อยากรู้เรื่อง โหราศาสตร์

เบื้องต้นของโหราศาสตร์  ควรเข้าใจโหราศาสตร์อย่างไร?

 

หากอยากรู้หรืออยากศึกษาโหราศาสตร์ เราอยากให้ทำความเข้าใจเบื้องต้นต่อโหราศาสตร์ ในทำนองว่า เกี่ยวกับอะไรคือโหราศาสตร์ หลักการโหราศาสตร์เป็นหลักการการศึกษาอย่างไร  และในประเด็นนี้ได้มีคำถามเข้ามาในเวบไซต์ของเรา ในช่องกระดานถามถอบ  ในคำถามที่ว่า  ชีวิตของคนเราต้องเป็นไปตามดวงชะตาจริงหรือ?  เราขอขอบคุณเจ้าของคำถามที่ได้กรุณาเล่าเหตุการณ์ในชีวิตที่เกี่ยวกับประเด็นโหราศาสตร์นี้มาด้วย  และเราเห็นว่าเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับข้อที่ควรรู้เป็นเบื้องต้นแห่งโหราศาสตร์โดยตรง ถ้าอยากรู้เรื่องโหราศาสตร์ จะศึกษาอย่างไร  ขอให้ศึกษาจากกระดานถามตอบนี้ก่อนนะครับ ถือว่าเป็นเบื้องต้นความเข้าใจใน โหราศาสตร์ ที่จำเป็น โดยมี ”ชลัมพุช โหรชนบท” เป็นผู้เฉลยคำถามกระทู้   และขอบอกว่า กระทู้มี 2 ตอน  ตอนนี้แล้ว  มีกระทู้เรื่อง “ในที่สุด...ดิฉันก็ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้” ซึ่งเราได้นำลงต่อไปจากกระทู้แรก

โปรดติดตามต่อไป  อนึ่ง ชลัมพุช โหรชนบท นี้เป็นนามแฝงของ พระ ร.อ.พยับ ปญฺญาธโร นะครับ (ที่ในกระทู้นี้ เขาเรียกว่า หลวงตา นั่นแหละครับ)

(โปรดคลิกที่นี่เพื่อตามไปดูกระทู้ต้นเรื่องในกระดานถามตอบเดิม)

 

กระทู้ที่ 1 :  ชีวิตของคนเราต้องเป็นไปตามดวงชะตาจริงหรือ?

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ

                    หากวันหนึ่งคุณรู้ว่าตัวคุณเองต้องประสบพบเจอกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเหมือนอย่างที่ข้าพเจ้ากำลังประสบพบเจออยู่ในขณะนี้ ย่อมเป็นธรรมดาที่บุคคลผู้นั้นจะเกิดความกลัวและความสับสน  ตอนนี้จิตของข้าพเจ้าไม่เป็นสมาธิ  เกิดความสับสนว่าควรเชื่อหรือไม่อย่างไร ตอนแรกก็คิดที่จะรอวันนั้นเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้กลับคิดได้ว่า ข้าพเจ้าต้องรับมือกับวันนั้นให้ได้อย่างไร  ช่วงปีใหม่นี้คงได้รู้กัน เป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าด้วยนะคะ ให้ผ่านวิบากกรรมในอุบัติเหตุครั้งนี้ไปให้ได้
                    กราบนมัสการพระคุณเจ้า                       

·         ผู้ตั้งกระทู้ นศภ.วราภรณ์ บุราณ :: วันที่ลงประกาศ 2006-12-16 16:23:46

 

 

 

 

 

ความเห็นที่ 1 (466658) 

ได้อ่านปัญหาแล้ว ขอให้กำลังใจ อย่าท้อถอยแก่ชีวิต  ถ้าเราเข้มแข็งพอเราก็จะรู้เองว่า ชีวิตถูกสร้างด้วยพลังใจอันเข้มแข็งแกร่งของเรานี่เอง ไม่มีใครสร้างให้เรา นอกจากเราผู้เข็มแข็งแกร่ง สร้างด้วยตนเอง  และนั่นหมายความว่า เหนือพลังดวงดาว และเหนือพลังธรรมชาติก็คือพลังใจของเราเอง 

 

เอาละ!!!  เรื่องโหราศาสตร์ ก็เป็นเรื่องโหราศาสตร์ จะลองให้ ชลัมพุช โหรชนบท ให้การพิจารณาปัญหานี้  ในทัศนะของโหราจารย์

 

ขอให้อดใจรอสักหน่อย  และขอเตือน  อย่าฝังใจกับคำพยากรณ์ของโหราศาสตร์  แต่ฝังใจกับสัจธรรมที่อ้างเบื้องต้น  นั่นก็คือ เหนือพลังดวงดาว เหนือพลังธรรมชาติ ก็คือพลังใจของเราเอง  นั่นคือ ผู้กำหนดวิถีทางชีวิตที่แท้จริงก็คือเราเอง

 

ขอให้มั่นใจในพลังใจของตัวเราเอง

 

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญญาธโรภิกขุ วันที่ตอบ 2006-12-16 17:49:01

 

 

 ความเห็นที่ 2 (467719) 

           กราบขอบพระคุณหลวงตาเป็นอย่างสูง  หนูจะจดจำคำสั่งสอนของหลวงตาไว้เสมอนะคะ  แม้วันนั้นจะเป็นวันที่หนูรู้สึกท้อแท้ หมดสิ้นกำลังใจแล้วก็ตาม  น้ำตาอาจทำให้เรารู้สึกดีขึ้นบ้างแต่น้ำใจอาจชุบชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง

                                กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ

·         ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กดี วันที่ตอบ 2006-12-18 16:48:54

 

 

 ความเห็นที่ 3 (468435) 

- ชลัมพุช โหรชนบท ตอบ

ชีวิตต้องเป็นไปตามดวงชะตาจริงหรือ?  นี่เป็นคำถามของหนู แต่ถามหน่อย  เข้าใจคำถามของตัวเองหรือไม่อย่างไร?

