ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


ดีเล่มที่ 55

 

 

1.   สัญลักษณ์ หนังสือพิมพ์ดี สารบัญ

 หนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55 

 

 

 

 

*************************************************************************************************************************** 

 

 สารบาญ 

1.        สัญลักษณ์หนังสือพิมพ์ดี สารบัญ

2.        ปก

3.       พุทธทำนาย เดือนสี่ ปีกุน

4.        บทบรรณาธิการ  ได้รัฐบาลใหม่ ผลการเลือกตั้งตามรธน.2560 ข่าวด่วนจากยะลา 

4.1      สถานการณ์การพุทธศาสนาสากลม.ฮาวารด วิจัยผลดีออกมาเรื่อย ๆ พบ The Science of Meditation 

4.2      บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ปี พุทธศักราช 2562

4.2.1   Theresa Marry May เทรีซา แมรี เมย์  นรม.สหราชอาณาจักร 

4.2.2   Justin Piere  James Trudeau จัสติน เจมส์ ทรูโด  นรม.คานาดา

4.2.3   Catriona Gray มิสยูนิเวอส ปี 2561 สาวฟิลิปปินส์ 

4.2.4   แสนชัย เค. แสนชัยยิม  นักมวยไทยแสดงฤทธิ์ปราบมวยชนิดอื่นไปทั่วโลก 

4.2.5   ลุงบุญมี สุรโคตร   ทำนาปุ๋ยอินทรีย์  ได้กำไรปีะละ 100 ล้านบาท

4.2.6    ศรีสุวรรณ จรรยา  ผู้มีชีวิตไปตามกฎธรรมชาติ

 

5.       เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว 

5.1     ธรรมกาย จุดจบธรรมกาย

5.2      มุสลิม    

 

0.0     โหราศาสตร์  พยากรณ์ดวงชะตานักการเมือง

 

6.       วัดอินเทอเนตแห่งแรกของโลก วัดของเรา 

 

 

 

 

 

2.   ปก

ปีที่ 22 เล่มที่ 55
มูลนิธิพระเทพวรมุนี ( เสน ปญฺญาวชิโร )
วัดมหาพุทธาราม ถนนขุขันธ์ ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ 33000

 

 

 

 

หนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต)
http://www.newworldbelieve.net
http://www.newworldbelieve.com

 

         

 

 

 

  • เพื่อการนำความคิดไปสู่ความดีงาม
    เพื่อความกลมกลืนแห่งสากลศาสนา
    For all good For all thought

 

เราจะบินบินบินและบินไป                            สู่ขอบฟ้าสดใสในเบื้องหน้า
แม้วันนี้มีเมฆร้ายมหิมา                               ก็ไม่หวาดไม่ผวาคณาภัย

ถึงเขาใหญ่สูงเงื้อมตระหง่านฟ้า                    ก็จะฝ่าฤาพรั่นนึกหวั่นไหว
มหาสมุทรสุดสายลมไกว                            จะเอื้อมไปให้ถึงซึ่งฝั่งดิน
ถึงแห้งเหือดเลือดหมดหยดสุดท้าย              แล้วก็หมายชนหลังยังถวิล
สัจธรรมนี้ไว้ในธรณิน                                 กว่าจะสิ้นกัปกัลป์พุทธันดร

 


ปีที่ 22 เล่มที่ 55
เล่มที่ 55 เดือน 
ม.ค. - ต.ค.2562   

 

 

เรื่องเด่น

1.  พุทธทำนาย เดือน 4 ปีกุน พ.ศ. 2562 มาถึงแล้ว

2. บทบรรณาธิการ บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช 2562

3. Muslims : เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว จุดจบธรรมกาย  

 

 

 
 พุทธทำนายเดือน๔ปีกุน 
 
 
 
เรื่องพุทธทำนายนี้มีปรากฏอยู่ในภาษาบาลีพระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ เล่มที่ 27 หน้า 24 ขึ้นต้นว่า อุสุภา รุกฺขา คาวิโย ฯลฯ และอธิบายไว้ในอรรถกถาเอกนิบาต ภาค 2 และเคยแปลเป็นภาษาไทยไว้ในชาดก ฉบับหอสมุดวชิรญาณ เล่ม 1 อาจารย์ศิลา วีรวงศ์ ได้แต่งเป็นกลอนลำอีสาน ประมาณ พ.ศ. 2490” 
 
 มีข้อความตอนสำคัญดังนี้ :- 
 
“๑๑. ข้อสิบเอ็ด 
 
พระฝันเห็นท่อนไม้แก้วแก่นจันทน์แดง ของมันราคาแพงค่าสูงแสนตื้อ เขาเลยเอาไปซื้อขายกินแลกไก่ เอาจันทน์แดงใส่กระชาน้อยแขวนห้อยเที่ยวขาย อันนี้แล้วเพิ่นว่าภายหน้าพู้นเคิ่งศาสนาพุทธ มนุษย์มีโลภามืดมัวเมากุ้ม ชุมหมู่ถือศีลสร้างเป็นจัวเจ้าหัวบ่าว เห็นผู้สาวแล้วเอิ้นเสินเว้าดั่งสหาย นอกจากนั้นกะซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนาพุทธ เอาพระธรรมลงมุดจายขายกินจ้าง ตั้งเป็นตึกเป็นห้างขายกินปิ้นไป่ ทังพระสูตรพระวินัยเอาลงใส่กระช้าโซนผ้าเที่ยวขาย นี้จั่งแม่นต่อนฮ้ายขายฮูปพุทธองค์ สงฆ์บ่ถือวินัยไพร่เมืองบ่อยำอย้าน มีแต่คนพาลกล้าโกธาเขี้ยวขุ่น ศาสนาเกิดวุ่นสูญเส้ามุ่นทะลาย สงฆ์ซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนากู สัพพัญญูเล็งเห็นหน่ายสะอางผางฮ้าย คันแม่นกายไปหน้าศาสนาของเฮาจั่งสิฟื้นขึ้นใหม่ ในปีกุนล่วงแล้วซิแววขึ้นลื่นหลัง ครั้งนั้นแหล้วคนสิอยู่เป็นสุข จั่งสิหายความทุกข์หมู่ภัยไกลเนื้อ ใผผู้ยังเหลือค้างซิเห็นทางฟ้าล่วง คนสิพ้นจากห่วงฝูงหมู่มารบาปฮ้ายเมื่อฟ้าอยู่กะเสิม เริ่มแต่ค้าเดือนสี่ปีกุน ใผมีบุญจั่งสิเห็นหน่อพระธรรมเดอป้า พากันถือศีลห้าภาวนาเดอแม่ หยังกะเห็นเที่ยงแท้บ่มีเว้นหว่างใด๋” 
 
จาก กลอนลำเรื่องพุทธทำนาย ชมรมวรรณกรรมอีสาน จัดพิมพ์ โดย ร.พ.ไพศาลศิริ ท่าพระจันทร์ กทม. 2527 หน้า 7 
 
 
 
 
 หมายเหตุ บก.        
 
เรื่องพุทธทำนายนี้ มีการระบุถึงเดือนสีปีกุน แต่ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเป็นปีกุนรอบไหน พ.ศ.อะไร ระบุไว้กว้าง ๆ ว่าหลังยุคกึ่งพุทธกาลไปแล้ว คือหลังปีพุทธศักราช 2500 ไปแล้ว   เมื่อมาถึงปีกุน พ.ศ.2502,2514,2526,2538 และ พ.ศ.2550 ตามลำดับมาแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะมีอะไรเป็นที่น่ายินดีสำหรับพระพุทธศาสนา ก็น่าจะเป็นปีกุนรอบต่อไป ซึ่งก็ได้มาถึงแล้ว คือปีกุน พ.ศ. 2562 จะเป็นปีกุนที่ตรงกับพุทธทำนายอีกครั้งหนึ่ง   และได้มาถึงแล้ว ดี เล่มต่อไปก็จะเป็นดีที่ออกมาตรงกับปีกุน ตามพุทธทำนายอีกครั้งหนึ่ง และจะมีสัญญาณอะไรเกิดขึ้น  อันจะบอกถึงการฟึกฟื้น การเกิดใหม่อย่างเจริญรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนาในปี 2562 นั้น    
 
ข้อพิจารณา ทำความเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องคำทำนาย เดือน สี่  ปีกุนโดยเฉพาะรอบปี พ.ศ. 2562 นี้มีข้อสรุปอย่างชัดเจนอยู่ 2 ประการ คือ เรื่องความเสื่อมของพระพุทธศาสนา ที่มีมาตามลำดับ  จนถึงเดือนสี่ ปีกุนจึงจะเริ่มฉายแววของความเจริญฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นมาใหม่   ดังข้อสรุป 2 ประการนี้
 
1.   ศาสนาพุทธเสื่อมลงไปถึงสภาพสิ้นศาสนา  ดังคำว่า  “ภายหน้าพู้นเคิ่งศาสนาพุทธ พุทธ มนุษย์มีโลภามืดมัวเมากุ้ม ชุมหมู่ถือศีลสร้างเป็นจัวเจ้าหัวบ่าว เห็นผู้สาวแล้วเอิ้นเสินเว้าดั่งสหาย นอกจากนั้นกะซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนาพุทธ เอาพระธรรมลงมุดจายขายกินจ้าง ตั้งเป็นตึกเป็นห้างขายกินปิ้นไป่ ทังพระสูตรพระวินัยเอาลงใส่กระช้าโซนผ้าเที่ยวขาย นี้จั่งแม่นต่อนฮ้ายขายฮูปพุทธองค์ สงฆ์บ่ถือวินัยไพร่เมืองบ่อยำอย้าน มีแต่คนพาลกล้าโกธาเขี้ยวขุ่น ศาสนาเกิดวุ่นสูญเส้ามุ่นทะลาย สงฆ์ซิเป็นผู้ฮ้ายขายศาสนากู”     
 
2.  ครั้นถึงยุคกึ่งพุทธกาลแล้ว  ปีกุน จะมีหน่อพระพุทธเจ้า หรือ คนดี หน่อพระธรรมมาสืบพระพุทธศาสนา ที่ในคำพยากรณ์บอกถึงสิ่งที่ดีมากกับพุทธศาสนาในส่วนรวม  โดยที่    จะมี “หน่อพระธรรม” มาสืบพระพุทธศาสนา   โดยคำว่า "คันแม่นกายไปหน้าศาสนาของเฮาจั่งสิฟื้นขึ้นใหม่ ในปีกุนล่วงแล้วซิแววขึ้นลื่นหลัง ครั้งนั้นแหล้วคนสิอยู่เป็นสุข จั่งสิหายความทุกข์หมู่ภัยไกลเนื้อ ใผผู้ยังเหลือค้างซิเห็นทางฟ้าล่วง คนสิพ้นจากห่วงฝูงหมู่มารบาปฮ้ายเมื่อฟ้าอยู่กะเสิม เริ่มแต่ค้าเดือนสี่ปีกุน ใผมีบุญจั่งสิเห็นหน่อพระธรรมเดอป้า พากันถือศีลห้าภาวนาเดอแม่ หยังกะเห็นเที่ยงแท้บ่มีเว้นหว่างใด๋”
 
เรื่องความเสื่อมของศาสนาพุทธนั้นพอเห็นได้อยู่ชัดเจนแล้ว  โดยเฉพาะเรื่องสงฆ์ไม่มีวินัย เที่ยวขายศาสนากิน  และผิดทางเพศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวงการสงฆ์ไทยที่ผ่านมาเร็ว ๆนี้และยังคงมีเรื่องราวที่ต่อเนื่องไปอยู่ในทุกวันนี้ 
 
ทีนี้ ที่เป็นข้อกังขาก็คือ  ผู้ที่จะมาสืบพระศาสนานั้นจะเป็นบุคคลอย่างไร?  เป็นพระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์องค์ใหม่อย่างนั้นหรือ?  แล้วคนจะรู้จักท่านได้อย่างไร?  เพราะในทุกวันนี้  ก็ดูมีเรื่องราวของคนเก่งมากมาย ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส  รวมทั้งสำนักต่าง ๆ มากมาย อะไรคือสิ่งที่บอกเหตุถึงความเก่งความดี ความประเสริฐของผู้มาสืบศาสนา?   ซึ่งในประเด็นนี้เราคิดว่า    หน่อพระธรรมที่จะปรากฏขึ้นนั้น  อย่างน้อยท่านก็จะต้องรู้แจ้งเจนจบในหลักธรรมสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือเรื่องของมรรคผล นิพพาน  ความเป็นอริยสงฆ์ผู้พ้นทุกข์ และหมายถึงเรื่องศาสนาสากลใดอันเป็นความเชื่อหรือวิถีทางที่ห่างไกลไปจากโลกนิพพาน ที่เป็นเป้าหมายของพระพุทธศาสนา และซึ่งจะเป็นคำสอนที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งโลก ที่จะนำมนุษย์ผู้มีความดีพอเหมาะสมพอไปสู่ความพ้นทุกข์ พบโลกใหม่ในชีวิตปัจจุบันนี้เอง คือพบความสุขในโลกนิพพานนั้น   อย่างไรก็ดี เรื่องเวลา  ที่ระบุถึงเดือนสี่ปีกุน นั้น ก็อาจจะไม่ตรงเผงนักก็เป็นได้   อาจจะก่อน  หรือตรงปีกุน หรือ เลยปีกุนไปหน่อย  ก็อาจจะเป็นได้  ทั้งนี้มองจากหลักการพยากรณ์แบบโหราศาสตร์  ที่การจรของดวงดาวทั้งหลาย  อาจจะมีเหตุของการล่าช้าที่เรียกว่ามน  หรือเร็วเกินไปที่เรียกว่าเสิด หรือแม้มีการถอยหลังหรือพักร ก็ยังมีเกิดขึ้นได้ การพยากรณ์เรื่องเวลาจึงมีผิดพลาดไปได้บ้าง  จึงมีลักษณะของการเสิรด มน การพักร ของดวงดาวอยู่เป็นประจำ  ก็คงคอยดูกันต่อไป.   
 
