ประชาธิปไตยสงฆ์
คำถาม
หนังสือ เหตุเกิด พ.ศ.๑ ( B.E. 0001 ) เป็นเท็จจริงหรือ ? ..เมตตานน๐โท ภิก๐ขุ โต้ข้อกล่าวหา พระธรรมปิฎก ( ป.อ.ปยุต๐โต ) ท่านมีความเห็นอย่างไร อยากฟัง ? ป.ล. พิมพ์ครั้งที่ 1 มี.ค.2547 นี่เอง
คำตอบ
1. ในเรื่องความถูกผิดนั้น เห็นว่าไม่มีข้อสงสัยอะไร เพราะท่านผู้เขียนหนังสือ เหตุเกิด พ.ศ.1 คือพระมโน เมตตานน๐โท ท่านก็บอกแล้วว่า ท่านก็มองอีกมุมหนึ่งต่างจากคณะสงฆ์มอง คือต้องการให้เกิดบรรยากาศทางวิชาการขึ้นในวงการพระพุทธศาสนา คือให้มีการแสดงความเห็นออกไปให้หลากหลายได้ อย่างนักวิชาการที่มีเหตุผลสนับสนุนอยู่
แต่การแสดงเหตุผลของท่านพระมโนนั้น เป็นเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผล เพราะไม่เป็นเหตุเป็นผลกัน หรือที่ท่านคิดว่าเป็นเหตุเป็นผลนั้น แท้จริงไม่ใช่เหตุไม่ใช่ผล เพราะเหตุอันนี้ไม่สอดคล้องกับเรื่องราวที่กำลังพูดอยู่นี้กลับไปสอดคล้องกับเรื่องอื่น ซึ่งในวงการปุจฉาวิสัชนาของพระนั้น ท่านว่าไม่ถูกฝาถูกตัวเพราะประเด็นสำคัญของหนังสือเหตุเกิด พ.ศ. 1 เป็นเรื่องราวของพระอรหันต์ทั้งสิ้น ท่านไปวิเคราะห์อรหันต์โดยที่ท่านไม่รู้จักพระอรหันต์เลยท่านจึงจับเนื้อหาสาระของความเป็นพระอรหันต์ไม่ถูกต้อง ซึ่งสะท้อนไปถึงภูมิรู้ภูมิธรรมของท่านว่า ยังไม่ประสีประสาอะไรเกี่ยวกับเรื่องมรรคผลเลย กล่าวอีกนัยหนึ่ง ท่านมองเรื่องราวที่ท่านไม่มีความรู้ความเข้าใจพอ บทวิเคราะห์ของท่านจึงคล้ายๆเป็นการเดาสุ่มไปทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดในบรรดาคนที่ไม่ประสีประสาในพระธรรมวินัยเช่นเดียวกันระดับเดียวกันนี้ไปอย่างมากมาย และจะก่อให้เกิดความสับสนใน หลักโลกุตตรธรรม ถือว่าเสียหายต่อพระศาสนาในองค์รวม
2. ฆราวาสผู้มีการศึกษาดีทางโลก หรือมีตำแหน่งใหญ่โตทางราชการ งานบริหารใดๆก็ตาม แต่ในเรื่องธรรมะแล้วอาจจะไม่มีความรู้ความเข้าใจอยู่เลยก็ได้ ในขณะเดียวกันฝ่ายนักบวชมีความเข้าใจความรู้มากในเรื่องธรรมะ แต่ไม่มีความเขาใจทางโลกเลย ถ้าบุคคลสองประเภทนี้มาพบกันก็อาจจะเกิดการโต้เถียงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดได้ เพราะทัศนะทางโลกกับทัศนะทางธรรมะมักอยู่ตรงข้ามกันเสมอ
3. แต่มีประเด็นสำคัญที่ซ่อนแฝงไว้ในหนังสือเหตุเกิด พ.