กรณีนายกฮุนเซ็นของกัมพูชาแต่งตั้งอดีตนายก พตท.ดร.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจแพร่สะพัดไปทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลไทยพยายามประโคมข่าวว่าทางสื่ออย่างครึกโครมว่าอดีตนายกชักศึกเข้าบ้าน หวังจุดกระแสคนไทยคลั่งชาติ แต่ไม่เป็นผลสังเกตจากเวทีพันธมิตรเมื่ อ 15 พ.ย.52 ที่มีคนร่วมไม่มากนักและสลายการชุมนุมไปอย่างรวดเร็ว 

ในฐานะที่ผู้วิเคราะห์เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรในโลกยุคโลกาภิวัฒน์นึ้  แต่รู้สึกว่ารัฐบาลจะมองอะไรด้านเดียวไปหมดคือ มองเห็นฝ่ายตรงข้ามทำอะไร คิดอะไรล้วนเป็นเรื่องเลวร้ายไปหมด แสดงถึงวิสัยทัศน์ที่คับแคบ อคติจึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้นำของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ

ในยุคที่โลกเจริญด้วยวิทยาการสูงสุด มีการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงมาก และข่าวสารทั้งหลายได้แพร่สะพัดเปิดหูเปิดตาชาวโลกได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีอะไรปิดบังซ่อนเร้นได้อีก ประชาชนได้เห็นเสรีภาพ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของเพื่อนร่วมโลกในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย  ทำให้ประชาชนกระสันอยากเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น  เพราะได้ตระหนักในสิทธิเสรีภาพความเป็นมนุษย์ของตนเอง พรรคการเมืองมีหน้าที่แข่งขันกันทางนโยบายและทำตามนโยบายเพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับมากที่สุด ด้วยเสียงประชาชนเป็นเสียงสวรรค์  ดังนั้นวิธีเดียวที่จะทำให้อำนาจทางการเมืองอยู่ในมือของพรรคได้นานที่สุดโดยไม่ถูกโค่นล้มก็คือ  การยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมากที่สุด  

นายกฮุนเซ็นเป็นนายกมาถึง 30 ปี โอกาสที่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการอาจเกิดขึ้นได้  และอาจถูกโค่นล้มจากพรรคตรงข้ามมีได้สูงสุด วิธีการเดียวที่จะครองอำนาจอยู่ได้ก็คือต้องครองใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศให้ได้มากที่สุด ปรากฏการณ์คนเสื้อแดงที่เผยแพร่ไปทั่วโลกได้ให้คำตอบแก่นายกกัมพูชาว่า  อดีตนายกทักษิณบริหารประเทศอย่างไร ประชาชนถึงยอมรับและพร้อมจะปกป้องท่านทุกเมื่อ แม้จะถูกโค่นล้มโดยอำนาจมืดแต่ประชาชนก็พร้อมจะทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ท่าน สนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคไทยรักไทยให้มาบริหารประเทศ  ซึ่งนับวันพลังของประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็ยิ่งแดงทั้งแผ่นดิน และพร้อมประกาศศักดาของคนเสื้อแดงว่าจะไม่ยอมให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนต้องถูกเงื้อมมือของอำมาตย์มาโค่นล้มอีก นายกสมชาย  วงศ์สวัสดิ์จะเป็นคนสุดท้าย และแน่นอนชัยชนะต้องเป็นของประชาชน

นับว่าผู้นำกัมพูชาคนนี้ฉลาดไม่น้อย ที่ดึงท่านทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาด้วยเห็นฝีมือที่ผู้นำประเทศไหนก็ต้องยอมรับมันสมองของท่าน  พร้อมกับประกาศนำประเทศออกจากความยากจน  จะนำพาคนกัมพูชาให้อยู่ดีกินดีด้วยการส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะมีทรัพยากรอันล้ำค่าอยู่แล้ว ผู้นำกัมพูชาเขายังมองเห็นแสงสว่างและจะนำพาประชาชนไปพร้อมกัน  แต่เหตุไฉนผู้นำไทยจึงยังมองไม่เห็น แทนที่จะประกาศสงครามกับความยากจน  แต่ไปประกาศสงครามกับประชาชนคนรักประชาธิปไตย  แล้วตอนอวสานจะเป็นอย่างไร