 
 
 
 
  

 

บทบรรณาธิการ

 

 
นี่คือหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่55  ประจำเดือน มกราคม - ตุลาคม  พุทธศักราช 2562  เข้าปีที่ 22 ของงานหนังสือพิมพ์ดี เพื่อพระพุทธศาสนาของเรา  สำหรับดีฉบับที่ 55 นี้  เราได้ย้อนมาเขียนบทบรรณาธิการเพิ่มไปอีกเป็นข่าวด่วน  2 เรื่อง  นั่นคือ ผู้ก่อการร้ายมุสลิม โจมตี ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน จ.ยะลา ด้วยอาวุธสงครามแล้วมีรายงานว่าหลบหนีเข้าไปต่างประเทศ(ก็มาเลเซียเหมือนเดิม) วันที่ 5 พ.ย. 2562  ชุดคุ้มครองหมู่บ้านเสียชีวิตทันที 13 คน แล้วคนเจ็บเสียชีวิตต่ออีก 2 รวมเป็น 15 คน นับว่าเป็นเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจคนไทยมากที่สุด และที่จะรู้กันไปทั่วโลก เราเสนอข่าวไว้แค่นี้ เพื่อท่านผู้อ่านจะได้ติดตามต่อไป,  อีกเรื่องหนึ่ง  นักโทษ 3 คน แหกศาลจังหวัดพัทยาหนีไป โดยใช้ปืนและมีดทำร้ายตำรวจ แล้วหนีไป  บัดนี้ตามจับกุมได้แล้วทั้ง 3 คน เป็นคนอเมริกันคนหนึ่ง  คนไทยสตรี 1 คน กับคนไทยชายหนึ่งคน เป็นนักโทษคดียาเสพติด กำลังถูกนำตัวมาขึ้นศาลเพื่อพิจารณาโทษ        สำหรับปี พ.ศ. 2562 นี้ ก็ตรงกับ ปีทางจันทรคติ ว่า  ปีกุน  และหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55 นี้ ก็ออกมาในระหว่างปีกุนนี้พอดี  ปีที่เราได้มีพุทธทำนายลงมาตลอด   ว่าในเดือน 4 ปีกุนหลังกึ่งพุทธกาลแล้ว จะมี การฟึกฟื้นพระพุทธศาสนาขึ้นมาสู่โลกยุคใหม่อีกครั้งหนึ่ง   แต่เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น   ในทางสากล ก็ปรากฎผลดีต่อพระพุทธศาสนามาตลอด โดยเฉพาะในวงการวิชาการ ที่น่าสังเกตก็คือ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลกคือ ฮาวารด  ได้ทำการวิจัยศาสนาพุทธมาอย่างต่อเนื่อง โดยปรากฎผลออกมาในเชิงวิชาการ  เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์  ล่าสุดได้มีการรายงาน...เรื่อง ความเคลื่อนไหวในเชิงสมาธิพุทธ ที่สถาบันต่าง ๆ ทางตะวันตกและอเมริกา  ทำการสร้างขึ้น  อย่างที่เรียกว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่เปิดมุมมองใหม่ของมนุษย์โลกดังนี้ 

 

4.1   The Science of Meditation

The Science of Meditation 

เป็นสิ่งที่ ตะลึงโลกก็ว่าได้ เมื่อ “TIME Magazine” ฉบับวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๖ ได้อุทิศเนื้อหา กว่าสิบหน้ากระดาษพร้อม ภาพประกอบสี่สีเป็นจำนวนมาก ให้แก่เรื่องราวที่เป็น แนวโน้มใหม่ของมวลมนุษยชาติ 

 นั่นก็คือ สกู๊ปพิเศษว่าด้วย “The Science of Meditation” หรือ... วิทยาศาสตร์ (ทางใจ) ของการทำสมาธิ” 

TIME Magazine "พาดหัว" ไว้อย่าง "น่าทึ่ง" ว่า ...            

"นักวิทยาศาสตร์" ก็ "ศึกษาวิจัย" เรื่องสมาธิ...

"แพทย์" ก็ "เชียร์" ให้นั่งสมาธิ...       

"ชาวอเมริกัน...นับสิบล้านคน" ก็ "นั่งสมาธิ... ทุกวัน" 

======           

ในสหรัฐอเมริกา คนอเมริกันสิบล้านคน นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เป็นสองเท่าของสิบปีก่อน สถานที่หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เช่น ที่นิวยอร์ก เปลี่ยนเป็นที่นั่งสมาธิหลายแห่ง จนคนเรียกแถบนั้นว่า เป็น แถบของชาวพุทธ 

นักเรียนนั่งสมาธิก่อนเข้าห้องเรียนทุกเช้า นักกฎหมาย นักธุรกิจ คนทำงานสาขาอาชีพต่าง ๆ นั่งสมาธิตามที่หน่วยงานของตนจัดให้นั่งอย่างสม่ำเสมอ ดาราภาพยนตร์ นักการเมือง นักเขียน ต่างก็นั่งสมาธิ   แม้แต่นักโทษในคุกก็มีห้องนั่งสมาธิ ผู้พ้นโทษมาแล้วจะกลับเข้าคุกน้อยกว่าพวกที่ไม่ได้นั่ง 

คนไม่เชื่อเรื่องสมาธิกลายเป็นคนกลุ่มน้อยในสหรัฐอเมริกาไปเสียแล้ว คนเหล่านี้นั่งสมาธิ เพราะ ทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย สุขภาพดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น ทำให้สร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้น    

====== 

การนั่งสมาธิทำให้ร่างกายมีสภาวะเหมือนก่อนจะหลับแต่ไม่ได้หลับ มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ และทำให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส สมาธิยังช่วยขจัดความขัดแย้งในจิตใจ ทำให้ใจอยู่นิ่ง ท่ามกลางความสับสนว่าจะเอาอย่างไรดี 

เมื่ออยู่นิ่งแล้วจะเข้าใจสถานการณ์และเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ยอมรับมันด้วยความสงบและมีความสุขมากขึ้น และเป็นเหตุผลที่ทำให้แพทย์แห่งมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด เข้าใจว่า ทำไมมนุษย์ถึงนั่งสมาธิมาหลายพันปีแล้ว 

แพทย์ก็แนะนำให้คนไข้นั่งสมาธิเป็นประจำและสม่ำเสมอมากขึ้น เพราะผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จากการสแกนคลื่นสมอง พบว่า... 

สมองจะมีระบบปิดกั้นเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามา และไม่ส่งเรื่องเข้าไปย่อยในส่วนลึกของเนื้อสมองอย่างเคย แต่ทำให้ระบบลิมบิค ซึ่งเป็นส่วนควบคุมด้านอารมณ์และความจำดีขึ้น ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ ลมหายใจ และการเผาผลาญในร่างกายเป็นปกติ 

======           

สมาธิช่วยทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้มากขึ้น สามารถรักษาโรคร้ายแรงเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เอดส์ มะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคใจสั่น           

คนไข้โรคมะเร็ง เอดส์ และเจ็บปวดเรื้อรัง ๑๔,๐๐๐ คน ไม่ต้องกินยาแก้ปวด สมาธิยังรักษาจิตใจที่ปั่นป่วน กดดัน สมาธิสั้น วุ่นวายไม่อยู่นิ่งอีกด้วย           

นอกจากนี้ พลังของสมาธิยังสามารถรักษาคนไข้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบร้อนแดงให้มีผิวใสขึ้นเป็น ๔ เท่าของผู้ที่ไม่ได้นั่งสมาธิ           

นักเขียนที่เคยกินยาแก้เครียดมาเกือบจะตลอดชีวิต เมื่อนั่งสมาธิก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาอีกต่อไป           

ผู้กำกับการแสดงและดาราภาพยนตร์ ฮอลลีวู้ด ก็นั่งสมาธิ ทำให้ลดความกดดันจากอาชีพและความเป็นคนดังมีชื่อเสียง 

และทำให้มีความสุขมากขึ้น รู้ตัวมากขึ้น มองเห็นสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น พัฒนาบุคลิกภาพให้สง่างามและดูมีอำนาจมากขึ้น มองเห็นตัวเองได้มากขึ้น และรู้ว่าควรแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองได้อย่างไร เพียงแต่นั่งเงียบ และทำให้จิตใจสงบเท่านั้น       

นักการเมืองที่มีชื่อเสียง เช่น ฮิลลารี คลินตัน พูดถึงสมาธิ อัล กอร์ นั่งสมาธิและแนะนำให้ทุกคนนั่งสมาธิด้วย

 ====== 

Credit : นิตยสาร ไทมส์ ฉบับวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

 
 ซึ่งแท้จริง เรื่องราวเหตุการณ์เกี่ยวกับพุทธศาสนาที่ได้รับการทำนายเอาไว้จากนักวิทยาศาสตร์โลกยุคเทกโนโลยี่ปัจจุบัน คือท่าน อัลเบิรต ไอสไตล์  ว่า ศาสนาสำหรับโลกยุคใหม่นี้ ที่จะต้องรับได้กับสังคมโลกที่เป็นวิทยาศาสตร์ก็มีเพียงศาสนาเดียว ที่สมควรเป็นศาสนาของโลกและจักรวาล ในอนาคต  และซึ่งก็ได้มาสู่วันเวลานี้แล้ว  และเพื่อการต้อนรับสถานการณ์โลกที่มีแนวโน้มออกมาในทางที่จะเข้ามาสู่การศึกษาสัจธรรมของพระพุทธศาสนามากขึ้นของมนุษยโลก เราเองจึงได้ทำการจัดตั้งวัดทางอินเทอเนตขึ้น โดยคิดว่าจะเป็นวัดอินเทอเนตแห่งแรกของโลก  นั่นก็คือ  วัดของเรา MY TEMPLE ทาง เวบไซต็ของเรา คือ www.newworldbelieve.com   .net   และก็เป็นจังหวะที่โลกได้เจริญพัฒนาไปในด้านการแปลภาษา โดยกูเกิล สามารถแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ ได้อย่างรวดเร็วมาก โดยแปลได้ทันทีที่กดปุ่ม ทำให้วัดของเรานี้  สามารถที่จะถ่ายทอดออกไปได้ทั่วโลก โดยโลกสามารถแปลรู้เรื่องจากการแปลของกุเกิลเป็นภาษาอังกฤษได้ทันที  นั่นก็คือ  วัดของเรา MY TEMPLE ที่เป็นวัด อินเทอเนต  และใช้ภาษาไทยอธิบายหลักธรรมะทางพระพุทธศาสนา จะสามารถถ่ายทอด แปลเป็นภาษาอังกฤษสากลได้ไปทั่วโลกในขณะเดียวกันด้วยความเจริญทางการแปลภาษาของเทกนิคการแปลภาษายุคใหม่นี้ด้วย  ทำให้การเผยแผ่ศาสนาของเราเป็นไปได้โดยง่ายและไปได้ทั่วโลกในชั่วเวลานาทีเดียวก็ว่าได้ นี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไปกับการดำเนินการของวัดอินเทอเนตของเรานี้เอง และเมื่อมีวัดอินเทอเนตเกิดขึ้นแล้ว หนังสือพิมพ์ดีนี้ ก็คงจะลดบทบาทลงไปมาก  จะคงมีอยู่แต่เรื่องวัฒนธรรมโลก และ บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ต่อไป โปรดติดตามจากเวบไซต์ของเรา และทั้งเฟสบุ๊คของเรา  
 
ในช่วงที่หนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55 ออกมานี้  ได้มีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทยก็คือ  การได้รัฐบาลใหม่  ที่เป็นผลจาก รัฐธรรมนูญไทย พ.ศ.2560  ที่ให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม พุทธศักราช 2562  ซึ่งผลของการเลือกตั้งนั้นมีหลายประการที่เป็นเหตุให้เกิดความปั่นป่วนไปในวงการเมือง ไทย โดยเฉพาะ ระหว่างฝ่ายรัฐบาล กับ ฝ่ายค้าน แม้ในที่สุดก็ได้รัฐบาลมาเรียบร้อย  ที่มี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และล่าสุด  รัฐบาลที่รวมพรรคหลายพรรคเข้าด้วยกัน แต่ก็ยังได้คะแนนเสียงแบบปริ่มน้ำ  ก็ได้ผ่านงบประมาณปี 2563 ซึ่งมีวงเงิน 3,200,000 ล้านบาท ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2562  หากมิฉะนั้นแล้วก็คงจะเกิดวุ่นวายทางการเมืองอีกครั้งใหญ่ โดยอาจจะมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่อีกครั้งก็ได้  แต่ก็ผ่านไปได้  จากนี้ก็มีปัญหาทางฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ที่เกิดแตกแยกกันอย่างรุนแรง อันเร่ิมมาจากการโหวดงบประมาณ 2563 ที่พรรคนี้มี 3 สส.ไม่ได้ใช้สิทธิ์คัดค้านตามมติพรรค  จึงหวังว่ารัฐบาลประยุทธ 2 คงจะเดินหน้าต่อไปได้   และพร้อมนี้โครงการ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน 3 สนามบิน ก็เร่ิมต้นเดินหน้า  โดยกำหนดเสร็จสิเ้นสมบูรณ์ของโครงการลงใน  พ.ศ.2566   นี่คือสถานะการณ์ขณะที่หนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55 ออกมา   และเราขอบันทึกเอาไว้  ต่อจากนี้  ก็มาถึงเรื่องประจำปีของเรา คือ รายงานบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ปี พ.ศซ. 2562   ดังต่อไปนี้   
 
 
 
 
บุคคลแห่งปี ของหนังสือพิมพ์ดี  

 4.2.1  เทรีซ่า แมรี่ เมย์ 

 1.     บุคคลที่ 138   Theresa Mary May (เทรีซ่า แมรี เมย์)          

