ReadyPlanet.com
dot


เปิดโปงความเท็จของการโฆษณาชวนเชื่อ


เปิดโปงความเท็จของการโฆษณาชวนเชื่อ

 

 

 

 

เรียน บก.ดิฉัน  ได้พบประกาศชี้แจงกรณี

 

ซีทีเอ็กซ์  เห็นว่าเป็นประโยชน์มากจึงส่งข้อมูลมาให้  โอกาสหน้าจะนำความจริงมาเปิดเผยให้สาธารณชนได้ตาสว่างเสียที

 

 

ประกาศชี้แจงกรณีซีทีเอ็กซ์

 

หนังสือพิมพ์รายวันกรุงเทพธุรกิจ และนายจักรกฤษ เพิ่มพูน โดยตำแหน่งบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้

 

โฆษณา ใคร่ขอโทษ บริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด และนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือที่เรียกในข่าวว่า "เสี่ยเช" ที่ได้เสนอข่าวผิดพลาดเกินความจริง จนทำให้เกิดความเสียหายต่อกิจการ และชื่อเสียง จากการที่หนังสือพิมพ์รายวันกรุงเทพธุรกิจ และจากเว็บไซต์ www.bangkokbiznews.com/2005/special/ctx ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ได้ตีพิมพ์ข่าวและวิเคราะห์ข่าวในวันที่ 25 เมษายน 14 พฤษภาคม และ 16 พฤษภาคม 2548 เป็นต้น ได้ลงข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง อันเป็นความเข้าใจผิดและวิเคราะห์ข่าว หรือสรุปข่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

 

ได้ข้อเท็จจริง บริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาช่วงงานจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทั้งระบบ คือ บริษัท แพทริออท ไม่ใช่บริษัทนายหน้า รับงานมูลค่า 2,003 ล้านบาท และมูลค่าของเครื่อง CTX9000Dsi จำนวน 26 เครื่อง มีมูลค่า 1.43 พันล้านบาท หรือ 35.81 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานติดตั้งที่บริษัทแพทริออทได้รับงานเท่านั้น โดยมีบริษัทผู้รับเหมาช่วงอื่นรับงานระบบสายพานลำเลียงอีก 2,300 ล้านบาท รวมงานทั้ง 2 ระบบเป็นมูลค่างานรวมเป็นเงิน 4.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทแพทริออท จะได้ผลกำไรถึงกว่า 1,000 หรือ 2,000 ล้านบาท จากที่มีกำไรเพียง 3.15% ต่อเครื่อง หรือ 52 ล้านบาท ตามที่นายวรพจน์ หรือเสี่ยเช ได้ลงข่าวในวันที่ 11 มิถุนายน 2548

 

และจากการแปลเอกสารมีความคลาดเคลื่อนในการแปลเอกสารการสืบสวนของกระทรวงยุติธรรม สหรัฐ ที่สรุปว่า บริษัทอินวิชั่น มีความเป็นไปได้อย่างสูง มิใช่ยอมรับว่ามีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลในพรรคการเมืองของไทย ในการขายอุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิดภายในท่าอากาศยาน และยังแปลคลาดเคลื่อน คำว่า Distributor ที่แปลว่า ตัวแทน ผู้ค้าส่ง หรือผู้จัดจำหน่าย เป็นบริษัทนายหน้า ทำให้บริษัทแพทริออทกลายเป็นบริษัทนายหน้า ที่แปลว่าบุคคลผู้ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคล 2 ฝ่ายได้เข้าทำสัญญากัน ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2542 ต่างจากสถานะบริษัทแพทริออทเป็นผู้รับเหมาช่วง ซึ่งจะต้องดูแลรับผิดชอบจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดทั้งระบบ

 

ทั้งนี้ การวิเคราะห์หรือสรุปข่าวว่าบริษัทแพทริออท และนายวรพจน์ หรือเสี่ยเช เป็นบริษัทนายหน้าที่ให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลในพรรคการเมืองของไทยนั้น เป็นเสมือนการพิพากษาบริษัท แพทริออท และนายวรพจน์เป็นจำเลยสังคม ซึ่งนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือเสี่ยเช ได้ยืนยันในการเสวนาที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2548 และกับคณะกรรมการสืบสวนคดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ทุกคณะ ว่า ไม่ได้เป็นคนจ่ายสินบน และไม่ชอบการจ่ายสินบน ประกอบการธุรกิจด้วยความสุจริต

