมมากัมมันตะ นั่นเอง
เช่นเรื่องการเมืองของไทยเราวันนี้ ที่เกิดความวุ่นวาย อย่างที่เห็นในและนอกสภามาตลอดนั้น ก็เพราะมีนักการเมือง พรรคการเมือง(รวมทั้งประชาชนคนไทยเราเอง โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา) ประพฤติผิด ไม่ถูกทางแห่งธรรมะ นั้นเอง และเราเพียงรู้ความจริง ว่าอะไรคือธรรมะการเมืองนี้ อะไรถูก อะไรผิด เพียงเลิกประพฤติสิ่งที่ผิดเสีย มาประพฤติสิ่งที่ถูก เท่านั้นเอง ก็นำการเมืองไทยไปถูกทาง นำประเทศไทยไปสู่การเมืองที่สร้างสรรค์ยิ่งกว่าใครประเทศใดในโลก ไปสู่ความสุขสงบพัฒนาถาวร ไปสู่โลกนิพพานสงบเย็นได้ แบบเกิดจากความรู้ธรรมะ อะไรถูกอะไรผิด นั่นเอง
อย่างเช่นระบอบประชาธิปไตยที่ไทยเอามาใช้ แบบที่ไม่รู้เลยว่าคืออะไร ใช้อย่างไร จนทำไม่ถูกมาตลอด 90 ปีมาแล้ว ซึ่งก่อนอื่นเลย เราก็ต้องเข้าใจว่ามีธรรมะ จึงจะใช้ระบอบที่ดีสูงสุดนี้ได้ ทำให้ประชาธิปไตยเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และสังคมแก่ประชาชนคนไทยทุกคนได้ หากไม่มีธรรมะ ประพฤติไปด้วยความกระหาย โลภทุจริต อยากเป็นใหญ่ แบบทุจริตคิดมิชอบ เอาเงินมาทำทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งอย่างนี้มันไม่มีธรรมะ แล้วเมื่อประพฤติผิดธรรมะ มันก็ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงเกิดความร้ายแรงเป็นโทษขึ้นมา นี่แหละเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเมื่อเรารู้ เราก็หยุดการทำผิดเสีย เมื่อหยุดความทุจริตเสียได้ ก็นำมาสู่แต่สิ่งที่ดี นี่เองคือธรรมะ ก็แค่รู้และปฏิบัติเท่านั้นเอง อะไรก็ดีขึ้นมาได้ทันที
เช่นเราก็ต้องรู้ว่า เราปกครองแบบประชาธิปไตยเราก็ต้องรู้ว่า ประชาธิปไตยนั้นต้องมีธรรมะ ว่าด้วยการแบ่งปันอำนาจกันแต่เริ่มต้นเลย นั่นคือ การได้อำนาจนั้นต้องแบ่งปันกัน(ถ้าไม่แบ่งปันก็เป็นระบอบเผด็จการ) แบ่งคนทั้งประเทศคนละ 1 อำนาจ(จึงมีที่มาว่า ประชาธิปไตยเป็นของประชาชน โดยประชาชน และ เพื่อประชาชน...แต่ประชาชนไทยก็ยังไม่เข้าใจ หน้าที่ของตนอย่างไร เลยมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันมาตลอด ซึ่งทำลายเสรีภาพของตนไป เป็นการผิดธรรมะประชาธิปไตยไปอย่างมีโทษสุงสุด ที่ควรไล่ออกจากตำแหน่ง ประชาชนประชาธิปไตยไปเลย) ) และ ให้ตำแหน่ง สส. สว. คนละ 4 ปี ให้เขาเลือกคนใหม่ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนละ 4 ปี เลยจากนั้นให้คึนอื่นเขาเป็นบ้าง นี่แหละการแบ่งปันอำนาจ ซึ่งนักการเมืองไทย พรรคการเมืองไทย มักไม่ค่อยคิดเรื่องธรรมะกันข้อนี้เลย จึงเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว เต็มไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง) แม้แท้จริง ก็คือหลักทาน ในพุทธศาสนาของเราสอนมาปฏิบัติมานั้นเอง (ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา) และซึ่งมาสู่การเมืองด้วย อย่างสหรัฐอเมริกาเขามีธรรมะข้อนี้มาแบบสมบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง ยิ่งกว่าคนไทยเสียอีก ดังจะเห็นข้อเท็จจริงเป็นรูปธรรมเลยก็เรื่องแบ่งปันอำนาจนี้ นับแต่ปันอำนาจประธานาธิบดีเขา ตั้งแต่ ยอร์ช วอชิงตัน คนที่ 1 มาถึง โจ ไบเดน คนที่ 46 300 กว่าปีมานี้ ตกแล้วเขาครองตำแหน่งกันคนละ 5-6 ปี ครบวาระเขาก็ออกไปให้คนอื่นมาเป็นแทน คือให้คนอื่นได้อำนาจ เขาแบ่งปันด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่เอาคนเดียว (ดูเรื่องอังกฤษยุค นายโทนี่ แบล ก็ได้ เขาต่อสู้มาอย่างมีธรรมะแบบไม่บกพร่องเลย ร่วม 20 ปีจึงชนะ และแบ่งปันอำนาจอย่างไร ในหลักธรรมทาน ที่เขาประพฤติดีกว่าคนไทยแบบเทียบกันไม่ได้เลยเขาจึงเจริญเพราะธรรมเรื่องทานนี้) ไม่เกินกฎของเขาเลยที่ว่า ไม่เกิน 2 วาระ ๆ ละ 4 ปี เขาทำได้อย่างเคร่งครัดเพราะจิตใจบริสุทธิ์ในทานเห็นแก่คนอื่น มีความเสมอภาคและภราดรภาพแท้จริงนั้นเอง ผิดจากนักการเมืองไทยพรรคการเมืองไทย...ที่แม้ธรรมะประชาธิปไตยมรอย่างไรยังไม่รู้เลย อันแสดงถึงข้อบกพร่องยิ่งใหญ่ ที่ยังไม่มีน้ำใจทางธรรมะประชาธิปไตยมั่นคงแม้เพียงเรารู้จักแบ่งปันกันเช่นนี้ แล้ว การเมืองไทยก็เดินไปโดยสงบได้ คนที่ใฝ่แสวงหาอำนาจ ก็ต้องรำลึกว่า อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเราก็ต้องคิดถึงคนอื่น แบ่งปันคนอื่น ครบวาระก็ต้องให้คนอื่นไป คิดธรรมะเช่นนี้ ก็จะมุ่งปฏิบัติไปถูก ไม่ทุจริต ลงทุนด้วยเงินทองมหาศาลเพียงเพื่อให้ได้อำนาจ โดยไม่คำนึงถึงธรรมะการให้ทานเลย ในเมื่อเข้าใจเช่นนี้แล้เว การเมืองไทยก็จะสงบลง และจึงจะก้าวหน้าไปได้
หนังสือพิมพ์ดี ได้ต่อสู้ เผยแผ่ธรรมะเช่นนี้มา ร่วม 26 ปีวันนี้ และฉบับที่ 59 นี้ ก็ยังทำหน้าที่ ที่น่าตื่นเต้นต่อไปอีก โปรดติดนตามมาแต่เล่มแรกเลยก็ได้
และเรื่องสำคัญประจำปี ๆ นี้ ก็คงเป็นเรื่อง บุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี โปรดติดตาม โดยเรามีเสนอเรื่องทุกเรื่องในสารบาญแล้ว
บรรณาธิการ
21 ก.ย. 2566
.png)
บทที่ 5
บุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี ปีพุทธศักราช 2566
.png)
บุคคลที่ 189 นายชวน หลีกภัย
เป็นนักการเมืองเป็นอาชีพ มาตลอดชีวิต อันเป็นผลจากคุณความดีมีศีลธรรมประจำใจ่าน สม่ำเสมอ มาตลอดชีวิต เป็นเหตุให้น่าไว้วางใจน่านับถือของประชาชนมาตลอด ไม่เสื่อมลฃง จนถึงวีัันนี้ ถึงวันนี้ อายุเข้า 85 ปี แล้ว สิ่งที่ได้เห็นมาก็คือ ประสบความสำเร็จทางการเมืองมา พร้อมด้วยความมีหลักการการเมืองที่ถูกต้อง เป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัย โดยล่าสุด เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหมายถึง เป็นประธานรัฐสภาไปด้วย และมาพร้อมกับพรรคการเมืองที่มีสถานะเป็นสถาบันการเมืองที่มีพลังอุดมการณ์สูงส่ง สมเป็นสถาบันการเมืองที่เก่าแก่ของการเมืองประชาธิปไตยไทย มีอายุมา ร่วม กว่า 77 ปีแล้ว วันนี้ นายชวน หลีกภัยก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจากพรรคประชาธิปัตย์ และประชา่ชนให้ครองตำแหน่งสส.ต่อมาอีก เป็นสมัยที่ 6 ของนักการเมืองคนนี้ สิ่งที่เราเห็นว่า เป็นคนมีคุณค่าแห่งบุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช 2566 นั้นก็คือ ความมั่นคง สม่ำเสมอในคุณธรรมอันแสดงออกถึงพรหมวิหาร เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา เป็นคนตรง ไม่มีลับลมคมใน ดังปรากฎผลงานล่าสุด ที่เป็นประธานรัฐสภา ยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชะ ซึ่งสภานั้น ไม่เหมือนสภาครั้งก่อน ๆ นัก แต่ดุจดั่งว่าสถาเถื่อน หากแต่นายชวนได้สามารถใช้ความช่ำชอง ความชำนาญกฎหมาย ระเบียบ ของสภา และยังชำนาญการรู้เรื่องบุคคลิกนิสัยของบุคคล จึงเอาตัวรอด เอาสภารอดมาได้ จนถึงวันยุบสภาได้เมื่อครบอายุเกือบ 4 ปี ทำความสง่างามให้รัฐสภาไทยได้ดีเป็นพิเศษ เราจึงขอยกย่องนายชวน หลีกภัย เป็นบุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี ปี พุทธศักราช 2566 เป็นบุคคลแห่งปีของเรา ขอได้พบความสุขความเจริญสืบไปตลอดกาลนาน
ชวน หลีกภัย เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ที่ตำบลท้ายพรุ (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลทับเที่ยง) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 9 คน ของนิยม กับถ้วน หลีกภัย เมื่อยังเด็ก ชวนมีชื่อเรียกในครอบครัวว่า "เอียด" หมายถึง เล็ก เนื่องจากเป็นคนรูปร่างเล็ก วันนี้เขามีอายุ 85 ปี 2เดือนเศษ ๆ แล้ว
นายชวน หลีกภัย วันนี้ เพิ่ง ออกจากตำแหน่งประธานรัฐสภา ยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นสส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ในยุคนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย นายชวน ได้กลับเข้าสู่รัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง เมื่ออายุ 85 ปี ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์
สิ่งที่เราให้ความสำคัญแด่การเป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดีพุทธศักราช 2566 นั้น มาจากประวัติชีวิตของคนๆ นี้ 85 ปี นั้น เขาเป็นคนดำรงอุดมการณ์สม่ำเสมอมาตลอด แม้อุดมการณ์การเมืองเอง ที่หายาก จนเราจะกล่าวได้ว่า เขาเป็นหนึ่งเดียวในการเมืองไทยวันนี้
.jpg)
ด้านภูมิปัญญาทางการศึกษาฝ่ายโลก ดูระดับปริญญากิตติมศักดิ์ ดังนี้
1. ดุษฎีกิตติมศักดิ์ทางรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
2. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
3. ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์
4. และ พ.ศ. 2537 ดุษฎีบัณฑิต สาขาวรรณกรรม (ภาพเขียน) มหาวิทยาลัยศิลปากร
นายชวนได้สมัครเข้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในพ.ศ. 2501 ขณะยังเป็นมหาวิทยาลัยเปิด ซึ่งมีชื่อรุ่นว่า นิติศาสตร์ 01 มีเพื่อนร่วมรุ่นเช่น นายสมัคร สุนทรเวช นายอุทัย พิมพ์ใจ ชน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สำเร็จการศึกษาใน พ.ศ. 2505 ก่อนจะสอบได้เป็นเนติบัณฑิตไทย พ.ศ. 2507
นี่คือพื้นฐานแห่งภูมิปัญญา ที่รอบรู้และเชี่ยวชาญ ในงาน ภาระไหน้าที่ ที่ได้รับผิดชอบมา ตลอดชีวิตโดยเฉพาะงานการเมืองที่นายชวน เป็นคนการเมือง และมีงานรับผิดชอบต่อประชาชน ในรัฐสภา ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และ บริหาร มาตลอดชีวิตนั้นเอง
แต่ที่เรายกย่องอย่างจริงใจนั้นก็คือ เขาเป็นคนมีธรรมะ มีเหตุมีผลเป็นหลักการของชีวิต ตามหลักการของพระพุทธศาสนา อย่างมั่นคง อันเห็นได้จากอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ตลอดมา อันเห็นได้ว่า เพราะเหตุที่มีหัวหน้าพรรคอย่างนายชวน หลีกภัย จึงนำพรรคประชาธิปัตย์ เดินมาถูกทางแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย จนเนิ่นนานมาถึงวันนี้ 77 ปีแล้ว นับเป็นพรรคการเมืองที่มีสถานะเป็น สถาบันการเมือง แห่งเดียวในการเมืองไทยวันนี้ แม้ วาระสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 นี้มาจนถึงคราวประเทศไทยเราได้รัฐบาลใหม่ นั้น แสดงออกถึงอุดมการณ์อันมั่นคงแน่วแน่ในการกระทำความดีของบุคคลผู้นี้ อันแม้เข้าวัย วาระท้ายของชีวิตแล้ว แต่ก็ยังคงมั่นคงในอุดมการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลง และ นี่เอง เข้าลักษณะ อริยบุคคลในทางพระพุทธศาสนา เลยทีเดียว จึงขอยกย่อง ประกาศคุณความดี ของ ท่านชวน หลีกภัย เป็นบุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช 2566 เทอญ

บุคคลที่ 190 ศ.(วุฒิคุณ) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์
.jpg)

ทางสื่อ 002 NBT ให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพ ประเด็นการดูแลตนเองให้เป็นคนไกลโรค ให้รอบรู้เรื่องโรค ให้สู้โรคได้ และงานที่ท่านนายแพทย์พรเทพให้คำแนะนำ คำปรึกษา วินิจฉัยโรค นี้ นั้น มันมีแทบทุกโรคเลยที่เป็นโรคของมนุษย์ อันบอกไปถึงความรอบรู้ตามหลักวิชาแพทย์ของท่าน อย่างมากจนสามารถให้การมองปัญหาโรคได้แทบทุกโรค ที่มีในสังคมคนไทยเรามา
ศ.(วุฒิคุณ) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์
ศ.(วุฒิคุณ) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรคและกรมอนามัย
เราได้พบคุณหมอท่านนี้เป็นประจำจากทีวีช่อง 002 NBT นั่นเองทุกวัน ๆ ในรายการ สุขภาพดีมีความสุข คนไกลโรค รอบรู้สู้โรค หรือ ปัญหาสุขภาพ ซึ่งในวันเสาร์ อาทิตย์ ก็มีการเพิ่มเวลาให้ความรู้ของรายการคุณหมอมากไปเป็นพิเศษ
ซึ่งมองบทบาทของท่านแล้วเป็นเรื่อง การให้ ที่เป็นการให้ ความรู้ หรือ การให้ธรรมะ ที่ตามหลักพุทธศาสนาเป็นยอดการให้มีประโยชน์ ความดียิ่งกว่าการให้อย่างอื่นนั่นเอง และท่านผู้นี้ มีการบำเพ็ญบารมีการให้มาอย่างไม่รู้หยุดหย่อนมาหลายปีมาแล้ว อันเป็นบุคคล ผู้ดีที่หายากคนหนึ่งเลยทีเดียว
คุณหมอพรเทพ เป็นคนจังหวัดสุโขทัย พ่อแม่มีลูกมากถึง9คน พ่อกับแม่เป็นคนจีนมาจากเมืองจีน มาตั้งรกรากกันที่สุโขทัยช่วงวัยเด็กต้องช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวไปด้วย แม่เป็นมะเร็งปากมดลูก สงสารแม่ อยากรักษาให้หายความคิดเด็กช่วงประถมก็อยากเป็นหมอแล้ว เพราะสงสารแม่ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทิ้งการเรียนเพราะตั้งใจว่าต้องเรียนเป็นหมอให้ได้ตามความฝัน
ช่วงเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 1 คุณหมอสอบได้คะแนนสูงสุดในเขตพื้นที่การศึกษา คือได้อันดับหนึ่ง ตื่นเต้นมากเพราะมีการประกาศของทางโรงเรียน และที่สำคัญคุณหมอต้องเดินทางมารับรางวัลที่1 ที่กรุงเทพมหานคร รับจากมือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งคุณหมอบอกว่า ดีใจสุดๆเพราะไม่คิดว่าจะได้มาอยู่ตรงนี้ กลายเป็นนักเรียนเรียนดี เรียนเก่ง ครูชื่นชมกันทั้งโรงเรียน ครอบครัวเองก็ดีใจ เรียนในระดับมัธยม1ถึงมัธยม 3 ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม ได้ที่1มาตลอด และก็ตั้งใจจะเป็นหมอให้ได้
ไปเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมที่กรุงเทพฯ เพราะ เรียนที่ต่างจังหวัด อาจจะพลาดคณะแพทย์ได้ จึงได้ไป เรียนที่เตรียมอุดม มีเพียง2คน อีกคนเป็นผู้หญิง แต่เธอเลือกเรียนด้านบัญชี
ในที่สุดสอบติดคณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรียนแพทย์อยู่ 6 ปี จบไปเป็นแพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก
สำหรับ ‘เวชศาสตร์ป้องกัน’ (preventive medicine)หรือมาตรการป้องกันโรค (prophylaxis) คือศาสตร์แขนงใหม่ที่อาจเปลี่ยนอนาคตวงการแพทย์และคุณภาพชีวิตไปอีกขั้น โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยโรคภัย และแพทย์ผู้นั้นก็คือ ศ.(วุฒิคุณ) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ หรือคุณหมอพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) อดีตอธิบดีกรมใหญ่ถึง 2 กรม คือ กรมควบคุมโรคและกรมอนามัย นั่นเองเป็นแพทย์ผู้ริเริ่มและวางรากฐานพร้อมทั้งต่อยอดงานด้านเวชศาสตร์ป้องกันในประเทศไทย
นั่นคือ ประวัติเรื่องราวโดยย่อของคุณหมอพรเทพ ที่แม้จะไม่ทราบประวัติอันสวยงามน่านิยมนับถือมาก่อนก็ตาม แต่งานบริการให้ความรู้ด้านสุขภาพ ผ่านทีวี NTV 002 ทุกวัน ๆ ไม่เคยขาดเลยแม้วันเสาร์อาทิตย์ ก็ได้พบเห็นแล้วถึงความมุ่งมั่นให้ผลทางความรู้ แด่ประชาชน และเป็นเรื่องง่าย ๆ เช่นเรื่อง สุขภาพดีง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เงิน ประโยชน์ไข่ต้ม และที่คนไทยอาจจะไม่เคยคิดมาก่อนก็เรื่อง ประโยชน์ของกล้วย อย่างมาวันนี้เอง ท่านพูดถึง โปร 2 โปร คือ 1. โปรไบโอติก 2. โปรตีน ท่านว่ามีแบคทีเรีย อยู่ในร่างกายภายในของคนๆหนึ่งถึง 5แสนล้านตัว เราต้องกินโปร 2 ชนิดนี้ทุกวัน คือโปรตีน กับโปรไบโอติก ในไข่ ทุกวัน ๆ กินกล้วย ผลไม้ไทย ๆ ทุกวัน ๆ แบบพอเพียง จึงจะป้องกันมันได้ “ผมขอยกตัวอย่างเรื่องของกล้วยที่ผมจุดประกายให้คนไทยกินกล้วย เพราะอะไรเป็นพืชมหัศจรรย์ ป้องกันมะเร็ง สร้างภูมิต้านทาน สมัยก่อนแม่จะบดกล้วยให้ลูกกินหรือบดกล้วยกับข้าว เพราะผลวิจัยออกมาแล้วว่ากล้วยเหมือนน้ำนมแม่ เด็กเติบโต มีภูมิต้านทาน น้ำหนักตัวดี สร้างเอ็นโดฟินจะอารมณ์ดี หลับสบาย ระบายท้อง ล้างท้อง แป้งมีน้อยมาก กินกล้วย4ลูกช่วยลดน้ำตาลในกระแสเลือดหรือลดกรด ลดโรคเบาหวาน
คุณหมอพรเทพ ให้ความรู้ถึงเชื้อร้ายโควิด-19 ด้วยว่าจะป้องกันอย่างไรเพราะเป็นไวรัสที่กลายพันธ์ เป็นโรคอุบัติใหม่จะสังเกต10ปีเกิดครั้ง ก่อนนี้เกิดไข้หวัดใหญ่ แล้วมาเป็นโรคซาร์ไข้หวัดนก สมัยก่อน100กว่าปีก็มี ที่สเปนไข้หวัดใหญ่ สมัยรัชกาลที่ 4 อหิวาตกโรคก็เกิด การป้องกันจะแนะนำไว้หลักๆคือ พูดคุยต้องระยะห่างอย่างน้อย1เมตร ใส่หน้ากากอนามัย ห้ามไปในที่อโคจร ที่ผู้คนแออัดถ้าจำเป็นต้องเน้นหน้ากาก และล้างมือด้วยเจลฆ่าเชื้อ
สมานแผลในกระเพาะอาหาร สังเกตคนเวียดนามที่กินแหนมเนืองจะมีส่วนผสมผักดิบแล้วก็กล้วยดิบด้วย”
ในเรื่องสุขภาพโรคภัย บางเรื่องเราก็แทบจะไม่รู้สึกเลย เมื่อท่านเตือนมา เช่นเรื่อง แอร์เย็น ต้องหมั่นทำความสะอาดด้วย ไม่ใช่ลืมไปเลยเป็นปีเป็นเดือน ๆ ที่ทำกันปกติเพราะมันจะสะสมความสกปรกเอาไว้ และถ่ายทอดออกมาในห้องนอนของเรา ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
เรามองว่า นี่คือการให้ความรู้เป็นทานแก่ประชาชนทั้งหลายมาเป็นเวลานานและไม่หยุดหย่อน อย่างมีความบริสุทธิ์ใจเป็นกุศลเลยทีเดียว และในวันนี้ไป ท่านก็ยังจะคงให้ทานนี้ต่อไปแบบไม่จำกัด จึงถือว่า เป็นการบำเพ็ญกุศลกระทำบุญอันสำคัญยิ่งของท่านผู้นี้ ซึ่งแน่นอน ตามหลักการของพระพุทธศาสนาย่อมนำไปสู่มรรคผลนิพพานในชาตินี้ และแม้ชาติหน้าต่อไปได้ จึงขอมอบความยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ประจำปีพุทธศักราช 2566 ขอจงประสบผลบุญอันยิ่งต่อไปเทอญ
บุคคลที่ 191 นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์
.jpg)
.jpg)
นักวิจารณ์การเมือง ทำงานมาแต่เขาอยู่ Nation 22 เป็นนักรบ ฟรีแลนซ์ แล้วย้ายมาอยู่ TOP NEWS
2ปีมาแล้ว เขาทำงานมองโลก มองสังคม ทำงานทางวิชาการแบบคนารเมือง สังคม ศาสนา ทุกอย่าง โดยเฉพาะรายการประจำคือ TOP NEWS TALK ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักวิชาการ อาจารย์ ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย เขาสามารถตามทันรู้ในความคิดอ่านของบุคคลทั้งหลาย ไม่ว่ามาจากระดับปัญญาชนระดับใด ที่บอกถึงความลึกซึ้งและกว้างไกลแห่งจินตนาการของบุคคลผู้นี้ อันเป็นผลจากประสบการณ์ การเรียนรู้จากชีวิตและสังคม เหตุการณ์จริง ด้วยการวิจัยถึงเหตุ และ ผล คนทั้งหลายได้อย่างดี โดยมองตามเหตุผลข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จนสามารถเจาะหาเอาความจริงออกมาจากนักการบุคคลประเภทต่าง ๆ ได้ไม่มีผิดพลาด และเป็นที่เชื่อถือของประชาชนมั่นใจในความคิด บทวิเคราะห์ วิจารณ์ โดยเฉพาะการเมืองของเขา อย่างน่าเชื่อถือ ไม่ลำเอียง นี่คือสิ่งที่เราพอใจยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปีของนสพ.ดี พุทธศักราช2566
บุคคลในวงการข่าวและการสื่อสารประเทศไทย ล่าสุดทำหน้าที่เป็น ผู้ประกาศข่าวและเป็นพิธีกร นักวิจารณ์การเมือง เป็นที่ปรากฎชื่อเสียงมาตั้งแต่นที่ปรากฎชอเสยงมอยู่ Nation 22 แล้วย้ายมาอยู่ TOP NEWS 77 เมื่อ 2 ปีมาแล้ว ดังที่มีรายงานว่า
'ต้น วรเทพ'พิธีกรดังลาออกเนชั่น หลังร่วมงานกว่า2ปี
“ต้น วรเทพ สุวัฒนพิมพ์” ประกาศลาออกจากเนชั่น หลังร่วมงานกันมากว่า 2 ปี ชี้ยึดคำสอนของพ่อ “ต้องกตัญญู” พร้อมทิ้งท้ายคำสอน อย่าทำตัวหนักแผ่นดิน ด้วยการไม่จงรักภักดี ณ วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.56 น.
และเราได้พบรายงานว่า
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก “Ton Worathep Suwattanaphim” ของ นายวรเทพ สุวัฒนพิมพ์ หรือ ต้น ผู้ดำเนินรายการ (ฟรีแลนซ์) สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ได้ตัดสินใจลาออก โดยระบุว่า “ผมมีโอกาสได้ทำงานที่เนชั่นเป็นครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน 2561 ในรายการ ใช่หรือไม่ ได้รู้กัน นับนิ้วมาจนวันนี้ก็เกินกว่า 2 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลา 2 ปีเศษๆ ผมได้รับความร่วมมือที่ดีมากทั้งจากผู้บริหาร พี่ๆ น้องๆ ทีมงานทุกคน ที่เต็มที่กับงานและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ที่เป็นเกียรติกับผมมากที่สุด คือ การมีโอกาสทำหน้าที่ในรายการ คมชัดลึก รายการที่อยู่คู่กับเนชั่นมานานแสนนาน รวมถึงรายการคมชัดลึกสุดสัปดาห์ รายการเนชั่น บิส อินไซด์ และรายการเคลียร์ให้จบ ที่ให้โอกาสผมได้พัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อถึงวันหนึ่ง ภาระหน้าที่ รวมถึงคำว่าอุดมการณ์ ก็นำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในชีวิตบนทางที่ต้องเลือก
เป็นช่วงที่มีการลาออกจาก NATION 022 กันอย่างเป็นกระแสสาย ตามลำดับกันมา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่สุวัฒฯ นี้ ผู้ประกาศข่าว อย่าง น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายสันติสุข มะโรงศรี, นายสถาพร เกื้อสกุล และ น.ส.อุบลรัตน์ เถาว์น้อย ทยอยลาออกจากเนชั่นทีวีไปก่อนหน้านี้ โดยมีกระแสข่าวว่าจะไปทำรายการข่าวให้กับสถานีโทรทัศน์นิว 18 ในเดือน ธ.ค. 2563 จากนั้น นายกนก รัตน์วงศ์สกุล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานผู้ประกาศข่าว บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินรายการข่าวที่ทำงานให้กับเครือเนชั่นมานานถึง 24 ปี พร้อมด้วย นางลักขณา รัตน์วงศ์สกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสนับสนุนองค์กร ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน
และสำหรับวรเทพที่น่าประทับใจ ก็คือคำกล่าวของเขา ที่ว่า
ผมไม่ใช่พิธีกรแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้ชมได้ทั้งหมดทุกคน ผมเป็นคนทำงานที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบในแนวทางตัวตน ผมยังคงต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อให้ทำงานที่รักได้ดียิ่งๆ ขึ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยึดมั่นมาโดยตลอด นั่นคือ คำสอนของพ่อที่สอนไว้ว่า “เรามีโอกาสได้เกิดบนแผ่นดินไทย เป็นคนไทย ทำมาหากินเลี้ยงชีพบนดินผืนนี้ ถึงแม้บรรพบุรุษเราจะอพยพหนีร้อนมาพึ่งเย็นจากเมืองจีน แผ่นดินแห่งความสงบร่มเย็นนี้ เป็นแผ่นดินที่บรรพมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ได้ทรงสร้างไว้ เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ดังนั้น เราต้องกตัญญู รู้คุณ จงรักภักดี และร่วมกันปกป้องแผ่นดินผืนนี้จากคนที่จะมาบ่อนทำลาย” และที่สำคัญที่สุดในคำพ่อสอน นั่นคือ “ลูกจีนอย่างเราต้องอย่าได้ทำตัวเป็นคนหนักแผ่นดินด้วยการไม่จงรักภักดีเสียเอง” ดังนั้น ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน คำสอนของพ่อก็จะตามไปอยู่ทุกที่ ผมยังคงมั่นคงในความคิด ในจุดยืนที่มีมาเสมอ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกๆ อย่าง แล้วพบกันใหม่ ด้วยหัวใจดวงที่ใหญ่กว่ากำปั้นเหมือนเดิมครับ”
แต่กระนั้น บทบาทของเขาที่ได้กระทำไปตามหน้าที่อย่างมีเหตุมีผล นั้นเอง กลับเป็นสิ่งที่เด่นดี
ดังที่เราได้พบจากผลงานเมื่อมาอยู่ TOP NEWS วันนี้
ในฐานะหน้าที่ของพิธีกร ผู้ประกาศข่าว ตามหน้าที่ของเขา
TOP News Talk วันอังคาร วันพฤหัสบดี – วันศุกร์ เวลา 16:10 - 16:55 น. วรเทพ สุวัฒนพิมพ์
Talk 2 Ways วันเสาร์เวลา 15:50 - 16:35 น. วรเทพ สุวัฒนพิมพ์
ชัดครบจบจริง วันเสาร์ เวลา 20:10 - 21:10 น. สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม-วรเทพ สุวัฒนพิมพ์