         อดีต นรม.สหราชอาณาจักร หน.พรรค conservative party (อนุรักษ์นิยม) ระหว่างพ.ศ. 2559 – 2562 

 

 

 

 

 

 

เมย์เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร หลังประชาชนอังกฤษทำประชามติยืนยันเจตจำนงว่าต้องการให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเป็นเหตุให้นายเดวิด คาเมรอน นากยกรัฐมนตรีขณะนั้นลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ภารกิจของเธอตั้งแต่ก้าวขึ้สู่ตำแหน่งคือการผลักดันการแยกตัวนี้ให้สำเร็จ   

ตลอดการดำรงตำแหน่งมีการผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 3 ครั้งและล้มเหลวมาตลอด   

เมย์ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องออกจากตำแหน่งด้วยประเด็นความสัมพันธ์กับยุโรป ก่อนหน้านี้มากาเร็ต แทชเชอร์ จอห์น เมเจอร์ และเดวิด คาเมรอนก็ลาออกด้วยประเด็นเดียวกัน   

 

 

เทรีซา เมย์วางแผนจะลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 7 มิถุนายน หลังกำหนดการพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา และร่วมพิธีรำลึกวันยกพลขึ้นบก และจะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการจนกระทั่งพรรคอนุรักษ์นิยมเลือกผู้นำคนใหม่ได้   

โพลล์สาธารณะและผู้รับพนันถูกกฎหมายในประเทศเชื่อว่าหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่ซึ่งจะกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนต่อไปคือ บอริส จอห์นสัน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน โดยในครั้งนั้นดึงคะแนนเสียงจากผู้สนับสนุนพรรคแรงงานได้เป็นจำนวนมาก

 

  นอกจากนี้ อดีตรัฐมนตรี แอนเดรีย ลีดซอมที่เพิ่งลาออกจากคณะรัฐมนตรีของเมย์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็กล่าวว่ากำลังพิจารณาสมครเข้ารับตำแหน่งแทนหัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน

 

 

ในปี2561  เมย์  ได้ออกหนังสือเชิญชวนคนทั้งโลก ให้ร่วมกันฉลองสมโภชน์วันวิสาขบูชา  ด้วยข้อความต่อไปนี้    

 

 ข้าพเจ้ามีความประสงค์อำนวยพรให้ท่านและสังคมของท่านทั้งหลาย ได้พบกับความสุขในวันวิสาขบูชา ที่ฉลองวันประสูติ วันตรัสรู้ และ วันนิพพาน ของพระพุทธเจ้า   วันวิสาขบูชาเตือนเราให้รำลึกถึงความสำคัญของ การให้  ของจริยธรรม  และ  การกระทำความดี   การปฏิบัติธรรมที่เป็นสิ่งที่โลกปัจจุบันนี้ต้องการมาก

ประเทศสหราชอาณาจักร เป็นดินแดนที่มั่งมีกว่าที่อื่น  ด้วยเป็นผลมาจากที่มีสมาคมชาวพุทธหลายสมาคม  พระพุทธศาสนาสอน ความชำนาญสำคัญ ๆ หลายอย่าง   เช่น เรื่องจิตใจที่อิ่มเต็ม   พอ ๆ กับสอนเรื่อง ความสำคัญของ ความเชื่อมั่นในตัวเอง   มันสืบต่อให้เราระลึกความสำคัญของสิ่งแวดล้อม  และความจำเป็นที่เราต้องรักษามันเอาไว้ เพื่ออนุชนรุ่นหลัง ที่จะตามเรามา 

ขอให้พวกเราทุก ๆ คน ได้ร่วมฉลองวันวิสาขบูชานี้ ทั้งที่อยู่ในสหราชอาณาจักร  และ  อยู่ต่างประเทศ  ถือเอาโอกาสนี้ ทบทวน ทำการปฏิญาณที่จะเดินวิถีชีวิตไปในวิถีทางที่ประเสริฐสูงส่ง  ทำการพัฒนาจิตใจ  ฝึกหัดให้เกิดความเมตตาและความรัก  และ  นำเอาความสันติภาพและความสมานสามัคคีมาสู่มนุษยชาติ      

การที่ท่านนายกรัฐมนตรี เทรีซ่า แมรี่ เมย์  ได้มองเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาอย่างถูกหลักสัจธรรมของพระพุทธศาสนา  ดังจะเห็นว่าท่านได้กล่าวถึงธรรมะ ว่าด้วย  ทาน  หรือ  giving,  จริยธรรม  virtue,   และการกระทำความดี  การประพฤติปฏิบัติความดีทุกอย่าง   good deeds-all practices,  บอกถึงการที่ท่านได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนามาอย่างเข้าใจดี จนอดที่จะเผยแผ่ไปให้คนทั้งหลายทำตามบ้างนั้นเอง  ในเรื่องส่วนตัวหรือด้านธรรมะภายใน ท่านยกย่องเรื่อง ชีวิตที่ประเสริฐสูงส่ง  ความรักด้วยเมตตาจิต  ให้คนเราพัฒนาจิตใจ  ธรรมะเหล่านี้เท่านั้นจัก นำสันติภาพมาสู่มนุษยชาติได้    คือ ประโยคสุดท้าย  ที่ว่า     ขอให้พวกเราทุก ๆ คน ทั้งที่อยู่ในสหราชอาณาจักร  และ  อยู่ต่างประเทศ  ได้ร่วมฉลองวันวิสาขบูชานี้  ถือเอาโอกาสนี้ ทบทวน ทำการปฏิญาณที่จะเดินวิถีชีวิตไปในวิถีทางที่ประเสริฐสูงส่ง  ทำการพัฒนาจิตใจ  ฝึกหัดให้เกิดความเมตตาและความรัก  และ  นำเอาสันติภาพและความสมานสามัคคีมาสู่มนุษยชาติ   ซึ่งเรามองเห็นว่า ท่านนายกรัฐมนตรีเทรีซ่า  แมรี เมย์ ท่านมองธรรมะในพระพุทธศาสนาสูงส่งประเสริฐ และการปฏิบัติธรรม นั้นเองเป็นหลักสามัคคีธรรม  หลักสันติภาพของโลก ที่ยุคนี้ยิ่งมีความต้องการอย่างจำเป็นยิ่งขึ้น ๆ ไปอีก ดังประโยคสุดท้ายที่ท่านกล่าวไว้อย่างน่าชื่นชมว่า    May everyone  celebrating VISAK, both here and abroad,  use the opportunity to reiterate their determination  to lead noble lives, to develop their minds, to practice loving kindness, and to bring peace and harmony  to humanity.   

 

 ซึ่งในข้อความนั้นบอกไปถึง ความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา   และเห็นว่าหลักสันติภาพที่พระพุทธศาสนาสอนเป็นหลักการสำคัญนั้น สมควรที่โลกทั้งโลกจะได้นำไปร่วมปฏิบัติ ในฐานะที่เธอเป็นผู้นำของประเทศมหาอาณาจักร ที่เคยปกครองโลก จนกลายเป็นดินแดนที่ตะวันไม่ตกดินมาแล้ว  จึงเห็นว่า ป็นการแสดงบทบาทการนำโลกทั้งโลก ในการให้ความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ความคิดของเธอในทางที่จะส่งเสริมพระพุทธศาสนาจึงออกมาเนื่องจากวันวิสาขบูชา 2561 วันที่ 29 เมษายน 2561 มาถึง  ซึ่งเป็นวันที่องค์การสหประาชาติยกย่องให้เป็นวันสำคัญของโลก  เธอจึงออกหนังสือชวนเชิญคนทั้งโลกให้ร่วมกันฉลองวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นการนำ ในการให้ความสำคัญแด่พระพุทธศาสนาอย่างย่ิงใหญ่ และมีผลต่อมา  เนื่องด้วย ปี2562 นายกรัฐมนตรีแคนาดา นายจัสติน ทรูโด  ได้ออกหนังสือเช่นเดียวกันนี้ ยกย่องพระพุทธศาสนาและเชิญชวนผู้คนในโลกให้ฉลองวันวิสาขบูชาเช่นเดียวกัน การที่เห็นธรรมะในพระพุทธศาสนาในเชิงเหตุ ผล ทางวิทยาศาสตร์นั้น คือบุคคลผู้รู้ธรรมะที่แท้จริงในพระพุทธศาสนา ซึ่งย่อมมีฐานะทางภูมิปัญญาระดับสูงสุดของศาสนาพุทธ  เราจึงขอยกย่ เราจึงมีความพอใจยกตำแหน่งบุคคลแห่งปี พุทธศักราช 2562 ของ หนังสือพิมพ์ดีให้ ขอให้ท่านได้จำเริญด้วยพุทธธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปสู่แดนมรรคผลนิพพานของพระพุทธเจ้า และหวังว่าเธอจะดำเนินการทางธรรมะที่เธอรู้นี้โปรดแด่คนในโลกสืบไป

 

 

 

 

 4.2.2   จัสติน พิเอร์ เจมส์ ทรูโด

2.  บุคคลที่ 139   Justin Pierre James Trudeau   จัสติน พิเอร์ เจมส์ ทรูโด 

      นายกรัฐมนตรีหนุ่มน้อย แคนาดา นายกรัฐมนตรีรูปหล่อที่สุด  

 

 

 

จัสติน พีเอร์ เจมส์ ทรูโด (อังกฤษ: Justin Pierre James Trudeau, เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2514) เป็นนักการเมืองชาวแคนาดา นายกรัฐมนตรีแคนาดาคนที่ 23 และคนปัจจุบัน ตลอดจนเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม เขาเป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดาที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองรองจากโจ คลาร์ก (Joe Clark) และบุตรคนโตของอดีตนายกรัฐมนตรี พีเอร์ ทรูโด เป็นบุตรคนแรกของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่ง เขาทำให้ตระกูลทรูโดสามารถกลับมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับแคนาดาได้อีกครั้งหนึ่ง 

ทรูโดเกิดในออตตาวาและเข้าศึกษาที่ Collège Jean-de-Brébeuf เขาสำเร็จปริญญาตรีในสาขาวรรณคดีภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยแม็กกิลในปี พ.ศ. 2537 และครุศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียในปี พ.ศ. 2542 เขาได้รับความสนใจจากสาธารณะอย่างสูงในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2543 เมื่อเขากล่าวบทยกย่องในรัฐพิธีศพของบิดาเขา หลังสำเร็จการศึกษา เขาทำงานเป็นครูในแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย แล้วศึกษาวิศวกรรมศาสตร์และเริ่มปริญญาโทสาขาภูมิศาสตร์สิ่งแวดล้อม เขาใช้ชื่อเสียงของเขาสนับสนุนอุดมการณ์ต่าง ๆ และแสดงในภาพยนตร์ชุดสั้นทางโทรทัศน์เรื่อง เดอะเกรตวอร์ ในปี พ.ศ. 2550

 

 

 

 

 

หลังเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้นหลังบิดาเสียชีวิต ทรูโดได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสหพันธรัฐปี พ.ศ. 2551 เพื่อเป็นสมาชิกสภาสามัญชนของเขตปาปีโน (Papineau) ในสภาสามัญชน ในปี พ.ศ. 2552 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีเงา (critic) ในด้านเยาวชนและพหุวัฒนธรรมนิยมของพรรคเสรีนิยม และในปีต่อมาเป็นรัฐมนตรีเงาด้านความเป็นพลเมืองและการเข้าเมือง ในปี พ.ศ. 2554 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีเงาด้านมัธยมศึกษาและเยาวชนและกีฬาสมัครเล่น ทรูโดเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมในเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 และนำพรรคสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งสหพันธรัฐปี พ.ศ. 2558 คว้าที่นั่งสำหรับพรรคเสรีนิยมเพิ่มขึ้นจาก 36 เป็น 184 ที่นั่ง เป็นกรณีที่พรรคได้ที่นั่งเพิ่มมากที่สุดในการเลือกตั้งแคนาดา

 

 

 

 

 

 

 

เรายกย่องเขาเป็นยบุคคลแห่งปี  ก็โดยที่ จัสติน พิเอร์ เจมส์ ทรูโด  ได้ศึกษาให้ความศรัทธาเลื่อมใสในหลักธรรมะของพระพุทธศษสนา  แล้วเห็นด้วยกับองค์การสหประชาชาติ ที่ยกย่องวันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก ของมนุษย์ทั้งโลก  ฉะนั้นการที่เขาได้ออกหนังสือมาทางสื่อมวลชน โดยได้ยกย่องพระพุทธศาสนาอย่างน่าชื่นชมยินดี และได้ชวนเชิญคนทั้งโลกให้ร่วมกันฉลองวันวิสาขบูชา วันที่ 18 พ.ค. 2562  ซึ่งเป็นวันสำคัญของพระพุทธศาสนา ที่ทางองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นวันสำคัญของโลก  ตามหนังสือ เอกสารเผยแผ่ที่เขาเสนอออกมาภาพข้างล่างนี้  ซึ่งมีข้อความสำคัญยกย่องพระพุทธศาสนาว่าเป็นวันแห่งสันติภาพ ทีโลกเรามีความประสงค์ร่วมกันทั้งโลกอยู่แล้ว   ซึ่งแสดงถึงความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างซาบซึ้งตรึงใจในลักษณะเอกชนโดยตรงด้วย   โปรดดูเอกสารที่เขาออกมาสู่มวลชนโลก  

 

เพื่อนรักทั้งหลายข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เผยแผ่ความยินดีที่อบอุ่นที่สุดมายังทุก ๆ คนทุก ๆ ท่าน  ที่มีส่วนร่วมกันในการฉลองวันวิสาขบูชา และมรดก ณ เมืองอ๊อตตาวาฮอลแห่งนี้   วันวิสาขบูชา เป็นวันที่เราฉลอง  วันประสูติ  ตรัสรู้  และ การจากไปของ เจ้าชายสิทธัตถะ โคตมะ  ผู้ที่ก่อสร้างพระพุทธศาสนาขึ้นมา   ซึ่งเป็นข่าวสารแห่งแห่งความสันติสงบ  และความสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างมนุษย์ทั้งปวง  สามารถเป็นที่ยอมรับของศาสนาทั้งหลายได้    

เดือนแห่งมรดกตกทอดของเอเชียมานี้ได้ให้ชาวคานาดา เพื่อการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมรดกเอเซียน – คานาเดียนนี้   และฉลองสำหรับการเพิ่มพูนในความดีให้แก่ประเทศของเรา

ข้าพเจ้ามุ่งหมายจะขอบใจ แด่องค์การที่ได้ก่อเกิดการประสานงานร่วมมือกันให้เกิดความสำคัญขึ้นระหว่างโอกาสนี้ทั้งสองประเทศ    เสมือนหนึ่งว่าเป็นความรำลึกถึงที่สุดประเสริฐ ที่นำไปสู่พลังอันสูงส่งของชาติเรา

ได้โประรับคำอวยพรที่ดีที่สุดของข้าพเจ้าสำหรับการร่วมฉลองวเพื่อรำลึกถึงความสำคัญของวันนี้ 

ด้วยสุจริตใจ

ลงนาม...........

