ดูดวงประเทศไทย  แล้วดูดวงนักการเมืองฝ่ายร้าย ๆ ว่าจะเป็นอย่างไร   น่าเชื่อถือนะครับท่านอาจารย์ อย่างเช่นนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยนี่  ดูปากเสียจริง ๆ   ล่าสุดมีเรื่องในสภา  จะไปฟ้องนายชวน ประธานสภาด้วยมาตรา157 หรืออะไๆรนี่แหละ นายชวนตอบไประวังแจ้งความเท็จ จ๋อยไปเลย  แล้วให้ชะลอการฟ้องลงไป  ดูแล้วเหมือนคนขี้กากจริง ๆ   นี่น่าดูว่าชะตาจะไปอย่างไร  คนแบบนี้ถ้าเจริญก็เจริญด้วยด่าเก่งละมั้ง ขอดูดวงชะตาเขาหน่อยครับ   วันเกิดวันพฤหัสบดี ที่ 9 มีนาคม 2504   มหาสารคามครับ  สส.4สมัย  

 ก็มีเรื่องขอความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดาวพฤหัสบดี ที่ยกย้ายราศีจากพิจิกเข้าสู่ราศีธนูไปแล้ว เมื่อเวลา 20.42 น.   วันที่ 30 ต.ค.2562   ครับท่านอาจารย์  มีเรื่องที่เราควรจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ ?  และเกี่ยวกับดวงชะตาเป็นดวง ๆ ไป  นับแต่ ประเทศไทยโดยตรงจะเป็นอย่างไร  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  พล.อ.ประยุทธจันทร์โอชา นรม. เป็นต้นครับ  ผมฟังจากโหรคนหนึ่ง ท่านบอกว่าพฤหัสบดีเข้าราศีธนู เป็นเกษตร  จะดีมาก   ....แต่ตามที่ท่านอาจารย์พยากรณ์นายธนาธร ไว้  ดูเหมือนว่า จะไม่ดี แย่ไปกว่าเดิมอีก ดวงเขาจะแย่กว่าเดิมอีก  นี่ก็น่าศึกษาไม่เข้าใจคำพยากรณ์ของท่านอาจารย์ นะครับ เพราะจริง ๆ  ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวตนุลักคณ์และเข้าทับลักคณาเสียด้วย  น่าจะดีขึ้นและดีมาก ๆ  ไม่ใช่หรือคร้ับ แต่ผมก็ไม่กล้าแย้งท่านอาจารย์หรอก  เพียงแต่ไม่ทราบว่าเหตุผลอย่างไร  ท่านจึงพยากรณ์ไปแม้ว่าดาวพฤหัสบดีทับลักคณา  จึงจะไม่ดีขึ้นล่ะครับ ?  แน่ละ มีเหตุผลแน่เพียงแต่ไม่เข้าใจเท่านั้นเอง ครับ  ก็กรุณาให้ความรู้ด้วยนะครับ 

