ดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่สนใจการบ้านการเมือง และเฝ้าดูวิธีการทำงานการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์มานาน  และมั่นใจด้วยว่าไม่มีทางบริหารประเทศให้เจริญรุ่งเรืองได้  เพราะตลอดเวลาที่พรรคปชป.เกิดขึ้นมา  ไม่เคยดำเนินนโยบายอย่างเข้าใจความต้องการของประชาชน  ไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกนึกคิดของประชาชน  ประชาธิปัตย์คิดแต่เพียงว่าบุคคลที่มีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของชาติคือนักวิชาการ จึงพยายามสร้างฐานอำนาจด้วยการระดมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆมาเป็นสมาชิกพรรค  แล้วรวมตัวกันแสดงวาทะทางการเมืองผ่านสื่อต่างๆมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน  แม้แต่สื่อก็หลงเชื่อกลวิธีทำลายพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง  จนกระทั่งมีคำพูดติดปากสื่อว่าคนชนบทเลือกรัฐบาลแต่คนกรุงเทพฯ ล้มรัฐบาล  แต่ถึงกระนั้นวาทกรรมอำพรางนี้ก็ไม่อาจเอาชนะใจประชนได้  เพราะประชาชนมองไม่เห็นประโยชน์แต่อย่างใด

มาถึงวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้มาเป็นรัฐบาล  เพราะคู่แข่งทางการเมืองถูกริดรอนสิทธิ์ไปหมดแล้ว ปชป.มีโอกาสมาแสดงฝีไม้ลายมือในการบริหารประเทศ และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้  มีแต่ก่อหนี้สิน และความคับแค้นใจให้ประชาชน  จนบัดนี้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่รู้ตัวว่า  ยังคงอาศัยการโต้วาทะเอาชนะคะคานขู่แข่งทางการเมืองอยู่รำไป  ทำไมไม่สนใจว่าความจริงคืออะไร 

ประชาชนคิดอย่างไร  ต้องการอะไร  พรรคไทยรักไทย  พลังประชาชน  และเพื่อไทยเขาเข้าใจประชาชน  เขาถึงอยู่ในหัวใจประชาชน  เวลาประชาชนเดือดร้อนเขาจึงวิ่งไปหาทั้งๆที่เขาเป็นพรรคฝ่ายค้านแท้ๆไม่มีอำนาจบารมีอะไร  แต่ประชาชนมั่นใจเชื่อถือเพราะนโยบายของเขาสะท้อนสัจธรรมว่า  เขาเข้าใจความต้องการของประชาชน  แปลกใจเหลือเกินว่า  พรรคประชาธิปัตย์เป็นศูนย์รวมของนักวิชาการมากมาย  หลายสาขา  แต่เหตุไฉนกลับไม่มีวิชาการใดๆที่จะช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์นำความรู้ไปบริหารประเทศให้เจริญรุ่งเรืองได้  หรือว่านักวิชาการเหล่านั้นไม่มีวิชาการอะไรเลย  มีแต่อวิชชาลมๆแล้งๆหลอกลวงสังคมไปวันๆ  ไม่นานความจริงจะพิสูจน์ความเท็จและถึงคราวปฏิวัติทางภูมิปัญญาขนานใหญ่เสียที   

ประชาชน 

อภิสิทธิ์ แพ้โหวด เรื่อง ผบตร. ใน  กตช.  5 ต่อ 4 เมื่อวานนี้ 21 ส.ค.2552  โดยเสนอ พล.ต.อ. ประทีป เข้าไป  ที่ประชุม กตช.ไม่รับ  เป้นการผิดคาดหมายอย่างไม่น่าเป็น   แม้กระทั่งนายชวรัตน์ ชาญวีระกุล  รมว.มท. ก็ไม่เอาด้วย    มีบทวิจารณ์ขรมไปหมดว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ   ควรลาออกจาก นรม.

อยากสะท้อนความคิดไปถึงนักวิชาการว่า  ปัจจัยที่ทำให้วิชาการนั้นมีคุณค่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงคือ  ต้องมีคือสมองกับความยุติธรรมควบคู่กันไปเสมอจึงจะมองเห็นความจริงทั่วถึงทุกแง่ทุกมุมเมื่อนำความรู้ไปใช้จะได้ประโยชน์มหาศาล  หากมีแต่สมองไม่มีความเป็นธรรมจะกลายเป็นคนตาบอดคลำช้าง  ย่อมมองเห็นความจริงเพียงด้านเดียว  และย่อมมีผลเสียหายเสมอไป 

The Red Pole   ของหนุ่มสาวยุคใหม่ ในรายการศุภรัตน์   ดีมาก  เยี่ยม   ฉลาดในงานการวิจัย  เพราะรู้จักใช้เครื่องมือ ไม่แพง แต่ผลงานเยี่ยม  ขอสนับสนุน ต่อไปจะไบรท์          น่าศึกษาเรื่องสนธิบังยึดประเทศแล้วลอยนวลเหมือนไม่มีความผิด  สนธิเจ๊กแห่งเอเอสทีวี  ยึดทำเนียบ  ยึด NBT ยึดสนามบิน  ว่าคนไทยคิดอย่างไรแน่   หรือคิดว่า   การก่อการร้ายเหล่านั้น เป็น   การก่อการดี   สงสัยจริง ๆ   วิจัยออกมาให้หายสงสัยหน่อยน่ะ

ทำไมวันนี้ 26 ส.ค.2552  รัฐบาลจึงไม่ถ่ายทอดสดการประชุม พิจารณาเรื่องงบประมาณ   ในคราวที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเห็นได้ว่าเร่งรัฐบาลให้ถ่ายทอดเหลือเกิน พอตนมาเป็นรัฐบาล กลับเฉยเมย  นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมว.สำนักนายกนี่เป็นคนไม่เอาไหนเลย  ไร้เหตุผลจริง ๆ

เสียงปริศนา    ที่ทางรายการ คุยกับอดิศร  ปล่อยออกเวลาเย็นวันนี้ 26 ส.ค.2552  ฟังแล้วก็ไม่สงสัยเลยว่าเป็นนเสียงของใคร   สั่งการให้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดเหตุร้ายแรงในเมืองไทย  กรณี 13 เม.ย.2552   ตายแล้วคนระดับนั้นสั่งการร้ายได้อย่างไร   สั่งกระทั่งว่าให้ทำเหตุการณ์ให้บานปลาย  เป็นจลาจล   ฯลฯ    ไม่มีความลับในโลกนี้  จบ ๆ  ๆ ๆ ๆ ๆ

ต่อไปหากพ่อแม่คนใดอยากให้ลูกเป็นใหญ่ในแผ่นดิน  กรุณาสอนด้วยว่าเขามีหน้าที่อะไรบ้าง  ต้องเตรียมความรู้  ประสบการณ์  ความสามารถไว้อย่างไร  จะได้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์  แต่มีอยู่ครอบครัวหนึ่งที่ลูกชายใฝ่ฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่อายุ 8 ขวบ  แต่น่าเสียดายที่เด็กคนนั้นไม่ได้เตรียมความรู้  ประสบการณ์  ไม่มีความกล้าหาญที่จะตัดสินใจเมื่อเผชิญกับปัญหา เมื่อส้มหล่นได้เป็นใหญ่จึงทำให้งานใหญ่เสียหายไม่เป็นท่า ประชาชนต้องมารับเคราะห์ อีกไม่นานคนในตระกูลนี้จะรู้ว่าอำนาจที่ได้มาโดยความทะยานอยาก ที่ไม่เป็นธรรมมีผลเป็นความเจ็บปวดเพียงใด  

เห็นด้วย แดง อิสาณ  วันนี้รัฐบาลประกาศใช้ พรบ.รักษาความมั่นคง 2551  ในเขตดุสิต ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย.2552   เป็นการไม่ชอบธรรม เคยมีครั้งไหนที่เสื้อแดงก่อความรุนแรงในการต่อสู้ของพวกเขา  แต่นี่แหละเรามองว่าเมื่อแดงประกาศสู้ด้วยหลักการอหิงสาไปแล้ว  ก็ย่อมได้รับการทดสอบครับ 

จงมองว่านี่เป็นมารมาทดสอบเจตนาของเราครับ  ถ้าเราผ่านได้   ก็ชนะครับ   เชื่อผมเถิด

พระพุทธองค์ตรัสว่า  ยอมเสียทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ  ยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต  และยอมเสียชีวิตเพื่อรักษาธรรม  คืออุดมการณ์  อหิงสา  ของเราที่ได้ประกาศออกไปแล้ว  โลกได้รับรู้แล้ว   อย่าลืมเป็นอันขาด     เรากำลังจะชนะแล้ว  ไชโยไว้ล่วงหน้าเลย !!!!

มีเรื่องโดนใจครับ   โดนอย่างจัง

เรื่องพวกสิทธิมนุษยชน  น่ะ  ดูมันมานานแล้ว  มันสิทธิแบบไหน  เข้าแต่ข้างประชาธิปัตย์มาตลอด    ยุคทักษิณปราบยาบ้า    พวกนี้เข้าข้างโจรผู้ขายยาบ้า  ว่ารัฐบาลทำผิดหลักมนุษยธรรม      ประนามว่ารัฐบาลและตำรวจเลวไปกว่าคนขายยาบ้าเสียอีก 

แดงเราตามคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุขไปยื่นหนังสือให้องค์กรนี้ไปดูว่าแดงเราใช้สันติวิธีหรือไม่      มันจะไปหรือไม่ไปช่างหัวมัน  ให้ได้รู้กันว่าพวกนี้มันไม่เอาไหนจริง ๆ    เป็นองค์กรเด็ก ๆ อีกองค์กรหนึ่ง   เห็นด้วยไหมครับ ????

