ReadyPlanet.com
dot


ถามเรื่องการปลุกพระครับ


    เมื่อวานนี้ผมเรียนวิชาธรรมะ  แล้วอาจารย์ท่านพูดถึงเรื่องของครับการปลุกพระครับ    ผมเลยอยากลองปลุกพระดูบ้าง  เนื่องจากว่าพ่อของผมชอบเก็บสะสมพระครับ  แต่ตอนนี้ให้คนอื่นไปเกือบหมดแล้ว  ผมเลยอยากลองปลุกพระที่มีอยู่ในตอนนี้  เพราะว่าผมอยากลองดูคุณวิเศษของพระองค์นั้น ๆ  ครับ  แต่เห็นหมายเหตุว่าอย่าปลุกพระเพียงคนเดียว  ผมเลยสงสัยว่าทำอย่างไร  เมื่อเราปลุกพระแล้ว  เราจะเอาพระออกจากมือได้อย่างไรครับ  แล้วก็เวลาปลุกพระทำไมพระท่านต้องให้เราลุกเดินไปไหนด้วยครับ   หรือว่าบางทีก็ไม่ลุกเดินครับ  ขอบพระคุณครับ


ผู้ตั้งกระทู้ ชนัตร์นันท์ :: วันที่ลงประกาศ 2007-01-07 07:32:20


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (479755)

ให้มนตราทิพย์ ตอบ(1)

ในเรื่องนี้ ทางเราเห็นว่าเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับอย่างหนึ่ง จึงเอาขึ้นไว้ในหัวข้อคาถาอาคมมนต์ทุกชนิดบนเวบของเรา โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำการวิจัยศึกษาต่อไปอย่างเป็นวิทยาศาสตร์  ในเรื่องการปลุกพระเรามีประสบการณ์ และพูดไปตามประสบการณ์ และรอ ๆ ฟังคนอื่นว่ามีประสบการณ์มาอย่างไร การที่คุณตั้งประเด็นขึ้นนี้ นับว่าน่าขอบคุณมาก  เอาละ โดยทฤษฎี การปลุกพระ ทดสอบคุณวิเศษของพระเครื่องนั้น คือทดสอบพลัง เป็นพลังเย็น เป็นนามธรรมก่อน แล้วนามธรรมนั้นเข้าครอบงำรูปธรรม และแสดงพลังออกมาทางรูปธรรม

คนจะปลุกพระ ประการแรกต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐาน ถ้าไม่มีสมาธิอาจจะไม่ปรากฎผลอะไรเลย  แต่ผู้ใดมีสมาธิดีจะปรากฎ จะทดสอบพลังของพระเครื่องได้ดี  

วิธีที่แนะนำไว้นั้น คือให้คาถาบริกรรมว่า 

นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ

เราบอกว่า เป็นคาถาปลุกพระ

วิธีทำ  เบื้องต้น ทำกาย จิต วจีกรรมให้ผ่องแผ้ว บริสุทธิ์

แล้วอธิษฐานนั่งสมาธิ เอาพระเครื่องใส่ในมือหลวม ๆ สบายสบาย เดินสมาธิ(คือให้เกิดความปกติทางจิต อย่าให้วอกแวก ขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ราบเรียบและเดินไปในปกติอยู่เช่นนั้น)ช้า ๆ แล้วเริ่มบริกรรมช้า ๆ ก่อน   นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ  ว่าไปเร่อย ๆ  ทำใจสบาย ๆ  แล้วจะเริ่มเคลิ้ม  ตรงนี้หมายถึงจิตกำลังเข้าภวังค์  และจะไปเชิ่อมกับคุณวิเศษภายในพระเครื่อง   ให้รักษาสติไว้  คือรู้ตัวว่าอยู่ในอาการเคลิ้มนั้นและให้ดำรงสภาวะเคลิ้มนั้นเดินสมาธิต่อไป

พลังจากพระเครื่องก็จะแผ่มาเชื่อมเข้าในระหว่างนี้แหละ

ที่บริกรรมอยู่ช้า ๆ ก็จะเร่งเร็วขึ้น ๆ   ระวัง ต้องรักษาสติให้รู้ตัวอยู่ให้ได้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่

