คำปลอบใจรายวัน
สัจธรรมข้อที่ 7
สุขาวดีพุทธภูมิตะวันตก
พ่อจะเล่านิทานให้ฟัง ฟังว่าเป็นนิทานนะ ก็มีสาวรุ่นผู้เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย และอ้างว้าง ก็เศร้าโศก ร่ำไรรำพันถึงชีวิตตนว่าตัวคนเดียว อยู่ไปใยในโลกนี้
วันที่ถึงที่สุด สาวรุ่นก็วิ่งออกไปกลางทุ่งอันกว้างใหญ่ ในเวลาโพล้เพล้แล้ว รำพันว่า แม่โพสพจ๋า ข้าขอลาก่อน โลกนี้มีแต่สัจธรรมแห่งความตาย เมื่อไม่นานมานี้ ท้องทุ่งยังเขียวขจีด้วยต้นข้าว และไม่นานนี้ก็เหลืองอร่ามด้วยรวงทอง แต่ไม่นานเลยข้าวก็ค่อยแก่ และแล้วชาวนาก็เกี่ยวเอารวงข้าวไปเหลือแต่ตอ และบัดนี้ท้องนามีแต่ตอฟาง ดินแห้งแล้ง โล้นเกลี้ยง ทุกสิ่งทุกอย่างบนท้องนาตายจากไปอย่างสนิท
แม้แต่ทุ่งดอกทานตะวันที่ข้าเคยวิ่งเล่นเคยโอบกอดดอกทานตะวันไว้กับอก ยิ้มหัวเราะ บัดนี้ก็แห้งเหี่ยว หาย ตายไปจากฉัน ไม่มีอะไรที่จะเหลืออยู่อีกแล้ว ชีวิตฉันที่ไร้ญาติ ขาดมิตร ไร้บิดามารดา น้าอาว์ก็ไม่มีเหมือนคนทั้งหลาย ช่าวอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเดียวดายเหลือเกิน
ข้าได้ตัดสินใจแล้ว ว่าอยู่ไปก็มีแต่ความทุกข์โศก ข้าจะกลับไปหาพ่อข้า ข้าจะขึ้นไปบนนั้น อันเป็นยอดทะมึนแห่งขุนเขา แล้วข้าจะฝากชีวิตไว้กับซอกอกแห่งพ่อของข้า
รำลึกเช่นนี้แล้ว น้ำตาก็ไหลหลั่งลงเป็นเส้นสาย สู่ท้องนากว้างใหญ่นั้น ตราบจนสามวันผ่านไป ก็ยังไม่แห้งเหือดซึ่งสายน้ำตา จนกระทั่งกลายเป็นธารน้ำตาไหลเลาะลงไปสู่หุบเหวลึกแห่งขุนเขาใหญ่
ครั้นเวลาโพล้เพล้ ทันใดก็มีอัศวินผู้นั่งมาบนหลังม้าขาวปรากฏขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก ม้าดุจเคลื่อนเข้ามาหาทันใดดั่งลิ่วลอยลม มาถึงก็เอ่ยกับสาวรุ่นว่า เธอเอ๋ย เธอผู้มีรูปโฉมอันงดงามโสภา ปานหนึ่งนางฟ้า อย่าเศร้าโศกไปเลย จงหยุดร้องไห้เสียเถิด ฉันจะให้พี่ม้าขาวของฉันอยู่เป็นเพื่อนเอาไหม พี่ม้าของฉันจะคอยปลอบใจเธอ เป็นเพื่อนเธอ และป้องกันภัยให้เธอทุกอย่าง ขอเพียงเธอเอ่ยถ้อยคำว่า ยินดี เพียงคำเดียวเท่านั้นเอง
แต่สาวรุ่นก็มิได้เอ่ยถ้อยคำยินดี ยังคงร้องหลั่งน้ำตา อัศวินจึงกล่าวว่า ที่รัก อีกหน่อยน้ำตาเธอจักกลายเป็นสายเลือด ที่กลั่นออกมาจากเลือดในกายของเธอ และครั้นเลือดหมดร่างกายเธอก็จะสิ้นชีวิตไปจากโลกนี้ เอาละ ถ้าเธอมิยินดี ฉันก็จะกลับไป แต่จะให้พี่ม้าอยู่ในหุบเขานี้ หากเธอคิดถึงพี่ม้าก็จงเรียกขานชื่อออกมาว่า พี่ม้าจ๋า มาหาน้องหน่อย พี่ม้าก็จะปรากฏมาให้เห็น ส่วนฉันเองจำต้องจากไปก่อน อีก 7 วันฉันจึงจะกลับมาเยี่ยมเธออีกครั้ง