อะไรคือดวงชะตา?

เราต้องเข้าใจก่อนว่า  อะไรคือดวงชะตา?

ถุกละเรารู้ว่า  ดวงชะตาคือการจำลองแผนที่ดวงดาวบนท้องฟ้า ลงมาใส่ในแผ่นกระดาษ ในกรอบที่สมมุติขึ้นแทนท้องฟ้า

กรอบแผนที่ดาวนั่นแหละคือดวงชะตา  หรือที่รู้กันว่า ดวง นั่นเอง

ประเด็นก็คือ  การอ่านดวงยังเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ อยู่ คือยากที่จะอ่านว่าดาวมีอิทธิพลต่อมนุษย์อย่างไร  อะไรจะเกิดขึ้นแก่มนุษย์  อย่างไร และเมื่อไร? ก็ยังยากอยู่  เขาศึกษาเรื่องดวงนี้มานับหมื่นปีแล้วก็ยังต้องศึกษาต่อไปอยู่

ปัจจุบันนี้โหราศาสตร์ก็ยังเป็นศาสตร์ที่ต้องศึกษาต่อไปหากเราไม่เข้าใจว่าโหราศาสตร์ก็ยังไม่สมบูรณ์ในตัวเอง แล้วเราเอาชีวิตไปฝากไว้กับโหราศาสตร์ก็ไม่เป็นธรรมแก่ตัวเอง

 

เอาไว้เท่านี้ก่อน  เดี๋ยวจะกลายเป็นภาระที่ต้องศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไปอีกวิชาหนึ่ง เดี๋ยวเรียนเภสัชไม่สำเร็จ

อย่าลืมว่า นี่เป็นวิชาที่ยากมาก ๆ จนคนเชื่อว่าโหราเป็นเรื่องวิเศษ

ในชั้นนี้ขอให้หนูเข้าใจว่า  จะฝากชีวิตไว้แด่ดวงชะตานั้นไม่เป็นความชอบธรรมแน่ ๆ

พระพุทธองค์ท่านยังบอกเลยว่าอย่าเพิ่งเชื่อ

จะค่อย ๆ ตอบไปเป็นตอน ๆ  เพื่อให้ค่อยคลายใจไปจากปัญหาของชีวิต

*ชลัมพุช โหรชนบท 

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2006-12-19 19:50:16

 

 

 

 ความเห็นที่ 4 (470152) 

ชลัมพุช(๒)

บางคนจะไม่เข้าใจว่าตัวเลขในดวงนั้นหมายถึงอะไร  ก็เข้าใจไปอย่างอื่น  ที่จริงตัวเลขในดวงชะตานั้นคือรหัสของดวงดาวทั้งนั้น คือมีดาว 10 ดวงเขาก็ให้รหัสไว้ 10 ตัว  ฉะนั้นเมื่ออ่านดวงชะตาแล้ว ให้อ่านดาว  ไม่ใช่ให้อ่านตัวเลข ๆ เป็นเพียงรหัสของดาว  คือ

๑    แทนดาวอาทิตย์
๒    แทนดาวจันทร์
๓   แทนดาวอังคาร
๔   แทนดาวพุธ
๕   แทนดาวพฤหัสบดี
๖    แทนดาวศุกร
๗   แทนดาวเสาร์
๘   แทนดาวราหู
๙   แทนดาวเกต
0    แทนดาวมฤตยู 

โหราศาสตร์เชื่อว่าดาวแต่ละดวงมีอิทธิพลต่อมนุษย์ต่างกันไป  แต่กระนั้น  โหรก็ยังไม่รู้แน่นอนว่า ดาวแต่ละดวงบนท้องฟ้าให้อิทธิพลอะไรจริง ๆ  คือรู้เรื่องดาวยังไม่สมบูรณ์ ยังคงศึกษาติดตามต่อไปอยู่

เช่นเรารู้ว่าดาวราหู(๘)เป็นดาวร้าย  แต่กระนั้นบางคนดาวราหูกลับไม่แสดงอิทธิพลร้ายเลย  เรารู้ว่าดาวอาทิตย์เป็นดาวใหญ่ดาวดี  แต่ก็ไม่แสดงความดีเสมอไป เวลาร้ายยิ่งร้ายหนัก  เช่นนี้เป็นต้น  จึงทำให้การพยากรณ์นั้นผิดพลาดไปได้เสมอ  และยังเป็นเรื่องของโหรที่ต้องศึกษาต่อไป

ฉะนั้นเราอย่าเพิ่งหวังว่าดวงดาวจะฝากชีวิตไว้ได้  ฝากไว้กับตัวเองดีกว่า  ด้วยมือทั้งสองข้างของเรา และด้วยมันสมองของเรา  ด้วยพลังความรู้ของเรา  นี่แน่นอนกว่า

เรากลัวอะไร เราต้องเข้าไปศึกษามัน ให้รู้จักมัน  เช่นเรากลัวโหราศาสตร์ กลัวคำพยากรณ์ เราก็จงเข้าไปศึกษาโหราศาสตร์  ให้รู้จักมันอย่างแจ่มแจ้ง  แล้วเราก็จะไม่กลัวมันอีกต่อไป

พอจะเข้าใจแนวปรัชญานี้บ้างไหมล่ะ?