The Rt.Hon. Justin P.J. Trudeau , P.C. M.P. 

Prime Minister of Canada 

  

เช่นท่านนายกรัฐมนตรีหญิงอังกฤษ เทรีซ่า แมรี่ เมย์ ที่ท่านผู้นี้แหละเริ่มออกหนังสือในนามนายกรัฐมนตรีประเทศใหญ่ สหราชอาณาจักรชวนเชิญคนในโลก ให้ฉลองวันวิสาขบูชา ปี 2561 ก่อน แล้วมาปีนี้ทรูโด ก็ทำตาม ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกับ บุคคลระดับโลกคนอื่น ๆ ที่เร่ิมหันมามองและรู้จักความดี ความประเสริฐของศาสนาพุทธกันแล้ว สำหรับทรูโดเราเห็นว่าในเรื่องพระพุทธศาสนานี้ ทรูโด น่าจะได้มีความสัมพันธ์กันอย่างดีกับท่านอดีต นรม.อังกฤษ คือท่านหญิง เทรีซาร์ แมรรี้่ เมย์  โดยเห็นจากการที่แคนาดานี้  ถึงอย่างไรก็นับถือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2  เป็นกษัตริย์ประจำชาติ จึงน่าจะเห็นได้ว่าในเรื่องสันติภาพของโลก จึงมีแนวคิดตรงกันกับ แมรี เมย์ ในเรื่องธรรมะของพระพุทธศาสนา และการออกเอกสารเผยแผ่ออกมาก็เห็นได้ว่าทำตามกันออกมา ออกหนังสือชักวนคนทั้งโลกให้ฉลองวันสำคัญ ตามหลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา  ที่ทรูโดมองถึงหลักการแห่งสันติภาพ  ซึ่งทำให้ความเข้าใจในศาสนาวิทยาศาสตคร์คือพุทธศาสนาเผยแผ่ออกไปทั่วโลกยุคนี้   จึงสมควรยกย่อง จัสติน ทรูโดเป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ปี พ.ศ.2562 และหวังว่าท่านจะได้นำความคิดความเลื่อมใสศรัทธาในหลักธรรมพระพุทธศาสนาเผยแผ่ต่อไป  เพื่อประโยชน์แห่งสันติภาพของมวลมนุษย์โลกตามที่ท่านพูดถึงอย่างจริงจังต่อไป

 

 

  

 4.2.3   แคทรีโอนา เอลิซา มักนายอน เกรย์

3.    บุคคลที่ 140  Catriona Elisa  Magmayon Gray, Miss Universe 2018  

       แคทรีโอนา เอลิซา มักนายอน เกรย์   สาวจาก  the Philippines

 

 

 แคทรีโอนา เอลิซา มักนายอน เกรย์ (ฟิลิปีโนCatriona Elisa Magnayon Gray; เกิด 6 มกราคม พ.ศ. 2537) เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์, นักร้อง, นางแบบ, นักแสดงละครเวที และนางงามชาวฟิลิปปินส์เชื้อสายออสเตรเลีย เธอได้รับตำแหน่ง นางงามจักรวาล 2018 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และเธอเป็น นางงามจักรวาล คนที่สี่ของฟิลิปปินส์

 

 

คำวิจารณ์ นางงามจักรวาล แคทรีโอนา เกรย์ ชาวฟิลิปปินส์คนนี้ไว้ พอที่เราจะพิจารณาให้เป็นบุคคลสำคัญของเราแล้ว  ดังต่อไปนี้ 

 

" พอดีพบ ทีวีช่อง 036 พีพีทีวี ถ่ายทอดประกวดมิสยูนิเวอร์ส 2018,   10 สาวงาม(จาก94 สาวงาม) คนสุดท้าย ปรากฎว่ามีไทยอยู่ด้วย แล้วไปรอบ 5 คนสุดท้ายไทยตกไปแล้วไปรอบ 3 คนสุดท้าย   มี 1. ฟิลิปปินส์  2. South Africa (อาฟริกาใต้)  และ 3. เวเนซูเอลา  ...ขณะนี้เวลา 09.50 น.  ให้ 3 คนสุดท้ายโชว์ครั้งสุดท้าย เขาให้เดินโชว์  ขณะนี้ดูอยู่  อีกเดี๋ยวเดียวก็รู้ผล สาวงามประเทศใดจะได้เป็น มิสยูนิเวอส  ปี 2018 ......เอาละ  ผลออกมาแล้ว  09.57 น.   อันดับ 3 เวเนซูเอลา   อันดับ 2 อาฟริกาใต้   อันดับ 1 มิสสยูนิเวอส ฟิลิปปินส์ Catriona Gray 

     

ความจริง ว่าจะพูดรายงานท่านสมาชิกกลุ่ม  เรื่องตกค้างอยู่เรื่องหนึ่ง  แต่พอดีพบเรื่องประกวดมิสสยูนิเวอร์ส พอดี  ก็เลยออกข่าวให้สมาชิกได้ทราบ  ได้รู้ผลพอดีเลย  มิสยูนิเวอรส ปี 2018  เป็นสาวงามฟิลิปปินส์  พิธีกร 2 สาวช่อง 036 วิจารณ์ต่อว่า สาวไทยก็สวยมาก ได้ 1 ใน 10  ส่วนฟิลิปปินส์นั้น ว่าน่าเก็งแต่แรกแล้ว ดูเด่น และสมจริง ๆ  เวียดนาม ก็สวย ได้ 1 ใน 5  

 

 

 

ไทยเราดูเหมือนว่างจากตำแหน่งมิสยูนิเวอร์สมานานหลายปีเลยทีเดียว   อาภัสรา หงสกลุล ได้เป็นนางงามจักรวาล มาร่วม 50 ปีแล้ว  ปีต่อมานั่นเองไทยก็ได้ซ้อนไปอีก เป็น 2 ปี ต่อกันเลย เป็นนางงามไทยได้เป็นมิสยูนิเวอร์ส ซ้อนกัน 2 คน  .... เธอคนที่ 2 นี้ก็คือ  ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางงามจักรวาล(Miss Universe) คนที่ 2 ของไทย.... .....นั่นคือเรื่องนางงามจักรวาลสาวไทย และจนบัดนี้ยังไม่ปรากฎว่ามีสาวไทยได้ถึงนางงามจักรวาลอีกเลย  แต่ฟิลิปปินส์ ได้นางงามจักรวาล เป็นคนที่ 4 แล้ว   เพราะอะไร?   น่าคิดมาก  

 

 

 

มีข้อสังเกตต่อไปอีกเรื่องการจัดประกวดนางงามจักรวาลแต่ละปี ๆ มา ซึ่งทางคณะกรรมการกองประกวด   เขาคัดผู้หญิงสวยมาอย่างไร   94 คน เหลือ 10 คน  เหลือ 5 คน  และ 3 คนสุดท้าย เราได้ทราบข้อคิดเห็นของเธอจากการให้ตอบคำถาม  และเห็นได้   พอสรุปได้ไม่ผิดเลยว่า  สาวงามที่ผ่านระดับความงามมาทั้งหลายนี้  ล้วนแต่เป็น   เสรีชน .......  

 

และประเทศฟิลิปปินส์ เคย เป็นประเทศมุสลิม   สาวงามจักรวาลฟิลิปปินส์คนนี้  เป็นมุสลิมหรือเปล่า ?  เป็นมุสลิมคนที่4  ที่ได้ตำแหน่งนางงามจักรวาล?  ฟังจากคำพูด  ที่ตอบคำถามของเธอ  ที่ว่า  มนิลาเต็มไปด้วยความอดหยาก  ยากจน เธอเป็นคนรักเด็ก  เธอ หากได้ตำแหน่งแล้วก็จะใช้ตำแหน่งนี้ต่อสู้แก้ปัญหาเหล่านี้......    คือ หญิงมุสลิม  ที่ในประเทศมุสลิมแท้ ๆ  เช่นอิรัค  อิหร่าน ตะวันออกกลางการเปิดหน้า นุ่งกางเกงกระโปรงชะเวิบชะวาบ   แม้กระทั่ง การออกสังคม   การไปสังคม ท่องเที่ยว  เปิดเผยความงาม  อล่างฉ่าง อย่างนี้ เป็นข้อต้องห้ามอย่างเคร่งครัด  ดังเราได้พบข่าว ในประเทศนั้น  ทำการลงโทษผู้หญิงมุสลิมที่ขับรถออกไปนอกบ้าน  ที่ไม่คลุมหน้า   และ ยังมีการต่อสู้  ให้นักเรียน เช่นฝรั่งเศส  และไทย เป็นต้น  ให้หญิงมุสลิมสวมผ้าคลุม...โดยเหตุผลว่าการที่หญิงไม่คลุมหน้าผิดกฎอิสลาม ต้องมีโทษ นั้น ....แต่เมื่อมีนางงามจักรวาล   ที่แสดงออกซึ่งความเป็นเสรีชน  และ  หญิงยุคใหม่เช่นนี้   องค์การอิสลามจะทำอย่างไร   จะคิดว่าเธอทำผิดกฎอิสลามหรือ ?   และประเด็นคือ   ผิดอย่างไร ?    และนี่แหละ เมื่อหญิงมุสลิมคนหนึ่งออกท่าทางมาเป็น เสรีชน อย่างเต็มที่เช่นนี้   จึงได้ชนะใจคณะกรรมการการประกวดมิสยูนิเวอส ......เราเองพอมองเห็นว่า  ประเทศฟิลิปปินส์นั้น  ได้พัฒนาการอิสลามมาระดับหนึ่งแล้ว ควรที่จะพํฒนาไปไกลกว่าเดิม   ด้วยการทิ้งกฎที่ล้าหลังและที่ไม่ชอบธรรมของศาสนาอิสลามไปเสียเถอะ   และน่าจะมีนางงามจักรวาลคนใหม่ของฟิลิปปินส์นี้แหละเป็นหัวหอกด้านการเปลี่ยนแปลงฝ่ายหญิงมุสลิมต่อไป  

 

 

ด้วยเหตุผลที่ว่าด้วยเสรีชน  นางงามจักรวาลของฟิลิปปินส์ที่มีมาแล้ว  3 นางงามจักรวาล รวมกับคนล่าสุดนี้คือ แคทรีโอนา เกรย์   รวม 4 คน จึงดูประดุจว่าเป็นหัวหอกแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแรง สำหรับสังคมอิสลามฟิลิปปินส์ เช่นนี้แหละ เราจึงขอยกย่อง  ว่า แคทรีโอนา เกรย์  สาวงามจักรวาลฟิลิปปินส์คนนี้   เป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดีปี 2562   หวังว่าเธอจะได้ทำหน้าที่ตามบทบาทของเธอต่อไป  เพื่อสังคมอิสลามได้เดินไปอย่างทันสมัยทันยุคเสรีชน ต่อไป

 

 

 

 4.2.4   แสนชัย พีเค แสนชัยมวยไทยยิม 

 4.  บุคคลที่ 141  แสนชัย พี.เค. แสนชัย มวยไทยยิม

      [Saenchai P.K. Saenchai Muaythai Gym]   

 

 

 

นักมวยไทย ชาวจังหวัดมหาสารคาม ไปเผยแผ่วิชามวยไทยไปทั่วโลก  จนวันนี้ เขามีอายุเข้า 37 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงแสดงฤทธิมวยไทย เอาชนะนักมวยต่างประเทศได้ตลอด 

 

 

สิ่งที่เขาชกนั้น  บอกไปถึง ศิลปะ วิชามวยไทยอย่างสูงสุด และด้วยความเข้าใจและความชำนาญในศิลป วิชามวยไทยนี้เอง  ทำให้เขาเอาชนะมวย Thai Fight ได้ทั่วโลก ซึ่งมีข้อพิศูจน์จาก ขนาดรูปร่างของแสนชัยนั้น  แม้ตนเป็นคนไทยก็มีรูปร่างเตี้ยต่ำ เล็กไปกว่าคนไทยทั่วไป หากแต่สุขภาพดียอดเยี่ยม  ทำน้ำหนักได้พอ  แต่เมื่อไปต่างประเทศ โดยเฉพาะตะวันตก อเมริกา ล้วนแต่ได้พบคนตัวโตใหญ่กว่าล้วนคนฝรั่ง ตัวใหญ่ ตัวสูงกว่าเขาทั้งสิ้น  แต่การที่เขาเอาชนะได้ ในแบบที่ว่า แต่ละครั้งนั้นเหมือนครูมวยชกกับลูกศิษย์อะไรประมาณนั้น  นั่นแหละมันบอกถึงการชกด้วยศิลปะ วิชามวยไทยที่เขารอบรู้ฉลาดปราดเปรื่องอย่างแท้จริง  จนเวลาเข้าเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ เขาจะสามารถมองออกไปหมดถึงแผนการชกของคู่ต่อสู้  และแผนของเขาเองว่าจะรุก ประชิด ติดตัวข้าศึก และเอาชนะด้วยหมัด ด้วยอาวุธอะไร และ อย่างไร อย่างไม่ผิดพลาดเลย 

