ดีเล่มที่
58
ปีที่ 25
ประจำเดือน
ก.ค.-ส.ค.-ก.ย.-ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค.2564
- ม.ค.-ก.พ.-มี.ค.-เม.ย.-พ.ค.-มิ.ย.-ก.ค.-ส.ค.-ก.ย.2565
คำนำ 1
เราจะขอนำไปทบทวนพุทธทำนายเดือน 4 ปีกุน อีกครั้งหนึ่ง ขอให้มองในแง่เหตุและผล เรื่องเหตุทรงบอกถึงอะไร ? บอกถึงความเสื่อมทรามของศาสนาพุทธ ก็จะเห็นว่าจริงตามที่บอกในพุทธทำนายนี้ ...จนปรากฎการณ์แห่งศาสนาพุทธ นั้น มีลักษณะซับซ้อน ยากแก่การเข้าใจจริง ๆ ... และที่จะสังเกตเอาเป็นตัวเหตุก็คือ การที่นักบวชพุทธยุคสมัยนี้ ไม่เข้าใจว่า ตนออกบวชมาพื่ออะไร ? คนที่ออกบวชเพื่อแสวงหาความหลุดพ้นจริง ๆ นั้น แทบหาไม่มีเลย หากท่านได้พบบ้างแล้ว ก็ขอได้ชื่นชมและให้ความบูชาเถิด ......
พุทธทำนายเดือน 4 ปีกุน
เรื่องพุทธทำนายนี้มีปรากฏอยู่ในภาษาบาลีพระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ เล่มที่ 27 หน้า 24 ขึ้นต้นว่า อุสุภา รุกฺขา คาวิโย ฯลฯ และอธิบายไว้ในอรรถกถาเอกนิบาต ภาค 2 และเคยแปลเป็นภาษาไทยไว้ในชาดก ฉบับหอสมุดวชิรญาณ เล่ม 1 อาจารย์ศิลา วีรวงศ์ ได้แต่งเป็นกลอนลำอีสาน ประมาณ พ.ศ. 2490 ”
มีข้อความตอนสำคัญดังนี้ :-
“๑๑. ข้อสิบเอ็ด
พระฝันเห็นท่อนไม้แก้วแก่นจันทน์แดง ของมันราคาแพงค่าสูงแสนตื้อ เขาเลยเอาไปซื้อขายกินแลกไก่ เอาจันทน์แดงใส่กระชาน้อยแขวนห้อยเที่ยวขาย อันนี้แล้วเพิ่นว่าภายหน้าพู้นเคิ่งศาสนาพุทธ มนุษย์มีโลภามืดมัวเมากุ้ม ชุมหมู่ถือศีลสร้างเป็นจัวเจ้าหัวบ่าว เห็นผู้สาวแล้วเอิ้นเสินเว้าดั่งสหาย นอกจากนั้นกะซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนาพุทธ เอาพระธรรมลงมุดจายขายกินจ้าง ตั้งเป็นตึกเป็นห้างขายกินปิ้นไป่ ทังพระสูตรพระวินัยเอาลงใส่กระช้าโซนผ้าเที่ยวขาย นี้จั่งแม่นต่อนฮ้ายขายฮูปพุทธองค์ สงฆ์บ่ถือวินัยไพร่เมืองบ่อยำอย้าน มีแต่คนพาลกล้าโกธาเขี้ยวขุ่น ศาสนาเกิดวุ่นสูญเส้ามุ่นทะลาย สงฆ์ซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนากู สัพพัญญูเล็งเห็นหน่ายสะอางผางฮ้าย คันแม่นกายไปหน้าศาสนาของเฮาจั่งสิฟื้นขึ้นใหม่ ในปีกุนล่วงแล้วซิแววขึ้นลื่นหลัง ครั้งนั้นแหล้วคนสิอยู่เป็นสุข จั่งสิหายความทุกข์หมู่ภัยไกลเนื้อ ใผผู้ยังเหลือค้างซิเห็นทางฟ้าล่วง คนสิพ้นจากห่วงฝูงหมู่มารบาปฮ้ายเมื่อฟ้าอยู่กะเสิม เริ่มแต่ค้าเดือนสี่ปีกุน ใผมีบุญจั่งสิเห็นหน่อพระธรรมเดอป้า พากันถือศีลห้าภาวนาเดอแม่ หยังกะเห็นเที่ยงแท้บ่มีเว้นหว่างใด๋ ”
จาก กลอนลำเรื่องพุทธทำนาย ชมรมวรรณกรรมอีสาน จัดพิมพ์ โดย ร.พ.ไพศาลศิริ ท่าพระจันทร์ กทม. 2527 หน้า 7
หมายเหตุ บก.
เรื่องพุทธทำนายนี้ มีการระบุถึงเดือนสีปีกุน แต่ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเป็นปีกุนรอบไหน พ.ศ.อะไร ระบุไว้กว้าง ๆ ว่าหลังยุคกึ่งพุทธกาลไปแล้ว คือหลังปีพุทธศักราช 2500 ไปแล้ว เมื่อมาถึงปีกุน พ.ศ.2502,2514,2526,2538 และ พ.ศ.2550 ตามลำดับมาแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะมีอะไรเป็นที่น่ายินดีสำหรับพระพุทธศาสนา ก็น่าจะเป็นปีกุนรอบต่อไป ซึ่งก็ได้มาถึงแล้ว คือปีกุน พ.ศ. 2562 จะเป็นปีกุนที่ตรงกับพุทธทำนายอีกครั้งหนึ่ง และได้มาถึงแล้ว ดี เล่มต่อไปก็จะเป็นดีที่ออกมาตรงกับปีกุน ตามพุทธทำนายอีกครั้งหนึ่ง และจะมีสัญญาณอะไรเกิดขึ้น อันจะบอกถึงการฟึกฟื้น การเกิดใหม่อย่างเจริญรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนาในปี 2562 นั้น
เพื่อพิจารณา ทำความเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องคำทำนาย เดือน สี่ ปีกุนโดยเฉพาะรอบปี พ.ศ. 2562 นี้มีข้อสรุปอย่างชัดเจนอยู่ 2 ประการ คือ เรื่องความเสื่อมของพระพุทธศาสนา ที่มีมาตามลำดับ จนถึงเดือนสี่ ปีกุนจึงจะเริ่มฉายแววของความเจริญฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นมาใหม่ ดังข้อสรุป 2 ประการนี้
1. ศาสนาพุทธเสื่อมลงไปถึงสภาพสิ้นศาสนา ดังคำว่า “ภายหน้าพู้นเคิ่งศาสนาพุทธ พุทธ มนุษย์มีโลภามืดมัวเมากุ้ม ชุมหมู่ถือศีลสร้างเป็นจัวเจ้าหัวบ่าว เห็นผู้สาวแล้วเอิ้นเสินเว้าดั่งสหาย นอกจากนั้นกะซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนาพุทธ เอาพระธรรมลงมุดจายขายกินจ้าง ตั้งเป็นตึกเป็นห้างขายกินปิ้นไป่ ทังพระสูตรพระวินัยเอาลงใส่กระช้าโซนผ้าเที่ยวขาย นี้จั่งแม่นต่อนฮ้ายขายฮูปพุทธองค์ สงฆ์บ่ถือวินัยไพร่เมืองบ่อยำอย้าน มีแต่คนพาลกล้าโกธาเขี้ยวขุ่น ศาสนาเกิดวุ่นสูญเส้ามุ่นทะลาย สงฆ์ซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนากู ”
2. ครั้นถึงยุคกึ่งพุทธกาลแล้ว ปีกุน จะมีหน่อพระพุทธเจ้า หรือ คนดี หน่อพระธรรมมาสืบพระพุทธศาสนา ที่ในคำพยากรณ์บอกถึงสิ่งที่ดีมากกับพุทธศาสนาในส่วนรวม โดยที่ จะมี “หน่อพระธรรม ” มาสืบพระพุทธศาสนา โดยคำว่า "คันแม่นกายไปหน้าศาสนาของเฮาจั่งสิฟื้นขึ้นใหม่ ในปีกุนล่วงแล้วซิแววขึ้นลื่นหลัง ครั้งนั้นแหล้วคนสิอยู่เป็นสุข จั่งสิหายความทุกข์หมู่ภัยไกลเนื้อ ใผผู้ยังเหลือค้างซิเห็นทางฟ้าล่วง คนสิพ้นจากห่วงฝูงหมู่มารบาปฮ้ายเมื่อฟ้าอยู่กะเสิม เริ่มแต่ค้าเดือนสี่ปีกุน ใผมีบุญจั่งสิเห็นหน่อพระธรรมเดอป้า พากันถือศีลห้าภาวนาเดอแม่ หยังกะเห็นเที่ยงแท้บ่มีเว้นหว่างใด๋ ”
เรื่องความเสื่อมของศาสนาพุทธนั้นพอเห็นได้อยู่ชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องสงฆ์ไม่มีวินัย เที่ยวขายศาสนากิน และผิดทางเพศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวงการสงฆ์ไทยที่ผ่านมาเร็ว ๆนี้และยังคงมีเรื่องราวที่ต่อเนื่องไปอยู่ในทุกวันนี้
ทีนี้ ที่เป็นข้อกังขาก็คือ ผู้ที่จะมาสืบพระศาสนานั้นจะเป็นบุคคลอย่างไร ? เป็นพระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์องค์ใหม่อย่างนั้นหรือ ? แล้วคนจะรู้จักท่านได้อย่างไร ? เพราะในทุกวันนี้ ก็ดูมีเรื่องราวของคนเก่งมากมาย ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส รวมทั้งสำนักต่าง ๆ มากมาย อะไรคือสิ่งที่บอกเหตุถึงความเก่งความดี ความประเสริฐของผู้มาสืบศาสนา ? ซึ่งในประเด็นนี้เราคิดว่า หน่อพระธรรมที่จะปรากฏขึ้นนั้น อย่างน้อยท่านก็จะต้องรู้แจ้งเจนจบในหลักธรรมสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือเรื่องของมรรคผล นิพพาน ความเป็นอริยสงฆ์ผู้พ้นทุกข์ และหมายถึงเรื่องศาสนาสากลใดอันเป็นความเชื่อหรือวิถีทางที่ห่างไกลไปจากโลกนิพพาน ที่เป็นเป้าหมายของพระพุทธศาสนา และซึ่งจะเป็นคำสอนที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งโลก ที่จะนำมนุษย์ผู้มีความดีพอเหมาะสมพอไปสู่ความพ้นทุกข์ พบโลกใหม่ในชีวิตปัจจุบันนี้เอง คือพบความสุขในโลกนิพพานนั้น อย่างไรก็ดี เรื่องเวลา ที่ระบุถึงเดือนสี่ปีกุน นั้น ก็อาจจะไม่ตรงเผงนักก็เป็นได้ อาจจะก่อน หรือตรงปีกุน หรือ เลยปีกุนไปหน่อย ก็อาจจะเป็นได้ ทั้งนี้มองจากหลักการพยากรณ์แบบโหราศาสตร์ ที่การจรของดวงดาวทั้งหลาย อาจจะมีเหตุของการล่าช้าที่เรียกว่ามน หรือเร็วเกินไปที่เรียกว่าเสิด หรือแม้มีการถอยหลังหรือพักร ก็ยังมีเกิดขึ้นได้ การพยากรณ์เรื่องเวลาจึงมีผิดพลาดไปได้บ้าง จึงมีลักษณะของการเสิรด มน การพักร ของดวงดาวอยู่เป็นประจำ ก็คงคอยดูกันต่อไป.
คำนำ 2
หนังสือพิมพ์ดี ได้เปลี่ยนแปลงงาน มาสู่การเผยแผ่สัจธรรมพุทธ ในแบบที่ได้พบได้เกิดมีเครื่องมือที่เหมาะสมมาพอดีกับยุคสมัยนี้ นั่นคือความสามารถในการแปลของกูเกิล มาถึงระดับที่ สามารถแปลทุกภาษาในโลกได้ผลดีทีเดียวเราจึงได้โอกาสนี้ ทำการเผยแผ่ศาสนาพุทธออกไปทั่วโลกได้ด้วยการแปลภาษาออกไป 64ภาษาโลก ซึ่งเราได้เริ่มประกาศ แจ้งข่าวออกไปในดีเล่มที่ 57 แล้ว เล่มนี้ เราขอเน้นไปว่า วัดของเรา ในเวบไซต์ ของเราทั้ง 2 เวบไซต์ และทั้งเฟสบุ๊ค ของเรา นั้นแหละ ซึ่งเราได้แจ้งไปดังนี้
หน้านอก :-
ขอแจ้งข่าวพิเศษ เนื่องด้วยพวกเรา www.newworldbelieve.com, www.newworldbelieve.net และ Facebook Phayap Panyatharo ได้ทำการเผยแผ่ธรรมะมากว่า 25 ปี แล้วโดยเป็นเพียงธรรมะสามัญ ๆพอให้ได้รู้ทางมรรคผลเท่านั้น มาบัดนี้ เราได้มาสู่ยอดธรรมสูงสุด มีผู้รู้ผู้ตรัสรู้ คอยวินิจฉัยธรรมะสากล ทุกสรรพศาสตร์ สรรพศาสนา ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสู่โลกใหม่สรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไป เลยยิ่งจะเร่งเผยแผ่ยอดธรรมไปทั่วโลกทั้งโลก อันประจวบเหมาะพอดี กับงานการแปลภาษาของกูเกิลที่สามารถแปลภาษามนุษย์โลกได้ทุกภาษา อันเป็นความสำเร็จทางการแปลภาษาโลกอย่างน่าตื่นเต้นมาตั้งแต่ปลายปี 2564 นี้เอง เราจึงดำเนินการแปลธรรมะเป็นภาษาต่างประเทศ 64 ภาษา ที่ซึ่งครอบประชาชนทั้งโลก จำนวน 7.6 พันล้านคน และซึ่งเราได้เริ่มงานการเผยแผ่ธรรมะแบบครอบโลกนี้ทันทีในเดือน มกราคม 2565 โดยเป็นงาน BUDDHISM TO THE NEWWORLD ERA : พระพุทธศาสนาสู่โลกยุคใหม่ เป็นแผนระยะแรก 5 ปี เราคิดว่าจะแจ้งข่าวให้มิตรสหายธรรมได้ทราบ ท่านผู้ใดคิดร่วมงานเผยแผ่ธรรมะไปทั้วโลกกับเราทางอินเทอเนต ทางเฟสบุ๊คกับเราแล้ว เรามีบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ เลขที่ 343-1-05880-9 ชื่อบัญชี พระครูพุทธิพงศานุวัตร โปรดมาร่วมมือในงานแห่งความสุขให้การสนับสนุนงานการเผยแผ่ยอดพระพุทธธรรมกับเรา ผู้ให้ธรรมะมรรคผลสูงสุดเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง เพื่อประโยชน์ของพระพุทธศาสนา จะปรากฎออกไปทั่วโลกในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ โปรดศึกษารายละเอียดต่อในสื่อของเรา...และสำหรับเวบไซต์ 2 เวบไซต์ ของเรานั้น ปรากฎว่า มีผู้เข้าชมไหลเลื่อนเข้าชมไม่ขาดวาระแล้ว หยุดไม่ได้เสียแล้ว โปรดมาร่วมกับเรา เพื่องานนำสัจธรรมสูงสุดสู่โลกทั้งโลก. ... @...www.newworldbelieve.com, www.newworldbelieve.net, Facebook.com PuayapPanyatharo… 9 ก.ค.2565.
หน้าใน :-
โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสู่โลกใหม่สรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไป เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ . net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น.
คำนำ 3:-
เรื่อง สารบาญ เราจะให้ท่านผู้อ่านคลิกตามไปดูต้นเรื่องเลยเป็นบางเรื่อง และหลายเรื่อง อยู่ใน ดี เอง ก็มี โดยเฉพาะเรื่อง บุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช 2565 นี้ จะประกาศในบยทบรรณาธิการ มาตลอด เรื่องบุคคลแห่งปีของเรา นั้น ประเด็นสาระสำคัญของเรานั้น เรามองจากพื้นฐาน ความรู้ อุปนิสสัย ที่บุคคล ไปสัมผัสเข้าใจ ในวิสัยของพุทธธรรม ...เราเอาประเด็นของพุทธธรรมมาเป็นตัวยกย่องบุคคลแห่งปีของเราเป็นหลักมาแต่เริ่มต้นเลย
อย่างในปีนี้ มีบุคคล 2 คน ที่มาเกี่ยวข้องกับธรรมะทางพุทธเราโดยตรงเลยก็คือ ลาลิสาแบล๊กพิ้งค์ นั่นเลย บอกถึงความสำเร็จในมรรค8 ข้อ วายาโม โดยเฉพาะ นั่นคือ ไล่ความขี้เกียจออกจากดวงใจไปได้หมดจริงๆ จึงเกิดนิสัยอันดีเด่น ทางงานอาชีพของเธอ และเกิดผล ระดับมรรคผลนิพพาน ระดับต้น ๆ ได้ และ อีกคน คือ วิปัสสนา ที่บอกถึง นอกจากเข้าใจในอิสลามอย่างถูกต้องแล้วว เธอยังสามารถเข้าใจพุทธธรรมระดับลึกซึ้งระดับมรรคผลนิพพานได้เลย ซึ่งให้ความมั่นใจว่า เธอคนนี้จะไม่มีวันหยุดอยู่ในการที่จะประกาศต่อต้าน อธรรม และ ไม่หยุดที่จะสนับสนุนเผยแพร่ธรรมแห่ง มรรคผลนิพพาน สืบต่อไปไม่มีหยุดยั้ย และนั่นหมายถึง การเลื่อนฐานะตำแหน่งขึ้นไปตามหลักอริยบุคึคลพุทธศาสนาไปไม่หยุด
โปรดติดตามต่อไปในสารบาญ
สารบาญ
พิเศษ ประวัติPHAYAP PANYATHARO+เกี่ยวกับสถานะการทำงานของ PhayapPanyatharo
1. ปก
2. พุทธทำนายเดือนสี่ปีกุน
3. บทบรรณาธิการ
บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ. 2565
3.1 นายอัยย์ เพชรทอง
3.2 นายประพันธ์ กิตติฤดีกุล ผ.อ.ดี นักสู้ต่อต้านลัทธิทะเลทราย อิสลา่มเพื่อปฏิรูปศาสนาพุทธ
3.3 นูรียา นางสาว วิปัสสนา หรือ มุสลิมกลับใจเป็นพุทธ
3.5 นางสาว ปรานปรีดา มโนบาล (ลาลิสา แบล๊กพิ้งค์)
3.7 เปลว สีเงิน นักปราชญ์ยุคใหม่ผู้รอบรู้ปัญหาต่าง ๆ ในสังคมยุคไฮเทควันนี้
3.6 ยอดแสนไกล แฟร์เทกส์ นักมวยไทย ยอดนักสู้ผู้บุกเบิกสร้างชื่อเสียงมวยไทยในต่างประเทศ
3.7 Guotami Huang เยาวชนอิตาลี ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้า มาตั้งแต่อายุ 19 ปี ไม่สนใจคำกล่าวให้ร้ายรอบตัวเลย
4. Buddhism To the Newworld Era
4.1 ต้นฉบับ อริสัจ4 ต้นฉบับแปล 64 ภาษาโลก
4.2 สัจธรรมแห่งชีวิต 8 บท ต้นฉบับแปล 64 ภาษาโลก
4.3 ยอดสุภาษิต 211 ข้อต้นฉบับแปล 64 ภาษาโลก
5. การเมืองไทย
5.1 การเมืองเสนอให้คิดคนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริงๆ กรณี 8ปี นายกประยุทธ จันทร์โอชา
5.2 8 ปี นายกรัฐมนตรี(ต่อ)
5.3 แนวคิดการเมืองไทย จะเป็นประชาธิปไตยจริง ๆอย่างไรรวมบทวิเคราะห์การเมืองไทย ล่าสุด
6. เรื่องความเข้าใจศาสนาอิสลาม และคนมุสลิมไทย
6.1 ปัญหามุสลิมโลก Muslim Rohinyas
6.2 เรื่องทั่วไป ทั้งอิสลาม และ คริสต์ คิดยึดประเทศไทยเป็นศาสนาเขา
6.3 ความเข้าใจอิสลามโดยทั่วไป ผู้หญิงไม่ใช่คนเป็นเพียงสัตว์ป่าที่อัลเลาะห์สร้างขึ้นมาเท่านั้น
บทบรรณาธิการ
นี่เป็นหนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต) ฉบับที่ 58 ประจำปี 2564-2565 ประจำเดือนก.ค. 2564 ถึงเดือน ก.ย. 2565 เป็นปีที่ 25 ของเรา ที่ไม่เคยขาดตอน การออกหนังสือพิมพ์ดีต่อเนื่องมาตลอด
เล่มแรกของเราชื่อว่า "วิเคราะห์ข่าวในวงการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาณ" ประจำเดือน มีนาคม 2540 มีการรวมกันของคณะเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาณ เสนอเรื่อง ขอให้บรรจุข้อความสำคัญลงในรัฐธรรมนูญ ว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย ไปยัง นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสสร.(ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ) ดังมีรายชื่อ: พระครูปลัดสิมมา อุดรธานี,พระครูสุวีราภรณ์ หนองคาย, พระครูปลัดนฤปเวศม์ เลย, พระครูสิริคุณากร สกลนคร, พระครูไพศาลกิตติวิมล หนองบัวลำพู, พระครูสิริวุฒิคุณ ขอนแก่น, พระครูวรกิจสุนทร มหาสารคาม, พระครูปริยัติพัฒนกิจ กาฬสินธุ์, พระมหาสุนันท์ ร้อยเอ็ด, พระครูศรีวรคุณ อุบลราชธานี, พระพยับ ปัญญาธโร ศรีสะเกษ, พระครูปลัดคำพร นครพนม, พระมหาอร่าม ยโสธร, พระครูปลัดพิมพา มุกดาหาร, พระอาจารย์สมภาร อำนาจเจริญ, พระครูศรีธรรมวิภัช นครราชสีมา, พระครูอมรธรรมนิเทศก์ บุรีรัมย์, และอีก 2 ท่าน ชัยภูมิ และ สุริสทร์, โดยมีชมรม(ชั่วคราว): วัดมหาพุทธาราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีพระ(ร.อ.)พยับ ปัญญาธโร เป็นผู้ประสานงาน จนนายอุทัย พิมพ์ใจชน ได้ตอบจดหมายมาลงวันที่ 5 ก.พ.2540 ว่า ขอบคุณท่านที่ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญ เราจึงได้ออกหนังสือพมพ์ดีเล่มแรก ชื่อหน้าปกว่า วิเคราะห์ข่าวในวงการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาน ประจำเดือนมีนาคม 2540 มีพระ(ร.อ.)พยับ ปัญญาธโร เป็นบรรณาธิการ มาตั้งแต่นั้นและมาเปลี่ยนชื่อเป็น หนังสือพิมพ์ดี The Dee Paper วิเคราะห์ข่าวในวงการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาณ เล่มที่ 8 เดือน ธ.ค. 2540 แล้วมาเป็น ดี(อินเทอเนต) ตั้งแต่เล่มที่ 29 ประจำเดือน พ.ค.-กย. 2546 ซึ่งขณะนี้ ดี ตั้งแต่เล่มที่ 1 ถึง เล่มที่ 58 มีลงในอินเทอเนต ของเราทุกเล่ม
และสัญลักษณ์ของเรา คือ นกขาว กับ มันสมอง ตามที่เราเอาขึ้นต้นเรื่องแล้ว
สำหรับเล่มนี้ เล่มที่ 58 ครบ 25 ปี หนังสือพิมพ์ดีของเราได้ล่าช้ามาพอสมควร เราเองมีปัญหาในบางเรื่องโดยเฉพาะเรื่องบุคคลแห่งปีของเรา แต่แล้วเราก็ทำจบลงได้ แบบมีมาตรฐานของเรา อันเนื่องจากสถานการณ์ทั่วไป ทั้งระดับโลกและประเทศไทยเราเอง ยังไม่จบลง และแม้วันนี้ สถานการการเมืองไทย ก็ยังอยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ อันเนื่องมาจากพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ยกเอาบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ 2560 ขึ้นมา ว่ามีคำสั่งว่า ให้นายกรัฐมนตรี อยู่ในตำแหน่งไปเพียง 8 ปี ก็ให้ออกจากตำแหน่งไป ก็ครบ 8 ปีมาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2565 แต่ยังฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน และศาลก็ตัดสินโดยการรับคำร้องของพรรคฝ่ายค้าน พร้อมสั่งการให้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หยุดการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีลงไปก่อน จนกว่าจะมีการตัดสิน ขณะนี้ก็รออยู่ซึ่งคาดว่าจะมีการตัดสินในเดือนกันยายน 2565นี้
