การติดเชื้อล่าสุดจากไวรัสที่เกี่ยวข้องกับ SARS-CoV-2 สามารถลดระยะเวลาของ COVID-19 ตามการวิเคราะห์แอนติบอดีจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 2,000 คน

แอนติบอดีต่อโปรตีนขัดขวาง SARS-CoV-2 สามารถป้องกัน COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางคนมีแอนติบอดีที่หาได้ยากต่อไวรัสโคโรนาชนิดอื่น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนการระบาดใหญ่และสามารถจับกับโปรตีน SARS-CoV-2 นอกเหนือจากการขัดขวาง เพื่อค้นหาความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างแอนติบอดีดังกล่าวกับการป้องกัน COVID-19 Scott Hensley จาก University of Pennsylvania ในฟิลาเดลเฟียและเพื่อนร่วมงานของเขาได้ศึกษาระดับแอนติบอดีและสถานะการติดเชื้อในอาสาสมัครท้องถิ่นประมาณ 2,000 คนในช่วงที่เกิด COVID-19 สองครั้ง (S. Gouma et อัลพิมพ์ล่วงหน้าที่ medRxiv https://doi.org/f7zp ; 2021)

ทีมงานพบว่าผู้ที่มีแอนติบอดีก่อนการระบาดที่หายากซึ่งทำงานกับ SARS-CoV-2 นั้นไม่ได้รับการปกป้องจากการติดเชื้อไวรัสและการพัฒนา COVID-19 แต่ความเข้มข้นสูงของแอนติบอดีอื่นๆ ที่ถูกกระตุ้นโดยเบต้าโคโรนาไวรัส 2 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นประเภทที่มี SARS-CoV-2 นั้นเกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวจากอาการโควิด-19 ได้เร็วขึ้น บาคาร่า

ผู้เขียนคาดการณ์ว่าการป้องกันนี้มีให้โดยผู้เล่นในระบบภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า T เซลล์ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อเบต้าโคโรนาไวรัสก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยเพื่อน

การทดลองทางคลินิกในกว่า 4,600 คนที่มีความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ที่ร้ายแรง พบว่ายารักษาโรคหอบหืดชนิดสูดทำให้ระยะเวลาของอาการของโรคสั้นลงประมาณ 3 วัน

Budesonide ยาโรคหอบหืดเป็นสเตียรอยด์ชนิดสูดดมราคาไม่แพงและหาซื้อได้ทั่วไป Christopher Butler และ Richard Hobbs จาก University of Oxford สหราชอาณาจักร และเพื่อนร่วมงานของพวกเขาได้ทดสอบยา budesonide ในผู้ที่มีอาการของ COVID-19 แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (PRINCIPLE Collaborative Group et al. พิมพ์ล่วงหน้าที่ medRxiv https://doi.org/f6hf ; 2564).

ผู้เข้าร่วมอาจมีอายุเกิน 65 ปีหรือมากกว่า 50 ปี และมีภาวะที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโควิด-19 ผู้เข้าร่วมได้รับการสุ่มให้ได้รับยาหรือให้บริการในกลุ่มควบคุม แต่ไม่มีใครได้รับยาหลอก ทั้งผู้เข้าร่วมและผู้ตรวจสอบรู้ว่าใครได้รับยา

ผู้ที่รับประทานยาบูเดโซไนด์วันละสองครั้งเป็นเวลาสองสัปดาห์รายงานว่าอาการโควิด-19 ของพวกเขาสิ้นสุดลงเร็วกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้สเตียรอยด์ถึงสามวัน ผลลัพธ์ยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยเพื่อน

โครงการฉีดวัคซีนชั้นนำระดับโลกของอิสราเอลดูเหมือนว่าจะรักษาสายพันธุ์โคโรนาไวรัสที่น่ากังวลไว้ได้

ผู้คนมากกว่า 60% ในอิสราเอลได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์แล้ว และจำนวนผู้ป่วยก็ลดลง แต่ตัวแปรใหม่เช่น B.1.1.7 ซึ่งระบุเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักรก็กำลังเผยแพร่ในอิสราเอลเช่นกัน เพื่อตรวจสอบผลกระทบ ทีมที่นำโดย Adi Stern จาก Tel Aviv University และ Shay Ben-Shachar จาก Clalit Research Institute ใน Ramat Gan ทั้งสองแห่งในอิสราเอล ได้วิเคราะห์ "การติดเชื้อที่ก้าวหน้า" ซึ่งบันทึกไว้ในผู้ที่ได้รับวัคซีนหลายร้อยคน (T. Kustin et alพิมพ์ล่วงหน้าที่ medRxiv https://doi.org/f6g3 ; 2021).