ช่อง 11  กลายเป็นทีวีโฆษณาชวนเชื่อไปเสียแล้วหรือนี่   ?    ไม่ได้แวะไปดูนานเลย   เห็นทีวีเสื้อแดงเอามาให้ดูจึงรู้ว่ากลายไปเป็นลูกน้องของอาแป๊ะลิ้มไปเรียบร้อยแล้ว    ลำพังนายลูกกรอกสาธิต วงศ์หนองเตย คงไม่เก่งทำโฆษณาชวนเชื่อได้เนียบขนาดนี้  ต้องมีครูบาอาจารย์  และนี่อีกรายหนึ่ง ศิษย์เอกสนธิ ลิ้มมันละ

ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ  เรื่องการหาเรื่องยุยงส่งเสริมให้คนแตกสามัคคีนี่  สนธิลิ้มมันเก่ง   ขนาดไปยุพระโสดาบันวัดบ้านตาด อุดรธานียังได้เลย   จนคนทั้งหลายครหาว่าเป็นพระได้อย่างไร โง่ขนาดนั้น ?

งบ 2553 รัฐบาลเด็ก และเด็ก ๆ ทั้งหลายพูดดีในสภา   น่าฟัง  แต่ไปล่มตอนจบ   คือพูดรายงานมาว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว  และรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป โดยกู้มาอีก แปดแสนล้านบาท เป็นตอนจบ   ตั้งแต่เป็นรัฐบาลมา คอยฟังว่าจะหาเงินมาอย่างไร  เอาอะไรไปขาย  ตลาดอยู่ไหน   จะบริหารระดับราคาอย่างไร  ระดับไหน ไม่เคยพูดถึงเลย   (ก็รู้อยู่ว่าเพราะทำไม่เป็น) แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้อย่างไร  ? บริหารงานงบประมาณแบบละหลวม ไร้สำนึกของการประหยัด รอบคอบ  ไร้มาตรการระมัดระวัง  ตรวจสอบไปโดยสิ้นเชิง   เช่นนี้  พยากรณ์ได้เลยว่า  ก็จะมิเป็นการเปิดช่องให้โกงกินขนาดใหญ่กันอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรัฐบาลประเทศไทยเลยหรือ ?  ประเทศไทยยุคเด็กอภิสิทธิ์จึงเป็นประเทศไทยที่น่าสงสารจริง ๆ   แล้วทางพีเพิ่นแชแนล ถ่ายทอดสดให้ประชาชนฟังทั้งแผ่นดิน  ทำไมช่อง 11 ของรัฐบาลไม่ถ่ายทอด   แล้วทำไมจึงไปคอยดูดเสียงฝ่ายค้านอยู่เหมือนการประชุมครั้งก่อน   ที่ไปดูดเสียง ภาพ ขณะ สส.หนองคาย สมคิด บานไธสงค์ พูด  จนหมดเวลา    นี่เป็นผลจากรัฐบาลอยู่อีกหรือ ?  อย่าลืม  เรื่องดูดเสียงนี้จะต้องเป็นประวัติศาสตร์รัฐสภาไทยยุครัฐบาลเด็กเลยทีเดียว ไม่จบกันง่าย ๆ แน่   ช่างห่วย จริง ๆ  รัฐบาลเด็ก    รัฐมนตรีเด็กคนนั้น แล้วหวัด  2009  ว่าอย่างไร ?  แถมอีกหน่อยน่า เรื่องคลิปสั่งการฆ่าของนรม.ใครจะตัดต่อได้เนียบขนาดนั้น รับเสียเถิดว่าเป็นเรื่องจริง  แล้วรีบ ๆ ไปเสียเถิดเห็นแก่ประเทศไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น แดง ดำรงธรรม

คอนเสิรตวิจิตรเสียงสำเนียงไพจิตร  ดี  สนุก   เหมือนเยาะเย้ย  พรบ.ความมั่นคงของรัฐบาลเด็ก
บทเพลงที่ร้อง ผมเคยฟังมานานแสนนานแล้ว   เคยซึ้งและก็ยังซึ้ง  และนี่คือเจ้าของเสียงเองหรือ?  ไพจิตร อักษรณรงค์   ยินดีด้วย

เห็นชายกลางด้วยล่ะ  ขำจะตาย   ชายกลางจตุพรรับดอกไม้ไม่หวาดไม่ไหว  เตี๊ยมไว้ละมั้ง ????

ตอนทุ่ม ๆ ก็มี อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง  วีรบุรุษพัทยา   ก็สนุกครับ  คอยดู  ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จะเป็นอย่างไร 

มีอีกแห่งของ มุกด์ เมทะนี นะครับ   เครือเสื้อแดง   สู้ไม่ถอย

สนุกเขาละ สามเกลอ

เรื่อง พรบ.ความมั่นคง  เม้าท์กันแหลก
ไปเสียเถิดคุณอภิสิทธิ์  อย่างที่สามเกลอเขาชี้ทางออกให้นั่นแหละ   ยุบ  ยุบ   ยุบสภาเสีย

ดาว ตอปิโด ถูกศาลตัดสินจำคุก 18 ปี  ฐานหมิ่นฯ   เอเอสทีวี โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล สกุลจีนโพ้นทะเล  เอาถ้อยคำเดียวกันไปถ่ายทอด  ไม่มีใครกล้าเอาผิด

นางอัญชลี ไพรีรัก ศิษย์สนธิลิ้ม แห่งเอเอสทีวี ด่าคนทั้งแผ่นดิน   ด่าหัวหน้ารัฐบาลนามทักษิณ ชินวัตร ได้สารพัด ด่าว่าไอ้หน้าเหลี่ยม ไอ้สกุลโกงทั้งโคตร  ด่าทหารใหญ่สามเหล่าทัพ  ด่าอนุพงษ์ เผ่าจินดา(พล.อ.ผบ.ทบ.) ว่าโง่ยิ่งกว่ากระบือ ถอดหมวกที่ครอบหัวออกมาหน่อย ให้กูเคาะจะได้ฉลาดขึ้น ...ไม่มีใครกล้าเอาผิด

นี่เป็นความอยุติธรรมขนาดไหน ?

มีใครเจ็บแค้นแทนความยุติธรรมบ้าง ?

เราคนหนึ่งละ ที่จะเจ็บแค้นไปจนตาย  จนกว่า  ความแค้นได้ชำระ จนกว่าความเป็นธรรมคืนกลับมาสู่แผ่นดิน !!!

จำผมไว้นะครับ  ผมคือสามัญชน

จิรายุ ห่วงทรัพย์ เล่าว่า  สนธิ บุณยรัตนกลิน หน.คมช.ผู้ปล้นประชาธิปไตย  ไปเยี่ยมพรรคเพื่อไทย    ไปในฐานะนักเรียนประชาธิปไตย  สถาบันไหนหนอ?

แล้วพรรคเพื่อไทยทำอย่างไร ?   เฉย !!!!!!!

ทำอย่างนี้ไม่ถูกหรอกครับ   
พวกคุณทำเหมือนคนปัญญาอ่อนทั้งพรรค

ยิ่งไปใช้ธรรมะข้อที่ว่า  อเวรา โหนตุ   จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย  นั่นแหละ   ปัญญาอ่อนโดยแท้จริง

รู้ว่าเขาจะไปเยี่ยม  ก็ออกแบบการต้อนรับไว้ซีครับ   ทำอย่างสุภาพที่สุด  แล้วให้เจ็บแสบไปชั่วชีวิต   ทำได้ไหมล่ะ  ลองใช้ความคิดดู

พราห์มศักดิ์ระพี  พรหมชาติ  โฆษณาวัตถุ พระพิฆเณศร  ว่า  " เพื่อความสำเร็จของคุณเองและประเทศชาติ"   แรงไปนะครับ  เอาแค่ว่า  "เพื่อกำลังใจในการทำมาหากินเล็ก ๆ น้อย ๆ"  น่าจะเหมาะสมกับประเทศและประชาชนผู้กำลังรังสรรค์ระบอบของมนุษย์ โดยมนุษย์ เพื่อมนุษย์ หรือที่เรียกว่าประชาธิปไตยมากกว่า นะครับ

อย่างทักษิณพาทำน่ะครับ  เป็นเรื่องของคน  เทพเจ้าไม่เกี่ยว

อยากให้ทีวีของเสื้อแดงทุกช่องไปสัมภาษณ์ ทำโพลสำรวจความเห็นของประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่มีต่อองค์กรอิสระที่ คมช.ตั้งขึ้น  เพราะองค์กรเหล่านี้ลุกขึ้นมาเชียร์รัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างไม่สมเหตุสมผล  โดยเฉพาะบางคนที่ร่ำรวยผิดปกติ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบอยากให้สื่อทีวีของคนเสื้อแดงช่วยกระเทาะเปลือกให้หนักๆหน่อยและควรทำให้เป็นกระแสอย่างต่อเนื่องยาวนาน  จะได้เลิกอหังกา เลิกใช้กฎหมายตามใจชอบเสียที  คนพวกนี้เป็นอภิสิทธิ์ชนที่กัดกร่อนความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย เพื่อปรามสมุนอำมาตย์คนอื่นๆ  ว่าอย่าเห็นผิดเป็นชอบ  มิฉะนั้นประชาชนผู้รักความเป็นธรรมเขาจะไม่ยอมอีกต่อไป  และจะตอบแทนจนไม่สามารถตากหน้าอยู่ในสังคมได้ แต่อย่าใช้ความหยาบคายนะ  เชือดนิ่มๆแบบผู้ดีโดยใช้ความจริงเป็นอาวุธ

ศาลคืออะไร  การดูหมิ่นศาลมีความผิดหรือไม่ ?