เอาละ  จะพาไปให้รู้โหราศาสตร์ไปทีละเล็กละน้อย  เพื่อที่จะไม่กลัวอีกต่อไป

ชลัมพุช โหรชนบท

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2006-12-21 20:23:14

 

 

 ความเห็นที่ 5 (470819) 

ชลัมพุช(3)

 

โหราศาสตร์เป็นศาสตร์ และเป็นแม่บทแห่งศาสตร์การพยากรทั้งหลาย  และเป็นคนละระดับคนละขนาด คนละศักดิ์ศรีกับหมอดูชนิดต่าง ๆ  กล่าวได้ว่าหมอดูเช่น เลข7 ตัว กราฟชีวิต หรือไพ่ต่าง ๆ  ฯลฯ เป็นเพียงเศษของโหราศาสตร์ และที่แท้จริง ได้อาศัยเศษของโหราศาสตร์ส่วนเสี้ยวนิดเดียวไปใช้ในการพยากรณ์

เพราะฉะนั้น เมื่อไปหาหมอดู  ก็ขอให้เข้าใจว่านั่นเป็นเพียงหมอดู  มิใช่ระดับโหราศาสตร์  แต่เป็นหมอเศษของโหราศาสตร์

 

และด้วยเศษของโหราศาสตร์ หมอดูจึงพยากรณ์ได้อย่างจำกัดมาก  พวกเขาจะพยากรณ์ได้เฉพาะเรื่องเคราะห์ร้าย ที่น่าหวาดหวั่นเสียวสยอง สะพึงกลัว และซ้ำอธิบายเหตุผลเชิงโหราศาสตร์ไม่ได้    และมีข้อเสนออย่างเดียวคือ  แก้เคราะห์ร้ายด้วยพิธีกรรม     ด้วยการบูชาดาวพระเคราะห์ราหูบ้าง  เสาร์บ้าง เป็นพื้น

 

หมอดูเช่นนี้ เราจะเอาชีวิตไปฝากไว้ไม่ได้หรอก

 

เราอย่าได้ปลงใจเชื่อเลย  ต้องฟังอย่างมีสติปัญญา  ถ้าเขาทายเคราะห์จะร้าย ก็ให้นึกดูความที่จะเป็นไปได้อย่างไร  ดูงานที่เราทำ การณ์ที่เราประกอบ ทางที่เราเทียว  เวลาวิกาลที่เราสนุกสนาน  ความประพฤติของเราที่เสเพลอย่างไร  การคบเพื่อนเลว  เพื่อนอย่างไร ทำนองนี้  ว่าจะเป็นไปได้ ด้วยเหตุด้วยผลหรือไม่ อย่างไร   เสมอไป

 

แม้เมื่อได้รับการพยากรณ์จากโหราศาสตร์  ที่ละเอียด รอบคอบ รอบด้าน  และมีศักดิ์สูงกว่า  ก็ตาม

 

ฉะนั้น  พวกเราควรมองหมอดูก่อนว่า   ไม่เหมาะสำหรับปัญญาชนที่จะเชื่อจะถือหรือคบหาเลย

 

หากเอาชีวิตไปฝากไว้กับหมอดู  ก็ยิ่งไม่เป็นธรรมแก่ชีวิตเราที่เกิดมาเป็นมนุษย์

แต่โหราศาสตร์  เป็นศาสตร์  และสามารถถามหาเหตุผลในการพยากรณ์ได้เสมอ   ผู้รับคำพยากรณ์สามารถถามย้อนคืนได้ว่า  มีเหตุผลทางโหราศาสตร์อยู่อย่างไร หรือไม่ 

และผู้พยากรณ์จะต้องอธิบายได้เสมอ ถึงเหตุและผลแบบวิทยาศาสตร์   จึงเรียกว่าเป็นศาสตร์  เป็น  โหราศาสตร์  

เอาไว้เท่านี้ก่อนนะ  ไปทีละขั้นตอน

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2006-12-22 23:41:10

 

 

ความเห็นที่ 6 (472944) 

ดิฉันคนหนึ่งที่เคยทุกข์ใจแสนสาหัส  แต่ชีวิตสอนให้ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค  และใช้หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักปฏิบัติ (มงคล38 ประการ) ควบคู่ไปกับการยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น จนวันนี้เข้าใจแล้วว่าทุกข์เป็นธรรมชาติที่ทุกชีวิตต้องประสบ การอยู่กับทุกข์โดยไม่หวั่นไหวเป็นพลังใจที่ทำให้ชีวิตเข้มแข็งและไม่ถูกทุกข์เผาลน

·         ผู้แสดงความคิดเห็น นิรนาม วันที่ตอบ 2006-12-27 12:43:37

 

 

ความเห็นที่ 7 (475770) 