 ตอบ

ดูดวงชะตาประเทศไทยก่อนนะ

ดวงที่ 1 ดวงกำเนิด

 1.  เรื่องดาวพฤหัสบดี(๕)  ที่ยกย้ายราศีจากพิจิกเข้าสู่ราศีธนูตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.2562  ให้ดูว่าที่ราศีธนูนั้น มีดาวพฤหัสบดีเดิมสถิตย์อยู่ในฐานะ เกษตร อยู่แล้ว ทักษาเป็น พฤหัสบดี อุตสาหะเดิมเกษตร ทอกระแสแรงจ้าไปถึงลักคณา + อาทิตย์มหาอุจ เป็นบริวารมหาอุจในราศีเมษ    ตรงวนี้แหละเป็นจุดเข้มแข็งที่สุดของดวงชะตาประเทศไทย   ที่บอกถึงความเหนียวแน่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  และทั้งบอกถึงเสรีภาพ หรือ เอกราชของชาติอย่างยั่งยืนยิ่งใหญ่  และด้วยผลของดาวพฤหัสบดีเกษตร ร่วมลักคณา+อาทิตย์(๑) มหาอุจนี้เอง ที่ทำให้ประเทศนี้ ผ่านยุคอาณานิคมมาได้อย่างสง่างามเป็นอิสรภาพไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใครเหมือนประเทศเพื่อนบ้านเช่นมาเลเซีย สิงคโปร์  ลาว เขมร พม่า และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก  ตรงนี้เน้นเรื่อง เอกราช เสรี ความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ตกต่ำ    ซึ่งจะคงสถาพรต่อไป    แต่ในราศีธนูนั้น ยังมีดาวเสาร์(๗)อีกดวงหนึ่ง ร่วม โดยทับดาวพฤหัสบดีด้วย   ตรงนี้แหละที่ไม่คอยดีนัก   แต่ให้ความหมายในเรื่องเศรษฐกิจ ที่มักจะแปรปรวน และเมื่อมองดาวศุกร์(๖) กาลกิณีมหาอุจ ที่เป็นดาวเจ้าเรืองเงินหรือ กดุมภะแล้ว  จะเห็นว่า  เรื่องการเงินและเศรษฐกิจของไทยนี่แหละ มีลักษณะแปรปรวน อยู่เสมอ และไม่ค่อยจะมีเงินเก็บเอาไว้  มีแต่จ่ายออกไป ๆ ตลอด ๆ    แต่กระนั้น  จากดาวจันทร์(๒)เกษตรในภพที่ 4 คือภพพันธุของดวงชะตานั้นบ่งบอกถึงแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์  นั่นคือมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในแผ่นดินไทย ที่ไม่รู้เสื่อมสลายลง มีแต่อาจที่จะพัฒนาก้าวหน้าไปได้อย่างไม่ตกต่ำลงไป ตามสติปัญญาสามารถของเจ้าของแผ่นดิน ซึ่งหมายถึงรัฐบาลและประชาชนนั้นเอง หากรู้จักการพัฒนาแล้ว แผ่นดินไทยนี่แหละเป็นแดนแห่งทรัพย์สินเงินทองที่มีมาไม่รู้จบสิ้นนั่นเอง  หมายถึงเรื่องพื้นฐานทรัพยากรมาแต่ดั้งแต่เดิม นั่นคือ ข้าว ยางพารา  ผลไม้ต่าง ๆ นั้นเอง  และ ยังหมายถึงทรัพยากร แร่ธาตุ ในดิน(จันทร์เกษตรธาตุดินโดดบริสุทธิ์) ในน้ำอีกด้วย(จันทร์สถิตราศีกรกฎ ธาตุน้ำ น่ามีทรัพยากรใต้น้ำอยู่อย่างมากเลยทีเดียว ชนิดที่กินไม่รู้หมด) 