แล้วมือจะสั่นขึ้น เกร็งและกำพระเครื่องแน่นขึ้น   ต่อไปมือจะโยก ขึ้นลง ขึ้นลง  ขึ้นลง   เหงื่ออาจจะออกมาท่วมมือ  หรือรักแร้  หรือขุมขนทั่วไป 

แค่นี้ก็คงเพียงพอแล้ว  เพราะพลังแสดงออกมาให้เห็น พอสังเกตได้ด้วยสติสตังของเราเองว่าพลังขนาดใด

ควรจะพอ  หยุด

หากมิเช่นนั้น  พลังจะแสดงเกินไปกว่านี้  ตัวจะร้อน  และการโยกจะแรง  ต่อไปก็จะยงโย่ขึ้นโยกขึ้นโยกลง   และที่สุด  ต้องเคลื่อนตัวเอง  ถ้าเสียสติ  ควบคุมสติไม่ได้แล้วก็จะเตลิดวิ่งไป เพราะนิ่งอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องเคลื่อนไปตามอำนาจพลังนามธรรมที่มาแทรกคุมรูปธรรม คือกายของเรา  ตอนนี้เพื่อน ๆ ที่อยู่ด้วยต้องเข้าปล้ำควบคุมตัวไว้เอาพระเครื่องออกจากมือ  ก็จะหยุด

ก็คงเพียงพอสำหรับการทดสอบคุณวิเศษของพระเครื่อง ๆ

ขอให้ทำการบันทึกผลการทดลองกับพระเครื่ององค์อื่น ๆ ไว้ด้วย และอีเมลมาให้ทราบบ้าง จะขอบคุณยิ่ง

ป.ล. สมาธิดี   นั่นเป็นสิ่งที่จะให้สำเร็จ 

  

ผู้แสดงความคิดเห็น มนตราทิพย์ วันที่ตอบ 2007-01-08 09:27:59


ความคิดเห็นที่ 2 (479769)
ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบ  แต่ผมไม่มีเพื่อนจะคอยอยู่ดูตอนจะปลุกพระครับ  เนื่องจากเค้ากลัวกัน  ผมเลยยังไม่กล้าปลุกเท่าไหร่  แต่อยากถามต่อว่า  "ถ้าเราต้องการหยุด"  เราก็สามารถหยุดได้เองเลยหรือเปล่าครับ  หรือว่าต้องมีคาถาใดอีก  ขอบคุณครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนัตร์นันท์ วันที่ตอบ 2007-01-08 09:38:47


ความคิดเห็นที่ 3 (480065)

มนตราทิพย์(2)

ถ้าเราต้องการหยุดก็หยุดได้เลย ไม่ต้องกล่าวคาถาอะไรใหม่ โดยหยุดบริกรรม และหรือขยับกายจากท่าที่นั่งสมาธิเพียงเล็กน้อย  แล้วหงายมือออก   แต่ทั้งนี้หมายถึงเรามีสติรู้ตัวอยู่    ตามที่แนะนำไว้แล้วนั้น ระวังสติจะสูญเสียไปในตอนที่เคลิ้มจะเข้าภวังค์นั่นเอง  ถ้าปล่อยให้เลยไปอาจจะเป็นปัญหา ฉะนั้นถ้าทำคนเดียวก็ค่อย ๆ สังเกตไป ว่าแรงขึ้นขนาดไหน ถ้าพลังแรงมาก ๆ สติเราชักจะลอยไกลไปจากเรา  คือเริ่มหลงลืมตัวเอง ก็ควรหยุดเสียก่อน  ให้ชำนาญแล้วก็จะรู้จัดการเอง  เหมือนพระเกจิอาจารย์วิชาคมขลัง ท่านสอบคุณวิเศษพระเครื่องให้  เอาไปให้ท่านสอบให้ท่านก็จะทำแบบนี้แหละ  แต่ท่านทำประเดี๋ยวเดี๋ยวก็พอสังเกตพลังได้ว่าขนาดไหน  นั่นขึ้นอยู่กับความชำนาญ  เรื่องความกลัว เป็นเรื่องธรรมดา ให้ลองแบบง่าย ๆ ไปก่อน จนคุ้นก็จะไม่กลัว   ควรฝึกสติ และสมาธิให้ดีไปก่อน

