โหราศาสตร์
การพยากรณ์การเมืองไทย
ดวงชะตาผู้ชนะการเลือกตั้ง
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี?
1. พรรคเพื่อไทย
ตามดวงชะตาพรรคเพื่อไทย ปรากฏอยู่แล้วในเรื่องความเปราะ คือ เปราะอยู่แล้วเรื่องความสามัคคีร่วมหมู่หรือร่วมเป็นร่วมตายของสมาชิกพรรค ครั้นมาระยะเลือกตั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 วันที่ดาวเสาร์(๗)จรยกย้ายเข้าราศีธนู จากนี้เองยิ่งไปเน้นเรื่องความเปราะนี้เข้าเต็มที่ ทำให้พรรคเพื่อไทยแตกกันกระจัดกระจายไปหมด ไม่มีชิ้นดี และด้วยอำนาจดาวร้ายประสานกัน(เสาร์จรทับจันทร์เดิม) พรรคนี้จะไม่สามารถรวมกันได้เป็นปึกแผ่นได้เลย เห็นได้ถึงความกระจัดกระจาย แตกแยก เหินห่างของสมาชิกไปตลอด จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2563 จึงจะสุดสิ้นภาวะกระจัดกระจายนี้ลง มองจากสถานการณ์นี้ ถามว่ามาจากเหตุอะไร ก็น่าจะบอกได้ว่า ส่วนหนึ่งน่าเป็นผลมาจากการเลือกตั้งครั้งนี้นั่นเอง หากผลการเลือกตั้งออกมาดี สำหรับพรรคเพื่อไทย หรือการที่พรรคเพื่อไทยได้ประสบผลสำเร็จได้เป็นรัฐบาลแล้ว ก็น่าจะไม่ส่งผลให้ต้องกระจัดกระจายกันไป ตามผลของดาว เช่นความหมายของดาวที่ว่านี้ ซึ่งจะกินเวลาถึง 3 ปี จึงจะมาสู่ความราบเรียบ โดยกินเวลาตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2560 ไปถึง 5 ธ.ค.2563
ดวงที่ 1 ดวงกำเนิด

ดวงที่ 1 ดวงกำเนิด
ดวงพรรคเพื่อไทย
2. การย้ายราศีของดาวพฤหัสบดี(๕) จากราศีตุลสู่ราศีพิจิกนับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2561 เป็นต้นมา บ่งบอกถึงการลดฐานะลดศักดิ์ศรีของพรรคเพื่อไทยลงไปจากเดิม และเป็นเช่นนี้ไปใน 2 ปีข้างหน้า นี่ก็เป็นสิ่งบอกเหตุ ที่ส่อถึงผลการเลือกตั้ง 24ก.พ.2562นี้ ว่า พรรคเพื่อไทยคงจะผิดหวัง คงไม่ได้ประสบผลสำเร็จตามที่ต้องการแน่
3. มองจากวันที่เลือกตั้ง วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยตรง ปรากฏว่าระบบดาวในจักราศี มีดาวร้ายราหู(๘) ได้แปรทักษาเป็นดาวกาลกิณีจรสำหรับพรรคเพื่อไทย แล้วโคจร ยกย้ายราศีมาสู่ราศีเมถุน และเป็นการบังเอิญเหลือเกิน ที่มาร่วมธาตุกับราหู(๘)เดิมในราศีกุมภ์(จึงเท่ากับมีราหูร้าย 2 ดวงร่วมกันทำร้ายพรรคเพื่อไทย พลังร้ายจึงเป็น 2 เท่า) แล้วบังเอิญดาวพุธ(๔)จรเข้าทับราหู(๘)เดิมในราศีกุมภ์ ทอกระแสถึงลักคณาที่กุมกับพุธ(๔)เดิมในราศีตุลอย่างเต็มที่ ซึ่งบอกความหมายว่า พบคู่แข่งมากมายหลายพรรคการเมืองหลายนักการเมืองอุตลุตไปหมด มีการโฆษณาด่าทอ หาเรื่องร้ายใส่ความเอากับพรรคเพื่อไทยอย่างมากมาย และถูกเปิดเผยเบื้องหลังที่มีมาอย่างไม่ขาดสายและทั้งมีการกล่าวหาใส่ความเป็นการฟ้องร้องคดีไปอีกอย่างอุตลุต นี่แหละบอกถึงความยากลำบาก อุปสรรค ปัญหานานาประการ จากคู่แข่ง คู่ศัตรูในการเลือกตั้งครั้งนี นอกจากนี้ก็คือความหมายที่เห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทยในระยะเลือกตั้ง 24ก.พ.2562 นั้นได้ห่างไกลไปจากภาระการงานของประเทศไทย จนเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทย น่าจะไม่ได้เข้ามามีส่วนอะไรกับการบริหารประเทศเลยในผลการเลือกตั้งครั้งนี้และต่อไปอีกราว 2 ปีข้างหน้า
ดวงที่ 2 ดวงกำเนิด

ดวงที่ 2 ดวงกำเนิด
ดวงชะตาคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์