และคนๆนี้เองที่ได้ต่อสู้เพื่อสังคมไทยมาตลอด ทางความคิด ทางสติปัญญา และการให้ความจริง ทำให้ฝ่าฟันสถานการณ์การเมืองเลวร้ายทำให้พ้นจากกระแสแตกแยกภายในประเทศ จากงานการเมืองเลวร้าย ของพรรคการเมืองเลวร้ายที่คิดแยกแผ่นดิน และ ปฏิวัติประเทศไทยไปเป็นสาธารณรัฐ ตั้งเป้ฯสาธารณรัฐไทย โดยการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งวรเทพสุวัฒนพิมพ์ เป็นคนธรรมดา ๆคนหนึ่งเท่านั้นเอง หากแต่ได้ซ่อนความหมายอันสูงส่งเอาไว้ดังที่เราได้พบว่า
เขาทำงานมองโลก มองสังคม ทำงานทางวิชาการแบบคนมีประสบพการณ์ รู้ความจริงจากประสพการณ์ การศึกษาด้วยเหตุและผล พบ เห็น มาด้วยตนเอง จึงบอกความมั่นใจ ความตรงไปตามความจริง ความกล้าหาญในการเสนอความจริง และตามทันสติปัญญาของคนทุกประเภทที่มาอยู่ต่อหน้าเขา เหตุการณ์ทางการเมือง สังคม ศาสนา ทุกอย่าง โดยเฉพาะรายการประจำคือ TOP NEWS TALK ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักวิชาการ อาจารย์ ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย เขาสามารถตามทันรู้ในความคิดอ่านของบุคคลทั้งหลาย ไม่ว่ามาจากระดับปัญญาชนระดับใด ที่บอกถึงความลึกซึ้งและกว้างไกลแห่งจินตนาการของบุคคลผู้นี้ อันเป็นผลจากประสบการณ์ การเรียนรู้จากชีวิตและสังคม เหตุการณ์จริง ด้วยการวิจัยถึงเหตุ และ ผล คนทั้งหลายได้อย่างดี โดยมองตามเหตุผลข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จนสามารถเจาะหาเอาความจริงออกมาจากนักการบุคคลประเภทต่าง ๆ ได้ไม่มีผิดพลาด และเป็นที่เชื่อถือของประชาชนมั่นใจในความคิด บทวิเคราะห์ วิจารณ์ โดยเฉพาะการเมืองของเขา อย่างน่าเชื่อถือ ไม่ลำเอียง และที่บอกถึงอุดมการณ์ของเขา ความซื่อสัตย์ กตัญญู อันสูงส่ง ตามที่บิดาสอนมานั้นก็ได้แสดงออกมาจากงานของเขา ดังจะขอยกตัวอย่างจากคลิป
ดูจากคลิปนี้
"วรเทพ" ถาม "อดีตทูต" ไทยอาเจนตินา รู้สึกอย่างไร? ที่คนรุ่นใหม่กำลังหลงไปในเกมล่มสถาบันฯ | ขอชัดชัด |TOP NEWS
TOP NEWS
ผู้ติดตาม 2.16 ล้าน คน
การดู 7.9 พัน ครั้ง 2 ปีที่แล้ว #TOPNEWS #ม็อบ
ความคิดเห็น 33 รายการ
@user-gi5qx4yc3t ท่านทูตให้ข้อมูลดีมาก คนมีสมองจะนำไปพัฒนาสติปัญญา แต่พวกไร้สมองคิดไม่ได้เอาแต่ด่า เตรียมรับกรรมได้เลย หนักแน่ๆ
@sommaikongketyai1237 มันมีคนชั่วอยู่ไม่กี่คนชักใย และเขาก็ไม่เคยทำประโยชน์ให้ใคร
@nichaonsinghnontad9352 ผู้ใหญ่ลาวท่านนั้น ท่านเป็นปราชญ์ค่ะ มองคนทะลุเลย
@chansiria คุณโบว์มีวุฒิภาวะมากกว่าสส ของพรรคก้าวไกลหลายคนอีก
@yawanoochjanmala9939 ขออนุญาตใช้ คำภาษาชาวบ้าน โบราณ ว่า คนดี ดีๆไม่ได้เกิด เพราะถูกคนเลวแย่งหมาเกิดซะส่วนใหญ่🤔🤭😁🤣😀🤟 ทีแรกฟังก็เฉยๆนะ พอนานไปอ้าว!? คำตอบนี้ถูกต้องที่สุด✅
@user-zt8wk7dw3z ศชอ. จงเจริญรุ่งเรือง ยิ่งขึ้นๆ
@user-ui9xb5tf2q อยากให้ คุณวรเทพ เอาพวกสามกับ มาออกรายการบ้าง และตั้งคำถามพวกมันถึง กลุ่มล้มล้างสถาบัน
@sornchaiudomdee3158 สส.ส่วนมากใช้เงินซื้อเสียงจึงขาดประสิทธภาพ
@sornchaiudomdee3158 ต้องโทษอาจมีและคนที่ถอนวิชาประวัติศาสตร์ไทยออกจากวิชาบังคับ
@user-xu1vr3oe2u ให้กำลังใจท่านทูตและคุณแน่งน้อยครับ
@user-bc6xt4lf3j คุณโบว์เธอ เป็นคนที่เห็นต่างอย่างมีสติครับ🤗✌️🤟
@goatprinces8330 ถึงจะอยู่คนละข้าง เราก็ชอบน้องโบว์ครับ ขอบคุณท่านทูตสะท้อนแนวคิดน้องโบว์ได้ดีครับ
@pimpatch4572 คุณโบว์นั้น เราคิดว่าเธอเริ่มเห็นอะไรตอนคนบางกลุ่มเรียกร้องไม่ปิดพอนฮับ เราว่า ณ จุดนั้นคุณโบว์เริ่มตระหนักอะไรบางอย่าง นี่คือที่เราเริ่มเห็นนะ เธอน่าชมเชยตรงใช้ตรรกกะ มีเหตุผลและความละอายต่อสิ่งไม่ดี
@nilobolechouton5265 คนต่างชาติ คงจะ งง ๆ และ มองคน ว่าเป็นเด็กไม่รู้จักโต.
@catm7524 มันรู้..แต่มันแกล้งไม่รู้..
@sitthapromwasphornsaran5736 สมัยนี้โบราณว่าเป็นสมัยที่ลูกสุนัขรุมเห่าพญาราชสีห์
@interinter3550 ศชอ จงเจริญสู้ๆๆค่ะ
ซึ่งมันบอกถึงคนอย่าง วรเทพ สุวัฒนพิมพ์ว่า เป็นคนจริงคนหนึ่งเลยทีเดียวที่แม้ชีวิตก็สละให้กับความถูกต้องชอบธรรม และความกตัญญูตามที่พ่อเขาสอนมาเลยทีเดียว
นี่คือสิ่งที่เราพอใจยกย่องวรเทพ สุวัฒนธนพิมพ์ ให้เป็นบุคคลแห่งปีของ หนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช2566 ขอได้ประสบความสำเร็จยั่งยืนนานตลอดไปเทอญ
.jpg)
บุคคลที่ 192 AMINI MARZA
.jpg)

IRAN: MAHSA AMINI สตรีสาวอิหร่านวัย 22 ปี วันนี้ ที่ 11 ก.ย. 2566 เป็นวันครบรอบ 1 ปี ของการจากไปของสตรีสาวคนนี้ เธอได้จากไปแล้ว ในลักษณะที่ อิสลามอิหร่าน จะเข้าใจว่า ไปสุ๋การลงโทษของพระเจ้าอัลเลาะห์ ที่พวกมุสลิมหลัก อย่างอิหร่านนั้น จะสัมผัสตลอดเวลาว่าพระเนตรของอัลเลาะห์นั้น ทรงมองเห็นคนทั้งแผ่นดินและสรรพสิ่งว่าเป็นไปตามคำสั่งของพระองค์หรือไม่ กรณี มาซ่า อมินิ นี้ เมื่อเห็นว่าเธอพาคนยุคใหม่ละเมิดคำสั่งของพระองค์ จึงต้องเอาศัตรูผู้ละเมิด ผู้ทำตนเป็นภาคี(ภาษาคัมภีร์ แปลว่า ผู้ต่อต้านพระเจ้า) มาลงโทษให้ได้ เช่นที่อิสลาม มุสลิม ทั้งหลาย คิดการลงโทษอิสราเอล อย่างไม่รู้จบสิ้นลงเลย อย่างไม่มีการอภัยให้ธรรมเป็นทานเลย ทั้งคริสต์ และ กาฟิร์ ผู้ไม่นับถ้อศาสนาอิสลามทั้งโลก นั้นเอง หากไม่เช่นนั้น ก็จะจะมีความผิดเหมือน ข้าราชการไทยมีความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 นั้นเอง แต่นี่เป็นเพียงสมมติฐานเท่านั้น
.jpg)
เพราะในความจริง พระเจ้าไม่มี นั่นเอง คนเชื่อฟัง ปฏิบัติตามเพราะความกลัว เพราะมีคำข่มขู่ให้กลัว เพราะเกิดจากหนังสือทั้งเล่ม(อัลกูรอาน)ที่ออกมาข่มขู่คนทั้งหลาย ว่ามีอำนาจยิ่งใหญ่ครอบโลกที่โลกต้องเชื่อฟัง และปฏิบัติตามคำสั่งแบบไม่ต้องสงสัย ฟังแล้วทำตามทันที แม้สั่งให้ไปตายก็ตาม หากมิฉะนั้น ต้องรับโทษถึงชีวิต ...ซึ่งนี่คือหลักของศาสนาอิสลาม นั่นเอง
แต่ที่เราขอยกย่อง มาซ่า อมินิ นั้น เนื่องมาจากการต่อสู้ของเธอ ที่มีลักษณะการต่อสู้โดยเหตุโดยผล โดยเสรีชน ความมีเสรีภาพบังเกิดขึ้นในจิตใจบ่งบอกถึงความมีศักดิ์ศรีของมนุษย์เท่าเทียมกันทุกเพศ อันเป็นความเป็นธรรมตามหลักความเสมอภาค นั้นเอง และ จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ เพื่อสิทธิสตรี ของสตรีมุสลิม ในประเทศแม่ของมุสลิมเองคือ สาธารณรัฐอิหร่าน (Islamic Republic of Iran แปลว่าประเทศประชาธิปไตย อิสลาม อิหร่าน) ที่ประเด็นเสรีชน ความเสมอภาคระหว่างชาย หญิง ผัว เมีย นั้น ไม่มีในกฎอิสลาม อิสลามบัญญัติให้สตรีเป็นเพียงทาสของผู้ชายเท่านั้น คือรับคำสั่ง และพอใจรับโทษ อย่างเดียวเท่านั้น ที่แม้เพียงเรื่องการแต่งตัวของผู้หญิง ก็ยังมีกฎของศาสนาเคร่งครัด และมีบทลงโทษอย่างรุนแรงถึงชีวิต
(1).jpg)
มีกรณีของ มุสลิมยุคฟื้นฟู เรียกร้องมุสลิมทั้งโลก ลุกขึ้นต่อสู้แบบยุคต้นคราวอิสลามยิ่งใหญ่เพราะนบีมุฮำมัด นำทัพ ที่เรียกตนว่า ไอสิส ISIS ที่มุสลิมทั้งโลกตื่นกันขึ้นทุกแห่ง รวมทั้ง มาเลเซีย ติดแผ่นดินไทยพุทธนี่เอง ใกล้ ๆ ไทยเรานี่เอง โดย นาย มหาเธ โมฮำมัด คนอายุร่วม 90 ปีแล้ว นำประเทศอยู่ สิ่งที่น่าตื่นตกใจก็คือ ไอสิส มีคลิปการลงโทษออกมาให้คนในโลกโดยเฉพาะมุสลิมได้เห็นได้ดูกันบ่อย ๆ เตือนให้คนมุสลิมคืนมาสู่คำสั่งพระเจ้าอย่างเคร่งครัด มันทีภาพหลายภาพออกมาระหว่างนั้นที่น่าตื่นเต้นตกใจ ไม่คิดว่ามีได้ในโลกมนุษย์วันนี้ก็คือ ภาพผู้หญิงทั้งหมู่ที่ล้วนเป็นวัยรุ่น ๆ ร่วม 30 คน ถูกเอาขังรวมไว้ในกรงเหล็ก เห็นพวกเธอพยายามดิ้นรน มือไขว่คว้าหาทางออกจากกรงเหล็ก ดูราวจะรู้ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น และนั่นก็คือ การราดน้ำมันลงไปในกรงขังนั้น แล้ว จุดไฟเผา เห็นภาพดิ้นรนกรีดร้องของสตรีในกรงเหล็กนั้น จนควันท่วมไปหมดมองไม่เห็นซากศพเหล่านั้น นี่เองที่เป็นภาพที่ไอสิสปล่อยออกมาสู่สื่อมวลชนโลก ซึ่งเห็นได้ถึงเจตนาความมุ่งหมายในการเตือนว่า อิสลามกำลังจะคืนมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ที่ทุกคนมุสลิมต้องหันกลับมาอันเป็นการข่มขู่มุสลิมทั่วโลกนั่นเอง แบบวัฒนธรรมรุนแรงของอิสลามนั่นเอง(บารัค โอบาม่า จึงประกาศท่านมกลางพันธมิตร ว่า ไอสิส จะต้องหายไปจากโลก และ นั่นมีความจริงก็คือ สหรัฐอเมริกา ส่งเรือบินไปถล่ม ศูนย์ไอสิส ในซีเรีย ตลอดมาในยุคโอบาม่า จนไอสิสหมดพลังไร้บดบาทที่จะปลุกอิสลามขึ้นมาใหม่ได้) และพลอยลดบทบาทมุสลิมก่อการร้ายไทยเขตแดนมาเลเซียลงไปด้วย สำหรับสตรีมุสลิมทั่วโลก กรณี อมินิ มาซ่านี้ ก็คือ กฎการคลุมหน้าของสตรีในที่สาธารณะ ที่ในฝรั่งเศส มีการต่อสู้มานานจนวันนี้ ฝรั่งเศสไม่ยอมให้แล้ว ชนะ และรัสเซียที่ต่อต้านอิสลามมาตลอด โดยเรียกร้องให้เลิกวัฒนธรรมอิสลามมาใช้วัฒนธรรมรัสเซีย เช่นต้องพูดรัสเซีย และวันนี้ศาลรัสเซียสั่ง ไม่ให้มีการการสวมหิญาบในโรงเรียนอีกต่อไป ยังมีเมตตาอยู่(แบบชาวนากับงูเห่า)..ที่จริงไม่ใช่เมตตา แต่เพราะความโง่เขลาไม่รู้โทษภัยอันตราย ไม่รู้ธรรมะนั่นเอง ก็ประเทศไทยนั่นเอง
แม้ประเทศไทยก็ยังมีเรื่องเช่นนี้ในโรงเรียน หิญาบ อันมาจากสาเหตุของการเสียชีวิตของเธอ เนื่องจากเธอถูกกล่าวหาจากตำรวจศีลธรรมว่า ไม่สวมหิญาบ ในที่สาธารณะ....คือเธอพูดในที่ชุมนุมแบบเปิดหน้าเปิดตา ไม่สวมหิญาบ ซึ่งขัดหลักของอิสลาม และตำรวจศีลธรรม(คำว่าศีลธรรมนี้ หมายถึงเคร่งครัดตามกฎอิสลาม คำสั่งพระเจ้า) ของอิหร่านได้จับกุม ควบคุมตัวเธอไป และรายงานออกมาจากกรมตำรวจว่าเธอเสียชีวิตลงโดยโรคประจำตัวของเธอเอง แบบป้องกันไม่ทัน ซึ่งขัดกับความจริง ที่มารดาเธอและมิตรสนิทของเธอบอกว่า ลูกสาวคนสวยของเธอสุขภาพสมบูรณ์ และสะท้อนไปถึงเยาวชนชาวอิหร่านรวมทั้งทำให้ชาวอิหร่านผู้มีการศึกษา ทันสมัย บังเกิดความโกรธแค้น เกิดการเดินขบวนครั้งใหญ่ขึ้น เพื่อประท้วงกฎอิสลาม เรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่าน แก้ไขกฎอิสลามมาใช้กฎสากลเสีย และซึ่งอิสลามยอมไม่เป็น (เพราะพระเจ้าเขาสอนว่าคนมุสลิมประเสริฐเลอเลิศกว่าคนกาฟิร์ ยอมไม่ได้) นั่นเอง จนเกิดการจลาจล ต่อต้านของชาวอิหร่านแรงขึ้น ไม่รู้จบ มีข่าวประท้วงเดือดอิหร่านเสียชีวิตอย่างน้อย 76 คน มีการเสียชีวิตตามไปอีก

สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นปรากฎการณ์ในโลกอิสลาม ที่มีมาตลอดยุคนี้นั้นก็คือ กฎของอิสลามนั้น ไม่สอดคล้องกับวิถีทางธรรมชาติของมนุษย์ยุคใหม่ ประเด็นเหตุผลที่ไม่น่ารับได้ก็คือ สตรีอิสลามต้องสวมหิญาบ โดยเฉพาะในที่สาธารณะ ถือว่ามีความผิดถึงประหารชีวิต ซึ่งกฎนี้ในความเห็นของคนยุคใหม่โดยเฉพาะยุคประชาธิปไตยนั้น ถือว่า ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้อง หลักสิทธิมนุษยชน หากแต่เมื่อเสนอทางรัฐบาลแล้ว ไม่ยอมให้ยกเลิกกฎอิสลามนี้(เพราะคำสอนของพระเจ้าบอกว่า เป็นคำของพระเจ้าอัลเลาะห์ ท่านพูดอะไรไม่มีผิด มีแต่ถูกทั้งหมด ห้ามแก้ไขพระคัมภีร์แม้แต่คำเดียว และทำตามคำสั่งสถานเดียว ห้ามถาม ใครถามถือว่าทรยศ...นั่นคือสิ่งที่โลกยุคใหม่จะค่อย ๆ เข้าใจความไม่ถูกต้องของคัมภีร์อิสลามนั่นเอง

อย่างเช่น อมินิ มาซ่า และพวกของเธอ นั่นเอง และเมื่อเกิดการฝ่าฝืนขึ้น เช่นกรณี อมินิ มาซ่า เธอถูกกล่าวหาว่าไม่สวมหิญาบในที่สาธารณะ และตำรวจศีลธรรมจับกุมเธอไปสอบสวนหาความผิด แต่การที่เธอเกิดเสียชีวิตไปในขณะที่ถูกควบคุมตัวนั่นเองกลายเป็นเรื่องที่ประชาชนอิหร่านเห็นว่าไม่เป็นธรรม...ซึ่งแน่ละ เห็นว่า คำสอนของพระเจ้าอัลเลาะห์ นั้นไร้เหตุผลสำหรับโลกยุคใหม่ไปเสียแล้ว การไม่นับถือศาสนานั้นเอง น่าจะนำมาสู่สถานะเสรีชน ที่เหมาะสมกว่า เอาวิถีธรรมชาติเป็นวิถีชีวิตของปัญญาชนเสมอไป ก็เพียงพอแล้ว สำหรับประเด็นของศาสนา และมีการเดินขบวนประท้วง ให้เลิกกฎอิสลามเสีย .เราเห็นว่าอามินี่ นี่เองเป็นตัวอย่างการต่อสู้ กับข้อบังคับที่ไม่เป็นธรรมจนเสียชิวิตลง นั้น สมควรยกย่องเป็นแบบอย่าง มากไปกว่า ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และเพื่อประชาธิปไตย แต่ต่อสู้เพื่อหลุดจากวิถีชีวิตอันโง่เขลาของศาสนาอิสลาม หลุดจากเผด็จการพระเจ้า ไปสู่ความเป็นธรรมชาติ มีเหตุ มีผลแห่งธรรมชาติ นั้นเอง โดยตรง ในความหมายความเสมอกันทุกเพศ จึงขอประกาศให้ AMINI MAHZA เป็นบุคคลแห่งปี พุทธศักราช2566 ของหนังสือพิมพ์ดี หวังว่าแบบอย่างของเธอจะได้รับการปฏิบัติตามไปจนกว่าบรรลุสู่ เสรีภาพ และ เสรีชน กันทั้งโลก
-----
.jpg)
บุคคลที่ 193 ...แสตมป์ แฟร์เท็กซ์
.jpg)

นักมวยหญิงไทย ที่มีประวัติแห่งชีวิตนักสู้มาแต่เป็นเด็กอนุบาลอายุ 5 ขวบ ก็เริ่มฝึกมวยไทยแล้ว เพราะมีบิดาและญาติผู้ใหญ่เป็นนักมวยที่ทำหน้าที่เป็นครูมวยให้ นั่นคือมีดีเอนเอ หรือสายเลือดนักสู้อยู่แล้ว จนด้วยความคิดอ่านที่ถูกธรรมะ ถูกต้องตามเหตุผลนั่นคือความมุ่งหมายที่สูงส่ง ไม่ละทอดทิ้งอุดมการณ์ ประกอบกับมองทางอาชีพแบบรักความก้าวหน้า จึงประสบความสำเร็จอย่างสูงฐานะของเธอวันนี้ก็คือ แชมเปี้ยนมวยโลก 3 เส้น มวยคิกบ๊อกซิ่ง มวยไทย และมวยเอ็ม เอ็ม เอ[MMA] (การต่อสู้แบบผสมผสาน และอันตรายด้วยการนอนต่อสู้กับพื้น ยากที่นักมวยแบบอื่นจะป้องกันอันตราย ทัดเทียมฝีมือได้) และซึ่งชิงแชมป์นี้มาเมื่อ 1 ก.ย. 2566 นี้เอง แบบผ่านสู่ชัยชนะอย่างน่าตื่นเต้นไปทั่วโลก และนี่คือการประกาศศักดิ์ศรีนักสู้ของคนไทยไปทั่วโลก
เธอเป็นหญิงไทย มีภูมิกำเนิดจากจังหวัดระยอง ที่มีอายุเพียง 24 ปีวันนี้ สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของเธอ มีมาเป็นระยะ ๆ นับแต่เป็นเด็กอนุบาล ตัวเล็กถูกเพื่อนตัวโตรังแกเจ็บตัวมาตลอด จึงเกิดฮึดสู้ นั่นแหละนำเธอไปสู่วงการนักสู้ วงการมวยมาเลย นำเธอไปฝึกเรียนรู้การมวยจากพ่อเธอเอง และต่อยตี เตะเก่ง จนได้ขึ้นสนามชกจริง แล้วต่อ ๆ มาก็ชนะไปหมด ในแถบตะวันออก จนเป็นนักมวยหาคู่ชกยาก หาเงินยาก เธอจึงหยุดชกมวย ไปทำอาชีพเป็นครูสอนอยู่ 8 ปีจึงกลับเข้าสู่วงการมวยอีกครั้งหนึ่ง และเริ่มด้วยการฝึกหนัก เพื่อเอาชนะให้ได้อันเกิดจากประสบการณ์ชีวิตวัยอนุบาลนั้นเองที่แพ้เขาเราก็เจ็บตลอดต้องชนะอย่างเดียว นั่นแหละ ผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดมา จึงได้ขึ้นสู่ระดับพร้อมที่จะชิงแชมเปี้ยนโลกโดยฝีมือ ที่เกิดจากการฝึกฝน ตามที่พ่อของเธอสิอนสัจธรรมนี้ใให้ตั้งแต่เข้าสู่วงการมวย นั่นคือต้องฝึกเอา เธอจึงฝึกเอาและแล้ว การที่นักมวยไทยหญิงคนนี้ มาสู่ระดับโลก และชนะ ได้แชมเปี้ยนโลกมาตลอด 3 ครั้ง นั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ
นี่คือลำดับชีวิตแห่งชัยชนะ ของแสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ระดับปราบโลกทั้งโลก

1. ชนะได้แชมปเปี้ยนมวยหญิงโลกเป็ฯแชมป์กติกาคิกบ๊อกซิ่ง ได้สายเข็มขัดโลกสายแรก เป็นหนึ่งในโลกในกีฬาคิกบ๊อกซิ่งนี้
2. ชิงแมป์มวยไทยโลก นี่ยากกว่า เพราะมวยไทยนั้นมีคนเก่งมากมายจนครองโลกทั้งโลก และเมื่อหาคนเก่งอันดับหนึ่งจึงยาก แต่แล้ว แสตมป์ แฟร์เท๊กซ์ ก็ไม่ผิดหวังได้แชมป์มวยไทยโลก เป้ฯแชมป์ที่ 2 ของแสตมป์ แฟร์เท็กซ์
ในประวัติการต่อสู้ช่วงดีที่สุดของนักสู้ของเธอ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ นี้ หลังจากพิชิตแชมเปี้ยนมวย คิกบ๊อกซิ่งโลก และ มวยไทยโลก ของ OneChampionship นั้นแหละ นับว่าเป็ฯประวัติการณ์ของนักสู้ไทยแล้วเนื่องจากการคว้าแชมเปี้ยนโลกถึง 2 สายนั้นก็บอกถึงความเก่งสะท้สานงดลกไปแล้ว หากแต่ต่อมาเธอเกิดเสียแชมป์ไปทั้ง 2 สายนั้น ก็นับเป็นเรื่องธรรมดาของการวงการมวยนี้
3. แล้วเธอก็เหลืออยู่อีกแชมป์หนึ่ง ที่ในทัศนะของเธอ นั้นคือ ยังต้องปราบปรามโลกทั้งโลกให้เกลี้ยงจริง ๆ ต้องปราบมวย MMA ให้ได้ เพื่อความเป็นเจ้าโลกอย่างแท้จริง ซึ่ง MMA นี้ ก็คือมวยอันตรายที่อาจฆ่ากันตายกลางเวทีได้ด้วยการกอดรัดปลุกปล้ำ หักคอกันตายได้ง่ายๆ นั้นซึ่งมวยไทยไม่ค่อยถนัด มักแพ้ไปตลอด....และที่แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ คิดไปต่อสู้นี้ เธอ จึงคิดแบบนักวิทยาศาสตร์โดยแท้ นั่นคือ ต้องฝึกฝนเอาให้ได้ จึงมีการเตรียมตัวของเธออย่างหนัก และรอบด้าน นั่นคือความเข้าใจความสำเร็จนั้นย่อมมาจากการฝุึกฝน จากการพยายามพากเพียรอย่างหนักยิ่งไปกว่าเก่าอีก เพราะเป็นการนอนต่อสู้กัน คือมวย MMA ไม่เหมือนมวยไทยที่เคยมาเป้ฯอุปนิสสัยอยู่แล้ว และแล้ว เธอก็ได้จังหวะแห่งชีวิตที่จะขึ้นสู่ความเป็ฯผู้ปราบโลกทั้งโลก ได้เส้นแชมป์เปี้ยนโลกมวย MMA เป็นเส้นสุดท้ายของโลก

การที่แสตมป์ แฟร์เทกซ์ ได้ครองแชมป์ ทั้ง 3กีฬามวยโลกครบทุกประเภทมวยเช่นนี้ แชมป์โลกบ๊อกซิ่ง แชมป์โลกมวยไทย และ แชมป์โลก เอ็มเอ็ม เอ ของ One Championship นี่เอง มันบอกว่าเธอ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์มวยไทยหญิงของเรานั้นเอง เป็นเจ้าโลกอย่างแพ้จริง
และที่เรานิยมยกย่องเป็ฯพิเศษเพิ่มเติมไปนั้นก็คือ ความเป้นนักวิทยาศาสตร์ การประสบความสำเร็จใดใดก็ตาม ต้องเกิดจากการฝึกฝนเอาอย่างหนักใช้พลังความฮึดสู้ไม่เสื่อมคลาย ไปจนประสบความสำเร็จ นั้นแหละเป็น บุคคลแห่งปี พุทธศักราช 2566 ของหนังสือพิมพ์ดีได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว ขอชื่นชม และให้รักษาแชมป์อันมีความหมายยิ่งใหญ่นี้ตลอดไปตราบนานนิรันดร์เลย ...
ประกาศบุคคลแห่งปีพุทธศักราช2566 นายชวน หลีกภ้ย ศ.ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ วรเทพ สุวัฒนพิมพ์ อมินิ มาซา แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ เป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ ดี ปีพุทธศักราช2566 ขอได้โปรดมีความสุข ความเจริญ บรรลุมรรคผล พ้นทุกข์ไปตลอดกาลนิรันดร เทอญ
.jpg)
.png)
บทที่ 6 การเมืองไทยวันนี้ ใช้ประชาธิปไตยไม่เป็น
เรียนรู้จากการเมืองไทยวันนี้

.png)
เรื่องที่ 1
Thai-English
รายงาน 19 – 20-21 ก.ย. 2563 ม็อบธรรมศาสตร์ไม่ทน บุกธรรมศาสตร์ บุกสนามหลวง บุกทำเนียบองค์มนตรี