ฝึกสติโดยหัดนั่งเรียกตัวเองมาสู่อิริยาบถที่ใช้อยู่ในขณะนั้น เช่นขณะนั่งอยู่ก็หัดเรียกตัวเองมารู้ว่ากำลังนั่งอยู่  อย่างนี้เป็นต้น

สมาธิ  ฝึกโดยฝึกใจให้เข้มแข็ง หัดรักษาสัจจะกับตัวเอง  หากมีเวลาควรใช้เทคนิกฝึกบริกรรม พุท-โธ     และหัดหายใจเข้า-ออกยาว ๆ ให้เป็นนิสัยไว้แต่เด็ก ๆ 

ยังมีอะไรที่น่าฝึกน่าทำหลายอย่าง ยิ่งไปกว่าเรื่องปลุกพระ

ผู้แสดงความคิดเห็น มนตราทิพย์ วันที่ตอบ 2007-01-08 16:53:18


ความคิดเห็นที่ 4 (1362463)

ขอเพิ่มความคิดเห็นอันน้อยนิดนะครับ...

ยังมีคาถาปลุกพระอีกตัวหนึ่ง..ที่ใช้ได้ดีเหมือนกันแต่ต้องมีเพื่อนอยู่ด้วย...

เพราะคนที่ปลุกก็คือคนที่สวดคาถา ส่วนวัตถุมงคลอย่างขุนแผนฯ ที่เคยเล่นกันนะครับให้อีกคนหนึ่งเป็นคนจับ แล้วให้คนสวด สวดคาถาเรียกพระองค์นั้นๆ เข้ามายังคนที่จับพระฯ คือให้ทรงหรือสั่นเบาๆ เฉยๆ ...

พอเข้ามาแล้ว เราก็สามารถสอบถามเรื่องต่าง ๆ ที่อยากรู้ได้เลย ส่วนมากแล้ว พระขุนแผน ก็คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงฯ...

ถ้าอยากออกหรือหยุดการทำฯ ก็ให้คนที่สวดฯ นั้น สวดพระคาถาเชิญออกหรือเชิญผู้ที่เข้ามายังคนที่ทรงนั้น... ด้วยคาถาอีกบทหนึ่ง...

ผู้แสดงความคิดเห็น praiwan วันที่ตอบ 2008-09-25 08:12:25


ความคิดเห็นที่ 5 (2035124)

อยากทราบคำแปลแต่ละท่า ว่าหมายความว่าอย่างไรบ้างนะค่ะ

ใครพอจะทราบบ้างช่วยหน่อยนะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น annie (ac_ann7474-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-14 12:13:03


ความคิดเห็นที่ 6 (2037669)

 หมายถึงท่านั่งสมาธิหรือครับ 

มีสุภาพสตรีน้อยรายที่สนใจการนั่งสมาธิ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พุธ​ วันที่ตอบ 2010-07-07 16:34:44


ความคิดเห็นที่ 7 (2059348)

ท่านั่งสมาธิ  มีท่ามาตรฐานคือท่าขัด  เท้าขวาทับเท้าซ้าย  มือวางทับกันบนหน้าตัก นั่นแหละครับ   ........   ประโยคที่ว่า  ขยับกายจากท่าที่นั่งสมาธิเพียงเล็กน้อย  แล้วหงายมือออก ....  ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร คือเพียงขยับตัวนิด ๆ....หรือทำให้นิ้วมือนิ้วเท้ากระดิกนิดหนึ่ง....  สมาธิก็สลายไปแล้ว  และพลังจากพระเครื่องก็จะถูกตัดขาดไปง่าย ๆ ............   เท่านั้นเองแหละครับ   ไม่ได้หมายถึงมีท่าอะไร ๆ 

