ReadyPlanet.com
dot


กองทัพในสายตาประชาชน


 

        อธิปไตยเคยเกริกเกียรติคู่กองทัพ         ต้องมาดับด้วยอำมาตย์มากตัณหา

เหล่าเสนาอำมาตย์หิวเงินตรา                          ต่างวิ่งหาลาภยศหมดความดี

เป็นขุนพลเพราะน้ำลายน่าอายนัก                 พร่ำแต่คำว่าจงรักกว่าทุกสี

หน้าที่ตัวเป็นรั้วประชาชี                                   กับราวีเข่นฆ่าประชาชน

        ปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจ                      ทั้งอ่อนด้อยความสามารถช่างน่าหัว

คิดจะครองประเทศหลงเมามัว                        ไม่รู้ตัวว่าโง่เง่าเขานินทา

มีชายชาญทหารกล้ารักประเทศ                      กลับหาเหตุใส่ ร้ายไอ้บาปหนา

หมดสมัยกลับกลอกหลอกประชา                   นับเวลาถอยหลังล้างอธรรม

         ขอเพื่อนพ้องมาร่วมใจไล่อำมาตย์         ร่วมสร้างชาติอธิปไตยให้ เข้มแข็ง

พัฒนาเศรษฐกิจไทยให้แข็งแรง                     ทุกหนแห่งมีโอกาสเท่ เทียมกัน

อำนาจรัฐมาจากเสียงปวงชน                           ก่อมรรคผลนำชาติไทยให้ไพศาล       

เคียงคู่พระสัทธรรมยิ่งยืนนาน                         ราษฎร์สุขศานติ์รัฐดำรงมั่นคงเอย



ผู้ตั้งกระทู้ กระจกเงา :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-01 23:03:38


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2021080)

โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
28 มกราคม 2553

ขบวนการคนเสื้อแดงเป็นขบวนการมวลชนเพื่อประชาธิปไตยแท้ สิ่งนี้พวกเราไม่ควรลืม

ขบวนการมวลชนเสื้อแดงประกอบไปด้วยชาวบ้านชาวเมืองทุกวัย ส่วนใหญ่เป็นคนจนมากกว่าที่จะเป็นคนชั้นกลางหรือคนรวย เราต่อสู้เพื่อล้มอำมาตย์ เพราะอำมาตย์เป็นพวกอภิสิทธิ์ชนที่ใช้ความรุนแรงในการปล้นประชาธิปไตย และความเป็นธรรมทางสังคมจากพลเมืองไทย อำมาตย์มีความสุขกับความเหลื่อมล้ำและการใช้เส้นใช้สายกอบโกยผลประโยชน์ พวกเราออกมาเคลื่อนไหวเพราะเราเริ่มเข้าใจว่าถ้าเราไม่ออกมาสู้ หรือถ้าเราปล่อยให้คนไม่กี่คนสู้ เราจะไม่ชนะและเราจะเป็นทาส

ฝ่ายอำมาตย์และกองเชียร์ของอำมาตย์ในหมู่ชนชั้นกลาง ซึ่งอ้างว่าตัวเองฉลาดมีการศึกษา ย่อมดูถูกประชาชนเป็นธรรมดาว่า “โง่” “เข้าไม่ถึงข้อมูล” “ไม่เข้าใจประชาธิปไตย” “ทำอะไรเองไม่ได้” หรือมีการป้ายร้ายว่า “ถูกทักษิณซื้อ”

คนเสื้อแดงจำนวนมากรักทักษิณ แต่รักด้วยเหตุผลเพราะ ทักษิณ เป็นนายกคนแรกที่เอาใจใส่ชีวิตคนจน ความรักนี้มีเหตุผลมากกว่าการรักอำมาตย์ หลายเท่า เพราะ อำมาตย์ ไม่เคยทำอะไรให้พลเมืองส่วนใหญ่ มีแต่การเข้าข้างทหารเผด็จการ และการสอนให้คนจนอยู่อย่างสงบท่ามกลางความยากจนในขณะที่ตัวเองและครอบครัวร่ำรวยมหาศาล

สรุปแล้วขบวนการคนเสื้อแดงเป็นขบวนการของ “คนดีคนธรรมดาของสังคม” เราเชื่อมั่นว่ามวลชนปลดแอกตนเองได้ เพราะเราไม่ใช่วัวหรือควาย เราไม่ต้องรอให้คนอื่นมาปลดแอกเรา