ชลัมพุช(4)

 

ดาวมี2ชนิดใหญ่ ๆ ดาวร้ายได้แก่ดาวอังคาร(๓) ดาวราหู(๘) และดาวเสาร์(๗) 

โหราศาสตร์ได้ข้อสรุปไว้ว่า  ดาวร้ายเมื่อจรถึงดวงชาตาแล้วย่อมเกิดเหตุร้าย

ดังเช่นเหตุการณ์วันท้ายปีเก่า 31 ธ.ค.2549 เวลา 18.00 น. ดาวอังคาร(๓)จรที่ราศีพิจิก เป็นมรณะแก่ดวงเมือง ได้ 24องศา51ลิบดา  ดาวราหูจรณราศีกุมภ์ได้25องศา3ลิบดา  ดาวเสาร์(๗)จรณราศีกรกฎได้26องศา57ลิบดา   ดาว3ดวงนี้อยู่ในรัศมี3องศาซึ่งกันและกัน ซึ่งโหรได้สถิติมาว่าระยะ3องศาเป็นระยะที่จุดชะนวนระเบิด   ฉะนั้นเมื่อ 31 ธ.ค.2549 เมื่อดาวทั้ง3ดวงมาสัมผัสกัน  เกือบทับองศากันเช่นนี้ จึงเกิดเหตุร้ายวางระเบิดขึ้นในกรุงเทพ (คือราศีธาตุน้ำ)

นี่ก็เป็นทฤษฎีหนึ่งของโหราศาสตร์ที่เชื่อถือได้  แต่ถึงแม้เกิดการจรของดาวมาในลักษณะนี้ทุกประการ  ก็ยังต้องมองอย่างอื่นประกอบจึงจะสามารถทายได้โดยแม่นยำ และไม่กุข่าวเกินจริง

อย่างเช่นมีหมอดูทายว่าเลยเดือนกุมภาพันธ์ไปจะเกิดเหตุร้ายแรงในเมืองไทย  ก็เพราะเขามองดาวอังคาร(๓)จรเล็งดาวเสาร์(๗)  แต่เราจะพิจารณาแค่นี้ไม่ได้  ต้องมองให้รอบด้านไปอีก  จึงจะไม่พลาดและแม่นยำ  ในที่นี้ก็ต้องมองศักดิ์ของดาวด้วย  ขณะนั้นดาวอังคาร(๓)มีศักดิ์เป็นมหาอุจ  แรงกว่าดาวเสาร์(๗) ซึ่งมีศักดิ์เป็นเพียงประ  คืออ่อนแสงมาก  เมื่อปะทะกันดาวดวงไหนจะชนะ? ตามนี้แปลว่าประเทศไทยต้องชนะ  มีเรื่องก็จริงแต่ชนะได้ จัดการได้   ลักษณะของเรื่องราวก็จะได้แก่เรื่องสื่อมวลชน  เรื่องคดี และเรื่องการก่อการร้าย จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นใน 13-14 -15 มีนาคม 2550  แต่เลยเดือนเมษายน 2550 ไปก็เรียบร้อย พวกก่อการร้ายสงบ นี่ว่าไปตามทฤษฎีหลายทฤษฎีประกอบกันซึ่งยังมีบางทฤษฎีที่ยังไม่ทันทดสอบโดยครบถ้วน   กำลังวิจัยอยู่

อย่างนี้เป็นตัวอย่างของบางทฤษฎีของโหราศาสตร์ที่เชื่อถือได้แล้ว เอามาประสานกับทฤษฎีบางทฤษฎีที่ยังประมาณ ๆ การณ์อยู่

ก็คอยดูผลต่อไป

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2007-01-01 22:37:57

 

 

ความเห็นที่ 8 (477222) 

ชลัมพุช 5

แม้นักโหราศาสตร์เองก็มีประเภทหมอดูเศษโหราศาสตร์เหมือนกัน นั่นคือความรอบรู้ชั้นเชิงทางวิทยาการด้อย  ไร้ประสบการณ์หรือเป็นเพียงมือสมัครเล่น

ครูโหรเก่าก่อนท่านเตือนในหลักโหราศาสตร์ว่า  อย่ามองชั้นเดียว  หมายความว่า ต้องมีความสามารถมองได้หลายชั้น หรือภาษาวิชาการว่า  มองรอบด้าน มองความสัมพันธ์หลายมิติ จึงพยากรณ์  โดยเฉพาะพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมือง ถ้ารู้ตัวว่ามองได้เพียงชั้นเดียว  ก็น่าจะรู้ตัวเองว่านั่นไม่ต่างอะไรกับหมอดู  ที่รู้เพียงเศษโหร

ประเด็นทุกวันนี้ก็คือ  สถานีข่าวมักไปเอาหมอดูสมัครเล่นมาพยากรณ์กันทั้งนั้น  แกก็พยากรณ์แบบชั้นเดียว  แกเห็นเพียงว่าดาวร้ายเจอดาวร้ายก็ทายร้ายไปใหญ่โตแล้ว จึงทายร้าย ๆ ไปร่วม100อย่าง  ก็คงตรงเข้าสักอย่างจนได้