ศ. 1 ก็คือเรื่องการปกครองของสงฆ์ในปัจจุบัน ขาดระบบที่จัดการว่า เมื่อมีบุคคลากรผู้มีพื้นฐานการศึกษาที่สูงเข้ามาสู่ระบบสงฆ์แล้ว ระบบสงฆ์จะจัดการอย่างไรจึงจะได้ประโยชน์ เพื่อชดเชยการที่บุคลากรสงฆ์ส่วนใหญ่ที่สุดเองมีข้อบกพร่องอยู่ ( สงฆ์กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มีความรู้สามัญพื้นฐานเพียงระดับประถมศึกษา และไม่ได้เรียนภาษาและวรรณคดีไทย แต่ข้ามไปเรียนวิชาแปลบาลีเลยแปลออกมาไม่รู้เรื่อง ) ดูท่าทีของระบบสงฆ์ทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยจะมีความยินดีปรีดากับผู้ที่มีการศึกษาสูงๆเข้ามาสู่ศาสนานี้เลย ท่านมองไปอีกทางหนึ่ง คือมองว่าจะมาแก่งแย่งหน้าที่ตำแหน่งและสมณศักดิ์จากท่าน หรืออย่างน้อยก็แก่งแย่งชื่อเสียงเกียรติยศทางวิชาการไป สงฆ์เจ้าขุนมูลนายมีความกังวลอยู่อย่างนี้ จึงทำให้คนได้รับการศึกษาในทางโลกมาสูงๆถูกปิดกั้นไม่ให้มีบทบาทเท่าที่ควรที่ควรช่วยให้การพระศาสนาเจริญทันโลกยุคใหม่ กรณีท่านมโนนี้ ถึงขนาดท่านกล่าวออกมาอย่างขมขื่นสิ้นหวังว่า เป็นความอาภัพของพระผู้น้อยรูปหนึ่งที่โชคร้ายจบจากมหาลัยดัง..ดังนั้น การนำเสนอความคิดใหม่ๆจากพระพรรษาน้อย ไม่มีพรรคไม่มีพวก จึงแทบเป็นสิ่งที่คิดไม่ได้เลยซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้น หากพระรูปนี้ไม่สังกัดค่ายความคิดใดๆเลยในสังคมพระ และมิหนำซ้ำยังเป็นพระที่ได้รับการศึกษาจากต่างประเทศเสียอีก ซึ่งการมีปริญญาบัตรหลายใบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากบรรดาประเทศใหญ่ๆทั้งหลายนั้นอาจมิใช่ปมเด่นในสังคมบางสังคมอีกแล้ว แต่ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเหล่านี้ อาจกลับกลายเป็นผู้โชคร้าย และอาจทำให้ถูกเป็นที่เพ่งเล็งอีกด้วย....แต่นี่เป็นเพราะความเป็นพระไทยที่มีดีกรีจากเมืองนอกแม้เก่งมาจากไหนก็ตามก็จะหาคนยอมรับเข้าหมู่พวกได้ยากลำบาก และยิ่งเฉพาะเป็นผู้ที่มีการศึกษาพื้นฐานต่างกับพระส่วนใหญ่ที่ไม่ได้บวชเรียนศึกษาธรรมะตั้งแต่เป็นสามเณร และไต่เต้าขึ้นมาเป็นมหาเปรียญประโยคต่างๆจนกระทั้งเป็นเจ้าคุณ ในที่สุดด้วย....เพราะในปัจจุบันนี้สถานการณ์ของอาตมาในสังคมสงฆ์นั้นก็แย่อยู่มากแล้ว นับตั้งแต่พิมพ์หนังสือเหตุเกิด พ.ศ.1 นี้ออกเผยแพร่ เจ้าอาวาสของวัดต่างๆ ที่รับอาตมาเข้าสังกัดถูกกลั่นแกล้งบ้าง ข่มขู่บ้างจากผู้มีอำนาจวงการดงขมิ้น จนในที่สุดทำให้ไม่มีเจ้าอาวาสวัดใดกล้าที่จะรับอาตมาเข้าในสังกัด ไม่มีวัดใดในประเทศไทยกล้านิมนต์อาตมาไปเทศน์หรือร่วมกิจกรรมทางศาสนา นักจัดรายการธรรมะทางวิทยุบางท่านใช้เวลาพูดประณามอาตมาออกอากาศเป็นชั่วโมงๆก็มีอยู่เป็นประจำ นานๆทีก็มีบัตรสนเท่ห์บ้าง มีคนโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าหรือใช้ ผรุสวาจาบ้าง นี่เป็นสภาพทางสังคมที่อาตมาต้องเผชิญอยู่เป็นเวลาสองปีมาแล้ว