ผู้แสดงความคิดเห็น มนตราทิพย์ วันที่ตอบ 2010-11-25 17:48:11


ความคิดเห็นที่ 8 (2062657)

หลังตอนตื่นนอน เหมือนเราจะเพิ่งออกมาจากสมาธิ ให้อาราธนาพระรัตนตรัย

พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ข้าพเจ้าขอชมพระพุทธคุณที่อยู่ใน......(เครื่องรางที่คุณต้องการชม).... แล้วเราเอามือวางไว้ที่หัวเข่าขวา เพราะนั่ง ท่านั่งสมาธิ

เราท่อง กลับกันอ่ะค่ะ อาจจะจด-จำผิดมา (แต่คิดว่าไม่น่าผิด) นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ มะอะอุ

ลองกำหนดจิตไปที่เครื่องรางนั้นๆ แล้วท่องไปเรื่อยๆไม่ต้องเสียงดังมาก กำหนดจิตบริสุทธิ์ สักพัก มือเราก็จะขยับตามพุทธคุณที่มีอยู่ในเครื่องรางนั้นๆ เช่น เหรียญหลวงพ่อ ถ้าท่านเมตตา มือเราจะมาอยู่ที่หน้าผาก ถ้ามียันต์ลงมือเราก็จะวาดเป็นยันต์ ออกมา เราไม่ได้ลืมตาแต่คิดว่าเป็นยันต์ที่มีอยู่บนเหรียญ หรือถ้าเครื่องรางนั้นคงกระพัน ตัวเราจะสั่นๆ มือกำแน่นไว้ที่เครื่องราง แขนเกร็ง แต่คนเรามีสติ ไม่ได้ปล่อยตามให้จิตหลุดไป เราสัมผัสได้ ก็ให้จิตเรารับรู้ ว่ามันคืออะไร ส่วนเสือที่เคยดู มันจะมีเขี้ยวยาวมาก เอาคร่าวๆ มือเราก็จะเหมือนกรงเล็บเสือ ร่ายรำ เหมือนจะเอากรงเล็บข่วนตามแขน แต่ไม่โดนนะค่ะ แล้วแขนก็จะเกรง เหมือนรับรู้ได้ว่าเค้าใหญ่เป็นเจ้า มีอำนาจ เยอะอ่ะ สิบถึงสิบห้านาที ที่พระพุทธคุณแสดงออกมา ส่วนที่เพิ่งมาได้อ่าน ว่าปลุกลิงลมแล้ว จะวิ่งๆๆ ไม่เคยลองปลุก แต่อ่านแล้ว ทำไมไม่เหมือนที่เราทำมาเลย เพราะของเรามันไม่รุนแรงขนาดนั้น จะมีก็แต่พระที่เราห้อยเอง ที่มากกว่าอันอื่นหน่อย

ถ้าผิดอันใดอภัยด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น dtsut (8namobuddhaya8-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-30 11:54:06


ความคิดเห็นที่ 9 (2066238)

 

_________________________________________________________________________________________

_________________________________________________________________________________________

                      เรื่องปลุกพระ

ผมก็มีเคล็ดอย่างหนึ่งจะมาถ่ายทอดให้ได้ไปลองปฏิบัติกันดู

ก็เหมือนกับกะทู้ที่ 1 นั่นแหละ คับ

แต่ !!!!!!!! ในขณะที่ปลุก  ให้ เล็บหัวแม่เท้าข้างขวาแตะลงไปติดที่พื้น  ด้วยนะคับ

************* มี ปัน หา ข้อง ใจ ตง ไหน ก็ แอด มา ได้ ที่      seagamez7@hotmail.com

....... จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท....