 

 

 

 

ลองไปดูการชกล่าสุดๆ แสนชัย VS Stephen Meleady Irand,Muay Thai Fight, 6 ก.ค. 2562  3 ยก ยก 1 คนตัวเตี้ยกว่าปล้ำคนตัวสูงพลิกล้ม 1 ครั้ง  2 ครั้ง 3  ครั้ง แก้ไม่ตก,   ยก 2 ถีบล้ม ต่อยล้ม,   ยก 3 ใช้หมัด ผสมไปกับเล่ห์กลการชกที่ฉลาด Stephen โดนทั้งหมัด เข่า ศอกไปไม่ไหว  กรรมการเข้าขวาง จับหยุดชก   คนชมวิจารณ์ Amiz hasseyni ว่า Saenchai is 39 still has super technique to defeat even much younger opponents. He has talent for fight moves.  แสนชัยอายุ 39 แล้ว ยังมีเทกนิกสูงสุด ไปสร้างความพ่ายแพ้ให้แด่คู่ต่อสู้ผู้ที่เยากว่ามากได้ เขามีความคล่องตัวสูงในการเคลื่อนตัวไปยังเป้าหมายเพื่อใช้อาวุธ ให้ตรงเข้าเป้าจุดตายของข้าศึก   Saita Cry ว่า ปรมาจารย์มวยไทย สุดยอด มีคนชมว่าเขาเป็นโคตรมวยเลยละ   

 

 

ไปดูอีกรอบเขาชกกับ Chadd Collins นักชกออสเตรเลีย สนามยะลา ไทยเรา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2560 ยก 1 เตะล้ม  ถีบล้ม  ยก 2 แสนชัยโดนบ้าง   ยก 3 ทัังหมัด  ทั้งเข่า  ทั้งแข้ง    ชนะคะแนนไปอย่างน่าดูน่าชมของคนดู  สมกับคำว่า  ยอดมวยสยามเลยละ 

 

แล้วอีกคู่หนึ่ง แสนชัยพบ Massaro Glunder ชกในอังกฤษ ณ สนาม  the Macron Stadium เมือง Bolton ในวันที่ 10 ตุลาคม 2558 ชกแบบมวยไทย 5 ยก  พบคนตัวโตกว่าเช่นเคย  ยก 1 ปกติ   ยก 2 ปล้ำ ล้ม แล้วปล้ำอีก ฝรั่งล้มอีก  ตั้ง 3 ครั้ง3หน  ยก 3 กอด  เตะล้ม  โดนหมัด โดนนศอก   ยก 4 ปล้ำล้มตลอด   ยก 5  ก็เห็นว่ามวยฝรั่งไปไม่ไหว  แสนชัยชนะคะแนนไป  นี่ก็คือการชกในต่างประเทศ ที่ดูจะไม่มีความหมายอะไรสำหรับแสนชัย  โคตรมวยคนนี้  เพราะเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับต่างประเทศ พอ ๆ กับชกในเมืองไทยเลย  เขาได้สร้างชื่อเสียงขึ้นว่า มวยไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก 

 

มาดูอีกครั้งหนึ่ง มวยรับถ้วยพระราชทาน Thai Fight Bangkok 2018  แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม VS เฮนริเก้ มูลเลอร์  Saenchai P.K. Saenchai Muay Thai Gym VS Henrique Muller  67 kg. ชิงถ้วยพระราชทาน ชกวันที่ 27 ม.ค.2561  ปรากฎว่าแสนชัยตั้งใจจะแสดงผลงานให้สุดยอด  ทั้งนี้ก็เพราะ ได้พาเอาครอบครัว ลูก เมีย พ่อ แม่ บ้านเกิดมหาสารคาม มาชมการชกด้วย โดยประกาศว่าจะทำให้ดูสมใจเลยละ   ปรากฎว่าเขาทำได้อย่างตั้งใจไว้ อย่างไม่ใช่เรื่องที่ต้องเสียง หรือลำบากใจอะไรเลย สมกับคนพากษ์มวยบอกว่าดูแสนชัยชกแล้วสบายใจ เพราะเขาชกเหมือนแสดงละครให้คนดูสบายใจ ไม่มีความเครียด  อันเนื่องมาจากการแสดงของเขาด๊ไปหมดในบทของพระเอกนั่นเอง  นั่นเป็นเพราะเขารอบรู้จริง ๆ ในชั้นเชิงมวยไทย และทั้งมองช่องโหว่จากคู่ต่อสู้ได้ทะลุปรุโปร่ง นั้นเอง  เลย และไม่ผิดหวังที่คนดูของเขา ได้เห็นการน๊อคแบบพิเศษเลย  ยก 1 บุกตลอด   แต่นักมวยตัวโตอดทนดี  ยก 2  เอามุลเลอร์มวยฝรั่งถึงนับ  และยก 3  มากลาง ๆ ยกเท่านั้น แสนชัยยกเท้าขึ้น แล้วมีการตวัดแวบไปเข้าแก้มขวาของคู่ต่อสู้  ดูแล้วเหมือนไม่น่ามีพิษ ร้ายแรงอะไร  แต่ผลออกดูช้า  แต่แล้วเห็นคู่ต่อสู้ตาลอยไป  แล้วค่อย ๆ ล้มลงไปหลังฟาดพื้น  ไม่ยอมลุก  นั่นแหละสุดยอดฝ่าเท้าเลยทีเดียว     

 

 

 

 

เขาควรจะชื่อว่า โคตรมวยจริง ๆ  จากการชกกับ ไอแซค ซานโตส เมื่อ 27 ก.ย. 2561 ที่เชียงราย  เพรกาะเขาแทบว่าไม่ให้ไอแซค ทำอะไรได้เลย   จริงอยู่ ไอแซคมีแผนบุกแน่นอน  แต่ถูกแสนชัยสกัดแผนไว้หมด  ที่คิดจะออกหมัดออกมา  ออกเท้าออกมา  หรือทำอะไรออกมา  แสนชัยรู้ก่อนหมดแล้วสกัดก่อนทุกยุทธวิธีเลย  ไอแซคจึงเหมือนเพียงคนขึ้นไปกำกำปั้นไว้เฉย ๆ   ฝ่ายที่ทำเอา ทั้งเตะ  ทั้งรุกประชิดศอก  เข่า  หมัด  ถีบ  ออกไปสกัดไว้หมด  จนดูเหมือนว่าไอแซค ไม่เป้ฯมวย  แสนชัยชกกับคนไม่เป็ฯมวย ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้นเลย แต่ว่า ไอแซกมาชกกับโคตรมวยก็เลยตนเองเหมือนเด็กมวยไป   

 

 

นี่แหละโคตรมวย ผู้ที่เผยแผ่มวยไทยไปทั่วโลก  แบบนี้  จึงขอยกย่องเป็นบุคคลแห่งปีพุทธศักราช 2562 ของหนังสือพิมพ์ดี แม้แสนชัยจะอายุเข้า 39 แล้ว แต่เราหวังว่า ความเป็นผู้รู้ชั้นเชิงศิลปมวยไทยอย่างยากที่จะหาได้ในแผ่นดินยุคนี้ ขอให้สืบทอดต่อไปยาวนานชั่วชีวิต 

 

 

 

 

 

 

 4.2.5    นายบุญมี สุระโคตร 

 5.  บุคคลที่ 142  นายบุญมี  สุระโคตร   

วิสาหกิจชุมชน ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสงจังหวัดศรีสะเกษ สุดยอดข้าวไทย  TOP THAI RICE   

 

 

 

นายบุญมี สุระโคตร  อายุ ๕๖ ปี  การศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลาย (กศน.) 

 

 

ที่อยู่ ๑๕๕ บ้านอุ่มแสง  หมู่ที่ ๗  ตำ บล ดู่ อำ เภอราษีไศล จังหวัด ศรีสะเกษ 

โทรศัพท์ ๐๘๒-๓๖๘๕๑๕๑ 

เว็บไซต์ : www.kasedtip.com, www.facebook.com/kasedtipboonmeeorganicrice 

นายบุญมี สุระโคตร เกิดมาในครอบครัวชาวนาที่อาภัพ พ่อเสียชีวิตต้งัแต่อยู่ในครรภ์แม่ได้๔ เดือน 

การทำนาของนายบุญมี สุระโคตร เป็ นการท านาแบบอินทรีย์เริ่มจากลดการใช้ปุ๋ ยเคมีและสารเคมีมา 

ต้งัแต่ปีพ.ศ. ๒๕๔๔ และได้น้อมน าเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใชด้ว้ยการลดรายจ่ายลดต้นทุนการ 

ปลูกข้าวควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เริ่มจากการไม่เผาตอซังและไถกลบตอซังและหว่านพืชปุ๋ยสด 

(ปอเทืองและถั่วพร้า มาตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๔๔) เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพใช้ในนาเพื่อ 

เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน และได้สร้างเครือข่ายการรวมกลุ่มสมาชิกในหมู่บา้นและบ้านใกล้เคียง จำ นวน ๔๗ ราย 

เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ระดมทุนได้ ๖๐๘,๐๐๐ บาท เป็นทุนเริ่มต้นในการผลิตปุ๋ยอินทรียช์ีวภาพ 

และนอกจากน้ียังได้คิดค้นวิธีการทำอาหารเสริมพืชชนิดน้ าข้ึ้นมาใช้เองรวมถึงสกัดสารไล่แมลงด้วยพืช 

สมุนไพรหลายชนิด ซึ่งสามารถป้องกันแมลงศัตรูพืชโดยเฉพาะเพล้ี้ยต่างๆ และเช้ือราในนาข้าวเป็นอย่างดี ซึ่ง 

ได้นำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านและหลักวิชาการจากนักวิชาการมาปรับใช้เป็นองค์ความรู้ในการทำนา โดยการปรับที่นาให้สม่่ำเสมอ เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณน้า ไดอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมปลูกไม้ยืนต้น เช่น มะม่วง ยูคา และต้นตะกู รอบแปลงนาเพื่อให้เป็นปอดหายใจและอนุรักษส์ิ่งแวดล้อม ซึ่งในการใชปุ้๋ยอินทรีย์ ได้นำเอาแร่ธาตุที่ขาดมาเป็นส่วนผสมด้วย  เช่น ภูไมค์ปูนมาร์ล และโดโลไมด์เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มข้ึนจนประสบความสำเร็จ  

 

 

 

 

 

 

 

แนวคิดในการทำนา นายบุญมี สุระโคตร ยึดหลักการทำนาแบบอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีเพิ่มผลผลิตโดยการใช้ปุยอินทรีย์พืช ปุ๋ยสด ปุ๋ ยหมัก ไถกลบตอซังข้าวและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นผลดีต่อสุขภาพของเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ป็นแบบอย่างแก่ชุมชน และความเป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีข้ึนในปัจจุบนัและอนาคต

  

 


 


ผลงานและความส าเร็จของผลงาน 

นายบุญมีสุระโคตร เข้าใจและมองถึงปัญหาการทา นาอย่างเป็นระบบ ทำ ให้เขาตดัสินใจขุดแหล่งน้ำสำรองในนาข้ึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตข้าวจากที่ทำนาไดเ้พียง ๑ คร้ั้งต่อปีทำให้เขาประสบความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนคร้ั้งในการทา นา ทำให้มีรายได้เพิ่มข้ึน สามารถทำนาได้ถ้ึงสองคร้ังในหน่ึงปีโดยในฤดูท ำนาปกติ

 จะทำนาในพ้ืนที่๒๒ ไร่และในฤดูแล้งสามารถทำนาได้อ้ีกคร้ังในพ้ืนที่๕ ไร่จากเดิมที่สามารถทา ไดเ้พียงคร้ั้งเดียวต่อปีเพราะเป็นพ้ืนที่นอกเขตชลประทาน  

โดยทำนาปีละ ๒ คร้ังคือทำนาปี ๒๒ ไร่  นาปรัง ๕ ไร่   ทำนา ๓ ประเภท คือ นาดำ  นาหว่าน และนาโยน  ใช้ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ ๑๐๕ ผลผลิตนาดำ ๕๒๐ กก./ไร่ นาหว่าน ๕๐๐ กก./ไร่ และนาโยน ๕๔๐ กก./ไร่  ในปี ๒๕๕๓ มีรายได้ท้งัสิ้น ๑๔๔,๕๐๐ บาท   ปี ๒๕๕๒ มีรายได้ ๑๓๙,๕๐๐ บาท   และปี ๒๕๕๑ มีรายได้ 

๑๒๕,๖๐๐ บาท   นอกจากน้นั ยังได้ผลิตปุ๋ ยอินทรีย์อัดเม็ด และแปรรูปผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ ๑๐๕ เป็ นข้าวกล้อง และข้าวกล้องออกจำหน่ายให้แก่สมาชิก 

เกษตรกรในหมู่บ้าน ตำบล  อำเภอ  และจังหวัด จนเป็นที่ยอมรับและติดตลาดในนามกลุ่มเกษตรกรเกษตรทิพย์ และข้าวตราลุงบุญมีนอกจากน้ียังได้รับเชิญเป็น

วิทยากรบรรยายเรื่อง การผลิตข้าวอินทรีย์การผลิตข้าวคุณภาพการแปรรูปข้าวเพื่อการค้า ตามโรงเรียนและส่วนราชการต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับความเป็นผู้นำและการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ   

 