นี่คือหนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต)เล่มที่ 58 ประจำปีที่ 25 ประจำเดือน กรกฎาคม 2564 ถึง เดือน กันยายน 2565 (รวมเป็นรอบ 1 ปี 2 เดือน พอดี) ลักษณะของหนังสือพิมพ์ดีของเรานี้ ได้มีลักษณะเหมือนเดิมมาแต่ต้น นับแต่ปีแรกที่เราออกหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 มาถึงวันนี้รวม 25 ปีเข้าแล้ว นั้นก็คือ เราไม่ได้พอใจในจำนวนคนที่เข้ามาชมเวบไซต์ของเรา แต่เรามองว่า คนที่เข้ามาชื่นชมเวบไซต์ของเรานั้น ล้วนแต่ผู้มีสติปัญญาทั้งนั้น เป็นปัญญาชน เพราะเรื่องราวในเวบไซต์นี้เป็นเรื่องของความรู้ทั้งทางโลกทางธรรม ในระดับสากล เป็นความรู้ชั้นสูงสุดทุกด้าน ที่เราเองได้มีศูนย์ของเราก็คือ วัดของเรา MY TEMPLE ที่วันนี้ เราจะได้เริ่มงานของวัดของเราแบบมีการจัดกิจกรรมการศาสนาในแบบของเรา เพื่อให้ไม่เหมือนแบบโบราณที่เป็นมาตลอดยุคกึ่งพุทธกาล
นั่นคือหน้าที่ของเรา หน้าที่ของวัดอินเทอเนตของเรา หน้าที่การเผยแพร่พุทธธรรมสุดยอดแห่งมรรคผลนิพพานออกไปทั่วโลก โดยแผน5ปีแรกของเราเริ่มในเดือนมกราคม 2565 ด้วยการแปลภาษาสู่โลก 64ภาษา ซึ่งผล การแปลภาษานั้นก็คือ ภาษาธรรมะนั้นเอง อันเป็นธรรมะที่เรามีผู้รู้ ประจำให้ธรรมะระดับมรรคผลนิพพานเผยแผ่ไป เพื่อคนที่มีปัญญาสุด ๆ ได้พบ ได้รับผลธรรมตามไป นั่นแหละเท่ากับแผนฟื้นฟูพุทธศาสนาขึ้นมาสู่ลกยุคใหม่และซึ่งเราได้พบความมีปัญหาจา่กระบบเดิมที่ผิดพลาดออกนอกทางไป จึงต้องปรับใหม่ทั้งหมด และเมื่อมีคนตามทันแล้ว นั่นแหละความหวังของเราทที่จะให้มีการฟื้นฟูพุทธศาสนาขึ้นมาในโลกยุคกึ่งพุทธกาล นำศาสนาพุทธถ่ายทอดสู่โลกทั้งโลก ทดแทนศาสนาทั้งหลาย ที่วันนี้ศาสนาทั้งหลายนั้น ไม่สามารถที่จะไปสู่ไปกับโลกยุคใหม่ได้มีศาสนาพุทธเดียวเท่านั้นและมีหลักมรรคผล ตั้งแต่ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี ถึง อรหันต์ถึงระดับพุทธะ นั้นจะมาปรารกฎแก่โลกยุคใหม่อีกครั้งหนึ่ง ศาสนาพุทธจะเหมาะสมกับคนยุคเจริญด้วยวิทยาศาสตร์ ได้อย่างไร นั้นคนยุควิทยาศาสตร์จะสามารถประพฤติธรรมให้บรรลุอรหัตตผลได้อย่างไร นั้น คนทุกวันนี้มองเลยว่าเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ...ซึ่งไม่เลย...กลับตรงกันข้ามเสียอีก ....หากแต่ประเ็นคือ เราต้องไปทบทวน ประวัติศาสตร์ขององค์พระพุทธเจ้า นับแต่การสอนครั้งแรกของพระองค์ ปฐมเทศนาบทแรกของพระองค์ นับจากธัมมจักกัปปะวัตนะสูตร มาอนัตตะลักขณะสูตร มา อาทิตตะปะริยายะสูตร เอาแค่นี้ แต่เนื่องจากเป็นยุคคนมีปัญญาฉลาดใช้เหตุและผลกันทั้งนั้นทั้งโลกเลยนั้นแหละ คนทั้งโลกยุคนี้เอง จึงน่าจะง่ายเสียอีกในการศึกษาพุทธมรรคผลนิพพานน่าจะเร็วด้วยสติปัญญายิ่งกว่าคนยุคก่อนด้วยซ้ำ ฉะนั้นนี่แหละเป็นเป้าหมายใหม่ของเราที่กำลังเริ่มขึ้นจากหนังสือพิมพ์ดีเล่มนี้
เรื่องที่เราจะบอกก็คือ การถ่ายทอดสิ่งที่เราถ่ายทอดมาตลอดผ่านหนังสือพิมพ์ดีมา25 ปีแล้วนั้น วันนี้ ก็ยังช้าไปอีก และยังไม่ครบถ้วน และเรามีสื่อมาทดแทนไปอีกแบบวันต่อวัน ไม่ต้องรอเหมือนหนังสือพิมพ์ดีอีกต่อไป นั่นก็คือ เฟสบุ็ค ของเรา Phayap Panyatharo ที่เร็วและละเอียดกว่าอินเทอเนตไปอีก ฉะนั้นโปรดติดตามนสพ.ดี ผ่านสื่อของเรา
ต่อไปนี้ ก็จะเป็นการประกาศ บุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี ประจำปีพุทธศักราช 2565
บุคคลแห่งปี 2565
1. นายอัยย์ เพชรทอง
ผู้เริ่มต้นสร้างองค์กร อปพส. มีความไวสัมผัสได้ถึงภัยของอิสลาม ต่อพุทธศาสนา บทบาทของคนๆนี้ ก็ปรากฎมาตลอด ในแบบของนักรบ ผู้เข้าสนามรบอย่างแท้จริงถึงระดับ อุทิศชีวิตในสงครามเลยทีเดียว
ได้เปิดเผย เรื่องราวที่เขาเผชิญมาโดยตรงถึงแผนร้ายของมุสลิม และถูกปลุกวิญญาณความรักชาติศาสนาขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ จนดูเขานั้น เป็นนักรบกล้าตายเพื่อศาสนาเลยทีเดียว และบัดนี้ วันนี้ เขาได้ปลุกกระแสการเรียนรู้ ตื่นขึ้นมาของคนพุทธไทย ต่อสู้ศาสนาอิสลาม สามจังหวัดภาคใต้ไทย การออกกฎหมายอิสลาม 3 ฉบับมาแบบที่ข้าราชการไทยเอง ทำไปด้วยความโง่เง่าเต่าตุ้นจริง ๆ ไม่รู้หลักการศาสนาอิสลามเลย นับแต่ พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์
ลักษณะของ มุสลิม คือสะท้อนจิตที่ไม่เป็นมิตร ออกทางดุเดือดยกตนเสมอไป
มุสลิม ปฏิวัติ สนธิ บุญรัตนกลิน เป็นนายกรัฐมนตรีมาระยะหนึ่ง เป็นต้นมา ถึง พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ..มุสลิมผู้ยึดครองประเทศ ทำการรัฐประหารในปี 2550 ..ถึง พล.อ.ประยุทธจันทร์โอชา(ซึ่งมีภริยาเป็นมุสลิม ที่ซ่อนเร้นอย่างเงียบกริบ) ...แล้วรายงานตนในฐานะลูกน้องของอิสลาม คือรายงานต่อจุฬาราชมนตรีไทย เดินทางไปรายงานตัวซาอุดีอะเบีย ต่อต้านพุทธศาสนา การบัญญัติ รัฐธรรมนูญเป็นศาสนาประจำชาติ พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ ในฐานะประธานองค์มนตรี ถึง พ.อ. ประยุทธ จันทร์โอชา มีบทบาทช่วยให้อิสลามครอบประเทศไทย ทั้งทางกฎหมาย การเมือง และวัฒนธรรม แบบที่ว่า แม้ข้าราชการไทย ระดับการเมือง มาถึงข้าราชการเสมียนธรรมดา ๆ ยังไม่เข้าใจเรื่องภัยมุสลิมเลย ปล่อยให้ ออกกฎหมายมุสลิม ออกมา บังคับให้ข้าราชการ นับแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการมีผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงนายอำเภอมีหน้าที่ส่วนหนึ่ง ในการรับใช้อิสลามไทย มีการลงโทษหากไม่ประพฤตนรับใช้อิสลามตามกฎหมาย 3 ฉบับ ที่นายกรัฐมนตรี 3 สมัย ส่งเสริมออกมาตามลำดับ นับจาก พล.อ.เปรม ตินสูลานสนา พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ และล่าสุด พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา กฎหมาย3ฉบับ
การเปิดเผยความเลวทรามของวัฒนธรรมอิสลาม ออกมาตลอดเวลานับแต่คนทั้งหลายเข้าถึงระบอบเสรีประชาธิปไตยมา นี่คือเรื่องสองฝาแฝดไอสิสในซาอุฯฆ่าตัดคอแม่ของตนเอง อีกภาพ สั่งให้หนุ่มคนนี้ฆ่าแม่ตัวเอง อีกภาพครูสอนศาสนาเอาเด็กเป็นเครื่องมือผ่อนคลายตัณหาความหยากตน จนบีบีซีออกข่าว พบว่าเป็นเรื่องปกติของสังคมอิสลาม นั่นแปหละสตรีมุสลิมจึงเหมือนไร้ค่า เหมือนสัตว์เท่านั้นเอง
ยุคพล.อ.เปรม เป็นต้นมา เอาระบบราชการไทยไปรับใช้อิสลาม นับแต่เรื่อง มัสยิด ในแต่ละจังหวัดทุกจังหวัด มีกฎหมายสั่งให้ รับอิสลาม ในจังหวัดที่มีมัสยิด 3 แห่งขึ้นไป เป็น ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทำอะไรที่อิสลามสั่งให้ทำได้ โดยเฉพาะเรื่องการสร้างมัสยิดไปเรื่อย ๆ การฮัดจ์ คือ เดินทางไปเมกกะไปแสดงตนเป็นอิสลามประจำปีก็ให้ราชการช่วยประกาศข่าว ช่วยบริหารจัดการให้มุสลิมไปปฏิบัติงานศาสนาต่า่งประเทศได้อย่างสะดวก ....ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้องเพราะราชการเป็นราชการไทย นั้นเอง และรวมทั้งให้ค่าเดินทาง.....
ภาพนี้ก็เห็ฯอยู่แล้วว่า ที่ห่มเหลืองนั้นเป็นมุสลิม ไม่ใช่พระแท้ นั้นแหละ แผนทำลายพุทธศาสนาของอิสลาม อันนี้ จุฬาราชมนตรีจะต้องเอาเรื่องไปพิจารณาเลยทีเดียวไม่พิจารณาก็ออกจากตำแหน่งจุฬาราชมนตรีไปได้ ..เห็นอยู่แล้วว่าเกิดเรื่องในมัสยิดแห่งหนึ่ง ตามไปที่มัสยิดนั้น เอาตัวมาลงโทษ
ซึ่งข้าราชการไทยไม่เข้าใจว่า การทำอย่างนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมต่อประชาชนไทยทั้งประเทศ นี่คือปัญหาข้าราชการไทยที่โง่เง่าในเรื่องศาสนาสากลจริง ๆ ในทางการเมือง ดูความคิดครอบครองประเทศไทยทางการเมืองโดย โดยเรื่องอิสลามนี้ มีข้อน่าสังเกตมาตั้งแต่การเลือกตั้ง ปี 2562 โดยนายวัน มูหะมัดนอร์ มะทา ได้ส่งสมาชิกพรรคอิสลามลงสมัครทั้งประเทศ แต่โชคดีที่ประชาชนรู้ทัน กลับพ่ายแพ้ไปหมด เหลือไม่กี่คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเหมือนเดิม เหมือนการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ที่แสดงถึง มีการทำความเข้าใจเรื่องอิสลามให้ประชาชนไทยพุทธทั้งประเทศได้รู้เรื่องดี อันเป็นผลงานส่วนสำคัญขององค์กรต้านอิสลาม คือองค์กร อปพส. ซึ่งนายอัย เพชรทอง เป็นผู้นำ เป็นเลขาธิการ องค์กรนี้ นำการต่อสู้มาอยู่ทุกวันนี้ และการเปิดเผยงานด้านกฎหมายอิสลาม แม้ทางด้านเศรษฐกิจ เช่นเรื่องฮาลาล และ ธนาคารอิสลาม นั้น นับว่าเป็นผลงานที่โดดเด่น และสมควรอย่างยิ่งที่ชาวไทยพุทธทั้งประเทศจะได้รับรู้และเห็นความจริงว่า อิสลามมีแผนยึดครองประเทศไทยมาอย่างไร ทำไม ผู้นำอิสลามที่ทางการไทยให้ความหมายว่า กบฎสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เขียนแผนสร้างไทยเป็นอิสลาม จนต้องหลบหนีไปจากประเทศไทย แต่ทำไมความคิด แผนงานกบฏคนนี้จึงถูกนำมาใช้ต่อโดยที่คนยุคนี้ไม่เข้าใจว่าเป็นกบฎหวังยึดครองประเทศไทย นั้นเองเป็นผลงานการเผยแผ่ความจริง ของ นายอัย เพชรทอง
ชาวพุทธลงโทษหญิงทำผิดสร้างความเสื่อมเสียหายแด่พุทธศาสนาด้วยการไม่พูดจาด้วย พร้อมกันปิดปากกับผู้หญิงคนนี้ ซึ่งในความคิดของมุสลิม ไม่เคยคิดตอบแทนบุญคุณประเทศไทยพุทธ คิดอย่างเดียว อานุภาพพระเจ้าอัลเลาะห์ครองใจตลอดเวลา
สิ่งที่เราเห็นคุณค่าของความเป็นบุคคลแห่งปีของ อัยย์ เพชรทอง นั้น ก็คือการเปิดเผยเรื่องราวของมุสลิมใต้ กบฏ ที่ไม่คิดเฉพาะสามจังหวัดใต้เท่านั้น แต่คิดการยึดครองไทยเป็นอิสลามทั้งประเทศ นั้น เป็นเรื่องที่เป็นความจริงตามหลักศาสนาอิสลาม แต่ไม่มีใครกล้าเปิดเผย และสิ่งที่อัยย์ เพชรทอง เปิดเผยออกมานั้น มันนำไปสู่ความจริงที่ลึกล้ำไปยิ่งขึ้น นั้นคือ บอกไปถึงความไม่เหมาะสม ธรรมะ ในอิสลามนั้น เป็ฯธรรมะที่ไม่สอดคล้องจริยธรรมอันดีของชาวโลก ควรที่ชาวโลกจะหยุดยั้งศาสนาอิสลามลงเสีย ซึ่งความจริงนี้กำลังขยายออกไปทั่วโลก โดยผู้นำโลก ปิดประเทศลง ไม่ต้อนรับอิสลามมากไปยิ่งขึ้น เราจึงขอยกย่องเป็นบุคคลแห่งปี 2565 ของหนังสือพิมพ์ดีและหวังให้มีการต่อสู้เพื่อแผ่นดินชาวพุทธเรา ขับไล่อิสลสลามไปเสียจากแผ่นดินไทย ดำเนินการต่อไปตลอดจนประสบผลสำเร็จ อัยย์ เพชรทอง องค์การ อปพส. องค์การประชาชนไทย ต่อสู้อิสลาม
2.นายประพันธ์ กิตติฤดีกุล
ต่้อสู้กับความไม่เป้ฯธรรมของสินค้าฮาลาลของมุสลิม นั้น มีเหตุผลเต็ม ๆ ที่คนไทยต้องมองดูกันแล้วโดยขุนศึก ผ.อ.ดี นำข้อมูลมาให้รู้ตลอด
ที่เราพอใจชื่อสมญาที่น่าชื่นชมว่า ผอ.ดี ขุนศึกชาวพุทธ ผู้นำอีกคนหนึ่งขององค์กร อปพส. ผู้กำลังต่อสู้ร่วมกันไปกับ อัยย์ เพชรทอง โดยเฉพาะการเริ่มทางสื่อ ให้ปลุกชาวพุทธขึ้นต่อสู้กับกบฏมุสลิมมาเลย์-อิรัค 3 จว.ภาคใต้ไทย ทั้งนี้โดยแผนงานการเผยแผ่สัจธรรม ให้คนไทยรู้เรื่องอิสลาม ที่คิดยึดครองประเทศไทย มาตลอด ไม่เคยหยุด โดยที่คนไทยไม่เข้าใจแผนศาสนาอิสลาม ที่คิดยึดครองโลกเสมอ ตราบที่โลกยังไม่เป็นอิสลาม แผนนี้ไม่มีวันหยุดลง อย่างคนไทย เมืองไทย นายพลทหารไทย ข้าราชการนับแต่ นรม.ไทย ยังโง่สุดโง่อยู่อย่างทุกวันนี้ อย่างวงการศึกษาไทย ที่รู้อย่างโง่ ๆ ว่าศาสนาไหนก็ดีเหมือนกันหมดนั้น จนกระทั่ง แผนตามกฎหมายอิสลาม เรื่อง มัสยิดนั้น ทำให้ราชการไทย และพวกก่อการร้ายมุสลิม สามารถสร้างมัสยิดได้จังหวัดละ 3 มัสยิดขึ้นไปได้ วันนี้ กว่า 40 จังหวัดแล้ว
ข้อที่คนทั่วไปไม่คิดก็คือ คำว่าสิ่งที่ไม่ถูกต้องและผิดหลักศาสนาอิสลามนั้นคืออะไร ก็คือ เขาไม่มีวันที่จะลงมาเป็นมิตรกับคนนอกศาสนานั้นเอง กาเฟตไทย วันหนึ่งพวกเขาต้องสังหารทิ้งให้หมดตามคำสั่งพระเจ้าของเขา นั่นแหละสิ่งที่นายวันมุหะมัดนอร์ มะทา คิดวางแผนไกลเอาไว้วันนี้
นั่นหมายความว่า หากสามารถตั้งมัสยิดได้ครบทั้ง 76 จังหวัด มุสลิมก็สามารถยึดประเทศไทยได้ และอาจจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญไทย บัญญัติให้ มุสลิม อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติได้ แทนที่ศาสนาพุทธ จะเป็นศาสนาประจำชาติ โดยมีการเปิดเผยเรื่องนี้ ที่คนพุทธพยายามให้มีการบัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แล้วมีเหตุการณ์ พล.อ.สนธิ บุณยรัตนกลิน ผู้ทำรัฐประหาร ปี 2550 ยึดครองประเทศไทย และรับคำสั่ง จุฬาราชมนตรีโดยตรง เรื่อง ศาสนาประจำชาติ โดยพล.อ.มุสลิม นรม.ไทยยุคนั้นเอง ปฏิบัติการ ข้ามหน้าข้ามตานายพล บกเรือ อากาศ ตำรวจไทยพุทธไปอย่างอาจหาญทำการต่อต้านอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ให้มีการเอาศาสนาพุทธลงในรัฐธรรมนูญเป็นศาสนาประจำชาติ แล้วให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน ให้แต่ละจังหวัดไทย ทั้ง 74-75 จังหวัด มีกรรมการศาสนาอิสลามประจำจังหวัดให้ครบถ้วน เพื่อการยึดครองประเทศไทยเป็นอิสลามนั้นเอง
อันนี้น่าแปลกที่รัฐสภาเอง ประธานรัฐสภา และสมาชิก สส. สว. กลับไม่มองดู ว่านั่นไม่ควรเป็นเช่นนั้น ทำไมคนพุทธจึงไม่ทำอะไรที่มันถูกต้องเสียที
แม้ในรัฐสภาใหม่ของไทย ห้องละหมาดในรัฐสภา มีขนาดใหญ่กว่าห้องพระ มีขนาดใหญ่กว่าห้องคริสต์หลายเท่า ท่านผอ.ไปดูเองว่าไปเห็นมากับตาแล้วครับ
ห้องละหมาดในรัฐสภามีขนาดใหญ่กว่าห้องพระมีขนาดใหญ่กว่าห้องคริสต์หลายเท่า ไปเห็นมากับตาเมื่อเดือนมีนาคม 64ที่ผ่านมานี้เองครับตอนนี้แขกเป็นใหญ่แล้วแม้แต่ใน ตึก...ก็แค่บอกมันว่าพระเจ้าอัลเลาะห์ช่วยตนเองยังไม่ได้เลยไปนับถืออะไรนักหนายิ่งสภานี้เป็นพุทธเขาไม่เอาอยู่แล้ว
มีมุสลิมชื่อ นายไพศาล พรหมยงค์ อดีตเป็นถึง รองเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ออกคลิปมาข่มขู่ท่านผอ.ดี ว่า ถ้าพบกันแล้วจะตบหัวให้หัวทิ่มไปเลย แถมยังบอกให้รางวัล ใครตบนายประพันธ์คว่ำได้ไปรับรางวัลกับตนได้เลย ...นายไพศาล คนนี้ ไม่ทราบประวัติแต่ทำไมกริยามารยาท ไม่มีเลย นี่แหละมุสลิมกร้าวแกร่งก้าวร้าว ไร้ไมตรีจิต รู้อย่างเดียวคือการก่อการร้าย นี่เข้าลักษณะก่อการร้ายด้วยวาจาเลย ...คือเป็นถึงอดีตรองเลขาธิการ จุฬาราชมนตรี ยังไม่มีความเป็นผู้ดีเลย เหมาะกับฐานะนั้นเลย แน่ละ เขาก็แก้ตัวไปได้ว่า พระเจ้าของเขาไม่ถือหรอกจะด่าว่าพวกกาเฟต์ไทย พวกนรกต่ำต้อยด้อยค่าอย่างไรก็ได้ นั่นไง ที่คัมภีร์บัญญัติไว้อย่างบกพร่องในความเป็นมนุษย์ ไม่รู้ว่ามนุษยธรรมคืออะไร จริยามารยาทในสังคมมีอะไรบ้าง มุสลิมทำไม่ถูกวัฒนธรรมบ้านเมืองเขา แม้ประเทศอื่นก็เหมือนกัน อย่างรัสเซียก็สั่งให้ออกไปจากรัสเซีย หากไม่ทำตามวัฒนธรรมรัสเซีย
ท่าน ผอ.ดีขุนศึกชาวพุทธจึงเผชิญภัย และ การต่อต้านจากศัตรูมาตลอดเช่นนี้ แต่ก็ยืนยันอุดมการณ์ทางประชาธิปไตยที่ชัดเจนแจ่มแจ้งเป็นอุดมการณ์ ในประเด็นไทยต้องมีสถาบันกษัตริย์ เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ขาดไม่ได้ เนื่องเพราะพระมหากษัตริย์ไทย กับพระพุทธศาสนานั้น คู่กันมา มีพระมหากษํตริย์ทรงอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนามาแต่อดีต จนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากนั้น ยุคสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นยุคที่บอกสั่งการสืบมาให้ชาวไทยระมัดระวังเรื่องศาสนา อิสลามโดยตรง (ดังที่ต้องระวังคนอย่างนายไพศาล พรหมยงค์ นี้ ที่เพื่อพระเจ้าของเขาจะทำอะไรกับกาฟิร ก็ได้) นั่นเอง ที่ในยุคของพระองค์เคยลงโทษคนกลุ่มนี้อย่างรุนแรงเป็นแบบอย่างไว้แล้ว
ผอ.ดีมาต่อต้านอย่างแรงอีกเรื่องหนึ่ง ก็เรื่อง กม.ฮาลาล กม.อิสลาม ที่จะปกป้องมิให้แผ่นดินไทยถูกยึดครองโดยแผนการอิสลามทะเลทราย และรวมถึงการต่อต้าน กม.ขายแผ่นดินให้ต่างชาติ ที่กำลังจะเข้าสภาอยู่เร็วๆ นี้ เราเห่็นว่า นี่เป็นการต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และรวมแล้ว เป็นการต่อสู้ศัตรูมีตัวตนอย่างชัดเจน คือ มุสลิมกบฏ คิดยึดครองประเทศไทย จนคนไทยตื่นกันทั้งประเทศ
จึงสมควรยกย่องนักรบขุนศึกชาวพุทธคนนี้ ผอ.ดียอดนักรบพุทธ เป็นบุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ ประจำดี ปี 2565
3. นูรียา วิปัสสนา
นี่แหละเป็นความมุ่งหมายของพวกมุสลิมจริง ๆ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนเขาจะมีเป้าหมายเช่นนี้อยู่ในใจไปตลอดจนกว่าจะทำสำเร็จ เพราะคนอิสลามนั้น ไม่ได้มีความคิดตนเอง มีคำสั่งพระเจ้าอยู่ในใจตลอด ฟังพระเจ้าตลอดหากไม่ยอมเงี่ยหูฟังพระเจ้าแล้ว เท่ากับทรยศต่อพระเจ้า มีโทษร้ายแรงถึงชีวิตสตรีมุสลิมจึงสมควรคืนสติมาพิจจารณาความจริงแห่งชีวิตมนุษย์มองเรื่องความเป็นคนมีสิทฅธิ้สรีภาพเฉพาะตนเต็มที่
มุสลิมเปลี่ยนศาสนา จากอิสลาม มาเป็นพุทธ ตั้งชื่อตนใหม่ว่า วิปัสนา เธอเปิดเผยว่า ได้พบความทุกข์ยากลำบาก ในฐานะเป็นสตรีอิสลามอย่างมาก ทำไมสตรีอิสลาม จึงด้อยต้อยต่ำ ในความเป็นคน แม้ตนเองได้รับการศึกษาถึงระดับปริญญาตรี ก็ยังไม่มีเสรีภาพสมกับความเป็นคน ๆ หนึ่ง สิ่งที่เรามอบความเป็นบุคคลแห่งปีพุทธศักราช 2565 แด่ นูรียา นี้
ผู้ชายมุสลิมคนนี้เขาไม่รู้ว่าทำผิดอะไร ในเมื่อเขาซ้อมลูกสาว 5 ขวบจนซี่โครงหัก
และข่มขืนเธอในทุก ๆ ที่ นี่แหละที่บอกไปถึงสังคมวิปริต ในศาสนาอิสลาม
เหตุผลสำคัญนั้นก็เพราะมองเห็นว่า เป็นคนเข้าใจเรื่องศาสนาสากลอย่างดีมากเมื่อเธอเป็นมุสลิมเธอก็มองทั้งจากชีวิตจริงที่เธอเป็นอิสลามมุสลิม และประกอบกับคัมภีรคำสอนของศาสนาอิสลามประกอบไปด้วย ที่บ่งบอกสติปัญญาอย่างมนุษย์เสรีชนคนหนึ่ง ที่พิจารณาเรื่องราวใดใดไปตามหลักเหตุและผล นั้นเอง
ผู้หญิงมุสลิมมีค่าเท่าสุนัขและลามานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็น ตามที่ปรากฎข่าวออกมานี้