4. ผู้ทำหน้าที่ผู้นำของพรรคเพื่อไทยขณะนี้ คือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ผู้มีดวงชะตากำเนิดวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2504 นั้น.... แม้ว่าในดวงชะตาจะได้มีดาวใหญ่ทรงอำนาจคือดาวอาทิตย์(๑) เป็นมหาอุจ ก็ตาม แต่บังเอิญสภาวะทักษากำเนิด วันจันทร์ ทำให้ดาวอาทิตย์มหาอุจกลายเป็นดาวร้าย เป็นกาลกิณีไปเสียอย่างน่าเสียดาย(หากเกิดวันพฤหัสบดีหรือวันอังคารจะได้เป็นใหญ่เป็นโตยั่งยืนนานชั่วชีวิต) และใช่แต่เท่านี้ ดาวอาทิตย์(๑)กาลกิณีเดิมมหาอุจยังกุมกับดาวพุธ(๔) แล้วโดนกระแสอย่างแรงโดยการร่วมธาตุจากดาวราหู(๘)เดิมในราศีสิงห์อีกด้วย และ ครั้นมาถึงวันเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 ก็ปรากฏว่าพุธ(๔)จรกลายเป็นดาวร้ายคือเป็นกาลกิณีจร จรมาถึงราศีกุมภ์พอดี และจากจุดนี้กระแสกาลกิณีจรของพุธทอกระแสไปปะทะราหู(๘)ทั้ง 2 ดวง โดยเล็งราหูเดิมในราศีสิงห์ และร่วมธาตุกับราหูจรในราศีเมถุนอย่างเต็มที่ โดยมีกระแสกาลกิณีจรจากพุธ(๔)จร คือกระแสความเหน็ดเหนื่อย ยากลำบาก เชื่องช้าถดถอย การขาดความร่วมมือในกิจการงาน การกลั่นแกล้งไม่เต็มใจสนับสนุน และยังอาจเป็นเรื่องราวคดีความต่าง ๆ แทรกแซงอานุภาพไปตลอดดวงชะตา อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อจากวันเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 ไปเล็กน้อย ครั้นดาวพฤหัสบดีเสิร์ดสู่ราศีธนู ในวันที่ 3 มีนาคม 2562 และอยู่ในราศีธนูต่อไปถึง25 พ.ค.2562 จึงพักร ทำให้สถานะของคุณหญิงสุดารัตน์ กระเตื้องขึ้นมาสู่จุดสำคัญของการนำอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งน่าเป็นความหมายของการเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง ของประเทศไทย ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะอยู่ในส่วนของตำแหน่ง หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน หรือ ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยโดยตรงก็ได้
5. มาดูดวงชะตา พรรคประชาธิปัตย์
และนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ค่อนข้างจะเห็น ได้พบความจริงว่า พรรคประชาธิปัตย์นี้ ตราบที่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดกับการเป็นหัวหน้าพรรคนี้ตลอดไป คงไม่มีใครอื่นที่เหมาะสมกับการเป็นหัวหน้าพรรคเท่าเขา
ดวงที่ 3 ดวงกำเนิด

ดวงที่ 3 ดวงกำเนิด
ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะพรรคและหัวหน้าพรรคคนนี้ มีดาวใหญ่ร่วมชะตากันดวงสำคัญถึง2ดวงคือ จันทร์(๒)มหาอุจ ทับกันในราศีพฤษภ พรรคมีจันทร์มหาอุจ หัวหน้าพรรคก็มีจันทร์มหาอุจที่ทับกันสนิท พอดี ยังไม่แค่นี้ ยังมีดาวอาทิตย์(๑)ของพรรคประชาธิปัตย์ และดาวอาทิตย์(๑)ของหัวหน้าพรรคร่วมธาตุกันอีกด้วย นี่แหละคือความผูกพันกันแน่นสนิทระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ และความผูกพันนี้ ก็ปรากฏในวันเลือกตั้งครั้งนี้ 24 ก.พ.2562 อย่างชัดเจนไปด้วย ปรากฏจากกระแสดาววันเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 ว่า ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรคคนนี้ ต่างได้ประสบสิ่งที่เรียกโดยภาษาโหราศาสตร์ว่า ความสำเร็จ ด้วยกัน อย่างที่เป็นที่พอใจของพรรคและหัวหน้าพรรคเลยทีเดียว อันเนื่องมาจากทั้งพรรคและหัวหน้าพรรคคนนี้ ได้รับกระแสอย่างแรงจากดาวพฤหัสบดี (๕)จรมหาจักรในราศีพิจิก พร้อมกันอย่างเต็มกระแสแรงเลยนั่นเอง .