ไม่รู้จักโหรอาชีพ  ทำไมไม่เอาโหรอาชีพมาพยากรณ์  ต้องเสาะหาหน่อย เพราะโหรอาชีพจริง ๆ ท่านจะไม่สนใจพยากรณ์เรื่องสาธารณะ  ท่านกลัววิชาท่านจะหลุดออกมา  ท่านมักหวงวิชากันมาก ๆ  ในขณะที่ท่านดูพวกเศษโหรทายอะไรแล้วท่านอาจจะนึกสมเพชอยู่ในใจ เมืองไทยยังมีโหราจารย์ระดับตาทิพย์อยู่หลายท่าน

โหรอาชีพนี้  มีข้อสังเกต ท่านจะไม่แสวงหาตำแหน่งใดใด ท่านภูมิใจในวิชาของท่านเต็มที่แล้ว 

ที่พูดนี้ก็เพื่อให้คนมองในแง่ความเป็นจริงและความเป็นธรรมบ้างเท่านั้นเอง  

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2007-01-03 18:05:45

 

 

 

    

 

ความเห็นที่ 9 (477909) 

ชลัมพุช 6

ความไม่เป็นธรรมในการพยากรณ์ก็คือ การข่มขู่ การออกท่าทีอาการที่ข่มขู่  ในทำนองว่าคำพยากรณ์ของตนใครจะขัดแย้งไม่ได้  หมอดู ชาติไหนก็ตามที่พูดว่า "อย่าฝืนดวง" ทุกคนเป็นเพียงเศษโหราศาสตร์ ที่นอกจากขาดจริยธรรมทางโหรแล้ว  ยังถือได้ว่าเป็นอันธพาลในโลกพยากรณ์ศาสตร์

 

พวกนี้จะพยากรณ์ร้ายแรงไปอย่างสุด ๆ  ไร้สติ  และมีบางเวลาที่จะพยากรณ์อย่างดียอดเยี่ยมไปอย่างสุด ๆ อีกเหมือนกัน  แต่ครั้นไม่มีเหตุการณ์ร้ายหรือดีเกิดขึ้นตามคำพยากรณ์ ก็จะกล่าวโทษเจ้าชะตา หรือลงที่เจ้าชะตาทั้งสิ้น เช่นหาว่า  ฝืนดวง  ไม่ทำตามที่เขาแนะนำ  หรือไม่ทำการแก้ดวง  ไม่มาทำพิธีการตามที่เขากำหนดให้  ไม่ทำบุญ  ฯลฯ นี่คืออันธพาลในวงการโหราศาสตร์โดยแท้จริง

 

เหมือนที่หนูเองได้ประสบมา  เมื่อเขาทายร้ายก็ร้ายอย่างสุด ๆ   เมื่อทายดีก็ดีอย่างสุด ๆ  จนป่วนอารมณ์เราให้หมุนติ้ว  และตกอยู่ใต้อำนาจการสั่งการของเขาทุกประการ  จนที่สุดต้องเสียทรัพย์และเสียเวลา เสียหายหลายอย่างอย่างไม่เป็นธรรม

 

เพราะศาสตร์การพยากรณ์ไม่มีความสมบูรณ์ในตัวเองจนถึงขนาดว่าเป็นสัจธรรมที่ตายตัวแล้วจนสามารถจะทำนายอนาคตได้แม่นยำ100%  และที่สำคัญคนพยากรณ์นั้นก็ยังไม่รู้จริงจนพอที่จะเรียกว่านักโหราศาสตร์ที่พร้อมด้วยคุณธรรมจริง ๆ  แต่ถ้าเขารู้จริงเขาจะไม่มีการข่มขู่ เพราะการพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำเป็นข้อพิศูจน์ที่เพียงพอแก่ความเชื่อถือ  และไม่มีการกล่าวว่า  อย่าฝืนดวง  เพราะสัจธรรมมีว่าอะไรจะเกิดก็ย่อมเกิด  ส่วนหมอดูที่พูดขู่เราว่า  อย่าฝืนดวง  ดวงให้อยู่นิ่ง ๆ ก็ต้องอยู่นิ่ง ๆ  ดวงให้ไปก็ต้องไป  ดวงให้ทำบุญก็ต้องทำบุญ  ดวงให้เสียก็ต้องเสีย นั้น ก็ต้องเข้าใจทันทีว่าเขาเป็นมือสมัครเล่น  มือใหม่ ๆ  หรือมือเก่าแต่รู้ตื้น  รู้ยังไม่พอที่จะฝากชีวิตให้ได้ ความจริงมักจะเป็นว่า  แท้จริงเขากำลังจะพูดต่อไปว่า  ต้องทำการแก้ดวงเสียก่อน และเขาจะต้องเป็นเพียงคนเดียวที่รู้พิธีกรรมแก้ดวงนี้  จึงจะรอดชีวิต  ฯลฯ  และนั่นคือการข่มขู่ที่ไร้ความเป็นธรรมและเป็นการหลอกลวงอย่างแท้จริง วงการโหราศาสตร์ควรให้ความรู้แก่ประชาชนให้ถูกต้องและขจัดคนที่ข่มขู่และที่ออกท่าทีอเกรสสิฟเช่นนี้ออกไปจากวงการโหราศาสตร์  เพื่อสถาบันและเพื่อความเป็นธรรมแด่ประชาชน

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2007-01-04 19:52:29

 

 

 

 

ความเห็นที่ 10 (478712) 