โดย ฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
1. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
19 กันยายน 2563 เวลา 19:51 น. •
ตั้งแต่เช้ามาจนถึงเวลานี้ ท่ามกลางฝนปรอยๆ ตามอำนาจโนอึล มีคนมาชุมนุมครึ่งสนามหลวง เย็น ๆ มานี้ เห็นมีผู้นำพรรคมาร่วมงานคนเดียว คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หน.พรรคก้าวไกล แล้วไม่นานนัก ปิยบุตร แสงกนกกุล ก็มา มีการถ่ายทอดคำพูดทั้งสองคนนี้ ก็ไม่ทราบว่าพูดอะไรเหมือนกัน แบบว่ามีปากก็พูดไปเรื่อย ๆ แบบนายปิยบุตรนี่ เขาพิจารณาเรื่องตามกฎหมายไทย หมอค้านว่ากฎหมายฝรั่งเศสไม่ผิด ไปโน้น แปลว่าโง่จริงๆ ไม่รู้เรื่องอธิปไตยของชาติเลย นี่ระดับรองศาสตราจารย์หรือเปล่า ?ก็สอนให้นศ.ธรรมศาสตร์โง่ตามไปแบบนี้ ไล่ออกเถอะ เสียดายจริง ๆ มากันตั้งครึ่งค่อนสนามหลวง เปียกฝนกัน ลำบากเหน็ดเหนื่อย เสียเวลามา เสียเวลาทำการงานอาชีพ มากันทำไม? ยังไม่รู้เรื่องเลย ฝนตกเปียกไปหมด นาย เพนกวิน เยาวชนติดแอก ดูหน้าตาก็เหมือนควายติดแอก ดูโง่ ๆ ถือไมค์อยู่ .... คือ ไม่ทราบว่า เขามาทำอะไรกัน.....เดิมเขาเคยเรียกร้อง 3-4 ข้อคือ 1. ให้ยุบสภา 2. ให้แก้รัฐธรรมนูญ 3. ให้เลือกตั้งใหม่ในเดือนกันยายน 4. อย่าคุกคามประชาชน แล้วก็คงเรียกร้อง 10 ข้อ เรื่องสถาบันนั่นเอง คงพูดตอนดึก ๆ มั้ง มาวันนี้ไม่รู้จะเรียกร้องอะไร ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ต้องมาเสียเวลาทำมาหากินกันขนาดนี้ เสียเงินเสียทองกันขนาดนี้ และที่สำคัญเสี่ยงต่อโควิด เพียงพบคนเดียวติดโควิด ก็คงต้องเอาคนทั้งหมดที่มาประชุมไปตรวจกันหมด เอาคนทั้งหมื่นไปเก็บ 14 วัน เห็นอะไรไหม ? นั่นแหละความแย่ที่สุดของพวกจัดชุมนุมนี้ แย่จริง ๆ ไม่รู้อะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ เรื่องแสดงความคิดเห็นก็อ้างตลอดว่า มีเสรีภาพ ทำไปตามเสรีภาพแสดงความคิดเห็น มันไม่ใช่ตรงนี้หรอก มันอยู่ที่ ความคิดเห็นห่วย ๆ แล้วใครเขาจะฟังล่ะ อย่างจะให้แก้รธน. แต่ให้เลือกตั้งใหม่ ยุบสภา มันก็ไม่รับเหตุผลกัน งานใหญ่ของประเทศชาติทำเล่น ๆ ได้อย่างไร ขนาดพูดเรื่องการเมือง ยังไม่ถูกเลย น่าไปเรียนหนังสือให้จบก่อน ขนาดจบเป็น ดร. เป็นศาสตราจารย์ธรรมศาสตร์แล้ว ยังไม่รู้การเมืองคืออะไรเลย น่าเบื่อจริง ๆ ไร้สาระจริง ๆ คิดว่า หยุดเถอะ หยุดชุมนุมเถอะ รีบกลับบ้านกลับช่องไปเถอะไปทำงานหาเงินหาทองเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียดีกว่า ปล่อยให้หนุ่มสาวเขาหาความสำราญกันไปก็พอ แล้วตำรวจจะไปตามตัวเองฐานบุกมหาวิทยาลัยเขา นิสิตนักศึกษาและประชาชน นี่แหละ เขามีกรรมาธิการให้ไปบอกความคับแค้นใจหลายแห่งก็ไปบอกเขาได้ ซึ่งกรรมาธิการ ที่ว่านี้แหละ จะให้เยาวชน นิสิตนักศึกษา ไปเสนอความคิดเห็นได้ ทำตนเหมือน สส.คนหนึ่งนั่นเอง แต่ก็ไม่เอา . ทั้ง ๆ ที่ง่ายดี ไม่ต้องเสียเวลา เสียเงินทอง มาชุมนุมแบบนี้เลย เอาละ อาจจะเป็นการลองก็ได้ โฮย เสียดายเงินทองเวลาเหลือเกิน มาทำไมกัน ? เห็นว่าจะเอาจริงวันข้างหน้าเดือนตุลามั้ง แต่อย่าคิดเลยไม่มีอะไรใหม่หรอก เขาตั้งสภาผู้แทนราษฎรให้ปกครองประเทศแล้วก็ค่อยแต่งแก้ไปสิ แบบไม่ต้องเสียเงินทองอะไรเลยค่อยเป็นค่อยไป ทำอีกชุมนุมอีกก็จะเหมือนวันนี้แหละ เอาละ เลิกชุมนุมเถอะ กลับบ้านกันเถอะ ...@ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์19ก.ย.256319.35 น.
2. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
มาวันที่ 2 20 กย. แต่เช้าเลย 06.00 น. นึกว่าจะทำอะไร พากันทำพิธีปักหมุดลงที่ขอบ ๆ สนามหลวง นั่นเองบอกว่าหมุดคณะราษฎร์ บอกว่าเป็นของวิเศษ แล้วบอกฤกษ์ดี เอาหมอพราหมมาสวดทำพิธีกันใหญ่ นี่ยิ่งกว่าไร้สาระ ทำอย่างนี้ไปทำไม ? เคยทำพิธีจุดธูปเทียนเผาพริกเกลือ ร้องขอเทวดามาช่วย ข้างสนามกท.มหาดไทยคราวก่อน ด้วยแนวคิดล้าหลังเหมือนกันนี่แหละ ก็ที่อ้างตนว่าเป็นแนวร่วมธรรมศาสตร์ ก็วิธีโบราณขนาดนี้แล้วธรรมศาสตร์จะล้าหลังจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร นี่แหละที่ธรรมศาสตร์สอนมาผิด ๆ อีก ที่ถึงต้องโละธรรมศาสตร์เสียที ผู้นำก็นายอานนท์ นำพา นายผริษฐ์ ชีวรักษ์ ...ภาพข่าวรายงาน สนามหลวงว่างไปหมด ฝนยังคลุ้มไปทั่ว คนก็คงอยากกลับบ้านกันละมั้ง มาทำไมหาคำตอบไม่ได้ จริง ๆ แล้วมีข่าว เปลี่ยนเป้าหมายไปอีกเป็น 1. ไล่ประยุทธและพวก 2. ร่างรธน.ใหม่ ต้องแก้ไขทุกมาตรา 3. ปฏิรูปสถาบัน สุดแต่นึกอะไรได้ก็ว่าไปเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง ไร้สาระจริง ๆ ที่เสนอไว้เดิม ให้ยุบสภาในเดือนกันยานี้ ก็ไม่เอาแล้ว คนโง่พวกนี้ถูกใครหลอกใช้อยู่แท้ ๆ เสียดาย ผู้มาร่วมชุมนุม เสียเวลา เสียงานการไปหมด เพราะแท้จริง ไม่มีนักศึกษามาเท่าไรเลย มีแต่พวกคนต่างจังหวัด ถูกต้อนระดมมาฝนกำลังตก นากำลังได้เวลาทำกันทั่วประเทศ รีบกลับบ้านเถอะ ข้อเสนอ ของคนโง่พวกนี้ ก็เห็นแล้วว่า โง่ ๆ และ ซ้ำมีผิดกฎหมายร้ายแรงที่เกี่ยวกับกบฎ ล้มล้างสถาบันไปอีก
3. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
ก็ 8 โมง 15 นาที ว่าจะไม่ไปทำเนียบรัฐบาลแล้ว แต่จะไปถวายฎีกาในหลวง 3 ข้อเรียกร้อง ตามข่าวntVนะ คนก็ออกมาเต็มสนามหลวง เปรียบกับคราวก่อน ๆ ก็เยอะเหมือนกัน คราว 14 ต.ค. 16 นั้น ก็มากกว่านี้คราวนั้นล้นธรรมศาสตร์ออกมา ข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ และโดน ฮ. กราดยิง โดนฝ่ายเผด็จการกั้นตามถนนราชดำเนิน เริ่มรุนแรงกันที่หน้ากรมประชาสัมพันธ์ ไปถนนราชดำเนิน นั่นเป็นเรื่องหลัง แต่วันนี้รัฐบาลมองประชาธิปไตยจริงจังแบบประชาธิปไตย และสันติธรรม กระนั้นการป้องกันความสงบของประเทศชาติ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล จนขณะนี้ ก็มีการเคลื่อนของพวกเข้าชุมนุมไปตามลำดับ ไม่มีการขัดขวาง แต่เป้าหมายที่จะไปยื่นฏีกานี่แหละ อะไรกันแน่ ...แต่แน่ ๆ จะไปเผชิญหน้าพระเจ้าแผ่นดินไทยอย่างนั้นหรือ? ก็คือบอกถึงเป้าหมายเดิม ที่พูดกันอย่างถล่มเวทีเมื่อ 10 ส.ค.2563 นั่นเอง ...เอาละ ที่เห็นรอ ๆ มา ก็เห็นได้ว่า รอคำสั่งภายนอกที่สั่งการลึกลับ มาจากไหน นั่นแหละ....อย่าคิดว่า เขาจะไม่รู้ ...เอาละ วิ่งแล้ว.วิ่งสู่เป้าหมาย แถวตำรวจที่รักษาการณ์ เป็นแนวยาว นั่นเป็นยุทธวิธีเลยละ เขาเรียนรู้มาจากไหน ? นี่เป็นวิธีการหนึ่งของการชุมนุมและก่อการร้าย?
4. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
เอาละ รู้เขารู้เรา ที่ซุนวูสอนรู้ความลับของข้าศึกรบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง นี่บอกอะไร บอกว่า ฝ่ายเดินขบวน ทำงานแบบการยึดแผนยุทธการนั่นเอง ปกปิดแผนตนมาตลอด ปกปิดแม้กระทั่ง มารอสูรตนใดอยู่เบื้องหลังคำสั่งและท่อน้ำเลี้ยงพวกนี้ แต่ความจริงที่ประชาชนคนไทยยอมรับไม่ได้ก็คือ เรื่องสถาบันนั้นเอง สถาบันกษัตริย์จะต้องอยู่คู่คนไทยคู่พระพุทธศาสนา เป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คนไทยเขาพอใจอยู่ในสายเลือดของเขาอย่างนี้จึงได้ชื่อว่า คนไทย
5. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
ก็รายงานสดของเนชั่น22เขา ขบวนมาเผชิญหน้ากัน ผบ.ชน. มารับ นางรุ้ง ตัวแทนฝ่ายชุมนุม ไปส่งหนังสือให้ตัวแทนพระราชวัง ต่อไป ข่าวพาดหัวว่า ตร.ยอมเปิดทางให้ตัวแทนยื่นถวายฏีกากับองค์มนตรี ก็นี่แหละแผนลับเพิ่งมาเปิดเผยให้คนไทยทราบ นี่แน่นอน ย่อมพาดพิงไปถึง แผนชั้นสูงสุดของฝ่ายนั้น ที่มีต่อสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
6. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
แต่ที่เห็นมาตลอดที่น่าตกใจมาตลอดก็คือ #การเบียดเสียดยัดเยียดกันอย่างแน่นหนาของฝ่ายที่มาชุมนุมกันตั้งแต่วันแรก และแม้วันนี้ เวลานี้ พวกนี้ก็ไม่มีการสวมหน้ากาก กลายเป็นคนสองฝ่ายที่เห็นชัดเจน ฝ่ายหน้ากากกับฝ่ายไม่มีหน้ากาก ฝ่ายตำรวจ เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นข้าราชการของประชาชนทั้งชาตินั้น เขาเป็นฝ่ายที่สวมหน้ากาก ที่สวมหน้ากากป้องกันโควิดเป็นฝ่ายรัฐบาลของประชาชนและพวกเขาล้วนพูดจาอ่อนหวาน นุ่มนวลแก่ประชาชน ในแบบ คตินักรบฝรั่ง ที่ว่า The modest is the bravest ผู้สุภาพที่สุดคือผู้กล้าหาญที่สุด แต่อีกพวกหนึ่งหน้าว่างไปหมด ไม่กลัวภัยโควิดกันเลย แบบกล้าหาญแบบโง่เขลา นี่ต่างหากที่ทำให้การชุมนุมครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมเสียเลย คิดทำลายชาติแบบที่เปิดประตูธรรมศาสตร์ให้โควิดเข้าระบาดในประเทศไทยอย่างนั้นหรือ ไม่คิดถึงภัยของประเทศชาติกันเลย ไม่มองมหันตภัยของโลกทั้งโลกกันเลย และเมื่อมาถึงบัดนี้แล้ว ทางแก้ก็คือ ยื่นความคิดเห็นไปแล้ว ก็รีบสลายมวลชนเถอะ ป้องกันโควิดอย่างเร่งด่วนเลย พากันกลับบ้านเถอะ ไปทำไร่ทำนากัน พอดีกับโนอึลเอาฝนมาให้ทั่วประเทศ นี่ดีกว่านะ มีอะไรเรื่องเศรษฐกิจ ก็ใช่คนต่างประเทศจะช่วยได้ รัฐบาลนี่แหละเขามีแผนและได้มีคติไทยช่วยไทยตลอดมาอยู่แล้ว...เอาละ รู้ไว้หน่อยก็ดี ประชาธิปไตยไทยเกิดขึ้นยาก ก็เพราะไทยเราไม่มีเสรีภาพเสรีชนอันแท้จริง ความเป็นคนทาสของเรายังถูกควบคุมอยู่ แม้พวกที่มาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนี้เอง ยิ่งกว่าทาส ทาสเงิน ทั้งนั้น......
∞∞∞∞∞
7. (ภาพ)ฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์

เขานัดไปสภาวันที่ 23-24 ก.ย.ที่สภาจะประชุมเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเพนกวินบอกให้พรรคพวกที่มาชุมนุมหยุดงานทั่วประเทศ ทำไม?
8. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
เขาจะมาก่อกวนแบบที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ลูกศิษย์ธรรมศาสตร์คนนี้ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ก็สภาเขาเป็นสภามีสส. ที่เป็นตัวแทนประชาชนทั่วประเทศ87ล้านคน เขาจึงเรียกว่า สภาผู้แทนราษฎร ยังไง เขาจะพิจารณาอะไร ก็ทำไปในนามของประชาชนทั่วประเทศอยู่แล้ว แล้วตัวเองนายเพนกวิน เป็นใคร นางอะไรน่ะผมแดง ๆ น่ะ นางรุ้ง เป็นใคร? ใครสั่งให้มาก่อกวน หรือมาในนามประชาชนจังหวัดไหน ? ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือตามกฎหมายใด ให้มีสิทธิอะไร ? แม้มีพวก ก็เพียงคนไม่กี่คน จะไปเปรียบกับคนของประชาชน97ล้านคนในสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไร? ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ คนไทยเขาก็เข้าใจ ว่า นี่แหละการก่อกวนประชาธิปไตยโดยแท้จริงเป็นโจรประชาธิปไตย ไม่ใช่คิดสร้างประชาธิปไตยเลย และน่าที่จะมีความผิดร้ายแรง ฐานทำลายประชาธิปไตย ..หมอนี่ยังไม่รู้อีกนะ ว่า อำนาจทั้ง 3 นั้น แต่ละอำนาจของประชาชนนั้น มีครรลองของมันอย่างไร อย่างนิติบัญญัตินี่ เป็นเรื่องออกกฎหมาย มันมี 2 ฝ่ายเสมอไป ที่มีหน้าที่ทำการตรวจสอบให้กฎหมายออกมาอย่างเป็นธรรมต่อคนทั้งประเทศ คือ ฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายค้าน และโดยหลักประชาธิปไตย ให้คนที่มีความเห็นต่างที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน เถียงกันได้ คัดค้านกันได้อย่างมีเหตุมีผล
แม้เถียงกันทั้งวันทั้งคืนก็ตาม ไม่มีใครยอมใคร แต่นั่นแหละทำได้ เพียงแต่ไม่ใช่ยกพวกเข้าต่อยตีกันกลางสภา แต่วิธีประชาธิปไตยคือยกมือ ก็ต้องยกมือ ฝ่ายไหนยกมือมากกว่าก็ชนะ ฝ่ายแพ้ก็ยินดีในความพ่ายแพ้ นี่แหละกติกาประชาธิปไตย มีกติกาแบบนักมวยนั่นเอง แต่หมอเพนกวินนี่ ก็อาจจะไม่รู้ แม้ว่าพูดตลอดว่าพวกตนสนับสนุนการสร้างประชาธิปไตย และการยกมือ(หรือลงคะแนนเสียง)แต่ละครั้ง นั้นเป็นหลักการตัดสินใจหาข้อสรุปของความคิดที่แตกต่าง จึงต้องรู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัย ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน จะต้องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย แบบยอมรับกติกาการเมืองเช่นนี้ แบบรู้กติกามวย นั่นเอง มีกติกาการเมืองอย่างไรก็ต้องเข้าใจและยอมรับสิ แต่หมอนี่จะไปเอาชนะท่าเดียว จะก่อม็อบบีบบังคับเอาท่าเดียว โดยไม่คิดว่าสภาเป็นสถานที่ประชุมของคนตัวแทนของประชาชนทั้ง87ล้านคนทั่วประเทศ โดยที่เมื่อเปรียบกับตนเองแล้ว ตนไร้เกียรติฐานเป็นตัวแทนประชาชนไปอย่างสิ้นเชิง หากไปก่อกวน นั่นแหละเป็นการทำร้ายละเมิดสิทธิของคนอื่น จะไปก็ไปได้ แต่ฟังอย่างเดียว อย่าไปก่อการร้าย นั่น กบฎต่อประชาธิปไตยเลยทีเดียว พอ ๆ กับ การไม่เคารพเสียงส่วนมาก นี่โจรประชาธิปไตยจริง ๆ ที่ชาวประชาธิปไตยจริงมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องเอาเขาไปไกล ๆ ไปเลยเพื่อไม่ให้ก่อกวนประชาธิปไตยได้ต่อไป@ฆิกเมฆ
9. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
ทีนี้คุณก็อาจจะไม่เข้าใจว่า แบบนี้ยกมือทีไรคุณก็แพ้เขาทุกที ฝ่ายพรรคก้าวไกล เพื่อไทย แพ้เขาทุกที แพ้มาตลอด ก็ออกไปด่าว่ารัฐบาลโกง นี่แหละสภาเผด็จการที่ต้องล้มล้างเสียวันนี้ คุณคิดผิดไปเช่นนี้เพราะความไม่รู้ ที่ว่าคิดผิดก็เพราะคุณมองใกล้เกินไป มองไปไกลๆหน่อย และต้องเข้าใจเหตุผลของประชาชนของประชาธิปไตยให้ถูกต้อง และระบบเหตุผลประชาธิปไตยก็คือ ประชาชนเขาอยากให้รัฐบาลมีความมั่นคงและมีเวลาทำงานในแต่ละนโยบายนั้นให้สำเร็จอย่างเต็มที่ ๆ เพราะงานแต่ละนโยบายนั้น มันใช่ว่าทำวันสองวันก็เสร็จเมื่อไร ใช่ว่าทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ต้องทำให้เต็มตามเหตุผลความจำเป็นของมันแต่ละนโยบาย รัฐบาลจึงต้องการความมั่นคง ส่วนฝ่ายค้านนั้น ที่ได้เสียงส่วนน้อยก็เพราะประชาชนไม่ต้องการให้เป็นผู้ทำงานผู้บริหาร แต่ให้เป็นฝ่ายค้าน คือให้มีหน้าที่ของการเฝ้ามองดูตรวจสอบ ไม่ให้ไปเป็นผู้บริหาร ไม่ให้ทำงานไงล่ะแต่ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ ออกไปก็ถามประชาชนว่านโยบายนั้นเขาออกมาทำให้หรือเปล่า ก็ถามไปตลอด ก็หาเสียงตนเองไปด้วยก็ได้ เพื่อคราวหน้าจะได้เสียงส่วนมากเป็นรัฐบาลบ้าง(มีต่อ)
10. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
ฉะนั้น ประชาชนจึงออกเสียงให้รัฐบาล โดยได้เสียงมากกว่าฝ่ายค้านเสมอไป ก็โดยระบบก็ให้ฝ่ายที่มีเสียงข้างมากเป็นฝ่ายบริหารเป็นรัฐบาลนั่นเองประเทศจึงจะเดินไปได้ นั่นแหละมีเหตุผลมาเช่นนี้เพื่อที่จะทำนโยบายบริหารไปได้อย่างเต็มที่ เพื่อผลประโยชน์ตกสู่ประชาชนทั้ง87ล้านเต็มที่ไม่กระพร่องกระแพร่งเพราะยกมือแล้วชนะบ้างแพ้บ้าง นั่นเอง ฉะนั้นระบบเช่นนี้จึงเป็นระบบที่จะทำให้นโยบายทุก ๆ นโยบายเดินไปพร้อมกันได้ การบริหารงานเพื่อผลประโยชน์ของชาติของประชาชนของรัฐบาลพรรคใดก็ตามที่เป็นรัฐบาลจึงจะเป็นไปได้อย่างเต็มที่เจริญก้าวหน้าไปเต็มที่ แต่แค่ลองสมมุติดู ถ้าเป็นแบบที่เสียงสูสีกันมาก อย่างเช่น มหาดไทย ยกมือแล้วรัฐบาลชนะก็ได้ทำนโยบายมหาดไทยไป แต่เกษตรกลับแพ้ คมนาคมแพ้ ก็ไม่ได้ทำไปตามนโยบายที่วางเอาไว้เต็มที่ ก็บกพร่องกะพร่องกะแพร่งไป นโยบายก็แปรไป ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ชนะบ้าง แพ้บ้างไปอย่างนี้ ก็เพราะคิดโง่ ๆ ว่า ให้เราชนะบ้าง แพ้บ้าง ฟังเสียงฝ่ายค้านบ้าง เป็นเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่เลย มันเป็นเรื่องนโยบาย ซึ่ง 2 ฝ่ายอาจจะมีนโยบายตรงข้ามกันเลยก็ได้ จึงแล้วแต่ประชาชนจะเลือกเอาและครั้นประชาชนเลือกแล้ว ก็แน่วแน่ไปตามนโยบายที่ประชาชนสนับสนุน ที่ว่านั้นมันไม่ถูกระบบของมันยังไงล่ะ แต่ประชาชนเขาอยากให้รัฐบาลได้ทำนโยบายทั้งหมดที่เสนอ ให้นโยบายทุกกระทรวงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รวมเป็นนโยบายทั้งประเทศเดินไปทิศทางเดียวกันและเดินไปอย่างแข็งแรงไม่กระพร่องกระแพร่ง(มีต่อ)
11. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์
เขาจึงให้รัฐบาลมีเสียงส่วนใหญ่เสมอไป ยกมือสนับสนุนนโยบายใดก็ต้องชนะหมด ซึ่งเป็นหลักการปกติธรรมดา ๆ ว่าด้วยนโยบายการเมือง จะไปโกรธเขาทำไม เราก็ต้องเข้าใจหลักการตามระบบประชาธิปไตยของประชาชนเช่นนี้ แต่หาก อย่างเช่น นโยบายงบประมาณของรัฐบาลที่ยกมือไปทีไร รัฐบาลชนะหมด พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยที่โง่ ๆ ไม่เข้าใจประชาธิปไตยก็โกรธหาว่าเป็นเผด็จการ ออกไปด่ารัฐบาลข้างนอกสภา ปลุกระดมมวลชนด่ารัฐบาลว่าเป็นเผด็จการไป และปลุกระดมประชาชนมาชุมนุม อย่างที่มาเมื่อวานนี้เอง แล้วยังคิดผิดต่อไปอีก อย่างเช่นคิดการใหญ่เดือนตุลาคมอีกเช่นนี้ เป็นการกระทำเพราะความไม่รู้จริง ๆ แล้วที่ว่าส่งเสริมสร้างประชาธิปไตย จะเป็นไปได้อย่างไร ความคิดมันผิดแต่ต้นแล้ว มันก็มีแต่จะทำลายประชาธิปไตยเสียอีก ฉะนั้นสมมติว่าหากการไปชนะเพียง 2-3 กระทรวง เช่นนี้ การบริหารงานก็บกพร่อง อะไรที่แพ้ก็ทำไม่ได้เต็มที่ เช่นเกษตรแพ้ นี่รัฐบาลก็ทำนโยบายได้ไม่เต็มสมบูรณ์พร่อง ๆ ขาด ๆ เกินๆ มันก็เสียหายแก่ประชาชนชาวไร่ชาวนา ฝ่ายเกษตรไปหมด ฉะนั้น ประชาชนประชาธิปไตยเขาจึงมองเสมอว่า เสียงฝ่ายบบริหารนั้น จะต้องได้เสียงส่วนมากเสมอไป การทำนโยบายจึงจะต่อเนื่องไปได้อย่างสมบูรณ์ ฉะนั้น ฝ่ายค้านก็ต้องเข้าใจ และทำหน้าที่ฝ่ายค้านไป(มีต่อ)
12. Phayap Panyatharoฆิกเมฆ ณ เมฆินทร์

ซึ่งตรงนี้ทำได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่องเลยอย่างที่บอกมานั้นเอง และก็ในสภาก็คือ การตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล ตรวจสอบการเงิน ตรวจสอบการตรงไปตรงมาทุจริตคิดมิชอบหรือเปล่า จะเสนอนโยบายไปบ้างก็ได้ แต่เขาไม่เอาไม่รับ เพราะอย่างที่ว่าความคิดของตนๆก็เอาไปทำ คนอื่นเขาก็มีความคิดเขาเขาทำตามความคิดเขา เราก็ทำงานฝ่ายค้านไป นี่แหละงานหนักเหมือนกัน ทีนี้ ก็ 4 ปีมีเลือกตั้งครั้งหนึ่งคุณก็ทำความดีไปสิให้ชนะใจประชาชน ๆเขาก็จะเลือกคุณเอง ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องแล้วทำผิดไปเรื่อยวางแผนก่อกวนไปตลอดจนลืมกฎหมายความผิดฐานกบฎล้มล้างชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไป ไปเข้าคกแทน อะไรประมาณนั้น ที่ถูกก็คือขณะรออยู่ก็ทำแต่ความดีไป ศึกษาวิจัยนโยบายไป จนกว่าจะได้รับเลือกตั้งเป็นเสียงส่วนมากจากประชาชน ก็จะได้ทำอะไร แบบที่คิดจะทำ เอาแต่ไปด่าเขาอยู่ทุกวันนี้มันไม่ชอบธรรม จะย้อนมาสู่เราเองภายหลัง การที่ฝ่ายค้านยินดียินยอมให้ฝ่ายรัฐบาลวันนี้เขาทำงานบริหารมีฝ่ายรัฐบาลมีฝ่ายค้านในรัฐสภา นั่นแหละ ความเป็นธรรมในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งไม่มีวิธีอื่นแนวทางอื่นที่ดีไปกว่านี้ และซึ่งโลกประชาธิปไตยก็ทำแบบนี้เพราะมันเป็นระบบของมันอย่างนี้@ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ 21กย.630930
∞∞∞∞∞
@ การเมืองไทย เรียนรู้ประชาธิปไตยจากชุมนุมบุกธรรมศาสตร์ ยื่นถวายฎีกา ก.ย.2536
-----
-----
English
Report 19 – 20-21 Sep. 2020, invaded Thammasat University, invaded Sanam Luang, invaded the Privy Council House.
By Khikmek Na Mekin
1. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
September 19 at 7:51 p.m. •
From morning until this time In the light rain According to Noul's authority There were half the people gathered at Sanam Luang. This evening, I saw that there was only one party leader joining the event, namely Pitha Limjaroenrat. Head of the Progressive Party Not long after, Piyabutr Saengkanokkul came and the words of these two people were broadcast. I don't know what to say either. It's like he has a mouth and keeps talking like Mr. Piyabutr. He considers matters according to Thai law. The doctor protests that the French law isn't wrong. That means it's really stupid. I don't know anything about national sovereignty. Is this the associate professor level? ?Teach stupid Thammasat students to follow like this. Please expel them. It's really a pity. They came halfway to Sanam Luang, got wet in the rain, were hard and tired, wasted time coming, wasted time doing professional work. Why did they come? I still don't know anything about it. The rain was soaking everything. Mr. Penguin, a yoked youth, looked like a yoked buffalo, looking stupid, holding a microphone....that is, I don't know what he was doing.....initially he had called for 3-4 The points are: 1. Dissolve parliament 2. Amend the constitution 3. Call new elections in September 4. Do not threaten the people. And he probably made 10 demands about the institution. He probably said it late at night. Today I don't know what to make. This is a demand that we do not have to waste time making a living like this. Wasting money and gold like this. And most importantly, at risk of COVID. Only found one person infected with Covid. I would have to take all the people who came to the meeting to check. Take all ten thousand people and collect them for 14 days. Do you see anything? That's the worst thing about the organizers of this rally. It's really bad. They don't know what's important and what's not. They always claim to express their opinions that they have freedom. Do it according to your freedom of expression. It's not here, it's about shitty opinions, and who's going to listen? Like to change the constitution. But calling new elections and dissolving parliament is not acceptable. How can a big event of the nation be done for fun? Even talking about politics is not correct at all. You should go to school and finish your studies first. Even if you graduate as a doctor, you will already be a Thammasat professor. I still don't know what politics is. It's really boring, really nonsense. I think, stop it, let's stop the rally. Let's hurry home and go back to work, make money, earn gold, take care of children and take care of wife. Let the young people find their happiness. Then the police will go after him for invading his university. Students and the public, this is it. They have a committee to go and express their grievances in many places. You can tell them. which the commissioner This is what will be given to youth and students. You can go present your opinion and act like one of those MPs, but you don't want it. Even though it's easy, you don't have to waste time and money to gather like this. Well, maybe it's a try. Oh, what a waste of money and time. Why? I see that it will be taken seriously in the next October. But don't think about it, it's nothing new. He appointed the House of Representatives to govern the country and then made changes. Without having to spend any money gradually. Do another rally and it will be like today. Now, let's end the rally. Let's go home ...@Kikmek Suwanmekin 19 Sep. 2020 7:35 p.m.
2. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
Came on the 2nd day, 20 September, early in the morning, 6:00 a.m., thinking of what to do. They held a ceremony to place a marker at the edge of Sanam Luang. It was said that the People's Party marker Said it's a wonderful thing. then say auspicious time Bring a Brahmin doctor to pray and perform a large ceremony. This is more than nonsense. Why do this? Used to do a ceremony of lighting incense and candles and burning chili and salt. Asking for angels to help Beside the Ministry of Interior field last time With the same backward concept who claim to be the Thammasat Coalition With this ancient method, how can Thammasat be backward and democratic? This is what Thammasat has taught incorrectly, which is why Thammasat must be discarded. The leader was Mr. Anon, leading Mr. Parit Chiewrak...photo news report. Sanam Luang is completely empty. The rain is still falling everywhere. People probably want to go home. Why can't I find an answer? In fact, there is news that the goal has changed again to 1. expel Prayut and others 2. draft a new constitution, must amend every section 3. reform the institution. All I can think of is going on and on. It's really nonsense as originally proposed. Let the parliament be dissolved this September. I don't want it anymore. These foolish people are really being used by someone. It's a pity that the people who came to join the rally wasted all their time and work, because actually there weren't many students coming. There are only people from other provinces. They were mobilized and the rain was falling. It's time to do it all over the country. Hurry home, these fools' offers. I can see that there is stupidity and serious illegality associated with rebellion. Another overthrow of the institution.
3. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
It was 8:15 a.m. that I wasn't going to go to Government House anymore. But going to present a petition to the King with 3 demands. According to ntV news, people came out all over Sanam Luang. Compared to previous times, it was also a lot. On 14 Oct. '16, it was more than that time and Thammasat was overflowing. Crossed the Makkhawan Rangsan Bridge and was shot by a helicopter. Blocked by the dictators along Ratchadamnoen Road. Violence began in front of the Public Relations Department. Go to Ratchadamnoen Road. That's the latter. But today the government views democracy seriously as democracy and peace. However, it is important to protect the peace of the nation. It is the duty of the government. Until now, there has been a movement of protesters in order. no obstruction But what exactly is the goal of submitting the petition? ... But is it definitely going to face the King of Thailand? That is, it tells about the original goal. The thing that was talked about on August 10, 2020, was exactly that... Well, what we saw waiting, we can see that we were waiting for the mysterious external commands to come from. That's it.... Don't think that he wouldn't know. ..Okay, now run. Run towards your goal. There was a long line of police guards. That was a tactical move. Where did he learn it? Is this a method of mobilization and terrorism?
4. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
Well, if you know him, you know us. What does Sun Tzu teach about the enemy's secrets: fight 100 times, win 100 times? What does this mean? It says that the marching division works like a strategic plan. He concealed his plans all along. even conceal What demon is behind these orders and sap pipes? But the truth that Thai people cannot accept is that About the institution itself The monarchy must coexist with the Thai people and Buddhism as a nation, religion, and monarchy. Here Thai people are satisfied with their bloodline. This is why they are called Thai people.
5. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
It's a live report from Nation 22. The procession came to face each other. The Police Commander came to receive Mrs. Rung, a protest representative. Went to send the letter to the palace representative. Next, the headline news said The police opened the way for the representative to submit a resolution to the Prime Minister. Well, this is the secret plan that has just been revealed to the Thai people. This, of course, is alluded to. That faction's highest level plan towards the institution of the nation, religion, and monarchy
6. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
But what has always been shocking to me is that #The tight crowding of the parties that came together from the first day, and even today, at this time, none of them are wearing masks. Become two people who clearly see The mask side and the no mask side, the police side, officials who are public servants of the entire nation. He is the one wearing the mask. Wearing a mask to protect against Covid is the people's government, and they are all soft-spoken. Gentle to the people in the style of the western warrior motto: The modest is the bravest. The most modest is the bravest. But the other group's face was completely blank. Not afraid of the danger of Covid at all. Brave and foolish This is what makes this gathering completely unjust. Are you thinking of destroying the nation like opening the doors of Thammasat to allow Covid to spread in Thailand? Don't think about the dangers of the nation at all. Don't look at the catastrophe of the entire world at all. And now that we've arrived, the solution is to submit an opinion. Hurry and disperse the masses. Prevent Covid urgently. Let's go home. Let's go do some farming. It's like No Eul bringing rain to the whole country. This is better. What's the matter with the economy? Yes, foreigners can help. This government has a plan and has a motto of Thais always helping Thailand...Okay. It's good to know. Thai democracy is difficult to come by. It's because in Thailand we don't have true freedom. Our servitude is still controlled. Even those who come to fight for democracy are more than slaves, slaves of money......
∞∞∞∞∞
7. (Photo)Khikmek Na Mekin
He made an appointment to go to the House of Representatives on September 23-24, where the House of Representatives will meet on constitutional amendments. Mr. Penguin told his allies who came to the rally to stop the nationwide strike. Why?
8. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
He will cause trouble in a way that he doesn't understand anything at all. This Thammasat student really doesn't know anything. He is a member of parliament. representing 87 million people nationwide So he called it The House of Representatives, what will they consider? It is already being done on behalf of the people all over the country. And who is Mr. Penguin himself? What kind of woman with red hair is she? Who is Miss Rung? Who ordered it to cause trouble? Or in the name of the people of which province? According to the Constitution or any law What rights do you have? Even if there are people, it's just a few people. How can it be compared with the people of the 97 million people in the House of Representatives? This kind of behavior Thai people also understand that this is truly a disturbance of democracy, a thief of democracy. It's not about creating democracy at all. and likely to have a serious offense base for destroying democracy ..This guy still doesn't know that each of the three powers is the power of the people. What is its pattern? Legislatively When it comes to making laws, there are always two sides that are responsible for making sure that the laws come out fairly to the whole country: the government and the opposition, and by the principles of democracy. Let people with different opinions and disagreements be able to argue with each other and be able to object to each other with reason.
Even if we argue all day and all night No one gives in to anyone. But that's what can be done. But it's not like they're going to fight each other in the middle of parliament. But the democratic method is to raise your hands. You must raise your hands. Whichever side raises more hands wins. The loser rejoices in defeat. These are the rules of democracy. There are boxing rules. But Doctor Penguin Maybe I don't know. Even though they always say that they support the creation of democracy. and raising hands (or voting) each time That is the principle for deciding to come to a conclusion of different ideas. Therefore, we must know how to lose, know how to win, and know how to forgive. The government and opposition parties must know how to lose, know how to win, and know how to forgive and accept the political rules like this. Like knowing the rules of boxing. No matter what the political rules are, you have to understand and accept them. But this guy is going to win with just one move. Will form a mob to oppress in one move. Without thinking that the House of Representatives is a meeting place for representatives of all 87 million people nationwide. whereas when compared with oneself He is totally devoid of honor as a representative of the people. If he goes to cause trouble, that is an attack and violation of other people's rights. You can go and go, but just listen. Don't commit terrorism. That's rebellion against democracy, as well as disrespecting the majority. This is a real democratic thief. True democratic people have a direct duty to take him away so that he cannot disturb democracy further. @Khikmek
9. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
Now you may not understand. Like this, every time you raise your hand, you always lose to him. The Kaew Klai Pheu Thai Party lost to him every time, always lost, and went out to scold the government for corruption. This is the dictatorial council that must be overthrown today. You made this mistake because of ignorance. The reason you're wrong is because you looked too closely. Look a little further. and must correctly understand the reasons of the people of democracy And the system of democratic reason is The people want the government to have stability and have time to work on each policy to its fullest potential because the work of each policy is It doesn't matter if it's done in two days and it's finished. Yes, you can do it, you can't do it. Must be fulfilled according to the reasons and necessity of each policy. The government therefore needs stability. As for the opposition They received only a small number of votes because the people did not want them to be executives. But let it be the opposition. that is, to have the duty of watching and inspecting Not allowed to become an executive Not to work, but not to sit idly by. Go out and ask the people whether the policy has come out for them or not. Keep asking. You can also find your own votes. so that next time we will have a majority of the government (continued)
10. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
Therefore, the people vote for the government. by always getting more votes than the opposition The system allows the party with the majority to be the executive to be the government, so the country can move forward. That is the reason for this in order to be able to fully implement administrative policy. In order for the benefits to fully flow to all 87 million people, not faltering because they raised their hands and won some, lost some. Therefore, a system like this is a system that will make every policy work together. Administration for the national interest of the people of any government party will be fully possible and fully progressed. But just let's hypothesize. If it is a case where the votes are very close, such as Interior, the government will win and the Interior policy will be raised. But agriculture lost, transportation lost, and the policy was not fully implemented. It was flawed and flawed. Policy has changed. Not in pieces, winning some, losing some like this. Because we foolishly thought that we would win some, lose some, and listen to the voices of the opposition. It's a democratic thing. Which isn't at all. It is a matter of policy, and the two parties may have opposite policies. So it is up to the people to choose. And when the people have chosen was determined to follow the policies that the people supported That being said, how is it not right with their system? But the people want the government to implement all the proposed policies. Let every ministry's policy follow the plan. Combined into a policy, the whole country moves in the same direction and moves strongly without faltering (continued).
11. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
He therefore always gave the government a majority vote. Raise your hand to support any policy and you must win. which is a normal principle regarding political policy Why would you be angry at him? We have to understand the principles of the people's democratic system like this. But if, for example, the budget policy of the government raises its hand, the government wins. The party moves forward. The stupid Pheu Thai Party that doesn't understand democracy gets angry and accuses it of being a dictatorship. Go out and scold the government outside parliament. Incite the masses to accuse the government of being a dictator. and inciting the people to gather together As it happened yesterday And still think wrongly. Like thinking big in October like this. It is an act due to ignorance that it actually promotes and builds democracy. How is that possible? The idea was wrong from the beginning. It will only destroy democracy. Therefore, suppose that if only 2-3 ministries win, then the administration is flawed. Whatever they lose, they can't do their best. For example, when agriculture loses, the government can't make policies that are incomplete, lacking in excess, and it is detrimental to the people and farmers. The agricultural department is gone. Therefore, democratic people always view that The voice of the executive branch There must always be a majority. Policy making will be able to continue completely. Therefore, the opposition must understand. and perform the duties of the opposition (continued)
12. Phayap PanyatharoKhikmek Na Mekin
This is perfectly possible. There is no lack of defects at all, as I said. And in the House of Representatives, it is Government Administration Audit check finances Check whether it is straightforward or not. You can propose some policies. But he doesn't accept it. Because as they say, they take their own ideas and do them. Other people have their own ideas and follow their own ideas. We also work for the opposition. This is also hard work. Now, once there's an election in 4 years, you have to do good deeds to win the hearts of the people. He will choose you. It's not that they didn't know anything about it and kept making mistakes, planning to cause trouble, and forgetting the law of rebellion to overthrow the nation, religion, and monarchy, and went to join forces instead, something like that. The correct thing is that while waiting, just do good deeds. Study and research policy Until a majority of the people is elected. What will you be able to do? The way you plan to do it Continuing to scold him today is not righteous. It will come back to us later. The fact that the opposition is willing to allow the government to run the government today and have the government and opposition in parliament is fairness in a democracy. There is no other way that is better than this. And the democratic world does this because it's its own system like this@Khikmek Suwanmekin 21 Sept.630930
∞∞∞∞∞
@ Thai politics, learning about democracy from the rally invading Thammasat University, submitting a petition to the Supreme Court, September 1993
@ การเมืองไทย เรียนรู้ประชาธิปไตยจากชุมนุมบุกธรรมศาสตร์ ยื่นถวายฎีกา ก.ย.2563
-----
.png)
เรื่องที่ 2
Thai-English
การเมืองไทย วันนี้ 5 ก.ย. 2566 คณะรัฐบาลใหม่ไทยใต้ นรม.คนที่ 30