 ฉะนั้น  เมื่อดาวพฤหัสบดี(๕) จรยกย้ายจากราศีพิจิก  เข้าทับพฤหัสบดีเดิม ภพที่ 9 จากลักคณา คือราศีธนู เมื่อวันที่ 30ต.ค.2562 นั้นเอง นั้นแหละกระแสดาวพฤหัสบดี ที่มีฐานะเป็นเกษตรจึงเปล่งแสงทอกระแสสู่ประเทศไทยอย่างเต็มที่ แบบที่ร่วมกับพฤหัสบดี(๕)เดิมเกษตรเช่นเดียวกัน เป็น 2 พลังดาวเกษตร ขนาดใหญ่  ย่อมหมายถึงเรื่องดี ๆ มาก ๆ ในด้านการเศรษฐกิจ  การต่างประเทศ และ ในด้านความมั่นคง สามัคคีธรรม การเดินไปข้างหน้า ไม่หยุด จะเกิดขึ้นแก่ประเทศไทยในระยะต่อไปนี้ ตราบที่ดาวพฤหัสบดี(๕)จรอยู่ในราศีธนู ทับพฤหัสบดี(๕)เกษตรเดิม ซึ่งทางฝ่ายการคำนวณการจรของระบบดาว  มีท่านทองเจือ อ่างแก้ว เป็นต้นได้คำนวณว่าดาวพฤหัสบดี(๕)จรจะอยู่ ณ ราศีธนูไปจนถึงวันที่ 17 มีนาคม 2563   ก็จะเสิรดเข้าสู่ราศีมังกร .......แต่สิ่งที่มีมาสู่ราศีธนูขณะนี้นั้น ยังมีดาวเสาร์(๗)เดิม  กับทั้งเสาร์(๗)จร ในราศีธนู......ซึ่งดาวคู่นี้เอง(ดาวเสาร์ - ดาวพฤหัสบดี) ที่จะก่อเกิดความผันผวน ป่วนปั่น เกิดการปะทะขัดแย้งของประชาชน 2 พวก อยู่ตลอดมา นับตั้งแต่ดาวเสาร์จร(๗)จรมาสู่ราศ๊ธนู้ ตั้งแต่ 30ธ.ค.2560 ถึงบัดนี้  .....แต่เมื่อดาวพฤหัสบดี(๕)จรมาถึงเนื่องจากมีฐานะเป็นเกษตรที่แรงจัดมาก จึงสามารถสร้างความสงบ ให้เกิดขึ้นได้  เป็นระยะที่แผ่นดินไทยจะสงบลงกว่าเดิม  บอกถึงชัยชนะของประเทศไทยเลยโดยตรง   จึงน่าหวังว่าเร่ิมที่การบ้านการเมืองไทยและการเศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ระบบมาตรฐานแล้ว   อะไร ๆ ที่เกี่ยวกับการปกครอง การเงิน การเศรษฐกิจของชาติ ที่จะไปสัมพันธ์อย่างดีกับต่างประเทศ จะดีขึ้น  และโดยประมาณการณ์ตามการเคลื่อนตัวของดาวพฤหัสบดี(๕)จรนี้ ใน 2-5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยย่อมได้รับผลดีขึ้นไปตามลำดับ...และหมายความรวมถึง การเศรษฐกิจด้วย รวมถึงระบบทางศ๊ลธรรม จริยธรรมของชาติ ศาสนาด้วยก็จะดีขึ้นในระยะนี้เองเลย   

 2.  การจรของดาวเสาร์(๗)จรจากราศีธนูสู่ราศ๊มังกร ณ วันที่2 มี.ค.2563   เรื่องที่ดี ๆ  ก็จะเกิดจากการจรยกย้ายราศีของดาวเสาร์(๗)เข้าสู่ราศีมังกร ซึ่งมีความหมายเต็มตามฐานะที่ทรงสถานะเป็นเสาร์เกษตรจร ณ ภพที่ 10 คือภพกัมมะของดวงชะตาประเทศไทย    ตรงนี้แหละจะมีความหมายโดยตรงถึงกิจการงานของประเทศไทยนี้ จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างมาตรฐานอันมั่นคง ก้าวหน้า และยิ่งใหญ่  ไปตลอดถึง 5 ปีติดต่อกันเลยโดยไม่หยุดยั้ง ...ความหมายตรงนี้ก็คือ  การที่ประเทศไทยจะมีงานใหญ่ทำ ก้าวหน้าไปไม่หยุดยั้ง ติดต่อกันไปถึง 5ปี ...และทฤษฎีนี้ย่อมไม่ผิดพลาด  เนื่องจากเสาร์(๗)จรในราศีมังกร เป็นเสาร์ที่มีฐานะเป็นดาวเกษตร   และเป็นเจ้าเรือนภพกัมมะมีหน้าที่เป็นเจ้าเรือนงานการอาชีพโดยตรงเลยทีเดียว  ลักษณะนี้แหละ ที่บอกถึงความร่ำรวยอยู่ดีกินดีของประเทศไทยของประชาชนไทยไปด้วย 

ดูระยะเวลา ก็   ช่วง นี้แหละไปเลย   คือ  30 ต.ค. 2562 - 30 ธ.ค.2563 - 1 มี.ค. 2564  - 19พ.ค. 2568  เป็นระยะที่ก้าวหน้าของประเทศไทย  การพยากรณ์นี้โดยทฤษฎีโหราศาสตร์ไทย ไม่น่าจะผิดพลาดไปได้  เอาแค่นี้ก่อนสำหรับ ประเทศไทย   ดี     แต่  สำหรับบุคคล  โดยเฉพาะนักการเมือง พรรคการเมือง จะมีบุคคล และพรรคการเมือง ที่จะได้รับผลที่ไม่ดีหลายคน  และที่ได้รับผลดีอย่างยิ่งก็หลายคนโดยเฉพาะผู้ที่มีดวงชะตาได้ลักคณาสถิตราศ๊มังกร ได้ดาวเสาร์ เป็นดาวประจำตัวหรือดาวตนุลักคณ์ นั้นจะดีเป็นพิเศษไปถึง 5 ปีติดต่อกัน  

