บทบรรณาธิการ

คือ หนังสือพิมพ์ดี :วิเคราะห์ข่าวในวงการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาน ฉบับปรับปรุงยกระดับ ประจำเดือน กรกฏาคม-สิงหาคม-กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๑

เราจะบินบินบินและบินไป สู่ขอบฟ้าสดใสในเบื้องหน้า

ดี ฉบับนี้ ออกมาตรงกับฤดูกาลเข้าพรรษา ปีขาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ตรงกับวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2541 จะไปสิ้นสุดเอาเมื่อ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ตรงกับวันที่ 26 ตุลาคม 2541

ดี เรามักจะขึ้นต้นด้วยคำขออภัยในสิ่งที่ดีฉบับก่อนทำไปเป็นประจำ ฉบับนี้สิ่งที่เราใคร่ขออภัยก็คือ ดีฉบับที่แล้ว มี.ค.-มิ.ย.41ได้เขียนชื่อบุคคลสำคัญๆ ในคอลัมน์ที่เกี่ยวข้องกับท่านผิดไปหลายชื่อ เราใคร่ขออภัย ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอาคม เอ่งฉ้วน ที่เขียนนามสกุลท่านผิดไปเป็น เอ่งช้วน ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล เขียนนามสกุลท่านผิดไปเป็น พันธุวิชาติกุล เช่นเดียวกันกับ ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ฯพณฯอานันท์ ปันยารชุน เขียนนามสกุลของท่านผิดไปเป็น ปันยาระชุน ดี ฉบับ ก.พ.41 หน้า 48 บาลีวรรคสุดท้ายที่ว่า ปาปการี จ ปาปกํ ซ้ำ ขอแก้เป็น สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย เราคิดว่าเราไม่มีข้อแก้ตัว นอกจากว่าความเร่งด่วน อันเป็นเหตุผลข้อแก้ตัวอย่างหลักของหนังสือพิมพ์ทั้งหลายนั่นเอง

ดี ฉบับนี้ ได้บันทึกพร้อมบทวิเคราะห์เหตุการณ์ นับวันมากมายขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้เนื่องมาจากโลกกำลังถ่ายเทระดับแห่งวัฒนธรรมกันนั่นเอง จะต้องมีเวลาให้โลกทั้งหมดปรับเปลี่ยนให้ได้ระดับสากลอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง เราพยายามมองให้กว้างขวางเพื่อให้ทั่ว ตามการไหลปรับเปลี่ยนทำระดับแห่งวัฒนธรรมโลกใหม่นี้ พร้อมบทวิเคราะห์ความล่อแหลมต่าง ๆ ด้วยพื้นฐานอย่างศาสนิกชนคนหนึ่งที่จำเป็นต้องมี และความล่อแหลมสำคัญก็คือวัฒนธรรมสำส่อน อันเกิดจากระดับความแตกต่างหลายระดับ ที่สูงก็ท่วมมา ที่ต่ำก็รับแรงโถมปะทะไว้ ก็จะเกิดการปั่นป่วน เป็นระลอก ๆ ไปอยู่นาน และหากไม่มีสิ่งที่จักอาจกรองวัฒนธรรมสำส่อนนี้ให้ดีขึ้นได้ โลกก็จักตกต่ำ ไปสู่อนารยธรรมอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นจึงเป็นช่วงวาระที่จะเกิดแนวคิดใหม่ทางศีลธรรมจริยธรรมขึ้นมา วงการศาสนาเก่า ๆ ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้มีสมรรถนะเพิ่ม เพื่อสามารถทำหน้าที่กรองวัฒนธรรมสำส่อนนี้ให้สะอาดขึ้นมาสู่ยุคอารยธรรมมนุษย์ได้อีกหนหนึ่ง เป็นวงจรไปเช่นนี้ และหนังสือพิมพ์ดีได้เสนอแนวคิดการปฏิรูปองค์กรทางการศาสนา ขึ้นมา และเห็นว่ามีความจำเป็นตามเหตุผลดังกล่าวนั้นส่วนหนึ่ง

มีการปรับปรุงองค์กรบริหารประเทศที่น่าสนใจในระยะนี้ก็คือตำรวจ เมื่อมีมติให้เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ดูว่าดีขึ้นกว่าเดิม เพราะขึ้นตรงต่อระดับนโยบายสูงสุดของชาติโดยตรง กระนั้นก็ยังดูสับสนในเรื่องสายงาน กลายเป็นเพิ่มนายให้ตำรวจขึ้นไปอีก และเมื่อมองจากลักษณะการเมือง ก็น่าเป็นห่วงอีกว่า ตำรวจกลับจะตกไปอยู่ใต้อำนาจพรรคการเมืองมากเกินไป เหตุนั้นอาจให้คุณได้มากพอ ๆ กับให้โทษ เรื่องตำรวจน่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่งที่ต้องกระทำรอบคอบ ขณะนี้น่าเชื่อว่ายังจะไม่ลงตัว การปรับปรุงระบบตำรวจขั้นต่อไปใคร่เสนอให้ปรับมาอยู่ในระดับกระทรวงก็จักปลอดจากอำนาจพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลไปได้ระดับหนึ่งและระบบงานจะง่ายขึ้น เพราะมีสำนักงานปลัดกระทรวงรับผิดชอบราชการประจำ ที่ทำให้ตำรวจมีอิสรภาพและเป็นตัวของตัวเองทางการบริหารมากขึ้นและ ตำรวจจะมีความคล่องตัว มีสง่าราศรีขึ้นกว่าเดิมมากทีเดียว ในวงการปกครองสงฆ์ก็กำลังจะมีอะไรใหม่เกิดขึ้น คงจะได้ข่าวเร็ว ๆ นี้ แต่จะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงไปหลายระลอกจนกว่าจะเกิดการปรับระดับความสมดุลย์ครั้งใหญ่จนกว่าจะอยู่ลงตัว ซึ่ง ณ จุดนั้นเราหวังว่าจักเป็นจุดที่จักก่อเกิดความรุ่งเรืองสว่างไสว มิใช่การอับแสงมืดมัวลงไปกว่าเดิม

ดีฉบับนี้ มีคอลัมน์พิเศษของวิบูลรัตน์ กัลยาณวัตร พูดถึงปัญหาสมณศักดิ์ และปัญหาพระพุทธรูปปางปราบคอมมิวนิสต์ วัดสนามจันทร์ ท่านยังไม่รู้จักพุทธทาสภิกขุ พูดถึงหนังสือเล่มล่าสุด “พุทธทาสลิขิต” นิทานธรรมะเสนอ มานุสสาสุรสงคราม หรือสงครามเลือดต่างสี ที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ขอเชิญติดตาม อนึ่ง หนังสือพิมพ์ดีขอขอบคุณข่าวสารที่เข้ามา โดยเฉพาะ พุทธธรรม ฉบับจิ๋วบาง ของสหธรรมิกชัยภูมิ คอลัมน์นกสีเหลือง และ ฯลฯ น่าสนใจมาก.

                                                                        บรรณาธิการ
                                                                        ก.ค.-ก.ย.๔๑