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ซีเกมส์ [เสื่อมใสศรัทธา] (seagamez7-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-06 17:29:10


ความคิดเห็นที่ 10 (2072569)

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบทดสอบพระเครื่องด้วยการปลุกพระครับ ผมมีคนรู้จักอยู่ท่านหนึ่ง ผมชอบเอาพระไปให้แกลองปลุกอยู่บ่อยๆ วิธีการปลุกของท่านอาจารย์จะนั่งสมาธิ เอาพระไว้ในมือแบบท่าไหว้พระ แล้วหลับตา บริกรรมคาถา นะ มะ พะ ทะ เร็วๆ ถ้ามีพุทธคุณทางคงกระพัน ก็จะปลุกขึ้นครับ ที่ผมเคยลองปลุกแล้วที่แรง ก็มี หลวงพ่อทบ ชนแดน หลวงพ่อบุญ วัดบ้านนา หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ที่ทันหลวงพ่อเงิน หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ที่ปลุกเสกทัน อ.ทิม และที่แรงสุดๆคือ พระยอดธง บางกะจะ ส่วนหลวงพ่อเงิน และหลวงปู่ทวด ถ้าไม่ทัน หลวงพ่อเงิน และ อ.ทิมปลุกเสก จะต้องใช้คาถาของท่านปลุกถึงจะขึ้นครับ ส่วนพระทางเมตตา หรือด้านอื่นๆไม่สามารถปลุกขึ้นได้ ถ้าเป็นดั่งนั้น ท่านอาจารย์ผมจะใช้คาถาด้านเมตตาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น หัวใจพระสีวลี พระสังกัจจายน์ พระปิดตา คาถาบิณฑบาตร (ส่วนใหญ่ที่ปลุกคาถาบทนี้ขึ้นก็จะมี พุทธกวัก และ อุ้มบาตร หลวงพ่อทบ รูปหล่ออุ้มบาตร หลวงพ่อผาง และพระอื่นๆที่อุ้มบาตรหรือไม่อุ้มบาตรก็มีเช่นกัน สรุปได้ว่าถ้าองค์ใดปลุกด้วยคาถาบทนี้ขึ้นก็จะดีทางเมตตา)

ผู้แสดงความคิดเห็น pongkorn (pongkorn-dot-tg-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-05-01 01:18:51


ความคิดเห็นที่ 11 (2072571)

ท่านอยากรู้ไหมครับว่าหลวงพ่อคูณใช่บทไหนในการปลุกเสกพระของท่านเป็นหลัก นอกเหนือคาถาอื่น ผมบอกให้ก็ได้นะครับว่า คาถาพระไตรปิฏก ท่านจะใช้ปลุกเสกทุกรุ่น(จริงหรือไม่จริงใครก็ได้ลองไปถามท่านดูสิครับว่าท่านใช้คาถาบทนี้จริงหรือเปล่า) ถ้าของหลวงพ่อคูณปลุกด้วยคาถาบทนี้ไม่ขึ้นแล้วละก็ ไม่เก๊ ก็ ............. ครับ รีบหาของแท้ๆของท่านใช้นะครับ พุทธคุณท่านเยี่ยมมาก ส่วนคาถาบทนี้ที่เคยเจอที่ใช้ก็มี หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ และพระแถวบ้านผม ส่วนพระขุนแผน ก็จะใช้ คาถา ขุนแผนชมตลาด ปลุก ที่ผมเคยลองปลุกก็มีหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ (ปัจจุบันนี้ผมใช้อยู่) แรงมากๆครับ ขุนแผนของลูกศิษย์หลวงปู่ทิม ทุกองค์ผมลองมาหมดแล้ว ไม่มีองค์ไหนแรงสู้ของผมได้สักองค์เดียวครับ พระองค์นี้เคยลองไปเช็คที่ระยองว่าแท้ แต่ไปเช็คที่อื่นว่าเก๊ พระที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้จะได้รับการปลุกจากอาจารย์ทุกองค์ครับ ส่วนใหญ่ก็มีแต่พระเก๊ๆในสายตาเซียน แต่แท้ในด้านพุทธคุณครับ  ผมคิดว่าผมเป็นผู้ที่โชคดีที่มีอาจารย์ช่วยเช็คพุทธคุณให้ครับ ผมใช้พุทธคุณพระครับ ไม่ใช้พระแท้ แต่ถ้าเป็นพระแท้ต้องมีพุทธคุณด้วย ถ้าใครเล่นพระแท้ไม่มีพุทธคุณผมขายหมด ผมไม่ได้หลอกนะครับแต่คุณเชื่อในหลักสากลเอง หากใครชอบใช้ด้านพุทธคุณผมให้คำปรึกษาได้ครับ แต่ไม่ทุกหลวงพ่อนะครับ ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น pongkorn (pongkorn-dot-tg-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-05-01 02:01:11