พลเมืองไทยเจ็บปวดมานาน ตั้งแต่รัฐประหาร ๑๙ กันยา และการเบ่งอำนาจของอำมาตย์ อำมาตย์และพันธมารฯ ใช้ทุกวิธีทางเลวทรามที่จะทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเรา และแน่นอนปัญหาใหญ่ที่เผชิญหน้าเราทุกวันคือ เราจะล้มอำมาตย์อย่างไร

ในการต่อสู้ทุกยุคทุกสมัยมีการถกเถียงเรื่องแนวทาง มีการเดินหน้าและถอยหลัง บ่อยครั้งท่ามกลางการถกเถียงเราอาจได้ยินคนเสนอว่า “วิธีการไม่สำคัญ ขอให้ได้ผลก็แล้วกัน” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “the end justifies the means”

แต่ความคิดแบบนี้เป็นความคิดที่ผิดพลาดมหาศาล เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง วิธีที่เราใช้ในการต่อสู้มีสายใยผูกพันกับผลเสมอ ไม่แตกต่างจากการขึ้นรถไฟ ถ้าขึ้นรถไฟไปหาดใหญ่ เราไม่มีวันไปถึงเชียงใหม่ได้ มันคนละทาง

ถ้าเราชาวเสื้อแดงต้องการประชาธิปไตยแท้ที่ไม่มีอำมาตย์ ไม่มีผู้ใหญ่ที่ใช้เส้นสาย ถ้าเราต้องการสังคมที่เคารพพลเมืองทุกคน และมองว่าพลเมืองจำนวนมากที่ยากจนต้องมีส่วนร่วม เพื่อกำจัดความเหลื่อมล้ำ และเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ เราไม่สามารถใช้วิธีการเดียวกับอำมาตย์ในการต่อสู้ได้ เราต้องใช้วิธีประชาธิปไตย

วิธีประชาธิปไตย ไม่ได้แตกต่างจากวิธีของอำมาตย์ในเรื่องความรุนแรง ความดุเดือด ความเข้มข้น หรือความกล้าหาญแต่อย่างใด แต่จะแตกต่างในแง่ของวิธีการใช้สิ่งเหล่านั้น วิธีอำมาตย์งอกมาจากผลประโยชน์ของคนชั้นสูงซึ่งเป็นคนส่วนน้อย เขาเลยใช้ความรุนแรงของกองกำลังคนส่วนน้อยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา (ทหารนั้นเอง) นอกจากนี้เขาใช้อำนาจเงินและอำนาจการเมืองเพื่อควบคุมสื่อและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทั้งหมดกระทำไปโดยไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ไม่มีสิทธิเสรีภาพ และไม่มีส่วนร่วม เวลาเขาใช้ม็อบก็เป็นม็อบคนชั้นกลางหรือม็อบรับจ้าง

แนวคิดของอำมาตย์ย่อมเป็นแนวที่กำหนดจากเบื้องบนและสั่งลงมา และมักเป็นเรื่องหลอกลวงเพราะอำมาตย์เป็นคนส่วนน้อยที่อยากจะหลอกคนส่วนใหญ่เนื่องจากผลประโยชน์เขาขัดกับคนส่วนใหญ่เสมอ นั้นคือวิธีการของอำมาตย์ ผลคือการครองอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจของคนส่วนน้อยที่กดขี่ขูดรีดคนส่วนใหญ่

วิธีการประชาธิปไตย เน้นเสรีภาพ ความโปร่งใส การถกเถียงแลกเปลี่ยนด้วยปัญญา และที่สำคัญที่สุดคือมีการรวมตัวกันของมวลชนจำนวนมาก เป็นแสนเป็นล้าน ด้วยความสมัครใจ ในไทยมีการต่อสู้แบบประชาธิปไตยประชาชนในช่วง ๒๔๗๕, ๑๔ ตุลา และพฤษภา๓๕ ตรงนี้ชัดเจน เพราะมวลชนพลเมืองธรรมดาออกมาสู้อย่างที่เห็นได้ชัด และเป้าหมายก็ชัดคือ ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ

