ReadyPlanet.com
dot


สนธิลิ้มจาบจ้วงสถาบันที่สนามหลวงทำไมไม่มีใครจัดการ พล.อ.เปรม ประธานองค์มนตรีไปไหน


 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กับคณะองค์มนตรี ทำไมไม่ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการจาบจ้วงสถาบัน ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในการชุมนุมที่สนามหลวงวันที่ 15 พ.ย.2552

มีรายงานคำพูดของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ดังนี้

  1. ใครจะเข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้วก็เพราะพระองค์ท่านจักไม่พอพระทัย ก็ทรงกล้ำกลืนในพระทัย..  
นี่เป็นการ กล่าวตู่พระมหากษัตริย์ที่เป็นที่รักบูชาของเราชาวไทยทั้งหลาย คำพูดของเขาทำให้คนคิดว่า นายสนธิใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ รู้ในพระทัยของพระองค์ ว่าพระองค์ไม่ทรงพอพระทัย อย่างนั้นหรือ นี่เป็นการกล่าวตู่พระมหากษัตริย์ เป็นการจาบจ้วงองค์พระมหากษัตริย์ เพราะเมื่อต้นเดือนนี้เขาเพิ่งถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี ข้อหาหมิ่นสถาบันอยู่เลย  และ
 
 
2.     คำว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว นอกจากพวกเรา พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย...      ซึ่งหมายความว่า พวกเสื้อเหลืองมีความสำคัญยิ่งใหญ่ในการเป็นที่พึ่งของกษัตริย์ อย่างนั้นหรือ   ไม่เลย เพราะพระองค์ไม่มีวันที่จะขาดความจงรักภักดีจากประชาชนทั้งหลายของประเทศนี้
 
 
3.    “สู้เพื่อในหลวง ถ้าเราไม่สู้ ป่านนี้จะทรงเป็นอะไรไปแล้ว..” 
จริง ๆ แล้ว นายสนธิ  มีความสำคัญขนาดนั้นทีเดียวหรือ  แน่นอนคนกุ๊ย ๆ นี่พูดลำเลิกอย่างนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า  โดยไม่มีสถาบันใดดูแล  แม้คณะองค์มนตรีก็เงียบกริบได้อย่างไร
 
 
4.       "การมาชุมนุมของพวกเราวันนี้ ก็เพื่อให้ทรงทราบว่า พระองค์ท่านยังมีพวกเราอยู่ ใช่ไหมพี่น้อง
 
จะเห็นว่าเป็นคำพูดที่มีลักษณะอาจเอื้อมละเมิดเบื้องสูง   หยาบคาย และล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์  เหตุใดเขาจึงบังอาจทึกทักเอาว่าเขามีความสำคัญต่อพระมหากษัตริย์ได้เหนือกว่าคนอื่นทั้งประเทศ จนกว่าวได้อย่างตรง ๆ ไม่เกรงกลัวว่า   "เพื่อให้ทรงทราบว่าพระองค์ท่านยังมีพวกเราอยู่"   เพราะความหมายนี้ หมายถึงประชาชนชนอื่นใดทั้งสิ้นไม่จงรักภักดีต่อในหลวงแล้ว  จนกระทั่งในหลวงจะต้องหันมาพึ่งพวกเขากลุ่มนี้กลุ่มเดียว 
 
นี่คือการจาบจ้วงและดึงสถาบันลงมาต่ำอย่างชัดเจนอย่างเจตนาที่สุด
 
เราจึงขอฝากเอาไว้เพื่อการพิจารณา  ว่าคนอย่างนายสนธิลิ้มทองกุล  ชั่วช้าเลวทรามขนาดไหน  แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ  เขาลอยนวลไปได้อย่างไร  และพล.อ.เปรม ในฐานะประธานองค์มนตรี ไม่คิดทำอะไรเลยหรือ จึงให้อยู่ในความพิพากษาของประชาชนในโอกาสต่อไป
 


ผู้ตั้งกระทู้ 001 รายงาน :: วันที่ลงประกาศ 2009-11-19 19:46:57


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1998629)

ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนไทยส่วนใหญของประเทศข้องใจเหลือเกินว่าความจงรักภักดีของกลุ่มพันธมิตรคืออะไร จึงปิดทางเสด็จพระราชดำเนินคราวงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระพี่นาง  และยังเอาสิ่งปฏิกูลไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ต่อหน้าพระบรมรูปทรงม้า  ไม่เห็นประธานองคมนตรี หรือคณะองคมนตรีออกมาห้ามปรามหรือติเตียนแต่ประการใด แต่กลับทำนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สภาพการณ์ดังนี้แสดงถึงภาวะจิตใจของผู้กระทำที่คนทั้งประเทศเขามองออก  แต่พวกนี้กลับมองไม่ออกเพราะอวิชชาบังตาอยู่  จนมองไม่ออกว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

ถึงจะปลุกระดมมวลชนอย่างไรก็ปลุกไม่ขึ้นแล้ว  คนไทยเขาตาสว่างกันหมดแล้ว การชุมนุมเมื่อวันที่   15 พฤศจิกายน 2552  จึงมีคนหลอมแหลม 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2009-11-23 21:17:04


ความคิดเห็นที่ 2 (1998639)

ต่อไปพันธมิตรจะชุมนุมต้องคิดหนักหน่อยนะ เพราะการต่อสู้ที่ไม่มีอุดมการณ์อะไร  สุดท้ายคนปราศัยก็พูดวนไปเวียนมาอยู่ในอ่างเดียวกัน  คนฟังฟังแล้วก็เบื่อ และเมื่อยิ่งดึกก็ยิ่งไม่มีใครอยากฟัง  ถึงจะจ้างมาเขาก็มาประเดี๋ยวประด๋าวเพราะไม่รู้ว่าจะต่อสู้เพื่อใคร  เพื่ออะไร  และทำไมต้องสู้  จิตใจของผู้มาชุมนุมจึงไม่ฮึกเหิม  ผิดกลับการต่อสู้ของผู้มีอุดมการณ์อันสูงส่งเดียวกัน  แม้จะถูกขัดขวาง  แม้จะลำบาก  แม้จะมีอันตราย  เขาก็ไม่ยอมหยุดอยู่  หยุดไม่ได้และจะสู้จนกว่าจะได้ชัยชนะ  ถึงตัวตายเพื่อนร่วมอุดมการณ์ก็คงสู้  และยิ่งสู้ก็ยิ่งแข็งแกร่ง  เพราะถ้าเขาล้มก็หมายถึงความเป็นทาสทั้งตัวเขาเอง  ครอบครัว  คนในชาติไปชั่วลูกชั่วหลาน ใครจะยอม และมิใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่คิดเช่นนี้  คนทั่วโลกเขาก็ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยกันทั้งนั้น  เพราะมันหมายถึงเสรีภาพทางความคิด  เสรีภาพทางเศรษฐกิจ เสรีภาพทางสังคม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2009-11-23 21:30:30


ความคิดเห็นที่ 3 (2035655)

เสื้อแดง ตะแบงข้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น เบื่อแดง วันที่ตอบ 2010-06-18 15:14:59



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.