 

              โดยข้อเท็จจริงจำต้องนำสืบข้อมูลและพยาน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล ว่า ข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ที่สรุปว่า บริษัทอินวิชั่นมีความเป็นไปได้อย่างสูงว่า มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลในพรรคการเมืองของไทย มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทแพทริออท และนายวรพจน์หรือไม่

 

              จากข่าวผิดพลาดเกินความเป็นจริง จนทำให้เกิดความเสียหายต่อกิจการและชื่อเสียงของความที่กล่าวข้างต้นนั้น จึงใคร่ขอโทษบริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด และนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือที่เรียกในข่าวว่า "เสี่ยเช" และ  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและบรรณาธิการ จึงขอแสดงความรับผิดชอบในการแก้ข่าวเผยแพร่ข้อเท็จจริง   ที่มา เอกสารแนบท้าย บันทึกข้อตกลง คดีหมายเลขดำที่ 2775/2548

 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ กระจกเงา :: วันที่ลงประกาศ 2008-11-14 19:28:27


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1384236)
ขอขขอบคุณกระจกเงาเป็นอย่างยิ่ง  อยากขอร้องให้ขยายความเรื่องนี้ออกไปอีกสักหน่อย  เพราะเรื่องนี้เป้นเรื่องใหญ่ มีความหมายมางการเมืองยุคนั้นอย่างมาก  แต่บัดนี้ ทำให้เข้าใจว่าเกิดความเข้าใจผิด และศาลยืนยัน แต่ยังดูว่าต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมสักหน่อย  ขอได้นำเสนอรายละเอียดด้วย จะขอขอบคุณอย่างสูง  เราเห็นด้วยว่าเรื่องนี้เป็ฯเรื่องตัวอย่างที่สังคมควรต้องให้ความสนใจ
ผู้แสดงความคิดเห็น บก. (newworld_believe-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-15 19:03:10


ความคิดเห็นที่ 2 (1386819)