การต่อสู้ในช่วงพฤษภา ๓๕ ยังทำให้นักการเมืองไทยรักไทยเข้าใจอีกว่าเขาต้องมองคนจนในมิติใหม่ คือการเป็นผู้ร่วมพัฒนาประเทศ แม้แต่การต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยก็เป็นวิธีการแบบประชาธิปไตยในหลายแง่มุม เพราะมีการให้ความสำคัญกับมวลชน และมีเป้าหมายเพื่อโค่นอำมาตย์และลดความเหลื่อมล้ำ

เวลาอำมาตย์ใช้กองกำลังและอาวุธ มันเป็นการกระทำของคนส่วนน้อย มันดูเหมือนมีระเบียบวินัย เพราะเป็นการกระทำของกองทัพภายใต้คำสั่งของผู้ใหญ่ รถถังออกมา ทหารออกมา และกราดยิงประชาชน สื่อก็ร่วมด่าประชาชน ฯลฯ แต่เวลาประชาชนใช้กองกำลังและอาวุธในวิธีประชาธิปไตย มันวุ่นวาย มันมีชีวิต มันมีความหลากหลายและเสรีภาพ

ลองนึกภาพคนเสื้อแดงยึดรถถังเมื่อปีที่แล้ว ลองนึกภาพการบุกเข้าไปในการประชุมที่พัทยา ลองนึกภาพการไปด่าประท้วงอภิสิทธิ์หรือคนอื่นในจังหวัดต่างๆ เราจะเห็นความต่าง การปฏิวัติของประชาชนจะเป็นแบบนี้ แต่มันมีพลังมหาศาล เพราะมวลชนเรามากกว่าและเราครองใจคนส่วนใหญ่ได้ ในสถานการณ์แบบนี้พี่น้องทหารและตำรวจระดับล่างจะมีความมั่นใจและจะเปลี่ยนข้างมาอยู่ฝ่ายเรา แต่ที่สำคัญคือประชาชนจะนำทหาร ไม่ใช่ทหารนำประชาชน และจะมีการต่อสู้ภายใต้อุดมการณ์

วิธีการต่อสู้แบบประชาธิปไตย เป็นวิธีการที่กระทำภายใต้อุดมการณ์แห่งเสรีภาพและความเป็นธรรม มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในสังคม ไม่ใช่เปลี่ยนจากอำมาตย์ “ก” ไปสู่อำมาตย์ “ข” และเพื่อรับประกันว่าจะเกิดประชาธิปไตยจริง มวลชนจำนวนมากต้องมีส่วนในการนำ ในการเคลื่อนไหว และในการเป็น “เจ้าของ” การต่อสู้ ไม่ใช่ปล่อยให้คนหยิบมือเดียวทำให้แทน

นี่คือสาเหตุที่วิธี “ก่อการร้าย” เช่นการวางระเบิด การลอบยิง ฯลฯ เป็นวิธีการที่สวนทางกับวิธีประชาธิปไตย ยิ่งกว่านั้นการก่อการร้ายนำไปสู่การปราบปรามอย่าง***มโหดโดยอำมาตย์ จุดจบคือขบวนการประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถูกทำลาย มันมีบทเรียนจากหลายๆ ประเทศเช่น ญี่ปุ่น อิตาลี่ ปาเลสไตน์ ฯลฯ

วิธีการ “ก่อการร้าย” เป็นหนึ่งในแนวทางของคนที่จะหาทางลัดท่ามกลางการต่อสู้ที่ยากลำบาก แต่ทางลัดนี้เปรียบเสมือนทางเข้าซอยเล็กๆ ในกรุงเทพฯ ที่จบลงด้วยทางตัน ในขณะนี้คนเสื้อแดงบางส่วนกำลังหาทางลัดแบบนี้ เพราะไม่มั่นใจในการนำของแกนนำเสื้อแดง และมองไม่ออกว่าจะชนะอย่างไร

ผมเองและคนเสื้อแดงหลายกลุ่มหลายคน มองว่าเราต้องสู้เพื่อระบบประชาธิปไตยที่ไม่เหลือซากอำมาตย์ เราต้องตัดอำนาจกองทัพ และเราต้องใช้มวลชนในการกดดันต่อสู้และยึดอำนาจ แกนนำสามเกลออาจมองต่างมุมบ้าง แต่สามเกลอก็มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย เขามีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้มีการสร้างมวลชนเสื้อแดงแต่แรก และเวลาเขาเคลื่อนไหวเขาจะเน้นมวลชน