และสิ่งที่พบว่าเธอมีสติปัญญารู้แจ้งทางศาสนานั้นก็คือ ความมีเสรีภาพของคนทั้งหลายนั้นต้องเสมอกัน ทุกชนชาติศาสนาแต่เธอบอกว่าการได้พบว่าศาสนาอิสลามนั้น ไม่อนุญาติให้คนใต้อำนาจศาสนาอิสลาม หรือมุสลิมคิดเองทำเองได้ต้องคิดไปตามความคิดของพระเจ้าที่บอกสั่งไว้ในมหาคัมภีร์ ที่เธอเองมองแบบคน ๆ หนึ่งแล้ว เห็นว่าเป็นคัมภีร์ที่ไม่สามารถสนองชีวิตของคนสมัยใหม่ได้
การละเมิดสิทธิเด็ก ตามที่ปรากฎข่าวตามภาพนี้ นั้นแหละเป็นผลมาจากการสร้างวัฒนธรรมตามกิเลสกามมีนะบีอิสลามเป็นผู้ทำเป็นแบบอย่างแต่เดิม จึงทำกันมาได้อย่างนี้ และผู้ได้รับเคราะห์คือสตรีอิสลามนั้นเอง ตลอดชีวิตตั้งแต่เกิด สตรีอิสลามจึงมีค่าเท่าเพียงสัตว์ชนิดหนึ่ง
โดยเฉพาะเรื่องวัฒนธรรม หญิงมุสลิม นั้น มีข้อคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยความเป็นมนุษย์มีลักษณะเป็นทาส นั้นเอง เราจึงยกย่องว่าเธอเป็นคนมีปัญญาที่มองสถานการณ์ด้วยเหตุและผลของคนเจริญยุคใหม่โดยแท้จริง และได้บังเกิดความรู้ความเข้าใจในหลักการของเสรีภาพ เสรีชนจากคำสอนของศาสนาพุทธจนเข้าใจในสัจธรรมแห่งชีวิตจากศาสนาพุทธดี จนบอกได้ว่าศา่สนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุและผลที่ทันสมัยสำหรับคนยุคใหม่นี้ เราจึงยกย่องเธอเป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือำพิมพ์ดี ปีพุทธศักราช 2565
4.น.ส.ปราณปรียา มโนบาล
ลิซ่า Lisa Pranpriya Manobal เยาวชนไทยนักร้องก้องโลกยุคนี้ผู้ที่ได้พบว่าเชี่ยวชาญการใช้สมาธิสูงสุดในการเต้นรำขับร้องอาชีพของตนอย่างสุด ๆ โดยได้รับผลดีนี้มาจากการฝึกฝนฝึกซ้อมงานอย่างขยันขันแข็งสุดอดทนทรหดเงียบกริบอยู่เป็นเวลาถึง 5 ปีเต็ม ๆ จนเข่นฆ่าความขี้เกียจที่เป็นการฆ่ากิเลสไปหมดสิ้นจากใจนี่แหละการปฏิบัติธรรมในการปฏิบัติงานของคนยุคใหม่ละ
คนดังของโลกคนนี้ แทบไม่ต้องแนะนำหรือบอกให้ทราบว่าเธอเป็นใคร เพราะคนทั้งโลก รู้จักเธอดีอยู่แล้ว แต่ในส่วนของหนังสือพิมพ์ดี นี้ ประเด็นที่เราสนใจ และยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี 2565 นั้น ด้วยเหตุผลสำคัญนั่นคือเป็นเยาวชน ผู้ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างยิ่งใหญ่ จนถึงมีชื่อเสียง แสดงความสามารถชนะใจคนทั้งโลกอยู่ขณะนี้นั้น ก็เนื่องมาจากเธอได้ปฏิบัติธรรมได้ถูกต้องตรงตามหลักอริยสัจ 4 ของพระพุทธศาสนา โดยที่จะมีความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ความสำเร็จของเธอนั้น มาจากการปฏิบัติตาม มรรค 8 ข้อที่ว่าสัมมาวายาโม ความพยายามชอบ นั้้นเอง ซึ่งดูจากชีวิตจริงของเธอเลย เป็นไปตามหลักความพยายามไม่ท้อถอยเลย ข้อนี้เอง มีความพยายาม ตรงตามหลักธรรมวายาโม อริยสัจ4 ในพุทธศาสนา เห็นได้จากประวัติชีวิตวัยเด็กของเธอ ปรากฎว่าเธอได้ไปฝึกงานเต้นรำอยู่อย่างหนักตลอดเวลา 5 ปีในบริษัทเกาหลีใต้นั้น ไม่ไปไหนเลย ผล ออกมาทำให้มีแต่ความขยันขันแข็งในงานของเธอได้ผลสมบูรณ์ไป ไม่ว่าการร้อง การรำ จนโลกทั้งโลกตื่นเต้นไปกับบทบามทของเธออยู่ขณะนี้
สิ่งที่เป็นเหตุผลนั้น เราได้บันทึกเอาไว้แล้วใน เฟสบุ๊ค phayap ว่า นี่คือกรณีตัวอย่างการปฏิบัติธรรมของเยาวชนคนยุคใหม่ ตามที่ได้ให้หลักการมรรคผลนิพพานไปแล้ว ว่า เพราะคุณยังเด็กอยู่ ดำเนินชีวิตต่อไป ทำการศึกษาให้ดีที่สุด แล้วต้องทำงาน หรือหาอาชีพเสริมเพื่อดูแลชีวิตด้วยตัวเอง พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า พึงทำสิ่งทั้งปวงนี้ สมาธิ หรือลมหายใจ ด้วยความขยันหมั่นเพียร อย่าให้ความเกียจคร้านครอบงำท่าน ความเกียจคร้านเป็นปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงที่คุณต้องฆ่ามัน พยายามพยายามรวย แต่ทุกวิถีทางที่ดำเนินชีวิตทำให้ชีวิตหลุดพ้นจากความเกียจคร้าน ความเกียจคร้านหรือความเกียจคร้านเป็นศัตรูตัวหนึ่งที่คุณต้องฆ่ามันให้พ้นจากใจ เห็นมันเข้ามาในใจแล้วดับความเกียจคร้านจนหมดความเกียจคร้านในหัวใจ แล้วความพากเพียรจะเข้ามาในใจคุณ ทำทุกอย่างด้วยความขยันหมั่นเพียร ไม่มีความเกียจคร้านในหัวใจ นั่นเป็นวิธีที่จะดับกิเลสตัณหาจากตนทั้งหมด ' หัวใจและคว้าชัยชนะมาสู่วิถี Niavana ความเกียจคร้านของคุณคือปีศาจที่แท้จริงในชีวิต การฆ่ามัน หมายถึง ชัยชนะในชีวิตของตน หนทางแห่งความสำเร็จทั้งในอาชีพการงานของคุณหรือความร่ำรวยในโลกแห่งเทคโนโลยีในปัจจุบันและหนทางที่จะเอาชนะทุกสิ่ง กิเลสตัณหาในใจและเข้าถึงโลกของพระนิพพานด้วยความเพียร นี่เป็นวิธีปฏิบัติง่ายๆ ของพระพุทธเจ้าที่สอนถึงพระนิพพาน ง่ายแต่จริง
ลลิสา วันนี้ มีอายุเพียง 24 ปี นั่นคือ งานทำลายความขี้เกียจออกไปให้หมดเกลี้ยงจากดวงจิต แล้วก็เท่ากับบรรลุความขยันขันแข็งล้วน ๆ จากการที่เธอเองได้ฝึกฝนงานเต้นจากสำนักเกาหลี มาอย่างเต็ม ๆ ถึง 5 ปี และความบบรรลุนั้นคือได้ไล่ล้างความขี้เกียจออกไปจนหมดจากจิตใจ(เท่ากับไล่ล้างตัณหาออกไปหมดจากจิตแล้ว) มีแต่ความขยันขันแข็งล้วน ๆ นั้นเอง ซึ่งนี่เองนำไปสู่สมาธิชั้นเยี่ยมเองโดยอัตโนมัติ และเธอสามารถทำได้ตามที่ได้ชี้แนวทางไว้แล้วจึงออกผลมาสู่งานอันยิ่งใหญ่ แต่ประสบความสำเร็จในการงานอาชีพนักเต้นรำ นักร้อง นักแสดงของเธออย่างยิ่งใหญ่ อันเป็นผลจากดวงจิตนั้นไมม่มีมารความขี้เกียจเลยแล้วนั่นแหละนำไปสู่มสมาธิกันจัดเจน ไปทุกด้าน งานเต้นรำของเธอจึงมีผลจากสมาธิอันละเอียดอ่อน พร้อมปัญญา ที่กำหนดแผนงานของเธออย่างมั่นใจเป็นระบบไปอย่างเรียบร้อย ถูกกับวิถีทางแห่งการบันเทิงที่สุดละเอียดอ่อน ถูกใจคนชมไปทั้งนั้น จนโลกทั้งโลกพากันตื่นตะลึงอยู่ในวันนี้ นั้น เป็นผลมาจากการขจัดความขี้เกียจไปหมดสิ้นจากจิตใจเหลือแต่ความขยันขันแข็งอย่างเดียว ความหมดไปจากความขี้เกียจ มีแต่ขยันขันแข็งของเธอ จึงมีแต่การประสบผลสำเร็จในการงานอาชีพไปอย่รงสูงส่งพร้อมความสุขของตนเอง เป็ฯแบบอย่างอันแท้จริงของเด็ก ๆ เยาวชนทั้งหลาย นี่คือประเด็นสำคัญที่เราขอยกย่อง ลาลิสาแบล๊กพิ้งค์ เป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดีพ.ศ.2565นี้
5. เปลว สีเงิน
เรื่องราวของบุรุษอาวุโสท่านนี้ เห็นจาก วิกิพีเดียแล้ว นั้นเหมาะกับการที่จะเอามาประกาศยกย่องเป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช 2565 เลย จึงลงไว้ดังนี้
เปลว สีเงิน
เปลว สีเงินในปี 2553
เปลว สีเงิน เป็นนามปากกาของ โรจน์ งามแม้น ประธานกรรมการบริหารบริหารหนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ นักหนังสือพิมพ์อาวุโส ผู้เขียนบทความวิเคราะห์การเมืองและสังคม ตีพิมพ์ในหน้า 5 ของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ชื่อคอลัมน์ "คนปลายซอย" เคยเขียนบทความวิเคราะห์ปัญหาทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ชื่อคอลัมน์ "สะบัดปากกา ตีแสกหน้า" ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ระหว่างปี พ.ศ. 2523-2534 ใช้นามปากกา "เปลว สีเงิน" ก่อนจะลาออกมาร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามโพสต์ และไทยโพสต์ในเวลาต่อมา
เปลว สีเงิน ได้รับการเชิดชูเกียรติ รางวัล "นักเขียนอมตะ" (อมตะ ไรเตอร์ อวอร์ด) คนที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2548 จากมูลนิธิอมตะ โดยนายวิกรม กรมดิษฐ์ [1]
ประวัติ
โรจน์ งามแม้น เกิดเมื่อ พ.ศ. 2487 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม จบชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัดโพธิ์ กรุงเทพฯ เริ่มเขียนหนังสือเมื่ออายุ 14 ปี เขียนเรื่องส่งหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ เคยเป็นนักการเฝ้าโรงพิมพ์ประชาธิปไตย และฝึกหัดตนเองจนได้เป็นนักข่าวอาชญากรรมของหนังสือพิมพ์เกียรติศักดิ์ พ.ศ. 2514 เป็นหัวหน้าข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์บ้านเมือง และได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าข่าวภูมิภาค เขียนคอลัมน์ข่าวอาชญากรรมใช้นามปากกา "นายจิบ" ด้วยสำนวนสนุกสนานเฉพาะตัว ต่อมาจึงย้ายไปอยู่หนังสือพิมพ์ดาวสยาม
โรจน์เริ่มใช้นามปากกา "เปลว สีเงิน" เมื่อเขียนคอลัมน์ "เตะผ่าหมาก" ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ก่อนจะลาออกไปรับตำแหน่งหัวหน้าข่าวหน้าหนึ่ง หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และเขียนคอลัมน์ "สะบัดปากกา ตีแสกหน้า" ต่อมา พ.ศ. 2534 รับตำแหน่งหัวหน้ากองบรรณาธิการ และเขียนคอลัมน์ "ระหว่างบรรทัด" ในหนังสือพิมพ์สยามโพสต์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาไทยในเครือบางกอกโพสต์ และลาออกไปก่อตั้งหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ตีพิมพ์ฉบับแรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2539 [2]
นายโรจน์ได้รับพระราชทานปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552 โดยทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยให้เหตุผลว่า นายโรจน์ประสบความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชนอย่างสร้างสรรค์และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่นักหนังสือพิมพ์รุ่นหลัง ทั้งในด้านความรู้ความสามารถในการเขียนคอลัมน์ ที่มีสำนวนภาษาเฉพาะตัว การใช้ภาษาไทยเรียบง่ายและน่าสนใจ ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ สามารถอธิบายเรื่องยากให้เข้าใจง่าย
วันนี้ อายุเข้า 78 แล้ว แต่นั้นไปเพิ่มบุคคลิกภาพให้เข้าลักษณะนักปราชญ์แห่งสยามยุคใหม่ ก็ว่าได้ เพราะท่านรอบรู้สถานการณ์บ้านเมือง ทุกด้าน โดยเฉพาะสถานการณ์การเมือง และโดยเฉพาะ เรื่องประชาธิปไตยของชาตินั้น เห็นจากการมองเรื่อง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรีพ,.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นการมองจากหลักการประชาธิปไตยสากล อันน่าเชื่อถือถึงภาวะนักประชาธิปไตยอย่างแท้จริงสำหรับประเทศไทยวันนี้ และนั้นแหละ บ่งบอกถึงพื้นฐานความรู้ในสัจธรรมแห่งชีวิต ตามหลักพระพุทธศาสนาที่ลึกซึ้ง บ่งบอกถึงความรู้แจ้งสัจธรรมปัญหามองไปถึงเหตุและผล ได้อย่างถูกต้องเป็นที่รับรองของสื่อมวชลชนทั้งหลายในวันนี้ ตรงนี้แหละเป็นเรื่องการเมือง ที่ถูกต้อง และท่านได้ยืนหยัดเป็นฐานให้สังคมมาตลอด รู้ไว้ใช่ว่า การเมืองเอง สังคม วัฒนธรรม และทั้ง ยังรู้หลักวิชาโหราศาสตร์ แบบถูกต้อง เพียงดังว่าท่านเป็นโหรคนหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งคนที่เข้าใจโหราศาสตร์นั้นมีน้อย
สิ่งที่เรายกให้เป็นบุคคลแห่งปี นั้นก็มาจาก ความรอบรู้ สติปัญญา มองสังคมออกทุกสถานการณ์ และทั้งมีความคิดอ่านเชิงอริยสัจธรรมอยู่ในตัวเอง นั่นคือ ความีสติปัญญาเอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้าย ได้ดีมาตลอด จนสามารถชี้ทางแก้ปัญหาสังคมมาได้อย่างเรียบร้อยมาตลอด เป็นแบบอย่างของสังคมไทยคนหนึ่งเลยทีเดียว เรา จึงขอยกย่อง เปลว สีเงิน เป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ปีพุทธศักราช 2565 ขอจงประสบแต่ความสุขความเจริญอายุยืนนานเป็นฐานให้สังคมไทยตลอดกาลนานเทอญ
6. ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์
ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ (เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1985) เป็นนักมวยไทยชาวไทย และเป็นอดีตแชมป์โลกมวยไทยซูเปอร์เวลเตอร์เวท ของมวยไทยสภามวยโลกด้วยน้ำหนัก 154 ปอนด์ และอดีตแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี 3 สมัยในรุ่นฟลายเวท (112 ปอนด์) และเวลเตอร์เวท (147 ปอนด์) สังกัดอยู่กับค่ายแฟร์เท็กซ์ยิม ในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
นักมวยไทย ยอดนักสู้ผู้บุกเบิกสร้างชื่อเสียงมวยไทยในต่างประเทศ มีกำเนิด จังหวัดหนองบัวลำพู มีใจฝักใฝ่ในกีฬามวยไทยตั้งแต่เด็ก ๆ และเริ่มขึ้นเวทีชกมวยไทยมาแต่อายุ 6- 10 ปีแล้ว ประกอบกับมีร่างกายที่แข็งแรง เติบโตขึ้นมาเหมาะกับงานต่อสู้แบบมวยไทยนี้เอง จึงกลายเป็นนักมวยไทยผู้มีศิลปะมวยไทยครบเครื่อง หมด ทุกอาวุธไทย ไม่ว่า หมัด เท้า เข่า ศอก และสามารถใช้อาวุธแบบมั่นใจ ตรงเข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ ไม่ว่าอาวุธไทยแบบไหน ไม่ว่า หมัด เท้า เข่า ศอก แม่นยำจนสามารถน็อกคู่ต่อสู้ได้ด้วยอาวุธมวยไทยทุกชนิด จนได้สมญานามว่า ยอดมวยคอมพิวเตอร์ ยอดแสนไกล ฝึกมาแบบมีอาจารย์สอนมาแต่บ้านนอกอีสาณ หากแต่ศิลป์ความชำนาญเฉพาะตัว ตามนิสัยนักมวย นักมวย ทำให้เข้าใจการฝึึก จนที่สุดมาสังกัดค่าย แฟร์เท็กซ์ จากนี้ไป จึงนำไปสู่ความสำเร็จ ในประเทศ แบบเป็นมวยรุ่นใหญ่ ของไทย รุ่น นน.70 กก. จนได้ครองตำแหน่งแชมเปี้ยนมวยลุมพินี สิ่งที่เรายกย่องนักมวยคนนี้ก็คือ การบุกไปต่างประเทศของเขานั้นเอง ภายหลังที่หานักมวยรุ่นเดียวกันมาชกด้วยยากจนไม่มีแล้ว จึงออกต่างประเทศ และไปสร้างชื่อเสียงในประเทศอเมริกา จากการแสดงอาวุธมวยไทยให้คนต่างประเทศชม จนมองว่ามวยไทย อาวุธไทยนี้เป็นสุดยอดอันตราย และเป็นสุดยอดศิลปะการต่อสู้จริง ๆ ของโลกเลย เห็นได้จาก คลิปหลายคลิป นับแต่คลิปของ คำปอย100เรื่อง ที่เอาประวัติการชก ตั้งแต่ปี 2556ถึงปี 2562มาเป็นตัวอย่าง การน๊อคเอ้าท์มวยต่างประเทศด้วยอาวุธมวยไทย อย่างดุดันเหี้ยมโหด
พบว่าช่วงเวลานี้ ยอดแสนไกล แผ่พลังอาวุธมวยไทยในต่างประเทศทั้งสิ้น โดยพบคู่ชกในต่างประเทศเป็นคนต่างประเทศทั้งสิ้น
พ.ศ. 2556 พบ วลาดิเมียร์ คอนสกี้
พ.ศ. 2556 พบ เนมจอน ทูพทาโมฟ
พ.ศ. 2557 พบ ฟาดี้ แอบบุด
พ.ศ. 2557 พบ คริสตอฟ พรูโวสต์
พ.ศ. 2557 พบ ซาลาห์ คาลิฟา
พ.ศ. 2558 พบ ฮามิซ วิลลีย์
พ.ศ. 2560 พบ มาซุด มินาย
พ.ศ. 2560 พบ ไซฟุลลาห์ อัมบราฮาคอฟ
พ.ศ. 2561 พบ หลุยส์ รีดิส
พ.ศ. 2562 พบแอนดี้ซาวเวอร์
นี่เป็นเพียงตัวอย่างการชกกับยอดนักมวยแชมเปี้ยนมวยไทยบ้าง มวยคิกบ๊อกซึ่งบ้าง ในต่างประเทศ ที่มาถูกยอดแสนไกล พิชิตลงอย่างไม่อาจจะป้องกันตนไว้ได้เลย และที่น่าชื่นชมก็คือรูปร่าง มักเสียเปรียบมวยต่างชาติ เช่นสูงกว่าไปเยอะ ต่อน้ำหนักให้ แต่ยอดแสนไกลกลับแสดงถึงความเป็นนักสู้ที่ไม่ถอย และชนะได้เข็มขัดโลก แบบน๊อคเอ้าต์ ของแสนไกลแฟร์เท็กซ์ ในยก 1 ยก 2 แทบทั้งหมด จนได้รับรายชื่อว่า มวยอันตรายสุดโหดของไทย นั้นเอง ซึ่งตรงนี้เอง ที่เป็นความหมายอันยอดเยี่ยมของนักมวยไทยในต่างประเทศ
นับแต่ คู่แรก พ.ศ.2556 ชกกับ วลาดิเมียร์ ลินสกี้ ยอดแสนไกลหนุ่มกว่า อายุ27 ปี สูง 171 ซม. นน. 70 กก. ลินสกี้ 29 ปี ส่วนสูง 184 นน. 73 กก. โดนหม้ด เท้าเข่าศอก อย่างสาหัส แต่ทนไปได้ถึง 5 ยก ยอดแสนไกล ชนะคะแนน คนต่อมาๆ โดนน็อคหมด ในยก 1 ยก 2 นั้นเอง มีพิเศษ พ.ศ. 2560 ชกกับ มาซุด มินาย แบบกติกาพิเศษชกกัน 1 ยก 9 นาที ไม่มีการนับคะแนน ครบ 9 นาทีเสมอกัน แต่พอเอากันจริง ไม่ได้ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำ มาซุดถูกไล่เข้ามุมในเวลาเริ่มชกวินาทีแรก แล้วโดนหมัดนับครั้งที่ 1 ต่อมาอีกนาทีเดียวกัน นับครั้งที่ 2 ต่อมาอีกนาทีเดียวกันนั้นเอง นับครั้งที่ 3 กก.เลยกลัวว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ก็เลยจับยึดตัวให้หยุดชก เลย 9 นาที่ นั้นเพียงไม่ถึงนาทีก็คว่ำไปแล้ว อันแสดงความดุเดือดของอาวุธมวยไทย
นี่แหละเราจึงยกให้เป็นนักมวยไทยผู้มีอาวุธมวยไทยปราบโลกได้อย่างดูเดือด น่าเกรงขาม ทำให้มวยโลกใฝ่มาศึกษามวยไทยกันทั่วโลกเลยทีเดียว และ สำหรับ ยอดแสนไกลเขายังแสดงออกถึงความซื่อตรงต่อวิชาชีพเขา นั่นคือเขายังได้พบนักมวยไทย ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาหลัง ๆ นี้แทบทุกคน แม้เขาจะแพ้บ้างก็มี ชนะก็มี แม้นักมวยต่างประเทศก็มีที่เขาพ่ายแพ้ อันเป็นเหตุมาจากการเป็นอนิจจังของสังขาร เป็นต้น แต่เขามองว่าเป็นเรื่องวิชาชีพมวยไทย ที่ควรเคารพ และท้ายสุดที่เป็นเรื่องสุดตื่นเต้นของวงการมวยโลก จีนได้เสนอให้ยอดแสนไกล พบ บัวขาว โดยมีรางวัล ถึง 30 ล้านบาท แต่ นั่นอาจจะเป็นเหตุที่เหมาะสม สำหรับยอดนักมวยคนนี้ ที่เขาประกาศแขวนนวมไปแบบที่น่าชื่นชม เราจึงเห็นว่ายอดมวยไทยคนหนองบัวลำพู ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ คนนี้ เป็นนักมวยที่แสดงจิตใจนักกีฬา และจริยธรรมแห่งอาชีพมวยไทยไว้อย่างน่านับถือ เลย ทีเดียว จึงของประกาศเป็นบุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2565 ณ โอกาศนี้ ขอให้ดำรงเกียรติยศชื่อเสียงมวยไทยต่อไปชั่วกาลนานเทอญ
7. Gothami Huang
Gothami Huang เยาวชน อิตาลี ขณะที่ได้พบเธอโพสต์ในนาม Gothami Huang Gautama Buddha and Buddhism GBB-G เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 02:56 น. ด้วยข้อความภาษาอังกฤษว่า
I am 22 years old now and I was only 19 when I decided to practice Buddhism regularly. In my country, Italy, young people are not religious. People around me told me that it was foolish to dedicate my youth to religion. But I think it’s the best choice in my best life. Everything is impermament, only Buddha Dhamma give us certains.