       ได้ยินได้ฟังคนในรัฐบาล นักวิชาการหลายคนพูดบ่อยมากว่า การพูดจาดูหมิ่นศาลเป็นความผิดตามกฎหมาย  และมีบทลงโทษถึงขั้น

จำคุก ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาเราไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ตองหา หรือญาติพี่น้อง หรือกลุ่มชน เมื่อถูกคำสั่งศาลพิพากษาให้มีความผิดแล้ว

มีความไม่พอใจ โกรธแค้นหรือกล่าวหาดูหมิ่นว่าศาลไม่เป็นธรรม  แต่ในปัจจุบันนี้หลังจากที่องค์กรอิสระต่างๆซึ่งแต่งตั้งโดย คมช.พิจารณาโทษของนักการเมือง  หรือพรรคการเมืองแล้ว  กลับถูกประชาชนผู้รักความยุติธรรมกล่าวหาไม่ยอมรับ  และนำไปเปรียบเทียบกับศาลพระภูมิ  คำว่าศาลในทางโลกหมายถึงผู้ทรงไว้ซึ่งความเป็นธรรม พิจารณาไตร่สวน วินิจฉัยตัดสินคดีความต่างๆให้ยุติธรรม  ในทางพระธรรมวินัย  คำว่าศาลมิได้หมายถึงตัวบุคคล  หรือองค์คณะของบุคคล เพราะบุคคลย่อมมีโอกาสถูกครอบงำได้จากอำนาจของความโลภ  ความโกรธ ความหลง  ดังนั้นจึงไม่ยึดตัวบุคคล  หรือคณะบุคคลว่าเป็นผู้ทรงความยิตุธรรม  แต่มุ่งเน้นที่ตัวคุณธรรมคือความถูกต้อง มีเหตุมีผล มีความยุติธรรม  ดังนั้นผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินความผิดถูก ต้องเป็นผู้รอบรู้  มีใจเป็นกลางปราศจากการครอบงำของอคติ 4 คือ ความลำเอียงเพราะรัก เพราะชัง เพราะโง่เขลา เพราะถูกความกลัวมากดดัน นี่คือหัวใจสำคัญที่พระธรรมวินัยใช้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินข้อพิพาทต่างๆ เพราะหากยึดตัวบุคคลเป็นบรรทัดฐานแล้ว  โอกาสที่บุคคลจะลุแก่อำนาจย่อมเกิดขึ้นได้ ก่อให้เกิดความอยุติธรรมในการวินิจฉัยตัดสินได้  ดังนั้นกระบวนการทางศาลสถิตยุติธรรมทั่วโลกจึงยึดหลักพระธรรมวินัยเป็นบรรทัดฐานทั้งสิ้น  เพื่อให้สถาบันศาลทรงความยุติธรรมอยู่ได้ ดังนั้นใครก็ตามที่ไปดูหมิ่นความยุติธรรมจึงมีความผิด  เพราะไปกล่าวหาสิ่งดีที่เป็นธรรมให้ผู้คนเข้าใจผิดเพี้ยนไปจากหลักความจริง และถ้าปล่อยให้ทำเช่นนั้นได้บ้านเมืองจะโกลาหล ผู้คนจะสับสนแยกแยะไม่ได้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว

       แต่ในปัจจุบัน  คนบางกลุ่มเกิดความเข้าใจไขว้เขวไปว่าผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่พิพากษาคดีความต่างๆคือสถาบันศาล  ดังนั้นใครจะไปล่วงละเมิดมิได้ ทั้งๆที่พิจารณาคดีความไปตามอำนาจความโลภ โกรธ หลง นี่คือปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดกับตุลาการภิวัฒน์ในขณะนี้ จึงไม่แปลกใจว่าเพราะเหตุใดจึงมีประชาชนจำนวนมากออกมากล่าวหาว่า 2 มาตรฐาน ไปจนถึงไร้มาตรฐานอยู่ในขณะนี้    

ASTV รายงานข่าว  นายชัย ชิดชอบ บิดานายเนวิน ชิดชอบ(พวกเสื้อแดงเรียกว่า นายเนรวิน) บอกนักข่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่ขัดแย้งพรรคประชาธิปัตย์  สามัคคีกันดี   นี่เป็นการพูดแบบไม่ดูข้อเท็จจริง ไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เสียแล้ว   ก็ข้อเท็จจริงก็คือ  นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หน.พรรคภูมิใจไทย  เพิ่งหักหน้านายอภิสิทธิ์  กรณีเสนอตั้ง ผบ.ตร.  จนเป็นเรื่องเมาท์สนั่นไปทั้งเมือง  นั่นคือข้อเท็จจริง  ทำไมล่ะ ?

แล้วนายวีระ สมใจคิด ทนายความ ศิษย์วิชาโฆษณาชวนเชื่อของสนธิ ลิ้มทองกุลอีกคนหนึ่ง พาพวกถือธงชาติไทยไปเขาพระวิหารอีกครั้งแล้ว  (ครั้งก่อนโดนชาวบ้านไล่ตี ไล่หนีรีบกลับบ้านเก่าแต่ยังไม่มืด  ยังไม่เข็ดอีกหรือไง)

นี่ก็ยี่ห้อ  ตราสินค้าสนธิลิ้ม   ไปก็เพื่อโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นเอง

ก็อ้างว่าตนเป็นพวกที่รักชาติไทยนี้ยิ่งกว่าใคร ๆ ในแผ่นดินไทยทั้งสิ้น(ทั้ง ๆ ที่บรรพบุรุษสนธิลิ้ม เป็นเจ๊กโพ้นทะเลมาอาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ไม่กี่วัน)

เหมือนกับที่อ้างว่าพวกตนมีความจงรักภักดีต่อสถาบันยิ่งกว่าประชาชนชาวไทยในแผ่นดินไทยอันเก่าแก่นี้ทั้งสิ้น ((ทั้ง ๆ ที่บรรพบุรุษสนธิลิ้ม เป็นเจ๊กโพ้นทะเลมาอาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ไม่กี่วัน)

และขณะนี้ก็กำลังเริ่มยุแยกให้คนแตกกันในสถาบันสงฆ์ไทย  โดยไปทำการยุให้แตกระหว่างนิกายต่าง ๆ  ขณะนี้แยกเอาโพธิรักษ์ออกไปแล้วก็ไม่เป็นประเด็นเพราะนั่นหลอกลวงประชาชนมานานแล้ว  ไปเป็นลูกศิษย์สนธิลิ้มเสียก็ดีแล้ว  เหตุผลก็มีในทำนองเดียวกันคือ อ้างว่าตนเป็นผู้ที่รักบูชาในพระพุทธศาสนายิ่งกว่าใคร ๆ ทั้งสิ้น   จะต้องมองหาศัตรูของพระพุทธศาสนาแล้วขจัดภัยนั้นเสียโดยเร็ว

อ้าว   ขณะนี้  เวลาเที่ยงวัน  มีการเลือกตั้งซ่อมที่สุราษฎร์ธานี พิธีกรรายงานโฆษณาได้อย่างไรว่าพรรครัฐบาลมีคะแนนนำไปแล้ว  ประชาชนยังไว้ใจพรรคประชาธิปัตย์อยู่     กกต.ว่าไง?  ไม่รู้หรือ นี่แหละสันดาน เอเอสทีวี

แล้วมีข่าว - ภาพ  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  วางมาดขณะปราศรัยดี เดินโยกหน้าโยกหลังดี  ผินซ้ายผินขวา ดูสง่างาม  ทีวีโฆษณาชวนเชื่อเลือกมาดมั่น ๆ มาออก   ว่า การท่องเที่ยวกำลังจะบูมแล้ว  อย่างมหาศาล  มาดนี้คงได้รับคำแนะนำพร่ำสอนจากสนธิลิ้มมัน

วันนี้  ดูแล้ว  อภิสิทธิ เวชชาชีวะ ใบหน้ามัน  ผมดำขลับ  ตาวาว    แสดงถึงประกายความหวังอันเจิดจ้า  คนไทยนิยมว่ารูปหล่อ   แต่ความจริง โดยตำรานรลักษณ์ศาสตร์ไทย และโหงเฮ้งจีน  วิเคราะห์ว่า  จุดอ่อนของบุคคลิกภาพนี้อยู่ที่ขมับทั้งสองข้างของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  
เขามีบุคคลิกภาพแบบเดียวกับ  วีระ สมความคิด ที่เห็นณเขาพระวิหารวันนี้  และคล้ายมากกับนักวิชาการชื่อ แก้วสรร อติโพธิ คนนั้น และเหมือน คู่แข่ง ปธน.บุช นาย จอห์น แครี   รูปใบหน้าเป็นรูปไข่ยาวเรียวแบบนี้  ขมับแคบแบบนี้ ถือว่าโหงเฮ้งเสียหายอย่างแรง   หมายถึงความคิดคับแคบ วิสัยทัศน์คับแคบ และดื้อรั้นไปอย่างสุด ๆ  ปกติจะต้องทดแทนด้วย  ลักษณะท้ายทอยที่จะต้องโหน่งออกไปหน่อย และหน้าผากจะต้องกลมนูน   แต่อภิสิทธิ์ ไม่มีตัวนรลักษณ์นี้มาทดแทน เลย   แถมเวลาทำทรงผมให้โป่ง  ยิ่งทำให้ขมับแบนแคบลงไปอีก  จะต้องแก้ด้วยทำผมเกรียน ๆ หรือทรงผมสูง   ไถตรงข้าง ๆ หูออกไปให้เรียบติดหนังศีรษะ ก็จะพอแก้ไขได้บ้าง(ไปบวชจะดี คือเอาผมออกให้หมดขมับจะดีขึ้น)

