สิ่งที่อยากให้เข้าใจก่อนในการอ่านประวัติของผม 16 ตอน
.jpg)
เขียนไว้นานแล้ว เร่ิมแต่ตอนที่ 1 คราวออกหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5 ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ชื่อว่าหนังสือพิมพ์ดี แต่ชื่อว่า วิเคราะห์ข่าว ในวงการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาน ออกรายคาบ รายเดือน เนื่องจากขณะนั้น มีโครงการ งานร่วมกันทำในโครงการอีสานเขียว ซึ่งพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หน.พรรคความหวังใหม่ ได้นำมาเสนอฝ่ายศาสนจักรร่วมทำโครงการนี้ และเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาน ได้ร่วมประสานงานทำโครงการนี้ โดยคำสั่งอนุมัติคณะเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสานอีกทีหนึ่ง เพราะแท้จริงเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสานในขณะนั้นเองที่เป็นคณะทำงานโครงการอีสานเขียว โดยมีมือคือ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดช่วยอีกทีหนึ่ง ...ในการร่วมประชุม พบปะกันนั้นเอง หมู่เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาน ได้สนใจถามประวัติ การเข้ามาบวช และที่สำคัญ การนั่งสมาธิ ที่ผมชำนาญมาก่อนบวช โดยนั่งสมาธิได้นานตลอดคืน และแบบที่ไม่ต้องนอน หลังทาบพื้น เหมือนคนทั่วไป พระสงฆ์ทั่วไป ไม่มีการนอนเลย จนเป็นธรรมชาติ ตัวเองจึงรู้ตัวเองดีจึงชื่อว่า พระผู้มีปกติอยู่ด้วยอิริยาบถ 3คือมีการนั่ง การเดิน การยืน ไม่มีการนอน จึงเป็นที่น่าสนใจความเป็นมาของชีวิตของหมู่เพื่อนเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดด้วยกันมาก ประกอบกับขณะก่อนหน้าที่ผมจะออกบวชนั้น ทางสวนโมกขพลาราม ท่านธรรมทาสพานิช ภายหลัง ตอบปัญหา 10ข้อของนายเหตุผลลงในหนังสือ พุทธสาสนา ... ท่านบอกว่าอยากให้เขียนประวัติออกมาให้เป็นการศึกษา จนได้ชื่อว่า พระผู้มีปกติอยู่ด้วยอิริยาบถ 3 จึงได้เขียนประวัติออกมา ตอนที่ 1 นี้ ออกใน วิเคราะห์ข่าวในวงการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาน เดือน กรกฎาคม 2540 นั่นคือ 22 ปีมาแล้ว และตอนสุดท้าย ที่เขียนค้างไว้ ตอนที่ 16 ในหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33 เล่มที่ออกประจำเดือน พ.ย.-ธ.ค.2547 - ม.ค.-ก.พ.-มี.ค.-เม.ย. 2548 14 ปี 6 เดือนมาแล้ว ..../24 ก.ย.2562
มาวันนี้ ผมได้รำลึกว่า ประวัติของผม ในเวลาต่อมา ก็ยังคงเดินไป ๆ ๆ ๆ ที่น่าจะมีการเขียนเพิ่มเติมไปอีก โดยที่มีจุดประสงค์สำคัญก็คือ ให้ท่านทั้งหลายได้เข้าใจผมดีขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะ อะไรที่ผมได้เล่ามาแล้ว รวมทั้งอะไรที่ออกมาในหนังสือพิมพ์ดีนั้น มีอะไรที่ควรจะอธิบายเพิ่มเติมให้ทราบ เพื่อความถูกต้อง และเพื่อความเป็นมิตรภาพ หรือ friendship และเพื่องานของพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนา ยุคใหม่นี้ ..../24 ก.ย. 2562