4. ทางที่ควรจะเป็นไป ท่านควรจะนึกดูว่า พระผู้น้อยก็จริงแต่มีวิชาความรู้ผ่านการศึกษาทางโลกมาสูงขนาดนี้แล้ว ยากที่จะหามาบวชสร้างสรรค์พระพุทธศาสนาได้ น่าจะเกลี้ยกล่อมไว้ เลี้ยงให้เติบใหญ่ในทางมรรคผลของพระพุทธศาสนา แล้วที่สุดความมีวิสัยทัศน์กว้างขวางมาจากพื้นฐานการศึกษามาอย่างดีทางโลกก็อาจช่วยงานการเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้ดีมากๆ การประพฤติอยู่ทุกวันนี้โดยเฉพาะกรณี พระนโม ทำให้เคลือบแคลงว่า ระบบสงฆ์พอใจรับเฉพาะคนที่มีการศึกษาต่ำๆ รับเฉพาะลูกชาวไร่ชาวนา เพื่อที่จะง่ายในการปกครอง เหมือนการปกครองในยุคโบราณนั่นก็ได้ ซึ่งผิดวิธีการวัตถุประสงค์ขององค์พระบรมศาสดา เพราะพระองค์ได้สานุศิษย์ล้วนแต่คนมีการศึกษาสูงๆเคยเป็นเจ้าเป็นนาย หรือเป็นกษัตริย์มาก่อน มาเป็นสาวกทั้งสิ้น ระบบสงฆ์ในปัจจุบันพอใจเช่นนี้ จึงทำให้การเผยแผ่ศาสนาไม่ดีขึ้น และระบบเจ้าขุนมูลนายสงฆ์ ทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก เพราะระบบสงฆ์เจ้าขุนมูลนายผูกขาดหากไม่ปรับปรุงแล้วประชาชนจะไหลไปนอกทาง เช่นตั้งสำนักอิสระของตนขึ้นมา เอาพวกเอาหมู่ตนซึ่งเป็นที่ไปที่มาแห่งนิกายทางศาสนา รวมทั้งคติ การบูชา เจ้าที่ เจ้าทาง บูชาเจ้าพ่อเจ้าแม่ บูชาศาลเจ้า บูชาพระแม่กวนอิม แห่ไปกินเจ แล้วงมงายกับเทพเจ้าต่างๆหรือหลงไปเข้ารีตต่างศาสนา ฯลฯ
5. ทางท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก ( ท่านได้เลื่อนเป็นชั้นพรหมก็จริง แต่ชื่อนี้ดูขลังกว่า ) ผู้เขียนตื่นกันเสียทีจากความเท็จของหนังสือ เหตุเกิด พ.ศ.๑ ในเดือนธันวาคม 2546 ดูท่านจะไม่ได้มองประเด็นดังกล่าวมานี้ ท่านจึงวิจารณ์ไปอย่างไม่ออม ถึงขนาดตามแก้ไขต้นฉบับเพื่อให้ตรงยิ่งขึ้นแม้ญาติโยมจะท้วงว่า ใช้ถ่อยคำรุนแรง ต่างจากหนังสือเล่มก่อนๆ ที่มีแต่คำแสดงเนื้อหาหรือไม่ก็อ่อนโยน ไม่กล่าวใคร ท่านกลับว่าท่านตั้งใจจะให้แรง ต้องกระทุ้งกระแทก-กระเทียบ และผลจึงออกมาอย่างแรงจริงๆสิ่งที่น่าจะเกิดก็คือ ผลในทางจิตวิทยาต่อผู้ฟังหรือพระผู้น้อยซึ่งแน่ละเมื่อมองว่าท่านเป็นพระมิใช่ระดับธรรมดาในระบบเจ้าขุนมูลนายแล้ว คำพูดของท่านเปรียบปานอาญาสิทธิ์ย่อมมีผลรุนแรงต่อเป้าหมายและทั้งบรรดาลิ่วล้อแห่งระบบสงฆ์เจ้าขุนมูลนาย ก็จะพากันออกท่าทีวาจาขรมตามไป ในเชิงประจบเจ้านายว่า เจ้านายว่าไปนั้นชอบแล้วๆและลิ่วล้อนี่แหละตัวที่น่าระวังที่สุดของระบบสงฆ์ ทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้มองได้ 2 ประเด็นๆแรก ท่านนโม น่าจะมีความภาคภูมิใจ ที่ได้สัมผัสกับท่านธรรมปิฎกอย่างที่ท่านไม่ยั้งมือให้ คล้ายๆกับหนังจีนกำลังภายใน ท่านปล่อยฝีมือเอากับมือ ดาบนิรนามผู้มาขอทราบฝ่ามือ ไปอย่างสุดๆแปลว่าท่านให้เกียรติเรา หรือไม่ท่านก็อาจจะเกรงเราอยู่ ไม่น้อยเหมือนกันและเมื่อผลออกมาแล้ว ก็ควรดำเนินการแก้ตัวแบบพระเอกกำลังภายในนั้นเอง ควรจะหลบไปซุ่มสร้างฝีมือขึ้นมาจนแก่กล้าเสียก่อนค่อยโผล่ออกมาใหม่
