| |||||||||
คิดอย่างไรกับกฎหมายสั่งโบยสตรีต่อหน้าสาธารณชนฐานดื่มเบีนร์ | |
อยากให้ บก. ช่วยวิเคราะห์ด้วย นายกฯมาเลเซียหวั่นภาพลักษณ์ประเทศเสีย กรณีนางแบบคดีดื่มเบียร์ ถูกพิพากษาโทษเฆี่ยนโบยเป็นจำนวน 6 ที จี้อุทธรณ์สู้คดี นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้นำมาเลเซีย กล่าวเรียกร้องให้นางการ์ติก้า ซารี เทวี ชูการ์นอร์ หญิงมาเลเซีย วัย 32 ซึ่งถูกพิพากษาโทษเฆี่ยนโบยเป็นจำนวน 6 ที จากกรณีดื่มเบียร์ ในรัฐปาหัง เร่งอุทธรณ์สู้คดีดังกล่าว แทนที่จะร้องขอให้ตัวเองได้รับการลงโทษโบยเร็ว ๆ โดยชี้ว่า ทางการมาเลเซียรู้สึกอ่อนไหวต่อกรณีการลงโทษดังกล่าว | |
ผู้ตั้งกระทู้ หิ่งห้อย :: วันที่ลงประกาศ 2009-09-09 17:45:19 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1977431) | |
ประเทศมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านอีกประเทศหนึ่งที่รัฐบาลค่อนข้างมีกฎหมายเคร่งครัด บ้านเมืองสงบเรียบร้อย พัฒนาได้เร็ว ในความรู้สึกของข้าพเจ้าเห็นว่าการที่ประชาชนคนรุ่นใหม่รวมไปถึงผู้นำรัฐบาลของมาเลเซียออกมาแสดงวิสัยทัศน์ว่า เป็นนักประชาธิปไตยที่อยากเห็นประเทศมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นสากลเหมือนประเทศอื่นๆ คำนึงถึงความเป็นเหตุเป็นผลและมองศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ตามความเป็นจริง คือมนุษย์ทุกคนมีความบกพร่องไม่มากก็น้อย ไม่มีใครดีเต็ม 100 ดังนั้นย่อมมีโอกาสทำอะไรที่อาจผิดพลาดไปจากจารีตประเพณีไปบ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นการจะตัดสินใดพิพากษาใดๆ ควรต้องคำนึงถึงกฏกติกาและจารีตประเพณีของสังคมโลกด้วย คือถ้าทำผิดร้ายแรงมีผลต่อความสงบสุขของผู้อื่นและประเทศชาติ บทลงโทษย่อมจะหนักตามไปด้วย แต่ถ้าเป็นความผิดสถานเบาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ควรจะเป็นการลงโทษที่สังคมโลกเขายอมรับได้ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนรักเสรีภาพ รักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การที่สังคมยึดมั่นถือมั่นใ นกฏระเบียบใดๆอย่างสุดโต่ง อะไรที่ตึงเกินไปย่อมไม่เป็นผลดี และจะไปกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และริดรอนเสรีภาพทางความคิดของประชาชน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนรักปชต. วันที่ตอบ 2009-09-12 02:22:47 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1977655) | |
กรณีหญิงมาเลเซีย นี้ ก็เหมือนกรณีในอิรัคอิหร่าน ที่เคร่งครัดในคำสอนของศาสนาอิสลาม แบบดั้งเดิมหรือแบบต้นฉบับ ในอิรัค อิหร่าน อาฟกานิสถาน เคยมีกรณีเกี่ยวกับการแต่งตัว ผู้หญิงที่แต่งตัวเปิดหน้า ไม่มีผ้าคลุมหน้า หรือแต่งตัวแบบตะวันตก ก็เคยเป็นข่าวไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน โดยมีการลงโทษเฆี่ยนตีสตรีเหล่านั้นอย่างสาหัส ทั้งนี้ก็เพราะเป็นบทบัญญัติในศาสนาของเขา ครั้นกาลล่วงมาถึงปัจจุบันและโลกก้าวไปในวิถีทางวิทยาศาสตร์ เจริญขึ้นมาจนสามารถเอาชนะธรรมชาติ และรู้เรื่องราวของธรรมชาติไปมากแล้ว เช่นปัจจุบันนี้ จึงได้มีความคิดแตกแยกออกไป โดยมีคนจำนวนหนึ่งลังเลใจ ในคำสอนของศาสนาดั้งเดิม กรณีหญิงมาเลเซียวัย 32 ที่ได้รับการพิพากษาในข้อหาดื่มเบียร์โดยให้โบยนั้น ก็เช่นเดียวกัน มีคนแตกความคิดกันเป็น 2 พวก พวกที่คิดในแนวใหม่เช่นนายกรัฐมนตรีเอง ก็เห็นว่าเป็นการไม่สมควร ท่านเหล่านี้มองสังคมใหม่ อย่างมีเหตุผลอย่างสมัยใหม่ แต่จะเห็นว่าท่านเหล่านี้ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดจึงควรคัดค้านคติตามคำสอนในพระคัมภีร์ ในขณะที่มุสลิมหัวเก่า เห็นว่าประพฤติตามคำสอนเป็นการสมควรและถูกต้อง โดยคิดเอาง่าย ๆ ว่า นั่นเป็นคำสั่งของพระเจ้า
นี่คือสภาวะที่สลับซับซ้อนอย่างละเอียดอ่อน และไม่มีคำอธิบายในศาสนาอิสลาม จึงเป็นจุดอ่อนอย่างยิ่งสำหรับสังคมอิสลามยุคใหม่ เพราะยากแก่การปรับตัว มีทางเดียวที่จะปรับตัวคือ ขัดคำสั่งพระเจ้า แต่ก็ไม่มีใครกล้าคิดอย่างนี้ (แต่กล้าทำ) แล้วก็แตกสามัคคีกัน
คำอธิบายเรื่องราวเหล่านี้ ยาว บางทีเราอาจจะต้องให้เป็นสิ่งที่ค่อยเรียนรู้ไปตามกาลเวลา ให้เวลาเป็นสิ่งที่อธิบาย จะดีกว่า
เพราะเรื่องราวของปัญหาเป็นของอิสลาม แต่คำอธิบายเป็นของพุทธ ในกรณีเช่นนี้ อาจจะไม่เป็นผลดี แม้ว่าเรามีความปรารถนาดีก็ตาม
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น บก. วันที่ตอบ 2009-09-13 21:50:22 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 157657 |