แต่ปัญหาคือในขบวนการเสื้อแดงมีคนที่หาทางลัดที่เป็นทางตัน เขาเชิดชูทหารอันธพาล อย่าง เสธ.แดง หรือ พัลลภ ปิ่นมณี ซึ่งเป็นคนที่ไม่เคยแสดงอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่เคยเสนอว่าเราต้องมีสวัสดิการเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ไม่เคยพูดถึงการปฏิรูปสังคมอย่างจริงจัง ไม่เคยต่อต้านระบบอำมาตย์ และแถมมีประวัติในการเป็นอันธพาลหรือในการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยการฆ่าประชาชน(ในกรณีพัลลภ ปิ่นมณี)

คนเหล่านี้ โดยเฉพาะ เสธ.แดง ใช้วิธีการของกองกำลังลับๆ ที่มีส่วนคล้ายการก่อการร้าย พวกเราฟังเขาพูดแล้วอาจ “มัน” ฟังเสียงระเบิดแล้วอาจ “สะใจ” แต่หลังจากที่ควันระเบิดจางหายไป เราจะพบว่าเป้าหมายประชาธิปไตยแท้ไม่ได้มาถึงแต่อย่างใด เพียงแต่มีคนบาดเจ็บตาย ร้ายสุดก็กลายเป็นข้ออ้างในการปราบคนเสื้อแดง และดีที่สุดก็แค่มีการเปลี่ยนบุคลากรข้างบน โดยที่โครงสร้างสังคมไม่ได้เปลี่ยนเลย ที่เอ่ยถึงชื่อ เสธ. แดงในครั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าผมเห็นด้วยกับการที่อำมาตย์จะกลั่นแกล้งเขาด้วยกฎหมายสองมาตรฐานแต่อย่างใด แต่เพื่อเสนอว่าเราไม่ควรเดินตามแนวของเขาต่างหาก เพราะมันเป็นทางตันที่จะจบด้วยโศกนาฏกรรม

คนเสื้อแดงบางส่วนเลือกทางลัดที่เป็นทางตันในรูปแบบนักการเมืองอันธพาลด้วย นักการเมืองพวกนี้ถูกเลือกมาเพราะบางคนคิดว่าหัวแข็ง ปากจัด ไม่กลัวใคร แต่นั้นเป็นคุณสมบัติเพียงพอจริงหรือ? การเลือกคุณสมัครมาเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งๆ ที่คุณสมัครเคยรับใช้เผด็จการและมีส่วนในเหตุการณ์นองเลือด ๖ ตุลา มีปัญหา แย่กว่านั้นการทำงานร่วมกับนักการเมืองอันธพาลแบบ เฉลิม อยู่บำรุง ก็มีปัญหามาก มันไม่ช่วยให้ประชาธิปไตยเกิดเร็วขึ้นแต่อย่างใด

การหาทางลัดกับอันธพาลจะสร้างอุปสรรค์กับประชาธิปไตย และที่สำคัญมันเสี่ยงกับการทำให้ขบวนการเสื้อแดงมีลักษณะคล้ายๆ พันธมารฯ เราเคยวิจารณ์การ์ดพันธมารฯว่ามันเป็นโจร แล้วภาพของนักรบพระเจ้าตากจะเป็นอย่างไร? เรามีการเปิดโปงความชั่วของนักการเมืองฝ่ายอำมาตย์ แล้วนักการเมืองฝ่ายเราดีงามทุกคนหรือไม่?