แล้วประเทศไทย ที่พยายามตั้งชื่อตนเองว่า ประชาธิปไตยไทยอันมีพระมหกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ได้รัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี 33 คน วันนี้ 5 ก.ย. 2566 มีหน้าที่ปกครองประเทศไทยต่อไป
สิ่งที่การเมืองไทยต่อสู้กันมาที่นับว่าแปลกประหลาดและที่น่าตื่นตกใจก็คือ การได้ผู้นำรัฐบาลมาแบบแปลก ซึ่งกว่าจะได้มาก็ต้องผ่านการต่อสู้กันอย่างหนักระหว่างนักการเมือง พรรคการเมืองด้วยกัน แล้วในที่สุดก็ได้ตัวนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน
ที่ประหลาดก็คือ เขาเป็นคนแปลกหน้า เพิ่งได้เข้ามาสู่วงการเมือง เริ่มจากเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี มาเพียงไม่ถึง 150 วัน ก็พบความสำเร็จขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด มีอำนาจเหนือคนทั้งแผ่นดิน
จากการที่เป็นเพียงคนภายนอกไม่รู้เรื่องการเมือง ไม่มีความชำนาญการเมืองมาก่อนเลย มาพบความยิ่งใหญ่ได้อย่างไร นั้นก็มีคำตอบ นั้นคือ เพียงมาจากการมีฐานะทางการเงินของนักธุรกิจ ระดับมหาเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทย เท่านั้นเอง
ไม่เคยมีประสบการณ์ การเรียนรู้การเมือง หน้าที่ของนักการเมืองมาก่อนเลย ก็สามารถขึ้นสู่จุดสุดยอดของการเมืองหรืออำนาจสูงสุดของประเทศนี้ได้
ซึ่งพิเศษจริง ๆ ยิ่งกว่า ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะลม้ายคล้ายคลึง น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ไม่เคยมีประสบการการเมืองมาเลย ที่อยู่ ๆ ก็ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของอำนาจการเมืองโดยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศนี้ ภายในไม่ถึง 50 วัน
นั้น ก็พอมองเห็นได้ว่า การเมืองไทยนั้นอาจสามารถใช้เงินซื้อเอาได้นั่นเอง มีการเลือกตั้งที่ไหน เงินสามารถซื้อได้หมดในประเทศด้อยพัฒนานี้ นับแต่ การเลือกตั้ง ผญบ. กำนัน อบต. อบจ. เทศบาล สุขาภิบาล ล้วนแต่ต้องใช้เงินนับล้าน ๆ กันทั้งนั้น นับแต่ในหมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านในประเทศนี้ มีเลือกตั้ง ผญบ. แข่งกันใช้เงินซื้อเสียง ไม่น้อยกว่าคนละ 5 แสนบาทขึ้นไปแล้ว คนแพ้ ก็จนไปหมด ขายนาขายไร่ไปเลย คนที่ชนะก็รู้ว่าที่ลงทุนมามีทางได้คืน จากโครงการนั้น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ความเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี หรือ เงิน จึงสามารถซื้อเอาตำแหน่งการเมืองไทยได้ทุกระดับ นั้นเอง เป็นมาตั้งแต่มี “การเลือกตั้ง”
คนไทย แทบไม่เคยรู้จักเลยว่า นรม.คนที่ 30 คนนี้ เบื้องหลังเขามีอะไรบ้าง เราเพียงได้รู้จากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ นักธุรกิจด้วยกันเปิดเผยเบื้องหลังของนรม.คนนี้ ด้วยความน่าเป็นห่วง และหลายเรื่องก็ยังน่าสงสัยน่าติดตามในความทุจริตของเขา
ทำไม การเมืองไทยจึงประหลาด และมีความประมาทอย่างยิ่งเช่นนี้ ?
ทำไมคนในประเทศนี้ จึงไม่คิดกันว่า การใช้เงินซื้อเสียงเป็นเรื่องเลวทรามทำลายระบบอันดีงามของประชาฅธิปไตยไปหมดสิ้น เช่นทำไมจึงไม่คิดกันว่าการใช้เงิน 10000 บาท แจกซื้อเสียงประชาชชน แม้จะเอาภาษาหลอกลวงคนโง่มาใช้ว่า เงินดิจิตอลก็ตาม ความจริงก็คือการซื้อเสียงนั้นเอง
คราวนี้แจก 10000 บาท คราวหน้าคนมีเงินยิ่งกว่านายเศรษฐา มิเสนอกว่านี้ เป็นคนละแสนคนละล้านไปเลยหรือ ?
และที่น่าเสียดายก็คือ หากเราไม่บอกประเด็นการซื้อเสียงว่าเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยเสียแล้ว ก็ยากที่คนดีๆ จริงๆจะได้เป็นใหญ่เป็นโตในประเทศนี้
เราจึงต้องคิดดู และน่านำไปพิจารณากำหนดแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีเสียใหม่ โดยมีความรอบคอบยิ่งขึ้น ให้เขามาอยู่ในสายตาของประชาชนนาน ๆ เลยทีเดียว เพื่อให้รู้ข้อมูล ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริตของเขา เพื่อป้องกันความเสี่ยงของประเทศชาติ
ดูประเทศมหาอำนาจประชาธิปไตยเป็นตัวอย่าง เช่น อเมริกา อังกฤษ กว่าที่จะได้เป็น นายกรัฐมนตรี หรือ ประธานาธิบดี เช่น โจ ไบเดน ดูว่าเขาผ่านชีวิต ความรอบรู้ทางการเมืองมาขนาดไหน กว่าจะได้เป็น ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกาคนที่ 46 วันนี้ ผ่านการเป็นผู้พิพากษา หนุ่มมาจนเริ่มแก่ แล้วมาเป็นนักการเมืองพรรครีพับลิก เป็นวุฒิสมาชิก ผ่านรองประธานาธิบดี แล้วยังผ่านการเลือกตั้งระดับพรรคการเมืองให้เป็นแคนดิเดท ปธน. มาเสียก่อนเสมอไป เช่นนี้แทบทุกคน ประธานาธิบดีสหรัฐ และ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยกตัวอย่าง เขาทำได้อย่างไร ก็เพราะได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเสียก่อน
แต่นายเศรษฐา ทวีสิน มาอย่างไร ? ไม่มีการผ่านเข้ามาสู่การเรียนรู้ในเส้นทางการเมืองไทยเลย
ลองดูเรื่องวัดวาอารามก็ได้ กว่าจะได้เป็นเจ้าอาวาส ต้องผ่านวิมุตติกะฐานะ 5 พรรษาไปก่อน แล้วยังไม่พอ ถึง 20-30 พรรษา(ปี)กันเป็นธรรมดา ไปเลย
ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้นำประเทศ เป็นคนที่มั่นใจ ไว้วางใจได้ของประเทศ นำพาประเทศไปได้แบบไม่น่าเป็นห่วง นั่นเอง
จึงมีคำถามว่า จะให้ระบบการเป็นนายกรัฐมนตรีไทย เป็นแบบไร้ระบบเช่นนี้ได้อย่างไร ?
เพียงมีเงินมีทองเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ก็เอามาซื้อ ตลบตะแลงซื้อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยได้ อย่างนั้นหรือ ?
เราต้องนำไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขเรื่องนี้ทันที
2.
ซึ่งหลักการประชาธิปไตยก็ได้บอกไว้แล้ว ให้คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องมาจากหัวหน้าพรรคการเมือง เท่านั้น
หัวหน้าพรรคการเมืองผู้ผ่านการงานการเมืองมานานของพรรคการเมือง ที่ซื่อสัตยย์ มีอุดมการณ์มานาน ที่ได้พิศูจน์ทุกอย่างในสายตาประชาชนไปไร้ความสงสัย
อย่างเช่นพรรคประชาธิปัตย์ พรรค ไทยภักดี ของคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นต้น
ที่ได้พิศูจน์ ความเป็นสถาบัน และความซื่อสัตย์ แม้จะไม่เกี่ยวกับเงินมหาศาลเหมือนคนไร้พรรคการเมืองโผล่เข้ามาใหม่ ๆ เอาเงินซื้อเสียงเอาง่าย ๆ ก็ตาม
เราจึงจะได้คนดี เข้าสู่การเมืองไทย ได้คนที่ผ่านการพิศูจน์ ไว้ใจได้จริงๆ เป็นผู้นำอำนาจสูงสุดของประเทศ นำไปสู่ สามัคคีธรรมทางการเมือง ทางสังคมไทยทุกระดับ(ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล ) ได้อย่างแท้จริง
จริงอยู่ วันนี้ เราได้ นรม.ไทยคนที่ 30
แต่เนื่องจากเขาเป็นคนแปลกหน้า เพียงโผล่เข้ามาไม่ถึง 150 วัน แล้วเอาเงินเป็นตัวตั้ง เอาข้าวของ เป็นตัวตั้ง ซื้อเสียงหรือให้สัญญา (เช่นสัญญา 20 บาทตลอดสาย ฯลฯ) ซึ่งแม้ กกต.ผู้มีหน้าที่หลักสำคัญจริงๆ ก็คือดูแลปกป้องรักษาระบอบประชาธิปไตยเอง ก็บอกว่าเป็นนโยบาย ....(ใช้ภาษาเอาตัวรอด ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรด้วยซ้ำ) ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องของการใช้เงินซื้อเสียงแบบทำลายประชาธิปไตยไปเลย
แล้วทำไมคนยากคนจนอย่างไทยวันนี้ ....ทั้งประชาชนเอง.....และยิ่งไปกว่าคือนักการเมืองไทยนั่นเอง ยากจนจริง ๆ ...จะไม่เอาเขาเล่า ?
และพอมาบัดนี้ ในใจคนไทยก็กลับมาคิดหวาดระแวงไปหมด ว่าเขาจะไม่หาเงินคืนหรืออย่างไร ไม่มั่นใจในความซื่อตรง ในความรอบรู้ไม่สมบูรณ์ทางการเมืองของเขา ไม่มั่นใจในประวัติความเป็นมาของเขา ไม่มั่นใจในคำพูดคำสัตย์จริง โกหกพกลมหรือเปล่า?
จะเป็นไปแบบที่การเมืองไทยเคยเป็นมา ดูยุคนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่เคยเข้าสู่วงการเมืองเลย (มีหมอดูห่วย ๆ หมอดูแสนโง่เง่าเต่าตุ่น หมอดูไร้สติสตัง บอกว่านารีขี่ม้าขาวมาตามคำทำนายโบราณแล้ว....เหมือนกับเอาเด็ก10 ขวบ ขึ้นเวทีไปสรรเสริญนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าเป็นโคตรวีรบุรุษมาแก้ปัญหาชาติไทยยุคนี้ นั่นเอง) แต่เพียง 50 วัน ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว ไปพาคณะรัฐมนตรีโกงเงินโครงการจำนำข้าว ติดคุกกันเป็นคณะ ๆ ไปเลย(แล้วไปโกงต่อตอนติดคุกอยู่อีก นาย รมว.พาณิช ติดคุก 42 ปี แต่ไหง พอเข้าคุกไปไม่กี่ปี วันนี้เหลือเพียง 5-6 ปีก็จะได้ออกมาแล้ว โกงกันต่ออีก...รวมถึงวันนี้ ที่ทักษิณ ชินวัตร โทษ 3 คดี ติดคุก10 ปี ศาลลดให้เลย เหลือ 8 ปี ...ทำไมยังไม่จบ ที่คำพิพากษาของอำนาจตุลาการ ของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย ? ติดคุก แต่ไม่ได้เข้าคุก แปลก!!! นี่หรือ อำนาจตุลาการ เป็นของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย ?...ต้อง จบที่อำนาจของประชาชนสิครับ ถึงจะเรียกว่าประชาธิปไตย....ต้องแก้ รธน.ให้เป็นไปตามนี้..ตุลารอำนาจสูงสุดของประชาชนประชาธิปไตย ตัดสินแล้ว จบลงทันที ไม่มีต่อ !!! )
ถึงวันนี้ ตัว นรม.คนที่ 28 ยังหนีคดีในต่างประเทศเลย และสร้างหนี้จำนำข้าวไว้ 8 แสนล้านบาท ให้รัฐบาลประยุทธใช้ไปแล้ว หลายแสนเหลือ 2 แสนล้าน....ที่รัฐบาลเศรษฐาต้องใช้หนี้ต่อ ..เข้าใจไหมครับ ว่าเสียหายอย่างไร ? เสียระบอบประชาธิปไตยอย่างไร ? ทำประชาชนไทยโง่ต่อไปอย่างไร ?
นี่คือข้อเสนอแนะแด่ประชาชนไทย นักการเมืองไทย พรรคการเมืองไทย และเสรีชนคนไทยทั้งหลาย โปรดมามองดู ผู้อาจหาญ คิดปกครองตนเองแบบอำนาจการเมืองเป็นของประชาชนเท่าๆ กันหมด ...หากแต่ ไร้สติสตัง เสมอไปเมื่อความโลภหลงเงินเขาเอามาซื้อเสียง ซื้ออำนาจได้ เช่นนี้ ก็มิต่างอะไรจากประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย ที่มีปัญหาการเมืองมาอยู่ทุกวันนี้ ในอาฟริกา ตะวันออกกลางเอเชีย ลาว เขมร และ ไทยเอง เลย ไม่รู้ แม้กระทั่งว่าทำไมจึงจะทำไทยเป็น สาธารณรัฐไทย ? เหมือน สาธารณรัฐเฮติ สาธารณรัฐซีเรีย สาธารณรัฐรวันด้า สาธารณรัฐซูดาน ฯลฯ
ต้องเข้าใจประชาธิปไตยให้ถูกกันจริง ๆ แม้คำว่า เสรีภาพ Liberty เมื่อตกอยู่ใต้อำนาจเงิน คิดขายเสียงกินแบบอาชีพ ทุกครั้งมีการเลือกตั้ง ทุกระดับ สส. สว. งูเห่า มีอยู่ตลอดเวลา จนบอกกันว่า เรื่องธรรมดาการเมืองไทย แล้ว ไม่คิดแก้ไขแล้ว สส. สว.เช่นนี้ เอาออกไปเสียจาก ระบอบประชาธิปไตย จะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร ? จะปกครองตนเอง โดยประชาชน เพื่อประชาชน ได้อย่างไร ? เพราะพฤติกรรมจริง ๆ คือทาสหรือ ขี้ข้าเงินเขา เท่านั้น ........ สุไหงปาดี ชินะกุล ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 6 ก.ย.2566
@ การเมืองไทย วันนี้ 5 ก.ย. 2566 คณะรัฐบาลใหม่ไทยใต้ นรม.คนที่ 30
-----
English
Thai politics today, September 5, 2023, the new government of Southern Thailand, the 30th prime minister
and Thailand who tried to name himself Thai democracy with the monarch as head of state and government with prime minister With 33 cabinet members today, September 5, 2023, has the duty to continue governing Thailand
The thing that Thai politics has fought against each other that is strange and shocking is It's strange to get a government leader. which will have to go through a hard fight between politicians political parties together And finally got the 30th prime minister named Mr. Srettha Thavisin
The weird thing is he is a stranger recently entered politics Starting as a candidate for Prime Minister In just less than 150 days, it has found success to the highest position. has power over the entire land
from being just an outsider who doesn't know politics No previous political expertise How do you find greatness? There is an answer that is only from the financial position of a businessman. The level of one billionaire in Thailand only.
never experienced learning politics The duty of a politician able to rise to the pinnacle of politics or the highest power of this country
which is truly more special than Thaksin Shinawatra, especially his similar family. Thaksin Shinawatra's younger sister, Yingluck Shinawatra, who had no political experience at all, suddenly rose to the highest position of political power, becoming the country's 29th Prime Minister in less than 50 days.
That is enough to see that Thai politics may be able to use money to buy it. where is the election Money can buy everything in this underdeveloped country. From the election of the chief executive, kamnan, sub-district administrative organization, provincial administrative organization, municipality, sanitation all require millions of dollars. Starting in the village Every village in this country has elections for the mayor, competing with each other to use money to buy votes. Not less than 5 hundred thousand baht or more per person, and the loser is completely poor and sells the rice field. Those who win know that the investment has a way of getting back. From that project
Being a millionaire, billionaire, or money can buy positions in Thai politics at every level. It has been the case since "Election"
Thai people hardly ever know what the 30th Prime Minister has behind him. We only learned from Mr. Chuwit Kamonwisit, a businessman who revealed the story behind this Prime Minister. with concern And many stories are still suspicious and interesting to follow in his corruption.
Why is Thai politics so strange? And with such extreme negligence?
Why do people in this country therefore do not think Using money to buy votes is vile and completely destroys the good system of democracy. For example, why didn't they think of using 10,000 baht to buy people's votes? Even if you use language to deceive fools: digital money The truth is that it is buying votes.
This time, give away 10,000 baht. Next time, people will have more money than Mr. Settha. not offer more Is it a hundred thousand baht each and a million baht?
And that's a shame. If we don't tell the issue of vote buying that it is dangerous to democracy. It's hard for good people You will really become great in this country.
So we have to think. and should be reconsidered in determining the prime ministerial candidate. with more caution Let him be in the eyes of the public for a long time to know his information, abilities, and honesty. To protect against national risks
Look at democratic superpowers as an example, such as America and England. Before becoming Prime Minister or President such as Joe Biden, see how they go through life. How much political knowledge do you have? Until becoming the 46th President of the United States today through being a judge. Young until old Then he became a Republican politician. be a senator through the vice president and has always been elected at the political party level to be a candidate for the presidency like this almost everyone The US president and the British prime minister gave examples of how they did it. Because he was the leader of a political party first.
But how did Mr. Settha Thavisin come? There is no passing through to learning in Thai politics at all.
You can also try looking at temples. Before becoming an abbot Must go through the liberation of 5 years first, and it's still not enough, up to 20-30 years (years) as usual.
This is so that the country's leaders be confident Trustworthy of the country Lead the country without worrying.
So there is a question: will provide a system for being the Prime Minister of Thailand How can it be like this without a system?
Just having money and gold to become a millionaire, a billionaire can buy it, cunningly buy the position of Thai Prime Minister. Is that so?
We must bring it to amend the constitution. Fix this matter immediately.
which the principles of democracy have already stated Let the person who will become the Prime Minister It must come from the political party leader only.
Head of a political party who has worked in politics for a long time in a political party honest Has had an ideology for a long time that has proved everything in the eyes of the people without doubt
Such as the Democrat Party, Thai Phakdee Party of Dr. Warong Dejkitvikrom, etc.
proven institutionalization and honesty Even if it's not related to huge amounts of money, like people without political parties emerging who easily use money to buy votes.
So we will get good people. Entering Thai politics Get someone who has passed the test. Really trustworthy Being the highest power leader of the country leads to political unity. Thai society at all levels (from village and sub-district levels) truly
True, today we have the 30th Thai Prime Minister.
But because he was a stranger Just appeared for less than 150 days and took money as the base, took things as the base, bought votes or made promises (such as a contract of 20 baht throughout the line, etc.), which even the Election Commission, who has the main duty, really matters. That is, taking care of and protecting democracy itself. I said it was a policy. ....(use language to survive I don't even know what that means) even though it's a matter of using money to buy votes in a way that destroys democracy.
So why are poor people like Thailand today? ....both the people themselves.....and even more so the Thai politicians, they are really poor...won't they take them?
And now it's here. In the hearts of Thai people, they are all paranoid. whether he will not get the money back or how not confident in honesty in his political incompetence Unsure of his history Unsure of the truthful word Are you lying or not?
will be the way Thai politics used to be Look at the era of the 29th Prime Minister, Ms. Yingluck Shinawatra, who has never entered politics (there are bad fortune tellers, stupid fortune tellers, turtles and moles). A mindless fortune teller (It is said that Nari rode a white horse according to an ancient prophecy. as if taking a 10-year-old child on stage to praise Mr. Phitha Lim Chareonrat that he is a great hero who has come to solve the problems of the Thai nation in this era) But in just 50 days he became Prime Minister and then led the Cabinet to swindle money from the rice pledging project. They went to jail together as a group (and then continued to cheat while they were in jail again. Mr. Minister of Commerce was in prison for 42 years, but hey, after going to prison for only a few years Today, there are only 5-6 years left and it will come out. They continue to cheat...including today when Thaksin Shinawatra was sentenced to 10 years in prison in 3 cases. The court reduced the sentence to 8 years...why hasn't it ended yet? At the judgment of the judicial power of the people according to a democratic system? In prison but not in prison. Strange. Is this the judicial power of the people? According to democracy?...it must end with the power of the people. Even if it's called democracy....it has to be solved. constitution to be in accordance with this)
To this day, the 29th Prime Minister is still fleeing cases in foreign countries. and created a rice pledging debt of 800 billion baht for the Prayut government to use, several hundred thousand remaining 200 billion baht....that the Settha government must continue to use the debt ..Do you understand? How is it damaged? How do you lose democracy? How to continue to make Thai people stupid?
This is a recommendation for the people of Thailand. Thai politicians Thai political party And all Thai free people, please come and look at the brave people who think of self-government in a way that political power belongs equally to the people...but they are always without conscience when greed takes money to buy votes and buy power, for example. This is no different from other underdeveloped countries. There are political problems today in Africa, the Middle East, Asia, Laos, Cambodia, and Thailand itself. I don't even know why Thailand will be made the Republic of Thailand? like the republic of haiti Syrian Republic Republic of Rwanda Republic of Sudan, etc.
Democracy must really be understood correctly, even though the word freedom is when it is under the power of money. Thinking about selling sound, eating like a professional Every time there is an election at every level, MPs, Senators, and cobras are there all the time, until it is said that this is a normal matter of Thai politics and there is no thought of fixing it. MPs and Senators like this should be removed from the democracy How can it be a democracy? How to govern yourself by the people for the people? Because the real behavior is that of a slave or a lackey only ........ Su-ngai Padi Chinakul Dr. Khikmek Suwanmekin Buaraya Chababunset 6 Sept. 2023
-----
@ Thai politics today, 5 Sep. 2023, the new Southern Thai government, the 30th Prime Minister
@ การเมืองไทย วันนี้ 6 ก.ย. 2566 คณะรัฐบาลใหม่ไทยใต้ นรม.คนที่ 30
-----
-----
.png)
เรื่องที่ 3
Thai-English
การเมืองไทยวันนี้ 12 ก.ย. 2566 วิเคราะห์ระบอบการเมืองไทย ใช้ประชาธิปไตยไม่เป็น เป็นคอมมิวนิสต์ดีกว่า
วิเคราะห์การเมืองไทย
คนหรือ คณะ หรือพรรคการเมืองไทย ในประเทศไทย ที่ชอบประชาธิปไตย วันนี้ ...แทบทั้งหมด ชอบเพราะไม่รู้ประชาธิปไตยคืออะไร ไม่รู้ว่าที่จริงประชาธิปไตยเป็นการเมืองของคนทั้งประเทศที่ต้องฉลาดรู้เหตุรู้ผล รู้ว่าประชาธิปไตยมีระบบที่ค่อนข้างเคร่งครัด เป็นการเมืองของ มนุษย์ที่ต้องมีจริยธรรม มีการประพฤติตรงตามจริยธรรมประชาธิปไตยให้ได้ จึงจะบรรลุเป้าหมายอันสูงส่งของประชาธิปไตย นั่นคือ ประชาธิปไตยไม่มีผู้แพ้ ไม่มีผู้ชนะ เสมอกันหมด (แบบอเมริกา อังกฤษ มหาอำนาจประชาชนประชาธิปไตย)
แต่คนไทย ดูจะยังไม่ถึงระดับความเป็นมนุษย์(ตามที่ท่านพุทธทาสภิกขุท่านนิยามไว้) จึงไม่เข้าใจตรงนี้ ก็เลยเวลามีปรระชาธิปไตย มีการการเลือกตั้ง มีการหาเสียง เสร็จทีไรก็มีแต่เรื่องวาจา ด่าทอกันในรัฐสภา จนแทบกล่าวได้ว่ารัฐสภาคือที่ชุมนุมของหมู่สัตว์ หลายพันธ์ หลายชนิด เข้ามารวมกันในห้องเดียวกัน ที่เห็น จึงมีแต่ถลึงตา เสแสร้ง ซ่อนคมกันไปหมด และด่าทอกันขรมเป็นพวก ๆ ตลอดมา
ไม่เข้าใจเลยว่า การเมือง ต้องพูดแต่ความจริง ให้ประชาชนเขาเชื่อถือได้เท่านั้น ต้องซื่อตรงต่อสัญญา ที่ให้ไว้แด่ประชาชน จะไปพูดตลกหลอกลวงเขาได้อย่างไร และความจริงนั้น ย่อมมาจากการวิจัยข่าวสารการพิศูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาจริง ๆ ไม่ใช่นอนคิดเอาตลอดคืนว่าจะด่าเขาอย่างไร เข้าใจไหม?
ก็ระวังแต่ว่าจะเลยไปถึงยกพวกเข้ากลุ้มรุม กัดกัน ตีกันในสภา ก็แล้วกัน….ก็จะเป็นไปตามลำดับสัจธรรมที่ว่า(ใจมโนกรรม-วจีกรรม-กายกรรม)คิดในใจก่อน คิดร้ายต่อเขาในใจ แล้วค่อยออกมาเป็นวาจาคำพูด ที่รุนแรงก็เพราะมาจากคิดแรงในใจ แล้ว ก็จะต่อไปสู่ กายกรรม คิดแรง วาจาแรง ไปต่อยตีกันแรงตีกันกลางสภา เลย
แต่ ก็มีเช่นนี้เป็นประจำของการเมืองประเทศนี้ ที่มันไม่บอกความเป็นมนุษย์
ก็เลยมีระบบการเมืองอีกระบบหนึ่งคอยสอดแทรกเข้ามาในการเมืองไทยเป็นระยะ ๆ คือการเมืองเผด็จการ ได้อำนาจมาจากการใช้กำลังกองทัพ หรือ ความมีพวกมากที่ใหญ่โตกว่าพวกคนอื่นนั่นเอง เช่นคราวที่ผ่านมาครั้งล่าสุด ก็รัฐประหารปี 2557 แล้วคณะรัฐประหารก็ครองอำนาจเผด็จการมาถึง ปี 2562 ก็คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตัวแทนมาปกครองเอง ก็นับว่าเป็นประชาธิปไตย มีตัวแทน สส. สว. 750 คนมานั่งบริหารประเทศ แบบนี้เรียกว่า ประชาธิปไตย มาถึงวันนี้ เพิ่งได้รัฐบาลประชาธิปไตยรัฐบาลที่ 2 มาเมื่อ 10 ก.ย. 2566นี่เอง และวันนี้ ก็ทำท่าจะวุ่นวายต่อไปอีก เพราะสถานการณ์เดิม ๆ ก็กลับมาสู่รัฐบาลสู่การเมืองประชาธิปไตยไทยอีกครั้งหนึ่ง คือเหมือนรวมหมู่สัตว์คนละหมู่เข้ามาปกครองประเทศ กัดกันในสภา เอาแต่แยกเขี้ยว กัดกันตลอดเวลา(ทำดี ๆ ทำกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ดีๆ ไม่เป็น) มีลักษณะไม่รู้หน้าที่ของมนุษย์ ว่าตนเข้ามาอยู่ในนี้ทำไม และเลยไปถึงยกพวกตีกันของพวกในและนอกสภา ประชาชนที่เดือดร้อนอยู่แล้วก็เดือดร้อนต่อไป แบบมีรัฐบาลไม่ใช่สังคมมนุษย์นั้นเอง
จนในที่สุด ยกพวกตีกันในสภาและพวกนอกสภาก็ต่อยตีกันนอกสภา ตามกันไปทั่วประเทศ
คราวนี้ พวกมีกำลังมีหมู่ฝูงเข้มแข็งมีแรงตัวโตกว่าเพื่อนก็ออกมาไล่ตีพวกบ้า ๆ นี้หนีไปอีกครั้งหนึ่ง
นั่นคือ รัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง วนเป็นวัฏฏะสงสารการเมืองประเทศนี้
แต่ดีที่พอเป็นเผด็จการที่ตงฉินไม่โกง ไม่กิน ก็สร้างประเทศชาติไปได้มาก อย่างเช่น รัฐบาลประยุทธ จันทร์โอชา ที่ออกไปแล้วทั้งจาก 2 ระบอบ คือ เดิม เผด็จการ คสช. มาเป็น ประชาธิปไตย รัฐบาลของประชาชนรวม 9 ปี ออกไปแล้ว มีแต่ประชาชนร้องไห้ตามทำเป็นตัวอย่างอันดีไว้ แต่พวกประชาธิปไตยจอมปลอม ไม่เคยคิดเอาอย่าง
พอมาถึงวันนี้ รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เรื่องราวการเมืองไทยก็ส่อแววออกมาเหมือนคนพันธุ์เก่ามาสภาเหมือนเดิม ก็ทำท่าว่าจะเป็นประชาธิปไตยไม่ดี ไม่ได้อีกแล้ว
ก็แปลก ที่ทำไมประชาชนคนไทย จึงทำตนบอดใบ้ไม่มองดูว่าอะไรเป็นอะไร ชอบอยู่หรืออย่างไรเรื่องมีหมาหมู่มากัดกันในรัฐสภา สถานที่ประชุมการเมืองสูงสุดของประเทศนี้ แล้วจะเจริญไปได้อย่างไรไม่คิด เพราะนั่นจะบอกถึงมาครบวงจรการเปลี่ยนไปสู่อีกระบอบแล้ว นั่นคือ เปลี่ยนจากประชาธิปไตยไปเป็น รัฐประหารเผด็จการอีกครั้งแล้ว
เพราะมันบอกว่า ประเทศ ประชาชนประเทศนี้ ด้อยพัฒนา(คือโง่เกินไป)ที่จะใช้ระบอบการเมืองที่ดีล้ำเลิศเช่นประชาธิปไตยได้ เมื่อใช้ไม่เป็นก็จะกลายเป็นโทษ เช่นเดียวกับ สาธารณรัฐเฮติ สาธารณรัฐรวันด้า สาธารณรัฐซูดาน และสาธารณรัฐซีเรีย (คำว่าสาธารณรัฐ หมายถึงประเทศที่ปกครองโดย ประชาธิปไตย....ประกาศคุณธรรม3คือ Liberty Equality Fraternity อันเป็นจริยธรรมที่ต้องปฏิบัติ....แต่พวกนี้ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่เป็น เหมือนไทยนั่นเองจึงกลายเป็นโทษวอดวายฉิบหายไปตาม ๆ กัน ก็เหมือนไทยอีก) ที่ทำประชาธิปไตยไม่เป็นเกิดอันตรายขึ้นมาแทน มีแต่การเข่นฆ่ารัฐประหารมาตลอด อย่างเช่นเฮติ เรียกตัวเองว่าสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยเฮติ แต่มีม็อบปกครองประเทศแทนถึง 890 กว่าม็อบ จนรัฐบาลทำอะไรไม่ได้เลยมีแต่แยกเขี้ยวใส่กันทำร้ายกัน ฆ่ากันตายมาตลอด เช่นรวันด้ามาปีนี้ตายไป 5 ล้านศพแล้ว ไทยก็แบบเดียวกัน ทำประชาธิปไตยเป็นโทษร้ายไปตลอด แทนที่จะได้ดีเพราะประชาธิปไตยก็ไม่ได้ดี เพราะทำประชาธิปไตยไม่เป็น อย่าง4 ประเทศที่อ้างมานั้นเอง
2.
บางที น่าจะมีคนที่เรียนหนังสือมารู้ว่าการเมืองมีระบอบนั้นระบอบนี้ ก็อาจจะเสนอว่า ที่ไทยเป็นอยู่นี้ เผด็จการรัฐประหาร ก็ไม่ดี ไม่เอา ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน ....ว่าไปนั่น..... แต่พอมีประชาธิปไตย ก็แบบเกณฑ์ประชาชนไปออกเสียง(เพราะประชาชนไม่รู้ว่าไปเลือกตั้งทำไม เคยเป็นทาสคุ้นกับวิถีทาส ได้เงินหรือเปล่า ได้เงินก็ไปเลือกตั้งมีซื้อเสียงถึง 10000 หมื่นแล้วทำไมจะไม่เอา เพราะแม้ กกต. ก็ไม่เห็นว่ารู้เรื่องอะไรกับประชาธิปไตย อะไรนี่แหละคนด้อยพัฒนาเกินจะเป็นประชาธิปไตยได้) มีประชาธิปไตยก็ไปไม่ได้เหมือนเอาหมู่สัตว์ หลายหมู่มารวมกันแต่รับผิดชอบแทนประชาชนทั้งชาตินั่นคือ ทำหน้าที่ปกครองประเทศ
มันก็เป็นไปไม่ได้อีก เพราะมีแต่คนโกงกินประเทศชาติ เอาทุนคืน.......
มันก็จะวนไปแบบเดิมอีก
แล้วอย่างไร?
ก็มีที่เราไม่เคยเป็น ไม่เคยลองก็คอมมิวนิสต์ไงครับ
เป็นคอมมิวนิสต์ ดีกว่า
ทำไมนักวิชาการรัฐศาสตร์ในประเทศไทย แทบไม่มีเลย แม้ที่จริงมีตำแหน่งถึงศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยเยอะแยะไปหมด(ทำไมไม่คิดลดตำแหน่งพวกโง่ๆนี้ลงบ้าง ไปคิดลดนายพลเขาลงทำไม ?) กินเงินเดือนแพง ๆ อยู่เฉย ๆ ไม่รู้เรื่องการเมืองเลย แล้วเขาสอนอะไรให้ลูกศิษย์เขา ? ขนาดเด็กประถม มัธยม มันออกมาตั้งเป็นองค์กรนักเรียนเลว ไปไล่ รมว.ศธ. ไปชุมนุมการเมือง ศาสตราจารย์พวกนี้ยังไม่รู้เลยว่ามันไม่ถูกตามหลักการประชาธิปไตย และ ปล่อยให้สร้างม็อบเยาวชน เช่นธรรมศาสตร์ไม่ทน มาชุมนุมการเมือง คิดล้มล้างสถาบันเสียอีก แบบว่าทำผิดไปถึงเรื่องหน้าที่ของข้าราชการคนหนึ่งด้วย ที่น่าไล่ออกไปเสียจากระบบราชการไทย ฐานสนับสนุนเด็กเยาวชนไปชุมนุมการเมือง และให้ความรู้ที่ผิดทางการเมืองแด่นักเรียนนักศึกษา มาตลอด (หมายความว่าตนเองนั้นมีวิชาความรู้ไม่พอที่จะสอนรัฐศาสตร์นั่นเอง...ก็ให้ออกไป)
วันนี้ พอมีคำถามเป็นประชาธิปไตย ก็ไปไม่ได้ เป็นเผด็จการรัฐประหาร ก็ไปไม่ได้ เพราะคนที่ฉลาดแกมโง่ โง่ ๆ ฉลาดๆในมหาวิทยาลัยนั่นเองออกมาตอนนี้เสมอเลย ก็เลยไปไม่ได้อีก ก็วกมาสู่แบบเดิมอีก
และวันนี้ก็มีคำถามใหม่ ทำไมเราไม่ลองเป็นคอมมิวนิสต์ดู ?