วันจันทร์, มกราคม 15, 2007

โดย คุณหนูเอง   ที่มา เวปประชาไท  วันที่ 15 มกราคม 2550
        แหล่งข่าวจากกระทรวงฯ แฉในเน็ต โดยกล่าวว่า คตส.มั่วข้อมูลเรื่องซีทีเอ๊กซ์ สืบค้นข้อมูลมาสี่เดือน หาความผิดปรกติอะไรไม่พบ เตรียมเดินเกมกลบเกลื่อน บีบหน่วยงานรัฐฟ้องกันเองแล้วเผ่น
คนในกระทรวงทนไม่ไหว สื่อฯและคนไทยชั่วๆ บางคน สร้างความปั่นป่วน
      ข้าราชการกระทรวงแห่งหนึ่ง ใช้นามว่า "คุณหนูเอง" สุดทนกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น จนต้องออกมาแฉเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องซีทีเอ๊กซ์ หรือเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ที่สื่อชั่วๆ และคนไทยเลวๆ บางคนพยายามตีแผ่ สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นแก่สังคม สุดท้ายสร้างเงื่อนไข จนก่อให้เกิดการยึดอำนาจและทำรัฐประหารในท้ายที่สุด
อธิบายอย่างสรุป ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากกระทรวงฯ
     แหล่งข่าวอธิบายด้วยการปูเรื่องดังกล่าว ด้วยการอธิบายแบ่งเป็น 6 ข้อดังนี้: -
     1. สัญญาที่มีถูกกล่าวหาไม่ใช่สัญญาซื้อซีทีเอ๊กซ์ แต่เป็นสัญญาจ้างทำระบบสายพานพร้อมติดตั้งเครื่องตรวจสอบระเบิด โดย CTX 9000 เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งภายในระบบ (เหมือนสร้างบ้าน แล้วเครื่องแอร์เป็นองค์ประกอบหนึ่ง)
     2. ปัญหาของบริษัท อินวิชั่น กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เกิดเพราะบริษัทไม่มีระบบตรวจสอบภายใน เป็นที่เชื่อว่า อาจมีการเตรียมงบประมาณเพื่อให้เงินตอบแทนฝ่ายไทย แต่สุดท้ายอัยการสูงสุดไทยส่งเรื่องไปถามต่อกระทรวงยุติธรรม ประเทศสหรัฐฯ และได้คำตอบกลับมาว่า "ไม่พบมีการให้สินบนใดๆ เกิดขึ้น"
     3. เรื่องนี้ถูกจับเป็นเรื่องการเมือง เพราะฝ่ายค้านหลงเข้าใจผิด คิดว่าอิตาเลียนไทย (ITO) ผู้รับเหมาซื้อซีทีเอ๊กซ์ 26 ตัวในราคา 1,504 ล้าน แต่กลับมาขายแพงโก่งราคากินส่วนต่างให้บทม. ถึง 2,608 ล้านบาท แต่ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนเงิน 2,608 ล้านบาทกลับกลายเป็นราคาระบบสายพานทั้งระบบ โดยแหล่งข่าวอธิบายเปรียบว่า "เหมือนบอกผู้รับเหมาซื้อแอร์ราคา 1,504 บาท ทำไมมาคิดเจ้าของตั้ง 2,608 บาท ทั้งที่ความจริง 2,608 บาท คือ ราคาตัวบ้านทั้งหมด"
    4. ต่อมากระทรวงยุติธรรมและบริษัทจีอีอินวิชั่น ได้ประณีประนอมยุติคดี โดยตกลงว่า จีอีอินวิชั่นจะไม่ยอมขาย CTX แก่เอกชน จะขายตรงให้แก่หน่วยราชการไทยเท่านั้น คือ บทม.
  5. ITO ซึ่งเป็นผู้รับเหมา ประสบปัญหาซี้อ CTX ไม่ได้ ก็ขอให้ผู้ว่าจ้างช่วย เพราะผู้ขายบอกว่าจะขายแก่ บทม. เท่านั้น
6. บทม. มีทางเลือก ๓ ทาง คือ
     - เพิกเฉยต่อคำขอ ทำให้ผู้รับเหมา ITO ไม่สามารถซื้อ CTX ได้ตามสัญญา เมื่อถีงวันส่งงานระบบสายพาน ส่งไม่ได้ ก็ปรับ ITO และยกเลิกสัญญา แล้ว หาผู้รับเหมาใหม่มาทำต่อ (หมายเหตุ เลิกสัญญาทันทีไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงกำหนดส่งระบบสายพาน และ ITO ยังไม่ได้ผิดสัญญา ผลคือ งานก่อสร้างอื่นๆที่เกี่ยวพันกันจำนวนมากทำต่อไม่ได้ สนามบินจะเสร็จล่าช้าเป็นปีๆ)
      - เปลี่ยนยี่ห้อเครื่องตรวจจับระเบิดใหม่ (เปลี่ยนแอร์) สมัยนั้นมีเพียง 2 ยี่ห้อ คือ ของ INVISION กับของ L3 บทม.พิจารณาแล้ว ทำไม่ได้ เพราะโครงสร้างรองรับ รวมทั้งขนาดสายพานทางเข้าทางออก ผู้รับเหมาได้สร้างตามเสปค CTX ไปหมดแล้ว พื้นที่ก็จำกัด จึงทำตามเสปคของ L3 ไม่ได้
      - บทม.ยอมช่วยเหลือ ITO เป็นการแก้ไขปัญหา แทนที่จะลอยตัวปล่อยให้งานล่าช้าจนเปิดสนามบินตามกำหนดไมได้ (ความเสียหายต่อประเทศจะมากกว่าจนเทียบกันไม่ได้) โดย บทม.ช่วยเป็นผู้สั่งซื้อ CTX ให้ แต่ ITOต้องยอมทำสัญญากับ บทม.ว่า ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อการติดตั้ง การเชื่อมระบบ และถ้าเกิดมีความล่าช้า ก็ยังต้องรับผิดชอบเหมือนเดิม
ยังมีต่อ
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2008-11-23 01:07:43