1 มิถุนายน เวลา 02:56 น.
ซึ่งแปลโดยกูเกิลแล้วได้ความว่า
ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปี และอายุเพียง 19 ปีเท่านั้นเมื่อตัดสินใจปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ในประเทศของฉัน อิตาลี คนหนุ่มสาวไม่นับถือศาสนา คนรอบข้างบอกฉันว่าการอุทิศเยาวชนให้กับศาสนาเป็นเรื่องโง่ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในชีวิตที่ดีที่สุดของฉัน ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงธรรม พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เราแน่นอน.. .....
พร้อมลงภาพขณะปฏิบัติบูชา และสมาธิของเธอหลายภาพ ทำให้เห็นว่า บุคคลนี้ เป็นเยาวชนที่มีจิตใจสงบลึกซึ้ง และมีปัญญาที่รู้แจ้งสัจธรรมพุทธ ในเรื่องที่เธอบอกว่าเป็น อนิจจัง( impermanent) และทั้ง ๆ ที่เธอได้รับการไม่ยอมรับในคนอิตาลี รอบ ๆ ตัวเธอไปทั้งหมด แต่เธอก็ยืนยันว่า การนับถือศาสนาพุทธ นั่นเป็น วิถีทางชีวิตที่ดีที่สุดของเธอในชีวิตนี้ นั้นแสดงถึงปัญญาและสมาธิชั้นสูงเลยทีเดียว และภาพของเธอนั้นเอง ที่บอกถึงความศรัทธา ปัญญา ในพระพุทธเจ้า ....เช่นนี้ เป็นเยาวชนที่หาได้ยากในโลกเลยทีเดียว และแน่นอน มีความหมาะสมที่จะยกย่องเธอเป็นบุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดีเลยทีเดียว และเราก็ขอยกย่อง Gothami Huang เยาวชนอิตาลี อายุ 22 ปีเป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช2565 และยังฝากความหวังไว้ที่เยาวชนอิตาลีคนนี้ ให้ได้ประสบมหาปัญญา ฝ่าฟันอวิชชาไปสู่ความรู้แจ้งมรรคผลนิพพานสูงสุดในยุคนี้ชาตินี้เป็นแบบอย่างผู้นำทางคนยุคนี้สู่ความพ้นทุกข์นิรันดร ด้วยเทอญ
ความคิดเห็น …
มีความคิดเห็นต่อโพสต์ของเธอ 207 รายการ รวมทั้งของเราเองด้วย ดังนี้
[1.] @Phayap Panyatharo
💛Yes I agree wiith what you say : I am 22 years old now and I was only 19 when I decided to practice Buddhism regularly. In my country, Italy, young people are not religious. People around me told me that it was foolish to dedicate my youth to religion. But I think it’s the best choice in my best life. Everything is impermament, only Buddha Dhamma give us certains .....ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปี และอายุเพียง 19 ปีเท่านั้นเมื่อตัดสินใจปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ในประเทศของฉัน อิตาลี คนหนุ่มสาวไม่นับถือศาสนา คนรอบข้างบอกฉันว่าการอุทิศเยาวชนให้กับศาสนาเป็นเรื่องโง่ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในชีวิตที่ดีที่สุดของฉัน ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงธรรม พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เราแน่นอน.. .....ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปี และอายุเพียง 19 ปีเท่านั้นเมื่อตัดสินใจปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ในประเทศของฉัน อิตาลี คนหนุ่มสาวไม่นับถือศาสนา คนรอบข้างบอกฉันว่าการอุทิศเยาวชนให้กับศาสนาเป็นเรื่องโง่ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในชีวิตที่ดีที่สุดของฉัน ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงธรรม พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เราแน่นอน..... And think you're coming to the true way of life, and to get true way of Buddhism, to lead our life well with your normal life...... I mean as the one who get a life, to live with the life, to safe to live, the life as your common life walks while you always think of Buddha and His teaching, the way to overcome all lust, or all lustful desire . Only try to clear one's heart, your heart, to clean all lust desire in your heart, till finding by oneself that all lust desires in your heart has all gone away, at that time you see in the inner part, of your life all clean and empty, the most clean of a bright light and become noble, away from the human world, to NIRVWANA. That's the most richest life of life. It's the noble life. Hope you'll try hard to reach the new world of Buddha..where all sufferring lost by the one's noble intelligence. 💛💛💛
-----
ถูกแล้วครับ ฉันเห็นด้วยกับคำกล่าวของเธอที่ว่า นั้น ..... 💛 I am 22 years old now and I was only 19 when I decided to practice Buddhism regularly. In my country, Italy, young people are not religious. People around me told me that it was foolish to dedicate my youth to religion. But I think it’s the best choice in my best life. Everything is impermament, only Buddha Dhamma give us certains. ..ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปี และอายุเพียง 19 ปีเท่านั้นเมื่อตัดสินใจปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ในประเทศของฉัน อิตาลี คนหนุ่มสาวไม่นับถือศาสนา คนรอบข้างบอกฉันว่าการอุทิศเยาวชนให้กับศาสนาเป็นเรื่องโง่ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในชีวิตที่ดีที่สุดของฉัน ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงธรรม พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เราแน่นอน..... 💛 และคิดว่าเธอได้มาสู่เส้นทางที่ถูกต้องแล้ว และได้พบทางที่ถูกที่ไปสู่พระพุทธศาสนา เพื่อที่จะนำชีวิตของเราเองไปได้อย่างดีบนวิถีทางปกติคนทั้งหลาย ฉันหมายความว่า ในฐานะที่คนๆ หนึ่งผู้ซึ่งมีชีวิตขึ้นมา เอาชีวิตให้รอดตายแล้วพาชีวิตตนนั้นเดินตามทางแห่งชีวิตคนทั้งหลายมาตลอดนั้น เธอนั้นคิดถึงพระพุทธเจ้าเสมอมาไม่เคยหยุดลงเลย และคิดคำสอนของพระองค์มาตลอด คำสอนที่บอกหนทางที่กำจัดกิเลศ และความปรารถนาในกิเลสกามตัณหาอันเป็นความหยากในดวงใจทั้งหลายลงให้ได้ โดยที่เพียงเราพยายามชำระดวงจิตของเราให้ขาวสะอาด...จนที่สุดได้พบเห็นด้วยตนเองว่ากิเลสกามตัณหาความหยากทั้งหลายได้หายไปหมดสิ้นจากดวงใจ ภาคภายในของเรา ได้เห็นว่าความอยากทั้งหลายในภาคภายในหายไปและเกิดความว่างเปล่าในดวงจิตของเราขึ้นมา ได้พบแสงอันเจิดจ้าที่สะอาดเอี่ยม นั้นแหละได้พบทางอันสูงส่งประเสริฐที่ตรงสู่โลก นิพพาน แล้ว นั้นแหละเป็นความร่ำรวยที่สุดของชีวิตเป็นชีวิตที่สูงส่งประเสริฐล้ำเลิศ ที่รวมปัญญาอันแจ่มจ้าชนะปัญหาทุกประการในโลกนี้ หวังว่าเธอจะทำความพยายามอย่างหนักต่อไปเพื่อได้พบโลกใหม่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.... 💛🐔
[2.] @Phayap Panyatharo
💛AS you're a young one. Go on on your life. Do the best of your education, and you have to do job, or to get your occupation in order to look after your life by yourself. The budhadhamma teaching is to do all these things everything, meditation, or breathings, with your full diligence, and not let laziness overcome you. Laziness is the real great Devil you have to kill it. Try your attemp to get rich, but all the way the life walks make the life away of laziness. Laziness or Idleness is the one's enemy which you have to kill it away from your heart. See it's coming to the one's heart and kill all laziness till no laziness in your heart then the diligence come to your heart you do anything any jobs with all diligence, no laziness in your heart. That' the way to kill all lustfull desires from one's heart and get victory to the way of Niavana your laziness is the real Devil in one's life to kill it mean victory in one's life the way of success in both your occupation or getting richness in the world of technology today and the way to overcome all lustful desires in your heart and reach the world of Nirvana by the way of diligence. This is the simple way of practice of Buddha teaching to Nirvana It's simple but it's true.💛💛💛
ในฐานะที่เป็นเยาวชนอยู่ จงเดินชีวิตของตนต่อไป ทำดีที่สุดในเรื่องการศึกษาและจำเป็นต้องมีงานทำ หรือการประกอบอาชีพ เพื่อเลี้ยงชีวิตด้วยตัวเราเอง มีคำสอนทางพุทธธรรมก็คือ ให้ทำสิ่งต่างๆ ทั้งหลายเหล่านี้ แม้การทำสมาธิและเจริญลมปราณ หรือทำงานใดใด ให้ทำด้วยความขยันเต็ม ๆ และไม่ยอมให้มีความขี้เกียจเข้าครอบงำเราได้ , ความขี้เกียจนั้นแหละเป็นมารร้ายตัวโตใหญ่อย่างแท้จริง , ท่านจะต้องฆ่ามันเสียให้ได้ , จงพยายามทำงานจนร่ำรวยให้ได้ , แต่ต้องระวังว่าตลอดเส้นทางเดินของชีวิตทุกระยะนั้น ต้องฆ่ามารคือความขี้เกียจให้หมดลงให้ได้ตลอด , ความขี้เกียจหรือความเงื่องหงอยนั้นเป็นศัตรูของเรา ที่เราต้องฆ่ามันเสียจากดวงใจของเรา , พยายามมองดูการมาของมันและฆ่ามันเสีย พยายามในการงานให้ร่ำรวย โดยงานการของเรานั้นไม่มีความขี้เกียจเลย ฆ่ามันทิ้งหมดแล้ว ก็มีแต่ความขยันจริง ๆ อยู่ในดวงใจของเรา , ทำให้เราทำงานทุกอย่างอย่างขยันขันแข็ง , ไม่มีความขี้เกียจในดวงใจเราเลย , นั้นแหละเป็นวิถีทางนำไปฆ่าสังหารความอยาก ความปรารถนาในกิเลสตัณหาอุปาทาน ได้ชัยชนะไปสู่เส้นทางนิพพานได้ ความขี้เกียจนี้เองเป็นมารปีศาจร้าย เมื่อฆ่ามันทิ้งเสียนั้นก็หมายถึงการได้ชัยชนะในเรื่องแนวทางอาชีพ ความร่ำรวย จากโลกยุคเทกโนโลยี่นี้ และชนะกิเลส ชนะความปรารถนาต่อตัณหาต่างๆ ของจิตใจตัวเอง และนั่นแหละทางสู่โลกนิพพาน อันเข้าถึงได้ด้วยความขยันขันแข็ง นี้เอง นี่เป็นทางปฏิบัติอย่างง่าย ๆ ของพุทธธรรม เพื่อเข้าสู่โลกนิพพาน มันเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่เป็นความจริงสำหรับนักปฏิบัติธรรม 💛🐔
[3.] @Phayap Panyatharo
💛OHO! let me say a little more, About Meditation. I see you're quite well in smadhi I would like to tell that the good smathi is a good advantage for you, but it is not the end, your good meditation will help you to get advantage in order that it will help you to see your true mind, Meditation can help the one to see one's mind You could see dirtiness in your heart. see dirty thoughts dirty desires in your heart and to see the cleanliness in one's mind, to see makes you'll hate a dirty mind, hate dirty desires, and this is the way, to clean the one's mind, to examine the one's mind and try hard, to make mind clean all, clean all empty and you can see can examine it all time, by your good meditation, and when all dirtiness all lustful desires, disappear from your heart, that at once you acchieve noble birth noble life to Nirvana world. Don't think to practice meditation so much...or to follow Jesus Christ or Muhammad for it isn' the top end, the top end is a clean heart By the one who always examines her heart all time and clean her heart all time to destroy all evil lust desires and you will see by your eyes by your inner intelligence, the truth of modern life, the empty heart, where all sufferings can be drove away, disappear, that's the end of the old world, to the new world of NIRVANA. New life, of new world of NOTHING, of no fear at all, of no age : no birth no youth, no old, and no death, of no sufferings, of all eternal happiness. Please try all your young life to the greatest success of Buddha in the today modern world.🐔 💛💛💛
อะโห ! ขอให้ฉันพูดะไรต่อไปอีกนิดหน่อยนะ เกี่ยวกับ สมาธิ เห็นละว่าเธอเก่งสมาธิเลยทีเดียว การเก่งสมาธินั้นแหละนำไปสู่ข้อได้เปรียบในทางปฏิบัติธรรม หากแต่ต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่จุดจบจ๊ะ สมาธิที่ดีของเรานั้นมันช่วยให้ได้เปรียบในเรื่องทำให้เรามองดูจิตใจของเราได้ถูกต้องชัดเจนดี สมาธิย่อมช่วยให้ใครก็ตามมองดู มองเห็นจิตใจตามความเป็นจริงของตนได้ สามารถมองเห็นความสกปรกในจิตใจของเราได้ เห็นความนึกคิดที่สกปรก เห็นความอยากในกิเลสตัณหาต่าง ๆ ล้วนสกปรกได้ชัดเจน และก็มองเห็นความสะอาดในดวงจิตของเราเอง การได้มองเห็นเช่นนี้ จะทำให้เราเกิดความเกลียดชังความสกปรกในดวงจิตของเรา เกลียดชังความใฝ่ปรารถนาความหยากในกาม และนี่เองนำไปสู่ความคิดล้างมันไปเสีย ให้ดวงใจเราสะอาดสะอ้านบริสุทธิจริง ๆ และเมื่อใดที่คุณสามารถขจัดความสกปรก ความใฝ่อยากในกามกิเลสทั้งหลายหมดสิ้นไปได้ เมื่อนั้นเองแหละคุณก็สำเร็จ ได้บังเกิดชีวิตใหม่ทันที นั่นคือสู่โลกนิพพานได้ทันที แต่เรื่องสมาธินี้ อย่าได้คิดฝักใฝ่ฝึกสมาธิไปแรงจัด ถึงขนาดตามไปอย่างพระเยซูคริสต์ หรือ พระมุหัมมัด เพราะสมาธิไม่ใช่จุดจบสูงสุดแต่อย่างใด จุดสูงสุดจุดจบนั้นคือ ทำดวงใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ให้ได้ โดยเหตุที่เราหมั่นตรวจสอบดวงใจตนเองอยู่ตลอดเวลา ด้วยสมาธิอันดีของเรานั้นเอง เมื่อทำลายความหยากในกามกิเลสความสกปรกในดวงใจได้หมดแล้วเท่านั้นเอง ทันใดนั้นก็บรรลุได้ชีวิตใหม่ทันใดเลย ก็จะเห็นเองจากปัญญาวิเศษภายในของตนเอง เห็นความจริงเกี่ยวกับชีวิตที่ประเสริฐ เกี่ยวกับความว่างเปล่าในจิตใจ ที่ซึ่งความทุกข์ทั้งหลายหายไปหมดสิ้น ที่สุดของโลกเก่าของเราไปสู่โลกใหม่แห่งโลกนิพพาน ชีวิตใหม่แห่งโลกใหม่ โลกที่ ไม่มีอะไร ที่ซึ่งไม่มีความกลัว อะไรเลย ไม่มีวัย ไม่มีหนุ่มสาว ไม่มีแก่ และไม่มีความตาย ไม่มีความทุกข์อีกเลย มีแต่ความสุขแบบอมตะนิรันดร ขอจงพยายามนะ พยายามไปตลอดวัยรุ่นของเธอเพื่อไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความสำเร็จทั้งหลายตามแนวทางของพระพุทธเจ้า สำหรับโลกใหม่ยุคทันสมัยยุคนี้เลยทีเดียว สวัสดี! 💛🐔
-----*****-----
-----*****-----
ความเห็นต่อโพสต์ของเธอ :- ของ william Tissa A ยกมาเริ่มต้นเพราะเหตุผลของเขานั่านับถือทีเดียว
@William Tissa A You did the right choice. When you were young, not just you a lot of young people get involved with drugs alcohol and destroy them. But you have chosen the Buddha's path. Now, you can be happier with your life more than with them.The practice of a religious code of ethics will help you to cultivate a good life, and it will never put you on the wrong path. You are truly a good example for young people today. Being a religious person, not shame or crazy like some people think. It's a truly pure and noble thing and it will bring you internal happiness which is money can't buy.
@Ven Ñyãnissãra BhanteRight Intension leading to right understanding... that is noble path.
@Amrish UradeGreat thinking towards peaceful and harmonious life. One should definitely sink into the supreme knowledge of Dhamma.
@Sudarshana JadhavRight ,your decision is adorable best wishes to you sister@Raymond TanWelcome to the Buddhist way of life. You are solely responsible for every of your own actions. May you be blessed with good health and happiness. With Metta 🙏🙏🙏
@Ashin ShakyajiotiCarry on dear friend. One day you will attain inner peace and happiness through practise Meditation.@Deepak GuptaGreat for you and for world also. People can only Happy and peaceful by pure Spritual. Want to meet you if you ever came to India. Pls also visit www.thechitvan.com VrindavanChitvan – Buy Apartments, Flats, Villas & Commercial Property in VrindavanTHECHITVAN.COMChitvan – Buy Apartments, Flats, Villas & Commercial Property in VrindavanChitvan – Buy Apartments, Flats, Villas & Commercial Property in Vrindavan
@Rushal PalwekarSadhu Sadhu Sadhu🙏May you be happy, blessed, peaceful and liberated.🌷@Rinjee BongshaU r Right@Neeraj Jind🙏🙏🙏@Kelly KimYou made the worst decision in your life. Jesus Christ is the truth. There is no other.
@Gothami HuangKelly Kim then what do you do in a Buddhist group? It's stupid and disrespectful to say it to someone of different religion. I don't go to Christian groups making proselytism about Buddhism, so please don't do the same in our Buddhist groups. Have a good life!
@Dedek Hendry YantoKelly KimWkwkwk jesus christ is a bullshit person.. even he is kill no mercy to his enemy when he run to death river... He is no kinddess... He taught is uncosisten.. he say he have a love..but kill his enemy.. what a bullhit... You made worst decision in you life by choose jesus chirst taught..cause hia taught uncosisten.. he will get the karma by kill his enemy.. may be he was in dept hell now
@Mahendrakumar Wankhede🙏Fensca do not worry.. You are in a right path, Dear🙏😊 i'm also in my 20th..and i'm a religious person..Buddhism really make my life better ❤
@Budhan BaruaFensca welcome@Shesherao M GodboleSo sweet your feelings and thoughts are very impressive and at the age of 19 years u have understood about budha is very nice appreciated budha bless you 🙏Sadhu Sadhu Sadhu jai bheem
@Kishan De SilvaA lot of ppl don't understand the Buddha's teachings in East Asia and Sri Lanka. Especially, concerning the inhumane treatment of other sentient creatures in the world. It is important to follow the key precepts taught by the Buddha.
@Vandana Chadha SunejaPositive attitude@Mukul BaruaSadhuSadhuSadhuMy blessing to you.May Almighty Lord Buddha bless you.
@Kiteg Chakma🙏🙏🙏🙏🙏@Guna Dhan ChakmaBuddha bless you for ever and ever to get peaceful and happy till the attain of enlightenment/Nirvana.....
@Jai Prakash Kaimอาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ
@Mutturaj MaaleIam coming medam buddha DHAMMA
@Ramesh Evergreen GurungWow nice one
@P.S. KhobragadeHats off for your Dedication.Buddha dhamma is realy very good for practice and life.@Rabati Mohonอาจเป็นรูปภาพของ นึ่งคนขึ้นไป และข้อความพูดว่า " সা সাধু সাধু"
@Bhante Pragya RatnaGood news Sister,Lord Buddha bless
@Veer SinghneerajYou have taken a wise decision to walk on path to Nibbana. Welcome. Sadhu Sadhu Sadhu.
@Bharat IngleVery true & Your decision is very right ! Namo Buddhay ! ❤❤❤ ! 💜💜💜💜 !
@Hiroshima RamtekeGreatAdv TapasNO RELIGION IS BAD. A religion which teaches us to do crime and hurts others sentiment is bad.
@Siddharth GauthamGreetings from siddharth. Namobuddha
@Rekha BansodNice@Sarin HOGood idea
@C P Madaan Madanvery good
@Gothami HuangThanks to all of you!!
@Udayan BaruaTriple Gem Bless you
@Shilananda International Buddhist Temple.Sadhu, very nice. Always coming to happy & peaceful day. Triple Gem Bless you.
@Ashok Kumar GautamVery good@Tek Rana🌺🌺🌺🙏🙏🙏@Chan Matterhttps://chanmatter.blogspot.com/.../in-buddhism...12. Significance of Establishing the Three VehiclesCHANMATTER.BLOGSPOT.COM12. Significance of Establishing the Three Vehicles12. Significance of Establishing the Three Vehicles@Satyajit BaruaGod bless u.
@Komal SinghThe world's need Buddha
@Jayantha KudahettyVery wise decision. Others will soon follow you. Theruwan Saranai. 🙏
@Bi Tu BaruaYou chosed the right path...Stay with triple gem and walk to the path of bliss Nivvana@Er Harsh Bhanu Bauddh@Chaiy Srisukhadejrejoice, sadhu
@Langesh Kambey ChkzU r thinking it's all about right....only Guatama Buddha can truly make us peaceful and harmonious life...
@Gothami HuangThanks all of you again@Praggaratna Mahatherogoodআইয়ন চাকমা @Lim Guan PhiawAbhijeet KushwahaGreat job 👍👍👍
@Namaku Alan🙏❤️🙏
@Gautam TalukdarMay lord Buddha bless and show you the path!
@Vishal ShindeNamo Buddha's 🙏
@SA Binoy ChakmaI m also Buddhism from Bangladesh. Glad to know sister i like sharing like you the Buddhism in life. 🙏🙏🙏
@Gothami HuangSA Binoy Chakma 💖💖🙏
@Suhas S. LonareYou are so lucky that you understand life at early age. So use your gift. Have a great life ahead . Namo shakyamunaye buddhaya..🙏
@Nir ChTake love sister❤@Gothami HuangNir Ch 🙏🙏💖
@Chandresh TuladharPractise the Dhamma and U will have peace of mind!!!