ดวงที่ 4 ดวงกำเนิด
ดวงที่ 4 ดวงกำเนิด
ดวงชะตานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
...แล้วนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งหรือไม่เล่า? พิจารณาผิวเผินก็เห็นว่ามีสิทธิ์ แต่ยังตอบตามนี้ไม่ได้ ต้องไปดูดาวตนุลักคณ์หรือดาวพุธ(๔)ดาวประจำตัวชะตานายอภิสิทธิก่อนว่าอยู่ในสถานะอะไร เพื่อดูก่อนว่ามีวาสนาบารมีถึงหรือไม่ และมีตัวลดทอนอำนาจตรงนี้ลงไปเพียงไรหรือไม่ ..ไปดูดาวประจำตัวของเขาก่อน และก็ได้พบว่า ดาวประจำตัวของเขา คือดาวพุธ(๔) ในวันเลือกตั้งสถิตอยู่ในราศีกุมภ์ ภพที่ 6 จากลักคณา แสงดาวไม่ถึงลักคณาในราศีกันย์ ปรากฏว่าอยู่ท่ามกลางอริ หมู่อมิตร มีดาวมิตรคือจันทร์จรอยู่ราศีตุลร่วมธาตุ ซึ่งบอกความหมายว่าอยู่ท่ามกลางอริหรือหมู่ศัตรูภพที่ 6 นั่นก็แปลว่าเรามีเสียงสนับสนุนน้อยหรือแทบไม่มี น่าเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งเข้ามาน้อยนั่นเอง ดวงชะตาจึงบอกว่ามาอยู่กลางพรรคอื่นเขา เรามาอยู่ค่อนข้างโดดเดี่ยว นั่นเอง และณราศีกุมภ์นี้เอง ยังมีเรื่องที่ร้ายแก่ดวงชะตาอภิสิทธิ เวชชาชีวะไปอีกหลายเรื่อง โดย เป็นที่รวมกระแสร้ายของดวงดาวหลายคู่ ที่ล้วนส่งผลร้ายแก่นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นับตั้งแต่ มีดาวอาทิตย์(๑)ซึ่งจรมาเป็นกาลกิณีจร มาทับดาวพุธ(๔)ตนุลัคณ์จรเข้าไปอีก นี่บอกถึงบารมีทางอำนาจวาสนาว่าตกต่ำลง โอกาสที่จะได้เป็นใหญ่ถูกบดบัง เพราะสภาวะกาลกิณีคุมอยู่ ประการที่ 2 ดาวอาทิตย์(๑)กาลกิณีจร เปล่งกระแสถึงดาวอังคาร(๓)เดิมในราศีเมถุน แสดงถึงศัตรูคู่แข่งแรงกล้าไม่ประนีประนอมเลย อาจสร้างความเจ็บปวด เจ็บแสบให้เจ้าชะตาอย่างแรงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประการที่ 3 ดาวพุธ(๔) ตนุลักคณ์ในราศีกุมภ์นี้พบกับกระแสแรงของดาวราหู(๘)ถึง2ดวงคือทั้งดวงเดิมและดวงจรทับกันในราศีเมถุน ซึ่งราศีเมถุนนี้เอง ใช้พิจารณาถึงตำแหน่ง อันเป็นตำแหน่งกัมมะ ภพที่ 10 ของชะตาอภิสิทธิ์ ซึ่งหมายถึงงานการอาชีพ หรือตำแหน่งรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีนั่นเอง ซึ่งได้พบว่าได้เกิดปัญหาอย่างยากที่จะแก้ไขหรือเอาชนะได้จากผลของดาวดังกล่าวมา อันเกิดจากคู่แข่งขันแรงมาก ศัตรูแรงมาก จนเราน่าจะขยับเขยื้อนไม่ออกเลย จนน่าจะชวดตำแหน่งการงานการเมืองที่สำคัญไปหมด นี่คือประเด็นสำคัญ 3 ประการ ที่ลดทอนอำนาจ บารมีของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลง และ ครั้นเข้าวันที่ 3 มีนาคม 2562 เมื่อดาวพฤหัสบดีเคลื่อนออกไปจากราศีพิจิก ... ความหวังทุกอย่างของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และทั้งพรรคประชาธิปัตย์ อันเกี่ยวกับตำแหน่งทางการเมืองก็หมดลง..