ความคิดเห็นที่ 3 (1386820)
คตส.หาจุดผิดที่เคยโดนสื่อและฝ่ายค้านหลอกไม่เจอ สุดท้ายจะหาเรื่องรังแก คนดีและคนทำงาน
ด้วยความเป็นธรรม ถ้าท่านอยากให้บ้านเสร็จทันเวลาเข้าไปอยู่ ท่านจะไม่เลือกวิธี ๓ หรือ? ข้อกล่าวหาปัจจุบันกลับไม่ใช่เรื่องความต่างของราคา เพราะตรวจตัวเลขและสัญญา ก็รู้ทันทีว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด เอาราคาค่าจ้างทั้งระบบไปเปรียบเทียบกับราคาอุปกรณ์เดียว แต่กลับไปกล่าวหาเรื่องอื่น ดังนี้ : -
     (๑) ทำไมต้องเปลี่ยนจากระบบ x-ray ธรรมดาเป็นระบบ inline-screening (คือกระเป๋าถูกตรวจระหว่างเดินผ่านสายพานโดยอัตโนมัติ) ซึ่งเป็น requirement ของ ICAO (องค์การการบินพลเรือนระหว่างชาติ)
    (๒) ทำไมไปทำสัญญาอำพราง เพื่อช่วย ITO ในการซื้อตรง ทั้งที่เป็นแค่ซื้อในนาม (เหตุผลง่ายๆ คือ เป็นการแก้ไขปัญหาโดยเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง)
ที่กล่าวหาว่าเป็นนิติกรรมอำพราง อำพรางอะไร หรือว่ากล่าวหามั่ว
    - คตส. ชี้ข้อมูลซื้อตรงที่ บทม. ช่วย ITO ซึ้อให้ ว่า เป็นนิติกรรมอำพราง คำว่าอำพราง หมายความว่าอะไรคะ หมายความว่า หลอกคนอื่นใช่ไม้คะ อำพรางใครคะ? อำพรางคนไทยด้วยกัน ก็ไม่ได้อำพรางอะไร เพราะทำอย่างเปิดเผย ทุกคนก็รู้ว่า บทม. ช่วยซื้อให้แต่ในนาม เพื่อผูกมัดให้ ITO ต้องรับผิดชอบในการติดตั้ง การเชื่อมระบบ การใช้งานทุกอย่างเหมือนเดิม เรื่องนี้ ก็ไม่ได้ทำกันเป็นความลับอะไร
  - อำพรางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้อำพราง เพราะในสัญญาที่ บทม. ทำกับจีอีอินวิชั่น บอกไว้อย่างชัดเจนว่า บทม. จะชำระเงินให้จีอีอินวิชั่น ผ่านทาง Main Contractor คือ ITO ซึ่งจีอีอินวิชั่นจะต้องนำไปแสดงต่อกระทรวงยุติธรรม สหรัฐฯเขาก็รู้ deal นี้ ทุกประการ ถ้าเขาไม่เห็นด้วย เขาก็ต้องระงับการส่งสินค้าแล้ว เพราะ CTX จัดเป็นสินค้า security การขาย จะต้องให้รัฐบาลเขาอนุมัติ

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2008-11-23 01:14:18


ความคิดเห็นที่ 4 (1386821)

เสียงสะท้อนจากใจข้าราชการในกระทรวง...