@Bharat Bhushan Irts RetdGIF "" อาจมี congrats, hearts, love และ Congratulations
@Chandrakant BaviskarVery Nice
@Mahabodhi ShakyaGreat 🙏🏻🙏🏻🙏🏻@Rajesh SuthariVery nice thought.🎉🎊📯🎈🎂🎈📯🎊🎉May Buddha Bless U, Dhamma Guide U and Sangha Protect U🌹🌼🌻🌼🌹🌻@Pranata Barua🙏🙏🙏
@Gothami Huang💕🙏
@Palchhen D ChakthagThanks for inspiring us!!!
@Bablu A🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻@Bhadant BodhiratnaSadhu It's true May The Triple Gem Bless you !!!@Ramanand KushwahqNAMO Budhay
@Siddharth GauthamRamanand Kushwahq Greetings from siddharth. So happy. My district name is Ramnad it is in tamil nadu. Rameswaram is in the district.
@Dharmendra Kaimor KaimorYou are welcome@Sangita Meshramอาจเป็นรูปภาพของ 1 คน , กลางแจ้ง และข้อความพูดว่า " पोस्ट करने वाले:
@tanya_ambedkar Posted .n: शेयरचैट आम्बेडकर सेना क्रोध को प्यार से , बुराई को अच्छाई से ,... GETIT Google Play"
@Shesherao M GodboleBudha bless you heartily welcome to u in budhism
@Pravin Ubale
@R K GautamVery good
@Atul ChakmaRight decision, I appreciate your choice .
@Gothami Huang🙏🙏💕सिरी सुभाष कांबळे Good Decision, spread dhamma seeds. Lots of good washes from India.
@Karuna RatnaRight.
@Arbind KhaBuddhism is best decision in the world
@Udayan BaruaDo good again & again it will be back in your life.
@Anadi ChakmaWise decision u could able to earn lots of merits in the prime of ur youth as life is full of uncertain. Peace is not exist in the materialistic world , inner peace can achieve only through dhamma. Keep it up sis.
@Priyabhonsha BhikkhuNice
@क्षत्रिय राणा प्रताप मौर्यवंशी If you find peace, Namo Budhay will be found in the shelter of the Buddhist
@Thimira Madushanka 🤩❤️❤️
@Dravidian Sidharth AshokMost beautiful
@Arjyo Mitra Bhanteyes only Buddha dhamma gives us certainly .
@Gothami HuangArjyo Mitra Bhante 🙏
@Nirupam ChakmaMay The Triple Gem bless you.
@Billy FitzgeraldWishing you well from Liverpool England.
@Mongbraching Marmaอาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "... "
@Mala Samarasekara❤❤❤❤❤❤❤❤❤ · ตอบกลับ · 2 วัน
@Balu Sonawane🙏🙏🙏
@Saki Choudhuri🙏🙏🙏 appreciate to you sister।
@Swaraj ShakyaGood n well done,🙏
@Ye Yintอาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และข้อความพูดว่า "สาธุ สาธุ สาธุ sadhu sadhu sadhu
@Deopal LamaIf you feel yourself being only you at present that is called boddh. · ตอบกลับ · 2 วัน
@ರಕ್ತದ ಬಣ್ಣ ಒಂದೇ ಮೂಲನಿವಾಸಿ Namo buddaya, very good congrats 👏👏🌷🙏🌷
@Raju Barua🙏🙏🙏
@Angel Chakma AngelThat's true. Buddhism for young students.
@Ing TjuGIF "" อาจมี Youre Doing The Right Thing, Allison Janney, bonnie, mom, Good Decision, Good Call และ Its The Right Thing To Do
@T Wong“Are you oblivious to the sufferings of birth, old age, sickness and death? There is no guarantee that you will survive, even past this very day! The time has come [for you] to develop perseverance in [your] practice. For, at this singular opportunity, you could attain the everlasting bliss [of nirvāṇa]. So now is [certainly] not the time to sit idly, But, starting with [the reflection on] death, you should bring your practice to completion! The moments of our life are not expendable, And the [possible] circumstances of death are beyond imagination. If you do not achieve an undaunted confident security now, What point is there in your being alive, O living creature?”🍂
@T WongReally nice
@Vimotti MkBehold, O monks, this is my last advice to you. All component things in the world are changeable. They are not lasting.Work hard to gain your own salvation.@Gothami HuangThanks all dear friend
@Thero B JhanI wish you all the best in your present & future life !
@Krushna Chandra MohapatraYouth is the best time for practice of a religion. Because if you will spend your youth in a positive way then your future will be bright
@Esor Bhattarai ChhetriYa..thats ur good decision plz move ahead...may lord Buddha bless u🙏🙏🙏
@พงษ์พันธ์ เอมโอษฐ์สาธุ 🙏
@Rajesha ShakyamuniWell, that's really a great step!I know how it feels.Congratulations!
@Indranil BaruaThe right decision ❤️
@Utpala ChakmaVery warm welcome to the sangha. Buddha is beyond religion. Being Buddhist is practicing the dhamma. One doesn't need to wait for old age to practice, here in India Arunachal Pradesh, people practice it since childhood. Once they grow up, they can again make a informed choice to practice it lifetime. It is to live and practice everyday, every single movement.Wish u peace and happiness and lots of metta.
@Pintu CkzI have become pleasured to able to know about you it that, there also follow Buddhism in Italy@Satyajit BaruaCongratulations
@Ramesh Kanti Tashi🙏🙏🙏Namo Buddhayo.. May the Triple Gem Bless you to achieve final goal i.e. Nibbana...🌹🌹🌹@Manendra BaruaBest wishes.
@クマール ヴィカスVery nice, Nam myoho renge kyoBTW, Your name sounds like Vietnamese@Gothami Huangクマール ヴィカス Actually Gothami Huang is not my real name 😋 I chose it as my name as publisher.
@Rajesha hakyamuni Gothami is very Indian or Nepali name
@Eva Fransisca Proud of you 👍🙏
@Ven SumedhWelcome on the path of Dhammaอาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ
@Gilbert Lee ·
@Sonam SuzukiProud of u dea
@Ashim BaruaMay Bhuddya bless u.
@Guddu DhokeMay Buddha bless you good health happiness and wisdom@Eng Wee TeoMay Buddha bless you good health happiness and wisdom
@Kuldeep ShakyaIt is a extremely bad event that happened with buddha'monk. also I criticized such a bad events.buddha'monk only act for to maintain peace and non-violence and also known as spreading the teaching of lord Buddha in the world.
@Gothami Huang Pinki Devi❤️❤️❤️
@Gothami Huang❤❤
-----*****-----
-----*****-----
เราจึงขอยกย่อง อัยย์ เพชรทอง ประพันธ์ กิตติฤดีกุล นูรียา-วิปัสสนา ปราณปรียา มโนบาล เปลว สีเงิน ยอดแสนไกล แฟร์เท็กส์ Guotami Huang เป็๋นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช2565 ขอจงได้พบความสุขความเจริญแห่งชีวิตไปตามหน้าที่อันดีงามดังกล่าวมาแล้ว ตลอดกาลนานเทอญ
โปรดติดตามเรื่องต่างๆของหนังสือพิมพ์ดีต่อไป
บรรณาธิการ
16 ก.ย.2565
เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว
การเมือง
การเมือง: เสนอให้คิด คนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริงๆ
กรณี 8 ปีนายกประยุทธ์ พ้นตำแหน่งไปแล้ว
นักนิติศาสตร์ ผู้เขียนรัฐธรรมนูญ แต่มักเขียนแบบสับสน เพราะไม่เชื่อฟังนักรัฐศาสตร์ เขียนรัฐธรรมนูญแบบไม่เข้าใจรอบรู้เรื่องประชาธิปไตยอย่างรอบคอบรอบรู้พอ
และนักรัฐศาสตร์ที่เข้าใจประชาธิปไตยอย่างรอบคอบรอบรู้ โดยเฉพาะอาจารย์ที่สอนคนอื่น สอนศิษย์ในมหาวิทยาลัยนั้นเอง ไม่มีเลย มีแต่นักรัฐศาสตร์โง่ๆ
อย่างเช่นนายมีชัย ฤชุพันธ์ โผล่ออกมาพูดเรื่องรัฐธรรมนูญ60 ว่าเรื่อง8ปีนายกรัฐมนตรีนั้นก็เพื่อไม่ให้นายกเหลิงอำนาจ
ซึ่งหลักการนายกอยู่ไม่เกิน 8 ปีนั้น เป็นหลักการประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้มองแบบดูถูกดูแคลนอย่างนายมีชัยแบบไม่เข้าใจหลักการที่ตนพูดเลย
ประชาธิปไตยเขามองแบบหลักการพระพุทธศาสนา เรื่องการแบ่งปัน เรื่องการทำบุญทำทานกัน ชาวบ้าน ๆ นี่เอง แต่มาแบ่งปันกันเรื่องอำนาจ เรื่องการเมือง แบ่งปันประชาชนทุกคน ๆ คนละ 1 อำนาจ คนละ 1 เสียง โดยหลักการว่าด้วย ความเสมอภาค Equality หลักเสรีภาพ Liberty และหลักการ ญาติธรรมคือ Fraternity ที่รู้กันดีว่า เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ นั่นเอง มาจากหลักการพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะ Fraternity ที่ตรงกับภาษาวัดเลยว่า ญาติธรรม นั่นเอง(แต่พวกมหาวิทยาลัยศาสตราจารย์ที่จบจากต่างประเทศกลับไม่เข้าใจเลย รู้ประชาธิปไตยไม่เท่าคนวัดด้วยซ้ำ)
ดูจากอเมริกาก็ได้ ก่อนยอร์ช วอชิงตันนั้น คนอเมริกันคิดกันว่าจะปกครองกันแบบไหน เขาก็ตกลงกันว่าเอาตามหลักพระพุทธเจ้า ว่าด้วย การไม่มีชั้นวรรณะ(ความเป็นคนเสมอกันคือเสมอภาค) ทุกคนมีเสรีภาพ(เสรีชนไม่มีทาส เขาจึงทำสงครามทาสจนชนะให้คนเสมอกันมีอำนาจเท่ากัน คนดำก็กลายเป็นคน ๆหนึ่งขึ้นมา เพื่อให้เข้าหลักความเสมอภาคนี่เอง และไทยก็เลิกทาสเหมือนกันคงพอเข้าใจนะ) พอถามไปว่าทำไมจึงเสมอภาค เขาก็ได้คำตอบว่ามาจากหลัก ทุกขัง อนิจจัง อนัตตาของพระพุทธศาสนานั่นเอง เขาจึงเอามาแบ่งอำนาจกันเท่า ๆกัน และประธานาธิบดี ต้องอยู่แค่ 2 วาระๆ ละ 4 ปี แต่ไม่ให้เกิน 2 วาระคือไม่เกิน8 ปีนั่นเอง ก็มาจากเรื่องแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ การแบ่งบุญแบ่งทานอำนาจกันนั้นเอง แต่แม้ศาสตราจารย์ ผอ.นิด้า ก็ยังเคยเสนอไปแบบผิดหลักความเสมอภาค คือ เสนอโง่บริสุทธิ์ว่า ศาสตราจารย์ควรให้ 10เสียง อาจารย์ ดร.ได้ 5 เสียง คนได้ปริญญาได้ 3เสียง คนทั่วไป ชาวนากรรมกร ให้ 1 เสียง นั้นเพราะไม่เข้าใจหลักอนิจจัง อนัตตา เท่าพวกฝรั่งเขานั่นเอง
และนี่เป็นประเด็นหลักที่สังคมไทยจะต้องเข้าใจให้ถูกต้องให้ตรงกันถึงหลักการประชาธิปไตย รวมทั้งวันนี้ ที่มีรัฐธรรมนูญกระพร่องกระแพร่งเพราะคนเขียนเป็นนักนิติศาสตร์ ที่ไม่รอบรู้รัฐศาสตรประชาธิปไตยพอเพียง
แต่ประเด็นคือทำไมนักวิชาการไทย นักรัฐศาสตร์ไทย นักนิติศาสตร์ไทย จึงไม่เข้าใจเลย และจึงไม่ปรากฏว่ามีการให้ความรู้ที่รอบคอบ เรื่องประชาธิปไตยออกไปอย่างถูกต้องรอบคอบ
ดังจะเห็นว่า คนในมหาวิทยาลัย ไม่มีการทำความเข้าใจเลยจาก คำว่า สาธารณรัฐ คำว่า สาธารณรัฐ ที่นักเรียนชั้นประถม มัธยม ยุคนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่อยู่ นั้น พาเดินกางป้ายใหญ่มาในถนนราชดำเนินว่า สาธารณรัฐไทย หมายความว่าอย่างไร ทำไมครูอาจารย์ ในมหาวิทยาลัย ในโรงเรียนสถานศึกษา ไม่อธิบายหลักรัฐศาสตร์ให้เข้าใจกัน ว่า สาธารณรัฐ นั้นมีความหมายที่ล่อแหลมอันตรายอย่างไร จะเป็นสาธารณรัฐได้นั้น ต้องผ่านการปฏิวัติ ขนาดล้มล้างสถาบันกษัตริย์เสียก่อน จึงเอาตำแหน่ง ประธานาธิบดี เข้ามาแทนกษัตริย์ นี่คือหลักวิชารัฐศาสตร์
และเราก็ได้พบความจริงมาตลอดว่า มีความพยายามในการปฏิวัติ ที่เขาประกาศบนเวทีม็อบ 10 ส.ค.2563
ว่า ไม่ใช่ปฏิรูป แต่ปฏิวัติ ซึ่งมันซ่อนความหมายไว้ทั้งสิ้น ซึ่งนักวิชาการนักรัฐศาสตร์นักการปกครองจะต้องพยายามอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ แต่เงียบ !
หมายความว่า ต้องยกเลิกสถาบันกษัตริย์ให้ได้เสียก่อน และความพยายามของพรรคฝ่ายค้าน มีพรรคอนาคตใหม่มาเป็นก้าวไกลทุกวันนี้และพรรคเพื่อไทยวันนี้ ที่สนับสนุนม็อบปฏิวัติ ม็อบทะลุฟ้า ม็อบที่ซ่อนชื่อซ่อนความหมายในทางปฏิวัติล้มล้างสถาบันทั้งสิ้น มาตลอดที่มีรัฐบาลตามหลักการประชาธิปไตยมา ตาม รธน.60
โดยพยายามล้มรัฐบาลมาตลอด 3 ปี มีคนต่างประเทศ คือคนมอนเตเนโกร สนับสนุนม็อบนอกสภามาตลอด 3 ปีถึงวันนี้ ซึ่งมันไม่ถูกหลักการโลก และระบบของประชาธิปไตยเลย แม้การปฏิบัติในสภาผู้แทนราษฎร หรือนอกสภา ม็อบล้มสถาบัน ก็ตาม
ประเด็นก็คือ ทำไมสถาบันการศึกษา ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยมีมากมาย มีเงินเดือนกินคนละมากมาย ทำไมไม่ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยการช่วยอธิบายไปตามหลักการรัฐศาสตร์ ประชาธิปไตยที่ถูกต้องให้ประชาชนเข้าใจบ้าง...แต่แปลก !! กลับไปอธิบายเรื่องที่นอกประชาธิปไตยไปอย่างผิด ๆ มาตลอด เช่นเรื่องสิทธิในการชุมนุม แบบที่ประสานกับองค์กรโง่ ๆ คือองค์กรสิทธิมนุษยชน ตลอดมา เป็นต้น
แม้วันนี้ ที่มีคลิปออกมา มีอาจารย์ 2 ท่าน ออกชื่อเลย ร.ศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ตำแหน่ง ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนานิด้า(แต่ทำไม่ไม่เคยอธิบายการเมืองให้ประชาชนเข้าใจเลย ก็เพราะโง่นั่นเอง) กับ รศ. ดร.เจษฏ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย นี่ก็ไม่รู้ทำอะไรอยู่ ดูบ้องส์ ๆ
ที่ไม่ได้มองเห็นประเด็นความล่อแหลมที่เป็นประเด็นของชาติประชาธิปไตยดังกล่าวมานี้เลย ซึ่งมันแปลว่าไม่เข้าใจรัฐศาสตร์การเมือง ไม่เข้าใจประชาธิปไตย นั่นเอง และนั่นหมายความว่า เข้าใจแบบม็อบเข้าใจ ที่ว่าประชาธิปไตยคือมีสิทธิทำอะไรได้ตามใจนั่นแหละเสรีชน นั้นเอง แม้สิทธิตัวนี้ยังเข้าใจผิดทำผิดไปถึงขั้น จะไปรวมพลไปไล่ใครออกจากตำแหน่งการงานอาชีพเขาก็ได้ เป็นสิทธิประชาธิปไตยแบบนายจตุพร พรหมพันธ์ พาทำโง่ๆมาตลอด ซึ่งเรื่องนี้มันไม่ใช่สิทธิเลย อันธพาลเราดี ๆ ที่ต้องถูกจับไปเข้าคุกได้เลย
2
และครั้นนายมีชัย ฤชุพันธ์ อดีตประธานร่างรัฐธรรมนูญ ออกมา ว่าตนเองร่างรัฐธรรมนูญมาทุกฉบับ โดยเฉพาะร่างให้พวกปฏิวัติ รสช. มา คสช.มา ทุกฉบับก็ว่าได้ และรวมทั้ง รธน.2560 นี้เอง ที่ก่อปัญหาอยู่วันนี้นั่นเอง โดยที่นายมีชัย ไม่เข้าใจว่าเกิดปัญหาขึ้นมาอย่างไร
ดูท่านไม่เข้าใจหลักการแบ่งปันอำนาจเลย ทำไมท่านไม่อธิบายไปในหลักการแบ่งปันอำนาจ 8 ปี อันเป็นหลักการสากลประชาธิปไตยทั่วโลก โดยเฉพาะมหาอำนาจประชาธิปไตยอเมริกา เขาปฏิบัติไปอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยมาตั้งแต่ยอร์ชวอชิงตัน ถึง โจไบเดน กี่ร้อยปีล่ะ ? เพราะเขาเขียนไว้ชัดเจน และระบุความหมายที่ชัดเจนถึงเรื่องที่คนเราจะต้องแบ่งปันกันในการเมืองก็เอาอำนาจมาแบ่งปันกัน จึงเป็นหลักสมานฉันท์ของคนในชาติตามความหมายทางพระพุทธศาสนานั้นเองโดยเขากำหนด ปธน.อยู่ในอำนาจเพียง 2 วาระๆ ละ 4 ปี อยู่ได้ 2 วาระ 8 ปี ครบแล้วก็แม้เก่งขนาดไหนเขาก็ให้ออกให้คนอื่นมารับอำนาจไปแบบแบ่งปันกันไม่เกิน 8 ปี นั่นคือความหมายทางบุญ การแบ่งปันอำนาจให้คนอื่นได้บ้างนั่นเอง มองแบบธรรมะกันไปตรงๆ แบบประพฤติธรรมกันตรงๆนี่เอง และนั่นแหละประชาธิปไตยแท้ แบบอังกฤษ ฝรั่งเศส คานาดา ออสเตรเลีย ...ญี่ปุ่น ทุกประเทศเขามาระบุไว้เหมือนกัน ตรงความหมายของการแบ่งปันตรงกันนั่นเอง แม้อิสราเอล ที่เขาอยู่ท่ามกลางประเทศศัตรู รอบด้าน(ศัตรูที่อาฆาตพยาบาทถึงขั้นต้องล้างผลาญอิสราเอลให้เกลี้ยงแผ่นดินตามคำสั่งพระเจ้าอัลเลาะห์) เขาก็ยังมีการแบ่งปันอำนาจกันไม่ขาด มีการเลือกตั้งทุก ๆ 4 ปี มาตลอด เพื่อรักษาระบบประชาธิปไตยอำนาจเป็นของมวลประชาชน เขายังทำได้ และเข้าใจกันดีถึงระบบนี้อันตามไปถึงความเข้าใจในหลัก อนิจจัง อนัตตา ของพระพุทธศาสนาจึงแบ่งปันกันแบบเสมอภาคได้ มาตลอด
แต่ รธน.60กลับไปเขียนไว้ในอีกที่หนึ่งท้ายๆ แต่เขียนแบบนิติศาสตร์ ที่ไม่ตรงไปตรงมาตามหลักรัฐศาสตร์ว่าด้วยอำนาจทั้ง 3 เขียนไว้ต่างหากในอีกมาตราหนึ่ง เขียนไว้แบบนักกฎหมายเขียน คือไม่คิดว่า การตีความ 8 ปีนี้ต้องตีความไปตามหลักรัฐศาสตร์เอาหลักรัฐศาสตร์เป็นนาย นิติศาสตร์เป็นลูกน้อง หรือแม้จะว่าขี้ข้าก็ได้ เพราะต้องบัญญัติไปตามสาระแห่งรัฐศาสตร์แบบไม่เบี่ยงเบนเลย เป็นบริวารทำตามนายคือรัฐศาสตร์เท่านั้น ไม่ใช่ไปตีความตามหลักนิติศาสตร์ ซึ่งจะทำให้ไม่ตรงหลักประชาธิปไตยไปโดยดี นั่นเอง และ 8 ปี ตามรธน.60 นี้ แค่ตีความว่า เป็นระบบประชาธิปไตยตามหลักรัฐศาสตร์ ต้องไม่ตีความนิติศาสตร์เลย แล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหา นำมาสู่ความวุ่นวายอยู่ขณะนี้เลย... แต่เพราะไม่มีใครอธิบายนั่นเอง แม้คนเขียนรํฐธรรมนูญเอง ก็อธิบายไม่ถูกทั้ง ๆ ที่เขียนออกมาเอง คือทำไมไม่อธิบายว่ารธน.60เป็นรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยตามหลักรัฐศาสตร์ ไม่เหมือนธรรมนูญของคณะปฏิวัติ คสช.57เลย เอามาอธิบายเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างรธน.60 กับ คำสั่งคณะคสช.57 เผด็จการ อย่างไร เพื่อการเรียนรู้ประชาธิปไตยที่แท้จริง ....นั่นก็เพราะไม่มีความเข้าใจพอเรื่องประชาธิปไตยนั่นเอง
รธน.60 ได้กำหนดหลักอำนาจทั้ง 3 ไว้ ตามหลักประชาธิปไตย จึงชื่อว่าประชาธิปไตยแล้ว หลักการที่มา ของสส. ที่มาของ รัฐบาล และหลักการตรวจสอบของ สส. หลักการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งด้านการเงินงบประมาณ และด้านส่วนตัวบุคคล.....นี่แหละนักรัฐศาสตร์ต้องเอามาอธิบายให้ลูกศิษย์ ๆ และประชาชนฟังให้รอบคอบละเอียดหน่อยว่านี่แหละเป็นระบบประชาธิปไตยแล้ว เข้าทางประชาธิปไตยแล้ว มีบกพร่องอะไรก็ค่อย ๆ แก้ไปนั้นต่างหาก อย่างเช่นมีเรื่องที่ต้องแก้ให้เข้าหลักเลยก็เรื่อง สว.มาจากการเลือกตั้ง , หน.พรรคการเมือง ให้นรม.มาจากหน.พรรคการเมือง อย่างเดียว มีสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรกำหนดนอกไปจากนี้จะทำให้สับสนและดูยากทำยาก แต่นั่นแหละ อย่าให้เป็นเรื่องสำคัญกินไปทำตามจังหวะโอกาสรัฐสภาจะทำได้ และนั่นแหละ เอามากำหนดเรื่องวาระการอยู่ในตำแหน่งว่าวาระละ 4 ปี อยู่ได้ไม่เกิน 2 วาระ นั่นอย่างไรเรื่อง 8 ปี... ค่อยแก้ไขไปในสภานั้นเอง อย่าเอาม็อบมาวุ่นวาย ..... แต่....ไม่มีเลย...ไม่มีผู้รู้ทางรัฐศาสตร์มาให้ความรู้เลย...และยังแสดงความโง่ไปอีกต่างหาก....ถึงขั้นไล่ออกไปเสีย... เพราะโง่จนกระทั่ง ยังไปลงชื่อกันตั้ง 105 ชื่อ สนับสนุนเด็ก ๆ เยาวชน(องค์กรเด็กเลวของนายธนาธร) ที่ถูกล่อลวงมาประกาศล้มล้างสถาบันไป 10 ส.ค.2563 ณ มธ.คืนนั้น
นี่แหละประเทศด้อยพัฒนาทั้งสถาบันการศึกษาและการปกครอง ด้อยพัฒนาไปหมด จนน่าเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการปฏิวัติไทยไปเดินตามก้นลาวไปก็ได้ เพราะคิดทำอะไรไปนี่ไม่มีผู้รู้ผู้ที่เข้าใจอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเลย..แม้มาอธิบายก็อธิบายไปแบบลูกศิษย์ม็อบ.... .และที่เป็นเช่นนั้น ก็มาสู่ข้อสรุปวันนี้ที่ว่า ด้อยพัฒนาการเมืองป่าเถื่อนนั่นเอง
ก็คอยดูว่า ศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ที่ก็อยู่ในสถานะ ด้อยพัฒนาอย่างว่ามาตลอดนี่แหละ เขาจะตัดสินออกมาอย่างไร
จะมองประชาธิปไตยเข้าใจประชาธิปไตยแบบรอบรู้ รอบคอบ หรือเปล่า โดยดูว่าเผด็จการ ต่างจากประชาธิปไตยอย่างไร
คนระดับนี้จะรอบรู้เพียงใด
จะเป็นกลาง ตามหลัก มัชฌิมาปฏิปทา หลักเหตุ-ผล แท้ ๆ ตามหลักการพุทธศาสนาหรือไม่ อย่างไร
ระวังจะเหมือนพม่า
คิดหรือไม่ กรุงโรมไม่ได้สร้างวันเดียว ประชาธิปไตยไทยสร้างยากยิ่งกว่าสร้างกรุงโรมนั้นละมัง เพราะความที่รอบรู้เรื่องประชาธิปไตย แทบไม่มีอยู่เลยในคนและสถาบัน ตามที่ได้พบในวันนี้เวลานี้ มันเสี่ยงต่อการนำประเทศไปสู่กลียุคหากคิดเรื่องการปฏิรูปปฏิวัติไทยไปเป็นสาธารณรัฐ โดยพวกคนหนักแผ่นดิน พรรคการเมืองหนักแผ่นดิน ต่อไปอยู่
@สุไหงปาดีชินะกุล ดร.ฆิกเมฆณ ณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 30 ส.ค.2565 09.20 น.
