Fast traslate

 

Icon translate

 

 

 

 

Fast traslate

 

Icon translate

 

 

 

 

Fast traslate

 

Icon translate

 

 

 

 

Fast traslate

 

Icon translate

 

 

 

 

Fast traslate

 

Icon translate

 

แม้ไม่ได้นอนหลับ  ลืมตาหรือตื่นอยู่ .....หรือแม้อยู่ท่ามกลางสมาคม  เมื่อฟังเสียงทิพย์นี้แล้ว  ก็เหมือนฟังดนตรีสวรรค์ จึงเรียกว่า Divine Concert อยู่แล้ว ดังได้พบมาเมื่อระดับเสียงทิพย์ขึ้นถึงระดับมาตรฐานของ ดนตรีสวรรค์ คือระดับ D;10000:L;20-50U. ขึ้นไป เป็นระดับที่เพลิดเพลินจนลืมโลก และพอใจฟังเสียงทิพย์นี้ตลอดวันตลอดคืนแบบลืมไม่อาลัยโลกเลย   ....  เสียงทิพย์จะลดหายไป ในเหตุเดียวที่สำคัญมากคือ  ความกังวล  ...เช่นในระยะหลัง ที่ลดลง  และยังไม่เคยขึ้นถึงระดับ ดนตรีสวรรค์ D;10,000:L;20-50U. อีกเลย

เรื่องครูที่กาฬสินธุ์ไปเที่ยวนรกสวรรค์
กลับมาเล่าเรื่องให้ญาติ ๆ ฟัง

ผมยังคงมุ่งมั่นในการศึกษา วิชาทั้ง 5 ประการ  อันเป็นผลของการวิจัยพบของผมเอง ว่าที่สุดมีวิชา 5 ประการคือ  สมาธิ  วิปัสสนา  กสิณ  ฌาน  และ  ปราณ   เป็นสุดยอดในหลักการพระพุทธศาสนา  แต่ในระยะล่าสุด  ผมได้พลัดเข้าไปสู่ขอบทาง  นั่นคือ ผมได้ค้นพบไสยศาสตร์ และพิศวงที่ได้พบว่า นี่เป็นโลกอันกว้างใหญ่อีกโลกหนึ่ง จึงได้อาศัยวิชาทั้ง 5 ประการนั้นเข้าไป ทำการศึกษาวิจัยต่อมา และได้ตัวอย่างการวิจัยมาหลายตัวอย่าง สรุปผลพอทราบได้ว่า วิชาไสยศาสตร์ทำร้าย ทำลายชีวิตคนได้  รายงานคราวที่แล้ว ได้บอกถึงเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นหลายประการ  และสิ่งที่บังเกิดขึ้นคล้าย ๆ อภินิหาริ์ย  แต่ผมเองต้องการทดลองพิศูจน์ให้มั่นใจจริง ๆ โดยวางเป็นหลักทฤษฎีได้ชัดเจน   จึงได้เริ่มการศึกษาต่อไปอีกขั้นตอนหนึ่ง 

การศึกษาโลกลี้ลับนี้ ผมหมายถึงการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์  ได้นำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาใช้โดยตรง  นี่คือการบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด ในการศึกษาสิ่งที่เรียกกันในสังคมคนประเภทหนึ่งว่า ไสยศาสตร์   นี่เป็นการตามศึกษาในเชิงงานการวิจัยวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง  คือการศึกษาโลกลี้ลับ คาถาอาคม  มนต์ดำ  และอาถรรพณ์เวทย์  เพื่อให้ทราบผลที่พิศูจน์ออกมาเป็นวิทยาศาสตร์  หรือเป็นรูปธรรมออกมาจริง ๆ เราทำได้หรือไม่........ เราทำได้ไปขั้นตอนหนึ่งอย่างเป็นที่น่าพอใจ  และเรากำลังทำการศึกษาต่อไปอีกขั้นตอนหนึ่ง เพื่อให้สมบูรณ์