 3.  สำหรับธนากร จึงรุ่งเรืองกิจนั้น  มีดาวพฤหัสบดี(๕)มหาอุจ เป็นดาวตนุลัคณ์  ลักคณาสถิตราศีธนู  ครั้นดาวพฤหัสบดี(๕)จรเข้าทับลักคณา ณ ราศ๊ธนู วันที่ 30 ต.ค.2562 ทรงสถานะเป็นเกษตรอีกด้วย ก็ย่อมจะดีเด่นขึ้นกว่าเดิมใช่ไหม?   ท่านอาจารย์พยากรณ์ไว้ตามนี้ครับ  ดวงชะตาธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล พรรคอนาคตใหม่ 

ผมฟังจากโหรคนหนึ่ง ท่านบอกว่าพฤหัสบดีเข้าราศีธนู เป็นเกษตร  จะดีมาก   ....แต่ตามที่ท่านอาจารย์พยากรณ์นายธนาธร ไว้  ดูเหมือนว่า จะไม่ดี แย่ไปกว่าเดิมอีก ดวงเขาจะแย่กว่าเดิมอีก  นี่ก็น่าศึกษาไม่เข้าใจคำพยากรณ์ของท่านอาจารย์ นะครับ เพราะจริง ๆ  ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวตนุลักคณ์และเข้าทับลักคณาเป็นเกษตร เดิมก็เป็นมหาอุจเสียด้วย  น่าจะดีขึ้นและดีมาก ๆ  ไม่ใช่หรือคร้ับ 

ดวงที่ 2 ดวงกำเนิด

ดวงที่ 2 ดวงกำเนิด

นายธนาธร จึวงรุ่งเรืองกิจ

๗,25พ.ย. 2521

ลักคณา  โดยการคำนวณ

และนั้นก็หมายความว่า วาระนี้แหละที่นายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจจะได้บุกเบิกงานของเขาไปอย่างดีเด็ดเดี่ยวไปกว่าเดิมอีก แต่ท่านอาจารย์กลับพยากรณ์ธนากร ไว้ว่า 

หลังเดือนตุลาคม 2562   ดวงชะตาก็จะพบความยุ่งยากต่อไป  และมากไปกว่าเดิมอีกเมื่อเข้าถึงอายุ 41ปีเต็มในเดือนพ.ย. 2562  นับแต่วันเกิด 25 พ.ย.2562(อายุ 41 ไป)   จะบอกถึงการต่อสู้ที่เหน็ดเหนื่อย มีลักษณะถูกกดจากปัญหาการเงิน ที่เต็มไปด้วยการใช้จ่าย  และที่สำคัญ ปัญหาสุขภาพ  โดยเฉพาะสุขภาพจิตของคนๆ นี้ ธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ (เขาอาจจะเป็นโรคประสาทอยู่เล็กน้อยขณะนี้  จะไปเพิ่มมากในระยะหลัง 5 ธ.ค.2563ไป) โดยตรง  จะเริ่มปรากฎตั้งแต่ 25 พ.ย.2562ไป ....  และครั้นถึงวันที่ 5 ธ.ค.2563  ปรากฎว่าดวงชะตานี้ ได้ไปเชื่อมต่อกับดวงชะตาอีก 3 ดวงชะตา คือ  ดวงชะตานางพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่,  ดวงชะตาพรรคอนาคตใหม่,  และดวงชะตานายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่...  สี่ดวงชะตานี้ ธนาธร, พรรณิการ์, พรรคอนาคตใหม่, และ ปิยบุตร, จะพบเหตุการณ์อย่างเดียวกัน ในระหว่าง ช่วงเวลา  5 ธ.ค.2563 เป็นต้นไป ถึง พ.ศ. 2566  ในทางที่แตกแยก  ตกต่ำ  และมีความห่างเหินจากกันและกัน 