-----*****-----
8 ปี นรม.
ปี 2557 มีอะไร ? คสช.เอารถถังออกมายึดประเทศไทยให้พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้ารัฐบาลชุดใหม่เป็นรัฐบาลเผด็จการเต็มตัว ก็มีฐานะเป็นหัวหน้า คสช. เทียบเท่านายกรัฐมนตรี นั่นเอง แล้วต่อมา คสช.นี้ก็ออกรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มีนายกรัฐมนตรีขึ้นมา ที่เป็นปัญหา8ปีมาขณะนี้ นี่แหละเผด็จการ ที่คนทั้งโลกคนไทยแม้คณะคสช.เองก็เกลียดชังอย่างยิ่ง เขาจึงเขียนรธน.ให้เป็นประชาธิปไตยขึ้นมาวิธีการตั้งนายกรัฐมนตรี จึงเป็นไปแบบประชาธิปไตย คนที่เป็นไปตามคำสั่งรธน.60 เรียกว่าประชาธิปไตย แบบ ธน.ชค. 57 ก็เป็นเผด็จการเต็มตัว ในเมื่อประชาชนไทยเกลียดเผด็จการ ไม่เอาเผด็จการอยู่แล้ว การมีรธน.60จึงบัญญัติเฉพาะนายกรัฐมนตรี รัฐบาลประชาธิปไตยเท่านั้น ตรงนี้แหละที่ต้องเข้าใจ ในรธน.ประชาธิปไตย60นั้น จึงย่อมพูดถึงเฉพาะเรื่องประชาธิปไตย ไม่พูดถึงเผด็จการเลยไม่บัญญัติเรื่องเผด็จการเลย พูดถึงเฉพาะนรม.ประชาธิปไตยเท่านั้น เข้าใจเช่นนี้ ก็จะเข้าใจเรื่อง 8 ปี นายกรัฐมนตรี ที่สาละวนกันอยู่ขณะนี้แบบโง่ ๆ นับแต่การกำหนดที่มาของอำนาจ ให้สส. มาจากการเลือกตั้ง ของประชาชน 60ล้านคนทั้งประเทศ มาเป็นผู้เลือกตั้งนายกรัฐมนตรี มีสิทธิไล่รัฐบาลออกไป มีสิทธิ์ไล่ออกหากทำงบประมาณไม่ถูกต้อง มีสิทธิ์อภิปรายไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือ คณะรัฐมนตรีได้ ไล่ออกได้ แล้วแต่สงสัยอะไรก็ถามไถ่ไล่เอาในสภาได้ นี่แหละอำนาจของประชาชน เพราะเป็นประชาธิปไตยแล้ว ฉะนั้น อะไรที่เขาพูดในรธน.60 เมื่อพูดถึง นรม. 8 ปี ก็หมายถึงเฉพาะ นรม.พันธ์ประชาธิปไตยเท่านั้น คือ นรม.ที่มาตามคำสั่งของรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเท่านั้น ตาม รธน. 60 เท่านั้น ไม่หมายถึงนรม.พันเผด็จการตามรธน.57 เลย สาระของเผด็จการไม่มีอะไรที่รธน.ประชาธิปไตยต้องพูดถึงอีกแล้วเพราะไม่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตย ผู้ที่ร่างรธน.60 ก็ไม่คิดถึงเผด็จการเลยคิดถึงแต่ประชาธิปไตย ไม่เอาอะไรในรธน.57มาใส่ลงในรธน. 60 เลยสักคำหนึ่ง ไม่เกี่ยวข้องเลยทิ้งลงฐานส้วมไปหมดแล้ว ในเมื่อให้มี การเลือกตั้ง มีประชุมรัฐสภา รัฐสภา ที่มาจากประชาชน จึงเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาตามคำสั่ง รธน.ประชาธิปไตย แบบประชาธิปไตย จึงเป็นคนใหม่อีกคนหนึ่งเป็นคนใหม่ตามรธน.รน60 ที่เป็นประชาธิปไตยจึงได้มีนายกรัฐมนตรีประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ 60 ที่เป็นประชาธิปไตย ที่ประชาชน 16 ล้านคนรับรองว่าเป็นประชาธิปไตย คือกำหนดให้ สส.มาจากการเลือกตั้งและนายกรัฐมนตรี มาจากสภาผู้แทนราษฏร นั้นแหละแนวทางประชาธิปไตย อะไรที่พูดไว้ในรธน.60 จึงเกี่ยวข้องกับนรม.ประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับ นรม.เผด็จการ เวลาเขาพูดถึง นรม.8ปี ก็ ย่อมหมายถึงนรม.ประชาธิปไตยไม่หมายถึง นรม.เผด็จการ 57 เลย หมายถึงต้องนับเวลามาตั้งแต่มี นรม.ประชาธิปไตยมานั่นเอง คิดตามเหตุผลรัฐศาสตร์แบบนี้ครับ นรม.8 ปี จึงไม่ใช่เรื่องต้องไปคิดย้อนไปถึง นรม.เผด็จการ รธน.57 ตัดไปเลย เริ่มนับปี นรม.จากวันเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 เพราะรธน.60ประชาธิปไตยเขาจะไม่พูดถึงไม่บัญญัติ นรม.เผด็จการเลย เพราะเป็นประชาธิปไตย บัญญัตแต่เรื่องประชาธิปไตย ก็ต้องตีความแบบประชาธิปไตยสิ...
@สุไหงปาดีชินะกุล ดร.ฆิกเมฆณ ณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ ... 13ก.ย.65 24.50.20
การศาสนาสากล
บทที่ 1 เรื่องมุสลิมไทย ทำความเข้าใจเบื้องต้น เกี่ยวกับอิสลาม
เนื่องจากในระยะนี้ ได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ ในลัทธิ นิกาย ศาสนาต่างๆปรากฏในสังคมไทยอย่างมากมายเป็นประจำวัน มีเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็เรื่องศาสนาอิสลาม ล่าสุดมีกรณีหญิงไทยมุสลิมพาตัวเองออกมาจากระบบศาสนาอิสลาม มาเป็นพุทธไทยได้พูดเรื่องราวของอิสลามออกมา แบบคนฉลาดมีการศึกษา มีปัญญา มีความรู้จริงในศาสนาอิสลามและรู้เลยไปถึงสัจธรรมพุทธระดับลึกซึ้งกว่าพุทธคนอื่น (ที่เรียกเธอว่าน้อง วิปัสสนา นั่นเอง) ที่น่าสนใจมาก และพูดถึงเรื่องราวของศาสนาพุทธที่น่าสนใจมาก ปรากฏตาม ยูทูบของ อปพส.(องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ)...
และเรื่อง ที่คนไทย คนมุสลิมทั่วไปทั้งโลก ไม่รู้เรื่องเลย ก็คือ เรื่องระบบการปกครองอิสลาม ที่ สตรีคนนี้เล่าว่าเป็นการปกครองโดยระบอบคอรีฟะห์ การปกครองโดยผู้นำศาสนาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งหมายถึงประเทศไทยขณะนี้ ที่มีกฎหมายอิสลาม กำหนดให้หัวหน้ามุสลิมประจำจังหวัด เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ในประเทศอิสลามเองหมายถึงศาสนาเป็นผู้ปกครองโดยตรง ไม่ใช่ที่ปรึกษา...(คือความพยายามไปสู่จุดหมายสูงสุดที่ว่า อัลกูรอาน คำสั่งพระเจ้า ต้องเป็นรัฐธรรมนูญของประเทศทั้งหลายทั้งโลกนั่นเอง) ซึ่งนี่อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ระบบอิสลามมักแตกแยกกันเองเพราะระบบอำนาจไม่สอดคล้องสัจธรรม หรือธรรมชาติแห่งอำนาจ) ...
นั้นแหละทำให้ไม่ใช่ลักษณะของศาสนา แต่เป็นการเมือง อิสลามจึงเป็นปัญหาของแม้คนมุสลิมเอง โดยประเด็นต้นๆเลยก็คือความจริงที่ว่า การที่เป็นมุสลิมนั้น เป็นโดยการถูกกำหนดให้เป็นมุสลิม ตามสถานการณ์บีบบังคับให้เป็นโดยตลอดมาแต่ต้น จนถึงทุกวันนี้มุสลิมจึงไม่รู้ความจริงอะไรเกี่ยวกับสัจธรรม ที่เป็นเรื่องธรรมชาติแห่งชีวิต แม้คำสอนของอิสลามเลย (การที่มุสลิม หรือแม้นักปราชญ์มุสลิมจะรู้แจ้งจริงในคัมภีร์อัลกูรอานของเขานั้นจะต้องรู้คัมภีร์อีกเล่มหนึ่งก่อน นั่นคือ ไบเบิล จึงจะรู้ความจริงแท้ของเรื่องราวทั้งหมดในคัมภีร์อิสลาม...การศึกษาเฉพาะคัมภีร์อัลกูรอานนั้นเท่ากับการศึกษาไม่เต็ม ได้เพียง 50 %มีความบกพร่องไปตลอด..หมายถึง นักการศึกษามุสลิมเลยโดยตรง) ........ บทความต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่เราพยายามให้ความรู้เบื้องต้นๆแก่มุสลิมเอง และแก่ประชาชนไทย คนทั่วไปด้วยในเรื่องศาสนาสากล ซึ่งเราได้ให้ความรู้ประจำเกี่ยวกับศาสนาสากลมาตลอด ใน นสพ.ดี โปรดติดตามใน นสพ.ดี อินเทอเนตได้:-
นี่คือบทความที่อ้างดังกล่าว ที่เคยนำลงแล้ว นี่เป็นการก๊อปปี้มาใหม่ โปรดติดตาม :-
---- ช คงจันทร์กลุ่มสมาพันธ์ชาวพุทธภาคใต้
ห้ามขยายมัสยิดไปต่างภาค ต่างจังหวัด หากขยายเท่ากับขยายความรุนแรงไปภาคอื่น วันข้างหน้าเกิดปัญหาแน่....อยู่ส่วนไหนของโลกบ้างที่มันสงบสุข.(ต้องเข้าไปศึกษาและเรียนรู้คำสอนของศาสนานี้ว่าสอนกันอย่างไร...เมื่อเขามองคนต่างศาสนาเป็นศัตรู ต้องทำลาย)
Phayap Panyatharo
เมื่ออ้างตำราหรือคัมภีร์อัลกูรอานนั้น แม้คนมุสลิมเองนั้นแหละที่ไม่เข้าใจ และถูกหลอกมาตั้งแต่ต้นแล้ว กลายเป็นทาสผู้รับใช้ของ มุฮำมัด คนกระหายมักใหญ่ใฝ่โต ต้องการเป็นเจ้าโลกด้วยการอ้างว่าตนติดต่อพระเจ้าได้ไม่เรียกตนว่าเป็นศาสดาเมือนศาสนาอื่นแต่ให้เรียก ศาสนทูต ที่หมายถึงตนรับบัญชาจากพระเจ้ามาใส่ทุกถ้อยคำในคัมภีร์อัลกูรอาน
อะไรที่คนๆ นี้พูดออกมาล้วนเป็นถ้อยคำของพระเจ้าใครจะไม่เชื่อฟังไม่ได้ พระเจ้าอัลเลาะห์เป็นผู้ทรงพระมหาเมตตาที่สุดเพราะสร้างโลกให้มนุษย์อยู่ แม้คนเราต้นตระกูลคนบนโลกนี้ ก็อ้างว่าพระเจ้าอัลเลาะห์สร้าง โดยนิรมิตรสร้างผู้ชายก่อน ชื่ออาดัม(ชื่อเหมือนคริสต์ เพราะไปลอกคริสต์มา)แล้วดึงเอาซีโครงด้านซ้ายของผู้ชายออกมาซึ่หนึ่ง มาเนรมิตสร้างเป็นผู้หญิงชื่ออีวา หรืออีฟ(ชื่อ ฮาวาอ์) นี่แหละต้นตระกูลมนุษย์ ตามที่ นายมุฮำมัด เล่าให้มุสลิมทั้งโลกฟัง และ บังคับให้เชื่อ ใครไม่เชื่อถือว่าทรยศ ถือว่าเนรคุณพระเจ้าผู้สร้างโลกให้อยู่ นั้นแหละเริ่มการสอนศาสนาที่เหลวไหลไร้หลักฐานความจริงมาแต่ต้นแล้ว...และที่เป็นปัญหาก็คือ เขาบังคับว่า เนื่องจากโลกเป็นของอัลเลาะห์ โลก มนุษย์ทั้งโลกต้องเชื่อฟัง ในด้านการปกครองการเมือง มนุษย์ทั้งโลกก็ต้องเชื่อฟังพระคัมภีร์อัลกูรอาน ทุกประเทศทั้งโลกต้องยอมรับเอาคัมภีร์อัลกูรอาน เป็นรัฐธรรมนูญสูงสุดของประเทศ หากไม่ยอมรับ
มุสลิมทั้งหลายนั้นต้องเทิดเกียรติ์ของอัลเลาะห์ต้องต่อสู้ให้โลกยอมรับให้จงได้ ยังมีเรื่องการแบ่งฐานะของคนออกไป คนมุสลิมถือว่าเป็นมุห์มิน คนของพระเจ้าที่มีฐานะสูงส่งกว่าคนทั้งหลายเป็นกลุ่มชนผู้ประเสริฐของพระเจ้าอยู่ใต้สายตาของพระเจ้าตลอดเวลา มุสลิมเป็นคนดีจนไม่ยอมให้คนนอกศาสนามาอยู่ร่วมบ้าน ร่วมแผ่นดิน ร่วมประเทศได้ ดังในประเทศไทย มีหมู่บ้านมุสลิมที่ไล่ชาวพุทธออกไปจนเกลี้ยงมีแต่มุสลิมแต่เราไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเขาสอนมาเช่นนี้ ในแผ่นดินอิสลามจึงมุ่งหมายจะให้มีแต่เพียงพวกมุสลิม(ดูพม่า พวกมันได้พวกรวมถึง แสนคนเศษ ก็แบ่งแยกดินแดนพม่าออกไป ปกครองเองแบบซะรีอะห์ ชาวพม่าสุดทน อยู่เฉยไม่ได้จึงเข้าเผาบ้านมุสลิมไล่หนีไปจากประเทศ แม้อ่องซาน ซูจี ก็ยังทนไม่ได้เหมือนกันมาถึงวันนี้)
คัมภีรนั้นเองกำหนดให้ต้องกวาดล้างศาสนิกชนอื่นออกไปนอกหมู่บ้าน นอกเมือง นอกประเทศ คนอื่นศาสนาเชื้อชาติอื่นใดเป็น กาฟีร์ คือ คนต่ำต้อยด้อยค่าคนนอกศาสนาอิสลามที่มีแต่ต้องกวาดล้างให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้ให้จงได้ นั้นเป็นคำสอนในอัลกูรอานจริง ๆ และเมื่อมีการขัดแย้งกัน เขาก็สอนว่า ฝ่ายทรยศต้องได้รับการลงโทษอย่างเด็ดขาดโดยการตัดศีรษะแขวนคอ เผาไฟทิ้ง ฉะนั้น เมื่อแยกเป็นนิกาย ศาสนานี้จึงมักเป็นศัตรูกันเองรบกันเอง อย่างบ้าคลั่ง เช่น สุหนี่ กับ ชีอ๊ะ ทุกวันนี้ หรือกรณีซัดดัม ฮุสเซน ฆ่าหมู่ชาวมุสลิมเผ่าเคิรต 3,000 คน จนสหประชาชาติทนไม่ได้ เอาตัวมาลงโทษแขวนคอไป) นั่นเอง เพราะแต่ละฝ่ายก็มอง ตามคัมภีร์กุรอานสอน ว่า ฝ่ายตรงข้ามตนเป็นผู้ทรยศ และต้องรับการลงโทษด้วยการตัดคอ เผาไฟทิ้ง โดนขว้างก้อนหินใสจนตายนี่เลยกลายไปเป็นศาสนารุนแรงในโลกนี้ มาจนถึงทุกวันนี้
Phayap Panyatharo
นี่คือตัวอย่างความเข้าใจศาสนาอิสลาม ที่คำสอนไม่มีความรอบคอบในหลักการของมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างมนูษย์ในระยะยาวเลยโดยการมุ่งหมายประโยชน์แด่มนุษย์ แต่แท้จริงเพื่อประโยชน์ของมุฮำมัด จึงเขียนคัมภีร์ ออกมาหลอกลวงคนทั้งโลก นั้นเอง พอมีเหตุการณ์ขัดแย้ง มีการแบ่งเป็นกลุ่มเป็นพวกขึ้น แม้เพียงกลุ่มเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มีแต่ความขัดแย้งกันเอง โดยมองจากคำสั่งในคัมภีร์นั้นเอง ที่ว่าผู้ทรยศหรือกาฟิร์นอกศาสนาต้องได้รับการขจัดไปด้วยมาตรการรุนแรงถึงตัดหัว แขวนคอ เผาไฟ แม้ขว้างก้อนหินใส่ไปจนตาย ที่มีฝักมีฝ่ายอยู่ตลอดมา
จึงกลายไปเป็นศัตรูกัน2ฝ่ายตลอดเวลาเมื่อมีสังคมสองฝ่ายเกิดขึ้นในสังคมมุสลิม และแม้สามจังหวัดชายแดนใต้ไทย ก็เป็นเช่นนี้ โดยมีมุสลิมฝ่ายหนึ่งรักความสงบ(แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แล้วแต่ใครสั่งมา) แต่มีอีกฝ่ายหนึ่งหาว่าทรยศเช่นนี้เสมอไป นั่นเป็นผลจากคำสอนที่ลวก ๆ ไร้ความสุขุมในปัญหาสัมพันธไมตรีระหว่างมนุษย์และสัจธรรมว่าด้วยชีวิตนั้นเอง ในประเทศต่าง ๆ โลกก็มีปัญหามาตลอดว่า..ทำไมจึงมีแต่เหตุการณ์มุสลิมอพยพกันตลอดมา 4-5 ปีไม่หยุดหย่อนจากประเทศมุสลิม 6-7 ประเทศ จนทรัมป์ ต้องคิดสร้างกำแพงกันประเทศไว้ไม่ให้พวกมุสลิมหลบเข้าอเมริกา นั้นเป็นเพราะคำสอนของคนธรรมดา ๆ ไม่ใช่คำสอนของพระเจ้าแต่อย่างใดเลย แท้จริง มุฮำมัดนั้นเองเป็นคนเขียนขึ้นเองทุกบท ทุกถ้อยคำ แต่แอบอ้างพระเจ้าอัลเลาะห์ คนไทยจะมองออกว่า แท้จริง เขาก็คือคนทรงเจ้า เหมือนพวกคนทรงไทย-พราหมณ์-พุทธ นั้นเอง ที่มีการ ทรงเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่าง ๆ เช่นลำนารายณ์ เจ้าแม่ตะเคียนทอง เจ้าพ่ออิศวร นารายณ์ เจ้าแม่คงคา ทรงมเหศวรช้างสามเศียร ที่น่ากลัวกว่าอัลเลาะห์อีก นั้นเอง ทราบตรงนี้เถอะ จะเข้าใจดี ว่าทำไมเราจึงไม่ควรที่จะให้มุสลิมขยายตัวออกไปในประเทศไทยเราได้อีกหรือแท้จริงมองเป็นคนทรงไสยศาสตร์อีกพวกหนึ่งเท่านั้นเอง
และมองความจริงเกี่ยวกับอิสลาม พระเจ้าอัลเลาะห์ ศาสนทูต(คนทรงมุฮำมัด)นั้นแท้จริงเพื่อประโยชน์แด่พี่น้องมุสลิมเราเอง ให้พ้นมาเสียจากโลกดำมืดแห่งความรุนแรง ที่มีแต่ปัญหาระหว่างลัทธิเผด็จการเทพเจ้านั้นเองมาสู่เสรีภาพแห่งประชาเสรีเสียที @ สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆณ ณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฎฐ์ 31 ม.ค. 2565 2030 น.