ชลัมพุช7

เรากำลังพูดถึงความเป็นธรรมในวงการการพยากรณ์อนาคต(future telling)  คำว่าการพยากรณ์อนาคตเป็นความหมายกว้างที่สุดและการพยากรณ์ทุกชนิดอยู่ในความหมายของ คำ ๆ นี้  

เราต้องการให้คิดว่าการพยากรณ์อนาคตนี้มีทั้งที่เป็นศาสตร์(science) และไม่เป็นศาสตร์ 

การพยากรณ์   ไม่ว่าจะพยากรณ์ด้วยวิธีใด   ไม่ว่าของชาติใด วิธีของหมอดูจีน พม่า รามัญ อินเดีย เยอรมัน หรือทฤษฎีใดเช่น ไพยิบซี ไพ่ป๊อก  โหงเฮ้ง ลายมือ หมอดูตัวเลข  เลข7ตัว กร๊าฟชีวิต 12ราศี นรลักษณ์ โอเรกุรัม หมอดูไก่ หมอทรง  ทรงญาณ ฮวงจุ๊ย ฯลฯ  จะอยู่ในความหมายของการพยากรณ์อนาคต(fortune telling) อยู่ก่อน  แต่จะเป็นศาสตร์เพียงใดหรือไม่นั้น อยู่ที่ว่าเป็นวิทยาศาสตร์(science)หรือไม่   โดยเงื่อนไขว่า  ได้มีลักษณะเป็นศาสตร์ ตามความหมายวิทยาศาสตร์ด้วย

และมีโหราศาสตร์ที่เป็นแม่บทของพยากรณ์ศาสตร์ทั้งหลายที่บัดนี้มีลักษณะเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นดาราศาสตร์อย่างแท้จริงแล้ว

เราเน้นคำว่าศาสตร์  ก็เพราะให้เข้าใจว่า บางหลักการของการพยากรณ์อนาคต มิได้เป็นศาสตร์  แต่เป็นเพียงวัฒนธรรม ความเชื่อของเผ่าพันธ์และของเชื้อชาติ เป็นเพียงความเชื่อโบราณที่เป็นมรดกตกทอดมาเท่านั้นเอง

 

เช่นของเผ่าพันธ์จีน วัฒนธรรมเดิม ๆ ของจีน ที่ปรากฎอยู่ในไทยขณะนี้ มิได้เป็นโหราศาสตร์แต่อย่างใด แต่เป็นเพียงวัฒนธรรมของเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ในตระกูล เท่านั้นเอง

 

จึงยังให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนไม่ได้ เพราะแม้ตัวเองก็ยังเชื่อถือไม่ได้  การพยากรณ์ใช้วิธีคลุมแบบเหวี่ยงแหอยู่  ยังไม่ตรงประเด็น  เช่นนี้มิต่างจากการเดาสุ่มอยู่ (ไปจ้างหมอเดาพยากรณ์ให้ดีกว่า พวกนี้แหละเป็นที่มาของคำว่า หมอดูคู่กับหมอเดา)

 

พวกเขาจะทายว่า  อย่าฝืนดวง  โดยไม่เข้าใจว่าดวงคืออะไร  ก็เพราะพวกเขาพูดไปอย่างไม่เคยรู้และเข้าใจว่าโหราศาสตร์ ดวงชะตาจริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร  เขาพูดและแอบอิงกับสิ่งที่เขาไม่รู้จักด้วยซ้ำไป

 

เพราะวิธีการพยากรณ์ของเผ่าพันธ์เช่นนั้น  มิอาจเรียกว่าดวงได้ โดยความหมายทางโหราศาสตร์ดวงหมายถึงแผนที่ของดาว และต้องหมายถึงดาวจริง ๆทั้ง10ดวงบนท้องฟ้า และเคลื่อนโคจรไปจริง ๆ ตามทฤษฎีของดาราศาสตร์ยุคใหม่ 

หมอดูที่มิเป็นศาสตร์ฝ่ายไทยเช่น12ราศี  ก็จะพยากรณ์ไปแบบวัฒนธรรม ความเชื่อเดิม ๆ ครั้นเมื่อปีนี้ตกราศีคนคอขาด ก็ถือว่าร้ายแรงมาก   หมอดูไพ่ถ้าจับได้ไพ่ปีศาจ หรือคนตกลงมาจากหอสูงก็ว่าต้องตายแน่ ต้องเทียวไปแก้ดวงกับศาลเจ้าพ่อนั้นเจ้าพ่อนี้  และทางหมอดูวัฒนธรรมจีนว่าปีนี้ตกปีชง  ก็ต้องแก้เคราะห์ไม่งั้นตายแน่ ๆ (เหล่านี้เป็นวิธีการที่เป็นอันธพาลในวงการพยากรณ์ใช้หลอกลวงประชาชนผู้เขลา ไม่รู้พิจารณาโดยวิทยาศาสตร์เพื่อลาภ ประโยชน์ส่วนตน)

หมอดูวัฒนธรรมจีนมักอ้างว่าตนเป็นโหราศาสตร์ที่ละเอียดกว่า เช่นพูดถึงเรื่องธาตุ ก็มีธาตุมากกว่า มีธาตุทอง ธาตุไม้ เพิ่มเข้ามาเป็น 6 ธาตุ ในขณะที่โหราศาสตร์สากลมีเพียง 4 ธาตุ(ดิน ลม น้ำ ไฟ) 