คำตอบคือ   ดวงชะตานายธนาธร จึงรุีงเรืองกิจ นั้น  มีดาวกลุ่มนี้คือ  ดาวเสาร์(๗)เดิม + ราหู(๘)เดิม + เกตุ(๙)เดิม รวมดาวร้าย 3 ดวงรวมกันอยู่ในราศีสิงห์ ธาตุไฟ  ดาวกลุ่มนี้ทอกระแสร้ายไปยังลักคณาเขาซึ่งสถิตอยู่โดดเดี่ยวเฉพาะลักคณา ณ ราศีธนูธาตุไฟ  จึงได้รับอิทธิพลด้านร้ายอย่างเต็มที่  ครั้นเสาร์(๗) จรเข้าทับลักคณา ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2560 ชะตานี้ก็มีความกระฉับกระเฉง ทำอะไรสำเร็จในลักษณะรวมหมู่รวมพวกมากขึ้น มาจนถึงวันนี้   แต่ครั้น ดาวตนุลักคณ์คือ พฤหัสบดีที่จรในภพวินาสน์มาร่วมปีแล้ว ได้เคลื่อนพ้นจากภพวินาสน์ขึ้นทับลักคณาในราศีธนู  เป็นเกษตรนั้นเอง น่าจะดีมาก ๆ  ตามที่ดู ๆ กันทั่วไปนั้นเอง   แต่อย่างที่บอก  มีดาวกลุ่ม3ดวงในราศีสิงห์ทอกระแสถึง  แล้วยังมีดาวราหู(๘)ที่จรสู่ราศีเมถุนพุ่งกระแสตรงเข้ามาอีก  ก็ดีไปชั่วคราว  ไปชั่วถึงวันเกิดของเขาเท่านั้น เนื่องจากถึงวันเกิดแล้วอายุได้ 41ปีเต็มทางทฤษฎีทักษาดาวเสาร์(๗)ที่กุมลักคณ์นั้นแปรสภาพเป็นเสาร์กาลกิณีจรขึ้นมา เป็นกาลกิณีจรทับตนุลัคณ์จร(คือพฤหัสบดี ๕จร)และทับลักคณ์  ในราศีธนู  การที่ดาวเสาร์แปรสภาพเป็นกาลกิณีจรนั้น  ก็พลอยทำให้ดาวมิตรคือราหูเดิม  เสาร์เดิม  เกตเดิมในราศีสิงห์   และราหูจรในเมถุน  เป็นกาลกิณีตามไปด้วย ...ซึ่งจะเขียนสมการออกมาได้ว่า  เสาร์(๗)จรกาลกิณี+ เสาร์(๗)เดิม + ราหู(๘) มหามิตรเดิม + เกตุ(๙)เดิม + ราหู(๘)มหามิตรจร VS พฤหัสบดี(๕)จร/ลักคณ์ ........ดูดาวฝ่ายร้ายมีถึง 5 ดวงที่รับอิทธิพลกาลกิณีไปเต็ม ๆ สู้กับดาวพฤหัสบดี(๕)จรเกษตรดวงเดียว   เท่านั้นยังไม่ร้ายพอ  ดูที่ราศีเมษ มีดาวอะไร   มฤตยู(๐) จรมารออยู่แต่เดิมแล้ว  นั่นแหละอันตรายถึงชีวิต  

ดวงที่ 3 ดวงจร

ดวงที่ 3 ดวงจร

วันที่ 30 ต.ค. 2562

......และที่น่าวิตกมาก ๆ ก็คือราศีร่วมธาตุ คือธาตุไฟทั้ง 3 ราศี คือ ธนู  มีเสาร์จรกาลกิณีจร,  เมษ มี มฤตยู(๐) จร ตรงนี้แหละแรงและหมายถึงอันตรายถึงชีวิต,   และ สิงห์ มีเสาร์เดิม(๗)+ราหู(๘)เดิม + เกตุ(๙)เดิม  ดูดวงจรประกอบ  ที่เป็นระบบดาวสามเหลี่ยมคุมดวงชะตาแบบนี้ บอกถึงทางตัน ไปไหนไม่ได้  หมายความถึงอุบัติเหตุ  การเงินคับขัน และรวมทั้ง สุขภาพที่ค่อนข้างร้ายแรง... .ฉะนั้น  จึงให้ความหมายออกมาอย่างที่พยากรณ์ไปแล้ว   ที่ว่านั้นเอง...ที่ว่านั้นยังว่าอ่อนไปนะ ...    ก็คอยดูต่อไป