อภิสิทธิ์ เดิมดูแก้มตึงได้รูป  แต่ระยะหลังแก้มสองข้างค่อนข้างตอบ  ทั้ง ๆ ที่โหนกแก้มสูง ได้รูปเขาทั้ง 5 พอสมควรอยู่    กระนั้นแก้มที่ตอบลงไป จนเห็นเค้าโครงของรูปกระดูกคาง   ทำให้รูปคางแหลมเกินไป (หมายถึงความยากจน หากินไม่พอปากพอท้อง  แต่ตรงนี้แก้ได้ด้วยรูปจมูก ๆ จะต้องได้ลักษณะที่มาทดแทนรูปคางได้จึงจะพ้นความหมายนี้  แต่จมูกอภิสิทธิ์ ก็ไม่ค่อยดี ทดแทนไม่ได้อีก  คงจะยากจนในตอนหลัง  แล้วเนื้อที่ปลายคาง แม้จะงอนขึ้นมาดี แต่ก็บางเกินไป  และตรงนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงได้ ระวังจะเปลี่ยนไปในทางที่ทรุดโทรมลงไปอีก)   ยิ่งส่งความหมายทางสติปัญญาคับแคบไปอีก

ในระยะปัจจุบันนี้  รูปขมับ และแก้ม  และคาง  มีลักษณะทรุดเสื่อมลงไปตามลำดับ    คือขมับแคบไปกว่าเดิม เห็นชัด  แก้มตอบผอมลงไปอีก  และกระดูกคางแหลมเกินไปจนเห็นรูป  

แสดงถึงระยะอันตราย   ต่อไปต้องระวังหน้าผาก  อย่าให้ย่นและไรผมจะต้อง อย่าให้แห้ง เป็นอันขาด    และสำคัญดวงตาต้องสดใส อย่าให้เลื่อนลอย เผลอเหม่อ หรือหมองหม่น เป็นอันขาด ซึ่งลักษณะหลังนี้ เคยเกิดขึ้นกับ ปธน.ยอร์ช บุช มา  และเราเคยให้ข้อสังเกตเอาไว้แล้ว

บอกด้วยความหวังดี

(ลาออกไปเถิดน่า  ก่อนที่รูปจะไร้ความหล่อ  โหงเฮ้งจะทำลายตนเอง)

สนธิลิ้มหรือ?

ก็เหมือนอาชญากรตัวร้าย  ไม่เห็นในหนังฝรั่งหรือ  สวมชุดขาวทั้งชุด ร่างกำยำสูงใหญ่ หน้าผากโหนกนูนกลม หน้ารูปไข่  ขมับเต็มอิ่ม คางกลมอ้วน  เหมือนสนธิลิ้มนี่เอง  ฝรั่งเขาเลือกบุคคลิกที่ตรงกับหลักกายวิภาควิทยา คือนรลักษณ์โดยทฤษฎีวิทยาศาสตร์  พวกทัณฑวิทยาเอามาศึกษา  ซึ่งค่อนข้างจะตรงกับมติของวิชาโบราณไทยคือนรลักษณ์ศาสตร์ หรือจีน โหงเฮ้ง   หนังเรื่องนั้น  สร้างอาชญากรตัวร้ายฉกรรจ์ขึ้นด้วยหลักนรลักษณ์ศาสตร์ ผู้ร้ายฉกรรจ์   จับตัวมาได้เอาโซ่ล่ามขาสองข้างให้ฉีกออกจากกันตลอด 24 ชั่วโมง  เอาโซ่มัดมือทั้งสองโยงไว้กับขื่อเหนือหัว  มันทนทานทรหดและไม่หวาดหวั่นเกรงกลัวใคร อะไรทั้งสิ้น  แล้วนักวิจัยทางทัณฑวิทยาและจิตวิทยา มาขอศึกษา   ตำรวจห้ามแล้วห้ามอีกก็ไม่ยอม   เมื่อยอมก็บอกว่าให้สัมภาษณ์อยู่ห่าง ๆ ถึง 3 เมตร  ห้ามเข้าใกล้ตัวเป็นอันขาด    เพราะมันเก่งมากขนาดประตูคุกเปิดเมื่อไรก็อาจเป็นอันตรายได้เมื่อนั้น  แล้วในที่สุดมันก็หลบหนีไปได้   และก่อกรรมทำเข็ญครั้งใหญ่   ภายหลังตายอย่างทรมาน  กว่าจะตายได้ก็เหมือนหนังจีน   คือถึงขนาดขอร้องศัตรูให้รีบทำให้ตัวตายเสียที พ้นทุกข์พ้นร้อนไปที

(ความจริงคราวนั้น สนธิลิ้มเองคิดว่า กูตายไปเสียยิ่งดี ไม่น่าทำให้กูฟื้นขึ้นมาเลย ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานอยู่กลางพวกเสือสิงกะทิงแรดอย่างทุกวันนี้)

นี่ว่าตามหลักวิชานรลักษณ์ศาสตร์ ผสมกับโหงเฮ้งของฝ่ายจีน  เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ไม่ได้มีอคติแต่อย่างใด

อีกหน่อยน่ะครับ  ท่าน    เรื่องโหงเฮ้งน่ะครับ.......อยากให้วิเคราะห์โหงเฮ้งนายเทพไท เสนพงษ์ดูหน่อยครับ ....อีกหลาย ๆ คนเลยครับ เช่นนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นต้น

อ้อ !!!    นายกทักษิณ เป็นอย่างไรครับ?

ก็คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ทันทักษิณหรอกครับ   เรื่องนภดล ปัทมะ ให้สัมภาษณ์น่ะ    สุเทพไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมทักษิณถึงจะไม่ทำอย่างนั้น

เขาไม่มีเวลาไม่สนใจทำเรื่องอย่างนั้นหรอก   เรื่องอย่างนั้นให้สุเทพทำ เหมาะสมดี    มันฉลาดคนละชั้นน่ะ   ต้องไปเรียนรู้จากสนธิลิ้ม ยอมเป็นศิษย์สนธิลิ้มมัน ถ้าจะให้ทันทักษิณ

เรื่องโหงฯอภิสิทธิ์  ขอต่ออีกนิดหนึ่งครับ  ตามแผนที่ของ อุดมพร แพงอ่อน (โหงเฮ้งดีดูตรงไหน พิมพ์พ.ศ.2531 สำนักพิมพ์ดอกหญ้า ถนนลำพู พระนคร กทม.) ปี 2552 นี้นับแต่วันเกิด 3 ส.ค.2552 มา คุณอภิสิทธิ์มีอายุครบ 45 ปี ย่าง 46 ปี  เป็นปีที่โหงเฮ้งจรตกที่ขมับข้างขวาพอดี  หมายความว่าพอเข้า 3 ส.ค.2552 เป็นต้นมา เป็นปีที่ตกต่ำที่สุด  เนื่องเพราะจุดอ่อนทางโหงเฮ้งอภิสิทธิ์อยู่ที่ขมับ  แก้ม  คาง  ตามที่ได้วิเคราะห์มาแล้วคราวก่อน ข้างต้น   ก็ลองคิดดูเองว่าปีนี้หมายถึงอะไร  นอกจากนี้  ปีหน้า ปีอายุย่าง 47 โหงเฮ้งจรตกขมับซ้าย  ยังไม่พ้นเคราะห์  48-49-50 ตกจมูก  ยังยากลำบากยากจน ฯลฯ  คิดดูเอาเอง (อาจจะหมายถึงความเจ็บไข้ได้ป่วยหรือถึงชีวิตในระหว่างนี้ก็ได้)

ส่วนของคุณเทพไท เสนพงษ์  กับ คุณสาทิตย์ วงษ์หนองเตย  ขอติดไว้ก่อน

ความจริงเราเองมองไปที่ทหารใหญ่บางคนมากกว่า   ได้ความอย่างไรจะเอามาขยายให้ฟัง

ขอบันทึก  ขณะเฉลิมพูด หลังอภิสิทธิ์แก้ตัวไปแล้ว  เสียงเฉลิมถูกดูด  ถูกรบกวนเป็นระยะ ๆ ข้อความสำคัญเลือนไป   ใครทำ?

แล้ว  รัฐสภารับผิดชอบอย่างไร  ?

ล่มมาครั้งหนึ่งแล้ว   จะล่มอีกหรือ?

....... ต้องการให้เกิดสภาพโกลาหลทั่วไป....

......ท่านประธานต้องสั่งให้นายคนนี้นั่งลงเดี๋ยวนี้.....  ชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ พูดในสภาวันนี้   ...นายคนนี้ ... เขาหมายถึง  สุนัย จุลพงษ์ธร ...  เราว่าหยาบคาย ไปนะ  และเป็นการดูแคลนความเป็นมนุษย์ของคนอื่นและแสดงความไม่เป็นมนุษย์ของตนเอง

ไม่ชอบด้วยหลักการประชาธิปไตย

รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย บุญจง วงศ์ไตรรัตน์  พูดภาษาอะไรครับ ?  ขอยืนยันว่าภาษาที่ใช้จะต้องตีความเสียก่อนนะ   อะไร...เป็นอะไร..เมื่อพูดว่า.....
...คณะกัมมะการกั่นกองโคงการ..
... จะต้องเป็นโคงการก่อสร้าง...  โคงการถนนไล้ฝุ่น.... โคงการจัดสัมมนาซื้อก้ายาง... นี่คือนโยบายโคงการกั่นกองโคงการทั้งหมด คับ....อย่างโคลาดนี่  ลับลองล่ายว่าไม่มีการเอื้อปะโหยด เป็นอังขาก  ...     มาจากเมืองเจ๊กหรือไง?  นี่สภาไทย ไม่ใช่สภาเจ๊ก !!!!!

...ผมขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง....     เป็นประโยคสมบูรณ์  ไม่มีการตัดต่อ     ใช่แล้ว   มีการสั่งการจริง

เรื่องคลิปสั่งการฆ่า ของนายกฯ   ฝ่ายค้านกัดไม่ปล่อยแน่

....ก็มันมีเปอร์เซนต์สูงเหลือเกิน     ที่จะพิศูจน์ได้ว่าเป็นการสั่งการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงจริง

ไม่งั้นกรณีพัทยา   ที่ มท.  ทหารจะกล้าทำหรือ?    

....มีพะยานนะ   ...