 

คนไม่เข้าใจก็ตื่นเมื่อเขาพยากรณ์จัดให้เป็นธาตุทองก็นึกว่าจะรวย  เข้าใจเอาง่าย ๆ ว่าเมื่อตนเป็นธาตุนั้นแล้วจะดี จะร้ายไปตามธาตุ ที่หมอดูจีนทำนายนิยามให้   แล้วก็มีรายปีไป  ปีไหนตกธาตุไหน   มิต่างจากหมอดู 12 ราศี ถ้าตกปีคอขาดแล้วเสียเงินเป็นแสนก็ยอมเพื่อทำพิธีกรรมแก้ดวง  นี่มิใช่ความเป็นธรรมเพื่อประชาชนเลย

 

และมิใช่โหราศาสตร์ การนำธาตุของดาวธาตุของราศีมาใช้ในโหราศาสตร์นั้น เป็นวิวัฒนาการ  เป็นสถิติศาสตร์  เขามีหลักการบนสถิติศาสตร์ และเป็นวิวัฒนาการ  ฟังแค่นี้ตามทันไหม?

เมื่อนักโหราศาสตร์ยุคต้น ๆ เห็นว่าการพยากรณ์มีจุดโหว่(ทายยังไม่แม่น) เขาก็คิดหาเหตุผลที่จะอุดจุดโหว่นั้น(เพื่อที่จะให้ทายแม่นขึ้น)  กว่าจะมาสรุปได้ว่าธาตุที่จำเป็นต้องใช้มีเพียง 4ธาตุเท่านั้น(ไม่มีธาตุทอง ธาตุไม้มาเกี่ยวด้วยเลย) และสรุปลงเป็นทฤษฎีธาตุ4ที่เชื่อถือได้ ได้นี้ก็กินเวลานับพันปี

 

และต้องพยากรณ์ในองค์รวม  คือใช่ว่าจะเอาเฉพาะเรื่องธาตุมาทายแต่เพียงอย่างเดียว (ไม่ใช่หมอดูจีนพอบอกว่าตกปีธาตุทองก็เฮ นึกว่าจะรวยแล้ว)   ต้องใช้ประกอบหลักการอื่น อันเป็นทฤษฎีหลัก ๆ ของโหราศาสตร์  ต้องมองแบบองค์รวมเสมอไป  จึงเป็นศาสตร์ที่ได้รับการวิวัฒนาการมา อย่างยาวนาน  และมีความรอบคอบ  แต่ในขณะเดียวกันเพิ่มความยากเข้าไปในการเรียนรู้โหราศาสตร์มากขึ้น (จึงมีนักโหราศาสตร์ปลอม ๆ เยอะขึ้น)

 

โหราศาสตร์จึงมีการสะสมต่อเนื่อง  มีการเปลี่ยนแปลงในหลักการไปเรื่อย ๆ  เพื่อเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ  ไม่ใช่หมอดูวัฒนธรรมที่ตายตัว ยิ่งเป็นเพียงความเชื่อโบราณแล้วยิ่งไม่ทันยุค(เพราะนิยามเดิมยังไม่ครอบคลุมความหมายของเหตุการณ์ในยุคใหม่ ยุคเทคโนโลยี)  จะเอาคำว่าปีชง  ปีคนคอขาด ปีมะ ฯลฯ มาข่มขู่ประชาชนก็จะไปได้ไม่นาน  

 

นี่คือความแตกต่างของศาสตร์และ มิใช่ศาสตร์ ทางการพยากรณ์ที่เธอควรจะรู้ไว้เสียแต่เดี๋ยวนี้ก่อน  

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2007-01-06 07:52:03

 

 

ความเห็นที่ 11 (482435) 

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เกือบเป็นบ้าตายเพราะหมอดูส่งเดชที่ชอบข่มขู่ว่าจะเป็นนั่นเป็นนี่ และเขาทายแม่นนะถ้าใครไม่เชื่อจะโดนเคราะห์กรรมหนักเมื่อเรากลัวมากๆก็เก็บไปฝันร้ายว่าเป็นนั่นเป็นนี่ตามที่เขาทายจริงๆ ต้องเสียเงินไปทำพิธีบวงสรวงสะเดาะห์เคราะแต่ก็ไม่หายทุกข์ ดีที่ได้ความรู้ในพุทธธรรมว่าใดใดในโลกล้วนอนิจจัง ชีวิตมีขึ้นมีลง ยอมรับความจริงด้วยจิตใจที่กล้าหาญจึงรอดจากความโง่มาได้

·         ผู้แสดงความคิดเห็น นิรนาม วันที่ตอบ 2007-01-11 18:07:23

 

 

ความเห็นที่ 12 (494032) 

ชลัมพุช 8

 

ขอบใจที่เจ้าของกระทู้มาหาด้วยตนเองเมื่อ26ม.ค.2550 ทำให้ได้ทราบเรื่องราวที่เคยหวาดหวั่น ท้อแท้สิ้นกำลังใจและรอคอยเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างวิตกเตรียมรับมืออย่างตื่นเต้น  พร้อมตั้งใจเผชิญว่า ช่วงปีใหม่คงได้รู้กัน