 4.   สำหรับดวงชะตาที่ได้รับผลดีไปเต็ม ๆก็คือ ดวงชะตาพล.อ.ประยุทธจันทร์โอชา นั้นเอง   เนื่องจากดาวพฤหัสบดี(๕)ไปเสริมดาวเสาร์(๗)ตนุลัคณ์ในราศีธนูให้  และครั้นดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีมังกร(ช่วงแรก 2 มี.ค.-12ก.ค.2563 ช่วงยาวช่วง 30 ธ.ค.2563 - 1 มี.ค.2566 ดาวเสาร์ตนุลัคณ์เกษตรทับลักคณา ดาวเดิมเป็ฯมหาอุจภพกัมมะ)  ก็ได้รับผลดีเต็มที่  ซึ่งหมายถึงพร้อมเดินหน้าภาระหน้าที่ต่อประเทศชาติไป อย่างไม่หยุดยั้งไปจนถึงพ.ศ. 2568  คือ  30 ต.ค. 2562 - 30 ธ.ค.2563 - 1 มี.ค. 2564  - 19พ.ค. 2568  เป็นระยะที่ก้าวหน้าของประเทศไทย และชะตานี้ไปพร้อมกัน 

 5.  เคยบันทึกข้อมูล ดาวจรอันตรายของ พลฅอ.ประยุทธไว้ว่าจะโดนดาวดับถึง 5 ดวง ดับทับดวงชะตาในระหว่างวันที่......ดูดวงจรที่แนบ และดูเรื่อง โหราศาสตร์ ดวงชะตาประเทศไทยและดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชะ ในอนาคตจากปี 2519 นี้

ดวงที่ 4 ดวงจร

ดวงที่ 4 ดวงจร
วันที่ 15 พ.ย.2563

 ตามดวงที่ 4 ดวงดาวจร นั้น  ได้แสดงดาวดับ 5 ดวง คือ ราหู(๘), อาทิตย์(๑), ศุกร(๖), พฤหัสบดี(๕), จันทร์(๒)  

1.  ดาว ราหู(๘)         ดับระหว่างวันที่      10 ก.ย.  2563 ถึงวันที่ 30 มี.ค. 2565   ณ ราศีพฤษภ

2.  ดาวอาทิตย์(๑)     ดับระหว่างวันที่       17 ต.ค. 2563 ถึงวันที่ 16 พ.ย. 2563   ณ ราศี ตุล

3.  ดาวศุกร(๖)          ดับระหว่างวันที่       24 ต.ค. 2563 ถึงวันที่  18 พ.ย. 2563  ณ ราศี กันย์

4.  ดาวพฤหัสบดี(๕)  ดับระหว่างวันที่       14 พ.ย. 2563 ถึงวันที่ 29 มี.ค. 2564   ณ ราศี มังกร

5.  ดาวจันทร์(๒       ) ดับระหว่างวันที่      15 พ.ย. 2563 ถึง วันที่ 17พ.ย.2563     ณ ราศี พิจิก 

ซึ่งจะเห็นว่ามีวันอยู่ 2 วันคือวันที่ 15 - 16  พ.ย. 2563 ที่บนท้องฟ้าจักรวาฬแห่งโหราศาสตร์ ดาว 5 ดวงดับสนิทพร้อมกัน แบบดับร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งภาษาโหราศาสตร์กล่าวว่าเป็น นิจ พร้อมกันทั้งทั้ง 5 ดวง 