อย่างจีนไง สงบจะตายไป
เจริญ ร่ำรวย ก้าวหน้า จนไปโลกดวงจันทร์ อังคารแล้ว เป็นมหาอำนาจเพราะระบอบคอมมิวนิสต์
ประชาชนมีแต่ความสุข ร่ำรวย ไปเที่ยวกันได้ทั่วโลก อย่างที่ชาวจีน หรือ นร.จีนมาเที่ยวไทย สวมใส่ชุด นร.ไทยนั้นก็เพราะเขารวยไง รวย ๆ ก็มาเที่ยว ไม่รวยก็อยู่บ้านเฉยๆ อย่างคนไทยในระบอบประชาธิปไตยนั้นเอง
ไทยเป็นประชาธิปไตยคิดว่าตนเป็นแต่แท้จริงประชาธิปไตยโง่ๆ ทำไปโง่ ๆ แบบที่พรรคหนุ่มคนหนุ่มนั้นแหละ ไปหาเสียงเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 เขียนจะทำอะไรตั้ง300 ข้อ แต่มาวิเคราะห์แล้ว ข้อเดียวก็ทำไม่ได้ ...เพราะโง่ไม่รู้ธรรมประชาธิปไตยจะไปพูดอะไรโง่ๆ ไม่ได้ พูดอะไรต้องสัตย์จริงทำจริง จึงไม่ได้อะไรเลย (แบบ 4 ประเทศที่อ้างมานั้นเอง) นอกจากพวกคนสติเสื่อม พอเข้าสู่การเมืองได้ ก็มีแต่คิดการผลประโยชน์ แก่งแย่งอำนาจกันเองตลอดมา แบบหลงลืมสัจธรรมทางศาสนา อะไรคือคุณธรรม อะไรคือความเป็นมนุษย์ ไปหมด
เศรษฐา ทวีสิน วันนี้ น่าจะลองคุยกับสี จิ้นผิง ดูนะว่า จะเป็นคอมมิวนิสต์นี้ จะเริ่มอย่างไรดี ? หรือไม่ก็ลองถามลาว ใกล้ ๆ นี้เองก็ยังได้เลย...........สุไหงปาดี ชินะกุล ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 12 ก.ย. 2566
-----
@ การเมืองไทยวันนี้ 12 ก.ย. 2566 วิเคราะห์ระบอบการเมืองไทยควรคิดดู
-----
Thai-English
Thai politics today, 12 Sept. 2023, analyzing the political regime that Thailand should think about.
Analysis of Thai politics
Thai people or groups or political parties in Thailand that like democracy today...almost all of them I like it because I don't know what democracy is. I don't know that democracy is actually the politics of the entire country that must be wise and know the reasons and the results. We know that democracy has a rather strict system. It's the politics of Humans who must have ethics Behaving in accordance with democratic ethics. In order to achieve the lofty goal of democracy, that is, democracy has no losers, no winners, all are equal (like America, England, the democratic people's superpowers).
But Thai people don't seem to have reached the level of humanity (as defined by Buddhadasa Bhikkhu), so they don't understand this. So it's time for democracy. There's an election, there's a campaign, and whenever it's finished there's only talk. Insulting each other in parliament It can almost be said that Parliament is a gathering of animals of many species and kinds, gathered together in the same room. All that can be seen is squinting, pretending, and hiding their sharp edges. and cursed each other as groups all the time.
I don't understand that politics requires telling only the truth. Let the people trust him only. Must be faithful to the contract given to the people How can you tell a joke and deceive him? And that truth It comes from actually researching news about the scientific verification, not staying up all night thinking about how to scold him, do you understand?
Be careful, but it will lead to groups gathering together, biting each other, hitting each other in the parliament....it will be according to the sequence of truth that says (mind-mano-karma-verbal-karma) think in the mind first. Think ill of him in your heart. Then slowly come out in words. It is violent because it comes from strong thoughts in the mind. Then it will continue into acrobatics, strong thoughts, strong speech, going to punch and hit each other hard in the middle of parliament.
But there is such a thing as a regular part of the politics of this country. that doesn't tell us about humanity
Therefore, there is another political system that is inserted into Thai politics from time to time, namely authoritarian politics. Gain power from the use of military force or having a group that is larger than others. Like the last time There was a coup in 2014 and the coup d'état assumed dictatorial power until 2019, returning power to the people to choose their own representatives to govern. It is considered a democracy, with 750 representatives of MPs and Senators sitting to run the country. This kind of thing is called democracy. Until today, we just got a second democratic government on 10 September 2023, and today it seems like there will be further chaos. Because the same situation has returned to the government and Thai democratic politics once again. That is, it is like different groups of animals coming together to rule the country, biting each other in parliament, only baring their fangs. Biting each other all the time (not being able to do good deeds, acrobatics, verbal deeds, mental deeds) and have the appearance of not knowing human duties. Why did he come into this place? and so on, there were groups fighting among those inside and outside the parliament. People who are already in trouble will continue to suffer. There is a government, not a human society itself.
Until finally, there were those fighting each other in the House and those outside the House fighting each other outside the House. Follow each other all over the country.
This time, a group of strong men, stronger than their friends, came out and chased these idiots away again.
That is another coup. It is a cycle of pity in the politics of this country.
But it's good that when it comes to being a dictator that Dong Qin doesn't cheat or eat, he can build the country a lot. For example, the government of Prayut Chan-o-cha has left from both regimes: the original NCPO dictatorship to democracy, the people's government for a total of 9 years. It's gone, but people are crying as they set a good example. But the fake democrats I never thought of imitating it.
When the government of Settha Thaweesin arrived today, the story of Thai politics appeared as if the old generation had come to parliament as before. pretending to be a bad democracy Not anymore
It's strange why Thai people So he made himself blind and mute, not looking at what was what. Do you like the story of a group of dogs attacking each other in Parliament? This country's highest political meeting place. So how can you prosper without thinking? Because that will tell of the complete cycle of changing to another regime, that is, changing from democracy to Another dictatorial coup
Because it says that this country and the people of this country Underdeveloped (that is, too stupid) to be able to use an excellent political system such as democracy. When used incorrectly, it becomes a penalty, like the Republic of Haiti. Republic of Rwanda Republic of Sudan and the Republic of Syria (The word republic Refers to the country ruled by Democracy....proclaims 3 virtues, namely Liberty Equality Fraternity, which is an ethics that must be practiced....but these people do not practice it or do not know how to practice it. Just like Thailand itself, it became a disaster and disappeared one after the other. It's like Thailand again) that did not do democracy and caused danger instead. There have always been killings and coups. such as Haiti It calls itself a republic. Haitian democracy But there are more than 890 mobs ruling the country instead, to the point where the government can't do anything but barf their teeth at each other and attack each other. They've been killing each other all along. For example, Rwanda this year has already killed 5 million people. Thailand is the same way. Making democracy a terrible punishment forever Instead it was good because democracy was not good. Because democracy cannot be done like the 4 countries mentioned.
Perhaps there should be people who have studied and know that politics has this regime and this regime. It may be suggested that This is what Thailand is like now. Dictatorship coups are not good, we don't want them, power must be returned to the people. ....Let's go there..... But when there is democracy It's like conscripting people to vote (because people don't know why they go to vote). Used to be a slave and accustomed to the ways of slavery. Did you get money? If you get money, go to the polls and buy 10,000,000 votes, why not? Because even the Election Commission doesn't see that it knows anything about democracy. What is this? People who are too underdeveloped to be democratic) Having democracy is impossible, like having a group of animals. Many groups come together but take responsibility for the entire nation, that is. Responsible for governing the country
It's no longer possible. Because there are people who cheat and eat the country. Get your money back.......
It will go around the same way again.
So how?
There are things that we never had. I've never tried communism.
It's better to be a communist.
Why are there almost no political science academics in Thailand? Even though there are many professor positions in universities (why don't you consider reducing these stupid positions? Why are you thinking about demoting the general?) Earning a high salary and just not knowing anything about politics. So what does he teach his students? Even elementary school and high school students came out to form bad student organizations to chase out the Minister of Education for political rallies. These professors still don't know that it is not according to democratic principles and allows them to create a youth mob. For example, Thammasat doesn't tolerate it. come to a political rally think of overthrowing the institution again It was like he had made a mistake regarding the duties of a government official as well. that should be expelled from the Thai bureaucracy Support base for youth to attend political rallies and giving politically incorrect knowledge to students all along (meaning that you don't have enough knowledge to teach political science...just leave)
Today, when there is a question of democracy, we cannot go. If we are a dictatorship in a coup, we cannot go because the cunning, stupid, smart people in the university always come out now. So I couldn't go any further. It came back to the original again.
And today I have a new question. Why don't we try becoming communists?
Like China, peace will die.
Prosperous, wealthy, advanced until reaching the moon and Mars, becoming a superpower because of the communist regime.
People are happy, wealthy, and can travel around the world. Just like Chinese people or Chinese students come to visit Thailand and wear Thai student uniforms, it's because they're rich. Rich people come to visit, if they're not rich they just stay at home. Like Thai people in a democratic system.
Thailand is a democracy and thinks that it is, but in reality it is a stupid democracy. It is done stupidly like the young people's party. Going to campaign for elections on 14 May 2023, writing 300 questions about what to do, but then analyzing. One thing cannot be done. ...Because you're stupid and don't know the Dhamma of democracy, you can't say anything stupid. Whatever you say, you have to be honest and do it. So they didn't get anything (like the 4 countries that were mentioned) except for people with demented minds. Enough to enter politics There are only thoughts of benefit. They have always competed for power among themselves. Forgetting the truth of religion What is morality? What is humanity?
Settha Thavisin today should try talking to Xi Jinping to see if he will be a communist. How should I start? Or try asking Laos, you can still get it nearby...........Su-ngai Padi Chinakul Dr. Khikmek Suwanmekin Buaraya Chababunset 12 Sept. 2023
-----
@ Thai politics today, 12 Sep. 2023, analyze the Thai political system, you should think about it.
@ การเมืองไทยวันนี้ 12 ก.ย. 2566 วิเคราะห์ระบอบการเมืองที่ไทยควรคิดดู
-----
เรื่องที่ 4
Thai-English
วิเคราะห์การเมืองไทยวันนี้ 17 ก.ย.2566 รัฐบาลเศรษฐาเป็นรัฐบาลสมมติฐาน เอาประเทศไทยทดลองการเมืองของตน ทำอย่างไรจะเป็นประชาธิปตยจริง
***********************************************
1.
ทำไมจึงว่า ประชาธิปไตยเป็นระบอบการเมืองที่ดีเลิศ เป็นศาสนาหนึ่งของยุคใหม่ เรียกว่าศาสนาประชาธิปไตย อันถ่ายทอดจากหลักธรรมของพระพุทธศาสนา
ที่ว่า ประเทศ ประชาชนประเทศนี้ ด้อยพัฒนา (คือโง่เกินไป) ที่จะใช้ระบอบการเมืองที่ดีล้ำเลิศ เช่นประชาธิปไตยได้ เมื่อใช้ไม่เป็นก็จะกลายเป็นประเทศเดียวกับสาธารณรัฐเฮติ สาธารณรัฐรวันด้า สาธารณรัฐซูดาน สาธารณรัฐซีเรีย สาธารณรัฐลิเบีย
คำของนักรัฐศาสตร์ที่ว่า ไม่มีระบบการเมืองใดที่เรียกว่าดีกว่าระบอบใด นั้น เป็นคำพูดที่แสดงว่ายังไม่เข้าใจสัจธรรมสูงสุดของประชาธิปไตย เลย
ประชาธิปไตยเป็นระบอบการเมืองที่มีจริยธรรมควบคู่ไป ให้ปฏิบัติ ที่เสมือนเป็นศาสนาหนึ่งเลยทีเดียว
ด้วยเหตุที่เริ่มด้วยความเป็นคนเสมอกันไม่มีชั้นวรรณะ ตามหลักความเป็นมนุษย์ของพุทธศาสนา ก็ด้วยเหตุที่มีการแบ่งปันอำนาจกันเท่าๆกันหมดทุก ๆคนแด่ประชาชนทั้งหมดทุกคนของแผ่นดิน ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอำนาจ เช่นประชาชนไทยใครที่ได้ชื่อว่า”ไทย” (ไม่ใช่อิสลาม) จะได้รับการแบ่งปันอำนาจนี้แบบแบ่งปันทานเท่ากันหมดมีฐานะเป็นเจ้าของอำนาจเท่ากัน โดยไม่คำนึงฐานะทางเศรษฐกิจ ถาวร มั่นคง โดยรูปธรรมนั้นก็คือ คนขอทานไทยคนหนึ่ง ได้รับการแบ่งปันอำนาจการเมืองเท่ากันเลยกับมหาเศรษฐี เศรษฐินี หรือแม้ นายพลคนหนึ่งได้เพียงคนละ 1 เสียงเท่านั้น
*****************************************************
2.
อย่างเช่น นายเศรษฐาทวีสิน กับ ประชาชนชาวไร่ชาวนาคนหนึ่ง เท่ากันเลย
หากแต่เราไม่เข้าใจกันเท่านั้นเอง
และอย่างเช่นที่เข้าใจผิดกันไปหมดก็คือ พวกข้าราชการไทย ทุกประเภท ตั้งแต่ฐานะตำแหน่งสูงส่ง อธิบดี ลงมาสู่เสมียน ภารโรง ข้าราชการทั่วไป ครู อาจารย์ ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ทหาร ซึ่งมีจำนวนมากในประเทศนี้ ที่ไม่เข้าใจตนเอง ไม่เข้าใจหน้าที่ของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย แบบประชาชนเป็นนาย ของประเทศ ฉะนั้น พอมีการเกษียณอายุราชการไปแล้วนั้น ก็พากันเข้าใจผิดไปไกลว่าชีวิตหมดภาระลงแล้ว โดย ว่าพ้นไปแล้วจากหน้าที่ราชการ แต่ไม่พ้นจากหน้าที่ประชาชนประชาธิปไตย เท่ากับมีภาระหน้าที่ต่อประเทศชาติแบบว่าสำคัญไปกว่าเดิมอีก ประชาธิปไตยนั้นให้อำนาจเท่ากันหมด ซึ่งประเทศทำได้โดยสมบูรณ์ แต่มีอำนาจสมบูรณ์จริง ๆ นั้นเท่ากันจริง ๆ ก็มีแต่ในอเมริกาประชาชนรว่ม 330 ล้านคน ในมลรัฐ 50 มลรัฐ และอังกฤษประเทศนี้ในโลกเท่านั้น
ทั้งนี้เนื่องมาจากเขาเข้าใจหลักการธรรมะ ทุกขัง อนิจจังอนัตตาตามสัจธรรมทางพุทธสาสนา และทางปฏิบัติก็นำไปตามหลักตนเองเป็นที่พึ่งของตน การเมืองเป็นของมนุษย์ ไม่ใช่ของพระเจ้า ไม่มีชั้นวรรณะตามหลักพุทธศาสนาอีก
และที่ว่า ประชาธิปไตย ดีเลิศล้ำเลิศนั้นก็เพราะเมื่อเข้าใจประชาธิปไตยปฏิบัติถูกต้องแล้ว จะนำไปสู่การเมืองที่ดีเลิศ เพราะไม่มีผั้ใดแพ้ ไม่มีผู้ใดชนะ มัมีศัตรู มีแต่มิตรภาพล้วน ๆ ก็เพราะผลประโยชน์จากการเมืองประชาธิปไตย ไม่มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เสมอกันหมด นั่นเอง
**********************************************************
3.
ทุกคน ๆ ทั้งนักการเมือง พรรคการเมือง และประชาชนทุกคนได้ประโยชน์จากการเมืองเท่ากันหมด หมายความว่า ถึงพรรคหนึ่งชนะการเลือกตั้ง พรรคคู่แข่งที่สู้กันมาอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่พอได้พรรคชนะ จะได้เป็นรัฐบาล ได้พรรคแพ้ การเลือกตั้ง พรรคหนึ่งได้เป็นรัฐบาล อีกพรรคหนึ่งได้เป็นฝ่ายค้าน ที่จริงน่าเรียกว่าฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล จะถูกต้องกว่า และประชาชนฝ่ายที่สนับสนุนจนได้ชัยชนะก็ดี ประชาชนที่สนับสนุนพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง แพ้การเลือกตั้งนั้นก็ดี จะต้องเข้าใจว่าชนะไม่ใช่ชนะ แพ้ไม่ใช่แพ้ เพราะหน้าที่ของฝ่ายชนะได้เป็นรัฐบาล ก็คือต้องบริหารให้นโยบายที่ประกาศจะทำที่มักตรงข้ามกับของฝ่ายที่แพ้นั้น เกิดประโยชน์ไม่ใช่เฉพาะต่อฝ่ายประชาชนฝ่ายที่ชนะเท่านั้น แต่ต้องเกิดประโยชน์แก่ประชาชนทุกฝ่ายแม้ฝ่ายที่ด่าทอเรา ต่อต้านเราอย่างสุด ๆ ในขณะที่มีการรณรงค์เลือกตั้งมานั้น
***********************************************************
4.
นี่เป็นหลักการ เป็นความดีล้ำเลิศของประชาธิปไตย คือทุกคนได้ประโยชน์ตามนโยบายของรัฐบาล ไหนก็ตาม
จะไม่ใช่อย่างที่ หน.รัฐบาลคนหนึ่ง หน.พรรคพรรคหนึ่งเคยกล่าวเอาไว้หลังชนะเลือกตั้งอย่างแลนด์สไลด์ว่าจะต้องทำอะไรให้จังหวัดบ้านเกิดเมืองนอนของตนก่อน เพราะได้ทุ่มเทคะแนนเสียงให้พรรคของตนอย่างมากกว่าจังหวัดอื่น
นี่คือความผิดพลาดต่อธรรมะประชาธิปไตย ระดับที่เรียกว่าทรยศต่อหลักการประชาธิปไตยเลยโดยตรง โดยออกมาแบบเผด็จการ เหมือนการปกครองยุคโบราณที่พอชนะสงครามแล้วก็ทำการกุดหัวฝ่ายแพ้ให้เกลี้ยงแผ่นดินมีอยู่แต่ฝ่ายตนฝ่ายเดียวเท่านั้น นั่นแหละเป็นอุปสรรคการเมืองที่สืบทอดมาถึงระบอบการปกครองใหม่ คือประชาธิไตยวันนี้ ที่จะต้องเป็นแบบไม่มีผู้ชนะ ไม่มีผู้แพ้ เสมอกันหมด เพราะหลังมีผู้ชนะการเลือกตั้งแล้ว ผู้ชนะ ผู้ได้อำนาจการบริหารต้องจัดการบริหารผลประโยชน์ของประชาชน ประเทศชาติ ให้เป็นผลต่อทั้งองค์รวม ต้องจัดผลประโยชน์ทุกอย่างให้ประชาชนทั้งหลายโดยเท่าเทียม ตามเหตุและผล โดยให้เกิดขึ้นทั่วประเทศทุกคนไม่มียกเว้นหน้าที่
ดังที่ โจ ไบเดน ประกาศหลังชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี คนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกาว่า ผมจะเป็นประธานาธิบดีของประชาชนอเมริกันทุกคน นั่นเองหลักศีลธรรมของประชาธิปไตยเบื้องต้น(ก็นายพิธาลิ้ม ยังไม่ทันได้เป็น เพียงแต่กำลังจะได้เป็น แต่ก็ประกาศแบบเดียวกับโจ ไบเด้นนี้ไปก่อนเลย ก็ล้ำหน้าเลยไม่ได้เป็นอะไรเลย ตลก! ตลกแบบโง่ ๆ)
*******************************************************
5.
นี่แหละความดีเลิศของระบอบประชาธิปไตย แต่หากทำได้ตามหลักการที่ว่าไม่มีผู้แพ้ ไม่มีผู้ชนะ ต้องเอานโยบายการบริหารประเทศมาบริหารให้ตกทอดแก่ประชาชนเท่าเทียมกันหมด ให้ตรงหลักการที่ว่าประชาธิปไตย เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนให้ได้
นั่นคือประชาชนนั่นเองมีศักด์มีศรี แม้เราเป็นเพียงคนขอทานคนหนึ่ง หรือ ข้าราชการชั้นผู้น้อย แม้ว่าเกษียณราชการแล้ว แต่ในหน้าที่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย การปกครองประเทศ ยังคงเป็นหน้าที่ของประชาชนคนหนึ่งทุกคนไปตลอดชีวิต
ประชาธิปไตยไม่ใช่งานง่าย ๆสบาย ๆ อย่างที่คิดนะ เป็นงานศาสนาประชาธิปไตยเลยทีเดียว หมายความว่า ต้องปฏิบัติธรรมเต็ม 100 % เลยตลอดเวลา
ซึ่งในวันนี้ก็ได้พบว่ายังมีคนพวกหนึ่ง ที่ยังไม่เข้าใจหน้าที่ตนเองต่อประชาธิปไตยอยู่อีก อย่างน่าประหลาดใจที่ได้มาพบ ก็คือ ข้าราชการที่เกษียณอายุราชการนั้นเอง ที่คิดว่าเกษียณอายุแล้วขอไปนอนหลับพักผ่อนสบายกับลูกเมียในต่างประเทศ ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นั้น ทำไมจึงมีคนไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้อยู่ในประเทศไทยที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมา90 กว่าปีแล้ว นอกจาก คนโง่จริง ๆ
เพราะความจริงก็คือว่าประชาชนนั้นมีหน้าที่เป็นนายของประเทศ เป็นนายของข้าราชการการเมือง ต้องดูแลปกครองการเมือง โดยเราเองมาสู่ฐานะสูงส่งไปกว่าเดิมเสียอีก เตรียมไปเป็นนักการเมืองโดยตรง หรือ หากไปไม่ได้เองก็ตั้งตัวแทนโดยการเลือกตั้ง นั้นเองไปปกครองแทนเรา หรือแม้โดยการดูแลการเมืองให้เดินไปถูกต้องถูกทาง โดยวิเคราะห์การเมืองให้ประชาชนรู้อะไรถูกอะไรผิด ต่อสู้ทางความคิดกับนักการเมืองผู้โง่เขลาจะนำประเทศชาติไปสู่ความวุ่นวาย นี่ก็เป็นหน้าที่อันสำคัญสำหรับปัญญาชน คนที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกคน ๆ ๆ ๆ
หมายความว่าเลือกตัวแทนของเราและดูแลตัวแทนของเรา ตรวจสอบไปในฐานะเจ้านายของนักการเมืองทั้งหลาย
ซึ่งคนไทยยังไม่เข้าใจหน้าที่ตนเอง บางคนเกษียณอายุราชการไปแล้ว เช่นข้าราชการมหาดไทย ทหาร ตำรวจ ครู อาจารย์ การเกษตร ต่าง ๆ นั้น แท้จริงการเกษียณอายุราชการนั้น หมายถึง การมาสู่หน้าที่อย่างเต็มตัวของหน้าที่ของประชาชน ผู้เป็นประชาธิปไตยเต็มตัว ที่มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติสูงไปกว่าเดิมอีกนั่นเอง
ยังต้องทำให้ความเป็นผู้ปกครองตนเองเป็นเรื่องจริงจัง เป็นหน้าที่สำคัญของชีวิต ตั้งแต่เกิด ครบวุฒิภาวะ ไปจนตายไปเลยทีเดียว
แต่ในประเทศไทยวันนี้ มีคนแบบนี้ คือข้าราชการผู้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ไม่เข้าใจการเมืองประชาธิปไตย เพียงดั่งว่าคนไร้การศึกษา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แล้วประชาธิปไตยจะได้คนทึ่มีวุฒิ มีประสบการณ์แห่งชีวิตเต็มที่มาช่วยประชาธิปไตยได้อย่างไร แม้เด็ก ๆ ออกมาทำผิดทำถูกต่อประชาธิปไตย คนทรงคุณวุฒิขนาดนี้ยังเฉยเมยอยู่ได้ ได้อย่างไร ?
*******************************************************
6.
และประชาธิปไตยหมายความว่าคนทุกคน พลเมืองของประเทศนั้น ต้องมีหน้าที่ปกครองประเทศ เช่นคนไทยทุกคน ศาสนาใดก็ตาม แต่ต้องเป็น “คนไทย” ต้องมีหน้าที่ปกครองประเทศ หมายถึงมีหน้าที่ทางการเมือง ต้องมีหน้าที่ปกครองตนเอง โดยตนเอง หรือโดยตัวแทนของตน
นี่แหละ ประชาธิปไตย จึงเป็นการแบ่งปันอำนาจให้คนทุกคนเท่า ๆ กันปกครองประเทศ
และเพราะเหตุที่ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ คนทั้งหลายล้วนเป็นมิตรกันหมด ไม่มีผู้ชนะ และ ผู้แพ้ ไม่ว่าฝ่ายใดพรรคใดได้เป็นรัฐบาลก็ตาม จึงเป็นระบอบเดียวที่ประพฤติปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาในหลักการที่ว่า ไม่มีความอาฆาต ไม่มีพยาบาท และไม่มีการจองเวร โกรธแค้น นักการเมือง ประชาชนทุกคนมีไมตรีจิตมิตรภาพ เสมอกันหมด เสมอกันโดยรูปธรรมการเมืองแท้จริง นั่นคือ ได้อำนาจเท่ากัน คนละ1เสียงไม่เห็นแก่ตัว จึงนำไปสู่ทางปฏิบัติตามจริยธรรม Liberty Equality Fraternity ได้ หากไม่เข้าใจหลักการแล้ว หลงผิด
**************************************************
7.
ไปตามความเห็นแก่ตัว ตามความโลภ ความโกรธ และ ความหลง ก็ไม่ใช่ ประชาธิปไตย
แม้หลักเพียงเบื้องต้นของประชาธิปไตย ก็มาจากหลักการ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ตามหลักพุทธศาสนานั้นเอง
หากแต่คนเข้าใจ อย่างประเทศสหรัฐ อเมริกา พร้อมกันทั้งประเทศของเขา และแต่ละมลรัฐ หรือแต่ละประเทศ 50 มลรัฐ สามารถปฏิบัติได้ในแบบหลักการประชาธิปไตยและ จริยธรรมประชาธิปไตยทั้งหมด จึงนำประเทศไปสู่การพัฒนาเป็นมหาอำนาจที่ยั่งยืนยิ่งยงได้
บางทีคนไทย จะตาบอดมองไม่เห็น
เช่น เพียงไปวิเคราะห์ดูว่า ประธานาธิบดี ของสหรัฐนี้ หรือ แม้เพียงผู้ว่าการมลรัฐทั้ง 50 แห่ง ที่แท้จริงถึง 50 ประเทศมารวมกันนั้น
มีประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้นตั้งแต่คนที่1 ยอร์จ วอชิงตัน มาจนถึงคนที่ 46 โจ ไบเดน วันนี้ เขาไม่คยมีรัฐประหารเลย การบุญการทาน โดยการแบ่งปันอำนาจเขาทำได้สม่ำเสมอจริง ๆ ตลอดกว่า 300ปีที่ตั้งประเทศมาจึงไม่มีปัญหาทางการประชาธิปไตจยของประเทศเลย ลองเทียบกับประเทศสยามดูสิ
เหตุผล
เพราะประชาชนอเมริกันฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง แต่ละคนมีอุปนิสัยเป็นอิสระไม่พอใจมีการบังคับข่มขู่ และนั่นนำไปสู่การพึ่งตนเองทำมาหาเลี้ยงชีพได้ด้วยตนเอง เป็นทาสไม่เป็น มีความหยิ่งแบบธรรมชาติ มีแต่พึ่งตนเอง ทำมาหากินได้ด้วยตนเองด้วยวิชาความรู้ของตนเอง(นั่นก็คือในฐานะในฐานะเสรีชน-เสรีภาพ นั่นเอง) เขาละอายใจอย่างสูง ที่จะหากินกับการขายเสียง อย่างคนไทย เขมร พม่าวันนี้ เพราะเขาหยิ่ง มีศักดิ์ศรีที่ความเป็นเสรีชนนั่นเอง ซึ่งนั่นเป็นสามัญสำนึกแห่งเกียรติยศที่ทรงคุณธรรมเยี่ยงวีรบุรุษในสนามรบการเมืองโดยแท้ ...ก็ดูที่สงครามทาสนั้นเอง สงครามกลางเมืองครั้งเดียวเป็นสงครามทาส ที่ต้องการล้างความคิดแบบทาสไปเสียจากประชาชนประเทศของเขา ด้วยการที่ต้องทำสงครามกันเลย เขาไม่ต้องการให้มีคนเป็นทาสในประเทศเขา สหรัฐอเมริกา อันจะลดทอนศักดิ์ศรีแห่งประชาธิปไตย ให้เสื่อมทรามลงไป (ซึ่งผิดกับทาสไทยที่ไม่อยากพ้นทาสไปเลย เพราะจะไปทำมาหากินอะไรได้ด้วยตนเองเป็นขี้ข้าเขาๆยังให้ข้าวกินทุกวันเลย นั่นแหละจึงยากที่จะปกครองตนเอง เป็นประชาธิปไตย มีแต่การซื้อสิทธิขายเสียงกันทุกครั้ง แบบไม่มองเห็นโทษต่อประชาธิปไตยกันเลย....เหมือน กกต. นั่นเอง ที่มาวันนี้ต้องเปลี่ยนคณะใหม่เสีย)
*******************************************************
.jpg)
8.
มาดูประชาธิปไตยไทย รัฐบาลของ เศรษฐา ทวีสิน ก็เห็นได้ว่า ได้สร้างปัญหามาตั้งแต่มีการเลือกตั้ง และตั้งแต่มีการสัมพันธ์กับคนต่างประเทศมาแล้ว เริ่มจากการเลือกตั้งมาเลย โดยประเด็นการต่อสู้ทางการเมืองทุกรูปแบบเพื่อให้กรรคเพื่อไทยของตนได้รับชัยชนะ เอาชนะเสียงประชาชนให้ได้จนพอที่จะเข้าสู่อำนาจสูงสุดทางการเมืองไทยให้ได้ นำไปสู่ปัญหานโยบายการบริหารประเทศ
ซึ่งอยู่ที่ว่าได้ไปให้สัญญากับประชาชนเอาไว้อย่างไร ประเด็นคือ ตรง ถูกต้องตามกฎของประชาธิปไตยหรือไม่? ดังที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้ก็คือ เรื่องเงินสัญญาจะให้ประชาชน คนละ 10,000 บาทระบบดิจิตอล ก็เป็นเรื่องที่สัญญากับประชาชนไว้ในเมื่อประชาชนเป็นเสรีชนมีศักดิ์ศรี เขาจึงมีสิทธิเต็มที่ที่จะทวงถาม คำสัญญา หากแต่ประเด็นนี้ แท้จริงเกี่ยวกับ กกต.ตั้งแต่ต้นเลย หากว่าเข้าใจตรงกันว่า ประชาธิปไตยนั้น คือ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน เคารพเสรีภาพ และ ยืนยันความเป็นเสรีชน ใครจะมาซื้อเสียง ขายเสียง นั้นเป็นความเสิ่อมทรามแห่งความเป็นมนุษย์ เสรีภาพ แบบ 1 คน 1 เสียง คนขายเสียงมีแต่ทาสเท่านั้น และไม่ใช่ประชาธิปไตย ถ้ามีก็ต้องลงโทษเสียให้ ไม่ให้มีเช่นนี้ในระบอบการปกครองของมนุษย์เสรี
และอีกเรื่องหนีงก็ 20 บาทตลอดสาย
ก็มีการดิ้นรนเอาตัวรอดไป
ซึ่งสิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ประชาชนคนไทยเราวันนี้เขาเป็นคนแบบทาสอยู่ คือ ขี้ขอ แบบขอทานไปเลย นั่นแหละมันขัดหลักการของ เสรีชนที่จะต้องพึ่งตนเอง หยิ่งในศักดิ์ศรี เทียบคนอเมริกันไม่ได้ความขี้ขอแบบนี้แหละ ทำให้ประช่าธิปไตยอ่อนแอเพราะประชาชนกลายเป็นทาสคนขี้ขอคนขี้ขายเสียงไปหมด เพราะประชาชนประชาธิปไตย ต้องถือหลักพุทธธรรมตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของรัฐบาลนี้นั้นก็พบว่าคล่องในการแก้ปัญหาของประชาชนแต่มันออกมาแบบสรุปก็คือ กลายเป็นรัฐบาลสมมติฐานไป
******************************************************
9.
เพราะข้อสมมุติฐาน ก็คือ สมมติฐาน คือการเดามาแต่ยังไม่ผ่านการพิศูจน์ทดลองมาก่อนเลย เช่นนโยบายแจกเงินดิจิตอล ที่ระบุเลยนะว่า ตั้งแต่คนไทยอายุ 16 ปี(รู้หรือเปล่าว่าเด็กอายุยังไม่ถึง 18 ปีเขาเอามาเล่นการเมืองนั้นบอกถึงความไม่เข้าใจประชาธิปไตยไตยเลย ถึงระดับโง่เง่าเต่าตุ่นไปเลย อย่างเช่นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจไปปลุกระดมเด็กชั้นประถมมัธยม ออกมาเป็นแฟลชม็อบ เรียกองค์กรนักเรียนเลว (ซึ่งเป็นการสรรเสริญความเลว ความชั่วเป็นเหตุให้คนคิดทำความเลว ความชั่วได้แบบไม่มีความละอายใจเลย....เหมือนครอบครัวเขาเองนับแต่แม่คนหนึ่ง น้องสาวคนหนึ่ง น้องชายคนหนึ่งและตัวเขาเอง รวมทั้งครอบครัว 4 คน ที่ร่วมกันไปโกงจับจองที่ดินป่านับพัน ๆ ไร่ จนกลายเป็นคดีความบุกรุกป่าสาธารณะอยู่และเรื่องอยู่ในมือของอัยการราชบุรี มานับ10 ปีแล้วยังเงียบอยู่เลยเป็นคดีแบบเดียวกับนางปวีณา ไกรคุปต์อดีต สส.ราชบุรี ที่เสร็จสิ้นไปอย่างเร็วจนเธอต้องออกจากสส.ไป แต่ทำไมคนสกุลจึงรุ่งเรืองกิจนี้จึงหน้าด้านไร้ยางอายมาจนถึงทุกวันนี้...แม้อัยการ....ก็ทำไมยังเฉยๆอยู่เลย และคนอย่างนี้แหละที่ไม่รู้ดีรู้ชั่ว จนถึงขั้นไปตั้งองค์กรนักเรียนเลวขึ้นมา และเป็นเหตุให้เอาอย่างตามกันไป จนทุกวันนี้ที่มีคนกล้าทำความเลวกันมากขึ้น นับแต่ในรัฐสภาไทย ที่มีแต่ด่ากันอย่างดุเดือดทุกครั้งที่มีการประชุมสภา แบบที่ว่าไม่ละอายต่อการกระทำเลวนั่นเอง แบบนี้ที่หน้าด้านไร้ยางอายและกล้าทำความเลวแม้ถึงขั้นฆ่าบิดา มารดา พี่น้องตนเองได้ นั้นก็ทวีมากขึ้น อันเนื่องจากคนเลว คนนี้ได้คิดสร้างวัฒนธรรมเลวขึ้นมานั้นเอง เพราะคนได้ความคิดจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั้นเอง
*******************************************************