ต้องให้จนมุมอย่างเด็ดขาด สำหรับเด็กดื้อ ผู้ได้อำนาจจนเหลิง

เชื่อผมเถอะครับคุณจตุพร   อภิสิทธิ์ไม่รู้อะไรเป็นอะไรเลยเกี่ยวกับเขาพระวิหาร (และเรื่องอื่น ๆ ทุกเรื่องแหละ  เช่นแกไม่รูเรื่องประชาธิปไตย  ไม่รูเรื่องเศรษฐกิจ  และไม่รูอะไรเลย...)

แกไม่มีความรับรู้เลย  เพราะหัวส่วนวิเคราะห์เหตุและผล มันไม่ทำงาน   เวลาแกพูดอะไรออกไป แกเพียงจินตนาการไปสุด ๆ   ก็เท่านั้นเองจริง ๆ    ผมจึงบอกว่าเด็กไง!!! และกำลังจะทำบ้านเมืองล่มจมอยู่แล้ว

เราจะบันทึกเป็นหลักฐานหน่อย  กกต.โดยนางสดศรี สัตยธรรมว่า 9 ก.ย.จะตัดสิน  สส.มีหุ้น  ไม่เลื่อนอีก   จะคอยดู   กำลังสงสัยอยู่ว่า  กกต.นี่เป็นอย่างไร  จะลงบัญชีดำไว้หน่อย...

ดูศาลรัฐธรรมนูญแล้ว 8:1 ชี้ออกมา   ดูแล้วไม่สบายใจ    ตุลาการแต่ละคน ๆ  ดูซีด ๆ (หมายความว่า  ภาคภายในไร้จุดยืน  ไหลตามกันไปเหมือนกอสวะจริง ๆ)     อยู่ไปทำไม้....... โล๊ะเถอะเสื้อแดง

สุเทพน่ะหรือ  จะคุยกับทักษิณไปรู้เรื่องอย่างไร   มันคนละประเด็นกัน 

ทักษิณเขาพูดเป็นนาที ๆ ละเท่าไหร่    สุเทพฟังก็ไม่รู้เรื่องแล้ว  เพราะไม่เคยพบเคยเห็น

คือ  หมายถึงเงินเข้าน่ะ  ทักษิณเขาถามนาทีละเท่าไร  สุเทพต้องถาม ปีละเท่าไร?   แล้วมันจะทันกันยังไง้.....

หัวมันคนละระดับชั้น 

ทักษิณเขาทำเหมืองเพชร    สุเทพทำอะไร ?  กอดเก้าอี้แน่น    มนุษย์เงินเดือนน่ะ...เดี่ยวก็อดตาย...

แล้วจะอยากพูดทำไมกับทักษิณเค้า....พูดไปก็ไม่รู้เรื่องกันหรอกน่า  พอเจอหน้าทักษิณก็ตัวสั่นพูดไม่ออกแล้ว....

อ้อ !!!  เห็นด้วยครับ   นายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์  พูดภาษาแบบนั้นต้องตีความ  แต่ผมว่า  นี่ขาดคุณสมบัตินะครับ    ต้องออกสถานเดียว  มีอย่างหรือครับ  พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลยแล้วไปคุมงบประมาณ   พูดได้อย่างไรว่า ........งบปะมางปีนี้ เลาจะใช้อย่างปะหยักที่สุกอยู่เลี้ยว มีบังชีคุมอย่างละเอียดลอบคอบ  มีการตวจตาทุกละดับ........   ครับ ขอเสนอนายชัย ชิดชอบ  และอภิสิทธิ์ ให้ตรวจสอบสัญชาตินายบุญจงด่วน....

เห็นด้วยครับ  กรณีให้ตำรวจเป็นกระทรวง  ผมเองเคยเสนอไว้ต่อนรม.ทักษิณแต่ครั้งนั้นแล้ว (ในหนังสือพิมพ์ดีนี่ครับ)

เหตุผลของผมก็คือ  อยากให้ตำรวจเป็ฯอิสระเสียที   เป็นเวลานานมาแล้วที่ตำรวจลำบากฐานะต่ำต้อย  เหมือนคนใช้เขา  และซึ่งไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง

เราให้ตำรวจขึ้นต่อประชาชนโดยตรง  จะดีกว่า   ตำรวจรับผิดชอบต่อประชาชนโดยตรง   นั่นคือ  ให้เป็นกระทรวงนี่แหละครับ   มีรมต.กระทรวงตำรวจ   นี่คือการขึ้นต่อประชาชนโดยตรง 

ตำรวจก็จะมีศักดิ์ศรีขึ้นและซื่อตรงต่อผประชาชนขึ้น

การตัดสินใจในเรื่องนี้ เราก็ดูจากหลักการปกครองรัฐประเทศ ที่ว่าด้วย
1.     ภายในประเทศ  [Internal Area]     ตำรวจรับผิดชอบ
2.     ภายนอกประเทศ  [External Area]  ทหารรับผิดชอบ

ท่านจะเห็นว่า ศักดิ์ศรีทั้งข้อ 1 และ ข้อ 2  ย่อมเท่ากัน  สมควรจะต้องเท่ากัน   ทำไมทหารจะต้องพยายามเบ่งตนเองให้ท่วมทับตำรวจอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมา   และทั้งหน่วยเหนือตำรวจในสภาวะปัจจุบันนี้ มาแต่อดีตนานพอสมควรแล้ว มักกดตำรวจเอาไว้เสมอมา  เป็นการกดขี่อย่างแท้จริง  และเมื่อเป็นประชาธิปไตยแล้ว  ก็ควรมองในประเด็นนี้ให้สอดคล้องหลักการประชาธิปไตย  นั่นคือ  เมื่อต่างขึ้นตรงต่อประชาชนแล้ว  อย่ากลัวว่าการตรวจสอบจะอ่อนด้อยลงไป   ยิ่งจะดีกว่าเดิมไปอีก

เราจึงขอเสนอว่า  ให้ตำรวจขึ้นตรงต่อประชาชนเถิด  ปลดปล่อยตำรวจเสียที

ดันหน่อยนะครับคุณ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง   คุณ เจ  ดอกจิก และอีกท่านหนึ่งที่พูดคุยกันวันนี้

คืออย่างนี้ครับ ท่านอาจารย์คณิน บุลสุวรรณครับ  ขอให้ผมเสริมท่านหน่อยครับ  ท่านพูดถูกใจผมจริง ๆ

ระบอบไทยได้กดประชาชนไว้นานแล้ว  ตราบมาถึงยุคการเลิกทาส  ร.5  แล้วมาถึงยุค 24 มิถุนายน 2475 ครับ 

หมายความว่า  เราได้พยายามปลดปล่อยประชาชนมาตามลำดับ ๆ

แต่คนยุคนี้หลายคนโดยเฉพาะนักวิชาการการเมือง  เช่น คณะบดีคณะรัฐศาสตร์ เป็นต้น    ใจร้อนครับ 

อย่าใจร้อนซีครับ  ใจเย็น ๆ ครับ  อย่ามองแค่ปัจจุบันซีครับ

จริงอยู่ปัจจุบัน  ประชาชนอาจจะเงอะ ๆ งะ ๆ อยู่บ้าง   แต่ว่าเมื่อเราปลดปล่อยแล้ว   ก็เป็นอันว่าเราเริ่มต้นพร้อมกันทั่วประเทศ  ทั่วทุกตัวตนของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย 

ตรงนี้คือ  ประชาชนทุกคนมีโอกาสแล้ว  นั่นเอง  ผิดกับกาลที่ล่วงมาที่ประชาชนไม่มีโอกาส  เพราะถูกกด  เมื่อถูกกดก็ไม่มีโอกาสเดิน   เข้าใจไหมครับ    ก็อยู่กับที่ไปตลอดกาลนาน

แต่เมื่อปลดปล่อยแล้ว   ทุกคนเริ่มออกเดินไปพร้อมกันทั้ง 60 ล้านคนเศษ ๆ นี่    จริงไหมครับ?

ไม่กี่ปีหรอกครับ ในอนาคต   คนทั้งหมด 60 ล้านกว่าคนนี้ก็จะรู้อะไรต่ออะไรชำนาญอะไรต่ออะไรได้อะไรต่ออะไรขึ้นมาพร้อม ๆ กัน

เป็นผลอย่างไรครับ   ก็มั่งมี   ประเทศก็มีพลัง  มีความมั่งมี  และสามารถจ่ายเงินเดือนให้นักการเมืองได้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

นี่คือผลดีของเสรีภาพไงครับ  และผลดีของระบอบประชาธิปไตย  ที่แท้จริง   เห็นด้วยไหมครับ ?

คาดหวังได้เลยว่าเมื่อประชาชนถูกปลดปล่อย   ประชาชนทั้งมวลทั้งหมดนี่แหละจะสร้างชาติไปได้อย่างยิ่งใหญ่

ฉะนั้น จริงอยู่ปัจจุบันอาจจะมีข้อตำหนิ  แต่ยังไม่ใช่ปัจจุบันนี้หรอกครับ    มองอนาคตไม่ไกลครับ  ปัจจุบันประชาชนอาจถูกมองว่าโง่  แต่เมื่อถูกปลดปล่อยเขาจะพัฒนาเร็วครับ   และแท้จริงชาวอีสานขณะนี้เขาก็ไปไกลแล้วจริง ๆ  เขารู้เรื่องประชาธิปไตยดีกว่าพวกคณะบดีรัฐศาสตร์(เช่นนายบวรศักดิ์ อุวรรโณ)แล้ว

ถ้าคิดแบบอมาตยาธิปไตยนี่กดประชาชน  ๆ ยากจนครับ   รวยยาก

เชื่อผมเถิดครับ    ให้ประชาชนทุก ๆ คนมีส่วนในการสร้างชาติดีกว่า    หลักการง่าย ๆ เองครับ คือหลายคนดีกว่าคนเดียว

ฝรั่งเขามองตรงนี้มาก่อนเรานานแล้วเขาถึงเจริญ

ไม่เคยรู้เลยหรือภาษิตฝรั่ง ผมรู้ตั้งแต่เรียนประถม   Two heads is better than one   สองหัวดีกว่าหัวเดียว  ไง้... ( คำว่า  Two heads  เป็นเอกพจน์นะครับ  งง หรือไม่ใช่?)