ก็รู้ไปแล้วเรียบร้อย  ว่าคำพยากรณ์ที่น่าหวาดหวั่นร้ายแรง ที่ว่าจะเกิดแด่เธอวันที่ 3-4 ม.ค. 2550 ก็ไม่เกิด   ไม่มีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว   ในฐานะโหร ก็ได้พยากรณ์ให้แล้วว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย    และบัดนี้ก็ได้พิสูจน์แล้ว

ฉะนั้น จึงสรุปอีกครั้งหนึ่งว่า  มือทั้งสองของเราเท่านั้น  สติปัญญา  ความรู้ความสามารถและสติปัญญาอันสมบูรณ์จะช่วยเราได้อย่างยั่งยืน   เราต้องเอาสิ่งเหล่านี้  คือ ความรู้สติปัญญาเราเองมาเป้นตัวตั้งแห่งชีวิตไปเสมอ   แม้นักหลอกลวงแอบอ้างวิชานั่งทางใน ก็ดี หมอดูก็ดี จะอ้างว่ามองเห็นอนาคตของเธออย่างแจ่มแจ้ง  ก็อย่างเพิ่งเชื่อ   และรอให้เขาเองฆ่าตัวของเขาเอง

เช่นนักพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมือง ทายร้ายแรงอย่างน่าประหลาดว่าทายได้อย่างไร   ในที่สุดวิชาการเองจะฆ่าเขาเอง แม้กระทั่งสัจธรรมนี้โหรที่แท้จริงย่อมเข้าใจ 

ว่าโหราศาสตร์ย่อมฆ่านักโหราศาสตร์ปลอมไปเสียคนแล้วคนเล่า 

สัจธรรมเป็นเช่นนี้

ฉะนั้นก็ขอให้ตั้งต้นชีวิตใหม่เถิด ที่พลาดพลั้งเสียหายไปแล้วให้เป็นบทเรียนอันล้ำค่าและเป็นวิชาทานแด่ประชาชน

มีอะไรปรึกษามายังพ่อโหรได้เสมอ

·         ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2007-01-29 06:45:05

 

 

 

     

 

กระทู้ที่ 2
ในที่สุด...ดิฉันก็ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้

         กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ

                คงจำดิฉันได้  ในกระทู้เรื่องของคำทำนายของหมอดูที่ว่าดิฉันจะต้องประสบอุบัติเหตุปางตายในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา  ณ วันนี้ดิฉันมีชีวิตอยู่เป็นปกติดี และทำให้เข้าใจในชีวิตดีมากขึ้น ว่าคนที่จะลิขิตชีวิตเราเองได้ดีที่สุดก็คือตัวของเราเอง เหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาคงไม่เกิดขึ้น ถ้าวันนั้นดิฉันมีสติและธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดิฉันคงรู้เท่าทันความชั่วทั้งปวง ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายมาครอบงำ จนต้องเสียเงินและความรู้สึกดีๆที่แฝงมาในคราบของคนดี นั่นคือความจริงที่อยากจะบอกกับทุกๆท่าน ใครที่ยังไม่เข้าใจในมงคล 38 ประการลองกลับไปทบทวนกันดูนะคะว่า สิ่งนี้เป็นพื้นฐานที่ทุกๆท่านต้องมีประจำใจเอาเก็บไว้เป็นมงคลที่ทำให้เราเจริญรุ่งเรืองและไม่เห็นผิดเป็นชอบค่ะ

 

       ต้องกราบขอบพระคุณหลวงตาพยับและผู้ตอบกระทูทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้กับดิฉัน ขอให้ทุกท่านพบเจอแต่สิ่งดีๆในชีวิตนะคะและขอให้เป็นกัลยาณมิตรต่อกันเช่นนี้ตลอดไปค่ะ

       จากนี้ดิฉันจะดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของความมีสติมีธรรมะเป็นที่พึ่งแม้ในยามยากหรือยามที่เรามีความสุขก็ตามดิฉันขอเป็นลูกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ

      อย่าลืมเป็นลูกที่ดีของในหลวงด้วยนะคะ

               กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการชี้ทางสว่างและความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ให้กับดิฉันค่ะ

·         ผู้ตั้งกระทู้ แพรวทิพย์ บุราณบริรักษ์ :: วันที่ลงประกาศ 2007-09-15 20:21:37
(โปรดคลิกเพื่อตามไปดูต้นเรื่อง)

 

 

 

ความเห็นที่ 1 (795768) 

ได้อ่านเนื้อความในกระทู้ ในที่สุดดิฉันก็ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้  แล้วมีความยินดี และยิ่งกว่านั้นก็คือได้สรรเสริญธรรมะว่าด้วยมงคล38 ซึ่งเป็นหลักของมงคลชีวิตที่แท้จริงตามคำสอนของพระพุทธศาสนา เธอเป็นคนหนึ่งที่เห็นความจริงเรื่องมงคลชีวิตที่แท้จริงนี้ จึงขออำนวยพรให้ชีวิตจงจำเริญไปตลอดกาลตราบใดที่มั่นใจมั่นคงในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา  ขอเจริญพร

·         ผู้แสดงความคิดเห็น หลวงตา วันที่ตอบ 2007-09-27 09:15:15

 

 

 

บันทึกท้ายบท

เราจะพยายามเสนอเรื่องราวเชิงการศึกษาโหราศาสตร์แบบธรรมชาตินี้ ตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม โปรดคอยติดตามตอน