พบไวรัสโคโรนาหลายสายพันธุ์ในสหรัฐอเมริกา — แต่ภัยคุกคามยังไม่ชัดเจน

การติดเชื้อที่ก้าวหน้าเกือบ 250 รายอยู่ในผู้ที่ได้รับวัคซีนเพียงหนึ่งในสองโดสที่แนะนำ นักวิจัยเปรียบเทียบการติดเชื้อเหล่านี้กับจำนวนการติดเชื้อในผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนซึ่งตรงกับอายุ วันที่ติดเชื้อ และลักษณะอื่นๆ จากการเปรียบเทียบพบว่าการติดเชื้อในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบางส่วนมีโอกาสเกิด B.1.1.7 มากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเล็กน้อย

นักวิจัยยังได้ศึกษาการติดเชื้อที่ก้าวหน้า 149 รายในผู้ที่ได้รับวัคซีนทั้งสองโดส การติดเชื้อแปดรายการเกิดจากเชื้อ B.1.351 ซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ การติดเชื้อเพียง 1 รายการจาก 149 รายการในกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับวัคซีนที่ตรงกันมีสาเหตุมาจากสายพันธุ์นี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพน้อยกว่าสายพันธุ์ B.1.351 เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ

อัตราการติดเชื้อ B.1.351 ยังคงต่ำมากและไม่เพิ่มขึ้นในระหว่างการศึกษา นักวิจัยกล่าว พร้อมแนะนำว่าการฉีดวัคซีนและการแทรกแซงอื่นๆ ผลการวิจัยยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยเพื่อน

การทดสอบ COVID-19 อย่างรวดเร็วสามารถตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนาส่วนใหญ่ที่จะนำไปสู่การแพร่เชื้อต่อไป ตามการจำลองที่รวบรวมผลการทดสอบไวรัสโคโรนามากกว่า 3.5 ล้านครั้ง

การทดสอบอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนาที่ดำเนินการโดยชุดทดสอบแบบพกพาที่เรียกว่าอุปกรณ์แอนติเจนที่ไหลด้านข้างสามารถเสริมโปรแกรมการทดสอบและติดตามได้ แต่การทดสอบดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการตรวจจับการติดเชื้อน้อยกว่าการทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรสมาตรฐานทองคำ (PCR) ที่ช้ากว่

David Eyre และ Tim Peto ที่โรงพยาบาล John Radcliffe ในอ็อกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร และเพื่อนร่วมงานวิเคราะห์ข้อมูลการทดสอบและการติดตามสัญญาที่รวบรวมในอังกฤษตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2020 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2021 (LYW Lee et al. พิมพ์ล่วงหน้าที่ medRxiv https://doi .org/f5jc ; 2021). การศึกษารวมข้อมูลจากผู้คนประมาณหนึ่งล้านคนที่มีผลการทดสอบ PCR ของไวรัสโคโรนาในเชิงบวก และผลการทดสอบ PCR จากผู้คนอีกประมาณ 2.5 ล้านคนที่สัมผัสกับพวกเขา

ทีมใช้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไหลด้านข้างเพื่อประเมินว่าการทดสอบอย่างรวดเร็วที่ละเอียดอ่อนที่สุดสามารถตรวจพบได้เกือบ 90% ของกรณีที่นำไปสู่การติดต่อที่ติดเชื้อ ทีมวิจัยยังพบว่าผู้ที่มีระดับของ SARS-CoV-2 ในร่างกายสูงกว่ามีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อได้มากกว่าผู้ที่มีระดับต่ำกว่า

การติดเชื้อ B.1.1.7 ซึ่งพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เพิ่มการแพร่เชื้อประมาณ 50% ผลการวิจัยยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยเพื่อน