ประเด็นที่ 2 การวิเคราะห์วิจารณ์อย่างไม่ใยดีเช่นนี้ อาจมองได้ว่าทำให้ขาดกำลังใจ ยากแก่การที่จะประสานระหว่างบุคคลและสถาบัน เป็นการไม่เอื้อแด่การที่จะแสวงหาประโยชน์จากคนที่มี การศึกษาที่แตกต่าง เราไม่ได้เปิดโอกาสให้คนประเภทนี้ได้มีโอกาสทำงานตามความคิดอ่านที่ชอบธรรม ในการบำรุงพระพุทธศาสนาทุกวันนี้ ระบบสงฆ์อยู่นิ่งหยุดกระแสมวลชนให้ไปสู่มรรคผลนิพพาน หยุดการพัฒนาในหมู่สงฆ์เองไปสู่เป้าหมายและอุดมการณ์ที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา เพราะระบบมีความพอใจเพียงแค่ได้เป็นข้าราชการสงฆ์ ที่มีอุดมการณ์เพียงเพื่อการอยู่ยังชีพแบบฆราวาสแบบหนึ่งเท่านั้น คือเพื่อความอยู่รอดของชีวิต เพื่อลาภสิ่งสินเงินทอง เพื่อความสรรเสริญเยินยอ เพื่อฐานันดรที่ ฆราวาสยกย่องเชิดชูให้ และระบบสงฆ์ไทยก็พอใจอยู่แค่นี้ เป็นสถานภาพที่พอเพียงแล้วสำหรับระดับชนชั้นนั้น เพราะบุคคลในระบบสงฆ์ถูกสร้างมาอย่างนั้นพวกเขามิได้รู้จักทางมรรคผลนิพพาน และมิได้มุ่งหน้าไปทางนั้น และมิได้มีความคิดอ่านริเริ่มโดยระบบสงฆ์เองที่ปรับปรุงพัฒนาตนเองหรือเพื่อการเดินไปสู่วิถีทางที่แท้จริงของหมู่สงฆ์โดยมุ่งตรงสู่มรรคผล นิพพาน ตามรอยบาทพระบรมศาสดา ก็เนื่องจากวิสัยทรรศทราม ต่ำต้อย จะต้องอาศัยวิสัยทรรศการศึกษาที่กว้างขวางรอบด้าน ทั้งในและนอก ระบบสงฆ์เอง และที่พิสูจน์ได้มาตลอดว่า บุคคลที่ริเริ่ม เริ่มการพัฒนาของระบบสงฆ์นั้น ได้มีส่วนของผู้อยู่นอกระบบสงฆ์ผู้ที่ผ่านการศึกษาทางโลกมาส่วนหนึ่ง ฉะนั้นเราจึงต้องยอมรับคนมีสติปัญญาคนมีการศึกษาภายนอกระบบสงฆ์ ให้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น และนั้นหมายความว่า ระบบสงฆ์ควรเตรียมตัวเป็นอย่างดีในการที่จะต้อนรับคนมีการศึกษา เข้ามาในระบบสงฆ์ ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ อันเป็นสากลและสิ่งที่ระบบสงฆ์ควรตระเตรียมก็คือ หลักสูตรมรรคผล มิใช่หลักสูตรเปรียญเพื่อการเป็นเจ้าขุนมูลนาย แต่เป็นเปรียญเพื่อมรรคผล ที่สมบูรณ์ทั้งปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ และให้หลักสูตรนี้เป็นการต้อนรับนักการศึกษาระดับสูงเยี่ยมทั่วโลก นี่ต่างหากเป็นวิถีทางพระพุทธศาสนาจริงๆ อันเป็นวิถีทางสติปัญญาอันสูงส่ง ที่ระบบสงฆ์ควรต้องสนใจและนำเข้าไปสู่การถกเถียงและหาทางจัดการให้ดีขึ้นโดยเร็ว
และนี่คือประเด็นของปัญหานี้ กรณีเหตุเกิด พ.ศ.๑ และหวังว่าคงจะได้จุดประกายแห่งการพัฒนาระบบสงฆ์ทั้งหมดให้เดินสู่ทิศทางของคนฉลาด มีปัญญา มีมรรคมีผลมากยิ่งขึ้น