จะเห็นว่า  มีช่วงเวลาที่ดาวทั้ง 5 ดวงดับลงพร้อมกัน  อยู่ระหว่าง วันที่ 15 พ.ย. 2563เวลา 13.11 น. ถึงวันที่ 16 พ.ย.2563 เวลา 20.28 น. จากนั้น ดาวก็กระจายกันไป     เวลาระหว่าง  จันทร์ยกเข้าจุดดับ เวลา 13.11 น.วันที่ 15 พ.ย.2563 ไปถึงวันที่ 16 พ.ย.2563 เวลา 20.28 น.อาทิตย์ยกพ้นไปจากจุดดับนั้น เป็นช่วงเวลาเพียง 31 ชั่วโมง 17 นาที นั้นเองเป็นช่วงเวลาที่น่าวิกฤตหากมีขึ้น    และมองเผิน ๆ  การดับของดาวทั้ง 5 ดวง น่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

แต่เมื่อมองจากดวงที่ 5 วงใน  วงนอก แล้ว  จะเห็นว่า ไม่มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นตกใจเท่าไรเลย....เพราะดาวที่ดับอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ร้ายแรงอะไรเลยเป็นธรรมดาๆฉะนั้น จึงยืนยันคำพยากรณ์ได้   สำหรับพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชาที่จะได้เดินหน้าบริหารประเทศต่อไป 

 ดวงที่ 5 ดวงจร

ดวงที่ 5 ดวงจร
วงในดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา

วงนอก ดาวจร วันที่ 16 พ.ย.2563 เวลา 13.11 น.