ฉะนั้น ชะตานี้จะชวดตำแหน่งทางการเมืองไปหมดในระหว่างวันที่ 3 มีนาคม – 25 พ.ค. 2562 ชะตาหาค่ามิได้ อย่างไรก็ตามชะตาพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระยะนี้ไป จะมีลักษณะขึ้น ๆ ลง ๆ ไปจนถึงเดือนตุลาคม 2562 จึงจะเข้าสู่เสถียรภาพ อันเป็นผลจากการห่างเหินไปจากบทบาทหน้าที่โดยตรงทางการเมืองไปแล้ว
6. ดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา
ปรากฏว่า ตั้งแต่อายุครบ 64 ปีเต็มวันที่ 21 มีนาคม 2561 เป็นต้นมาถึงวันเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 ดาวประจำตัวคือดาวเสาร์(๗)เดิมมหาอุจ ได้โคจรลงสู่ภพที่ 12 ของดวงชะตาที่ได้ชื่อว่าภพวินาสน์ เท่านี้ก็ถือว่าร้ายแรงตกต่ำอยู่แล้ว แต่ดาวเสาร์(๗)ดวงจรนี้ก็ยังได้แปรสภาพทักษาร้ายไปอีกด้วย คือเป็นกาลกิณีจร มองณจุดนี้ แค่นี้ ก็เห็นได้ว่าร้ายและยากที่จะประสบความสำเร็จในทางการเมืองไปได้ วันเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 น่าเป็นวันที่เจ้าชะตานี้ประสบความปราชัยไปแบบหมดประตูสู้ไปเลย นี่น่าเป็นไปตามความหมายของดาวประจำตัวที่ตกต่ำและทั้งยังสภาพร้ายแรงโดยเป็นกาลกิณีจรอีกด้วย
ดวงที่ 5 ดวงกำเนิด
ดวงที่ 5 ดวงกำเนิด
ดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา
ดวงที่ 6 ดวงจร
.jpg)
ดวงที่ 6 ดวงจร
ดวงชะตาดาวจร วันเลือกตั้งไทย 24 ก.พ.2562
......แต่เราจะดูเฉพาะตรงนี้ก็จะไม่รอบคอบพอ สำหรับชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชานี้..... แม้ดาวประจำตัวจะตกต่ำขนาดนี้ก็ตาม ...เห็นดาวตกเหวไปก็ตาม..จะคิดว่าตาย อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต ก็น่าคิดจริง..... แต่สำหรับชะตานี้เมื่อมองตามดาวตกไป กลับได้พบว่าที่ภพวินาสน์อันเป็นเหวลึกอันตรายนั้น ได้มีดาวมหามิตรคือราหู(๘)เดิมรอรับอยู่ที่ก้นเหวนั้น เป็นราหู(๘)เดิมธาตุลม ในราศีธนูธาตุไฟ เมื่อเสาร์(๗)ตนุลัคณ์ ธาตุไฟหล่นลงมาก็จึงมีมหามิตรรับเอาไว้ได้และยังเป็นระบบธาตุที่ผสานเกื้อกูลกันดีอีกด้วย คือ ราหูธาตุลม บวกเสาร์ธาตุไฟในราศีธนูธาตุไฟ จึงนอกจากไม่เป็นอันตรายก็ยังมีการเยียวยากันอย่างดีอีกด้วย ซึ่งเมื่อแปลความหมายทางการเมืองต่อไป ก็คือ มีการซุ่มตัว คบคิดแผนการเมืองต่อไปแบบลับ ๆ มีแผนลับลึกซึ้งที่คิดเอาชนะต่อไปอีก ...และแล้ว มีมากไปกว่านั้นคือมีดาวราหู(๘)จรมาสมทบอีกดวงหนึ่ง คือราหู(๘)จรยกย้ายราศีจากราศีกรกฎเข้าสู่เข้าสู่ราศีเมถุนก่อนวันเลือกตั้ง 2 วัน คือวันที่ 22ก.