เมื่อเกิดโรคหลอดเลือดสมอง การกระทำที่รวดเร็วอาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างความเป็นกับความตาย การมีสติและอาการโคม่า การเคลื่อนไหวและการเป็นอัมพาต ลิ่มเลือดหรือเลือดออกที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองจะลดการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง และการรักษาอย่างทันท่วงทีก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดโอกาสที่สมองจะถูกทำลายอย่างถาวร ยิ่งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสามารถไปโรงพยาบาลได้เร็วเท่าไร (ควรเป็นภายในไม่กี่นาทีหลังจากเริ่มมีอาการ) พวกเขาจะสามารถเข้าถึงการรักษาได้เร็วและแนวโน้มที่ดีขึ้น บาคาร่า

แต่หลายคนไม่ทราบสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองและไม่สามารถบอกได้เมื่อเกิดโรคหลอดเลือดสมอง คุณเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่? คุณสามารถบอกได้ว่าคุณหรือคนอื่นเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่? ทำแบบทดสอบนี้และหาคำตอบ

คำถามที่ 1: เจสสิก้าเป็นผู้หญิงอายุ 36 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรง เธอตื่นขึ้นในเช้าวันหนึ่งด้วยอาการงัวเงีย มือที่ชื้นแฉะ เธอรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อยและมีเข็มและเข็มทิ่มแทงที่ขา ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไปอาการเหล่านี้จะหายไป พวกเขาสามารถส่งสัญญาณจังหวะได้หรือไม่?

ก. ใช่ นี่อาจเป็นจังหวะ

b แน่นอน ไม่ นี่ไม่ใช่เสียงเหมือนโรคหลอดเลือดสมอง

คำตอบ: ใช่  อาการวิงเวียนศีรษะของเจสสิก้าและรู้สึกเสียวซ่าที่ขาของเธออาจเป็นอาการของโรคหัวใจขาดเลือดชั่วคราว (TIA ) บางครั้งเรียกว่า "mini stroke" TIA เป็นการเตือนว่าคุณอาจเป็นโรคหลอดเลือดสมองในอนาคตอันใกล้ อาการต่างๆ เช่น สูญเสียการมองเห็นกะทันหัน ร่างกายซีกหนึ่งอ่อนแรง และพูดและ/หรือเดินลำบาก เช่นเดียวกับอาการที่เจสสิก้าประสบ อาจคงอยู่เป็นนาทีหรือเป็นชั่วโมงแล้วผ่านไป แม้ว่าผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงสูงสุดต่อโรคหลอดเลือดสมอง แต่คนอายุน้อยก็สามารถเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้เช่นกัน ประมาณหนึ่งในสามของผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคหลอดเลือดสมองในปีหนึ่ง ๆ มีอายุต่ำกว่า 65 ปี

คำถามที่ 2:  Julius ผู้สูบบุหรี่อายุ 70 ​​ปีที่มีคอเลสเตอรอลสูง มีอาการปวดหัวตุบๆ เขาเริ่มมีอาการพูดไม่ชัดและการมองเห็นของเขาจะพร่ามัว Julius ควรทำตามขั้นตอนใด?

ก. กินยาแอสไพรินและพักผ่อน

ข. นัดหมายกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของเขา

ค. โทร 911

คำตอบ: โทร 911  Julius แสดงสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง 3 อย่าง ได้แก่ ปวดศีรษะ พูดไม่ชัด และมองเห็นไม่ชัด และเขามีปัจจัย 3 ประการที่ทำให้เขามีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ อายุพฤติกรรมการสูบบุหรี่และระดับคอเลสเตอรอล ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นสองเท่าทุก ๆ ทศวรรษเมื่ออายุ 55 ปี คอเลสเตอรอลสูงอาจทำให้หลอดเลือดแดงตีบและลดการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง การสูบบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบตัน ซึ่งสามารถเพิ่มความดันโลหิตและเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองได้

คำถามที่ 3:จู่ๆ แคลร์วัยหกสิบห้าปีก็เริ่มสั่นและชักเกร็งในที่ทำงานของเธอ และอัตราการเต้นของหัวใจของเธอก็เร็วขึ้น เธอเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่?