นี่คือการบันทึกข้อมูล เพื่อการวิจับศาสตร์ลี้ลับ

เรื่องราวที่ค้างอยู่ของผมที่ผมคิดว่าจะต้องทำให้เสร็จ ก็เพราะดูเหมือนเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ และเป็นประตูเส้นทางที่ต้องผ่านเข้าไปให้ได้  ทางนี้ทางเดียว  ทางอื่นยังมองไม่เห็น    ก็คือการที่ผมจะต้องไปเยี่ยมเยียนแดนนรก และเยี่ยมเยียนยมราชเจ้านรกให้ได้  นั่นเอง   การที่ผมเสนอสมมติฐานนี้ขึ้นมา  ก็เพราะผมมองเห็นทางที่จะทำได้จริง ๆ มีหลักการและเหตุผล พร้อมเทคนิกชั้นสูงที่จำเป็น    หมายความว่า  ผมมีความคิด แผนงาน  และเทคนิกสำคัญ ไว้ในใจแล้ว   และที่ผมยังคงมั่นใจในแผนการอยู่ก็คือ  การที่ได้พบว่า  มีบริวารของยมราชเจ้า 2  ตน คุมวิญญาณคน ๆ หนึ่ง(นายจี้ฮง) มาที่หน้าประตูกุฎิที่พำนักของผม  ตามที่ผมได้บันทึกข้อมูลไว้  เรื่องหญิงหม้ายขอให้ดูว่าสามี(นายจี้ฮง) เขาตายแล้วไปไหน   ผมเห็นรูปร่าง ลักษณะของยมบาล 2 ตน ที่คุมนายจี้ฮงมา  และเห็นว่าเขามีสิ่งพิเศษก็คือ  ดวงตาที่ลุกเป็นเพลิง ทั้ง 2 คู่นั้น     ผมจึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า  ดวงตาเพลิง แดงก่ำเจิดจ้าของพวกเขานั่นแหละ  ที่จะเป็นสื่อติดต่อกับพวกเขาได้  ด้วยกสิณไฟ  หรือเตโชกสิณ ที่ผมมีความชำนาญมาแต่เป็นเด็กอ่อนแล้ว     ตรงนี้แหละที่ทำให้งานของผมจะง่ายเข้า  เพราะผมจะเรียกยมบาลตาไฟพวกนี้มา  ด้วยเทกนิคของกสิณไฟ     มาหาผมเพื่อถามเรื่องราวของนรก แล้วให้พวกเขาพาเดินทางเข้าแดนนรก   .......

เรื่องราวของผีปอบ  มีความจริงอยู่อย่างไร ? มีผลรายงานตอนนี้ว่า ปอบประเทืองสิ้นฤทธิ์ เพราะวิชาถูกทำลายลงไปแล้ว  เดิมมันใช้อำนาจสกดจิต เรียกตัวเด็กไปหาและทำอนาจาร  รวมทั้งทำร้ายคนอื่น บัดนี้หมดลงโดยสิ้นเชิง  ล่าสุดพระอาจารย์กระทำพิธีถ่วงซาก โดยมีเจตนาชำระ-ลบล้างวิชาให้เกลี้ยง ไม่ได้มีเจตนาฆ่า   มีรายงานตามมาว่าญาติผู้ใหญ่ของหมอผีเสียชีวิตไป 1 คน  และวันที่ 15 ม.ค.2553 หมอผีป่วยหนัก ล้มลุกไม่ขึ้น แต่แล้วในคืนนั้น ก็มีเชื้อพี่ผู้ใหญ่(เป็นพวกมีเชื้อเหมือนกัน) มาแก้ไขเยียวยา มีรายงานพิธีกรรมของพวกเขาเกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้นตอนดึก โดยนายกุณฑีผู้เฝ้าดูอยู่ ได้เห็นแสงพุ่งออกมาทางหลังคาบ้านเป็นลำยาว ม้วนตัวเหมือนนาค เลื้อยมาทางบ้านนายกุณฑี  แต่พอมาถึงด่านพระเจ้า 5 พระองค์ ที่พระอาจารย์ให้มาแขวนเพื่อดูดอำนาจสกดจิตของหมอผี..ก็ชงักเหมือนตกใจ ก็ม้วนตัวกลับ สลายหายไปทันที  แต่หมอผีก็รอดไปอีกครั้งหนึ่งจนถึงบัดนี้ ..หลังสุดได้มีพระหลวงตาฝ่ายลูกเขย กับหมอผี...หมอไสยศาสตร์  ที่หนองคายคนหนึ่งบอกผ่านโยมมาว่า  เป็นห่วงพระอาจารย์ เพราะไม่ฆ่าปอบเสีย  ระวังมันฟื้นขึ้นมามันจะแข็งกว่าเก่า ว่าระวังภายใน 7 วันนี้ พระอาจารย์อาจจะเป็นอันตรายใหญ่หลวงถึงมรณภาพได้  แต่ทางพระอาจารย์แสดงผลวิเคราะห์ให้ทราบว่า หมอผีประเทือง..มันเป็นหมอผีโบราณ หัวเก่า  ไม่อาจจะมีประสิทธิภาพพอจะทำอันตรายหรือระคายผิวของพระอาจารย์ได้ พระอาจารย์จึงคิดเก็บพวกหมอผีกลุ่มนี้ไว้ เพื่อเป็นกลุ่มตัวอย่างการศึกษาวิจัยในเรื่องอุปนิสัยใจคอและที่ไปที่มาของฤทธิ์อำนาจหมอผี    สมมติฐานสำคัญก็คือ ทำไมวิชาชั้นต่ำ ๆ (วิชาปอบ) เช่นนี้จึงอาจทำร้ายอมนุษย์ เทพ และบรรพชิตผู้มีคุณธรรมสูงได้  และไสยศาสตร์แท้จริงก็มีเหตุผล เป็นวิทยาศาสตร์แห่งไสยศาสตร์เหมือนกัน  แต่เหตุผลเป็นอย่างไร?