10.
ในส่วนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่สืบทอดความเลวต่อมาก็เลวในแง่ที่มีการณีปลุกระดมเด็กนักเรียนมาร่วมกิจกรรมการเมืองนั่นเองแบบรวมกลุ่มเดินขบวนยกป้าย สาธารณรัฐไทย แห่มาตามถนนราชดำเนินปีนั้น และการชุมนุมเยาวชนสามนิ้ว รวมทั้งขบวนการเยาวชนธรรมศาสตร์ไม่ทน ที่ชุมนุม ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 10 ส.ค. 2563 นั้นที่ประกาศล้มล้างสถาบัน มีอาจารย์ ศาสตราจารย์กว่า 100 คนสนับสนุน ซึ่งความหมายก็คือ ทำไปเพราะความไม่เข้าใจการเมือง และประชาธิปไตย นั้นเองก็เหมือนพาคนทั้งหลายไปลงเหว อันตรายที่เห็นชัดเจนก็คือ แม้พรรคการเมืองอื่นทุกพรรคการเมืองเลย เขาก็ไม่เห็นดีด้วยกับการที่พรรคก้าวไกล ยืนยันจะต้องแก้ ม.112 และแนวทางปฏิวัติไทยเป็นสาธารณรัฐไทยให้ได้ ที่บอกไปถึงว่าศัพท์ทางพุทธศาสนาโดยตรงว่า นี่แหละปัญหา อวิชชา ......ความไม่รู้ ...ยังไม่เข้าใจไม่รู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว....แบบมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข.... แต่พรรคนี้กล่าวว่าเป็นเผด็จการตามที่เขากล่าวร้ายรัฐบาลว่าสืบทอดเผด็จการ คสช.มาตลอดต้องล้มล้างไป นั้นแหละบอกถึงความไม่เข้าใจประชาธิปไตยของคนระดับหัวหน้าพรรคการเมืองนั่นเองซึ่งหากนโยบายของเขาได้รับการปฏิบัติไปจริง ๆ ไม่ว่าเพราะเหตุใดก็ตามโดยสามารถปฏิรูปเปลี่ยนไทยเป็นสาธารณรัฐไทยได้ มีประธานาธิบดีแทนองค์พระมหากษํตริย์แล้ว นั้นจะหมายถึง ประเทศนี้แตกกันทันที่ และไม่มีการที่จะสมานสามัคคีได้เหมือนเดิมอีกเลย อันเป็นผลมาจากอะไร ?
มาจากความโง่เง่าเต่าตุ่นของพรรคการเมือง หน.พรรคการเมือง นั่นเอง ที่ไม่เข้าใจว่า ไทยเป็นประชาธิปไตยแล้ว อย่างไรไม่เข้าใจ ไปคิดว่าต้องมีต้องเป็น สาธารณรัฐไทย เท่านั้น จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ นั้นแหละต้นเหตุของความวอดวายเกิดจากความเขลาของนักการเมือง พรรคก้าวไกลโดยตรงเลย เพราะแม้วันนี้ พรรคก้าวไกลโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ยังคงยืนยันนโยบาย แก้ ม. 112 ปฏิวัติไทยเป็นสาธารณรัฐ ล้มสถาบันกษัตริย์ อยู่ และซึ่งมีประชาชนไทยจำพวกหนึ่งที่โง่ตามไป ว่าไทยต้องเป็นสาธารณรัฐ จึงจะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
**************************************************
11.
และนั่นแหละนำไปลงหน้าผาชัดๆเลย แล้ววันนี้ ที่เห็นคือ นิตยสาร TIME ไปยกย่องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เหมือนเคยยกย่องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจมาปีก่อน ว่าเป็น 1 ใน 100 บุคคลแห่งปีผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต ที่มีพลังอำนาจพาสังคมเคลื่อนไปตามทิศทางของตนได้ ....นั้นแหละความวินิจฉัยอย่างนี้ของไทม์ มันบอกว่า นั้นเกิดจากการเป็นศํตรูต่อประเทศไทยโดยตรง นั่นเอง เขาก็ย่อมรู้ มาตั้งแต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่คิดล้มล้างสถาบัน ตั้งสาธารณรัฐไทยขึ้น (ก็ยกนายธนาธร เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต แบบนายพิธานี้มาก่อนแล้ว) เพราะนายพิธา ยืนยัน แก้ม.112 และต้องแก้รัฐธรรมนูญ ปฏิวัติสถาบันไทย เป็น สาธารณรัฐ ซึ่ง ไทม์ ระดับสื่อนี้ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว รู้ดีมาตั้งแต่ยกนายธนาธร ขึ้นปีก่อน ๆ นู้น นี่แหละ จึงบอกได้ว่า หนังสือพิมพ์ TIME นี้ มีความไม่เป็นมิตรต่อประเทศไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นั่นเอง ส่งเสริมให้เกิดขบวนการร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยยิ่งขึ้น เป้าหมายของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ จึงน่ามาจากเหตุความโง่ บอกถึงความโง่ บิดเบือนหลักการประชาธิปไตยไทย นั่นเอง เพราะประการต้นเลย บอกถึงที่ไทม์ไม่เข้าใจการเมืองของสากลโลกว่าเป็นไปตามคุณภาพของประชาชน แต่การเมืองแบบทื่ประชาชนเป็นทาสนั้น ก็สามารถมีได้ เมื่อนายทาสทรงคุณธรรม ระบอบใดก็ตาม เมื่อมีคุณธรรมนำทางการเมืองไปก็สามารถสร้างความสงบสุขแด่ประชาชนได้ เป็นมหาอำนาจ อย่างจีนคอมมิวนิสต์ และ รัสเซีย นั้นเองเลย หากประชาชนมีความเสรีภาพพึ่งตนเองได้ไม่ตกเป็นทาสทางเศรษฐกิจของใคร มีพลังสร้างตนเองไปตามความเก่งกล้าสามารถของตนล้วน ๆ แบบชนอเมริกันทั้ง 330 ล้านคนนั้น นั่นแหละ คนทั้ง 330 ล้านคน พากันสร้างประเทศเขา ก็จะเข้าระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยอัตโนมัติ เป็นมหาอำนาจยั่งยืนนานได้ และซึ่งประชาชนนั้นก็ต่างทรงคุณธรรมประชาธิปไตยอย่างเต็มที่นั้นเอง ซึ่งคนประชาธิปไตยจะต้องรู้ทัน ให้ได้ ก็ยังไม่สายไป แต่ดูเหมือนว่า ทัศนะของหนังสือพิมพ์ ไทม์นี้ อาจจะคล้ายคลึงกันหรือไม่กับประชาชน ประเทศ ประชาธิปไตยทั้งหลาย ที่ยังไม่เข้าใจเรื่อง การเมืองอย่างรอบด้าน จึงไปส่งเสริมการเมืองแบบผิด ๆ แก่ประเทศที่เขายังไม่เหมาะที่จะเป็นประชาธิปไตยอันทำลายประเทศเขาเหล่านั้นพังพินาศไปหมด อย่างสาธารณรัฐ 4 ประเทศนั้นเลย
*******************************************************
12.
แม้การเลือกตั้งซ่อมในจ.ระยองเขต 3 พรรคก้าวไกลจะชนะอีกครั้ง แต่น่าจะเห็น น่าจะได้รู้กันเป็นครั้งสุดท้าย หากปล่อยไปก็จะสร้างไทยเป็น สาธารณรัฐไทย ก็จะเกิดการแตกแยกของประชาชนไทยทั้งแผ่นดินขึ้นมาทันที หากปล่อยไปก็จะส่งผลให้ไม่ต่างจากสาธารณรัฐรวันด้า มีแต่ฆ่ากันวันหนึ่งๆ สาธารณรัฐซีเรีย มีมหาอำนาจหลายประเทศเข้ามาแบ่งแยกดินแดนหาประโยชน์เต็มไปหมด สาธารณรัฐซูดาน ที่อ้างตนว่าเป็นประชาธิปไตยแต่แบบเขมรเลยคือ มีพรรคการเมืองพรรคเดียว ที่สืบสกุลมานาน ลงเลือกตั้ง โดยประชาชนออกมาเลือกตั้งพรรคของตนพรรคเดียว ก็เรียกประเทศตนว่าประชาธิปไตย(ใครคิดอย่างนี้นั้นแหละคนโง่เง่าเต่าตุ่นในประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นเผด็จการจริง ๆ แต่เขาเรียกว่าประชาธิปปไตย ตั้งชื่อประเทศตาม ๆ กันว่าสาธารณรัฐ...ประชาธิปไตย.....อย่าง สาธารณรัฐซูดาน เพียงเขามองว่ามีประชาชนออกมาเลือกตั้งเท่านั้นก็เรียกว่าประชาธิปไตยก็อ้างว่าเขาเป็นประชาธิปไตยแล้ว รู้เท่านั้นเอง เหมือนพรรคก้าวไกลเรานี่เองที่เรียกฝ่ายรัฐบาลว่าเผด็จการ สืบเชื้อคสช.มา ก็นึกว่าตนรู้แล้วไปหลอกประชาชนให้รู้ไปผิดหมดทั้งประเทศ มันก็อันตราย ก็เพราะโง่ ขนาดเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ยังว่าไม่เป็นประชาธิปไตยไปอีก ไปหลอกลวงประชาชนให้โง่ตามไปทั่วประเทศ) แบบสาธารณรัฐอื่น ก็สาธารณรัฐซีเรีย สาธารณรัฐซูดาน สาธารณรัฐลิเบีย สาธารณรัฐรวันด้า สาธารณรัฐเฮติ คือ ไทม์ ไม่รู้ว่าการเมืองทุกระบอบมีความเหมาะสมกับประชาชนแต่ละเผ่าพันธุ์ แต่ละชาติ ศาสนา ตามระดับความสามารถของการพึ่งพาตนเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเองได้
*******************************************************
13.
สำหรับประชาธิปไตยนั้น เป็นระบอบการเมืองที่สูงส่งเหมือนเครื่องมือการเมืองที่สำคัญมีเทกนิคล้ำเลิศ แต่หากเอาไปให้คนโง่เง่าเต่าตุ้นใช้ก็ใช้ไม่เป็นอย่างที่คนไทยพยายามใช้มานี้เอง คนที่มีคุณภาพไม่พอที่จะใช้ของดีก็ใช้ไปไม่ได้ยังจะก่อเกิดอันตรายเสียอีกแบบประเทศไทยนี่เอง ที่เริ่มปี2475นั้น คิดว่ามีคนๆเดียวรู้ประชาธิปไตยคือ ดร.ปรีดี พนมยงค์คนเดียว พอพูดให้คนรอบ ๆฟังก็พยักหน้าตามและพอไปปฏิวัติจะเอาของดีมาใช้ แต่กลับมีคนใช้เป็นอยู่คนเดียวคือ ดร.ปรีดี พนมยงค์ มันก็เกิดเครื่องเดินไปผิด ๆ ถูก ๆ ตลอด มาถึงวันนี้ ก็เป็นอย่างเดียวกัน ร้ายไปกว่าอีก เพราะคนที่รู้เรื่องประชาธิปไตยไม่มีสักคนต้องมีคนอย่าง ดร.ปรีดี พนมยงค์มาเกิดสัก100-1,000 คนยังจะพอไปได้...ก็จะเป็นเหมือน เอาเครื่องบิน เอฟ 105 ไปให้คนขี่ควายขับ มันก็นอกจากไม่เป็นประโยชน์อะไร กลับกลายเป็นเครื่องมือประหารไปเสียอีก แบบประเทศไทย และ ประเทศสาธารณรัฐ อดีตเมืองขึ้น อาณานิคมเขาทั้งสิ้นเลยวันนี้ ..ที่ล้วนเกิดปัญหาร้ายแรงมาจากได้ของดีมาแล้ใช้ไม่เป็นทั้งสิ้น ..ไทยเรานั้น มีความหวังแต่เพียงว่า ให้มีความเข้าใจประชาธิปไตยจริง ๆ ขึ้นมา ในหมู่นักการเมือง พรรคการเมือง และมีนักวิชาการ ครูบาอาจารย์ มาสอนให้ถูกต้องไปเรื่อย ก็ยังมีความหวัง
*******************************************************
14.
หากไม่เช่นนั้น พอประชาธิปไตยทำผิดพลาดไปเพราะความโง่ ก็จะมีรัฐประหารเอาระบอบเผด็จการมาสลับ นำไปปรับปรุงกันใหม่ เป็นรอบๆ ไปเช่นนี้ก็นับว่าเป็น วงวัฏฐจักรที่ช่วยชาติไม่ให้ล่มจมได้ แล้วค่อยพัฒนาความรู้ประชาธิปไตยไปให้ดีให้ได้ ให้ประชาชนคนไทยพ้นทาสเงินไปให้ได้เสียก่อน ให้ตั้งแต่ระดับนักเรียนในโรงเรียนมหาวิทยาลัย ในสถาบันการเมืองเอง นั้นเองค่อยเรียนรู้จริง ๆ ขึ้นมา และนั่นหมายถึงรู้จริยธรรมประชาธิปไตยให้ถูกต้องและต้องนำไปปฏิบัติ ง่าย ๆ ตั้งแต่เข้าใจหลักการพุทธศาสนาให้ถูกต้องมาตั้ง แต่ เรื่องชั้นวรรณะ ในศาสนาพุทธ ศาสนาประชาธิปไตยไม่มีชั้นวรรณะเป็นอันขาด จึงเป็นเสรีชน ทรงคุณธรรม 3 หรือ Liberty – Freedom , Equality, Fraternity ได้ ซึ่งตรงนี้ที่ผิดแต่แรกก็คือ เสรีภาพ แบบโลภะก็คือ คิดว่าตนคนเดียวมีเสรีภาพคนอื่นไม่มี นั้นแหละอันตราย แบบที่ พรรคก้าวไกลพาไปชุมนุมหน้ากรม ตร.แห่งชาติ แล้วมีพวกม็อบหน้าโง่คิดเรื่องเสรีภาพนี้ว่ากูอยากจะเยี่ยวใส่หัวตำรวจ ก็ปีนขึ้นไปบนหลังคารถตู้ ทำการเยี่ยวลงมาใสหัวของตำรวจรักษาการณ์ ตั้งแต่หยดแรก ไปจนหยดสุดท้าย โดยทางตำรวจก็ยืนนิ่ง ไม่กระดุกกระดิกเลย(ตามภาพคลิบ) จนเยี่ยวเสร็จก็ลงจากรถไป
*******************************************************
15
เสรีภาพแบบนี้นั่นแหละที่พรรคอนาคตใหม่-พรรคก้าวไกลสอนคนฝ่ายตนให้โง่ตามมาตลอดตั้งแต่เข้ามาสู่ความเป็นนักการเมือง พรรคการเมือง แม้ในสภา-รัฐสภา อย่างนาย รังสิมันต์ โรม ซึ่งเป็นเพราะโง่ คิดผิด คิดว่าตนมีเสรีภาพ ต้องใช้หลักการของประชาธิปไตย ทำได้ตามใจตน จึงตั้งใจ ด่าทั้ง สส. สว.ในรัฐสภาคราวนั้น วันนั้น เขาก็คิดว่าทำไปไม่ผิดอะไร เพราะประชาธิปไตยให้เสรีภาพที่จะด่าใครก็ได้ นั่นคือ เขาด่า สส. สว.ที่ไปประชุมวันนั้นว่า พวกแกมาประชุมวันนี้รู้ตัวไหมว่าแท้จริงเป็นเพียงเป็นลิ่วล้อรัฐบาลโจร พวกขัดเกือกทหารเก่ง ....ก็คนขนาดนี้ยังไม่เข้าใจว่าเสรีภาพคืออะไร ทรงคุณธรรมอะไร นี่แหละนำภัยมาสู่ตนเองแบบที่ตนเองก็ไม่รู้ เสรีภาพนั้นไม่เหมายความว่าเรามีคนเดียว คนอื่นเขาก็มีเสรีภาพด้วย มันจึงลึกลงไปในความหมายของประชาธิปไตยว่า เราต้องเคารพในเสรีภาพของคนอื่นด้วย และรัฐบาลประชาธิปไตยนั้นเอง มีหน้าที่โดยตรงที่จะให้การปกป้องคุ้มครองเสรีภาพของประชาชนอย่างเท่าเทียมกันหมดจึงเป็นประชาธิปไตยที่ดี ล้ำเลิศ ก็นี่แหละเมื่อเข้าใจผิดก็ไปเผยแพร่ความผิดไปจนไปตั้งองค์กรนักเรียนเลว ขึ้นมาได้ และที่แปลกก็คือ คนไทยพุทธ เป็นเพียงพุทธสำมะโนครัวจริง ๆ คือทำไมคนพุทธจึงกลับไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่เลวเช่นนี้แบบว่าเลือกสส.มาท่วมท้นรัฐสภาเลย เพราะอะไร?
ก็นี่แหละคุณภาพที่ไม่พอที่จะเอาประชาธิปไตยมาใช่จึงน่าจะมองไปดู ระบอบคอมมิวนิสต์ ดูบ้างว่าน่าจะเหมาะยิ่งกว่าคนจีนเสียอีก
*******************************************************
16.
ที่มีตัวอย่างเร็ว ๆ นี้ก็คือพรรคก้าวไกล จ.ระยองเขต 3 ทำไมเลือกเอาคนเคยติดคุก เป็นคนเลวมาแล้ว เข้าไปเป็นสส.พรรคของตนและสส.ที่บกพร่องอีกหลายคนเลย บอกถึงเป็นคนไม่สมบูรณ์ มีคดีต่างๆ หรือเรื่องราวที่ไม่สมควรแก่ฐานะ แม้นายรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่วันนี้ นายปดิพัทธ ...ก็ยังไปหาเงินโฆษณาเหล้า ไวน์ อะไรที่โดนโจมตีอยู่วันนี้เอง ที่ไม่สมกับตำแหน่งสูงสุดของประชาชนเลย(อันแสดงว่า ประชาชนเลือกคนในพรรคนี้แบบ ไม่ตั้งอยู่บนข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงเลย) ...แต่ทำไมคนระยอง จึงยังคงเลือกคนของพรรคโง่ ๆ เข้ามาเหมือนเดิมอีก นั้นก็เพราะไม่เข้าใจงานของประเทศชาตินั้นเป็นงานสำคัญ ไม่ใช่งานเล่น ๆ เหมือนโรงละคร ยี่เก เล็กๆน้อยๆ แต่นั่นแหละซึ่งประชาชนจะต้องเข้าใจว่าเป็นงานของประชาชน ที่ประชาชนจะต้องมีความเข้าใจเลือกเอาคนดี ๆ เท่านั้น ๆ ๆ ๆ ไปปกครองประเทศ.....ทำไมเราจะต้องมาพูดกันเรื่องนี้ ก็เรื่องความโง่เขลาไม่เข้าใจประชาธิปไตย นั่นเอง ซึ่งอันนี้แหละจุดบกพร่องของประเทศด้อยพัฒนา ประชาชนด้อยพัฒนาทั้งหลาย ที่ไทย แผ่นดินด้อยพัฒนานี้ ก็โดยวัดจากประชาธิปไตยแล้ว ไม่ต่างจากประเทศด้อยพัฒนาที่รัฐไม่เป็นรัฐ ประชาชนไม่เป็นประชาชน มีแต่ความวอดวายพินาศอยู่ทุกวันนี้แบบมองไม่เห็นปลายอุโมงค์เลย นั่นก็คือ ประเทศซีเรีย ซูดาน รวันด้า เฮติ เลย
และไทย แม้หัวหน้าพรรคการเมืองเช่นพรรคก้าวไกล อนาคตใหม่ ที่โง่ ไม่เข้าใจประชาธิปไตย รวมไปถึงพรรคใหม่เลย ที่เพิ่งตั้งมาใหม่ ๆวันนี้ คือพรรคอนาคตไกล นั้นเอง
*******************************************************
17.
ที่หากไม่เข้าใจประชาธิปไตย นำประเทศไปผิดทาง ก็จะทำความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติ นั้นเอง ซึ่งวันนี้ ก็ดูจากพรรคฝ่ายค้านนั่นเอง ฝ่ายค้านยุครัฐบาลประยุทธ จันทร์โอชา ดูพรรคเพื่อไทย ที่เอาคนต่างประเทศ คนมอนเตเนโกร มาเป็นเจ้าของพรรค เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง นายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นเพียงหัวหน้าพรรคตัวปลอม เป็นคนรับใช้นายทักษิณ สั่งให้ทำอะไร ก็ทำแบบพวกมุสลิม พระเจ้าสั่ง ไม่ต้องถาม ทำไม ทำอย่างเดียว ถ้าถามมีความผิดฐานไม่เชื่อพระเจ้า ทำหมด (ดูคราวที่ต้อนรับนางอุ๊งอิ้งมาเป็น หัวหน้าใหญ่ เรียกว่า หัวหน้าแม่บ้านพรรคนั้น วันต้อนรับ ถึงกับทำความเคารพต้อนรับหัวหน้าใหม่ อย่างสุดบูชาเลยทีเดียว) ก็เป็นเพราะอิทธิพลของทักษิณ ชินวัตร คนนี้ ที่สั่งความสั่งการพรรคเพื่อไทยมาตลอด จนวันนี้ พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก็ได้กลับเข้ามาประเทศไทย หลังร่อนเร่พเนจรมา 17 ปี ก็เป็นนักโทษ พิเศษ โทษติดคุก10 ปีลดทันทีเหลือ8 ปี แล้วลดอีกทันทีอีก เหลือ 1 ปี (ซึ่งตรงนี้ เป็นเรื่องอำนาจตุลาการ ตามระบอบประชาธิปไตย อำนาจนี้แหละที่ยังสับสน ไม่รู้อะไรเป็นอะไร อยู่ ตามหลักการแล้วอำนาจทั้ง 3 คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการเป็นของประชาชนเต็ม 100% อันนี้แหละ กรณีทักษิณ ชินวัตร มันบอกว่าตุลาการ ไม่ใช่อำนาจของประชาชนเต็ม 100 %....จึงต้องนำไปสู่การแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น โดยแก้รัฐธรรมนูญ ให้อำนาจตุลาการเป็นของประชาชนเต็ม 100 % …(คือระบอบประชาธิปไตย การเมืองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนนั้น อำนาจสูงสุดซึ่งแยกเป็น 3 อำนาจสากล คือ นิติบัญญัต บริหาร ตุลาการ ต้องเป็นของประชาชน จบลงที่ประชาชน....ที่ รัฐสภา ......ไม่ใช่ศาลพิพากษาประหารชีวิตแล้ว ไปถึงกรมราชฑัณฑ์ ไปทำอย่างตนเป็นศาลเหนือศาลฎีกาไปอีก ลดโทษประหารให้ได้อีก ลดโทษจำคุก 42 ปีเหลือ10 ปีไปอีก โทษ 8 ปี เหลือ 1 ปี ได้อย่างไร? ไม่ถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตย อำนาจเป็นของประชาชน ซึ่งประชาชนทั้งแผ่นดินต้องรู้ และเข้าใจตรงกันเช่นนี้ จึงเมื่อมันยังไม่เป็นอำนาจของประชาชนเช่นนี้ ก็ ไปแก้ รธน. ให้เป็นเช่นนี้ ไม่ต้องเถียงกันอีกอย่างไรล่ะ) และดูกรณีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนักโทษ แต่ไม่เกรียนผมเหมือนนักโทษ ไม่สวมชุดนักโทษ เหมือนนักโทษคนอื่น ชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล เสื้อสีดำ..... นี่คือประชาธิปไตยหรือ ? และจริงอยู่ ป่วยไข้อาการหนัก แต่ทำไมไม่เกรียนผม ไม่สวมชุดนักโทษ ไปรพ.ตำรวจและตั้งแต่ลงสนามบิน ทำไมไม่เอาโซ่สวมข้อมือล่ะ ทำไมไม่ทำให้ถูกหลักการประชาธิปไตยล่ะ ? นี่แหละ ประชาธิปไตยไทย จึงเดินไปไม่ได้ เพราะทาสเงินเขา ตกอยู่ใต้อำนาจเงินเป็นพระเจ้า เพราะแบบนี้เรียกว่า ประชาธิปไตยจอมปลอมไงล่ะเรียกให้ฟังดีกว่า ประชาธิปไตยโง่เง่าเต่าตุ่น .......แบบ 4 ประเทศที่ยกมาให้ดูบ่อย ๆ นั้นแหละ
*******************************************************
18.
เราปฏิบัติประชาธิปไตยแบบไม่รู้ประชาธิปไตยเช่นนี้มาตลอดนั้นเอง จึงเป็นประชาธิปไตยไม่ได้
มีคนรู้ประชาธิปไตยคนเดียว คือดร.ปรีดี พนมยงค์ มาถึงวันนี้ ขณะนี้ ไม่มีใครรู้เลย
และแปลก ประชาธิปไตย มาจากหลักการพระพุทธศาสนาทั้งหมดเลย แบบชนอเมริกันเขา นั้น เป็นประชาธิปไตยนั้น มันบอกตรง ๆ เลยว่า ชนอเมริกันทั้ง 50 มลรัฐ 330 ล้านคนนั้น เป็นชาวพุทธทั้งสิ้น ที่ปฏิบัติหลักพุทธศาสนาประชาธิปไตยมาแต่ตั้งประเทศเลย แต่คนพุทธไทยนั้นเป็นเพียงพุทธที่โง่เง่า (ก็ท่านพุทธทาส ท่านปัญญานันทะท่านบอกแต่แรกแล้วว่า ไทยเป็นพุทธตามสำมะโนครัว เป็นพุทธแบบหมาหางด้วน เท่านั้นจริงๆเป็นพุทธโง่ ๆอย่างที่ว่านี้เอง หากฉลาด ก็จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ เช่นแม้เพียงเข้าใจคำว่า Liberty เสรีภาพ ไม่เป็นทาสนี้ ฝรั่งเอามาจากพุทธวัจนะว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนนั่นเอง และหลักมรคผลนิพพานสูงสุดคืออรหันตภาวะ อันหมายถึง เสรีภาพจากกิเลสตัณหา อุปาทาน เป็นเสรีชนแท้ แต่คนไทยพุทธไม่รู้ จึงเป็นประชาธิปไตยแบบคนขี้ขอ ขอทานไม่รู้จักทำมาหากินเอง คอยแต่จะเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยโดยเข้าใจว่ารัฐบาลประชาธิปไตยเป็นผู้รับใช้ประชาชน ต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกอย่าง แม้ขี้รดที่นอน ก็เรียกรัฐบาลมาช่วย จึงเอาแต่ขอ ให้ใช้หนี้แทน ทั้ง ๆ ที่ตนเองไปก่อหนี้เขาเอง....แบบเอารัดเอาเปรียบคนอื่นจริง ๆ ) ขอให้หาที่ดินทำกินให้...หาบ้านให้อยู่ ให้รักษาโรคฟรี ขอให้ขึ้นราคาของให้แบบโง่ไม่รู้หลักเศรษฐศาสตร์เลย .ไม่คิดว่ารัฐบาลไหนเขาจะหาอไรให้หมด รู้จักหากินเองบ้างจึงเรียกว่าเสรีชน จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ ....ซึ่งไปดูอเมริกันเขาๆเข้าใจพุทธธรรมกว่าคนพุทธไทยจริงๆ หยิ่งในศักดิ์ศรีตนเองบ้าง แบบนั้น จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้… หากไม่เช่นนั้น มันก็จะมีตัวแก้ นำไปสู่ระบอบใหม่ เป็นเผด็จการ เกณฑ์พวกนี้ไปทำนารวม แบบเขมรยุคพอลพต ใครขี้เกียจ หรือเพียงหยุดๆทำ ๆ ก็ยิงทิ้งเสียทันทีเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ไม่รักษา ให้เอาไปรวมกันไว้ในห้องเดียวกันพอครบจำนวนก็เอารถบรรทุกใหญ่ทหารมารับเอาไปทิ้งลงหลุม กลบดินฝัง เป็นหลุมๆ ไป ที่เห็นหัวกะโหลกนับหมื่น ในห้องทัศนาจร ตอนนั้นตายไปร่วม 2 ล้านศพ
*******************************************************
19.
และวันนี้ การเมืองฝ่ายค้าน ก็มีข่าว หน.พรรค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากตน.หน.พรรคไปแล้ว ก็โดยไม่เข้าใจประชาธิปไตยมาตรฐาน ก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี มาตรฐานของระบอบประชาธิปไตย ก็เอาหัวหน้าพรรคการเมืองอย่างเดียวไปเป็นแคนดิเดทเพราะจะได้คนที่ประชาชนคุ้นเคย รู้จักดีไปหมด ไม่มีลับลมคมใน แบบนายเศรษฐา ทวีสิน มาจากไหนก็ไม่รู้ มาหาสียง 150 วันหลอกประชาชนไปต่างๆ ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงต้องให้ผ่าน ความเป็นหน.พรรคการเมืองเสมอไปจึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ....ก็แก้ รธน.ไปตามนี้ อย่างนายพิธานี้ไม่เข้าใจประชาธิปไตยตัวเองถึงกับประกาศว่า บอร์น ทู บี นรม. ก็ต้องเข้าใจกฎประชาธิปไตยตรงนี้ ต้องเป็น หน.พรรคต่อไป จึงจะถูกตามหลักประชาธิปไตยไม่ใช่ไปคิดหลักการหลอกลวงประชาชนให้ลึกซึ้งไปนู้น คนจะต้องรู้ว่า มาจากไหน หลักประชาธิปไตย ต้องสร้างความเชื่อถือ การเสนอ อะไรในสภา ต้องเป็นผลงานการวิจัยทั้งสิ้น สร้างสัจจะวาจา ไม่ใช่ไปโกหกพกลมเขา แบบนายชัชชาติ นายกกทม.นั้น หาเสียงว่าพอได้เป็นนายก กทม.แล้ว จะไม่ให้มีน้ำท่วมเลย พอได้เป็นเท่านั้น น้ำก็ท่วม มาทดสอบทันทีหลายปีต่อมาก็ยังคงท่วมอีก วันนี้ก็ท่วม แล้วทำไมไม่นึกละอายตนเอง ลาออกไปเสีย แบบมี หิริ โอตตัปปะ นั้นเอง และ เห็นไหม นักการเมือง อเมริกา เขามีธรรมะตรงนี้ดีจริงๆ ยิ่งกว่าคนพุทธไทยอีก
*******************************************************
20.
และวันนี้ เวลาเขาแถลงนโยบาย ทำไมเราไม่รู้ไม่เข้าใจว่าที่เขาจะทำนั้นทำนี้ นั้น มันไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองนโยบายมาก่อนเลย มันเป็นเพียงเอาข้อสมมติฐานมาบริหารประเทศเท่านั้นเอง หากพลาดก็อันตราย ร้ายแรงเกิดขึ้นได้ จึงมีเพียงความหวังไปแบบหวังการพะนันนั่นเอง พอถูกก็เฮกันลั่น ไม่มีเหตุผลเลย เราจะบริหารประเทศไปแบบไร้เหตุผลได้อย่างไร หากเอาบ้านเมืองไปเล่นการพะนัน ก็มีประวัติศาสตร์มาแล้วเสียบ้านเสียเมืองเพราะการพะนัน ก็เคยนมีมาในยุคเผด็จการมาแล้ว
คือพูดง่ายๆก็คือ
นายเศรษฐา ทวีสิน กำลังเอาประเทศไทยทั้งประเทศพร้อมประชาชนไทยที่ไม่ค่อยมีมันสมองการเมือง มาทดลองใช้อยู่...แบบสมมติฐาน อย่างมีความเบิกบานในอารมณ์อย่างยิ่ง ก็ดูตั้งแต่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีมามีแต่หัวเราะ ที่ว่า ตั้งใจทำงานไม่หยุด ไม่เหน็ดเหนื่อย นั้นแหละ หัวเราะไปไม่หยุดไม่เหน็ดเหนื่อย แท้จริงคือ เบิกบานในการพะนันนั้นเอง เอาประเทศชาติไปเล่นพะนัน แบบ สมมติฐาน อย่างล่าสุด ที่เห็นชัด ๆ เรื่อง สมมติฐานนี้ ก็ที่ประกาศปุ๊บปั๊บ จะจ่ายเงินเดือนข้าราชการเดือนละ2ครั้ง
หากสมมุติฐานนั้น เกิดถูกต้องขึ้นมา ก็เกิดความดีขึ้นมาอย่างมโหฬาร แบบถูกรางวัลที่ 1 นั่นเอง
แต่หากสมมติฐานนั้นเกิดผิดพลาดไป นั้นก็หมายถึงบรรลัย วอดวายไปทั้งชาติ ยากจนกันไปทั้งชาติ
รวมทั้ง เอาเงินมาแจกประชาชน10,000 บาทดิจิตอล นี่เอง มีความถูกต้องสักกี่% ในการนำสมมติฐานนั้นมาใช้
มันแปลว่า ทำไมคนไทยจะต้องมีการเสี่ยงกันแบบนี้นั่นเอง ?
เพราะ เราจะต้องไม่มีการเสี่ยงใดใดเลย เสี่ยงต่อความหายนะของไทยทั้งชาติ แบบไม่จำเป็นเลย
และเรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขาก็ประกาศไปแล้วแบบทำไปโดยสมมติฐาน
*******************************************************
21.
ทำไมคนไทยประเทศไทย จึงขาดความสุขุมรอบคอบ ปล่อยให้มีการบริหารประเทศเป็นไปอย่างมีความเสี่ยงอันยิ่งใหญ่ไปได้เช่นนี้ ก็เหมือนเล่นการพะนันนั่นเอง ทำไมทำอย่างนี้ ?
ก็ ต้องมาเรียนรู้ หน้าที่ของประชาชน ถ้าประชาชนโง่ ๆ อยู่ เช่นเขมร พม่า .....ลาว รวม 4 สาธารณรัฐ ที่อ้างมา เป็นตัวอย่าง ประชาธิปไตยโง่เง่ามาตลอดนั้นด้วย มันก็จะเป็นเรื่อง สมมติฐานไปเรื่อยๆ (ก็ดู พอลาวปฏิวัติ เอาเจ้ามหาชีวิต ศรีสว่างวัฒนา กับ พระนางคำผุย ไปสัมมนา เขาก็เกณฑ์สตรีลาวไปชายแดนเวียดนาม ...เป็นเรื่องไม่ลับอะไร...เอาไปเข้าค่ายทหารเวียดนาม เอาไปผสมพันธ์ใหม่ พวกคอมมิวนิสต์เวียดนามมันว่าลาวเป็นคนขี้เกียจและทึมทึบ ขนาดมีศัตรูยกมา ยังเข้าวัดฟังธรรมเฉยกันเต็มวัด มีพระเจ้าแผ่นดินไปทอดกฐินพอดี เขาก็ไปจับเอาง่าย ๆ อาไปสัมมนา แล้วเกณฑ์ผู้หญิงลาวไปนับพัน ๆ คน ไปผสมพันธุ์ ลาว-เวียดนาม ให้เป็นลาวพันธ์ใหม่เขาทำแบบงานวิจัย มีแผนงานเป็นระยะ ๆ เลย น่าติดตามดูว่ามีลาวพันธ์ใหม่ในลาวและปฏิบัติหน้าที่อย่างไร แก่ประเทศชาติ....ก็แบบลาวนี่แหละยากจะเป็นประชาธิปไตยเป็นคอมมิวนิสต์ ดีแล้ว)
*******************************************************
22.
อย่างพรรคก้าวไกล ตอนหาเสียงพรรคก้าวไกล ของคณะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ธนาธร ปิยะบุตร นางชลธิชา เสนอสมมติฐานไป 300 ข้อ(อะไรที่ประชาชนชอบเอามาเขียนใส่หมด) วิเคราะห์ภายหลังแล้ว ทำไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว ก็มันจะทำได้อย่างไร นอกจากการหลอกลวงประชาชนไทยทั้งแผ่นดิน ...ก็นั่นแหละทำมาแล้ว..ทำได้อย่างสำเร็จเสียอย่างมโหฬาร ซึ่งมันก็บอกอีกว่า เพราะทำกับคนโง่เง่าเต่าตุ่น นั่นเอง เช่นเดียวกับ รัฐบาลเศรษฐา ขณะนี้ มันก็เป็นเรื่องสมมติฐาน ไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน นั่นคือ เอาประเทศไทยทั้งประเทศ และและประชาชน 71 ล้านคน มาทดลองเล่นเช่นนี้ได้...โดยเอาความโลภความหลง ความโง่เขลาเบาปัญญา มาเป็นเครื่องมือ หลอกคนโง่ เอาเงินมาหลอกคนโง่ ยากจน .ก็เพราะเขาไม่รู้นั่นเอง อวิชชาจะทำลายชาติจริงๆ และทำลายประชาธิปไตยไปอีก แม้นโยบายที่เขารับรองไปว่าจะทำได้เริ่มปีใหม่นี้ คือแจกเงิน สัญญาซื้อเสียง คนละ 10,000 บาท นั้น ก็เป็นการทดลองกับประเทศไทย ของคน ๆ นี้ เท่านั้นเอง มันเสี่ยง อย่างไม่จำเป็นเลย
*******************************************************
.jpg)
23.
ซึ่งประชาชนจะต้องเข้าใจไม่ยอมรับนโยบายแบบนี้อีก ไม่ให้มีการหาเสียงแบบประชานิยม ที่แท้จริงคือการซื้อเสียงนั่นเอง อีกต่อไปโดยแก้ไขรัฐธรรมนูญเสีย ไม่เลือกคนเลือกพรรคแบบนี้อีกพรรคการเมืองสมมตติฐาน นักการเมืองสมมติฐานนั่นเอง เพราะประชาธิปไตย นักการเมือง พรรคการเมือง ต้องกล่าวแต่เรื่องจริง สัจจริง ที่จะต้องทำได้จริง ๆ ที่เมื่อเป็นงานของรัฐ ก็ต้องผ่านงานวิจัยมาแล้วทุกเรื่องราว ทุกนโยบาย ประชาชนจึงจะต้องรู้และเข้าใจ มองออกว่ามีแต่โกหก มีแต่ครึกครื้นรื่นเริง หาความจริงไม่ได้เลยจะทำอะไรที่มีเหตุมีผลหรือไม่ หากไม่มีเช่นนี้ก็ตัดไปเลยทันที ไปเลือกคนบ้านเราที่เขาสัตย์ซื่อ มีความเป็นสถาบัน เช่นพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความซื่อตรง รู้เท่าทันแต่ซื่อตรงเก่าแก่มาเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีฐานะสถาบันการเมืองอย่างแท้จริง วันนี้ รวมทั้งพรรคใหม่ไทยภักดี ของคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม....เป็นต้น นั้นแหละปลอดภัย และย่อมหวังได้ว่าจะทำประชาธิปไตยไทยเจริญไปได้ ...............สุไหงปาดีชินะกุล ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 17 ก.ย.2566
-----
@ การเมืองไทยวันนี้ 17 ก.ย. 2566 รัฐบาลเศรษฐา รัฐบาลสมมติฐาน เทียบหลักการศาสนาประชาธิปไตยโลก
*****************************************************
Thai politics today, 17 Sept. 2023, political analysis, Settha government, hypothetical government Comparing the principles of world democratic religions
***********************************************
1.
Why is it said that democracy is the best political system? It is one of the religions of the new era. It's called democratic religion. which is transmitted from the principles of Buddhism
That this country and its people are underdeveloped (that is, too stupid) to use an excellent political system. such as democracy When it cannot be used, it will become the same country as the Republic of Haiti. Republic of Rwanda Republic of Sudan Syrian Republic Republic of Libya
The words of a political scientist: There is no political system that can be called better than any other system. It is a statement that shows that we still do not understand the ultimate truth of democracy.
Democracy is a political system that has ethics along with it, which is like a religion.
Because they started out as equal people without caste. According to the human principles of Buddhism Because power is shared equally among everyone. To all the people, all the people of the land Every citizen owns power. For example, Thai citizens who are called "Thai" (non-Muslim) will receive this power sharing in an equal share and have equal status as owners of power. Regardless of economic status, it is permanent and stable. In concrete terms, that is A Thai beggar Received the same share of political power with billionaires, millionaires, or even generals, who received only 1 vote each.
************************************************** ***
2.
For example, Mr. Setthathaweesin and a farmer are the same person.
But we just don't understand each other.
And as is the case with all misunderstandings. All types of Thai civil servants, from high positions, Director-General, down to clerks, janitors, general civil servants, teachers, judges, prosecutors, police, soldiers, of whom there are many in this country. who don't understand themselves Do not understand the duties of citizens in a democratic system It's like the people are the masters of the country. Therefore, when someone retires from government service, They misunderstood that life was no longer a burden, that they were free from official duties. But it is not free from the duties of the democratic people. It's equal to having a duty to the country that is even more important than before. Democracy gives everyone equal power. which the country can do completely But having absolute power is really the same only in America, the total 330 million people in the 50 states and England, this country in the world only.