พ.2562 ราหู(๘)จรยกย้ายราศีเข้าสู่ราศีเมถุน ผลก็คือมีมหามิตรมาช่วยอีกแรงหนึ่งเป็น2เท่าไปเลย เป็นราหู(๘)ธาตุลม 2 ดวง ดวงเดิมกับดวงจร ก็ส่งผลแรงกว่าเดิมไปอีกเป็น2เท่า...ซึ่งในกรณีการช่วยของมหามิตรใหญ่รวมตัวกันมาช่วยนี้ มองในประเด็นตนุลักคณ์เป็นกาลกิณีจร ก็แปลได้ว่าเจ้าชะตาอาจจะไม่ได้รู้ในแผนงานที่มหามิตรทำให้เลยก็ได้ รูปธรรมก็อาจจะเป็นว่าพล.อ.ประยุทธ จะไม่รู้แผนการเมือง หรือไม่ได้คิดแผนเองเลย ไม่ได้คิดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเอฃเลย แต่มีพรรคอื่น เพื่อนอื่นผู้มีอำนาจอื่นคิดให้ทั้งสิ้น ก็เป็นได้ส่วนความหมายหนึ่งเหมือนกัน นี่คือการช่วยของดาวมหามิตร 2 ดวง ราหู(๘)เดิม ราหู(๘)จร ซึ่งไม่เท่านั้นในวันเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 ยังมีดาวพฤหัสบดี(๕)จร โดยพลังมหาจักร ในราศีพิจิก ซึ่งอยู่ในตำแหน่งภพที่ 11 ของดวงชะตาราศีมังกร แล้วประสานอย่างแรงกับอาทิตย์(๑)ในราศีมีน นี่แหละ หนุนอย่างเต็มที่อีกด้วยและพลังนี้เองบ่งบอกถึงชัยชนะ น่าส่งผลแด่ชัยชนะและตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง คือนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ....อย่างไรก็ดี ตามดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้สร้างปัญหามาร่วมปีแล้ว แม้ขณะนี้เองและในวันเลือกตั้งเอง แต่มาบัดนี้จวนหมดลงอันเนื่องมาจากสภาพดาวกาลกิณีของตนุลักคณ์จะหมดลงแล้ว กลายเป็นมนตรีจรแทนในวันเกิด 21 มี.ค.2562 นั้นแหละพ้นปัญหาทุกประการ
7. ดวงชะตาประเทศไทย
ดวงที่ 7 ดวงกำเนิด

ดวงที่ 7 ดวงกำเนิด
ดวงชะตาประเทศไทย
...และครั้นมองดูดวงชะตาประเทศไทยประกอบกับดวงชะตานักการเมืองและการเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 จะได้พบว่าชะตาประเทศอยู่ในสถานะของความไม่แน่นอน สถานการณ์ของประเทศไทยจะปั่นป่วนมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2561 มาแล้ว ..แต่ไม่อันตราย และบัดนี้ ก็กำลังจะมาสู่สถานการณ์ความสงบลง โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2562 เป็นต้นไปถึงวันที่ 25 พ.ค. 2562 ซึ่งในระหว่าง 3 เดือนนี้แหละที่น่าจะได้มีคณะรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศ และจากนี้ไปก็จะสงบ เจริญและก้าวหน้า เข้า 5 ธ.ค.2563 แล้ว นั้นจะเป็นวาระที่จักได้สถาปนาความมีเสถียรภาพยั่งยืนมั่นคงของประเทศนี้ มีความก้าวหน้าอย่างมีหลักการต่อเนื่องไปไม่ขาดเป็นเวลาถึง 5 ปี ระหว่าง 15 ธ.ค.2563 ถึง 13 ก.พ.2569 เป็นระยะที่หวังจากดวงชะตาประเทศไทยว่าเป็นระยะแห่งเศรษฐกิจ ความสุข สงบ มั่นคง ก้าวหน้าสู่อารยธรรมโลกเลยทีเดียว