Mystery World Report 19 รายงานการศึกษาโลกลี้ลับ  อันดับที่ 19   To carry on the unfinished missions The 5 Educations & the Noble Noise   เพื่อกระทำภาระหน้าที่ที่ยังไม่เสร็จให้แล้วเสร็จ หลักการศึกษาทั้ง 5 วิชชา และ เสียงทิพย์อันประเสริฐสูงส่ง

To Follow the spirit of a wife’s husband

I was invited by a woman, whose husband recenty died because of an accident and the corpse had been helding and waiting for cremation in my temple. She begged me to do a ceremony for her husband. She listed all her husband’s properties 31 large items including many pieces of land,  many businesses,  many cars of any kinds of cars etc. Her husband was a regional foreman of a branch of Japanese Buddhism that has been well known Dr.Ikada has been its leader in the name of  Soka Gakkai International[SGI]. Now she wanted me to tell the spirit of her husband not to worry about his properties. She insisted I could perform the  ceremony. When I finished the ceremony she also begged me to do a mission that was to trace her husband’s spirit and see whether he live well or not and how did he live at that moment.  I was unwell, however agreed to do her business, telling her that the way one could do the thing she wanted must be done by the holy Jhanam and it ‘s rather difficult  but I would try it for her next time, the day through the night.

 คล้ายคลึงกับกรณีพระภูมิเจ้าที่ที่ห้วยคุ้ม  และยักษ์เฝ้าป่า ณ ศูนย์การคณะสงฆ์ภาค 10  ที่เราได้พบมาแล้ว  เจ้าป่านี้ได้ยินบ่อยในนวนิยายเรื่องป่าดงพงไพร  เช่นเพชรพระอุมาของพนมเทียน  ท่องไพรของน้อย อินทนนท์ เป็นต้น  แต่นั่นเป็นนวนิยาย  เรามองเรื่องราวเหล่านี้ว่าเป็นโลกอีกโลกหนึ่ง ที่เราให้สมมติฐานว่าเป็นโลกนามธรรม  หรือโลกวิญญาณ  และเราพยายามจะศึกษาให้เป็นหลักวิชาวิทยาศาสตร์และบัดนี้เครื่องมือที่ศึกษาอันสำคัญยิ่งของเราก็คือ ฌาน และ  เสียงทิพย์  ซึ่งได้ให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นไปทุกขณะว่าจะสามารถเปิดเผยความลับของโลกทิพย์ออกมาได้  อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ 