พวกปั่นเรื่องไม่ดูสถานการณ์ อ้าง"แล้วที่บอกซื้อตรงทำไมราคาไม่ถูกลง"
      คำตอบคือ สัญญาที่ บทม. ทำกับ ITO เป็นสัญญาจ้างทำระบบ ซึ่งรวม CTX อยู่ด้วย ราคาทั้งระบบเป็น lumped sum เหมือนเราสร้างบ้าน เจ้าของอยากได้แอร์ยี่ห้อหนึ่ง บอกผู้รับเหมาว่า ให้คิดราคาทั้งหมด ซึ่งมีรายการของแอร์ยี่ห้อดังนี้ด้วย ผู้รับเหมาก็คิดราคามา รวมราคาแอร์ยี่ห้อนี้เข้าไป เจ้าของตรวจสอบแล้ว ก็ตกลงตามราคาเหมา ซึ่งรวมแอร์ตัวดังอยู่ด้วย วันดีคืนดี ผู้รับเหมาไปมีปัญหากับตัวแทนที่ขายแอร์ เจ้าของแอร์ชื่อดังก็ตัดตัวแทนที่ขายแอร์ออกไป และบอกกับผู้รับเหมาว่า อั๊วไม่ขายให้ผู้รับเหมาแล้ว โครงการนี้ ถ้าอยากซื้อต้องให้เจ้าของบ้านเป็นคนมาซื้อเอง ในราคาเดิม เจ้าของแอร์ก็วิ่งไปบอกเจ้าของบ้านว่า แอร์ยี่ห้อดังนี้ มันไม่ยอมขาย มันบอกถ้าจะซื้อ เจ้าของต้องไปซื้อเอง และจะขายในราคาเดิมเท่านั้น
     เจ้าของบ้าน มีทางเลือก 3 ทาง คือ
(1) บอกกับผู้รับเหมาว่า เป็นเรื่องของเอ็ง ถ้าเองหาแอร์ตัวดังให้ข้าตามสัญญาไม่ได้ ฉ้นจะเลิกสัญญากับแก และจะปรับตามสัญญา ถ้าเจ้าของบ้านเลือกทางนี้ ก็ต้องรออีกหลายเดือน จนครบกำหนดส่งบ้านตามสัญญา ถึงเลิกสัญญาได้ และให้คนอื่นมาทำได้ อ้าว.. แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนเนี่ย บ้านก็กำลังถูกไล่ ทางเลือกนี้จึงไม่มีผลดี
(2) ให้ผู้รับเหมา ไปหาแอร์ยี่ห้ออื่น ยี่ห้อดังเทียบเท่ามีอีกยี่ห้อเดียว แต่ขนาด วิธีการติดตั้ง สายน้ำเข้าออก มันต่างกันโดยสิ้นเชิง ผู้รับเหมาเขาทำส่วนรองรับไปหมดแล้ว เอาสิ ถ้าเลือกวิธีนี้ ก็ต้องรื้อแล้ว ทำใหม่หมด แล้วใครจะรับผิดชอบละ ในเมื่อเจ้าของบ้านยินยอมให้เปลี่ยนยี่ห้อแอร์ได้ รับรองทางเลือกนี้ บ้านไม่เสร็จทันกำหนดแน่
(3) ช่วยผู้รับเหมา โดยให้ยืมชื่อไปซื้อแอร์ยี่ห้อดัง ยอมลงนามในสัญญาซื้อตรงกับเจ้าของแอร์ โดยให้ผู้รับเหมาจ่ายตังค์ให้ เจ้าของแอร์เขาก็รู้นี่ ว่าใครจ่ายตังค์ ก็ไม่เห็นเขาโวยวายอะไรว่า หลอกกันนี่ เจ้าของบ้านรอบคอบ บอกกัยผู้รับเหมาให้มาทำสัญญาอีกฉบับนะ ว่า ถ้าฉันซื้อให้แก แล้วแกก็ยังมีหน้าที่รับผิดชอบติดตั้ง ต่อสายไฟสายน้ำ และถ้ามีปัญหา หรือ ล่าช้า จะนำการซื้อตรงมาเป็นข้ออ้างไม่ได้นะ ผู้รับเหมาตกลง

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณหนู วันที่ตอบ 2008-11-23 01:21:53


ความคิดเห็นที่ 5 (1386822)
     ถ้าเป็นคุณ ที่ต้องการให้บ้านเสร็จทันกำหนด คุณจะเลือกทางไหนหรือ ส่วนราคาทำไมไม่ลดลง เพราะในสถานการณ์ขณะนั้น คนขายมี power มากกว่าคนซื้อ เขาไม่ขายแพงกว่าเดิม ก็ถือว่าบุณหนักหนาแล้ว แล้วอย่างนี้ คุณจะว่า เจ้าของบ้านทำนิติกรรมอำพรางหรือไม่?
เทียบราคาซื้อของไทยและจีน