 


 

 นายบุญมี สุระโคตร มีตา แหน่งในด้านสังคมและผูน้ า ชุมชนมากมาย เช่น เป็นปราชญ์ชาวบ้านเรื่อง เกษตรอินทรีย์เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนทอ้งถิ่น (ส.อ.บ.ต). ตำบลดู่ เป็นกรรมการโรงเรียนหวายคาวิทยา และโรงเรียนบ้านกระเดาอุ่มแสง เป็นประธานศูนย์ข้าวชุมชน ตำบลดู่ เป็นกรรมการกองทุนหมู่บา้นอุ่มแสง เป็นประธานกลุ่มออมทรัพยเพื่อ ์ การผลิต เป็นประธาน OTOP ระดับออำเภอราษีไศล เป็นรองประธาน OTOP เครือข่ายจังหวัดศรีสะเกษ และเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจงัหวดัศรีสะเกษ ด้านวิสาหกิจชุมชน เป็นประธานวิสาหกิจชุมชน เป็นอนุกรรมการวิสาหกิจชุมชนอำเภอราษีไศล


นอกจากน้ียังได้อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยการเป็นวิทยากรประจำกลุ่มเกษตรทิพย์เพื่อ

ถ่ายทอดความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ให้นักเรียนนักศึกษาและประชาชนผู้สนใจทั้งในและนอกสถานที่

ผลงานของนายบุญมี สุรโคตร ดีมาตลอดทำให้รับรางวัลต่างๆมาตามลำดับดังปรากฎรางวัล หรือประกาศเกยีรติคุณที่ได้รับ ดังนี้  

พ.ศ. ๒๕๕๔ ไดร้ับคดัเลือกใหเ้ป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาอาชีพทำนา ประจา ปี๒๕๕๔ 

พ.ศ. ๒๕๕๕ บัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาสหวิทยาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ 

พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับเลือกให้เป็นปราชญ์เกษตร 72 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 

 -ไดร้ับรางวลัชนะเลิศหมอดินอาสาดีเด่นสาขาการปรับปรุงดิน ประจา ปี๒๕๕๗ 

พ.ศ. ๒๕๕๘ -ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 หมอดินอาสาดีเด่น กรมพัฒนาที่ดิน  ประจำปี ๒๕๕๘  

 -ได้รับคัดเลือกเป็ น “ครอบครัวร่มเย็น เนื่องในโอกาสวันแห่งครอบครัว ประจำปี ๒๕๕๘ 

พ.ศ. ๒๕๖๐ -ได้รับรางวัลทูตวิทยาศาสตร์ด้านข้าว จากสถาบัน IRRI ประเทศฟิลิปปินส์ 

 -ไดร้ับรางวลัครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 8 ด้านเกษตรกรรม 

 -ได้รับรางวัล พ่อดีเด่น แห่งชาติ 

 

 

   

 

เรายังได้ข้อมูล เรื่องราวสำคัญ เด่นๆ ของนายบุญมี สุระโคตร จากเวบ  

https://businesstoday.co   เลิกใช้สารเคมี  เพิ่มเติมประวัติความดีของเขามา ดังนี้   

บุญมี สุระโคตร ได้รับยกย่องจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็น ปราชญ์เกษตรกร ประเภทข้าว  แม้จะมีพื้นฐานการศึกษา ระดับมัธยมปลาย แต่มีความคุ้นเคยชินกับการเกษตรเป็นชีวิต สามารถทำการวิจัยการเกษตรออกมาเป็นผลดีตลอดมาได้ 

 ความเชี่ยวชาญ ความชำนาญ และกิจกรรมทางการเกษตรที่ดำเนินการผลิตข้าวอินทรีย์หรือข้าวปลอดสารพิษ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมนิล ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวเหนียวดำ โดย รวมกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมี ภายใต้ชื่อทางการค้า “ข้าวตราลุงบุญมี” ทำ ให้สามารถผลิตข้าวปลอดสารพิษได้ประมาณ 2,000 ตันต่อปี มีศักยภาพในการผลิตข้าวหอมมะลิ จำ นวน 600 ถึง 650 กิโลกรัมต่อไร่ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ จำ นวน 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้ ยังเป็นหมอดินที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตปุ๋ยหมัก อินทรีย์ที่มาจากใบยูคาลิปตัสและมูลไก่ไข่ รวมทั้งใช้สมุนไพรผลิต สารไล่แมลงและสารเร่งการเจริญเติบโตให้กับต้นข้าวด้วย   

 

 

   

 

ทำได้ยังไง "ลุงบุญมี" ปลูกข้าวขายทั่วโลกปีละ100ล้าน "ไม่ใช้สารเคมี" 

 13 OCTOBER 2019 

กระแสต่อต้านการใช้สารกำจัดศัตรูพืช”พาราคว็อต-ไกลโฟเซต-คลอร์ไพริฟอส” นับวันจะแรงขึ้นเรื่อยๆแต่จะได้ผลหรือไม่ในอีกไม่กี่วันก็จะรู้คงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เรื่องนี้เหมือนเรื่องง่ายๆเพราะรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องทุกพรรคต่างก็เห็นด้วยหมด แต่ วงในว่ากันว่าคนที่ต่อต้านจริงๆไม่ใช่มีแค่พวกนักธุรกิจ พ่อค้าที่หากินกับสารพิษ แต่เป็นคนที่เกี่ยวข้องและเป็นผู้ดูแลประชาชนกลายเป็นผู้เสียประโยชน์เสียเอง จึงเล่นใต้ดินยื้อไม่ให้มีการยกเลิก 

การที่แรงต้านออกมาค่อนข้างแรงและชัดเจนก็เพราะกระแสคนรักสุขภาพมีความต้องการสินค้าเกษตรปลอดสารพิษมีมากขึ้นเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศประกอบกับกระแสความตื่นตัวของเกษตรกรก็หันมาปลุกพืชแนวทางเกษตรอินทรีย์มากขึ้นด้วย ที่หวาดวิตกว่าหากปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ต้นจะทุนจะเพิ่มผลผลิตจะไม่งามนั้นตอนนี้ในบ้านเรามีเกษตรกรไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในการทำนาข้าวปลูกผักแบบอินทรีย์ ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีแม้แต่นิดเดียว   

ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของชาวนาที่ไม่ใช้สารเคมีและประสบความสำเร็จอย่างมากคือ”วิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนอุ่มแสง(เกษตรทิพย์)”ที่ทำนาข้าวอินทรีย์ แปลงใหญ่ 20,000 ไร่ รวมพันธมิตรในเครือข่ายราวๆา1แสนไร่น่าจะเป็นนาข้าวอินทรีย์แปลงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย   

วิสาหกิจชุมชนแห่งนี้เริ่มก่อตั้งครั้งแรกในปี 47โดยมีผู้นำเป็นชาวบ้านธรรมดาๆที่ชื่อ “บุญมี สุระโคตร” ที่เริ่มสังเกตเห็นว่าการปลูกข้าวที่ใช้สารเคมีชาวนาเป็นหนี้เป็นสินมาล้นพ้นตัวแถมมีปัญหาเรื่องสุขภาพเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆ จึงคิดหาออกทางว่าจะทำยังไง     

 

 

  

 

 

ในที่สุดคำตอบอยู่ที่การทำนาเกษตรอินทรีย์  จึงชักชวนคนที่มีอุดมการณ์คล้ายๆกันมาตอนแรกมีแค่47รายได้เงินลงขัน 6หมื่นกว่าบาทแต่ทุกวันนี้มีกว่า 1200ครอบครัวแล้วที่บอกว่าหากไม่ใช้สารเคมีต้นทุนจะเพิ่ม ผลผลิตไม่ดี นั้น ผมได้พูดคุยลุงบุญมี แกเล่าให้ฟังว่าการทำนาข้าวอินทรีย์ช่วย”ลดต้นทุนการผลิตข้าว”อย่างเห็นได้ชัด คนในหมู่บ้านก็มีสุขภาพดีขึ้น สิ่งแวดล้อมดีขึ้นผลผลิตข้าวก็งอกงามกว่าแต่ก่อนที่สำคัญข้าวสารอินทรีย์ขายได้ราคาดีกว่าข้าวสารที่ใช้สารเคมีตลาดต่างประเทศต้องการมากจนผลิตไม่ทัน แต่เกษตรกรต้องอดทนเมื่อทุกอย่างลงตัวคุมยิ่งกว่าคุ้ม   

ลุงบุญมียังบอกอีกว่า หัวใจสำคัญจริงๆเกษตรกรจะต้องมีความรู้”เรื่องดิน” ว่าดินที่ทำอยู่นั้นมีแร่ธาตุหรือไม่ มีความอุดมสมบูรณ์แค่ไหน ถ้าไม่มีจะทดแทนอย่างไร หรือต้องมีความรู้เรื่อง”เมล็ดพันธุ”ทั้งสองอย่างนี้สัมพันธ์กัน  

ทุกวันนี้ข้าวอินทรีย์ของอุ่มแสง ส่งขายต่างประเทศ 80% ตลาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่สหรัฐและ ยุโรปส่วนเอเชีย มีบ้างเล็กน้อยแต่ความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆที่เหลืออีก20% ขายในประเทศ   ในอนาคตลุงบุญมีบอกว่าจะขายในประเทศมากขึ้นเพราะอยากให้คนไทยบริโภคข้าวปลอดสารเคมีมากๆส่วนยอดขายเท่าไหร่นั้นลุงบุญมีไม่ได้บอกแต่แอบรู้มาว่าปีนี้ใกล้ๆ100ล้านบาทโดยที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางในเมืองไทย ทำให้ไม่ต้องถูกกดราคา   

ลุงบุญมียังเล่าอีกว่า ส่งออกอินทรีย์ข้าวในนามชุมชนฯนั้น เป็น”เสน่ห์การตลาด”อย่างหนึ่งเพราะฝรั่งเขารู้ว่าหากซื้อข้าวไปบริโภคแล้วเงินถึงมือเกษตรกรแน่ๆทุกวันนี้ที่อุ่มแสงไม่ได้ส่งออกข้าวอย่างเดียวยังแปรรูปสินค้าที่ต่อยอดจากข้าวส่ออกมากมายหลายชนิด    

ความฝันของลุงบุญมีบอกว่า อยากทำให้ศรีษะเกษบ้านเกิดเป็น”มหานครแห่งเกษตรอินทรีย์”และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์ เกษตรบริการ รองรับลุกค้าต่างประเทศที่ทุกวันนี้อยากมาเยี่ยมคนที่ปลูกข้าวให้เขากิน     

ครับคงอีกไม่นานเกินรอ

   


    

เราเห็นว่า คนอย่างลุงบุญมี สุระโคตร เป็นคนธรรมชาติจริง ๆ  ในด้านการเกษตรกรรมซึ่งเป็นพื้นฐานการอาชีพมาแต่ดึกดำบรรพ มา   ซึ่งต้นตระกูลเขาก็ทำมาแบบธรรมชาติตลอด  จนถึงวันนี้  คนทั้งหลายรอบด้านลุงบุญมี ต่างใช้สารเคมีกันหมด  แต่ลุงบุญมีก็ยังคงดำรงวิถีทางธรรมชาติต่อไป  และมีการศึกษารอบรู้ อย่างนักการศึกษา นักวิจัยวิชาการเกษตรคนหนึ่ง และได้เห็นพิษภัยของ สารเคมี  ในขณะเดียวกันได้ปรับปรุงวิถืทางการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ต่อไป  รวมทั้งการปรับระบบธุรกิจให้ทันสมัยขึ้น  จนสามารถรวมกลุ่มเกษตรอุ้มแสงได้  ได้ผลกำไรดีขึ้น  อย่างที่ว่า คือ ปลูกข้าวขายทั่วโลก ได้กำไรปีละ 100 ล้านบาท  และยังไม่เท่านั้น ลุงบุญมียังพยายามขยายวงการตลาดของท่านนี้ออกไปให้กว้างขวางไปอีกโดยเฉพาะตลาดอเมริกา และยุโรป ที่นิยมข้าวไร้สารเคมีของเขามากขึ้นไปเรื่อย ๆ  และความใฝ่ฝันอันสูงสุดของเขาที่ว่า   อยากให้ศรีสะเกษบ้านเกิดเป็น "มหานครแห่งเกษตรอินทรีย์" นั้น มองเห้ฯได้ว่าน่าจะไม่พ้นไปจากความพยายาม ความนำของท่านผู้นี้   เราจึงเห็นสมควรยกย่องให้นายบุญมี สุระโคตร เป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ปี พ.ศ.2562 หวังว่ากิจการเกษตรอินทรีย์ของเขาจะเจริญก้าวหน้าตลอดไปตามที่ใฝ่ฝันไว้ในวันข้างหน้า  

 

 

 

 

 

 4.2.6   นายศรีสุวรรณ จรรยา

  6.  บุคคลที่ 143  นายศรีสุวรรณ จรรยา

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและการเมือง ทำคดีมาแล้ว 4,000 เรื่อง

 

 

 

เราได้เรื่องราวเกี่ยวกับ ศรีสุวรรณจรรยา จาก คลิปนี้

เปิดอก พี่ศรี(สุวรรณ) จรรยากับคำถาม ร้องทุกวัน แล้วทำมาหากิน ...

https://mgronline.com › daily › detail

 

4 พ.ค. 2562 - สัมภาษณ์พิเศษ ศรีสุวรรณ จรรยาเปิดใจประเด็นร้อนๆ แง่มุมลับๆ ที่น้อยคนนักจะรู้ สุดเอกซ์คลูซีฟ!