รายงานจากประสพการณ์ชีวิตจริงที่แปลกประหลาด ลึกลับ  มีหลายหลากรสชาติ แม้เชิงชีวิตรักที่แปลกประหลาด ลี้ลับ  กรณีนี้   เหมือนเป็นกรรมเก่า  เป็นหนี้กรรมที่ต้องชดใช้  เป็นความสัมพันธ์ที่เนื่องมาแต่หลาย ๆ ชาติในอดีต เพราะมาแรงเหมือนไล่ตามมาหลาย ๆชาติจนทันเอาปลาย ๆ ชาตินี้ ขณะที่เราจวนจะละไปอีกครั้งหนึ่ง   ดีที่เขามาทันแม้จะเข้าวัยชราภาพแล้วก็ตาม  ยังมีเรื่องวิชาการทางโหราศาสตร์ ที่ซ่อนทฤษฎีอันละเอียดอ่อนของโหราศาสตร์ไว้อย่างสมเหตุผลแก่เรื่องราวเหตุการณืประหลาดนั้น  ทางธรรมปฏิบัติ น่าศึกษาข้อสรุปที่ว่า  เดี๋ยวนี้ เราไม่จำเป็นต้องเข้าสมาธิ  ไม่ต้องผ่านสมาธิตามลำดับไปเหมือนเดิม ซึ่งหากกำลังไม่เพียงพอก็ไม่สามารถเข้าสมาธิได้   บัดนี้ เพียงนิ่งฟังเสียงทิพย์  นั่นหมายถึงเข้าฌานไปเลย นี่คือสิ่งใหม่  ที่มีประสิทธิภาพสูงเร็ว ยิ่งกว่าของเก่ามากมายหลายเท่า  และซ้ำเป็นดนตรีแห่งชีวิตที่ล้ำเลิศประเสริฐ เพราะได้ฟังแล้วก็อยากฟังไปนาน ๆ  ไม่อยากทำอะไร  นั่นหมายถึงการพัฒนาเสียงทิพย์ เป็นเรื่องอัตโนมัติ และเป็นเรื่องสนุกสนาน   จนทำให้ลืมเรื่องอื่น   แม้กระทั่ง  ปราณ ที่เราเคยคิดว่าเป็นของวิเศษอย่างยิ่ง   บัดนี้ เรามาสู่ระดับที่สุดยอดแล้วจริง ๆ

เสียงทิพย์อยู่ระดับ  29,000  ต่อ  75 หน่วย (เสียงทิพย์ระดับ 30,000 หน่วย)  มีทำนองใหม่  เสียงค่อนข้างดังมาก  เป็นทำนองที่เปลี่ยนจากเครื่องสี แบบสีซอ  ไปเป็นคล้ายเครื่องตี หรือเครื่องแกว่งกระทบ   ในที่นี้เหมือนฆ้องวง เหมือนโปงลาง เหมือนระนาดขนาดเล็กจำนวนมากมายมหาศาลบรรเลงขึ้นก้องกังวานมาก  ดังเหมือนลูกระนาดไล่กันไป  มีความไพเราะแกมหวานซึ้ง  ทำให้รู้สึกในความสุขุมเชื่องช้าแต่ก้องกังวาลไพเราะ   ที่สำคัญคือ นิ่ง ๆ ฟังแล้วเกิดมโนภาพ คล้ายเห็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ ทรงกลมเหมือนฆ้องขนาดใหญ่มหิมาหมุนไปอย่างเชื่องช้า แล้วลูกตุ้มเล็ก ๆ ทั้งหมด ก็แกว่งตีลงไปเหมือนลูกตุ้มไปกระทบตัวตุ่มของฆ้องเล็ก ๆ  จำนวนมากมายนั้นเข้า เกิดเป็นเสียงหวานเย็น ช้า ๆ แต่ละเอียดและถี่ยิบ  นิ่งฟังยิ่งเคลิบเคลิ้ม ไพเราะ  มีความถี่ของเสียงพอ ๆ กับเสียงทิพย์ระดับ 10,000 หน่วย นึกพิจารณาอยู่ว่าสิ่งที่แตกต่างจากเสียงเดิมคืออะไร  ก็คือเครื่องตีกระทบนั้นแหละ  ทำให้นึกภาพสตรีหางเครื่อง เวลาเล่นเพลงลูกทุ่งถือเอาลูกกงออกมาวาดลวดลายบนเวทีเต้นกันสนุก ๆ นั่นแหละ  คิดว่าระดับน่าจะเป็น 30,000 หน่วย  แต่ก็ดูยังไม่พอใจนักเลยให้ระดับไว้ที่ 29,000 ต่อ  75  หน่วย  ก็พอใจเพราะได้พิศูจน์อีกครั้งหนึ่งว่าเสียงทิพย์มีการพัฒนาไปด้วยตัวของมันเอง   