บทที่ 2 ลัทธินี้กล้าทำทุกอย่าง..ทำผิดให้ถูก..ของพวกเขา..รู้ทั้งรู้ว่าผิดก็ทำ..มิจฉาทิฏฐิ...คือลัทธินี้
ไทยพุทธธรรมโพสต์ ไทยพุทธธรรมโพสต์
@Phayap Panyatharo
[1 . ] คัมภีร์เขาชื่อ อัลกูรอาน มุฮำมัดบอกสั่งเลยว่าเป็นคำของพระเจ้าห้ามแก้ไข ห้ามตั้งคำถาม ทำอย่างเดียวคือทำตามคำสั่ง คำร้าย ๆ ตลกๆ โง่ ๆ ที่บอกว่าพระเจ้าอัลเลาะห์โง่ตลกยิ่งกว่าเด็กชั้นประถมวันนี้ก็มี จึงเมื่อไม่มีใครกล้าแก้ไขเลยก็ตกมาถึงทุกวันนี้ ผมจะลองบอกให้ไปอ่านบทสุดท้ายของคัมภีร์เขาเลยนะครับ เหมือนพุทธเราว่าเป็นปัจฉิมโอวาท อย่างนั้น แต่ปัจฉิมโอวาทของอิสลามบทสุดท้ายว่าอย่างนี้ครับ เป็นบทที่ 114 อัล-ฟาติหะฮ์ วรรคที่ 7 วรรคสุดท้าย เขียนว่า
" 7. ได้แก่แนวนำแห่งศาสนาของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้โปรดประทานพระกรุณาธิคุณแก่พวกเหล่านั้น ให้ไปสู่ศาสนาอิสลาม ทุกชนชั้นผู้เป็นมุอ์มิน ยกเว้นแต่พวกกาฟิรทุกประเภท ผู้ซึ่งถูกพระองค์กริ้ว ยะฮูดี และยกเว้นแต่พวกที่หลงงมงายคือพวกนัสรอนี ด้วยเทอญ"
จะอ่านไม่รู้เรื่องครับ ผมจะแปลให้ฟัง เป็นบทสุดท้ายบอกถึงคำสั่งสุดท้ายของพระเจ้าอัลเลาะห์ เรื่องพระเมตตาของพระเจ้าอัลเลาะห์ ทรงโปรดประทานพระกรุณาธิคุณยกย่องคนมุสลิมทั้งหลายว่าเป็น มุอ์มิน ที่หมายถึงมุสลิมเป็นคนผู้ประเสริฐเลิศล้ำเหนือคนผู้นับถือศาสนาอื่นทั้งโลกศาสนิกชนอื่นทั้งโลก คนอื่นเป็นคนป่าเถื่อน ด้อยต้อยต่ำที่ออกชื่อว่า กาฟิร และบอกถึงคน 3 เชื้อชาติ หรือ 3 เหล่าที่ทรงทำให้พระองค์ไม่ทรงกรุณา แต่โกรธกริ้วคน 3 ประเภทนั้น ก็ดูสิ บอกชื่อกันเลยตรง ๆ ว่าให้กวาดล้างทิ้งไปให้หมดโลก คือ
(1) กาฟิร ผู้ไม่นับถือศาสนารอิสลามทั้งโลก รวมทั้งคนไทย ลาว พม่า เราด้วย แม้สหรัฐอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย จีนแดง ฯลฯ ที่ทำพระองค์โกรธกริ้วไปทั้งหมด และมีระบุชัดเจนไปอีก 2 ประเภทคือ (2) ยะฮูดี คือคนอิสราเอล คนยิว หรืออิสราเอล นั่นเองที่มุสลิมต้องล้างผลาญให้หมดแผ่นดิน และอีกพวกหนึ่งคือ
(3.) พวกนัสรอนี (พวกคริสต์ทั้งโลก) คน 3 พวกนี้คือ คนยิว อิสราเอล , คนคริสต์ และ กาฟิร คนเถื่อนซึ่งหมายถึงคนที่ไม่นับถือศาสนาอิสลามทั้งโลก นี้ ถูกกำหนดถูกสั่งว่าเป็นคน3เชื้อชาติที่ทำให้พระอัลเลาะห์ไม่พอใจ ทำให้ทรงกริ้วจัด เมื่อนั้นแปลว่ามุสลิมทั้งหลาย ต้องพากันลงโทษคนทั้ง 3 ประเภทนี้ โดยวิธีการลงโทษผู้ทรยศ คือ ประหารทิ้งนั้นเอง .....นั่นเป็นคำสั่งสุดท้ายในพระคัมภีรอัลกูรอาน ...นี่แหละมีคำถามของคนทั้งโลก อิสลามสมควรเป็นศาสนาหรือ ? ทำไมพระเจ้าจึงอุบาทว์ที่สั่งการล้างแค้นไว้ในบทสุดท้าย สมควรหรือ ? ...
อย่างที่ 6 ประเทศอิสลามตะวันออกกลางยุคนั้น ประกาศสงคราม ยกทัพเข้ารุมอิสราเอลทุกทิศ คราวที่อิสราเอลประกาศตั้งประเทศเมื่อร่วม 50 ปีก่อน ก็เพื่อกวาดล้างชาวอิสราเอล หรือ ยะฮูดี นี้เอง ให้เกลี้ยงทะเลทรายไปเลยตามคำสั่งบทสุดท้ายนี้ นั่นเอง แต่กลับปรากฎว่าอิสราเอลเก่งกว่า ตอบโต้กลับไปทันทีบุกเอาทัพ 6 ประเทศมุสลิมพังพ่ายไปแบบนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ...นั้นแหละประวัติที่น่าขายหน้าของกองทัพพระเจ้า ที่ได้ชื่อว่า มะลาอิกะ ทัพสวรรค์ ยังพ่ายไปไม่เป็นท่า
นั้นแหละ ทำขายหน้าพระเจ้าอัลเลาะห์ขนาดไหนล่ะ จนแทบว่ามุสลิมตะวันออกกลาง 6 ประเทศนั้นผูกคอตายกันเสียหมด อาย ขายหน้าอัลเลาะห์อย่างไรล่ะมาถึงทุกวันนี้ แม้อัลเลาะห์เองก็จะเอาหน้าไปไว้ไหน ช่างไม่สมกับพระเจ้าเสียเลย...นี่แหละเพียงอ่านบทสุดท้ายของคัมภีร์ ก็รู้ถึงความไม่ชอบธรรมของศาสนานี้...และคนมุสลิมก่อการร้ายของศาสนานี้ ......และมุสลิมไทย ที่น่าต้องศึกษาให้รู้จริง ๆ ว่าอิสลามสอนอะไร ? แล้วจะอยู่ไม่ได้.
@Phayap Panyatharo
[2 . ] ก็มีอีกตอนหนึ่งในอัลกูรอานเลย จะเล่าให้ฟัง มุฮำมัดสรรเสริญว่า พระเจ้าอัลเลาะห์ทรงมหาปัญญาหาใครเทียบไม่ได้(คงคิดบร๊าฟพระพุทธเจ้าเรา)และบอกว่าหลักฐานก็คือ อัลเลาะห์ทรงสร้างหลังคาโลกเราแบบที่ไม่ต้องมีเสาค้ำยันเลยหลังคาโลกก็ตั้งอยู่แข็งแรงไม่รู้จักเสื่อมสลายเลยมานับหมื่นนับพันปีมาแล้ว ตลอดจนถึงทุกวันนี้ อันทรงมีแต่พระเจ้าอัลเลาะห์เท่านั้นที่ทรงทำได้ นั่นเพราะทรงพระมหาปัญญาสูงสุดล้ำเลิศ เหนือพระเจ้ายะโฮวา เหนือพระเจ้าอื่นใด นับแต่พรหม อิศวร นารายณ์ พิฆเณศร และคงคิดว่าเหนือพระพุทธเจ้า นั้นเอง แต่เพราะทรงพระมหาปัญญาหลังคาโลกจึงตั้งอยู่ได้เองแบบไม่ต้องมีเสาค้ำยัน ....... บทนี้ คนยุคนี้อ่านแล้วจะงง เรื่องที่นะบีมุฮำมัด เอามาเขียนเรื่องหลังคาโลกว่าคืออะไร แต่แล้วก็เข้าใจกันว่า คำว่าหลังคาโลกก็คือ ท้องฟ้านั้นเอง
ในสมัยนั้น มุฮำมัดก็โง่แสนโง่ มองท้องฟ้าว่าเป็นหลังคาโลก และครั้นต้องการยกย่องพระเจ้าของตน ก็เอาความโง่ของตนไปพูดขึ้นว่าท้องฟ้าเป็นหลังคาโลก ที่ตั้งขึ้นได้แบบไม่มีเสาค้ำยันเลย ก็เพราะมหาปัญญาของพระเจ้าอัลเลาห์นั้นเอง ....... ครั้นคนยุคนี้ได้อ่านพบ ก็คงคิดว่าเป็นเรื่องที่โง่ ๆ ของ มุฮำมัด ที่มองโลกแบน และไม่เข้าใจดาราศาสตร์ มองท้องฟ้าว่าเป็นหลังคาโลกนั่นเอง ก็ตลกสุดยอดเลย อีกเรื่องหนึ่งที่โง่แสนโง่อีกก็คือ มุฮำมัดไปคุยว่าเพราะทรงมหาปัญญาของอัลเลาะห์ จึงทรงพยากรบุตรในครรภ์ของสตรีคนไหนก็ได้ว่าเป็นชายหรือเป็นหญิง โดยที่บทพระคัมภีรนั้นบอกว่า นอกจากพระเจ้าอัลเลาะห์แล้วไม่มีคนที่สองที่บอกได้ว่าลูกในครรภ์สตรีเป็นชายหรือเป็นหญิง .....
ก็ตลกโง่ ๆ อีกเช่นเคย เพราะคนยุคใหม่นี้ แม้เด็กชั้นประถมก็บอกได้ โดยใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ตรวจรู้หมด ว่าทารกในครรภ์เป็นชายหรือเป็นหญิง และสามารถตรวจสตรีมีครรภ์ได้ทุกคนนับร้อยนับพันคนไม่มีผิด นี่ก็เป็นเรื่องโง่ ๆ ของใคร ก็ของ มุฮำมัด นั้นเอง แกคิดจะยกย่องพระเจ้าว่ามีสติปัญญา แต่เอาความโง่ของตนออกมาใช้ เลยกลายเป็นตรงข้ามไปเลย กลายเป็นไม่ใช่แสดงออกถึงมหาปัญญาอย่างไรเลย กลายเป็นเรื่องโง่ที่ตลกมาก ๆ ทำให้คนคิดว่าศาสนาอิสลามนี่เป็นศาสนาตลก หลอกลวง ไร้สาระจริงๆ ควรที่คนมุสลิมชาย หญิงจะได้คิดดูให้ดีและน่าจะหยุดวิถีชีวิตไปตามอิสลามเสีย จะมาสู่ความเสรีภาพอย่างแท้จริงเสียที ...เล่าพอเป็นตัวอย่าง ...
@Phayap Panyatharo
[3.] ก็เรื่องมุฮำมัดมีกามกิเลสจัดมีเมีย 4 คนไม่พอมีต่อ ๆ มาหลายคน จนนับไม่ถูกว่าแท้จริงมีภริยากี่คนแน่ ถามว่าคืนนี้จะไปนอนกับเมียคนไหนมุฮำมัดว่าแล้วแต่ม้าจะพาไปม้าเป็นม้าพระเจ้ามันรู้ว่าจะพาไปนอนกับเมียคนไหน แต่ที่จริงเป็นเพียงข้อแก้ตัวเท่านั้นเองเพราะที่จริง เขาเองเป็นทาสความกำหนัดอยู่แล้ว จึงออกแบบวัฒนธรรมอิสลามออกมาแบบที่เอาเปรียบสตรีมุสลิมไปหมด แบบที่ตนพาทำมาอย่างไรก็ออกแบบวัฒนธรรมแบบนั้นซึ่งเอารัดเอาเปรียบสตรีอย่างไม่ใช่คนๆ หนึ่งนั่นเอง สตรีมุสลิมเป็นเพียงสตรีทาสหรือสัตว์ชนิดหนึ่งก็ว่าได้ เคยมีคนนักการเมืองเอาเด็กอายุ 6 ขวบมามอบให้เป็นภริยา แบบประจบผู้มีอำนาจ ปรากฎในคัมภีร์ระดับล่างว่า
มุฮำมัดพยายามร่วมเพศกับเด็ก6ขวบนั้นแต่ไม่สำเร็จ จึงเลี้ยงเอาไว้ให้เติบโต จนครบ 9 ขวบ จึงร่วมเพศกับภริยาเด็กคนนั้ได้สำเร็จ อย่างนี้ก็มีในประวัติของนะบีมุฮำมัด แต่มองแบบคนทั่วไปก็เห็นว่ามุฮำมัดเป็นคนตัณหาจัดคนหนึ่งนั่นเองและทำแบบอย่างที่ไม่ดีแก่ชาววัยรุ่นของโลก และนั่นก็ไปเปรียบเทียบกับพระเยซูไม่ได้ พระเยซูเองเป็นถึงพระเจ้า ตามที่พระองค์บอกเองว่าพระองค์เป็นพระบุตร ที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ ทรงมีพระบิดาบนสวรรค์ที่ทรงรักพระองค์มากเพราะเป็นพระบุตรองค์เดียว ทรงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันกับพระเจ้ายะโฮวา และทรงลงมาสู่โลกตามความประสงค์ของพระบิดาให้มาช่วยไถ่บาปแด่ชาวโลก ก็ทรงเป็นคนดีทรงประพฤติตนประเสริฐแบบมีแต่ดีมีแต่ความอภัยแด่ชาวโลก แม้ศัตรูของพระองค์
และเมื่อเปรียบเทียบเรื่องกามตัณหา องค์พระเยซูคริสต์ เป็นศาสดาผู้บริสุทธิ์ ไม่แสดงออกถึงความร่านกามตัณหาเหมือนมุฮำมัด แม้ว่า มีหลักฐานเป็นภาพวันอาหารมื้อสุดท้าย ว่ามีภริยาของพระองค์มาร่วมรับประทานอาหารด้วย 1 คนเท่านั้นมีน้อยคนกว่ามุฮำมัดมาก และทรงมีอภินิหาริย์ทรงแสดงฤทธิได้ถึง 22 ครั้ง เช่นทรงไล่ปีศาจหมู หมูทั้งหมู่นับร้อยตัวที่ถูกปีศาจสิง วิ่งไปลงหน้าผาตายหมด ทรงทำคนตาบอดให้หายตาบอด ด้วยเพียงจิ้มเอาดินไปจี้ดวงตาบอดให้ลืมได้เท่านั้น ซึ่งหมายถึงเป็นคนละชั้นคนละระดับภาคจิตกับนะบีมุฮำมัดนั้นเอง เรื่องทรงไปเรียกคนตายในถ้ำฝังศพ4วันแล้วคืนชีวิตได้เป็นเรื่องที่นะบีมุฮำมัดอิจฉาริษยาพระเยซูมากจนต้องกล่าวลบความดีของพระเยซูไปในอัลกูรอานว่าที่ทรงแสดงฤทธิอภินิหาริย์ได้นั้น เป็นเพราะพระเจ้าอัลเลาะห์ทรงให้อำนาจไว้ บอกด้วยว่าอัลเลาะห์ให้คาถาว่า ด้วยทรงพระกรุณา ด้วยทรงพระกรุณา ว่าคาถาแล้ว คนตายคือ ลาซารัส(ชื่อตามไบเบิล) ก็ฟื้นจากความตายเดินออกมาจากหลุมฝ้งศพตัวตนยังห่อด้วยผ้าคลุมศพ
มุฮำมัดพยายามสร้างภาพว่า พระยะโฮวาห์เป็นพระเจ้าที่ต่ำศักดิ์กว่าพระเจ้าอัลเลาะห์ไม่เคยช่วยอะไรพระเยซูได้เลยมีแต่พระเจ้าอัลเลาะห์เท่านั้นที่ช่วย และพูดเกินไปถึงเรื่องว่าแท้จริงพระเยซูไม่ได้ตายบนไม้กางเขน แต่พระเจ้าอัลเลาะห์บันดาลให้เปลี่ยนเอาตัวแทนมาแบกไม้กางเขนถูกตรึงกางเขนแทนพระเยซู พระเยซุถูกพระเจ้าอัลเลาะห์พาหนีไปจึงรอดชีวิต นั้นเป็นการคุยโม้ไปแบบไม่คำนึงความจริงในพระคัมภีรไบเบิลเลย และไม่เคยมีคำยกย่องกลับดูถูกดูหมิ่นพระเจ้ายะโฮวาของชาวคริสต์ ยกพระเจ้าอัลเลาะห์ขึ้นท่วมทับพระเจ้ายะโฮวาไปหมดตลอดทั้งคัมภีร์เขา จึงต่อมาเกิดมีสงครามระหว่างพระเจ้า 2องค์2ศาสนานี้คือ สงครามครูเสด 300 ปี นั่นเอง
@Phayap Panyatharo
[4.] แล้วสำหรับวีรบุรุษมุสลิมสู้เพื่ออัลเลาะห์จนตัวตาย นั้น จะได้ขึ้นสวรรค์ได้อยู่กับพระองค์อัลเลาะห์ แล้วได้รับอาหารวิเศษสุดแสนอเร็ดอร่อย แบบอาหารทิพย์ นั้น มุฮำมัดคงหลงสติเขียนไปว่ามีสุราทิพย์ กินไม่รู้หมด กินด้วยกันกับพระเจ้าอัลเลาะห์ เป็นแม่น้ำสุราไหลเอื่อยไปทั้งสวรรค์ เวลามีงานเลี้ยงฉลองกินไม่รู้หมดไม่รู้อิ่มนั้น มันผิดกับที่บัญญัติให้มุสลิมทั้งโลกมนุษย์ต้องไม่ดื่มเหล้าคนดื่มเหล้าไม่ใช่มุสลิม จนคนมุสลิมไทย พากันดูถูกคนพุทธว่า คนพุทธสู้ศีลธรรมมุสลิมไม่ได้เพราะคนพุทธมักดื่มเหล้าในงานเลี้ยงงานฉลองกันอย่างใหญ่โต แต่มุสลิม เขาไม่มีการดื่มเหล้าเลยและเรื่องไม่กินหมูด้วย เพราะนั่นเป็นการขัดคำสั่งพระเจ้าอัลเลาะห์
ทีนี้เมื่อได้ไปรู้ความจริง จากการอ่านพบในอัลกูรอาน แบบที่ว่า มีลำธารเหล้าทิพย์กินบนสวรรค์ชั้นอัลเลาะห์ ไม่รู้หมด นั้น มันหมายความว่าอะไร ? ก็คงแบบที่ว่ามุฮำมัดหลงลืมสติไป เลยเผลอไปเขียนเรื่องรางวัลนักรบออกมาแบบจะได้พบสุราทิพย์บนสวรรค์อัลเลาะห์กินไม่รู้หมดนั่นเอง ก็เลยกลายเป็นเรื่องตลกโง่ ๆ อีกเรื่องหนึ่งของอัลเลาะห์
ทีนี้ พอมีการรบแล้วแพ้ข้าศึกนี้ คนก็ถามว่าเพราะอะไร ไหนว่าเป็นนักรบที่ไม่มีแพ้ มุฮำมัดก็จะบอกว่า เพราะพระเจ้าอัลเลาะห์ท่านยังไม่ให้ชนะให้แพ้ไปก่อน .....อย่างเช่นแพ้สงครามตะวันออกกลางมุสลิม6ประเทศ รบ อิสลราเอลประเทศเดียวนั้น มุฮำมัดก็ให้แก้ตัวแบบนี้แหละ แม้เรื่องทัพฟ้ามะลาอิกะ คือที่บอกไว้ว่านักรบมุสลิมอย่าห่วง มีกองทัพสวรรค์ของอัลเลาะห์พร้อมมาช่วยรบอย่างแพ้ไม่เป็น แต่ในสงครามทะเลทรายสหรัฐรบอิรัคนั้น โดยที่สหรัฐจะให้เห็นให้ได้ว่าทัพมนุษย์นี้แหละเอาชนะกองทัพฟ้ามะลาอิกะของอัลเลาะห์ได้ และก็ชนะแบบที่สั่งสอนยุทธศาสตร์สงครามทะเลทรายให้อิรัคให้อัลเลาะห์ไปเลย คราวนั้น มองแบบมุฮำมัดก็จะว่าอย่างเดียวกันนี้คือ เป็นความประสงค์ของอัลเลาะห์ ทรงให้แพ้เขาก่อน ตลกไหม มุฮำมัดเฉไปได้ทุกเรื่อง มุสลิมน่าจะรู้ดี
เช่นเดียวกับเรื่องปัจจุบันๆ มุสลิมโรฮินยา พากันอพยพจากบังคลาเทศเข้าพม่า เริ่มตั้งแต่ ร้อยคน พม่าสงสารก็ให้อยู่ไป ก็เข้ามาอีกจนเป็นพันคน เห็นช่องทางก็มากันใหญ่ถึงหมื่นคน พม่าก็ไม่รู้จะทำอย่างไรยิ่งเป็นยุค อ่องซาน ซูจีด้วย ก็จำใจรับ เพราะตนได้รางวัล ยูเนสโกสาขามนุษย์สงเคราะห์มาแต่ที่เกิดเรื่องก็พอได้พวกแสนคนเศษ ๆ ไปแล้ว ก็คิดยึดแผ่นดินเขาตามคำสั่งหัวหน้าใหญ่มุสลิม เพื่อเป็นแดนมุสลิมอันสูงส่ง ที่อยู่เฉพาะมุอ์มินคนประเสริฐล้ำเลิศคนของอัลเลาะห์เท่านั้น คนกาฟิร แบบพม่าป่าเถื่อนไม่ให้เข้ามาอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่เขาเป็นเจ้าของประเทศและมีเมตตาให้มาอยู่อาศัย พวกเนรคุณนี้ก็คิดไกลไปจะยึดเอาพม่าทั้งประเทศเป็นแดนมุสลิมไปเลย
ชาวพม่าคนใจดีแบบไทยเรานี่เขาก็ทนไม่ได้ รวมทั้งรัฐบาลพม่า อ่อง ซาน ซุจี เองด้วย มันทนอดทนกลั้นไม่ไหวจริง ก็มันระเบิดขึ้นคนพุทธพม่าก็พากันลุกขึ้นบุกเข้าไปเผาบ้านเรือนพวกโรฮินยา ไล่ฆ่าไล่ไตี ไล่หนีไปจากประเทศพม่าลงทะเลอันดามานไป ตายไปในทะเลที่ล่องไปมาจากอินโดเนเซียถึงลังกา นับพันนับหมื่นพวกมุสลิมนายใหญ่ก็บอกว่าป็นความประสงค์ของอัลเลาะห์เอง เป็นการทดสอบความจงรักภักดีต่ออัลเลาะห์ พวกนี้ตายไปก็จะได้ขึ้นสวรรค์พบอัลเลาะห์ ได้รางวัลได้ดื่มเหล้าทิพย์บนสวรรค์กับอัลเลาะห์..นี่แหละอิสลาม
@Phayap Panyatharo
[5.] เรื่องโรฮินยา เป็นตัวอย่างได้เยอะเลย เขาทั้งสั่งทั้งสอนสอนคนยากจนทั่วๆ ไปอย่างโรฮินยานี้แหละ ว่า พระเจ้าอัลเลาะห์ทรงอานุภาพระดับสร้างโลกทั้งโลกนี้ให้คนอยู่ได้ ก็ไม่ต้องตกใจไม่มีใครรับขึ้นบกก็ท่องไปท่องมาในทะเลอันดามัน ไปถึงอินโดเนเซียแล้วย้อนกลับมาลังกา ให้สวดละหมาดอ้อนวอนอัลเลาะห์อย่าหยุดกันทั้งวันทั้งคืน แล้ววันหนึ่งจะทรงเนรมิตรเกาะใหญ่ขึ้นกลางทะเลอันดามันให้อยู่ ทำไมพระองค์จะทำไม่ได้ ในเมื่อโลกทั้งโลกก็ยังทรงสร้างให้คนทั้งโลกอยู่ได้
นายใหญ่มุสลิมพวกนะบี พวกอิหม่ามสอน และสอนต่อไปอีกว่า เรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพราะอัลเลาะห์ทรงประสงค์ให้เป็นไปเอง เพื่อทดสอบความจงรักภักดี โรฮินยาก็เชื่อ ท่องไปท่องมาสวดมนต์ละหมาดกันทั้งวันในทะเล ไม่หยุด และเจ็บป่วยตายกันไปโดนพายุเรือจมไปทั้งลำตายไปหมดก็มีเช่นตอนมาฝั่งไทยยุค นรม.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทหารไม่ให้ขึ้นฝั่งไล่ออกไปทะเล(ทำแบบประเทศอื่นแม้เป็นอิสลามก็ไม่ยอมรับขึ้นฝั่งประเทศอิสลามของตนเลย ไม่มีอิสลามประเทศใดช่วยเหลือเลย
น่าแปลกแต่นั่นก็เห็นได้ว่าอิสลามด้วยกันต้องการให้โรฮินยาตายไปในท้องทะเลหมดปัญหา โดยอ้างได้ว่า เพื่อไปอยู่กับอัลเลาะห์มีความสุขบนสวรรค์นั้นเอง) ปรากฎคืนนั้นพายุใหญ่มา เรือ 4-5ลำหายไปหมดเหลือลำเดียว แปลว่าตายหมดร่วมร้อยร่วมพันคน ก็มีทหารไทยเอาไปควบคุมตัวไว้จำนวนหนึ่ง เลี้ยงดูอยู่หลายเดือน แล้วพอครบ กำหนดก็จะให้ลงทะเลไปไปไหนก็ได้ ปรากฎว่าโรฮินยากลุ่มนี้ร้องห่มร้องไห้ ดิ้นกลิ้งกันไปมาบนดินกันอย่างไม่อายใครพร่ำเพ้อว่าขออย่าให้ต้องลงทะเลไปเลย ขอให้อยู่ในแผ่นดินไทยเถอะ จะให้อยู่ในกรงขังแบบนักโทษก็เอา ไม่มีใครใจดีเหมือนคนไทยแล้ว ส่วนทะเลนั้นเขาหลอกว่าพระเจ้าจะเนรมิตเกาะกลางทะเลให้อยู่ จึงพากันลงทะเลมาจนตายไปกันจะหมดแล้วพระเจ้าก็ไม่เคยสงสารเลยล้วนโกหกทั้งนั้น ขอให้อยู่บนเกาะประเทศไทยเถอะ ไม่มีคนประเทศไหนใจดีเมตตาเหมือนคนไทยเลย ...
