เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 22 ม.ค. พ.ต.ท.วีระศักดิ์ พิมพ์มีลาย สารวัตรเวร สภ.เมืองสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุพระถูกยิงมาเสียชีวิตที่ รพ.สกลนคร จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จ.สกลนคร พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร พ.ต.ท.วิทยากรณ์ ษมากรวิทิต สว.สส. นำกำลังรุดไปสอบสวน

พบศพพระไม่ทราบชื่อ ถูกจ่อยิงด้วยปืนแก๊ปเข้าลำคอซ้าย 1 นัด คราบเขม่าดินปืนจับที่แก้มซ้ายกับคางอย่างเห็นได้ชัด ค้นในย่ามพระพบเงิน 7,000 บาท เช็คฉบับละ 500 บาท 2 ฉบับ แต่ไม่พบใบสุทธิ โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งว่า มีชายอายุราว 50 ปี กับพระสงฆ์รูปร่างอ้วน 1 รูป ขับรถปิกอัพอีซูซุ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ด้านหลังบรรทุกถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร 2 ถัง พาพระเหยื่อกระสุนมาส่งในสภาพหายใจรวยริน ก่อนจะรีบขับรถออกไปโดยไม่ให้ชื่อที่อยู่ และไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ได้มีพระสำรวย สิริปัญโญ อายุ 37 ปี พระวัดป่าบ่องีม ต.ปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี มาดูอาการพระเหยื่อกระสุน แจ้งว่าชื่อพระสมพร นิลจักร อายุ 37 ปี พระวัดป่าบ่องีม เช่นเดียวกัน ตำรวจจึงนิมนต์ไปสอบสวนที่โรงพัก ซึ่งพระสำรวยให้การว่า พระสมพรได้ออกธุดงค์ตั้งแต่ ออกพรรษา ส่วนสาเหตุที่รู้ว่าพระสมพรถูกยิง เนื่องจากขณะที่โดยสารรถสายสกลนคร-อุดรธานี เพื่อไปสักการะรูปเหมือนหลวงปู่ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์สายวิปัสสนา ที่วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้มีพระอ้วน ไม่ทราบชื่อฉายาและสังกัดวัด โทรศัพท์มาบอกให้ไปดูพระสมพร ที่ รพ.สกลนคร เนื่องจากถูกยิงไม่ทราบว่าจะมรณภาพหรือไม่ จึงรีบมาดูอาการโดยไม่รู้สาเหตุมาจากอะไร และจุดเกิดเหตุอยู่ที่ใด

ระหว่างสอบปากคำ พระอ้วนได้ใช้โทรศัพท์มือถือของพระสมพรเหยื่อกระสุนโทรศัพท์หาพระสำรวย เพื่อสอบถามอาการพระเหยื่อกระสุน พอรู้ว่ามรณภาพแล้ว พระอ้วนได้กำชับพระสำรวยไม่ให้บอกใครว่าพระอ้วนอยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนจะปิดโทรศัพท์ พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จ.สกลนคร จึงให้ตำรวจโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ดังกล่าว ปรากฏว่าพระสำรวยไม่ทราบฉายา ซึ่งมาจำวัดที่วัดป่าอุดมสมพรเป็นผู้รับสาย แจ้งว่าพระอ้วน นำโทรศัพท์มาฝากไว้แล้วรีบออกจากวัดไป คาดว่าคงเดินทางไปที่ จ.อุดรธานี บ้านเดิมของพระอ้วน

ทางด้าน พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จ.สกลนคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่พระสมพรถูกยิงมาจากเรื่องอะไร เป็นคดีฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุจากปืนลั่น และไม่รู้ว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่ไหน แต่จากการสอบสวนเชื่อว่า ชายที่ขับรถนำพระสมพรมาส่งโรงพยาบาล น่าจะเป็นกลุ่มผู้รับเหมาถมดิน และพระที่นำมาส่งน่าจะเป็นพระอ้วน ทั้งคู่น่าจะอยู่ในเหตุการณ์ หรือมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจแบ่งกำลังเป็น 3 สาย เพื่อหาข้อมูลและติดตามชายคนดังกล่าวกับพระอ้วนมาสอบสวนอย่างเร่งด่วน