ย้ำอีกทีครับ     มองอนาคตครับ   ไม่ช้าเกินรอ     คนไทยจะเก่งขึ้นพร้อม ๆ กันทั้ง 60-70 ล้าน

อ้าว !!!!  คุณจอม เพชรประดับ หรือครับ    ดีแล้วครับ   ลาออกจากแม่งมันเลย !!!!

ว่าไงล่ะครับ รัฐบาลเด็ก  ทักษิณเขาบอกแล้วว่า   75 % ของ GDP น่ากลัวมาก  ยุโรปเขาให้ไม่เกิน 60 % ของ GDP  สากลประเทศให้ไม่เกิน 50%   แล้วไหงปล่อยให้เตลิดไปถึง 75% ล่ะ   จะไปพึ่งเศรษฐกิจโลก คิดหรือเปล่าว่า  ใน4-5ปีข้างหน้า GDP โลกจะเพิ่มได้เพียง 3-5% เท่านั้น    ผมบอกแล้วว่ารัฐบาลเด็กกำลังจะทำบ้านเมืองล่มจมลงไปอย่างใหญ่   โดยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย แล้วพูดเพ้อเจ้อไปว่า  เศรษฐกิจกำลังฟื้นแล้ว   แบบนี้มีแต่พาไปประเทศไทยไปตายสถานเดียว 

เหมือนกับไปอวดดีเรื่อง สินค้าโอทอปนั่นแหละครับ   เขาเตือนแล้วเตือนอีก อย่าไปจัดที่สนามศุภ   ก็ดื้อไปจัด  แล้วผลเป็นยังไง  ตากแดดกันทั้งวัน  ขาดทุนกันป่น***   แล้วรัฐบาลรับผิดชอบให้ค่ารถกลับบ้านหรือเปล่า ?      ก็เปล่า !!!

แค่นี้ก็ห่วยแตกเต็มที

แล้วยังหน้าด้าน ยิ้มกริ่มมาทำที่เมืองทอง  อิ่มเอมเปรมปรีดิ์ไปทั่วประเทศ  เขาขายของสนุกที่เมืองทอง  ได้เงินวันละหมื่นสองหมื่น   แต่รัฐบาลเด็กไม่ขอบคุณทักษิณเขา

ไปปล่อยข่าว ทักษิณ เป็นมะเร็งจวนตายเสียอีก (แต่ทักษิณบอกแล้วว่าสุขภาพท่านดี ไปตรวจทีไรหมอก็ว่าดี)   แล้วไอ้........ไปปล่อยข่าวทำไม ?     ทรามแท้ !!!! 

รู้ดีอย่างเดียวเรื่องการสร้างภาพ   ใช้หัวคิดเพื่อสร้างภาพ   แต่ไม่คิดเรื่องความจริง   คนเขารู้ทันก็จบ

อย่านึกว่าประชาชนรู้ไม่ทัน

เรื่องเศรษฐกิจมันต้องมองที่  real secter   เสมอ   ไม่ใช่สร้างภาพ

อีกไม่นานคนไทยจะตาสว่างกันหมด พร้อมๆกับการดับแสง อับโชคของพรรคประชาธิปัตย์ 

แปลกใจเหลือเกินว่า  เวลา 60 ปี ที่พรรคนี้ก่อตั้งขึ้นมา ทำไมไม่สร้างคุณภาพของพรรคโดยการทำนโยบายดีๆให้โดนใจประชาชน 

คนมีการศึกษาสูง  นักวิชาการก็มีไม่น้อย แต่ไม่มีใครสักคนเตือนสติกันว่าเอาความดี ความสามารถชนะใจประชาชน 

แต่กลับไปใช้วิธีการเอาชนะคู่แข่งแบบนิยายน้ำเน่า  คือพูดจาถากถาง ใส่ร้ายป้ายสี แย่งชิงเก้าอี้มาแล้วบริหารไม่ได้  ประเทศเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวทั้งที่รัฐบาลก่อนๆใช้หนี้ให้หมดแล้ว ยาเสพติดระบาดทั้งๆที่เกือบหมดไปแล้ว ประชาชนหากินลำบากไม่มีใครสนใจ  นี่หรือคือของขวัญที่ได้จากรัฐบาล...

อ้าว !!!!   ตัดสินคดีกันแบบไหน    ให้กบฎยึดทำเนียบ ยึดรัฐสภา  และยึดบชน. เป็นพวกก่อการร้ายยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นฝ่ายถูก   ตำรวจและรัฐบาลเป็นฝ่ายผิด

ปปช.ล้วนเป็นนักกฎหมาย  ตัดสินใจแบบนี้เสียชื่อสิ  เสียชื่อนักกฎหมายและสถาบันกฎหมายหมด

ไม่เข้าใจหรือว่าทำไม  ความยุติธรรมจึงเป็นตราชั่ง

เขาเอาขึ้นชั่งก่อนไง ผมจะสอนให้

ข้างหนึ่งเอาฝ่ายโจทก์  ข้างหนึ่งเอาฝ่ายจำเลย    เอาข้อมูลของแต่ละฝ่ายใส่ลงไป  ฝ่ายไหนมีน้ำหนักกว่าก็ชนะ

ท่านไม่เข้าใจหรือ ?

ท่านเล่นเหมือนเด็ก  เอาเฉพาะข้อมูลของฝ่ายกบฎใส่เข้าไป    อีกฝ่ายหนึ่งไม่เอาใส่ลงไปเลย     ก็แน่ละ  กบฎชนะ

มันไม่เป็นธรรมครับ 
คนทนไม่ได้  ท่านจะต้องรับผิดชอบ

รับผิดชอบในความหมิ่นแคลนของคนทั้งแผ่นดิน   ว่าร่ำเรียนมา ทางกฎหมายมากมาย  มีความรู้เป็นกะบุง ๆ  แต่หารู้กฎหมายไม่
หารู้ความหมายของความยุติธรรมไม่

เหมือนวณิพกโง่เขลาพวกคนตาบอดคลำช้างในชาดกคำสอนพุทธธรรมนั่นแหละครับ
ปปช.ตัดสินความครั้งนี้  นั่นคือ คนโง่เขลาตาบอดคลำช้างยุคใหม่ โดยแท้จริง

ผมจะจดจำไว้ชั่วชีวิตผมเลย และจะบอกลูกหลานให้ทวงคืนกลับมาให้จนได้

และรับรองผมไม่ลืมคุณหรอกคุณกล้าณรงค์ เพราะ นามสกุล จันทิก 

จันทิก หรือ จันทึก ไม่แน่ใจ  ขุนช้าง  นกตระกรุม เอาให้แน่หน่อย !!!!!!!!!!!

ผมยังไม่พอใจหรอกครับ  สำหรับคำตัดสินวันนี้  ให้สนธิ ลิ้มทองกุล ติดคุก 2 ปีโดยไม่รอการลงอาญา

แต่นับถือหม่อมอุ๋ย ผู้ฟ้องร้อง

คนระดับนี้เชื่อได้ว่าไม่มีเบื้องหลังให้ มัน  แบล๊กเมล์ได้

เพราะอาวุธแบล็กเมล์นี่เองที่สนธิลิ้ม มันเอาอภิสิทธิ์อยู่หมัด   และทั้งตำรวจทหาร  นักวิชาการ ฯลฯ

แล้วใครจะไปจับมันไปเข้าคุกล่ะ ?

จะกล้าหรือ?  

เพราะมันคือ อาชญากรตัวร้าย  อย่างที่ผมเคยเห็นในหนังฝรั่งนั่นแหละครับ 

ต้องรีบไปดูเอเอสทีวีหน่อย 

อยากดูรายงานข่าวเอเอสทีวี  

มีรุ่นใหม่มาแทน  อัญชลี ไพรีรัก    เสียงนี่  ปลุกระดมรอบทิศเลย 

แบบตาใสเหมือนอภิสิทธิ์ ไม่มีผิด

แบบว่า  ไร้เดียงสา

เอาไว้แค่นี้เดี๋ยวมันด่าเอา

 อ้าว  ฟังไม่ทัน  ศาลชั้นต้นเองหรือ?  

มิน่าล่ะ  ถึงกล้าตัดสิน  2 ปี

แต่เห็นไหม   มันเอง  จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง  จนติดคุก แล้วยังมีหน้าไปด่าทักษิณ ว่าไม่ซื่อต่อสถาบัน  สารพัด  ...เลว ......

โอ.......ฟังไม่ทัน   นายสถานีแดง    คุณอดิศร เพียงเกษ    ลองมององค์รวมของงานทั้งวันของสถานีหน่อยครับ
ผมว่าลองมองสำรวจว่า  ควรเอาเรื่องราว  ข่าว  อะไร ๆ ที่คลุมเครือ และสำคัญขาดไม่ได้สำหรับออเดี๊ยนศ์(audience)ของสถานี  มา อินเทอเพรต  (interpret)  สักหน่อย  มีนักนิเทศซวารสารศาสตร์หลายคนอยู่นี่นะ  รวมทั้งคุณ จิรายุ  คุณศุภรัตน์   แล้วเอามาใส่ให้ถูกเวร่ำเวลาหน่อย

อย่าให้ราตกข่าวนะ  เพราะเราไม่ได้ดูข่าวที่อื่นแล้ว   เราดูที่นี่แห่งเดียว   ท่านต้องรับผิดชอบอย่าให้เราตกข่าว

อ้าว  !!!  ทางอธิบดีกรมธุรกิจการค้าว่า ให้ปรับนโยบาย     ก็มันไม่มีนโยบาย   มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านโยบายคืออะไร     ดูเรื่องสินค้าโอทอปเป็นตัวอย่าง   มันทำแบบสุ่มไปสุ่มมาอยู่    เสียเงินเสียทองเท่าไรไม่คำนึง  มันเพิ่งมาเรียนหัดงานบริหารประเทศเท่านั้นเอง    อะไร ๆ ก็ยังไม่รู้ไม่เป็น   คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ?     ก็มันเด็กจริง ๆ    เห็นแล้วยัง........