   การทดสอบศึกษาถึงความจริงว่าแท้จริงเสียงทิพย์ หรือดนตรีของเทพเจ้าที่ไพเราะนั้นคืออะไร มาจากสาเหตุอะไร  และที่นี่ได้พบความจริงแล้วว่า การอุบัติของเสียงทิพย์นั้นคือ ฌาน ชนิดหนึ่ง (ได้พบว่าฌานมีหลายหลากชนิด ที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งในการศึกษาครั้งนี้คือ ฌาน ชนิดที่ปรากฎเป็นกลิ่นต่าง ๆ ) การพัฒนาไปของเสียงคีตกวีแห่งเทพเจ้า อย่างไร เท่ากับการพัฒนาไปของฌาน นั่นเอง   ค่าของเสียงทิพย์ คือค่าของฌาน    กระนั้นก็ยังมีสิ่งที่ต้องศึกษาต่อไปโดย ได้สมมติฐานว่า  เมื่อนักปฏิบัติธรรมสามารถเข้าฌานละเอียดอ่อนไปได้ถึงค่าระดับสูง คือค่าของฌาณหรือเสียงทิพย์ไปถึง  D;50,000 : L;10-50U.แล้ว จะสามารถหายตัวได้ เป็นอภิญญา  นี่เป็นการรายงานทดสอบผลของฌานระดับต่าง ๆ   โดยมีเรื่องลึกลับมาเกี่ยวข้อง  ซึ่งเรื่องลึกลับเหล่านั้น ล้วนเป็นเรื่องภาคภายในและโลกในมิติอื่น  ซึ่งยังต้องทำการพิศูจน์ต่อไป  ในที่นี้มีเหตุการณ์ที่สอดคล้องความเชื่อของชาวพุทธในเรื่อง หนี้กรรม  การเผชิญวิบากกรรม  การที่ต้องใช้หนี้ในอดีตชาติให้แล้วหมดจด  นี่คือธรรมวิจัยเรื่องลึกลับอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เพื่อหาทางเปิดเผยออกมาให้กระจ่างแจ้งสำหรับคนยุควิทยาศาสตร์

 บันทึกข้อมูลที่เป็นทั้งส่วนเหตุและส่วนผลของธรรมปฏิบัติ เชิงงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งศาสนธรรมของผม   เริ่มจากความพยายามทดสอบสมมติฐานว่าด้วยเสียงที่มาปรากฎให้ได้ยินในขณะจิตสงบเป็นสมาธิ  ที่ไพเราะดุจเสียงพิณของเทพเจ้า  หรือคอนเสิร์ตสวรรค์ (Divine Concert)  มีรายงานการทดสอบสมาธิลัดเวลา  มีรายงานผลที่ยืนยันทฤษฎีการระลึกชาติ    ทำอย่างไรจึงจะระลึกชาติได้ นี่ไม่ใช่เรื่องลึกลับอีกต่อไป แต่เป็นวิทยาศาสตร์   นี่คือข้อสรุปที่ลงตัวมีเหตุผลในเรื่อง การระลึกชาติ   มีภาคปฏิบัติตามหลัก กสิณ  ฌาน  และสมาธิ เพื่อพิศูจน์ในเชิงการระลึกย้อนไปในอดีต ในที่นี้ มีรายงานการเพ่งฌานกลางแจ้ง เพื่อดูอดีตความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ แล้วได้เห็นเรื่องราวที่ในอดีตของพระบรมสารีริกธาตุองค์นี้  ชัดเจนอย่างกับดูภาพยนต์  แล้วมีรายงานการทดลองลืมตาเพ่งตามทฤษฎีจิตโพล้เพล้  มีรายงานผลว่า  เพ่งเพื่อดูเทพองครักษ์พิทักษ์พระบรมสารีริกธาตุ แล้วปรากฎเงาภาพเทพองค์ดำสนิทโอบประคองผอบพระบรมสารีริกธาตุอยู่   นี่คือรายงานสรุปผลจากการทดสอบสมมติฐานทางธรรมปฏิบัติ ที่สามารถอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นข้อสรุปทีลงตัวแล้ว  เราเห็นว่านี่เป็นรายงานการวิจัยธรรมปฏิบัติที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง  ที่จะเอื้อแด่การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา  นักปฏิบัติธรรมน่าจะไม่ควรพลาด