This is because he understands the principles of Dhamma, dukkham, impermanence and anatta according to the truth of Buddhism. And the practice is to follow the principles of oneself being one's own self. Politics is human not of God There are no more caste levels according to Buddhist principles.
And the reason that democracy is so excellent is because when democracy is understood and practiced correctly. will lead to excellent politics Because no one is allergic. No one wins, there are enemies, there is only friendship, all because of the benefits from democratic politics. There are no divisions, all are equal.
************************************************** ********
3.
Everyone, including politicians, political parties, and all citizens, benefits from politics equally. This means that even if one party wins the election, Rival parties that have been fighting each other to the death. But when the party wins Will become the government. The party loses the election. One party becomes the government. Another party became the opposition. Actually, it should be called the government inspection department. would be more correct And the people who supported the side until they won were good. People who support the party that wins the election Losing the election is good. It must be understood that winning is not winning, losing is not losing, because the duty of the winning side is the government. That is, the policies that are announced to be implemented are often opposite to those of the losing side. Benefits not only to the winning side of the people. But it must benefit the people on all sides, even those who criticize us. extremely opposed to us while there was an election campaign
************************************************** *********
4.
This is the principle. It is the greatest virtue of democracy. That is, everyone benefits according to the government's policy, no matter what.
It won't be like that. One government official The leader of one party once said after winning the Land Slide election that he must do something for his home province first. Because they have devoted more votes to their party than other provinces
This is a mistake against democratic principles. A level that is called a direct betrayal of democratic principles. By coming out like a dictator It is like the ancient government that, after winning a war, would cut off the losing side's head so that the entire land remained on their own side only. That is a political obstacle that has been passed down to the new regime. is democracy today There must be no winners, no losers, and everyone is tied because after there is a winner in the election, the winner and the person who has administrative power must manage the interests of the people and the nation to be beneficial to the whole body. All benefits must be provided to all citizens equally, according to cause and effect, making it happen throughout the country. Everyone is not exempt from duty.
As Joe Biden announced after winning the election to become the 46th President of the United States: I will be the president of all American people. That's the basic moral principle of democracy (Mr. Pithalim Haven't gotten to it yet. Just about to become But he announced the same thing as Joe. This Biden goes first. It was offside so it wasn't anything. Funny! Stupid joke)
************************************************** *****
5.
This is the epitome of democracy. But if it can be done according to the principle that there are no losers, no winners, then the country's administration policy must be adopted to be handed over equally to all the people. To be consistent with the principles that democracy belonging to the people By the people and for the people
That is, the people themselves have dignity and dignity. Even though we are just a beggar or a low-level government official Although retired But in the duties of democratic governance governing the country It remains the duty of every citizen for the rest of his or her life.
Democracy is not an easy job as you think. It is a democratic religious event, meaning that Dhamma must be practiced 100% of the time.
Today it was discovered that there was still one person. who still do not understand their own duties to democracy What was surprising to meet was a retired government official. who thought that after retirement he would like to sleep comfortably with his wife and children abroad. I don't care anymore. Why are there so many irresponsible people in Thailand who have been fighting for democracy for over 90 years? Besides being really stupid.
Because the truth is that the people are the masters of the country. Being the boss of a political official must take care of political governance By ourselves we have come to a higher status than before. Prepare to become a politician directly or, if you cannot go yourself, appoint a representative through elections. He himself went to rule on our behalf. Or even by taking care of politics to move in the right direction. By analyzing politics to let people know what is right and what is wrong. Fighting ideas with ignorant politicians will lead the nation to chaos. This is also an important duty for intellectuals. Every person who is still alive
It means choosing our representatives and taking care of our representatives. Check it out as the boss of all politicians.
which Thai people still do not understand their own duties Some people have already retired. Such as civil servants in the interior, military, police, teachers, agriculture, etc. Actually, retirement means coming to the full duty of the people's duties. fully democratic Who has a higher responsibility to the nation than before.
You must also take your own guardianship seriously. It is an important duty of life, from birth, maturity, until death.
But in Thailand today, there are people like this, civil servants who have already retired. I don't understand democratic politics. Just like an uneducated person Why is this so? Then democracy will get qualified people. How do you have the full experience of life to help democracy? Even if the children come out to do wrong and do right against democracy? How can such a qualified person still be so indifferent?
************************************************** *****
6.
And democracy means that all people citizens of that country Must have a duty to govern the country Like every Thai person, no matter what religion, they must be "Thai people" and must have a duty to govern the country. It means having a political duty. Must have the duty to govern themselves, by themselves or by their representatives.
This is democracy, so power is shared equally among all people to govern the country.
and because democracy is a regime that All people are friends. There are no winners or losers, no matter which party is in government. Therefore, it is the only regime that acts according to the teachings of religion in the principle that There is no grudge, no revenge, and no reservations or anger towards politicians. Every citizen has goodwill and friendship. They are all equal. Equal in the true nature of politics, that is, they have equal power. 1 vote per person, not selfish Therefore, it leads to a path to follow the Liberty Equality Fraternity ethics. If you don't understand the principles, you will go astray.
**************************************************
7.
Following selfishness, following greed, anger, and delusion is not democracy.
Although only the basic principles of democracy It comes from principles. You are your own refuge. According to the principles of Buddhism itself
If only people understood Like the United States of America, along with his entire country. and each state or each of the 50 states can act in accordance with democratic principles and All democratic ethics thus leading the country to develop into a sustainable superpower.
Sometimes Thai people are blind and cannot see.
For example, just go and analyze whether the President of the United States or even just the governors of all 50 states, actually 50 countries combined, are
There have been elected presidents from the first, George Washington, to the 46th, Joe Biden. Today, he has never had a coup. His merit by sharing power has been consistent for more than 300 years. Since the country was founded, there are no problems with the country's democracy at all. Let's compare it with Siam.
reason
Because the American people are smart. Have your own personality Each person has an independent character, resents coercion and intimidation. And that leads to self-reliance, being able to make a living on your own. I don't know how to be a slave. Have a natural arrogance There is only self-reliance. Being able to make a living by himself with his own knowledge (that is, in his capacity as a free man - freedom) he was extremely ashamed. To earn a living by selling votes like Thai, Cambodian, and Burmese people today because they are arrogant. There is dignity in being a free person. That is truly a common sense of honor and morality like a hero on the political battlefield. ...just look at the slave war itself. The only civil war was a slave war. who wants to wipe away the mentality of slavery from the people of his country By having to go to war. He does not want people to be slaves in his country, the United States, which would diminish the dignity of democracy. to deteriorate (which is different from Thai slaves who don't want to be free from slavery at all Because how can I make a living by myself? I'm a serf, and they still give me rice to eat every day. That is why it is difficult to govern yourself. democratic There is only buying and selling rights every time. without seeing any harm to democracy....just like the Election Commission, which came today and had to change the committee.)
************************************************** *****
8.
Let's look at Thai democracy. The government of Settha Thaweesin can be seen that it has created problems since the election. And since having relationships with foreign people Let's start with the election. with the issue of all forms of political struggle for their own Pheu Thai workers to win. Win over the people's votes enough to reach the highest political power in Thailand. Leading to problems with national administration policy
It depends on how the promises were made to the people. The issue is whether they are direct and in accordance with the rules of democracy or not? As there is a problem right now, Regarding the money promised to be given to citizens, 10,000 baht per person, digital system It is a matter that was promised to the people when the people were free people with dignity. He therefore has the full right to demand the promise. But on this issue truly about Election Commission from the beginning If we understand that Democracy is self-reliance, respect for freedom, and confirmation of one's independence. Who will buy votes and sell votes? That is the depravity of humanity. Freedom, one person, one vote. Vote sellers are only slaves. and not democracy If there is, it must be punished. There must be no such thing in the regime of free men.
And another thing is that it's 20 baht for the entire call.
There was a struggle to survive.
What is noteworthy is that Today's Thai people are slaves, that is, they are beggars, like beggars. That is against the principles of Free people who must rely on themselves arrogant Americans can't compare to this kind of greediness. It makes democracy weak because the people have all become slaves to beggars and vote-sellers. Because of the democratic people One must adhere to the principles of Buddhism and become one's own refuge.
However, in the matter of this government, it was found to be proficient in solving the problems of the people, but it came out in a summary manner. It has become a hypothetical government.
************************************************** ****
9.
Because a hypothesis is a hypothesis, a guess that has been made but has not been proven experimentally before. such as the policy for distributing digital money It was stated that Since Thai people are 16 years old (did you know that children under 18 years of age use them to play politics? It shows a lack of understanding of Thai democracy at all. To the level of stupidity. such as Mr. Thanathorn Therefore, Rungruangkit went to incite children in primary and secondary school. It turned out to be a flash mob. Call it a bad student organization. (which praises evil Evil causes people to think and do bad things. Evil without any shame at all....just like his own family, starting from one mother. one sister One brother and himself Including a family of 4 people who joined together to defraud and seize thousands of rai of forest land until it became a case of encroachment on public forest and the matter has been in the hands of Ratchaburi prosecutors for 10 years and has remained silent. It is the same case as Mrs. P. Veena Kraikupt, former Ratchaburi MP who finished so quickly that she had to leave the MP. But why are the people of this prosperous family so brazen and shameless to this day? Why does even the prosecutor....still remain indifferent? And people like this don't know good or bad. To the point of setting up a bad student organization and it is a cause for imitation. Until today, there are more and more people daring to do bad things. Since the Thai parliament who only curse each other fiercely every time there is a council meeting The kind that is not ashamed of bad actions. This kind of person is shameless and dares to do bad things even to the point of killing his own father, mother, and siblings. That increased. due to bad people This person thought of creating a bad culture. Because people got ideas from Mr. Thanathorn Therefore, it is Rungruangkit.
************************************************** *****
10.
As for Mr. Pitha Limcharoenrat That inherited evil was bad in the sense that there was a case of inciting students to participate in political activities, such as gathering together to march and raise signs of the Republic of Thailand, parading along Ratchadamnoen Road that year. and the Three Finger Youth Rally Including the Thammasat Youth Movement Not Tolerant, which gathered at Thammasat University on 10 August 2020, which announced the overthrow of the institution, supported by more than 100 professors, which means He did it because he didn't understand politics. and democracy That itself is like leading all people into the abyss. The obvious danger is Even every other political party He also did not agree with the party's progress. Confirming the need to amend Section 112 and the guidelines for Thai revolution to become the Republic of Thailand. That directly goes to the Buddhist term, "This is the problem, ignorance......ignorance." ...I still don't understand that Thai democracy is already a democracy....with the King as Head of State.... But this party says it is a dictatorship as they accuse the government of inheriting dictatorship. The NCPO has always been overthrown. That tells of a lack of understanding of democracy by people at the political party level. If their policies are truly implemented, for whatever reason, they can reform and transform Thailand into a Thai republic. There is already a president in place of the King. that will mean This country fell apart immediately. And there will never be unity like before again. As a result of what?
It comes from the stupidity of political parties. It's the political party leader who doesn't understand. Thailand is now a democracy. I don't understand, however. I thought that there must be only the Republic of Thailand in order for it to be a democracy. That is the cause of the destruction, caused by the stupidity of politicians. The party has moved forward directly. Because even today The party moves forward by Mr. Pitha Limcharoenrat Still confirming the policy of amending Section 112 to transform Thailand into a republic. The monarchy is overthrown, and there is a group of stupid Thai people who follow. that Thailand must be a republic So it will be truly democratic.
**************************************************
11.
And that clearly led to the cliff. And today what we saw was the TIME newspaper praising Mr. Pitha. Limcharoenrat As before, Mr. Thanathorn was praised. So Rungruangkit came last year. that he is the person of the year who has the power to move society in his own direction Definitely towards the society of 2023....That's the diagnosis of Time. It says that it comes from being a direct enemy of Thailand. Sure enough, he knew it from Nayanathorn. Therefore, Rungruangkit who think of overthrowing the institution Established the Republic of Thailand (Pick up Mr. Thanathorn He has been the person of the year like Mr. Pitha before) because Mr. Pitha insists on Kaem.112 and must amend the constitution. Revolutionizing Thai institutions into a republic, which Time, this media level, already knows. I've known this since Thanathorn was raised. It happened a year ago, so it can be said that the TIME newspaper was unfriendly towards Thailand with the King as Head of State, which encouraged an even more vicious movement against the Thai monarchy. Goal of this newspaper So it probably came from stupidity. tell of stupidity Perverting the principles of Thai democracy. That's because of the first thing. It tells that Time doesn't understand that international politics is based on the quality of the people. But politics in which the people are slaves can have When the slave master is virtuous, any regime that has morality leading the politics can create peace for the people. It can be a great power like Communist China. If the people have freedom and are self-reliant and do not become economic slaves of anyone. They have the power to build themselves purely based on their own abilities, like all 330 million Americans. That's all 330 million people who built their country. will automatically enter a democratic regime It can be a long-lasting superpower. and that the people were fully democratic in their own right Which democratic people must be aware of, it is not too late. But it seems The views of this Times newspaper may or may not be similar to those of people, countries, and democracies. that still don't understand Politics in every aspect Therefore, he went to promote wrong politics in countries that were not yet suitable for democracy, which completely destroyed those countries. Like those 4 republics.
************************************************** *****
12.
Even though the by-election in Rayong Province, Area 3, the Kao Klai Party will win again, it will likely be seen and known for the last time. If left, Thailand will be created as the Republic of Thailand. There will immediately be division among the Thai people throughout the land. If released, the results would be no different from the Republic of Rwanda. There's only killing one day. Syrian Republic Many great powers came to divide the country and take full advantage. Republic of Sudan which claims to be a democracy but is in the Khmer style. There is only one political party. that have been inherited for a long time, run for election, with the people coming out to vote for their own single party Call your country a democracy (whoever thinks like this is a true democracy idiot). It's really a dictatorship, but they call it a democracy. Name the countries accordingly: republic...democracy.....like Republic of Sudan Just because he saw that people came out to vote and called it democracy, he claimed that he was already a democracy. That's all I know. It's like our Progressive Party that calls the government a dictatorship. Investigate the NCPO germs I thought that I knew and then tricked the people into knowing that everything was wrong throughout the country. It was dangerous because it was stupid, even though it was already a democracy. It's still not democratic. to deceive people into stupidity and follow them throughout the country) like other republics It's the Syrian Republic. Republic of Sudan Republic of Libya Republic of Rwanda The Republic of Haiti is Time not knowing that every political regime is appropriate for the people of each race, nation, religion according to their level of ability to rely on themselves. He is able to rely on himself.
************************************************** *****
13.
For that democracy It is a high political system, like an important political tool with excellent techniques. But if you give it to a stupid person, Tao Dun, it won't work like the Thai people have tried to use it. People who are not qualified enough to use good products cannot use them and will cause even more harm, like in Thailand. that started in 1932 I think there is only one person who knows about democracy, namely Dr. Pridi Banomyong. When speaking to people around Everyone listens and nods along and when they go to revolution they will use the good things. But there was only one person using it, namely Dr. Pridi Banomyong, and it caused the machine to go wrong all the time. Until today, it's the same thing. Even worse Because there is not a single person who knows about democracy, there must be 100-1,000 people like Dr. Pridi Banomyong born. People will still be able to go...it will be like this. Take an F105 plane and give it to a buffalo rider. It's besides not being useful. It has become a tool of execution, like in Thailand and other republics. former colony The entire mountain colony today ..all of which cause serious problems from getting good things and not being able to use them ..We in Thailand have only hope that To have a real understanding of democracy among politicians and political parties, and have academics and teachers come to teach it correctly. There is still hope.
************************************************** *****
14.
Otherwise When democracy makes mistakes because of stupidity There will be a coup d'état and the dictatorship will be replaced. Bringing it to improve again and again like this is considered A cycle that can save the nation from collapse. Then gradually develop the knowledge of democracy to be good. Let the Thai people be free from money slavery first. Given at the student level in schools and universities. in the political institutions themselves That itself gradually learned for real, and that meant knowing the correct democratic ethics and having to put them into practice, simply from understanding the principles of Buddhism correctly, starting with the issue of caste. In Buddhism, the democratic religion has absolutely no caste. Therefore, you can be a free person with 3 virtues or Liberty - Freedom, Equality, Fraternity. What is wrong here in the first place is freedom. The greedy type is thinking that you alone have freedom, others do not. That's the danger, like when the Progressive Party takes them to a rally in front of the Royal Thai Police Department and there's a stupid mob that thinks about this freedom that I want to piss on the head of the police. He climbed onto the roof of the van. He pees on the head of the police guard. From the first drop Until the last drop By the way, the police stood still. He didn't move at all (as shown in the clip) until he finished peeing and then got out of the car.
************************************************** *****
15