แนวรบไซเบอร์ เวบไซต์นี้  เปิดแนวรบใหม่  แทงตรงหน้าอกหัวหน้าอมาตยาธิปไตย  ขุนพล เปรม ตินสูลานนท์  ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงประเด็นศาสนาสากล   (เกลี้ยกล่อมใหอิสลามใต้เปลี่ยนใจทรยศต่อพระเจ้าองค์เดิม  มารับพระเจ้าองค์ใหม่)      ทำชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วิบัติ   

จะอยู่ได้อย่างไร    ตายแน่  !!!!

 

พล.อ.เปรมในนามมูลนิธิประธานองค์มนตรีและรัฐบุรุษ เอาเด็กเยาวชนใต้ 5 จังหวัด มาอบรม ในโครงการ สานใจไทยสู่ใจใต้ 2552 แล้วเกลี้ยกล่อมบังคับให้มานับถือพระเจ้าองค์ใหม่เป็นผลให้สถานการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้ใต้คุดุเดือดขึ้นมาทันที

ทำชาติ-สถาบันเสียหายอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

สด นครพนม  People Channel  ถ่ายทอด 14 ก.ย.2552  18.00 น.

1.     วิภูแถลง  พัฒนะภูมิไทย
2.     ขวัญชัย  ไพรพนา
3.     สมชาย  ไพบูลย์
4.     เจ๋ง  ดอกจิก (เศวริศ ชูกล่อม)
5.     เวียง  วรเชษฐ์
6.     น.พ.ประสงค์  มูลพรม
7.     ไพจิตร อักษรณรงค์ -  วิสา คัญธัพ

sms
"ไอ้เด็กเวร งวดนี้จะล๊อกหวยเลขอะไร?" 
"ใช้แผนปลาร้า 52 สู้กับ กรกฎ 52"
"คิดถึงทักษิณ จากแดงโคราช"
"ไอ้เจ๊กลิ้มหัวหน้ากบฏทรยศต่อประเทศไทยไปตายเสีย"
 

8.  วีระ  มุสิกพงษ์   พูดถึง ครู2คนในแผ่นดินอีสาณ    สส.นครพนมหลายสมัย  นาแก เรณู  ธาตุพนม ....ไขแสง สุกใส สส.ที่แท้จริง คุ้มค่า ปฏิเสธ ตำแหน่ง รมว.มท. ครูคนที่ 2 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายทหารประชาธิปไตย  ท่านปิดทองหลังพระ  ท่านเสียสละ  คนที่สร้างปัญหาคือรัฐบาลก่อนหน้านั้น ปชป.   ธ.แห่งประเทศไทย+กค.บอกไทยกำลังล้มละลาย  ขอให้นายกประกาศว่าค่าเงินไทยจะไม่ลอยตัว  ต้องคงค่าเงินเอาไว้  ท่านว่าถ้าลอยตัวจะลาออก    ท่านก็ออกประกาศตามนั้น  แต่ไม่นานเงินไทยก็ลอยตัว    ท่านก็ลาออกจาก นรม. เพราะธ.+กค.รักษาเอาไว้ไม่ได้ตามที่ให้สัญญาไว้

9.  ทักษิณ ชินวัตร 

10.  จตุพร  พรหมพันธ์ 

แรมโบอีสาณ  อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง  ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ

ประชุมรัฐสภา   327 คนเข้าประชุม

ถนนไร้ฝุ่นมีปัญหาหลายจังหวัด  เห็น สส. สว.หลายจังหวัดพูดถึง  ไม่ทราบเป็นปัญหาเข้าใจผิดกันหรือไม่   เพราะตามที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มท. รายงานนั้น  ไม่มีโครงการถนนไร้ฝุ่น      ได้ยินว่ามี  โคงการถนนไล้ฝุ่น   นายบุญจงเคยพูดไว้อย่างนี้ครับ...คณะกัมมะการกั่นกองโคงการ..... จะต้องเป็นโคงการก่อซ่าง...  โคงการถนนไล้ฝุ่น.... โคงการจัดสัมมนาซื้อก้ายาง... นี่คือนโยบายโคงการกั่นกองโคงการทั้งหมด คับ....อย่างโคลาดนี่  ลับลองล่ายว่าไม่มีกางเอื้อปะโหยก เป็งอังขาก  ...(พวกเดียวกับเจ๊กลิ้ม ....  มาจากเมืองเจ๊กลามั้ง !!!!???  ...)

แล้วคุณอภิสิทธิ์ พูดอะไร   ไหนว่าไปแล้ว   ยังอยู่หรือ?

นางสาวรสนา  โตสิตระกูล   (ประธานสภานายชัย ชิดชอบเรียกอย่างนี้)   ความจริงมีผัวแล้วไม่ใช่หรือ ?  แล้วไปเรียกนางสาวได้อย่างไร?  คนมีผัวแล้วก็เรียก นางซิ ????

ถูกแล้ว  มีผัวแล้ว   จำได้ วันที่ก่อเรื่องในสภาคราวก่อนนั่นแหละ   มีผัวมาเข้าประชุมสภาด้วย  แล้วเขาไล่ออกไป  เพราะผัวไม่ได้เป็นสส.  สว.   ส่วน คุณรสนา ก็ถูกเชิญออกนอกห้องประชุมสภาไปด้วย  ในคราวนั้น   เห็น....เถียงเขาคอเป็นเอ็นเลย

แล้วเวลาพูดก็มีแต่ตั้งคำถาม   ไม่รู้ถามใคร .....

นักการเมืองทำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวใช่หรือไม่ ?

.....   ใช่หรือไม่ ?............
.....   ใช่หรือไม่ ?............
.....   ใช่หรือไม่ ?............

คุณรสนาถามใคร  ?   ควรจะให้คนอื่นถาม  และท่านเป็นผู้หาคำตอบ  เพื่อเอามาทำการ  Decision Making  ตัดสินใจไง   นั่นเป็นหน้าที่คุณ     มีหน้าที่ตรงนี้  ตรงที่ต้องตัดสินใจ  จะโยนไปไหนล่ะ ?

อ้าว   พูดไปทั้งหมดล้วนพูดคลุมเคลือ   ไล้คำตอบ    แล้วจบลงไปอย่างไร  ?

พูดอะไรต้องได้ข้อสรุปซีครับ  พูดให้ได้ข้อยุติซีครับ  เป็นหน้าที่ของคุณ ส.ว.   ไม่งั้นคุณจะไปให้ใครยุติให้คุณ...... ไม่งั้นก็ออกไปซี ....เราต้องการการตัดสินใจ  ..ที่นี่    ในสภาแห่งนี้    ...   เราไม่ต้องการคนหาเรื่อง คนที่รวนไปรวนมาเพื่อไม่ให้มีการตัดสินใจได้ .....

ท่านไม่รู้หรือ   ประเทศชาติ  รอการตัดสินใจ  มานานแล้ว

นายอภิสิทธิ์ก็ไม่มีการตัดสินใจเลย   สภาก็ไม่มี   (มีแต่ ศาล และ  ปปช.   ที่ขยันตัดสินไปแบบไร้ข้อมูล  มีแต่คนด่า)

เรารอการตัดสินใจไปทุกเรื่องละครับ 

รวมทั้งเรื่อง  รัฐธรรมนูญ

เอาอย่างนี้เสีย  เอารัฐธรรมนูญ 2540 นั่นแหละกลับมาใช้ใหม่    จบ !!!

อ้าว  พูดอะไร   ......  ยังไม่ทันตกผลึกเป็นทฤษฎีก็จะให้แก้เสียแล้ว   ....

ถ้ารอให้มันตกผลึกเป็นทฤษฎีชั่วร้าย ล่ะ    จะว่าอย่างไร? 

ผมว่าพวกท่านนี้   พูดอะไรโต้แย้งได้หมดเลย    จะให้ผมโต้เป็นรายตัวไปเลยก็ได้    คือผมมองในแง่   วุฒิภาวะน่ะครับ (คือแก่จะเข้าโลงแล้วก็ขาดวุฒิภาวะได้นะครับ  แบบพระพุทธเจ้าตรัสว่าเกิดมาร้อยปีไม่รู้ธรรม สู้คนเกิดมาเมื่อวานซืนแต่รู้ธรรม ไม่ได้)

มิน่าบ้านเมืองมันถึงไม่ไปไหน       สภาก็เป็นเหมือนสภาเด็ก ๆ  ไม่มีผิดเลย (พูด ๆ ไปสักแต่ว่าพูด  ปราศจากความสำนึกว่า  จะต้องจบลงที่   การตัดสินใจ หรือ  Decision Making   ให้ได้  นั่น !!!!

คือผมว่าพูดกันให้รู้หน่อยว่า   อะไรเป็นหลักการ  พิจารณาแล้ว มันถูกหลักการหรือไม่    ไม่ถูกก็แก้ซี  (ถ้าถูกก็ตัดสินใจได้ว่า  ผ่าน  จะได้ไม่เสียเวลาประชาชนผู้ทำมาหากินไง  จะมาคอยดูเด็ก ๆ อยู่ตลอดวันได้อย่างไร)

อะไรเป็นทฤษฎี ว่าด้วยอะไร    ใช้ได้หรือไม่   ใช้ไม่ได้ก็แก้ซีครับ   

มีสูตรสำเร็จไว้อย่างใดหรือไม่   สูตรสำเร็จนั้น ว่าด้วยอะไร  ใช้ได้เพียงไหน   ใช้ได้ก็เอาซีครับ  อย่าเสียเวลา ๆ มีค่าเป็นเงินเป็นทอง

เหตุผล  เป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่   หากไร้เหตุผลก็รีบ ๆ  ให้หยุดพูดเสีย

ท่านพูดกันนี้   ไม่มีการพิจารณาจากหลักการ   ทฤษฎี   สูตร  แนวทางปฏิบัติที่เป็นวิทยาศาสตร์ มีเหตุมีผลอย่างไรเลย       

แล้วจะเป็นสภาอย่างไร  นอกจาก   สภาเด็ก ........