บันทึกการปฏิบัติธรรมระหว่างเข้าพรรษาปีพุทธศักราช 2549  เริ่มแต่วันอาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา เดือน 8  ถึง วันมหาปวารณา-วันออกพรรษา เดือน 11   นี่เป็นการปฏิบัติธรรมที่สมบูรณ์ เฉียบขาดอย่างไร  ที่นักปฏิบัติธรรมทั้งหลายไม่ควรพลาด การทดสอบสองอย่างคือสมาธิ และฌาน เพื่อดูอดีตของความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ  พบเทวดาองค์ดำสนิทโอบอุ้มพระบรมสารีริดธาตุ สงสัยว่านี่คือ จตุคามรามเทพหรือไม่? ติดตามการพิศูจน์สมาธิลัดเวลา และอานุภาพของกสิณเขียว ฯลฯ

รายงานการศึกษาวิจัยธัมมะในเชิงวิทยาศ าสตร์ ของพระภิกษุสงฆ์ สาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผู้สนใจเชิงธรรมะปฏิบัติมาตลอดชีวิต  รูปนี้  เป็นแนวคิดใหม่ที่ต่างไปจากระบบการศึกษาปฏิบัติของสงฆ์แบบเก่าดั้งเดิม  เพื่อให้ได้รู้แจ้งในชั้นแห่งความล้ำลึกของพระโลกุตตรธรรม  ได้สนใจภาคปฏิบัติครบถ้วนทั้ง 3 ระดับคือ ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ มีสัจจธรรมและการอธิษฐานจิตที่ยิ่งใหญ่ มีการ สมาทานธุดงค์และธรรมปฏิบัติทุกรูปแบบ เพื่อฟึกฟื้นและพัฒนาการระบบจิต แยกเป็นสมาธิ ฌาน ปราณ กสิณ และวิปัสนาญาณ  โดยรายงานตั้งแต่วันเริ่มต้นของโครงการ วันต่อวัน  ชั่วโมงต่อชั่วโมงตามลำดับเหตุการณ์จริง     ที่ปฏิบัติจริง  ซึ่งการรายงานนี้เป็นการรายงานว่า ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลการปฏิบัติอย่างไร  นี่คือ Buddhism How? ภาคภาษาไทย และต่อไปมีภาคภาษาอังกฤษ มาตามคำเรียกร้องของผู้อ่าน  ที่มองว่าการปฏิบัติธรรมเชิงวิทยาศาสตร์เช่นนี้มีคุณค่าสำหรับคนยุคใหม่ ยุคที่เป็นวิทยาศาสตร์ ที่แตกต่างไปจากนักปฏิบัติแบบเดิม ๆ ที่มีแต่คำพูดโอ้อวดปราศจากข้อพิศูจน์ หรือบันทึกข้อมูลอย่างวิทยาศาสตร์งานวิจัย   ซึ่งแทบทั้งหมดในสังคมไทยโดยมากเป็น เพียงความ เชื่อที่งมงายโดยไร้ ข้อพิศูจน์เชิงวิทยาศาสตร์   ไปแทบทั้งหมด  นี่จึงเป็นรายงานการปฏิวัติระบบการปฏิบัติธรรมครั้งใหญ่ เพื่อให้การปฏิบัติธรรมตั้งอยู่บนหลักของเหตุผล เชิงวิทยาศาสตร์โดยแท้จริง