   - ถ้าเทียบราคาของเครื่อง CTX ที่ประเทศไทยซื้อ กับที่ประเทศจีนซื้อ ตามที่ปรากฏในเอกสารของกระทรวงยุติธรรม(รูปใน คห 1 ในกระทู้พันทิพย์)
   - ประเทศจีน ซื้อ เครื่อง CTX9000 จากอินวิชั่น 2 ตัว ราคา 2.8 ล้านหรียญ หรือราคาตัวละ 1.400 ล้านเหรียญ
   - ประเทศไทย ซึ้อ เครื่อง CTX9000 จากอินวิชั้น 26 ตัว ราคา 35.8 ล้านหรียญ หรือราคาตัวละ 1.376 ล้านเหรียญ
     - ไทยซื้อ CTX 9000 ถูกกว่า ที่จีนซื้อ เป็นส่วนต่างเท่ากับ 0.634 ล้านเหรียญ = 25 ล้านบาท
สรุปสุดท้าย การเมืองของฝ่ายค้านและพันธมิตรฯทำให้บ้านเมืองพัง
      อย่างที่หนูเองบอก ประเด็นที่ทำให้พรรคฝ่ายค้านตาลุกวาว คือ คิดว่า ITO (ผ่านทางผู้รับเหมาย่อย คือ Patriot) ซิ้อ CTX 26 ตัวราคา 35.8 ล้านเหรียญ หรือ 1,504 ล้านบาท แล้วทำไมมาขาย บทม. ถึง 2,608 ล้านบาท ทำไมกำไรมากมายก่ายกองอย่างนี้ แล้วเอาส่วนต่างไปให้ใครหรือเปล่า ทั้งที่ 2,608 ล้านบาท เป็นราคาของระบบสายพานทั้งระบบ
     เรื่องนี้ที่หนูเองทนไม่ได้ จึงต้องนำมาอธิบายอีกครั้ง เพราะอยู่กระทรวง ถึงไม่มีส่วนเกียวข้อง แต่ก็มีโอกาสได้ติดตามข้อมูล และรู้สึกว่า ฝ่ายที่ถูกชี้มูล ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งยวด ไม่เคยเห็นความไม่เป็นธรรมแช่นนี้มาก่อน เพราะสังคมถูกปั่นหัวโดยไม่มีข้อเท็จจริงว่า พอพูดถึง CTX คือ การโกงระดับชาติ
     สาธารณชนลองคิดดู ถ้าผิดเต็มตาอย่างที่ว่า ข้อมูลทุกอย่างก็อยู่ในอำนาจของคมช. หาได้หมด ทำไมยังใช้เวลาตั้งสามสี่เดือน แล้วเมื่อผิดหวัง ก็หาทางออก โดยการชึ้มูลด้วยการเหวี่ยงแหไปก่อน อย่างที่ท่านรองอัยการสูงสุดร้องหาความยุติธรรมดังกล่าว ทั้งๆ ที่ท่านเป็นนักกฏหมายมือฉมังในประเทศไทยเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนดีคนเดิม วันที่ตอบ 2008-11-23 01:32:16


ความคิดเห็นที่ 6 (1386823)
เรื่องนี้อ่านเพิ่มเติม : ที่
http://www.sec.gov/litigation/complaints/comp19078.pdf
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5048375/P5048375.html
ผู้แสดงความคิดเห็น คนตรง วันที่ตอบ 2008-11-23 01:38:06


ความคิดเห็นที่ 7 (1386824)
อ่านเพิ่มเติม :
http://www.sec.gov/litigation/complaints/comp19078.pdf
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5048375/P5048375.html
ผู้แสดงความคิดเห็น คนตรง วันที่ตอบ 2008-11-23 01:49:57


ความคิดเห็นที่ 8 (1388356)
3ELANE L. MORRISON (Cal. Bar No. 127752)
LOBERT L. MITCHELL (Cal. Bar No. 161 354)
L. DAVIS (cal. BX NO. 184129)
rRAcY
LOBERT L. TASHJIAN (Cal. Bar No. 191007)
ittomeys for Plaintiff
;ECURITIES AND EXCHANGE COMMISSION
I4 Monteomerv Street. Suite 2600
;an ~ran&xo,"~alifo&ia 941 04
relephone: (41 5) 705-2500
"acsimile: (41 5) 705-2501
UNITED STATES DISTRICT COURT
NORTHERN DISTRICT OF CALIFORNIA
SAN FRANCISCO DIVISION
C
jECURITIES AND EXCHANGE COMMISSION,
Plaintiff.
ผู้แสดงความคิดเห็น mrs.true วันที่ตอบ 2008-11-26 18:53:58


ความคิดเห็นที่ 9 (2072559)

 ปัญหาราคาแอร์แบบนี้ก็มีหรอเนี่ย น่าปวดหัวจัง

ผู้แสดงความคิดเห็น เค วันที่ตอบ 2011-04-30 21:24:37



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.