แล้วอ้ศวินก็อันตรธานหายไป ส่วนม้าขาวก็โลดทะยานเข้าไปในหุบเขาหายลับไปจากสายตาเช่นเดียวกัน สาวรุ่นก็มารำลึกว่าเหตุใดอัศวินจึงไม่อยู่กับเราเล่า อย่าเลยจะลองถามพี่ม้าดู ก็ร้องเรียกว่าพี่ม้าจ๋า มาหาน้องสาวหน่อย ทันใดม้าขาวก็ปรากฏขึ้นที่เนินเขาไกลพู้น มันเป็นม้าที่มีเครื่องประดับสวยงามเหลือเกิน เวลาห้อเหยียดมา ดูสง่างามอย่างกับม้าเทวดา เหมือนวิ่งมาบนยอดเขาจนถึงทุ่งนากว้างใหญ่ พอมาถึงก็วิ่งวนรอบ ๆ ตัวสาวรุ่น พอหยุดยืนก็แหมลั่นสนั่นแสดงอานุภาพ สาวรุ่นมองดูก็รู้สึกชื่นชม ศรัทธา ก็ถามว่า อัศวินผู้สง่างามผู้นั้นไปอยู่เสียที่ไหนเล่า พาฉันไปหาเขาได้ไหม ม้าก็บอกว่า เขาไปอยู่ไกลเหลือเกิน ทางไปก็แสนทุรกันดาร จะต้องข้ามทะเล ข้ามป่าเขา และ ทะเลเพลิง ยากที่มนุษย์ธรรมดาจะไปถึงได้
สาวรุ่นได้ฟังก็ร่ำไห้เพราะความหมดหวัง ธารน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาอีก พี่ม้าก็สงสารปลอบใจว่า ทำไมจึงไม่ถามอัศวินดู เขาจะมาหาแม่อยู่ทุก ๆ 7 วันก็คอยถามเขาดูเป็นไรเล่า สาวรุ่นก็รำลึกได้ ก็ตั้งตาคอยไปถึง 7 วัน อัศวินก็มา เธอก็ถามว่า
-ฉันขอให้ท่านอยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหม ฉันมีสมบัติพัสถานมากมายยิ่งกว่ามหาเศรษฐีในโลกนี้ พอที่จะใช้อยู่กินไปจนชั่วชีวิต? อัศวินก็ตอบว่า
-ไม่ได้หรอก ฉันมีภาระหน้าที่ของฉันที่ต้องทำให้แล้วเสร็จลงไป
-ท่านมีภาระหน้าที่อะไรหรือ?
-บอกไม่ได้หรอกเป็นความลับ
-ท่านมาจากที่ใดเล่า?
-มาจากที่อันไกลแสนไกล ที่ที่ข้าอยู่เหมือนแดนสุขาวดีไกลโพ้น
-ท่านมาหาฉันเพื่อปลอบใจเท่านั้นเองหรือ? เพราะเหตุใดจึงเป็นท่านเล่า?
-เพราะว่าเธอและฉันมีกรรมมีเวรที่เกี่ยวข้องกันมาหลายชาติในอดีต ฉันมานี้เพื่อช่วยเธอให้พ้นทุกข์
-ฉันมีกรรมเวรอย่างไรกับท่าน?
-เมื่อก่อนเธอเป็นเทพธิดา มาจุติบนโลกนี้ด้วยเหตุอันบังเอิญ ส่วนฉันมีหน้าที่ดูแลเธออยู่
-แล้วทำไมจึงไปจากฉัน ไม่อยู่กับฉันที่นี่ รู้ไหมฉันเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างเหลือเกิน ?
-ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก เหมือนกับเธอนั่นแหละ ที่เปล่าเปลี่ยวอ้างว้างในโลกนี้ เพราะโลกนี้ไม่เหมาะสำหรับเรา
-ถ้าอย่างนั้นให้ฉันไปด้วยได้ไหม ไปสู่แห่งหนใดที่ท่านไป ขอเพียงให้พ้นไปจากโลกนี้ โลกที่ไร้สาระ? -เธอจะต้องสลัดอดีตให้พ้นไปเสียก่อน
-อดีตอะไร?
-อดีตที่เราเคยก่อกรรมร่วมกันมาอย่างไร ?
-เราเป็นคู่กรรมกันมาอย่างนั้นหรือ?
-เธอยังไม่สามารถจะรู้ได้หรอก จนกว่าเธอจะมีญาณที่ระลึกชาติได้
-ถึงอย่างไร ท่านจงพาฉันไปด้วยเถิดนะ ฉันทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
อัศวินก็พาสาวรุ่นขึ้นหลังพี่ม้า ควบไปทางทิศตะวันตก ไปไกลแล้วหญิงสาวก็ถามว่า ท่านจะพาฉันไปไหน อัศวินตอบว่า
-สู่พุทธภูมิด้านตะวันตก
-ที่นั่นเป็นที่อันดีประเสริฐอย่างไร?
-ที่พ้นทุกข์ ที่พ้นจากกรรมเวรทั้งปวง ที่นั่นมีวิมุตติภาวะ และวิมุตติญาณทัสสนะอันสมบูรณ์
- บานไม่รู้โรย
2 มิ.ย. 2550