เหตุการณ์เช้ามืดวันที่ 19 เมษายน 2553 แกนนำกลุ่ม นปช. ประกาศว่าทหารจะเข้าสลายการชุมนุม เห็นทหารมีอาวุธครบมือประจำตามจุดต่างๆบนสถานีรถไฟฟ้าย่านราชประสงค์-สีลม ประกาศให้ผู้ออกจากพื้นที่การชุมนุม

และห้ามลุกล้ำเขตสีลม นับเป็นการลุแก่อำนาจ ผู้บัญชาการกองทัพไทยไม่เคยรู้เรืองประชาธิปไตย ไม่เคยเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางการเมือง นับตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 กองทัพพยายามแสดงให้ประชาชนคนไทยเห็นว่าอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งและอุ้มชูรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล และเมื่อประชาชนเขาไม่พอใจออกมาต่อต้านเรียกร้องให้ยุบสภา เพราะรัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศไม่ได้ กองทัพก็ออกมาปกป้องทำทุกวิถีทางที่จะให้รัฐบาลนี้คงอยู่ นี่ต่างหากคือทางตันของปัญหากองทัพควรยอมรับความจริงได้แล้วว่า ในโลกยุคปัจจุบันทหารไม่มีทางนำพาประเทศชาติและประชาชนให้รอดพ้นจากความลำบากยากจน ไม่สามารถแข่งขันกับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมได้ การใช้กำลังบังคับขู่เข็ญประชาชนเป็นความล้าหลังป่าเถื่อนที่โลกเสรีเขาไม่ทำกัน ลองคิดทบทวนดูซิว่าหากทหารยึดอำนาจจากประชาชนได้สำเร็จด้วยกำลังแล้วจะบริหารจัดการประเทศอย่างไรให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ทำไมไม่ดูประเทศที่เขาเจริญแล้วอย่างอังกฤษรัฐบาลของนายกอร์ดอน บราวน์ เขารู้ตัวว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้เขาจึงประกาศยุบสภา ประชาชนคนทั่วโลกเขาก็งงเหมือนกันว่าผู้นำกองทัพไทยแกหลงยุคหรืออย่างไร จึงทำอะไรๆไปตามอำเภอใจของอำมาตย์ผู้หลงยุคไปอีกเช่นกัน ประชาชนคนเสื้อเหลือง นายทุน นักธุรกิจทั้งหลาย แม้แต่ทหารตำรวจเอง คุณรู้หรือไม่ว่าการต่อต้านคนเสื้อแดงไม่ให้ได้รับประชาธิปไตย เท่ากับคุณยอมรับหลักการของรัฐบาลเผด็จการทหาร แน่ใจหรือว่าธุรกิจของคุณ ความเป็นอยู่ของคุณจะสะดวกสบาย ร่ำรวยเหมือนยุครัฐบาลประชาธิปไตย เพราะตราบใดที่ประเทศไม่ได้รับความน่าเชื่อถือจากนักลงทุน คนไทยยากจนลง คุณจะไม่ได้รับผลกระทบ  แม้แต่นายธนาคารใหญ๋ซึ่งหนุนอำมาตย์มาตลอดก็ยากจนลงได้เช่นกัน  เพราะคุณต้องพึ่งประชาชน ไม่ใช่พึ่งอำมาตย์