นี่เป็นส่วนของการข่าวกรองหลุดออกมา และน่าเป็นจริงอย่างนั้นจริงๆ อันตรงตามคำสอนของคัมภีร์อัลกูรอานที่นายมุฮำมัดเขียนขึ้นหลอกคนมุสลิม อันบ่งบอกไปถึง มีการพิศูจน์เห็นจริงไปเรื่อยๆ ถึงปัญหาศาสนาอิสลาม คำสอนที่หลอกลวงที่ไม่สะท้อนถึงความเห็นอกเห็นใจในความเป็นมนุษย์ด้วยกัน และเห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง ตราบใดที่ยังเคารพนับถืออัลเลาะห์ว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดยิ่งไปกว่าองค์อัลเลาะห์ แล้ว คนมุสลิมไม่มีคำว่ารู้บุญคุณคน ไม่มีคำสอนเรื่องกตัญญูกตะเวที แม้ว่าคำว่า เนรคุณเป็นอย่างไร นั่นแหละ เพราะคำสอนจากคัมภีร์อัลกูรอานที่บกพร่อง เห็นแก่ตัว และที่เป็นเพียงเครื่องมือของยุทธศาสตร์สงคราม-การเมืองแบบหนึ่งของนายมุฮำมัดที่ชั่วร้ายไม่ถูกสมัยเสียแล้ว นั่นเอง จนน่าที่คนมุสลิมโลกจะรู้กันดียิ่งขึ้นไป ๆ และวันนี้น่าจะได้ตัดสินใจเดินวิถีชีวิตใหม่ ห่างไกลจากพวกมุสลิมแกนกลางไปเรื่อย ๆ
ที่จริง อิสลามควรเอาอย่างพุทธ ควรมีการสังคายนาพระมหาคัมภีร์อัลกูรอาน เหมือนพุทธมีการสังคายนาพระไตรปิฏกมาหลายครั้งแล้ว ในประเทศไทยเองถึงร่วม 6-7ครั้งแล้ว(พุทธทำได้ด้วยมีการพิจารณาแบบวิทยาศาสตร์ มีเหตุ มีผลเป็นหลักการสังคายนา) โดยเฉพาะบทปัจฉิมโอวาทบทที่ 114 อัล-ฟาติหะฮ์ วรรค 7 วรรคสุดท้ายนั้น ที่ควรจะตัดออกเสียอย่าให้ปรากฏในพระมหาคัมภีร์อีกต่อไป เพราะมันบอกชัดเจนจริงๆ ว่ามุสลิม-มุอ์มิน ทั้งหลาย ต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกที่ไม่นับถือศาสนาอิสลามที่ได้ชื่อว่ากาฟิร คนป่าเถือน(ที่คบกับมุสลิม-มุอ์มิน คนประเสริฐสูงส่งไม่ได้) และยังบอกชัดเจนไปถึง ชาวอิสราเอล(ยะฮูดี) และชาวคริสต์(นัสรอนี) รวมเป็นคน 3 ประเภทในปัจฉิมโอวาทนี้ ที่มุสลิมต้องลงโทษแม้กวาดล้างไปทั้งโลกให้อัลเลาะห์หายกริ้วโกรธ ที่นักรบมุสลิมย่อมรู้นัยยะสำคัญว่าเมื่อพระเจ้าอัลเลาะห์บอกว่าทรงกริ้วใครแล้ว นั้นมุสลิมต้องเดือดร้อน ต้องล้างแค้นแด่คนเหล่านี้ให้สิ้นแผ่นดิน หรืออย่างน้อย มุสลิมต้องมองคนเหล่านี้ว่าเป็นศัตรูตัวร้ายของอัลเลาะห์ ห้ามคบเป็นมิตร ไม่มีการอภัยโทษ
แม้เร็วๆ นี้ ในการชุมนุมมุสลิมโลก การเวียนในพิธีรอบหินดำที่เมกกะ ก็ยังมีนายใหญ่มุสลิมพวกอิหม่ามใหญที่นั่น ประกาศในที่ประชุมว่า ให้มุสลิมทั้งหลายพยายามร่วมกันกวาดล้างอิสราเอลให้หมดไปจากโลก...ซึ่งก็อ้างเอาตามปัจฉิมโอวาทนี้เอง ซึ่งแปลว่า ศาสนาอิสลามนี้ต้องพยายามเอาคนทั้งโลกมาเป็นข้าทาสมุสลิมให้จงได้ หากไม่เช่นนั้นก็ต้องเอามาลงโทษให้หมดให้เกลี้ยงแผ่นดินนั้นเอง ตามความหมายของ บทที่ 114 นั้น ซึ่ง มันไม่สมควรที่จะให้ปรากฏในโลกสมัยใหม่วันนี้ ควรที่จะเอาออกไปเสียควรมีการสังคายนา....
และซึ่งเรื่องราวอย่างเช่นเรื่องมีเมียเป็นเด็ก6 ขวบ ที่บอกรายละเอียดไปเช่นนั้น ว่ามุฮัมมัดพยายามร่วมเพศก็ไม่สำเร็จ เพราะยังเด็กเกินไปต้องเลี้ยงไปจนโตอายุ9ขวบจึงร่วมเพศสำเร็จ อย่างนี้ก็ไม่น่าที่จะเอาไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกูรอาน ควรมีการสังคายนา
และมีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งสอนไปไม่ถูกสมัยเลยควรจะเอาออกก็คือเรื่องที่ว่า อัลเลาะห์ทรงมหาปัญญา บัญญัติให้มหาคัมภีร์อัลกูรอานเป็นคำภีรของโลกทั้งโลก(เป็นรัฐธรรมนูญโลก) รู้วิชาไปหมดโลก สอนสรรพวิชาไว้หมดสำหรับคนทั้งโลกจะเรียนรู้แล้วในพระมหาคัมภีร์อัลกูรอาน จึงไม่จำเป็นต้องมีโรงเรียน ไม่ต้องมีมหาวิทยาลัย ให้ศึกษาเอาจากมหาคัมภีร์ก็จะรู้วิชาต่างๆไปหมด ซึ่งไม่จริงแต่อย่างไร พิศูจน์ได้ เพราะด้านวิชาวิทยาศาสตร์ และเทกโนโลยี่นั้นไม่มีสอนในพระมหาคัมภีรอัลกูรอานเลย ดังปรากฏมาว่า แม้กองทัพฟ้ามลาอิกะของอัลเลาะห์ ก็ยังแพ้อาวุธสมัยใหม่ของอเมริกา ดังสงครามทะเลทรายเลย
นี่ก็น่าจะสังคายนาเสีย มิฉะนั้น พวกมุสลิมแกนหลัก ไร้การศึกษา จะเข้าใจผิดโดยเฉพาะโจรก่อการร้ายมาเลย์-ไทย ที่เชื่อคำสอนเรื่องนี้อยู่แล้วและหวาดกลัวโทษฐานขัดคำสั่งพระเจ้าอยู่ จึงพากันเผาโรงเรียนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และฆ่าครูที่สอนในโรงเรียนไปหลายคน ฆ่าแม้กระทั่งผู้พิพากษา ข้าราชการ หลายโรงเรียน เป็นที่แปลกใจของชาวโลก ในช่วงหลายปีก่อน จนกระทั่งองค์การมุสลิมโลกมาไทยคราวนั้นเพื่อน่าจะมาดูว่า คำสอนเรื่องการศึกษาของอัลเลาะห์นั้นน่าจะผิดพลาดนั่นเอง และก็เป็นเรื่องที่ผิดแน่นอน เพราะเรื่องการประกอบอาชีพทำมาหากินของคนยุคนี้ จำเป็นจะต้องเรียนหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เรียนปริญญาอาชีพไปถึงต่างประเทศ จึงจะทันโลกเขา หากอิสลามเชื่อพระเจ้าอัลเลาะห์ ก็คงทำหมาหากินอะไรสู้ประเทศอื่นเขาไม่ได้ เพราะพระเจ้าอัลเลาะห์ ไม่ได้สอนวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ก็ไม่รู้เลย(ก็ที่ทรงอวดว่าทรงสร้างหลังคาโลกแบบไม่มีเสาค้ำยันนั้นเอง น่าหัวเราะ) ไม่รู้เทกนิคอะไรที่ทันสมัยของยุคนี้เลย หากไปเชื่อตาม ว่ามีความรู้ทุกอย่างในอัลกูรอาน ที่พระเจ้าสอนไว้หมดแล้ว และทรงไม่ให้เปิดโรงเรียนใครเปิดโรงเรียนสอน ก็ถือว่าขัดคำสั่งของพระเจ้า ต้องรับโทษฐานไม่มีความจงรักภักดี ถึงตาย ดังที่ปรากฏในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีการฆ่าครู อาจารย์ และ เผาโรงเรียน กันเป็นว่าเล่นในหลายปีก่อน อันเนื่องมาจากพวกโจรมุสลิมก่อการร้ายมะลายา ยุคมหาเธ โมฮำมัด-นายวันมุฮำมัดนอร์ มะทา........ ที่คงเชื่อในอัลกูรอานว่าเป็นคำสั่งพระเจ้านั่นเอง
ข้อเสนอเรื่องการสังคายนาพระมหาคัมภีร์นี้ จึงน่าที่องค์กรอิสลาม หรือศาสนาอิสลามนั้นเอง จะได้นำไปพิจารณา เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีการสังคายนา แต่คำสอนที่เกินความจริง ไม่ตรงความจริง ผิดไปจากความจริง เช่นที่กล่าวมานั้น ก็ไม่ได้นำไปใช้ตามพระคัมภีร์แล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมสตรี นั้น อย่างไร ๆก็ต้องมีการปรับให้ทันสมัย เพราะสายตาโลกมองอยู่ แม้เรื่องการประกวดนางงามจักรวาล เขาก็ให้หญิงมุสลิม เป็นนางงามจักรวาล ติดต่อกันมาถึง 4 คน 4 สมัย เพื่อให้บุกเบิกความไม่ชอบธรรมต่อสตรีของอิสลามนี้ เช่น อินโดเนเซีย ประเทศมุสลิมที่ใหญ่โตที่สุดในโลก ก็ได้เปลี่ยนแนวคิดอิสลามเดิมไปใหม่แล้ว ดังจะเห็นว่า มีกบฏในอินโดเนเซีย ที่เป็นพวกนักรบมุสลิมหัวเก่าแกนหลักตามพระคัมภีร์นั้นเอง ที่ทำความวุ่นวายในอินโดเนเซีย เป็นกบฏชายแดน โดยมองว่ารัฐบาลอินโดเนเซีย ไม่ปฏิบัติตรงไปตามพระมหาคัมภีร์อัลกูรอาน คิดก่อการร้ายยึดครองประเทศเพื่อนำอินโดเนเซียไปสู่ยุคดั้งเดิมของคติอัลกูรอาน
เช่นเดียวกับ อุสมา บินลาดิน ตั้งตนเป็นกบฏต่อซาอุดีอาระเบีย โดยเห็นว่าทรยศต่อพระคัมภีร์อัลกูรอานไปในประเด็นสำคัญๆเรื่องเงินตรา อุสมา บินลาดิน เห็นว่าซาอุดีอาระเบีย ควรจะช่วยเหลือประเทศมุสลิมยากจนเช่นอาฟกานิสถาน หรือกลุ่มบังคลาเทศ ให้มาก ๆ สมกับที่พระคัมภีร์ระบุคำว่าคนมุสลิมย่อมเสมอกัน การช่วยเหลือย่อมเสมอกันตามคำสั่งพระเจ้า แต่จะเห็นว่า ร่ำรวยเพียงไร รวยเพราะมุสลิมทั้งโลกเดินทางมาทำบุญทุกปีๆ ซาอุดีอาระเบีย ไม่เคยสนใจประเทศมุสลิมยากจนเลย) แต่ไม่สำเร็จ อินโดเนเซียสามารถปราบปรามมุสลิมก่อการร้ายหัวเก่าลงได้ราบเรียบและทุกวันนี้ เป็นอินโดเนเซียมุสลิมยุคใหม่ ที่เท่ากับได้ทำการสังคายนามหาคัมภีร์อัลกูรอานไปใหม่แล้ว นั่นแหละเป็นแบบอย่างในการพัฒนาอิสลามสู่ยุคใหม่ และน่าเป็นแบบอย่างแก่มาเลเซีย แก่อิรัค อิหร่าน ซีเรีย และแก่ซาอุดีอาระเบีย ด้วยเลย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คำสอนอิสลามนั้น ทันสมัย ไม่ขัดแย้งกับคำสอนทางการงานอาชีพยุควิทยาศาสตร์อันจะเป็นผลให้โลก ประเทศต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยง สามัคคีธรรมกันได้นั้นเอง
ภาพที่สะท้อนความไม่ซื่อสัตย์จงรักภักดีอย่างแท้จริงต่อสถาบันต่อแผ่นดิน ซ่อนความสำคัญตัวตนต่อสิ่งที่ไร้ตัวตนแบบโง่งมงายกับพระเจ้าอัลเลาะห์
อย่างตามบทสุดท้าย 114 นั้น มันไม่สามารถจะเชื่อมโยงสามัคคีธรรมระหว่างมุสลิม กับคริสต์ กับอิสราเอล และกับคนทั้งโลกที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามได้เลย การประกาศในการพิธีกรรมเวียนรอบหินศักดิ์สิทธ์ในแต่ละปี ซึ่งประกาศจะให้รวมมุสลิมทั้งโลกกวาดล้างอิสราเอลให้หมดแผ่นดิน จึงยังคงมีมาตลอด และนั่น มันเป็นความชอบธรรม และ เป็นสิ่งที่ศาสนาควรจะประพฤติ ควรกระทำละหรือ ? มีแต่โลกจะเห็นความไม่ชอบมาพากลของอิสลามมากยิ่งขึ้น ......
-----*****-----
บทที่ 3
วรพงศ์ ศิริโชติ :นัยหนึ่งศิล๕ก็เปรียบดังป้ายเตือนทางอันตรายมีอยู่๕ทางเช่น..๑ป้องกันไม่ให้คนไปเกิดเป็นสัตว์๔เท้าฯ
[1.]
Phayap Panyatharo
คนพุทธเข้าใจเรื่องศีล5ดีมากๆ และประพฤติกันเป็นชาวพุทธทั่วโลก ...จะชี้ประเด็นให้หน่อย ความสำคัญของศีล5ก็ดังที่พระท่านบอกตอนบทสรุปให้ศีลของท่านว่า สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ....คงรำลึกได้ นี่แหละท่านบอกว่า "ด้วยศีลนี้แหละนำไปสู่มรรคผลนิพพานได้" และก็จริง เพราะพระอริยบุคคลทั้งหลาย นั้น ท่านจะอยู่ในศีลเป็นปกติชีวิตท่านเลย .......ที่อยากจะบอกก็คือหากเราไม่มีศีล ประพฤติผิดศีลบ่อย ๆ เป็นประจำ เช่น ข้อที่ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ ฆ่าคน นี่ หากเราทำไปก็ตกนรก ข้อที่ 2 โขมยทรัพย์สินเงินทองของคนอื่นเขา ก็ตกนรก ข้อที่ 3 ทำผิดทางกาม ข้อนี้แหละ ที่คนเรา มนุษย์ มักจะเห็นว่า เรื่องกามารมณ์กามตัณหา ที่ให้ความสุขด้วยรูป รสกลิ่นเสียง สัมผัสนั้น แล้วว่าเป็นเรื่องสนุกเรื่องที่ทำชีวิตให้มีความสุข ต่างหาก คิดไปเช่นนั้น แต่ทางพุทธเรา ถ้าไปผิดลูกตนเอง เมียคนอื่น หญิงคนอื่นที่เขาไม่ยินยอมพร้อมใจ ก็ผิด ตกนรก เหมือนกัน ศ๊ลข้อ 4 ข้อ 5 ก็เหมือนกัน ทำผิดไปมาก ๆ มีแต่นำไปนรกทั้งสิ้น ....นี่เป็นสิ่งที่เราควรจะรู้ว่าเป็นหลักสากลเลยทีเดียว อย่างคนคริสต์เขาก็มีศีล เหมือนคนพุทธ นี่เลย คือ ข้อที่ 1 ตรงกัน ข้อที่ 2 ตรงกัน ข้อที่3 ก็ตรงกัน คริสต์มีศีล 10 ที่มากไปกว่าพุทธอีกนั่นก็เพราะเขาเข้าใจ ศาสดาเขาเข้าใจว่าการประพฤติผิดศีลแล้ว ไปนรกกันทุกคนๆ ...แต่ที่เราน่าจะรู้ก็คือ ศาสนาอิสลาม ไม่มีศีล ....และทางปฏิบัติหลายประการผิดศีลไปหมด นับแต่ทำตนเป้ฯศษสนาสงครามที่ฆ่าคนทั้งฏลก ผิดศีลข้อที่ 1 อย่างสาหัส อีกข้อเรื่องศีลข้อที่ 3 อิสลามให้มีเมียได้ 4 คน แต่แท้จริง มีกี่คน เป็นฮาเร็มเลยนับร้อยสองร้อยสาวก็มีมาแล้ว และที่แปลกเมื่อโลกเริ่มรู้เข้าก็คือ ให้เอาเด็ก 6ขวบ 9 ขวบเป็นเมียได้ อย่างนบีมุฮำมัดทำเองเป้ฯตัวอย่างคือ ได้เด็ก6ขวบมาแล้วร่วมเพศกับเด็ก6ขวบ ไม่สำเร็จเพราะเด็กยังไม่โตพอรอไปถึง 9 ขวบจึงสำเร็จ และทำการทรมานสตรี อย่างที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าแบบผิดมนุษย์ อย่างเช่น นายคนนี้ ที่ออกภาพมาให้โลกได้รู้นี้ ที่ว่า เขาไม่เห็นว่า การที่เขาข่มขืนลูกสาวอายุ 6ขวบเขาทรมานลูกตนเองเป็นความผิดอย่างไร ทำไมเขาต้องถูกจับไปสอบเอาความผิด เพราะลูกสาวเขาเอง จะทำอย่างไรกับลูกสาวเขาก็ได้ ในศาสนาอิสลามผู้หญิงเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง นั้นเป็นเรื่องที่โลกได้ยินออกมาจากประเทศมุสลิมเรื่อย ๆ ที่แสดงถึงความไร้วัฒนธรรม และไม่มีศีลในศาสนานี้ อันเนื่องมาจากศาสดาเองทำตนเป็นตัวอย่างย และด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ไปตกนรกตามที่มีคนมุสลิมอินโดเนเซีย เขาตายไปวันหนึ่งแต่ก็ฟื้นขึ้นมาเล่าลสิ่งที่ได้พบว่าก่อนตายเขาได้อธิษฐานขอให้ได้พบท่านมุฮำมัด...พอตายไป คนเฝ้านรกก็พาไปพบ กลับตรงข้ามไปหมดเลย คือ พบอยู่ในนรกกันนับตั้งแต่ศาสนทูตมุฮำมัดเองเลย กับคนมุสลิมทุกคนๆ นับ 1400 ปีมา อยู่ในนรกหมด...คนพุทธคริสต์ฮินดูเราจะไม่สงสัยเลยว่าทำไมมุฮำมัดจึงตกนรก ตามภาพนี้ ก็เพราะแกผิดศีล ข้อ 3 ตั้งแต่เป็นหนุ่มไปจนตายเลย แล้วพามุสลิมทั้งโลกผิดศีลข้อ 3 ไปกับตน จึงจบลงแบบ แน่ละไม่พ้นนรกไปได้
รูปภาพของ ข้อความพูดว่า "มีข่าวทางยูทูป.ว่ามุสลิม ว่ามุสลิม ต่างประเทศ.ตายแล้ว ต่างประเทศ ฟื้นคืนชีพ. มาบอกว่า.ก่อนตาย มาบอกว่า. ภาวนาหาพระศาสดา โมหะมัด TAQLEED ยมทูตนำไปหา.พบเจอ หา.พบเจ พระศาสดาโมหะมัด.ยัน มุสลิมทุกคนที่ตาย ไป1400กว่าปีอยู่ใน อเวจีมหานรกทั้งหมด ไม่พบเจอบนสวรรค์เลย"
[2.]
Phayap Panyatharo
ฉะนั้นนี่คือสัจธรรมเกี่ยวกับความสำคัญของศีล 5 และที่นำไปสู่มรรคผลนิพพานของชาวพุทธ ตามคำพระที่ว่า สีเลนะนิพพุติง ยันติ นั่นเอง ก็น่าที่จะบอกคนมุสลิมทั้งโลกให้ทราบต่อไปด้วย โดยเฉพาะศีลข้อที่ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ศีลข้อที่ 5 ดื่มสุราเมรัย และที่มุสลิมทำกันแบบไม่รู้ว่าบาปเลยก็ศีลข้อ 3 ดูภาพอีกภาพหนึ่ง นายมุสลิมคนนี้ข่มขืนลูกอายุแค่ขวบสองขวบเอง
[3.]
Phayap Panyatharo
ดูเอาเองก็แล้วกันว่ามนุษย์คนนี้คงไม่มีแบบเขาคนเดียว คงมีเยอะไนดงอิสลาม นั่นแหละนรก
[4.]
Phayap Panyatharo
ดูอีกภาพก็ได้ ครูแก่ขนาดนี้หลอกเด็กไปเสพกาม ว่าจะให้สอบได้
[5.]
Phayap Panyatharo
อีกภาพ ที่หญิงมุสลิม เริ่มคิดขึ้นมาว่าเราก็คนเหมือนกัน นั่นสิ เพียงกล้าสู้เท่านั้นเอง
[6.]
Phayap Panyatharo
เราอยากจะปลุกใจหญิงอิสลามลุกขึ้น โดยความคิดสัจธรรมว่า เราก็คนๆ หนึ่ง หญิงก็พอ ๆ กับชาย นั้นเอง ลุกขึ้นมาพิศูจน์ ณ โลกยุคนี้ อย่าหลบซ่อนตัวอยู่ในผืนผ้าแบบที่เขาสั่งแบบนี้ ในความจริงด้านกาม เห็นได้ว่ามุฮำมัดขี้อิจฉาหึงหวง การสั่งให้คลุมผ้าปกปิดไปหมดแบบนี้ โดยความรู้สึกว่า สตรีทั้งโลกเป้ฯของตนคนเดียว หวงไว้ฉพาะตนคนเดียว นั่นเอง ไม่ให้คนอื่น ชายอื่นได้ลิ้มกามกับตนเลย เลยข้อบัญญัติเกี่ยวกับสตรีออกมาอย่างต่ำทรามคิดว่าสตรีเป็นเพียงเครื่องบันเทิงอย่างเดียวเท่านั้น
[7.]
Phayap Panyatharo
และแบบนี้ เขาไม่รู้คิด เพราะศาสนาที่ไม่มีศีล ซึ่งโลกเริ่มมองเห็นว่าป่าเถื่อน และเริ่มมองเข้าไปดู เรื่องทางเพศซึ่งหยาบช้าป่าเถื่อน ตามไปกับศาสดาตนเองตกนรกตามกันไป
[8.]
Phayap Panyatharo
เอาอย่างเธอผู้นี้ ออกไปเสียจากอิสลามเพราะผู้หญิงไม่ใช่คน ผู้หญิงเป็นเพียงสัตว์เลี้ยง...ให้ความรู้สึกทางเมตตาแด่หญิงผู้เก่งกล้าแต่เสี่ยงชีวิตเช่นเธอผู้นี้ นั่าที่องค์กรพุทธ-ชาวพุทธทั้งหลาย จะได้คิดช่วยเหลืออุปการะสตรีมุสลิม ที่หนีมาจากเมืองป่าเถื่อนแบบนั้น..และที่เราต้องทราบ ผู้ที่เคยเป้ฯมุสลิม แล้วออกไปจากมุสลิมนั้น มีโทษถึงชีวิตอยู่แล้ว มุฮัมมัดบัญญัติว่า เป็นการทรยศต่อพระองค์ผู้สร้างฟ้าและดิน นี่แหละเป็นประเด็นเรื่องการสังคายนาพระมหาคัมภีร์เสียที ให้เข้ากับโลก มนุษย์ยุคใหม่
-----*****-----
-----*****-----
-----*****-----
@ แฟ้ม อิสลาม Phayap Panyathar6 เกี่ยวกับอิสลามวันนี้ มิ.ย.2565
โปรดติดตามเรื่องการเผยแผ่ศาสนธรรม
มรรคผลนิพพานไปทั่วโลก
ด้วยการแปลสู่64ภาษาโลกครอบประชากรโลก7.6พันล้านคน ดู
Buddhism to the New world Era