ความคิดเห็นที่ 12 (2075921)

คือว่าเราปลุกพระเป็นมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ตอนนี้มีคนรู้ว่าเราปลุกเป็นก็ให้ช่วยปลุกให้ เราทำตัวไม่ถูกว่าจะให้คำแนะนำอย่างไร  ก็ให้เขาดูอาการเราแล้วไปพิจารณาเองแล้วกัน  แต่มันติดตรงเราก็ไม่รู้ว่าที่ทำลงไป มันเป็นคุณ เป็นโทษ ต่อตัวเราหรือเปล่าค่ะ  ใครว่างก็ให้คำปรึกษาหน่อยแล้วกันนะ  ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น annie (ac_ann7474-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-06-14 16:13:25


ความคิดเห็นที่ 13 (2100613)

ผมก็เคยปลุกะนะครับ ใช้วีธีการเดี่ยวกัน คือนั่งขัดสมาธิ มือถือวัตถุ แบบพอดีๆ กำหนดจิตไปที่วัตถุนั้น และบริกรรมคาถา นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ สัก 3 รอบเดี่ยวอาการก็ออกมาเอง ตามพุทธคุณ หรือตามวัตถุที่ปลุก  ถ้าพุทธคุณ มือจะลื่นขึ้นสู่หน้าผาก ปาก หรือแนวเมตตมหานิยม จะลงต่ำมาตามลำดับ แต่ผมไม่มีอาการสั้นนะครับ ถ้าตามอาการของร่างกายไปเรื่อยบางที่ถึ้งขั้นหงายหลังแล้วนั่งลุกได้เอง หรือแม้แต่วัตถุที่ถืออยู่นั่น มันน่าจะหลุดมือนะ แต่ไม่หลุด (ทุกอาการเราไม่ได้เป็นผู้กำหนดนะครับ) ผมมีถึงขั้นเขียนชื่อ หรือถ้าเราถามว่าในใจยังไง คำตอบนั้นเค้าจะตอบให้เดี่ยวกันชักจูงเราไปหยิบดินสอปากกา วาดภาพหรือชื่อได้เลยนะครับ (ห้ามกลัวนะครับ) แต่ผมหลังจากทำปลุกพระแล้วมั้งมีอาการหนักหัวเสมอ  น่าจะทำได้ไม่เกินวันละ 3 องค์  มีข้อสังเกตุนะครับ ถ้าท่านยากรู้ว่าจริงหรือปลอมหรือว่าได้ผ่านการปลุกเสกมาหรือไม่ใช้การปลุกพระตรวจได้เลยครับ   ถ้าบริกรรมคาถาแล้ว  ของปลอมหรือไม่ได้ปลุก พระจะล่วงลงพื้นอย่างง่ายได้  ลองดูนะครับ   (ไม่ใช่ทำเพื่อความสนุกนะครับ)ทำเพื่ออยากรุ้และพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง  ไม่เชื้ออย่าลบหลู่  ผมจัส เชียงรายครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จัส (sibuke_7-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-06-12 17:22:14


ความคิดเห็นที่ 14 (3473899)

 เพิ่งลองปลุกพระเองค่ะแต่ไม่รู้จะศักสิทธื์หรือเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น รี่ (parichat118-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-08-10 14:12:08


ความคิดเห็นที่ 15 (3685542)

 ผมก็ปลุกพระได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ผมก็สัมผัสพุทคุนพระได้ต้องใช้สมาธิคับ วันที่ตอบ 2014-08-13 00:34:05


ความคิดเห็นที่ 16 (3685543)

 ผมก็ปลุกพระได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ผมก็สัมผัสพุทคุนพระได้ต้องใช้สมาธิคับ วันที่ตอบ 2014-08-13 00:35:14



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.