หมายเหตุ การที่มีผลทางการพยากรออกมาอย่างนี้ ที่ควรจะได้พบจากคำพยากรณ์ก็คือ เป็นระยะที่ประเทศไทยขาดนักการเมืองคนเก่ง ผู้นำทางการเมืองที่มาเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 ล้วนแต่มีข้อบกพร่องหรือได้รับผลร้าย เสียหายแก่ชะตาตนเอง จากระบบดาวช่วงนี้พอ ๆ กันตามระบบจักรราศีดาวแห่งโหราศาสตร์ระยะมีการเลือกตั้งครั้งนี้ ต่างมีข้อตกต่ำไปพอ ๆ กัน จนไม่คิดว่าจะมีผู้ใดเก่งมีความสามารถมากกว่าใครเลย แม้ในดวงชะตาก็ไม่มีใครเด่น จนอาจพยากรณ์ได้เลยว่าจะเป็นผู้ชนะ มีแต่ผู้แพ้ทั้งนั้น อย่างเช่นพรรคเพื่อไทย และผู้นำพรรคเพื่อไทย ก็พบอยู่ว่าไม่เหมาะกับจังหวะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ กับหัวหน้าพรรคก็พบว่ามีความเก่งอยู่ไม่น้อย หากแต่เก่งไปไม่ตลอด เพราะตามระบบดาว ดวงชะตาเกิดห่างหายไปหลังการเลือกตั้ง ส่วนพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ตามผลจากดาวในชะตา ก็อยู่ในระยะที่สร้างผลงานมาอย่างตกต่ำ ทำความเสียหายแด่การเงินของประเทศอย่างสูง จนประชาชนเมินเฉยไปจนไม่น่าจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง มองเฉพาะตรงนี้ก็อาจเห็นว่าไม่ชนะมีแต่แพ้ หากสำหรับดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา กลับมีพลังดาวมาทดแทนให้ โดยการจรของดาวมหามิตรราหู(๘) นั้นเองถึง 2 ดวง ที่แสดงถึงการมีคณะบุคคล หรือกลุ่มคนรัก หรือมิตรสหาย หรือพรรคการเมืองนั่นเองหลายพรรคช่วยกันสนับสนุนโอบอุ้ม จึงตีตัวพ้นปัญหามาได้ และได้รับการสนับสนุนจนทำให้ดวงชะตามีสง่าราศีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับนักการเมืองคนอื่น ก็ดีกว่า มีความหมายกว่าดวงชะตานักการเมืองคนอื่นไปได้ จึงทายได้ว่าน่าเป็นผู้ชนะ และได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสมัยหนึ่ง
นี่คือการพยากรณ์โดยย่อตรงประเด็นตามหลักการโหราศาสตร์ไทย เราถือว่าเป็นงานวิจัยทางโหราศาสตร์อีกผลงานหนึ่ง ซึ่งก็อาจจะมีผิดมีถูก อย่างไร ก็จักได้เป็นความรู้ไปทั้งนั้น และนี่ก็คือการเปิดเผยทฤษฎีโหราศาสตร์ออกมาอีกหลายทฤษฎีที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้ง ที่ทางเราผู้พยากรณ์หวังให้เกิดประโยชน์แด่วิชาการทางโหราศาสตร์ต่อไปโดยเฉพาะ ที่ผู้ศึกษาโหราศาสตร์น่าจะได้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัยต่อไป ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจและให้เกียรติแด่วิชาโหราศาสตร์ สวัสดีครับ.

ชลัมพุช โหรชนบท
(พระครูพุทธิพงศานุวัตร)
3 ม.ค.2562 02.30 น.
.jpg)