คุณเคยไปที่หน้าเว็บนี้ 3 ครั้ง ไปครั้งล่าสุดเมื่อ 29/10/2019

 

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ช่วงชิงพื้นที่สื่อมีเรื่องร้องเรียนแทบไม่เว้นวัน สำหรับ ศรีสุวรรณ จรรยานักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและการเมือง ซึ่งช่วงหลังๆ มานี้สวมบทบาท นักร้องเรียนชนิดที่ว่า ร้องถี่ยิบจนเป็นเป้าโดนสาดคำถามสารพัด เป็นต้นว่า ศรีสุวรรณ จรรยา คือใคร”, “ทำไมวันๆ เอาแต่ยื่นเรื่องร้องเรียนโน้นนี่”, “ทำงานทำการอะไรรับเงินใครมาหรือเปล่าฯลฯ

 

อาจจะพอทราบกันมาบ้างแล้วว่า ศรีสุวรรณ จรรยาทำหน้าที่เป็นนักตรวจสอบเป็นปากเสียงให้กับประชาชน มานานกว่า 20 ปี ทำคดีและร้องเรียนเรื่องต่างๆ มาแล้ว 3,000 - 4,000 เรื่อง สัดส่วนความสำเร็จแม้ไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถือว่าบรรลุเป้า อย่างน้อยๆ ประเด็นต่างๆ ได้ถูกขยายผลตรวจสอบ สร้างการรับรู้ตระหนักรู้แก่พี่น้องประชาชน

 

ศรีสุวรรณ จรรยาเติบโตในเส้นทาง NGO นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและการเมือง ชีวิตช่วงหนึ่งผันตัวลงสนามการเมืองแต่พ่ายแพ้ราบคาบ ช่วงปี 2550ก่อตั้ง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนเพื่อเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม และในปี 2552 ก่อตั้ง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเพื่อเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เรียกว่า ประสบการณ์โชกโชนในคดีสิ่งแวดล้อม เป็นโต้โผใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลัง อาทิ คดีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด, คดีบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ฯลฯ

 

สัมภาษณ์พิเศษฉบับนี้ ศรีสุวรรณ จรรยาจะมาเปิดใจในประเด็นร้อนๆ และแง่มุมลับๆ ที่น้อยคนนักจะรู้ สุดเอกซ์คลูซีฟ!

 

 

- ศรีสุวรรณ จรรยา เป็นใครมาจากไหน

 

ผมเป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แล้วก็มาทำงาน NGO รณรงค์ด้านสิ่งแวดล้ม อยู่กับ ดร.โจ - ดร.พิจิตต รัตนกุล (อดีตผู้ว่าฯ กทม.) ประมาณ 2535 - 2536เป็นต้นมา ทำงานด้านการรณรงค์กับมูลนิธิป้องกันควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี ประกอบกับ ดร.โจ มีภารกิจด้านการเมืองลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ผมได้ช่วยหาเสียงซึ่งเป็นการซึมซับงานการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง

 

ส่วนตัวผมทำงานหลักเรื่องของการรณรงค์มลพิษด้านสิ่งแวดล้อม กระทั่ง มีโอกาสไปช่วยงานในสภาทนายความ ช่วยงานดำเนินคดีสิ่งแวดล้อมของสภาทนายความควบคู่กันมาโดยตลอด ต่อมา ผมได้แยกตัวออกมาตั้งสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ช่วงปี 2550 ร่วมมือกับเพื่อนๆ ที่เป็นทนายความ นักกฎหมาย ตั้งสมาคมขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการฟ้องร้องคดีให้กับชาวบ้านที่รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมหรือปัญหามลพิษจากทั่วประเทศ ก็ฟ้องคดีใหญ่ๆ มาเยอะแยะ อย่าง ฟ้องคดีมาบตาพุด ก็เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศในตอนนั้น

 

หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมเห็นว่าคดีที่ผมทำมานับพันคดีล้วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐและนักการเมืองทั้งสิ้น ก็เลยเห็นว่าถ้าเราไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับนักการเมือง ในที่สุดก็จะเกิดปัญหาปลายท่อที่ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกัน ผมก็เลยตั้งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ในปี 2552 เพื่อทำหน้าที่การติดตามตรวจสอบข้าราชการ นักการเมือง ปัญหาคอร์รัปชั่น ความไม่เป็นธรรมในสังคม

 

- จาก NGO สิ่งแวดล้อมผันตัวเป็น นักร้องเรียนทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ประชาชน

 

 

 

การทำหน้าที่ของผมคือยื่นตรวจสอบความไม่เป็นธรรมในการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง และช่วยประชาชนทั้งประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหามลพิษ จากความไม่เป็นธรรม ผมทำหน้าที่ของผมมาโดยตลอด ซึ่งหลังๆ มานี้ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของผมเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะหลังจากที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาทำรัฐประหาร ผมเป็นที่เพ่งเล็งของผู้มีอำนาจ ถูกเชิญผมไปปรับทัศนคติหลายครั้ง รวมทั้ง โดยส่งทหารมาเยี่ยมเยียนที่บ้านเป็นสิบยี่สิบครั้ง

 

ผมเห็นว่าในยุคของการปฏิรูปสิ่งสำคัญคือเรื่องของการตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบนักการเมืองถือเป็นลำดับต้นๆ เพราะนักการเมืองเป็นผู้ใช้อำนาจ และที่สำคัญคือเป็นผู้ที่จะต้องไปใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชน ฉะนั้น เราจะอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้นักการเมืองที่มีอำนาจไปทำอะไรตามอำเภอใจคงไมได้ ดังนั้น เมื่อมีประเด็นอะไรไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม ผมก็จะใช้สิทธิในการออกแถลงการณ์บ้าง ในการไปยื่นตรวจสอบหน่วยงานองค์อิสระบ้าง เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการสิทธิมนุษย์ชน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รวมทั้ง ยื่นคำร้องต่อนายกฯ รัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ผมได้ทำหน้าที่นี้มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องนับ 10 ปีครับ

 

 - ทำมาหากินอะไรถึงมีทุนในการทำหน้าที่ร้องเรียนประเด็นต่างๆ อย่างต่อเนื่องนับร้อยพันเรื่อง

 

 

 

งานหลักผมทำคดีฟ้องร้องให้กับชาวบ้าน งานคดีทั้งหมดวันนี้ไม่ต่ำกว่า 4,000 คดีนะครับ แล้วงานคดีของผมส่วนใหญ่เป็นคดีสาธารณะมีผู้ร่วมฟ้องเยอะบางทีเป็นร้อยๆ คน ซึ่งผมจะไม่คิดค่าใช้จ่าย ใดๆ กับชาวบ้าน แต่ว่าชาวบ้านก็มีน้ำใจ ร่วมบริจาคให้คนละเล็กละน้อย รวมๆ กันแล้วตัวเลขเยอะเหมือนกัน ที่สำคัญผมทำให้ทุกคน ไม่เกี่ยงยากดีมีจนหรือรวยเศรษฐีพันล้าน ผมก็ทำให้หมดไม่คิดมูลค่า แต่เขาเห็นเรามีน้ำใจทำให้ก็เลยช่วยบริจาค ทำอย่างนี้มาโดยตลอดไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือต่างจังหวัด ชาวบ้านก็มักช่วยเหลือค่าใช้จ่ายมาโดยตลอด แล้วมันเป็นคดีเยอะมันก็หัวเฉลี่ยกันไป

 

สมมติ ชาวบ้านบริจาคคดีละ 10,000 บาท ผมทำมา 4,000 คดี เป็นเงินเท่าไหร่ก็คำนวณไป แต่ว่ามันยอดเงินบริจาคนั้นไม่ตายตัวไม่ได้อยู่ที่ 10,000 บาทเสมอไปนะครับ บางคดีเขาก็ให้มา 20,000 บาท 30,000 บาท 50,000 บาท บางคดีคนรวยหน่อยก็ให้เป็น 100,000 บาทนะครับ

 

มีคดีให้ทำตลอด เดือนหนึ่งคนร้องเรียนเข้ามาเกือบ 10 คดี วันๆ ก็วุ่นอยู่กับการเขียนคำฟ้อง คำให้การ คือการทำคดีกับร้องเรียนคนละส่วนกัน เรื่องทำคดีให้ชาวบ้านไม่มีอะไรเป็นเรื่องน่าหนักใจของ ถ้าผมช่วยได้ ผมก็ช่วยทุกคนอยู่แล้ว ไม่มีรังเกียจรังงอนใดๆ ทั้งสิ้น

 

นอกจากนั้น ผมเรียนมาหลายปริญญา ปริญญาตรี 3 ใบ ปริญญาโท 2 ใบ และปริญญาเอกอีก ในส่วนนี้ก็เอาความรู้ไปทำด้านงานรีเสิร์ชให้กับมหาวิทยาลัย สถาบันวิชาการต่างๆ รับทำเป็นโปรเจ็กต์ๆ เหล่านี้เป็นรายได้ให้พออยู่ได้ครับ

 

- พักหลังๆ มานี้ปรากฏตัวหน้าสื่อร้องเรียนประเด็นการเมืองบ่อย จนเกิดข้อครหาว่ารับงานมาบ้าง เอื้อประโยชน์กลุ่มการเมืองบ้าง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

 

ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่แล้วแต่จะคิดกันไป เพราะว่าเรื่องบางเรื่องถ้าร้องไปบางทีมันก็ได้ประโยชน์กับกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มเสียประโยชน์ เหมือนกรณีร้องเรียนเรื่องนักการเมืองนั่นละครับ ฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์แต่อีกฝ่ายหนึ่งเฮเพราะได้ประโยชน์ ซึ่งฝ่ายหนึ่งก็จะค่อนแคะว่าผมถูกจ้างมาหรือไม่? เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้หรือไม่? จริงๆ ผมก็ทำมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แทบจะทุกพรรคการเมืองผมยื่นตรวจสอบ

 

ตรงนี้เป็นเรื่องปกติที่ผมทำใจมาโดยตลอดอยู่แล้ว ไม่ได้ซีเรียส คิดแต่เพียงว่าเราทำหน้าที่ของเราให้มันถูกต้อง และคิดว่ามันน่าจะช่วยจรรโลงสังคมได้ภายใต้ความรู้ที่เรามี ทำงานด้วยความตั้งใจด้วยความมุ่งมั่นโดยไม่เป็นเพียงนักเลงหน้าคอมฯ นั่งวิจารณ์คนอื่นไปวันๆ โดยที่ตัวเองไม่ออกไปทำอะไรเลย ผมว่ามันไม่ใช่... ผมคิดว่าสิ่งไหนที่ถูกต้อง ต้องออกไปแอ็กชันด้วยตัวเอง ผมเป็นนักปฏิบัติ ซึ่งมันก็ทำให้คนรักคนชังเยอะ

 

 

 

 

 

-เรื่องการทำงานเพื่อสังคมทราบว่าได้รับอิทธิพลมาจากครอบครัว

 

พ่อมีอิทธิพลค่อนข้างสูงครับ เพราะผมเองเป็นคนต่างจังหวัด พ่อแม่เองก็ทำไร่ทำนา แต่พ่อเป็นคนชอบช่วยเหลือคน เวลามีใครเดือดร้อนไม่มีเงินทำไรทำนา หรือแม้แต่ไม่มีเงินบวชลูกบวชหลานแต่งลูกแต่งเมีย ก็มักจะมาหยิบยืมพ่อผมโดยตลอด พ่อผมก็ใจดีให้มาโดยตลอด แต่บางทีให้แล้วก็ไม่มาคืน พ่อผมก็ต้องใช้สิทธิทางศาลในการฟ้องร้องบังคับใช้หนี้ ผมก็ติดสอยห้อยตามพ่อไปขึ้นศาล อีกอย่างพ่อผมชอบติดตามข้อมูลข่าวสาร อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ ดูทีวี ตลอดเวลาแล้วมาวิเคราะห์สังเคราะห์ชี้ประเด็นของนักการเมืองคนนั้นคนนี้ ผมก็ซึมซับสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอด

 

ต้องเท้าความก่อนว่า ผมเรียนมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพราะพ่อแม่ผมเป็นเกษตรกรทำไร่ทำนา ก็มีความคิดอยากจะเอาความรู้ทางเกษตรมาพัฒนาอาชีพของตระกูลของพ่อแม่ แต่เผอิญตอนเรียนผกผันได้กลายไปเป็นนายกองค์การนักศึกษา ผู้นำนักศึกษา และหัวรุนแรงพอสมควร นำนักศึกษาปิดถนนประท้วงขับไล่ผู้ว่าฯ 2 วัน 3 คืน เพราะเห็นความไม่ได้รับความเป็นธรรมของชาวบ้าน จากการละเลยปฏิบัติหน้าที่ของรัฐ พอเรียนจบออกมาก็เลยเข้ามาทำงานประเภทนี้ เห็นความไม่ถูกไม่ควรไม่ถูกต้องเราต้องออกมาเคลื่อนไหว รณรงค์ในรูปแบบของ NGO มีความรู้สึกว่าไม่อยากไปรับราชการใดๆ ทั้งสิ้น อยากทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะตัวเองมีความรู้สึกไม่อยากไปเป็นลูกน้องใครไม่อยากเป็นขี้ข้าใคร อยากทำงานในลักษณะส่วนตัวมีความอิสระ

 

- เรื่องที่ยากลำบากในการทำงานเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและการเมือง 

ไม่มีอะไรเป็นยากนะครับ แต่เรื่องปริวิตกเนื่องจากว่าการทำงานของตัวเองไปกระทบต่อผู้สูญเสียประโยชน์ค่อนข้างจะเยอะ ก็อาจจะถูกข่มขู่คุกคามบ้าง ข่มขู่ผ่านโทรศัพท์ คุกคามโดยสะกดรอยตามบ้าง ซึ่งก็ทำให้ตัวเองต้องระมัดระวัง จากที่เป็นคนไม่ซีเรียสกับเรื่องนี้ก็ต้องระวังตัวให้มากขึ้น ไปไหนมาไหนก็ต้องระวังระวัง ขาไปไปทางซ้าย ขากลับกลับทางขวา ระแวดระวังมากขึ้นทำให้ตัวเอง