ความคิดเห็นที่ 13 (4187507)
จะขออธิบายหลักโหราศาสตร์ จาก จักรทีปนี ของ อุตมรามมหาเถรอรหันต์ยุคพระพุทธเจ้า เขียนไว้สืบมาถึงวันนี้  1.  ดาวราหู๘) ดับในภพที่5 แต่ตรงกับ  อำพุชอุดมเกณฑ์  และยังทับพฤหัสบดี(๕)เดิมและพฤหัสบดี(๕) ดวงนี้ ก็ได้ตำแหน่งอำพุชอุดมเกณฑ์เหมือนกันอีกด้วย เลยดาวดับกลายเป็นดาวดีไปล้วน ๆ (ปกติคำว่า เกณฑ์ นี้หมายถึงร่ำรวย)  2.  ดาวศุกร(๖) ดับในราศีกันย์ การดับของดาวศุกร (1.)  ดับทับจันทร์(๒)เดิม ราชาโชค ดี,  โดนเล็งจากศุกร(๖)ศรีเดิมมหาอุจ, อุ้มโอบไว้,  แล้วทั้งศุกร(๖)ศรีเดิมมหาอุจในราศีมีนยังมี  ดาวอังคาร(๓)มหามิตรที่จรเป็นศรีจรมาทับอีก กลายเป็นศรีเดิมทับศรีจรคู่มหามิตร สุดรักสุดซาบซึ้ง,  และอังคาร(๓)ศรีจรนี้ก็เล็งมาโอบอุ้มศุกร(๖)มหามิตรจรที่ดับอยู่ในราศีกันย์ให้ฟึกฟื้นอีก  .แทนที่ดาวดับจะให้โทษ  แต่กลับ..กลายเป็นโชคดี ที่จะเกี่ยวข้องไปถึงการเงิน และการต่างประเทศอย่างดีอีกด้วย 3.  จันทร์(๒)ดับในราศีพิจิก  เป็นภพที่ 11 จากลักคณา  กลายเป็นคุณประโยชน์ไป (ภพที่ 11 เป็นภพที่ให้คุณสถานเดียว ดาวทุกดวงแม้ดาวร้าย หรือแม้ กาลกิณี ดาวเดิม หรือดาวจรเข้าภพที่ 11 ล้วนแต่ให้คุณคลายความร้ายไปหมด) และจันทร์(๒)นี้ก็ดับอยู่แค่ 3 วันก็สว่างขึ้น   4.   ดาวอาทิตย์(๑)จรสู่จุดดับในราศีตุล ภพที่ 10  ทับเสาร์(๗)เดิมมหาอุจ คู่ธาตไฟ ช่วยพะยุงกันได้  จะเสียเรื่องการงานไปบ้าง ทำให้มีข้อครหานินทาง แบบดูถูกดูหมิ่นภูมิปัญญา มีการข้ามกรายไม่ให้เกียรต์  ถูกเหยียบย่ำ กำ้เกิน  แต่ก็เสียไปเพียง 1 เดือน ระหว่างที่อาทิตย์(๑)ดับ 17ต.ค.-16 พ.ย.2563 กินเวลา 1 เดือนเท่านั้น อาทิตย์(๑)ที่ดับก็สว่างขึ้น 5.  ดาวพฤหัสบดี(๕) ดับทับลักคณาในราศีมังกร   ในฐานะทักษาจรเป็นพฤหัสบดี(๕)จรกาลกิณี     (พฤหัสบดีจรเป็นกาลกิณีระหว่าง 21 มี.ค.2562-21 มี.ค.2563  1 ปีเต็ม ๆ) บอกถึง  (1.)  สติปัญญาอาจจะเสียหายไปบ้างไม่สมบูรณ์ ระวังคำพูด ความคิดอ่าน การเสวนา  ระวังเรื่องวิชาการ  (2.)  ระวังเรื่องการเงิน จะเสียหายโดยไม่มีเหตุผลสมควร จะมีเรื่องการเงินเข้ามาให้แก้ไขมากขึ้น  3.  เรื่องสุขภาพ แต่ไม่อันตราย คงเป็นหวัดบ้าง เพียงแต่ไม่รู้จักหาย  อาจจะมีโรคประจำตัวคุขึ้นมา    แต่ดาวพฤหัสบดีเสียไปถึง 21 มี.ค.2563 เท่านั้นกาลกิณีก็วิปลาสไป สรุปดาวดับทั้ง 5 ดวง  ที่เราเคยเตือนเรื่องร้ายแรงไว้ ถึงอันตรายใหญ่หลวง 5 ประการ คือ ๕ดับสนิทหมายถึงสภาพที่สิ้นสุดทางกาย, ๘ดับสนิทหมายถึงบริวารทั้งปวงสูญสิ้น, ๖ดับสนิทบอกถึงมิตรภาพในต่างประเทศสิ้นไป,  ๑ ๒ ดับบอกอายุ ดับลงไปพร้อมรูปธรรม นามธรรม ...ตามที่ได้พยากรเอาไว้ใน  โหราศาสตร์ ดวงชะตาประเทศไทยและดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชะ ในอนาคตจากปี 2519 นี้  ครั้นมาตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง  จึงได้พบว่า  กลายเป็นเรื่องที่ดีเสียอีก    ทั้งนี้ตามเหตุผลวิชาการละเอียดอ่อนแห่งโหราศาสตร์ จักทีปนี หลักวิชาของอุตมรามอรหันต์มหาเถร นั้นเอง  จะเห็นว่า  มีช่วงเวลาที่ดาวทั้ง 5 ดวงดับลงพร้อมกัน  อยู่ระหว่าง วันที่ 15 พ.ย. 2563เวลา 13.11 น. ถึงวันที่ 16 พ.ย.2563 เวลา 20.28 น. จากนั้น ดาวก็กระจายกันไป     เวลาระหว่าง  จันทร์ยกเข้าจุดดับ เวลา 13.11 น.วันที่ 15 พ.ย.2563 ไปถึงวันที่ 16 พ.ย.2563 เวลา 20.28 น.อาทิตย์ยกพ้นไปจากจุดดับนั้น เป็นช่วงเวลาเพียง 31 ชั่วโมง 17 นาที นั้นเองเป็นช่วงเวลาที่น่าวิกฤตหากมีขึ้น    และมองเผิน ๆ  การดับของดาวทั้ง 5 ดวง น่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น   แต่เมื่อมองจากดวงที่ 5 วงใน  วงนอก แล้ว  จะเห็นว่า ไม่มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นตกใจเท่าไรเลย....เพราะดาวที่ดับอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ร้ายแรงอะไรเลยเป็นธรรมดาๆฉะนั้น จึงยืนยันคำพยากรณ์ได้   สำหรับพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชาที่จะได้เดินหน้าบริหารประเทศต่อไป
ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2019-11-16 20:32:52