ผมไม่ได้เป็นสส.  สว. หรอกครับ  แต่ผมรู้อะไรอย่างคนผู้มีสิทธิ  1 คน 1 เสียง   นี่คือประชาธิปไตยไงครับ   ใครจะเก่งเกินคนประชาธิปไตยไปได้  

 รายงานจาก รัฐสภา 17 ก.ย.2552

สส.ปชป.  ล้วนแต่เป็นนักกฎหมาย   ส่วนมากเป็นนักกฎหมายระดับชำนาญเชี่ยวชาญ  เวลาพูดจึงมีเหตุผลดี  และน่าฟัง   เวลาโต้แย้งก็ดูเฉียบคม   ส่วนน้อยก็เป็นนักกฎหมายแม้มือใหม่แต่ก็ยังเฉียบคม    เพราะอ้างตัวบทกฎหมายได้ทุก ๆ ประเด็น   ในพรรคนี้ไม่ค่อยมีนักเศรษฐศาสตร์

นักกฎหมายเหล่านี้แหละที่ทำให้ชาติบ้านเมืองไทยล้าหลัง  ยากจน  และขณะนี้กำลังจะล่มจม   

เพราะนักกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์   ไม่รู้กฎหมาย   

ไม่รู้ว่ากฎหมายที่ท่าน ๆ อ้าง ๆ นั้น เป็นกฎหมายที่ล้าหลังอย่างไร ? 

ไม่รู้ว่ากฎหมายนั้น  เป็นเพียงเครื่องมืออย่างไร
หมายความว่ากฎหมายไม่ใช่นาย หรือเจ้าชีวิตของคุณ ๆ มีสิทธิ์เปลี่ยนมันได้ตลอดเวลา ถ้าเมื่อใดมันล้าสมัย ใช้ไม่ได้คุณก็ต้องเปลี่ยน เป็นเรื่องธรรมดาเลย

คุณอาจจะไม่เข้าใจ จะอธิบายไปอีกหน่อย

กฎหมายเหมือนรถยนต์นั่นแหละครับ    นาน ๆ ไปมันก็เก่า  ไม่ทันสมัย   ก็ต้องเปลี่ยนรถคันใหม่   ถ้าท่านไม่ยอมเปลี่ยน ก็เหมือน  ใช้รถเก่าใช้น้ำมันตราเต่า  นั่นแหละครับ   ต้องหาถนนวิ่งเอาเอง   เพราะเขาไม่ยอมให้ขึ้นถนนหลวง (แปลว่าตกยุคไง)

คุณรู้ไหมว่าโลกเทกโนโลยี เจริญเร็วเพราะอะไร

เพราะเขาเปลี่ยนเทกโนโลยีใหม่ได้เร็ว 

อย่างคอมพิวเตอร์นี่  บัดนี้  ไม่รู้ว่าเขาไปถึงเวอร์ชั่นไหนแล้ว 

ถ้าคุณไม่รู้จักเปลี่ยน  เพราะปัญญาไม่ทัน  คุณก็ใช้เวอร์ชั่นเก่า   แล้วมันจะไปทันโลกเขาอย่างไร

นี่แหละเหมือนกฎหมายเลย        ถ้าคุณใช้กฎหมายเวอร์ชั่นเก่าอยู่ตราบใด  มันก็ช้าล้าหลัง   นี่คือสิ่งที่เป็นข้อบกพร่องอย่างยิ่งของ นักกฎหมาย ปชป. ไม่รู้อีกหรือ

รัฐธรรมนูญก็คือกฎหมายไงครับ   แล้วทำไมจะแก้ไข  ปรับเปลี่ยนเวอร์ชั่นใหม่ที่ทันสมัยไม่ได้     ไม่แก้ให้โง่หรือไงครับ ในเมื่อเป็นกฎหมายตราเต่า  โลกล้านปี   (คือเปรียบกับ การรัฐประหารน่ะครับ   รัฐประหารคือความคิดไดโนเสา เต่าล้านปี  กฎหมายนี้เขียนขึ้นโดยคณะรัฐประหาร เต่าล้านปี  เขาลงมติกันอย่างนี้ทั้งแผ่นดิน ไม่เข้าใจหรือไง)

เป็นเวลานานมาแล้ว ที่นักกฎหมาย ปชป. รู้กฎหมายแต่ไม่เข้าใจกฎหมาย   เมื่อได้เป็นรัฐบาลทีไร   รัฐบาลนักกฎหมายเหล่านี้จึงพาชาติหยุดกับที่ ตามไปกับความเข้าใจกฎหมายที่ล้าหลัง   และยากจนทางเศรษฐกิจทุกครั้งทุกคราวมา ตามไปกับนิสัยนักคิดนักกฎหมายที่ล้าหลัง คร่ำครึ   ผลก็คือ ในรัฐบาลชวน ก็ไม่เคยรวย   นายชวนเองก็ยากจน  เพราะเหตุที่เป็นนักกฎหมายที่ล้าหลังนี่เอง   ก็สร้างหนี้ไว้ หลายบล้านล้านบาท    พอมาอีกทียุคอภิสิทธิ์  ก็เดินไปแบบครรลองนักกฎหมายล้าหลัง เหมือนรอยเดิม       เพราะนักกฎหมายแบบนี้ รู้กฎหมายเพื่อประโยชน์ทางการโต้วาทีในสภาเท่านั้นเอง    ไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ทางทำมาหากินอย่างไร

เพราะเป็นนักกฎหมาย ที่ไม่รู้กฎหมาย   

ไปยึดมั่น จดจำเข้าเส้นเลือดในกฎหมายตราเต่า โลกล้านปี  เสมอมาไม่เคยคิดแก้ไขเปลี่ยนแปลง

นี่คือการเปิดประเด็นของผม    นะครับ    อย่าหาว่าผมดูถูกเลย   ท่านเป็นนักกฎหมายแบบนี้  จนตลอดชาติ   รวยไม่มี 

ท่านบริหารประเทศด้วยหัวกฎหมายล้าหลัง  คร่ำครึ  แล้วยังไม่รู้ถึงความล้าหลังคร่ำครึของกฎหมายเลย เช่นนี้  ไม่รูจักจะพัฒนาการทางกฎหมายเลยเช่นนี้   สงสารประชาชน สงสารประเทศชาติ   เพราะนักกฎหมาย ปชป.เช่นนี้  ไม่เคยพาประชาชนไปสู่ความร่ำรวย    มีแต่ยากจนตลอดชาติ 

แม้ตัวเองก็ยากจนตลอดไป ครับ  

ลองทำตนให้ทันสมัยหน่อยเถิดน่า.....ประชาธิปัตย์     ....อย่าหาว่าผมสอนเลย..มีกฎหมายเมืองไทยอีกมากมายที่จะต้องแก้   รอพวกคุณอยู่ ....แต่คุณทึบขนาดนี้แล้ว    ก็ยากส์......

ผมอยากจะพูดเรื่องกฎหมายก้าวหน้า  สำหรับสังคมที่ร่ำรวย   แต่กลัวพวกคุณนักกฎหมายไทยจะฟังไม่รู้เรื่อง 

กฎหมายที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นลายลักษณ์อักษรหรอกครับ    ฉะนั้น  รัฐธรรมนูญที่ดี   ต้องสั้นนะครับ   ใส่ลงไปเฉพาะตัวกติกาที่เป็นหลัก ๆ ของระบอบที่เราต้องการ    ถ้าเราต้องการประชาธิปไตย  ก็เขียนหลัก ๆ ของประชาธิปไตยลงไป   ไม่กี่ข้อหรอกครับ    นอกนั้นให้เป็น  กฎหมายที่ไม่เป้ฯลายลักษณ์อักษร

แก้รัฐธรรมนูญเถอะครับ   แต่อย่าหวังว่าให้สมบูรณ์ 100 %    แต่ให้เป็นไปตามความเหมาะสม   และรัฐธรรมนูญไทยฉบับต่อไปควรให้มีสัก  20-50  มาตราก็พอ     คือเราต้องมีวิธีตัดสินใจครับ ว่าจะให้มีกี่มาตราถึงจะพอ   แต่โดยหลักการแล้ว  ต้องสั้น 

ผมว่าที่เสนอนี้   ท่านฟังไม่เข้าใจหรอก

แต่เป้าหมายของประชาชนในเรื่องกฎหมาย  หากเราต้องการประชาธิปไตยก็คือ   กฎหมายจะต้องเป็นประชาธิปไตย  กฎหมายเป้นของประชาชน

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประชาชนจะเขียนกฎหมายเอาเอง     
เมื่อประชาชนเขียนกฎหมายเอาเอง  นั่นหมายถึง  กฎหมายเป็นประชาธิปไตย   และนั่นแหละ ระบอบประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน   โดยแท้จริง   และประเทศเราเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง 

เพราะเราจะคิดอาศัยนักกฎหมายรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้หรอกครับ    พวกนี้เขียนกฎหมายไม่เป็น    มีแต่จำกฎหมายเป็น  และกฎหมายมีประโยชน์แค่เอามาโต้วาทีเท่านั้นเอง      ทำกฎหมายให้ชาติประชาชนร่ำรวยได้อย่างไรนี่  ทำไม่เป็น