 

 

 

 

 

- ความภูมิใจสูงสุดของผู้ชายชื่อ ศรีสุวรรณ จรรยา 

ผมเกิดมาชาติหนึ่ง แล้วมีโอกาสได้เรียนสูงในระดับที่ในตำบลอำเภออาจะไม่มีใครเรียนมากเท่าผม ผมเป็นคนต่างจังหวัดเป็นคนบ้านนอก การมีโอกาสได้เรียนถึงระดับนี้เป็นที่น่าภูมิใจ เป็นหน้าเป็นตาของพี่น้องญาติตระกูล และการมาทำหน้าที่ตรงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นงานสาธารณะงานเพื่อประโยชน์ของสังคมเป็นส่วนใหญ่ ช่วยเหลือคนที่ทุกข์ยากเดือดร้อนผู้คนทั้งแผ่นดิน แล้วงานคดีบางคดีก็ช่วยเหลือประเทศชาติ ช่วยหยุดยั้งการใช้อำนาจของหน่วยงานภาครัฐ หยุดการทุจริตคอร์รัปชั่นเยอะแยะมากมาย ทำให้สังคมและกฎหมายได้รับการเปลี่ยนแปลง มันก็เป็นความภาคภูมิใจที่เราสามารถช่วยเหลือคนที่ทุกข์ร้อน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมมาตลอด 20 - 30 ปี ที่ผมทำงานตรงนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และจะทำอย่างนี้ไปจนกว่าลมหายใจจะหมดไป

 โดยสรุป เรื่องราวของ "ศรีสุวรรณ จรรยา" กว่า 20 ปีบนหน้าสื่อ ในฐานะนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและการเมือง ผู้ประสบความสำเร็จในฐานะเอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อม มี 5 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับชายคนนี้ ที่บีบีซีไทยรวบรวมมานำเสนอ 

1. นายศรีสุวรรณ จรรยา เป็นชาว อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนวังทองพิทยาคม และปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือคนจากบิดาที่มักไปขึ้นศาลช่วยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้ง ๆ ที่จบเพียง ป.4 

2. ความสนใจปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของนายศรีสุวรรณ เกิดขึ้นระหว่างเรียนในมหาวิทยาลัยที่ได้มีโอกาสออกค่ายอาสาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเรียนจบ จึงผันตัวไปเป็นเอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมกับเข้าไปช่วยสภาทนายความทำคดีสิ่งแวดล้อม ทำให้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีสิ่งแวดล้อมสำคัญ ๆ เช่น คดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ คดีสารตะกั่วห้วยคลิตี้ 

3. ชื่อของนายศรีสุวรรณมาปรากฎอยู่ในหน้าสื่อเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2540 ในฐานะรองเลขาธิการมูลนิธิป้องกันควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ก่อตั้งโดย นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม. โดยคดีสิ่งแวดล้อมแรกที่ศาลปกครองมีคำตัดสิน เมื่อปี 2549 โดยศาลให้ ขสมก. แพ้คดีกรณีปล่อยให้รถเมล์เสื่อมสภาพวิ่งปล่อยควันพิษ ก็มาจากการฟ้องร้องโดยมูลนิธิป้องกันควันพิษฯ ที่มีนายศรีสุวรรณ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญ 

4. ชีวิตการเมืองของนายศรีสุวรรณถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งในฐานะนายทะเบียนและรองหัวหน้าพรรครักษ์ถิ่นไทย ระหว่างปี 2545-2546 เมื่อลงสมัครเป็น ส.ว. กทม. ในปี 2557 ก็พ่ายการเลือกตั้งอีก 

5. ปี 2550 นายศรีสุวรรณกับเพื่อนร่วมกันก่อตั้ง "สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน" ซึ่งถือเป็นองค์กรที่สร้างชื่อให้กับนายศรีสุวรรณ จากคดีสำคัญ ๆ อาทิ คดีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และคดีบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยเขามักใช้ชื่อองค์กรนี้เคลื่อนไหวประเด็นสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าเป็นประเด็นการเมืองมักเคลื่อนไหวในนาม "สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย" ซึ่งก่อตั้งมาในปี 2552

 

เส้นทางการตรวจสอบรัฐบาล คสช. ของนายศรีสุวรรณ 

 ปี 2557 

           ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบกรณี สนช. เสนอชื่อแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้ง สนช. มาเองทั้งหมด 

 ปี 2558

           ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กรณีแต่งตั้งเครือญาติเป็นสมาชิก สปท. 

ปี 2559 

           ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีบริษัทของบุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ได้งานจากกองทัพภาคที่ 3 ในระหว่างที่ พล.อ.ปรีชาเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 

           ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา กรณีสร้างบ้านพักหลังใหม่ใน จ.พิษณุโลก โดยไม่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เข้าข่ายเป็นการยื่นบัญชีเท็จหรือไม่ 

           ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบ พล.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กรณีเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 

           ยื่นศาลปกครอง เพิกถอนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2015) และให้ระงับการประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน  

ปี 2560 

           ยื่นประธาน สนช. ตรวจสอบสมาชิก สนช. 7 คน กรณีขาดประชุมเกินกำหนด อาจมีปัญหาเรื่องสมาชิกภาพ 

           ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กรณีให้สัมภาษณ์สนับสนุนทหารที่ยิงวิสามัญเยาวชนชาวลาหู่ 

           ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม และ พล.ท.วิชัย แซจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 กรณีปล่อยให้มีการตั้งกาสิโนบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา

 

 

 

ล่าสุด ตั้งแต่ปี 2561 มาถึงปัจจุบัน  เขามาสนใจทางการเมืองพรรคฝ่ายค้านมากขึ้น โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่  เกี่ยวกับการเงิน บัญชีรายรับรายจ่าย  รายได้ ของพรรคอนาคตใหม่  หลายเรื่อง  และล่าสุด ยื่นฟ้อง นางพรรณิกา     โฆษกพรรคอนาคตใหม่  เรื่อง บริจาคเงิน ให้พรรคอนาคตใหม่ โดยมีเหตุผลว่า  นางช่อ  มีเงินในบัญชีที่แสดงในบัญชีตามรัฐธรรมนูญ  ราว  8 หมื่นบาท   แต่ทำไมบริจาคเงินได้ถึง 1 ล้านบาท  เกรงว่าจะเป็นเงินคนอื่น ไปเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือเป็นผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ 2560  จึงฟ้อง ให้ตรวจสอบ   หากเป็นเงินคนอื่น  เป็นของใคร ซึ่งมีโทษทางการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมืองที่มีโทษถึงขั้นการยุบพรรคได้

 

เราเห็นว่า การที่ ศรีสุวรรณ จรรยา ได้ทำการต่อสู้เพื่อสังคมมาโดยตลอดไม่มีการวรรค เว้นเลยกว่า 20 ปีมา  มีคดีที่ทำการฟ้องร้องไปแล้วกว่า 4000 คดีนั้น ได้บอกถึงความเป็นคนที่มีอุดมการณ์  ได้ตกเข้ามาสู่ชีวิตอุดมคติของตนเอง ที่เป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ   อย่างมีเหตุ และมีผล  วิถีทางการงานเขาจึงตกอยู่ใต้ตัวแปรของ เหตุ ของ ผล มาตลอด  เป็นสิ่งที่กำหนดพฤติกรรมของเขาตลอดไป  อย่างไม่ว่างเว้น  ฉะนั้นในเมื่อเข้าสู่วิถีทางธรรมชาติแบบที่พระพุทธศาสนาสอนไว้เรื่องความเป็นไปของชีวิต ย่อมเป็นไปอันเนื่องมาจากมีเหตุให้เป็น จึงไปบังเกิดผลขึ้นตามเหตุนั้น   เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ ตามเรื่องเหตุ เรื่องผล แล้ว   ก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อตนเอง  ต่อคนอื่น และต่อสังคมที่ตนอยู่อาศัย ในแบบที่เป็นธรรมชาติ   ไม่เกี่ยวกับว่ามีอามิสสินจ้างใดใด ไม่เกี่ยวกับ ลาภ ยศ สรรเสริญใดใด หรือโลกียธรรมใดใด ไม่เกี่ยวกับความเป็นมิตร หรือ ศัตรูกับใคร ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดมาผลักดัน มาก่อเกิดความเคลื่อนไหวของเขา นั้นแสดงถึงภาวะความเป็นไปเองตามกฎธรรมชาติ ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนานั้นเอง   จึงขอยกย่อง  ศรีสุวรรณ จรรยา  เป็นบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช 2562  และหวังว่าจะได้ดำเนินวิถีชีวิตไปด้วยหลักการแห่งเหตุ และ ผล ไปจนถึงจุดสูงสุดถึงจุดหลักการสูงสุดของเรื่องเหตุ และ ผล  ตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปตลอดกาลนานในชีวิตนี้   

 

 

หนังสือพิมพ์ดี จึงขอยกย่องบุคคลทั้ง 6 ท่านดังกล่าวมา  เป็นบุคคลสำคัญของเราในปีพุทธศักราช 2562 คือ  นางเทรีซ่า แมรี่ เมย์  อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร,  นายจัสติน พิเอร์ เจมส์ ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา, แคทรีโอนา เอลิซา มักนายอน  เกรย์ นางงามจักรวาล 2561, โคตรมวยไทย แสนชัย พี.เค.แสนชัย มวยไทยยิม, นายบุญมี สุระโคตร , นายศรีสุวรรณ จรรยา, เราขออำนวยพรให้ท่านทั้ง 6 นี้ ได้ประกอบกรรมดีต่อไป  และที่สุดถึง นำโลกทั้งหลายสู่แดนสงบ แดนแห่งสันติสมตามที่ท่านเองต้องการด้วยเทอญ 

 

  • บรรณาธิการ

      9 พ.ย.2562, 23.00 น.

 

 

 

 

 

5.   เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว 

 

 เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว 

 

โปรดคลิกเข้าไปดูได้เลยครับ


 

 

5.1     เกี่ยวกับ ธรรมกาย
จุดจบธรรมกาย 

 

6.2  มองหลักการวิชาธรรมกายของหลวงพ่อสด ประเด็นต้น ๆ  ตามการวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์ดี

6.3  ธัมมกาย-ธัมมชโยแต่เดิมเริ่มแรกถูกกล่าวหาว่าเป็นปาราชิกที่ทำพุทธศาสนาเป็นพุทธพาณิช เป็นสมีแต่กลับได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ใครรับผิดชอบ ?

6.4  ธัมมกาย - ธัมมชโย จุดจบ พุทธพาณิช ผิดพุทธธรรมคนมองไม่เห็น จนผิดกฎหมายถึง 350 คดี  คนจึงตาสว่างขึ้น  จึงถึงจุดจบ บทวิเคราะห์โดยเหตุผลทางพุทธศาสนา ที่รอบคอบ รอบด้าน ด้วยหลักปริยัติ ปฏิบัติ และ ปฏิเวธ ที่มีเหตุผลโดยธรรมวิจัย

 

5.2   มุสลิม และ ลัทธิ-ศาสนาอื่น

 เกี่ยวกับมุสลิม    

1.  มุสลิมใต้ไทยเห็นแก่ตัว ไม่เคยรู้บุญคุณไทยพุทธทั้งประเทศ        

2   มุสลิมใต้ฆ่าคนพุทธไทยจากหมู่บ้านนราธิวาส จนเหลือเพียง3คน จะให้หมู่บ้านมีแต่มุสลิมบริสุทธิ์   

3 .  มุสลิมบุกล้างแค้นทิ้งทั้งฐานทัพ  แต่ นย.ฉก.32 แน่กว่า  ฆ่าคืนมุสลิม 19 ศพที่เหลือหนีหัวซุกหัวซุน  

4.  OEC องค์การมุสลิมโลกมาไทย ขณะมีการเผาโรงเรียน ฆ่าครูไทยในสามจังหวัดใต้ มีข้อเสนอที่เฉียบขาดต่อองคก์กรมุสลิมโลก   

5.  ถล่มด้วยระเบิด ฆ่าทหาร 5 ศพ  

6.  วันเกิดของพระเยซู      

7 .  พระเจ้าไสยบาบาองค์นารายณ์อวตารของอินเดียตายเสียแล้ว

 

0.0     โหราศาสตร์

8.  โหราศาสตร์  ดวงชะตาธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยะบุตร แสงกนกกุล  พรรณิกา ช่อวาณิช  พรรคอนาคตใหม่  

 9.   โหราศาสตร์ คำพยากรณ์การเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 24 มีนาคม 2562  ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

10.  โหราศาสตร์  คำพยากรณ์มุสลิม  นายวันมูหะมัด นอ  มะทา 

 

 

 

 

 

    

 

 6.    วัดอินเทอเนตแห่งแรกในโลก วัดของเรา

 เรามีวัดอินเทอเนตขึ้นแล้ว เป็นแห่งแรกของโลกโปรดเข้าไปเยี่ยมได้เลย

วัดของเรา MY TEMPLE

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 




ดี เล่มที่ 45 - 53 + 54 + 55+56+57+58+59+ 60

หนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
หนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
หนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
ดี เล่มที่ 45
ดี เล่มที่ 46
ดี เล่มที่ 47
ดี เล่มที่ 48
ดี เล่มที่ 49
ดี เล่มที่ 50
ดี เล่มที่ 51
ดี เล่มที่ 52
ดี เล่มที่ 53
ดี เล่มที่ 54
ดีเล่มที่ 56
ดีเล่มที่ 57 BUDDHISM toTHE NEWWORLD ERA
ดีเล่่มที่ 58 Buddhism to the New world Era
ดีเล่มที่ 59
การเมืองเสนอให้คิด คนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริงๆ ชุดที่ 1-5 18เรื่องต้นฉบับไทยสมบูรณ์



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----