ก. ใช่ นี่คือลักษณะของเส้นขีด

ข. ไม่ ฟังดูเหมือนเป็นอย่างอื่น

คำตอบ: ไม่การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างกะทันหัน เช่น การสั่นและการชักไม่ใช่อาการของโรคหลอดเลือดสมองทั่วไป อย่างไรก็ตาม แคลร์อาจมีอาการชัก ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์โดยด่วน นอกจากนี้ เนื่องจากแคลร์อายุเกิน 60 ปี อาการชักโดยไม่ทราบสาเหตุอาจทำให้เธอมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น การศึกษาที่สำคัญในปี 2547 ในThe Lancetพบว่าการชักครั้งแรกหลังอายุ 60 ปีหมายถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเกือบสามเท่าของโรคหลอดเลือดสมอง และการศึกษาในภายหลังได้ยืนยันความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างการชัก "ที่เริ่มเกิดขึ้นช้า" และความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

คำถามที่ 4:  อีธานอายุสิบสองปีกำลังเล่นเกมบาสเก็ตบอลที่ก้าวร้าว หลังจากกระแทกอย่างแรงสองสามครั้ง เขาบอกเพื่อนๆ ว่าเขาไม่รู้สึกถึงแขนของเขาและไม่สามารถควบคุมมันได้ เขากลับบ้านและบอกพ่อแม่ว่าแขนของเขารู้สึก "หนัก" พ่อแม่ของอีธานควรทำอย่างไร?

ก. นัดหมายกับกุมารแพทย์

ข. รอสองสามวันเพื่อดูว่าอาการของเขาหายไป

หรือไม่ ค. โทร 911

คำตอบ: โทร 911 แม้ว่าโรคหลอดเลือดสมองจะไม่ใช่เรื่องปกติในเด็ก แต่ก็เกิดขึ้นได้ และผู้ป่วยอายุน้อยอาจพยายามเพิกเฉยหรือหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง การฉีกขาดหรือการผ่าของหลอดเลือดแดงเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองในคนหนุ่มสาว อาจเป็นผลมาจากการบิดหรือการบาดเจ็บที่คอหรือศีรษะอย่างฉับพลัน ซึ่งทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของสมองไม่ได้

จดจำ BEFAST เพื่อจดจำสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง

หากคุณสงสัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง การปฏิบัติตัวอย่างรวดเร็วเป็นกุญแจสำคัญ เพราะการรักษาแต่เนิ่นๆ มีโอกาสฟื้นตัวได้ดีกว่า คิดว่า BEFAST เพื่อค้นหาสัญญาณ:

การทรงตัวB :จู่ๆ คนๆ นั้นไม่พร้อมเพรียงกันหรือมีปัญหาเรื่องการทรงตัวหรือไม่?

ใช่:บุคคลนั้นมีอาการตาพร่ามัวหรือเห็นภาพซ้อนอย่างกะทันหัน หรือสูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหันโดยไม่เจ็บปวดในตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างหรือไม่

F ace : การหลบตาหรืออาการชาที่ด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้าเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองที่พบบ่อย ขอให้บุคคลนั้นยิ้มและดูว่ายิ้มไม่สม่ำเสมอหรือไม่

A rms : แขนอ่อนแรงไหม? ขอให้พวกเขายกแขนทั้งสองข้างขึ้น แขนข้างหนึ่งลอยลงหรือไม่?

S peech : การพูดอ้อแอ้เป็นสัญญาณของจังหวะ ขอให้พวกเขาพูดประโยคง่ายๆ เช่น “ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า” พวกเขาทำมันได้หรือไม่?

เวลา:  หากมีอาการเหล่านี้ ให้โทรแจ้ง 911 ทันที โทรแม้ว่าสัญญาณจะหายไป อาจมีจังหวะเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งสามารถเตือนถึงจังหวะที่ใหญ่กว่าที่จะมาถึง