เราไม่ควรใช้วิธีการและสองมาตรฐานเหมือนอำมาตย์ใช้ ผมไม่ใช่พวก “สองไม่เอา” ที่หาความบริสุทธิ์โดยไม่เลือกข้างแล้วตั้งตัวขึ้นมาเป็นผู้พิพากษา ผมเลือกเป็นคนเสื้อแดง เพราะขบวนการคนเสื้อแดงไม่เหมือนพันธมารฯ และอำมาตย์

ทางลัดคือทางตัน เราต้องสู้เพื่ออุดมการณ์ด้วยวิธีอุดมการณ์


--
ติดตามผลงานของใจ อึ๊งภากรณ์
 

ผู้แสดงความคิดเห็น แดงพันธ์แท้ วันที่ตอบ 2010-02-10 00:55:11


ความคิดเห็นที่ 2 (2022344)

เห็นด้วยกับแนวทางการต่อสู้ของอาจารย์ใจ  อึ้งภากรณ์  การต่อสู้ของคนเสื้อแดงต้องสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ

อาวุธของคนเสื้อแดงคือการใช้ความจริงกระชากหน้ากากความชั่วช้าของรัฐบาลและอำมาตย์ ชี้ให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นความอัปยศของอำมาตย์ที่ทำตัวเหมือนมาเฟียที่ใช อำนาจบาทใหญ่ไปเอื้อประโยชน์กับนายทุนให้ยึดพื้นที่ป่าสงวน  โดยที่เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่พิทักษ์ป่าไม่กล้าทำอะไร อยู่เบื้องหลังกลุ่มโจรก่อการร้ายยึดสนามบินทำลายเศรษบกิจและความน่าเชื่อถือของประเทศ และที่อัปยศที่สุดก็คือไม่ยอมให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้ใช้สิทธิเสรีภาพเลือกผู้นำมาบริหารประเทศ เจ้าหน้าที่ที่กระทำตามหน้าที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี แล้วคนไทยจะอยู่อย่างสงบสุขได้อย่างไร ขืนปล่อยไว้วันหนึ่งก็ต้องถึงคิวฆ่าเรา  คนไทยเขารักความสงบ เขาเกลียดอันธพาล ต้องถลกหนังให้เขาได้เห็นธาตุแท้ของอันธพาลครองเมือง แล้วเขากับเราจะรวมมาเป็นหนึ่งเดียวเพื่อขับไล่ขุดรากถอนโคนอำมาตยาธิปไตยให้สิ้นซาก สร้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยให้เข้มแข็งด้วยอำนาจที่เท่าเทียมกันของประชาชน เมื่อนั้นฟ้าสีทองผ่องอำไพประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

วิธีนี้เราได้ทำสำเร็จแล้วเพราะอำมาตย์อย่างน้อย 2 คน คือพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ และพลเอกพิจิตร  กุลวนิตย์ ก็ตายไปพร้อมกับความจริงอันน่าอัปยศอดสู

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2010-02-21 22:48:57


ความคิดเห็นที่ 3 (2022345)

เราเป็นคนหนึ่งที่ได้ร่วมต่อสู้กับคนเสื้อแดงในสงกรานต์เลือด ได้เห็นรัฐบาลออกข่าวผ่านสื่อใส้ร้ายคนเสื้อแดง

มีม็อบสีอื่นสวมเสื้อแดงไปป่วนเมืองสร้างความเสียหายมากมาย  แล้วใส่ร้ายเสื้อแดง และสื่อของเสื้อแดงก็ถูกปิดหมดทุกด้าน รัฐบาลจึงออกข่าวหลอกลวงประชาชนตามใจชอบ เราต้องปิดประตูข้อกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีไว้ทุกประตู หากเราหลงกลไปใช้ความรุนแรง สื่อของเราจะถูกปิด ช่วงนั้นรัฐบาลจะฉวยโอกาสออกข่าวโจมตีเราฝ่ายเดียว  ประชาชนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางก็จะเชื่อเขา  เราจะเสียมวลชนการสูญเสียมวลชนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยสำคัญมาก เราต้องเพิ่มพลังมวลชนสถานเดียวจึงจะมีพลัง เราต้องสู้ด้วยสติปัญญา ความสุขุม รอบคอบ ที่สำคัญการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงต้องมีเอกภาพเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีความแตกแยกทางความคิดแล้วชัยชนะจะมาถึงอย่างรวดเร็ว ต้องฟังแกนนำ นปช.   

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2010-02-21 22:58:21


ความคิดเห็นที่ 4 (2036006)

 

วันนี้ กองทัพคือผู้ทรยศตัวจริง

ผู้แสดงความคิดเห็น สุพร อ่อนราย วันที่ตอบ 2010-06-21 19:20:29



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.