This kind of freedom is what the Future Forward Party - the Kao Kao Party has taught its people to be stupid all along since they became politicians, political parties, even in the House of Representatives - Parliament, like Mr. Rangsiman Rome, which is because they were stupid, thought wrongly, thought that they had freedom You have to use the principles of democracy and do as you please, so you intend to scold all the MPs and Senators in Parliament at that time. On that day, they thought that there was nothing wrong with what they had done. Because democracy gives you the freedom to curse anyone, that is, he cursed the MPs and Senators who went to the meeting that day. Do you guys come to the meeting today and know that you are really just thieves of the government? They are good at polishing soldiers' shoes. ....People like this still don't understand what freedom is. What morality do you have? This brings danger to yourself that you don't even know about. Freedom does not mean we are alone. Other people also have freedom. It is therefore deeper in the meaning of democracy that We must respect the freedom of others as well. and the democratic government itself It has a direct duty to equally protect the freedoms of all citizens, making it a good and excellent democracy. This is why when they misunderstand, they spread the wrongdoing until they form a bad student organization. And what's strange is that Thai Buddhists It's really just a Buddhist census. Why do Buddhist people go back and support such bad political parties that they elect MPs to overwhelm the parliament? Why?
This is a quality that is not enough to bring about democracy, so it's worth looking at. communist regime Some people seem to be more suitable than Chinese people.
************************************************** *****
16.
A recent example is the Kaew Klai Party in Rayong Province, District 3. Why did they choose to take people who had been in prison? I'm already a bad person. became an MP for his own party and many other defective MPs Refers to being an imperfect person, having various cases or stories that are not worthy of their status. Even though Mr. Deputy Speaker of the House of Representatives is here today, Mr. Padipat ... is still looking for money to advertise liquor, wine, anything that has been attacked today. which is not worthy of the highest position of the people (which shows that People choose people in this party. It is not based on any true information) ...but why do Rayong people So they still choose stupid party people to come in as before. That is because they do not understand that the work of the nation is an important work. It is not a playful work like a little Yikae theatre, but that is what the people must understand that it is the work of the people. That the people must understand and choose only good people to govern the country.....Why do we have to talk about this? It's about ignorance and not understanding democracy. This is the flaw of underdeveloped countries. All the underdeveloped people in Thailand, this underdeveloped land. Well, by measuring democracy. It is no different from underdeveloped countries where the state is not a state. The people are not the people. There is only destruction and destruction today, without being able to see the end of the tunnel: Syria, Sudan, Rwanda, Haiti.
and Thailand, even the leaders of political parties such as the Kao Kao, Future Forward Party, who are stupid and don't understand democracy Including the new party. The newly formed party today is the Far Future Party.
************************************************** *****
17.
that if you don't understand democracy Leading the country in the wrong direction will cause serious damage to the country itself, which today is seen from the opposition party Opposition during the Prayut Chan-o-cha government, see Pheu Thai Party who took foreign people, Montenegrin people, to become party owners The real party leader, Mr. Chonnan Srikaew is just a fake party leader. Being a lackey of Mr. Thaksin What do you order? Do it like the Muslims. God commands you. You don't have to ask why. Just do it. If you ask, you are guilty of not believing in God. Do it all (until they accepted Nang Ong Ing as the head leader, called the head housekeeper of that party. On the day of the welcome, she bowed down and bowed down. Oung Ing's feet This is because of the influence of Thaksin Shinawatra, who has always given orders to the Pheu Thai Party. Until today, the Pheu Thai Party is the government. has returned to Thailand After wandering for 17 years, he became a special prisoner. His prison sentence of 10 years was immediately reduced to 8 years and then immediately reduced again to 1 year (which here is a matter of judicial power. according to democracy It is this power that is still confusing. I don't know what's going on. In principle, all three powers, namely the legislative, executive, and judicial, belong to the people 100%. This is the case with Thaksin Shinawatra. It says that the judiciary It is not 100% full power of the people....it must lead to an amendment to make it more democratic. By amending the constitution Let judicial power belong to the people 100%…(that is, democracy Politics of the people, by the people, for the people The highest power, which is separated into three universal powers, namely the legislative, executive, and judicial, must belong to the people. It ends with the people....at Parliament......not the court giving death sentences. Go to the Royal Department Go and act as a court above the Supreme Court. How can the death penalty be reduced further? How can a prison sentence of 42 years be reduced to 10 years? How can a sentence of 8 years be reduced to 1 year? It is not correct according to democratic principles. Power belongs to the people. which the people of the whole country must know and understand each other like this Therefore, when it was not yet the power of the people like this, they went to amend the constitution to be like this. How do we not argue anymore?) And look at the case of Mr. Thaksin Shinawatra, who is a prisoner but doesn't tease me like a prisoner. Don't wear prison clothes. like other prisoners brown shorts set Black shirt..... Is this democracy? And it was true, he was seriously ill. But why don't you annoy me? Don't wear prison clothes. Went to the police hospital and since landing at the airport. Why don't you put chains on your wrists? Why not make it consistent with democratic principles? This is Thai democracy. So I couldn't walk. because of his money Under the power of money as god Because this is called It's a fake democracy. It's better to call it out. Democracy is stupid.......like the 4 countries that are often quoted.
************************************************** *****
18.
We have always practiced democracy without knowing about democracy like this. Therefore it cannot be democracy.
There is only one person who knows about democracy, namely Dr. Pridi Banomyong. To this day, currently, no one knows.
And strangely, democracy comes from all Buddhist principles. The American people are democratic. It can be said directly that all 330 million Americans in all 50 states are Buddhists. who have practiced the principles of Buddhism and democracy since the country's inception But Thai Buddhists are just stupid Buddhists. (Phra Buddhadasa Venerable Panyananda said from the beginning that Thailand is Buddhist according to the census. He is a Buddhist with an amputated tail. Only really is a stupid Buddhist. Like this, if you're smart, you'll be a democracy. For example, even just understanding the word Liberty, freedom, not being a slave. Foreigners took it from the Buddha's sayings: Oneself and one's own self-reliance And the principle of the path to ultimate nirvana is arahantabhāna, which means freedom from desires and attachments, being a truly free person. But Thai Buddhists don't know. Therefore it is a democracy of the people asking for help. Beggars don't know how to make a living for themselves. Waiting to call on the government to help, understanding that a democratic government is a servant of the people. We must solve every problem for the people. Even if you wet the bed called the government to help, so he kept asking to pay off the debt instead, even though he himself had incurred the debt himself....in a way that really took advantage of other people) asking to find land for him to farm...find a house for him to live in. Free treatment for disease Asking for the price to be raised is stupid and doesn't know the principles of economics. .I don't think any government will find anything to do with everything. They know how to make a living for themselves, so they are called freedmen. So it can be a democracy. ....who went to see Americans, they really understand Buddhism better than Thai Buddhists. Be arrogant in your own dignity. That way it can be a democracy... Otherwise There will be a solution. Leading to a new regime, a dictatorship, conscripting these people into collective farming. Like the Khmers of the Pol Pot era, anyone who was lazy or just stopped doing what they were doing would be shot and thrown away immediately. When they were sick or sick, they would not be treated. They were put together in the same room. When the number was complete, they brought a big military truck to pick them up and take them away. Throwing it into a hole, covering it with dirt and burying it, making holes where tens of thousands of skulls could be seen. in the sightseeing room At that time, 2 million people died.
************************************************** *****
19.
And today, opposition politics has news about party leader Mr. Pitha Limjaroenrat. He has resigned from the leadership of the party. without understanding standard democracy I want to be the Prime Minister. standards of democracy Just take the leader of a political party as a candidate because it will be someone the people are familiar with. I know everything well. There is no secret insider like Mr. Settha Thaweesin who comes from nowhere and comes looking for the sound of 150 days deceiving the people in various ways. became Prime Minister Therefore must pass It is always necessary to be the leader of a political party in order to become Prime Minister....so amend the Constitution as follows. Mr. Pitha doesn't understand democracy himself, even declaring that "Born to Be" the Prime Minister must understand the rules. Democracy here must be the leader of the next party so that it will follow the principles of democracy, not think of principles of deep deception over there. People must know where the principles of democracy come from. Trust must be built. Whatever is proposed in the House must be the result of research. create truth Not to lie to him. Like Mr. Chatchat, the Mayor of Bangkok, he campaigned that once he became Mayor of Bangkok, he would not let there be any flooding. As soon as it happened, the water flooded and immediately came to test it. Years later, it still flooded again. Today, it's flooding. So why don't you feel ashamed of yourself and resign like you have the right attitude? And you see, American politicians really have good Dhamma here. More than Thai Buddhists
************************************************** *****
20.
And today, when he announces his policy Why do we not know and understand that what he is doing is not being carefully scrutinized before policy? It is just using assumptions to run the country. If you miss it, it's dangerous. Serious things can happen. So there is only hope for gambling. When it was right, they cheered loudly. There's no reason at all. How can we run the country without reason? If you take the country to gamble There is a history of losing homes and cities because of gambling. It used to be there in the dictatorship era.
That is, simply put,
Mr. Settha Thaweesin is taking out the entire country and Thai people who don't have much political brains. Let's try it out...as a hypothesis. in a very joyful mood I've watched since I became Prime Minister and have only laughed at the fact that I intend to work non-stop. Never being tired, that is, laughing without ceasing, never getting tired, in fact, delighting in gambling. Taking the nation to gamble with an assumption. The latest thing that is clearly seen is this assumption that was immediately announced. Civil servant salaries will be paid twice a month.
If that assumption It happened right. A great deal of goodness arose. It was the first prize winner.
But if that assumption turns out to be wrong That means collapse. The whole nation was destroyed. The whole nation is poor.
Including distributing 10,000 digital baht to the public. How many% is there accuracy in applying that assumption?
It means why do Thai people have to take risks like this?
Because we must not take any risks. Risking disaster for the entire Thai nation. It's not necessary at all.
and the matter of amending the constitution He had already announced it with an assumption.
************************************************** *****
21.
Why do Thai people in Thailand Therefore lacking caution There is great risk in allowing the country to be managed like this. It's like gambling. Why do this?
Well, I have to learn. Duties of the people If there are stupid people like Cambodia, Burma.....Laos, including the 4 republics mentioned as examples, democracy has been stupid all along. It will be a thing. Assumptions go on and on (see, when the Lao revolution took place, the ruler of life Srisawangwattana and Phra Nang Khampuy went to a seminar, so they conscripted Lao women to go to the Vietnamese border. ...It's no secret...take them to a Vietnamese military camp. Take it for new breeding. Vietnamese communists call Laos lazy and dull. Even if there's an enemy coming They still went to the temple to listen to Dhamma. There was a King going to offer Kathin robes. He easily captured them, went to a seminar and conscripted thousands of Lao women to breed Lao-Vietnamese to become a new breed of Lao. He did research. There are plans from time to time. It will be interesting to follow and see how there is a new breed of Lao in Laos and how they perform their duties. for the country....like Laos, it's difficult to be a democracy or a communist, that's good)
************************************************** *****
22.
Like a progressive party During the campaign for the Forward Party of Mr. Pitha's group Limjaroenrat, Thanathorn Piyabutr, Mrs. Chonticha proposed 300 hypotheses (whatever people like to write in) and analyzed later. Can't do even one thing. Well, how can it be done? In addition to deceiving Thai people throughout the land ...That's what I've done..and it's been done with great success. which it also said Because it's done to stupid people, just like the Settha government. Right now, it's also a matter of assumptions, that is, taking the entire country. And 71 million people can come and try playing like this... by using greed and delusion. stupidity Become a tool to deceive stupid people, take money to deceive stupid and poor people, because they don't know. Ignorance will really destroy the nation. and further destroy democracy Even though the policy that he has confirmed that he will implement starting this new year, which is to distribute 10,000 baht per vote-buying contract, is just this person's experiment with Thailand, that's all. It's an unnecessary risk.
************************************************** *****
23.
The people must understand that they will not accept this kind of policy again. Do not allow populist campaigning. The real thing is buying votes. anymore by amending the constitution. Do not elect people to choose a party like this again, hypothetical political party. Politician assumptions Because of democracy, politicians and political parties must speak only the truth, the truth, which must actually be done, when it is a government job. Every story, every policy has to be researched. So people must know and understand. You can see that it's just a lie. There is only cheerfulness and cheerfulness. Can't find the truth, will I do anything that is reasonable or not? If there is no such thing, it will be cut off immediately. Let's go choose our people who are honest. It's institutional. such as the Democrat Party with honesty Knowledgeable but honest and old, it has become the only political party that truly has the status of a political institution today, including the new Thai Phakdee party. of Dr. Warong Dejkit Vikrom....etc. That's safe. and can hope to make Thai democracy prosper ...............Su-ngai Padichinakun Dr. Khikmek Suwanmekin Buaraya Chababunset 17 Sept. 2023
-----
@ Thai politics today 17 Sept. 2023 Settha government, Assumption government Comparing the principles of world democratic religions
@ การเมืองไทยวันนี้ 17 ก.ย. 2566 รัฐบาลเศรษฐา รัฐบาลสมมติฐาน เทียบหลักการศาสนาประชาธิปไตยโลก
--.png)
-----
บทที่ 7 สถิติการเข้าชม จาก 138ภาษาโลก
ครอบ 8พันล้านชีวิตโลก
จากงานเผยแผ่ Buddhism to the New World ERA
สถิติประชาชนโลก เข้าเยี่ยมชม
BUDDHISM to the NEWWORLD ERA
เริ่ม 8 ม.ค. 2564-14 พ.ค. 2566 -7 ก.ค. 2566 ประชากรโลก 8 พันล้านคน138 ภาษาโลก
ชื่อ File (Static URL) ผู้เข้าชม
สถิติประชาชนโลก เข้าเยี่ยมชม
BUDDHISM to the NEWWORLD ERA
เริ่ม 8 ม.ค. 2564-14 พ.ค. 2566 -7 ก.ค. 2566 ประชากรโลก 8 พันล้านคน138 ภาษาโลก
ชื่อ File (Static URL) ผู้เข้าชม
BUDDHISM to the NEW WORLD ERA (P) 1399 1468 1516 1562
1.Thai-ไทย (P) 1064 1128 1185 1212
2.English-อังกฤษ (P) 790 55 908 935
3.China-จีน (P) 969 1061 1106 1129
4.Hindi-อินเดีย (P) 958 1047 1091 1115
5.Russia-รัสเซีย (P) 978 1059 1108 1134
6.Arab-อาหรับ (P) 918 981 1023 1043
7.Indonesia-อินโดนีเซีย (P) 890 953 995 1017
8.Japan-ญี่ปุ่น (P) 644 695 793 758
9.Italy-อิตาลี (P) 561 611 660 688
10.France-ฝรั่งเศส (P) 559 605 647 671
11.Germany-เยอรมัน (P) 615 668 712 734
12.Africa-อาฟริกา (P) 567 614 657 681
13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน (P) 573 622 666 684
14.Bosnian-บอสเนีย (P) 573 620 664 681
15.Cambodia-เขมร (P) 553 599 642 664
16.Finland-ฟินแลนด์ (P) 595 644 691 715
17.Greek-กรีก (P) 520 568 614 634
18.Hebrew-ฮีบรู (P) 525 570 616 637
19.Hungary-ฮังการี (P) 515 561 600 621
20.Iceland-ไอซ์แลนด์ (P) 486 529 568 588
21.Ireland-ไอร์แลนด์ (P) 485 531 569 588
22.Java-ชวา (P) 495 539 578 596
23.Korea-เกาหลี (P) 505 546 589 606
24.Latin-ละติน (P) 480 521 557 575
25.Loa-ลาว (P) 528 571 610 627
26.Luxemberg-ลักเซมเบิร์ก (P) 503 548 582 602
27.Malaysia-มาเลย์ (P) 488 529 571 590
28.Mongolia-มองโกเลีย (P) 485 524 560 576
29.Nepal-เนปาล (P) 494 537 576 592
30.Norway-นอรเวย์ (P) 515 562 606 631
31.persian-เปอร์เซีย (P) 491 536 575 593
32.โปแลนด์-Poland (P) 496 540 583 600
33.Portugal- โปตุเกตุ (P) 509 554 592 613
34.Romania-โรมาเนีย (P) 506 554 592 609
35.Serbian-เซอร์เบีย (P) 460 502 539 561
36.Spain-สเปน (P) 514 560 595 628
37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา (P) 525 573 611 628
38.Sweden-สวีเดน (P) 487 528 565 580
39.Tamil-ทมิฬ (P) 509 554 593 609
40.Turkey-ตุรกี (P) 476 519 557 583
41.Ukrain-ยูเครน (P) 485 527 560 574
42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน (P) 479 522 562 584
43.Vietnam-เวียดนาม (P) 474 513 543 559
44.Mynma-พม่า (P) 432 472 501 519
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สถิตติเริ่ม 26 พ.ค. 2565 ประชากรโลก 7.6 พันล้านคน 64 ภาษา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
45.Galicia กาลิเซียน (P) 221 260 286 306
46.Kazakh คาซัค (P) 215 256 283 301
47.Kurdish เคิร์ด (P) 200 242 268 290
48. Croatian โครเอเซีย (P) 212 251 279 296
49.Czech เช็ก (P) 216 251 281 297
50.Samoa ซามัว (P) 226 272 307 328
51.Nederlands ดัตช์ (P) 207 246 277 299
52 Turkmen เติร์กเมน (P) 208 247 273 294
53.PunJabi ปัญจาบ (P) 205 246 278 301
54.Hmong ม้ง (P) 210 246 274 293
55.Macedonian มาซิโดเนีย (P) 215 252 280 297
56.Malagasy มาลากาซี (P) 216 254 281 300
57.Latvian ลัตเวีย (P) 223 256 283 302
58.Lithuanian ลิทัวเนีย (P) 212 250 280 297
59.Wales เวลล์ (P) 212 250 278 298
60.Sloveniana สโลวัค (P) 199 235 262 276
61.Sindhi สินธี (P) 206 249 278 294
62.Estonia เอสโทเนีย (P) 195 237 263 278
63. Hawaiian ฮาวาย (P) 211 244 271 288
64.Philippines ฟิลิปปินส์ (P) 199 238 265 288
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สถิติเริ่มวันที่ประชากรโลกครบ 8,000 ล้านคน
วันที่ 16พ.ย. 2565-วันนี้ 10ธ.ค. 2565 138 ภาษา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
65.Gongni-กงกนี (P) 58 88 116 135
66.Guarani-กวารานี (P) 45 77 101 120
67.Kanada-กันนาดา (P) 37 71 95 160
68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต (P) 28 59 84 99
69.Crio-คริโอ (P) 30 71 99 112
70.Corsica-คอร์สิกา (P) 30 63 86 100
71.คาตาลัน (P) 25 58 85 98
72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา (P) 25 60 85 101
73.Kirkish-คีร์กิช (P) 25 59 83 102
74.Gujarat-คุชราด (P) 25 61 86 107
75.Quesua-เคซัว (P) 27 66 92 109
76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี) (P) 26 55 80 93
77.Kosa-โคซา (P) 21 53 78 101
78.Georgia-จอร์เจีย (P) 26 58 85 103
79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ) (P) 24 54 79 97
80.Chicheva-ชิเชวา (P) 25 56 86 102
81.Sona-โซนา (P) 24 55 79 93
82.Tsonga-ซองกา (P) 33 67 90 102
83.Cebuano-ซีบัวโน (P) 31 70 97 110
84.Shunda-ชุนดา (P) 26 57 79 99
85.Zulu-ซูลู (P) 25 58 83 98
85.Zulu-ซูลู (P) 32 66 93 108
86.Sesotho-เซโซโท (P) 32 68 91 107
87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ (P) 26 59 81 102
88.Somali-โซมาลี (P) 26 59 82 96
89.History-ประวัติศาสตร์ (P) 26 64 87 103
90.Divehi-ดิเวฮิ (P) 25 58 79 98
91.Denmark-เดนมาร์ก (P) 25 56 79 98
92.Dogry-โดกรี (P) 28 62 85 103
93.Telugu-เตลูกู (P) 26 57 78 91
94.bis-ทวิ (P) 29 56 83 97
95.Tajik-ทาจิก (P) 24 51 82 97
96.Tatar-ทาทาร์ (P) 23 60 75 98
97.Tigrinya-ทีกรินยา (P) 28 56 82 98
98.check-เชค (P) 23 64 80 97
99.Mambara-มัมบารา (P) 29 53 88 111
100.Bulgaria-บัลแกเรีย (P) 23 50 74 87
101.Basque-บาสก์ (P) 23 50 71 88
102.Bengal-เบงกอล (P) 24 51 73 87
103.Belarus-เบลารุส (P) 28 57 81 99
104.Pashto-พาชตู (P) 28 66 91 105
105.Fritian-ฟริเชียน (P) 22 55 81 101
106.Bhojpuri-โภชปุรี (P) 23 55 76 90
107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี) (P) 23 55 75 90
108.Maltese-มัลทีส (P) 24 54 79 97
109.Marathi-มาราฐี (P) 28 56 81 96
110.Malayalum-มาลายาลัม (P) 24 56 78 92
111.Micho-มิโช (P) 28 55 83 97
112.Maori-เมารี (P) 27 57 79 92
113.Maithili-ไมถิลี (P) 24 52 73 92
114.Yidsdish-ยิดดิช (P) 23 55 78 90
115.Euroba-ยูโรบา (P) 22 52 75 89
116.Lingala-ลิงกาลา (P) 26 57 82 105
117.Lukanda-ลูกันดา (P) 23 56 80 99
118.Slovenia-สโลวีเนีย (P) 28 60 86 106
119.Swahili-สวาฮิลี (P) 28 55 79 94
120.Sanskrit-สันสกฤต (P) 24 55 76 92
121.history107-history107 (P) 25 56 80 93
122.Amharic-อัมฮาริก (P) 23 53 77 95
123.Assam-อัสสัม (P) 23 54 77 92
124.Armenia-อาร์เมเนีย (P) 24 58 82 97
125.Igbo-อิกโบ (P) 27 59 81 102
126.History115-ประวัติ 115 (P) 23 52 76 96
127.history117-ประวัติ117 (P) 24 54 76 94
128.Ilogano-อีโลกาโน (P) 28 58 83 106
129.Eve-อีเว (P) 22 50 75 89
130.Uighur-อุยกูร์ (P) 23 51 75 97
131.Uradu-อูรดู (P) 25 57 80 100
132.Esperanto-เอสเปอแรนโต (P) 23 55 81 101
133.Albania-แอลเบเนีย (P) 29 59 85 105
134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา) (P) 23 52 81 98
135.Oromo-โอโรโม (P) 25 54 79 98
136.Omara-โอมารา (P) 25 54 81 99
137.Huasha-ฮัวซา (P) 27 59 86 106
138.Haitian Creole-เฮติครีโอล (P) 30 60 83 98
************************************************************************************
************************************************************************************
*** แถวที่ 1 สถิติ 10 ธ.ค. 2565
*** แถวที่ 2 สถิติ 26 ก.พ. 2566
*** แถวที่ 3สถิติ 14 พ.ค. 2566
:::: แถวที่ 4 สถิติ 10 มิ.ย. 2566
********************************************************************************************************************************************************************
@ สถิติเข้าชม 138 ภาษา 8000 ล้านชาวโลก ก.ค. 2566